The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ปลา ป๋อง., 2023-01-29 07:12:34

นาฏศิลป์สมัยรัตนโกสินทร์ในรัชกาลที่ 3

F5A6F90B-4D0D-4959-A673-93F48D13CBF8

นาฏศิศิล ศิ ล ศิป์ป์ไป์ป์ทย รัรัช รั ช รักาลที่ที่ ที่ที่3 สมั มัยกรุรุง รุ ง รุ รัรัต รั ต รั นโกสิสิน สิ น สิ ทร์ร์ ร์ร์ พระบาทสมเด็ด็จ ด็ จ ด็ พระนั่นั่ง นั่ ง นั่ เกล้ล้า ล้ า ล้ เจ้จ้า จ้ า จ้อยู่ยู่หัยู่หัยู่ ว


คำ นำ หนังนัสือสืเล่มล่นี้เ นี้ป็น ป็ ส่วส่นหนึ่ง นึ่ ของวิชวิาศิลศิ ปะ 5 รหัสหัวิ ชาศ33101 ชั้น ชั้ มัธมัยมศึก ศึ ษาปีที่ปี 6ที่ โดยมีจุมีด จุ ประสงค์เค์พื่อ พื่ ศึก ศึ ษาความรู้ที่รู้ไที่ ด้ จากเรื่อ รื่ งนาฏศิลศิ ป์ไป์ทยสมัยมักรุง รุ รัตรันโกสินสิทร์ รัชรักาลที่ 3 ซึ่ง ซึ่ หนังนัสือสืเล่มล่ นี้มี นี้ เมีนื้อ นื้ หาเกี่ย กี่ วกับกัความรู้นรู้าฏศิลศิ ป์ไป์ทยในสมัยมัรัชรักาลที่ 3 ผู้จัผู้ดจัทำ ได้เด้ลือลืกหัวหัข้อข้นี้ในี้ นการทำ รายงาน เนื่อ นื่ งมาจากเป็น ป็ เรื่อ รื่ งที่น่ ที่ าน่สนใจและ ต้อต้งขอขอบคุณ คุ คุณ คุ ครู ณัฐณัดนัยนัหมั่น มั่ เที่ย ที่ ง ผู้ใผู้ห้ ความรู้แรู้ละแนวทางการศึก ศึ ษา เพื่อ พื่ น ๆ ทุก ทุ คนที่ใที่ ห้ ความช่วช่ยเหลือลืมา โดยตลอดผู้จัผู้ดจัทำ หวังวัว่าว่รายงานฉบับบันี้จ นี้ ะให้คห้วามรู้ และเป็น ป็ ประโยชน์ แก่ผู้ก่อ่ผู้าอ่นทุก ทุ ๆ ท่าท่น คณะผู้จัด จั ทำ


สารบัญ รัชรักาลที่ 3 ละครของพระเจ้าจ้บรมวงศ์เศ์ธอ พระองค์เค์จ้าจ้พนมวันวักรมพระพิพิพิธพิโภคภูเ ภู บนทร์ ละครของพระเจ้าจ้บรมวงศ์เศ์ธอ พระองค์เค์จ้าจ้ไกรสร กรมหลวงรักรัษ์รษ์ณเรศ ละครของพระเจ้าจ้บรมวงศ์เศ์ธอ พระองค์เค์จ้าจ้กุญกุ ชร กรมพระพิทัพิกทัษ์เษ์ทเวศร์ ละครของพระเข้าข้บรมวงศ์เศ์ธอ พระองค์เค์จ้าจ้ทรนกรกรมหลวงภูว ภู เนตรนรินริทรฤทธิ์ ละครของเจ้าจ้พระยาบดินดิทรเดชา ละครของเจ้าจ้จอมมารดาอัมอัพา ละครกรับรั 4 5 6 7 8 9 10 11 ละครของพระเจ้าจ้บรมวงศ์เศ์ธอ พระองค์เค์จ้าจ้ลักลัขณาคุณ 12


พระบาทสมเด็ก ด็ พระนั่งเกล้า ล้ เจ้า จ้ อยู่หัยู่ หั ว (รัช รั กาลที่3) สมัยมันี้พ นี้ ระองค์ ให้ยห้กเลิกลิละครหลวง พระบรมวงศานุวนุงศ์ จึงจึพากันกั ฝึกฝึหัดหั โขนละคร คณะละครที่มี ที่ มี แบบแผนในเชิงชิ ฝึกฝึหัดหัและแสดง ทางโขน ละครถือถืเป็นป็แบบแผนในการปฏิบัฏิติบัสืติบสืต่อต่มา ถึงถึ ปัจจุบัจุนบั ได้แด้ก่ 1.ละครของพระเจ้าจ้บรมวงศ์เศ์ธอ พระองค์เค์จ้าจ้ลักลัขณาคุณคุ 2.ละครของพระเจ้าจ้บรมวงศ์เศ์ธอ พระองค์เค์จ้าจ้พนมวันวักรมพระพิพิพิธพิโภคภูเภูบนทร์ 3.ละครของพระเจ้าจ้บรมวงศ์เศ์ธอ พระองค์เค์จ้าจ้ไกรสร กรมหลวงรักรัษ์รษ์ณเรศ 4.ละครของพระเจ้าจ้บรมวงศ์เศ์ธอ พระองค์เค์จ้าจ้กุญกุชร กรมพระพิทัพิกทัษ์เษ์ทเวศร์ 5.ละครของพระเข้าข้บรมวงศ์เศ์ธอพระองค์เค์จ้าจ้ทรนกรกรมหลวงภูวภูเนตรนรินริทรฤทธิ์ 6.ละครของเจ้าจ้พระยาบดินดิทรเดชา 7.ละครของเจ้าจ้จอมมารดาอัมอัพา 8.ละครเจ้าจ้กรับรั


