The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

496928914275565913_โครงงานภาษาไทย-อาหารไทยโบราณ-2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by benyapa13012562, 2024-02-27 05:14:35

496928914275565913_โครงงานภาษาไทย-อาหารไทยโบราณ-2

496928914275565913_โครงงานภาษาไทย-อาหารไทยโบราณ-2

โครงงานภาษาไทย เรื่อง อาหารไทยโบราณ จัดทำโดย นาย ธาวิน ทองก้่อน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 อาจารที่ปรึกษา อาจารย์ ฐานิตย์ นาคศิริ โครงงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา โครงงานภาษาไทย ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนสุนทรภู่พิทยา ตำบลกร่ำ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง สำนักงานเขต พื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ชลบุรี-ระยอง


บทคัดย่อ โครงงานภาษาไทย เรื่อง อาหารไทยโบราณนี้จัดขึ้นเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับอาหารไทยโบราณ ผู้จัดทำได้รวบรวมไว้เพื่อที่จะได้เผยแพร่แก่ผู้ที่สนใจ อาหารไทยโบราณ ผู้จัดทำจึงรวบรวมอาหารไทยโบราณไว้ในผ่านสื่อเอกสารเเละผู้จัดทำจะนำเกมมาให้ฝึกรู้จักอาหารไทยโบราณมากยิ่ งขึ้นเพื่อให้นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ได้มีความรู้เกี่ยวกับอาหารไทยโบราณยิ่งขึ้น


กิตติกรรมประกาศ โครงงานภาษาไทย เรื่อง อาหารไทยโบราณนี้สำเร็จลุล่วงได้ด้วยความกรุณา ช่วยเหลือ แนะนำให้คำปรึกษาตรวจสอบแก้ไขข้อมูลพร่องต่างๆ ด้วยความเอาใจใส่อย่างดี จากครูฐานิตย์ นาคศิริ ครูผู้สอนรายวิชาโครงงาน ภาษาไทย ผู้จัดทำขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูง ขอขอบพระคุณคุณครูฐานิตย์ นาคศิริ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนสุนทรภู่พิทยา ที่กรุณาให้ผู้เขียนได้สัมภาษณ์เกี่ยวกับ อาหารไทยโบราณ ขอขอบคุณครูประจำรายวิชาและเพื่อนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ทุกคนที่ช่วยเหลือสนับสนุนา นอกจากนี้ยังมีผู้ที่ให้ความช่วยเหลืออีกหลายท่าน จึงขอขอบคุนทุกท่านเหล่านั้น ณ โอกาสนี้ด้วยคุณค่าทั้งหลายที่ได้รับจากรายงานการศึกษาความเรียงขั้นสูงฉบับนี้ ผู้จัดทำขอมอบเป็นกตัญญูกตเวทีแต่บิดาและบูชาอาจารย์ที่เคยอบรมฟังสอนรวมทั้งผู้มีพระคุณทุกท่าน เเละขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง


สารบัญ เรื่อง หน้า บทคัดย่อ ก กิตติกรรมประกาศ ข บทที่1 บทนำ 1-2 บทที่2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง 3-8 บทที่3 วิธีดำเนินการศึกษา 9 บทที่4 ผลการดำเนินการศึกษา 10-14 บทที่5 สรุปผลการศึกษา 15 บรรณานุกรม 16 ภาคผนวก 17


