ศิลปะภาพพิมพ์1

46

ภาพประกอบที่ 45 ชอ่ื ผลงาน ไมม่ ชี ือ่ / Untitled
ชอ่ื ศิลปิน นาสาวยวุ รี คดิ สาราญ
เทคนคิ กาวรอ้ นผสม DRYPOINT
ขนาด 40x60 เซนตเิ มตร
ท่ีมา

https://web.facebook.com/Yuwarii.muay/photos_all ,( 2559)

47

ภาพประกอบที่ 46 ชอ่ื ผลงาน ไมม่ ชี ือ่ / Untitled
ชอ่ื ศิลปิน นาสาวยวุ รี คิดสาราญ
เทคนคิ กาวรอ้ นผสม DRYPOINT
ขนาด 30x40 เซนตเิ มตร
ท่ีมา

https://web.facebook.com/Yuwarii.muay/photos_all ,( 2559)

48

ภาพประกอบท่ี 47 ชอ่ื ผลงาน ไมม่ ชี ือ่ / Untitled
ช่อื ศลิ ปิน นาสาวยุวรี คดิ สาราญ
เทคนิค กาวรอ้ นผสม DRYPOINT
ขนาด 40x60 เซนติเมตร
ที่มา

https://web.facebook.com/Yuwarii.muay/photos_all ,( 2559)
จากภาพตัวอยา่ งและผลการพมิ พ์ออกมาเป็นภาพนน้ั ได้เหน็ ความสดของเทคนิค ความเปน็

น้าหนกั ขาว เทา ดา ที่เกดิ ข้ึนขน้ึ โดยไม่ไดม้ ีการควบคุม แตเ่ กิดจาก เวลา ของกาวร้อนกบั แผ่นแม่พิมพ์
กาวร้อนมีคณุ สมบัติแห้งเรว็ มคี วามเหลวมาก สามารถไหลไปได้ทกุ พ้นื ที่ท่ีเราต้องการ และเมือ่ น้ากาว
รอ้ นไหลผ่านผวิ แมพ่ ิมพ์ในขณะนั้นกาวก็จะกัดเพื่อให้เกิดเป็นรอ่ งลกึ และกาวเชอื่ มแผน่ อะคลลี ิคสามารถ
สร้างพนื้ ผวิ ไดเ้ ป็นท่นี า่ พอใจ

49

5. สรุป
เทคนคิ นโี้ ดยใช้น้าเปล่ามาเป็นตวั กนั ทาใหม้ ีพืน้ ผวิ และนา้ หนักเปน็ ทีน่ ่าพอใจ เมื่อ

สงั เกตดๆี จะเหน็ ไดว้ ่ามรี ่องรอยของใบมดี คัตเตอร์ทก่ี รีดลงในคร้ังแรกเปน็ ตัวขังหมึกเหมือนกบั เทคนิค
จารเข็ม Dry point เมอ่ื นาแม่พิมพ์มาส่องกับแสงสว่างสามารถมองเหน็ ลวดลาย พื้นผิวไดช้ ัดขน้ึ แตไ่ ม่
สามรถมองเหน็ คา่ น้าหนักของสที จ่ี ะปรากฏขึน้ ในงานได้ เพราะไมม่ สี ตู รปริมาณกาวร้อนและเวลาที่
แนน่ อนจงึ จาเปน็ ต้องอาศยั การคาดเดา หรอื องิ หลกั การของกระบวนการทาภาพพิมพ์โลหะในข้นั ตอน
การแช่กรด ทีม่ ีเวลาเป็นตัวกาหนดทแ่ี น่ชดั ยกตวั อย่างครา่ วๆ ยงิ่ แช่นานก็ย่ิงทาให้กรดกดั ผวิ หน้า
แม่พิมพ์โลหะมึกความลึกลงไป

50

บทท่ี 5

การสรา้ งภาพพิมพ์ด้วยกรรมวธิ ีแม่พิมพ์ชอ่ งฉลุ (stencil process)
เทคนิคภาพพิมพ์แมพ่ ิมพต์ ะแกรงไหม (Silk screen)

