The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ประวัติ ประเภท กติกา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by เกศณีย์ จองอยู่, 2024-03-08 03:35:10

กีฬากรีฑา

ประวัติ ประเภท กติกา

ATHLETICS กีฬากรีฑ รี า จัดจัทำ โดย นางสาวเกศณีย์ จองอยู่ 66121890125 สาขาพลศึกษา คณะครุศาสตร์


คำ นำ หนังสือ E-book เล่มนี้จัดทำ ขึ้นเพื่อเป็น ป็ ส่วน หนึ่งของรายวิชา นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อการสื่อสารการการศึกษาและการเรียนรู้เพื่อให้ได้ ศึกษาหาความรู้ในเรื่องกีฬากรีฑา และได้ศึกษาอย่าง เข้าใจเพื่อเป็น ป็ ประโยชน์ต่อการเรียน ผู้จัดทำ ผู้จัดทำ หวังว่า รายงานเล่มนี้จะเป็น ป็ ประโยชน์กับผู้อ่านหรือนักเรียน นักศึกษาที่กำ ลังหา ข้อมูลเรื่องนี้อยู่หากมีข้อแนะนำ หรือข้อผิดพลาด ประการใดผู้จัดทำ ขอน้อมรับไว้และขออภัยมา ณ ที่นี้ ด้วย จัดทำ โดย นางสาวเกศณีย์ จองอยู่ 66121890125 สาขาพลศึกษา คณะครุศาสตร์


สารบัญ คำ นำ สารบัญ กรีฑาคืออะไร ประวัติกรีฑา ประวัติกรีฑาไทย ประเภทของกรีฑา กติกากรีฑา การออกสตาร์ท มารยาทที่ดีในการเล่นและชมกรีฑา ประโยชน์ของกรีฑา การถือและส่งไม้


กรีฑา (อังกฤษ: athletics) หมายถึง กีฬาประเภทหนึ่งแบ่งเป็นป็ ประเภทลู่และ ลาน ประเภทลู่ ได้แก่ วิ่งระยะทางต่าง ๆ ประเภทลาน ได้แก่ ขว้างจักร กระโดดสูง ทุ่มน้ำ หนัก มีการแข่งขันขึ้น เป็นป็ครั้งแรกเมื่อประมาณ 776ปีก่ปี ก่อน คริสต์ศักราช โดยทำ การแข่งขัน ณ ลาน เชิงเขาโอลิมปัสปั ในแคว้นอีลิส ประเทศกรีซ โดยเป็นป็ส่วนหนึ่งของการ แข่งขันกีฬาโอลิมปิกปิ ในสมัยโบราณ เมื่อ กรีซเสื่อมอำ นาจลง โรมันได้เข้ามาปก ครองกรีซและห้ามชาวกรีกแข่งขันกีฬา ทำ ให้การแข่งขันกรีฑาต้องล้มเลิกไป ด้วย กรีฑาคืออะไร


ประวัติกรีฑา ประวัติกรีฑา ความเป็น ป็ มาของกรีฑานั้นเป็น ป็ ที่เชื่อกันว่า ชาวกรีกสมัยโบราณเป็น ป็ ผู้ริเริ่มการแข่งขันกีฬาและกรีฑาเกิดขึ้น เมื่อประมาณ 776 ปีก่ปี ก่อนคริสตกาล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ เตรียมพลเมืองของกรีกให้มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงทั้ง ร่างกายและจิตใจ พร้อมที่จะรับใช้ประเทศชาติได้อย่างเต็มที่ อีกเหตุผลหนึ่งคือชาวกรีกในสมัยโบราณนับถือเทพเจ้าอยู่ หลายองค์ และเชื่อว่ามีเทพเจ้าสถิตอยู่บนเขาโอลิมปัสปัเทพ เจ้า ทั้งหลายเป็น ป็ ผู้บันดาลความสุขหรือความทุกข์ให้แก่ผู้นับถือ คล้ายกับเป็น ป็ ผู้ชี้ชะตาของ ชาวกรีก ดังนั้นชาวกรีกจึงพยายาม ที่จะประพฤติตนให้เป็น ป็ ที่โปรดปราน ทำ ความเข้าใจและสนิทสนม กับเทพเจ้า เป็น ป็ เหตุให้มีพิธีบวงสรวงหรือทำ พิธีกรรม ต่าง ๆ เมื่อเสร็จการบวงสรวงตามพิธีทางศาสนาแล้วจะต้องมีการเล่น กีฬาถวาย ณ ลานเชิงเขาโอลิมปัสปัแค้วนอีลิสเพื่อเป็น ป็ การเฉลิม ฉลองพระเกียรติของเทพเจ้า


