SOLIDWORKS
ก สารบัญ เรื่อง หน้า สารบัญ ก SOLIDWORKS คืออะไร 1 SOLIDWORKS มีหนา ้ ที่การทา งานอยา่งไร 1 ประโยชน์ของ SOLIDWORKS 2-3 ความรู้ พ้ืนฐานเกี่ยวกบั Part 3-8 ความรู้ พ้ืนฐานเกี่ยวกบั Assembly 9-11 ความรู้ พ้ืนฐานเกี่ยวกบั Drawing 12-16 การใชค ้ า สั่งพ้ืนฐานในการเขียนแบบ SOLIDWORKS 17-35 2D และ 3D แตกต่างกนัอยา่งไร 35 การกา หนดคียล ์ ดัแป้ นคียบ ์ อร ์ ด และเมาส ์ 36 การ Reverse Engineering 37-45 แบบฝึ กหัด SOLIDWORKS เฉลยแบบฝึ กหัด SOLIDWORKS
1 SOLIDWORKS SOLIDWORKS คืออะไร SOLIDWORKS เป็ นโปรแกรมออกแบบ 2 มิติ 3 มิติสามารถออกแบบชิ้นงานไดค้รอบคลุม ทุกกลุ่มอุตสาหกรรม และมีการพฒันาอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยวิศวกรลดระยะเวลาในการออกแบบ และลด ขอ้ผดิพลาดจากการสื่อสาร ระหวา่งการออกแบบ SOLIDWORKS มีหน้าที่การท างานอย่างไร SOLIDWORKSเป็นโปรแกรมเขียนแบบและออกแบบที่ถูกพฒันาข้ึนมาเพื่อใชใ้นงาน ออกแบบ ผลิตภณัฑอ์อกแบบเฟอร์นิเจอร์และออกแบบชิ้นส่วนเครื่องกล 3 มิติซ่ึงมีฟังกช์นั่การใชง้าน ดงัน้ี การสร้าง Part Solid ใช้วิธีการและเทคโนโลยีของ Surface Modeling (NURBS) Assembly Modeling สามารถประกอบชิ้นส่วน 3 มิติได้เร็วข้ึน โดยมีขนาดของไฟล์เล็กลงและใช้ หน่วยความจา นอ้ย Drawing สร้าง Drawing 2 มิติจาก 3 มิติโดยอัตโนมัติและ บันทึกไฟล์เป็ น *.dwg ได้ Simulation ใชท้ดสอบการเคลื่อนที่และตรวจสอบหาชิ้นส่วนที่ขดักนั Animator สร้างภาพเคลื่อนไหวแสดงการทา งานของชิ้นส่วน หรือเครื่องจกัรกล และสามารถบนัทึก ไฟล์เป็ น *.AVI (ไฟล์วีดิโอ)ได้ Sheet Metal สามารถสร้างงานพบัแบบต่างๆ และทา แผนคลี่งานโลหะแผน่ ได้ Module การใชง้านอื่นๆ เช่น การวเิคราะห์ไฟไนตเ์อลิเมนตเ์บ้ืองตน้ 3D 2D
2 ประโยชน์ของSOLIDWORKS 1. เพื่อช่วยในการจา ลองชิ้นงานรวมถึงการตรวจสอบความผิดพลาดต่างๆ ในชิ้นงานได้ 2. SOLIDWORKS Standard เพิ่มความเร็วในการออกแบบ และปลดล็อกคุณประโยชน์ในด้านของ การออกแบบ 3D ส าหรับการแกไ้ขปัญหาในดา้นของการสร้างชิ้นส่วนที่รวดเร็วส่วนประกอบและ การ Drawing 2D ด้วยเครื่องมือเฉพาะตวัอย่างเช่น แผ่นโลหะ, งานเชื่อม, พ้ืนผิวและเครื่องมือ เกี่ยวกบัแม่พิมพ์ดว้ยสิ่งต่างๆ เหล่าน้ีจะช่วยใหส้ามารถที่จะส่งมอบการออกแบบที่ดีใหแ้ก่ลูกคา้ได้ 3. SOLIDWORKS Professional สร้างโดยอยบู่นพ้ืนฐานความสามารถของ SolidWorks Standard โดย มีการเพิ่มความสามารถทางดา้นการออกแบบ, การจดัการเกี่ยวกบัเอกสาร, การแสดงผลเสมือนจริง, การออกแบบโดยอัตโนมัติ, การตรวจสอบการวาด Drawing, ส่วนประกอบย่อยที่ซับซ้อนและ ชิ้นส่วน 4. SOLIDWORKS Premium เป็นการแกไ้ขปัญหาดา้นการออกแบบ 3D ซ่ึงมีการเพิ่มความสามารถใน การจ าลองที่มีประสิทธ์ิภาพและความสามารถในการตรวจสอบการออกแบบ ไปจนกระทงั่ถึง ความสามารถของ SolidWorks Professional รวมท้ังการทา งานร่วมกัน ECAD/ MCAD การท า วิศวกรรมยอ้นกลบัความสามารถในการทา งานเกี่ยวกบัลวดข้นัสูงและฟังชนั่การกา หนดเส้นทาง ท่อ 5. SOLIDWORKS Simulation คือ โปรแกรมการจ าลองวิเคราะห์ความเสี่ยงจากการสร้างชิ้นงานจริง 6. SOLIDWORKS Electrical คือ โปรแกรมออกแบบเขียนแบบทางด้านงานระบบ ไฟฟ้า
3 7. SOLIDWORKS PDM คือ ซอฟแวร์ที่ช่วยในการจดัการจดัเก็บ ขอ้มูลใหเ้ป็นระบบ 8. SOLIDWORKS Composer คือเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการสร้าง เอกสารในรูปแบบภาพ 9. Exalead Part คือโปรแกรมที่ยกระดบัความสามารถจากการวเิคราะห์เพื่อลดความซ้า ซอ้น 10. SOLIDWORKS MBD (Model Based Definition) คือเครื่องมืออ่านชิ้นงานแบบเป็น 3 มิติ 11. SOLIDWORKS Visualize คือ โปรแกรมสร้างกราฟิ กที่มีคุณภาพสูง ความรู้พ ื น้ฐานเกี่ยวกับ Part จุดเริ่มตน้ของการเขียนแบบและออกแบบ ก็คือการสร้างชิ้นงานเบ้ืองตน้ที่เรียกวา่ Part ข้ึนมาก่อน ซึ่ง Part จะเป็นส่วนประกอบพ้ืนฐานที่จะถูกนา มาประกอบรวมกนักลายเป็นชิ้นงานที่มีขนาดใหญ่และมี ความซบัซอ้นข้ึน และถูกนา ไปใชใ้นการสร้างผลิตภณัฑข์้ึนมา 1. การเปิ ดโปรแกรม (Start Program)
4 2. การสร้างชิ้นงาน (Part) ใหม่ 3. การต้งัค่าหน่วยที่ใชง้านใหเ้ป็นมิลลิเมตร
5 4. การสเก็ตช์ภาพ (Sketch) 5. การเลือก Plane เพื่อสร้างหนา้ชิ้นงาน -ข้ึนอยกู่บัแบบชิ้นงาน
6 6. การเขียนแบบสี่เหลี่ยมหรือวงกลมแลว้แต่ชิ้นงาน (Rectangle) 7. การกา หนดขนาดและการเปลี่ยนขนาด (Dimension) 1 2 1 2
7 8. การเพิ่มเน้ือของชิ้นงาน (Extrude) 9. การสร้างรูทะลุโดยการตัด (Cut) ปรับระยะความหนา ของเน้อชิ้นงาน 1 2 1 2 3
