The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานการงานเสื้อมัดย้อมใหม่ (1)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by lemon.juthamas22759, 2020-11-03 23:22:13

รายงานการงานเสื้อมัดย้อมใหม่ (1)

รายงานการงานเสื้อมัดย้อมใหม่ (1)

รายงานโครงงานการงานอาชพี
เรอื่ ง เสอื้ มดั ยอ้ ม

จดั ทาโดย
นางสาวปภสั สร เพ็งแจม่ แจง้ เลขที 2

นางสาวจุฑามาศ จนั มี เลขที่
5

นางสาวปิ ยมล ครุฑอาจ เลขที่
17

นางสาวพชั รภา ชาประดษิ ฐ ์ เลขที่ 19
ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ท5ี่ /9

เสนอ
คณุ ครูวนิดา บญุ พเิ ชฐวงศ ์

โรงเรยี นสตรรี าชนิ ู ทศิ สานกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษาเขต
20

รายงานฉบบั นีเ้ ป็ นสว่ นประกอบของรายวชิ าการงานอาชพี
ชอื่ โครงงาน เสอื้ มดั ยอ้ ม

ผูจ้ ดั ทา นางสาวปภสั สร เพ็งแจม่ แจง้ เลขที 2
นางสาวจฑุ ามาศ จนั มี เลขที่ 5
นางสาวปิ ยมล ครฑุ อาจ เลขที่ 17
นางสาวพชั รภา ชาประดษิ ฐ ์ เลขที่ 19

ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5/9
ครูทปี่ รกึ ษา คณุ ครวู นิดา บุญพเิ ชฐวงศ ์

โรงเรยี น สตรรี าชนิ ูทศิ อาเภอเมอื ง จงั หวดั อดุ รธานี
สานักงานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษาเขต 20

บทคดั ยอ่
ในการศกึ ษาครง้ั นีเ้ ป็ นการศกึ ษาเรอ่ื ง
การทาผา้ มดั ยอ้ มจากสสี งั เคราะห:์ ศกึ ษาเฉพาะ
เทคนิคและกระบวนการทาผา้ มดั ยอ้ ม
และสสี งั เคราะหซ์ งึ่ นามาสู่การออกแบบลวดลายจานวน 3 แบบ
โดยทง้ั 3 ลวดลายนั้นคอื แบบลายกน้ หอย ลายรวิ้ แนวตง้ั
และลายหวั ใจ และนามาผสมกบั การมดั ยอ้ มดว้ ยสสั งั เคราะห ์ ทาใหไ้ ดผ้ ลติ ภณั ฑ ์
ทม่ี สี สี นั และรปู แบบทส่ี วยงามไม่เหมอื นใคร

กติ ตกิ รรมประกาศ

รายงานการศกึ ษาการเขยี นความเรยี งขน้ั สูงนีส้ าเรจ็ ลุลว่ งไดด้ ว้ ยความกรณุ าชว่ ยเ

หลอื แนะนา ใหค้ าปรกึ ษา ตรวจสอบแกไ้ ขขอ้ บกพรอ่ งตา่ ง ๆ
ดว้ ยความเอาใจใสอ่ ยา่ งดยี งิ่ จาก คณุ ครวู นิดา บญุ พเิ ชฐวงศ ์

ครผู ูส้ อนรายวชิ าการงานอาชพี
ขอขอบคณุ ครบู รรณารกั ษห์ อ้ งสมุดโรงเรยี นสตรรี าชนิ ูทศิ ทใี่ หค้ วามอนุเคราะหแ์ ล
ะความสะดวกในการคน้ ควา้ หาขอ้ มูล ขอขอบคณุ เพอ่ื นๆ
และญาตพิ น่ี อ้ งทุกคนทชี่ ว่ ยเหลอื สนับสนุนทง้ั ดา้ นกาลงั ใจและกาลงั ทรพั ยด์ ว้ ยดตี
ลอดมา นอกจากนีย้ งั มผี ูท้ ใี่ หค้ วามรว่ มมอื ชว่ ยเหลอื อกี หลายทา่ น
ซง่ึ ผูเ้ ขยี นไม่สามารถกลา่ วนามในทนี่ ีไ้ ดห้ มด จงึ ขอขอบคณุ ทกุ ทา่ นเหลา่ น้ันไว ้
ณ โอกาสนีด้ ว้ ย