ประวัติกรีฑาไทย ประวัติกรีฑาไทย ความเป็น ป็ มากรีฑาไทย | สำ หรับการ แข่งขันกรีฑาในประเทศไทยนั้น กระทรวงธรรมการ (กระทรวง ศึกษาธิการในปัจปัจุบัน) ได้จัดให้มีการแข่งขันกรีฑานักเรียนขึ้น เป็น ป็ ครั้งแรก ในวันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2440 ที่ท้องสนาม หลวง ในพิธีเปิดปิการแข่งขันครั้งนั้น พระบาทสมเด็จ พระปรมิ นทรมหาจุฬาลงกรณ์พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จ พระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำ เนินมาทรงเป็น ป็ ประธานเปิดปิการแข่งขัน และทอดพระเนตรการแข่งขัน นับ ตั้งแต่นั้นเป็น ป็ ต้นมา กระทรวงธรรมการได้จัดให้มีการแข่งขัน กรีฑานักเรียนประจำ ทุกปีตปีลอดมา


ประเภทของการแข่งขันกรีฑา กรีฑาถือเป็น ป็ กีฬาพื้นฐานในการสร้างสมรรถภาพ ทางด้านร่างกาย และเป็น ป็ กีฬาหลักที่นิยมเล่นและแข่งขัน ทั้งในและระหว่างประเทศ จากรายละเอียดกติกากรีฑา ของสหพันธ์กรีฑาสมัครเล่นนานาชาติ สามารถแบ่ง ประเภทของกรีฑา ได้เป็น ป็ 5 ประเภท ดังนี้ 1.กรีฑาประเภทลู่ (Track Events) 2.กรีฑาประเภทลาน (Field Events) 3.กรีฑาประเภทเดิน (Walking Events) 4.กรีฑาประเภทถนน (Road Races) 5.กรีฑาประเภทวิ่งข้ามทุ่ง (Cross Country Races) ประเภทของกรีฑา


1. กรีฑาประเภทลู่ (Track Events) กรีฑาประเภทลู่ ประกอบด้วยการวิ่งในลู่วิ่ง ซึ่งการวิ่งระยะสั้น การวิ่งผลัด และการวิ่งข้ามรั้ว แต่ละรายการมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป โดยการวิ่งระยะสั้นให้ความตื่นเต้น สนุกสนาน การวิ่ง ผลัดแสดงให้เห็นถึงการประสานงานกันเป็นป็ทีม การวิ่งข้ามรั้วเป็นป็ความสัมพันธ์ระหว่างการวิ่งและ การกระโดดแต่การที่บุคคลหนึ่งจะทำ การแข่งขัน กรีฑาประเภทลู่ได้ จำ เป็นป็ต้องมีทักษะเฉพาะตัว เบื้องต้น ต้องใช้ความอดทนในการฝึกซ้อมที่ถูกวิธี และสิ่งสำ คัญต้องมีใจรักในการวิ่งด้วย กรีฑาประเภทลู่สามารถแบ่งการแข่งขันได้ ดังนี้ 1.1 การวิ่งระยะสั้น ประกอบด้วยการวิ่งระยะทาง 60, 80, 100, 200 และ 400 เมตร 1.2 การวิ่งระยะกลาง ประกอบด้วยการวิ่งระยะทาง 800 เมตร 1,500 เมตรและ 3,000 เมตร 1.3 การวิ่งระยะไกล ประกอบด้วยการวิ่งระยะทางตั้งแต่ 5,000 เมตร ขึ้นไป 1.4 การวิ่งผลัด ประกอบด้วยการวิ่งผลัด 4 x 100 เมตร วิ่งผลัด 4 x 400 เมตร 1.5 การวิ่งข้ามรั้ว ประเภทหญิงระยะทาง 100 เมตร 400 เมตร ประเภทชายระยะทาง 110 เมตร 400 เมตร 2. กรีฑาประเภทลาน (Field Events) กรีฑาประเภทลาน ประกอบด้วยการวิ่งกระโดดไกล การวิ่งกระโดดสูง การทุ่มน้ำ หนัก การขว้างจักร และการพุ่งแหลน แต่ละประเภทต้องอาศัยทักษะที่แตกต่างกัน โดยการวิ่ง กระโดดไกล ระบบการทำ งานของร่างกายระหว่างประสาทและกล้ามเนื้อต้องมีความสัมพันธ์ กัน จะช่วยให้สามารถบังคับส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้อย่างนิ่มนวลและถูกต้องตามจังหวะ ที่ต้องการ การวิ่งกระโดดสูงต้องรู้จักจังหวะการกระโดด การสปริงตัวขึ้น การลอยตัวใน อากาศ และการลงสู่พื้นได้อย่างปลอดภัย การทุ่มลูกน้ำ หนักต้องรู้จักการทรงตัว การกระ โดดได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว และการใช้แรงส่งลูกน้ำ หนักให้ไปไกลที่สุด การขว้างจักร ต้องอาศัยการเหวี่ยงตัว และจังหวะที่ดีในการเหวี่ยงจักร รวมทั้งต้องมีความรวดเร็วว่องไว ประสาทและทักษะในการเคลื่อนไหวดี การพุ่งปล่อยแหลนออกไปในท่าที่ถูกต้องรู้จักจังหวะ การวิ่ง การบังคับแหลนควรเรียนรู้ทำ ความเข้าใจ และฝึกปฏิบัติอย่างสม่ำ เสมอ กรีฑาประเภทลานสามารถแบ่งได้เป็นป็ 2 ประเภท ประเภทละ 4 รายการ ดังนี้ 2.1 ประเภทกระโดด (Jumping Events) 2.1.1 กระโดดสูง (High Jump) 2.1.2 กระโดดไกล (Long Jump) 2.1.3 เขย่งก้าวกระโดด (Triple Jump) 2.1.4 กระโดดค้ำ (Pole Vault) 2.2 ประเภทขว้าง (Throwing Events) 2.2.1 ทุ่มลูกน้ำ หนัก (Putting The Shot) 2.2.2 ขว้างจักร (Discus) 2.2.3 พุ่งแหลน (Javelin) 2.2.4 ขว้างค้อน (Hammer)