ละครของพระเจ้จ้า จ้ า จ้ บรมวงศ์ศ์ ศ์ เ ศ์ เธอ พระองค์ค์ ค์ เ ค์ เจ้จ้า จ้ า จ้ลัลัก ลั ก ลั ขณาคุคุ คุ ณ คุ ณ พระเจ้าจ้บรมวงศ์เศ์ธอ พระองค์เค์จ้าจ้ลักลัขณานุคุนุณคุมีพมีระนามเดิมดิว่าว่ “พระเจ้าจ้ลูกลูยาเธอ พระองค์ เจ้าจ้สังสัข์”ข์เป็นป็พระราชโอรสพระองค์ที่ค์ ที่8 ใน พระบาทสมเด็จด็พระนั่ง นั่ เกล้าล้เจ้าจ้อยู่หัยู่ วหั ประสูติสูแติต่เต่จ้าจ้ จอมมารดาบาง เมื่อ มื่ วันวัพุธพุเดือดืนยี่ แรม 4 ค่ำ ปีวปีอกจัตจัวาศก จุลจุศักศัราช 1174 ตรงกับกัวันวัที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2355 (ปฏิทิฏินทิสากลคือคืพ.ศ. 2356) มีพมีระโสทรเชษฐภคินีคิพนีระองค์เค์ดียดีว คือคื พระเจ้าจ้บรมวงศ์เศ์ธอ กรมหมื่น มื่ อัปอัสรสุดสุาเทพ ละครพระองค์เค์จ้าจ้ลักลัขณานุคุนุณคุเล่าล่กันกัว่าว่เดิมดิได้โด้ขนข้าหลวงเดิมดิพระบาทสมเด็จด็ฯ พระนั่ง นั่ เกล้าล้เจ้าจ้อยู่หัยู่ วหั ไปทรงเล่นล่ โขนตามประเพณีเณีก่าก่อยู่ก่ยู่ อก่น ภายหลังลัจึงจึโปรดให้นห้ายเกษ พระรามโขน ข้าข้หลวง เดิมดิเป็นป็ครูหัรูดหัละครขึ้น ขึ้ โรง ๑ เพราะฉะนั้น นั้ นายเกษพระรามจึงจึได้เด้ป็นป็ครูครูรอบโขนละคร เมื่อ มื่ รัชรักาลที่ ๔


พระเจ้าจ้บรมวงศ์เศ์ธอ กรมพระพิพิพิธพิโภคภูเภูบนทร (8 ตุลตุาคม พ.ศ. 2337 – 27 เมษายนพ.ศ. 2399) มีพมีระนามเดิมดิว่าว่พระองค์เค์จ้าจ้พนมวันวั ประสูติสูเติมื่อ มื่ วันวัพุธพุเดือดืน 11 ขึ้น 14 ค่ำ ปีขปีาล ฉศก จุลจุศักศัราช 1156 ตรงกับกัวันวัที่ 8 ตุลตุาคม พ.ศ. 2337 เป็นป็พระราชโอรสใน พระบาทสมเด็จด็ พระพุทพุธเลิศลิหล้าล้นภาลัยลั ประสูติสูแติต่ เจ้าจ้จอมมารดาศิลศิา (สกุลกุเดิมดิณ บางช้าช้ง; มารดาชื่อ ชื่ ฟักทอง ราชินิชิกุนิลกุณ บางช้าช้ง; ตาชื่อ ชื่ ขุนขุสนิทนิภิรภิมย์ ซึ่ง ซึ่ เป็นป็บุตบุรของเจ้าจ้มุกมุส่วส่นยายชื่อ ชื่ เชียชีง บุตบุรีขรีองเจ้าจ้แทนและเจ้าจ้มุกมุโดยเจ้าจ้แทนมีศัมีกศัดิ์เดิ์ป็นป็พระชนกทอง หรือรืพระชนกใน สมเด็จด็พระอม รินริทราบรมราชินีชินี) กรมพระพิพิพิธพิฯ นั้น นั้ โปรดดนตรีปี่รีพ ปี่ าทย์แย์ละการละครเป็นป็อย่าย่งมาก โดยทรงมีทั้มีง ทั้ วงปี่พ ปี่ าทย์ และละครนอก ในช่วช่งรัชรักาลที่ 2 และ ละครใน ในช่วช่งรัชรักาลที่ 3 ในพระนิพนินธ์เธ์รื่อ รื่ ง "ตำ นาน ละคร" ของ สมเด็จด็พระเจ้าจ้บรมวงศ์เศ์ธอ กรมพระยาดำ รงราชานุภนุาพ กล่าล่วว่าว่ฯ กรมพระ พิพิพิธพิฯ ทรงมีวมีงปี่พ ปี่ าทย์ผู้ย์ชผู้ายวงหนึ่ง นึ่ ซึ่ง ซึ่ เป็นป็ ปี่พ ปี่ าทย์เย์ครื่อ รื่ งใหญ่สำญ่สำหรับรัทำ รับรัเสภา คือคื ประกอบ การเล่นล่เสภาโดยเป็นป็พระราชนิยนิมใน พระบาทสมเด็จด็พระพุทพุธเลิศลิหล้าล้นภาลัยลัรัชรักาลที่ 2 และ ในสมัยมัรัชรักาลที่ 3 แม้ลม้ะครของหลวงไม่มีม่ มีแต่ก็ต่มีก็ลมีะคร อย่าย่งละครหลวงของเจ้าจ้นาย และขุนนาง ใหญ่โญ่ตถึงถึ 11 และ โรง 1 ใน 11 คือคืละครฯ โรงของ กรมพระพิพิพิธพิโภคภูเภูบนทร์ ซึ่ง ซึ่ ว่าว่กันกัว่าว่ กระบวนรำ สวยงามดีกดีว่าว่ โรงอื่น อื่ ๆ ทั้ง ทั้ นั้น นั้ ละครของพระเจ้จ้า จ้ า จ้ บรมวงศ์ศ์ ศ์ เ ศ์ เธอ พระองค์ค์ ค์ เ ค์ เจ้จ้า จ้ า จ้ พนมวัวัน วั น วั กรมพระพิพิพิพิพิพิ ธพิพิโภคภูภูเ ภู เ ภู บนทร์ร์ ร์ร์


