คำนำ
บันทึก “เรื่องเล่า” ฉบับนี้ จัดทำข้ึนด้วยความตั้งใจของข้าพเจ้า เพื่อเป็นความทรงจำที่ดี
ท่ที ุกๆท่านได้มีโอกาสหยิบ“เร่ืองเล่า” ของข้าพเจา้ อ่านจนจบเลม่ ข้าพเจา้ ไมไ่ ด้คาดหวังในเรื่องคณุ งาม
ความดีให้ทุกๆท่านต้องจดจำเป็นเพียงแค่บันทึกความทรงจำดีๆ ในช่วงวัยเยาว์ถุงปัจจุบัน ข้าพเจ้าได้
ผ่ าน แ ล ะ พ บ เจ อ เรื่อ ง ร าว ท่ี ป ระ ทั บ ใจ แ ล ะ ผู ก พั น จ ะ ได้ เป็ น ค ว าม ท รง จ ำใน วั น ที่ ข้ าพ เจ้ าห ล ง ลื ม
สมุดบันทึกเล่มนี้เปรียบเสมือน สมุดชีวิตของข้าพเจ้า และข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างย่ิงว่าทุกท่านจะมี
เร่อื งราวบันทึกไว้เป็นของท่านเองนะคบั
จ.ส.ต.สุรพงค์ ฉมิ พนั ธ์
เรอ่ื งเล่า
ต้นตระกูลของข้าพเจ้าสืบได้จากการเล่าสู่ลูกหลานต่อๆกันมา เชื้อสายของเตี่ยอินซ่ึง
เป็นนามท่ีทุกคนท่ัวไปเรียกว่าพ่อมีสายเลือดของชาวจีน โดยเร่ิมจากอากงพ้ง เดินทางอพยพ
จากจีนแผ่นดินใหญ่มาทางเรือด้วยความยากจนและเต็มไปด้วยภัยพิบัติทางธรรมชาติ ผู้ชายซ่ึง
เป็นเสาหลักของครอบครัว จึงตัดสินใจท้ิงแผ่นดินไปแสวงหาโชคในประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะ
แผนดินสยาม คือเป้าหมายสำคัญและเป็นอันดับ 1 ในการอพยพของชาวจีนในสมัยน้ันอาชีพท่ี
คนจีนนิยม คือ กุลีแบกหาม ด้วยความขยัน อดทน ประหยัด และค้าขายหาบเร่ รุ่งเรืองถึงขีด
สดุ เพราะคนไทยส่วนใหญ่นิยมงานรับราชการอากงพบรักกบั อาม่าวอนเป็นคนไทยเช้ือสายเขมร
ท่ีถูกทัพทหารไทยต้อนไว้เป็นเชลยศึก ท่ีบ้านบึง ตำบลตลิ่งชัน อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี
ส่วนสายของแม่ เรียกว่าพ่อคุณจู อพยพมาจากเมืองจีนมาทางเส้นทางเดินเรือเช่นกันพ่อคุณมี
ความรู้ทางด้านการรักษาผู้ป่วยเบ้ืองต้นด้วยสมุนไพรยาจีนจึง มีอาชีพเป็นหมอรักษาตามบ้าน
ในสมัยการแพทย์ยังไม่สามารถเข้าถึงหมู่บ้านได้เช่นสมัยน้ี ได้พบรักกับแม่คุณเจียมเป็นคนไทย
เช้ือสายเขมรเช่นเดียวกับอาม่าวอนท้ังน้ีจากการสอบถามข้อมูลเชิงลึกผมมีความรู้สึกว่าผมเป็น
ลูกครึง่ จนี +เขมร และมีเชื้อสายคนไทยบา้ งหรอื เปล่า 5555
ข้าพเจ้าเกิดเม่ือวันที่ 28 กันยายน 2513 ณ บ้านเลขที่ 16/2 หมู่ 7 ตำบลตลิ่งชัน
อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี มีพ่ีน้องทั้งหมด 8 คน ชาย 5 คน หญิง 3 คน ข้าพเจ้าเป็น
คนสุดท้อง ในวัยเยาว์จำได้ประมาณ 5 ขวบ ได้ไปบ้านอาม่า ซึ่งเป็นแม่ของเต่ียประจำเนื่องจาก
ข้าพเจ้าเป็นลูกคนเล็กหรือคนสุดท้อง อาม่าวอนก็จะพาไปเที่ยวเล่นกับพ่ีซ่ึงเป็นลูกของลุงต๋ีและ
๒
อาเจ็กทองที่อยู่บ้านไม้หลังใหญ่เก่ามากๆ โทรมอีกต่างหาก ข้าพเจ้ามองด้วยความหดหู่แต่เต่ีย
มักจะพูดกับผมจนติดหูอยู่เสมอว่า ทุกๆเสาทุกต้นจะมีเงินเก็บไว้เต็มไปหมดนะ เพราะลุงเป็นคน
เก็บตังคิดว่าน่าจะเป็นโกฏิสมัยนั้นเท่ากับ 10 ล้าน ซ่ึงประชาชนทุกคนนิยมเก็บเงินไว้กับบ้าน
เพราะธนาคารยังมีไม่มาก จังหวัดมีเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ส่วนการเทียบโกฏิ ข้าพเจ้าเรียนทัน
ในสมัยเรียน ชั้น ป.1 หลังจากน้ันก็ยกเลิกหลักโกฏิเหลือเพียงหลักล้าน ในวัยเรียนข้าพเจ้าได้
เข้าเรียนที่ ร.ร.วัดสระประทุม(โรงเรียนวัดหนองบัว)การเรียนการสอนในสมัยนั้นครู 1 คน
สอนทุกวิชา คุณครูท่ีผมกลัวมากท่ีสุดในยุคนั้น คือ ครูสมาน ชาวลุ่มบัว ส่วนมากชาวบ้าน
จะเรียกช่ือท่านว่า ครูเซียน ท่านเป็นคนเสียงดังมากตีก็เจ็บสุดๆ และชอบให้ท่องแม่สูตรคูณ
เพราะทา่ นสอนคณติ ศาสตร์ แต่ท่านก็โดดเด่นในการรอ้ งขบั เสภาเรอ่ื งรามเกียรตพ์ิ ร้อมให้นักเรียน
ร้องตามสนุกมากในวิชาภาษาไทย ท่านสอนบรรยายให้ชวนชอบในภาษาสุดยอดนักเล่าเร่ืองตัว
จริง เม่ือถึงวิชาคณิตศาสตร์ท่านก็เป็นครูที่ดุร้ายมาก นักเรียนทุกคนต้องท่องแม่สูตรคูณทุกวัน
และสอบก่อนกลับบ้านหากเดินไปรอบๆห้องเสียงใครไม่ดังอ่อมๆ แอ่มๆ แสดงว่าท่องไม่ได้ท่าน
ก็จะเรียกมาท่องเด่ียวจนได้ หากไม่ได้ จะไม่ปล่อยกลับบ้านซึ่งนักเรียนทุกคนจะตื่นเต้นทุกคร้ัง
เมอ่ื เรยี นกับคุณครเู ซียน...ถงึ เวลาเย็นโรงเรยี นก็จะสัน่ กระด่งิ หรือเคาะกระดิ่งในเวลา 4 โมงเย็น
นักเรียนทุกชั้น ป.1-ป.6 ก็จะมาเข้าแถวพร้อมปล่อยแถวกลับบ้าน ข้าพเจ้าในขณะน้ันไม่มี
รถจักรยานเช่นคนอื่นเขาก็ต้องเดินเท้าเปล่าๆรองเท้าไม่สวมกลับบ้ านในระยะทาง
ประมาณ 2 กิโลเมตร กลับถึงบ้านข้าพเจ้าก็จะเห็นครูเซียนน่ังดื่มเหล้าขาวกับเต่ียเป็นประจำ
๓
เพราะเต่ียเป็นคนชอบการด่ืมสุราก่อนทานข้าวเย็น ครูเกษียณจึงเปรียบเสมือนคนที่รู้ใจเตี่ ย
ก่อนอาหารเย็นขา้ พเจา้ จะไดย้ ินสองผู้ยิ่งใหญ่มเี ร่อื งพูดคยุ สง่ เสียงดังทว่ั ตลาดเป็นอย่างนี้ประจำ
ตอ่ มาข้าพเจ้าจำไดว้ ่าชว่ งประถม 4 (ป.4) คุณครูท่ีย้ายมาใหม่มีนามว่า คุณครูนิวัฒน์
มุกสิกภูมิ เป็นครูที่ชอบกีฬา โดยเฉพาะกีฬาฟุตบอล และกรีฑา (นักว่ิง) คุณครูจะสอบถาม
ประวัตินักกีฬาคนสำคัญท่ีจบไปแล้วก่อน ว่ามีลูก มีน้องหรือญาติเพื่อสืบสายเลือดตามหลัก
วิชาการก่อน แล้วข้าพเจ้าเป็นหน่ึงในการถูกคัดเลือกในการสืบสายเลือดนักกีฬาโดยมีพี่สาวเป็น
นักกรีฑาของโรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา (คุณประมวลศรีสัมพันธ์) นักกรีฑาเหรียญทอง
หลายรายการซ่ึงในสมัยเด็กๆข้าพเจ้ายังได้นำเหรียญท่ีพ่ีประมวลรับรางวัลมาเก็บไว้ในกระป๋อง
จนเต็ม มาคล้องคอเล่นกับเพ่ือนๆ จากวันท่ีครูนิวัฒน์คัดเลือกพร้อมทำการฝึกฝน ถ่าย ทอด
เทคนิคต่างๆในการเป็นนักกรีฑาทุกๆเย็นก่อนกลับบ้าน การแข่งขันกรีฑาจะแบ่งความสูง
เป็นระดับ ดังน้ี นักกรีฑารุ่นจิ๋ว นักกรีฑารุ่นกลาง นักกรีฑารุ่นใหญ่ เปรียบเทียบจากความสูง
หากใครสูงเกิน เชน่ นักกรีฑารุ่นจิ๋วชายสูงเกินมาก็จะอยู่ในร่นุ กลางทำให้เสียเปรยี บซ่ึงหากอยู่ใน
รุ่นจ๋ิวก็จะมีสิทธิ์ได้เหรียญ แต่ถ้าถูกดันไปอีกรุ่นก็อาจจะไม่ได้รับเหรียญเลยจึงต้องมีการขย่มตัว
ให้เต้ียลงเพื่อจะได้อยู่ในรุ่นที่ต้องการอเช่นเดียวกับการชั่งน้ำหนักของนักมวย ดังน้ัน ในการ
แข่งขันคร้งั น้ีของข้าพเจา้ ความสูงเปน็ อุปสรรคเ์ กนิ รุ่นจงึ ทำการให้คนขี่คอแล้ววงิ่ ขย่มตัวให้ความ
สูงต่ำลงมา 2 ซม. ช่วงนั้นข้าพเจ้ายอมรับว่าวิ่งไปด้วยแบกคนอ่ืนข่ีคอไปด้วย มันทรมานมากๆ
และแล้วการวัดตัววันน้ันก็จบลงด้วยดีของคณะกรรมการเพื่อลงรุ่นของนักกรีฑา ข้าพเจ้า
ตรวจสอบนกั กรีฑาทกุ รุ่นมขี า้ พเจา้ คนเดียวที่อยู่ ป.4 นอกนน้ั เปน็ นกั กรฑี า ป.5 และป.6
๔