3. กรีฑาประเภทเดิน (Walking Events) กรีฑาประเภทเดินเป็นการแข่งขันที่ต้องใช้ทักษะการเดิน ซึ่ง สามารถจัดการแข่งขันได้ทั้งภายในสนามและบนถนน ประกอบด้วยการแข่งขันเดินภายในสนาม ระยะทาง 10,000 เมตร และ 20,000 เมตร ส่วนการแข่งขันเดินบนถนน ระยะ ทาง 20 กิโลเมตร และ 50 กิโลเมตร 4. กรีฑาประเภทถนน (Road Races) เป็นการแข่งขันวิ่งบนถนน เส้นเริ่มและเส้นชัยอาจอยู่ใน สนามกรีฑาก็ได้ มีระยะทาง มาตรฐานในการจัดการแข่งขัน สำ หรับชายและหญิง ดังนี้ 4.1 วิ่ง 15 กิโลเมตร 4.2 วิ่ง 20 กิโลเมตร 4.3 วิ่งครึ่งมาราธอน (Half Marathon) 25 กิโลเมตรและ 30 กิโลเมตร 4.4 วิ่งมาราธอน (Marathon) 42.195 กิโลเมตรและ 100 กิโลเมตร


5. กรีฑรีาประเภทวิ่งวิ่ข้าข้มทุ่งทุ่ (Cross Country Races) กรีฑรีาประเภทวิ่งวิ่ข้าข้มทุ่งทุ่เป็นป็การวิ่งวิ่ที่มักมัจัดจัขึ้นขึ้ ในสวนสาธารณะขนาดใหญ่ หรือรืนอกเมือมืง เส้นส้ทางวิ่งวิ่จะเป็นป็ สนามหญ้า เนินนิเขา ทางเดินดิหรือรืทุ่งทุ่นาที่ไถแล้ว นักนัวิ่งวิ่อาจจะพบสิ่งสิ่กีดขวางต่างๆ ในธรรมชาติ ซึ่งซึ่ในระดับดั นานาชาติมีกมีารจัดจัการแข่งข่ขันขัดังดันี้ 5.1 ประเภททีม แบ่งบ่รายการแข่งข่ขันขัเป็นป็ชาย ระยะทาง 12 กิโลเมตร เยาวชนชาย ระยะทาง 8 กิโลเมตร หญิง ระยะทาง 6 กิโลเมตร เยาวชนหญิง ระยะทาง 4 กิโลเมตร 5.2 การวิ่งวิ่ขึ้นขึ้เขาเป็นป็ส่วส่นใหญ่ ทั่วทั่ ไปชาย ระยะทาง 12 กิโลเมตร ระดับดัความสูงสู 1,200 เมตร ทั่วทั่ ไปหญิง ระยะทาง 7 กิโลเมตร ระดับดัความสูงสู 550 เมตร เยาวชนชาย ระยะทาง 7 กิโลเมตร ระดับดัความสูงสู 550 เมตร ถ้าจุดปล่อยตัวและเส้นส้ชัยชัอยู่ใยู่นระดับดัเดียดีวกัน ทั่วทั่ ไปชาย ระยะทาง 12 กิโลเมตร ระดับดัความสูงสู 700 เมตร ทั่วทั่ ไปหญิง ระยะทาง 7 กิโลเมตร ระดับดัความสูงสู 400 เมตร เยาวชนชาย ระยะทาง 7 กิโลเมตร ระดับดัความ สูงสู 400 เมตร นอกจากการแข่งข่ขันขั ประเภทลู่แลู่ละลานแล้ว ยังยัมีกมีารแข่งข่ขันขั ประเภทรวมชายและรวมหญิง ซึ่งซึ่ผู้เผู้ล่นคนหนึ่งนึ่ๆ ต้องแข่งข่ขันขัทั้งทั้ประเภทลู่แลู่ละลาน มีกมีารแข่งข่ขันขัดังดัต่อไปนี้ ทศกรีฑรีา เป็นป็การแข่งข่ขันขั ประเภทรวมชาย ประกอบด้วด้ยการแข่งข่ขันขั 10 ประเภท ซึ่งซึ่ต้องทำ การแข่งข่ขันขั 2 วันวั ติดต่อกันเรียรีงตามลำ ดับดัดังดันี้ วันวัแรก – วิ่งวิ่ 100 เมตร – กระโดดไกล – ทุ่มทุ่ลูกลูน้ำ หนักนั – กระโดดสูงสู – วิ่งวิ่ 400 เมตร วันวัที่สอง – วิ่งวิ่ข้าข้มรั้วรั้ 