ละครของพระเจ้จ้า จ้ า จ้ บรมวงศ์ศ์ ศ์ เ ศ์ เธอ พระองค์ค์ ค์ เ ค์ เจ้จ้า จ้ า จ้ไกรสร กรมหลวงรัรัก รั ก รั ษ์ษ์ ษ์ รษ์ รณเรศ ตัวตัละครจริงริ ในประวัติวัศติาสตร์ที่ร์นำ ที่ นำมาอิงอิกับกัภาพยนตร์บุร์พบุเพสันสันิวนิาส๒เปิดปิเผยชื่อ ชื่ กันกัจะๆ ยกเว้นว้ตัวตัละคร "เสด็จด็ ในกรมฯ" ที่ห ที่ ลายคนอยากรู้ และพากันกัถามไถ่ว่ถ่าว่เป็นป็ ใคร มีตัมีวตัตนไหม !? แม้ว่ม้าว่จะมีข้มีอข้ความระบุว่บุาว่หนังนั ได้แด้รงบันบัดาลใจจากเกร็ดร็ ประวัติวัศติาสตร์แร์ละเป็นป็เรื่อ รื่ งสมมติ ก็ตก็าม แน่นน่อนว่าว่ “เสด็จด็ ในกรมฯ” มีตัมีวตัตนจริงริอุปอุนิสันิยสัของตัวตัละครนี้ "เก่งก่กล้าล้ ใจนักนัเลง เปิดปิเผย และตรงไปตรงมา" และมีวัมีงวัที่อ ที่ ยู่ใยู่ กล้กัล้บกั โรงละครนอก ซึ่ง ซึ่ ใช้ “ชายล้วล้น” นำ แสดง เค้าค้โครงนี้ เมื่อ มื่ พิจพิารณา บุคบุคลในประวัติวัศติาสตร์สร์มัยมัรัชรักาลที่ 3 มีเมีค้าค้ว่าว่น่าน่จะเป็นป็การดึงดึเอาเกร็ดร็ “บาง ส่วส่น” ของ "หม่อม่มไกรสร" มาเป็นป็แรงบันบัดาลใจ หลังลัรอบสื่อ สื่ มวลชน มีกมีารถามว่าว่ตัวตัละครผู้นี้คื นี้ อคืใครกันกั ! อาจจะเป็นป็เพราะว่าว่นักนัแสดง อย่าย่ง “นน - ชานน สันสัตินติธรกุลกุ” หล่อล่ขาว สะอาด ถูกถูใจผู้ชผู้ ม แม้ว่ม้าว่จะวาจาก้าก้วร้าร้ว ดุดัดุนดัตาม บทบาทก็ตก็าม ในหนังนัเป็นป็เจ้าจ้ของโรงละคร จึงจึมี “เศียศีรครู”รูวางรายเรียรีงเป็นป็ฉากหลังลั ! และเจ้าจ้ นายซึ่ง ซึ่ มีโมีรงละครในรัชรักาลที่ 3 ก็คืก็อคื “หม่อม่มไกรสร”ท่าท่นนี้