บทที่ 1 บทนำ 1.ที่มาของโครงงาน อาหารไทย เป็นอาหารประจำของประเทศไทย ที่มีการสั่งสมและถ่ายทอดมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่อดีตจนถึง ปัจจุบัน จนเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ ถือได้ว่าอาหารไทยเป็นวัฒนธรรมประจำชาติที่สำคัญของประเทศไทย จะสังเกตุได้ว่าเมื่อชาวต่างชาติมาเยือนที่ประเทศไทย มักชอบอาหารที่ประเทศไทยเพราะมีรสชาติดี อาหารไทยมักเป็นอาหารที่คนส่วนใหญ่รู้จักเเละเข้าถึงได้ง่าย เนื่องจากวิธีการทำอาหารไทยไม่ยาก จนเกินไปเเละสามารถทำเองได้บางเมนู เเต่มีคนส่วนน้อยที่รู้จักอาหารไทยสมัยก่อน หรือ อาหารไทยโบราณ เพราะหารับประทานได้ยากเเละคนส่วนน้อยที่จะรู้วิธีการทำอาหารไทยโบราณ จากการสอบถามเเละสำรวจพบว่านักเรียนโรงเรียนสุนทรภู่พิทยา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่่ 4 ส่วนใหญ่ไม่รู้จัก อาหารไทยโบราณ โครงงานนี้จึงจัดทำมาเพื่อให้นักเรียนโรงเรียนสุนทรภู่พิทยา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่่ 4 ได้ความรู้ เกี่ยวกับอาหารไทยโบราณได้มากยิ่งขึ้น 2.วัตถุประสงค์ 1. เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับอาหารไทยโบราณ 2. เพื่อทำเเบบสำรวจตอบคำถามเกี่ยวกับอาหารไทยโบราณ 3.ขอบเขตของโครงงาน 3.1 ศึกษาเเเละให้ความรู้เกี่ยวกับอารหารไทยโบราณ เเละสร้างออกเเบบเกมให้ความรู้ 3.2 ระยะเวลาในการทำโครงงาน มกราคม 2567 - กุมภาพันธ์ 2567


4.วิธีการดำเนินงาน เเผนงาน ระยะเวลาปฏิบัติ งบประมาณ สร้างสไลด์เกี่ยวกับอารหารไทยโบร าณให้ความรู้ มกราคม 2567 - สร้างเเบบสอบถามให้ความรู้ กุมภาพันธ 2567 - รวบรวมข้อมูลที่ได้รับจากการสำรว จเเละเเบบสอบถาม กุมภาพันธ 2567 - สรุปผล กุมภาพันธ์ 2567 - นำเสนอ กุมภาพันธ 2567 - 5.ประโยชน์ที่ได้รับ นักเรียนโรงเรียนสุนทรภู่พิทยา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ได้ความรู้เเละได้ศึกษาเกี่ยวกับอาหารไทยโบราณ


บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง โครงงานภาษาไทยเรื่อง อาหารไทยโบราณ ได้ศึกษาและรวบรวมเอกสารดังนี้ 1. ศึกษาอาหารไทยโบราณ 2. รวบรวมข้อมูล 3. สร้างสไลด์เเละเเบบสอบถาม อาหารโบราณมีหลากหลายเมนูเเละคนส่วนใหญ่ไม่รู้จัก ผู้จัดทำจึงได้รวบรวมอาหารไทยโบราณมา 10 เมนู 1.สร่ง สร่ง เป็น อาหารว่างชนิดหนึ่งของไทย ทำจากเนื้อหมูหรือไก่สับละเอียดคลุกเคล้ากับเครื่องปรุงรสปั้นเป็นก้อนกลม พันด้วยเส้น มี่สั้ว แล้วนำไปทอดจนสีเหลือง หน้าตาคล้ายลูก ตะกร้อ รับประทานคู่กับน้ำจิ้ม สร่งเกิดขึ้นใน ยุครัตนโกสินทร์แต่เดิมเป็นอาหารชาววังเพราะขณะนั้นมี่สั้วมีราคาแพง โดยชาวบ้านแต่ก่อนจะทำสร่งโดยใช้เนื้อไก่แทนเนื้อหมู ใช้ไข่ไก่แทนมี่สั้ว ซึ่งหาได้ง่ายและราคาถูกกว่า บ้างก็ใช้เนื้อปลาสับด้วยแต่ไม่เป็นที่นิยม


2.เเตงโมปลาเเห้ง แตงโมปลาแห้ง ปลาแห้งแตงโม เป็นเมนูของว่างคลายร้อน มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ปรากฏชื่อครั้งแรกว่า “ผัดปลาแห้งแตงอุลิต” และมีกล่าวถึงในจดหมายเหตุความทรงจำ กรมหลวงนรินทรเทวี หรือเจ้าครอกวัดโพธิ์ เมื่อครั้งมีการจัดเตรียมงานพระราชพิธีสมโภชน์พระแก้วมรกต และเฉลิมฉลองวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในปีพุทธศักราช 2352 สืบทอดจาดรุ่นสู่รุ่นมาจนถึงปัจจุบัน 3.พริกกะเกลือ พริกกะเกลือ เป็นอาหารประเภทเครื่องจิ้มที่เป็นที่นิยมของชาวไทยและชาวมอญ ส่วนประกอบหลักเป็น มะพร้าว เกลือ น้ำตาล ตำให้เข้ากัน ใช้คลุกข้าวรับประทาน พริกกะเกลือแบบดั้งเดิมนั้นจะใช้พริกแห้งคั่วนำมาตำกับเกลือ ใช้คลุกข้าว ภายหลังได้เพิ่ม มะพร้าว งา ถั่ว และตัดพริกออกไป