110 เมตร – ขว้าว้งจักจัร – กระโดดค้ำ – พุ่งพุ่แหลน – วิ่งวิ่ 1,500 เมตร สัตสัตกรีฑรีา เป็นป็การแข่งข่ขันขั ประเภทรวมหญิง มีกมีารแข่งข่ขันขัทั้งทั้หมด 7 ประเภท แข่งข่ขันขั 2 วันวัติดต่อกัน ตาม ลำ ดับดัดังดันี้ วันวัแรก – วิ่งวิ่ข้าข้มรั้วรั้ 100 เมตร – กระโดดสูงสู – ทุ่มทุ่ลูกลูน้ำ หนักนั – วิ่งวิ่ 200 เมตร วันวัที่สอง – กระโดดไกล – พุ่งพุ่แหลน – วิ่งวิ่ 800 เมตร


กติกากรีฑา การแข่งขันประเภทลู่ ประกอบไปด้วย… การแข่งขันวิ่ง 1. ประเภทวิ่ง 100 เมตร, 200 เมตร, 400 เมตร, ข้ามรั้ว 100 เมตร, ข้ามรั้ว 110 เมตร 2. ประเภทวิ่ง 400 เมตร, 800 เมตร, วิ่งผลัด 4×100 เมตร, วิ่ง ผลัด 4×400 เมตร 3. ประเภท 1,500 เมตร 4. ประเภท 3,000 เมตร, วิ่งวิบาก 3,000 เมตร 5. ประเภท 5,000 เมตร 6. ประเภท 10,000 เมตร การแข่งขันวิ่งผลัด 1. เขตรับส่งไม้คทามีระยะทาง 20 เมตร โดยถือไม้คทาเป็นป็เกณฑ์ไม่ เกี่ยวกับขา แขน ลำ ตัวของนักกีฬา 2. การแข่งขันวิ่งผลัด 4×200 เมตร นักกีฬาคนที่ 1 และ คนที่ 2จะ ต้องวิ่งช่องวิ่งของตนเองเท่านั้น คนที่ 3 จะวิ่งในช่องวิ่งของตนเองจน กระทั่งถึงเส้นตัด (เส้นโค้งแรกประมาณ 120 เมตร) 3. การแข่งขันวิ่งผลัด 4×400 เมตร คนที่ 1 วิ่งในช่องวิ่งของตนเอง เท่านั้น คนที่ 2 วิ่งในช่องวิ่งของตนเอง จนกระทั่งถึงเส้นตัด ซึ่งอยู่ใน แนวเส้นชัย คนที่ 3 และ 4 จะยืนคอยรับในเขตรับระยะรวมเท่านั้น เมื่อ นักกีฬาทีมใดวิ่งมาถึงจุด 200 เมตร ก่อน ทีมนั้นจะสามารถยืนคอยรับ คทาจากด้านในของลู่วิ่งเรียงตามลำ ดับออกมา 4. ถือไม้คทาด้วยมือตลอดการแข่งขัน หลังส่งไม้คทาแล้วควรอยู่ใน ช่องวิ่งของตนเอง หรือภายในเขตรับส่งจนกว่าทางวิ่งจะไม่มีนักกีฬา 5. สามารถเปลี่ยนนักกีฬาได้ 2 คนจะต้องมีรายชื่อในการแข่งขันครั้ง นั้น 6. กรณีการแข่งขันวิ่งผลัด 4×100 เมตร, 4×400 ถ้ามีทีมแข่งขันไม่ เกิน 5 ทีม ให้ไม้แรกวิ่งโค้งเดียว แล้วตัดเข้าช่องในได้ การแข่งขันวิ่งข้ามรั้ว นักกีฬาจะต้องวิ่งข้ามรั้วทั้งหมด 10 ครั้ง ตลอดระยะทางการแข่งขัน สิ่งต้องห้าม : วิ่งข้ามรั้วเพียงขาข้างเดียว และห้ามใช้มือผลักดันรั้ว หรือใช้ขาเจตนาถีบรั้วให้ล้ม การแข่งขันประเภทลาน แบ่งออกเป็นป็ 2 ประเภทดังนี้ 1. การแข่งขันประเภทกระโดด ได้แก่ กระโดดสูง, เขย่งก้าวกระโดด, กระโดดสูง, กระโดดค้ำ ถ่อ 2. การแข่งขันประเภททุ่ม พุ่ง ขว้าง ได้แก่ ทุ่มน้ำ หนัก, ขว้างจัก, ขว้างฆ้อน, พุ่งแหลน