1.สรา้ งสรรคผ์ ลงานศลิ ปะภาพพมิ พ์ด้วยเทคนคิ ภาพพิมพ์แม่พมิ พต์ ะแกรงไหม (Silk screen)
วัตถปุ ระสงค์
1. เพอ่ื ใหผ้ ้เู รียนได้ศึกษาวธิ ีการสรา้ งผลงานภาพพิมพด์ ว้ ยเทคนคิ ภาพพมิ พช์ อ่ งฉลุ
2. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นได้ทดลองและทาความเขา้ ใจเกีย่ วกับคุณลักษณะของภาพพมิ พ์ชอ่ งฉลุ
3. เพื่อใหผ้ เู้ รียนไดม้ ีทักษะในการทาภาพพิมพแ์ มพ่ ิมพต์ ะแกรงไหม

เนอื้ หา
1. หลกั การทาภาพพิมพแ์ ม่พิมพ์ตะแกรงไม
2. กรรมวธิ ี อุปกรณ์ ในการสร้างสรรค์
3. ข้นั ตอนการสรรค์ภาพพิมพ์ชอ่ งฉลุ
4. ตัวอยา่ งผลงานการสร้างสรรคภ์ าพพิมพ์แม่พิมพ์ตะแกรงไหม
5.สรปุ

กจิ กรรมการเรยี นรู้
1. บรรยายประกอบ PowerPoint
2. ผู้เรยี นไดล้ งมอื ปฏบิ ัตงิ านจรงิ ในห้องเรียน
3. สังเกตการณ์ ช่วยกนั แกป้ ัญหาระหวา่ งผู้สอนและผู้เรียน