นับจากการคัดเลือกจนมาถึงวันแข่งขันจริงซึ่งเป็นวันเด็กแห่งชาติ ข้าพเจ้าลงแข่งขัน
ในนามตัวแทนของสี ข้าพเจ้าต่ืนเต้นมากแบบสุดๆ ตัวก็เล็กมองสีของคนอ่ืนๆ ตัวสูงใหญ่ทั้งนั้น
พี่ป.5 พ่ีป.6 เพ่ือนๆ ในสีต่างส่งเสียงดังใหก้ ำลังใจโดยเฉพาะครูนิวัฒน์ จะส่งสัญญาณกัดฟัน
ตาโตเพ่ือส่งกำลังใจและเช่ือม่ันว่าข้าพเจ้าทำได้ เมื่อกรรมการเรียกนักกรีฑาประจำลู่วิ่งแข่งขัน
80 เมตร จะสง่ นักกรฑี าสีละ 2 คน รวม 10 คน เม่ือกรรมการเรยี กนกั กรีฑาพรอ้ มเพื่อปลอ่ ยตวั
ทุกคนก็ฟังเสียงสัญญาณนกหวีดเป่า จากกรรมการการสั่งนักกรีฑา เข้าท่ี ระวัง พร้อมกับเป่า
เสียงนกหวีด ปล่อยตัวนักกรีฑา ข้าพเจ้าพร้อมกับนักกรีฑาทุกคนว่ิงออกตัวอย่างแรงจนถึง
เส้นชัย ข้าพเจ้าเข้าในอันดับท่ี 3 ครูนิวัฒน์ วิ่งเข้ามาสวมกอดข้าพเจ้าแสดงด้วยความดีใจ
มากสุดๆ บอกประโยคว่าครูดูคนไม่ผิดเธอทำสำเร็จแล้ว นับจากวันนั้นข้าพเจ้าก็ถูกครูนิวัฒน์
ฝึกฝนอย่างหนักเพอื่ เปน็ ตวั แทนของโรงเรียนไปแข่งข้นั ในกลุม่ โรงเรียน ซ่งึ มหี ลายโรงเรยี น เชน่
1. โรงเรียนเมอื ง
2. โรงเรยี นหนองขาม
3.โรงเรยี นวดั สกณุ ปักษี
4. วัดสวุ รรณนาคี
5. โรงเรยี นวดั สระประทมุ
6. โรงเรียนวัดหนองโสน
7. โรงเรียนวัดสามทอง
๕
รวมทั้ง 7 โรงเรียน ซ่ึงโรงเรียนเมือง(หนองพันกง)จะมีนักกีฬามากและนักกีฬาเก่งๆมากมาย
เนื่องจากเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่นักเรียนเยอะ การแข่งขันกีฬาคร้ังนี้ข้าพเจ้าได้เป็นตัวแทน
นกั กรีฑารว่ มกับรุ่นพ่ี ไปแข่งขัน นับได้ว่าเป็นการแข่งขันกรีฑาคร้ังแรกในชีวิตของข้าพเจ้าต่ืนเต้น
และพร้อมมากๆกับการแข่งขันรายการเดียววิ่งผลัด 4x80 เมตร ชายรุ่นจิ๋วรองชนะเลิศอันดับ
ท่ี 2 เหรียญเงิน นับจากวันนั้นข้าพเจ้าก็ซ้อมหนักทุกวันหลังเลิกเรียนเพื่อเป็นตัวแทนนักกรีฑา
ในปีต่อไปและปีน้ีข้าพเจ้าได้วิ่งรุ่นที่สูงขึ้น คือ รุ่นชายกลาง วิ่ง 2 รายการ วิ่ง 80 เมตร และ
วิง่ ผลัด 4x80 เมตร ข้าพเจ้านำชัยชนะให้กับโรงเรียน 2 เหรียญทอง หลังจากวันน้ันครูนิวัฒน์
ผู้ฝึกสอนก็มาบอกการพูดคุยของกลุ่มโรงเรียนในการแข่งขันกรีฑาปีหน้าโรงเรียนเราเป็นท่ีน่าจับ
ตามองกลุ่มการแข่งขันเนื่องจากมีนักกรีฑาดาวรุ่งยังเรียนอยู่ ซึ่งครูนิวัฒน์ก็บอกกับข้าพเจ้าว่า
สุรพงค์ ครูทุกโรงเรียนเขาจำช่ือเธอได้ ปีหน้าโรงเรียนทุกโรงเรียนต้องซ้อมกรีฑาหนักเธอต้อง
เตรียมตัวให้พร้อมนะ ครูนิวัฒน์กล่าวด้วยความภาคภูมิใจและข้าพเจ้าก็รู้สึกได้จากสายตาและ
การทุ่มเทของคุณครู ข้าพเจ้ารับปากว่าจะฝึกซ้อมและอยู่ในวินัยอย่างดี ในปีสุดท้ายการแข่งขัน
กรีฑาชั้นประถม 6 ข้าพเจ้าลงทำการแข่งขัน ทุกประเภท ทุกรายการ เช่น ว่ิง 80 เมตร
ว่ิง 100 เมตร ว่ิงผลัด 4x80 เมตร และว่ิงผลัด 4x100 เมตร โรงเรียนข้าพเจ้าชนะเลิศทุก
รายการรวมไปถึงข้าพเจ้าได้รับรางวัลนักกรีฑายอดเย่ียม ซ่ึงไม่เคยมีนักกรีฑาคนใดได้รับมาก่อน
ปีน้ีเป็นปีแรกจากการประชุมของคณะครูทุกโรงเรียนทำให้โรงเรียนวัดสระประทุมประกาศ
ชนะเลิศท้ังวนั
๖
เม่ือการแข่งขันกรีฑาจบ เช้าวันใหม่ที่หน้าเสาธงครูใหญ่ นายทวีป เกิดเอี่ยม ได้กล่าว
สรุปผลการแข่งขันกีฬากลุ่มของโรงเรียนให้กับนักเรียนประถมทุกช้ันเรียนว่าโรงเรียนวัดสระ
ประทุมได้สร้างผลงานการแข่งขันกรีฑาชนะเลิศทุกรายการ สร้างผลงานให้กับโรงเรียนเราและ
ชื่นชมครูนิวัฒน์ พร้อมนักกีฬาทุกคนท่ีได้นำชื่อเสียงมาให้กับโรงเรียนสุดท้ายครูนิวัฒน์ก็พูด
บรรยายการแข่งขันให้นักเรียนทุกคนฟัง แล้วก็พูดชื่นชมข้าพเจ้าว่าคณะกรรมการจาก
ทุกโรงเรียนยินดีมอบรางวัลนักกรีฑายอดเยี่ยมให้กับข้าพเจ้าโดยมอบลูกฟุตบอลพร้อมกับ
เงิน 200 บาท จากวันน้ันข้าพเจ้าก็ถูกคัดเลือก ให้เป็นตัวแทนไปแข่งในระดับอำเภอ ซึ่งต้องทำ
การฝึกซ้อมอยู่ท่ีโรงเรียนวัดป่าเลไลย ในนาม อำเภอเมือง แข่งขันในสนามกีฬาจังหวัด ข้าพเจ้า
จำภาพการแข่งขันได้ดีว่าการแต่งกายสวมเสื้อกล้ามสีแดง กางเกงฟุตบอล ไม่สวมรองเท้า
ว่ิงเท้าเปล่า การแข่งขันคร้ังนี้ ข้าพเจ้าได้แข่งขัน 2 รายการ คือ วิ่งผลัด 4x80 เมตร และ
วิ่งผลัด 4x100 เมตร รางวัลรองชนะเลศิ 2 เหรยี ญทอง ไดร้ ับรางวลั เหรยี ญทองจากท่านผู้ว่า
ราชการจังหวัดสุพรรณบุรี นายจรินทร์ กาญจโนมัย หลังจากนั้น ได้ศึกษาต่อช้ันมัธยมต้น
ท่ี โรงเรยี นตล่ิงชันวิทยา รุ่นท่ี 4 เนื่องจากโรงเรียนก่อตั้งเพียงแค่ 4 ปี การกีฬา โรงเรียนขนาด
เล็กคงยังไม่พร้อมสนับสนุนนักกีฬาเพราะโรงเรียนยังคงต้องพัฒนาในรูปแบบการเกษตร เป็น
ส่วนใหญ่ ข้าพเจ้าจึงต้องหยุดเล่นกีฬาโดยปริยาย ทุกๆวันพุธจะมีกิจกรรม ปลูกต้นไม้
ใน โค รงการเกษ ต ร ของอาจารย์ ดำรงค์ สุ ภาษิ ต ส าย โห ด อาจารย์ ฝ่ าย ป กครอง
เม่ือจบมัธยมศึกษาตอนต้น ม.3 จึงได้ศึกษาต่อ ม.ปลายท่ีโรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา
อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี โอกาสน้ีก็ได้ไปคัดตัวนักกรีฑาโดยการทดสอบจับเวลาและ
๗
ทดสอบกบั นักฟุตบอลที่มชี ่ือเสยี งโดง่ ดงั ของโรงเรียนในนามดาวดงั ของโรงเรยี น วิง่ 100 เมตร
ด้วยเวลา 12.20 วินาที ทำใหน้ ักฟุตบอลเกดิ ความไม่พอใจเป็นอย่างมาก ขา้ พเจา้ มคี วามรสู้ กึ ได้
แต่เราก็เรียนห้องเดียวกันเพราะเป็นห้องนักเรียนกีฬาก็ว่าได้หลังจากน้ันชีวิตข้าพเจ้าก็เปลี่ยน
เมื่อ อาจารย์ชนะ ยอดปรางค์ เรียกนักกีฬาทุกคนต้องเก็บตัวเพื่อฝึกซ้อมในโรงเรียนค่ายนักกีฬา
ฟุตบอลชายและนักฟุตบอลหญิง ซึ่งทีมนักฟุตบอลหญิงส่วนมากจะติดทีมชาตเิ ป็นส่วนมาก ซึ่งเป็น
ชุดแรกๆของทีมชาติหญิงส่วนตัวข้าพเจ้าเพียงคนเดียวที่เป็นนักกรีฑา ซ้อมวิ่งแบบหดหู่อยู่คนเดียว
ซ้อมแบบเซ็งๆ ส่วนนักกีฬาฟุตบอลก็จะซ้อมตามแผนการฝึกสอน แต่ละตำแหน่ง ชั่วโมงสุดท้ายจะมี
การแข่งขันเต็มรูปแบบทั้งชายและหญิงส่วนข้าพเจ้าซ้อมว่ิงรอบสนามทุกวันพร้อมจบั เวลาให้ได้ดีกว่า
12.00 วินาที ข้าพเจ้ารู้ตัวดีว่าทำเวลาได้เท่าน้ี เนื่องจากข้าพเจ้าหยุดพักการใช้กล้ามเน้ือท่ี
กำลังขยายอย่างเต็มที่แต่ข้าพเจ้าหยุดใช้กล้ามเน้ือที่กำลังขยายนานถึง 3 ปี จึงมีปัญหา ในการเป็น
นักกรีฑาเม่ือถึงวันแข่งขันกรีฑาจังหวัดมาถึงนักกรีฑาต่างๆก็มารายงานตัว ข้าพเจ้าก็พบกับเพื่อน
หลายคนต่างก็มีสีหน้ากระหายการแข่งขันรวมถึงสายตาที่ดูแล้วทุกคนม่ันใจวันน้ันเม่ือการแข่งขันจบ
ข้าพเจ้าก็ฝา่ ยแพ้ให้กับเพื่อนของข้าพเจ้าท่ีเคยชนะมาตลอด เขาทำเวลาได้ 11.00 วินาที ทำเวลาได้ดี
มากจนทำลายสถิติของจังหวัดหลังจากการแข่งขันจบ ข้าพเจ้าก็ยังคงซ้อมกีฬาคนเดียวเช่นเดิม