การแข่งขันกระโดดไกล การแข่งขัน นักกีฬากระโดดในขั้นที่ดีที่สุดของแต่ละคน จะถือเป็นป็สถิติ รวมทั้งตัดสินเสมอกันของอันดับที่ 1 ด้วย นักกีฬากระโดดลงในบ่อทรายแล้วต้องออกไปข้างหน้าหรือ ด้านข้างเท่านั้น การแข่งขันเขย่งก้าวกระโดด ประกอบด้วยเขย่ง การก้าว และการกระโดด การเขย่ง จะต้องใช้เท้าเดียวกับที่เหยียบกระดานลงสู่พื้น จะต้องกระโดดด้วยเท้าข้างเดียว สามารถกระโดดได้ไม่ เกิน 3 ครั้ง จะหมดสิทธิ์ในการแข่งขันความสูงต่อไป นักกีฬา ที่ชนะเลิศสามารถเลือกความสูงได้ตามต้องการ การแข่งกระโดดค้ำ ถ่อ หากกระโดดไม่ผ่าน 3 ครั้ง ถือว่าหมดสิทธิ์ ห้ามใช้ ผ้ายางพันมือหรือนิ้วมือ ยกเว้นบาดเจ็บการแข่งขันในขั้นที่ดี ที่สุดถือว่าเป็นป็สถิติ การแข่งขันทุ่มน้ำ หนัก นักกีฬาเข้าแข่งขันมากกว่า 8 คน การแข่งขันคนละ 3 ครั้ง ผู้ทำ สถิติดีที่สุดทำ การแข่งขันรอบสุดท้ายถ้าไม่เกิน 8 คน คนละ 6 ครั้ง ทำ การฝึกซ้อมได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ต้องทุ่ม ภายในบริเวณวงกลม ลูกน้ำ หนักต้องทุ่มออกไปจากไหล่ ด้วยมือข้างเดียว โดยลูกน้ำ หนักต้องสัมผัสหรืออยู่ชิดคาง และมือต้องไม่ลดต่ำ กว่าไหล่เลยไปด้านหลัง ขณะจะทุ่มลูกน้ำ หนักออกไป การฟาล์ว เมื่อเข้าไปในวงกลมเพื่อทำ การทุ่มแล้วสัมผัส ภายนอกวงกลมหรือขอบบนของไม้ขวาง หรือขอบบนไม้ ขวางหรือขอบบนของวงกลม จะต้องวางอุปกรณ์ไว้ด้าน นอกหรือภายในวงกลมแล้วเดินออกด้านหลัง – ห้ามใช้ผ้ายางพันนิ้ว มือ 2 นิ้วหรือมากกว่าเข้าด้วย กันยกเว้นบาดเจ็บ – ห้ามสวมถุงมือ – ห้ามฉีดสเปรย์หรือสารบางอย่างในวงกลมหรือ รองเท้า – สามารถใช้สารทามือได้ – สามารถคาดสายเข็มขัดหนังหรืออุปกรณ์อื่นที่จำ เป็นป็ ว่าเหมาะสม เพื่อป้อป้งกันการบาดเจ็บ ของกระดูกได้ – ลูกน้ำ หนักต้องอยู่ภายในเส้นรัศมี และต้องไม่ออก จากวงกลมจนกว่าลูกทุ่มน้ำ หนักจะตกถึงพื้น