4.ข้าวผ้ดรถไฟ ข้าวผัดรถไฟ เมนูที่อยู่คู่กับรถไฟไทยมายาวนานกว่า 80 ปี ในสมัยก่อนเมนูจะมีขายเฉพาะบนรถไฟเท่านั้น ชนชั้นสูงที่เดินทางมาตากอากาศที่หัวหินเท่านั้นที่จะมีสิทธิได้รับประทานเมนูพิเศษที่วัตถุดิบในการปรุงหลายชนิด ที่ต้องสั่งนำเข้าจากต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นเนย กุนเชียง ซอสมะเขือเทศและถั่วลันเตา 5. เมี่ยงคำเสียบไม้ เมี่ยงคำเสียบไม้ เป็นของว่างไทยแท้แต่โบราณ นิยมรับประทานเป็นอาหารว่างในฤดูฝน เพราะเป็นช่วงที่ต้นชะพลูออกใบและยอดอ่อนมากที่สุดและรสชาติดี แต่จริง ๆ แล้วเมี่ยงคำสามารถรับประทานได้ตลอดทั้งปี แล้วแต่ว่าจะมุ่งรับประทานเพื่อความอร่อยหรือเพื่อการดูแลสุขภาพ เพราะสมุนไพรในเมี่ยงคำมีคุณสมบัติช่วยบำรุงรักษาธาตุทั้ง 4 ให้สมดุลกัน ดังนั้นเพื่อง่ายต่อการรับประทาน จึงมีการนำเมี่ยงคำที่ห่อแล้วมาเสียบไม้


6. ยำใหญ่ ยำใหญ่ เป็น อาหารไทย ประเภท ยำ ซึ่งมีรสชาติเปรี้ยว เค็ม เผ็ด หวาน เหตุที่ชื่อยำใหญ่เพราะประกอบด้วยวัตถุดิบหลักทั้งเนื้อสัตว์ ผัก และเครื่องต่าง ๆ ราว 20 อย่าง เช่น ใส่แตงกวา ไข่ต้ม กุ้งต้ม หมูต้ม หนังหมู เห็ดหูหนู หัวผักกาดขาว ใบสะระแหน่ ใบโหระพา ฯลฯ และใช้เครื่องปรุงน้ำยำ รสชาติยำใหญ่นั้นเผ็ดเค็มนำ ไม่เน้นหวาน หอมกลิ่นกระเทียม พริกสด รากผักชี และได้ความเผ็ดหอมจากพริกไทย ในปัจจุบันหารับประทานได้ยาก จะทำขึ้นโต๊ะเสิร์ฟในวาระพิเศษ 7. ยำทวาย ยำทวาย ยำโบราณมักมีส่วนผสมของมะพร้าว ไม่ว่าจะเป็นหัวกะทิต้มสุกเอามาราดปรุงแต่ง หรือมีมะพร้าวคั่วเอาไว้โรยหน้า อย่างเช่น ยำถั่วพู ยำโบราณมักใช้ผัก ผลไม้ เป็นหลัก ถ้าใส่เนื้อสัตว์ ซึ่งก็มีแค่กุ้ง หมู เนื้อวัว และไก่ รับประทานในงานเลี้ยงสังสรรค์ ส่วนปลาในยำโบราณมักใช้ในรูปของปลาแห้งเพื่อให้รสนุ่มนวล กลมกล่อม