จนมาถึงวันหน่ึงข้าพเจ้ารู้ดีว่าข้าพเจ้าคงพอแล้วสำหรับนักกรีฑาพร้อมขอลาออก จากน้ันเพ่ือนๆนัก
ฟุตบอลก็ชวนให้ช่วยเก็บลูกบอลและคอยโยนลูกบอลให้กับผู้รักษาประตูในการฝึกท่าเบสิค พ้ืนฐาน
ต่างๆ แล้ววันหนึ่งมีการแข่งขันฟุตบอลหมู่บ้านซ่ึงนับว่าเป็นท่ีแรกท่ีข้าพเจ้าได้สัมผัสการแข่งขันใน
สนามกีฬาเป็นท่ีแรกในการเล่นฟุตบอลเนื่องจากผู้รักษาประตูไม่มา รุ่นพี่มีชื่อว่าพ่ีต้นจึงบอกให้
ข้าพเจ้าช่วยลงเล่นเป็นผู้รักษาประตูให้หน่อย จากความเห็นของทีมคือตำแหน่งท่ีง่ายท่ีสุดไม่ต้องใช้
๘
ความสามารถอะไรมาก เมื่อเร่ิมการแข่งขันก็โดนยิงประตูในนาทีแรก ก็คือเพื่อนข้าพเจ้าเป็นนักกรีฑา
ของจังหวัดชุมพลศรีนคริน นักเตะจาก โรงเรียนสวนกุหลาบ ผู้ชมเฮกันล่ันสนาม และก็ตามไปด้วย
2 และ 3 ก็ตามมา รอบประตูจบการแข่งขัน 7 ประตูต่อ 0 และสถานการณ์เช่นน้ีทำให้พ่ีต้น ซึ่งเป็น
หวั หน้าทมี เขา้ มาจับมือและแสดงสหี นา้ ดว้ ยความดีใจ และกล่าวเสียงดังกบั ลูกทีมว่าทมี เราไดป้ ระตูมือ
กาวคนใหมแ่ ลว้ ทุกคนในทีมฟตุ บอลสง่ เสียงต้อนรับอย่างสนกุ สนาน แทนท่ีจะเสียใจทุกคนกลับดีใจท่ี
ค้นพบ นายทวาร ท่ีทุกคนกำลังค้นหา พี่ต้น(นายสุพจน์ หาญพุฒ)ลูกชายผู้ใหญ่บ้านบอกกับ
ทุกคนว่าทีมเราร้อู ยู่แล้วว่าทีมเราเปน็ รองทีมคู่แข่งมากโอกาสชนะยากมาก แตท่ ีมเราก็สามารถตอ่ ตา้ น
การทำประตูของทีมคู่แข่งได้หลายลูกแพ้น้อยกว่าที่คิด พี่ต้นบอกกับทีมว่าท้ังสนามเชยี รทีมเราว่าเล่น
สามัคคีกันดีมาก และชื่นชนผู้รักษาประตูมีทักษะที่ดี รอประสบการณ์อีกหน่อย รับรองแจ่ม นับจาก
วันน้ันชีวิตนักกีฬาของข้าพเจ้าก็เริ่มเปล่ียนไปทีละน้อย เริ่มมีทีมฟุตบอลจากทีมต่างๆ ท่ีขาดผู้รักษา
ประตูมาทาบทามให้ช่วยเล่น ข้าพเจ้าก็มักจะปฏิเสธว่าข้าพเจ้ายังมือใหม่แต่ถ้าวัดดวงก็เล่นได้
เม่ือข้าพเจ้ามีโอกาสได้รับเกียรติให้เล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตูหลายๆสนามแข่งขันก็เริ่มชินตา
ในตำแหนง่ ของขา้ พเจา้ จากผู้ท่ีมาเชียร์ทีมที่ข้าเจ้าสังกัดอยู่ ทำให้ความรูส้ ึกข้าพเจ้ากเ็ คล้ิมจนิ ตนาการ
ในตำแหน่งท่ีทีมสนับสนุน ข้าพเจ้าจึงต้องเร่ิมฝึกทักษะตำแหน่งนายทวารแบบมืออาชีพชนิดแบบ
จรงิ จัง จากเพอื่ นสนิทของขา้ พเจ้าฉายา นกั เตะรอ้ ยเมตร ผู้ซ่งึ มีทกั ษะในการเตะลูกฟตุ บอลได้แรงและ
น่ากลัวสำหรับผู้รักษาประตู ในการยิ่งประตูมากกว่าคร่ึงสนามเสียบสามเหล่ียมสนามเกือบทุกคร้ัง
ทักษะกองหน้าดีมากๆ เร็วแรงเช่นเดียวกับเพื่อนข้าพเจ้าอีกรายคือนักเตะฉายา จรวจทางเรียบ
นายสุนัย กฤษณชาญดี หากมีการแข่งขันในจังหวัดสุพรรณบุรี มีนักเตะ 2 นายนี้เล่นทีมเดียวกัน
รับรองผู้รักษาประตู ปวดหัวมาก ชีวิตในวัยน้ันการกีฬาของข้าเจ้าโดยเฉพาะนักฟุตบอลในตำแหน่ง
๙
ผู้รักษาประตูราบร่ืนเป็นอย่างดี สังกัดทีม “สองพี่น้องฟาร์ม” ซ่ึงเป็นทีมฟุตบอลท่ีรวมดาวดัง
มาสังกดั ไว้ในทมี (ผูจ้ ัดการทีมเป็นเจ้าของฟาร์มกงุ้ )สนบั สนุนส่งนักกีฬาฟุตบอลเข้าแข่งขันทุกสนาม
ในจังหวัดสุพรรณบุรีและประสบความสำเร็จชนะเลิศเกือบทุกรายการมีบ้างท่ีชิงกับสโมสรดังๆ เช่น
สโมสรทหารอากาศ สโมสรท่าเรือ สโมสรสารประชา และเยาวชนทีมชาติ ท่ีสนใจตะมาโชว์ฝีเท้า
ในช่วงเทศกาลวันสำคัญ เช่นวันสงกรานต์ วันออกพรรษา วันลอยกระทง หรืองานท่ีหมู่บ้านจัดข้ึน
เพ่ือชิงรางวัลเงินสดจะมีสนามดังๆ เช่น สนามการแข่งขันบ้านบึง สนามการแข่งขันบ้านหนองบัว
สนามการแข่งขันบ้านจิกรากข่า และสนามการแข่งขันบ้านสามทอง ซ่ึงเป็นสนามฟุตบอลท่ีประชาชน
ให้ความสนใจเชียร์ฟุตบอลจำนวนมากในยุคสมัยนั้นประมาณปี 2525 นักพากย์ฟุตบอลท่ีมีชอื่ เสียง
โด่งดังที่ข้าพเจ้าพอจำได้มีนามว่า อาจารย์ราชัน บุรุษ หมายเลข 9 ซ่ึงเป็นนักพากย์สนามแข่งขัน
ฟตุ บอลทสี่ นุกมากเสยี งไพเราะและดดุ นั จำนักเตะได้ทุกคนรวมถึงประวัติสว่ นตวั ของนกั เตะและทีมโค้ช
นักพากย์มีส่วนสำคัญในการเชยี ร์ฟุตบอลเป็นอย่ายิ่งพร้อมตั้งฉายาให้นักเตะที่มีฝีเท้าโดดเด่น
สำหรับผู้ชมจะได้จดจำนักเตะคู่ไปกับฉายาในสนามการแข่งขันนับว่านักพากย์มีส่วนสำคัญ ที่ปลุก
อารมณ์ทั้งผู้ชมและนักกรีฑา เช่น นักพากย์จะประกาศรายนามดารานักเตะฉายาปีกซ้ายเท้าช้างผู้ชม
ทั้งสนามก็จะทราบว่าเขาคอื ประเสรฐิ ชา้ งมูล ศูนยห์ นา้ จรวจทางเรียบ สนุ ัย กฤษณชาญดี ศูนย์หน้า
100 เมตร ชุมพล ศรีน้ำเงิน จอมเตะไขว้ขา เปรมชัย เปรมบำรุง กองกลางอัจฉริยะ อมร ยืนยง
นักเตะร้อยขา มนตรี ศรีสัมพันธ์ นักเตะอารมณ์ดี สมรัฐ หาญพุฒ นายทวาร จอมบินทะลุดิน
ชาญศิลป์ ศักดิ์ดามาศ ประตูมือกาว สุรพงค์ ฉิมพันธ์ พร้อมดารารับเชิญ เจษฏา ป่ินวิเศษ
อำนาจ เดชทองคำ ซึ่งรายนามดังกล่าวนักพากย์จะประกาศเสียงดังท่ัวสนามพร้อมเครื่องเสียง
อย่างดีทำให้บรรยากาศชวนแข่งขนั ย่ิงนักรายนามนกั เตะท่ีพากย์ประกาศถือได้วา่ เป็นดารานักเตะท่ีโด่ง
๑๐
ดังในจังหวัดสุพรรณบุรี ในยุคที่กีฬาฟุตบอลเฟ่ืองฟูสุดๆในปี 2532 ข้าพเจ้าก็ได้มีส่วนร่วมในการ
กอ่ ตง้ั ทมี ฟตุ บอลเป็นทีมชอื่ หมบู่ ้านของเราเองคอื ทมี หนองบัว FC หากยอ้ นเวลากลับไปในยุคสมัย
น้ัน หากมีการแข่งขนั จะมีกองเชยี ร์ทั้งหมู่บา้ นและบ้านข้างเคยี งตามไปเชยี ร์ตดิ ขอบสนามเป็นรอ้ ยเม่ือ
ผ่านไปถึงคู่ชิงชนะเลิศจะมีส่วนล่วงหน้ากลับมาเพ่ือเตรียมอาหารฉลองถ้วยภาพบรรยากาศแบบนั้น
ข้าพเจ้ายังจดจำด้วยความประทับใจของผู้นำชุมชนทุกท่านในบ้านหนองบัวมิรู้ลืม ปลื้มทุกครั้ง
ท่ีคิดถึงบรรยากาศ หนองบัว FC นักฟุตบอล ที่สร้างช่ือเสียงโด่งดัง และรับรางวัลชนะเลิศหลาย
สนามจะมีรายนามนักเตะยุคนั้น ดังนี้ เปรมชัย เปรมบำรุง ตำแหน่งกัปตันทีม มนตรี ศรีสัมพันธ์
ณรงค์ เจริญจันทร์, สุจินต์ เจรญิ จันทร์, สุพจน์ หาญพุฒ,สมรัฐ หาญพุฒ,พี่ประกอบ ศรสี ัมพันธ์
สุพจน์ จันทชัย (พ่ีไหล), สุพจน์ ศรีสัมพันธ์(เสือใหญ่) ชุดนักเตะดังกล่าว ถือว่าเป็นนักเตะ
ในตำนานท่ีมีแฟนบอลในหมู่บ้านหนองบัว FC และเขตตำบลใกล้เคียงติดตามกองเชียร์ ให้กำลังใจ
ทุกสนามในการแข่งขนั หากเป็นการแข่งขันนัดสำคัญกองเชียร์ก็จะหยุดการทำงาน พืชการเกษตรเพื่อ
ไปเชียร์ให้กำลังใจเรียกได้ว่าปิดหมู่บ้านก็ว่าได้ หากจะใช้คำว่า FC ให้ตรงกับยุคสมัยน้ีก็คงใช้ได้กับ
หนองบัว FC เพราะมีแฟนบอลตามไปเชียร์เป็นร้อย รถเมย์สายดอนเจดีย์-สุพรรณ เสี่ยต๋ี
ยินดีบริการรับ-ส่ง ฟรีตลอดทุกรายการแข่งขัน ขบวนรถติดตามเชียร์ อีกเป็นสิบคัน เป็นภาพที่ทุก
ท่านท่ีอยู่ในเหตุการณ์ยุคนั้น ไม่สามารถบันทึกภาพอดีตให้กับชนรุ่นหลัง ได้เห็นบรรยากาศอันอบอุ่น