คณะผูจ้ ดั ทา

สารบญั
หนา้

บทคดั ย่อ


กติ ตกิ รรมประกาศ


สารบญั

บทที่ 1
1
บทที่ 2
2-5
บทที่ 3
6-8

บทท่ี 4
7
บทท่ี 5
8-9
บรรณานุกรม
10
ภาคผนวก
11-13

บทท1ี่
บทนา
ทมี่ าและความสาคญั ของโครงงานนี้
ใ น ปั จ จุ บั น ส่ิ ง ข อ ง ต่ า ง ๆ มี ร า ค า แ พ ง
ผู ้ป ก ค ร อ ง นั ก เ รี ย น ต ้อ ง ร ับ ภ า ร ะ เ สี ย ค่ า ใ ช ้จ่ า ย ใ น ค ร อ บ ค ร ัว สู ง
ผูป้ กครองนักเรยี นโรงเรยี นบา้ นคลองพระยาสว่ นมากมรี ายไดจ้ ากการทาสวนปาล ์
มและสวนยางแตใ่ นปัจจบุ นั ราคาของพชื เศรษฐกจิ ทง้ั สองราคาตกต่าทาใหร้ ายไดไ้

ม่ พ อ กั บ ก า ร ยั ง ชี พ
คณะผูจ้ ดั ทาโครงงานเห็นวา่ นักเรยี นก็สามารถทจ่ี ะหารายไดช้ ว่ ยเหลอื ครอบครวั ไ
ด้
จงึ มกี ารจดั ทาโครงงานสรา้ งเสรมิ ทกั ษะอาชพี ในนักเรยี นไดม้ ีทกั ษะความรนู ้ าไปใ
ชใ้ นการหารายไดเ้ สริมระหว่างเรียนโดยคิดโครงงานอาชีพ ผา้ มัดยอ้ ม
ซึ่ ง เ ป็ น ง า น อ า ชี พ ที่ ส า ม า ร ถ ท า ไ ด ้ ง่ า ย ไ ม่ ยุ่ ง ย า ก
และเพ่ือเป็ นการน้อมหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ิตประจาวัน
คณะผูจ้ ดั ทาโครงงานจงึ ไดป้ รกึ ษากบั ครผู ูส้ อนและจดั ทาโครงงานอาชพี ผา้ มดั ยอ้
มขนึ้ มา

วตั ถปุ ระสงค ์

๑. เพอื่ ใหน้ ักเรยี นสามารถทาผา้ มดั ยอ้ มได ้
๒. เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นมรี ายไดเ้ สรมิ ระหวา่ งเรยี น
๓. เพอ่ื ปลูกฝังคณุ ธรรมพนื้ ฐาน ๘ ประการตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง
ผลคาดวา่ จะไดร้ บั

๑. นักเรยี นสามารถทาผา้ มดั ยอ้ มได ้
๒. นักเรยี นมรี ายไดเ้ สรมิ ระหวา่ งเรยี น
๓. นักเรยี นมคี ณุ ธรรมพนื้ ฐาน ๘ ประการ
ขอบเขตการศกึ ษาเสอื้ มดั ยอ้ ม

๑. ศกึ ษาเกยี่ วกบั แหลง่ เสอื้ มดั ยอ้ ม
๒. ศกึ ษาเกย่ี วกบั ประโยชนท์ จี่ ะไดร้ บั ในการขาย
๓. ศกึ ษาผ่านอนิ เตอรเ์น็ตเป็ นส่วนใหญ่
๔. ระยะเวลาศกึ ษาภาคเรยี นที่ ๑/๒๕๖๓

บทที่ 2
เอกสารและงานวจิ ยั ทเี่ กยี่ วขอ้ ง

การทาโครงงาน เรอื่ ง

ผา้ มดั ยอ้ ม เป็ นโครงงานของนักเรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ท3ี่ เอกสารการและการวิ