8 10. การเจาะรูใหท้ะลุโดยใชค้า สั่ง Extrude Cut 11. การลบเหลี่ยมและมุม โดยใชค้า สั่งFillet 12. การบนัทึกไฟลช์ิ้นงาน (Save) 1 3 2 4 เลือกจุดที่จะเจาะ ทีะลุ ปรับระยะการเจาะ เน้อชิ้นงาน 1 2 3 4 5 เลือกขอบมุมที่ ต้ องการลบมมุ
9 ความรู้พ ื น้ฐานเกยี่วกบั Assembly ชิ้นส่วนยอ่ยๆ ที่ถูกเรียกวา่ Part หลายชิ้นจะถูกนา มาประกอบเป็นชิ้นงานชิ้นเดียวกนัซ่ึงการนา Part มาประกอบกนัน้นัจะถูกเรียกวา่ข้นัตอน Assembly และข้นัตอนการประกอบจะส าเร็จลุล่วงไดต้อ้งอาศยัการ ออกแบบ Part ที่มีความสัมพนัธ์กนัและสามารถประกอบเขา้กนัไดด้ว้ย 1. เริ่มตน้การสร้างชิ้นงานใหม่
10 2. การเลือกชิ้นเรียงลา ดบัการประกอบ 3.การนา ชิ้นงานอีกตวัออกมาโดยใช้Insert components
11 4. การกา หนดความสัมพนัธ์เพื่อประกอบชิ้นงาน 5. การประกอบชิ้นงานดว้ย Mate 6.การบนัทึกไฟลช์ิ้นงาน (Save)
12 ความรู้พ ื น้ฐานเกยี่วกบั Drawing โปรแกรม SolidWorks จะมีความสามารถในการช่วยให้ผูใ้ชง้านสามารถเขียนแบบภาพฉายไดง้่าย กวา่เดิม ซ่ึงหลงัจากการเขียนแบบภาพฉายเสร็จเรียบร้อยแลว้ผูใ้ชง้านก็จะสามารถตรวจสอบความถูกตอ้ง และความสมบูรณ์ของชิ้นงานได้อย่างละเอียด ซ่ึงจะสัมพนัธ์กบัความถูกตอ้งของการออกแบบ Part และ ข้นัตอน Assembly ด้วย 1. การสร้างชิ้นงาน (Drawing)
13 2. การเลือก Sheet format 3. เมื่อเลือกเสร็จแล้วให้ท าการ คลิกขวา Edit Sheet format
14 4. เมื่อเลือกเสร็จแล้วให้ท าการกด view palette 5. ต่อมาใหท้า การ Drag ลากมาวางในจุดที่ต้องการแสดง
15 6. เมื่อลากดา้นมุมมองชิ้นงานไปยงัแผน่ภาพไดแ้ลว้ใหท้า การปรับขนาดให้พอเหมาะ 7. ต่อมาใหท้า การSection view หรือแยกส่วนมุมมองลงมาตรงพ้ืนที่ที่ตอ้งการ
16 8. ให้ท าการเลือก Cutting line แล้วเลือกจุดก่ึงกลาง แล้วคลิก ok 9. ต่อมาใหท้า การบอกลา ดบัชิ้นงานโดยใช้balloon ต่อมาใหส้ร้างตารางบอกชื่อและจา นวนแต่ละ ชิ้นส่วนของงาน โดยการคลิกที่ชิ้นงานที่ตอ้งการบอกลา ดบัชื่อแลว้จา นวน 10. การบนัทึกไฟลช์ิ้นงาน (Save)
17 การใช้ค าสั่งพื้นฐานในการเขียนแบบ SOLIDWORKS ค าสั่งพื้นฐานการเขียนแบบ 2D Sketch การออกแบบโมเดลในโปรแกรม Solidworks ให้ไดเ้ต็มประสิทธิภาพน้นัเริ่มตน้เราจะตอ้งเรียนรู้ การใชง้านของคา สั่งเบ้ืองตน้ ในการสร้างSketch 2D ก่อน เพื่อเตรียมความพร้อมและความเขา้ใจถึงข้นัตอน การใชง้านในคา สั่งการสร้าง Profile Sketch ต่างๆโดยเมื่อเราทราบถึงวิธีการใชง้านของแต่ละคา สั่งแลว้เรา จะสามารถนา ความเขา้ใจไปพิจารณาคา สั่งต่างๆ ที่จะใช้ในการออกแบบโมเดล เพื่อให้สามารถใช้โปรแกรม ไดอ้ยา่งมีประสิทธิภาพส่วนประกอบ คา สั่งพ้ืนฐานในการสร้างSketch 2D จะแบ่งคา สั่งออกเป็น 2 ส่วนคือ -Sketch Entities คือสเกทช์(Sketch) คือส่วนประกอบพ้ืนฐานในการออกแบบกา หนดรูปร่าง และขนาดของ ชิ้นส่วน (part) 3 มิติซึ่งจะสร้างจากคา สั่งพ้ืนฐาน ค าสั่งในการสร้าง Sketch โดยจะประกอบไปดว้ยคา สั่ง ต่างๆ ดงัน้ี Line ,Circle, Rectangle, parallelogram, Polygon , Center point Arc,3 Point Arc, Tangent Arc, Ellipse, Spline ,text เป็ นต้น สัญลักษณ์ของค าสั่งพื้นฐานต่างๆใน Sketch 2D สัญลักษณ์ ชื่อ คือ Line ใช้สร้างเส้นตรง Centerline ใชส้ร้างเส้นร่างหรือเส้นศูนยก์ลาง
18 Midpoint line ใชส้ร้างเส้นจากจุดก่ึงกลาง Circle ใช้สร้างวงกลม Perimeter Circle ใช้สร้างวงกลมจากจุด 3 จุด Rectangle ใช้สร้างรูป 4 เหลี่ยมโดยการกา หนด จุด 2 จุด เป็ นจุดของเส้น ทะแยงมุม Center Rectangle ใช้สร้างสี่เหลี่ยมจากจุดศูนย์กลาง 3 Point Corner Rectangle ใช้สร้างสี่เหลี่ยมผืนผ้าจากมุม 3 จุด 3 Point Center Rectangle ใช้สร้างสี่เหลี่ยมผืนผ้าจากจุดศูนย์กลาง 3 จุด parallelogram ใชส้ร้างรูป 4 เหลี่ยม โดยการคลิกกา หนดจุด 3จุด
19 Polygon ใช้สร้างรูปทรงเรขาคณิต ที่มีลักษณะเป็ นรูปเหลี่ยม ดา้นเท่า Center point Arc ใช้สร้างเส้นโค้ง โดยการคลิก 3 จุด จุดแรกคือจุดศูนย์กลางของเส้นโค้งจุดที่สอง และสาม คือจุดเริ่มตน้และจุดสุดทา้ยของเส้นโคง้ 3 Point Arc ใช้สร้างเส้นโค้งโดยคลิกจุด 3 จุด จุดแรกและจุดที่สองคือจุดเริ่มตน้และ จุดปลายของเส้นโคง้ ส่วนจุดที่สามคือจุดบนเส้นโคง้ Tangent Arc ใชส้ร้างเส้นโคง้ที่ต่อจากปลายของเส้นตรงหรือเส้น โค้งอื่น ๆ โดยการคลิกจุดแรก ที่ปลายเส้นตรงหรือ เส้นโค้งและลากมาคลิกจุดที่สองจะเป็ นจุดปลายของ เส้นโค้งที่สร้างใหม่ Ellipse ใช้สร้างวงรีโดยจุดแรกที่คลิกคือจุดศูนย์กลางของวงรี จุดต่อไปคือดา้นยาวและดา้น Partial Ellipse ใชใ้นการสร้างวงรีบางส่วน Parabola ใชส้ร้างเส้นเซตของจุดบนพ้ืนระนาบซ่ึงมีระยะห่าง จากจุดคงที่เท่ากบัระยะที่ห่างจากเส้นคงที่ Point ใช้สร้างจุดส าหรับใช้เจาะรูหรือ สร้างจุดเพื่อ วัตถุประสงค์อื่น ๆ
