013 บค.
คำนำ คู่มือการปฏิบัติงานบริหารงานบุคคลโรงเรียนอนุบาลยะลา เล่มนี้ จัดทำขึ้นเพื่อประสานความเข้าใจให้ คณะครูที่อยู่ในฝ่ายและบุคคลากรในโรงเรียน ได้ศึกษากฎระเบียบ ข้อบังคับ คำชี้แจง ข้อมูลตลอดจนแนว ปฏิบัติงานของการบริหารฝ่ายบุคคลโรงเรียนอนุบาลยะลา เพื่อจะได้นำไปปฏิบัติให้ถูกต้องและสามารถอยู่ร่วมกัน อย่างมีความสุข ประสบความสำเร็จในการบริหารงานต่าง ๆ ทางโรงเรียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการบริหารงานฝ่าย บุคคลของโรงเรียนอนุบาลยะลา เล่มนี้จะเกิดประโยชน์ต่อครู นักเรียน ผู้ปกครองและผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป ฝ่ายงานบุคคลโรงเรียนอนุบาลยะลา
สารบัญ หน้า คำนำ ส่วนที่ 1 ข้อมูลพื้นฐานโรงเรียน 1 ส่วนที่ 2 ข้อมูลพื้นฐานของฝ่ายงาน แนวคิด วิสัยทัศน์ โครงสร้างการบริหารงานบุคคล ส่วนที่ 3 โครงการ/กิจกรรม 33 ส่วนที่ 4 ปฏิทินการปฏิบัติงาน 36 ภาคผนวก
ส่วนที่ 1 ข้อมูลพื้นฐานโรงเรียน วัตถุประสงค์ 1. เพื่อกำหนดทิศทางการพัฒนาการบริหารจัดการศึกษาของโรงเรียนอนุบาลยะลา 2. เพื่อกำหนดแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาการศึกษาของโรงเรียนอนุบาลยะลาไปสู่การปฏิบัติ 3. เพื่อบูรณาการดำเนินงานตามหน้าที่ต่างๆ ภายในองค์กร มุ่งสู่ความสำเร็จตามมาตรฐานการศึกษา ภายใต้กระบวนการมีส่วนร่วม ข้อมูลทั่วไป โรงเรียนอนุบาลยะลา เปิดสอนระดับอนุบาลปีที่ 1 ถึงประถมศึกษาปีที่ 6 เป็นนักเรียนไป – กลับ มีการ จัดการเรียนการสอนในระดับปฐมวัยและระดับประถมศึกษา โดยในระดับปฐมวัยใช้หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 ระดับประถมศึกษาใช้หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ตลอดระยะเวลากว่า 69 ปีที่ผ่านมา โรงเรียนได้สั่งสมประสบการณ์จัดการศึกษา สร้างนักเรียนให้เป็นคนดี คนเก่งและอยู่ในสังคมได้ อย่างมีความสุข แนวคิดการบริหารจัดการคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา ได้ดำเนินการโดยยึดหลักการบริหาร จัดการคุณภาพตามมาตรฐานสากล พร้อมกับการบริหารแบบมีส่วนร่วมและใช้ SIAM Model ในการขับเคลื่อน ดำเนินงานด้วยวัฒนธรรมขององค์กรที่เข้มแข็ง ควบคุมกำกับติดตามตรวจสอบคุณภาพด้วยระบบวงจรคุณภาพ PDCA 1. ประวัติโรงเรียน โรงเรียนอนุบาลยะลา ตั้งอยู่เลขที่ 131 ถนนเทศบาล 3 ตำบลสะเตง อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา มีเนื้อที่ 16 ไร่ 2 งาน เปิดทำการสอนครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2496 ได้อาศัยอาคารเรียนของโรงเรียนเมือง ยะลาเป็นสถานที่เรียน เปิดสอนชั้นอนุบาล 1 นักเรียนจำนวน 26 คน ครูจำนวน 2 คน โดยมีนาวสาวจิตรา อุดม วงศ์ เป็นครูใหญ่ ในปีพ.ศ. 2497 เปิดขยายอีก 1 ห้องเรียน โดยมีนางสาวพะยอม เอกรัตน์ มารับตำแหน่งครูใหญ่ เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2497 ปี พ.ศ. 2514 นางชูศรี ไชยประสิทธิ์ ได้ดำรงตำแหน่งครูใหญ่วันที่ 22 พฤษภาคม 2514 และได้รับ งบประมาณสร้างส้วมแบบ 401 จำนวน 1 หลัง ในปี พ.ศ. 2520 นางสาวเพ็ญพรรณ จิตโรภาส ได้รับคำสั่งแต่งตั้ง ดำรงตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2520 ได้รับงบประมาณสร้างบ้านพักครู แบบกรมสามัญ จำนวน 1 หลัง เปิดสอนชั้นอนุบาล 1 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 26 ห้องเรียน ในปี พ.ศ. 2523 นางอรพินท์ นาค ประดิษฐ์ ดำรงตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2523 เปิดสอน 29 ห้องเรียน ปีนี้โอนโรงเรียนจากกรม สามัญศึกษาไปสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ(สปช.) ตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2523 ปี พ.ศ. 2539 นายสัญญา สุวรรณโพธิ์ ได้รับคำสั่งแต่งตั้งให้มาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลยะลา วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2539 เปิดสอน 48 ห้องเรียน จัดสร้างอาคารห้องสมุดเครื่องเล่น 1 หลัง ด้วยงบประมาณของ สมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนอนุบาลยะลาและได้รับงบประมาณสร้างอาคารเรียน 1 หลัง แบบ สปช. 2/28 สมาคมผู้ปกครองโรงเรียนอนุบาลยะลา จัดซื้อโต๊ะ เก้าอี้ จำนวน 120 ชุด ในปี พ.ศ. 2544 เปิดสอน 51 ห้องเรียน โรงเรียนได้ปรับปรุงระบบบริหารงานคุณภาพด้านบริการตาม ISO 9002 ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ได้ปรับปรุงพื้น และสวนหย่อมรวมทั้งน้ำตกบริเวณลานไทร หน้าอาคารเรียน 3และได้ปรับปรุง
2 พื้นที่หลังอาคารเรียน 2โดยปูอิฐบล็อกและสร้างส้วม 1 หลัง จำนวน 20 ที่นั่ง ปี พ.ศ. 2546เปิดสอน 48 ห้องเรียนและ ทางสปช. กำหนดให้ทางโรงเรียนเปิด Mini English Program ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 อีก 1 ห้องเรียน รวมเป็น 49 ห้องเรียน โรงเรียนได้จัดสร้างพิพิธภัณฑ์เพื่อการศึกษา เนื่องในมหามงคลการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ใน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธี เปิดพิพิธภัณฑ์ เมื่อ 6กุมภาพันธ์ 2550ในปี พ.ศ. 2551 นางสมบูรณ์ สุวรรณราช ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านโฉลง ได้รับ แต่งตั้งให้มาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลยะลาแทนนายสัญญา สุวรรณโพธิ์ เปิดสอน 49 ห้องเรียน ในปี พ.ศ. 2556โรงเรียนอนุบาลยะลา ได้รับประกาศให้เป็นโรงเรียนประชาธิปไตยตัวอย่างรักษามาตรฐาน ประจำปี 2555 จากคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี และได้รับการรับรองมาตรฐานโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ ระดับ ทอง ปีการศึกษา 2555จากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เปิดสอน 49 ห้องเรียน โดยมีอาคารเรียน จำนวน 5 หลัง อาคารประกอบ จำนวน 8 หลัง โรงครัว 1 หลัง อาคารอเนกประสงค์ 1 หลัง บ้านพักครู 2 หลัง บ้านพักภารโรง 1 หลัง โดยมีนายสมคิด สมพงษ์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลยะลา ในปี พ.ศ. 2561 โรงเรียนอนุบาลยะลา ได้รับ โล่เกียรติคุณ โครงการรวมใจภักดิ์ รักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นใต้ มโนราห์แอโรบิก จากมูลนิธิยุวทูตความดี กระทรวงการ ต่างประเทศ จัดชั้นเรียนในปีการศึกษา 2561 คือ ระดับชั้นก่อนประถมศึกษา จำนวน 11 ห้องเรียน ระดับชั้น ประถมศึกษา จำนวน 36 ห้องเรียน รวมชั้นเรียนทั้งหมด 47 ห้องเรียน นักเรียนระดับก่อนประถมศึกษา จำนวน 292คน นักเรียนระดับประถมศึกษา จำนวน 1,344คน รวมจำนวนนักเรียนทั้งหมด 1,636คน โดยมี นายไพศาล ว่องภาณุสกุล ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลยะลา ในปีการศึกษา 2564 โรงเรียนอนุบาลยะลา มีนายไพศาล ว่องภาณุสกุล ดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน จัดการเรียนการสอน 2ระดับ คือ ระดับชั้นปฐมวัย และระดับประถมศึกษา ตั้งแต่ชั้นอนุบาลปีที่ 1ถึงชั้นประถมศึกษาปี ที่ 6 จำนวน 51 ห้องเรียน มีผู้บริหาร จำนวน 5 คน นักเรียนระดับก่อนประถมศึกษา จำนวน 323 คน นักเรียน ระดับประถมศึกษา จำนวน 1,506คน รวมจำนวนนักเรียนทั้งหมด 1,829คน มีข้าราชการครู จำนวน 75คน พนักงาน ราชการ จำนวน 1 คน ครูชาวต่างประเทศ จำนวน 4คน ครูอัตราจ้าง 14คน และลูกจ้างชั่วคราว จำนวน 19คน และ บุคลากรอื่นๆ จำนวน 8คน รวมมีบุคลากรทั้งสิ้น 132คน มีอาคารเรียน 6 หลัง อาคารประกอบ 8 หลังจำนวนอาคาร ดังกล่าวมีปริมาณเพียงพอต่อการจัดการเรียนด้วยความร่วมมือของผู้บริหาร ความตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากร ในโรงเรียน ตลอดจนการสนับสนุนจากคณะกรรมการสถานศึกษา เครือข่ายผู้ปกครอง ประชาชนทั่วไป ชุมชน หน่วยงาน ทางการศึกษา ส่งผลให้โรงเรียนมีชื่อเสียง มีความเจริญก้าวหน้า นักเรียนจบการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ ได้รับการยก ย่อง ได้รับรางวัล เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติ นับเป็นสถาบันการศึกษาที่สำคัญยิ่ง นอกจากจะได้รับการ ยอมรับในระดับจังหวัด ระดับประเทศแล้ว ยังสามารถสร้างชื่อเสียงในระดับชาติอีกด้วย ปี พ.ศ. 2565 โรงเรียนอนุบาลยะลา ได้รางวัลโรงเรียนโรงเรียนได้รับการคัดเลือกสถานศึกษาเพื่อรับ รางวัล IQA AWARD ประจำปีการศึกษา 2564 ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม ประเภทสถานศึกษาขนาดใหญ่พิเศษ ประกาศเมื่อ 10 กุมภาพันธ์ 2566 ปัจจุบันจัดชั้นเรียนในระดับชั้นก่อนประถมศึกษา จำนวน 11 ห้องเรียน ระดับชั้นประถมศึกษา จำนวน 41 ห้องเรียน รวมชั้นเรียนทั้งหมด 52 ห้องเรียน นักเรียนระดับก่อนประถมศึกษา จำนวน 331 คน นักเรียนระดับประถมศึกษา จำนวน 1,526 คน รวมจำนวนนักเรียนทั้งหมด 1,857 คน มี ข้าราชการครู จำนวน 66 คน พนักงานราชการ ตำแหน่งครูผู้สอน จำนวน 8 คน ครูชาวต่างประเทศ จำนวน 5 คน ครูอัตราจ้าง 16 คน มีอาคารเรียน 6 หลัง อาคารประกอบ 8 หลัง โดยมีนายไพศาล ว่องภาณุสกุล ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลยะลา
3 ปี พ.ศ. 2566 โรงเรียนอนุบาลยะลา ปัจจุบันจัดชั้นเรียนในระดับชั้นก่อนประถมศึกษา จำนวน 11 ห้องเรียน ระดับชั้นประถมศึกษา จำนวน 42 ห้องเรียน รวมชั้นเรียนทั้งหมด 53 ห้องเรียน นักเรียนระดับก่อน ประถมศึกษา จำนวน 305 คน นักเรียนระดับประถมศึกษา จำนวน 1,540 คน รวมจำนวนนักเรียนทั้งหมด 1,845 คน มีข้าราชการครู จำนวน 66 คน พนักงานราชการ ตำแหน่งครูผู้สอน จำนวน 8 คน ครูชาวต่างประเทศ จำนวน 5 คน ครูอัตราจ้าง 16 คน มีอาคารเรียน 6 หลัง อาคารประกอบ 8 หลัง โดยมีนายไพศาล ว่องภาณุสกุล ดำรง ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลยะลา 2. ทำเนียบผู้บริหารโรงเรียนอนุบาลยะลา 3. ข้อมูลอาคารสถานที่ โรงเรียนอนุบาลยะลา มีอาคารเรียน อาคารประกอบ ห้องส้วมและพื้นที่ปฏิบัติกิจกรรม/นันทนาการ ตลอดจนสถานที่และสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียน ดังนี้ อาคารเรียน จำนวน 6 หลัง อาคารประกอบ จำนวน 8 หลัง ส้วม 9 หลัง อาคารอเนกประสงค์ จำนวน 1 หลัง สนามฟุตบอล จำนวน 1 สนาม สนามบาสเก็ตบอล จำนวน 1 สนาม สนามเปตอง จำนวน 2 สนาม สนาม เด็กเล่น จำนวน 1 สนาม ลานเอนกประสงค์ จำนวน 2 แห่ง ห้องสมุดเครื่องเล่น 1 หลัง ที่ ประเภทอาคาร แบบ พ.ศ.ที่สร้าง แหล่งงบประมาณ งบประมาณ 1 อาคารเรียน 1 จำนวน 10 ห้องเรียน 008 2503 เงินงบประมาณ 320,000 2 อาคารเรียน 2 จำนวน 10 ห้องเรียน 1 ห้องพิเศษ 501 2512 เงินงบประมาณ 750,000 3 อาคารเรียน 3 จำนวน 16 ห้องเรียน 004 2517 เงินงบประมาณ 600,000 4 อาคารเรียน 4 จำนวน 18 ห้องเรียน สปช.2/28 2530,2533 เงินงบประมาณ 6,880,000 5 อาคารเรียน 5 จำนวน 12 ห้องเรียน สปช.2-28 2539 เงินงบประมาณ 4,280,000
4 ที่ ประเภทอาคาร แบบ พ.ศ.ที่สร้าง แหล่งงบประมาณ งบประมาณ 6 อาคารเรียน 6 จำนวน 8 ห้องเรียน 108 ล/30 2557 เงินงบประมาณ 6,200,000 7 อาคารอเนกประสงค์ สปช.206/26 2531 เงินงบประมาณ 1,365,000 8 โรงครัว - 2506 เงินงบประมาณ 150,000 9 โรงอาหาร - 2529 เงินบริจาค/โรงเรียนสร้างเอง 188,000 10 โรงฝึกงาน - 2530 เงินบริจาค/โรงเรียนสร้างเอง 280,000 11 โรงฝึกงาน - 2528 เงินบริจาค/โรงเรียนสร้างเอง 160,000 12 หอสมุด - 2535 เงินบริจาค/โรงเรียนสร้างเอง 219,000 13 หอสมุด - 2539 เงินบริจาค/โรงเรียนสร้างเอง 260,000 14 สนามเด็กเล่น - 2547 เงินบริจาค/โรงเรียนสร้างเอง 1,200,000 15 ห้องส้วม 2 ที่นั่ง 401 2513 เงินงบประมาณ 10,000 16 ห้องส้วม 2 ที่นั่ง 401 2514 เงินงบประมาณ 35,000 17 ห้องส้วม 2 ที่นั่ง 401 2514 เงินงบประมาณ 35,000 18 ห้องส้วม 4 ที่นั่ง สปช.601/26 2524 เงินงบประมาณ 47,000 19 ห้องส้วม 4 ที่นั่ง สปช.601/26 2530 เงินงบประมาณ 50,000 20 ห้องส้วม จำนวน 8 ที่นั่ง สปช.602/26 2542 เงินงบประมาณ 230,000 21 ห้องส้วม จำนวน 20 ที่นั่ง สร้างเอง 2554 เงินบริจาค 1,000,000 22 ห้องส้วม จำนวน 10 ที่นั่ง สปช.605/45 2559 เงินงบประมาณ 568,800 4. ที่ตั้งของโรงเรียน โรงเรียนอนุบาลยะลา ตั้งอยู่เลขที่ 131 ถนนเทศบาล 3 ตำบลสะเตง อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา 95000 โทรศัพท์ 073-212790 โทรสาร 073-222312 โรงเรียนอนุบาลยะลา มีเนื้อที่ 16 ไร่ 200 ตารางวา สภาพพื้นที่เป็นที่ราบโดยมีอาณาเขตดังนี้ ทิศเหนือ ติดต่อกับ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตยะลา ทิศใต้ ติดต่อกับ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ทิศตะวันออก ติดต่อกับ ถนนเทศบาล 6 บ้านพักอาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ทิศตะวันตก ติดต่อกับ วิทยาลัยเทคนิคยะลา พื้นที่ในเขตบริการของโรงเรียน คือ จังหวัดยะลา สภาพชุมชนโดยรอบ ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครยะลา ตำบลสะเตง อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา สถานที่ราชการสำคัญที่ตั้งอยู่ ใกล้เคียงได้แก่ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตยะลา มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา โรงเรียนคณะราษฎร บำรุง จังหวัดยะลา วิทยาลัยเทคนิคจังหวัดยะลา สถานที่สำคัญทางศาสนาได้แก่ วัดพุทธภูมิ พระอารามหลวง สถานที่ตั้งโรงเรียนเป็นชุมชนเมือง การคมนาคมสะดวก การติดต่อสื่อสารสะดวก มีสถานประกอบการหลายชนิด อยู่ในชุมชน ฐานะของผู้ปกครองนักเรียนส่วนมากยังอยู่ในระดับดี อาชีพของผู้ปกครองนักเรียนมีหลากหลาย เช่น รับราชการ พนักงานบริษัท ค้าขายประกอบธุรกิจส่วนตัว ผู้ปกครองนักเรียนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ มีประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามอยู่มากมายสืบทอดเป็นมรดกของชุมชน มีภูมิปัญญาท้องถิ่นและปราชญ์ชาวบ้าน
5 หลากหลายสาขา ผู้ปกครองนักเรียนและชุมชนให้ความสนใจและความร่วมมือกับโรงเรียนในการพัฒนาการจัด การศึกษาทุกด้านเป็นอย่างดี โรงเรียนอนุบาลยะลา เปิดสอนระดับอนุบาลปีที่ 1 ถึงประถมศึกษาปีที่ 6 เป็นนักเรียนไป – กลับมีการ จัดการเรียนการสอนในระดับปฐมวัยและระดับประถมศึกษา โดยในระดับปฐมวัยใช้หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 ระดับประถมศึกษาใช้หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 มีห้องเรียนในระดับ ปฐมวัย จำนวน 11 ห้องเรียน ระดับประถมศึกษา จำนวน 41 ห้องเรียน รวมทั้งสิ้น 52 ห้องเรียน 5. สัญลักษณ์โรงเรียนอนุบาลยะลา สีประจำโรงเรียน ชมพู - กรมท่า ดอกไม้ประจำโรงเรียน ดอกหางนกยูง วิสัยทัศน์(Vision) บริหารงานบุคคล มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียน ครูและบุคลากรให้มีคุณภาพ คุณธรรม ดำรงตนบนความพอเพียง สู่มาตรฐานสากลบนพื้นฐานความเป็นไทย พันธกิจ (Mission) 1. พัฒนาผู้เรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้มีคุณภาพ คุณธรรมและจริยธรรม ส่งเสริมการ มีส่วนร่วมเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพในการพัฒนาการศึกษาและดำรงตนอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข 2. พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีสมรรถนะ มีความเชี่ยวชาญ มีความสามารถในการ ออกแบบการเรียนรู้ใช้สื่อ นวัตกรรมในการพัฒนาผู้เรียน กลยุทธ์ของโรงเรียนอนุบาลยะลา 1. ยกระดับคุณภาพผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล 2. พัฒนาและเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรม ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 3. พัฒนาศักยภาพครูให้มีสมรรถนะตามมาตรฐานวิชาชีพ 4. พัฒนาการบริหารจัดการด้วยระบบคุณภาพ เป้าหมาย ( Objective ) 1. พัฒนาคุณภาพครู และบุคลากรทางการศึกษา ตามศักยภาพบุคคล ให้มีความรู้ วินัย มีสมรรถนะตาม สายงาน มาตรฐานตำแหน่ง และมาตรฐานวิชาชีพ 2. พัฒนาส่งเสริมให้นักเรียนเป็นคนดี เก่ง มีคุณธรรมและอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข 3. ส่งเสริมและสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานของครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ทำงานอย่างมี ความสุข และมีประสิทธิภาพ 4. ผู้ปกครอง ชุมชน รัก ศรัทธา และมีส่วนร่วมในการพัฒนาการศึกษา ปรัชญาโรงเรียนอนุบาลยะลา ทักษะเยี่ยม เปี่ยมคุณธรรม นำวิชาการ ทักษะเยี่ยม หมายถึง ผู้เรียนมีทักษะที่สำคัญในการใช้ชีวิตและทำงานในศตวรรษที่ 21 ได้แก่ ทักษะการ เรียนรู้และนวัตกรรม ทักษะสารสนเทศ สื่อ เทคโนโลยี ทักษะชีวิตและอาชีพ
6 เปี่ยมคุณธรรม หมายถึง ผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 8 ประการ ได้แก่ 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2) ซื่อสัตย์สุจริต 3) มีวินัย 4) ใฝ่เรียนรู้ 5) อยู่อย่างพอเพียง 6) มุ่งมั่นในการทำงาน 7) รักความเป็นไทย 8) มีจิตสาธารณะ นำวิชาการ หมายถึง ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ผ่านการประเมินระดับชาติ อยู่ในระดับดี คำขวัญของโรงเรียน ความรู้ดี มีอนามัย ใฝ่คุณธรรม อัตลักษณ์ ผู้เรียนมีมารยาทงาม เอกลักษณ์ พิพิธภัณฑ์เพื่อการศึกษา วัฒนธรรมองค์กร ร่วมคิด ร่วมพัฒนา ใช้ฉันทามติ งานมีผลสัมฤทธิ์ ผู้รับบริการพึงพอใจ ค่านิยมองค์กร SMART รูปแบบการบริหารงานสู่ความเป็นเลิศ
7