แสดงถึงความสามัคคีแสดงออกมาในรูปแบบของการแข่งขันกีฬาซ่ึงตัวของข้าพเจ้าเอง จึงถ่ายทอด
เหตกุ ารณ์ผา่ นเป็นบันทึกเรื่องเลา่ ใหช้ นร่นุ หลังทราบพอสงั เขป
แล้วความสุขในวัยรุ่นก็ต้องจบลงในสนามการแข่งขันกีฬาฟุตบอล เนื่องจากทุกคนอยู่ในช่วง
วัยกำลังศึกษา ทุกคนมีหน้าท่ีเดินตามความมุ่งหวังของตนเองและครอบครัว ทีมฟุตบอล ก็จะมีรุ่น
๑๑
นอ้ งๆท่ีข้ึนมาทดแทนต่อไป ข้าพเจ้านับจากนน้ั ได้เดินทางเพื่อไปศึกษาต่อทก่ี รุงเทพมหานครในมหาลัย
รามคำแหง ในปี พ.ศ.2532 ในคณะรัฐศาสตร์ พักอยู่หอชาย รามคำแหง 2 (บางนา) กิจกรรม
นอกจากเรียนก็ยังคงเล่นฟุตบอลข้าพเจ้าจึงลงสมัครชมรมกีฬาฟุตบอลและได้คัดตัวเป็นนักกีฬา
ฟุตบอลของมหาลัยรามคำแหงในตำแหน่งผู้รักษาประตูช่วงขณะน้ันข้าพเจ้ายังมีปัญหาเวลาซ้อม
ไม่สามารถลงซ้อมตามเวลาประกอบกับขาดซ้อมเป็นประจำจึงต้องตัดสินใจขอลาออกจากทีมมหาลั ย
รามคำแหง หลังจากลาออก ข้าพเจ้ามีความคิดท่ีจะศึกษาต่อในระดับ ปวส.ในมหาวิทยาลัยเอเชีย
อาคเนย์ ในสาขาช่างยนต์เขตหนองแขม ในหลักสูตร 3 ปี หากเรียนจบมาสายอาชีพ ปวช. จะเรียน
หลักสูตรเพียง 2 ปี ข้าพเจ้าซึ่งเรียนจบ ม.6 สายสามัญจึงเรียนหลกั สตู ร 3 ปี ในช่วงนั้น มีสถาบัน
แห่งน้ีแห่งเดียวในประเทศไทย ท่ีให้สายสามัญ ม.6 ปรับมาสายอาชีพได้แต่ต้องเรียนพื้นฐาน 1 ปี
ก่อนรวม 3 ปี รับวุฒิ ปวส.ครับ ในระหว่างเรียน ข้าพเจ้าก็ได้ลงสมัครกิจกรรม ชมรมฟุตบอล
อีกตามความถนัด เปิดภาคเรียนได้ประมาณ 3 เดือน มหาลัยก็จัดการแข่งขันกีฬาฟุตบอลของแต่ละ
คณะเพื่อเชื่อมความสามัคคี ทุกคณะจะพบกันหมด เช่น คณะบริหาร คณะวิศวกรรม ช่างไฟ
ช่างอิเล็กทรอนิกส์ ช่างโยธา ช่างยนต์ ข้าพเจ้ายังคงรักษาตำแหน่งผู้รักษาประตูให้กับทีมช่างยนต์
และโอกาสนี้ ข้าพเจ้าได้แจ้งเกิดในตำแหน่งผู้รักษาประตูได้อย่างเต็มตัว สถิติ ไม่เคยเสียประตูให้กับ
ทีมใด และไม่เคยยิงประตูทีมใดได้ ในระหว่างการแข่งขันทุกทีม รวมคะแนนทีมข้าพเจ้าได้ท่ี 1
จากเหตุการณ์รอบๆสนามในการแขง่ ขนั จะมแี ฟนฟุตบอลจากคณะอน่ื ๆมารว่ มเชยี ร์ทีมของขา้ พเจา้ โดย
มารอลุ้นขอบสนาม จุดท่ีข้าพเจ้าทำหน้าท่ี คอยให้กำลังใจว่าจะมีทีมใด ยิงประตูได้หรือเปล่า ลุ้นกัน
สนุกมากนับว่าเป็นปรากฏการณ์คร้ังใหม่ กองเชียร์หันมาเชียร์ ผู้รักษาประตูแทนกองหน้า ซ่ึงทุกๆ
คณะเมื่อมีการแข่งขันจะพูดออกมาให้ข้าพเจ้าได้ยินว่าวันน้ีมีแข่งช่างยนต์กับคณะบริหาร เราไปเชียร์
๑๒
ประตูช่างยนต์กันนะสนุกดี ซ่ึงนักศึกษาที่พูดก็เรียนอยู่คณะบริหาร ในขณะทานข้าวในโรงอาหารท่ีมี
จำนวนคนหนาแน่นไม่สามารถจำกนั ได้หนั หลงั ให้กนั อีกตา่ งหากและกจ็ ะไดย้ ินหลายเหตุการณบ์ อ่ ยๆข้ึน
ทำให้ข้าพเจ้าอิ่มใจ ข้าพเจ้ามีเพื่อนร่วมทีมช่ือสมิง งาชาวใต้ ข้าพเจ้าจำเพื่อนร่วมทีมคนนี้ได้แม่นยำ
เป็นคนท่ีมีบุคลิกที่ดีมากๆ สูงประมาณ 180 เล่นดีในตำแหน่งกองกลาง ข้าพเจ้ายังแอบอิจฉาและ
ชน่ื ชมบุคลิกของเพ่ือนสมิงคนน้ีวา่ หุ่นดีจริงๆ สมิงจะพูดหยอกว่ากองเชียร์ประตู ไม่ได้มาเชียรท์ ีมเรา
ซึ่งก็เป็นคำพูดที่นัดชิงที่ข้าพเจ้าบาดเจ็บไม่สามารถลงแข่งขันได้ทุกคนในทีมก็รู้ดีโค้ช อ.ผู้ฝึกสอน
ก็บอกทำใจได้ รองแชมป์ก็พอแล้วแต่ด้วยความหลงตัวเองของข้าพเจ้าหรือเปล่าก็ไม่รู้หากข้าพเจ้าไม่
ลงทีมจะแบ่งแบบไหน กแ็ ค่ลงไปเล่นให้หมดเวลาไม่ให้เขายิงประตไู ด้เสมอก็ได้แชมปช์ นะเลิศแล้วสรุป
ข้าพเจ้าก็ ฟ้ืนสภาพตัวเองลงแข่งขันผลเสมอกันแชมป์เป็นของทีมช่างยนต์ หลังจากนั้นข้าพเจ้าก็
ถูกทาบทามจากเพ่ือนรวมทีม แข่งฟุตบอลตามโรงงานในเขต บางบอน บางแค บางขุนเทียน
เป็นประจำ นับว่ารายได้ดีพอสมควรในวนั หยุดย้อนกลับไปในช่วงน้ันข้าพเจ้าก็มี FC ในตำแหน่งนาย
ทวาร จอมทักษะ เช่นกันนะครับ เมื่อถึงเทศกาลกีฬามหาลัยข้าพเจ้าก็ถูกเรียกตัวฝึกซ้อมเป็นนักกีฬา
ฟุตบอลในตำแหน่งผู้รักษาประตูสำรอง ในขณะเดียวกันช่วงนั้นข้าพเจ้าออกจากหอพักชายราม 2
มาอาศัยวัด เป็นท่ีพักอาศัยโดยการชักชวนของคุณณรงค์ เจริญจันทร์ และคุณสุจินต์ เจริญจันทร์
เป็นผู้ให้คำแนะนำในการเปล่ียนแปลงทาง ความคิด แล้วข้าพเจ้าก็พร้อม ถวายตัวเป็นลูกศิษย์วัด
ในเวลานัน้ และขอลาออกจากทมี ฟตุ บอล มหาลยั เอเชียร์อาคเนย์ จากน้นั เป็นต้นมา
จากเดก็ หอ ม.ราม สรู่ ้วั วัดโพธ์ิ (วัดโพธินมิ ิตรสถิตมหาสมี าราม) ตลาดพลู แขวงบางยีเ่ รือ
เขตธนบุรี ในช่วงปี 2533 ในคณะกลาง ซ่ึงมีท่านเจ้าคุณโพธิสังวรเถระ เป็นเจ้าอาวาสและเป็น
เจ้าคณะแขวงบางยี่เรือ ในขณะนั้น ท่านหลวงพ่อเป็นชาวสุพรรณบุรี เช่นเดียวกับข้าพเจ้าจากการได้
๑๓
กราบท่านแล้วจึงมาฝากตัวเป็นลูกศิษย์ในการดูแลของหลวงพ่ีจง ตำแหน่งเลขานุการเจ้าคณะแขวง
บางย่ีเรือและ ผู้ช่วยเจ้าอาวาวัดโพธินิมิตขณะน้ัน ช่วงนี้เองเพ่ือนสุจินต์ เจริญจันทร์ และพ่ีแก่ซึ่งเป็น
ศิษย์รุ่นพ่ีที่มาจากบ้านหนองบัว จ.สุพรรณบุรี ก็มาแนะนำการใช้ชีวิตในเขตอภัยทานหรืออีกนาม
เรียกขาน “อารามบอย” แปลตรงๆเด็กวัดดีๆนี้เองไม่ต้องใช้ศัพท์สูงคนฟังจะเวียนหัวครับ ซึงภารกิจ
ในความรับผิดชอบเบ้ืองต้นจะต้องแบ่งเบาภาระงานต่างๆของทางวัดรวมไปถึงการทำหน้าท่ีออก
บิณฑบาตถือย่ามพร้อมปิ่นโตเดินตามหลังหลวงพ่ี เม่ือมาถึง วัดจะมีลูกศิษย์อีกชุดคอยคัดแยกจัด
สำรับอาหารคาว-หวาน-ผลไม้รวมถึงน้ำด่ืมพร้อมถวายและคัดแยกอาหารเพ่ือถวายอาหารช่วงฉัน
เพลอีกชุด เมื่อหลวงพ่ีฉันเช้าเรียบร้อยอาหารท่ีอยู่บนโต๊ะจะเป็นของลูกศิษย์ทุกคนร่วมรับประทาน
อาหารอิ่มกันถ้วนหน้า หลังจากน้ันก็จะร่วมกันนำปิ่นโตบาตรไปล้างทำความสะอาดเช็ดให้แห้งพร้อม
ในการบิณฑบาตวันต่อไป ภาพวันแรกที่ข้าพเจ้าจำเหตุการณ์ท่ีก้าวเข้ามาสู่สมาคมศิษย์วัดโพธ์ิในนาม
ศิษย์ศาลาร่วมใจเป็นภาพผู้ชายท่ีใช้เคร่ืองพิมพ์ดีดอย่างคล่องแคล้วว่องไวพิมพ์เอกสารให้กับ
หลวงพ่จี งพมิ พ์ไปด้วยพูดกับขา้ พเจา้ ในคราวเดียวกนั เสียงดงั ฟงั ชดั เจนมากน่ันก็คอื พ่ีแก่ ซง่ึ เป็นศษิ ย์
รุ่นแรกพ่ีแก่จะถูกหลวงพี่จงเรียกมาพิมพ์เอกสารเป็นประจำเพราะฝีมือการพิมพ์เอกสารไร้เทียมทาน
มากครับหลังจากน้ันประมาณ 1 ปี พ่ีแก่ก็หายตัวไปโดยไม่ทราบสาเหตุ ทราบภายหลังว่าไปมี
ครอบครวั ต่างจังหวัด คงเหลือศิษย์จินต์ กับขา้ พเจ้าเพ่ือนจินต์เป็นเพ่ือนรุ่นเดียวกับขา้ พเจ้า เพ่ือจินต์
เป็นคนหัวดีระดับต้นๆของห้องสมัยเรียนจบ ม.3 ก็สอบนักเรียนช่างฝีมือทหารเรือติดนับว่าเป็น
ดาวรุ่งของรุ่นข้าพเจ้าก็ว่าได้เพ่ือนจินต์มีจุดเด่นมากในการวิเคราะห์นักฟุตบอลทั้งไทยและต่างประเทศ
