แบบประเมินคุณภาพของบทเรียนออนไลน์ (สมบูรณ์) (1)

แบบประเมนิ คณุ ภาพของบทเรยี นออนไลน์
เอกสารประกอบการสอนรายวิชา รายวชิ า 02-250-101 พ้ืนฐานงานวศิ วกรรม

หลกั สูตรครศุ าสตร์อุตสาหกรรมบณั ฑติ สาขาวชิ าวศิ วกรรมอตุ สาหการ

คำชแ้ี จง
ทำเครือ่ งหมาย ✓ ลงในชอ่ งความคิดเหน็ ของผเู้ ช่ียวชาญ โดยผู้เชีย่ วชาญเลือกตามระดบั ความ

คดิ เห็นที่กำหนดไว้ ระดับคุณภาพในการประเมนิ มีดังนี้
5 หมายถึง คณุ ภาพดีมากทีส่ ุด
4 หมายถงึ คณุ ภาพดมี าก
3 หมายถงึ คณุ ภาพปานกลาง
2 หมายถึง คณุ ภาพนอ้ ย
1 หมายถงึ คณุ ภาพนอ้ ยมาก

ลำดบั หวั ขอ้ การประเมิน ความคดิ เหน็ ของ คำแนะนำ
ผูเ้ ชยี่ วชาญ
1. ด้านเน้อื หา
1.1 ความสอดคล้องของเนื้อหากับวัตถปุ ระสงค์ 54321
1.2 ลำดับข้นั ตอนในการนำเสนอเน้ือหา
1.3 ความถูกต้องของเน้อื หา
1.4. ความชัดเจนในการอธบิ ายเนือ้ หาของหนว่ ยเรยี น
1.5 ความสอดคล้องของเนือ้ หาในแตล่ ะหวั ข้อ
2. ด้านสอ่ื
2.1 ความเหมาะสมของรปู ภาพตอ่ เนื้อหาของเร่ือง
2.2 ความสอดคล้องของรูปภาพกบั คำบรรยายใน

เนอื้ หา
2.3 ภาษาท่ีใช้มีความเหมาะสมถกู ตอ้ ง
2.4 การใชส้ ีในเนือ้ หามีความเหมาะสมกบั เน้อื หา
2.5 ความถูกต้องของการสะกดวรรคตอน

ลำดบั หวั ข้อการประเมิน ความคิดเหน็ ของ คำแนะนำ
ผู้เชยี่ วชาญ

54321

3. ด้านใบปฏิบตั งิ าน

3.1 ใบปฏบิ ตั งิ านสอดคล้องกับวตั ถปุ ระสงค์

3.2 กำหนดรายการเครื่องมือ วสั ดุ อปุ กรณ์

3.3 อธิบายลำดับข้ันตอนในการปฏิบัตงิ านอยา่ งชัดเจน

3.4. กำหนดเกณฑ์และแนวทางวัดและประเมนิ ผล

3.5 ผเู้ รยี นสามารถปฏิบัตงิ านตามใบงานได้

4. ดา้ นแบบฝึกหดั ทา้ ยบท

4.1 ความสอดคล้องของข้อสอบกับเนื้อหารายวิชา

4.2 ความเหมาะสมของจำนวนข้อสอบ

4.3 ความเหมาะสมของสัดส่วนขอ้ สอบกบั คะแนน

4.4 การใช้ภาษาและความชัดเจนของขอ้ สอบ

4.5 ความครบถ้วนสมบรู ณข์ องขอ้ สอบตามกำหนด

ข้อเสนอแนะ

....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................

ลงชอื่ ....................................................................
(............................................................................)

ผูเ้ ชีย่ วชาญ

แบบประเมนิ ค่าดัชนคี วามสอดคล้อง (IOC) ของแบบทดสอบท้ายหน่วยเรียน
รายวชิ า 02-250-101 พื้นฐานงานวศิ วกรรม

คำชี้แจง ในการจัดทำครั้งนี้ผู้จัดทำใคร่ขอความอนุเคราะห์จากผู้เชี่ยวซาญในการประเมินค่าดัชนีความ
สอดคล้องของแบบทดสอบท้ายหน่วยเรียน รายวิชา 02-250-101 พื้นฐานงานวิศวกรรม ในด้านเนื้อหา
โดยครอบคลมุ ในเรอื่ งเนื้อหาของบทเรยี นและจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ซึง่ ส่งิ ที่ผูจ้ ัดทำแนบมากับคำชี้แจงนี้
ประกอบด้วย

1. แบบทดสอบทา้ ยหน่วยเรยี น รายวชิ า 02-250-101 พน้ื ฐานงานวศิ วกรรม จำนวน 90 ข้อ

2. แบบประเมินค่าดัชนีความสอดคล้องของแบบทดสอบท้ายหน่วยเรียน รายวิชา
02-250 -101 พื้นฐานงานวิศวกรรม ผู้จัดทำใคร่ขอความอนุเคราะห์จากท่านประเมินคุณภาพ โดยให้
คะแนนดังน้ี

คะแนน +1 สำหรับแบบทดสอบที่แน่ใจว่ามีความสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ท่ี
ตอ้ งการวดั

คะแนน 0 สำหรับแบบทดสอบที่ไม่แน่ใจว่ามีความสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ที่
ตอ้ งการวดั

คะแนน -1 สำหรบั แบบทดสอบทีไ่ มแ่ นใ่ จว่าไม่มีความสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้
ทีต่ ้องการวดั

หากท่านมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ขอความอนุเคราะห์จากท่านเขียนไว้ในช่องความคิดเห็น
เพิ่มเตมิ ในแบบประเมนิ

ความคดิ เห็นแนะนำเพ่ิมเติม

....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ...........................................ผเู้ ช่ียวชาญ
(.....................................................................)

หน่วยที่ 1 ความปลอดภยั ในการปฏิบตั งิ าน

คำช้แี จง ทำเคร่ืองหมาย ✓ ลงในชอ่ งระดับความคดิ เหน็ ของท่าน

จุดประสงค์การเรียนรู้ ขอ้ คำถาม ความสอดคลอ้ ง
-1 0 +1
1. มีความรู้เกี่ยวกับสาเหตุ 1. ข้อใด ไม่ใช่ สาเหตุท่ีทำใหเ้ กิดอุบัตเิ หตุในการ
และผลกระทบที่เกิดจาก ปฏิบตั ิงาน
อุบตั ิเหตุ ก. ตวั บุคคล
ข. สิง่ แวดล้อม
2. มีความรู้เกี่ยวกับสาเหตุ ค. เครอ่ื งมือ
และผลกระทบที่เกิดจาก ง. สถานศกึ ษา
อบุ ตั เิ หตุ 2. ขอ้ ใด คือ ผลกระทบทางตรงทเ่ี กิดจากอบุ ัติเหตุ
ก. บาดเจ็บ พิการ
3. มีความรู้เกี่ยวกับสาเหตุ ข. ขาดรายได้
และผลกระทบที่เกิดจาก ค. สญู เสียกำลงั สำคัญของชาติ
อุบัติเหตุ ง. เสียโอกาสในการใชช้ ีวิตอยา่ งคนปกติ
3. ข้อใด คอื ผลกระทบทางออ้ มเกิดจากอบุ ัตเิ หตุ
4. มีความเข้าใจเกี่ยวกับ ก. เสียชวี ติ
สัญลักษณ์ความปลอดภัย ข. คนในชุมชนเสยี ขวัญ
ในการปฏบิ ัตงิ าน ค. คา่ ซ่อมวัสดุ - อุปกรณ์
ง. ค่ารักษาพยายบาล