การขว้างจักร จักรจะต้องตกภายในเส้นรัศมีเท่านั้น ห้ามออกนอก วงกลม จนกว่าจักรจะตกถึงพื้นครั้งแรกสมบูรณ์แล้ว และ ต้องไม่ฉีดสเปรย์หรือสารบางอย่างในวงกลมหรือรองเท้า ห้ามใช้ผ้ายางพันนิ้ว มือ 2 นิ้วหรือมากกว่าเข้าด้วยกัน ยกเว้นบาดเจ็บ สามารถคาดสายเข็มขัดหนังหรืออุปกรณ์ อื่นที่จำ เป็นป็ว่าเหมาะสม เพื่อป้อป้งกันการบาดเจ็บของ กระดูกได้ ส่วนจักรที่ขว้างออกไปแล้ว ห้ามขว้างกลับมาให้ ถือกลับมาที่วงกลม และห้ามออกนอกวงกลมจนกว่าจักร ถึงเส้น การขว้างฆ้อน ฝึกซ้อมได้ไม่เกิน 2 ครั้ง การขว้างเริ่มจากในวงกลม เมื่อเหวี่ยงสัมผัสพื้นดิน หรือขอบของวงกลมจะไม่ถือว่า ฟาล์ว แต่ถ้าหลังจากสัมผัสพื้นดินหรือขอบเหล็กแล้วเขา หยุดการหมุนจะถือว่าฟาล์ว เมื่อเข้าไปในวงกลมห้ามสัมผัส พื้นดินนอกหรือขอบวงกลมจะถือว่าฟาล์ว ถ้าเกิดหลุดหรือ ขาดกลางอากาศไม่ถือว่าฟาล์ว ส่วนถ้าเสียหลักจนเกิดการ ฟาล์ว จะถือว่าการประลองครั้งนั้นไม่นับเช่นกัน ตัวฆ้อน ต้องตกภายในรัศมี ห้ามออกนอกวงกลมจนกว่าฆ้อนจะตก ถึงพื้น นอกจากนี้ อุปกรณ์ที่ขว้างไปแล้วห้ามขว้างกลับให้ ถือกลับมา การพุ่งแหลน – ต้องจับตรงที่จับ การพุ่งจะต้องพุ่งออกไป เหนือไหล่หรือเหนือแขนท่อนบน – ห้ามใช้วิธีเหวี่ยงหรือขว้าง หรือมุ่งด้วยท่า พลิกแพลงอื่น ๆ – การที่หัวแหลนที่เป็นป็ โลหะไม่ได้ถูกพื้นก่อน ส่วนอื่น ๆ ของแหลน ถือว่าการแข่งขันไม่มีผล – หากส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย หรือแขน ขา ถูกไม้โค้งหรือเส้นที่ลากต่อจากปลายของ ส่วนโค้ง ถือว่าการแข่งขันไม่ได้ผล – หากแหลนหักในระหว่างพุ่งให้ทำ การแข่งขัน ใหม่แหลนพุ่งแล้วห้ามพุ่งกลับ การแข่งขันเดิน ลักษณะการเดินที่ถูกต้อง ก่อนยกเท้าหลังจาก พื้นเท้าหน้านำ ต้องสัมผัสพื้นก่อนด้วยส้นเท้า เมื่อเท้าหน้านำ สัมผัสพื้นแล้วต้องตึงชั่วขณะ จนกว่าจะอยู่แนวตั้งฉากกับลำ ตัว การตัดสิน


การออกสตาร์ท การตั้งต้นการวิ่งหรือการออกสตาร์ท การตั้งต้นการวิ่งหรือการออกสตาร์ทท่า ตั้งต้นก่อนออกวิ่ง นิยมใช้อยู่ 3 แบบ นักกีฬามักจะเลือกใช้ตามความถนัดและ ความเหมาะสมกับความสูงของนักกีฬา 1. แบบ Bunch Start ท่าเริ่มต้นปลายเท้าหลังอยู่แนวเดียวกันกับส้นเท้าหน้า ปลาย เท้าหน้าห่างจากเส้นเริ่มประมาณ 19 นิ้ว ปลายเท้าหลังห่างจากเส้นเริ่มประมาณ 29 นิ้ว ท่านี้เหมาะกับนักกรีฑาที่มีรูปร่าง เตี้ย 2. แบบ Medium Start ท่าเริ่มต้น เข่าของเท้าหลังวางอยู่ตรงแนวกึ่งกลางของเท้า หน้า ปลายเท้าหน้าห่างจากเส้นเริ่มประมาณ 15 นิ้วปลายเท้าหลังห่างจากเส้นเริ่ม ประมาณ 34 นิ้ว ท่านี้เหมาะกับนักกรีฑามีรูปร่างสันทัดปานกลาง


