The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

กระบี่กระบอง (1)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by rungkan653, 2022-04-03 08:58:31

กระบี่กระบอง (1)

กระบี่กระบอง (1)

กระบี่กระบอง

จัดทำโดย
นางสาวรุ่งกานต์ บุญศิริ
นายเกียรติเพชร ทองเพชร

นายยิพยธ์ สุวาท

คำนำ

วิชากระบี่กระบองเป็นรายวิชาที่คนรุ่นใหม่ควรให้ความ

สำคัญและควรอนุรักษ์ไว้เพราะเป็นวัฒนธรรมศิลปะการต่อสู้ที่

กรง คุณค่าของประเทศไทยที่จะหาดูได้ยากซึ่งปัจจุบันกระบี่

กระบองได้ กลายเป็นศิลปการกีฬาประจำชาติของไทย และจะ

หมดสิ้นไปหากคน รุ่นหลังไม่เห็นถึงความสำคัญและประโยชน์

รายวิชากระบี่กระบอง ปลูกฝังศิลปะการต่อสู้ให้แก่ผู้เรียนเพื่อที่

จะสามารถนำไปประยุกต์ ใช้และสามารถนำไปป้องกันตั๋วโดยพื้น

ฐานหากเกิดอันตราย หนังสือเล่มนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา

กระบี่กระบอง ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อมุ่งใช้เป็นเอกสารประกอบการ

เรียนการสอนใน รายวิชาของพลศึกษาคณะผู้จัดทำได้รวบรวม

ประวัติความเป็นมา และท่ารำต่างๆซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้

ศึกษาเป็นอย่างมาก คณะผู้จัดทำหวังว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็น

ประโยชน์ต่อผู้ ศึกษาและนำไปต่อยอดให้เกิดประสิทธิผลในการ

ดำเนินชีวิตประจำ วันไม่มากก็น้อยต่อผู้ศึกษาในนื้อหาของ

หนังสือกี่คณะผู้จัดกำได้ สร้างขึ้น

คณะผู้จัดทำ นักศึกษาคณะครูศาสตร์ สาขาวิชาพลศึกษาชั้นปีที่3

มหาวิกยาลับราชภัฏแครสวรรค์

สาระบัญ 1
2
ป ร ะ วั ติ ป ร ะ บี่ ก ร ะ บ อ ง 3
4
ป ร ะ โ ย ช น์ กี ฬ า ก ร ะ บี่ ก ร ะ บ อ ง 5
6
อุ ป ก ร ณ์ ร ะ บี่ - ก ร ะ บ อ ง แ ล ะ ก า ร ดู แ ล 7
รั ก ษ า
ก า ร ถ ว า ย บั ง ค ม

ก า ร ขึ้ น พ ร ห ม นั้ ง

ก า ร ขึ้ น พ ร ห ม ยื น
ไ ม้ รำ 1 - 1 2

ประวัติ

ประวัติกระบี่กระบอง ของไทย
สมัยก่อน การรบแต่ละครั้ง มนุษย์จะยกพวกเข้าตะลุมบอนกัน อาวุธที่ใช้จึงเป็นพวกที่ ใช้ในระยะใกล้ประชิดตัว ของไทยเราก็รู้จัก
ใช้กระบี่กระบองเป็นอาวุธ และในยามบ้านเมือง
สงบก็ใช้การตีกระบี่กระบองเป็นการกีฬาเพื่อออกกําลังและฝึกฝนความแข็งแกร่ง เพื่อเตรียม พร้อมเสมอที่จะรับศึกกระบี่กระบอง
เป็นกีฬาที่เหมาะที่สุดในการซ้อมรบ เพราะคล้ายกับการ รบจําลอง วัสดุก็หาง่าย คือ เอาหวายมาทําเป็นกระบี่ ดาบ ง้าว ฯลฯ เอา
หนังหรือหวายมา ทําเป็นโล่ห์ เขน ดั้ง ฯลฯ แล้วก็มาตีกันเล่น หรือแข่งขันกันเป็นคู่ ๆ ดุจจะสู้รบกันในสนามรบ ตัวต่อตัว เป็นการ
ฝึกหัดรุกและรับไปในตัว ฝ่ายใดพลาดท่าเสียทีก็เจ็บตัว เพราะผู้เล่นมิได้ สวมเกราะป้องกันตัว จึงเป็นกีฬาที่ฝึกกายและใจอย่างดี
เลิศ ในการฝึกนี้จะยึดหลัก 3 ประการ คือ

