The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือการปลูกข้าวโพดฝักอ่อน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

คู่มือการปลูกข้าวโพดฝักอ่อน

คู่มือการปลูกข้าวโพดฝักอ่อน

Keywords: ข้าวโพด,ข้าวโพดฝักอ่อน,ข้าวโพดแปซิฟิค,แปซิฟิค321,แปซิฟิค571,แปซิฟิค322,แปซิฟิค271,แปซิฟิค

จัดท ำโดย บริษัท แปซิฟิคเมล็ดพันธุ์ จ ำกัด


ค่มูื อการปลูกข้าวโพดฝักอ่อน การปลูก ต้องปลูกเป็ นแถวเป็ นแนว มีวิธีปลูก 2 แบบคือ เกษตรกรต้องเลือกพันธุ์ที่สามารถให้ผลผลิตสูง ขอแนะน าพันธุ์ แปซิฟิค 322 , แปซิฟิค 571 , แปซิฟิค 271 และแปซิฟิค 321 เป็นพันธุ์ข้าวโพดฝักอ่อนลูกผสมที่ให้ผลผลิตสูงและมีคุณภาพฝักดีเหมาะกับทั้งโรงงาน และบรรจุฝักสด


การปลูก ปลูกเป็ นแถวคู่ ยกร่องสูง 30-40 เซนติเมตร ระยะระหว่างร่อง 100-120 เซนติเมตร ปลูกข้างร่อง 2 แถวต่อร่อง ระยะระหว่างหลุม 25-30 เซนติเมตร 2-3 ต้นต่อหลุม ไม่ควรปลูกเกิน 3 ต้นต่อหลุมเพราะจะ ท าให้ธาตุอาหารที่หลุมนั้นไม่พอ ต้นข้าวโพดจะแย่งธาตุอาหารและน ้ากันเองท าให้ได้ฝักที่ไม่สมบูรณ์ ปลูกแบบร่องสวน ปกติจะใช้ระยะ 50 x 50 เซนติเมตร หรือระยะปลูก 70 x 20 เซนติเมตร 2-3 ต้นต่อหลุมไม่ควรปลูกเกิน 3 ต้นต่อหลุมเพราะจะท าให้ธาตุอาหารที่หลุมนั้นไม่พอ ต้นข้าวโพดจะแย่ง ธาตุอาหารและน ้ากันเองท าให้ได้ฝักไม่สมบูรณ์ การใส่ป๋ยุ ควรใส่ปุ๋ ยรองพื้นสูตร 25-9-9, 16-16-8 หรือ 15-15-15 อัตรา 25 กิโลกรัมต่อไร่ ใส่พร้อมปลูกหรือ ในขณะเตรียมดิน และเมื่อข้าวโพดอายุ 20-25 วัน ใส่ปุ๋ ยยูเรีย (สูตร 46-0-0 ) อัตรา 20-25 กิโลกรัมต่อไร่ หมายเหตุควรใส่ปุ๋ ยสูตรเป็นปุ๋ ยรองพื้นเพราะจะท าให้ฝักสดมีคุณภาพดีขึ้นกว่าการใส่ปุ๋ ยยูเรียเพียงอย่าง เดียว การถอดยอด เมื่อข้าวโพดมีอายุประมาณ 41- 45 วัน ช่อดอกตัวผู้จะเริ่มโผล่ออกมาจากใบยอด(ใบธง)ให้ดึงช่อดอกตัวผู้ทิ้ง โดยดึงออกมาตรงๆ การถอดดอกเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการผสมเกสร ควรถอดดอกให้หมดจริงๆ เพราะถ้ามี ดอกเหลืออยู่เพียง 2-3 ต้น ก็จะมีเกสรข้าวโพดเป็นล้านเม็ดที่จะฟุ้งกระจายไปผสมกับไหม ท าให้ฝักข้าวโพด เป็นตุ่มเวลาเก็บเกี่ยว ซึ่งท าให้ข้าวโพดไม่ได้มาตรฐานตามที่ตลาดต้องการ จะเป็นฝักเสียขายไม่ได้ การถอดดอกเป็นเทคนิคส าคัญที่เกษตรกรไม่ควรละเลย เพราะจะท าให้ข้าวโพดได้มาตรฐานตามที่ตลาด ต้องการ ** ในกรณีทเี่กษตรกรใช้พันธุข์ ้าวโพดฝักอ่อนทดี่อกตัวผู้เป็ นหมัน (ไม่มีเกสร) ก็ไม่จ าเป็ นต้องถอดดอก เป็ นการประหยัดแรงงาน ถอดดอกลงไดอ้ีกทางหนึ่ง**