8 ข้อมูลบุคลากร จำนวนครูและบุคลากรโรงเรียนอนุบาลยะลา ที่ ประเภทบุคลากร จำนวน (คน) 1. ฝ่ายบริหาร 5 2. ข้าราชการครู 66 3. พนักงานราชการครูผู้สอน 8 4. พนักงานราชการครูพี่เลี้ยง 3 5. ลูกจ้างประจำ 1 6. ครูพี่เลี้ยงเด็กพิการ/ครูการศึกษาพิเศษ 2 7. เจ้าหน้าที่ธุรการ โครงการคืนครูฯ 2 8. วิทยากรชาวต่างชาติ 5 9. ครูอัตราจ้าง 16 10. ครูพี่เลี้ยง (งบโรงเรียน) 9 11. พนักงานรักษาความปลอดภัย 1 12. วิทยากรบุคคลภายนอก 1 13. พนักงานบริการ 6 14. แม่ครัว 6 15. เจ้าหน้าที่สวัสดิการร้านค้า 1 รวม 132 (ข้อมูล ณ วันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2566) ข้อมูลนักเรียน ระดับชั้น จำนวน ห้องเรียน ชาย(คน) หญิง(คน) รวม(คน) เฉลี่ยต่อห้อง อนุบาลปีที่ 1 3 33 38 71 อนุบาลปีที่ 2 4 55 48 103 อนุบาลปีที่ 3 4 58 73 131 รวมชั้นอนุบาล 11 146 159 305 ประถมศึกษาปีที่ 1 7 116 127 243 ประถมศึกษาปีที่ 2 7 129 111 240 ประถมศึกษาปีที่ 3 7 132 120 152 ประถมศึกษาปีที่ 4 7 124 151 275 ประถมศึกษาปีที่ 5 7 139 136 275 ประถมศึกษาปีที่ 6 7 122 113 255 รวมชั้นประถมศึกษา 42 762 778 1,540 รวมทั้งหมด 53 908 937 1,845 ข้อมูล ณ วันที่ 3 กรกฎาคม 2566
9 ส่วนที่ 2 ข้อมูลพื้นฐานของฝ่ายงาน แนวคิด วิสัยทัศน์ โครงสร้างการบริหารงานบุคคล ข้อมูลพื้นฐาน การบริหารงานบุคลากร เป็นกระบวนการเกี่ยวกับบุคคล เพื่อให้ได้มาซึ่งบุคคลดีมีความรู้ความสามารถ เหมาะสมกับงาน เข้ามาทำงานให้ได้ผลดีที่สุด โดยสถานศึกษาสามารถดึงดูดธำรงรักษาและพัฒนาให้มีความรู้ ความสามารถ ทั้งนี้เพื่อสถานศึกษาสามารถทำภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลตามความมุ่งหมาย งานบุคลากรเป็นงานสำคัญงานหนึ่งที่จะทำให้สถานศึกษาประสบความสำเร็จในการดำเนินงาน เพราะงาน บุคลากรเป็นกำลังสำคัญในการบริหารงานด้านอื่น ๆ ให้บรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพได้ แนวคิดในการบริหารงานบุคคล การบริหารงานบุคคลในสถานศึกษา เป็นภารกิจสำคัญที่มุ่งส่งเสริมให้สถานศึกษาสามารถปฏิบัติงานเพื่อ ตอบสนองภารกิจของสถานศึกษาด้านการบริหารงานบุคคล ให้เกิดความคล่องตัวอย่างอิสระ ภายใต้กฎหมาย ระเบียบ เป็นไปตามตามหลักธรรมาภิบาลข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ได้รับการพัฒนา ให้มีความรู้ ความสามารถ มีขวัญกำลังใจ ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติมีความมั่นคงและก้าวหน้าในวิชาชีพซึ่งจะส่งผลต่อการ พัฒนาคุณภาพการศึกษาของผู้เรียนเป็นสำคัญ การพัฒนาทรัพยากรบุคคล ถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะนําองค์กรไปสู่ความสำเร็จ เนื่องจากบุคลากรจะเป็น ผู้ผลักดันให้ภารกิจต่าง ๆ ของสถานศึกษา สำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ดังนั้น องค์กรจําเป็นจะต้องมีการกำหนด กรอบ แนวทางการพัฒนาบุคลากรในสถานศึกษาให้มีความรู้ความสามารถ มีสมรรถนะสอดคล้องตามเป้าหมาย และยุทธศาสตร์ของสถานศึกษาตลอดจนมีคุณลักษณะที่ดีพึงประสงค์และมีทัศนคติที่ดีต่อสถานศึกษา โรงเรียน อนุบาลยะลาจึงได้จัดทำแผนพัฒนาทรัพยากรบุคคล ให้สอดรับกับวิสัยทัศน์พันธกิจ และกลยุทธ์ของ สถานศึกษา โดยกำหนดเป็นยุทธศาสตร์การพัฒนาบุคลากร ที่มุ่งเน้นการบริหารทรัพยากรบุคคลและระบบการประเมินผล เพื่อ เสริมสร้างขีดความสามารถหลักให้แก่บุคลากรโดยนําแนวความคิดการบริหารงานเพื่อให้เกิดผลสำเร็จ อย่างรอบ ด้านมาใช้ในการวางแผนการพัฒนาทรัพยากรบุคคลนโยบายการบริหารงานทรัพยากรบุคคลโรงเรียนอนุบาลยะลา แบ่งเป็น 5 ด้าน ได้แก่ ด้านที่ 1 การวางแผนอัตรากําลังและกำหนดตำแหน่ง ด้านที่ 2 การสรรหาและการบรรจุแต่งตั้ง ด้านที่ 3 การเสริมสร้างประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการ ด้านที่ 4 วินัย และการรักษาวินัย ด้านที่ 5 การออกจากราชการ
10 หมายถึง สายการบังคับบัญชา หมายถึง สายการประสานงาน ขอบข่ายงานฝ่ายบริหารงานบุคคล
11
12
13 การบริหารงานบุคคล การบริหารงานบุคคลในสถานศึกษา เป็นภารกิจสำคัญที่มุ่งส่งเสริมให้สถานศึกษาสามารถปฏิบัติงาน เพื่อตอบสนอง ภารกิจของสถานศึกษา เพื่อดำเนินการด้านการบริหารงานบุคคลให้เกิดความคล่องตัว อิสระภายใต้ กฎหมาย ระเบียบ เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับการพัฒนา มีความรู้ ความสามารถ มีขวัญกำลังใจได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ มีความมั่นคงและก้าวหน้าในวิชาชีพ ซึ่งจะส่งผลต่อ การพัฒนาคุณภาพการศึกษาของผู้เรียนเป็นสำคัญ วัตถุประสงค์ 1. เพื่อให้การดำเนินงานด้านการบริหารงานบุคคลเป็นไปอย่างถูกต้อง รวดเร็ว และเป็นไปตาม หลักธรรมาภิบาล 2. เพื่อส่งเสริมบุคลากร ให้มีความรู้ ความสามารถและมีจิตสำนึกในการปฏิบัติภารกิจที่มีความ รับผิดชอบให้เกิดผล สำเร็จตามการบริหารแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ 3. เพื่อส่งเสริมให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาปฏิบัติงานเต็มตามศักยภาพ โดยยึดมั่นในระเบียบวินัย จรรยาบรรณ อย่างมีมาตรฐานแห่งวิชาชีพ 4. เพื่อให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ปฏิบัติงานได้ตามมาตรฐานวิชาชีพได้รับการยกย่องเชิดชู เกียรติมีความมั่นคงและความก้าวหน้าในวิชาชีพ ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของผู้เรียนเป็นสำคัญ ขอบข่าย/ภารกิจการดำเนินการด้านการบริหารงานบุคคลของสถานศึกษา ตามระบบการพัฒนาการบริหารรูปแบบนิติบุคคล ขอบข่าย/ภารกิจการดำเนินการด้านการบริหารงานบุคคลของสถานศึกษาตามระบบการพัฒนาการ บริหารรูปแบบนิติบุคคล มีรายละเอียดดังนี้ 1. การวางแผนอัตรากำลัง 1.1 รวบรวมและรายงานข้อมูลข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต่อสำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน - จำนวนข้าราชการครู จำแนกตามสาขา - จำนวนลูกจ้างประจำในสถานศึกษา - จำนวนลูกจ้างชั่วคราว - จำนวนพนักงานราชการ 1.2 วิเคราะห์ความต้องการอัตรากำลัง 1.3 จัดทำแผนอัตรากำลังของสถานศึกษา 1.4 เสนอแผนอัตรากำลังของสถานศึกษาโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษา ขั้นพื้นฐานไปยังสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2. การจัดสรรอัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 2.1 รวบรวมและรายงานข้อมูลข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต่อสำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับจำนวนข้าราชการครู จำแนกตามสาขา 2.2 เสนอความต้องการจำนวนและอัตราตำแหน่งของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาใน สถานศึกษา จำแนกตามสาขา ตามเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ. กำหนดต่อสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
14 3. การสรรหาและบรรจุแต่งตั้ง 3.1 เสนอความต้องการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา โดยผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน 3.2 ดำเนินการสรรหาเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคล เป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พนักงานราชการ ลูกจ้างประจำ และลูกจ้างชั่วคราว ตามเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ. กำหนด และสอดคล้องกับแผน อัตรากำลังที่สถานศึกษากำหนด ต่อสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 3.3 ดำเนินการสรรหาและจัดจ้างบุคคลเพื่อปฏิบัติงานในสถานศึกษาตำแหน่งต่างๆ ตามความ ต้องการของสถานศึกษาโดยผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน 3.4 แจ้งภาระงาน มาตรฐานคุณภาพงาน มาตรฐานวิชาชีพ จรรยาบรรณวิชาชีพและเกณฑ์การ ประเมินผลการปฏิบัติงานให้แก่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พนักงานราชการ ลูกจ้างประจำและ ลูกจ้างชั่วคราวทราบเป็นลายลักษณ์อักษร 3.5 ดำเนินการทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการสำหรับบุคลากรทางการศึกษาหรือเตรียมความพร้อม และพัฒนาอย่างเข้มสำหรับผู้ได้รับการบรรจุเข้ารับราชการในตำแหน่ง “ครูผู้ช่วย” ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด 3.6 ติดตามประเมินผลการปฏิบัติงานในตำแหน่งครูผู้ช่วยเป็นระยะๆ ทุก 6 เดือนตามแบบประเมิน ที่ ก.ค.ศ. กำหนด และในการประเมินแต่ละครั้งให้ประธานกรรมการแจ้งผลการประเมินให้ครูผู้ช่วยและผู้มีอำนาจ ตามมาตรา 53 ทราบ และในส่วนของพนักงานราชการและลูกจ้างต้องจัดให้มีการประเมินผลการปฏิบัติงานเป็น ระยะๆ ทุก 6 เดือน 3.7 รายงานผลการปฏิบัติหน้าที่ราชการหรือการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้มแล้วแต่กรณี ต่อสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 3.8 ดำเนินการแต่งตั้งหรือสั่งให้พ้นจากสภาพการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตาม อำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนดหรือเมื่อได้รับอนุมัติคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด 4. การเปลี่ยนตำแหน่งให้สูงขึ้น การย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 4.1 การเปลี่ยนตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษาเสนอความประสงค์และเหตุผลความจำเป็นในการขอเปลี่ยนตำแหน่ง กรณีสมัครใจ กรณีเพื่อ ประโยชน์ของทางราชการ และกรณีถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพต่อผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อส่งให้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด 4.2 การย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ภายในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 4.2.1 การย้ายผู้บริหารสถานศึกษาหรือผู้บริหารสถานศึกษาในหน่วยงานการศึกษาที่เรียกชื่อ อย่างอื่น ผู้บริหารสถานศึกษาเสนอความประสงค์และเหตุผลความจำเป็นในการขอย้ายไปยังสำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแล้วแต่กรณี 4.2.2 การย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 1) รวบรวมรายชื่อและข้อมูลรายชื่อข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ประสงค์ จะขอย้ายและให้ความเห็นเสนอไปยังสถานศึกษาที่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาประสงค์จะขอย้ายไปปฏิบัติงาน 2) พิจารณาให้ความเห็นชอบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ประสงค์จะขอ ย้ายปฏิบัติงานในสถานศึกษา 2.1) ในกรณีที่เห็นชอบการรับย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ เสนอเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อขออนุมัติคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด
