-ปรากฏการณข์ ้างขึ้นขา้ งแรม
-สรุ ิยุปราคา
-ฤดกู าล
-กลางวนั กลางคืน
-น้าขึ้นนา้ ลง
ปรากฏการณ์ข้างขึน้ ข้างแรม
(Lunar ’ Phases)
ปรากฏการณข์ ้างขึ้น-ข้างแรม (Lunar's Phases)
ปรากฏการณข์ ้างขึน้ -ข้างแรม เปน็ ปรากฏการณท์ ี่
เกิดจากดวงจันทร์โคจรรอบโลก แลว้ ท้าใหผ้ ู้สงั เกตทีอ่ ยู่บน
โลก มองเหน็ แสงทีเ่ กิดจากการสะท้อน จากดวงอาทิตย์
แตกตา่ งกันไป เราเรียกปรากฏการณ์ดงั กล่าวว่า"
ปรากฏการณ์ข้างขึน้ -ข้างแรม" (Lunar's Phases)
ปัจจบุ ัน เราทราบว่า ดวงจนั ทร์โคจรรอบโลกของเรา
ดว้ ยระยะทางเฉลีย่ ประมาณ 384,000 กม.ในทิศเดียวกับ
การหมนุ ของโลก ใชเ้ วลาประมาณ 27.3 วนั ต่อรอบ (เมื่อ
เทียบจากจุดเดิม)
ภาพแสดงรปู รา่ งดวงจนั ทร์ใน ภาพแสดง ปรากฏการณท์ ีเ่ รามองเหน็
วนั ข้างขึน้ ข้างแรม ดวงจันทร์เปน็ เสีย้ ว
ปรากฏการณข์ า้ งขึน้
เมื่อดวงจนั ทร์โคจรผา่ นระหวา่ งโลกและดวง
อาทิตย์ เรากจ็ ะไม่เห็นดวงจันทร์ แตเ่ มือ่ ดวงจันทร์
เคลื่อนทีไ่ ป เราจะค่อยๆเหน็ เสี้ยวของดวงจนั ทร์ เรา
เรียกวา่ "ปรากฏการณ์ขา้ งขึน้ " ชาวอียิปตโ์ บราณได้
สงั เกต และก้าหนดให้วันที่เริ่มเหน็ แสงจากเสี้ยวดวง
จันทร์ เป็นวนั แรกของปฏิทินแบบจันทรคติของแต่ละ
เดือน ช่วงข้างขึ้นจะแบ่งออกเปน็ 2 ช่วง คือ
ช่วงแรก เราจะเริม่ เหน็ เสี้ยวของดวงจันทรท์ างขอบฟ้าทิศ
(New Moon Phase) ตะวนั ตก หลังพลบค้่าไปแล้ว โดยจะคอ่ ยๆเห็นดวง
จันทรม์ ากขึ้น และจะเห็นสงู ขึ้นวันละประมาณ 12
องศา และจะเหน็ ดวงจันทรต์ กทางขอบฟา้ ทิศตะวนั ตก
ชา้ ลง วันละประมาณ 50 นาที ชว่ งน้ภี าษาอังกฤษ
เรียกว่า “Waxing Crescent”
ช่วงทส่ี อง ประมาณ 1 สปั ดาหห์ ลังจากเริม่ ปรากฏการณข์ ้างขึน้
(First Quarter Phase) เราจะเหน็ ดวงจนั ทรป์ ระมาณครึง่ ดวง หนั ดา้ นนนู ไป
ทางทิศตะวันตก โดยจะเหน็ อยู่กลางท้องฟ้าเยือ้ งไป
ทางซีกโลกใต้ ในช่วงหัวคา่้ และจะคอ่ ยๆลับขอบฟ้า
ทางทิศตะวันตกชว่ งเทีย่ งคืน ชว่ งนี้ ภาษาองั กฤษ
เรียกว่า "Waxing Gibbous"
วันข้นึ 12 ค่า้ วันขึ้น 8 คา้่ วนั ขึ้น 3 คา้่ วนั ขึน้ 3 ค่า้ วันขึ้น 15 ค่า้
เมื่อจันทร์เต็มดวง หรือจนั ทร์เพ็ญ (Full Moon Phase)
ประมาณ 2 สปั ดาห์หลงั จากเริม่ ปราฏการณ์ขา้ งขน้ึ เราจะเหน็
จันทรเ์ ต็มดวง เหนือขอบฟ้าทิศตะวันออกต้ังแต่ช่วงค่้า โดยจะเหน็ ไดต้ ลอด