วธิ ีการประเมินผล
1. ประเมินผลดว้ ยการตรวจสอบคณุ ภาพผลงานในเบ้ืองต้น

1. ประวตั ิ

51

การพิมพ(์ ซิลค)์ สกรนี (Silkscreen printing) ในอดีตมนษุ ย์เริ่มเรียนรวู้ ิธีการตัด การเจาะวัสดุ
จากธรรมชาตเิ ช่นใบไม้ หนงั สัตว์ ให้เกดิ เปน็ รูปรา่ ง แลว้ นามาพิมพ์ลงบนพนื้ ผิววัสดุต่าง ๆ ซึง่ วิธีการ
ดงั กลา่ วถูกเรยี กวา่ การทาลายฉลุ (Stencil) วิวฒั นาการของการทาลายฉลใุ ห้เกดิ เป็นรูปต่างๆ ถูก
พัฒนามาอย่างต่อเนื่องโดยในประเทศจีนยุคสมัยของราชวงศ์ซ่ง (ชว่ งปี ค.ศ960-1279)ได้มกี ารพิมพ์
ตวั อักษรและรูปภาพโดยใชก้ ระดาษทีฉ่ ลดุ ้วยการตัดหรือเจาะเป็นชอ่ งแล้วจงึ ใชห้ มึกพน่ หรือปาดไปบน
แม่พิมพ์ฉลุนนั้ ซึ่งการพมิ พ์ในลกั ษณะนี้ถูกเรยี กว่าการพิมพ์ลายฉลุ (Stencil Printing) การพิมพ์ลายฉลุ
พบอย่างแพรห่ ลายในทวีปเอเชีย ในครสิ ตศ์ ตวรรษท่ี 17 ชาวญ่ีป่นุ ได้รับการยกยอ่ งวา่ มีฝมี อื ในด้านการ
ตดั กระดาษด้วยมือเป็นพิมพ์ลายฉลุ โดยชาวญ่ีปนุ่ ไดพ้ ยามยามคดิ ค้นวิธที ีจ่ ะผูกโยงชน้ิ สว่ นของลายฉลซุ ่ึง
ถูกตัดขาดเกิดเป็นชน้ิ ส่วนท่แี ยกออกจากกันให้สามารถยดึ โยงเป็นแม่พิมพ์ชน้ิ เดยี วกันเพ่ือไม่ใหเ้ ปน็
อปุ สรรคในเวลาทีจ่ ะทาการพิมพ(์ เน่ืองจากแม่พมิ พ์ไม่ได้เป็นกระดาษชิน้ เดียวกัน)วธิ ีท่ชี าวญ่ปี นุ่ คดิ คน้ ขึน้
และนาไปสู่พนื้ ฐานของการพิมพซ์ ลิ คส์ กรีนในทา้ ยท่สี ุดกค็ ือการนาเส้นผมของคนมาถักเป็นตะแกรง
เนอ่ื งจากเสน้ ผมมขี นาดเล็กมีความเหนียวและทนต่อแรงดงึ ได้ดีและทีส่ าคญั น้าหมึกสามารถทะลุผา่ นได้
การถักเสน้ ผมเปน็ ตะแกรงเพ่ือใช้เป็นโครงท่มี ีความแขง็ แรงในการยึดโยงชิน้ สว่ นของพิมพ์ลายฉลุ ดว้ ย
วิธกี ารทาแม่พิมพ์ลายฉลขุ ้ึนมาสองชุดท่เี หมือนกนั แล้วประกบเข้าดว้ ยกัน(ใชก้ าว) โดยมตี ะแกรงเสน้ ผม
ท่ีถกั ขึ้นอยู่ระหวา่ งกลางแลว้ จึงทาการพ่นหรือปาดหมึกทบั ลงไปบนแม่พมิ พซ์ ึง่ วิธีดังกล่าวถูกเรยี กว่าการ
พมิ พ์ฉลตุ ะแกรงเส้นผม (Hair Stencil Printing) ในปี 1907 จากแนวคิดดง้ั เดิมในการพิมพ์ฉลดุ ว้ ย
ตะแกรงเส้นผมของชาวญป่ี ุ่น แซมมัว ไซมอน ชาวอังกฤษ ไดค้ ิดคน้ วิธีการพมิ พโ์ ดยปราศจากการผกู โยง
โดยการนาเสน้ ใยไหมซึง่ มีความละเอียด เหนยี วและทนต่อแรงดึงกวา่ เส้นผมนามาทอเปน็ ตะแกรงไหม
แลว้ นาพิมพ์ลายฉลุวางแนบลงไปข้างใต้(ทากาวเปน็ ตวั ประสาน) แลว้ จึงวางทับลงไปบนวัสดทุ ีต่ ้องการ
จะพมิ พ์ เมื่อใชห้ มึกปาดลงไปบนตะแกรงไหม หมึกจะแทรกผา่ นรขู องตะแกรงไหมในพ้นื ทซี่ ง่ึ ไมไ่ ด้ถูกทา
กาวลงไปยังผวิ ของวตั ถุ กรรมวธิ ดี ังกล่าวถอื เปน็ จุดเร่ิมตน้ ของคาว่า การพมิ พ์ตะแกรงไหม หรือ
Silkscreen โดยนาย แซมมัว ไซมอน ไดจ้ ดสิทธบิ ตั รแนวความคิดนีแ้ ละถูกนามาใช้จวบจนปจั จุบนั ดว้ ย
ความกา้ วหน้าทางด้านเทคโนโลยีส่งิ ทอ เสน้ ใยสงั เคราะหป์ ระเภท ไนลอ่ น โพลีเอสเตอร์ และ เสน้ ใย
โลหะ ได้ถกู นามาใช้ทาผ้าสกรนี แทนการทอจากเสน้ ใยไหม ในปัจจบุ ันเราจึงมิอาจพบเหน็ บลอ็ คสกรนี ท่ี
ถกู ขงึ ด้วยผา้ ทท่ี าจากเสน้ ใยไหมในกระบวนการงานสกรีนเส้อื อกี ต่อไป และน่ีจึงเป็นท่ีมาของคาอมตะใน
แวดวงการสกรนี "ซลิ ค์สกรนี "