4. จากรูปที่กำหนดให้ เป็นเคร่ืองหมายประเภทใด
ก. เคร่ืองหมายเตือน
ข. เครอ่ื งหมายบังคับ
ค. เคร่ืองหมายหา้ ม
ง. เครอ่ื งหมายป้องกนั อคั คีภยั

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ข้อคำถาม ความสอดคลอ้ ง
-1 0 +1
5. มีความเข้าใจเกี่ยวกับ
สัญลักษณ์ความปลอดภัย
ในการปฏิบตั งิ าน

5. จากรูปท่กี ำหนดให้ เป็นเคร่อื งหมายประเภทใด

ก. เครอ่ื งหมายเตอื น

ข. เคร่ืองหมายบังคับ

ค. เครือ่ งหมายห้าม

ง. เคร่อื งหมายป้องกนั อคั คีภยั

6. มีความเข้าใจเกี่ยวกับ 6. ขอ้ ใดตอ่ ไปนก้ี ล่าวถึง อุปกรณป์ อ้ งกันศีรษะ

หน้าที่ของอุปกรณ์ป้องกัน (Head Protection Devices) ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง

สว่ นบคุ คล ก. ป้องกนั จากการทำงานในพืน้ ทีท่ ่มี ีเสยี งดงั

ข. ป้องกันอันตรายจากมลพิษเข้าสู่ร่างกาย โดย

ผ่านทางปอด

ค. ป้องกนั ในกรณที ีม่ ีวสั ดุตกใส่ เชน่ นอต สกรู

หรอื เศษไม้

ง. ป้องกันความร้อน ของมีคม สะเก็ดไฟจากงาน

ตัดหรืองานเชอ่ื ม และงานที่ต้องสัมผัสสารเคมี

7. มีความเข้าใจเกี่ยวกับ 7. ข้อใดต่อไปนี้กล่าวถึง แว่นนิรภัย (Eye

หน้าที่ของอุปกรณ์ป้องกัน Protection) ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง

ส่วนบคุ คล ก. ปอ้ งกนั สารเคมี เศษโลหะ และเศษฝนุ่ จาก

การปฏบิ ตั ิงาน

ข. ป้องกันอันตรายจากมลพิษเข้าสู่ร่างกาย โดย

ผา่ นทางปอด

ค. ป้องกนั ในกรณที ี่มีวสั ดุตกใส่ เชน่ นอต สกรู

หรอื เศษไม้

ง. ป้องกันความรอ้ น ของมีคม สะเก็ดไฟจากงาน

ตัดหรอื งานเชือ่ ม และงานท่ตี ้องสัมผสั สารเคมี

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ข้อคำถาม ความสอดคลอ้ ง

-1 0 +1

8. มีความเข้าใจเกี่ยวกับ 8. ข้อใดตอ่ ไปน้ีกลา่ วถงึ ถุงมือมือนิรภัย (Hand

หน้าที่ของอุปกรณ์ป้องกัน Protection) ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง

ส่วนบุคคล ก. ปอ้ งกนั จากการทำงานในพืน้ ทท่ี ม่ี ีเสียงดงั

ข. ป้องกันอันตรายจากมลพิษเข้าสู่ร่างกาย โดย

ผ่านทางปอด

ค. ปอ้ งกนั ในกรณีทมี่ วี สั ดตุ กใส่ เช่น นอต สกรู

หรอื เศษไม้

ง. ป้องกันความร้อน ของมีคม สะเก็ดไฟจาก

งานตัดหรืองานเชื่อม และงานที่ต้องสัมผัส

สารเคมี

9. มีความเข้าใจเกี่ยวกับ 9. ถ้าเราต้องเข้าไปปฏิบัติงานในพื้นที่ ที่มีเสียงดัง

หน้าที่ของอุปกรณ์ป้องกัน มากกว่าปกติ ควรใช้อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล

สว่ นบคุ คล ประเภทใดจึงจะเหมาะสม

ก. Head Protection

ข. Eye Protection

ค. Ear Protection

ง. Respirator Protection

10. มีความเข้าใจเกี่ยวกับ 10. ถ้าเราต้องเข้าไปปฏิบัติงานในพื้นที่ ที่มีมลพิษ

หน้าที่ของอุปกรณ์ป้องกัน ทางอากาศ ควรใช้อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล

ส่วนบคุ คล ประเภทใดจงึ จะเหมาะสม

ก. Head Protection

ข. Eye Protection

ค. Ear Protection

ง. Respirator Protection

หน่วยท่ี 2 เครือ่ งมือช่างพืน้ ฐาน

คำชแ้ี จง ทำเคร่อื งหมาย ✓ ลงในช่องระดับความคดิ เหน็ ของท่าน

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ขอ้ คำถาม ความสอดคลอ้ ง

-1 0 +1

1 . ม ี ค วาม ร ู ้ เก ี ่ ย วกับ 1. เครอ่ื งมอื ชา่ งพนื้ ฐานทที่ ำหนา้ ท่ี ไขสกรหู รอื