20 text ใช้เขียนข้อความ Smart Dimension ใชบ้อกขนาดของวตัถุในแนวต่าง ๆ Convert Entities ใช้คัดลอกเส้นหรือเส้นของรูปทรงเรขาคณิตของวัตถุ โดยการฉายลงบนระนาบ ของสเก็ตส์ที่เปิดอยูโ่ดยเส้น ต่าง ๆ -Sketch Tools คือคา สั่งที่ใชใ้นการช่วยการสร้างSketch ใหม้ีความสมบูรณ์มากข้ึน ซ่ึงจะ ประกอบดว้ยคา สั่งต่างๆดงัน้ีSketch Fillet, Sketch Chamfer, Sketch Mirror, Sketch Trim, LinearStep and Repeat, Circular Step and Repeat เป็ นต้น สัญลักษณ์ของค าสั่งต่างๆใน Sketch 2D สัญลักษณ์ ชื่อ คือ Sketch Fillet ใช้ลบมุม 2D แบบโค้ง Sketch Chamfer ใช้ลบมุม 2D แบบเหลี่ยม Sketch Mirror ใช้คัดลอกวัตถุแบบกระจกเงาโดยวัตถุจะ มีลักษณะสมมาตร
21 Sketch Trim ใชล้บเส้นที่ไม่ตอ้งการออกโดยคลิกเส้น ที่ไม่ตอ้งการเส้นน้นัก็จะถูกลบ Linear Step and Repeat ใช้คัดลอกวัตถุไปตามแถวและหลักตาม จ านวนและระยะที่ต้องการ Circular Step and Repeat ใช้คัดลอกวัตถุไปตามแนวรัศมีของ วงกลม ตามจ านวน และระยะที่ต้องการ พื้นฐานการเขียนแบบ 3D Feature การสร้างดว้ยรูปร่างมาตรฐานของรูปร่างทางคณิตศาสตร์แลว้มีการปรับตดัแต่งดว้ยความสัมพนัธ์ พ้ืนฐานง่ายๆ ให้เกิดรูปร่างที่ตอ้งการอาศยัความเขา้ใจตามคุณสมบตัิและความสัมพนัธ์ที่มีและไม่ซบัซ้อน ดงัตวัอยา่ง ดา้นล่าง โดยการอธิบายประกอบรูปภาพทีละข้นัตอนมีคา สั่งพ้ืนฐาน ดงัน้ี สัญลักษณ์ของค าสั่งพื้นฐานต่างๆใน 3D Feature สัญลักษณ์ ชื่อ คือ Extrude Boss/Base ใช้ยืดเน้ือวตัถุออกมาตามรูปเส้นรอบ นอก (Profile) ที่สเกตซ์ไว้สามารถยืด ออกในทิศ ทางบวกหรือลบก็ได้
22 Revolved Boss/Base ใชเ้พิ่มเน้ือวัตถุโดยวิธีการหมุน (Rotates) รูปเส้นรอบนอกหรือหน้าตัดของ สเก็ตส์ ไปรอบเส้นตรงหรือแกนหมุนตามมุมที่ กา หนด Swept Boss/Base ใช้สร้างเน้ือวัตถุจากเส้นprofile ที่ได้ สเกตซ์ไว้ให้วิ่งไปตามเส้นทางเดิ น (Path) ที่กา หนด Loft Boss/Base ใช้สร้างเน้ือวตัถุโดยการเชื่อมต่อของ เส้นรอบนอก (Profile) ที่สเกตซ์ไว้บน ระนาบ (plane) ต่าง ๆ Boundary Boss/Base ใช้เพิ่มเน้ือหาระหว่าง (Profile)ใ น สองทิศทาง Extruded Cut ใช้ตดัเน้ือวตัถุจากเน้ือวตัถุที่ผ่านการยืด มาแล้ว Hole Wizard ใชส้ร้างรูเจาะแบบต่าง ๆ พร้อมกบัสร้าง เกลียวชนิดต่าง ๆบนชิ้นงานได้ Advanced Hole ใช้ในการสร้างหลุมเป็ นเกลียว Thread ใช้ในการสร้างเกลียวเพื่อสวมยึด
23 Revolved Cut ใชห้มุนตดัเน้ือวตัถุออกจากชิ้นงาน Swept Cut ใช้ในการตัดแบบจ าลองโดยการ swept (Profile) ปิ ด หรือเปิ ดตามเส้นทาง Loft Cut ใช้ตดัแบบจา ลองโดยวสัดุระหว่างสอง หรือมากกวา่ Fillet ใชล้บมุมชิ้นงานที่มีลกัษณะเป็นรัศมีโคง้ ตามขนาดที่กา หนด Chamfer ใชล้บมุมชิ้นงานที่มีลกัษณะเป็นขอบ เรียบ Draft ใช้สร้างแบบจ าลองเทเปอร์จะหันไปทาง มุมที่กา หนด โดยใชร้ะนาบที่เป็นกลาง หรือเส้นที่แยกจากกนั Rib ใช้สร้างงานที่มีลักษณะคล้ายครีบ โดย การยดืเน้ือออกมาจากเส้น สเกตซ์2 มิติ Shell ใช้ตดัเน้ือชิ้นงานส่วนที่เราไดเ้ลือกออก โดยเหลือผิวเปลือกนอกไว้ตามความ หนาที่กา หนด
24 Wrap ใช้ในการห่อโครงสร้างแบบปิ ดด้านหน้า Intersect ใช้ตัดกับพ้ืนผิว ระนาบ และเพื่อสร้าง ปริมาตร Mirror ใช้คัดลอก Feature แบบกระจกเงา โดย ชิ้นงานที่ได้จากการ Mirror จะมีลักษณะ ที่สมมาตรกนั สัญลักษณ์ของค าสั่งพื้นฐานต่างๆใน Assembly สัญลักษณ์ ชื่อ คือ Insert Component ใชน้า ไฟลช์ิ้นส่วนเขา้มาวางใน ไฟล์แอสเซมบลี New Component ใชส้ร้างไฟลช์ิ้นส่วนใหม่ในไฟล์ แอสเซมบลี Mate เป็นชุดคา สั่งที่ใชป้ระกอบ ชิ้นส่วนเขา้ดว้ยกนั
25 Move Component ใชเ้คลื่อนยา้ยชิ้นส่วนไปยงั ตา แหน่งที่ตอ้งการโดยจะ เคลื่อนยา้ยไดเ้พียง ชิ้นส่วนเดียว เท่าน้นั Rotate Component ใชเ้คลื่อนหมุนชิ้นส่วนตาม มุมมองที่ต้องการ โดยจะหมุนได้ เพียงชิ้นส่วนเดียวเท่าน้นั Smart Fasteners เป็นคา สั่งที่ใชป้ระกอบชิ้นส่วน นิตและสกรูเขา้มาประกอบกบั ชิ้นส่วน โดยอตัโนมตัิ Exploded View ใชเ้คลื่อนยา้ยหรือหมุนชิ้นส่วน ให้เป็ นภาพระเบิดตามทิศทางที่ ต้องการ Interference detection ใชต้รวจสอบจุดทบัซอ้นกนัของ ชิ้นงาน Show Hide Component ใชแ้สดงหรือซ่อนชิ้นส่วน Edit Component ใชเ้ชื่อมต่อสลบัระหวา่งโหมด การแกไ้ขชิ้นส่วนกบัโหมด แอสเซมบลี