คนื จนกระทั่งดวงจันทร์ลับขอบฟา้ ทิศตะวันตก ในชว่ งเช้า
ดวงจนั ทรเ์ ต็มดวง เป็นท่มี าของวันสา้ คัญตา่ งๆ เช่น วนั มาฆบูชา (ขึ้น
15 ค้า่ เดือน 3 หรือ 4), วันวสิ าขบชู า (ขึ้น 15 คา่้ เดือน 6 หรือ 7), วันลอย
กระทง (วนั เพ็ญ เดือน 12) เปน็ ตน้
ปรากฏการณ์ข้างแรม
เมื่อดวงจันทร์โคจรผ่านหลังโลกในทิศตรงข้ามกบั ดวง
อาทิตย์ ดวงจนั ทรจ์ ะคอ่ ยๆแหว่งไปทีละน้อย เราเรียกวา่
"ปรากฏการณ์ข้างแรม" ชว่ งขา้ งแรมจะแบง่ ออกเป็น 2 ช่วง คือ
เราจะเริ่มเหน็ ดวงจันทร์แหว่งทีละนอ้ ย และจะ
คอ่ ยๆเริ่มเหน็ ดวงจันทรท์ างทิศตะวันออก ช้าลง
วันละประมาณ 50 นาที ช่วงนีภ้ าษาองั กฤษ
เรียกวา่ "Waning Gibbous"
ช่วงแรก
ช่วงทส่ี อง
ประมาณ 1 สัปดาหห์ ลังจากเริ่มปรากฏการณ์ข้างแรม เราจะเหน็ ดวง
จันทร์ประมาณคร่งึ ดวง หนั ดา้ นนนู ไปทางทิศตะวันออก โดยจะเริม่ เหน็ ดวง
จันทรท์ างทิศตะวนั ออก หลงั เทีย่ งคนื ไปแล้ว โดยจะคอ่ ยๆเคลือ่ นสูงขึ้น จน
สงู สดุ บนท้องฟ้าเมือ่ ดวงอาทิตย์ขึ้นในช่วงเชา้ หลงั จากนัน้ เรากจ็ ะเริ่มเห็นดวง
จันทร์ทางทิศตะวนั ออกช้าลง วนั ละประมาณ 50 นาที และจะเห็นจุดสงู สดุ ก่อน
ดวงอาทิตยข์ ึน้ ลดลงวันละประมาณ 12 องศา ช่วงน้ี ภาษาองั กฤษเรยี กวา่
"Waning Crescent"
สรุ ิยปุ ราคาคืออะไร
สุริยปุ ราคาหมายถึง ปรากฏการณ์ทีเ่ กิดขึ้นขณะทีด่ วง
จนั ทร์หมนุ รอบโลก แล้วโคจรมาบังดวงอาทิตย์ จึงท้าใหโ้ ลกไม่ได้
รบั แสงสว่างจากดวงอาทิตย์ ช่วงขณะหนึง่ โดยเงาของดวงจันทร์
จึงตกมาบนโลก ท้าให้บริเวณพืน้ ผิวโลกที่อย่ใู ตเ้ งามืดของดวง
จนั ทร์ เหน็ ดวงอาทิตย์มืดมิด เราเรียกว่า “สุริยุปราคาเตม็ ดวง”
และบริเวณพืน้ โลกทีอ่ ยใู่ ตเ้ งามัวของดวงจนั ทรก์ จ็ ะเห็นดวง
อาทิตยม์ ืดเปน็ ดวงกลมโดยมีขอบสวา่ งล้อมรอบคล้ายวงแหวน
เราเรียกว่า “วงแหวนสรุ ิยปุ าคา” สว่ นบางบริเวณก็เห็นดวง
อาทิตย์มืดบางส่วนและสว่างบางส่วน เราเรียกว่า “สุริยุปราคา
บางสว่ น”
พระบาทสมเด็จพระจอมเกลา้ เจ้าอย่หู วั ได้ทรงค้านวณ
เวลาการเกิดคราสต่าง ๆ ในสุริยปุ ราคา ซึง่ เกิดเมื่อวนั ที่ 18
สิงหาคม พ.ศ. 2411 ที่กรุงเทพฯ เหน็ ดวงอาทิตย์ถูกบังมืดไม่
หมดดวง และที่หวา้ กอ ซึ่งอยใู่ กลเ้ ขาสามรอ้ ยยอด ใน
จังหวดั ประจวบคีรีขันธ์ อันเปน็ สถานที่ซึง่ เกิดสรุ ิยุปราคามืด
หมดดวง
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หวั ได้เสดจ็ พระราชดา้ เนินโดยเรือกลไฟ
