Multiculturalism
"ชุมชนย่านเมืองเก่าสงขลา"
อาจารย์ที่ปรึกษา Final Project
อ.นันทนา รัตนชัย
ผลงานนี้เป็นส่วนหนึ่งจากรายวิชา พหุวัฒนธรรมกับสันติภาพ หมวดวิชาศึกษาทั่วไป
มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา
ก
คำนำ
หนังสือชุมชนเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาพหุวัฒนธรรม รหัส (5100129-1)
การนำองค์ ความรู้ไปใช้บริหารสังคมจัดทำขึ้นเพื่อศึ กษาความเป็นพหุวัฒนธรรม
ของชุมชนย่านเมืองเก่าสงขลา ซึ่งคณะผู้จัดทำได้ลงพื้นที่ในชุมชนดังกล่าวเพื่อเก็บ
ข้อมูลและสัมผัสกับวิถีชีวิตชุมชนทำให้ได้รับข้อมูลกิจกรรมและเรื่องราวต่างๆที่ เกิด
ขึ้นในชุมชนอย่างมากมาย
สำหรับหนังสือชุมชนเล่มนี้จะมีเนื้อหาประกอบด้วย ประวัติความเป็นมาของ
ชุมชนย่านเมืองเก่าสงขลา, รายละเอียดเกี่ยวกับชุมชนพหุวัฒนธรรม,แนวทางการ
ปฏิบัติในการอยู่ร่วมกันในชุมชนพหุวัฒนธรรม ,รวมไปถึงข้อเสนอแนะนำการอยู่
ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมในชุมชนย่านเมืองเก่าสงขลา คณะผู้จัดทำหวังเป็น
อย่างยิ่งว่าหนังสือชุมชนเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ ต่อผู้ที่สนใจไม่มากก็น้อย โดยขึ้นอยู่
กับความสนใจของแต่ละบุคคลด้วย
สุดท่ายนี้ขอขอบคุณอาจารย์ที่ปรึกษาทุกท่าน ที่ให้โอกาสนักศึกษาได้
ค้นคว้าหาความรู้และได้เรียนรู้เรื่องราวต่างๆ จากการทำหนังสือชุมชนในครั้งนี้ หาก
มีข้อผิดพลาดประการใด คณะผู้จัดทำขออภัยไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย
คณะผู้จัดทำ
สารบัญ ข
หน้ า
เรื่อง ก
ข
คำนำ 1
สารบัญ 2-26
ประวัติความเป็นมาของชุมชน 4-6
ชุมชนพหุวัฒนธรรม 7
- ประเพณีและวัฒนธรรม 8-10
- เทศกาล 11
- พิธีกรรมและความเชื่อ 12-14
- กิจกรรมของชุมชนย่านเมืองเก่าสงขลา 15-16
- การแต่งกาย 17
- อาหาร 18-20
- ภาษา 21-26
- วิถีชีวิต 27-29
- สถาปัตยกรรม/สิ่งก่อสร้าง 27
แนวทางการปฏิบัติในการร่วมกัน 28
- ความเป็นอยู่ 29
- ข้อปฏิบัติหรือข้อตกลงร่วมกัน 30
- แนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกัน
ข้อเสนอแนะการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม
1
ย่านเมืองเก่า จังหวัดสงขลา มีประวัติความเป็นมา
และมีอายุยืนยาวกว่า 200 ปี โดยดูได้จากความเก่าแก่
ของตึก อาคาร และบ้านเรือน ย่านเมืองเก่าแห่งนี้ ในยุคเริ่มแรก คนที่นี่สร้างเมืองสงขลาด้วยวัฒนธรรมที่ยิ่ง
หัวใจหลักที่ ทำให้ทุกวันนี้ สงขลามีความพิเศษคือ ใหญ่ของชาวมุสลิม ก่อนจะย้ายที่ตั้งเมืองครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นสังคม
ทะเลสาบสงขลา ที่เป็นต้นกำเนิดของเมืองซิงกอรา คือ แบบพหุวัฒนธรรมระหว่างไทยพุทธ ไทยจีน และไทยมุสลิม
ชื่อเดิมของสงขลา เป็นหมุดหมายหนึ่งบนเส้นทางเดิน เรื่อยมา จนย้ายมาสร้างเมืองในที่ตั้งปัจจุบัน ซึ่งเป็นเมืองท่า
เรือโบราณ ที่มีทะเลสาบสงขลาเป็นที่พักหลบมรสุม ค้าขายกับจีน และได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมแบบจีนอย่าง
ทำให้เกิดการค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้า ถ่ายทอด มากในการสร้างเมือง วัฒนธรรมแบบจีนปรากฏในหลายๆอย่าง
ภูมิปัญญา และตั้งถิ่นฐานจนกลายเป็นเมืองสงขลา ในเมืองสงขลาปัจจุบันตั้งแต่คติ ความเชื่อ การวางผังเมือง
ความผูกพันของชาวสงขลากับทะเลสาบสงขลามีมา เทคโนโลยีการก่อสร้างบ้านเรือน เครื่องนุ่ งห่ม และงานช่าง รวม