โรงละครปรีดรีาลัยลัของพระเจ้าจ้บรมวงศ์เศ์ธอ กรมพระนราธิปธิ ประพันพัธ์พธ์งศ์ โรงมหรสพแห่งห่แรกในสยาม โรงละครปรีดรีาลัยลั ได้ถืด้อถืกำ เนิดนิ ขึ้นในรัชรัสมัยมัพระบาทสมเด็จด็พระจุลจุจอมเกล้าล้เจ้าจ้อยู่หัยู่ วหัเป็นป็ โรงละครแบบตะวันวัตกที่โที่ อ่อ่อ่าอ่และ ทันทัสมัยมัที่สุ ที่ ดสุในยุคยุนั้น นั้ ตั้ง ตั้ ขึ้นในบริเริวณวังวัวรวรรณ อยู่ด้ยู่ าด้นทิศทิเหนือนืของสะพานช้าช้งข้าข้งโรงสี อันอัเป็นป็ที่ปที่ ระทับทัของพระเจ้าจ้บรม วงศ์เศ์ธอ กรมพระนราธิปธิ ประพันพัธ์พธ์งศ์ สร้าร้งตามแบบอย่าย่งโรงละครหรือรืโอเปร่าร่ของตะวันวัตก มีกมีารแบ่งบ่ที่นั่ ที่ ง นั่ เป็นป็ส่วส่น ๆ ตรง กลางเป็นป็ที่นั่ ที่ ง นั่ ของเจ้าจ้นาย ชนชั้น ชั้ สูงสูผู้มีผู้ บมีรรดาศักศัดิ์ ด้าด้นข้าข้งเป็นป็ที่นั่ ที่ ง นั่ สำ หรับรัผู้ติผู้ ดติตาม บุคบุคลทั่ว ทั่ ไป มีบมีาร์ขร์ายเครื่อ รื่ งดื่ม ดื่ และอาหาร ว่าว่ง จัดจัแสดงเฉพาะวันวัเสาร์แร์ละวันวัอาทิตทิย์ พระเจ้าจ้บรมวงศ์เศ์ธอ กรมพระนราธิปธิ ประพันพัธ์พธ์งศ์ (พระองค์เค์จ้าจ้วรวรรณากร) เป็นป็พระราชโอรสในรัชรักาลที่ ๔ ประสูติสูแติต่ เจ้าจ้จอมมารดาเขียน ณวันวัที่ ๒๐ พฤศจิกจิายน พ.ศ. ๒๔๐๔ ทรงเป็นป็ต้นต้ราชสกุลกุวรวรรณ ทรงเริ่มริ่รับรัราชการครั้ง รั้ แรกในหอ รัษรัฎากรพิพัพิฒพัน์ ตำ แหน่งน่พนักนังานการเงินงิแผ่นผ่ดินดิต่อต่มาทรงดำ รงตำ แหน่งน่รองอธิบธิดีกดีรมพระคลังลัมหาสมบัติบั ติและ พ.ศ. ๒๔๓๓ ทรงดำ รงตำ แหน่งน่รองเสนาบดีกดีระทรวงพระคลังลัมหาสมบัติบั ติยังยัทรงเป็นป็สภานายกของหอพระสมุดมุวชิรชิญาณอีกอีด้วด้ย พระเจ้าจ้ บรมวงศ์เศ์ธอ กรมพระนราธิปธิ ประพันพัธ์พธ์งศ์ เจ้าจ้นายผู้ทผู้ รงสนใจศิลศิ ปะการละคร ได้รัด้บรัการปลูกลูฝังจากเจ้าจ้จอมมารดาเขียขีน พระมารดา ตั้ง ตั้ แต่ยัต่งยัทรงพระเยาว์ พระองค์ไค์ด้ทด้รงนิพนินธ์บธ์ทละครร้อร้งมากมายนับนัร้อร้ยเรื่อ รื่ ง ทรงพัฒพันาปรับรั ปรุงรุจากการแสดง ละครไทยผสมรวมกับกัการแสดงแบบตะวันวัตก กลายเป็นป็ละครร้อร้งรูปรูแบบหนึ่ง นึ่ เกิดกิขึ้น ขึ้ เรียรีกว่าว่ละครปรีดรีาลัยลัซึ่ง ซึ่ ผู้แผู้สดงเป็นป็ผู้ หญิงญิล้วล้น ๆ เป็นป็ละครร้อร้งเพลงไทย มีบมีทเป็นป็พื้น พื้ ใช้เช้จรจาแทรกตามเนื้อ นื้ เรื่อ รื่ ง ซึ่ง ซึ่ รัชรักาลที่ ๕ ก็เก็คยเสด็จด็พระราชดำ เนินนิมาทอด พระเนตรละครเป็นป็การส่วส่นพระองค์หค์ลายครั้ง รั้ และยังยั โปรดฯ ให้เห้ล่นล่ละครเพื่อ พื่ ต้อต้นรับรัราชทูตทูชาวตะวันวัตก ณ พระราชวังวัดุสิดุตสิอีกอี ด้วด้ย โรงละครแห่งห่นี้จึ นี้ งจึเป็นป็ โรงมหรสพของชาววังวัและ ชนชั้น ชั้ สูงสูที่มี ที่ ชื่มีอ ชื่ เสียสีงในสมัยมันั้น นั้ เมื่อ มื่ ราว พ.ศ. ๒๔๕๔ พระองค์ไค์ด้หด้ยิบยิยก ตำ นานรักรัของไทยเรื่อ รื่ ง อำ แดงนาก มาทรงนิพนินธ์เธ์ป็นป็บทละครร้อร้งชื่อ ชื่ เรื่อ รื่ งว่าว่อีนอีากพระโขนง ละครร้อร้งเรื่อ รื่ งนี้นั นี้ บนัเป็นป็ละครร้อร้ง เรื่อ รื่ งแรกที่ไที่ ด้แด้สดงในโรงละครปรีดรีาลัยลัและได้กด้ลายเป็นป็นิยนิายรักรัสยองขวัญวัสุดสุคลาสสิคสิที่ถู ที่ กถูนำ มาสร้าร้งในรูปรูแบบภาพยนตร์ ละครโทรทัศทัน์ และละครเวทีใทีนยุคยุสมัยมัต่อต่มาโรงละครปรีดรีาลัยลั ได้กด้ลับลัมาเฟื่อ ฟื่ งฟูอีกอียุคยุหนึ่ง นึ่ ภายใต้กต้ารดูแดูลของพระนางเธอ ลักลัษมีลมีาวัณวัพระธิดธิาได้ทด้รงฟื้น ฟื้ ฟูการละครฯ ของพระบิดบิาอีกอีครั้ง รั้ ได้ปด้รับรัเปลี่ย ลี่ นการแสดงโดยใช้นัช้กนัแสดงชายจริงริหญิงญิแท้ และวงดนตรีสรีากลเข้ามา และทรงนิพนินธ์บธ์ทละครบางเรื่อ รื่ งขึ้น ขึ้ ด้วด้ย จนกระทั่ง ทั่ พระนางเธอลักลัษมีลมีาวัณวัเสด็จด็ ไปประทับทัณ ทวีปวี ยุโยุรป ละครปรีดรีาลัยลัจึงจึได้ปิด้ดปิตัวตัลงเมื่อ มื่ ราว พ.ศ. ๒๔๗๐ เมื่อ มื่ พระเจ้าจ้บรมวงศ์เศ์ธอ กรมพระนราธิปธิ ประพันพัธ์พธ์งศ์ สิ้นสิ้พระชนม์ใม์น สมัยมัรัชรักาลที่ ๗ วังวัวรวรรณตกอยู่ใยู่ นความดูแดูลของสำ นักนังานทรัพรัย์สิย์นสิส่วส่นพระมหากษัตษัริย์ริย์ต่อต่มาขุนขุแพร่นร่ครนฤเบศร์ (เหรียรีญ ตะละภัฏภั ) ได้ขด้อเช่าช่วังวัแห่งห่นี้จ นี้ ากสำ นักนังานทรัพรัย์สิย์นสิฯ จัดจัตั้ง ตั้ เป็นป็ โรงเรียรีนตะละภัฏภัศึกศึษา จนกระทั่ง ทั่ โรงเรียรีนแห่งห่นี้ไนี้ ด้ปิด้ดปิ กิจกิการลงใน พ.ศ. ๒๕๓๘ ปัจจุบัจุนบัอาคารส่วส่นหนึ่ง นึ่ ใช้เช้ป็นป็สำ นักนังานสมหมาย ตะละภัฏภัทนายความ ของนายกัลกัลวัตวัร ตะละภัฏภั ประธานชมรมแพร่งร่นรา อาคารแห่งห่นี้ค นี้ รั้ง รั้ หนึ่ง นึ่ ได้เด้คยเป็นป็ โรงละครปรีดรีาลัยลัแหล่งล่บันบัเทิงทิที่นิ ที่ ยนิมสูงสูสุดสุของชาววังวัตลอดจนบุคบุคล ภายนอก อีกอีหนึ่ง นึ่ สถาปัตยกรรมอันอัทรงคุณคุค่าค่ที่ใที่ ห้เห้ราได้ชด้มความงดงามจนมาถึงถึทุกทุวันวันี้ ละครของพระเจ้จ้า จ้ า จ้ บรมวงศ์ศ์ ศ์ เ ศ์ เธอ พระองค์ค์ ค์ เ ค์ เจ้จ้า จ้ า จ้กุกุญกุกุ ชร กรมพระพิพิทัพิทัพิทั กทั กษ์ษ์ ษ์ เ ษ์ เทเวศร์ร์ ร์ร์