15 2.2) ในกรณีให้ความเห็นว่าไม่ควรรับย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้แจ้งเรื่องไปยังผู้บริหารสถานศึกษาต้นสังกัดของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ประสงค์จะขอย้าย ทราบ 3) พิจารณาให้ความเห็นชอบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ประสงค์จะขอ ย้ายปฏิบัติงานในสถานศึกษา 3.1) ในกรณีที่เห็นชอบการรับย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้เสนอเรื่องไปยังเขตพื้นที่การศึกษาเพื่อขออนุมัติคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด 3.2) ในกรณีให้ความเห็นว่าไม่ควรรับย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้แจ้งเรื่องไปยังผู้บริหารสถานศึกษาต้นสังกัดของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ประสงค์จะขอย้าย ทราบ 4) สั่งย้ายและสั่งบรรจุแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาแล้วแต่กรณีตาม อำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด 4.3 การย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ต่างเขตพื้นที่การศึกษา 4.3.1 การย้ายผู้บริหารสถานศึกษาหรือผู้บริหารสถานศึกษาในหน่วยงานการศึกษาที่เรียกชื่อ อย่างอื่น ผู้บริหารสถานศึกษา เสนอความประสงค์และเหตุผลความจำเป็นในการขอย้ายไปยังสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาต้นสังกัดหรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานแล้วแต่กรณี 4.3.2 การย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 1) รวบรวมรายชื่อและข้อมูลข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ประสงค์จะขอ ย้ายและให้ความเห็นเสนอไปยังสถานศึกษาที่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาประสงค์จะขอย้ายไป ปฏิบัติงาน 2) สถานศึกษาพิจารณาให้ความเห็นชอบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ ประสงค์จะขอย้ายมาปฏิบัติราชการในสถานศึกษา 2.1) ในกรณีที่เห็นชอบการรับย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ เสนอเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อขออนุมัติคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด 2.2) ในกรณีที่เห็นว่าไม่สมควรรับย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้ เสนอเรื่องไปยังผู้บริหารสถานศึกษาต้นสังกัดของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ประสงค์จะขอย้าย ทราบ 3) สั่งย้ายและบรรจุแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาแล้วแต่กรณีตาม อำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด 5. การดำเนินการเกี่ยวกับการเลื่อนเงินเดือน 5.1 การเลื่อนเงินเดือนปกติ 1) ประกาศเกณฑ์การประเมินและแนวปฏิบัติในการพิจารณาความดีความชอบให้แก่ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษาทราบโดยทั่วกัน 2) แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาเลื่อนเงินเดือนระดับสถานศึกษาตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ กฎหมายกำหนดให้ฐานะผู้บังคับบัญชา 3) รวบรวมข้อมูลความเห็นของผู้มีอำนาจในการประเมินและให้ความเห็นในการเลื่อน เงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเสนอคณะกรรมการตามข้อ 2 พิจารณา
16 4) แจ้งคำสั่งไม่เลื่อนเงินเดือนให้แก่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในฐานะ ผู้บังคับบัญชาทราบพร้อมเหตุผลไม่เลื่อนเงินเดือน 5) สั่งเลื่อนเงินเดือนให้แก่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในฐานะผู้มีอำนาจสั่งบรรจุ และแต่งตั้ง 5.2 การเลื่อนเงินเดือนกรณีพิเศษ กรณีถึงแก่ความตายอันเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการ 1) เสนอเรื่องพร้อมทั้งข้อเท็จจริงและความเห็นที่เป็นข้อยุติและรายละเอียดต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 2) ดำเนินการด้านสวัสดิการให้แก่ครอบครัวผู้ถึงแก่กรรมอันเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ ราชการตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กฎหมายกำหนดตามความเหมาะสม 6. การลาทุกประเภท 6.1 อนุญาตหรือเสนอขออนุญาตการลาตามนโยบายหลักเกณฑ์และวิธีการของสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานและกระทรวงศึกษาตามที่กฎหมายกำหนด 6.2 เสนอเรื่องการอนุญาตให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต่อให้สำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐานพิจารณาตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนดหรือเพื่อทราบแล้วแต่กรณี 7. การประเมินผลการปฏิบัติงาน 7.1 กำหนดมาตรฐานการปฏิบัติงานและดัชนีชี้วัดผลการปฏิบัติงานของข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษาในสถานศึกษาให้สอดคล้องกับมาตรฐานการปฏิบัติงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ของเขตพื้นที่การศึกษาและที่ ก.ค.ศ. กำหนด 7.2 ดำเนินการประเมินผลการปฏิบัติงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาใน สถานศึกษาตามหลักเกณฑ์และวิธีการตามข้อ 1 7.3 นำผลการประเมินไปใช้ในการบริหารงานบุคคลของสถานศึกษา 7.4 รายงานผลการประเมินการปฏิบัติงานในส่วนที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาร้องขอได้รับทราบ 8. การดำเนินการทางวินัยและการลงโทษ 8.1 การทำผิดวินัยไม่ร้ายแรง 1) กรณีความผิดวินัยไม่ร้ายแรง ให้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนการกระทำผิดวินัยไม่ ร้ายแรงในฐานะผู้บังคับบัญชา 2) พิจารณาลงโทษทางวินัย หากปรากฏผลการสอบสวนว่าผู้ใต้บังคับบัญชากระทำผิดวินัยไม่ ร้ายแรงตามอำนาจที่กฎหมายกำหนด 3) รายงานผลการพิจารณาลงโทษทางวินัยไปยังคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด สำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ ก.ค.ศ. พิจารณาตามลำดับแล้วแต่กรณี ภายในระยะเวลาที่กำหนด 8.2 การกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง 1) ดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริงเบื้องต้นในกรณีที่มีมูลที่ควรกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่าง ร้ายแรงไม่ชัดเจน 2) กรณีมีมูลกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงของครูผู้ช่วยและครูที่ไม่มีวิทยฐานะ ให้แต่งตั้ง คณะกรรมการสอบสวนการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงในฐานะผู้มีอำนาจสั่งบรรจุและแต่งตั้งหรือรายงานผู้มี อำนาจแล้วแต่กรณี
