หนสี้ าผธลการระทบณของะ
ต่อเศรษฐกจิ ไทย
ผลกระทบของหนส้ี าธารณะ
ตอ่ เศรษฐกจิ ไทย
เรอื่ ง ผลกระทบของหนีส้ าธารณะต่อเศรษฐกิจไทย
ฉบับที่
จดั พมิ พ์ครั้งท่ี 6/2565
จำนวนหนา้
จำนวนพิมพ์ 1/2565
จดั ทำโดย
44 หน้า
ท่ปี รึกษา
50 เลม่
คณะผู้จดั ทำ
กล่ันกรองโดย สำนักงบประมาณของรฐั สภา สำนักงานเลขาธกิ ารสภาผู้แทนราษฎร
พิมพ์ที่ 1111 ถนนสามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรงุ เทพมหานคร 10300
นางพรพิศ เพชรเจรญิ เลขาธกิ ารสภาผูแ้ ทนราษฎร
นายศิโรจน์ แพทย์พันธ์ุ รองเลขาธกิ ารสภาผู้แทนราษฎร
นายนพรัตน์ ทวี ผอู้ ำนวยการสำนักงบประมาณของรัฐสภา
นายภเู บต เส็นบัตร นกั วิเคราะหง์ บประมาณปฏิบัติการ
คณะกรรมการอา่ นและตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารวิชาการ สำนกั งบประมาณของรฐั สภา
สำนักการพิมพ์ สำนักงานเลขาธกิ ารสภาผูแ้ ทนราษฎร
1111 ถนนสามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดสุ ิต กรุงเทพมหานคร 10300
โทรศพั ท์ 02-242-5900 ต่อ 5421
ผลกระทบของหน้สี าธารณะต่อเศรษฐกจิ ไทย
คำนำ
หนี้สาธารณะถูกนำมาเป็นประเด็นในการถกเถียงถึงข้อดีและข้อเสียในกลุ่มนักวิชาการ สมาชิก
รัฐสภาและผูด้ ำเนินนโยบายภาครัฐอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะอย่างย่ิงหลงั จากวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกงุ้
ในปี พ.ศ. 2540 และต่อเนื่องมาถึงวิกฤตการณ์เงินโลกในปี พ.ศ. 2551 และ วิกฤตการณ์แพร่ระบาด
ของ COVID-19 ในปัจจุบนั ซึ่งกระทบตอ่ กิจกรรมทางเศรษฐกจิ และระบบเศรษฐกิจเปน็ อย่างมาก แม้ว่า
การศึกษาถึงความสมั พนั ธ์ของหนสี้ าธารณะกบั การเติบโตทางเศรษฐกจิ จะมจี ำนวนมาก แต่การศึกษาถึง
ประเด็นดงั กลา่ วในประเทศไทยยังมอี ยอู่ ย่างจำกดั และผลการศึกษาถึงประเด็นนก้ี ย็ ังมคี วามคลมุ เครอื
ดังนั้นรายงานวิเคราะห์เรื่อง “ผลกระทบของหนี้สาธารณะต่อเศรษฐกิจไทย” จัดทำขึ้นเพ่ือ
ศึกษาผลกระทบของหนี้สาธารณะต่ออัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย เพื่อเป็นข้อมูลแก่
รฐั สภา สภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา คณะกรรมาธิการ บคุ คลในวงงานรัฐสภา และผ้ทู ีส่ นใจ ใช้เป็นข้อมูล
ในการติดตามและประเมนิ การดำเนนิ นโยบายการคลงั และการบริหารหน้ีสาธารณะของรฐั บาล
ภูเบต เส็นบัตร
พฤษภาคม 2565
สำนกั งานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ก สำนกั งบประมาณของรัฐสภา
ผลกระทบของหน้ีสาธารณะต่อเศรษฐกจิ ไทย
บทสรปุ ผู้บริหาร
รายงานวิเคราะห์ฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อศึกษาผลกระทบของหนี้สาธารณะต่ออัตราการ
เจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย โดยใช้ขอ้ มลู รายไตรมาสตงั้ แต่ไตรมาสที่ 1 ปงี บประมาณ พ.ศ. 2549
ถึงไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 โดยข้อมูลหนี้สาธารณะรวบรวมจากสำนักงานบริหารหนี้
สาธารณะ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ และข้อมูลของตัวแปรด้านเศรษฐกิจและสังคม รวบรวมจาก
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ สำนักงานสถิตแิ หง่ ชาติ ธนาคารแห่งประเทศไทย
และสำนักงบประมาณ สำหรับการศึกษาครั้งนี้จะใช้สมการถดถอย (Multiple Regression Analysis)
ในการประมาณค่าความสัมพันธ์ ด้วยวิธีกำลังสองน้อยทีส่ ุด (Ordinary Least Squares) ด้วยโปรแกรม
Eviews
การสร้างแบบจำลองในการประมาณค่าในรายงานวิเคราะห์ฉบับนี้ผู้ศึกษาได้ทำกา รทบทวน
แนวคิด ทฤษฎี และวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย นิยาม แนวคิด และทฤษฎีเกี่ยวกับหนี้
สาธารณะที่สะท้อนถึงบทบาทของหนี้สาธารณะตามแนวคิดของนักเศรษฐศาสตร์แต่ละสำนัก พร้อมทั้ง
กรอบการบริหารหนี้สาธารณะของประเทศไทย นอกจากนี้ผู้ศึกษาได้ทบทวนแบบจำลองเศรษฐกิจ
มหภาคและทฤษฎีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจตามสำนักต่าง ๆ ได้แก่ ทฤษฎีการเจริญเติบของสำนัก
คลาสสิค ทฤษฎีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของนีโอคลาสสิค แบบจำลองการเจริญเติบโตทาง
เศรษฐกิจของโซโล และ ทฤษฎีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจแนวใหม่ รวมถึงการทบทวนวรรณกรรมที่
เกี่ยวข้องกับผลกระทบของหนี้สาธารณะต่ออัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศต่าง ๆ
ซ่งึ พบว่าผลการศกึ ษาประกอบด้วย 3 กลมุ่ หลกั ๆ คือ กล่มุ ที่พบว่าหนี้สาธารณะคอื ปัจจยั ท่สี ง่ ผลกระทบ
ทางลบต่อเศรษฐกิจและความยั่งยืนทางการคลัง ในขณะที่อีกกลุ่มเชื่อว่าหนีส้ าธารณะคือปัจจัยสำคัญท่ี
ช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ มีอัตราการเจริญเติบโตเพิ่มขึ้น และกลุ่มสุดท้ายได้ทำการศึกษาเชิง
ประจักษ์พบว่าความสัมพันธ์ของหนี้สาธารณะต่อการเจริญเตบิ โตทางเศรษฐกิจมีความสมั พันธ์ที่ไม่เปน็
เชิงเส้นตรง โดยความสัมพันธ์เป็นแบบเส้นโค้งรูปตัว U คว่ำโดยมีจุดเปลี่ยนของความสัมพันธ์ที่หาก
ระดับของหนสี้ าธารณะเพ่ิมขึ้นจะส่งผลกระทบเชงิ ลบตอ่ การเตบิ โตทางเศรษฐกจิ อยา่ งมีนยั สำคัญ
ดังนั้นการศึกษานี้จึงพยายามเติมช่องว่างของการศึกษาถึงประเด็นดังกล่าวของประเทศไทย
เพ่อื เป็นขอ้ มูลเชิงวิชาการถงึ ผลกระทบของการกอ่ หนส้ี าธารณะทีส่ ่งผลต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ
ของประเทศไทย โดยงานวิจัยนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ดำเนินนโยบายภาครัฐ เช่น กระทรวงการคลัง
รัฐสภา เปน็ ต้น ในการออกนโยบายเพือ่ แก้ปัญหาของประชาชนอยา่ งมีประสิทธิภาพ
สำนักงานเลขาธิการสภาผแู้ ทนราษฎร ข สำนักงบประมาณของรัฐสภา
ผลกระทบของหนส้ี าธารณะต่อเศรษฐกจิ ไทย
ผลการศึกษาของรายงานวเิ คราะหฉ์ บบั นพ้ี บว่า
1. หน้สี าธารณะสง่ ผลกระทบทางบวกต่ออัตราการเจรญิ เติบโตของผลิตภณั ฑ์มวลรวม
ภายในประเทศ
2. อัตราเงินเฟ้อ การลงทุนภาครัฐและเอกชน และกำลงั แรงงาน ส่งผลกระทบทางบวกต่ออัตรา
การเจรญิ เติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ
3. อัตราแลกเปล่ียนระหว่างเงินบาทเทียบกับเงนิ สกุลดอลลาร์สหรัฐ ราคานำ้ มันดีเซล วกิ ฤติ
การเงนิ โลก และวิกฤติเศรษฐกจิ จากมหาอุทกภยั สง่ ผลกระทบทางลบต่ออัตราการเจรญิ เติบโตของ
ผลติ ภณั ฑม์ วลรวมภายในประเทศ
จากผลการศกึ ษาผูศ้ ึกษาจงึ มีขอ้ เสนอแนะดังนี้
1. หนสี้ าธารณะ โดยเฉพาะหน้รี ัฐบาลเปน็ ปัจจยั ทชี่ ่วยใหเ้ กิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ อยา่ งไร
ก็ดีหากระดับหนี้สาธารณะที่สูงเกินไปจะทำให้โครงสร้างและภาระของหนี้สาธารณะเปลี่ยนแปลงไปซ่ึง
อาจส่งผลกระทบที่ต่างจากผลการศึกษาได้ ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลัง ควรมี
การศึกษาและวิจัยเพื่อหาระดับที่เหมาะสม (Optimization) ของหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวม
ภายในประเทศ (GDP) เนื่องจากข้อมูลดังกล่าวมีความสำคัญในการดำเนินนโยบายและบริหารหนี้
สาธารณะเพอื่ ให้เกิดประโยชน์สงู สดุ ในอนาคต ดงั น้ันหนว่ ยงานท่ีเกยี่ วข้องควรศกึ ษาถงึ ระดบั ทีเ่ หมาะสม
ภายใต้บริบทเศรษฐกจิ สังคมและการเมืองของไทย
2. อัตราเงินเฟ้อเป็นปัจจัยที่สำคัญที่มีผลกระทบทั้งทางบวกและทางลบต่ออัตราการ
เจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งหากอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่เหมาะสมจะส่งผลทางบวก แต่หากสูง
จนเกินไปจะส่งผลทางลบ ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพาณิชย์และธนาคารแห่งประเทศ
ไทย จำเป็นต้องเร่งหามาตรการในการควบคุมไมใ่ ห้อัตราเงนิ เฟอ้ อยู่ในระดบั ที่สูง
3. ประเทศไทยควรมุ่งเน้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศผ่านปัจจัยที่สำคัญอื่น ๆ
นอกเหนือจากการพึ่งพิงจากภาคต่างประเทศ เช่น การพัฒนาและนำเทคโนโลยีมาขับเคลื่อน
ภาคประชาชนและธุรกิจ การพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานของประเทศ การเพิ่มการสะสมทุนมนุษย์ผ่าน
การศึกษา ส่งเสริมโครงการพัฒนาประชากรและแรงงานในประเทศทั้งในดา้ นปริมาณและคุณภาพ เพ่ือ
ลดปัญหาการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ (Super-Aged Society) เพื่อให้กำลังแรงงานที่มี
คุณภาพเหลา่ นเ้ี ป็นกำลงั หลักในการขับเคล่ือนประเทศใหม้ คี วามเจริญก้าวหน้า
4. วิกฤติการณ์น้ำท่วมเมื่อปี พ.ศ. 2554 ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อประเทศไทยทั้งในด้าน
เศรษฐกิจและสังคม ดังนั้นรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีการจัดสรรงบประมาณที่เพียงพอ
สำหรับการป้องกันการเกิดวิกฤติน้ำท่วมในพื้นที่ต่าง ๆ อีก เพื่อลดผลกระทบทางลบที่อาจเกิดขึ้นใน
อนาคต
สำนกั งานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ค สำนักงบประมาณของรฐั สภา
ผลกระทบของหน้สี าธารณะตอ่ เศรษฐกิจไทย
สารบญั
คำนำ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ก
บทสรปุ ผ้บู ริหาร.............................................................................................................. ........................ ข
สารบญั .................................................................................................................................................... ง
ส่วนท่ี 1 บทนำ ......................................................................................................................................1
1.1 ทมี่ าและความสำคัญของปัญหา................................................................................................ 1
1.2 วัตถุประสงค์ของการวจิ ัย.......................................................................................................... 3
1.3 ขอบเขตการวจิ ัย....................................................................................................................... 3
1.4 ประโยชน์ท่คี าดว่าจะได้รับ ....................................................................................................... 3
1.5 ระเบียบวธิ ีวิจยั ......................................................................................................................... 3
1.6 นิยามศพั ท์................................................................................................................................ 5
ส่วนท่ี 2 แนวคดิ ทฤษฎี และวรรณกรรมทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง ..............................................................................6
2.1 นยิ าม แนวคดิ และทฤษฎีเก่ยี วกบั หนสี้ าธารณะ ........................................................................ 6
2.1.1 นิยามและความสำคญั ของหนีส้ าธารณะ.............................................................................. 6
2.2 ทฤษฎีเกีย่ วกับการเจรญิ เตบิ โตทางเศรษฐกจิ ............................................................................ 8
2.2.1 แบบจำลองเศรษฐกิจมหภาค .............................................................................................. 8
2.2.2 ทฤษฎีการเจรญิ เติบโตทางเศรษฐกิจ ................................................................................... 9
2.3 งานวจิ ยั ที่เกย่ี วขอ้ ง................................................................................................................. 11
2.4 กรอบแนวคิดในการวจิ ยั ......................................................................................................... 13
ส่วนที่ 3 ผลการศกึ ษา......................................................................................................................... 14
3.1 โครงสร้างหนี้สาธารณะและเศรษฐกิจของประเทศไทย........................................................... 14
3.2 ผลการทดสอบความนง่ิ ของข้อมูล........................................................................................... 18
3.3 ผลกระทบของหนีส้ าธารณะต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจไทย .......................................... 19
3.3.1 ผลกระทบของหนีส้ าธารณะต่อเศรษฐกจิ ไทย.................................................................... 20
3.3.2 ปจั จยั ท่ีสง่ ผลกระทบทางบวกตอ่ เศรษฐกจิ ไทย.................................................................. 22
สำนกั งานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ง สำนกั งบประมาณของรัฐสภา
ผลกระทบของหน้สี าธารณะตอ่ เศรษฐกจิ ไทย
3.3.3 ปัจจัยทส่ี ง่ ผลกระทบทางลบตอ่ เศรษฐกจิ ไทย.................................................................... 24
ส่วนท่ี 4 สรปุ ผลการศกึ ษาและข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย..................................................................... 27
4.1 สรุปผลการศกึ ษา.................................................................................................................... 27
4.2 ข้อเสนอแนะ........................................................................................................................... 28
บรรณานุกรม ...................................................................................................................................... 29
ภาคผนวก ........................................................................................................................................... 33
สำนกั งานเลขาธกิ ารสภาผ้แู ทนราษฎร จ สำนักงบประมาณของรฐั สภา
ผลกระทบของหนสี้ าธารณะต่อเศรษฐกจิ ไทย
สว่ นท่ี 1 บทนำ
1.1 ทีม่ าและความสำคัญของปญั หา
หนี้สาธารณะถูกนำมาเป็นประเด็นในการถกเถียงถึงข้อดีและข้อเสียในกลุ่มนักวิชาการ
นักการเมืองและผู้ดำเนินนโยบายภาครัฐอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะอย่างย่ิงหลังจากวกิ ฤตเศรษฐกจิ ต้ม
ยำกุ้ง ในปี พ.ศ. 2540 และต่อเนื่องมาถึงวิกฤติการเงินโลกในปี 2551 และ ณ ขณะนี้ที่หลายประเทศ
กำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและระบบเศรษฐกิจ
เป็นอยา่ งมาก แมว้ ่าการศึกษาถึงความสัมพันธ์ของหนี้สาธารณะกับการเติบโตทางเศรษฐกิจจะมีจำนวน
มาก แตผ่ ลการศกึ ษาถึงประเดน็ นี้ก็ยงั มีความคลุมเครือ โดยนกั วชิ าการและผลการศกึ ษาประกอบด้วย 3
กลุ่มหลัก ๆ คือ กลุ่มที่พบว่าหนี้สาธารณะคือปัจจัยที่ส่งผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจและความยั่งยืน
ทางการคลัง เช่น Krugman (1988) ได้ระบุปัญหา "หนี้ที่ค้างอยู่" เมื่อมูลค่าปัจจุบันที่คาดหวังของการ
โอนทรัพยากรที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตน้อยกว่าหน้ีสิน เมื่อหนีภ้ าครัฐเพิม่ ขึ้น ภาระหน้าท่ีในการชำระหนี้
ของรัฐบาลจะได้รับเงินจากมาตรการที่บิดเบือน เช่น ภาษีเงิน ในขณะที่อีกกลุ่มเชื่อว่าหนี้สาธารณะคือ
ปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ มีอัตราการเจริญเติบโตเพิ่มขึ้น เช่น Woodford
(1990) กล่าววา่ หนสี้ าธารณะทสี่ งู ข้นึ ตราบเทา่ ที่มันแสดงถงึ สดั สว่ นทสี่ ูงข้ึนของสนิ ทรพั ยส์ ภาพคล่องใน
ความมั่งคั่งของภาคเอกชน เพิ่มความยืดหยุ่นของภาคเอกชนในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของ
รายได้และโอกาสในการใช้จ่าย และสามารถเพิ่มขึ้นได้ ประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ และกลุ่มสุดท้ายได้
ทำการศึกษาเชิงประจักษ์พบว่าความสัมพันธ์ของหนี้สาธารณะต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจมี
ความสัมพันธ์ที่ไม่เป็นเชิงเส้นตรง โดยความสัมพันธ์เป็นแบบเส้นโค้งรูปตัว U กลับหัว โดยมีจุดเปลี่ยน
ของความสัมพันธ์ที่หากระดับของหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อการเติบโตทาง
เศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ (Reinhart & Rogoff, 2010; Checherita & Rother, 2010; Baum et al.,
2012)
นอกจากนี้ การศึกษาในอดีตส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่หนี้สาธารณะในประเทศเศรษฐกิจก้าวหน้า
(Advanced Economies) หรือประเทศเกิดใหม่ในลาตินอเมริกา ในขณะที่จำนวนงานวิจัยเกี่ยวกับ
ปัญหานี้ในประเทศแถบเอเชียยังมีอยู่อย่างจำกัด ประเทศเกิดใหม่ในเอเชีย โดยเฉพาะเอเชียตะวันออก
เฉยี งใต้ มขี ีดความสามารถด้านโครงสร้างพ้นื ฐาน เนอ่ื งจากการลงทุนโครงสร้างพน้ื ฐานไม่เพียงพออย่าง
มากต้งั แตป่ ี พ.ศ. 2543 รัฐบาลอาเซยี นส่วนใหญจ่ ึงพง่ึ พาแหล่งทุนภายนอก เชน่ การลงทุนโดยตรงจาก
ต่างประเทศ (FDI) และ ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการ (ODA) อย่างมาก เพื่อเป็น
เงินทนุ สำหรับโครงการพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานของประเทศ ดังนน้ั หนสี้ าธารณะซง่ึ ส่วนใหญ่ถูกใชใ้ นการ
ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานหรือโครงการทางสังคมเพื่อให้เกิดผลิตภาพทางเศรษฐกิจที่สูงขึ้น จึงไม่เป็น
ปัญหาสำหรับเศรษฐกิจอาเซียนเหล่านี้ แต่ในปี พ.ศ. 2540 ประเทศในกลุ่มอาเซียนหลายประเทศ
ประสบความสูญเสียอย่างหนักจากวิกฤตการณ์ทางการเงินในเอเชีย โดยสาเหตุหลักประการหนึ่งคือ
สำนกั งานเลขาธิการสภาผแู้ ทนราษฎร 1 สำนักงบประมาณของรฐั สภา
ผลกระทบของหนีส้ าธารณะต่อเศรษฐกจิ ไทย
“ความไม่สอดคลอ้ งของการจ่ายหนี้เมือ่ ถงึ ระยะเวลาครบกำหนด” กลา่ วคือประเทศในกล่มุ น้ีใช้หน้ีระยะ
ส้ันเพื่อเปน็ เงนิ ทุนสำหรบั โครงการลงทุนระยะยาวในประเทศ ในชว่ งเวลาน้ี หนี้ภาครัฐซ่ึงได้รับแรงหนุน
จากเงินช่วยเหลือทางการเงินและการใช้จ่ายที่ขาดดุลเพื่อกระตุ้นอุปสงค์อย่างฉับพลัน ในช่วง
วิกฤตการณ์ทางการเงินในเอเชีย หนี้สาธารณะได้เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 35-50 ต่อ GDP ในมาเลเซียและ
ไทยและเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 90-100 ของ GDP ในประเทศอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ ภายในสิ้นปี พ.ศ.