2.หลกั ทาภาพพิมพ์แม่พมิ พ์ตะแกรงไหม Silkscreen

52
2.1 กรอบสกรีน (Screen Frame)

ไมท้ ีน่ ยิ มนามาทากรอบสกรนี กนั มากท่สี ดุ คือ ไม้สกั เนื่องจากวา่ เมื่อเน้ือไม้
แห้งแล้วจะมีการหดตวั นอ้ ยมาก แต่ในกรณีท่ตี ้องการใชไ้ ม้ชนดิ อน่ื แทน ก็อาจจะใชไ้ ม้แดง ไม้ฉาฉาแต่
คณุ สมบัตจิ ะไม่เทา่ ไมส้ ัก

2.2 วิธกี ารเข้ากรอบ (Frame Joint)
ดงั หมายเลขและภาพประกอบ
1. การตดั ต่อตรง เป็นวธิ ีที่งา่ ยและรวดเรว็ ทสี่ ดุ เพยี งแต่ต่อไม้ให้

ตรงกัน แลว้ ใชต้ ะปตู ีไม้ 2 ช้นิ เขา้ ด้วยกนั
2. การเขา้ ฉาก โดยการตัดไมใ้ หเ้ ป็นมมุ เฉยี ง 45 องศาแลว้ ติดเขา้

ด้วยกัน วธิ ีนีไ้ ม้จะยึดตดิ กันให้แน่นกว่าการตดั ต่อโดยตรง
3. การเขา้ ลม่ิ โดยการตดั ไม้ข้างหน่ึงใหเ้ ป็นล่มิ หรอื เดอื ยสว่ นอกี ข้าง

หนึ่งแซะเปน็ ร่องโดยอัดเขา้ ให้พอดีกับล่ิมหรอื เดือยทีท่ าไว้ ทากาวในส่วนที่เปน็ ลิม่ แลว้ ไส่ลงในรอ่ ง ใช้
ตะปูหรือสกรยู ดึ ใหแ้ น่นอีกครั้ง

ภาพประกอบท่ี 48 ภาพการประกอบบล็อคสกรีนแตล่ ะแบบ
ทม่ี า: จัดทาดว้ ยตวั เองดว้ ยโปรแกรม AI (2558)

2.3 .ขั้นตอนการทาบลอ็ กสกรนี

53

วสั ดุอปุ กรณ์ในการทาบล็อกสกรนี

1. กรอบไม้

2. ผ้าแก้ว (ใช้สาหรับขงึ กรอบไมแ้ ทนผา้ Silk screen ซึง่ มี

คุณสมบตั ิที่คล้ายกนั

3. แมก็ ซย์ งิ ตัวใหญ่

4. ลกู แมก็ ซ์

5. ยางปาด

6. เทปกาว

ภาพประกอบ 21 อปุ กรณ์ในการทาบล็อกสกรีน

ภาพประกอบท่ี 49 ภาพอุปกรณใ์ นการสร้างสรรค์
ท่ีมา: ศลิ ปนิพนธ์นางสาววิลาวัลย์ โมรัตน์

(2558)