17 3) ประสานกับหน่วยงานการศึกษาอื่นและกรรมการสอบสวนกรณีการกระทำผิดวินัยร่วมกัน 4) พิจารณาสถานโทษหรือสั่งลงโทษตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด กรณีความผิดวินัยไม่ ร้ายแรง 5) รายงานเขตพื้นที่การศึกษาหรือเสนอสถานโทษไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา กรณีเป็น ความผิดวินัยอย่างร้ายแรงของครูผู้ช่วยและครูที่ยังไม่มีวิทยฐานะเพื่อเสนอคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด พิจารณา 9. การสั่งพักราชการและการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน เมื่อมีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณีกระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรงหรือมีเหตุสั่งพัก ราชการหรือสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนให้ดำเนินการภายในขอบเขตอำนาจตามที่กฎหมายกำหนดในกรณี ตำแหน่งครูผู้ช่วยและตำแหน่งครูที่ยังไม่มีวิทยฐานะ 10. การรายงานการดำเนินการทางวินัยและการลงโทษ เสนอรายงานการลงโทษทางวินัยและการลงโทษให้ดำเนินการแก่ข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษาไปยังผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดพิจารณาตาม หลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด 11. การอุทธรณ์และการร้องทุกข์ 11.1 การอุทธรณ์ รับเรื่องอุทธรณ์คำสั่งลงโทษทางวินัยของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาใน สถานศึกษา แล้วเสนอไปยังผู้มีอำนาจตามกฎหมายกำหนดเพื่อพิจารณาในกรณีที่ข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษาเสนอเรื่องอุทธรณ์ผ่านหัวหน้าสถานศึกษา 11.2 การร้องทุกข์ รับเรื่องร้องทุกข์ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษาแล้วเสนอไปยัง ผู้มีอำนาจตามกฎหมายกำหนดเพื่อพิจารณาในกรณีที่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเสนอเรื่องผ่าน หัวหน้าสถานศึกษา 12. การออกจากราชการ 12.1 อนุญาตการลาออกจากราชการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในฐานะผู้มี อำนาจสั่งบรรจุและแต่งตั้งตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กฎหมายกำหนดหรือรับเรื่องการลาออกจากราชการของ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในฐานะผู้มีอำนาจสั่งบรรจุและแต่งตั้งพิจารณาแล้วแต่กรณี 12.2 สั่งให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาออกจากราชการในฐานะผู้มีอำนาจสั่งบรรจุ และแต่งตั้งหรือเสนอให้เขตพื้นที่การศึกษา คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดพิจารณาแล้วแต่กรณี 13. การจัดระบบและการจัดทำทะเบียนประวัติ 13.1 จัดทำข้อมูลทะเบียนประวัติข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาและลูกจ้าง 13.2 ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเกษียณอายุราชการของข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษาและลูกจ้างในสถานศึกษา 13.3 รับเรื่องการแก้ไขวัน เดือน ปีเกิด แล้วเสนอให้ผู้มีอำนาจตามกฎหมายพิจารณา 14. การจัดทำบัญชีรายชื่อและให้ความเห็นเกี่ยวกับการเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ 14.1 ดำเนินการในขอเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้แก่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาและ ลูกจ้างประจำในสถานศึกษาไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เพื่อเสนอผู้มีอำนาจตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ กฎหมายกำหนด
18 14.2 จัดทำทะเบียนผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และลูกจ้างประจำในสังกัด 15. การส่งเสริมการประเมินวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 15.1 สำรวจและรวบรวมข้อมูลการขอให้มีและเลื่อนวิทยฐานะของข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษา 15.2 ประชุมข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจหลักเกณฑ์และ วิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด 15.3 รวบรวมแบบเสนอขอรับการประเมินและรายงานผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ เสนอขอให้มีและเลื่อนวิทยฐานะของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาส่งไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เพื่อดำเนินการต่อไป 16. การส่งเสริมและยกย่องเชิดชูเกียรติ 16.1 ส่งเสริมการพัฒนาตนเอง ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในการปฏิบัติงานให้มี คุณภาพและประสิทธิภาพ เพื่อนำไปสู่การพัฒนามาตรฐานวิชาชีพและคุณภาพการศึกษา 16.2 สร้างขวัญและกำลังใจแก่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาโดยการยกย่องเชิดชูเกียรติ ผู้มีผลงานดีเด่นและมีคุณงามความดีตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดหรือกรณีอื่นตามความเหมาะสม 17. การส่งเสริมมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณวิชาชีพ 17.1 ดำเนินการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ประพฤติปฏิบัติตามระเบียบ วินัย มาตรฐาน และจรรยาบรรณของวิชาชีพครูและบุคลากรทางการศึกษา 17.2 ควบคุมดูแลและส่งเสริมข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีการประพฤติปฏิบัติ ตามระเบียบวินัย มาตรฐานและจรรยาบรรณของวิชาชีพครูและบุคลากรทางการศึกษา 18. การส่งเสริมวินัย คุณธรรมและจริยธรรมสำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 18.1 เป็นตัวอย่างที่ดีแก่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา 18.2 เสริมสร้างและพัฒนาให้ผู้ใต้บังคับบัญชามีวินัยในตนเอง 18.3 ป้องกันไม่ให้ผู้ใต้บังคับบัญชากระทำผิดวินัย 19. การริเริ่มส่งเสริมการขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูและบุคลากรทางการศึกษา ดำเนินการขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพและการต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพของข้าราชการ ครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษาเพื่อเสนอไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาให้ดำเนินการต่อไป 20. การพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา การดำเนินการที่เกี่ยวกับการบริหารงาน บุคคลให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น 20.1 วิเคราะห์ความจำเป็นและความต้องการในการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการ ศึกษาในสถานศึกษา 20.2 จัดทำแผนพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา 20.3 ดำเนินการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษาตามแผนที่กำหนด 20.4 สร้างและพัฒนาความร่วมมือกับเครือข่ายส่งเสริมประสิทธิภาพการศึกษาในการพัฒนา ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 20.5 ประเมินผลการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาและนำผลการประเมินไปใช้ ในการวางแผนพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต่อไป
19 21. การพัฒนาการบริหารรูปแบบนิติบุคคลด้านการบริหารงานบุคคล 21.1 กำหนดรูปแบบนิติบุคคลด้านการบริหารงานบุคคล 21.2 พัฒนารูปแบบนิติบุคคลด้านการบริหารงานบุคคล 21.3 ติดตาม ประเมินผล รับผิดชอบ และรายงานผลการดำเนินงาน เป้าหมาย แนวทางหรือวิธีการปฏิบัติ กลยุทธ์ที่ 3 พัฒนาศักยภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีสมรรถนะตามมาตรฐานวิชาชีพ เป้าหมาย 3 ผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษา มีสมรรถนะตามมาตรฐานวิชาชีพ สามารถออกแบบ การเรียนรู้และมีนวัตกรรมในการพัฒนาผู้เรียน 1. พัฒนาและส่งเสริมให้ผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษา มีจิตวิญญาณของความเป็นครู การเป็นครูมืออาชีพ และยึดมั่นในจรรยาบรรณของวิชาชีพ 2. ส่งเสริมและสนับสนุนครูผู้สอนในการออกแบบและจัดการเรียนรู้ตอบสนองความแตกต่างระหว่าง บุคคลของผู้เรียน 3. ส่งเสริม สนับสนุนการใช้สื่อการเรียนการสอนเทคโนโลยีและนวัตกรรม 4. ส่งเสริมระบบการนิเทศภายในโรงเรียนแบบกัลยาณมิตร 5. ยกย่องเชิดชูเกียรติครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ 6. สร้างเครือข่ายการเรียนรู้ การมีส่วนร่วม ทุกภาคส่วนให้เกิดองค์กรแห่งการเรียนรู้ ตัวชี้วัดความสำเร็จ 1. ร้อยละ 100 ของผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษามีจรรยาบรรณของวิชาชีพ 2. ร้อยละ 100 ของครูผู้สอนสามารถออกแบบและจัดการเรียนรู้ตอบสนองความแตกต่างระหว่าง บุคคลของผู้เรียน 3. ร้อยละ 100 ของครูมีใช้สื่อการสอน เทคโนโลยีและมีนวัตกรรมการสอนที่เป็นเลิศ 4. ครูและบุคลากรรับการนิเทศภายในโรงเรียนอย่างน้อย 2 ครั้งต่อภาคเรียน 5. ร้อยละ 80 ของครูได้รับยกย่องเชิดชูเกียรติและมีความก้าวหน้าในวิชาชีพ 6. มีเครือข่ายการเรียนรู้ และเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้
กรอบทิศทางกลยุทธ์การพัฒนาโรง วิชาการและคุณภาพผู้เรียน วิสัยทัศน์ ยุทธศาสตร์ กลยุทธ์ที่ 1 ยกระดับคุณภาพผู้เรียน ให้มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล กลยุทธ์ที่ 2 พัฒนาและเสริมสร้าง คุณธรรมจริยธรรม ตามหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง กลยุทธ์ที่ 3 พัฒนาศักยภาพครูให้มี สมรรถนะตามมาตรฐานวิชาชีพ กลยุทธ์ที่ 4 พัฒนาการบริหาร จัดการด้วยระบบคุณภาพ
งเรียนอนุบาลยะลา ปีการศึกษา 2566 มาตรฐานการศึกษา นโยบาย สพป.ยล.1 มาตรฐานการประกัน มฐ.1 (1.1) มฐ.2 (2.3) มฐ.3 (3.1, 3.4, 3.5) มาตรฐานการประกัน มฐ.1 (1.2) มาตรฐานการประกัน มฐ.2 (2.4) มฐ.3 (3.2, 3.3, 3.4, 3.5) มาตรฐานการประกัน มฐ.2 (2.1, 2.2, 2.5, 2.6) ข้อ 1 , 2 , 6 , 8, 11 ,12 ข้อ 4 , 5 ข้อ 6, 11 , 12 และเพชรเสมา 3 , 7 , 9 , 10 (3 และ10 ฝ่ ายบท.)