2543 อัตราส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP สูงกว่าเกณฑ์สนธิสัญญามาสทริชต์ 60 เปอร์เซ็นต์ในสี่ประเทศ
ตะวันออกเฉียงใต้ นอกเหนือจากอัตราส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงวิกฤต
แล้ว เศรษฐกจิ อาเซียนยังประสบกบั การชะลอตัวอย่างมีนัยสำคญั ด้วยการลดค่าเงนิ สกลุ เงนิ เฟอ้ และหนี้
เสยี ท่เี พ่ิมขน้ึ การลม้ ละลายของบรษิ ทั ตา่ ง ๆ และอตั ราการว่างงานสูง ตวั อยา่ งเช่น GDP ของอนิ โดนเี ซีย
ลดลงร้อยละ 15 ประเทศไทยและมาเลเซียลดลงเกือบร้อยละ 10 ในปี พ.ศ. 2541 (Leblang &
Satyanath, 2005)
แม้ว่าวิกฤตการณ์ทางการเงินโลกในปี พ.ศ. 2551 จะไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อ
เศรษฐกิจอาเซียน แต่ก็ยังทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศที่พึ่งพาการค้าระหว่างประเทศ
อย่างประเทศไทย สงิ คโปร์ และมาเลเซีย ลดลง เน่ืองจากความตอ้ งการสินคา้ ในเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้
ลดลงจากตลาดโลก ซึ่งส่งผลให้มูลค่าการส่งออกลดลงมากกว่าร้อยละ 25 ในช่วงครึ่งแรกของปี พ.ศ.
2552 (Emmers & Ravenhill, 2010) นอกจากน้ี สถานการณก์ ารแพร่ระบาดของ COVID-19 ในหลาย
ประเทศรวมถึงประเทศไทย ซงึ่ กระทบตอ่ กจิ กรรมทางเศรษฐกิจและระบบเศรษฐกิจเป็นอย่างมากทำให้
ประชาชนมรี ายไดล้ ดลง สง่ ผลใหเ้ ศรษฐกจิ โดยรวมถดถอยและรายได้จากการเกบ็ ภาษีของรัฐบาลก็ลดลง
เช่นเดียวกัน ดังนั้นรัฐบาลจึงมีความจำเป็นต้องก่อหนี้เพิ่มขึ้นเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณที่เพิ่ม
มากขึ้นจากการจัดเก็บภาษีที่น้อยลงและเพื่อเป็นเครื่องมือในการดำเนินนโยบายทางการคลังเพื่อ
ช่วยเหลือประชาชน พยุงและฟื้นฟูเศรษฐกจิ ดังน้ันการกอ่ หนส้ี าธารณะจึงเปน็ สงิ่ ทเ่ี ลยี่ งไม่ได้ในหลาย ๆ
ประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย หนี้สาธารณะทำให้เกิดการกู้ยืมจากภายนอกซึ่งส่งผลให้เกิด
วิกฤตการณ์พันธบัตรรัฐบาลและวิกฤตเศรษฐกจิ ใน GIIPS2 ซึ่งเป็นที่มาของวิกฤตยูโร ผลพวงของวิกฤติ
หนี้สาธารณะในยุโรปเป็นบทเรียนที่ดีสำหรับประเทศไทยที่จะต้องระมัดระวังในการตัดสินใจด้าน
งบประมาณ แม้ว่าระดับหนี้สาธารณะของประเทศไทยจะยังอยู่ในระดับที่ปลอดภัยภายใต้กรอบการ
บริหารหนี้สาธารณะ แต่หนี้สาธารณะและผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศในประเทศ
ไทยยังมีความจำเป็นที่จะต้องนำมาพิจารณา เพื่อป้องกันผลกระทบด้านลบต่อการเติบโตอย่างยั่งยืนใน
ระยะยาว
ดังนั้นรายงานวิเคราะห์ฉบับน้ีจึงพยายามเติมช่องว่างของการศึกษาถึงประเด็นดังกล่าวของ
ประเทศไทยเพื่อเป็นข้อมูลเชิงวิชาการถึงผลกระทบของการกู้ยืมหรือการก่อหนี้สาธารณะที่ผ่านมาว่า
ส่งผลทางบวกหรือทางลบตอ่ เศรษฐกจิ ของประเทศไทย
สำนกั งานเลขาธิการสภาผแู้ ทนราษฎร 2 สำนักงบประมาณของรฐั สภา
ผลกระทบของหนี้สาธารณะตอ่ เศรษฐกิจไทย
1.2 วัตถุประสงค์ของการวิจัย
เพ่อื ศึกษาผลกระทบของหนี้สาธารณะต่ออัตราการเจริญเตบิ โตทางเศรษฐกจิ ของไทย
1.3 ขอบเขตการวจิ ัย
การศึกษาผลกระทบของหนี้สาธารณะต่ออัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย
โดยใช้ข้อมูลรายไตรมาสเป็นเวลา 14 ปี ตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ถึงไตรมาสที่ 4
ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 โดยข้อมลู หนีส้ าธารณะรวบรวมจากสำนกั งานบริหารหนี้สาธารณะ ผลิตภณั ฑ์
มวลรวมในประเทศ (GDP) รวบรวมจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และ
ข้อมลู ของตัวแปรด้านเศรษฐกิจและสังคมเกบ็ จากสำนักงานสถิติแห่งชาติ ธนาคารแหง่ ประเทศไทย และ
สำนักงบประมาณ
1.4 ประโยชนท์ ีค่ าดวา่ จะไดร้ ับ
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการศึกษาผลกระทบของหนี้สาธารณะต่ออัตราการเจริญเติบโต
ทางเศรษฐกจิ ของประเทศไทยมีดงั นี้
1. ทำให้ทราบถึงผลกระทบของหนี้สาธารณะต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยตั้งแต่
ปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 – 2562 โดยทราบถึงบทบาทของหนี้สาธารณะว่าส่งผลต่อเศรษฐกิจไทย
อยา่ งไรเพอ่ื เปน็ แนวทางในการบรหิ ารจัดการหนสี้ าธารณะใหเ้ กดิ ประสทิ ธภิ าพสงู สุด
2. เป็นขอ้ มูลเชงิ วชิ าการเสนอตอ่ กระทรวงการคลงั คณะรฐั มนตรีหรือผู้ดำเนินนโยบายภาครฐั อน่ื ๆ เพ่ือ
ประกอบการตัดสินใจเชิงนโยบายและมาตรการอื่น ๆ ที่จำเป็นของภาครัฐในการแก้ไขปัญหาให้แก่
ประชาชนและสง่ เสริมศักยภาพภาคธุรกิจ
3. เพื่อเป็นประโยชน์ต่อสมาชิกรัฐสภาและคณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องในการพิจารณางบประมาณ
รายจา่ ยประจำปี
1.5 ระเบียบวธิ วี ิจัย
การศกึ ษาในครั้งมขี ั้นตอนทงั้ ส้นิ 4 ขนั้ ตอน ได้แก่
ขั้นตอนที่ 1 ทำการทดสอบความนิ่งของข้อมูลหรือการทดสอบ Unit Root โดยการใช้
Augmented Dickey-Fuller Test (ADF) เน่ืองจากข้อมูลท่ีใช้ในการวิเคราะห์มลี ักษณะเป็นข้อมูลแบบ
อนกุ รมเวลา (Time Series) ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตัวดงั น้ันจึงต้องมีการทดสอบข้อมลู ดงั กล่าววา่ มีลักษณะ
เป็น Stationary
ขั้นตอนที่ 2 สร้างแบบจำลองผลกระทบของหนี้สาธารณะต่ออัตราการเจริญเติบโตทาง
เศรษฐกิจของประเทศไทย ซึ่งจากการทบทวนการศึกษาและวรรณกรรมที่ผ่านมา จึงเขียนเป็น
แบบจำลองได้ดงั สมการต่อไปนี้
GDPG=f(Debt, Inflation, Investment, FX, Diesel, Labour, Crisis, Flood)
สำนกั งานเลขาธกิ ารสภาผแู้ ทนราษฎร 3 สำนักงบประมาณของรัฐสภา
ผลกระทบของหน้สี าธารณะตอ่ เศรษฐกิจไทย
โดย GDPG คือ อตั ราการเจริญเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศภาพรวม ณ เวลาที่ t
Debt คือ อัตราการเจรญิ เตบิ โตของหนส้ี าธารณะ ณ เวลาที่ t
Inflation คือ อตั ราเงินเฟอ้ ในประเทศ ณ เวลาที่ t
Investment คือ อัตราการเจรญิ เติบโตของการลงทุนภาครัฐและเอกชน ณ เวลาท่ี t
FX คอื อตั ราแลกเปลีย่ นระหว่างเงินบาทเทยี บกับเงนิ สกลุ ดอลลารส์ หรัฐ ณ เวลาท่ี t
Diesel คือ ราคาน้ำมนั ดเี ซล ณ เวลาที่ t
Labour คือ อัตราการเจริญเตบิ โตของกำลังแรงงาน ณ เวลาที่ t
Crisis คอื ตวั แปรหนุ่ มคี า่ เท่ากบั 1 ในช่วงเวลาทปี่ ระเทศไทยได้รับผลกระทบจากการเกิดวกิ ฤติการเงิน
ในประเทศสหรัฐอเมริกา
Flood คอื ตัวแปรหนุ่ มคี ่าเท่ากับ 1 ในช่วงเวลาทีป่ ระเทศไทยได้รบั ผลกระทบจากการมหาอุทกภยั
คือ คา่ ความคลาดเคล่ือน ณ เวลา t
ข้นั ตอนท่ี 3 ทำการประมาณค่าแบบจำลองเพอ่ื ทดสอบความสัมพันธร์ ะหวา่ งหน้ีสาธารณะและ
การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย พร้อมทั้งปัจจัยทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง โดยจะทำการ
ทดสอบความเป็นเหตุเป็นผล (Causality) ของตัวแปรดังกล่าว ทั้งนี้การศึกษา Causality เป็นการ
อธิบายหรือตอบคำถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร โดยมุ่งชี้ให้เห็นถึงลักษณะความสัมพันธ์
ของตัวแปรว่าอะไรคือสาเหตุ (Causes) และอะไรคือผลของสาเหตุนั้น (Effects) สำหรับในการศึกษา
ครั้งนี้จะใช้สมการถดถอย (Multiple Regression Analysis) ในการประมาณค่าความสัมพันธ์ ด้วยวิธี
กำลงั สองน้อยทส่ี ุด (Ordinary Least Squares) ดว้ ยโปรแกรม Eviews ตามแบบจำลองดังน้ี
y= β0 + β1X1 + β2X2 + β3X3 + β4X4 + …+ βkXk + u
ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้ในการหาค่าสัมประสทิ ธ์ิของสมการถดถอยระหว่างตัวแปรอิสระและตัวแปรตาม
โดยทำใหผ้ ลรวมกำลงั สองของค่าคงเหลือ (Sum of square residuals) มคี ่าน้อยทส่ี ุด โดยตัวประมาณ
ค่ากำลังสองน้อยที่สุดจะเป็นตัวประมาณค่าที่ไม่มีความเอนเอียงเชิงเส้นที่ดีที่สุด ( Best Linear
Unbiased Estimator: BLUE) ซึ่งจะต้องมีคุณสมบัติคือ เป็นฟังก์ชันเชิงเส้นกับตัวแปรสุม่ ตัวประมาณ
ค่าต้องไม่มีความเอนเอียง และมีความแปรปรวนต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับตัวประมาณค่าเชิงเส้นตรงที่ไม่
เอนเอียงอนื่ ๆ โดยมกี ารคำนงึ ถงึ ปัญหาท่อี าจจะเกิดข้นึ จากการวิเคราะห์ถดถอย ได้แก่
ปัญหาที่ 1 ปัญหาตัวแปรอสิ ระมีความสัมพันธเ์ ชิงเสน้ (Multicollinearity)
ปญั หาที่ 2 ปญั หาตวั คลาดเคลอื่ นมสี หสมั พันธ์กนั (Autocorrelation)
ปัญหาท่ี 3 ปัญหาตัวคลาดเคลื่อนมีความแปรปรวนไม่คงที่ (Heteroskedasticity)
สำนกั งานเลขาธกิ ารสภาผู้แทนราษฎร 4 สำนักงบประมาณของรฐั สภา
ผลกระทบของหนีส้ าธารณะตอ่ เศรษฐกจิ ไทย
1.6 นิยามศัพท์
หนี้สาธารณะ หมายถึง หนี้ที่กระทรวงการคลัง หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจกู้ รวมถึงหนี้
ที่กระทรวงการคลังค้ำประกัน โดยหนี้สาธารณะจะไม่รวมถึงหนี้ของธนาคารแห่งประเทศไทย และหน้ี
ของรัฐวสิ าหกจิ ทีท่ ำธรุ กจิ ในภาคการเงนิ
การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) หมายถึง ธุรกรรมการลงทุนทีผ่ ู้ลงทุนซึง่ มีถิ่นฐานใน
ประเทศไทยมีต่อธุรกิจที่มีถิ่นฐานในต่างประเทศที่เป็นกิจการในเครือ โดยที่ผูล้ งทุนถอื หุ้นของกิจการใน
เครือหรือกิจการท่นี ำเงนิ ไปลงทุนตง้ั แต่ร้อยละ 10 ขึ้นไป
ความชว่ ยเหลอื เพื่อการพฒั นาอยา่ งเปน็ ทางการ (ODA) หมายถึง ความช่วยเหลอื โดยภาครัฐ
ของประเทศผู้บริจาค (donors) ไปยังประเทศกำลังพัฒนา (recipients) ที่มีรายชื่อในบัญชีผู้รับของ
คณะกรรมการความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนา (Development Assistance Committee: DAC) ของ
องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจเเละการพัฒนา (Organization for Economic Cooperation
and development: OECD) เทา่ น้ัน โดยมเี ป้าหมายเพ่อื สง่ เสริมการพฒั นาเศรษฐกิจ สงั คม และความ
เปน็ อยขู่ องคนในประเทศกำลงั พฒั นา
เงินเฟอ้ (Inflation) หมายถงึ ภาวะทร่ี าคาสินคา้ และบรกิ ารเพม่ิ สูงข้นึ อย่างต่อเนื่อง
กำลงั แรงงาน (Labour) หมายถึง จำนวนประชากรทม่ี ีอายุ 15 ปขี ึน้ ไป
สำนกั งานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร 5 สำนักงบประมาณของรัฐสภา
ผลกระทบของหนี้สาธารณะตอ่ เศรษฐกิจไทย