26 สัญลักษณ์ของค าสั่งพื้นฐานต่างๆใน Drawing สัญลักษณ์ ชื่อ คือ Horizontal Dimension ใช้วัดขนาดแนวนอน Vertical Dimension ใชว้ดัขนาดแนวต้งั Baseline Dimension ใชว้ดัระหวา่งขนาดพ้ืนฐาน Ordinate Dimension ใชว้ดัขนาดพิกดั Horizontal Ordinate Dimension ใชว้ดัขนาดพิกดัแนวนอน Vertical Ordinate Dimension ใชว้ดัขนาดพิกดัแนวต้งั
27 Angular Running Dimension ใชว้ดัขนาดมิติการวงิ่เชิงมุม Chamfer Dimension ใช้วัดขนาดการลบมุม Path Length Dimension ใช้วัดขนาดความยาวของเส้น Model Items ใช้บอกขนาด คา อธิบายประกอบของชิ้นงานที่ เลือก Tables ใช้ในการสร้างตาราง Bill of Materials ใช้สร้างตารางในการระบุส่วนประกอบต่างๆ ตามล าดับที่ต้องการหรือใช้สูตรในการผลิต Spell Checker ใช้ตรวจสอบค าผิด Section view ภาพที่แสดงการตดัหรือผา่วตัถุโดยสามารถ มองเห็นรายละเอียดของวัตถุ, เน้ือวตัถุและที่วา่ง ไดอ้ยา่งชดัเจน
28 Detail View ใชเ้พิ่มมุมมองรายละเอียดเพื่อแสดงส่วนของ มุมมองโดยปกติในขนาดที่ขยายใหญ่ข้ึน Auxiliary View มุมมองเสริมเพิ่มมุมมองโดยแสดงมุมมองใหม่ จากเอนทิต้ีเชิงเส้น (ขอบ เอนทิต้ีร่างและอื่นๆ) Projected View มุมมองที่คาดการณ์คือใชเ้พิ่มมุมมองที่ฉายโดย การแสดงมุมมองใหม่จากมุมมองที่มีอยู่ Model View ใชเ้พิ่มมุมมองฉาก หรือต้งัชื่อตามชิ้นส่วน หรือ ชุดประกอบที่มีอยู่ Standard 3 View ใชเ้พิ่มมุมมองมาตรฐาน และมุมฉากสามมุมมอง ประเภท และทิศทางของมุมมองอาจเป็ นมุมที่ 1 หรือมุมที่3 Broken – out Section ใชเ้พิ่มส่วนที่แยกยอ่ยในมุมมองที่มีอยซู่่ึงเผยให้ เห็นรายระเอียดภายในของโมเดล Break View ใชเ้พิ่มเส้นแบ่งไปยงัมุมมองที่เลือก Crop View ใชค้รอบตดัมุมมองที่มีอยเู่พื่อแสดงเพียงบางส่วน ของมุมมอง
29 Balloon ใชใ้นการบอกลา ดบัของชิ้นงาน Auto Balloon ใชใ้นการบอกลา ดบัของชิ้นงานแบบอตัโนมตัิ Magnetic Line ใชแ้ทรกเส้นแม่เหล็ก Note ใชใ้นการเพิ่มบนัทึกยอ่ Format Painter ใชค้ดัลอกคุณสมบตัิภาพระหวา่งมิติขอ้มูลและ ค าอธิบายประกอบ Linear Note Pattern ใชเ้พิ่มรูปแบบเชิงเส้นของบนัทึก Surface Finish ใชเ้พิ่มสัญลกัษณ์การตกแต่งพ้ืนผวิ Weld Symbol ใชเ้พิ่มสัญลกัษณ์การเชื่อมบนเอนทิต้ีที่เลือก (หน้า ขอบ และอื่นๆ)
30 Hole Callout ใชเ้พิ่มคา บรรยายภาพ Geometric Tolerance ใชต้้งัค่าคุณสมบตัิสา หรับรูปเรขาคณิตใหม่และ วางไวบ้นภาพวาดโดยคลิกที่แผน่ภาพภาด Datum Feature ใชเ้พิ่มสัญลกัษณ์คุณสมบตัิ Datum Target ใชเ้พิ่มเป้าหมายตวัเลข(จด หรือพ้ืนที่และ สัญลักษณ์) Blocks บล็อกคา สั่ง Center Mark ใช้สร้างจุดเซ็นเตอร์มาร์ค หรือใช้เพิ่มเครื่องหมาย บนวงกลม ขอบ ขอบช่อง หรือเอนทิต้ีร่าง Centerline ใชส้ร้างเส้นก่ึงกลางในมุมมอง หรือเอนทิต้ีที่ เลือก Area Hatch/Fill ใชใ้นการเพิ่มรูปแบบ หรือเติมแบบทึบใหก้บั หน้าแบบจ าลอง แบบปิ ด
31 Revision Cloud ใชใ้นการแทรกคลาวดก์ารแกไ้ข มุมมองของวตัถุในโปรแกรม Solidworks มุมมองหรือการมองภาพแบบต่าง ๆในโปรแกรม Solidworks จะช่วยอา นวยความสะดวกในการมองภาพ และการเขียนแบบคา สงที่ ั่ใชแ้สดงมุมมองแบบต่าง ๆ (View tools) จะอยบู่นทูลบาร์มาตรฐานตามตาราง สัญลักษณ์มุมมอง สัญลักษณ์ ชื่อ คือ Previous view แสดงภาพของวตัถุในมุมมองก่อนหนา้มุมมองที่ แสดงอยใู่นปัจจุบนัโดยการคลิกที่ไอคอน Zoom to fit แสดงภาพของวตัถุท้งหมด ตามขอบเขตของั จอภาพโดยการคลิกที่ไอคอน Zoom to area ขยายภาพของวตัถุบางส่วนตามกรอบของ หนา้ต่างที่เลือก โดยการคลิกที่ไอคอนเลือก ตา แหน่งที่ต้องการขยายโดยการสร้างกรอบ หนา้ต่างครอบตา แหน่งน้นๆั Zoom In-Out ขยายหรือยอ่ภาพของวตัถุโดยคลิกที่ไอคอน หรือ หมุนปุ่ มกลางของเมาส์เข้า-ออก Zoom to selection ขยายพ้ืนผิวที่เลือกอาจเป็นพ้ืนผิวเดียวหรือหลาย พ้ืนผวิก็ด็โดยการเลือกพ้ืนผิวของภาพ แล็วคลิกที่ ไอคอน
32 Rotate view การหมุนวัตถุโดยการ -คลิกที่ไอคอน จะปรากฏเส้นที่เป็นวงกลมข้ึนบน จอภาพหมุนวัตถุอิสระคลิกเมาส์ปุ่ มซ้ายที่จุดในวงกลม คลิกค้างไว้แล้วหมุนได้ตามความต้องการ Pan เลื่อนยา้ยวตัถุไปยงัตา แหน่งที่ต้องการโดยการ – คลิกที่ไอคอนแล้วคลิกเมาส์ปุ่ มซ้ายที่วัตถุค้างไว้ เลื่อนไปยงัตา แหน่งที่ต้องการ Standard View การเปลี่ยนมุมมองไปยงัมุมมองมาตรฐาน เช่น ภาพด้านหน้า (Front) ภาพด้านหลัง (Back) และ มุมมองมาตรฐาน อื่นๆโดยคลิกที่ไอคอนของ มุมมองมาตรฐานต่างๆ ที่ต้องการ Normal To การเปลี่ยนมุมมองของภาพใหข้นานกบัระนาบ หรือพ้ืนผิวที่ราบเรียบ โดยการเลือกระนาบหรือ พ้ืนผิวราบแล้วคลิกที่ไอคอน Wire Frame การให้วัตถุแสดงเฉพาะเส้นเต็มโดยการคลิกที่ ไอคอน Hidden lines visible การให้วัตถุแสดงเส้นที่มองเห็นเป็นเส้นเตม็ส่วน เส้นที่มองไม่เห็นจะแสดงเป็นเส้นประโดยการ คลิกที่ไอคอน Hidden lines removed การให้วัตถุแสดงเฉพาะเส้นที่มองเห็นเท่าน้น ั ส่วนเส้นที่มองไม่เห็นจะไม่แสดงโดยการคลิกที่ ไอคอน Shaded with Edges การใหแ้ สงเงาแก่วตัถุและใหแ้ สดงเส้นขอบรูป ทุกเส้นของวัตถุ โดยการคลิกที่ไอคอน