ประเภทของเครื่องมือช่างที่ คลายสกรู เรียกว่าอะไร

ใชใ้ นงานพ้นื ฐาน ก. คอ้ น

ข. สกัด

ค. ไขควง

ง. ประแจเลอื่ น

2. มีความรเู้ กยี่ วกบั ประเภท 2. ปากของประแจชนิดที่เอยี งทำมมุ 15 องศาตาม

ของเครื่องมือช่างที่ใช้ใน แนวนอนกับด้ามประแจ เรยี กประแจประเภทใด

งานพ้นื ฐาน ก. ประแจแอล

ข. ประเจเลื่อน

ค. ประแจเเหวน

ง. ประแจปากตาย

3. มคี วามรู้เกยี่ วกับประเภท 3. ข้อใด ไม่ใช่ เคร่ืองมือพน้ื ฐานประเภทงานตอก

ของเครื่องมือช่างที่ใช้ใน ก. คอ้ นหงอน

งานพ้ืนฐาน ข. ค้อนหัวกลม

ค. ค้อนอตั โนมตั ิ

ง. ค้อนหัวหนังอดั

4.มีความเข้าใจเกี่ยวกับ 4. ข้อใด ไม่ใช่ ส่วนประกอบของเครื่องมือช่าง

ส่วนประกอบของเครื่องมือ พื้นฐานประเภทปากกาจับชนิ้ งาน

ชา่ งพน้ื ฐาน ก. ตวั

ข. มือหมนุ

ค. ปากตัด

ง. แกนเกลยี ว

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ข้อคำถาม ความสอดคลอ้ ง

-1 0 +1

5.มีความเข้าใจเกี่ยวกับ 5. ส่วนประกอบใด ของเครื่องมือช่างพื้นฐาน

ส่วนประกอบของเครื่องมือ ประเภทงานตอก ท่ีมหี น้าทีส่ ำหรบั ตีชนิ้ งาน

ชา่ งพืน้ ฐาน ก. ดา้ มคอ้ น

ข. หน้าค้อน

ค. หงอนคอ้ น

ง. คอค้อน

6.มีความเข้าใจเกี่ยวกับ 6. สว่ นประกอบใดต่อไปนี้ ทำหน้าทยี่ ดึ ชนิ้ สว่ น

ส่วนประกอบของเครื่องมือ ของคมี ให้ตดิ กนั

ชา่ งพน้ื ฐาน ก. ด้ามจบั

ข. ปากจบั

ค. ตวั ตดั

ง. หมุดยดึ

7. มีความเข้าใจเกี่ยวกับ 7. ข้อใดต่อไปน้ี ไม่ใช่ วิธีการบำรุงรักษาปากกา

วิธีการบำรุงรักษาเครื่องมือ จับทถ่ี ูกตอ้ ง

ชา่ งที่ใช้ในงานพ้นื ฐาน ก. ตรวจสอบสภาพของปากกาจับงานก่อนใช้

งานทุกครง้ั

ข. สามารถเชื่อมไฟฟ้าหรือแก็สบนปากกาจับ

งานได้

ค. ไม่ตอกหรือสกัดงานบนปากกาจับงานที่เกิน

กําลงั ท่จี ะรบั ได้

ง. หยอดน้ำมันส่วนที่เป็นเกลียวหมุนของ

ปากกาจับงาน

8. มีความเข้าใจเกี่ยวกับ 8. ข้อใดต่อไปนี้ เป็นวิธีการบำรุงรักษาไขควงที่

วิธีการบำรุงรักษาเครื่องมือ ถูกต้อง
ก. ใชไ้ ขควงงดั ชิน้ งาน
ชา่ งท่ีใช้ในงานพ้ืนฐาน ข. สามารถใช้ไขควงตอกแทนสกัด

ค. ขณะขันยึดสกรคู วรใชม้ ือจบั ชนิ้ งานใหแ้ น่น

ง. เลือกชนิดและขนาดของไขควงให้

เหมาะสมกับลกั ษณะของงาน

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ขอ้ คำถาม ความสอดคลอ้ ง

-1 0 +1

9. มีความเข้าใจเกี่ยวกับ 9. ข้อใดต่อไปนี้ ไม่ใช่ วิธีการบำรุงรักษาคีมท่ี

วิธีการบำรุงรักษาเครื่องมือ ถูกตอ้ ง

ช่างทีใ่ ชใ้ นงานพน้ื ฐาน ก. ตรวจสภาพของคีมก่อนนําไปใชง้ าน

ข. หา้ มใช้คีมทช่ี ํารดุ

ค. ใชค้ อ้ นตอกบนคมี หรอื ต่อด้ามคีม

ง. เลอื กขนาดของคีมใหถ้ กู ต้องกับลักษณะงาน

10. มีความเข้าใจเกี่ยวกับ 10. เครื่องมือช่างชนิดใดควรทาจารบีที่เกลียว

วิธีการบำรุงรักษาเครื่องมือ หลังการใช้งาน

ชา่ งท่ีใช้ในงานพนื้ ฐาน ก. ซี-แคมป์

ข. หงอนค้อน

ค. ประแจแหวน

ง. ปากกาจับงานทีย่ ดึ บนโต๊ะงาน

หนว่ ยท่ี 3 เคร่ืองมือวดั

คำชี้แจง ทำเครอ่ื งหมาย ✓ ลงในชอ่ งระดบั ความคดิ เหน็ ของทา่ น

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ขอ้ คำถาม ความสอดคลอ้ ง

-1 0 +1

1. มีความรู้เกี่ยวกับระบบ 1. ประเทศใดตอ่ ไปน้ีทีย่ ังคงมกี ารใช้การวดั ระบบ

การวัด อังกฤษ

ก. แคนนาดา

ข. กมั พชู า

ค. มาเลเซีย

ง. ฮอ่ งกง

2. มีความรู้เกี่ยวกับระบบ 2. ขอ้ ใด ไม่ใช่ ระบบหน่วยของการวดั
การวดั ก. ระบบเมตริก

ข. ระบบองั กฤษ

ค. ระบบนว้ิ

ง. ระบบ DIN

3. มีความเขา้ ใจ 3. ขอ้ ใดบอกหน้าทข่ี องเวอรเ์ นียรค์ ารล์ ปิ เปอร์ได้
เกยี่ วกบั เวอร์เนียร์คาลิป อยา่ งถูกตอ้ ง
เปอร์ ก. วัดขนาดภายในของชน้ิ งาน

ข. วัดขนาดภายนอกชน้ิ งาน

ค. วดั ขนาดความลึกของช้ินงาน

ง. ถูกทุกขอ้

4. มคี วามเข้าใจ 4. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับการบำรุงรักษา

เกี่ยวกบั เวอรเ์ นียรค์ าลปิ เวอรเ์ นียร์คารล์ ิปเปอร์
เปอร์ ก. เก็บและวางเวอร์เนียร์คาร์ลิปเปอร์รวมกับ

เครื่องมอื ชนดิ อนื่

ข.ควรเก็บเวอร์เนียร์คาร์ลิปเปอร์ไว้ในอุณหภูมิท่ี

เหมาะสม

ค. ความสะอาดและชโลมน้ำมัน ทุกครั้งหลังการ

ใช้งานเพอ่ื ปอ้ งกนั การเกดิ สนมิ

ง.ในระหว่างปฏิบัติงาน เมื่อต้องการวางเวอร์

เนยี ร์คาร์ลปิ เปอรค์ วรวางไวบ้ นผา้ หรอื แผน่ ไม้

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ข้อคำถาม ความสอดคลอ้ ง
-1 0 +1
5. มีความเข้าใจเกยี่ วกบั
ไมโครมิเตอร์