ตั้งแต่เริ่มสร้างเมือง การเลือกที่ตั้งของเมืองซึ่งมีอยู่ถึง 3 ถึงอาหาร ขนม
ยุคก่อนที่ จะย้ายมาตั้งในที่ ปัจจุบันก็เป็นบริเวณที่ ลุ่มรอบ ทะเลสาบสงขลายังมีลักษณะพิเศษไม่เหมือนใคร เป็น ลา
ทะเลสาบสงขลาทั้ งสิ้น กูนหรือแหล่งน้ำ 3 น้ำ คือน้ำจืด น้ำเค็ม และน้ำกร่อย ขนาดใหญ
ที่ มีทางออกสู่ทะเลแหล่งเดียวในไทยทำให้มีทรัพยากรธรรมชาติ
ที่ หลากหลายและเฉพาะตัวจากการลงสำรวจของกลุ่มภาคีคนรัก
เมืองสงขลา พบว่าสงขลาเต็มไปด้วยเรื่องราวน่ าสนใจที่ยังคงมี
ธรรมชาติที่ สมบูรณ์ ภาพความรุ่งเรืองในอดีตส่งต่อมาจนถึง
ปัจจุบันและยังอยู่ร่วมสมัยได้ด้วยหัวใจในการอนุรักษ์ ของคน
สงขลา รวมถึงคนรุ่นใหม่ที่ช่วยกันต่อยอดมรดกทางวัฒนธรรม
นี้ ด้วยความเข้าใจ
เราเลือกบางส่วนจากข้อมูลจำนวนมากที่ จะเล่าให้เห็นภาพของ
สงขลาผ่านตัวแทน 12 สิ่ง ที่จะทำให้รู้จักสงขลาในมุมมองใหม่
2
ศาสนาพุทธ ศาสนาจีน ศาสนาอิสลาม
ย่านเมืองเก่า จังหวัดสงขลา มีประวัติความเป็นมาและ ในยุคเริ่มแรก คนที่นี่สร้างเมืองสงขลาด้วยวัฒนธรรมที่ยิ่ง
มีอายุยืนยาวกว่า 200 ปี โดยดูได้จากความเก่าแก่ของตึก
อาคาร และบ้านเรือน ย่านเมืองเก่าแห่งนี้ ใหญ่ของชาวมุสลิม ก่อนจะย้ายที่ตั้งเมืองครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นสังคมแบบพหุ
วัฒนธรรมระหว่างไทยพุทธ ไทยจีน และไทยมุสลิม เรื่อยมา จนย้าย
หัวใจหลักที่ ทำให้ทุกวันนี้ สงขลามีความพิเศษคือทะเลสาบ
สงขลา ที่เป็นต้นกำเนิดของเมืองซิงกอรา คือชื่อเดิมของ มาสร้างเมืองในที่ตั้งปัจจุบัน ซึ่งเป็นเมืองท่าค้าขายกับจีน และได้รับ
สงขลา เป็นหมุดหมายหนึ่งบนเส้นทางเดินเรือโบราณ ที่มี อิทธิพลจากวัฒนธรรมแบบจีนอย่างมากในการสร้างเมือง วัฒนธรรม
ทะเลสาบสงขลาเป็นที่พักหลบมรสุม ทำให้เกิดการค้าขาย แบบจีนปรากฏในหลายๆอย่างในเมืองสงขลาปัจจุบันตั้งแต่คติ
แลกเปลี่ยนสินค้า ถ่ายทอดภูมิปัญญา และตั้งถิ่นฐานจน ความเชื่อ การวางผังเมือง เทคโนโลยีการก่อสร้างบ้านเรือน เครื่องนุ่ ง
กลายเป็นเมืองสงขลา ห่ม และงานช่าง รวมถึงอาหาร ขนม
ความผูกพันของชาวสงขลากับทะเลสาบสงขลามีมาตั้งแต่ ทะเลสาบสงขลายังมีลักษณะพิเศษไม่เหมือนใคร เป็นลากูน
เริ่มสร้างเมือง การเลือกที่ตั้งของเมืองซึ่งมีอยู่ถึง 3 ยุคก่อนที่จะ
ย้ายมาตั้งในที่ปัจจุบันก็เป็นบริเวณที่ลุ่มรอบทะเลสาบสงขลาทั้ ง หรือแหล่งน้ำ 3 น้ำ คือน้ำจืด น้ำเค็ม และน้ำกร่อย ขนาดใหญjที่มี
สิ้น ทางออกสู่ทะเลแหล่งเดียวในไทยทำให้มีทรัพยากรธรรมชาติ ที่หลาก
หลายและเฉพาะตัวจากการลงสำรวจของกลุ่มภาคีคนรักเมืองสงขลา พบ
ว่าสงขลาเต็มไปด้วยเรื่องราวน่ าสนใจที่ยังคงมีธรรมชาติที่สมบูรณ์ ภาพ
ความรุ่งเรืองในอดีตส่งต่อมาจนถึงปัจจุบันและยังอยู่ร่วมสมัยได้ด้วย
หัวใจในการอนุรักษ์ของคนสงขลา รวมถึงคนรุ่นใหม่ที่ช่วยกันต่อยอด
มรดกทางวัฒนธรรมนี้ด้วยความเข้าใจ เราเลือกบางส่วนจากข้อมูล
จำนวนมากที่จะเล่าให้เห็นภาพของสงขลาผ่านตัวแทน 12 สิ่ง ที่จะทำให้
รู้จักสงขลาในมุมมองใหม่
คำขวัญจังหวัด 3
สงขลา
นกน้ำเพลินตา สมิหลาเพลินใจ "เมืองใหญ่สองทะเล"
เสน่ ห์ สะพานติณฯ ถิ่นธุรกิจแดนใต้
ชุมชนย่านเมืองเก่าสงขลา
"เมืองเก่าสงขลา" เป็นเมืองสำคัญที่มีมรดกวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าทางด้านประวัติศาสตร์์ศิลปะ
วัฒนธรรมและเป็น แหล่งผสมผสานทางวัฒนธรรมอันหลากหลายของกลุ่มคน 3 ศาสนา คือ ชาวไทย
พุทธ ไทยจีนและไทยมุสลิม ที่สะท้อนออกมา ในรูปแบบวิถีชีวิตชุมชนที่มีเอกลักษณ์ และรูปแบบของ