ส่วนท่ี 2 แนวคดิ ทฤษฎี และวรรณกรรมทเี่ กีย่ วข้อง
ในบทที่ 2 จะเป็นการทบทวนแนวคดิ ทฤษฎี และงานวิจัยทีไ่ ด้ศกึ ษาประเด็นของหน้ีสาธารณะ
และการเจริญเติบโตทางเศรษฐกจิ ทีผ่ ่านมาโดยถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ไดแ้ ก่ คอื (1) แนวคิดและทฤษฎี
เกี่ยวกับหนี้สาธารณะ (2) การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และ (3) งานวิจัยที่เกี่ยวข้องของบทบาทของ
หนี้สาธารณะตอ่ การเจริญเตบิ โตทางเศรษฐกิจ
2.1 นิยาม แนวคดิ และทฤษฎเี กี่ยวกบั หน้สี าธารณะ
2.1.1 นยิ ามและความสำคญั ของหน้สี าธารณะ
หนี้สาธารณะ (Public Debt) หมายถึง หนี้ที่รัฐบาลเป็นผู้กู้และค้ำประกันทั้งจากในประเทศ
และนอกประเทศ โดยหนี้สาธารณะในส่วนนี้จะเป็นภาระผกู พันกบั ทุกรัฐบาลที่เข้ามาบรหิ ารประเทศใน
การชำระคืนต้นเงินกู้และดอกเบี้ย (เกริกเกยี รติ พิพัฒน์เสรธี รรม, 2543; รงั สรรค์ ธนะพรพันธ์, 2543)
จากคำจำกัดความของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) หนี้สาธารณะ หมายถึง หนี้ของรัฐบาล
กลาง หนี้ของหน่วยงานของรัฐ หนี้ของหน่วยงานนอกงบประมาณ กองทุนประกันสังคม และ หนี้ของ
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (International Monetary Fund, 2021) สำหรับในประเทศไทย
หนี้สาธารณะ หมายถึง หนี้ที่กระทรวงการคลัง หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจกู้ รวมถึงหนี้ท่ี
กระทรวงการคลังค้ำประกนั โดยหนส้ี าธารณะจะไม่รวมถงึ หนข้ี องธนาคารแห่งประเทศไทย และหน้ีของ
รัฐวิสาหกิจที่ทำธุรกิจในภาคการเงิน โดยรัฐบาลจะสามารถก่อหนี้สาธารณะได้น้ันจะต้องมีความจำเป็น
และเป็นไปตามพระราชบญั ญตั ิการบริหารหนี้สาธารณะ โดยกระทรวงการคลังสามารถก่อหนี้สาธารณะ
เพ่ือวตั ถปุ ระสงคด์ งั ตอ่ ไปนี้
1) เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ กล่าวคือเมื่อรายได้ที่ได้รับจากภาษีอากร การขายสินค้า
และบริการ และจากรฐั พาณชิ ย์มีนอ้ ยกว่าแผนการใชจ้ า่ ยงบประมาณของรัฐบาล ดงั นน้ั รัฐบาลจงึ มีความ
จำเป็นตอ้ งจดั หาเงนิ มาชดเชยการขาดดลุ ดังกล่าวบรหิ ารสภาพคล่องของเงนิ คงคลัง
2) เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งถูกมองเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับประเทศกําลังพัฒนา
เนื่องจากรัฐบาลมีจุดประสงค์ที่จะยกระดับการครองชีพของประชาชนใหส้ ูงขึน้ แต่ประเทศกำลังพัฒนา
ส่วนใหญ่มีอัตราการออมน้อย ทำให้รัฐบาลต้องมีการระดมทรัพยากรและเงินลงทุนจากแหล่งอื่นเพ่ือ
นำมาใช้ในการพัฒนาเศรษฐกจิ ของประเทศ
3) เพื่อปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะ คือการที่รัฐบาลมีรายได้ไม่เพียงพอที่จะชำระหนี้สินที่ครบ
กำหนดชำระได้ดงั นนั้ รัฐบาลจึงต้องใช้วธิ ีก่อหน้ีใหม่เพ่ือมาชำระหน้ีเก่า (Refinance) เพ่ือให้มีระยะเวลา
ชำระคืนที่ยาวขนึ้ และลดภาระการชำระคืนดอกเบ้ียเงินกู้ที่ถูกกว่าดอกเบย้ี เงินกูเ้ ดิม
4) เพอื่ ให้หน่วยงานอื่นกู้ต่อ โดยกระทรวงการคลังมีอำนาจในการก่อหน้ีมาเพื่อให้หน่วยงานอื่น
กู้ต่อ ซึ่งจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของการให้กู้ต่อ ซึ่งกระทรวงการคลังจะสามารถเรียก
เก็บดอกเบยี้ และคา่ ธรรมเนียมจากหนว่ ยงานท่ใี หก้ ู้ต่อได้
สำนักงานเลขาธกิ ารสภาผแู้ ทนราษฎร 6 สำนกั งบประมาณของรัฐสภา
ผลกระทบของหนส้ี าธารณะต่อเศรษฐกิจไทย
5) เพื่อพฒั นาตลาดตราสารหน้ีในประเทศ เชน่ การเพิม่ สภาพคล่องของพนั ธบตั รรัฐบาลในตลาด
ตราสารหน้ี เพม่ิ ทางเลือกในการระดมทุนและการลงทุน ลดการพงึ่ พาแหลง่ เงินทุนภายนอกประเทศ ลด
ความเสี่ยงจากความผันผวนของเงินทุนเคลื่อนย้าย ก่อให้เกิดการซื้อขายพันธบัตรที่สะท้อนถึงอุปสงค์
และอุปทานของพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งจะสะท้อนถึงราคาของพันธบัตรรัฐบาลให้เปลี่ยนแปลงไปและ
สามารถนำไปคำนวณเป็นเส้นผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Government bond yield curve) ซึ่ง
สถาบนั การเงนิ ภาคเอกชนสามารถนำไปใช้เปน็ เครื่องมือในการคำนวนอัตราดอกเบีย้ เงินกูจ้ ากการปล่อย
สินเชอื่
ทง้ั นี้รฐั บาลต้องบรหิ ารจัดการหน้ีสาธารณะใหส้ อดคล้องกับพระราชบัญญัติวินัยการเงนิ การคลัง
ของรัฐ พ.ศ. 2561 ที่กำหนดให้การกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณต้องไม่เกินกว่างบลงทุนในการ
จัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี ตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 และ
พระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 ที่ได้กำหนดเงื่อนไขในการบริหารหนี้สาธารณะ
ดังน้ี
1) สดั สว่ นของหน้ีสาธารณะตอ่ ผลิตภณั ฑม์ วลรวมในประเทศ หรือ GDP ต้องมีค่าไมเ่ กินกว่ารอ้ ยละ 70
2) การก่อหนข้ี องรฐั บาลตอ้ งไมเ่ กินกว่ารอ้ ยละ 35 ของการประมาณการรายได้ของรัฐ
3) หนีส้ าธารณะทเ่ี ป็นเงินตราตา่ งประเทศตอ้ งไม่เกนิ กว่าร้อยละ 10 ของหน้สี าธารณะทัง้ หมด
4) หน้สี าธารณะท่เี ปน็ เงินตราตา่ งประเทศต้องไมม่ ากกว่าร้อยละ 5 ของรายได้จากการสง่ ออกสินค้าและ
บริการ
สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะได้จำแนกประเภทของหนี้สาธารณะออกเป็น 5 ประเภทตาม
แหล่งที่มาของหนี้ ประกอบด้วย หนี้รัฐบาล หนี้รัฐวิสาหกิจ หนี้รัฐวิสาหกิจที่ทำธุรกิจในภาคการเงินที่
รัฐบาลค้ำประกัน หนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน และหนี้หน่วยงานของรัฐ
โดยมรี ายละเอยี ดดงั น้ี
1) หนี้รัฐบาลคือ หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงตามจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน เช่น การก่อหนี้เพื่อฟื้นฟูและ
เสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ การก่อหนี้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณและการบริหารหน้ี
การก่อหนี้เพื่อการพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและระบบขนส่งทางถนนระยะเร่งด่วน และ
การก่อหนีเ้ พอ่ื แก้ปัญหาการระบาดของโควดิ -19 เปน็ ตน้
2) หนี้รัฐวสิ าหกจิ คอื หนรี้ ฐั วสิ าหกจิ ท่ไี มเ่ ปน็ สถาบันการเงินทัง้ หนที้ ีร่ ฐั บาลค้ำประกันและไม่ค้ำประกนั
3) หนี้รัฐวิสาหกิจที่ทำธุรกิจในภาคการเงินที่รัฐบาลค้ำประกันคือ หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบัน
การเงนิ ท่ีรัฐบาลคำ้ ประกัน ประกอบดว้ ยหน้ใี นประเทศและหนีต้ ่างประเทศ
4) หนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินคือ หนี้ที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ได้ก่อขึ้น
เพื่อให้สามารถดำเนินมาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงินเพื่อฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงนิ
ให้มีความมั่นคงและเสถียรภาพ โดยเฉพาะเมื่อมีวิกฤติการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นในระบบสถาบันการเงิน
ภายใต้กรอบนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยและ
สำนักงานเลขาธิการสภาผูแ้ ทนราษฎร 7 สำนักงบประมาณของรัฐสภา
ผลกระทบของหนส้ี าธารณะตอ่ เศรษฐกจิ ไทย
5) หนี้หน่วยงานของรัฐคือ หนี้ที่หน่วยงานของรัฐก่อขึ้นเพื่อใช้จ่ายตามความจำเป็นของหน่วยงานโดย
ประกอบด้วยหน้ที รี่ ฐั บาลค้ำประกนั และหนี้ที่รฐั บาลไม่ได้คำ้ ประกนั
2.1.2 แนวคิดเก่ยี วกับหนส้ี าธารณะ
นักเศรษฐศาสตร์สำนักคลาสสิคมีความเชื่อว่าประเทศใด ๆ ควรมีการบริหารประเทศตาม
ศักยภาพและทุนท่ีมี โดยไม่มีการเพิ่มภาระของรัฐบาลด้วยการกู้ยืมเงินเพื่อบริหารประเทศเพราะจะ
นำไปสู่การทำให้ประเทศล้มละลายจากการขาดวินัยในการบริหาร ภาระการชำระดอกเบี้ย ปัญหา
เงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นและปัญหามูลค่าของเงินทีล่ ดลง กล่าวคือรัฐบาลควรทำทกุ วิถีทางเพือ่ หลกี เลี่ยงการ
จดั ทำงบประมาณแบบขาดดุล (Deficit Budget) เพราะการจัดทำงบประมาณแบบขาดดุลจะนำไปสู่การ
ก่อหนส้ี าธารณะและนำประเทศไปถึงจุดล้มละลายในทีส่ ดุ (Smith, 1776)
ในขณะทน่ี กั เศรษฐศาสตรส์ ำนัก Keynesian มีความเชื่อว่าการกอ่ หนส้ี าธารณะในปัจจุบันไม่ได้
เป็นภาระการชำระหนใ้ี นอนาคตและเป็นเรื่องปกติท่ีรัฐบาลในประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะประเทศท่ีกำลัง
พัฒนาสามารถกระทำได้เนื่องจากประเทศเหล่านี้มีขาดการดุลงบประมาณอย่างต่อเนื่องสำหรับ
โครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ดังนั้นหนี้สาธารณะจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยในการเพิ่มมูลค่าทาง
เศรษฐกิจและนำไปสู่รายไดข้ องรัฐบาลท่ีเพม่ิ ขนึ้ ในอนาคต (Keynes, 1923)
นักเศรษฐศาสตร์หลังจากยุคของ Keynesian จนถึงปัจจุบันมีแนวคิดค่อนข้างเป็นกลางต่อการ
ก่อหนี้สาธารณะขึ้นอยู่กับการบริหารหนี้ดังกล่าว โดย Domar (1994) มีข้อแนะนำว่า การก่อหนี้เพ่ือ
ลงทุนของภาครัฐเป็นสิ่งที่จําเป็นเพื่อสร้างระดับอุปสงค์มวลรวมของประเทศในช่วงที่การล งทุน
ภาคเอกชนไม่เพียงพอในการรองรับการออมของประเทศในระยะยาว โดยมสี มมุตฐิ านวา่ ผลของการขาด
ดุลที่นําไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจผ่าน Keynesian Income Multiplier การขาดดุลงบประมาณ
นาํ ไปสกู่ ารเติบโตทางเศรษฐกจิ ซ่ึงสุดท้ายแล้วรัฐจะจัดเก็บภาษีได้เพ่ิมมากข้ึนเพื่อจา่ ยภาระดอกเบี้ย แต่
หากจัดเก็บภาษไี ด้น้อย ปญั หาท่ีประเทศเผชญิ และต้องแก้ไขกค็ ือการทีร่ ะดับรายได้ของประเทศสูงข้ึนไม่
เพียงพอ ดังนั้นจึงสามารถสรุปได้ว่าหนี้สาธารณะจะก่อให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจหรือไม่นั้น ไม่ได้
ขึน้ อยูก่ ับระดับของหนส้ี าธารณะเพยี งอย่างเดยี ว แตค่ วรพิจารณาถึงการบรหิ ารจดั การหน้เี หล่าน้ันว่าถูก
ใช้ในกจิ กรรมหรือโครงการที่กอ่ ให้เกดิ มูลคา่ ทางเศรษฐกิจมากนอ้ ยเพียงใดรว่ มด้วย
2.2 ทฤษฎีเกีย่ วกบั การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ
2.2.1 แบบจำลองเศรษฐกจิ มหภาค
แบบจำลองเศรษฐกิจมหภาคเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญของสภาวะเศรษฐกิจของประเทศใด ๆ โดย