บทละครนอกเรื่อ รื่ ง แก้วก้หน้าน้ม้าม้เป็นป็ละครนอกแบบหลวงเรื่อ รื่ งหนึ่ง นึ่ ของคณะละครกรมหลวงภูวภูเนต รนรินริทรฤทธิ์มีธิ์โมีครงเรื่อ รื่ งที่แ ที่ ปลกโดดเดน่ เป็นป็ที่นิ ที่ ยนิม บทความนี้ไนี้ ด้ศึด้กศึษารวบรวมการสืบสืทอดการแสดง เรื่อ รื่ งแก้วก้หน้าน้ม้าม้ตอนถวายลูกลูมาจนถึงถึ ปัจจุบัจุนบั บทละครนอกเรื่อ รื่ ง แก้วก้หน้าน้ม้าม้พระนิพนินธ์ ในพระเจ้าจ้บรมวงศ์เศ์ธอ กรมหลวงภูวภูเนตรนรินริทรฤทธิ์ มี วัตวัถุปถุระสงค์ 2 ประการ คือคื 1. เพื่อ พื่ ศึกศึษาสถานภาพเอกภรรยา ชนชั้น ชั้ ไพร่ที่ร่เ ที่ หนือนืกว่าว่ภรรยาจ้าจ้วคน อื่น อื่ ๆ ของนางแก้วก้หน้าน้ม้าม้และ 2. เพื่อ พื่ ศึกศึษาลักลัษณะของนางแก้วก้หน้าน้ม้าม้ที่คู่ ที่ คคู่ วร ได้รัด้บรัการยกย่อย่งเป็นป็ เอกภรรยา ผลการศึกศึษาพบว่าว่สามีแมีละครอบครัวรัของสามีรัมีกรัและยกย่อย่งนางแก้วก้หน้าน้ม้าม้มากกว่าว่ ภรรยาจ้าจ้วคนอื่น อื่ ๆ อีกอีทั้ง ทั้ การมีอำมีอำนาจเหนือนือนุภนุรรยา แสดงให้เห้ห็นห็สถานภาพของนางแก้วก้หน้าน้ม้าม้เป็นป็ เอกภรรยา ชน ชั้น ชั้ ไพร่ที่ร่เ ที่ หนือนืกว่าว่ภรรยาชนชั้น ชั้ จ้าจ้ว นางแก้วก้หน้าน้ม้าม้มีลัมีกลัษณะที่คู่ ที่ คคู่ วรได้รัด้บรัการยกย่อย่ง ให้เห้ป็นป็เอกภรรยา คือคื 1) มีรูมี ปรูโฉมงดงามกว่าว่ภรรยาคนอื่น อื่ ๆ ของสามี 2) รักรัและซื่อ ซื่ สัตสัย์ต่ย์อต่สามี 3) ปรนนิบันิติบัดูติแดูลสามีแมีละให้กำห้กำเนิดนิบุตบุรชายเพื่อ พื่ สืบสืเชื้อ ชื้ สายได้ 4) ดูแดูลตนเองได้แด้ละเป็นป็ผู้ช่วช่ยเหลือลืสามี และ 5) ให้คห้วามเมตตาต่อต่ภรรยาคนอื่น อื่ ๆ ของสามีแมีละบริวริาร บทละครนอกเรื่อ รื่ งแก้วก้หน้าน้ม้าม้พระ นิพนินธ์ใธ์นพระเจ้าจ้บรมวงศ์เศ์ธอ กรมหลวงภูวภูเนตรนรินริทรฤทธิ์ แสดงถึงถึการเรียรีกร้อร้ง ความเท่าท่เทียทีม ของชนชั้น ชั้ ในสังสัคมไทยสมัยมัรัตรันโกสินสิทร์ การสะท้อท้นปัญหาครอบครัวรัและทางออกที่เ ที่ กิดกิจากผู้ชผู้ายมี ภรรยาหลายคน และความคาดหวังวัต่อต่ผู้หผู้ญิงญิ ในการเป็นป็ภรรยาที่ดี ที่ ขดีองสังสัคมไทย ละครของพระเข้ข้ ข้ าข้ าบรมวงศ์ศ์ ศ์ เ ศ์ เธอ พระองค์ค์ ค์ค์ เจ้า จ้ ทรนกรกรมหลวงภูว ภู เนตรนรินริทรฤทธิ์ เจ้า จ้ ทรนกรกรมหลวงภูว ภู เนตรนรินริทรฤทธิ์