สถาปัตยกรรมที่โดดเด่น (การเคหะแห่งชาติ2552) ได้รับการประกาศ ขอบเขตเมืองเก่าสงขลา โดย
สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 จึงมี
ขอบเขตพื้นที่เมืองเก่าที่ชัดเจน และมีนโยบายจากหน่ วยงานทางภาครัฐมาสนับสนุนส่งเสริมให้เกิดเป็น
รูปธรรม
4
ประเพณีและวัฒนธรรม
ชาวไทยพุทธ
1.สงกรานต์
จัดขึ้นทุกวันที่ 13 เมษายน ของทุกปี จะมีการละ
เล่นรื่นเริง รดน้ำดหัวผู้ใหญ่และมีการบายศรีพระ
สงฆ์ สมภารเจ้าวัด
2.ลอยกระทง
จัดขึ้นตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ตามปฏิทิน
จันทรคติไทย เดือนพฤศจิกายน จะมีการทำ
กระทงแล้วนำไปลอยในสายน้ำ เชื่อว่า เป็นการ
ลอยเคราะห์ ออกไปและขอขมาพระแม่คงคา
5
ประเพณีและวัฒนธรรม
ชาวไทยพุทธ
3. ประเพณีสารทเดือนสิบ
จะมีขึ้นในวันแรม 1 ค่ำถึงแรม 15 ค่ำ เดือนสิบ
ของทุกปี จะตรงกับเดือนกันยายน ชาวใต้มักจะ
นิยมไปทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับดวง
วิญญาณบรรพชนที่ ล่วงลับไปแล้ว
4. ประเพณีชักพระ
ชาวไทยพุทธทุกคนจะอัญเชิญพระพุทธรูปปางอุ้ม
บาตรขึ้นประดิษฐานบนนบพระ หรือบุษบก และ
แห่โดยใช้เชือกผูกเป็น 2 สาย และมีการใช้ โพน
ฆ้อง ระฆัง เพื่อตีให้จังหวะในการลากพระ
เทศกาลนี้จะจัดขึ้น ในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ตาม
ปฏิทินจันทรคติไทย
6
ประเพณีและวัฒนธรรม
ชาวไทยมุสลิม
ๅ. วันฮารีรายอ
ฮารีรายอเป็นวันสำคัญของชาวมุสลิมทั่ วโลก
ซึ่ งชาวมุสลิมได้เดินทางกลับภูมิลำเนาของ
ตนเอง เพื่อเข้าร่วมประกอบพิธีกรรมทาง
ศาสนาโดยพร้อมเพรียงกัน ได้พบปะสังสรรค์
กับเพื่อน ญาติพี่น้องเพื่อขออภัยซึ่งกันและกัน
2. มาแกปูโละ
ประเพณีการกินเหนียวของชาวไทยที่ นับถือ
ศาสนาอิสลาม จะใช้ในหลายโอกาส เช่น
แต่งงาน และเข้าสุหนัต เป็นการเลี้ยงอาหาร
ให้กับแขกผู้มาเยือน
3. ประเพณีถือศีลอด
ในเดือนรอมฏอน
การถือศีลอดตามความหมายทางศาสนาของ
อิสลามคือการงดเว้นจากการกิน การดื่ม การ
เสพ และการมีความสัมพันธ์ทางเพศ ตั้งแต่
ดวงอาทิตย์ขึ้นจนถึงดวงอาทิตย์ตกตลอดทั้ ง
เดือนรอมฎอนของทุกปีซึ่ งอาจจะมีระยะเวลา
29 หรือ 30 วัน โดยมีเจตนาว่าทําเพื่อ
อัลลอฮฺ
7
เทศกาล
คนไทยเชื้อสายจีน
1. เทศกาลกินเจ
ช่วงเทศกาลกินเจของทุกปีตรงกับเดือน 11
หรือเดือนตุลาคมของไทย ตามปฏิทินสากล
รวมเป็นเวลาทั้ งสิ้น 9 วัน 9 คืน ความเชื่อ
เรื่องการกินเจ เป็นไปในแนวทางของการ
ละเว้นการเอาชีวิตของสัตว์ เพื่อเป็นสักการะ
บูชาแก่พระพุทธเจ้า และมหาโพธิสัตว์กวนอิม
2. เทศกาลตรุษจีน
วันตรุษจีน ลูกหลานมักเดินทางไปเยี่ยมญาติ
ผู้ใหญ่ และมอบคําอวยพรความหมายมงคลทั้ ง
เรื่องสุขภาพและความรํ่ารวย แสดงถึงความ
กตัญญูตรงกับปฏิทินตามจันทรคติจีน ในวัน
ที่ 1 เดือน 1และชาวจีนเริ่มนิยมสักการะเทพเจ้า
และบรรพบุรุษ เพื่อขอพรจากฟ้ าดิน ให้พืชผล
ทางการเกษตรงอกงาม มีกิน มีใช้ ตลอดทั้ งปี
8
พิธีกรรมและความเชื่อ
ชาวไทยพุทธ
1. ทำบุญขึ้นปีใหม่
เมื่อถึงวันที่ 31 ธันวาคม จะมีการทำบุญเลี้ยงพระ
ไปวัดเพิื่อประกอบกิจกุศลต่างๆ เช่น ฟังพระ
ธรรมเทศนา ถือศีลปฏิบัติธรรม ตอนกลางคืน
บางแห่งอาจจัดกิจกรรมงานเลี้ยงสนุกสนาน
2. งานบวช
ชายไทยเมื่ออายุครบบวช จะต้องบวชเพื่อศึกษา
ธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และ
สืบทอดอายุพระพุทธศาสนา สร้างกุศลอันยิ่ง
ใหญ่ให้แก่ตนเอง และบิดามารดา
9
พิธีกรรมและความเชื่อ
ชาวไทยมุสลิม
1. การเข้าสุนัต
มีชื่อเรียกเป็นภาษาถิ่นมลายูว่า "มาโซะยาวี" โดย