33 Shaded การใหแ้ สงเงาแก่วตัถุและแต่ไม่ให้แสดงเส้นขอบ รูป โดยการคลิกที่ไอคอน Shadow in Shaded Mode การให้แสดงเงาใต้วัตถุ โดยการคลิกที่ไอคอน Section view การให้แสดงภาพตัดของวัสดุตามตา แหน่งที่ ต้องการโดยการคลิกที่ไอคอน Dynamic Annotation Views ไดนามิกสลับมุมมองค าอธิบายประกอบไดนามิก เครื่องมือพื้นฐานของ Relation การกา หนดความสัมพนัธ์ทางเรขาคณิตหรือการบงัคบัคุณสมบตัิของเส้นแบบต่างๆ มีความส าคัญ และช่วยอา นวยความสะดวกในการเขียนแบบเป็นอยา่งมากเมื่อเราทา การแกไ้ขหรือ เปลี่ยนแปลงภาพสเกตซ์ ในภายหลงัตวัอย่างเช่นเมื่อกา หนดให้วงกลม 2 วง ให้มีขนาดเท่ากนั โดยใช้คา สั่ง Add Relation และเมื่อ เปลี่ยนแปลงขนาดของวงกลมใดวงกลมหนึ่งอีกวงหนึ่งก็จะเปลี่ยนแปลงตามขนาดของวงกลมที่มีการ เปลี่ยนแปลงซึ่งจะมีขนาดเท่ากนัตลอด โดยสามารถกา หนดความสัมพนัธ์ต่าง ๆ ทางเรขาคณิตของภาพ สเกตซ์โดยการคลิกปุ่ ม Add Relation หรือคลิก ขวาบนกราฟิ กวินโดว์แล้วเลือก Add Relation มีความหมาย ดงัต่อไปน้ี
34 สัญลักษณ์ Relation หรือความสัมพันธ์ของเส้น สัญลักษณ์ ชื่อ คือ Perpendicular ใช้กา หนดเส้น 2 เส้นต้งัฉากกนั โดยเส้นแรกที่ เลือกจะอยู่ในตา แหน่งเดิมส่วนเส้นที่2 ที่เลือก จะเลื่อนไปต้งัฉากกบัเส้นแรก Parallel ใช้กา หนดให้เส้น 2 เส้นขนานกนั โดยเส้นแรก ที่เลือกจะอยู่ในต าแหน่งเดิม ส่วนเส้นที่2 ที่ เลือกจะปรับเลื่อนไปขนานกบัเส้นแรก Tangent ใช้กา หนดให้เส้นตรงไปสัมผสั (Tangent) กับ เส้นโค้งหรือวงกลม Coincident ใช้เคลื่อนยา้ยตา แหน่งของจุดปลายของเส้น 2 เส้น ให้เขา้มาประสานกนั ใชไ้ดท้ ้งัเส้นโคง้และ เส้นตรง Concentric ใชก้า หนดใหว้งกลมหรือเส้นโคง้ร่วมศูนยก์นั Coradial ใช้กา หนดให้วงกลมหรือเส้นโคง้มีรัศมีเท่ากนั และทบักนั Horizontal ใช้กา หนดให้เส้นตรงต่าง ๆ ขนานกบัเส้นของ แกนนอน
35 Vertical ใช้กา หนดให้เส้นตรงต่าง ๆ ขนานกบัเส้นของ แกนต้งั Equal ใช้กา หนดให้ขนาดของเส้นตรง เส้นโคง้หรือ วงกลมมีขนาดที่เท่ากนั Fix ใชก้า หนดใหจุ้ดต่าง ๆอยกู่บัที่(Fix) เพื่อป้องกนั การเปลี่ยนแปลงต าแหน่งของจุดปลายของ เส้นตรงเส้นโค้งหรือจุดศูนย์กลางของวงกลม ต่าง ๆ Merge ใช้ก าหนดให้จุดต่อของเส้นตรง หรือจุด ศูนยก์ลางของวงกลมประสานกนักบัจุดต่อของ เส้นตรง หรือจุดศูนย์กลางของวงกลมอื่นๆ Midpoint ใช้ก าหนดให้จุดต่อของเส้นตรงหรือจุด ศูนยก์ลางของวงกลมประสานกนักบัจุดก่ึงกลาง ของเส้นตรง 2D และ 3D แตกต่างกันอย่างไร 2D คือ การเขียนแบบ 2 มิติการวาดแบบลงไปบนกระดาษ หรือพ้ืนที่การทา งานบนโปรแกรม คอมพิวเตอร์ (solid works) โดยการเขียนจะอยบู่น 2 แกนที่อยบู่นเฉพาะแกน X และ Y เท่าน้นัซ่ึงเราเรียกวา่ 2D ใชว้าดแบบหรือออกแบบวตัถุต่างๆ ในรูปแบบ 2 มิติ 3D คือ การข้ึนรูปในรูปแบบ 3 มิติโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการออกแบบ ช่วยในการสร้าง ชิ้นส่วนหรือPart ด้วยแบบจ าลองทางเรขาคณิต (Geometry) ชิ้นส่วนที่ถูกสร้างข้ึนมาเรียกวา่แบบจา ลองหรือ Model และแบบจา ลองน้ีก็สามารถแสดงเป็นแบบ Drawing หรือไฟล์ข้อมูล
36 การก าหนดคีย์ลัดแป้นคีย์บอร์ด และเมาส์ การก าหนดคีย์ลัดแป้นคีย์บอร์ด และเมาส์ คลิกขวาค้ าง คือ การ เลอืกหน้ าแสดง คลิกค้ างลูกกล ้ ง คือ การหมุนชิ้นงาน คลิกซ้ ายค้ าง คือ ลากครอบชิ้นงาน เล่อนลูกกล้ง คือ การขยาย เข้ าออกชิน ้ งานภาพ กด Options หรือตัวฟันเฟือง เพ่อเลือก Customize 1 2 3 เม่อกด Customize แล้ วเลือก Keyboard เพ่อต้งค่ าคีย์ ลัดเม่อ เสร็จแล้ วให้ กด OK