พระทีน่ ัง่ จากกรุงเทพฯ ไปอา่ วแม่รา้ พึง แล้วจงึ เสด็จขึน้ บกประทบั ทอดพระ
เนตร ณ ต้าบลหวา้ กอ ทา่ มกลางแขกผู้มีเกียรติ อนั มี เซอร์ แฮรี ออรด์ เจ้าเมือง
สิงคโปร์ ได้รับเชิญมาเป็นแขกดสู รุ ิยุปราคา คณะดาราศาสตร์ฝรง่ั เศสก็ไดข้ อพระ
บรมราชานุญาตต้ังคา่ ยสังเกตการณว์ ดั ดูสุริยปุ ราคาที่ใตพ้ ลับพลาค่ายหลวง
ประมาณ 18 เส้น เมื่อได้เวลาสรุ ิยปุ ราคากไ็ ดเ้ กิดขึ้นตามแนวทางทีพ่ ระบาท
สมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยู่หัวไดท้ รงค้านวณไว้ ผลทีท่ รงคา้ นวณดังที่ได้
ประกาศไปเทียบกับคณะดาราศาสตร์องั กฤษได้ทา้ รายงานไว้เกอื บจะไมม่ ีความ
แตกต่างคลาดเคลื่อนกันเลย
สุริยุปราคาเตม็ ดวง
ลูกปัดของเบร่ี (Baily's Beads) เกิดข้นึ แหวนเพชร (Diamond Ring) เป็น
หลงั จากที่ดวงจันทรเ์ คลื่อนมาบงั ดวง ปรากฏการณท์ ี่เกดิ ขึน้ กอ่ น การบังกัน
อาทิตยเ์ กือบหมด หรือระหว่างทีก่ า้ ลงั บงั สนิท และกอ่ นจะออกจากคราส ซึ่งจะเกดิ
กนั สนทิ จะเกิดแสงสวา่ งบรเิ วณขอบของ แสงวาบจากดวงอาทิตยเ์ พียงช่วงเวลาสั้นๆ
ดวงจันทร์ คล้ายสร้อยลกู ปดั ซึง่ ได้ช่อื เท่านั้น ลกั ษณะคล้ายแหวน
จาก ฟรานซิส เบรี่ นกั ดาราศาสตรช์ าว
อังกฤษ ผู้ซึง่ อธิบายได้ถึงปรากฏการณ์
ดังกลา่ ว วา่ เกิดจากแสงของดวงอาทิตย์ที่
ยังลอดผา่ นช่องเขาทีอ่ ยตู่ ามบรเิ วณขอบ
ของดวงจนั ทร์
สุริยุปราคาแบบวงแหวน
สุริยปุ ราคาวงแหวน (Annular Solar Eclipse)
สรุ ิยปุ ราคาวงแหวน คอื ปรากฏการณท์ ี่ดวง
จันทรโ์ คจรรอบโลกเป็นวงรมี ากและขณะที่
เกิดนน้ั ดวงจนั ทรอ์ ยู่ไกลโลกมาก ท้าให้ไม่
สามารถบดบังดวงอาทิตย์ได้หมด เมือ่ มองไป
ยงั ดวงอาทิตย์ก็จะเหน็ มีเงาสีดา้ วงกลมอยู่
ตรงกลาง ในขณะที่บริเวณขอบของดวง
อาทิตยย์ ังสวา่ งจ้าเช่นเดมิ ยิ่งดวงจนั ทรอ์ ยู่
ไกลโลกมากเทา่ ใด วงแหวนก็จะมีขนาดใหญ่
ขึ้นเท่านั้น
สุริยุปราคาบางส่วน (Partial Solar Eclipse)
สรุ ิยุปราคาบางสว่ นคือการเกิดสรุ ิยปุ ราคาในขณะที่โลก ดวง
จนั ทรแ์ ละดวงอาทิตยไ์ ม่ไดอ้ ยใู่ นระนาบเดียวกนั ทา้ ให้ เรามองเหน็
เงาของดวงจันทรบ์ ดบงั ดวงอาทิตยเ์ พียงบางสว่ น เท่านนั้
สุริยุปราคาแบบผสม (Hybrid Solar Eclipse)
สรุ ิยปุ ราคาแบบผสมคอื เปน็ ปรากฏการณท์ ีเ่ กิดสุริยุปราคาแบบเตม็ ดวงและ