3. แบบ Elongated Start ท่าเริ่มต้นให้เข่าของเท้าหลังวางอยู่ในแนว เดียวกับส้นเท้าหน้า ปลายเท้าหน้าห่างจากเส้นเริ่มประมาณ13 นิ้ว ปลายเท้าหลังห่างจากเส้นเริ่มประมาณ 14 นิ้ว ท่านี้เหมาะกับนักกรีฑาที่ มีรูปร่างสูงโปร่ง เมื่อได้ยินคำ สั่งว่า "เข้าที่" 1. ช่วงไหล่ กางนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ออกนิ้วอื่นชิดกันวาง ชิดเส้นเริ่ม 2. แขนตึง นิ้วมือเกร็งเป็น ป็ รูปถ้วย 3. วางเท้าตามท่าที่เลือกหรือท่าที่ถนัดเมื่อได้ยินคำ สั่งว่า "ระวัง"ให้ยก สะโพกขึ้นอยู่ในระดับไหล่ หรือสูงกว่าระดับไหล่ ตามองไปข้างหน้า พร้อมที่จะถีบเท้าไปข้างหน้า เมื่อได้ยินเสียงปืน หรือ "ไป " 1. ให้ออกวิ่งทันทีที่ได้ยินเสียงปืนปืหรือ ไป ลำ ตัวพุ่งเอนไปข้างหน้า 2. ก้าวแรกไม่ควรก้าวยาวเกินไปเพราะจะทำ ให้ตัวตั้งสู่มุมวิ่งปกติเร็ว เกินไป


มารยาทที่ดีในการเล่นและชมกรีฑรีา กรีฑรีาเหมือมืนกับกีฬาชนิดนิอื่นๆตรงที่ ผู้เผู้ล่นต้องมีมมีารยาทในการเล่น และผู้ชผู้ มต้องมี มารยาทในการชม เช่นช่เดียดีวกันนอกจากทำ ให้กห้ารแข่งข่ขันขัดำ เนินนิ ไปด้วด้ยดีแดีล้ว ยังยั เป็นป็การปลูกลูฝังคุณคุธรรม ให้กัห้ กับผู้เผู้ล่น และผู้ชผู้ มสามารถนำ ไปประยุกต์ใช้กัช้ กับการดำ รง ชีวิชีตวิ ในสังสัคมได้เด้ป็นป็อย่าย่งดี ผู้เผู้ล่นและผู้ชผู้ มกรีฑรีาที่ดีจึดีงจึควรปฏิบัติบั ติน ดังดันี้ 1) มารยาทของผู้เผู้ล่นที่ดี ควรปฏิบัติบั ติดังดันี้ แต่งกายด้วด้ยชุดที่เหมาะสมกับการล่นกรีฑรีา มีกิมี กิริยริาวาจาสุภสุาพเรียรีบร้อร้ย มีใมีจเอื้อเฟื้อฟื้ เผื่อผื่แผ่ ช่วช่ยเหลือเพื่อพื่นร่วร่มทีมและผู้เผู้ล่นฝ่ายตรงข้าข้ม เคารพเชื่อชื่ฟังฟัและปฏิบัติบั ติามคำ สั่งสั่ของผู้สผู้ อน เคารพเชื่อชื่ฟังฟัคำ ตัดสินสิของกรรมการผู้ตัผู้ ตัดสินสิตลอดเวลา ปฏิบัติบั ติามกฎ กติกาอย่าย่งเคร่งร่ครัดรั ไม่แม่สดงกิริยริาอาการไม่พม่อใจ หากเพื่อพื่นร่วร่มทีมเล่นผิดผิพลาด เมื่อมื่ชนะหรือรืแพ้ไพ้ม่คม่วรแสดงความดีใดีจหรือรืเสียสี ใจจนเกินไป ก่อนและหลังการแข่งข่ขันขั ควรแสดงความเป็นป็มิตมิรกับผู้เผู้ล่นฝ่ายตรงข้าข้มด้วด้ยการทักทายหรือรืจับจัมือมืแสดงความ ยินยิดี ไม่คม่วรยืมยือุปกรณ์กณ์ารเล่นของคนอื่นมาใช้ฝึช้ ฝึกซ้อซ้ม 2) มารยาทของผู้ชผู้ มที่ดี ควรปฏิบัติบั ติดังดันี้ ไม่กม่ล่าวถ้อยคำ หรือรืแสดงกิริยริาเยาะเย้ยย้ถากถางผู้เผู้ล่นที่เล่นผิดผิพลาด แสดงความยินยิดีกัดี กับผู้เผู้ล่นที่เล่นดี เช่นช่การปรบมือมืเป็นป็ต้น ไม่กม่ระทำ ตัว เป็นป็ผู้ตัผู้ ตัดสินสิเสียสีเอง เช่นช่ตะโกนแย้งย้คำ ตัดสินสิเป็นป็ต้น ไม่เม่ชียชีร์ใร์นสิ่งสิ่ที่เป็นป็การส่อส่เสียสีดในทางไม่ดีม่ต่ดี ต่อผู้เผู้ล่นฝ่ายหนึ่งนึ่ฝ่ายใด ไม่ กระทำ สิ่งสิ่ใด ๆ ที่ทำ ให้ผู้ห้ติผู้ ติดสินสิหรือรืเจ้าจ้หน้าน้ที่อื่น ๆ ปฏิบัติบั ติงานไม่สม่ะดวก ไม่กม่ระทำ สิ่งสิ่ใด ๆ อันเป็นป็การกีดขวางการเล่นของผู้เผู้ล่น กระทำ ตนให้เห้ป็นป็ ประโยชน์