ละครของเจ้จ้า จ้ า จ้ พระยาบดิดินดิดิทรเดชา ละครเจ้าจ้พระยาบดินดิทรเดชาเป็นป็ละครผู้หญิงญิ โรง ๑ เล่าล่กันกัว่าว่เดิมดิหัดหั โขนให้เห้ล่นล่เป็นป็ละคร ผู้ชผู้าย แล้วล้จึงจึหัดหัละครผู้หผู้ญิงญิขึ้น ขึ้ ครั้น รั้ เมื่อ มื่ ไปขัดขัตาทัพทัอยู่ที่ยู่ เ ที่ มือมืงอุดอุงค์มีค์ชัมียชัพาละครผู้หผู้ญิงญิ ไป ด้วด้ย จึงจึไปเป็นป็ครูหัรูดหัละครผู้หผู้ญิงญิของสมเด็จด็พระหริรัริกรัษ์ (นักนัพระองค์ด้ค์วด้ง) เจ้าจ้กรุงรุกัมกัพูชพูา ขึ้น ขึ้ อีกอีโรง ๑ ด้วด้ยละครที่มี ที่ ใมีนกรุงรุกัมกัพูชพูานั้น นั้ แรกมีขึ้มีน ขึ้ เมื่อ มื่ ครั้ง รั้ นักนัพระองค์จัค์นจัเป็นป็สมเด็จด็พระ อุทัอุยทัราชาเจ้าจ้กรุงรุกัมกัพูชพูาได้คด้รูอรูอกไปจากกรุงรุเทพฯ เมื่อ มื่ รัชรักาลที่ ๑ เป็นป็ละครนอกสมเด็จด็ พระหริรัริกรัษ์ มาหัดหัละครในไปจากเจ้าจ้พระยาบดินดิทรเดชา จึงจึได้มีด้ลมีะครที่ใที่ นกรุงรุกัมกัพูชพูาแต่นั้ต่น นั้