สรุ ิยุปราคาแบบวงแหวนในเวลาเดียวกนั อันเนอ่ื งมาจากดวงจนั ทร์อยใู่ นระยะ
ทีเ่ มื่อเรามองจากโลกมีขนาดเท่ากันหรือใกลเ้ คยี งกันมากกบั ดวงอาทิตย์ ทา้
ใหบ้ างต้าแหนง่ บนโลกมองเห็นเป็นแบบเต็มดวง ในขณะทีบ่ างแหง่ มองเหน็
แบบวงแหวน
สรุ ิยุปราคา เป็นปรากฏการณ์ ตามธรรมชาติ ทีด่ วงจันทร์ โลก และดวง
อาทิตย์ โคจรมาอย่ใู นแนวเส้นตรง ท้าให้ดวงจันทรบ์ งั ดวงอาทิตย์ และเงาของ
ดวงจันทร์จึงตกมาบน บรเิ วณ ตา่ งๆ บนโลก
สุริยปุ ราคาจะเกดิ ขึ้นไม่บ่อยนัก เพราะส่วนใหญด่ วงจันทร์มกั จะโคจรในระดบั
ทีส่ งู หรือต้่ากว่าแนวระดบั เดียวกัน ( แนวเสน้ ตรงเดียวกนั ) กับโลกและดวง
อาทิตย์ ดังน้นั สุริยุปราคาจะเกดิ ขึน้ ไดเ้ มื่อดวงจนั ทรโ์ คจรมาอยู่ในแนวเสน้ ตรง
ระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์ ( ตรงกับแรม 14 – 15 ค่า้ )
ผลกระทบ
การเกิดสุริยุปราคามีผลกระทบกอ่ ให้เกิดการเปลีย่ นแปลงของ
สิ่งแวดลอ้ มทางธรรมชาติ เนือ่ งจากการทีด่ วงอาทิตย์ค่อยๆ ลด
แสงลงเนื่องจากดวงจนั ทรบ์ ังแสงดวงอาทิตย์ ทา้ ใหส้ ัตว์ตา่ งๆพา
กนั กลับรังเพราะนึกว่าถึงเวลากลางคืนเหน็ ได้ชัดก็คือ นกชนิด
ตา่ งๆ จะบินกลับรัง ส่วนคนก็พากันตื่นเตน้ และเตรียมการเฝ้าดู
ในปจั จุบันความ ก้าวหน้าทางเทคโนโลยีท้าใหม้ นษุ ยม์ ีโอกาสเห็น
และได้ศึกษาการเกิดสุริยปุ ราคา และเกิดบริเวณใดของโลก
วิธีดู เมื่อเกิดสรุ ิยุปราคาไมค่ วรดดู ้วยตาเปล่า เพราะอาจทา้
ใหต้ าบอดหรือเปน็ โรคตาได้ ควรใช้อุปกรณ์เป็นแผน่ ฟิล์ม
ถา่ ยรปู ขาวดา้ ที่ใชแ้ ลว้ นา้ มาซอ้ นกนั 2 –3 แผน่ แลว้ ดผู า่ น
ฟิลม์ ถา่ ยรปู หรือใช้การมองผา่ นกระจกทีร่ มควันใหแ้ สงผ่านได้
น้อยทีส่ ุด
ฤดูกาล (เวลา) เกิดจากโลกโคจรรอบดวง
อาทิตยม์ ีลักษณะเปน็ วงรี ( เกือบกลม ) มี
ระยะหา่ งจากดวงอาทิตยไ์ มเ่ ทา่ กัน และโลก
หมนุ รอบตัวเอง โดยมีแกนหมุนของโลกเอียง
ประมาณ 23.5 องศา กับแกนการโคจรรอบดวง
อาทิตย์
ในอดีตคนโบราณ เชือ่ วา่ ดวงอาทิตย์โคจรรอบโลกไปตามขอบโค้งของ
ฟ้า เรียกว่า สุริยวถิ ี หรือ สุริยยาตร์ โดยจะหันซีกโลกด้านเหนือเข้าหาดวง
อาทิตยใ์ นวันที่ 22 มิถนุ ายน ถอื วา่ อยใู่ นฤดูร้อน หันซีกโลกดา้ นใต้เขา้ หาดวง
อาทิตย์ในวนั ที่ 22 ธนั วาคม ถอื วา่ อยูใ่ นฤดูหนาว และหนั ซีกโลกด้านข้างเข้าหา
ดวงอาทิตย์ ในวันที่ 21 มีนาคม และ 23 กันยายน ถอื วา่ อยู่ในฤดใู บไมผ้ ลิและ