ตัวชี้วัดที่ถูกใช้คือผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ซึ่งแบบจำลองเศรษฐกิจมหภาคจะจำแนก
GDP ตามรายจ่ายของหน่วยเศรษฐกิจในตลาดสินค้าและบริการ ออกเป็น 4 ภาคเศรษฐกิจได้แก่ ภาค
ครัวเรือน(Households Sector) ภาคธุรกิจ (Business Sector) ภาครัฐบาล (Government Sector)
และภาคการตดิ ตอ่ กับต่างประเทศ (Foreign Sector)
สำนักงานเลขาธิการสภาผแู้ ทนราษฎร 8 สำนกั งบประมาณของรัฐสภา
ผลกระทบของหนี้สาธารณะต่อเศรษฐกจิ ไทย
(1) ภาคครัวเรือน (Households Sector) ถูกมองเป็นเจ้าของปัจจัยการผลิต ประกอบด้วย แรงงาน
ทดี่ ิน ทุน และผปู้ ระกอบการ ซึ่งภาคครัวเรือนจะขายปจั จัยการผลติ ให้แก่ภาคธรุ กิจและภาครฐั บาล โดย
ได้รับค่าตอบแทนในรูปของ ค่าจ้าง ค่าเช่า ดอกเบี้ย และกำไร ในขณะเดียวกันภาคครัวเรือนในฐานะ
ผ้บู รโิ ภคจะนำรายไดจ้ ากการขายปัจจัยการผลิตไปซอื้ สินค้าและบริการจากภาคธุรกิจ
(2) ภาคธุรกิจ (Business Sector) จะทำหน้าที่เป็นผู้ผลิตโดยซื้อปัจจัยการผลิตจากภาคครัวเรือนเพื่อ
ผลิตสินค้าและบรกิ าร จากนน้ั ขายสนิ คา้ และบรกิ ารให้แก่ภาคครัวเรือน ภาครัฐบาลและภาคต่างประเทศ
(3) ภาครฐั บาล (Government Sector) ประกอบดว้ ยหน่วยงานตา่ ง ๆ ของรฐั โดยการทภ่ี าครัฐบาลจะ
สามารถดำเนนิ การใชจ้ า่ ยและบริโภคสินค้าและบริการผา่ นการจัดทำงบประมาณรายจา่ ยประจำปี โดยมี
รายได้หลักมาจากภาษีและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่เก็บจากภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ กำไรจากการ
ดำเนนิ ธุรกิจของรฐั วิสาหกจิ และรายรับจากการกยู้ ืม
(4) ภาคการติดต่อกับต่างประเทศ (Foreign Sector) สำหรับการติดต่อทางเศรษฐกิจกับต่างประเทศ
เกิดขึ้นเนื่องจากแต่ละประเทศมีความได้เปรียบเชิงสัมพัทธ์ในการผลิตสินค้าและบริการแต่ละชนิดไม่
เหมือนกัน จึงต้องมีการซื้อสนิ ค้าและบริการที่ประเทศน้ัน ๆ ไม่สามารถผลิตได้หรือไม่เพียงพอต่อความ
ต้องการของคนภายในประเทศ ขณะเดียวกันก็ขายสินค้าและบริการที่เกินความต้องการไปยัง
ต่างประเทศ นอกจากน้ยี งั มีการเคล่ือนย้ายเงินทนุ และแรงงานระหว่างประเทศ ซ่ึงเม่ือนำมูลค่าของทั้ง 4
ภาคส่วนมารวมกันก็จะสามารถทราบได้ว่ามูลค่าของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ณ ปี ใด ๆ มีค่า
เท่ากับเท่าไหร่ เพื่อให้เกิดความชัดเจนและง่ายต่อการคำนวน GDP ด้านรายจ่าย นักเศรษฐศาสตร์จึง
นำเสนอการคำนวณ GDP ดังนี้
GDP = C+I+G+(X-M)
โดยที่ C หรือ Consumption คือ รายจา่ ยเพื่อการอุปโภคและบริโภคของครัวเรอื น
I หรือ Investment คือ รายจา่ ยเพือ่ การลงทนุ ภาคเอกชน
G หรือ Government Spending คือ รายจา่ ยเพ่อื ซือ้ สนิ คา้ และบรกิ ารภาครัฐ
(X-M) หรอื (Export – Import) คือ การสง่ ออกสทุ ธิ
2.2.2 ทฤษฎีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกจิ
การเจริญเตบิ โตทางเศรษฐกิจ คือการขยายตัวในความสามารถของประเทศท่ีจะผลิตสินค้าและ
บริการที่ก่อใหเ้ กิดการเพิ่มข้ึนของรายได้ที่แท้จรงิ เฉลีย่ ต่อบุคคล ดังนั้นการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจจงึ
ถูกวัดด้วยผลติ ภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (Gross Domestic Product หรอื GDP) ซึง่ หมายถึงมูลค่า
ตามราคาตลาดของสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายที่ผลิตขึ้นในประเทศในช่วงระยะเวลาหนึ่ง โดยดูการ
เปลีย่ นแปลงทเี่ กดิ ข้นึ ในแต่ละช่วงเวลา
เมอ่ื การเจริญเตบิ โตทางเศรษฐกิจถูกวัดจากอตั ราการขยายตวั ของ GDP ดังน้ันนกั เศรษฐศาสตร์
จึงทำการศึกษาและค้นพบทฤษฎีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่มีความแตกต่างกัน เช่น ทฤษฎีการ
สำนักงานเลขาธกิ ารสภาผ้แู ทนราษฎร 9 สำนักงบประมาณของรัฐสภา
ผลกระทบของหน้สี าธารณะต่อเศรษฐกิจไทย
เจริญเติบของสำนักคลาสสิค (Classical Economic Growth) โดย Smith (1776) มีความเชื่อว่า
ทรัพยากรที่ถูกใช้ในการสร้างมูลค่าและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจมีจำนวนจำกัด ดังนั้นระบบ
เศรษฐกิจจะสามารถขยายตัวได้ด้วยการเพิ่มขึ้นของผลผลิตต่อบุคคล ซึ่งทำให้เกิดการขยายตัวของของ
ตลาดและค่าจ้างแรงงาน อย่างไรก็ดีเมื่อถึงจุดที่ทรัพยากรในการผลิตหมดไปการเจริญเติบโตของ
เศรษฐกิจจะเข้าสู่สภาวะชะงักงัน ซึ่งมีความสอดคล้องกับ Ricardo (1772) ที่นำเสนอว่าความ
เจริญเติบโตทางเศรษฐกิจจะเกิดข้อจำกัดเนื่องจากกฎการลดน้อยถอยลง (Law of Diminishing
Returns) เนือ่ งจากทรัพยากรมีอยู่อย่างจำกัด โดยพบว่าเมื่อทรัพยากรท่ดี ินมีอยู่อย่างจำกัด การเพิ่มข้ึน
ของประชากรทำให้จำนวนแรงงานต่อหน่วยผลิตของที่ดินจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งผลผลิตเพิ่มขึ้นใน
หนว่ ยสุดท้ายคอ่ ย ๆ ลดลง สง่ ผลให้การเจรญิ เติบโตของระบบเศรษฐกจิ ไมส่ ามารถเกิดข้นึ ได้อีกต่อไป
ทฤษฎีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของนีโอคลาสสิค (Neoclassical Economic Growth
Theory) ซึ่งแบบจำลองทฤษฎีการเจริญเติบโตที่สำคัญของสำนักนี้คือ Harrod-Domar Growth
Model โดยแบบจำลองดังกล่าวเชื่อว่าการออมและการสะสมทุนที่เพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่จะ
กอ่ ใหเ้ กดิ ผลผลติ รวมของประเทศเพ่ิมข้ึน ซง่ึ จะผลักดนั ให้ระบบเศรษฐกิจเจริญเตบิ โตและขยายตัวอย่าง
มีประสิทธิภาพ ซึ่งแบบจำลองดังกล่าวจะเป็นจริงได้ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขดังนี้ (1) การลงทุนของ
ประเทศเท่ากับระดับการออมของประเทศ (2) มีการจ้างงานเต็มศักยภาพ และ (3) มีการใช้ปัจจัยทุน
อย่างเต็มที่ กล่าวคือแบบจำลอง Harrod-Domar Growth Model ให้ความสำคัญกับอัตราการออม
และอัตราส่วนของทุนต่อผลผลิต
แบบจำลองการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของโซโล (The Solow Growth Model) ถูกพัฒนา
จากแบบจำลองของ Harrod-Domar Growth Model โดย Solow (1957) ได้เพิ่มปัจจัยแรงงานและ
เทคโนโลยีเข้าไปในสมการการเจริญเติบโต แม้ว่าแบบจำลองของ Solow จะเป็นการอธิบายกลุ่ม
ประเทศที่พัฒนาแล้วได้ดีกว่ากลุ่มประเทศกำลังพัฒนา แต่แบบจำลองยังคงสามารถนำเสนอภาพท่ี
ชัดเจนของการเจริญเติบโตและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ โดยแบบจำลองเชื่อว่าเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน
สามารถเข้าหากันจนมีระดับของรายได้ที่เท่ากันได้ เรียกว่าการไล่กวดทางเศรษฐกิจ (Catching up
effect) โดยกำหนดตัวแปรอื่นมีค่าเท่ากัน ได้แก่ระดับการออม ค่าเสื่อมราคา อัตราการเติบโตของ
แรงงาน และการเติบโตในผลิตภาพ ดังนั้นแบบจำลอง Solow จึงเป็นพื้นฐานหลักในการอธิบายการ
เขา้ หากันของสองเศรษฐกิจทีม่ ีความแตกตา่ งกนั ณ เวลาเร่ิมตน้
ทฤษฎีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจแนวใหม่ (The Endogenous Growth Theory: The AK
Model) โดยให้ความเห็นเพ่ิมเติมว่าการพฒั นาด้านทุนมนุษย์ (Human Capital) เชน่ การพัฒนาทักษะ
แรงงาน หรอื การใหค้ วามรกู้ ับแรงงาน และการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) ก็ชว่ ย
ส่งผลตอ่ การเจรญิ เตบิ โตทางเศรษฐกิจเช่นเดียวกนั ซง่ึ ปจั จัยการพัฒนาทุนมนุษย์ไม่ไดถ้ ูกนำมาพิจารณา
ในแนวคิดของแบบจำลองการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสำนักนีโอคลาสสิค (Neoclassical Growth
สำนกั งานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร 10 สำนกั งบประมาณของรัฐสภา
ผลกระทบของหนส้ี าธารณะตอ่ เศรษฐกิจไทย
Model) และแบบจำลองการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของโซโล (Solow Growth Model) ที่ให้
ความสำคญั เพียงแคก่ ารออมและการลงทุนทางกายภาพเท่าน้นั
2.3 งานวิจยั ทเี่ ก่ยี วขอ้ ง
Baum et al. (2012) ศึกษาความสัมพันธ์ของหนี้สาธารณะกับอัตราการเจริญเติบโตของ GDP
ของ12 ประเทศจากสหภาพยุโรปตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990 – 2010 และความยั่งยืนของหนี้สาธารณะของ
สหภาพยุโรป พบว่าในระยะสัน้ หน้ีสาธารณะในระดับทีไ่ ม่สูงส่งผลให้เศรษฐกิจขยายตวั อย่างมีนัยสำคัญ
แต่ผลกระทบทางบวกดังกล่าวค่อย ๆ ลดลงเข้าใกล้ศูนย์และไม่มีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อระดับของหน้ี
สาธารณะต่อ GDP เข้าใกล้ระดับร้อยละ 67 อย่างไรก็ดีเมื่อระดับของหนี้สาธารณะต่อ GDP สูงกว่า
ร้อยละ 95 พบความสมั พนั ธแ์ บบผกผัน
Bilan and Ihnatov (2015) ศึกษาผลกระทบของหนี้สาธารณะกับอัตราการเจริญเติบโตทาง
เศรษฐกิจของ 33 ประเทศในยุโรประหว่างปี ค.ศ. 1990 – 2011 พบว่าหนี้สาธารณะส่งผลกระทบ
ทางบวกอย่างมีนยั สำคัญต่อการเจรญิ เตบิ โตทางเศรษฐกจิ อย่างไรก็ดีหนี้สาธารณะจะส่งผลกระทบทาง
ลบตอ่ GDP เมอ่ื ระดบั ของหนส้ี าธารณะต่อ GDP สงู กว่าร้อยละ 94
Greenidge et al. (2012) ศึกษาผลกระทบของหนี้สาธารณะต่ออัตราการเจริญเติบโตทาง
เศรษฐกิจในแคริบเบียน 12 ประเทศ ระหว่างปี ค.ศ. 1990 – 2010 ด้วยวิธีการถดถอยแบบ Fixed
Effects พบว่าเมื่อระดับของหนี้สาธารณะต่อ GDP อยู่ในระดับที่น้อยกว่าร้อยละ 30 การเพิ่มขึ้นของ
ระดับหนี้สาธารณะส่งผลให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ดีเมื่อระดับของหนี้สาธารณะ
เพิ่มสูงขึ้นกว่าร้อยละ 30 การอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจจะค่อย ๆ น้อยลงจนถึงระดับที่ร้อยละ
55-56 หลังจากนั้นหนีส้ าธารณะจะมีความสัมพันธ์เชิงลบกบั การขยายตัวทางเศรษฐกจิ กล่าวคือเม่ือหนี้
สาธารณะเพม่ิ ขึ้นมากกวา่ ระดับร้อยละ 55-56 จะสง่ ผลใหเ้ ศรษฐกจิ ลดลง
กัญญ์สุดา นิ่มอนุสสรณ์กุล และคณะ (2556) ได้ศึกษาผลกระทบของหนี้สาธารณะต่ออัตรา
การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศต่าง ๆ ด้วยวิธีการถดถอยแบบพาแนลควอนไทล์และ
วิธีการถดถอยโดยทั่วไป (condition mean) จากนั้นทําการเปรียบเทียบผลกระทบดังกล่าวของกลุ่ม
ประเทศต่าง ๆ ที่มีระดับหนี้สาธารณะที่แตกต่างกันของ 156 ประเทศ โดยใช้ข้อมูลรายปีตั้งแต่ปี พ.ศ.