8. เเกงระเเวงเนื้อ แกงระแวงเนื้อ เป็น อาหารไทย ประเภท แกง กะทิมีน้ำขลุกขลิก กึ่งแกงกึ่งผัด มีลักษณะคล้าย พะแนง แต่ใช้ พริกแกง แบบ แกงเขียวหวาน เติมขมิ้นสดและตะไคร้เข้าไป แกงระแวงต้นตำรับโบราณจะใส่เนื้อวัว แต่ในปัจจุบันสามารถใส่เนื้อสัตว์อื่น ๆ แทนได้ เช่น เนื้อหมู เนื้อไก่ เป็นต้น ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บ โรยพริกชี้ฟ้าและใบมะกรูดฉีกเพื่อตกแต่ง 9. ช้าวเเช่ ข้าวแช่เดิมเป็นอาหารพื้นบ้านของ ชาวมอญ เรียกว่า เปิงด้าจก์ แปลว่า ข้าวน้ำ หรือ เปิงซังกราน แปลว่า ข้าวสงกรานต์ นิยมทำสังเวยเทวดาและถวายพระสงฆ์ในตรุษ สงกรานต์ข้าวแช่เป็นที่รู้จักมากขึ้นจากครั้น เจ้าจอมมารดาซ่อนกลิ่น เจ้าจอมเชื้อสายมอญทาง เจ้าพระยามหาโยธา ได้ติดตาม พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ไปถวายราชการที่ พระนครคีรีจังหวัดเพชรบุรี และได้ถ่ายทอดการทำข้าวแช่แก่บ่าวไพร่จนแพร่หลายในจังหวัดเพชรบุรีและในราชสำนัก เมื่อสิ้นรัชกาล พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในปี พ.ศ. 2453 แล้ว ข้าวแช่จึงได้เผยแพร่ไปนอกวังและถูกปรับปรุงเพิ่มจนกลายที่นิยม


10.ต้มจิ๋ว ต้มจิ๋ว เป็นอาหารไทยโบราณ เป็นต้มรสเผ็ดร้อน เค็มนำเปรี้ยว ใส่ใบ โหระพา และ หอมหัวใหญ่ นิยมต้มกับเนื้อวัวที่ติดเอ็นหรือเนื้อน่องลาย ใส่ อบเชย มันฝรั่ง หรือ มันเทศ และ มะเขือเทศ โรยหอมเจียว ลักษณะคล้าย ซุปหางวัว ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศันสนีย์ จะสุวรรณ์ ระบุว่าเสน่ห์ของต้มจิ๋วอยู่ที่รสเปรี้ยว "...จากเนื้อมะม่วง หั่นเป็นลูกเต๋า เนื้อหมู หรือเนื้อวัวหั่นเต๋า หอมหัวใหญ่ มันฝรั่งหั่นเต๋า ถ้าทำอาหารถวายต้องชิ้นพอคำ ในหนึ่งช้อนต้องมีทุกอย่างครบ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของต้มจิ๋ว


บทที่ 3 วิธีการดำเนินการโครงงาน ผู้จัดทำโครงงานมีวิธีดำเนินงานโครงงานตามขั้นตอนดังนี้ 1.เเหล่งศึกษาค้นคว้า - ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับอาหารไทยโบราณ - รวบรวมข้อมูล 2. ขั้นตอนการดำเนินการโครงงาน 1. หาหัวข้อโครงงาน 2. ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับหัวข้อโครงงาน 3. รวบรวบข้อมูลที่ได้รับ 4. นำข้อมูลที่่ได้รับมาทำสไลด์ 5. สร้างเกมเกม KAHOOT 6. สรุปผล 7. นำเสนอผลงาน


บทที่ 4 ผลการดำเนินงาน จากการศึกษา อาหารไทยโบราณนั้น สามารถรวบรวม อาหารไทยโบราณ 10 เมนู ได้ดังนี้ 1.สร่ง สร่ง เป็น อาหารว่างชนิดหนึ่งของไทย ทำจากเนื้อหมูหรือไก่สับละเอียดคลุกเคล้ากับเครื่องปรุงรสปั้นเป็นก้อนกลม พันด้วยเส้น มี่สั้ว แล้วนำไปทอดจนสีเหลือง หน้าตาคล้ายลูก ตะกร้อ รับประทานคู่กับน้ำจิ้ม สร่งเกิดขึ้นใน ยุครัตนโกสินทร์แต่เดิมเป็นอาหารชาววังเพราะขณะนั้นมี่สั้วมีราคาแพง โดยชาวบ้านแต่ก่อนจะทำสร่งโดยใช้เนื้อไก่แทนเนื้อหมู ใช้ไข่ไก่แทนมี่สั้ว ซึ่งหาได้ง่ายและราคาถูกกว่า บ้างก็ใช้เนื้อปลาสับด้วยแต่ไม่เป็นที่นิยม 2.เเตงโมปลาเเห้ง แตงโมปลาแห้ง ปลาแห้งแตงโม เป็นเมนูของว่างคลายร้อน มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ปรากฏชื่อครั้งแรกว่า “ผัดปลาแห้งแตงอุลิต” และมีกล่าวถึงในจดหมายเหตุความทรงจำ กรมหลวงนรินทรเทวี หรือเจ้าครอกวัดโพธิ์ เมื่อครั้งมีการจัดเตรียมงานพระราชพิธีสมโภชน์พระแก้วมรกต และเฉลิมฉลองวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในปีพุทธศักราช 2352 สืบทอดจาดรุ่นสู่รุ่นมาจนถึงปัจจุบัน