เจ้าจ้จอมมารดาอัมอัพาได้รัด้บรัการเลี้ย ลี้ งดูอดูย่าย่งกุลกุสตรีจีรีนจีและถูกถูมัดมัเท้าท้เล็กล็ตามธรรมเนียนีม จนอายุไยุด้ 8 ขวบบิดบิาจึงจึนำ มาอำ รุงรุเลี้ย ลี้ งต่อต่ ในไทย จึงจึแก้มัก้ดมัเท้าท้ดังดักล่าล่วออกเสียสีและอบรมอย่าย่งกุลกุสตรีไรีทยสืบสื มา[2] เมื่อ มื่ อยู่ใยู่ นไทยได้เด้พียพีงปีเปีดียดีว บิดบิาก็ถก็วายตัวตั ไปเป็นป็นางละครรุ่นรุ่ เล็กล็ของรัชรักาลที่ 1 ด้วด้ยมีคมีวาม สามารถในการแสดงละครไทยได้อด้ย่าย่งงดงามและมีชื่มีอ ชื่ เสียสีงโดยเฉพาะบทนางกาญจหนาในวรรณคดี เรื่อ รื่ งอิเอิหนา จึงจึได้รัด้บรัการแต่งต่ตั้ง ตั้ ให้เห้ป็นป็ครูลรูะครและมีโมีรงละครเป็นป็ของตนเองในเวลาต่อต่มา[2] จากการ มีชื่มีอ ชื่ เสียสีงประกอบกับกัความงามดังดักล่าล่วสมเด็จด็เจ้าจ้ฟ้าฟ้กรมหลวงอิศอิรสุนสุทร (ต่อต่มาคือคืพระบาทสมเด็จด็ พระพุทพุธเลิศลิหล้าล้นภาลัยลั ) จึงจึทรงมีจิมีตจิ ปฏิพัฏิทพัธ์แธ์ละมีคมีวามสัมสัพันพัธ์กัธ์นกั ในเวลาต่อต่มา และให้ปห้ระสูติสูกติาล พระราชบุตบุร 6 พระองค์ ทั้ง ทั้ นี้เ นี้ จ้าจ้จอมมารดาอัมอัพายังยัเป็นป็สตรีที่รีเ ที่ จ้าจ้ระเบียบีบ แต่งต่กายเป็นป็นางในตลอดชีพชีคือคืนุ่งนุ่ สไบตามสีขสีองวันวั แม้จม้ะมีฐมีานะเป็นป็เจ้าจ้จอมมารดาของกษัตษัริย์ริไย์ทยแต่เต่จ้าจ้จอมมารดาอัมอัพาก็ไก็ม่เม่คยลืมลืกำ พืดพืของตน เมื่อ มื่ มี ญาติมติาเฝ้าฝ้ในวังวัท่าท่นก็จก็ะเจรจาโต้ตต้อบด้วด้ยภาษาจีนจีเสมอ ซ้ำ ยังยัสอนภาษาจีนจีแก่เก่หล่าล่นางในด้วด้ยกันกัอีกอี ด้วด้ย[2] ในช่วช่งที่ส ที่ มเด็จด็เจ้าจ้ฟ้าฟ้มงกุฏกุออกผนวช เจ้าจ้จอมมารดาอัมอัพาก็ทำก็ทำเครื่อ รื่ งเสวยส่งส่จากวังวัทั้ง ทั้ เช้าช้ และเพล จนพระภิกภิษุเษุจ้าจ้ฟ้าฟ้มงกุฏกุทรงซาบซึ้ง ซึ้ นักนัหลังลัสืบสืราชสมบัติบัเติป็นป็รัชรักาลที่ 4 แล้วล้ก็ทก็รงตรัสรัเรียรีก ท่าท่นว่าว่ "แม่พม่า" อยู่เยู่ สมอถือถืเป็นป็การให้เห้กียกีรติอติย่าย่งสูงสู [2] ทั้ง ทั้ นี้เ นี้ จ้าจ้จอมมารดาอัมอัพามักมัทูลทูเกล้าล้ถวายเงินงิ อยู่เยู่ สมอ และปรารภว่าว่ "ในหลวงแผ่นผ่ดินดินี้ท่ นี้ าท่นยากจน ทรงผนวชมาแต่ทต่รงพระเยาว์ และลาผนวชมา เสวยราชสมบัติบั ติไม่มีม่เมีวลาสะสมราชทรัพรัย์ เงินงิแผ่นผ่ดินดินั้น นั้ ต้อต้งทรงใช้จ่ช้าจ่ยในราชการแผ่นผ่ดินดิจะใช้สช้อย ส่วส่นพระองค์อัค์ตอัคัดคั " พระบาทสมเด็จด็พระจอมเกล้าล้เจ้าจ้อยู่หัยู่ วหัก็ทก็รงรับรัเงินงิดังดักล่าล่วไว้ด้ว้วด้ยความเต็มต็ พระทัยทั ละครของเจ้จ้า จ้ า จ้จอมมารดาอัอัม อั ม อั พา