1.อบรมจิตใจให้กล้าหาญอยู่เสมอ ไม่ครั่นคร้ามต่อภยันตรายทั้งปวง
2.บํารุงกายบํารุงใจให้แข็งแกร่งมั่นคงอยู่เสมอ พร้อมที่จะเผชิญต่อความยากลําบาก อันเกี่ยวกับการรบได้ทุกเมื่อ
3. อบรมและฝึกฝนตนให้แม่นยําชํานาญในวิทยาการอันเกี่ยวกับการรบโดยเฉพาะ
การเล่นกระบี่กระบองในสมัยรัชกาลนี้ เล่นกันแพร่หลายมากทั้งในงานโกนจุก งานบวชนาค งานทอดกฐินทาน งานทอดผ้าป่า
ฯลฯ
ครั้งถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) ถึงแม้ว่าพระองค์จะทรงสนพระทัย ในวิชานาฏศิลป์ และทรงเข้า
พระทัยในศิลปของวิชากระบี่กระบองก็ตาม แต่ก็ไม่ทรงโปรดปราน มากเท่ากับพระราชบิดาของพระองค์ดังนั้น ความนิยมในการ
เล่นกระบี่กระบองจึงเริ่มลดลง แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีการจัดกีฬาชนิดนี้ขึ้นถวายเพื่อให้ทอดพระเนตรบ้างเป็นครั้งคราว เช่น ในปี
พุทธศักราช 2460 กับ 2462 กระทรวงศึกษาธิการได้จัดการแสดงกระบี่กระบองขึ้นถวายทอดพระเนตร ที่สนามหน้าสามัคยาจาร
ยสมาคม เนื่องในงานกรีฑาประจําปี
ครั้นมาในสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) กระบี่กระบองค่อย ๆ หมดไป ๆ จนเกือบจะหาดูไม่ค่อย
ได้ นับวัน แต่จะสูญสิ้นไปทุกที
อนึ่ง นับแต่ประเทศไทยได้เปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบเก่ามาเป็นระบอบ ประชาธิปไตยเมื่อปี 2475 รัฐบาลได้พยายาม
ฟื้นฟูประเพณีโดยจัดให้มีงานฉลองวันขึ้นปีใหม่ อย่างครึกครื้น กระบี่กระบองก็ได้ถูกฟื้นฟูขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง โดยได้จัดให้มีการ
แสดงกระบี่กระบอง ขึ้นที่สนามหลวงเป็นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2482 ปรากฏว่าประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก จนกระทั่ง ปี
2484 ได้มุ่งฟื้นฟูกีฬาประเภทนี้อย่างแท้จริง ปรากฏว่ามีจํานวนคณะกระบี่กระบอง เพิ่มขึ้นมาก
วิชากระบี่กระบอง ได้ถูกนำมาทดลองสอน นักเรียนพลศึกษากลาง ขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2478 โดยขณะนั้น อาจารย์ นาค
เทพหัสดิน ณ อยุธยา ผู้มีความสนใจและมีความรู้ทางด้านนี้มากคนหนึ่ง เป็นอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนพลศึกษากลาง ได้ทดลอง
สอนอยู่ 1 ปี ได้ผลเป็นที่พึงพอใจของท่านผู้ใหญ่ จึงได้กําหนดวิชากระบี่กระบองเข้าไว้ในหลักสูตรของประโยคผู้สอนพลศึกษา เมื่อ
ปี 2479 พวกนักเรียนที่จบไปก็ได้รับราชการเป็นครูสอนวิชาพลศึกษาตามจังหวัดต่าง ๆ ได้นําวิชานี้ไปเผยแพร่ ปรากฏว่า
ประชาชนคนไทยได้ให้ความสนใจในวิชาศิลปของชาติชนิดนี้มาก

ประโยชน์

1. สามารถใช้ต่อสู้และป้องกันตัวในยามคับขันได้
2. ช่วยสร้างเสริมสมรรถภาพทางร่างกาย
3.ช่วยเสริมสร้างคุณลักษณะทางด้านจิตใจ เช่น ความกล้าหาญ

ความอดทน ความไม่ขลาดกลัวต่ออันตราย และรู้จักช่วยเหลือ
ตนเอง
4. เป็นการเสริมสร้างความรู้สึกภาคภูมิใจในศิลปการต่อสู้ป้องกัน
ตัวประจำชาติ
5. เป็นการรักษาไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของไทย
6. เป็นการฝึกนิสัยและฝึกจิตใจให้เป็นคนดีมีศีลธรรม

อุ ป ก ร ณ์ ก ร ะ บี่ ก ร ะ บ อ ง แ ล ะ วิ ธี ก า ร รัก ษ า

เครื่องกระบี่กระบอง
เครื่องกระบี่กระบอง มีอยู่ 2 ชนิด คือ เครื่องไม้รำ กับเครื่องไม้ตี โดยทั้ง 2 ชนิดนี้เป็นอาวุธจำลอง


ส่วนมากทำมาจากหวาย มีความเหนียวและเบามือ เครื่องไม้รำนั้นลงรักปิดทองประดับกระจกอย่าง

สวยงาม ส่วนเครื่องไม้ตีไม่ได้ตกแต่งอะไร

- กระบี่ เครื่อง ไม้รำทำด้วยหวายหรือเอ็นสัตว์ถักเป็นปลอก สวมแกนโลหะที่ยาวตลอดลงไปถึงด้าม

ด้วย ตอนปลายเป็นหวายหรือเอ็นถึกคล้ายหางกระเบน มักจะลงรักให้แข็ง บางทีทาสีแดงตลอด ด้ามมี

โกร่งกันมือ ส่วนเครื่องไม้ตีนั้นทำอย่างเดียวกันแต่ไม่ตกแต่งอะไร

- กระบองหรือพลอง เครื่องไม้รำทำด้วยหวายหรือไม้จริงลงรักปิดทอง เขียนลายรดน้ำหรือทาสีแดง

ตลอด ไม่มีโลหะประกอบอยู่ด้วยเลย บางทีก็ประดับกระจกอย่างกระบองของเจ้าเงาะในละครรำ ส่วน

อุ ป ก ร ณ์ ก ร ะ บี่ ก ร ะ บ อ ง แ ล ะ วิ ธี ก า ร รัก ษ า

- ดาบ เช่นเดียวกับกระบี่ แต่ไม่มีโกร่งกันมือ เครื่องไม้รำทำสวยงามมากดูคล้ายมีฝักอยู่ด้วย ส่วน