คำว่ามาโซะนั้ นหมายถึงการตัด เมื่อรวมกับยาวี
จึงหมายถึง การตัดหรือขริบหนังหุ้ม ปลายอวัยวะ
เพศเพื่อการเป็นมุสลิม
2.ละหมาดวันศุกร์
เป็นการละหมาดรวมหมู่ ที่คนมุสลิมจัดขึ้น
ทุกวันศุกร์ในช่วงเวลาหลังเที่ ยงแทนละ
หมาดซุฮรีเป็นการ ขอพรทางศาสนาที่เกิด
ในช่วงละหมาดซุ ฮรีของวันศุกร์โดยเป็น
หนึ่งในพิธีศาสนาอิสลามที่น่ ายกย่องที่สุด
และ เป็นหนึ่งในที่จําเป็นของคนมุสลิม
6.จัดเลี้ยงอากีเกาะห์
เด็กจะถูกโกนผมไฟ และถูกตั้งชื่อในวันนั้ น
อากีเกาะห์ จะถูกเชือดให้กับเด็กผู้ชายด้วย
กับแกะ 2 ตัว และให้กับเด็กผู้หญิงด้วยกับ
แกะ 1 ตัว
10
พิธีกรรมและความเชื่อ
คนไทยเชื้อสายจีน
1. แห่พระลุยไฟ
พิธีกรรมแห่พระลุยไฟ ซึ่งตามความเชื่อเป็นการล้างสิ่งที่ไม่ดีทั้ งหลาย
ก่อนเข้าไปภายในศาลเจ้า ที่ผู้ที่หามเกี่ยวหรือศิษยานุศิษย์ที่มีความ
ศรัทธาในพิธีกรรมว่าจะไม่เป็นอันตรายใดๆ ขณะลุยไฟอยู่ในกอง
ไฟที่ร้อนและลุกท่วมหัว เชื่อเป็นความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระ
11
กิจกรรมของชุมชนย่านเมืองเก่าสงขลา
“Songkran Music Heritage Festival 2022 เย็นฉ่ำวิถีไทย รื่นเริงใจ
ในเมืองเก่า” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-21 เมษายน 2565
ณ เมืองเก่าสงขลา จังหวัดสงขลา
“สงขลานฤมิต เมืองเก่าพหุศิลป์ สู่มรดกโลก”
จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-31 พฤษภาคม 2565
ณ บริเวณแหลมสมิหลาและโรงสีแดง หับ โห้ หิ้น
“ The Wall at Songkhla 2022 ”
จัดแสดงตั้งแต่วันนี้ถึง 4 กันยายน 2565 เริ่มตั้งแต่เวลา 19.00 – 22.00 น.
ณ บริเวณ 3 จุด ย่านเมืองเก่า
12
การแต่งกายชุมชนย่านเมืองเก่าสงขลา
1. การแต่งกาย (ไทยเชื้อสายจีน)
การแต่งกาย วันไหว้เทศกาลตรุษจีน เสื้อผ้าสีสันสดใส เช่น สีแดง
สีเหลือง และสีเขียว ผู้หญิงอาจใส่เดรสสวยๆ สีแดง ผู้ชายอาจใส่
เสื้อผ้าง่ายๆ
13
การแต่งกายชุมชนย่านเมืองเก่าสงขลา
2. การแต่งกาย (ไทยพุทธ)
การแต่งกาย ประเพณีสารทเดือนสิบ ,ประเพณีลากพระ นุ่ งผ้า
ปาเต๊ะ เพื่อสืบสานประเพณีงานชักพระ ทอดผ้าป่ า และแข่งเรือยาว
ประจำแต่ละปี
14
การแต่งกายชุมชนย่านเมืองเก่าสงขลา
3. การแต่งกาย (ไทยมุสลิม)
การแต่งกายในวันสำคัญต่างๆของชาวมุสลิม เช่น วันแต่งงาน
วันฮารีรายอ ของชาวมุสลิม ผู้หญิงจะแต่งกายด้วยชุดกูรง,
ชุดเดรสคลุมฮีญาบ และผู้ชายจะแต่งกายด้วยชุดปากี, ชุดโต๊ป
เป็นต้น
ส่วนในวันปกติที่ อยู่บ้านชาวมุสลิมที่ เป็นผู้หญิงจะแต่งชุด
ลำลองธรรมดา ผู้หญิงจะใส่เสื้อยืดธรรมดา สวมใส่ผ้าโปร่งคลุม
ฮีญาบหรือใส่เสื้ออาบายาหลวมๆที่สะดวกต่อการทำงาน ส่วนผู้ชาย
จะใส่เสื้อยืดธรรมดา เสื้อโต๊ะบลางอ และสวมใส่ผ้าโสร่ง
15
อาหารชุมชนย่านเมืองเก่าสงขลา
เมนูของคาว
ข้าวสตูหมู
สตูน้ำข้นใส่เนื้อหมู เลือด และเครื่องในกินกับข้าวสวย
เป็นเมนูที่ อยู่คู่เมืองสงขลามานาน อาหารชื่อฝรั่งที่
หน้ าตาดูจีนเป็นอาหารจากความคิดสร้างสรรค์ ของชาว
จีนโพ้นทะเลที่มาตั้งรกรากในสงขลา ชาวจีนไหหลำที่
ทำงานเป็นกุ๊กบนเรือฝรั่ง เรียนรู้เรื่องสตูแบบตะวันตก
และใช้ความคิดสร้างสรรค์ ปรับเปลี่ยนสูตรไปตามพื้นที่ ที่
เรือเดินทางไปถึง
เรือฝรั่งเดินทางไปถึงเกาะชวา แหล่งเครื่องเทศ กุ๊กชาว
ไหหลำจึงได้นำเครื่องเทศมาปรุงกับสตูจานเดิม แต่
เปลี่ยนจากครีมเป็นกะทิ กลายเป็นสตูจานใหม่ เมื่อมาตั้ง
รกรากที่ เมืองไทยจึงได้นำสูตรติดตัวมาด้วย
ก๋วยเตี๋ยวหางหมู