ฤดใู บไม้รว่ งตามล้าดับ ในบรเิ วณเสน้ ศูนยส์ ตู รของโลก ฤดูกาลจะไม่แตกตา่ งกัน
มากนัก
โลกจะหมนุ รอบดวงอาทิตย์เป็นเวลา 365 วนั หรือ 1 ปีใน
ขณะเดียวกัน โลกจะหมนุ รอบตัวเองโดยกินเวลา 24 ช่ัวโมง จึงสง่ ผล
ใหด้ ้านที่โดนแสงจะเปน็ เวลากลางวนั สว่ นดา้ นที่ไม่โดนแสงจะเป็น
เวลากลางคืน เมือ่ โลกหมุนไปเรื่อย ด้านที่ไมโ่ ดนแสง หรือกลางคืน
จะคอ่ ยๆ หมุนเปลีย่ นมาจนกลายมาเป็นกลางวัน เราเรียก
ปรากฏการณ์นีว้ า่ กลางวัน และกลางคืน
ในทุกวันจะปรากฏมนี ้าขึน้
และน้าลงวันละ 2 ครง้ั น้าขึ้นและน้า
ลงเปน็ ผลมาจากแรงดึงดูดระหว่าง
โลกกบั ดวงจันทร์ เม่อื หมนุ ผา่ นไป
จดุ ใดของโลกก็จะทา้ ให้น้าบนผวิ โลก
ขึน้ พรอ้ มกนั 2 สว่ น คอื บรเิ วณที่อยู่
ตรงกบั ดวงจันทร์ และอีกสว่ นหนึง่
คอื บรเิ วณที่อยตู่ รงข้ามกับจุดที่มนี ้า
ขึ้น ในรอบ 1 ปี จะมีน้าขึน้ มากทีส่ ดุ
2 คร้ัง
นา้ ซึง่ เป็นของเหลว เมื่อถูกแรงดึงดดู จากดวงจนั ทร์ ในขณะทีด่ วงจนั ทร์โคจร
ผ่านบริเวณนั้น นา้ กจ็ ะสงู ขึน้ ไปในทิศทางเดียวกับที่ดวงจันทร์ปรากฏ และบนผวิ
โลกในด้านตรงขา้ มกับดวงจนั ทร์ น้าจะสงู ขึ้นด้วย เพราะอ้านาจดึงดดู ของดวง
จันทร์ กบั ของโลกไปรวมกนั ในทิศทางนนั้ และในต้าแหนง่ ทีค่ นเหน็ ดวงจันทร์ อยสู่ ดุ
ลบั ขอบฟา้ ตรงนัน้ น้าจะลดลงมากที่สุด จงึ เท่ากบั วา่ มีนา้ ขึ้น น้าลง สองแหง่ บนโลก
ในเวลาเดียวกนั นา้ จะขึน้ สงู เตม็ ที่ทุกๆ 12 ชว่ั โมง โดยประมาณ และหลังจากนา้ ขึน้
เต็มทีแ่ ลว้ ระดับน้าจะเริ่มลดลง ใชเ้ วลาประมาณ 6 ชวั่ โมง แต่เนือ่ งจากดวงจันทร์
หมุนรอบโลกจากตะวันตกไปตะวนั ออก หนึ่งรอบกินเวลาประมาณ 29 วัน น้าขึน้
และน้าลงจึงช้ากว่าวันก่อน ไปประมาณ 50 นาที หรือพดู อีกอย่างหนึ่งวา่ ในหนึง่ วนั
หรือ 24 ชว่ั โมง 50 นาที น้าจะสูงขึน้ และลดลง 2 ครง้ั
ความแตกตา่ งระหว่างระดับน้าสูงสดุ กบั ระดับนา้ ต้า่ สดุ แต่ละแหง่ บนโลกจะ
ไม่เท่ากนั โดยเฉลีย่ จะขึ้นหรือลงประมาณ 3-10 ฟุต ซึ่งสาเหตปุ ระการหนึง่ เกิดจาก
ต้าแหนง่ ของดวงจนั ทร์ และดวงอาทิตย์
นา้ ตาย (Neap tide) จะเกดิ ขึ้น
เดือนละ 2 คร้งั เช่นเดียวกบั น้า
เกิด คือใกลว้ ันข้นึ 8 ค้า่ และวนั
แรม 8 คา่้
น้าเกิด (spring tide) ซึ่งจะ
เกิดขึ้นเดือนละ 2 ครั้ง คอื ใกล้วนั
ขึ้น 15 ค้า่ และวันแรม 15 ค่า้