เครื่องไม้ตีทำด้วยหวายเพื่อให้สามารถตีได้ไม่หัก การใช้ดาบนั้น มีทั้งดาบเดี่ยว ดาบคู่ ดาบกับดั้ง ดาบกับ

เขน ดาบกับโล่ แล้วแต่จะกำหนด

- ง้าว เครื่องไม้รำประดิษฐ์ตกแต่งสวยงามมาก ทำด้วยไม้จริง มีลักษณะใกล้เคียงกับง้าวของจริง

มาก ส่วนเครื่องไม้ตีทำด้วยหวาย ไม่มีการตกแต่งอย่างใด

อุ ป ก ร ณ์ ก ร ะ บี่ ก ร ะ บ อ ง แ ล ะ วิ ธี ก า ร รัก ษ า

- ดั้ง เป็นเครื่องป้องกันอาวุธชนิดหนึ่ง นิยมเล่นคู่กับดาบ ซึ่งใช้สำหรับป้องกันอาวุธ

ของศัตรูเป็นรูปสี่เหลี่ยมยาว ๆ โค้ง ๆ คล้ายกาบกล้วย กว้างประมาณ 15 เซนติเมตร

ยาวประมาณ 100 เซนติเมตร ทำด้วยหนังหรือหวายหรือไม้ปะปนกัน

- โล่ เป็นเครื่องป้องกันอาวุธเช่นเดียวกับดั้งหรือเขนนิยมนำมาเล่นคู่กับดาบ แตกต่างกัน

ที่รูปร่างเท่านั้น คือ เป็นรูปวงกลม นูนตรงกลางทำด้วยหนังดิบ หวายสาน หรือโลหะ

- ไม้ศอกหรือไม่สั้น นับ ว่าเป็นเครื่องกระบี่กระบองชนิดหนึ่ง มีรูปร่างลักษณะคล้าย

กระดูกท่อนแขน เป็นท้อนไม้รูปสี่เหลี่ยมยาวประมาณ 45 เซนติเมตร กว้างและสูง

ประมาณ 7 เซนติเมตร

อุ ป ก ร ณ์ ก ร ะ บี่ ก ร ะ บ อ ง แ ล ะ วิ ธี ก า ร รัก ษ า

การดูแลรักษาอุปกรณ์เครื่องกระบี่กระบอง
เครื่องกระบี่กระบอง ควรได้รับการดูแลรักษาให้มีสภาพคงทนใช้การได้

ตลอดเวลา สะอาด เครื่องอุปกรณ์หรืออาวุธที่เป็นโลหะไม่ให้เป็นสนิม อยู่ในที่ที่มีความ

ปลอดภัย จัดวางหรือตั้งไว้เป็นหมวดหมู่และมีระบบระเบียบ สวยงาม จึงขอแนะนำการ

เก็บรักษาอุปกรณ์ ดังนี้
1. เมื่อใช้เสร็จ ควรทำความสะอาดทุกครั้งก่อนเก็บเข้าที่
2. เก็บในที่ที่เหมาะสมซึ่งจัดทำไว้สำหรับเก็บอาวุธแต่ละชนิด อาวุธที่สวยงาม
ควรเก็บในตู้กระจก
3. ใช้ความระมัดระวังในการหยิบวาง หรือการใช้อาวุธนั้นๆ
4. อาวุธที่เป็นโลหะ ควรชะโลมน้ำมันก่อนเก็บเพื่อป้องกันการเป็นสนิม
5. ควรทำที่เก็บโดยเฉพาะเช่น ถุงผ้า หนัง เพื่อป้องกันการถลอก รอยขูดขีด
6. ไม่ควรใช้กระบี่ค้ำยันเพื่อรับน้ำหนักตัวผู้แสดง

ก า ร ถ ว า ย บั ง ค ม

การถวายบังคม
เป็นการเคารพครูบาอาจารย์กระบี่กระบอง ซึ่งถือว่าเป็นวัฒนธรรม


ประเพณีมีความสำคัญเป็นพิเศษ เพราะถือว่า การเคารพครูเป็นสิริมงคล และ

ทำให้ปลอดภัยจากการเล่นหรือการแสดงในครั้งนั้น ๆ ด้วย

ขั้นตอนที่ 1 นั่งคุกเข่า ให้เข่าห่างกันประมาณ 1 ช่วงไหล่ นั่งบนส้นเท้า ตัว

ตรง แขนอยู่ข้างลำตัววาง กระบี่ไว้ข้างซ้ายมือ โกร่งกระบี่อยู่ระดับ เข่าปลาย

กระบี่ชี้ไปข้างหลัง

ขั้นตอนที่ 2 พนมมือไว้ระหว่างอก

ขั้นตอนที่ 3 ยกมือขึ้นไหว้ ก้มศีรษะลง ให้นิ้วหัวแม่มือแตะระหว่างคิ้ว

ขั้นตอนที่ 4 ก้มตัวลดมือลง จีบมือทั้งสองข้างแล้ววาดออกคล้ายเขียน

วงกลม

ก า ร ถ ว า ย บั ง ค ม

ขั้นตอนที่ 5 มือทั้งสองบรรจบกัน พนมมือ
ขั้นตอนที่ 6 ดึงมือเข้าหาลำตัวระดับอก ก้มศีรษะ
ขั้นตอนที่ 7 ค่อย ๆเหยียดมือทั้งสองไปข้างหน้ าโดยแยกฝ่ามือออกหันฝ่ามือลง