37 การ Reverse Engineering วิศวกรรมย้อนกลับ (Reverse Engineering) 1. วิศวกรรมย้อนรอยคืออะไร วิศวกรรมย้อนรอย (Reverse Engineering) หมายถึง กระบวนการพัฒนาโดยใช้การวิเคราะห์สืบ กลบั ไปจากตน้แบบที่มีอยูเ่ดิม โดยตอ้งมีการศึกษาและวิเคราะห์ขอ้มูลจากชิ้นงานตน้แบบอย่างเป็นระบบ ต้งัแต่วสัดุคุณสมบตัิจนถึงกรรมวธิีการผลิต อาจขยายความไดว้า่เป็นการลอกเลียนแบบสร้างสรรค์ และยัง เป็นการแกไ้ขขอ้บกพร่องของการประดิษฐเ์ดิมใหด้ียงิ่ข้ึน reverse engineering สามารถทา ไดก้บัท้งัสิ่งที่จบัตอ้งไม่ได้เช่นระบบการทา งาน บริการ หรือสิ่งที่ จบัตอ้งได้เช่น สินคา้ต่างๆ วธิีทา reverse engineering ด้วยการแยกอุปกรณ์ หรือถอดเป็นชิ้นๆ ส่วนใหญ่เป็น วิธีที่ทา แลว้ไดผ้ลในการศึกษาหรือ ปรับปรุงสินคา้ตน้แบบให้ดีกว่าเดิม เช่นอาจจะยอ้นรอยดูในเรื่องของ ขนาดรูปร่างของตน้แบบหรือวสัดุอุปกรณ์ที่ใชใ้นการผลิต ซ่ึงบางคร้ังบริษทัคู่แข่งอาจตอ้งซ้ือ เครื่ องจักรของอีกบริ ษัท เพื่อ ไปเรี ยนรู้ วิธีการทา งานหรืออาจตอ้งแยกเป็นชิ้นส่วน เพื่อใหท้ราบถึงข้นัตอนการประกอบ ท้ัง น้ีก็จะ น าข้อ มูล ที่ไ ด้ม า สร้างสรรคห์รือพฒันาเป็นนวตักรรมใหม่ๆ นั่นเองเหตุผลที่วิศวกรรมย้อนรอยถูก น ามาใช้เป็นส่วนหน่ึงของกระบวนการ ทาง วิศวกรรมก็อาจจะด้วยเหตุผลทาง ธุรกิจหรือเชิงพาณิชย์แต่นนั่อาจจะไม่ใช่เหตุผลหลกัเสมอไปเพราะประโยชน์ที่ไดก้็ทา ให้เกิดเทคโนโลยี ที่มา https://createc.mhesi.go.th/sites/default/files/revers%20enginerring.pdf
38 หรือเครื่องจกัร ใหม่ๆ มากมาย ส่วนเหตุผลอื่นๆ ก็เช่น ผูผ้ลิตรายเก่ายกเลิกการผลิตไปแล้ว หรือ เพื่อ วิเคราะห์ส่วนที่ดีหรือไม่ดีหรือเพื่อพฒันาผลิตภณัฑข์องเดิมใหด้ียงิ่ข้ึน” วิศวกรรมย้อนรอย ดีอย่างไร? o สามารถต่อยอดไปสู่การสร้างสรรคผ์ลิตภณัฑท์ ี่ดีกวา่เดิม o ประหยดัเวลา ไม่ตอ้งเสียเวลาลองผิดลองถูก เพราะสิ่งที่นา มาเป็นตน้แบบที่ตอ้งการันตี ความสา เร็จหรือประสิทธิผลของตน้แบบชิ้นน้นัอยแู่ลว้ o ประหยดัตน้ทุน เครื่องจกัรที่นา เขา้จากต่างประเทศมกัมีราคาแพง หากเราสามารถศึกษา กระบวนการท างานของเครื่ อง จักร จนสามารถผลิตเองได้ นอกจากการท างานจะมี ประสิทธิภาพก็ยงัช่วยลดส่วนต่างจากการ นา เขา้ไดอ้ยา่งมาก วิศวกรรมย้อนรอย ผิดกฎหมายไหม? วิศวกรรมยอ้นรอย มกัจะถูกเขา้ใจว่าเป็นการลอกเลียนแบบหรือทา ซ้ ํ าโดยไม่ได้พฒันา ซ่ึงตาม กฎหมายแลว้การทา วศิวกรรมยอ้นรอยหรือวศิวกรรมยอ้นกลบัน้นั ไม่ผิดกฎหมาย เพราะได้รับการคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติความลับทางการค้า พ.ศ.๒๕๔๕ มาตรา ๗ ‘การกระทา อย่างใดอย่างหน่ึงต่อไปน้ีแก่ ความลบัทางการคา้มิให้ถือวา่เป็นการละเมิดสิทธิในความลบัทางการคา้” และ ‘การท าวิศวกรรมย้อนกลับ ไดแ้ก่การคน้พบความลบัทางการคา้ของผูอ้ื่น โดยผู้ค้นพบได้ท าการประเมิน และศึกษาวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ ที่เป็นที่รู้จกักนัทวั่ ไป เพื่อคน้ควา้หาวิธีที่ผลิตภณัฑ์น้นั ไดร้ับการประดิษฐ์จดัทา หรือพฒันาแต่ท้งัน้ีบุคคล ที่ทา การประเมินและศึกษาวเิคราะห์ดงักล่าวจะตอ้งไดผ้ลิตภณัฑเ์ช่นวา่น้นัมาโดยวธิีที่สุจริต” 2. ความเป็ นมาวิศวกรรมย้อนรอย ‘การพฒันาอนั ไม่หยุดย้งัของเทคโนโลยีนอกจากจะเข้ามามีบทบาทในการขบัเคลื่อนโลกให้ กา้วหนา้อยูต่ลอดเวลาแลว้ยงัเป็นการผลกัดนั ให้การแข่งขนัของประเทศต่างๆ มีสูงข้ึนตามไปดว้ย ส าหรับ ประเทศไทยที่อาศยัศกัยภาพในฐานะประเทศผผู้ลิต และส่งออกเป็นฟันเฟืองใหญ่ในการขบัเคลื่อน ประเทศ การหาแนวทาง หรือวิธีการ ที่จะมาช่วยสนบัสนุน ท้งัในดา้นการส่งเสริมกา ลงัการผลิต และคุณภาพของ ผลิตภณัฑใ์หด้ียงิ่ข้ึน จึงเป็นเรื่องที่มีการศึกษาวจิยัและหาแนวทางพฒันามาโดยตลอด วิศวกรรมยอ้นรอยถือเป็นทางเลือกที่จะมาช่วย"ยกระดบั"การแข่งขนั ให้ประเทศไทยทดัเทียมกบั ประเทศอื่นๆ บนเวทีโลกภายใต้กรอบการ พฒันาดังกล่าว แรกเริ่มวิศวกรรมยอ้นรอยถูกน ามาใช้ใน การทหารยุคสงครามโลกคร้ังที่สองและยุคสงครามเยน็เพื่อคดัลอกเทคโนโลยีอุปกรณ์หรือ ขอ้มูลของ ประเทศอื่น อย่างที่กองทพัสหราชอาณาจกัรและกองทพัอเมริกนั ได้ประกาศว่า เยอรมนัมีถงัเก็บน้ ํ ามนั
39 เบนซินที่มีการออกแบบอยา่งยอดเยยี่ม พวกเขาไดท้า วศิวกรรมผนักลบัเพื่อคดัลอกถงัเหล่าน้ีหรือเครื่องบิน ทิ้งระเบิด B-29ของฝ่ายอเมริกนัจา นวนหน่ึงที่ไปปฏิบตัิภารกิจที่ญี่ปุ่น ถูกบงัคบั ให้ลงจอดในสหภาพโซ เวียด ภายในไม่กี่ปีต่อมา โซเวียดไดส้ร้างเครื่องบินทิ้งระเบิด Tu-4 ซึ่งลอกเลียนแบบมาจากเครื่องบิน B-29 ทุกประการ ในปัจจุบนับทบาทของตวัวศิวกรรมยอ้นรอยไดเ้ปลี่ยนไป ซ่ึงในการอธิบายทางวทิยาศาสตร์น้นัถือ เป็นพ้ืนฐานที่ใชร้ะเบียบวธิีทางวทิยาศาสตร์วเิคราะห์การทา งานในแต่ละส่วน จากน้นัจึงนา มาสร้างอุปกรณ์ ใหม่หรือโปรแกรมใหม่ที่ทา งานไดเ้หมือนเดิม ซ่ึงเป็นที่ยอมรับอยา่งแพร่หลายในต่าง ประเทศไม่วา่จะเป็น อเมริกา ญี่ปุ่ น เกาหลี ไต้หวัน เป็ นต้น ส าหรับประเทศไทยน้นัเทคโนโลยีวิศวกรรมยอ้นรอยไดช้่วยพฒันาและสร้างเครื่องจกัรตามความ ตอ้งการของภาคอุตสหากรรมการผลิตที่ส่วน ใหญ่ตอ้งนา เขา้เครื่องจกัรจากต่างประเทศเป็นการลดตน้ทุน การผลิต ท้งัในแง่ของระยะเวลาวิจยัพฒันาที่ช่วย "เปิดโอกาส" ที่จะเกิดการพฒันา