นิตยสารกีฬาเรื่องฟุตบอล สยามกีฬา หนังสือพิมพ์สื่อสารต่างๆเพื่อนจินต์จะหามาอ่านจนเต็มห้อง
รู้จริงรู้ลึกทุกข้อมูลรวมถึงประวัติของนักเตะดาวดังเพ่ือนจินต์ก็เป็นหนึ่งไม่เป็นสองรองใคร
๑๔
เปรียบเทียบเสมือน ย.โย่ง 2 ผู้ประกาศข่าวกีฬาผู้โด่งดังประมาณนั้นจะกล่าวถึงศิษย์อีกท่าน
รุ่นแรกๆคือพี่ยุทธหรือเรียกนามพี่ท่านว่าจ่ายุทธ ปั้นโอ, พี่นพ พันตำรวจตรีนพดล ศรีคำแหง ,
พต่ี ึ๋ง พันตำรวจเอก อดิเรก พันธ์ใย ศิษย์พ่ที ่ีกล่าวถึงเป็นศิษย์รุน่ แรกๆทศี่ ิษย์ทุกคนถือเป็นแบบอย่าง
ในการปฏิบัติตนให้ประสบความสำเร็จในชีวิตซ่ึงหลวงพ่ีจงท่านจะกล่าวพูดกับโยมที่มากราบท่านถึง
ลูกศิษย์ทุกคนท่ีเรียนจบไปทำงานมียศถาบรรดาศักด์ิ ด้วยสายตาท่านมีความสุขและท่านก็จะถูกท่าน
เจ้าคุณชมกับพระคณะต่างๆ ให้ดูแลลูกศิษย์ให้ได้อย่างลูกศิษย์หลวงพี่จงศาลาร่วมใจ ทำให้ข้าพเจ้า
ซึ่งเป็นลูกศิษย์คอยปรนนิบัติใกล้ชิดสะดุ้งทุกครั้งเมื่อมีญาติโยมช่ืนชมลูกศิษย์รุ่นแรกๆจิตใจข้าพเจ้า
บอกว่าข้าพเจ้าตอ้ งเดินแนวทางท่ีรนุ่ พๆ่ี เปน็ ตวั อย่างให้ได้
หลังจากนั้น 2 ปีต่อมา สมาชิกศิษย์วัดโพธิ์อีกคนก็ตามขึ้นมาเรียนต่อคือ นายณรงค์
เจริญจันทร์ ซึ่งณรงค์ ก็เป็นคนพาข้าพเจ้ามาฝากให้อยู่กับเพื่อนจินต์ ตอนนั้นณรงค์ยังเรียนไม่จบ
มัธยมแต่ก็จะข้ึนมาเท่ียววัดโพธิ์เป็นประจำจึงได้ชักชวนให้ข้าพเจ้ามาอยู่วัดครั้งน้ันซ่ึงเปรียบ
กัลยาณมิตร ข้าพเจ้านึกคุณอันนั้นได้ดีณรงค์เรียนต่อ ป.ตรี วิทยาลัยครูบ้านสมเด็จ ในสมัยน้ัน
สาขาศิลปะณรงค์เป็นคนที่มีฝีมือทางด้านงานศิลปะมีระเบียบวินัย มีหลักการขยันหารายได้สามารถ
ขายงานศิลปะสง่ ตวั เองเรียนช่วยทางบ้านแบ่งเบาภาระทกุ อย่าง ฉายาเพอื่ นๆต้ังให้ อาจารย์รงค์
ด้วยอุปนิสัยของณรงค์เป็นคนที่โอบอ้อมอารีย์ต่อเพื่อนๆจึงได้ชักชวนสุวิทย์ เถื่อนน้อย ให้มา
อยู่ด้วยกันซ่ึงมหาลัยของสุวิทย์อยู่ใกล้กับวัดเพียงข้ามเรือสี่พระยาก็จะถึงมหาลัยของสุวิทย์คือมหา
ลัยจุฬาซึ่งสุวิทย์เรียนอยู่คณะวิทยาศาสตร์ปีต่อมาสุวิทย์ก็ได้สอบใหม่ในคณะวิศวะโยธาตามใบส่ัง
ของคุณพ่อ สุวิทย์ เป็นวิศวะหนุ่มเนื้อหอมของกลุ่มเด็กวัดรุ่นใหม่ต่อจากศิษย์รุ่นพี่ ข้าพเจ้าจำภาพที่
ประทับใจมิรลู้ ืมในวนั ท่ีนายสุวิทย์ เถ่ือนน้อย ปัจจุบันตำแหนง่ นายช่างโยธา จังหวัดอุทัยธานี ก้าวเข้า
๑๕
มาวนั แรกณรงค์ซึ่งติดเรียนขา้ พเจ้ากำลังถูพืน้ ทำความสะอาดศาลสมเด็จรอรับสวุ ิทยแ์ ลว้ ข้าพเจ้ากพ็ บ
กับสุวิทย์อยู่ในชุดนักศึกษาไม่ผูกเนคไทพร้อมกระเป๋าบวชนาคเจมบอลข้าพเจ้ามองแล้วอุทานออกมา
ว่านี่มันบุญชูน่ีหว่าซ่ึงมันเป็นภาพความประทับใจที่จำได้วันนั้นนายสุวิทย์นายแน่มากและช่วงท่ีวิทย์
กับรงค์อยู่วัดร่วมกันเราสามหนุ่มก็จะแบ่งงานกันทำอย่างเป็นระบบต่ืนเช้าข้าพเจ้าจะเตรียมอุปกรณ์
เช่น บาตร ย่าม 3-4 ใบ พรอ้ มป่ินโต รอรบั หลวงพต่ี อนตี 5 6โมง ออกเดินบณิ ฑบาตกับหลวงพี่จง
เส้นทางการบิณฑบาตหน้าวัดโพธ์ิ-ซอยมัสยิดสวนพลู ทางรถไฟ วิทย์เมื่อถึงเวลาประมาณการก็จะ
เดินไปรับถุงย่ามข้าพเจ้ากลางเส้นทางที่รู้กันแล้วกับวัดไปเพื่อเตรียมอาหารถวายหลวงพี่ตอนเช้า
โดยมีณรงค์เตรียมอุปกรณ์ ชาม ช้อน พรอ้ มแกะอาหารถุงจากโยม แยกอาหาร ขนมหวานและผลไม้
หมายเหตปุ ัจจยั ด้วยซองทุกซองหลวงพ่จี ะบอกว่าถอื วา่ ใชจ้ ่ายในการศึกษาทุกคนเมือ่ ขา้ พเจ้ากบั หลวง
พ่ีมาถึงวัด วทิ ย์กับรงค์จะรับบาตรพร้อมถวายหลวงพี่และแยกไว้เป็นอาหารถวายเพลเมื่อหลวงพ่ีฉัน
เช้าเสร็จเรียบร้อยก็จะเป็นหน้าท่ีของพวกเราที่จะต้องรับประทานอาหารและแยกย้ายกันไปเรียนส่วน
ข้าพเจ้ารับผิดชอบหลังจากน้ันจนถึงถวายเพลเพราะข้าพเจ้าเรียนบ่าย จะมาพบกันอีกครั้งตอน
ช่วงเย็นกลับจากมหาลัย อาหารเย็นก็จะคัดอาหารที่อยู่ได้นาน หากวันไหนไม่สามารถเก็บได้ก็จะดูไป
ถ้ามาม่าปลากระป๋องท่ีหลวงพ่ีรับบิณฑบาตมาและให้ไว้กินกันแต่ก็มีแม่ค้าหน้าวัด ผัดไทย ข้าวผัด
หอยทอดคอยดูแลเพราะเห็นว่าเด็กวัดนิสัยดแี ละเป็นลูกศษิ ยข์ องหลวงพ่ีท่ีแม่ค้าเคารพนบั ถอื หรือหาก
หลวงพตี่ ิดนิมนต์ ก็จะบอกใหข้ ้าพเจ้าบอกบ้านโยมประจำว่าหลงพี่ติดนิมนต์ โยมกจ็ ะใส่ถงุ ให้ลกู ศิษย์
กินก่อนไปเรียน ข้าพเจ้าจำภาพที่โยมบอกว่าเอาไปกินกันนะอยู่กี่คนหลวงพี่เขารักพวกเธอมากนะ
และพวกหลวงพ่ีก็ช่ืนชมพวกเธอมากท่ีช่วยงานวดั และทำตวั ดีไม่สร้างปัญหาทกุ รนุ่ ได้ดกี ันไปแล้วก็มใี น
ใจตอนนั้นเรายังว่างเปลา่ อยเู่ ลยหลวงพก่ี ็จะพูดถงึ พ่ีตึ่ง พ่ีนพ ตลอดเวลาท่ีมกี ารพดู ถึงลูกศิษย์ท่ีท่าน
๑๖
ภาคภมู ิใจในขา้ วกน้ บาตรต่อมาก็มศี ิษย์สายสพุ รรณติดตามมาร่วมอีก 2 รายคือ นายสมรัฐ หาญพุฒ
(โต้ง) ปัจจุบันเสี่ยโต้งและนายมนตรี ศรีสัมพันธ์(แปะ) ปัจจุบันผู้กองแปะ นายทหารใหญ่ที่มา
พร้อมกันและเรียนพาณิชยการสีลมในนามนักฟุตบอลของโรงเรียนพาณิชการสีลมดังมากในขณะนั้น
แปะจะพักอยู่ที่ศาลาร่วมใจส่วนโต้งจะพักอยู่กับหลวงพี่วิเชียรซึ่งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสอีกองค์ท่ีเป็นที่
เคารพของพระคณะกลาง โตง้ กเ็ ปน็ ผหู้ นึง่ ที่เป็นศิษย์เอกของมหาวิเชียร ท่านมักจะเม่นกับข้าพเจา้ อยู่
ตลอดว่าไม่รู้มนั ไปโรงเรียนหรือเปลา่ กลับไมต่ รงเวลา ไม่เคยเห็นดหู นังสือเรยี นชอบไปแต่ศาลาร่วมใจ
มนั ไปทำอะไร ด้วยอารมณ์ไม่พอใจในขณะท่ีขา้ พเจา้ กำลงั นวดขาให้ท่านด้วยแอร์ท่เี ยน็ ฉำ่ จึงถามทา่ นว่า
หลวงพ่ีต้องจัดการนะครับปล่อยไว้ไม่ได้เกรงว่าจะทำความเส่ือมเสียให้กับหลวงพี่ครับ หลวงพ่ีมหา
วิเชียรในช่วงน้ันหลับๆต่ืนๆด้วยมือสลายเส้นเอ็นของข้าพเจ้าตอบด้วยเสียงแ หบแห้งว่าเองเป็นลูกพ่ี
มันก็จัดการให้หนอ่ ยสิ ตกลงให้ขา้ พเจ้าจดั การใหน้ ะครับ สรปุ พระมหาวเิ ชียรท่านนอ้ ยใจที่ศิษย์โต้งมัก
ชอบให้ความสำคัญกับศิษย์ศาลาร่วมใจมากก็เท่าน้ันเองบ่นคำเดิมๆกับผมตลอดจนโต้งเรียนจบ
สุดท้ายทา่ นก็มองด้วยความภมู ิใจในตัวของโตง้ สมรัฐ (ยังมเี รอ่ื งสนุกๆของโต้งอีกมาก)ส่วนหมวด
แปะเป็นคนน่ิงๆสมกับเป็นซุปเปอร์ดารานักเตะเท้าทองเป็นหน่วยสนับสนุนในกิจการทำความสะอาด
ศาลสมเด็จทกุ ๆเย็นหลังเลิกเรยี นและนายเจ๊ียบลูกศษิ ย์คณะกลางที่เข้ามาร่วมเปน็ สมาชิกศาลาร่วมใจ
อกี คนบา้ นอยดู่ อนเจดีย์เรียนพาณิชย์ เช่นเดียวกับโต้งและหมวดแปะขณะน้ัน อ.ณรงค์ ก็แนะนำรุ่น
นอ้ งท่ีเรียนวิทยาลยั บา้ นสมเดจ็ เดก็ ศลิ ปะมาพกั อยู่ทีว่ ดั โพธิ์ดว้ ยกัน คอื เดยี รห์ รอื มยั ทั้งน้ีกลุ่มเด็กวัด
ทุกคนจะไม่มีใครลืมเด็กวัดเจ้าถ่ิน 2 ท่านนี้ได้เลยคือ 1 พ่ีดำ สท.สาธิต มาตรแก พนักงานธนาคาร