การให้น ้า ควรให้น ้าอย่างสม ่าเสมอเพื่อให้การพัฒนาฝักเป็นไปได้อย่างสมบูรณ์ แต่ระมัดระวังอย่าให้แฉะ จนเกินไปจะท าให้ข้าวโพดชะงักการเจริญเติบโต หากข้าวโพดขาดน ้าจะส่งผลกระทบถึงผลผลิต ขนาดฝัก อ่อนและคุณภาพของฝัก โดยเฉพาะฝักที่มีรูปร่างผิดปกติ จะเกิดขึ้นมากถ้าขาดน ้าในช่วงติดฝักอ่อน การให้น ้าในฤดูแล้ง ขณะที่ข้าวโพดยังเล็กควรให้น ้าทุก 2-3 วัน เมื่อต้นสูงประมาณ 50-60 เซนติเมตร หรือสูงประมาณหัวเข่า ให้น ้าทุก 5-7 วัน ต่อจากนั้นให้น ้าเมื่อดินในแปลงเริ่มแห้ง การเก็บเกี่ยว ควรเก็บเกี่ยวฝักแรกที่ไหมยาวไม่เกิน 8-10 เซนติเมตร เพราะถ้าเรารอเก็บที่ไหมยาวกว่านี้ เราจะได้ฝัก ขนาดใหญ่ที่ไม่ได้มาตรฐาน นอกจากนี้ยังท าให้ฝักที่ 2 และ 3 ออกช้าและไม่สมบูรณ์ เนื่องจากอาหารที่ต้น ข้าวโพดสร้างขึ้นจะสะสมในฝักแรกมากเกินไป ฝักที่ 2 และ 3 จึงได้อาหารน้อยท าให้มีการพัฒนาช้าและไม่ สมบูรณ์ การใส่ป๋ยุคอก ควรมีการใส่ปุ๋ ยคอก ได้แก่ปุ๋ ยขี้ไก่หรือปุ๋ ยขี้วัว ลงในแปลงปลูกอย่างสม ่าเสมออย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง อัตรา 500-1,000 กิโลกรัมต่อไร่ เพื่อเป็นการคืนอินทรีย์วัตถุลงไปในดิน ชดเชยต้นข้าวโพดที่ตัดไปขายหลัง เก็บเกี่ยว หรือถ้าไม่ตัดต้นข้าวโพดไปขาย ควรไถกลบต้นข้าวโพดลงดินเพื่อคืนอินทรีย์วัตถุให้กับดิน ท าให้ ดินมีสภาพที่ดีเหมาะกับการปลูกข้าวโพดฝักอ่อนได้ตลอดไป ถ้าเกษตรกรมีการปลูกและปฏิบัติดูแลได้ถูกต้องก็สามารถคาดการณ์ได้ว่าผลผลิตที่ได้จะต้องสูงขึ้น กว่าเดิม ถึงแม้ราคาข้าวโพดฝักอ่อนจะไม่ขยับขึ้นแต่ก็ยังสามารถมีรายได้ที่สูงขึ้นเนื่องจากได้ผลผลิตสูงขึ้น กว่าเดิมนั่นเอง