เทคโนโลยีใหม่ๆ ให้ เกิดข้ึน ไดอ้ยา่งรวดเร็วไม่ตอ้งลองผิดลองถูกอนัทา ให้สามารถเนน้การคน้ควา้ไดอ้ยา่ง"ตรงประเด็น"และ มี"ประสิทธิภาพ" มาก ยิ่งข้ึน อีกท้งัยงัเป็นการ "ลดค่าใช้จ่าย" ให้กบั ผู้ประกอบการไทยให้ลงทุนสร้าง เครื่องจกัร หรือเครื่องมือไดเ้อง โดยที่ไม่ตอ้งนา เขา้จากต่างประเทศอนัจะ ช่วยลดปัญหาการซ่อมบา รุงไป โดยปริยาย ตลอดระยะเวลาที่ผา่นมา กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไดใ้ห้การสนบัสนุนการพฒันา เทคโนโลยดีว้ยกระบวนการวศิวกรรมยอ้นรอย มาต้งัแต่ปี2547จวบกระทงั่ปัจจุบนันบัเป็นเวลาถึง 10 ปีซ่ึง ที่มา https://createc.mhesi.go.th/sites/default/files/revers%20enginerring.pdf
40 ถือวา่นอ้ยมากเมื่อเทียบกบั ประวตัิศาสตร์การใช้วศิวกรรมยอ้นรอยที่มีมากวา่75 ปีอยา่งไรก็ตามไม่มีขอ้มูล ที่ระบุชดัเจนวา่วศิวกรรมยอ้นรอยเขา้มามีบทบาทต่อการพฒันาประเทศไทยต้งัแต่เมื่อไร และผลของการนา วิศวกรรมยอ้นรอยมาประยุกต์ใช้ในการพฒันาชาติน้นั ปัจจุบนัมีการพฒันาหรือเปลี่ยนแปลงหรือประสบ ความสา เร็จไปในระดบั ใด ใน ขณะที่จีน เกาหลีไตห้วนั ประสบความสา เร็จอยา่งมากในการพฒันาชาติดว้ย วิศวกรรมยอ้นรอย จึงเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจอยา่งยิ่งส าหรับ ประวตัิศาสตร์และความส าเร็จของวิศวกรรม ย้อนรอยของประเทศไทย” Reverse Engineering ที่มา https://createc.mhesi.go.th/sites/default/files/revers%20enginerring.pdf
41 3. ประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับจาก วิศวกรรมย้อนรอย เทคโนโลยี *เพิ่มขีดความสามารถในการพฒันาเทคโนโลยีให้แก่ผูป้ระกอบการไทยสามารถ สร้างเครื่องจักร/เครื่องมือที่ได้เองในประเทศ *ลดการพ่ึงพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศและบริการการซ่อมบา รุงเครื่องจกัรที่ ตอ้งรอผเู้ชี่ยวชาญจากต่างประเทศ * สร้างโอกาสที่จะเกิดการพฒันาเทคโนโลยีใหม่ข้ึนในประเทศ จากการปรับปรุง ดดัแปลงหรือการพฒันาต่อยอด เทคโนโลยีเทคโนโลยี * เกิดการบูรณาการการท างานกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน (PPP) และภาควิชาการ (Triple Helix) ท้งั ผู้ผลิตและผู้ใช้เครื่องจักร * นา ไปสู่การสร้างงาน/สร้างอาชีพ ที่เกี่ยวขอ้ง เช่น การสร้างการซ่อมเครื่องจกัร * คนไทยได้ใช้สินค้าที่ดีมีราคาถูก * ผลิตภาพรวมของประเทศสูงข้ึนกลายเป็นเงินภาษี ย้อนกลับมาพัฒนา สังคมไทยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี * ลดต้นทุนการผลิตสินค้า จากการที่ ผู้ประกอบการผลิตไทยได้ใช้เครื่องจักรที่มีคุณภาพ ทดัเทียมกบัต่างประเทศในราคาที่ถูกกวา่นา เขา้ * ลดการน าเข้าเครื่องจักรจากต่างประเทศ รวมถึงอะไหล่และการบริการซ่อมบา รุงจาก ต่างประเทศ * เพิ่มมูลค่าทรัพยากรของประเทศจากการใชวัสดุและบุคลากรในประเทศ ้ * เพิ่มการจา้งงานในการผลิตเครื่องจกัรจา หน่าย *ลดตน้ทุนและเวลาที่ตอ้งใชใ้นการวจิยัพฒันาข้นัตน้ โดยการพฒันาเทคโนโลยดีว้ยวศิวกรรม ย้อนรอย *เพิ่มศกัยภาพการแข่งขนัดา้นเทคโนโลยขีองไทยเพื่อเตรียมความพร้อมในการเขา้สู่ประชาคม เศรษฐกิจอาเซียนในปี พ.ศ. 2558 เศรษฐกิจ สังคม
42 4. ประเภทของอตุสาหกรรมทเี่กยี่วข้อง วิศวกรรมยอ้นรอยถูกน ามาประยุกต์ใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น อุตสาหกรรม เทคโนโลยีวสัดุเช่น การข้ึนรูปหล่อแบบ ผลิตอะไหล่ชิ้นส่วน รวมไปถึงการยอ้นรอยสูตรทางเคมีเช่น พลาสติก ยาง คอมโพสิท ปูน คอนกรีต กาว เป็ นต้น รวมไปถึงอุตสาหกรรมหนัก ในการผลิตเครื่องมือ เครื่องจักรและอุปกรณ์ที่เกี่ยวพันถึงอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร อุตสาหกรรมการเกษตร อุตสาหกรรมยานยนต์ [อุตสาหกรรมเครื่องจักรกลอัตโนมัติ อุตสาหกรรม พลังงาน ทดแทน รวมไปถึงการท าวิศวกรรมยอ้นรอยของซอฟต์แวร์โปรแกรม หรือระบบปฏิบัติการต่างๆ นอกจากน้ียงัมีการใช้วิศวกรรมยอ้นรอยในเทคโนโลยกีารแพทยแ์ละเวชกรรม ทา ให้เราไดร้ับการรักษาใน ราคาไม่สูงนกัรวมถึงสูตรยาต่างๆที่ราคาไม่แพง ดงัจะเห็นไดว้า่เทคโนโลยีหรือผลิตภณัฑต์ ่างๆรอบตวัเรา มาจากกระบวนการวิศวกรรมยอ้นรอยแทบท้งัสิ้น ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ทีวีมือถือ หรือแมแ้ต่เส้ือผา้ที่ใส่ ถึงแมจ้ะไม่มีผปู้ระกอบการรายใด ยดึอกอยา่งภาคภูมิวา่ธุรกิจของเขาเจริญกา้วหนา้มาไดจ้ากวศิวกรรมยอ้น รอยแต่คงไม่มีผใู้ดปฏิเสธวา่วศิวกรรมยอ้นรอยมีส่วนส่งเสริมศกัยภาพทางการแข่งขนัทางธุรกิจ ที่มา https://createc.mhesi.go.th/sites/default/files/revers%20enginerring.pdf