2.4. วิธกี ารทาบลอ็ กสกรนี

54
ผา้ ที่นามาใช้ในการทาบล็อกสกรีนคอื การนาเอาผ้าแก้วมาใช้แทนผ้า
สกรีน เน่อื งจากผ้าแก้วจะมคี ุณสมบตั ิคลา้ ยกบั ผา้ สกรนี แต่จะมคี วามละเอียดนอ้ ยกว่าผ้าสกรนี และความ
คงทนของผ้าแกว้ กน็ ้อยกวา่ ผ้าสกรีน แต่ผา้ แกว้ จะมรี าคาถูกกว่าผ้าสกรีนแต่มคี ุณลักษณะคลา้ ยกัน จึงนา
ผ้าแก้วมาใช้แทนผ้าสกรนี ขั้นตอนการทาบลอ็ กสกรีนคือนาผ้าแก้วมาวางบนบล็อกทเ่ี ตรียมไว้ และ
คอ่ ยๆยิงแม็กไปทลี ะดา้ น โดยเรม่ิ จากดา้ นท่ีมคี วามยาวของบลอ็ กกอ่ น ให้ยิงแม็กเปน็ แนวเฉียง
ประมาณ 45 องศา เพ่ือความตึงของบล็อกและยิงไมใ่ หห้ า่ งกนั มากเพื่อไม่ใหเ้ กิดรอยย่นและเรยี บตงึ
สมา่ เสมอ ควรดงึ ผ้าให้ตงึ อยู่เสมอ เพราะถ้าดึงผ้าไม่ตึงจะทาให้บลอ็ กมคี วามหย่อน ความตงึ ของผ้ามี
ความสาคัญมาก โดยเฉพาะในการพมิ พภ์ าพซอ้ นหลายๆสี คือ ถ้าผา้ มีความตึงไม่เท่ากนั ภาพท่เี กดิ จาก
การพมิ พ์อาจคลาดเคลือ่ นได้ เม่ือยงิ แม็กจนครบ 4 ด้าน หลังจากน้นั ให้เชค็ ความตึงของบลอ็ ก โดย
การใช้เหรยี ญบาทโยนใส่บลอ็ กท่ีตึงผ้าเสร็จเรยี บรอ้ ยแล้ว ถ้าเหรียญเดง้ ขึ้นสูงแสดงว่าบล็อกมีความตงึ
และสามารถใช้งานได้แล้ว

ภาพประกอบท่ี 50 ภาพการขึงบลอ็ คสกรนี
ท่มี า: ศิลปนพิ นธ์นางสาววิลาวลั ย์ โมรัตน์
(2558)

55

ภาพประกอบท่ี 51 ภาพลูกแมก๊ เฉียง 45 องศา
ที่มา: ศลิ ปนิพนธ์นางสาววิลาวลั ย์ โมรัตน์ (2558)

บล็อกสกรีนเปลา่ ที่ขงึ ผา้ เสร็จเรยี บรอ้ ยแล้ว หลงั จากน้ันใหน้ าเทปกาวมาติดตามขอบ
ของบล็อกและในตัวบลอ็ กเพ่ือกนั ไมใ่ หส้ ีเข้าไปอุดตนั ในไม้และกันสไี ม่ใหซ้ ึมออกมาใส่ในงาน

ภาพประกอบที่ 52 ภาพบล็อกสกรีนทสี่ าเร็จ
ทม่ี า: ศลิ ปนิพนธ์นางสาววิลาวลั ย์ โมรัตน์
(2558)

3. ขั้นตอนการสร้างสรรคผ์ ลงานจริง
3.1 วสั ดอุ ุปกรณ์

56
1. แบบที่ปร้นิ เสร็จแล้ว (ภาพขาว-ดา)
2. ปากกา
3. กระดาษคาร์บอน
4. คัทเตอร์
3.2 ขน้ั ตอนการสรา้ งแม่พมิ พ์
นาตน้ แบบผลงาน ภาพร่างไปขยายให้ได้ตามขนาดงานท่ีต้องการทา เชน่ A0,
A1, A2, A3 ขยายเป็นภาพขาวดา จากนนั้ ให้นามาติดลงบนกระดาษคาร์บอนที่เตรียมไว้แลว้ ใหไ้ ด้
ขนาดพอดีกับแบบงานทจ่ี ะทา และเรม่ิ จากการเลือกวาดเฉพาะสที ่ีตอ้ งการ จากท่วี าดแบบทีเ่ ตรยี มไว้
ลงบนกระดาษบร๊ฟู เสรจ็ เรยี บรอ้ ยแล้ว ก็นามาฉลุชอ่ งที่ต้องการดว้ ยคทั เตอร์ในแตล่ ะสว่ น จากน้นั ใหน้ า
กระดาษต้นแบบวางไวข้ า้ งล่างของบล๊อกแล้วติดดว้ ยแทปกาว เพือ่ รอการปาดสลี งบนกระดาษใน
ขั้นตอนต่อไป