2521 – 2553 โดยผลการศึกษาพบว่า หนี้สาธารณะมีผลกระทบทางลบต่ออัตราการเจริญเติบโตทาง
เศรษฐกิจในทุกกลุ่มประเทศที่ศึกษาโดยกลุ่มประเทศเกือบทุกกลุ่มมผี ลการศึกษาที่สอดคล้องกบั วิธีการ
ถดถอยโดยทั่วไปและพบว่าขนาดของผลกระทบของหนส้ี าธารณะต่ออัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ
ไม่ไดข้ น้ึ อยู่กบั ระดับหนสี้ าธารณะท่ีมีอยขู่ องกลุ่มประเทศน้นั กลา่ วคือระดบั ของหนี้สาธารณะไม่ได้ส่งผล
ตอ่ อัตราการเจรญิ เติบโตของเศรษฐกจิ
Presbitero (2010) ศึกษาหนี้สาธารณะกับการเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศกำลังพัฒนา
จำแนกออกเป็นประเทศที่มีรายได้น้อยและรายได้ปานกลาง ระหว่างปี ค.ศ. 1990 – 2007 พบว่าหน้ี
สำนกั งานเลขาธกิ ารสภาผู้แทนราษฎร 11 สำนกั งบประมาณของรฐั สภา
ผลกระทบของหนสี้ าธารณะต่อเศรษฐกิจไทย
สาธารณะทุกระดับจนถึงระดับร้อยละ 90 ต่อ GDP มีความสัมพันธ์ทางลบกับการเติบโตของผลผลิต
และไม่พบความสัมพันธ์เมื่อระดับหนี้สาธารณะอยู่ในระดับที่มากกว่าร้อยละ 90 ต่อ GDP สำหรับ
ประเทศรายได้น้อยและรายได้ปานกลาง ดังนั้นงานวิจัยฉบับนี้จึงสรุปได้ว่าประเทศที่ทำการศึกษาไม่มี
ระดับที่เหมาะสมของหนีส้ าธารณะเน่ืองจากประเทศในกลุ่มนี้ไมม่ ีความสามารถในการบริหารจัดการหนี้
สาธารณะได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพและย่งั ยืน
Kumar and Woo (2010) ศึกษาผลกระทบของหนส้ี าธารณะตอ่ อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ในระยะยาวของกลุ่ม Advanced Economies และกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ ( Emerging
Economies) ระหว่างปี ค.ศ. 1970 – 2007 ด้วยวิธี system GMM โดยผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่าใน
ประเทศที่เกิดใหม่ หนี้สาธารณะมีความสัมพันธ์แบบผกผันกับอัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ
กล่าวคือหากสัดส่วนของหนี้สาธารณะต่อ GDP เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จะส่งผลให้อัตราการขยายตัวทาง
เศรษฐกิจลดลงร้อยละ 1.5 และ 2.0 ในกลุ่มประเทศ Advanced Economies และกลุ่มประเทศตลาด
เกิดใหม่ (Emerging Economies) ตามลำดับ ซึ่งผลกระทบดังกล่าวมีค่าน้อยหากเป็นประเทศในกลุ่ม
Advanced Economies นอกจากนี้คณะผู้วิจัยพบความสัมพันธ์ที่ไม่เป็นเส้นตรงกับระดับของหนี้ที่
สงู ขนึ้ ซึง่ จะมีผลในทางลบต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกจิ ทีม่ ากข้นึ ด้วย
Mizstal (2010) ศึกษาผลกระทบของหนี้สาธารณะกับอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของ
ประเทศในสหภาพยุโรป ระหว่างปี ค.ศ. 2000 – 2010 ด้วยวิธี the Vector Autoregression Model
(VAR) โดยผลการศกึ ษาพบความสมั พันธ์แบบผกผนั ระหว่างหน้ีสาธารณะและอตั ราการเจริญเติบโตของ
GDP กล่าวคือ เมื่อหน้ีสาธารณะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1 จะส่งผลให้ GDP ลดลงหรือหดตัวร้อยละ 1
เชน่ เดยี วกนั ซง่ึ สอดคลอ้ งกบั ผลการศึกษาของ Ferreira (2009) ทใ่ี ช้วิธีการศึกษาเดียวกนั
Reinhart and Rogoff (2010a, 2010b) ศกึ ษาหน้ีสาธารณะและการเจรญิ เติบโตทางเศรษฐกิจ
ของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ (Emerging Economies) และกลุ่มประเทศ Advanced Economies
จำนวน 44 ประเทศพบว่าความสัมพันธ์ของหนี้สาธารณะกับอัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจมูลค่า
ที่แท้จริงมีค่าน้อยเมื่อระดับของหนี้สาธารณะน้อยกว่าร้อยละ 90 ของ GDP และมีความสัมพันธ์แบบ
ผกผันหากระดับของหนี้สาธารณะอยู่ในระดับที่สูงกว่าร้อยละ 90 ต่อ GDP อย่างไรก็ดีกลุ่มประเทศ
ตลาดเกิดใหม่ (Emerging Economies) พบความสัมพันธ์แบบผกผันหากระดับของหนี้สาธารณะอยู่ใน
ระดับท่ีสูงกว่าร้อยละ 60 ตอ่ GDP ทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจตอ่ ปลี ดลงประมาณร้อยละ 2
Checherita and Rother (2010) ศึกษาผลกระทบจากการมีระดับหนี้สาธารณะที่สูงของ 12
ประเทศในทวีปยุโรปต่อการเจริญเติบโตของเศรษฐกจิ เป็นเวลากว่า 40 ปีย้อนหลัง ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1970
และทำการวิเคราะห์ด้วย ใช้วิธี fixed effect panel และ instrumental variable กับแบบจำลองท่ี
ไม่ใช่เส้นตรง (nonlinear) โดยผลการศึกษาพบว่า หนี้สาธารณะมีผลกระทบทางลบแบบไม่ใช่เส้นตรง
กับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ และการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยผลกระทบดังกล่าวจะมี
สำนกั งานเลขาธกิ ารสภาผแู้ ทนราษฎร 12 สำนกั งบประมาณของรฐั สภา
ผลกระทบของหนส้ี าธารณะต่อเศรษฐกจิ ไทย
มากขึ้นหากหนี้สาธารณะอยู่ในระดับท่ีสูงมากขึ้น เช่น ระดับ 70-80% ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวม
ภายในประเทศ
ภัสราภา ตัง้ กาญจนภาสน์ (2563) ศึกษาผลกระทบหน้ีสาธารณะกบั อัตราการเจริญเติบโตทาง
เศรษฐกิจของประเทศไทย ระหว่างปี พ.ศ. 2541 – 2560 ด้วยวิธีกำลังสองน้อยที่สุดสองขั้น (Two
Stage Least Square: 2SLS) พบว่าระดับของหนี้สาธารณะและอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจมี
ความสัมพันธ์แบบไม่เป็นเส้นตรง กล่าวคือการเพิ่มขึ้นของหนี้สาธารณะส่งผลให้ GDP ของประเทศไทย
ขยายตัวขึ้น อย่างไรก็ดีเมื่อระดับของหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นมากกว่าระดับร้อยละ 48 ต่อ GDP จะพบ
ความสัมพันธ์เชิงลบ โดยการเพิ่มขึ้นของระดับของหนี้สาธารณะจะส่งผลให้อัตราการเจริญเติบโตทาง
เศรษฐกจิ ลดลง
วารุณี สิทธิถาวร (2546) ศึกษาบทบาทของหนี้จากต่างประเทศต่ออัตราการเจริญเติบโตของ
เศรษฐกิจไทย ระหว่างปี พ.ศ. 2531 – 2539 โดยการทดสอบความสัมพันธ์เชิงเหตุและผล (Granger
Causality Test) พบว่าการก่อหนจ้ี ากต่างประเทศทัง้ ภาครฐั และภาคเอกชนมคี วามสัมพันธก์ ับอตั ราการ
เจริญเติบโตทางเศรษฐกิจแบบสองทาง นั่นคือการก่อหนี้ต่างประเทศมีส่งผลกระทบต่ออัตราการ
เจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและในขณะเดียวกันอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจก็มีอิทธิพลต่อการก่อ
หนี้จากต่างประเทศทั้งภาครฐั และภาคเอกชน
2.4 กรอบแนวคิดในการวจิ ัย
ภาพที่ 2.1 แสดงกรอบแนวคิดโดยตัวแปรตามคือการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (Real GDP
Growth) และตัวแปรอิสระทใี่ ช้เป็นกรอบแนวคดิ คือหน้ีสาธารณะและปัจจยั ต่าง ๆ ที่ส่งผลต่ออัตราการ
เจรญิ เติบโตทางเศรษฐกิจของไทย
ภาพที่ 2.1 กรอบแนวคดิ ในการศึกษา
สำนกั งานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร 13 สำนักงบประมาณของรฐั สภา
ผลกระทบของหน้ีสาธารณะตอ่ เศรษฐกิจไทย
ส่วนท่ี 3 ผลการศึกษา
ผลการศึกษาสามารถแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่หนึ่ง คือ โครงสร้างของหนี้สาธารณะ
และเศรษฐกิจของประเทศไทย ส่วนที่สอง คือ ผลการทดสอบความนิ่งของข้อมูล และส่วนที่สาม คือ
ผลกระทบของหนี้สาธารณะต่ออัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ด้วยวิธีการถดถอย
แบบกำลังสองนอ้ ยทส่ี ุด
3.1 โครงสร้างหน้สี าธารณะและเศรษฐกจิ ของประเทศไทย
จากภาพที่ 3.1 พบวา่ ระดับหน้ีสาธารณะต่อผลิตภณั ฑ์มวลรวมในประเทศ ของไทยโดยเฉล่ียอยู่
ทร่ี ะดบั ร้อยละ 40-50 ตอ่ GDP ต้ังแต่ปี พ.ศ. 2548 – 2564 แตส่ ดั สว่ นดงั กล่าวลดลงในปี พ.ศ. 2549 -
2551 เนื่องจาก หนี้สาธารณะลดลงจาก 3.41 ล้านล้านบาท ในปี พ.ศ. 2548 เหลือเพียง 3.16 และ
3.19 ล้านล้านบาท ในปี พ.ศ. 2549 และ 2550 ตามลำดับ โดยเกิดจากการลดลงของหนี้กองทุนเพื่อ
การฟื้นฟแู ละพัฒนาระบบสถาบันการเงินและหนห้ี นว่ ยงานของรัฐเป็นหลัก อีกทั้งในปี พ.ศ. 2550 GDP
เพิ่มขึ้นค่อนข้างสูงโดยมีสาเหตุมาจากภาคการส่งออกและ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ขยายข้ึน
โดยเฉพาะสินค้าที่ผลิตเพื่อการส่งออก (ธนาคารแห่งประเทศไทย, 2550) อย่างไรก็ดีระดับของหน้ี
สาธารณะต่อ GDP เริ่มมีสัดส่วนที่สูงขึ้นในปี พ.ศ. 2563 เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้
กิจกรรมทางเศรษฐกิจเกิดภาวะชะงักงัน ส่งผลให้ GDP ลดลงถึงร้อยละ 7.10 ในขณะที่หนี้สาธารณะ
เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 16.99 เนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของหนี้รัฐบาลเพื่อใช้ในการรับมือกับการระบาดของ
COVID-19 อาทิ การเยียวยาภาคธุรกิจและประชาชน การฟื้นฟูเศรษฐกิจ เป็นต้น โดย ณ วันที่ 30
พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 สัดส่วนของหนี้สาธารณะต่อ GDP เพิ่มสูงขึ้นเป็นระดับที่ร้อยละ 59.58 โดย
หากพิจารณาระดับหนี้สาธารณะในรายละเอียดพบว่าหนี้รัฐบาลหรือหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงเป็นหนี้ที่มี
สัดส่วนมากที่สุดโดยเฉลี่ยตัง้ แต่ปี พ.ศ. 2548 - 2563 โดยสัดส่วนต่อหนี้สาธารณะทั้งหมดสูงถึงร้อยละ
73.40 รองลงมาคือหน้ีรัฐวิสาหกิจ เฉลี่ยเท่ากับร้อยละ 19.47 โดยหนี้ส่วนอื่นประกอบด้วยหนี้
รัฐวิสาหกิจที่ทำธุรกิจในภาคการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน หนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบ
สถาบันการเงิน และหนี้หน่วยงานของรัฐ มีสัดส่วนเท่ากับร้อยละ 5.48 1.28 และ 0.36 ตามลำดับ
ดังแสดงในภาพที่ 3.2
สำนักงานเลขาธกิ ารสภาผู้แทนราษฎร 14 สำนักงบประมาณของรัฐสภา
ผลกระทบของหน้สี าธารณะตอ่ เศรษฐกิจไทย
แผนภาพที่ 3.1 โครงสรา้ งหน้สี าธารณะ
สำนกั งานบริหารหน้สี าธารณะ, 2565
ภาพที่ 3.2 สัดส่วนหนี้สาธารณะตามแหล่งที่มาตอ่ หนี้สาธารณะทั้งหมดเฉลี่ย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548-
2563
สำนักงานเลขาธกิ ารสภาผแู้ ทนราษฎร 15 สำนักงบประมาณของรัฐสภา
ผลกระทบของหนส้ี าธารณะต่อเศรษฐกิจไทย
หนี้สาธารณะเป็นปัจจัยที่สำคัญปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและมี
ความสำคัญตอ่ รฐั บาลโดยเฉพาะอย่างย่ิงในประเทศกําลงั พัฒนา เนื่องจากรฐั บาลอาจมีความจำเป็นต้อง
ใช้จ่ายเงินเพื่อพัฒนาประเทศ ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน รางรถไฟ ไฟฟ้า น้ำประปา การ
ขนส่งสาธารณะ และพลังงานต่าง ๆ ส่งผลให้มูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศเพิ่มขึ้นและนำไปสู่การ
สร้างรายได้ของรัฐบาลที่เพิ่มขึน้ ในอนาคต ดังนั้นเพื่อตอบสนองการใช้จ่ายงบประมาณของประเทศไทย
ทเี่ พ่มิ ข้ึนโดยเฉพาะในช่วงของการระบาดของโควดิ -19 คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐได้
มีมติเห็นชอบให้มีการทบทวนกรอบสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ จากเดิมที่
กำหนดไว้ว่าต้องไม่เกินร้อยละ 60 เป็นต้องไม่เกินร้อยละ 70 ทั้งนี้เพื่อเป็นการเพิ่มพื้นที่ทางการคลัง
ให้กบั รฐั บาล และไมเ่ ป็นอปุ สรรคหากรฐั บาลมีความจำเป็นต้องกเู้ งนิ เพ่ือดำเนนิ นโยบายการคลังในระยะ
ปานกลางเพม่ิ ประเด็นสดั ส่วนหนจี้ ากร้อยละ 60 เป็นร้อยละ 70 (สำนักงานบริหารหนส้ี าธารณะ, 2564)
อยา่ งไรก็ดีรัฐบาลจำเป็นต้องบรหิ ารประเทศให้มีอตั ราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับที่เหมาะสม
เพื่อแสดงถึงการจัดสรรทรัพยากรทมี่ ีอยู่อย่างมีประสิทธภิ าพ เนื่องจากประชาชนมคี วามกังวลถึงปริมาณ
หนี้สาธารณะที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตจากการขยายเพดานหนี้ดังกล่าว ดังนั้นการศึกษาถึงผลกระทบของ
หนี้สาธารณะต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อเป็นหลักฐานเชิงวิชาการถึง
ผลกระทบของการก่อหนี้สาธารณะ เพราะการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนา
อาชพี และรายได้ ตลาดแรงงาน และการพฒั นาผลผลิตและเทคโนโลยี
ภาพที่ 3.3 แสดงถึงอัตราการเจริญเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของ
ประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 – 2563 จำแนกตามภาคการผลิต ได้แก่ อัตราการเจริญเติบโตของ
ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศภาคเกษตรกรรมและผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศนอกภาค
เกษตรกรรม พบวา่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศภาคเกษตรกรรมขยายตัวเฉลยี่ ร้อยละ 1.00 ตอ่ ปี และ
นอกภาคเกษตรกรรมขยายตวั เฉลีย่ ร้อยละ 3.08 ต่อปี ส่งผลใหผ้ ลติ ภัณฑ์มวลรวมในประเทศในภาพรวม
(GDP) ขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 2.87 ต่อปี โดยเศรษฐกิจไทยมีอัตราการเจริญเติบโตลดลงเหลือเพียงร้อย
ละ 1.7 และ -0.7 ในปี พ.ศ. 2551 และ 2552 ตามลำดับ โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากการหดตัวของภาค
การส่งออก โดยเฉพาะในไตรมาสสุดท้ายของปีที่มีปัจจัยลบจากภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและ
ความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศ ส่งผลให้ภาคการส่งออก การผลิตอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว
ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศลดลงร้อยละ 1.3 หรือเหลือเพียง
14.3 ล้านคนในปี นอกจากนี้พบว่าเศรษฐกิจไทยชะลอตัวต่อเนื่องในปี พ.ศ. 2552 ซึ่งได้รับผลกระทบ
ทางลบจากวิกฤตการเงินโลกทำให้การส่งออกของไทยลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และส่งผลกระทบต่อเนื่อง
ไปยังการผลิตของภาคอุ ตสาหกร รมคว ามเช่ื อมั่น ข องภา คเอ กชนแล ะการบริโภค และการ ล ง ทุ น
ภายในประเทศ (ธนาคารแห่งประเทศไทย, 2551) ดังนั้นรฐั บาลจึงมีการก่อหนี้สาธารณะเงินกูเ้ พื่อฟื้นฟู
และเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจจำนวน 65,000 ล้านบาทเพื่อใช้ดำเนินนโยบายทางการคลัง
และกอ่ หนเี้ พ่ือชดเชยการขาดดุลงบประมาณ และการบรหิ ารหนี้เพ่ิมขึ้นประมาณ 392,582 ล้านบาท
สำนักงานเลขาธกิ ารสภาผ้แู ทนราษฎร 16 สำนักงบประมาณของรัฐสภา