กรุงศรีอยุธยา ซ่ึงพ่ีดำจะเป็นคนคุยโขมงทุกเร่ือง โม้บ้างจริงน้อย กริยาท่าทางนักเลงโตแต่เป็นคน
รักพี่รักน้องใครเดือดร้อนตกงานพี่ดำจะติดต่องานให้เสมอและก็ได้งานอย่างที่พ่ีดำคุยฝากไว้จริงๆ
๑๗
ข้อเสียที่มีอยู่คู่กับตัวพ่ีดำคือ 1. นิสัยชอบยืมเงินแล้วลืม 2. ด้วยเป็นคนเสียงดัง ยืดอกยกไหล่ใน
เวลาพูดมักจะมีปัญหากับวัยรุ่นกลุ่มต่างๆและจะดึงข้าพเจ้าไปเกี่ยวข้องใน ฐานะน้องชายของพ่ีดำ
ตามท่เี ข้าอา้ งกับทุกคนทีร่ จู้ ัก คนท่ี 2 เป็นคนบุคลกิ เล้าใจวัยรุ่นมีนามว่าลูกอ๊อดรูปร่างผมบางทรงผม
ส้ัน เป็นศิษย์หลวงพี่ไสวคณะกลางโด่งดังเรื่องอบน้ำมนต์ สะเดาะเคราะห์ ต่อชะตาก็มักมาร่วมเป็น
สมาชิกร่วมใจอีกเช่นกันประหน่ึงคนบ้านเดียวกันและอีกหลายท่านที่เคยเข้ามาเป็นส่วนหน่ึงใน
ศาลารว่ มใจศษิ ยว์ ดั โพธ์ิ 1.พีว่ ุธ เกดิ เอ่ยี ม 2.เปรมชยั เปรมบำรงุ 3.ชยั วัตน์ คงพนั ธ์
ในระหว่างทีทุกคนกำลังเรียนหนังสือก็จะมีรุ่นพี่ท่ีจบและสมัครงานสอบข้าราชการได้ก็จะ
ลาออกจากการเป็นลูกศิษย์วัดไปพักอาศัยท่ีอยู่ใกล้กับที่ทำงานแต่ศิษย์ศาลาร่วมใจข้าพเจ้าถือว่าเป็น
คนอยู่วัดที่ยาวนานท่ีสุดของรุ่นคือประมาณ 12 ปี หลวงพี่มหาวิเชียรจึงยกประธานรุ่นลูกศิษย์
วัดโพธ์ิให้กบั ข้าพเจา้ ทำการแต่งต้ังเปน็ ท่เี รียบรอ้ ยใหด้ แู ลประสานคณะลกู ศิษย์ทุกคณะเชน่ คณะกลาง
คณะใต้ในการช่วยงานวัด เช่น เก็บค่าจอดรถ ค่าเช่าศาลา การจ้างเหมาอาหารเครื่องด่ืมการบริการ
เด็กเสริฟ การบรจิ าคเก็บทำความสะอาด การรับจัดงานฝีมือ เช่นงานจัดดอกไม้ งานเกะสลัก รวมถึง
การเคลื่อนยา้ ยศพก่อนเผา สรปุ รายไดพ้ อส่งตัวเองเรยี นได้แบบคุณหนเู ลยนะครบั
เมื่อทุกคนเรียนจบต่างก็ไปประกอบอาชีพเป็นของตัวเองที่วาดฝันไว้ รุ่นต่อรุ่นข้าพเจ้าก็ยังคง
อยู่ท่ีเดิมอยู่ดูแลหลวงพ่ีจง และอสังหาริมทรัพย์ วันหน่ึงหลวงพี่เรียกข้าพเจ้าเข้าไปคุยว่าเอกเองจะ
อยู่แบบน้ีไปอีกนานไหมด้วยความเป็นห่วงข้าพเจ้าจึงฝากงานให้กับข้าพเจ้าไปทำเพ่ืออนาคตท่านเห็น
ว่าเปน็ งานราชการหยุดเสาร์-อาทติ ย์ ด้วยความเป็นหว่ งขา้ พเจา้ มกั มีคนพูดว่าผมเกาะวัดกินแต่ความ
เป็นจริงแล้วข้าพเจ้าซุ่มแอบดูหนังสืออยู่ศาลาพักศพทุกวันหลังปรนนิบัติถวายเพลเรียบร้อยแล้วและ
ได้เข้าทำงานในตำแหน่งพนักงานลูกจ้างจดทะเบียนการค้า ทุกเช้าผมจะบิณฑบาตเดินตามหลวงพ่ี
๑๘
เรียบร้อยก็จะไปทำงานที่ทำงานกระทรวงพานิชแต่เช้า 07:00 น. ทุกวันและช่วยทำความสะอาดโต๊ะ
ผู้บริหารท้ัง 2 ชั้น ทุกวัน หัวหน้างานเห็นจนชินตาในระหว่างข้าพเจ้าทำงานมักถูกเรียกมอบรางวัล
ประจำหลังจากกลับจากท่ีทำงานข้าพเจ้าก็จะเก็บตัวดูหนังสือทุกวันด้วยความกดดันก็เป็นไปได้
เน่ืองจากข้าพเจ้ามีความต้ังใจสอบข้าราชการตำรวจด้วยหลังจากผิดหวังจากการสอบตำรวจปีที่ผ่าน
มาข้าพเจ้าสอบติดตัวสำรองอันดับท่ี 3 แต่ไม่มีการเรียกตัวสำรองในจังหวัดนครปฐมและปีน้ีก็เช่นกัน
ข้าพเจา้ เตรียมตวั เป็นอย่างดสี มองเต็มอ่มิ และขา้ พเจา้ ก็พรอ้ มท่จี ะสอบในสนามนครบาลท่ขี า้ พเจ้ากลัว
แต่ปีนี้ข้าพเจ้าพร้อมและไม่เสียงานประจำของข้าพเจ้าด้วยและแล้ววันนี้ท่ีข้าพเจ้ารอคอยก็มาถึงผล
ป ร ะ ก าศ ใน ห นั ง สื อ พิ ม พ์ ห นั ง สื อ พิ ม พ์ วั ฏ จั ก ร ก ารป ร ะก าศ ร าย ชื่ อ นั ก เรีย น พ ล ต ำร ว จ น ค ร บ าล
ประจำปี 39 มีชื่อข้าพเจ้าติดอยู่ด้วยแต่ก็ยังปิดไม่บอกใครเช่นเดียวกับผลสอบปี 38 ให้แน่ใจที่สุดว่า
สอบผ่าน ทุกข้ันตอนจึงแจ้งทุกคนโดยเฉพาะครอบครัวระหว่างน้ันข้าพเจ้าก็ยังทำงานท่ีสำนักงาน
กระทรวงพานชิ ปกติต่อไปและแลว้ หัวหน้ากองก็เรียกเขา้ พบสอบถามการทำงานรวมไปถงึ พักอยู่ทีไ่ หน
เป็นอะไรกับท่านเจ้าคุณหลวงพ่ีจงและก็แนะนำให้ข้าพเจ้าสมัครสอบบรรจุเป็นข้าราชการภายในแล้ว
ข้าพเจ้าก็สอบได้อันดับท่ี 2 ในจำนวน 3 รายทุกคนพร้อมด้วยหัวหน้าเข้ามาแสดงความดีใจ ไปกับ
ข้าพเจ้า ซ่ึงทำให้ข้าพเจ้ากังวลใจเป็นอย่างมาก ปีน้ีมันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตข้าพเจ้ามันช่างโชคดีจน
ข้าพเจ้าห นักใจและแล้ วข้าพ เจ้าก็ขอเข้าพบ ท่ านหั วห น้าว่าข้าพเจ้าขอสละสิ ทธิในการสอบ คร้ังน้ี
เน่ืองจากข้าพเจ้าสอบนักเรียนพลตำรวจติดและท่านกับบอกว่าคนท่ีจะมีโอกาสสอบเล่ือนเป็น
ข้าราชการภายในต้องมีคุณสมบัติ 10 ปี แต่ข้าพเจ้าทำงานได้แค่ปีกว่า หัวหน้าบอกว่าข้าพเจ้ามี
คุณสมบัติพิเศษท่ีคนอื่นไม่มีและคนเก่าหลายๆคนขาดคุณสมบัติท่ีข้าพเจ้ามีเป็นอันสำคัญทำให้
ขา้ พเจา้ น่ีลอยไปขณะหนึง่ เมอ่ื ตงั้ สตไิ ด้กเ็ ริ่มอธิบายถงึ อดุ มการณ์อย่างแรงกลา้ ของลกู ผ้ชู ายชดุ เครอื่ ง
๑๙
แต่งกายคือความใฝ่ฝันอันสูงสุดเมื่อเป็นไปตามเจตนารมของข้าพเจ้า ท่านหัวหน้าก็ไม่ขัดข้องพร้อม
ท้ังมีของมาให้ข้าพเจ้าเลือก 2 ช้ิน ชิ้นแรกคือเงิน 5,000 บาท ชิ้นที่ 2 คือพระคําข้าวฤาษีลิงดํา
รุ่นคำข้าวข้าพเจ้าจำได้ราคาพระอยู่ท่ี 5,000 บาท เช่นกันท่านให้เลือกข้าพเจ้าจึงเลือกพระ ท่านบอก
ทำไม ไม่เลือกเงิน ข้าพเจ้าก็ตอบเงินก็สำคัญครับแต่พระมีค่าทางจิตใจมากกว่าครับ แล้วท่านก็มอบ
เงินใหเ้ พมิ่ อีกเพอ่ื เป็นการลองใจขา้ พเจ้านับว่าเปน็ ส้ินสดุ การเปน็ พนกั งานกระทรวงพานชิ ในขณะนัน้
เตรียมความพร้อมในการรายงานตัวเป็นนักเรียนพลตำรวจนครบาลกองร้อยท่ี 4 รุ่นที่ 69
แบ่งเป็น 3 หมวด หมวดละ 50 นาย รวม 150 นาย ข้าพเจ้าอยู่หมวดที่ 3 เร่ิมฝึกอบรม ต้ังแต่
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2539 ถึง 1 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ.2540 รวมระยะการฝกึ 1 ปี ซ่ึงในระหว่าง
การฝึกอบรมนักเรียนพลตำรวจ ได้รับคัดเลือกให้เป็นรองประธานรุ่น ในการประสานความร่วมมือแต่
ละกองร้อย รวมถึงการทำกิจกรรมต่างๆในเร่ืองของรุ่นหลังจากการฝึกอบรมจนถึงจบหลักสูตรไป
ปฏิบัติหน้าท่ีตามสถานท่ีต่างๆ เม่ือครบจำนวนการฝึกอบรมในวันท่ี 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2540
นักเรียนพลตำรวจทกุ นายต่างก็ตอ้ งแยกยา้ ยกนั ไปแต่ละสถานที ตี่ นเลือกตามลำดับคะแนนท่สี ุงไดเ้ ลอื ก
ก่อนส่วนข้าพเจ้าได้มีหนังสือคำส่ังให้ช่วยราชการกองการศึกษาในตำแหน่ง ครูฝึกอบรมทำหน้าท่ี
ฝึกอบรมนกั เรียนพลตำรวจนครบาลกองรอ้ ยท่ี 4 ในระหวา่ งการฝึกอบรมนักเรียน พลตำรวจข้าพเจ้า
ก็ได้ เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตร กระโดดร่วม ปี 2540 จากค่ายพระราม 6 กองบังคับการตำรวจ