5. จากรปู ค่าทอ่ี ่านได้จากไมโครมเิ ตอร์ มีคา่ เทา่ ใด

ก. 5.34 มลิ ลิเมตร

ข. 5.84 มลิ ลเิ มตร

ค. 6.34 มิลลเิ มตร

ง. 6.84 มลิ ลิเมตร

6.มีความเข้าใจเกี่ยวกับ 6. ขอ้ ใดตอ่ ไปนี้ คืออีกชอื่ หน่ึงไมโครมิเตอร์

ไมโครมเิ ตอร์ ก. Screw Guage
ข. Thermometer

ค. Thickness Meter

ง. Locking Screw

7. มีความเข้าใจเกี่ยวกับ 7. ส่วนใดของไมโครมิเตอร์ ที่ทำหน้าที่รองรับการ

ไมโครมิเตอร์ วัดทผี่ ิวสัมผสั

ก. โครง

ข. แกนรบั

ค. แหวนเกลียว

ง. ปลอกหมุนกระทบเลอื่ น

8 . ม ี ค ว า ม เ ข ้ า ใ จ 8. ส่วนใดของเวอรเ์ นยี รค์ าลิปเปอร์ ทท่ี ำหน้าที่

เกี่ยวกับเวอร์เนียร์คาลิป ลอ็ คตำแหนง่ ของปากวดั ให้คงที่
เปอร์ ก. ปากวดั นอก

ข.เขย้ี ววัดใน

ค. สเกลเล่ือน

ง. สกรลู อ็ ค

จุดประสงค์การเรียนรู้ ขอ้ คำถาม ความสอดคลอ้ ง

9. มคี วามเข้าใจ -1 0 +1
เกย่ี วกบั เวอร์เนียรค์ าลิป
เปอร์ 9. ข้อใดต่อไปนี้ ไม่ใช่ การบำรุงรักษาเวอรเ์ นยี ร์

คาลปิ เปอรท์ ี่ถูกตอ้ ง

ก. วางเวอร์เนยี รค์ าลปิ เปอรไ์ วบ้ นผา้ หรอื แผ่นไม้
ข. เก็บเวอรเ์ นียรค์ าลปิ เปอรใ์ นที่เยน็ จดั
ค. ถ้าปากวัดนอกหรือปากวัดในเย็น ให้ขัดด้วย

หินน้ำมันด้านละเอียด
ง.ทำความสะอาดและทาน้ำมันกันสนิมทุกคร้ัง

ภายหลังการใชง้ าน

10. มีความเขา้ ใจเกี่ยวกบั 10. ข้อใดต่อไปนี้ ไม่ใช่ การบำรุงรักษา
ไมโครมิเตอร์
ไมโครมิเตอรท์ ่ถี กู ตอ้ ง

ก. เช็ดทำความสะอาด กอ่ นเกบ็ เขา้ กลอ่ ง
ข. ทำความสะอาดปากวัดทั้งสองด้านหลังเลิกใช้
งานเปน็ ประจำ
ค. ควรหมุนให้หน้าผิวสัมผัสวัดงานทั้งสอง
ดา้ นเข้ามาชนกันจนแน่น
ง. ควรเช็ดทำความสะอาดไมโครมิเตอร์และหล่อ
ลื่นเปน็ ประจำ

หน่วยท่ี 4 งานร่างแบบ

คำชี้แจง ทำเครือ่ งหมาย ✓ ลงในช่องระดับความคิดเหน็ ของทา่ น

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ข้อคำถาม ความสอดคลอ้ ง
-1 0 +1

1.มีความรู้เกี่ยวกับการร่าง 1. ข้อใด คือ ความหมายของงานร่างแบบ
แบบ ก. การตัดช้ินงาน

ข. การขีดชิน้ งาน

ค. การกำหนดขนาดช้ินงาน

ง. การถ่ายทอดรายละเอยี ดของชน้ิ งาน

2.มีความรู้เกี่ยวกับการร่าง 2. ข้อใด คือ ขั้นตอนแรกของการร่างแบบ
แบบ ก. ต้งั ค่าเวอรเ์ นียรไ์ ฮเกจ

ข. ศกึ ษาแบบงานใหเ้ ข้าใจ

ค. ทาน้ำยาร่างแบบ

ง. ขีดเส้นขนาดกับผิวงานทรงกระบอก

3. มคี วามรูเ้ กยี่ วกับ
เคร่ืองมือที่ใชใ้ นการร่าง
แบบ

3. จากรูป เรียกว่าอะไร
ก. โตะ๊ ขัดเหลก็
ข. โต๊ะตัดเหลก็
ค. โต๊ะเขียนแบบ
ง. โตะ๊ แท่นระดับ

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ขอ้ คำถาม ความสอดคลอ้ ง
-1 0 +1
4. มคี วามรูเ้ กย่ี วกับ
เครอ่ื งมือทีใ่ ช้ในการร่าง
แบบ

4. จากรูป เรียกว่าอะไร
ก. ไมโครมิเตอร์
ข. เวอร์เนียร์ไฮเกจ
ค. เวอร์เนยี รว์ ดั นอก
ง. เวอรเ์ นียร์วดั ใน

5. มคี วามรูเ้ กยี่ วกบั

เครื่องมอื ที่ใช้ในการร่าง
แบบ

6. มคี วามรูเ้ กย่ี วกับ 5. เครื่องมือใช้สำหรับการตรวจสอบด้านสองด้าน
เครือ่ งมอื ทีใ่ ชใ้ นการรา่ ง ของชิ้นงานทีท่ ำมุม 90 องศา เรียกวา่ อะไร
แบบ ก. ฉาก
ข. วงเวียน
ค. ไม้บรรทัด
ง. วี-บลอ็ ก
6. ในการร่างแบบ ถ้าต้องการทำให้เส้นที่ขีดเห็น
ชัดเจนและไม่ลบ ควรทำอย่างไร
ก. ใชส้ วา่ นเจาะนำ
ข. ทาน้ำยาร่างแบบก่อน
ค. ตอกด้วยเหล็กตอกร่างแบบ
ง. ใช้ปลายแหลมของวงเวียนกดขีดให้หนักๆ

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ข้อคำถาม ความสอดคลอ้ ง
7. มีความรูเ้ กี่ยวกับ
เครือ่ งมอื ทใ่ี ช้ในการรา่ ง -1 0 +1
แบบ
7. แท่ง วี-บล็อก เป็นเคร่ืองมืออุปกรณ์สำหรับใช้
8. มีความรเู้ กย่ี วกับ
เครอื่ งมือที่ใชใ้ นการร่าง งานลักษณะใด
แบบ
ก. ใช้ขีดเส้นจุดศูนย์กลางของงาน
9. มีความรเู้ กย่ี วกบั
เครอ่ื งมอื ที่ใชใ้ นการรา่ ง ข. ใช้ขีดเส้นขนาดกับผิวงานทรงกระบอก
แบบ
ค. รองรับจับยึดช้ินงานทรงกระบอก
10. มีความรเู้ กี่ยวกบั
เครื่องมอื ทใ่ี ช้ในการรา่ ง ง. ใช้ตรวจตรวจสอบความเรียบของผิวงาน
แบบ
ทรงกระบอก