ผลกระทบของหน้สี าธารณะตอ่ เศรษฐกิจไทย
หลังจากปี พ.ศ. 2552 เศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวและขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากการดำเนิน
นโยบายทางการคลงั ของรัฐบาล อย่างไรกด็ ีการดำเนินนโยบายทางการคลงั ของภาครัฐทำใหม้ ีการก่อหนี้
สาธารณะเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจเป็นจำนวน 398,572 ล้านบาท ณ สิ้นปี
พ.ศ. 2555 รวมถึงราคาผลผลิตทางการเกษตรที่สูงขึ้นทำให้การบริโภคภายในประเทศเพิ่มขึ้นจนถึง
ระดับที่สูงที่สุดในปี พ.ศ. 2555 หลังจากนั้นอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจค่อย ๆ ลดลงจนถึงปี
พ.ศ. 2558 เนอ่ื งจากการชะลอตัวของอุปสงค์ภายในประเทศ ทง้ั การลงทุนของภาครัฐที่ล่าช้าและความ
ไม่แนน่ อนทางเศรษฐกิจและการเมืองภายในประเทศ และหนีค้ รัวเรือนทเี่ พิ่มสูงขน้ึ ทำให้ภาคครัวเรือนมี
ความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากย่ิงขึ้น ประกอบกับความเข้มงวดในการปล่อยสินเช่ือของภาคการเงิน
และการหดตัวของการส่งออกทัง้ จากดา้ นราคาและปริมาณ โดยราคาปรบั ลดลงสอดคล้องกบั ราคาน้ำมัน
และปริมาณที่ลดลงเกิดจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่สำคัญ อาทิ จีนและอาเซียน
อย่างไรก็ดีเศรษฐกิจของไทยเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น ระหว่างปี พ.ศ. 2558 – 2562 จากการฟื้นตัวของภาคการ
ส่งออกและการท่องเที่ยว ซึ่งสอดคล้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ในปี พ.ศ. 2563 เศรษฐกิจไทย
หดตัวอย่างรุนแรงถึงร้อยละ 6.10 เนื่องจากทั่วโลกได้รบั ผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ
โควิด-19 ทำให้รัฐบาลในประเทศต่าง ๆ รวมถึงประเทศไทยออกมาตรการการควบคุมการระบาดอย่าง
เขม้ งวด (Lock Down) ทำใหก้ จิ กรรมทางเศรษฐกจิ ในหลายภาคสว่ นเกิดภาวะชะงักงันไม่วา่ จะเป็นภาค
การท่องเที่ยว ภาคการส่งออก การค้าระหว่างประเทศ การบริโภคภายในประเทศ ทำให้เศรษฐกิจไทย
หดตัวในอัตราที่สูงมาก (ธนาคารแห่งประเทศไทย, 2555-2563) ทำให้รัฐบาลมีความจำเป็นต้องก่อหน้ี
สาธารณะเพิ่มขึ้น โดยก่อหนี้ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา
เยียวยา และฟื้นฟู เศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 พ.ศ. 2563 จำนวน 881,311 ล้านบาท
สำนกั งานเลขาธกิ ารสภาผูแ้ ทนราษฎร 17 สำนักงบประมาณของรฐั สภา
ผลกระทบของหน้สี าธารณะต่อเศรษฐกิจไทย
ภาพที่ 3.3 อัตราการเจริญเติบของผลิตภัณฑ์มวลในประเทศ (Real GDP Growth) เศรษฐกิจของ
ประเทศไทย
ทมี่ า: สำนักงานสภาพฒั นาการเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ (2564)
3.2 ผลการทดสอบความนง่ิ ของขอ้ มูล
ผลการทดสอบความนิ่งของข้อมูล หรือการทดสอบ Unit Root ใช้ Augmented Dickey-
Fuller Test (ADF) ของอตั ราการเจริญเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDPG) อัตราการ
เจริญเติบโตของหนี้สาธารณะ (Debt) อัตราเงินเฟ้อ (Inflation) อัตราการเจริญเติบโตของการลงทุน
ภาครัฐและเอกชน (Investment) อัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงินบาทเทียบกับเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ
(FX) ราคาน้ำมนั ดีเซล (Diesel) และอตั ราการเจริญเตบิ โตของกำลังแรงงาน (Labour) ของประเทศไทย
ซึ่งพบว่า ตัวแปรทุกตัวท่ีทำการทดสอบความนิ่งของข้อมูลมีลักษณะเป็น Stationary หรือมี order of
integration เทา่ กับ ศนู ย์ (I(0)) ดังแสดงในตารางที่ 3.1
สำนกั งานเลขาธิการสภาผ้แู ทนราษฎร 18 สำนักงบประมาณของรัฐสภา
ผลกระทบของหนสี้ าธารณะตอ่ เศรษฐกจิ ไทย
ตารางท่ี 3.1 สรปุ ผลการทดสอบความน่ิงของข้อมูล ระดับ
ตวั แปร
ADF Test Probability
GDPG -5.6825 0.0000
Debt -4.6166 0.0005
Inflation -2.9379 0.0487
Investment -3.5890 0.0091
FX -2.6547 0.0892
Diesel -2.8217 0.0620
Labour -2.7352 0.0746
ประมวลโดยผูว้ จิ ยั
ดังนั้นเมื่อตัวแปรที่ใช้ในการศึกษามีความนิ่งจึงสามารถทำการประมาณค่าด้วยวิธีการถดถอย
กำลังสองน้อยที่สุด (Ordinary Least Square: OLS) พร้อมทั้งตรวจสอบและแก้ปัญหาที่อาจเกิดข้ึน
ก่อนการรายงานผล ประกอบด้วย ปัญหาตัวแปรอิสระมีความสัมพันธ์เชิงเส้น (Multicollinearity)
ปญั หาตวั คลาดเคลือ่ นมีสหสัมพนั ธ์กัน (Autocorrelation) และปัญหาตัวคลาดเคลื่อนมีความแปรปรวน
ไมค่ งที่ (Heteroskedasticity)
3.3 ผลกระทบของหนี้สาธารณะตอ่ การเจรญิ เติบโตทางเศรษฐกิจไทย
การศึกษาผลกระทบของหนี้สาธารณะต่ออัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย
ด้วยวิธีการถดถอยกำลังสองน้อยที่สุด (Ordinary Least Square: OLS) พบว่า (1) อัตราการ
เจรญิ เติบโตของหนสี้ าธารณะ (Debt) (2) อัตราเงนิ เฟอ้ (Inflation) (3) อัตราการเจรญิ เติบโตของ
การลงทุนภาครัฐและเอกชน (Investment) และ (4) อัตราการเจริญเติบโตของกำลังแรงงาน
(Labour) ส่งผลกระทบทางบวกต่ออัตราการเจริญเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ
(GDPG)
ในขณะที่ (1) อัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงินบาทเทียบกับเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ (FX) (2)
ราคาน้ำมันดีเซล (Diesel) (3) วิกฤติการเงินโลกเมื่อปี พ.ศ. 2552 (Crisis) และ (4) วิกฤติ
เศรษฐกิจจากมหาอุทกภัย (Flood) ส่งผลกระทบทางลบต่ออัตราการเจริญเติบโตของผลิตภัณฑ์
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร 19 สำนักงบประมาณของรฐั สภา
ผลกระทบของหนสี้ าธารณะตอ่ เศรษฐกิจไทย
มวลรวมภายในประเทศ (GDPG) โดยมีค่า R2 เท่ากับ 0.7414 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตัวแปรอิสระที่ใช้
ประมาณค่าในแบบจำลองนี้สามารถอธิบายความแปรปรวนของตัวแปรตามได้ร้อยละ 74.14 ดังแสดงใน
ตารางที่ 3.2
ตารางท่ี 3.2 ผลกระทบของหนี้สาธารณะต่ออัตราการเจรญิ เตบิ โตทางเศรษฐกิจ
ตัวแปร Coefficient Probability
Debt 0.1983** 0.0089
Inflation 0.3344* 0.0358
Investment 0.2237** 0.0010
FX -0.1246** 0.0083
Diesel -0.3371** 0.0003
Labour 0.3405* 0.0445
Crisis -5.4497** 0.0001
Flood -2.5036* 0.0434
C 10.9361 0.0000
R2 = 0.7414
หมายเหตุ: * คือ p-value < 0.05 และ *** คอื p-value < 0.01
ประมวลโดยผูว้ ิจยั
3.3.1 ผลกระทบของหนส้ี าธารณะตอ่ เศรษฐกิจไทย
จากการศึกษาพบว่าผลกระทบของหนี้สาธารณะต่ออัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของ
ประเทศไทยพบว่าหนี้สาธารณะส่งผลกระทบทางบวกต่ออัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ เท่ากับ
0.1983 ทร่ี ะดบั ความเชื่อม่นั ทางสถิตริ อ้ ยละ 99 กล่าวคอื เมอื่ มลู ค่าของหนสี้ าธารณะเพม่ิ ขึน้ ร้อยละ 1
หรือเท่ากับ 69,018 ล้านบาท ในขณะที่ปัจจัยอื่นคงที่ จะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวร้อยละ
0.1983 โดยเฉลี่ย หรือเท่ากับ 33,509 ล้านบาท โดยอ้างอิงมูลค่า ณ สิ้นปี พ.ศ. 2562 ดังแสดงตาม
แผนภาพท่ี 3.4
สำนกั งานเลขาธกิ ารสภาผแู้ ทนราษฎร 20 สำนกั งบประมาณของรฐั สภา
ผลกระทบของหนีส้ าธารณะตอ่ เศรษฐกจิ ไทย หน่วย: ล้านบาท
แผนภาพที่ 3.4 ผลของหน้สี าธารณะต่อเศรษฐกจิ ไทย
คำนวณโดยผ้วู ิจัย
แมว้ า่ หน้สี าธารณะจะส่งผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจไทย แตห่ ากพจิ ารณาลงในรายละเอียด
กลับพบว่า GDP ของประเทศไทยได้เพิ่มขึ้นในสัดส่วนที่น้อยกว่าการเพิ่มขึ้นของหนี้สาธารณะ ซึ่งเป็น
การเพิ่มขึ้นแบบ Decreasing Return to Scale โดยการเพิ่มขึ้นของ GDP จะเพิ่มขึ้นในสัดส่วนที่ลดลง
เร่ือย ๆ และจะเทา่ กบั ศนู ย์และอาจจะตดิ ลบเมื่อปัจจัยทุนโดยในทีน่ ีค้ ือระดบั ของหนสี้ าธารณะเพิ่มขึ้นถึง
ระดับที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นไปตามกฎการลดน้อยถอยลง (Law of Diminishing Return) นอกจากนี้
ผลกระทบของหนีส้ าธารณะดงั กล่าวเป็นการแสดงถึงพฤติกรรมของหนส้ี าธารณะต่อ GDP ในชว่ งปี พ.ศ.
2548-2562 เท่านั้น โดยในช่วงเวลาดังกลา่ วระดับของหนส้ี าธารณะถูกบริหารจัดการให้อยู่ภายใต้กรอบ
การบริหารหนี้สาธารณะ ที่ระดับของหนี้สาธารณะต่อ GDP ไม่สูงกว่าร้อยละ 60 โดยผลการศึกษาใน
ครั้งนี้สอดคล้องกับแนวคิดของนักเศรษฐศาสตร์สำนัก Keynesian ที่มีความเชื่อว่าการก่อหนี้สาธารณะ
ในปัจจบุ ันไม่ได้เปน็ ภาระการชำระหนใี้ นอนาคตและเปน็ เร่ืองปกตทิ ี่รัฐบาลในประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะ
ประเทศที่กำลงั พัฒนาสามารถกระทำได้เนื่องจากประเทศเหลา่ นีม้ ีขาดการดุลงบประมาณอย่างต่อเนื่อง
สำหรบั โครงสร้างพน้ื ฐานของประเทศ ดงั น้นั หนี้สาธารณะจึงเป็นปจั จัยสำคญั ทช่ี ่วยในการเพ่ิมมูลค่าทาง
เศรษฐกิจและนำไปสู่รายไดข้ องรัฐบาลที่เพิ่มขึ้นในอนาคต (Keynes, 1923) นอกจากนี้ผลการศึกษายงั
สอดคล้องกับการวิจัยเชิงประจักษ์โดย ภัสราภา ตั้งกาญจนภาสน์ (2563) Baum et al. (2012) Bilan
and Ihnatov (2015) และ Greenidge et al. (2012) ที่พบว่าการเพิ่มขึ้นของหนีส้ าธารณะจะส่งผลให้
เศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ ขยายตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหากประเทศนั้น ๆ มีการบริหารจัดการหน้ี
สาธารณะท่ดี แี ละระดับหนี้ตอ่ GDP ไมส่ งู มากเกินไป
สำนกั งานเลขาธกิ ารสภาผแู้ ทนราษฎร 21 สำนกั งบประมาณของรฐั สภา
ผลกระทบของหนสี้ าธารณะต่อเศรษฐกจิ ไทย
3.3.2 ปจั จัยท่ีสง่ ผลกระทบทางบวกต่อเศรษฐกจิ ไทย
อัตราเงินเฟ้อ (Inflation) คือ ภาวะที่ราคาสินค้าและบริการเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย
สาเหตุของการเกิดเงินเฟ้อ มี 2 สาเหตุหลัก ๆ ได้แก่ (1) ความต้องการซื้อสินค้าและบริการที่สูงข้ึน
(Demand-Pull Inflation) และ (2) ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น (Cost-Push Inflation) โดยทั่วไปรัฐบาล
นอกจากจะบริหารประเทศให้มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงแล้ว ยังมีความพยายามที่จะคงระดับ
ราคาสินค้าโดยทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อให้อยูในระดับตํ่า ผ่านหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวง
พาณิชย์ทำหน้าที่ในการการดูแลราคาสินค้าและบริการไม่ให้ผู้ประกอบการฉวยโอกาสหรือเอาเปรียบ
ผู้บริโภค หรือตรึงราคาไว้ในช่วงที่สินค้าขาดแคลนในระยะสั้น และธนาคารแห่งประเทศไทยดูแลอัตรา
เงนิ เฟ้อผา่ นการดำเนนิ นโยบายการเงินเพ่ือดูแลเงนิ เฟ้อให้อยู่ในระดบั ต่ำและไมผ่ นั ผวนมากจนเกนิ ไป ซึ่ง
เอื้อต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาว และความกินดีอยู่ดีของประชาชนเนื่องจากเงิน
เฟ้อถูกมองเป็นปัญหาสำคัญที่เกิดกับทุกประเทศและมีผลกระทบต่อความเป็นอยู่และการใช้
ชีวิตประจาํ วันของประชาชน
แผนภาพที่ 3.5 อัตราเงนิ เฟอ้ ของประเทศไทย
ท่ีมา: กระทรวงพาณชิ ย์และสำนกั งานสภาพฒั นาการเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ
จากแผนภาพที่ 3.5 แสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อและ อัตราการเจริญเติบโตของ GDP มี
แนวโน้มทีม่ คี วามสมั พันธ์ในทิศทางเดียว ซ่ึงสอดคลอ้ งกบั ผลของการประมาณค่าจากแบบจำลองท่ีพบว่า
หากอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นร้อยละ 1 โดยที่ปัจจัยควบคุมอื่น ๆ คงที่ อัตราการเจริญเติบทางเศรษฐกิจ
ของไทยจะขยายตัวร้อยละ 0.3344 หรือเท่ากับ 56,507 ล้านบาท ด้วยความเช่ือมั่นทางสถิติทีร่ ะดบั
สำนกั งานเลขาธกิ ารสภาผ้แู ทนราษฎร 22 สำนกั งบประมาณของรัฐสภา
ผลกระทบของหนีส้ าธารณะต่อเศรษฐกิจไทย
ร้อยละ 95 โดยผลการศึกษาดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าที่ผ่านมาประเทศไทยสามารถควบคุมอัตราเงิน
เฟ้อให้อยู่ในระดับที่ต่ำและเหมาะสมได้สอดคล้องกับงานวิจัยที่พบว่าอัตราเงินเฟ้ออาจเป็นปัจจัย
เกื้อหนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจหากอยู่ในระดับที่ต่ำและเหมาะสม (Mallik and Chowdhury,
2001) อย่างไรกด็ ีในอนาคตทร่ี าคาปัจจยั การผลิตต่าง ๆ มีแนวโน้มสูงขนึ้ จากราคาน้ำมนั ทส่ี งู ขึ้นและการ
เกดิ สงคราม ดงั นั้นในการวางนโยบายทางเศรษฐกิจของประเทศจึงจำเป็นต้องคำนงึ ถึงอัตราเงินเฟ้อที่จะ
เกิดขึ้นเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจดําเนินนโยบายและกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพื่อให้มีการ
เจรญิ เตบิ โตท่ตี ่อเน่ืองและยง่ั ยนื
การลงทุนภาครัฐและเอกชน (Investment) คือกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนกิจกรรมทาง
เศรษฐกิจดังนั้นตัวแปรการลงทุนภาครัฐและเอกชนจึงถูกมองเป็นปัจจัยที่จะช่วยเกื้อหนุนต่อการ
เจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ดังแสดงในแผนภาพที่ 3.6 ที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างการ
ลงทุนภาครัฐและเอกชนและอัตราการเจริญเติบโตของ GDP พบว่ามีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เท่ากับ
0.76 ซึง่ แสดงให้เหน็ วา่ ปจั จัยทั้งสองมีความสัมพนั ธ์กันสูงมาก โดยผลการประมาณค่าของแบบจำลองใน
การวิจัยครั้งน้ีก็สอดคล้องกัน ซึ่งพบว่าการลงทุนภาครฐั และเอกชนส่งผลกระทบเชงิ บวกต่ออัตราการ
เจริญเติบโตของ GDP โดยหากการลงทุนภาครัฐและเอกชนขยายตัวร้อยละ 1 ขณะที่ปัจจัยอื่น ๆ
คงที่ จะส่งผลให้ GDP ของประเทศไทยขยายตัวโดยเฉลี่ยร้อยละ 0.2237 หรือเท่ากบั 37,801 ล้าน
บาท
แผนภาพที่ 3.6 ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งการลงทุนภาครฐั และเอกชนและอตั ราการเจรญิ เตบิ โตของ GDP
Correlation Coefficient = 0.76
ประมวลโดยผูว้ จิ ัย
อัตราการเจริญเติบโตของกำลังแรงงาน (Labour) ส่งผลกระทบในทิศทางเดียวกันต่ออัตรา
การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยพบว่าหากกำลังแรงงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 1 ขณะที่ปัจจัยอื่น ๆ คงท่ี