ภาพประกอบที่ 53 ภาพการเตรยี มบลอ๊ กสกรนี
ทีม่ า: จัดทาด้วยตัวเองดว้ ยโปรแกรม AI (2558)

3.3 ขน้ั ตอนการพมิ พ์ ใช้ยางปาดสีดว้ ยการวางยางปาดให้เฉียง 45 องศา และวาง
กระดาษรองผลงานไวด้ ้านลา่ ง วิธีการผสมสีและปาดสีลงบนกระดาษอารต์ มัน นากระดาษอาร์ตมนั ที่

57
เตรยี มไว้สาหรับการพิมพเ์ รียบร้อยแล้ว เตรยี มนาบล็อกสกรีนที่เตรยี มไว้มาวางทับลงไปใหต้ รง นาสีที่
ผสมไวม้ าเทลงบนบล็อกแลว้ ใช้ยางปาด ปาดสตี ามแนวทเ่ี ราตอ้ งการแตใ่ หเ้ ลือกทางใดทางหนงึ่ เสมอ

ภาพประกอบท่ี 54 ภาพการปาดสีเพ่ือสรา้ งผลงาน
ทม่ี า: จดั ทาด้วยตวั เองดว้ ยโปรแกรม AI (2558)

ภาพประกอบท่ี 55 ภาพสีผา่ นชอ่ งฉลลุ งไปบนกระดาษ
ท่ีมา: จดั ทาด้วยตัวเองดว้ ยโปรแกรม AI (2558)

4. ผลงานตวั อย่างในเทคนิคภาพพิมพ์ฉลุ (Paper Cut)

58

ภาพประกอบที่ 56 ชือ่ ผลงาน สสี นั บรรยากาศในห้วงแห่งความรัก 1
ศลิ ปิน นางสาววลิ าวลั ย์ โมรัตน์
ขนาด 60 x 80 เซนติเมตร
เทคนิค Silk screen (2558)

59

ภาพประกอบที่ 57 ชอื่ ผลงานสีสันบรรยากาศในห้วงแหง่ ความรัก 2
ศิลปิน นางสาววิลาวัลย์ โมรตั น์
ขนาด 80 x 120 เซนตเิ มตร
เทคนิค Silk screen (2558)

60

ภาพประกอบที่ 58 ชอื่ ผลงานสีสนั บรรยากาศในห้วงแหง่ ความรัก 3
ศิลปิน นางสาววิลาวัลย์ โมรตั น์
ขนาด 60 x 80 เซนติเมตร
เทคนิค Silk screen (2558)

61

ภาพประกอบที่ 59 ชอื่ ผลงานสีสนั บรรยากาศในห้วงแหง่ ความรัก 4
ศิลปิน นางสาววิลาวัลย์ โมรตั น์
ขนาด 60 x 80 เซนติเมตร
เทคนิค Silk screen (2558)

62

ภาพประกอบที่ 60 ชอื่ ผลงานสีสนั บรรยากาศในห้วงแหง่ ความรัก 5
ศิลปิน นางสาววิลาวัลย์ โมรตั น์
ขนาด 60 x 80 เซนติเมตร
เทคนิค Silk screen (2558)

63

ภาพประกอบที่ 61 ชอื่ ผลงานสีสนั บรรยากาศในห้วงแหง่ ความรัก 6
ศิลปิน นางสาววิลาวัลย์ โมรตั น์
ขนาด 60 x 80 เซนติเมตร
เทคนิค Silk screen (2558)