8. เคร่อื งมอื ทใ่ี ชส้ ำหรบั การยกช้นิ งานให้สงู ข้ึน

ตามความต้องการ เรียกว่าอะไร

ก. โต๊ะแท่นระดับ

ข. แทง่ ขนาน

ค. ฉากผสม

ง. ตวั จับงาน

9. ในการร่างแบบ ถา้ ต้องการความละเอียด

แมน่ ยำควรใชเ้ คร่ืองมือชนิดใดในการร่างแบบ

ก. โตะ๊ แท่นระดับ

ข. แทง่ ขนาน

ค. ฉากผสม

ง. เวอร์เนยี รว์ ดั ความสูง

10. เหล็กตอกนำศนู ย์มีมุมปลายแหลมกี่องศา

ก. 55 องศา

ข. 60 องศา

ค. 75 องสา

ง. 90 องศา

หน่วยที่ 5 งานเลื่อย

คำชี้แจง ทำเคร่ืองหมาย ✓ ลงในชอ่ งระดับความคิดเหน็ ของทา่ น

จุดประสงค์การเรียนรู้ ข้อคำถาม ความสอดคลอ้ ง

-1 0 +1

1.มีความรเู้ กย่ี วกับ 1. ข้อใด คือ ส่วนประกอบที่สำคัญของเลื่อยมือ

ส่วนประกอบของเล่ือยมือ ก. คลองเลอ่ื ย

ข. ใบเล่อื ย

ค. โครงเลอ่ื ย

ง. ใบเลื่อยและโครงเลือ่ ย

2.มีความร้เู ก่ยี วกับ 2.ส่วนประกอบใดของเลื่อยมือที่ใช้สำหรับตัด

ส่วนประกอบของเลอื่ ยมือ เฉือนวัสดุ

ก. ดา้ มจับ

ข. โครงเล่อื ย

ค. ใบเลอ่ื ย

ง. สกรูปรับ

3.มีความรูเ้ ก่ยี วกบั ประเภท 3. เลอ่ื ยประเภท เล่ือยหางหนู มีชื่อเรยี กอีกอย่าง

ของเลื่อยมอื ว่าอะไร

ก. เลอ่ื ยลันดา

ข. เลือ่ ยฉลฝุ ้า

ค. เลอ่ื ยตดั เหลก็

ง. เล่อื ยหนู

4.มคี วามรเู้ ก่ยี วกับประเภท 4. “ใชใ้ นการตดั เหลก็ มลี ักษณะคลา้ ยเลื่อยฉลุ

ของเลื่อยมือ แต่คันเล่อื ยโคง้ ไม่มาก การใชง้ านสว่ นใหญจ่ ะใช้

ตัดโลหะทั่วไป” จากขอ้ ความข้างต้นเป็นเลื่อย

ประเภทใด

ก. เลือ่ ยลันดา

ข. เลอื่ ยฉลฝุ ้า

ค. เลอ่ื ยฉลุ

ง. เล่ือยตัดเหล็ก

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ข้อคำถาม ความสอดคลอ้ ง

-1 0 +1

5.มีความรเู้ กยี่ วกบั ประเภท 5. “นิยมนำมาทำงานประดิษฐ์ของนักเรียน ใช้กับ

ของเลือ่ ยมือ งานไม้ เหมาะสำหรับงานตัดโค้ง ทำลวดลาย”

จากข้อความข้างต้นเปน็ เลอื่ ยประเภทใด

ก. เล่ือยลันดา

ข. เล่ือยฉลุฝ้า

ค. เลือ่ ยฉลุ

ง. เลอื่ ยตัดเหลก็

6.มคี วามรเู้ กีย่ วกบั ประเภท 6. “ใช้สำหรับงานตัดไม้ ตัดขวางเนื้อไม้ เพื่อให้

ของเลือ่ ยมือ เกิดรอยตดั ทีเ่ รยี บ ใบเลื่อยทำมาจากใบเหลก็ สปริง

แผ่นบางปลายเรียว” จากข้อความข้างต้นเป็น

เลือ่ ยประเภทใด

ก. เลอื่ ยลันดา

ข. เลอ่ื ยฉลฝุ า้

ค. เลือ่ ยฉลุ

ง. เลอ่ื ยตัดเหล็ก

7.มีความเขา้ ใจเกี่ยวกับการ 7.การประกอบใบเล่ือยเข้ากับโครงเล่ือย ฟันเลื่อย

ใชง้ านเลอ่ื ยมอื จะต้องชี้ไปด้านใด

ก. ช้ไี ปข้างหลัง

ข. ชี้ไปขา้ งหน้า

ค. ช้ีไปดา้ นขา้ ง

ง. ช้ไี ปดา้ นไหนก็ได้

8.มคี วามเข้าใจเก่ยี วกบั การ 8. ในการเรมิ่ ตน้ เลอ่ื ย ต้องเอียงใบเลอ่ื ยทำมมุ กับ

ใชง้ านเลือ่ ยมอื ผวิ ชน้ิ งานก่อี งศา

ก. 6 องศา

ข. 8 องศา

ค. 10 องศา

ง. 12 องศา

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ขอ้ คำถาม ความสอดคลอ้ ง
-1 0 +1

9.มคี วามรเู้ ก่ยี วกับประเภท 9.เลอ่ื ยที่ใช้ตัดโลหะทั่วไป อาทิ ตะปู นอ็ ต สกรู

ของเลอื่ ยมอื เหลก็ เรียกวา่ เลอื่ ยประเภทอะไร

ก. เลอื่ ยลันดา

ข. เล่อื ยฉลฝุ ้า

ค. เลอื่ ยตัดเหลก็

ง. เล่อื ยหนู

10.มีความรูเ้ กย่ี วกับ 10. ในการเลื่อยตัดเหลก็ ควรใชค้ วามเร็วในการ
ประเภทของเล่อื ยมือ เลอ่ื ยเทา่ ไร