ผลพลอยได้จากปลูกขา้วโพดฝักอ่อน นอกจากจะได้ฝักอ่อนที่ใช้บริโภคแล้ว ข้าวโพดฝักอ่อนยังให้ผลพลอยได้ เช่น ต้นและใบ 4,800 กิโลกรัมต่อไร่ เปลือกและไหม 890 กิโลกรัมต่อไร่ รวมทั้งช่อดอกตัวผู้อีก 500 กิโลกรัมต่อไร่ ซึ่งผลพลอยได้ เหล่านี้สามารถใช้เลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะโคเนื้อและโคนมได้เป็นอย่างดี เพราะส่วนต่าง ๆ ของต้นข้าวโพดฝัก อ่อนมีคุณค่าทางอาหารสูง โดยเฉพาะโปรตีนที่เป็นประโยชน์ตั้งแต่ 6.4-13.8 เปอร์เซ็นต์ และมีเยื่อใยสูงถึง 28-30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งช่วยให้โคเจริญเติบโตได้ดีกว่าการกินหญ้า หรือฟางข้าว จึงท าให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโค นิยมน าผลพลอยได้จากข้าวโพดฝักอ่อนเหล่านี้ มาใช้เลี้ยงโคทดแทนหญ้ากันมากขึ้น ท าให้เกษตรกรผู้ปลูก ข้าวโพดฝักอ่อน สามารถขายผลพลอยได้เหล่านี้เป็นรายได้เสริมอีกทางหนึ่ง เช่น ต้นข้าวโพดฝักอ่อนจะขาย ได้ไร่ละประมาณ 400-1,000 บาท ตามแต่ฤดูกาล และเขตพื้นที่ ปัจจุบันมีเกษตรกรจ านวนมากหันมาปลูกข้าวโพดฝักอ่อน ควบคู่ไปกับการเลี้ยงโค โดยมีรายได้จาก การขายฝักข้าวโพด และขายน ้านมโค หรือตัวโค โดยที่ไม่ต้องปลูกหญ้า แต่กิจกรรมการปลูกข้าวโพดฝักอ่อน และการเลี้ยงโค ต่างก็ต้องใช้แรงงานมากเป็นพิเศษ ดังนั้นเกษตรกรควรรวมกลุ่มกันผลิตข้าวโพดฝักอ่อน โดยหมุนเวียนระยะ เวลาปลูกทุก 7 วัน เพื่อให้มีต้นข้าวโพดเลี้ยงโคของสมาชิกได้ตลอดทั้งปี วัชพืชที่ส าคัญและการป้องกันก าจัด ชนิดของวชัพืช 1. วัชพืชฤดูเดียว เป็นวัชพืชที่ครบวงจรชีวิตภายในฤดูเดียว ส่วนมาขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด · ประเภทใบแคบ เช่น หญ้าตีนกา หญ้านกสีชมพู หญ้าตีนนก หญ้าปากควาย หญ้าขจรจบดอกใหญ่ หญ้าขจรจบดอกเล็ก หญ้าโขย่ง และหญ้าดอกขาว เป็นต้น · ประเภทใบกว้าง เช่น ผักเบี้ยหิน ผักเบี้ยใหญ่ ผักบุ้งยาง เทียนนา กะเม็ง และผักโขม เป็นต้น · ประเภทกก เช่น กกทราย 2. วัชพืชข้ามปี เป็นวัชพืชที่ส่วนมากขยายพันธุ์ด้วยต้น ราก เหง้า หัวและไหล ได้ดีกว่าขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด · ประเภทใบแคบ เช่น หญ้าแพรก หญ้าขจรจบดอกเหลือง และหญ้าชันกาด เป็นต้น · ประเภทใบกว้าง เช่น สาบเสือ และเถาตอเชือก · ประเภทกก เช่น แห้วหมู


การป้องกันก าจัด ไถ 1 ครั้ง ตากดิน 7-10 วัน พรวนดิน แล้วคราดเก็บเศษซาก ราก เหง้า หัว และไหล ของวัชพืชข้าม ปี ออกจากแปลง ก าจัดวัชพืชระหว่างแถวปลูกด้วยแรงงาน หรือเครื่องจักรกล เมื่อข้าวโพดฝักอ่อนอายุประมาณ 20 วัน ก่อนใส่ปุ๋ ย ในกรณีก าจัดวัชพืชด้วยแรงงาน หรือเครื่องจักรกลไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ควรพ่นสารก าจัด วัชพืช ตามค าแนะน าในตาราง


ตัวอย่างวัชพืช การค านวณพื้นที่การปลูกข้าวโพด พื้นที่ปลูกข้าวโพดฝักอ่อนต่อสัปดาห์ = น ้าหนักอาหารหยาบที่โคต้องการต่อวัน(กก.)xจ านวนโคx7 ปริมาณต้นข้าวโพดต่อไร่ (กก.) ตัวอย่าง เช่น ถ้ามีสมาชิก 10 ราย แต่ละรายเลี้ยงโคจ านวน 10 ตัว รวมมีโคทั้งหมด 100 ตัว โดยโคแต่ละ ตัวต้องการอาหารหยาบประมาณ 16 กิโลกรัมต่อวัน และมีปริมาณต้นข้าวโพด 2,400 กิโลกรัมต่อไร่ พื้นที่ปลูกข้าวโพดฝักอ่อนต่อสัปดาห์ = 16 x 100 x 7 = 4.7 ไร่ 2,400 ใน 1 ปี มี 52 สัปดาห์ ดังนั้นสมาชิกกลุ่มทั้ง 10 คน จะต้องปลูกข้าวโพดปีละ = 52 10 = 5.2 ครั้ง โดยสรปุเกษตรกรแต่ละรายจะปลูกขา้วโพดฝักอ่อนครงั้ละ5 ไร่ ปีละ5 ครงั้ หญ้าตีนกา หญ้านกสีชมพู เทียนนา ผักโขม หญ้าขจรจบดอก เล็ก หญ้าปากควาย หญ้าขจรจบดอก กกทราย หญ้าดอกขาว หญ้าขจรจบดอก ใหญ่ สาบเสือ แห้วหมู ผักเบี้ยหิน ผักเบี้ยใหญ่ ผักบุ้งยาง


ช่องทำงติดต่อ ไลน์ออฟฟศิเชี่ยล เฟสบุ๊ก แฟนเพจ 063-0836339


Click to View FlipBook Version