สู่พื้นให้นิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือทั้งสองข้างชิดกัน
ขั้นตอนที่ 8 ยกมือขึ้นพร้อมกับเหยียดตัวเงยหน้ า ให้นิ้วหัวแม่มือมาจดระหว่า

คิ้ว
ขั้นตอนที่ 9 กลับมาสู่ท่าเริ่มโดยเหยียดแขนขึ้นและวาดลงเข้าสู่การพนมมือ

ระดับอกเหมือนเดิม และเริ่มถวายบังคมในครั้งที่สองต่อไป

ทำครบสามจบให้อยู่ในท่าพนมมือที่หน้ าอก เป็นการเสร็จสิ้นการ ถวาย

บังคม

ที่มา : https://sites.google.com/site/kruvirat/krabi-krabxng?

tmpl=%2Fsystem%2Fapp%2Ftemplates%2Fprint%2F&showPrintDialog=1

ก า ร ถ ว า ย บั ง ค ม

ก า ร ขึ้ น พ ร ห ม นั้ ง

การขึ้นพรหมนั่ง
• พรหมนั่งให้นั่งหันขวาเข้าหาคู่นั่งพรหมยืน
• กระบี่วางด้านข้างกายทางซ้าย
• ประณมมือ ถวายบังคม 3 ครั้ง
• ประณมมือวันทา แล้วหยิบกระบี่

• ยกกระบี่ข้ามศีรษะจัดอยู่ระดับเอวขวาศอกแนบชิดลำตัว
เป็นมุมฉาก เข้าขวาตั้งมือซ้ายจีบอก

• เปลี่ยนเข่า ตั้งเข่าซ้าย โล้ตัวไปข้างหน้ า รำหน้ า

ก า ร ขึ้ น พ ร ห ม นั้ ง

• หมุน 180 องศา กลับทางขวา กระบี่อยู่ที่เอวซ้ายรำข้าง เปลี่ยนเข่า ตั้ง

เข่าซ้ายพร้อมวาดกระบี่ออกนั่งคุมรำ

• โล้ตัวไปด้านหน้ า รำหน้ า หันทางขวา 90 องศา กระบี่อยู่ที่เอว

ซ้าย รำข้าง เปลี่ยนเข่า ตั้งเข่าซ้าย นุ่งคุมรำ

ก า ร ขึ้ น พ ร ห ม นั้ ง

• โล้ตัวไปด้านหน้ า ลุกขึ้นยืน ลากเท้าชิดขวาเท้าซ้าย ยกเท้าซ้าย รำหน้ า

วางเท้าหมุน 180 องศาทางขวา กระบี่อยู่ที่เอวซ้าย รำข้างระดับคิ้ว ลาก

เท้าซ้ายชิดเท้าขวา ยกเท้าขวา พร้อมวาดกระบี่ออกทางขวา วางเท้าอยู่

ในท่ายืนคุมรำ (จะหันหน้ าเข้าหาคู่ ต่อสู้)

ที่มา : http://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=1799

ก า ร ขึ้ น พ ร ห ม นั้ ง

ก า ร ขึ้ น พ ร ห ม ยื น

การขึ้นพรหมยืน
• พรหมยืน ให้หันหน้ าเข้าหาคู่พรหมนั่ง วางกระบี่ปลายชี้ไป


ข้างหน้ าห่างกึ่งกลางเข่าทั้งสองพอประมาณ
• ประณมมือ ถวายบังคม 3 ครั้ง
• ประณมมือ วันทา แล้วหยิบกระบี่ทัดหูเฉียง 45 องศา ตั้ง


เข่าซ้าย

• จ้วงกระบี่ด้านหน้ า ลุกขึ้นยืนหันทางขวา 90 องศา หงายมือโกร่งอยู่

ด้านบนกระบี่ เฉียง 45 องศารำข้างเสมอคิ้ว

ก า ร ขึ้ น พ ร ห ม ยื น

• ก้าวเท้าซ้ายไปข้างหน้ า เปลี่ยนกระบี่ทัดหู ลากเท้าขวาไปข้างหน้ า

เปลี่ยนหงายกระบี่เฉียง 45 องศา ลากเท้าซ้ายชิดเท้า ขวา ยกเข่าขวา รำ

ข้างเสมอคิ้ว วางเท้าขวา หมุน 180 องศา บิดตัวทางซ้าย

• ยืนในท่าทัดหู ลากเท้าขวาชิดเท้าซ้ายยกเข่าซ้ายจ้วงกระบี่พร้อมก้าว

เท้าขวาหงายกระบี่ 45 องศา ลากเท้าซ้ายชิดเท้าขวา ยกเท้าขวารำข้าง

เสมอคิ้ว วางเท้าขวามาทางด้านขวา หันหน้ าไปทางซ้ายมือ 90 องศา


ท่าทัดหู

ก า ร ขึ้ น พ ร ห ม ยื น

• ยืนในท่าทัดหู ลากเท้าขวาชิดเท้าซ้าย ยกเข่าซ้าย จ้วงกระบี่ พร้อม

วางเท้าซ้าย แล้วก้าวเท้าขวาหงายกระบี่ 45 องศา ลาก เท้าซ้ายชิดเท้า

ขวา ยกเข่าขวารำข้างเสมอคิ้ว วางเท้าขวา หมุน 180 องศา บิดตัวทาง

ซ้าย

• ยืนในท่าทัดหู ลากเท้าขวาชิดเท้าซ้าย ยกเข่าซ้าย จ้วงกระบี่พร้อม

วางเท้าซ้าย และก้าวเท้าขวา หงายกระบี่ 45 องศา ลาก เท้าซ้ายชิด

เท้าขวายกเข่าขวา รำข้างเสมอคิ้ว ควง 2 รอบ ยืนคุมรำ เสร็จแล้ว

ตรง

ที่มา : http://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=1801

ก า ร ขึ้ น พ ร ห ม ยื น

ไม้รำที่ 1

ไม้รำที่ 1 ลอยชาย (เดินสลับฟั นปลา)
• มือซ้ายจีบที่หน้ าอก ก้าวเท้าขวาเฉียงไปทางขวา โล้ตัวไปข้างหน้ าเข่า