3.พริกกะเกลือ พริกกะเกลือ เป็นอาหารประเภทเครื่องจิ้มที่เป็นที่นิยมของชาวไทยและชาวมอญ ส่วนประกอบหลักเป็น มะพร้าว เกลือ น้ำตาล ตำให้เข้ากัน ใช้คลุกข้าวรับประทาน พริกกะเกลือแบบดั้งเดิมนั้นจะใช้พริกแห้งคั่วนำมาตำกับเกลือ ใช้คลุกข้าว ภายหลังได้เพิ่ม มะพร้าว งา ถั่ว และตัดพริกออกไป 4.ข้าวผ้ดรถไฟ ข้าวผัดรถไฟ เมนูที่อยู่คู่กับรถไฟไทยมายาวนานกว่า 80 ปี ในสมัยก่อนเมนูจะมีขายเฉพาะบนรถไฟเท่านั้น ชนชั้นสูงที่เดินทางมาตากอากาศที่หัวหินเท่านั้นที่จะมีสิทธิได้รับประทานเมนูพิเศษที่วัตถุดิบในการปรุงหลายชนิด ที่ต้องสั่งนำเข้าจากต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นเนย กุนเชียง ซอสมะเขือเทศและถั่วลันเตา


5. เมี่ยงคำเสียบไม้ เมี่ยงคำเสียบไม้ เป็นของว่างไทยแท้แต่โบราณ นิยมรับประทานเป็นอาหารว่างในฤดูฝน เพราะเป็นช่วงที่ต้นชะพลูออกใบและยอดอ่อนมากที่สุดและรสชาติดี แต่จริง ๆ แล้วเมี่ยงคำสามารถรับประทานได้ตลอดทั้งปี แล้วแต่ว่าจะมุ่งรับประทานเพื่อความอร่อยหรือเพื่อการดูแลสุขภาพ เพราะสมุนไพรในเมี่ยงคำมีคุณสมบัติช่วยบำรุงรักษาธาตุทั้ง 4 ให้สมดุลกัน ดังนั้นเพื่อง่ายต่อการรับประทาน จึงมีการนำเมี่ยงคำที่ห่อแล้วมาเสียบไม้ 6. ยำใหญ่ ยำใหญ่ เป็น อาหารไทย ประเภท ยำ ซึ่งมีรสชาติเปรี้ยว เค็ม เผ็ด หวาน เหตุที่ชื่อยำใหญ่เพราะประกอบด้วยวัตถุดิบหลักทั้งเนื้อสัตว์ ผัก และเครื่องต่าง ๆ ราว 20 อย่าง เช่น ใส่แตงกวา ไข่ต้ม กุ้งต้ม หมูต้ม หนังหมู เห็ดหูหนู หัวผักกาดขาว ใบสะระแหน่ ใบโหระพา ฯลฯ และใช้เครื่องปรุงน้ำยำ รสชาติยำใหญ่นั้นเผ็ดเค็มนำ ไม่เน้นหวาน หอมกลิ่นกระเทียม พริกสด รากผักชี และได้ความเผ็ดหอมจากพริกไทย ในปัจจุบันหารับประทานได้ยาก จะทำขึ้นโต๊ะเสิร์ฟในวาระพิเศษ