ก. ประมาณ 40-50 ชักต่อนาที

ข. ประมาณ 50-60 ชักตอ่ นาที

ค. ประมาณ 60-70 ชักต่อนาที

ง. ประมาณ 70-80 ชักต่อนาที

หนว่ ยท่ี 6 งานตะไบ

คำช้ีแจง ทำเครือ่ งหมาย ✓ ลงในชอ่ งระดบั ความคิดเห็นของท่าน

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ขอ้ คำถาม ความสอดคลอ้ ง

-1 0 +1

1. มคี วามรู้เกยี่ วกบั 1. ข้อใด ไม่ใช่ ส่วนประกอบของตะไบ

สว่ นประกอบของตะไบ ก. ก่นั ตะไบ

ข. โคนตะไบ

ค. คมตะไบ

ง. ปลายตะไบ

2.มคี วามรเู้ ก่ยี วกบั ประเภท 2. ลักษณะหน้าตะไบเป็นรูปส่ีเหลี่ยมพื้นผ้า ฟัน

ของตะไบ ตะไบเป็นแบบลายตัดคู่ เป็นลักษณะของตะไบ

ประเภทใด

ก. ตะไบกลม

ข. ตะไบแบน

ค. ตะไบสีเ่ หลย่ี ม

ง. ตะไบท้องปลงิ

3.มีความรเู้ ก่ียวกับประเภท 3. ลักษณะฟันตะไบเป็นแบบลายตัดคู่ มีลักษณะ

ของตะไบ รูปทรงตะไบจะเป็นครึ่งวงกลม เป็นลักษณะของ

ตะไบประเภทใด

ก. ตะไบกลม

ข. ตะไบแบน

ค. ตะไบส่ีเหล่ียม

ง. ตะไบท้องปลิง

4. มคี วามรูเ้ กย่ี วกบั 4. ลักษณะฟันของตะไบมีทั้งแบบลายตัดเดี่ยว

ประเภทของตะไบ และลายตัดคู่ นิยมใช้ในงานตะไบส่วนโค้งของ

ชิ้นงาน ใช้ตะไบขยายขนาดรูกลม และใช้ตะไบ

รอ่ งโค้ง เป็นลกั ษณะของตะไบประเภทใด

ก. ตะไบกลม

ข. ตะไบแบน

ค. ตะไบสเี่ หลย่ี ม

ง. ตะไบทอ้ งปลิง

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ข้อคำถาม ความสอดคลอ้ ง

-1 0 +1

5. มีความเข้าใจเกี่ยวกับ 5. ลกั ษณะตะไบคมตัดเดี่ยว ฟันของตะไบเอียงทำ

ลักษณะคมตดั ของตะไบ มุมก่ีองศา กับเส้นผา่ ศนู ยก์ ลาง

ก. 25- 45

ข. 45 - 65

ค. 65 - 85

ง. 75 - 90

6. มีความเข้าใจเกี่ยวกับ 6. วัสดใุ ดท่ี ไมค่ วร ใช้ตะไบคมตัดเดีย่ วในการตะไบ

ลกั ษณะคมตัดของตะไบ ขดั ผิว

ก. เหล็กกลา้

ข. ทองแดง

ค. บรอนซ์

ง. อะลมู ิเนียม

7. มคี วามเขา้ ใจเก่ียวกับ 7. เทคนิคการวางตำแหน่งเทา้ เทา้ ขวาตอ้ งทำมุมก่ี

เทคนคิ และวธิ ีการตะไบ องศา กับแนวก่ึงกลางตัวปากกา

ก. 55 องศา

ข. 65 องศา

ค. 75 องศา

ง. 85 องศา

8. มคี วามเข้าใจเกีย่ วกบั 8. การตะไบใหผ้ วิ เรียบ ควรใชเ้ ครอ่ื งอะไรในการวดั

เทคนิคและวธิ ีการตะไบ ก. บรรทดั เหลก็

ข. ใบฉาก

ค. บรรทัดพลาสติก

ง. เวอร์เนยี ร์คาลปิ เปอร์

9. มคี วามเข้าใจเกย่ี วกบั 9. หากไม่สามารถรักษาน้ำหนักการกดให้สม่ำเสมอ

เทคนิคและวธิ ีการตะไบ จะทำใหช้ ิ้นงานเป็นอยา่ งไร
ก. ชิน้ งานจะโค้ง

ข. ชน้ิ งานไมเ่ รียบ
ค. ช้ินงานจะเอียง

ง. ชิ้นงานจะจะเอยี งหรือโคง้ เปน็ หลังเตา่

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ขอ้ คำถาม ความสอดคลอ้ ง

10. มคี วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั -1 0 +1
เทคนคิ และวธิ ีการตะไบ
10. ถ้าระดับข้อศอก ของ นายดี สูงจากพื้น 130

เซนติเมตร ระดับปากกาจับงานในงานตะไบควร

สูงเท่าใด

ก. 122 – 125 เซนติเมตร
ข. 132 – 135 เซนตเิ มตร
ค. 142 – 145 เซนตเิ มตร
ง. 152 – 155 เซนติเมตร

หน่วยที่ 7 งานเจาะ

คำช้แี จง ทำเคร่อื งหมาย ✓ ลงในช่องระดับความคิดเหน็ ของทา่ น

จุดประสงค์การเรยี นรู้ ข้อคำถาม ความสอดคลอ้ ง

-1 0 +1

1.มีความรู้เกีย่ วกับชนิดของ 1. ดอกสว่านชนิดใด ท่ใี ช้สำหรบั เจาะรูมีขนาด

ดอกสวา่ น เสน้ ผ่าศูนย์กลางใหญ่

ก. ดอกสว่านกา้ นตรง

ข. ดอกสว่านกา้ นเรยี ว

ค. ดอกสวา่ นชนิดพิเศษ

ง. ดอกสวา่ นคารไ์ บด์

2. มคี วามเขา้ ใจเกยี่ วกบั มมุ 2. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ มุมของดอกสว่าน

ของดอกสว่าน ก. มมุ ฟรี

ข. มุมตดั

ค. มมุ หลบ

ง. มมุ คายเศษ

3. มคี วามเขา้ ใจเก่ียวกับมุม 3. มุมรวมปลายดอกสวา่ นมีมมุ รวมกี่องศา

ของดอกสว่าน ก. 100

ข. 118

ค. 120

ง. 128

4. มีความเข้าใจเกยี่ วกบั 4. กรณีลบั มมุ ดอกสว่านสองขา้ งไม่เทา่ กนั จะมีผล

วิธีการลับดอกสวา่ น ในข้อใด

ก. คมตดั จะตดั งานด้านเดยี ว

ข. ดอกสวา่ นไม่แขง็ แรง

ค. มมุ จิกไมอ่ ยทู่ ศี่ นู ยก์ ลาง

ง. จะเจาะงานไม่ได้

5. มีความเขา้ ใจเกย่ี วกับ 5. กรณลี บั มุมหลบดอกสว่านมากเกินไป จะม

วธิ กี ารลับดอกสวา่ น สง่ ผลตามข้อใดตอ่ ไปน้ี

ก. ดอกสว่านแกวง่

ข. ดอกสวา่ นจะเจาะไม่เขา้

ค. มมุ จกิ ไม่อยทู่ ศี่ ูนยก์ ลาง

ง. ดอกสว่านมีรอยบนิ่ แตกหัก

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ข้อคำถาม ความสอดคลอ้ ง
6. มีความร้เู กยี่ วกบั เคร่อื ง
เจาะ -1 0 +1