ขวางอ เข่าซ้ายตึง กระบี่อยู่ทางขวา ขนานพื้น หงายมือ โกร่งกระบี่อยู่

ด้านนอกแขนท่อนบนอยู่ชิดลำตัว ข้อศอกงอเป็นมุมฉาก
• ก้าวเท้าซ้ายเฉียงไปทางขวา โล้ตัวไปข้างหน้ า เข่าซ้ายงอ เข่าขวาตึง

• ลากเท้าขวาชิดเท้าซ้าย ยกเท้าซ้ายขึ้น เข่าซ้ายงอเป็นมุมฉาก ขา

ท่อนบนขนานพื้น เข่าขวาตึง
• มือซ้ายรำหน้ า แล้วจีบไว้ที่หน้ าอก

ไม้รำที่ 1

• หมุนตัวต่อไปทางซ้าย 1 มุมฉาก วางเท้าซ้ายลงวาดกระบี่ขนานพื้นไป

ทางซ้ายไว้ข้างเอว โกร่งกระบี่อยู่ด้านนอก ก้าวเท้าขวาไปอีก 1 ก้าว โล้

ตัวไปข้างหน้ า
• ลากเท้าซ้ายชิดเท้าขวา ยกเท้าขวาขึ้น

• มือซ้ายรำข้าง แล้วกลับมาจีบไว้ที่หน้ าอก
• หมุนตัวไปทางขวา 1 มุมฉากวาดกระบี่ขนานพื้นไปทางขวา วางเท้า

ขวาลง พลิกข้อมือหงาย อยู่ในท่าคุมรำ

ไม้รำที่ 1

ไม้รำที่ 2

ไม้รำที่ 2 ควงทัดหู ( เดินสลับฟั นปลา )



• จากท่าคุมรำ
• ก้าวเท้าซ้ายเฉียงไปข้างขวา 1 ก้าว ควงกระบี่ไปข้างหน้ าสองรอบ

พร้อมกับยกกระบี่ขึ้นทัดหู

• ลากเท้าขวาชิดเท้าซ้าย ยกเท้าซ้ายขึ้น
• หมุนตัวไปทางซ้าย 1 มุมฉากพร้อมกับจ้วงกระบี่ลงทางซ้าย วางเท้า

ซ้ายลงแล้วก้าวเท้าขวาไปอีก 1 ก้าว พลิกกระบี่ไปอยู่ข้างหน้ าลำตัว

กระบี่เฉียงออก 45 องศา โกร่งกระบี่หันเข้าหาลำตัว

ไม้รำที่ 2

• ลากเท้าซ้ายชิดเท้าขวาแล้วยกเท้าขวาขึ้น
• มือซ้ายรำข้าง
• หมุนตัวกลับไปทางขวา 1 มุมฉาก มือซ้ายจีบไว้ที่อก วางเท้าขวาลง

กลับมาอยู่ในท่าคุมรำ

ไม้รำที่ 2

ไม้รำที่ 3

ไม้รำที่ 3 เหน็บข้าง ( เดินตรง )



• ก้าวเท้าซ้ายตรงไปข้างหน้ า 1 ก้าว โล้ตัวไปข้างหน้ า

• ลากเท้าขวาชิดเท้าซ้าย ยกเท้าซ้ายขึ้น
• มือซ้ายรำหน้ า
• วางเท้าซ้ายลง มือซ้ายมาจีบไว้ที่อก หมุนตัวกลับหลังทางขวา
• หมุนข้อมือ บิดไปทางขวา ให้โกร่งกระบี่อยู่นอกกระบี่เฉียงลง 45

องศา แขนขวาชิดข้างหู งอแขนเล็กน้ อย หน้ าก้ม โล้ตัวไปข้างหน้ า
• ลากเท้าซ้ายชิดเท้าขวา ยกเท้าขวาขึ้น

ไม้รำที่ 3

• หมุนตัวกลับหลังหันทางขวา ขณะที่ยกเท้าขวาอยู่โดยใช้เท้าซ้ายเป็น

หลัก วางเท้าขวาลง
• ลดกระบี่ลงอยู่ข้างเอวทางซ้าย ฝ่ามือซ้ายทาบกระบี่ โกร่งกระบี่หัน ลง

สู่พื้น ปลายกระบี่ชี้ลง โล้ตัวไปข้างหน้ า
• ลากเท้าซ้ายชิดเท้าขวา ยกเท้าขวาขึ้น
• วางเท้าขวาลง วาดกระบี่ขนานพื้นไปทางขวา มือซ้ายจีบไว้ที่อก อยู่ใน

ท่าคุมรำ

ไม้รำที่ 3

ไม้รำที่ 4

ไม้รำที่ 4 ตั้งศอก ( เดินสลับฟั นปลา )