ก๋วยเตี๋ยวหางหมูกันต่อเลย น้ำซุปหวานหอมกลมกล่อม
กลิ่นกระเทียมเจียวหอมมากๆเราสั่ งเป็นเกาเหลาหางหมู
เครื่องเค้าอร่อยทุกอย่าง มี ลูกชิ้นหมู ลูกชิ้นแคระ ลูกชิ้น
เต้าหู้ ปลาแผน ผักบุ้ง แบบก๋วยเตี๋ยวโบราณเลยอร่อยดี
เริ่ด
เต้าคั่ว
เต้าคั่วเป็นอาหารที่ มีมากในแถบลุ่มทะเลสาบ
สงขลาและจังหวัดใกล้เคียง คล้ายกับสลัดแบบชาว
ไทย-มุสลิม แต่ได้รับการผสมผสานวัฒนธรรม
ไทย-จีนและไทย-พุทธ เข้ามาด้วย มีวิธีปรุงและมีชื่อ
เรียกที่ แตกต่างกันในแต่ละจังหวัด เต้าคั่วของ
สงขลามีส่วนประกอบของวัตถุดิบสำคัญที่ เล่าความ
เป็นจังหวัดสงขลาได้ผ่านอาหารจานนี้
ในช่วงเริ่มต้น สตูหมูใส่กะทิแบบเข้มข้น จนค่อยๆ
ปรับให้ถูกปากกับคนในท้องถิ่น สตูหมูที่เคี่ยวน้ำ
ต้มกระดูก ใส่หางและหัวกะทิ ผสมกับเครื่องเทศยา
จีนหอมๆ ใส่เนื้อหมูและเครื่องในหมู กินกับข้าว
สวยและน้ำจิ้ม มีเครื่องเป็นหมูกรอบ หรือจะใส่หมู
กรอบลงไปในสตูด้วยก็เป็นอีกทางเลือกที่ คนนิยม
16
อาหารชุมชนย่านเมืองเก่าสงขลา
เมนูของหวาน
ไอศครีมไอยิว
ไอศครีมวานิลลา เทไข่แดงมันวาว และโรย
ด้วยผงไมโล ไม่ได้เกี่ยวกับคนยิว แต่ยิวมาจาก
ชื่อ นายยิว แซ่เอ่า ผู้คิดสูตรไอศครีมนี้ สมัย
ก่อนการมีไอศครีมขายในแถบเอเชียตะวันออก
เฉียงใต้นั้ นเริ่มต้นที่สิงคโปร์การมีไอศครีมแบบ
ฝรั่งขายในสงขลา จึงพอมองออกว่าสงขลานั้ น
เป็นเมืองทันสมัยแค่ไหน และถ้ามองเผินๆ ไอศ
ครีมไข่แข็งโรยผงไมโลคงมีให้กินได้ไม่ยากใน
ปัจจุบัน แต่ถ้าย้อนกลับไป นม เนย ผงโกโก้ คง
ไม่ใช่ของราคาถูกที่ใครก็จะซื้อกินกันได้ ไอศ
ครีมยิวจึงเล่าให้เห็นถึงความมีเงินมีทองของชาว
สงขลาได้อย่างดี
ขนมบูตู
ร้านขนมบูตู ขนมโบราณของชาว
อิสลาม ที่หาทานยากแล้วในยุคนี้ โดย
ขนมบูตูทำจากแป้ งนึ่งทานคู่กับมะพร้าว
ความหวานจะได้จากน้ำตาลหรือน้ำตาล
ตะโหนด สามารถเลือกได้ค่ะ ร้านเปิดแค่
เสาร์และอาทิตย์เท่านั้ นนะคะ ถ้ามาวัน
ธรรมดาอาจจะหาไม่เจอ
17
ภาษาชุมชนย่านเมืองเก่าสงขลา
เนื่องจากสงขลาเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์ การใช้ภาษาก็จะเป็น
ภาษาถิ่นใต้โดยส่วนใหญ่ สำเนียงในการใช้ภาษาก็จะคงเอกลักษณ์ ความ
เป็นสงขลา รวมถึงยังมีการใช้ภาษาจีนอยู่บ้าง เพราะสงขลาหลากหลาย
ชนชาติและวัฒนธรรม มีหลายศาสนาที่อยู่รวมกัน
ศาสนาอิสลาม ใช้ภาษามาลายูถิ่น ภาษาไทยกลาง และภาษาใต้
ศาสนาพุทธ ใช้ภาษาไทยกลาง และ ภาษาใต้
คนไทยเชื้อสายจีน ใช้ภาษาจีนกลาง ไทยกลาง และภาษาใต้
เช่น หนีห่าว อัลซะลามุอะลัยกุม
สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะ กินข้าวแล้วยัง มาแกนาซืลากี
กินข้าวแล้วหม้าย สบายดีไหม บากายมานา อันดา
สบายดีหม้าย
18
วิถีชีวิตชุมชนย่านเมืองเก่าสงขลา
วิถีชีวิตคนในชุมชนย่านเมืองเก่าสงขลาในอดีตบริเวณนี้ เคยเป็นท่า
เทียบเรือเพื่อการค้าขายและขนส่งสินค้าจากต่างประเทศ ดูได้จากการ
มีโรงสีข้าวขนาดใหญ่ ซึ่งปัจจุบันที่แห่งนี้ได้ชื่อว่า หับ โห้ หิ้น หรือที่
ชาวสงขลาเรียกกันว่า โรงสีแดง โรงสีข้าวแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณริมทะเล
สาปสงขลา ทำให้ชุมชนแห่งนี้ในอดีตทำอาชีพเพาะปลูกข้าวเป็นส่วน
ใหญ่
19
วิถีชีวิตชุมชนย่านเมืองเก่าสงขลา
วิถีชีวิตคนในชุมชนย่านเมืองเก่าสงขลาในปัจจุบัน เป็นวิถีชีวิตที่ผสม
ผสาน ลงตัว มีสเน่ ห์ คนในชุมชนมีความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ของ
ชุมชน มีความพยายามที่จะอนุรักษ์เอกลักษณ์ ต่างๆของชุมชน เอาไว้เพื่อ