7. ยำทวาย ยำทวาย ยำโบราณมักมีส่วนผสมของมะพร้าว ไม่ว่าจะเป็นหัวกะทิต้มสุกเอามาราดปรุงแต่ง หรือมีมะพร้าวคั่วเอาไว้โรยหน้า อย่างเช่น ยำถั่วพู ยำโบราณมักใช้ผัก ผลไม้ เป็นหลัก ถ้าใส่เนื้อสัตว์ ซึ่งก็มีแค่กุ้ง หมู เนื้อวัว และไก่ รับประทานในงานเลี้ยงสังสรรค์ ส่วนปลาในยำโบราณมักใช้ในรูปของปลาแห้งเพื่อให้รสนุ่มนวล กลมกล่อม 8. เเกงระเเวงเนื้อ แกงระแวงเนื้อ เป็น อาหารไทย ประเภท แกง กะทิมีน้ำขลุกขลิก กึ่งแกงกึ่งผัด มีลักษณะคล้าย พะแนง แต่ใช้ พริกแกง แบบ แกงเขียวหวาน เติมขมิ้นสดและตะไคร้เข้าไป แกงระแวงต้นตำรับโบราณจะใส่เนื้อวัว แต่ในปัจจุบันสามารถใส่เนื้อสัตว์อื่น ๆ แทนได้ เช่น เนื้อหมู เนื้อไก่ เป็นต้น ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บ โรยพริกชี้ฟ้าและใบมะกรูดฉีกเพื่อตกแต่ง


9. ช้าวเเช่ ข้าวแช่เดิมเป็นอาหารพื้นบ้านของ ชาวมอญ เรียกว่า เปิงด้าจก์ แปลว่า ข้าวน้ำ หรือ เปิงซังกราน แปลว่า ข้าวสงกรานต์ นิยมทำสังเวยเทวดาและถวายพระสงฆ์ในตรุษ สงกรานต์ข้าวแช่เป็นที่รู้จักมากขึ้นจากครั้น เจ้าจอมมารดาซ่อนกลิ่น เจ้าจอมเชื้อสายมอญทาง เจ้าพระยามหาโยธา ได้ติดตาม พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ไปถวายราชการที่ พระนครคีรีจังหวัดเพชรบุรี และได้ถ่ายทอดการทำข้าวแช่แก่บ่าวไพร่จนแพร่หลายในจังหวัดเพชรบุรีและในราชสำนัก เมื่อสิ้นรัชกาล พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในปี พ.ศ. 2453 แล้ว ข้าวแช่จึงได้เผยแพร่ไปนอกวังและถูกปรับปรุงเพิ่มจนกลายที่นิยม 10.ต้มจิ๋ว ต้มจิ๋ว เป็นอาหารไทยโบราณ เป็นต้มรสเผ็ดร้อน เค็มนำเปรี้ยว ใส่ใบ โหระพา และ หอมหัวใหญ่ นิยมต้มกับเนื้อวัวที่ติดเอ็นหรือเนื้อน่องลาย ใส่ อบเชย มันฝรั่ง หรือ มันเทศ และ มะเขือเทศ โรยหอมเจียว ลักษณะคล้าย ซุปหางวัว ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศันสนีย์ จะสุวรรณ์ ระบุว่าเสน่ห์ของต้มจิ๋วอยู่ที่รสเปรี้ยว "...จากเนื้อมะม่วง หั่นเป็นลูกเต๋า เนื้อหมู หรือเนื้อวัวหั่นเต๋า หอมหัวใหญ่ มันฝรั่งหั่นเต๋า ถ้าทำอาหารถวายต้องชิ้นพอคำ ในหนึ่งช้อนต้องมีทุกอย่างครบ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของต้มจิ๋ว


บทที่ 5 สรุปผลการศึกษา 1. ประโยชน์ที่ได้รับจากการทำโครงงาน นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีความเข้าใจเเละความรู้เกี่ยวกับอาหารไทยโบราณมากขี้น 2. การนำผลการศึกษาไปใช้ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีความเข้าใจเเละความรู้เกี่ยวกับอาหารไทยโบราณมากขี้นโดยการเข้าเล่นเกม KAHOOT ที่ผู้จัดทำทำขึ้นมา 3.ข้อเสนอแนะ 1.ควรมีการนำอาหารไทยโบราณมาศึกษาเพิ่มเติม 2.ควรมีการนำอาหารไทยโบราณมาให้ความรู้เเละเผยเเพร่


บรรณานุกรม สืบค้นข้อมูลและศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับอาหารไทยโบราณ wongnai สืบค้นข้อมูลเมื่อ 25 มกราคม เข้าถึงได้จาก https://www.wongnai.com/cooking/cookbooks/authentic-thai-food-recipes


ภาคผนวก ผู้ร่วมกิจกรรมทดสอบ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4


Click to View FlipBook Version