7. มคี วามเข้าใจเก่ียวกับ 6. สว่ นใดต่อไปนขี้ องเครอ่ื งเจาะ ทีเ่ ป็นสว่ นรองรับ
เครื่องมือและอุปกรณ์ทใ่ี ช้
ในการเจาะ นำ้ หนกั ทงั้ หมด

8. มีการนำความเรว็ ในการ ก. โตะ๊ งาน
เจาะไปใช้
ข. เสาเครอ่ื ง
9. มีการนำความเรว็ ใน
การเจาะไปใช้ ค. ฐานเครอ่ื ง

ง. หวั เคร่อื ง

7. การใช้ดอกเจาะนำศูนย์เจาะนำ ก่อนเจาะด้วย

ดอกสวา่ นจะทำให้เกิดผลดอี ยา่ งไร

ก. ช่วยใหป้ ลายสวา่ นไม่สึกหรอ

ข. เจาะได้ตรงตำแหนง่ ที่ตอ้ งการ

ค. ช่วยใหเ้ จาะด้วยดอกสว่านได้เร็วข้นึ

ง. ปากรเู จาะเกิดเปน็ มุมเรียวเรียบร้อยดี

8. ถ้าต้องการเจาะรูโตขนาด 10 มม. โดยใช้

ความเร็วตัด 18 เมตร/นาที ต้องใช้ความเร็วรอบ

ในการเจาะรเู ท่าใด

ก. 573.24 รอบ/นาที

ข. 650.32 รอบ/นาที

ค. 428.35 รอบ/นาที

ง. 550.23 รอบ/นาที

9. จงคำนวณหาค่าความเรว็ ตัดท่ีเจาะงานดว้ ยดอก

สว่านมีความยาวเส้นผ่าศูนย์กลาง 8 มม. ด้วย

ความเรว็ รอบ 900 รอบ/นาที

ก. 27.25 เมตร / นาที

ข. 22.62 เมตร / นาที

ค. 18.36 เมตร / นาที

ง. 15.78 เมตร / นาที

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ข้อคำถาม ความสอดคลอ้ ง

10. มคี วามเขา้ ใจเก่ยี วกบั -1 0 +1
การเจาะชน้ิ งาน
10. ข้อใดต่อไปน้ี คอื ขัน้ ตอนแรกของการเจาะ

ชิ้นงาน

ก. ใช้เหลก็ นำศนู ย์ตอกนำศนู ย์

ข. ใชไ้ มก้ วาดปัดเศษโลหะลงพืน้

ค. นำดอกสวา่ นมาจบั ยดึ บนเคร่อื งเจาะ

ง. นำชนิ้ งานมารา่ งแบบตามแบบงานที่กำหนด

หนว่ ยที่ 8 งานทำเกลยี ว

คำช้ีแจง ทำเครอ่ื งหมาย ✓ ลงในช่องระดบั ความคิดเหน็ ของทา่ น

จุดประสงค์การเรียนรู้ ข้อคำถาม ความสอดคลอ้ ง
-1 0 +1

1.มคี วามรเู้ ก่ียวกบั พืน้ ฐาน
ของเกลยี ว

1. เกลยี วท่ีปรากฏอยทู่ ี่ผวิ ภายในรูปทรงกระบอก

หรอื รูปทรงกรวยเรยี กว่าอะไร

ก. เกลียวนอก

ข. เกลยี วเรียว

ค. เกลียวตรง

ง. เกลยี วใน

2. มีความรเู้ กยี่ วกบั พ้ืนฐาน 2. ข้อใด ไมใ่ ช่ ลักษณะการใช้งานเกลียว

ของเกลียว ก. จับยึดชิ้นงานเข้าดว้ ยกนั

ข. ส่งกำลังไปยังเครอ่ื งจักรกล

ค. ปรบั ตำแหนง่ หรือระยะชิ้นสว่ นแตล่ ะชิ้น

ง. ถ่ายทอดกำลงั และการเคลอ่ื นทีข่ องชนิ้ ส่วน

เครอื่ งจักรกล

3. มคี วามรู้เกย่ี วกบั พน้ื ฐาน 3. ข้อใดกล่าวถงึ ระยะพิตซ์ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง

ของเกลียว ก. ความลกึ ของรอ่ งเกลยี ว

ข .ผิวดา้ นข้างของฟนั เกลียว

ค. สว่ นปลายสุดของฟันเกลยี ว

ง. ระยะหา่ งของยอดฟนั เกลยี วหนงึ่ ถงึ ยอดฟัน

เกลียวหน่งึ

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ข้อคำถาม ความสอดคลอ้ ง
4.มคี วามเขา้ ใจเกี่ยวกบั -1 0 +1
ชนดิ ของเกลียว 4. เกลยี วชนดิ ใดต่อไปนี้ ที่สามารถใช้งาน
เหมือนกบั เกลียวส่เี หล่ยี มคางหมู (มุมรวมยอด
5.มคี วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั เกลียว 29 องศา)
เครื่องมอื ทำเกลยี ว ก.เกลยี วแอคเม่
ข.เกลียวสเ่ี หลีย่ ว
6.มีความเขา้ ใจเกี่ยวกบั ค. เกลียวอมริกา
เครื่องมือทำเกลียว ง. เกลยี วเมตริก
5. เครอ่ื งมอื ทใ่ี ชท้ ำเกลยี วในด้วยมือ เรียกวา่ อะไร
7. มีความเขา้ ใจเกย่ี วกับ ก. ดายส์
ขน้ั ตอนการทำเกลยี ว ข. ตา๊ ป
ค. เครื่องกลึง
8.มคี วามเขา้ ใจเกย่ี วกับ ง. เคร่อื งกดั
ขนั้ ตอนการทำเกลยี ว 6. เครื่องมอื ท่ใี ช้ทำเกลียวนอกด้วยมือ เรียกว่า
อะไร
ก. ดายส์
ข. ตา๊ ป
ค. เครอ่ื งกลึง
ง. เครื่องกัด
7. อุปกรณ์ต๊าปเกลียว ท่ีใชใ้ นขัน้ ตอนสดุ ทา้ ย ทำ
ใหเ้ กลยี วมฟี นั ท่เี สมอกัน เรียกวา่ อะไร
ก. Plug
ข. Taper
ค. Dies
ง. Bottom
8. ขัน้ ตอนแรก การทำเกลียวในตรงกบั ขอ้ ใด
ก. ใสด่ อก Tap เข้ากบั ด้าม
ข. ไล่เศษโลหะออกจากชิน้ งาน
ค. เตรียมขนาดของรเู จาะ
ง. ปรบั ดอก Tap จนได้ฉากกบั ช้ินงาน