• ท่าคุมรำ
• ก้าวเท้าซ้ายเฉียงไปทางขวา 45 องศา พร้อมกับยกกระบี่ขึ้นทัดหู

โกร่งกระบี่อยู่ข้างบน โล้ตัวไปข้างหน้ า

• ลากเท้าขวาชิดเท้าซ้าย ยกเท้าซ้ายขึ้น
• ยกมือซ้ายมาตั้งศอกที่เข่าซ้าย ปลายนิ้วแตะกระบี่หันฝ่ามือไปทาง

ขวา

ไม้รำที่ 4

• หมุนตัวไปทางซ้าย วางเท้าซ้ายลง มือซ้ายจีบที่หน้ าอก และลดกระบี่
มาอยู่ข้างหน้ าเฉียงขึ้น 45 องศา พลิกข้อมือ หันโกร่งกระบี่เข้าหาตัว
ก้าวเท้าขวาไปข้าหน้ าเฉียงไปทางซ้ายอีก 1 ก้าวโล้ตัวไปข้างหน้ า

• ลากเท้าซ้ายชิดเท้าขวา ยกเท้าขวาขึ้น รำข้าง
• หมุนตัวไปทางขวา วางเท้าขวาลง มือซ้ายจีบอก กลับสู่ท่าคุมรำ

ไม้รำที่ 4

ไม้รำที่ 5

ไม้รำที่ 5 จ้วงหน้าจ้วงหลัง ( เดินตรง )



• ท่าคุมรำ
• ควงกระบี่ไปข้างหน้ าสองรอบพร้อมกับก้าวเท้าซ้ายเดินตรงไปข้างหน้ า

ยกกระบี่ขึ้นทัดหู โกร่งกระบี่อยู่ข้างบน โล้ตัวไปข้างหน้ า

• ลากเท้าขวาชิดเท้าซ้าย ยกเท้าซ้ายขึ้น
• จ้วงกระบี่ลงทางซ้าย วางเท้าซ้ายลง
• ก้าวเท้าขวาไปข้างหน้ าอีก 1 ก้าว พลิกข้อมือให้กระบี่เฉียงอยู่ข้าง

หน้ า 45 องศา หันโกร่งกระบี่เข้าหาตัวไปข้างหน้ า
• ลากเท้าซ้ายชิดเท้าขวา ยกเท้าขวาขึ้น
• มือซ้ายรำข้าง แล้วจีบไว้ที่อก

ไม้รำที่ 5

• วางเท้าขวาลงข้างหน้ า หมุนตัวกลับหลังหันทางซ้าย ยกกระบี่ขึ้นทัดหู
โล้ตัวไปข้างหน้ า

• ลากเท้าขวาชิดเท้าซ้าย ยกเท้าซ้ายขึ้น
• จ้วงกระบี่ลงทางซ้าย ถอยเท้าซ้ายวางไว้หลังเท้าขวา
• พลิกข้อมือให้กระบี่อยู่ข้างหน้ าเฉียง45 องศา หันโกร่งกระบี่เข้าหา ลำ

ตัว โล้หน้ า
• ลากเท้าซ้ายชิดเท้าขวา ยกเท้าขวาขึ้น

ไม้รำที่ 5

• มือซ้ายรำข้าง แล้วกลับมาจีบไว้ที่หน้ าอก
• วางเท้าขวาลงข้างหน้ า
• หมุนตัวกลับหลังหันทางซ้าย ยกกระบี่ขึ้นทัดหูโล้ตัวไปข้างหน้ า
• ก้าวเท้าขวาเฉียงไปข้างหน้ า 1 ก้าว กลับมาสู่ท่า คุมรำ

ไม้รำที่ 5

ไม้รำที่ 6

ไม้รำที่ 6 ปกหน้าปกหลัง หรือควงป้ องหน้า ( เดินตรง )

• ท่าคุมรำ
• ควงกระบี่สองรอบพร้อมกับก้าวเท้าซ้ายเดินตรงไปข้างหน้ า 1 ก้าว

พลิกข้อมือขวาให้ปลายกระบี่ชี้เฉียงลงไปข้างหน้ าประมาณ 45 องศา

โกร่งกระบี่หันออก แขนขวาชิดหู โล้ตัวไปข้างหน้ า

ไม้รำที่ 6

• มือซ้ายรำออกไปข้างหน้ า แขนงอเล็กน้ อย หน้ าก้มให้มือซ้ายรำอยู่ ใต้

โกร่งกระบี่
• ลาดเท้าขวาชิดเท้าซ้าย ยกเท้าซ้ายขึ้น
• วางเท้าซ้ายลง มือซ้ายจีบไว้ที่อก หมุนตัวกลับหลังหันทางขวา พร้อม

กับควงกระบี่สองรอบ
• พลิกข้อมือขวาให้ปลายกระบี่ชี้เฉียงลงไปข้างหน้ าประมาณ 45 องศา

โกร่งกระบี่หันออก แขนขวาชิดหู โล้ตัวไปข้างหน้ า

ไม้รำที่ 6

• มือซ้ายรำออกไปข้างหน้ า ให้มือซ้ายรำอยู่ใต้โกร่งกระบี่ แขนงอเล็ก

น้ อย หน้ าก้ม
• ลากเท้าซ้ายชิดเท้าขวา ยกเท้าขวาขึ้น
• หมุนตัวกลับหลังหันทางขวา ยกกระบี่ไปข้างหน้ าทางขวา มือซ้าย จีบ