กรอบทิศทางการพัฒนาโรงเรียนอนุบาลย วิสัยทัศน์ ยุทธศาสตร์ กลยุทธ์ที่ 3 พัฒ สมรรถนะตาม งาน
ยะลา ฝ่ายงานบริหารบุคคล ปีการศึกษา 2566 ฒนาศักยภาพครูให้มี มมาตรฐานวิชาชีพ มาตรฐานการประกัน มฐ.2 (2.4) มฐ.3 (3.2, 3.3, 3.4, 3.5) ข้อ 6, 11 , 12 และเพชรเสมา นบุคคล มาตรฐานการศึกษา นโยบาย สพป.ยล.1
วิสัยทัศน์(Vision) โรงเรียนเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ ผู้เรียนมีคุณภาพตามมาตรฐานสากล เปี ระบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ พันธกิจ (Mission) 1. พัฒนาระบบบริหารการจัดการศึกษาด้วยระบบคุณภาพและยึดหลักการมี 2. พัฒนาหลักสูตร การออกแบบจัดการเรียนรู้ตามมาตรฐานการศึกษา มุ่งเน้ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี 3. ส่งเสริมให้ผู้เรียนยึดมั่นคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมหลัก 12 ประการและค 4. พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีสมรรถนะ มีความเชี่ยวชาญ มีคว เป้าหมาย (Objective) 1. ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้น มีคุณภาพตามหลักสูตร มีความส สังคมอย่างสันติสุข 2. ผู้เรียนมีวินัย มีคุณธรรมจริยธรรม ประพฤติปฏิบัติตามคุณลักษณะที่พึงปร 3. ผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษา มีสมรรถนะตามมาตรฐานวิชาชีพ 4. โรงเรียนมีระบบการบริหารที่มีประสิทธิภาพ มีวัฒนธรรมองค์กรแห่งการเรี 5. โรงเรียนมีเครือข่ายทางการศึกษาที่หลากหลายและมีส่วนร่วมรับผิดชอบใน กลยุทธ์ของโรงเรียนอนุบาลยะลา 1. ยกระดับคุณภาพผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล 2. พัฒนาและเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรม ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอ 3. พัฒนาศักยภาพครูให้มีสมรรถนะตามมาตรฐานวิชาชีพ 4. พัฒนาการบริหารจัดการด้วยระบบคุณภาพ
ปี่ยมคุณธรรม ครูมีมาตรฐานวิชาชีพ ขับเคลื่อนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้วย ส่วนร่วมประสานความร่วมมือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน น้นศักยภาพผู้เรียนตามมาตรฐานสากล พัฒนาสมรรถนะนักเรียนทางด้านวิทยาศาสตร์ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง วามสามารถในการออกแบบการเรียนรู้ใช้สื่อ นวัตกรรมในการพัฒนาผู้เรียน สามารถในการสื่อสาร อย่างน้อย 2 ภาษา มีทักษะการคิด ทักษะชีวิตในการอยู่ร่วมกันใน ระสงค์ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สามารถออกแบบการเรียนรู้ และมีนวัตกรรมในการพัฒนาผู้เรียน รียนรู้ นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน อเพียง
ยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) ยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) ที่ใช้เป็นกรอบแนวทางการพ “ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้วด้วยการพัฒนาตาม ยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) มี 6 ยุทธศาสตร์ เกี่ยวข้องกับการจัด ยุทธศาสตร์ที่ 1 การสร้างความมั่นคง ได้แก่ ยุทธศาสตร์ที่ 1.3 การรักษาค ชายแดนและชายฝั่งทะเล ยุทธศาสตร์ที่ 2 การสร้างความสามารถในการแข่งขัน ได้แก่ ยุทธศาสตร์ที่ สารสนเทศและการสื่อสารและการวิจัยและพัฒนา ยุทธศาสตร์ที่ 3 การพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคน ได้แก่ยุทธศาสตร์ ยุทธศาสตร์ที่ 3.2 การยกระดับคุณภาพการศึกษาและการเรียนรู้ให้มีคุณภาพเท่าเทียม ทั่วถึง และยุท ยุทธศาสตร์ที่ 4 ด้านการสร้างโอกาสบนความเสมอภาคและความเท่าเทียมกัน เศรษฐกิจและสังคม ยุทธศาสตร์ที่ 5 ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ ทรัพยากรธรรมชาติ ยุทธศาสตร์ที่ 6 ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ ขนาดที่เหมาะสมและยุทธศาสตร์ที่ 6.4 การต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ เป้าหมาย แนวทางหรือวิธีการปฏิบัติ กลยุทธ์ที่ 1 ยกระดับคุณภาพผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล เป้าหมาย 1 ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้น มีคุณภาพตามหลักสูตร มีความส อย่างสันติสุข 1. พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาให้สอดคล้องเหมาะสมและบูรณาการกิจกรรมเ 2. เพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนทุกกลุ่มสาระ และเพิ่มผลการทดสอบทางการศึ 3. ส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ภาษาจีนเพื่อการสื่อสาร อย่างน้อย 4. พัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะการทำงาน รักการทำงานและมีเจตคติที่ดีต่ออาชีพ
พัฒนาประเทศในระยะ 20 ปี โดยกำหนดวิสัยทัศน์ เป้าหมายและยุทธศาสตร์ ดังนี้วิสัยทัศน์ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” และเป็นคติพจน์ประจำชาติว่า “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” การศึกษาของสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต 1 ดังนี้ ความมั่นคงภายใน และความสงบเรียบร้อยภายใน ตลอดจนการบริหารจัดการความมั่นคง ี่ 2.5 การลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ในด้านการขนส่ง ด้านพลังงาน ระบบเทคโนโลยี ร์ที่ 3.1 การพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต ให้สนับสนุนการเจริญเติบ โตของประเทศ ทธศาสตร์ที่ 3.3 การปลูกฝังระเบียบวินัย คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมที่พึงประสงค์ นทางสังคมได้แก่ ยุทธศาสตร์ที่ 4.1 การสร้างความมั่นคงและการลดความเหลื่อมล้ำทางด้าน สิ่งแวดล้อม ได้แก่ยุทธศาสตร์ที่ 5.1 การจัดระบบอนุรักษ์ ฟื้นฟูและป้องกันการท ำลาย ัฐ ได้แก่ ยุทธศาสตร์ที่ 6.1 การปรับปรุงโครงสร้าง บทบาท ภารกิจของหน่วยงานภาครัฐให้มี สามารถในการสื่อสารอย่างน้อย 2 ภาษา มีทักษะการคิด ทักษะชีวิตในการอยู่ร่วมกันในสังคม เสริมหลักสูตร ศึกษา RT ,NT และ O-NET ย 2 ภาษา เพื่อการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 พสุจริต
5. ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เพื่อการคิดวิเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ ตัดสินใจและ 6. ปลูกฝังและส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม 7. พัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนและกิจกรรมตามกระบวนการแนะแนว 8. ส่งเสริมจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นกระตุ้นพัฒนาสมองด้วยกิจกรรม Brain 9. ส่งเสริมการเรียนรู้ การอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสันติสุข 10.พัฒนาศักยภาพผู้เรียนทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี ตัวชี้วัดความสำเร็จ 1. มีหลักสูตรสถานศึกษาที่สอดคล้องเหมาะสมและมีกิจกรรมเสริมหลักสูตร 2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนทุกกลุ่มสาระเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 และผลการทดสอบท 3. ร้อยละ 90 ของผู้เรียนสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษและภาษาจีน สามารถน 4. ร้อยละ 90 ของผู้เรียนมีทักษะการทำงาน รักการทำงานและมีเจตคติที่ดีต่อ 5. ร้อยละ 90 ของผู้เรียนมีทักษะการคิดวิเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ ตัดสินใจแล 6. ร้อยละ 95 ของผู้เรียนมีนิสัยอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม 7. โรงเรียนมีระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนและกระบวนการแนะแนวมีคุณภาพ 8. ร้อยละ 100 ของผู้เรียนได้เรียนรู้ผ่านกระบวนการพัฒนาสมองด้วย Brain 9. มีกิจกรรมการเข้าค่ายเพื่ออยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข อย่างน้อยปีการศึกษาละ 10. เป็นโรงเรียนศูนย์วิทยาศาสตร์พลังสิบ ระดับประถมศึกษา กลยุทธ์ที่ 2 พัฒนาและเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรม ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิ เป้าหมาย 2 ผู้เรียนมีวินัย มีคุณธรรมจริยธรรม ประพฤติปฏิบัติตามคุณลักษณะที่พึงป 1. ปลูกฝังผู้เรียนด้านคุณธรรม จริยธรรมและคุณลักษณะของนักเรียน 12 ปร 2. พัฒนาและปลูกฝังคุณลักษณะที่พึงประสงค์ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ 3. ส่งเสริมวินัยและประชาธิปไตยสำหรับผู้เรียนผ่านกระบวนการของสภานักเ 4. สนับสนุนการมีส่วนร่วมและเสริมสร้างเครือข่ายในการเสริมสร้างวินัย คุณธ ตัวชี้วัดความสำเร็จ 1. ร้อยละ 100 ของผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรมและคุณลักษณะของนักเรียน
แก้ปัญหาได้อย่างมีเหตุผล ว n gym ทางการศึกษา RT ,NT และ O-NET มีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยระดับประเทศ นำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ ออาชีพสุจริต ะแก้ปัญหาได้อย่างมีเหตุผล พ gym ะ 1 ครั้ง จพอเพียง ระสงค์ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ระการ พอเพียง เรียน ธรรม คุณลักษณะที่พึงประสงค์ให้เกิดกับผู้เรียน 12 ประการ
2. ร้อยละ 100 ของผู้เรียนมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ตามหลักปรัชญาของเศร 3. มีคณะกรรมการสภานักเรียนและขับเคลื่อนกิจกรรมผ่านรูปแบบสภานักเรี 4. ร้อยละ 90 ของผู้ปกครองมีความพึงพอใจในงานส่งเสริมคุณธรรมของโรงเรี กลยุทธ์ที่ 3 พัฒนาศักยภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีสมรรถนะตามมาตรฐ เป้าหมาย 3 ผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษา มีสมรรถนะตามมาตรฐานวิชาชีพ 1. พัฒนาและส่งเสริมให้ผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษา มีจิตวิญญาณ 2. ส่งเสริมและสนับสนุนครูผู้สอนในการออกแบบและจัดการเรียนรู้ตอบสนอง 3. ส่งเสริม สนับสนุนการใช้สื่อการเรียนการสอนเทคโนโลยีและนวัตกรรม 4. ส่งเสริมระบบการนิเทศภายในโรงเรียนแบบกัลยาณมิตร 5. ยกย่องเชิดชูเกียรติครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ 6. สร้างเครือข่ายการเรียนรู้ การมีส่วนร่วม ทุกภาคส่วนให้เกิดองค์กรแห่งการ ตัวชี้วัดความสำเร็จ 1. ร้อยละ 100 ของผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษามีจรรยาบรรณขอ 2. ร้อยละ 100 ของครูผู้สอนสามารถออกแบบและจัดการเรียนรู้ตอบสนองคว 3. ร้อยละ 100 ของครูมีใช้สื่อการสอน เทคโนโลยีและมีนวัตกรรมการสอนที่เ 4. ครูและบุคลากรรับการนิเทศภายในโรงเรียนอย่างน้อย 2 ครั้งต่อภาคเรียน 5. ร้อยละ 80 ของครูได้รับยกย่องเชิดชูเกียรติและมีความก้าวหน้าในวิชาชีพ 6. มีเครือข่ายการเรียนรู้ และเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ กลยุทธ์ที่ 4 พัฒนาการบริหารจัดการด้วยระบบคุณภาพ เป้าหมาย 4 โรงเรียนมีระบบการบริหารที่มีประสิทธิภาพ มีวัฒนธรรมองค์กรแห่งการเ เป้าหมาย 5 โรงเรียนมีเครือข่ายทางการศึกษาที่หลากหลายและมีส่วนร่วมรับผิดชอบใ 1. พัฒนาระบบการบริหารคุณภาพแบบมุ่งเน้นความสำเร็จขององค์กร 2. เสริมสร้างระบบบริหารกิจการบ้านเมืองและสังคมที่ดี Good Governanc 3. สนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาให้ภาคีเข้ามามีส่วนร่วม พัฒนาโรงเรียน ใ 4. พัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา ให้มีประสิทฺธิภาพ
รษฐกิจพอเพียง ยน รียน ฐานวิชาชีพ พ สามารถออกแบบการเรียนรู้และมีนวัตกรรมในการพัฒนาผู้เรียน ณของความเป็นครูการเป็นครูมืออาชีพ และยึดมั่นในจรรยาบรรณของวิชาชีพ งความแตกต่างระหว่างบุคคลของผู้เรียน ษ์ รเรียนรู้ องวิชาชีพ วามแตกต่างระหว่างบุคคลของผู้เรียน เป็นเลิศ เรียนรู้ ในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ce ให้เป็นแบบร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมความสำเร็จ จนเกิดเครือข่ายการพัฒนาการศึกษา พ
5. สร้างและพัฒนาแหล่งการเรียนรู้ ห้องปฏิบัติการสำหรับผู้เรียนในโรงเรียน ตัวชี้วัดความสำเร็จ 1. โรงเรียนได้รับรางวัลสถานศึกษา IQA Award 2. โรงเรียนมีระบบบริหารกิจการบ้านเมืองและสังคมที่ดี Good Governanc 3. โรงเรียนมีภาคีเครือข่ายในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียน 4. โรงเรียนได้รับการรับรองมาตรฐานการศึกษา จากสำนักงานรับรองมาตรฐา 5. มีแหล่งเรียนรู้ ห้องปฏิบัติการสอดคล้องกับความต้องการในการเรียนรู้ของ 6. ผู้ปกครองมีความพึงพอใจในการบริหารการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนอยู่ในระด
e านและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) งผู้เรียน ดับมาก
แสดงการเชื่อมโยงพันธกิจและเป้าหมายของสถานศึกษา การวิเคราะห์กลยุทธ์กับเป้าหมายขององค์กร พัฒนาศักยภาพครูให้มีสมรรถนะตามมาตรฐานวิชาชีพ 3. ผู้ ออก แสดงการวิเคราะห์เป้าหมายกับตัวชี้วัดความสำเร็จ ผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษามีสมรรถนะตามมาตรฐาน วิชาชีพ สามารถออกแบบการเรียนรู้และมีนวัตกรรมในการพัฒนา ผู้เรียน 1. พั เป็นค 2. ส แตก 3. ส่ 4. ส่ พันธกิจ พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีสมรรถนะ มีความ เชี่ยวชาญ มีความสามารถในการออกแบบการเรียนรู้ ใช้สื่อ นวัตกรรมในการพัฒนาผู้เรียน ผู้บริ ออกแ งานบริ
้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษามีสมรรถนะตามมาตรฐานวิชาชีพ สามารถ กแบบการเรียนรู้และมีนวัตกรรมในการพัฒนาผู้เรียน พัฒนาและส่งเสริมให้ผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษา มีจิตวิญญาณของความ ครู การเป็นครูมืออาชีพ และยึดมั่นในจรรยาบรรณของวิชาชีพ ส่งเสริมและสนับสนุนครูผู้สอนในการออกแบบและจัดการเรียนรู้ตอบสนองความ กต่างระหว่างบุคคลของผู้เรียน งเสริม สนับสนุนการใช้สื่อการเรียนการสอนเทคโนโลยีและนวัตกรรม งเสริมระบบการนิเทศภายในโรงเรียนแบบกัลยาณมิตร เป้าหมาย ริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษามีสมรรถนะตามมาตรฐานวิชาชีพ สามารถ แบบการเรียนรู้และมีนวัตกรรมในการพัฒนาผู้เรียน ริหารบุคคล
กรอบกลยุทธ์สู่การปฏิบัติ กลยุทธ์ เป้าหมาย พัฒนาศักยภาพครูและบุคลากร ทางการศึกษาให้มีสมรรถนะตาม มาตรฐานวิชาชีพ ผู้บริหาร ครูและบุคลากร ทางการศึกษา มี สมรรถนะตามมาตรฐาน วิชาชีพ สามารถออกแบบ การเรียนรู้และมี นวัตกรรมในการพัฒนา ผู้เรียน 1. ผู้บริ ทางกา ตามมา สามาร และมีน พัฒนา 2. ส่งเส ครูผู้สอ และจัด ความแ ของผู้เรี 3. ส่งเส สื่อการ เทคโนโ 4. ส่งเส ภายใน กัลยาณ
ตัวชี้วัด กิจกรรม เป้าหมาย ริหาร ครูและบุคลากร ารศึกษา มีสมรรถนะ าตรฐานวิชาชีพ รถออกแบบการเรียนรู้ นวัตกรรมในการ ผู้เรียน 1. พัฒนาและส่งเสริมให้ผู้บริหาร ครูและ บุคลากรทางการศึกษา มีจิตวิญญาณของ ความเป็นครู การเป็นครูมืออาชีพ และยึด มั่นในจรรยาบรรณของวิชาชีพ 100 สริมและสนับสนุน อนในการออกแบบ ดการเรียนรู้ตอบสนอง แตกต่างระหว่างบุคคล รียน 2. ยกระดับสมรรถนะครูผู้สอนในการ ออกแบบและจัดการเรียนรู้ตอบสนองความ แตกต่างระหว่างบุคคลของผู้เรียน 100 สริม สนับสนุนการใช้ รเรียนการสอน โลยีและนวัตกรรม 3. ส่งเสริม สนับสนุนการใช้สื่อการเรียนการ สอน เทคโนโลยี และนวัตกรรม 100 สริมระบบการนิเทศ นโรงเรียนแบบ ณมิตร 4. ส่งเสริมระบบการนิเทศภายในโรงเรียน แบบกัลยาณมิตร ภาคเรียนละ 2 ครั้ง
กรอบกลยุทธ์สู่การปฏิบัติ กลยุทธ์ เป้าหมาย 4. ส่งเส ภายใน กัลยาณ 5. ยกย บุคลาก ผลงาน 6. สร้า การมีส ให้เกิดอ
ตัวชี้วัด กิจกรรม เป้าหมาย สริมระบบการนิเทศ นโรงเรียนแบบ ณมิตร 4. ส่งเสริมระบบการนิเทศภายในโรงเรียน แบบกัลยาณมิตร ภาคเรียนละ 2 ครั้ง ย่องเชิดชูเกียรติครูและ กรทางการศึกษาที่มี นเป็นที่ประจักษ์ 5. ยกย่องเชิดชูเกียรติครูและบุคลากร ทางการศึกษาที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ 80 างเครือข่ายการเรียนรู้ ส่วนร่วม ทุกภาคส่วน องค์กรแห่งการเรียนรู้ 6. การนิเทศ/ติดตามการดำเนินงาน/การ แลกเปลี่ยน มีเครือข่ายการ เรียนรู้ และเป็น องค์กรแห่งการ เรียนรู้