ตระเวรชายแดน ซ่ึงเป็นหลักสูตรท่ี ตำรวจทุกนายใฝ่ฝันท่ีจะทีปีกร่มมาประดับเคร่ืองหมายหากเป็น
ตำรวจ ตชด. แล้วต้องทำงานร่วมกับทหารปีกร่มไม่มีทหารก็จะดูถูกเหยียดหยาม ปีกร่มถือว่ามี
ความสำคัญเปน็ อยา่ งยิง่ ซ่งึ เปน็ สญั ญาลกั ษณ์ ของขีดความสามารถของผ้ทู ีต่ ิดเคร่อื งหมาย
๒๐
คราวหน่ึงขา้ พเจา้ ไดส้ ่งหนงั สือท่ตี กึ สำนกั งานตำรวจแหง่ ชาติ ไดม้ นี ายตำรวจยศพันตำรวจเอก
ตำแหน่ง ผู้กำกับตำรวจสันติบาลเรียกสอบถามอย่างดุดันว่าติดเครื่องหมายร่ม ได้อย่างไรอบรมท่ี
ไหน ใครเป็นผู้ฝึกสอน มีใบประกาศถูกต้องหรือไม่ ท่าทางท่านไม่เป็นมิตรเอาเสียเลยในช่วงนั้น
เม่ือผมต้ังสติคอ่ ยๆ ตอบทา่ นจนเสรจ็ เรียบรอ้ ย ท่านย่ืนมอื ขอแสดงความยนิ ดีกบั นักรบตำรวจด้วยนะ
นอ้ งชาย ท่านจับมืออย่างแน่นพร้อมตบไหล่ แล้วท่านก็ขนึ้ ลิฟท์ไปท้ิงให้ข้าพเจ้ายนื งงภาพเหตุการณ์
ช่วงฝึกอบรมก็เข้ามาในขนะนั้น “ทุกท่านคือนักรบตำรวจ เรามีความภูมิใจเป็นของเราเอง” ข้าพเจ้า
เข้าใจในทันทีว่าหลักสูตรที่ข้าพเจ้าอบรมมามันมีความภาคภูมิใจ และมีความหมายกับผู้ที่ผ่าน
หลักสูตรนี้มาจะเข้าใจ ถึงความยากลำบาก หลังจากพักฟ้ืนร่างกาย และจบจากหลักสูตรได้มาทำ
หน้าท่ีครูฝึกตำรวจนักเรียนพลตำรวจระหว่างมีคำสั่งช่วยราชการตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จังหวัด
กาญจนบุรี สมัยท่านพลตำรวจเอกวงกต มณีรินทร์ เป็นผู้บังคับบัญชาการสอบสวนกลางได้ 2 ปี
หลังจากน้ันทำเร่ืองโอนย้ายเข้านครบาลกองกำกับการสวัสดิการภาพเด็กและเยาวชนชุดปราบปราม
สถานบันเทิง ท่าน ประชา มาลีนนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ติดตามดูแลท่านผู้กำกับ
สุรัฐ อุดมรัตน์ อดีตนายทหารคนสนิทท่านนายก ชาติชาย ชุณหะวัณ ท้ังน้ีข้าพเจ้าได้มีเพ่ือนคู่กาย
ในการทำงานทุกครั้งเปรียบเสมือน คู่แฝดผิดฝาฉายาท่ีนักข่าวท่านต้ังให้ คือ จ่าสิบตำรวจนริทร์
ศรมี รกต มงคล ยศในขณะนน้ั
จากนั้นได้มีหนังสือเชิญชวนข้าราชการท่ีมีร่างกายพร้อมท่ีจะเข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตร
ตอ่ ตา้ นการก่อการรา้ ยสากล ซง่ึ เป็นหลกั สตู ร 10 ปี ต่อหนงึ่ รุน่ ซ่ึงเป็นหลักสูตรทใี่ ชง้ บประมาณมาก
สมัยเม่ือ 20 ปีที่แล้ว 1 คนต้องใช้งบประมาณ 2 แสนบาท ซึ่งรัฐบาลต้องจัดงบประมาณให้
๒๑
เนอ่ื งจากจะมีการประชมุ ผนู้ ำกลุม่ เอแปด ในปี 46 ในการรักษาความปลอดภยั ผูน้ ำข้าพเจา้ จึงได้สมัคร
ทดสอบรา่ งกายและตรวจสอบสติ และอารมณ์ จนผ่านเขา้ รบั การฝกึ อบรม 4 เดือน
1 เดือนแรกจะฝึกอยทู่ ่ีศนู ยห์ น่วย 191 ยุทธวธิ ตี า่ งๆรวมถึงการโรยตัว
เดือนท่ี 2 คา่ ยพระราม 6 กองบญั ชาการตำรวจตระเวนชายแดน
เดอื นที่ 3 หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (พลร่มปา่ หวาย)
เดือนที่ 4 หน่วยบัญชาการนาวกิ โยธนิ (SEAL)
กองทัพอากาศเมอ่ื อบรมครบทุกหน่วยรบพเิ ศษกลับมายังศูนย์ฝึกอบรม เพื่อทบทวนนำมาประยุคใช้
ให้มีความคล่องตวั ในการปฏบิ ัติงานจรงิ ในเมืองใหญ่เพิ่มเติมในส่วนต่างๆรวมไปถงึ ความถนัดในแตล่ ะ
บุคคลจำลองเหตุการณ์เสมือนจริงจนทุกนายมีทักษะและความแม่นยำในการเข้าทำงานในการรักษา
ความปลอดภยั บุคคลสำคัญในโอกาสช่วงน้นั ไดฝ้ ึกเสมอื นจริงการเข้าชว่ ยเหลือตัวประกัน ณ วังปารุส
บชน. ใหส้ มเดจ็ พระเจ้าลูกเธอเจา้ ฟา้ สริ วิ ณั ณวรี ทอดพระเนตร นบั วา่ เป็นเกียรติอยา่ งสูงยิง่
ภารกิจแรกหลังจากฝึกอบรมเรียบร้อยทำหน้าที่รักษาบุคคลสำคัญในการประชุมผู้นำเอแปด
ติดตามและคุ้มกันผู้นำทุกประเทศภารกิจเรียบร้อยดี หลังจากน้ัน ได้ต้อนรับทีมฟุตบอลรวมดารา
นักเตะ ทีมรีลมารีด หรือ ราชันชุดขาว นักเตะดัง เช่น โรแบร์โต้ คาร์ลอส ,ซีเนดิน ซีดาน ,ราอูล
กอนซาเลซ ,โรนัลโด้ ,หลุยส์ฟีโก้ ,เดวิด แบ็คแฮม ,อิเกร์ กาซิยาส ถือว่าเป็นนักเตะระดับโลกใน
ตำนาน ข้าพเจ้าพร้อมทีมได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่พักและพักอยู่ในชั้นเดียวกันกับนักเตะ
ขา้ พเจ้าจำภาพเหตกุ ารณว์ นั นัน้ ได้ประชาชนมาคอยตอ้ นรับนักเตะเนืองแน่นสดุ ๆ การจราจรตดิ ตามยาว
เป็น 10 กิโลเมตร มีความรักษาความปลัดภัยหลายชั้นระดมกำลังตำรวจท่ัวนครบาลชุดสายสืบนอก
เครื่องแบบชุดกองปราบพร้อมในการรักษาความปลอดภัย ณ จุดนั้น ทีมของข้าพเจ้านับเป็นทีม
๒๒
ที่ นักข่าวจับตามองในการรักษาความปลอดภัยเพราะจะอยู่ใกล้ชิดกับนักฟุตบอลดารา เป็นทีมคุ้มกัน
ที่เจ้าหน้าท่ีทุกนายมองด้วยกันด้วยความชื่นชมในความสามารถ เม่ือเห็นชุดชายสวมใส่แว่นสีดำ
หัวเกรียน เดินนำทางออกมาก็จะมีนักเตะเดินตามหลัง เพ่ือนๆตำรวจท่ีทำหน้าที่รักษาความปลอดภัย
อีกชั้นก็แสดงความชื่นชมส่งสัญญาณให้กับข้าพเจ้า ซ่ึงเป็นตัวแทนของกองร้อยท่ีได้ร่วมฝึกอบรม
จากรอยย้ิมและสีหน้า เม่ือนักเตะพักค้างคืน รุ่งข้ึนก็มีการซ้อมกับทีมไทยท่ีสนามราชมังคลา พร้อม
ส่ังกลับประเทศในวันเดียวกันซ่ึงเป็นความประทับใจในเหตุการณ์น้ัน 1. ได้จับมือกับนักเตะระดับโลก
ทุกคน 2. ได้ลายเซ็นในป้ายบัตรคล้องคอ ซึ่งมีการซ้อื ขายกันในหลักหมื่นในขณะน้ัน ส่ิงที่เสียใจที่สุด
คือมีกฏไม่ให้ถ่ายภาพในขณะรักษาความปลอดภัย หากเป็นสมัยน้ีคงได้ภาพเพียบ สมัยน้ันหากล้อง
ไม่มี ก็เป็นแคเ่ พยี งบอกเลา่ ถงึ ตำนานเท่านนั้ ครับ
ภารกิจต่อมาก็ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยผู้นำขณะน้ันท่านนายกทักษิณ ชินวัตร เป็นนายก
ภารกิจหลักๆติดตามคุ้มกันทุกพื้นที่ในการออกตรวจเยี่ยมลงพ้ืนท่ีต่างจังหวัด หลังจากน้ันข้าพเจ้าก็มี
คำส่ังให้มาช่วยงานชุดของ ผู้กำกับสด ในการปฏิบัติราชการในกระแสสังคมกับยาเสพติดสถาน
บนั เทิงท่ัวนครบาลชุดเฉพาะกิจของผูก้ ำกบั สรุ ิตน์ อดุ มรัตน์ ซง่ึ นักข่าวจับตาในการทำงานถึงลูกถึงคน
ของท่านซง่ึ ข้าพเจ้าและจ่าบ๊วย(จ่านรินทร์) เปน็ เสมือนขุนพลขา้ งกายให้กบั ท่านในยามขับขันฉุกเฉิน
ทำหน้าท่ีคุ้มกันให้ปลอดภัยทุกสถานการณ์และด้วยเหตุผลหน้าที่การงานกับสภาวะทางด้านครอบครัว
ข้าพเจ้าจะใช้ชีวิตผูกพันกับงานและท่ีทำงานเพราะพักอาศัยอยู่กับสำนักงานเป็นส่วนใหญ่เมื่อถึงเวลา
ข้าพเจ้าจึงขออนุญาตลาทำเรื่องโอนย้ายเพ่ือไปปฏิบัติงานในพื้นที่ใกล้บ้านข้าพเจ้าและก็ถึงเวลาแล้วท่ี
ขา้ พเจ้าจะมีเวลาให้กับครอบครัว เม่ือทำเร่ืองโอนย้าย ข้าพเจ้าก็ได้ท่านผู้กำกับดำเนนิ เร่อื งให้ทุกอย่าง
ประสานกำลังพลนครบาลช่วงขณะนั้นถือว่าย้ายห้ามโอนย้ายกำลังพลสาเหตุเกิดจากมีการชุมชน คน
๒๓
เสื้อแดงแต่ด้วยหลังของท่านผู้กำกับข้าพเจ้าจึงมีคำส่ังพิเศษให้ไปดำรงตำแหน่งผู้บังคับหมู่งาน