ไว้ที่หน้ าอก
• วางเท้าขวาลง

ไม้รำที่ 6

ไม้รำที่ 7

ไม้รำที่ 7 ท่ายักษ์ ทิศทางการเดิน เดินตรงไปข้างหน้า
เริ่มจากท่าคุมรำ

จังหวะที่ 1 ก้าวเท้าซ้ายตรงไปข้างหน้ าวางเท้าซ้ายโดยหันลำตัวทาง

ขวา คล้ายทำขวาหัน ยืนในท่ายักษ์ คือการย่อเข่าทั้งสอง น้ำหนักตัวลง

ตรงกลาง ลำตัวตรง หน้ าตรง ตัวกระบี่ขึ้นตรงวางไว้หน้ าขาขวา ปลาย

กระบี่พาดช่วงไหล่ขวา

จังหวะที่ 2 เมื่อลำตัวนิ่งในท่ายักษ์แล้ว ให้สลัดหน้ าไปทางซ้าย แล้ว

สลัดหน้ าไปทางขวา

จังหวะที่ 3 สลัดหน้ าตรงพร้อมกับยกกระบี่ขึ้นฟังให้ตรงข้างหน้ าทาง

ขวา 1
ครั้งทางซ้าย 1 ครั้ง โดยฟันเป็นลักษณะกากบาท

จังหวะที่ 4 เมื่อยก กระบี่ขึ้นฟันข้างหน้ า ขวา – ซ้าย แล้วให้กลับอยู่ใน

ท่ายักษ์

จังหวะที่ 5 ยกเข่าขวาตั้งฉากใช้เท้าซ้ายเป็นจุดหมุนพลิกตัวกลับหลัง

หัน เมื่อกลับหลังหันแล้วให้วางเท้าขวาลงหน้ าเท้าซ้ายตัวตรง หน้ ามอง

ตรงพร้อมกับยกเท้าซ้ายหมุนตัวกลับหลังหันอีกครั้งหนึ่ง โดยใช้เท้า

ขวาเป็นจุดหมุน จะกลับมาอยู่คล้ายจังหวะที่ 4 ลักษณะท่ายักษ์ เมื่อตัว

นิ่งแล้ว ให้สลัดหน้ าทางซ้าย 1 ครั้ง ทางขวา 1 ครั้ง และกลับมาสู่ท่า

ยักษ์

ไม้รำที่ 7

ไม้รำที่ 8

ไม้รำที่ 8 สอยดาว ทิศทางการเดิน เดินตรงไปข้างหน้า
เริ่มจากท่าคุมรำ

จังหวะที่ 1 ก้าวเท้าซ้ายตรงไปข้างหน้ า เปลี่ยนวิธีจับกระบี่ใหม่ โดยใช้

นิ้วชี้สอดขึ้นบนกระบี่ จับกระบี่ด้วยนิ้วกลาง นิ้วนาง และนิ้วก้อย

พร้อมกับปล่อยปลายกระบี่หมุนลงล่าง โดยใช้นิ้วชี้กับนิ้วกลางคีบกระบี่

ขณะที่ปล่อยปลายกระบี่หมุนลงล่าง จับกระบี่โดยหงายมือขึ้น โกร่ง

กระบี่หันออก วางเท้าซ้ายลงพื้นทำขวาหัน ลดมือซ้ายใช้ฝ่ามือแตะที่ตัว

กระบี่ ปลายกระบี่ชี้ลงพื้นเล็กน้ อย
จังหวะที่ 2 ก้าวเท้าขวาชิดเท้าซ้าย ฝ่ามือซ้ายแตะที่กระบี่
จังหวะที่ 3 ยกเข่าซ้ายตั้งฉาก ยกกระบี่ขึ้นเล็กน้ อย ฝ่ามือซ้ายแตะ

กระบี่
จังหวะที่ 4 ก้าวซ้ายตรงไปข้างหน้ า พร้อมกับจ้วงกระบี่และสอดกระบี่

ขึ้นข้างบน เรียกว่า “สอยดาว” พร้อมกับก้าวเท้าขวาเดินอีก 1 ก้าว ทำ

กลับหลังหัน
จังหวะที่ 5 พลิกข้อมือกระบี่ตั้งขึ้นหันโกร่งกระบี่ออก งอเข่าทั้งสอง

ข้างลำตัวตั้งตรง มือซ้ายจิ้มเข้ากลางหน้ าอก
จังหวะที่ 6 ก้าวเท้าซ้ายชิดเท้าหลัง
จังหวะที่ 7 ยกเข่าขวาตั้งฉาก เมื่อตัวนิ่งแล้วมือซ้ายเหยียดออกรำหน้ า
จังหวะที่ 8 วางเท้าขวาลงพื้น พลิกข้อมือที่จับกระบี่หงายมือขึ้นแบ

ฝ่ามือซ้ายหันฝ่ามือลง แตะปลายกระบี่ ถ่ายน้ำหนักตัวไปเข่าขวา ยก

เข่าซ้ายตั้งฉากเพื่อเดินตรงไปข้างหน้ า
จังหวะที่ 9 พลิกข้อมือหันโกร่งกระบี่ออกนอกลำตัว ปลายกระบี่ชี้ขึ้น

ข้างบนประมาณ 45 องศา มือซ้ายจีบเข้ากลางหน้ าอก ย่อเข่าทั้งสอง

เล็กน้ อย
จังหวะที่ 10 ยกเข่าขวาตั้งฉากให้ตัวนิ่งแล้วมือซ้ายรำหน้ า

ไม้รำที่ 8

ไม้รำที่ 9

ไม้รำที่ 9 ควงแตะ ทิศทางการเดินตรงไปข้างหน้า เริ่มจากท่าคุมรำ

จังหวะที่ 1 ก้าวเท้าซ้ายไปข้างหน้ า วางเท้าซ้ายลงพร้อมกับทำขวาหัน

ควงกระบี่ 2 รอบ เหยียดมือซ้ายรองรับปลายกระบี่ ที่ขนานกับพื้น หัน

โกร่งกระบี่ออกเรียกว่าควงแตะ งอเข่าทั้ง 2 เล็กน้ อย ลำตัวตรง
จังหวะที่ 2 ยกเข่าขวาขึ้นตั้งฉาก ใช้เท้าเป็นจุดหมุนกลับหลังหัน