สำนักงานเลขาธกิ ารสภาผู้แทนราษฎร 23 สำนกั งบประมาณของรฐั สภา
ผลกระทบของหน้สี าธารณะตอ่ เศรษฐกิจไทย
จะส่งผลให้ GDP ของประเทศไทยขยายตัวโดยเฉลี่ยร้อยละ 0.3405 หรอื เทา่ กับ 57,538 ล้านบาท
ซึ่งสอดคล้องกับทฤษฎีและการคาดการณ์ของผู้วิจัย เนื่องจากแรงงานเป็นปัจจัยการผลิตขั้นต้น
(Primary factor) สำคัญที่มีอิทธิพลต่อกระบวนการผลิต (Production function) นอกเหนือไปจาก
ปัจจัยที่ดิน ทุน ทรัพยากรธรรมชาติ และเทคโนโลยี นอกจากนี้ แรงงานยังเป็นผู้บริโภคกลุ่มสำคัญของ
การใช้จ่าย (Demand-side) ดังน้นั หากจำนวนแรงงานสูง การจา้ งงานในประเทศอยู่ในอตั ราสูง แรงงาน
มีคุณภาพและมรี ายได้เพยี งพอต่อการใชจ้ า่ ยกจ็ ะชว่ ยขับเคล่อื นระบบเศรษฐกจิ ให้เตบิ โตไดอ้ ยา่ งยงั่ ยนื
3.3.3 ปัจจัยที่สง่ ผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกจิ ไทย
อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบกับเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ (FX) โดยอัตราแลกเปลี่ยนคือ
ราคาของเงินสกุลหนึ่งเทียบกับเงินสกุลอื่น ซึ่งในการศึกษาครั้งน้ีเป็นราคาของเงินบาทเทียบกับเงินสกลุ
ดอลลาร์สหรัฐ เช่น ณ เวลาหนึ่ง เงิน 30 บาทสามารถแลกเงินดอลลาร์สหรัฐได้ 1 ดอลลาร์สหรัฐ จะ
หมายความว่า อัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงินบาทเทียบกับเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐเท่ากับ 30 บาท หาก
เวลาต่อมาต้องใช้เงินบาทจำนวน 32 บาทจึงจะแลกเงินดอลลาร์สหรัฐได้ 1 ดอลลาร์สหรัฐ หมายความ
ว่าเงินบาทอ่อนค่าลง แต่ในทางตรงกันข้ามหากเวลาตอ่ มาต้องใชเ้ งินบาทจำนวน 28 บาทจึงจะแลกเงิน
ดอลลาร์สหรัฐได้ 1 ดอลลาร์สหรัฐ หมายความว่าเงินบาทอ่อนแข็งค่าขึ้น ซึ่งการอ่อนค่าและแข็งค่าของ
เงินบาทจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยเน่ืองจากโครงสรา้ งเศรษฐกจิ ของไทยพึง่ พิงการส่งออกค่อนข้าง
สูงโดย ปี พ.ศ. 2564 สัดส่วนการส่งออกสินค้าและบริการต่อ GDP เท่ากับร้อยละ 58.25 โดยผล
การศึกษาจากแบบจำลองพบว่าหากเงินบาทอ่อนค่าร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ จะ
ส่งผลให้อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจลดลงร้อยละ 0.1246 หรือลดลงจำนวน 21,055 ล้าน
บาท ท่ีระดบั ความเชื่อม่ันทางสถิตริ ้อยละ 99 ทั้งนเี้ น่อื งจากการอ่อนค่าของเงนิ บาทอาจทำให้เกิดภาวะ
เงินเฟ้อที่ส่งผลมาจากการนำเข้าสินค้าและบริการจากต่างประเทศส่งผลให้อำนาจซื้อของประชาชน
ลดลง เศรษฐกิจชะลอตัว ในขณะเดียวกันเงินบาทที่อ่อนค่ายังอาจส่งผลให้การนำเข้าสินค้าทุนจาก
ต่างประเทศของภาครัฐและเอกชนลดลง ทำให้ศักยภาพการขยายตัวของเศรษฐกิจในระยะต่อไปลดลง
นอกจากนี้เมื่อศึกษาข้อมูลที่เกิดขึ้นจริงระหว่างอัตราการเปลี่ยนแปลงของ FX เทียบกับอัตราการ
เจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ พบว่ามแี นวโน้มในทิศทางตรงข้ามกนั ดังแสดงในแผนภาพที่ 3.7 และ 3.8
สำนกั งานเลขาธกิ ารสภาผู้แทนราษฎร 24 สำนกั งบประมาณของรฐั สภา
ผลกระทบของหนีส้ าธารณะต่อเศรษฐกจิ ไทย
แผนภาพที่ 3.7 ข้อมูลอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบกับเงิน
สกลุ ดอลลารส์ หรฐั ระหว่างปี พ.ศ. 2548 ถงึ พ.ศ. 2562
ท่ีมา: สำนกั งานสภาพัฒนาการเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ (2564) และธนาคารแหง่ ประเทศไทย
แผนภาพที่ 3.8 ความสัมพันธ์ระหว่างอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบกับเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐและ
อตั ราการเจรญิ เติบโตของ GDP
Correlation Coefficient = - 0.45
ประมวลโดยผูว้ ิจยั
ราคาน้ำมันดีเซล (Diesel) เป็นปัจจัยที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจเนื่องจากมีความเกี่ยวข้อง
กับปัจจัยการผลิตทั้งอุตสาหกรรม เกษตรกรรม การค้าและบริการ การเข้าถึงตลาดและผู้บริโภคต้อง
สำนกั งานเลขาธกิ ารสภาผู้แทนราษฎร 25 สำนักงบประมาณของรัฐสภา
ผลกระทบของหนส้ี าธารณะตอ่ เศรษฐกิจไทย
อาศัยน้ำมันหรือพลังงานในรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับนำ้ มันเชื้อเพลิงตลอดจนผลผลิตท่ีได้จากกระบวนการ
กลั่นน้ำมันในรูปแบบต่าง ๆ ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญต่อการดำรงชีวิตของผู้คนในยุคอุตสาหกรรม ดังน้ัน
ราคาของน้ำมันเชื้อเพลิงที่พุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาน้ำมันดีเซลจึงเป็นปัญหาที่สำคัญของประชาชน
ทั่วไปและรัฐบาล เนื่องจากน้ำมันดีเซลถูกใชใ้ นภาคขนสง่ ตั้งแต่รถปิกอัพไปจนถึงรถเทรลเลอร์รวมไปถึง
ขนส่งทางน้ำ ทางรางและทางอากาศ ภาคเกษตรปัจจุบันใช้เครื่องทุ่นแรงและการสูบน้ำล้วนใช้น้ำมัน
ทั้งสิ้น นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นน้ำมันที่ใกล้ตัวคือพลาสติกและเส้นใยโพลิเอสเตอร์ที่เป็น
องค์ประกอบสำคัญในเสื้อผ้าที่สวมใส่ ผลผลิตจากน้ำมันยังเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมปิโตรเคมี เช่น
อุตสาหกรรมผลิตยางรถยนต์จากยางสังเคราะห์, อุตสาหกรรมผลิตถุงมือยางไนไตร ถุงยางอนามัย ยาง
มะตอย อุตสาหกรรมสี ยาฆ่าแมลง ผลิตสบู่และผงซักฟอก ผลิตเส้นใย-เส้นด้าย ขวดและถุงภาชนะใส่
อาหารต่าง ๆ เป็นต้น โดยปัจจุบันนี้ราคาน้ำมันโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากอุปสงค์น้ำมันโลก
เพิ่มขึ้นจากเศรษฐกิจโลกเริ่มคลายตัวจากวิกฤต COVID-19และ ความตึงเครียดระหว่างประเทศยูเครน
กับรัสเซียซึ่งนำไปสู่ความแข็งกร้าวของ “นาโต้-สหรัฐอเมริกา” โดยผลการศึกษาพบว่าหากราคาน้ำมนั
ดีเซล (Diesel) ปรับตัวสูงขึ้น 1 บาท ขณะที่ปัจจัยอื่น ๆ คงที่ จะทำให้อัตราการเจริญเติบโตทาง
เศรษฐกิจลดลงร้อยละ 0.3371 หรือลดลงจำนวน 56,963 ล้านบาท ที่ระดับความเชื่อมั่นทางสถิติ
ร้อยละ 99
วกิ ฤติการเงนิ โลก (Crisis) หรอื วกิ ฤติซับไพรม์ เปน็ ปัญหาเศรษฐกิจท่ีปรากฏใหเ้ หน็ ชดั ในช่วงปี
พ.ศ. 2550 และ พ.ศ. 2551 วิกฤติการเงินในครั้งนี้ทำให้ความคล่องตัวของตลาดสินเชื่อทั่วโลกและ
ระบบธนาคารลดลง ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากความซบเซาของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมรกิ า การ
กู้ยืมและการใหก้ ู้ยืมที่มีความเสย่ี งสูง และระดบั หนีส้ ินของบริษัทและบุคคลทีส่ ูงเกินไป วิกฤติครั้งนี้มีผล
หลายขนั้ และค่อย ๆ เผยใหเ้ ห็นความอ่อนแอในระบบการเงินและระบบการควบคุมทว่ั โลก โดยประเทศ
ไทยได้รับผลกระทบค่อนขา้ งสูงเนื่องจากในช่วงปดี ังกล่าวประเทศไทยมีการค้าขายและติดตอ่ กับระหว่าง
ประเทศค่อนข้างมาก โดยผลการประมาณค่าตามแบบจำลองพบว่าในช่วงเกิดวิกฤติการเงินดังกล่าว
เศรษฐกิจของไทยลดลงร้อยละ 5.45 หรือลดลงจำนวน 920,912 ล้านบาท โดยเฉล่ีย
เมอ่ื เปรยี บเทียบกบั ชว่ งเวลาอ่ืน ๆ ท่ไี ม่มีวิกฤตกิ ารเงินดงั กล่าว
วิกฤตเิ ศรษฐกิจจากมหาอุทกภยั (Flood) หรือเหตกุ ารณ์นำ้ ทว่ มคร้ังใหญใ่ น ปี พ.ศ. 2554 ซ่ึง
มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมเป็นอย่างมาก เนื่องจากภาคธุรกิจต่าง ๆ ไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้
อย่างปกติ เช่น โรงงานต่าง ๆ ถูกน้ำท่วมฉับพลันไม่สามารถผลิตสินค้าได้ แรงงานไม่สามารถทำงานได้
ส่งผลให้สินค้าขาดแคลนและขาดรายได้ทำให้เกิดผลกระทบทางลบทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก โดยผล
การศึกษาพบว่าในช่วงเกิดวิกฤติเศรษฐกิจจากมหาอุทกภัยดังกล่าวเศรษฐกิจของไทยลดลงร้อยละ
2.50 หรือลดลงจำนวน 423,060 ล้านบาทโดยเฉลี่ย เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาอื่น ๆ ที่ไม่มีวิกฤติ
ดังกล่าว
สำนกั งานเลขาธกิ ารสภาผู้แทนราษฎร 26 สำนักงบประมาณของรัฐสภา
ผลกระทบของหนีส้ าธารณะตอ่ เศรษฐกิจไทย
ส่วนที่ 4 สรุปผลการศึกษาและข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย
4.1 สรปุ ผลการศึกษา
การศึกษาในรายงานฉบับนี้เป็นการศึกษาถึงผลกระทบของหนี้สาธารณะต่ออัตราการ
เจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยประมาณค่าด้วยวิธีกำลังสองน้อยที่สุด (Ordinary Least Squares)
โดยข้อมูลเป็นการเก็บข้อมูลทุติยภูมิรายไตรมาสตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ปี พ.ศ. 2549 ถึง ไตรมาสที่ 4 ปี
พ.ศ. 2562 ซึ่งหนี้สาธารณะถูกมองได้ทงั้ ในมิติทีเ่ ป็นแหล่งเงินทุนที่สำคัญของประเทศในการบริหารและ
พัฒนาประเทศหรือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ฉดุ รั้งประเทศ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการหนี้ของหน่วยงานท่ี
เกี่ยวขอ้ ง ดงั น้นั ผลกระทบของหนีส้ าธารณะจึงมีความแตกตา่ งกนั ในประเทศท่ีต่างกนั
โดยผลการศึกษาในประเทศไทยระหว่างช่วงเวลาดังกล่าวพบว่า อัตราการเจริญเตบิ โตของหนี้
สาธารณะ (Debt) ส่งผลกระทบทางบวกต่ออัตราการเจริญเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวม
ภายในประเทศ (GDPG) กล่าวคือเมื่อจำนวนของหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1 จะส่งผลให้ผลิตภัณฑ์
มวลรวมภายในประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1983 เนื่องจากการเพิ่มข้ึนของหนี้สาธารณะทำให้ภาครัฐของ
ไทยมีเม็ดเงินในการดำเนินนโยบายต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น ซึ่งนโยบายเหล่านั้นส่งผลให้เกิดผลผลิตทาง
เศรษฐกิจเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดีการขยายตัวของ GDP จากการเพิ่มขึ้นของหนี้สาธารณะนั้นเพิ่มขึ้นใน
สดั สว่ นท่ลี ดลงเรอ่ื ย ๆ จนเทา่ กบั ศูนยแ์ ละอาจติดลบเม่ือระดบั ของหนสี้ าธารณะเพ่ิมขึ้นถึงระดับที่สูงพอ
นอกจากนี้การศึกษานี้เป็นการศึกษาเฉพาะช่วงเวลาที่ระดับของหนี้สาธารณะอยู่ในระดับไม่สูงกว่า
รอ้ ยละ 60 ต่อ GDP
นอกจากนอี้ ัตราเงนิ เฟ้อ (Inflation) อตั ราการเจรญิ เติบโตของการลงทุนภาครัฐและเอกชน
(Investment) และ อัตราการเจริญเติบโตของกำลังแรงงาน (Labour) ก็ส่งผลกระทบทางบวกต่อ
อัตราการเจริญเตบิ โตของผลติ ภณั ฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDPG)
ในขณะทอ่ี ตั ราแลกเปลย่ี นระหวา่ งเงินบาทเทียบกบั เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ (FX) ราคาน้ำมัน
ดีเซล (Diesel) วิกฤติการเงินโลก (Crisis) และวิกฤติเศรษฐกิจจากมหาอุทกภัย (Flood) ส่งผล
กระทบทางลบต่ออัตราการเจรญิ เตบิ โตของผลติ ภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDPG)
แม้ว่าผลการศึกษาจะชี้ให้เห็นว่าหนี้สาธารณะส่งผลให้เศรษฐกิจของไทยขยายตัวดีขึ้น แต่ผล
การศึกษาดังกล่าวเป็นการแสดงถึงผลกระทบภายใต้ข้อสมมตฐิ านท่ีว่าระดับของหนี้สาธารณะไม่สูงเกนิ
กว่าร้อยละ 60 ของผลิตภัณฑ์มวลภายในประเทศ ดังนั้นหากระดับของหนี้สาธารณะสูงขึ้นจนมากกว่า
ระดับร้อยละ 60 ต่อ GDP ผลการประมาณค่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปเนื่องจากโครงสร้างและภาระ
ของหนี้สาธารณะอาจจะเปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน ดังนั้นการนำผลการประมาณค่าไปใช้จึงจำเป็นต้อง
พิจารณาขอ้ จำกัดของการศึกษารว่ มดว้ ย
สำนกั งานเลขาธิการสภาผแู้ ทนราษฎร 27 สำนักงบประมาณของรัฐสภา
ผลกระทบของหน้สี าธารณะตอ่ เศรษฐกจิ ไทย
4.2 ข้อเสนอแนะ
1. หนีส้ าธารณะ โดยเฉพาะหนี้รัฐบาลเปน็ ปัจจัยทชี่ ว่ ยใหเ้ กิดการขยายตวั ทางเศรษฐกจิ อยา่ งไร
ก็ดีหากระดับหนี้สาธารณะที่สูงเกินไปจะทำให้โครงสร้างและภาระของหนี้สาธารณะเปลี่ยนแปลงไปซ่ึง
อาจส่งผลกระทบที่ต่างจากผลการศึกษาได้ ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลัง ควรมี
การศึกษาและวิจัยเพื่อหาระดับที่เหมาะสม (Optimization) ของหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวม
ภายในประเทศ (GDP) เนื่องจากข้อมูลดังกล่าวมีความสำคัญในการดำเนินนโยบายและบริหารหน้ี
สาธารณะเพือ่ ให้เกิดประโยชน์สงู สุดในอนาคต ดังนน้ั หนว่ ยงานท่เี กยี่ วขอ้ งควรศึกษาถงึ ระดับท่ีเหมาะสม
ภายใตบ้ รบิ ทเศรษฐกจิ สังคมและการเมืองของไทย
2. อัตราเงินเฟ้อเป็นปัจจัยที่สำคัญที่มีผลกระทบทั้งทางบวกและทางลบต่ออัตราการ
เจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งหากอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่เหมาะสมจะส่งผลทางบวก แต่หากสูง
จนเกินไปจะส่งผลทางลบ ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพาณิชย์และธนาคารแห่งประเทศ
ไทย จำเปน็ ตอ้ งเรง่ หามาตรการในการควบคมุ ไม่ใหอ้ ัตราเงินเฟอ้ อย่ใู นระดบั ทสี่ งู
3. ประเทศไทยควรมุ่งเน้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศผ่านปัจจัยที่สำคัญอื่น ๆ
นอกเหนือจากการพึ่งพิงจากภาคการต่างประเทศ เช่น การพัฒนาและนำเทคโนโลยีมาขับเคลื่อนภาค
ประชาชนและธุรกิจ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ การเพิ่มการสะสมทุนมนุษย์ผ่าน
การศึกษา ส่งเสริมโครงการพัฒนาประชากรและแรงงานในประเทศทั้งในด้านปริมาณและคณุ ภาพ เพื่อ
ลดปญั หาการเขา้ สู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ เพอ่ื ใหก้ ำลงั แรงงานท่ีมีคุณภาพเหล่าน้ีเป็นกำลังหลัก
ในการขบั เคลอ่ื นประเทศให้มคี วามเจรญิ ก้าวหนา้
4. วิกฤติการณ์น้ำท่วมเมื่อปี พ.ศ. 2554 ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อประเทศไทยทั้งในด้าน
เศรษฐกิจและสังคม ดังนั้นรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีการจัดสรรงบประมาณที่เพียงพอ
สำหรับการป้องกันการเกิดวิกฤติน้ำท่วมในพื้นที่ต่าง ๆ อีก เพื่อลดผลกระทบทางลบที่อาจเกิดขึ้นใน
อนาคต
สำนักงานเลขาธิการสภาผแู้ ทนราษฎร 28 สำนกั งบประมาณของรัฐสภา
ผลกระทบของหน้ีสาธารณะต่อเศรษฐกิจไทย
บรรณานุกรม
กัญญ์สุดา น่มิ อนสุ สรณก์ ลุ และคณะ. (2556). การวเิ คราะหผ์ ลกระทบของหน้ีสาธารณะต่ออตั ราการ
เจรญิ เติบโตทางเศรษฐกิจดว้ ยวิธกี ารถดถอยแบบควอนไทล์ Journal of Economics, 17(2):
90-115.