เป็นความภาคภูมิใจแก่คนรุ่นหลังโดยการรวมตัวกันของภาคประชาชน
ต่างๆและสนับสนุนส่งเสริมของภาครัฐในท้องถิ่น และอาชีพในชุมชนส่วน
มากจะประกอบอาชีพ ข้าราชการ คนรับจ้าง พ่อค้า และอาชีพอิสระทั่ วไป
การใช้ชีวิตในชุมชนเป็นแบบ “พอเพียง” ใช้ชีวิตกิน อยู่อย่างพอดี ไม่
ฟุ้ งเฟ้ อ ไม่มีค่านิยมเน้นความโก้หรู จับจ่ายใช้สอยจากร้านชุมชน อุดหนุน
คนท้องถิ่น ทำให้ชุมชนแม้ไม่ได้เติบโตอย่างหวือหวา แต่ก็สามารถรักษา
กิจการ ร้านค้าต่างๆในชุนชนให้อยู่มาได้ต่อเนื่องยาวนาน
20
วิถีชีวิตชุมชนย่านเมืองเก่าสงขลา
จุดเด่นของชุมชนเป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ ท้ังทรัพยากรธรรมชาติ
ทรัพยากรบุคคล มีโครงสร้างพื้นฐานที่ดี ซึ่งเป็นต้นทุนที่สำคัญใน
การพัฒนาชุมชน อีกท้ังยังเป็นเมืองพหุวัฒนธรรมที่มี ความสงบสุข
ผลิตภัณฑ์ ชุมชนมีหลากหลายที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษคือ
ผลิตภัณฑ์ อาหาร ทั้ งอาหารทะเลตากแห้ง ขนมโบราณ
อาหารพื้นเมือง ซึ่งปัจจุบันได้พัฒนาทั้ งบรรจุภัณฑ์ และ ยืดอายุของ
อาหารให้สามารถจัดจาหน่ วยและจัดส่งได้ทั่ วประเทศ
21
สถาปัตยกรรม/สิ่งก่อสร้างชุมชนย่านเมืองเก่าสงขลา
1. ตึกแถวแบบจีนดั้งเดิม
สร้างในช่วงปี พ.ศ.2379 ซึ่งเป็นช่วงแรกในการตั้งเมืองสงขลา รูป
แบบสถาปัตยกรรมจะมีส่วนหน้าค้าขาย ด้านบนใช้เก็บของ มีช่องส่งของ
เล็ก ๆ มีความยาวจากที่ดินประมาณ 30 - 40 เมตร และเนื่องจากเป็น
แปลงดินที่ยาว ผู้ออกแบบจึงได้ออกแบบให้มีช่องเปิดโล่ง (Court) กลาง
ส่วนอาคารด้านหลังเป็นที่พักอาศัย กรมศิลปากรได้ระบุว่าห้องแถวแบบ
จีนหลังแรกของสงขลาตั้งอยู่บนถนนเก้าห้อง (ถนนนางงาม
2.ตึกแถวแบบจีนพาณิชย์
ลักษณะเป็นอาคารถัดมาจากรูปแบบจีนดั้งเดิม การออกแบบมีอายุ
ประมาณ 70 ปีขึ้นไป รูปแบบกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมคล้ายแบบจีน
ดั้งเดิมแต่ประยุกต์ให้ทันสมัยขึ้น ลักษณะที่สองเป็นอาคารตอบสนอง
ทางการค้า ไม่มีองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรรม
22
สถาปัตยกรรม/สิ่งก่อสร้างชุมชนย่านเมืองเก่าสงขลา
3. ตึกแถวแบบจีนสมัยใหม่
ได้รับอิทธิพลจากตะวันตก อาคารอยู่ในช่วงอายุตั้งแต่ 30 ปี ขึ้นไป
มีแผงปกปิดหลังคา และจะมีอักษรแสดงปี พ.ศ. ปรากฏบนแผงดังกล่าว
บางหลังมีหลังคาจั่ว หรือปั้ นหยาซ้อนอยู่ บางหลังเป็นหลังคา คสล. ส่วน
ใหญ่มักมีตั้งแต่ 2-4 ชั้น
2.ตึกแถวแบบสงขลาดั้งเดิม (ชิโน-ยูโรเปี้ยน)
มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมที่ประดับตกแต่งด้วยลวดลายแบบจีน และ
ยุโรปผสมกันคล้ายกับรูปแบบที่เรียกว่าชิโนโปรตุกิสซึ่งพบมากที่ภูเก็ต แต่
ที่สงขลาจะไม่มีทางเดินใต้อาคารที่เรียกว่า หงอคากี่ อาคารจะมีช่องเปิดกลาง
อาคารและเป็นที่ตั้งของบ่อน้ำ ซึ่งในอดีตน้ำดื่มจะมีรสจืดสะอาดจนสามารถ
ดื่มได้
23
ภาพวาดสตรีทอาร์ท
เป็นถนนที่มีสตรีทอาร์ทอยู่ตามซอยเล็ก ซอยน้อย เดินลัดเลาะไป
ตามซอยจะได้พบกับมุมถ่ายภาพมากมายสีสันของงานศิ ลปะเอกลักษณ์
และเรื่องราวคงอยู่ก็คงจะเป็นการเพิ่มสีสันของตึกราบ้านที่ สะท้อนถึง
เรื่องราววิถีชีวิตและวัฒนธรรมบนผนังอาคารและบ้านเรือน สะะท้อนให้
เห็นวัฒนธรรมการดำเนินชีวิตของคนในท้องถิ่น และเป็นที่ดึดดูดให้นัก
ท่องเที่ยวได้มาเยี่ยมชม จังหวัดสงขลาอีกด้วย
24
สถาปัตยกรรมที่ หลากหลายย่านเมืองเก่าสงขลา
วัดเลียบ ( พุทธ )
ตั้งอยู่ ถนนไทรบุรี อ.เมือง เป็นวัดใหญ่และสำคัญที่สุดในจังหวัด