ประโยชน์ขน์องกรีฑรีา การเล่นกรีฑรีาเหมือมืนกับการเล่นกีฬาชนิดนิอื่น ๆ ที่ผู้เผู้ล่นจะได้รัด้บรั ประโยชน์จน์ากการเล่น ดังดันี้ มีอมีารมณ์ร่ณ์าร่เริงริแจ่มจ่ ใส กล้ามเนื้อนื้สมบูรณ์แณ์ข็งข็แรง รูปรูร่าร่งได้สัด้ดสัส่วส่น มีบุมีบุคลิภาพที่ดี ร่าร่งกายแข็งข็แรง มีคมีวามต้านทานโรคดี เป็นป็วิธีวิช่ธีวช่ยลดไขมันมั ในร่าร่งกายได้ดีด้วิดีธีวิหธีนึ่งนึ่ ระบบประสาททำ งานดีขึ้ดีขึ้นขึ้ทำ ให้นห้อนหลับสนิทนิระบบการหายใจดีขึ้ดีขึ้นขึ้ทรวงอกมีกมีาร ขยายตัวมากขึ้นขึ้ระบบย่อย่ยอาหาร และระบบการขับขัถ่ายทำ งานได้ดีด้ขึ้ดีขึ้นขึ้ร่าร่งกายมีคมีวาม อดทนต่อการทำ งาน ทำ ให้เห้หนื่อนื่ยช้าช้และหายเหนื่อนื่ยเร็วร็ขึ้นขึ้เส้นส้เลือดขยายตัวส่งส่ผล ให้กห้ารไหลเวียวีนเลือดดี ทำ ให้ร่ห้าร่งกายได้รัด้บรัออกซิเซิจนอย่าย่งเพียพีงพอ


การรับไม้ แบบหงายมือ เหมาะสำ หรับวิ่งผลัด 4 x 400 เมตร มี 2 แบบ คือ - การรับไม้วิ่งสไลด์ (slide) ไปด้านหน้าในกรณีนี้ผู้วิ่งมา ความเร็วไม่มากนัก - การรับไม้แบบวิ่งหันหน้าไปด้านหน้าจะใช้เมื่อผู้วิ่งมาด้วย ความเร็วพอสมควร แบบตีไม้คทาลง เหมาะกับการวิ่งพลัด 4x100 เมตร นิยมใช้ มากในปัจปัจุบัน แบบตีไม้คทาขึ้น เหมาะสำ หรับการวิ่งผลัด 4x100 เมตร การถือและส่งไม้ การถือไม้ แบบที่ 1 การจับโดยใช้ง่ามนิ้งมือ คือ ระหว่างนั้ว หัวแม่มือ กับนิ้วชี้บีบคทาไว้แล้วใช้ ปลายนิ้วทั้งหมดยันพื้น แบบที่ 2 การจับโดยใช้ง่ามนิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้บีบคทาไว้ แล้วใช้นิ้วที่เหลือกำ คทาและใช้ปลาย นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ยันพื้น


แบบที่1 แบบที่2 การรับไม้-ส้งไม้ แบบตีไม้คถาลง แบบตีไม้คถาขึ้น


อ้างอิง https://th.wikipedia.org/wiki/ https://6207phannuphak.wordpress.com/กติกากรีฑา/ http://www.kapook.com/


Click to View FlipBook Version