43 5. การส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องจักรกลผ่านกระบวนการวิศวกรรมย้อนรอยโดย กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ส านักส่งเสริมและถ่ายทอดเทคโนโลยีส านักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สป.วท.) ได้ดา เนินงานโครงการศึกษา พฒันา และถ่ายทอดเทคโนโลยีในกระบวนการผลิตด้วยวิธี วิศวกรรมย้อนรอย (Reverse Engineering RE) มาต้ังแต่ปี๒๕๔๗ จนถึงปี ๒๕๕ ๖ ได้ร่วมทุนกับ สถาบันการศึกษา สถาบันทางวิชาการ สถาบันวิจัย สมาคม และ ผูป้ระกอบการภาคเอกชนมากกว่า ๖๔๐ ล้านบาท และมีการสนับสนุนโครงการไปแล้วจ านวนมากถึง ๔๕ โครงการ โดยมีเป้าหมาย เพื่อพัฒนา ผปู้ระกอบการไทยใหม้ีศกัยภาพในการผลิตเครื่องจกัรกลทดแทนการนา เขา้จากต่างประเทศ อยา่งไรก็ตามโครงการวิศวกรรมยอ้นรอยยงัคงเป็นชื่อโครงการที่ผูไ้ดย้ินรู้สึกติดภาพลบท้งัในและ ต่างประเทศในปีพ.ศ. ๒๕๕๔ จึงมีแนวความคิดที่จะเปลี่ยนชื่อโครงการ ประกอบกบัการขยายขอบเขตการ สนับสนุนของโครงการให้ครอบคลุม ถึงเทคโนโลยีใหม่ที่ต่อยอดจากการทา วิศวกรรมยอ้นรอย เพื่อให้ สอดคลอ้งกบักลไกการสนบัสนุนการพฒันาและถ่ายทอดเทคโนโลยีของประเทศ ดงัน้นั ในปีพ.ศ. ๒๕๕๕ โครงการวิศวกรรมยอ้นรอยจึงเปลี่ยนชื่อเป็น โครงการวิศวกรรมเพื่อการสร้างสรรคค์ุณค่า ดว้ยเหตุผลและ ความหมายของชื่อโครงการตามที่ไดก้ล่าวมา นอกจากเหตุผลปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว การเปลี่ยนชื่อ โครงการวิศวกรรมยอ้นรอย เป็ น โครงการ วิศวกรรมเพื่อการสร้างสรรคค์ุณค่า ยงัเป็นการดา เนินงานตามแนวทางการพฒันาเทคโนโลยีที่ได้ กา หนดไวล้่วงหน้า เพราะนอกจากจะเปลี่ยนชื่อโครงการแลว้ยงัมีการปรับปรุงขอบตเขตการดา เนินงาน ของโครงการให้ครอบคลุมถึงการพฒันาเทคโนโลยีใหม่ในไทยถึงแมไ้ม่มีตน้แบบจากต่างประเทศก็ตาม กล่าวคือ สามารถครอบคลุมเทคโนโลยีที่เกิดจากการต่อยอดเทคโนโลยีเดิมใหก้ลายเป็น เทคโนโลยีใหม่ข้ึน ได้เพื่อใหเ้กิดการพฒันาเทคโนโลยเีครื่องจกัรกลที่เป็น Local Content ของไทย ซ่ึงหากพิจารณาข้นัตอน
44 กลไกการถ่ายทอดเทคโนโลยขีองไทย สรุปง่ายๆ ๓ ขั้นคือ ข้นัตน้ ‘เทศในไทย” : ส่งเสริมใหต้ ่างประเทศลงทุนในประเทศไทยเพื่อหวงัดูดซบัเทคโนโลยี ข้นักลาง ‘ไทยในไทย” : ส่งเสริมให้เกิด Local Content ในประเทศไทย หลังจากที่ดูดซับเทคโนโลยีมา ได้ ระดับหนึ่ง ข้นั ปลาย ‘ไทยในเทศ” : ข้นัสุดยอดของความส าเร็จ คือผูป้ระกอบการไทยสามารถดูดซับเทคโนโลยีจน สามารถพฒันาเป็น ของตวัเอง และกา้วล้ ํ าจนอยู่ระดบัเดียวกนัหรือเหนือกว่าต่างประเทศและสามารถไป ลงทุนในต่างประเทศและแข่งขนัได้ ที่มา https://createc.mhesi.go.th/sites/default/files/revers%20enginerring.pdf
45 ประเทศไทยจึงควรทบทวนกลไกการสนบัสนุนให้เกิดการถ่ายทอดและดูดซบัเทคโนโลยีในระดบั ข้นั‘ไทยในไทย” และ ‘ไทยในเทศ” อยา่งเป็นรูปธรรมดว้ยแนวความคิดขา้งตน้การขบัเคลื่อนระดบัข้นัจาก ‘เทศในไทย” ใหก้า้วข้ึนสู่‘ไทยในไทย” เป็น แนวความคิดที่ก่อเกิดเป็นกลไกการส่งเสริมที่เป็ นต้นแบบของ โครงการวิศวกรรมยอ้นรอย ซ่ึงดา เนินการมาต้งัแต่ปี๒๕๔๗ และกา ลงักา้วเขา้สู่ปีที่๑๐ ใน ปีน้ีอยา่งไรก็ ตาม กลไกการสนบัสนุนตอ้งขบัเคลื่อนไปขา้งหนา้การผลกัดนัและจูงใจใหเ้กิด การขบัเคลื่อนระดบัข้นัจาก ‘ไทยในไทย” ให้เขา้สู่‘ไทยในเทศ” จึงเกิดเป็นโครงการวิศวกรรมสร้างสรรค์คุณค่า เพื่อขบัเคลื่อนกลไก การส่งเสริมให้เกิดการพฒันาต่อยอดเทคโนโลยเีดิมให้กลายเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ทดัเทียมต่างชาติหรือดียงิ่ กว่าเดิมซ่ึงโครงการ วิศวกรรมสร้างสรรค์คุณค่าน้ีจะมีรูปแบบกิจกรรมที่เพิ่มเติมเขา้มาให้สอดคลอ้งกบั แนวคิดดังกล่าว เช่น กิจกรรมการประกวดการ ออกแบบระบบการผลิตแบบอัตโนมัติและ กิจกรรม เทคโนโลยรีีดีไซน์ที่จะเริ่มตน้ ในปี๒๕๕๗ ที่มา https://createc.mhesi.go.th/sites/default/files/revers%20enginerring.pdf
จัดท าโดย นางสาววรรณภา ลองพล ผ ู้ตรวจสอบ อ.พษิณุพงษ ์ พุ่มมะรินทร ์และ อ.วภช หลายวัฒนไพศาล
แบบฝึ กหัด 1. จากภาพชิ้นงาน จงใชโ้ปรแกรม SolidWorks สร้างชิ้นงานดงัรูป โดยใชห้น่วยมิลลิเมตร
เฉลยแบบฝึ กหัด 1. BASE 1.1การสร ้ างเอกสารใหม่คลิกที่New แล้วเลือกสร้าง Part โดยเราจะเริ่ม จากการเขียน part ที่ 1 ชื่อ Base 1.2เมื่อเลือก part และกด ok แล้วให้เราท าการเลือก จุด origin โดยการกดที่ Top plane เพื่อที่จะร่างชิ้นงานเมื่อกด แล้วให้เราท าการสร้างสี่เหลี่ยม center Rectangle คลิกที่ Smart Dimension และกา หนดขนาดตามที่แสดงดา ้ นล่าง