พร้อมกับควงกระบี่ 2 รอบ วางเท้าขวา ลงพื้นในทิศทางตรงไปข้างหน้ า

เช่นเดียวกับจังหวะที่ 1 แต่หันหน้ าตรงข้ามกัน
จังหวะที่ 3 ย่อเข่าทั้งสองเล็กน้ อยลำตัวตั้งตรงกระบี่ขนานพื้น หน้ า

มองตรง
จังหวะที่ 4 ก้าวเท้าซ้ายชิดเท้าขวา ทำช้า ๆ ให้ลำตัวนิ่ง
จังหวะที่ 5 ยกเข่าขวาตั้งฉาก

ไม้รำที่ 9

ไม้รำที่ 10

ไม้รำที่ 10 หนุมานแหวกฟองน้ำ ทิศทางเดิน เดินตรงไปข้างหน้า,

กลับหลังหัน, ขวาหัน เริ่มจากท่าคุมรำ



จังหวะที่ 1 ก้าวเท้าซ้ายไปข้างหน้ า 1 ก้าว พร้อมกับควงกระบี่ 2 รอบ

ยกขึ้นปก (แขนขวาแนบที่หูขวาคว่ำปลายกระบี่ชี้ลงพื้น 45 องศา

โกร่งกระบี่หันออก โล้ตัวไปหน้ าให้น้ำหนักตัวลงที่เท้าซ้าย ก้มหน้ าเล็ก

น้ อย มือซ้ายเหยียดออกคล้ายรำหน้ า นิ้วชิดติดกัน หันฝ่ามือออกให้

โคนกระบี่วางที่กลางนิ้วก้อย)
จังหวะที่ 2 ก้าวเท้าขวาชิดเท้าซ้าย พยายามย่อเข่าทั้ง 2 ลงเล็กน้ อย

เพื่อความสวยงาม
จังหวะที่ 3 ยกเข่าซ้ายขึ้นตั้งฉาก ให้ตัวนิ่งไว้ระยะหนึ่ง
จังหวะที่ 4 วางเท้าซ้ายลงพื้นข้างหน้ าค่อย ๆ ยกปลายกระบี่ชี้ขึ้น มือ

ทั้งสองทำท่าแหวก หรือท่าว่ายน้ำ ท่ากบ ซึ่งเรียกว่า แหวกฟองน้ำ ให้

แขนทั้งสองเสมอไหล่ และขนานกับพื้น หันโกร่งกระบี่ออก ย่อเข่าซ้าย
น้ำหนักตัวโล้ไปเท้าซ้าย
จังหวะที่ 5 วางเท้าซ้ายลงพื้นข้างหน้ าพลิกตัวกลับหลังหันโดยหมุนตัว

ทางขวา รวมทั้งแขนทั้งสองมาป้ องข้างหน้ า โดยแบมือซ้ายหันฝ่ามือ

ลงพื้นให้กระบี่ตั้งขึ้นอยู่ในง่ามนิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้งอข้อศอกทั้งสองยก

ขึ้นขนานกับพื้นอยู่เหนือสายตา
จังหวะที่ 6 ยกเข่าขวาขึ้นตั้งฉาก
จังหวะที่ 7 ใช้เท้าซ้ายเป็นหลัก หมุนตัวไปทางขวา (ทำขวาหัน) พร้อม

กับวางเท้าขวาลงข้างหน้ า ก้าวเท้าซ้ายชิดเท้าขวา ยกเท้าขวาขึ้นตั้ง

ฉาก

ไม้รำที่ 10

ไม้รำที่ 11

ไม้รำที่ 11 ลดล่อ ทิศทางเดิน เดินตรงไปข้างหน้าโดยการพลิกตัว

ขวา – ซ้าย เริ่มจากท่าคุมรำ



จังหวะที่ 1 จากท่าคุมรำลดกระบี่ลง แขนงอเล็กน้ อย กระบี่ขนานพื้น

มือซ้ายกำหลวม ๆ ยกแขนขึ้นระดับหน้ าผาก หันหน้ ามองลอดแขนไป

ทางปลายกระบี่ ย่อตัวให้น้ำหนักตัวลงที่เท้าขวา ลักษณะนี้เรียกวา

“ลด”

จังหวะที่ 2 ก้าวเท้าซ้ายตรงไปข้างหน้ า 1 ก้าว ยกเท้าขวาหมุนตัวกลับ

หลังหัน โดยหมุนตัวทางขวามือ วางเท้าขวาหน้ าเท้าซ้าย มือซ้ายกำ

หลวม ๆ ลดลงระหว่าหน้ าขาซ้ายงอข้อศอกเล็กน้ อยยกกระบี่ขึ้นแขนง

ระดับหน้ าผาก ก้มหน้ า หันหน้ ามองปลายกระบี่เสมอ โล้ตัวไปข้างหน้ า

น้ำหนักตัวอยู่ที่เท้าขวา ลักษณะนี้เรียกว่า “ล่อ”

ไม้รำที่ 11


Click to View FlipBook Version