สงขลาเมื่อ 400 ปีมาแล้ว ยายศรีจันทร์ คหบดีผู้มั่งคั่งในเมืองสงขลา
ได้อุทิศเงินสร้างขึ้น ต่อมาประชาชนพากันเรียกว่า "วัดกลาง"
25
สถาปัตยกรรมที่ หลากหลายย่านเมืองเก่าสงขลา
ศาลเจ้าหลักเมืองสงขลา ( จีน )
ตั้งอยู่ บนถนนนางงามเลยค่ะ เป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่มาก ๆ สร้างขึ้น
เมื่อ 2538 ซึ่งถือว่านานที่สุดในบรรดาศาลเจ้าในจังหวัดสงขลา
ถือว่าเป็นศูนย์ รวมของชาวไทยชาวจีนหรือชาวไทยเชื้อสายจีน
ศาลหลักเมืองสงขลามีพื้นที่ใหญ่มาก และสถาปัตยกรรมแบบจีนที่
สวยงาม ภายในมีเทพเจ้าให้กราบไหว้มากถึง 20 จุด
26
สถาปัตยกรรมที่ หลากหลายย่านเมืองเก่าสงขลา
มัสยิดอุสาสน ( อิสลาม )
ตั้งอยู่ ต.บ่อยาง อ.เมือง มัสยิดอุสาสนอิสลามหรือมัสยิดบ้านบน
ถูกสร้างขึ้นในปีพ.ศ.2390โดยช่างชุดเดียวกันกับที่เกณฑ์ ไปสร้าง
วัดมัชฌิมาวาสหรือวัดกลางตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่ ง-
เกล้าเจ้าอยู่หัว
27
แนวทางการปฏิบัติในการร่วมกัน
ในสังคมพหุวัฒนธรรมชุมชนย่านเมืองเก่าสงขลา
ความเป็นอยู่
หัวใจหลักที่ ทำให้ทุกวันนี้ สงขลามีความพิเศษคือทะเลสาบสงขลา
ทำให้ชุมชนย่านเมืองเก่าสงขลาเป็นชุมชนที่ เกิดจากการแลกเปลี่ยน
วัฒนธรรมกับชาวต่างชาติไม่ว่าจะเป็นอาคารสถาปัตยกรรมจีน
สถาปัตยกรรมชิโนยูโรเปียน สถาปัตยกรรมผสม และสถาปัตยกรรม
ร่วมสมัย สถาปัตยกรรมเหล่านี้ต่างก็มีความงดงามที่แตกต่างกันออก
ไป รวมไปถึงการผสมผสานทางวัฒนธรรมอันหลากหลายของกลุ่ม
คน 3 ศาสนา คือ ชาวไทยพุทธ ไทยจีนและไทยมุสลิม
ในอดีตชาวบ้านแถบนี้นิยมปลูกข้าวทำการเกษตร เนื่องจากมีพื้นที่
ติดกับทะเลสาบสงขลา แต่ในปัจจุบัน ชาวบ้านแถวนี้นิยมหันมาทำ
อาชีพค้าขายแทน ทั้ งที่เป็นร้านค้าสะดวกซื้อ ร้านขายของพื้นเมือง
และร้านขายของฝาก
28
แนวทางการปฏิบัติในการร่วมกัน
ในสังคมพหุวัฒนธรรมชุมชนย่านเมืองเก่าสงขลา
ข้อปฏิบัติหรือข้อตกลงร่วมกัน
เคารพซึ่ งกันและกัน
ยอมรับวิถีวิชิตของคนในสังคมที่ มีความแตก
ต่างกันทางด้านความคิด ความเชื่อ ศาสนา โดย
การทำความเข้าใจและ เรียนรู้สังคมวัฒนธรรมที่
ต่างจากตนเอง
เคารพและปฏิบัติตามกฏ ระเบียบ และข้อ
บังคับของชุมชนอย่างเคร่งครัดและ
สม่ำเสมอเพื่อเป็นแบบอย่างให้คนในชุมชน
รุ่นหลังได้ปฏิบัติตาม
ไม่แสดงกิริยา และวาจาดูหมิ่นผู้อื่น
การอยู่ร่วมกับคนในสังคมที่ มีความแตกต่างกัน
จำเป็นต้องให้ความเคารพสิทธิและเสรีภาพผู้อื่น
ช่วยเหลือซึ่ งกันและกัน
ในการอาศัยอยู่ร่วมกันในสังคม คนในสังคม
ควรช่วยเหลือเกื้อกูลแบ่งปันซึ่ งกันและกันโดย
ไม่นำความแตกต่างทางวัฒนธรรมมาเป็นข้อ
จำกัด รู้จักการเสียสละ เพื่อประโยชน์ ส่วนรวม
เพื่อให้สังคมสงบสุข
ศึ กษาวัฒนธรรมต่างๆในโลก
ควรศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรม ในภูมิภาคต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจ
เรียนรู้วัฒนธรรมที่ต่างจากตนเอง เพื่อการอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
ปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของวัฒนธรรม
การอาศัยอยู่ร่วมกันในสังคมที่มีความ หลากหลาย จำเป็นต้องมีการปรับตัว
และยอมรับการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เพื่อความเจริญก้าวหน้าของสังคม
29
แนวทางการปฏิบัติในการร่วมกัน
ในสังคมพหุวัฒนธรรมชุมชนย่านเมืองเก่าสงขลา
แนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกัน
มีการจัดประชุมของชุมชนในแต่ละเดือนเพื่อหารือและแก้ไข