กรอบทิศทางการพัฒนาโรงเรียนอนุบาลย วิสัยทัศน์ ยุทธศาสตร์ กลยุทธ์ มา บริหารงานบุคคล มีการพัฒนาอย่าง ต่อเนื่อง มุ่งเน้น พัฒนาผู้เรียน ครูและ บุคลากรให้มีคุณภาพ คุณธรรมดำรงตนบน ความพอเพียง สู่ มาตรฐานสากลบน พื้นฐานความเป็นไทย ยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) ยุทธศาสตร์ที่ 3 การพัฒนา และเสริมสร้างศักยภาพคน ได้แก่ยุทธศาสตร์ที่ 3.1 การ พัฒนาศักยภาพคนตลอด ช่วงชีวิต ให้สนับสนุนการ เจริญเติบโตของประเทศ ยุทธศาสตร์ที่ 3.2 การ ยกระดับคุณภาพการศึกษา และการเรียนรู้ให้มีคุณภาพ เท่าเทียม ทั่วถึง 1. พัฒนาและส่งเสริม ให้ผู้บริหาร ครูและ บุคลากรทางการศึกษา มีจิตวิญญาณของความ เป็นครูการเป็นครูมือ อาชีพ และยึดมั่นใน จรรยาบรรณของ วิชาชีพ มา มฐ มฐ
ยะลา ปีการศึกษา 2566 ฝ่ายบริหารงานบุคคล าตรฐานการศึกษา นโยบาย สพป.ยล.1 โครงการ/กิจกรรม ผู้รับผิดชอบ าตรฐานการประกัน ฐ.2 (2.4) ฐ.3 (3.2,3.3,3.4,3.5) ข้อ 6 11 12 โครงการส่งเสริม พัฒนาบุคลากรด้วย ระบบคุณธรรม
กรอบทิศทางการพัฒนาโรงเรียนอนุบาลยะล วิสัยทัศน์ ยุทธศาสตร์ กลยุทธ์ ม 2. ส่งเสริมและ สนับสนุนครูผู้สอนใน การออกแบบและ จัดการเรียนรู้ ตอบสนองความ แตกต่างระหว่างบุคคล ของผู้เรียน มา มฐ มฐ 3. ส่งเสริม สนับสนุน การใช้สื่อการเรียนการ สอนเทคโนโลยีและ นวัตกรรม มา มฐ มฐ 4. ส่งเสริมระบบการ นิเทศภายในโรงเรียน แบบกัลยาณมิตร มา มฐ มฐ
ลา ปีการศึกษา 2566 ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน าตรฐานการศึกษา นโยบาย สพป.ยล.1 โครงการ/กิจกรรม ผู้รับผิดชอบ าตรฐานการประกัน ฐ.2 (2.4) ฐ.3 (3.2,3.3,3.4,3.5) ข้อ 6 11 12 เพชรเสมา โครงการส่งเสริมพัฒนา บุคลากรด้วยระบบ คุณธรรม าตรฐานการประกัน ฐ.2 (2.4) ฐ.3 (3.2,3.3,3.4,3.5) ข้อ 6 11 12 เพชรเสมา โครงการส่งเสริมพัฒนา บุคลากรด้วยระบบ คุณธรรม าตรฐานการประกัน ฐ.2 (2.4) ฐ.3 (3.2,3.3,3.4,3.5) ข้อ 6 11 12 เพชรเสมา โครงการส่งเสริมพัฒนา บุคลากรด้วยระบบ คุณธรรม
กรอบทิศทางการพัฒนาโรงเรียนอนุบาลยะล วิสัยทัศน์ ยุทธศาสตร์ กลยุทธ์ ม 5. ยกย่องเชิดชูเกียรติ ครูและบุคลากร ทางการศึกษาที่มี ผลงานเป็นที่ประจักษ์ มา มฐ มฐ 6. สร้างเครือข่ายการ เรียนรู้ การมีส่วนร่วม ทุกภาคส่วนให้เกิด องค์กรแห่งการเรียนรู้ มา มฐ มฐ
ลา ปีการศึกษา 2566 ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน าตรฐานการศึกษา นโยบาย สพป.ยล.1 โครงการ/กิจกรรม ผู้รับผิดชอบ าตรฐานการประกัน ฐ.2 (2.4) ฐ.3 (3.2,3.3,3.4,3.5) ข้อ 6 11 12 เพชรเสมา โครงการส่งเสริมพัฒนา บุคลากรด้วยระบบ คุณธรรม าตรฐานการประกัน ฐ.2 (2.4) ฐ.3 (3.2,3.3,3.4,3.5) ข้อ 6 11 12 เพชรเสมา โครงการส่งเสริมพัฒนา บุคลากรด้วยระบบ คุณธรรม
33 ส่วนที่ 3 โครงการ กิจกรรม 1. ชื่อโครงการ ส่งเสริมพัฒนาบุคลากรด้วยระบบคุณธรรม 2. สนอง กลยุทธ์ที่ 3 พัฒนาศักยภาพครูให้มีสมรรถนะตามมาตรฐานวิชาชีพ มาตรฐาน ที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ ตัวชี้วัด 2.4 3. วัตถุประสงค (จากโครงการ) 3.1 เพื่อให้ครูและบุคลากร มีความรู้เกี่ยวกับวินัยและการรักษาวินัย และมีจรรยาบรรณ มีแนวทาง ในการปฏิบัติงานด้วยคุณธรรม จริยธรรม 3.2 เพื่อพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากทางการศึกษาให้มีความรู้ ความสามารถ นำความรู้ที่ได้จากการ อบรม สัมมนา และศึกษาดูงาน มาใช้ให้เกิดประโยชน์ พัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนเป็นสำคัญในการจัดการ กิจกรรมการเรียนการสอน 3.3 เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ข้าราชการครูและบุคลากร พัฒนาตนเองเพื่อความก้าวหน้าในอาชีพและความ มั่นคงในการดำเนินชีวิตโดย เสนอขอรับการประเมินและ จัดทำผลงานทางวิชาการ เพื่อให้มีหรือเลื่อนวิทยฐานะที่ สูงขึ้น ยกย่องเชิดชูเกียรติผู้มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น ปฏิบัติราชการเต็มเวลา เพื่อให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ครูและ บุคลากรในโรงเรียน 3.4 เพื่อสร้างขวัญกำลังใจในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนหรือคุณภาพในการปฏิบัติงานในหน้าที่และ เพื่อเป็นการสร้างขวัญ และกำลังใจให้แก่บุคลากร สร้างความสัมพันธ์อันดีซึ่งกันและกันระหว่างบุคลากรเพื่อให้ บุคลากรเกิดความมั่นคงในสวัสดิการ สร้างความรัก ความห่วงใยของทางโรงเรียนต่อบุคลากรเช่น การเยี่ยมป่วย ตรวจสุขภาพประจำปี ทำบุญสงเคราะห์ผู้เสียชีวิต จัดหาของขวัญแก่บุคลากรที่ย้ายและเกษียณอายุราชการ จัดหา ของขวัญเพื่อรับขวัญบุตรและหลานของบุคลากร ร่วมกิจกรรมกีฬาอนุบาลประสานใจ เป็นต้น 3.5 เพื่อให้การประเมิน ประสิทธิภาพและ ประสิทธิผลการปฏิบัติงาน ของบุคลากรครูในการ ประกอบการเลื่อนเงินเดือนชัดเจน มีมาตรฐาน โปร่งใส และเป็นธรรม 4. เปาหมาย (จากโครงการ) 4.1 ด้านปริมาณ ครูและบุคลากร จำนวน 132 คน 4.2 ด้านคุณภาพ 4.2.1 ข้าราชการครูและบุคลากรทุกคนมีความตระหนักในเรื่องการรักษาวินัย และมีจรรยาบรรณ มี แนวทางในการปฏิบัติงานด้วยคุณธรรม จริยธรรม 4.2.2 ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้เข้ารับการอบรม สัมมนาและศึกษาดูงานพัฒนา ตนเองมีความรู้ความสามารถ มีเทคนิคการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ 4.2.3 ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับรับการแต่งตั้งและเลื่อนให้มีวิทยฐานะ ที่สูงขึ้น รวมทั้งได้รับรางวัลจากการประกวดแข่งขันทางวิชาการ และรางวัล “ผู้ปฏิบัติราชการเต็มเวลา” 4.2.4 ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีขวัญและกำลังใจเพิ่มยิ่งขึ้นและมีความสัมพันธ์ อันดีซึ่งกัน และกัน 4.2.5 ข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษาได้รับการเลื่อนเงินเดือนตามผล การปฏิบัติงาน อย่างเหมาะสมและเป็นธรรม 5. แนวทางการดําเนินงาน (ขั้นตอนการดําเนินงาน/สรุปรายงานผล) 5.1 เสนอโครงการ 5.2 ประชุมชี้แจง
34 5.3 แต่งตั้งคณะทำงาน 5.4 ดำเนินงานตามโครงการ 5.5 สรุปผลการดำเนินงานตามโครงการ 5.6 จัดทำรายงานผลการดำเนินโครงการ 5.7 ขั้นตอนการดำเนินการ กิจกรรม แต่ละฝ่ายงาน กิจกรรมสำคัญ ระยะเวลา ดำเนินการ ผู้ปฏิบัติ 1. อบรมสัมมนา ศึกษาดูงาน -อบรมคลิปวีดีโอสั้น ด้วยโปรแกรมแคนวา -อบรมเชิงปฏิบัติการ การพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิง รุก Active Learning เพื่อการพัฒนาสมรรถนะผู้เรียน -อบรมเชิงปฏิบัติการ การวัดและประเมินผลในชั้นเรียน เพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรถถนะของผู้เรียน -อบรมการนิเทศเพื่อการพัฒนาและส่งเสริมการจัดการ เรียนรู้เชิงรุก Active Learning -การอบรมปฐมนิเทศครูใหม่ -การอบรมหลักเกณฑ์การขอมี/เลื่อนวิทยฐานะ ว. 9 25 พฤศจิกายน 2565 24 ธันวาคม 2566 4 กุมภาพันธ์ 2566 27 พฤษภาคม 2566 28 มกราคม 2566 นายคุปตพงศ์ หนูประสงค์ นางศิริพร อมรนรชัย นางเสาวนารถ บุตรมาตา และคณะกรรมการ 2. การยกย่องเชิดชูเกียรติ “ผู้ปฏิบัติราชการเต็มเวลา” (ข้าราชการครูและบุคลากร มีความตระหนักในเรื่อง การรักษาวินัย และมีจรรยาบรรณ มีแนวทางในการ ปฏิบัติงานด้วยคุณธรรม จริยธรรม) 1 ตุลาคม 2565 – 30 กันยายน 2566 นางสาวมะลิวรรณ์ จิตกุล นางอามาล โต๊ะตาหยง นางเสาวนารถ บุตรมาตา และคณะกรรมการ 3. สร้างขวัญและกำลังใจ เช่น การเยี่ยมป่วย การตรวจ สุขภาพประจำปี, ทำบุญ ผู้เสียชีวิต /จัดหาของขวัญมอบให้บุคลากรที่ย้าย, ลาออกเกษียณอายุราชการ, รับขวัญบุตร /หลาน, การ ประเมินวิทยฐานะ 1 ตุลาคม – 30 กันยายน 2566 นางเสาวนารถ บุตรมาตา นางอามาล โต๊ะตาหยง และคณะกรรมการ 4. กีฬาอนุบาลประสานใจ 14 จังหวัดภาคใต้ 30 มีนาคม 2566 – 1 เมษายน 2566 นางเสาวนารถ บุตรมาตา และคณะกรรมการ 5. ข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษาได้รับการ เลื่อนเงินเดือนตามผล การปฏิบัติงาน อย่างเหมาะสม และเป็นธรรม 1 ตุลาคม 2565 – 30 กันยายน 2566 นางสาวมะลิวรรณ์ จิตกุล และคณะกรรมการ