64

จากภาพผลงานตัวอย่าง ในเร่ืองสีสนั บรรยากาศในหว้ งแห่งความรัก เปน็ เรอ่ื งราวความรักท่ี
หยิบยกมาจากประสบการณ์โดยตรงทีเ่ กี่ยวกบั ความรักของผู้สรา้ งสรรค์ ซง่ึ ในเรอ่ื งของความรักที่มที ั้ง
ดา้ นทุกข์และดา้ นสุขปะปนกันไป อยูท่ ่วี ่าใครจะมองความรกั ในดา้ นไหนมากกวา่ กัน สว่ นตัวของผู้
สร้างสรรคเ์ องน้ันมองวา่ ความรักมนั คือสิ่งสร้างความสุข ความอบอนุ่ ความพอใจ ความสดใส เวลาทเ่ี รา
มคี นทเี่ รารักอยู่ชดิ ใกล้และการไดท้ ากิจกรรมต่างๆร่วมกนั กับคนรกั ซึ่งส่งิ เหล่าน้ีสามารถสร้างความสุข
ความอบอ่นุ ความสดใส ความมีชวี ิตชีวาให้กับเราได้ เพยี งแคเ่ รานึกถึงส่งิ ทด่ี ีทเี่ คยทาร่วมกนั มา ได้มีการ
นาเอาเร่ืองราวความรักของผ้สู รา้ งสรรคม์ าเป็นตน้ รูปแบบในการสรา้ งสรรคผ์ ลงาน

5. สรปุ
การทาศลิ ปะภาพพมิ พ์หรอื เทคนิคช่องฉลุ (Silk Screen) เปน็ หลักการพิมพ์ทอี่ าศยั

การพมิ พ์ผ่านช่องฉลุ เป็นการพิมพ์ทีใ่ ช้แม่พิมพ์เป็นผา้ สกรนี หรือผา้ แก้วที่ถูกขึงตึงด้วยกรอบไม้ ใช้ยาง
ปาดให้หมกึ พมิ พ์ผา่ นชอ่ งฉลุและผ่านตัวแบบที่มีการเปดิ เป็นชอ่ งในบริเวณทีต่ ้องการ ส่วนบรเิ วณไดที่ไม่
ตอ้ งการให้สผี า่ นชอ่ งฉลุนัน้ ก็ให้ทาเปน็ พน้ื ท่ีทึบตันเพ่อื ป้องกนั ใหห้ มึกทะลุลงบนกระดาษหรอื ผลงาน

จากตวั อยา่ งท่นี ามาประกอบเป็นการสรา้ งสรรคศ์ ลิ ปะภาพพิมพ์ของนางสาววิลาวัลย์
โมรัตน์ ด้วยเทคนคิ แม่พมิ พก์ ระดาษ (Paper Cut) ด้วยการแทรกสีหรอื เรยี กวา่ การพมิ พ์สี ทจี่ ะแยก 1 สี
ตอ่ แม่พิมพ์ 1 แบบ เม่ือผ้สู รา้ งสรรคต์ อ้ งการหลายสีก็ต้องมีแมพ่ ิมพท์ ี่ตดั กระดาษใหเ้ กดิ ช่องหลายๆแบบ
ซ่งึ กระบวนการแยกสีก็จะได้เรียนในลาดบั ชั้นตอ่ ไป

บรรณานกุ รม

กมล คงทอง. ศลิ ปะภาพพิมพ์ในประเทศ. กรุงเทพฯ : โอ.เอส. พรน้ิ ตง้ิ เฮา้ ส์, 2543.
บรษิ ทั ต้นอ้อ จากัด. สารานกุ รมสาหรับเยาวชน ชดุ ศิลปะและงานสร้างสรรค์:พิมพ์ภาพ. กรงุ เทพฯ .
แสงศลิ ปก์ ารพิมพ์, 2535.
วริ ณุ ตัง้ เจรญิ . ศลิ ปะภาพพมิ พ์. กรงุ เทพฯ : ประจักษ์การพิมพ์, 2523.
อัศนีย์ ชูอรุณ. ความเขา้ ใจศิลปภาพพมิ พ์. กรุงเทพฯ : ภาพพิมพ์, 2524.
อศั นีย์ ชูอรณุ . ทฤษฏีศิลปะภาพพิมพ์. กรงุ เทพฯ : โรงพิมพ์ชตุ ิมาการพิมพ์, 2519.