ละครเจ้จ้า จ้ า จ้กรัรับ รั บ รั ท่าท่นเจ้าจ้กรับรัเกิดกิเมื่อ มื่ พ.ศ. ๒๓๔๙ ตรงกับกั ปีขปีาล ในรัชรัสมัยมัของพระบาทสมเด็จด็พระพุทพุธยอดจุฬจุาโลก รัชรักาลที่ ๑ ที่ชุ ที่ มชุชนหลังลัวัดวัระฆังฆั โฆสิตสิาราม จังจัหวัดวัธนบุรีบุรีเป็นป็บุตบุรนายถินถิและนางกุ เจ้าจ้กรับรัเป็นป็เจ้าจ้โรงละ นอกซึ้ง ซึ้ มีชื่มีอ ชื่ เสียสีงโด่งด่ดังดั ในสมัยมัรัชรักาลที่ ๓-๔ และเดิมดิมีชื่มีอ ชื่ เรียรีกว่าว่ “กลับลั ” ชีวชี ประวัติวัขติองเจ้าจ้กลับลัมีเมีล่าล่ ไว้ว่ว้าว่ เมื่อ มื่ นางกุตั้กุง ตั้ ครรภ์ จวนจะครบกำ หนดคลอด นางกุพกุร้อร้มด้วด้ยลูกลูชายคนโตไปขายขนมทางเรือรืด้วด้ยกันกัขณะ พายเรือรืไปตามริมริแม่น้ำม่น้ำเจ้าจ้พระยาเรือรืพายที่นั่ ที่ ง นั่ มาร่มร่ลูกลูชายจมน้ำ เสียสีชีวิชีตวิบริเริวณหน้าน้วัดวัระฆังฆั โฆสิตสิา ราม นางกุเกุศร้าร้โศกเสียสีใจเป็นป็อย่าย่งมาก จนกระทั่ง ทั่ วันวัหนึ่ง นึ่ นางกุ ได้พด้ายเรือรืไปขายขนมตามปกติ ได้พด้บกับกั หญิงญิชาวมอญคนหนึ่ง นึ่ ซึ่ง ซึ่ มีชื่มีอ ชื่ เสียสีงในด้าด้นเวทย์มย์นต์คต์าถา จอดเรือรือยู่ นางกุจึกุงจึได้เด้ล่าล่ความทุกทุข์จข์ากการ สูญสูเสียสีบุตบุรคนโตให้หห้ญิงญิชาวมอญฟัง จนในที่สุ ที่ ดสุหญิงญิชาวมอญคนนั้น นั้ เกิดกิความสงสาร จึงจึรับรัอาสาทำ พิธีพิธี เพื่อ พื่ ขอให้บุห้ตบุรชายของนางกุที่กุเ ที่ สียสีชีวิชีตวิไปกลับลัคืนคืชาติมติาเกิดกิใหม่ เมื่อ มื่ นางกุตั้กุง ตั้ ครรภ์แภ์ละคลอดบุตบุรออกมาเป็นป็ ชาย จึงจึตั้ง ตั้ ชื่อ ชื่ ว่าว่ “กลับลั ” หมายถึงถึบุคบุคลผู้ตผู้ กน้ำ แล้วล้ก ลับลัชาติมติาเกิดกิใหม่ เมื่อ มื่ นายกลับลั โตขึ้น ขึ้ ได้ฝึด้กฝึละครกับกั คณะละครของครูทรูองอยู่ ซึ่ง ซึ่ เป็นป็คณะละครนอกอันอัลือลื ชื่อ ชื่ ในสมัยมันั้น นั้ โดยได้เด้ล่นล่เป็นป็ตัวตัเอกในเรื่อ รื่ งอีเอีหนา ต่อต่ มาได้ย้ด้าย้ยไปเล่นล่กับกัคณะครูบุรู ญบุยังยัซึ่ง ซึ่ เป็นป็ละครนอกที่ มีชื่มีอ ชื่ เช่นช่กันกัเมื่อ มื่ ครูบุรู ญบุยังยัเสียสีชีวิชีตวิผู้แผู้สดงละครเริ่มริ่ แยกวง ไปคนละทิศทิละทาง เจ้าจ้กรับรัจึงจึพยายาม รวบรวมตัวตัละครขึ้น ขึ้ มาใหม่ และตั้ง ตั้ เป็นป็คณะละครนอก ของตัวตัเองโดยหน้าน้ที่เ ที่ ป็นป็ทั้ง ทั้ หัวหัหน้าน้และผู้แผู้สดงนำ หรือรืนายโรง เจ้าจ้กรับรั ได้ย้ด้าย้ยไปตั้ง ตั้ บ้าบ้นเรือรืนที่บ ที่ ริเริวณ ย่าย่นบางบำ หรุ พร้อร้มกับกั ได้สด้รรหาผู้แผู้สดงหน้าน้ใหม่มม่า ฝึกฝึเพิ่มพิ่เติมติจนเป็นป็คณะละครนอกโรงใหญ่ขึ้ญ่น ขึ้ มาโดย พยายามรักรัษารูปรูแบบและ มาตรฐานการแสดงละครแบบเดิมดิของครูทั้รูง ทั้ สองเอาไว้ คณะละครนอกของเจ้าจ้กรับรัแสดงได้ดีด้ ดีมีชื่มีอ ชื่ เสียสีงจน เป็นป็ที่ย ที่ อมรับรัของคนในย่าย่นบางบำ หรุ และคนนอกพื้น พื้ ที่อ ที่ ย่าย่งเช่นช่ท่าท่นสุนสุทรภู่กภู่ วีเวีอกของไทยะ


Click to View FlipBook Version