จุดประสงค์การเรียนรู้ ข้อคำถาม ความสอดคลอ้ ง
9.มีความเข้าใจเก่ียวกบั
ข้นั ตอนการทำเกลยี ว -1 0 +1

10.มคี วามเขา้ ใจเกย่ี วกับ 9. ในระหว่างการดายเกลียว ควรใช้อะไรเพื่อลด
ชนดิ ของเกลยี ว
ความฝดื ในการหมุน

ก. น้ำ

ข. นำ้ ยารา่ งแบบ

ค. น้ำมันหลอ่ ลืน่

ง. นำ้ หลอ่ เยน็

10. NC เป็นสัญลกั ษณข์ องเกลยี วชนดิ ใด

ก. เกลยี วอเมรกิ า

ข. อเมรกิ ันชนดิ เกลยี วหยาบ

ค. เกลยี วอเมริกันชนิดละเอยี ด

ง. อเมรกิ นั ชนิดพิเศษ

หนว่ ยท่ี 9 งานเช่ือมพืน้ ฐาน

คำช้แี จง ทำเคร่อื งหมาย ✓ ลงในชอ่ งระดบั ความคดิ เห็นของท่าน

จดุ ประสงค์การ ขอ้ คำถาม ความสอดคลอ้ ง

เรียนรู้ -1 0 +1

1.มีความเขา้ ใจ 1. ขอ้ ใด ไม่ใช่ การเชือ่ มแบบหลอมละลาย (Fusion

เกยี่ วกบั ประเภทงาน Welding)

เชอ่ื ม ก. Gas Welding

ข. Laser Welding

ค. Ultarsonic Welding

ง. Manual Metal Arc Welding

2.มีความเขา้ ใจ 2. ขอ้ ใดกลา่ วถกู ตอ้ งเกี่ยวกับ กระแสไฟเช่ือมชนดิ DC

เกย่ี วกับชนดิ ของ ก. มีการเปลีย่ นขวั้ 100 ครงั้ ต่อวินาที

กระแสไฟเชอื่ ม ข. มี 2 ประเภท คือ DCEN และ DCEP

ค. มที ศิ ทางการเคลือ่ นที่สลับกันเปน็ คลื่น (Wave)

ง. กระแสไฟฟ้าตรงจะไหลจากขั้วหนงึ่ ไปตลอดโดย

ไมม่ กี ารเปล่ียนแปลงข้ัว

3. มคี วามเข้าใจ 3. ตามมาตรฐาน ISO ระบทุ า่ เชื่อมขนานนอนวา่ อะไร

เกยี่ วกับท่าเชือ่ ม ก. PA

ข. PB

ค. PC

ง. PD

3. มคี วามเขา้ ใจ

เกีย่ วกบั ท่าเชื่อม

4. ตามมาตรฐาน AWS กำหนดทา่ เชอ่ื มดงั รปู ว่าอะไร
ก. 1G
ข. 2G
ค. 3G
ง. 4G

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ข้อคำถาม ความสอดคลอ้ ง
-1 0 +1
5. มีความเขา้ ใจเก่ียวกบั ท่า
เชอื่ ม

6. มีความเขา้ ใจเก่ียวกับ 5. ตามมาตรฐาน ISO กำหนดท่าเชื่อมดงั รูปว่า
การเริ่มตน้ เชือ่ มอาร์ก อะไร
ก. PA
7. มีความเขา้ ใจเก่ยี วกบั ข. PB
การเริม่ ต้นเชื่อมอาร์ก ค. PD
ง. PF
6. ข้อใดอธบิ ายวิธีการเรม่ิ ตน้ เชอื่ มอาร์ก ดว้ ยวธิ ี
ขดี /เขี่ยได้อยา่ งถูกต้อง
ก. ถือลวดเชื่อมให้อยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับ
ช้ินงาน
ข. ตวัดลวดเชื่อมให้ปลายแตะกับชิ้นงานแล้ว
ยกข้นึ อย่างช้าๆ
ค. กดลวดเชื่อมลงไปเคาะหรือแตะบนแผ่นเหล็ก
เบา ๆ แลว้ รีบยกขึน้
ง. ถือลวดเชื่อมในลักษณะเอียงไปตามแนวที่
จะเชอื่ ม
7. ข้อใดอธบิ ายวธิ ีการเริ่มต้นเชื่อมอารก์ ด้วยวธิ ี
เคาะ/แตะได้อยา่ งถูกต้อง
ก. ถือลวดเชื่อมให้อยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับ
ชิน้ งาน
ข. ตวัดลวดเชื่อมให้ปลายแตะกับชิ้นงานแล้ว
ยกข้นึ อยา่ งช้าๆ
ค. ถือลวดเชื่อมในลักษณะเอียงไปตามแนวที่จะ
เชื่อม
ง. กดลวดเชื่อมลงไปเคาะหรือแตะบนแผ่นเหล็ก
แรงๆ และยกข้นึ

จุดประสงค์การเรียนรู้ ข้อคำถาม ความสอดคลอ้ ง

-1 0 +1

8 . ม ี ค ว า ม ร ู ้ เ ก ี ่ ย ว กั บ 8. ขอ้ ใดตอ่ ไปนี้ คอื หนา้ ทข่ี องเครอ่ื งเชอ่ื มไฟ้ฟา้

เครื่องมือและอุปกรณ์การ ก. เปน็ ทางผ่านของกระแสไฟ

เชอื่ ม ข. ผลิตกระแสและแรงเคล่ือนทอี่ อกมา

ค. ปอ้ งกนั ดวงตาและใบหน้าจากรังสแี ละความ

ร้อน

ง. ช่วยให้มองเห็นบ่อหลอมละลายขณะทำการ

เชอ่ื มได้

9 . ม ี ค ว า ม ร ู ้ เ ก ี ่ ย ว กั บ 9. ข้อใดตอ่ ไปน้ี คือหน้าทขี่ องสายเชอื่ ม (Welding

เครื่องมือและอุปกรณ์การ Cable)

เชือ่ ม ก. เป็นทางผา่ นของกระแสไฟ

ข. ผลติ กระแสและแรงเคลอื่ นที่ออกมา

ค. ป้องกนั ดวงตาและใบหนา้ จากรังสแี ละความ

ร้อน

ง. ช่วยใหม้ องเหน็ บอ่ หลอมละลายขณะทำการ

เชื่อมได้

10. มคี วามเขา้ ใจเกี่ยวกบั 10. ในตำแหน่งท่าเชื่อมใดที่ควรมีการป้องกัน

ทา่ เชอื่ ม รา่ งกายให้รดั กุมทส่ี ุด

ก. ท่าราบ

ข. ทา่ ตงั้

ค. ท่าขนานนอน

ง. ทา่ เหนอื ศีรษะ