เกรกิ เกียรติ พพิ ฒั น์เสรธี รรม. (2543). การคลังว่าด้วยการจัดสรรและการกระจาย.
กรงุ เทพมหานคร: สำนกั พิมพ์มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร.์
สำนักงานบริหารหน้ีสาธารณะ. (2564). หน้สี าธารณะในภาพรวม. สบื ค้น 25 กมุ ภาพันธ์ 2565 จาก
https://www.pdmo.go.th/th/public-debt/debt-outstanding
ธนาคารแห่งประเทศไทย. (2550). รายงานภาวะเศรษฐกจิ ไทยปี 2550. สบื คน้ 2 กุมภาพนั ธ์ 2565
จาก https://www.bot.or.th/Thai/MonetaryPolicy/ EconomicConditions/
AnnualReport/AnnualReport/full_2550
___________ (2555). รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยปี 2555. สบื คน้ 2 กุมภาพันธ์ 2565 จาก
https://www.bot.or.th/Thai/MonetaryPolicy/
EconomicConditions/AnnualReport/AnnualReport/annual_Y55_T
___________ (2556). รายงานภาวะเศรษฐกจิ ไทยปี 2556. สืบค้น 2 กมุ ภาพนั ธ์ 2565 จาก
https://www.bot.or.th/Thai/MonetaryPolicy/
EconomicConditions/AnnualReport/AnnualReport/Annual_Y56_T
___________ (2557). รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยปี 2557. สบื คน้ 2 กุมภาพันธ์ 2565 จาก
https://www.bot.or.th/Thai/MonetaryPolicy/
EconomicConditions/AnnualReport/AnnualReport/annual_Y57_T
___________ (2558). รายงานภาวะเศรษฐกจิ ไทยปี 2558. สบื ค้น 2 กุมภาพันธ์ 2565 จาก
https://www.bot.or.th/Thai/MonetaryPolicy/
EconomicConditions/AnnualReport/AnnualReport/Annual_Y58_T
___________ (2559). รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยปี 2559. สบื ค้น 2 กมุ ภาพนั ธ์ 2565 จาก
https://www.bot.or.th/Thai/MonetaryPolicy/
EconomicConditions/AnnualReport/AnnualReport/Annual_Y59_T
___________ (2560). รายงานภาวะเศรษฐกจิ ไทยปี 2560. สบื คน้ 2 กมุ ภาพนั ธ์ 2565 จาก
https://www.bot.or.th/Thai/MonetaryPolicy/
EconomicConditions/AnnualReport/AnnualReport/AnnualReport2560
___________ (2561). รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยปี 2561. สบื ค้น 2 กุมภาพนั ธ์ 2565 จาก
https://www.bot.or.th/Thai/MonetaryPolicy/
EconomicConditions/AnnualReport/AnnualReport/AnnualReport2561
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร 29 สำนักงบประมาณของรัฐสภา
ผลกระทบของหน้ีสาธารณะตอ่ เศรษฐกิจไทย
ธนาคารแหง่ ประเทศไทย. (2562). รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยปี 2562. สืบค้น 2 กุมภาพันธ์ 2565
จาก https://www.bot.or.th/Thai/MonetaryPolicy/
EconomicConditions/AnnualReport/AnnualReport/AanualReport2562
___________ (2563). รายงานภาวะเศรษฐกจิ ไทยปี 2563. สบื คน้ 2 กมุ ภาพนั ธ์ 2565 จาก
https://www.bot.or.th/Thai/MonetaryPolicy/
EconomicConditions/AnnualReport/AnnualReport/AanualReport2563
“ประกาศคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ เร่ือง กำหนดกรอบในการบรหิ ารหนี้
สาธารณะ” (28 กนั ยายน 2564). ราชกิจจานุเบกษา เลม่ ท่ี 138 ตอนพิเศษท่ี 232, หนา้ 1
ภัสราภา ต้งั กาญจนภาสน์ และคณะ. (2563). หนีส้ าธารณะกับอตั ราการเจริญเตบิ โตทางเศรษฐกจิ : ผล
การศกึ ษาของประเทศไทย. Global Business and Economics Review, 15(2): 1-18.
รังสรรค์ ธนะพรพันธ์. (2543). ความอ่อนแอทางการคลัง. สบื คน้ 3 มีนาคม 2565 จาก
http://www.rangsun.econ.tu.ac.th/data/05/05-03-01-ขีดจำกัดในการกอ่ หน้ีกับ
ตา่ งประเทศ.pdf
วารณุ ี สทิ ธิถาวร. (2546). บทบาทของหนี้ต่างประเทศต่อการเจริญเตบิ โตทางเศรษฐกจิ ของประเทศ
ไทย: The Role of external debt on economic growth in Thailand. (วิทยานพิ นธ์
ปริญญาดษุ ฎบี ัณฑิต). มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. บัณฑติ วทิ ยาลยั , สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์
Baum, A, Checherita-Westpha, C., & Rother, P. (2012). Debt and growth new evidence
for the Euro area. Retrieved October 12, 2021 from https://www.ecb.europa.eu
/pub/pdf/scpwps/ecbwp1450.pdf
Bilan, I., & lhnatov, I. (2015). Public debt and economic growth: a two-sided story.
International Journal of Economic Sciences, 4(2), 24-39.
Checherita-Westphal, C., & Rother, P. (2010). The impact of high and growing
government Debt on economic growth: an empirical investigation for the
euro area. Retrieved October 12, 2021 from https://www.ecb.europa.eu/
pub/pdf/scpwps/ecbwp1237.pdf
Domar, E. (1957) Essays in the Theory of Economic Growth. Retrieved October 12,
2021 from http://tankona.free.fr/domar1957.pdf
Emmers, R., & Ravenhill, J. (2010). Asian and global financial crises: implications for
East. Retrieved November 5, 2021 from https://www.researchgate.net/
publication/48802105_The_Asian_and_Global_Financial_Crises_Consequences_f
or_East_Asian_Regionalism
สำนักงานเลขาธกิ ารสภาผู้แทนราษฎร 30 สำนักงบประมาณของรฐั สภา
ผลกระทบของหนี้สาธารณะต่อเศรษฐกจิ ไทย
Greenidge, K, Craigwell, R., Chrystol, T., & Drakes, L. (2012). Threshold effects of
sovereign debt: evidence from the Caribbean. Retrieved November 5, 2021
from https://www.imf.org/external/pubs/ft/wp/2012/wp12157.pdf
Gujarati, D.N. and Porter, D.C. (2009) Basic Econometrics. 5th Edition, New York: McGraw
Hill Inc.
International Monetary Fund. (2021). World Economic Outlook. Retrieved October 5,
2021 from https://www.imf.org/en/Publications/SPROLLS/world-economic-
outlook-databases
Keynes, J. M. (1923) A Tract on Monetary Reform. Retrieved October 5, 2021 from
https://delong.typepad.com/keynes-1923-a-tract-on-monetary-reform.pdf
Krugman, P. R., Dominquez, K. M., & Rogoff, K. (1998). It's baaack: Japan's slump and the
return of the liquidity trap. Brookings papers on economic activity, 1998(2),
137-205.
Kumar, M. S., & Woo, J. (2010). Public debt and growth. Retrieved October 5, 2021
from https://www.imf.org/external/pubs/ft/wp/2010/wp10174.pdf
Leblang, D., & Satyanath, S. (2005). Politically Generated Uncertainty and Currency
Crises: Theory, Tests and Forecasts. Retrieved October 5, 2021 from
https://www.nyudri.org/assets/publications/2005/theoryforecasts.pdf
Mallik, G., & Chowdhury, A. (2001). Inflation and economic growth: evidence from four
south Asian countries. Asia-Pacific Development Journal, 8(1), 123-135.
Misztal, P. (2010). Public Debt and economic growth in the European Union. Journal of
Applied Economic Sciences, 5(3), 292-302.
Presbitero, Andrea. (2010). Total Public Debt and Growth in Developing Countries.
European Journal of Development Research, 24(10), 606-626.
Reinhart, C. M., & Rogoff, K. S. (2010a). Growth in a time of debt. American Economic
Review, 100(2), 573 - 578.
Romer, D. (2011). Advanced Macroeconomics. 4th Edition. New York: McGraw-
Hill/Irwin.
Smith, A. (1776) The Wealth of Nations. Retrieved January 10, 2022 from
https://www.sjsu.edu/people/cynthia.rostankowski/courses/HUM2AF13/s3/Read
er-Lecture-08-Adam-Smith-Wealth-of-Nations-Reading.pdf
สำนักงานเลขาธิการสภาผูแ้ ทนราษฎร 31 สำนักงบประมาณของรัฐสภา
ผลกระทบของหนีส้ าธารณะต่อเศรษฐกิจไทย
Solow, Robert M. (1957). Technical Change and the Aggregate Production Function.
Review of Economics and Statistics, 39(3): 312-320.
Woodford, M. (1990). Public debt as private liquidity. The American Economic Review,
80(2), 382-388.
สำนักงานเลขาธิการสภาผแู้ ทนราษฎร 32 สำนักงบประมาณของรฐั สภา
ผลกระทบของหน้สี าธารณะตอ่ เศรษฐกิจไทย
ภาคผนวก
สำนกั งานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร 33 สำนักงบประมาณของรฐั สภา
ผลกระทบของหนส้ี าธารณะต่อเศรษฐกิจไทย
ภาคผนวกท่ี 1 การทดสอบความน่งิ ของขอ้ มลู (Unit Root Test)
สำนกั งานเลขาธิการสภาผแู้ ทนราษฎร 34 สำนักงบประมาณของรฐั สภา
ผลกระทบของหน้ีสาธารณะต่อเศรษฐกจิ ไทย
สำนกั งานเลขาธิการสภาผแู้ ทนราษฎร 35 สำนักงบประมาณของรฐั สภา
ผลกระทบของหนสี้ าธารณะต่อเศรษฐกจิ ไทย
ภาคผนวกท่ี 2 การประมาณคา่ แบบจำลอง
สำนักงานเลขาธกิ ารสภาผูแ้ ทนราษฎร 36 สำนกั งบประมาณของรฐั สภา
ผลกระทบของหน้ีสาธารณะต่อเศรษฐกิจไทย
ภาคผนวกที่ 3 การทดสอบปัญหาตัวแปรอสิ ระมีความสำพันธ์เชิงเสน้ (Multicollinearity)
DEBT DEBT INFLATION INVESTMENT FX DIESEL LABOUR
INFLATION 1.000000 -0.461387 -0.155906 0.469792 0.010474 0.086126
INVESTMENT -0.461387 1.000000 0.384214 -0.425966 0.617622 0.286225
-0.155906 0.384214 1.000000 -0.373254 0.287236 0.058705
FX 0.469792 -0.425966 -0.373254 1.000000 -0.203578 -0.164062
DIESEL 0.010474 0.617622 0.287236 -0.203578 1.000000 0.073060
LABOUR 0.086126 0.286225 0.058705 -0.164062 0.073060 1.000000
ภาคผนวกท่ี 4 การทดสอบปัญหาตัวคลาดเคล่ือนมสี หสมั พนั ธก์ นั (Autocorrelation)
สำนักงานเลขาธิการสภาผ้แู ทนราษฎร 37 สำนกั งบประมาณของรัฐสภา
ผลกระทบของหนีส้ าธารณะต่อเศรษฐกจิ ไทย
ภาคผนวกที่ 5 การทดสอบปัญหาตวั คลาดเคล่อื นมคี วามแปรปรวนไมค่ งที่ (Heteroskedasticity)
สำนกั งานเลขาธกิ ารสภาผแู้ ทนราษฎร 38 สำนักงบประมาณของรัฐสภา
สำนกั งบประมำณของรัฐสภำ
สำนกั งำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร
www.parliament.go.th/pbo
PBO วิเครำะห์งบประมำณอย่ำงมอื อำชีพ
เป็นกลำง และสร้ำงสรรค์