ป้องกันและปราบปราม สภ.ศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ในโอกาสน้ัน ผู้กำกับศรีเทพ สอบถาม วันไป
รายงานตัว เส้นใครมาถ้าไม่ใหญ่จริงคำสั่งพิเศษจะไม่ออกตามมา จากวันนั้นก็ทำหน้าที่เป็นสิบเวร
ผู้ต้องหาวันแรกห้องขังผู้ต้องหาไม่มี ตกเย็นโรงพักทั้งโรงพักมีสิบเวรกับพนักงานวิทยุ จะทานข้าว
ตรงไหน อาบน้ำยัง ข้าพเจ้าเคยทำงานที่เดิมเจ้าหน้าท่ีเป็นร้อยพลุกพล่านท้ังคืน แต่ท่ี สภ.แห่งน้ี
ไม่มีเจ้าหน้าท่ี หากข้าพเจ้าไปทานข้าวมีประชาชนมาแจ้งเหตุไม่พบเจ้าหน้าที่ ข้าพเจ้าจะถูกตำหนิหรือ
โดนลงโทษวินัยได้ แต่ถ้ามีคนไม่หวังดีมาเผาโรงพักตามข่าวจะทำไงดี พนักงานวิทยุก็ปิดห้องรับวิทยุ
อย่างเดียวไม่เห็นแน่ สุดท้ายโทรหาภรรยามาส่งข้าวจากวิเชียรบุรี-ศรีเทพร่วม 100 กิโลเมตร
สุดท้ายข้าพเจ้าก็เริ่มปรับตัวผูกขาดร้านอาหารมาส่ง ทำหน้าท่ีสิบเวรอยู่ 6 เดือน ชื่อข้าพเจ้าก็เริ่มมี
คนรู้จัก ในฉายาตำรวจกรุงเทพจากผู้หมวด มักจะพูดประจำว่าถ้าเข้าร้อยเวรตรงกับสิบเวรตำรวจ
กรุงเทพ ผมสบายทำหน้าท่ี 100% ไม่ยอมหลับนอน เช้ามาทำความสะอาด โรงพักก่อนออกเวร
ปีเดียวกันข้าพเจ้าก็ได้รับรางวัลตำรวจต้นแบบประจำเดือนคนแรกเพื่อเป็นขวัญกำลังใจต่อ การ
ปฏบิ ตั ิงาน เมื่อปฏบิ ตั ิงานเป็นทีร่ จู้ ักกบั ตำรวจทุกนายใน สภ.ศรเี ทพเรยี บร้อย
ขณะน้ันปัญหาการแพรร่ ะบาดของยาเสพตดิ ได้ลกุ ลามทกุ พ้นื ที่ เปน็ เหตุให้กำลังใจเจา้ หนา้ ท่ีชุด
สืบมีกำลังใจไม่เพียงพอ ข้าพเจ้ามีความมุ่งม่ันท่ีจะช่วยงานชุดสืบตามที่ตั้งใจ สุดท้ายหัวหน้าชุดสืบ
ตอบปฏิเสธคุณสมบัติข้าพเจ้าไม่เหมาะสม บุคลิกภาพบุคคลภายนอกมองออก ซ่ึงข้าพเจ้าก็ไม่รู้
จะอธิบายอยา่ งไร เพราะทราบยศ ตำแหนง่ จึงไม่อยากรว่ มงานกบั ข้าพเจ้าเปน็ แนแ่ ท้ จริงๆแล้วชดุ สืบ
ของสภ.ศรีเทพ และสภ.วิเชียรบุรี โงดังมากข้าพเจ้าหาข้อมูลก่อนหน้า และสภ.ศรีเทพ ดาบเอก
อดีตตำรวจ ตชด.เต่า และดาบศักด์ิ สภ.วิเชียรบุรี สายสืบในตำนานหากด้วยบุญวาสนาข้าพเจ้ากับ
๒๔
ดาบเอก หัวหน้าชุดสืบ สภ.ศรีเทพถูกมีคำส่ังห้ามเข้าเขตพ้ืนท่ีจังหวัดเพชรบูรณ์หลายปีจนวันหนึ่ง
ท่านก็กลับมาในวัยเกษียณจึงไม่ได้ร่วมงานกัน เมื่ออุดมการณ์สวนทางกับบุคลากรในการทำงาน
ข้าพเจ้าก็ปฏิบัติงานตามท่ีได้รับมอบหมายต่างๆท่ีควรปฏิบัติงานเช่นสายตรวจรถยนต์ สายตรวจ
ประจำตำบลที่ร้องขอกำลัง เหตุการณ์ วันหน่ึงข้าพเจ้าจำได้วิทยุแจ้งการเปลี่ยนกำลัง ให้ข้าพเจ้าไป
ประจำสายตรวจบ้านตะกรุด พร้อมด้วยเสียงคนตระโกนดังๆว่า “มันอยู่ไม่ได้หรอก” ข้าพเจ้าทราบ
ภายหลังเป็นนายดาบท่ีถูกย้ายแล้วจัดข้าพเจ้าไปแทนดาบท่านก็ระบายออกมาเสียงดัง พ้ืนท่ีมันมีแต่
คนดื้อๆ ชอบนำขวดเหล้ามาขว้างปาสายตรวจต่างๆนาๆ วันรุ่งขึ้นข้าพเจ้าก็ไปปฏิบัติงานที่พักสาย
ตรวจบ้านนาตะกรุด ซึ่งเป็นบ้านพักครู โรงเรียนบ้านนาตะกรุด เพ่ือทำเป็นที่พักสายตรวจช่ัวคราว
มองสภาพแล้วโทรมมากๆมีขวดเหลา้ แตกเตม็ ไปหมด เป็นจริงตามทน่ี ายดาบท่านพูดไว้ ขา้ พเจ้านึกใน
ใจเราจะพักอย่างไรนี่ กลางคืนไม่ได้คิดว่าจะมีใครจะมาคว้างปา ฉลองตำรวจใหม่หรอกนะมองไกลไป
ถึงผีเยอะไหม เพราะตรงข้ามคือวดั เพียงชั่วขณะน้องตำรวจรปู หล่อขับรถตามมาบอกว่ามีคำสง่ั ให้มา
ช่วยงานพี่ท่านคือ สิบตำรวจตรีธีรวัฒน์ หวดขุนทด ตำรวจที่มาดเท่รูปหล่อจัดแถวต้นๆ ของสภ.
ศรีเทพ ขณะน้ันหลังจากนั้นก็มีจ่าสิบตำรวจจำรัส บัณกิจ เป็นหัวหน้าชุดสายตรวจบ้านนาตะกรุด
ร่วม กัน กับ ชาวบ้ าน ส ร้าง ส าย ต รวจ ข้ึน ให ม่ ซ่ึง ชาวบ้ าน ได้ อุ ทิ ศพื้ น ที่ เ ป็ น ส าย ต รว จที่ ชาวบ้ าน แล ะ
เจา้ หนา้ ท่ีร่วมมือกันดแู ลชาวบา้ นอย่างสงบและเปน็ สายตรวจดีเด่นต่อมาซึ่งเป็นส่งิ ทข่ี า้ พเจ้าประทับใจ
เจ้าหน้าทีต่ ำรวจที่ร่วมปฏิบัติงานเหตกุ ารณ์ทีท่ รงคณุ ค่าทกุ คร้ังยามนึกถึง
หลงั จากนนั้ ในปี พ.ศ.2552 ข้าพเจา้ มีความพรอ้ มท่ีจะโอนย้ายมาสงั กัดองค์กรปกครองสว่ น
ท้องถิ่น หลังจากพลัดผอ่ นมาเกือบ 3 ปี เน่ืองจาก ยังคงรักในอาชีพขา้ ราชการตำรวจ ข้าพเจ้าพร้อม
ที่จะรับการโอนย้าย ในขณะทำเร่ืองโอนย้าย เป็นสิ่งที่ยุ่งยากไปทุกข้ันตอน เนื่องจากข้าพเจ้าเป็น
๒๕
ข้าราชการตำรวจคนแรกของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ทำเร่ืองโอนย้ายจะต้องทำเรื่องตั้งแต่ผู้กำกับ
ผู้การจังหวัด ผู้บังคับบัญชาการภาค และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในวิกฤตช่วงทำเรื่องโอนย้าย
ข้าพเจ้าต้องใช้กำลังภายในอย่างเต็มท่ี ด้วยคุณงามความดีที่ ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติงานให้กับ
ผู้บังคับบัญชาอย่างดีจึงส่งผลดีให้กับข้าพเจ้านับว่าเป็นเร่ืองบุญส่งเสริมนายเวรผู้บัญชาการภาค
เป็นนายตำรวจที่ข้าพเจ้าเคยดูแลสมัยมาดำรงตำแหน่ง ร.ต.ต. ในซอยราชภูมิตระกูลชุนวรรณ ซ่ึง
ท่านนายเวรก็ให้ความเปน็ กันเองกับข้าพเจา้ ประสานผู้กำกับ กำลังพลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงทำ
ให้การโอนย้ายของข้าพเจ้าเป็นไปแบบราบรื่น ด้วยคุณงามความดีและบุญท่ีข้าพเจ้าได้มีโอกาสได้ไป
ปฏิบัติงานร่วมกับทุกๆท่านสมัยมารับตำแหน่ง ร.ต.ต. จากโรงเรียนนายร้อยสามพราน 4 ท่าน
ขณะน้ี ทกุ ทา่ นเปน็ ผู้กำกับและผู้การในสายผบู้ งั คับบัญชาช้ันสูงอยา่ งมีเกียรติ
ภายในปี ข้าพเจ้ามีคำสั่งให้ถกู ตัดขาดจากราชการตำรวจโดยให้โอนย้ายไปสังกัดองค์การ
บริหารส่วนท้องถ่ินในตำแหน่งเจ้าพนักงานป้องกันฯ อบต.โคกปรง และสอบเลื่อนระดับในตำแหน่ง
หัวหน้าสำนักปลัด พร้อมท้ังได้รับตำแหน่งรักษาการในตำแหน่งที่มิมีผู้ใดมาดำรงตำแหน่ง เช่น
รักษาการผู้อำนวยการกองช่าง รักษาการผู้อำนวยการกองคลัง รักษาการผู้อำนวยการกอง
สาธารณสุข จนถึงปัจจุบนั ได้มีโอกาสชว่ ยราชการสถานทต่ี ำรวจนครบาลเทียนทะเล ในการเป็นผู้ช่วย
ครูฝึกในการฝึกท่าบุคคลมือเปล่า การจัดระเบียบแถว การทำการเคารพ ท่าแถวหยุด เพ่ือทำการ
แข่งขัน ท่ าฝึ กบุ คคลมื อเป ล่ า ตำรวจนครบ าล ทั้ งห ม ด 83 ส ถานี ในระห ว่างการฝึ ก
ข้าพเจ้าเป็นผู้ช่วยครูฝึก ครูเอ็นวิท กลีบกลาง เป็นหัวหน้าครูฝึก ขณะนั้น ทำหน้าที่ฝึกแบบเข้มงวด
เช่น นักเรียนพลตำรวจซ่ึงผลการประกวดการฝึกท้ังนครบาล 83 สถานี สถานีตำรวจนครบาลเทียน
๒๖
ทะเลได้รางวัลชนะเลิศการประกวดท่าฝึก ทำให้ผู้กำกับดีใจมากท่ีได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ และเป็น
สงิ่ ทข่ี า้ พเจ้าและครูเอน็ วทิ กลีบกลาง ประทับใจในผลงานทตี่ ้งั ใจทุ่มเท ….