ปัญหาร่วมกันของคนในชุมชน
การแก้ไขปัญหาต้องเป็นไปอย่างเที่ ยงตรงและยุติธรรมเนื่ องจาก
ประชากรส่วนใหญ่มีความแตกต่างกันทั้ งทางด้านความคิด ความ
เชื่อ ศาสนา
ทำข้อตกลงและกฏระเบียบร่วมกันให้ชัดเจนและควรเผยแพร่ให้
กับคนในชุมชนได้รับทราบ
คนในชุมชนร่วมกันกับหลายภาคส่วนเพื่ออนุรักษ์ ไว้ซึ่ ง
สถาปัตยกรรมที่ งดงามย่านเมืองเก่าสงขลา
30
ข้อเสนอแนะนำการอยู่ร่วมกันในสังคม
พหุวัฒนธรรมชุมชนย่านเมืองเก่าสงขลา
1. ควรจัดให้มีกิจกรรมในเชิงส่งเสริมวัฒนธรรมของการอยู่ร่วมกันของคนในชุมชนสังคม
พหุวัฒนธรรม
2. ควรส่งเสริมและพัฒนาชุมชนในด้านสิ่งแวดล้อมเพราะคนในชุมชนส่วนใหญ่เป็นผู้สูงวัย
หากมีสิ่ งแวดล้อมที่ เอื้อต่อผู้สูงวัยจะสามารถส่งผลเชิงบวกต่อคุณภาพชีวิตคนในชุมชน
ได้
3.ควรมีโครงการร่วมกันอนุรักษ์สถาปัตยกรรมของชุมชนเนื่องจาก สถาปัตยกรรมส่วน
ใหญ่ในชุมชนมีอายุค่อนข้างที่ จะเก่าแก่
4. ควรส่งเสริมเยาวชนในชุมชนให้มีรายได้โดยการจัดทำโครงการมัคคุเทศก์ น้ อย
5.ควรส่งเสริมสินค้าในชุมชนย่านเมืองเก่าให้ไปสู่สินค้าระดับจังหวัดหรือสินค้า OTOP เช่น
อาหารทะเลตากแห้ง ขนมพื้นเมือง เป็นต้น
6.ผู้คนในชุมชนควรมีส่วนร่วม ในการจัดกิจกรรมของชุมชนในแต่ละครั้ง
7.ประชาชนทุกเชื้อชาติควรส่งเสริมและให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวของชุมชน เช่น อาจ
จะนำของดี ของแต่ละศาสนามาร่วมจำหน่ ายในร้านค้าชุมชนเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รู้จัก
เพิ่มมากขึ้น
8.ควรเผยแพร่วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม และวิถีชีวิตของชุมชนผ่านสื่อ Online เพื่อดึงดูด
ให้นักท่องเที่ ยวเพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน
9. ปลูกจิตสำนึกให้คนในชุมชนอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขถึงแม้ว่าจะแตกต่างด้านเชื้อชาติ
ศาสนา
10.รักษากฏระเบียบของชุมชน เช่น กำหนดเวลาในการซื้อขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใน
ย่านชุมชน เพื่อส่งผลให้การเกิดอุบัติเหตุในย่านชุมชนที่จะตามมาลดลง
11.ควรจำกัดพื้นที่จอดรถให้เป็นระเบียบ เน้นย้ำให้ใช้การเดินเท้ามากกว่าการใช้ยานพาหนะ
ในย่านชุมชน
12.ควรตั้งกฏจราจรในการขับรถอย่างเคร่งครัด เนื่องจากเป็นเขตชุมชนและมีรถ
พลุกพล่าน
13.ควรมีป้ ายเตือน ห้ามไม่ให้แตะต้องหรือขีดข่วน สถาปัตยกรรมในย่านชุมชน เพื่อให้อยู่คู่
เมืองเก่าย่านสงขลาสืบต่อไป
14. ควรเป็นหูเป็นตาในการสอดส่องดูแลบริเวณที่ นักท่องเที่ ยวเดินเข้ามาเยี่ยมชมเพื่อ
ป้ องกันสถาปัตยกรรมและยังเป็นการช่วยลดอาชญากรรมในชุมชนได้อีกด้วย
"สมาชิกในกลุ่ม"
1.นายสดายุตม์ เกกินะ 436408004 นิติศาสตร์ ปี 2
2.นายณัฐวุฒิ มานะพัฒนะพงศ์ 436408012 นิติศาสตร์ ปี 2
3.นายวรวิชญ์ เจริญสุข 436408013 นิติศาสตร์ ปี 2
4.นายพงศธร บือซา 436408018 นิติศาสตร์ ปี 2
5.นายศักดา ชาตรี 436408024 นิติศาสตร์ ปี 2
6.นายอภิวิชญ์ บัวโพด 436408031 นิติศาสตร์ ปี 2
7.นายกิตติพัศ เท่งประกิจ 436408035 นิติศาสตร์ ปี 2
8.นายบุรินทร์ อาษาวิมลกิจ 436408048 นิติศาสตร์ ปี 2
9.นางสาวกัญญารัตน์ เสาวคนธ์ 436408058 นิติศาสตร์ ปี 2
10.นายอัฐพล กาญจนมล 436408075 นิติศาสตร์ ปี 2
11.นายอาซูเบร บาเหะ 436408086 นิติศาสตร์ ปี 2
12.นายทรงวิชญ์ แก้วมณี 436408100 นิติศาสตร์ ปี 2
13.นายคุณเดช คุ้มแก้วพรหม 436408134 นิติศาสตร์ ปี 2