จยั ทเี่ กยี่ วขอ้ งมตี ามหวั ขอ้ ดงั ตอ่ ไปนี้

1. ประวตั ขิ องผา้ มดั ยอ้ ม

2. วตั ถปุ ระสงค ์

3. หลกั การทฤษฎี

4. วสั ดอุ ปุ กรณใ์ นการทาผา้ มดั ยอ้ ม

5. การออกแบบผา้ มดั ยอ้ ม

6. วธิ กี ารยอ้ ม

7. คณุ สมบตั ขิ องผา้ มดั ยอ้ ม

8. แนวคดิ ในการใชผ้ า้ มดั ยอ้ ม
9. ผลทไ่ี ดร้ บั

1. ประวตั ขิ องผา้ มดั ยอ้ ม

การฝึ กหดั มดั ยอ้ มบนเนือ้ ผา้ ไดเ้ คยทากนั มาเกอื บทกุ ส่วนของโลก ประวตั กิ
ารทาผา้ มดั ยอ้ มไดเ้ รมิ่ ตน้ ทากนั มาแลว้ ในสมยั เอเชยี โบราณแผ่ขยายไปยงั ตอนก

ลางของทวปี อนิ เดยี ไปยงั มาเลเซยี และขา้ มไปยงั แอฟรกิ า

ผา้ มดั ยอ้ มทม่ี ใี นประเทศไทยและกมั พูชานั้นเป็ นเครอ่ื งแสดงใหเ้ ห็นว่าการมดั ยอ้ มเ

รม่ิ ตน้ มาจากสองประเทศนีแ้ พรห่ ลายเขา้ ไปยงั ประเทศอนิ โดนีเซยี วธิ กี ารมดั ยอ้ ม

ยงั นาไปใชใ้ นการตกแตง่ ผา้ ไหมชนั้ ดเี พอื่ ใชท้ าผา้ คลุมไหล่ สไบ และโสรง่ สาห

รบั ชายหญงิ ของชาวชวาและบาหลี
การมดั ยอ้ มในแตล่ ะประเทศแสดงใหเ้ ห็นถงึ การออกแบบทแ่ี ตกตา่ งกนั และลกั ษณะ
การใชส้ ซี งึ่ ผูผ้ ลติ สามารถวางแนวทางและรปู แบบของผา้ เพอื่ ผลติ ออกไปทว่ั โลก
ในระยะเวลาทแี่ ตกตา่ งกนั ตามรปู แบบของวฒั นธรรม

2.วตั ถปุ ระสงค ์
1.เพอ่ื ศกึ ษาเกยี่ วกบั วธิ กี ารทาผา้ มดั ยอ้ ม
2.เพอ่ื สามารถลงมอื ปฏบิ ตั ทิ าผา้ มดั ยอ้ มดว้ ยตวั เองได ้
3.เพอื่ สามารถบอกเลา่ วธิ กี ารและความเป็ นมา
4.เพอ่ื ใหม้ คี วามรคู ้ วามเขา้ ใจถงึ ทมี่ าของสที นี่ ามายอ้ มผา้
5. เพอื่ ใหท้ ราบถงึ ประวตั ทิ ม่ี าของผา้ มดั ยอ้ ม
6.บอกขน้ั ตอนการทาผา้ มดั ยอ้ มได ้
7.มเี จตคตทิ ด่ี ตี อ่ กจิ กรรม รกั และภมู ใิ จงานดา้ นศลิ ปะ งานเพอ่ื สงั คม

3.หลกั การทฤษฎี

1. กรณีแรกมดั มากจนเกนิ ไปจนไม่เหลอื พนื้ ทส่ี แี ทรกซึ
ความแน่นหนาของการมดั
มเขา้ ไปไดเ้ ลย

2. การใชอ้ ุปกรณช์ ว่ ยในการหนีบผา้ แลว้ มดั เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความแน่น
และเกดิ ลวดลายตามแม่แบบทใี่ ชห้ นีบ

3.ความสม่าเสมอของสยี อ้ ม สยี อ้ มทต่ี ดิ ผา้ จะสม่าเสมอไดข้ นึ้ อยูก่ บั อณุ หภู
มคิ วามรอ้ นขณะนาผา้ ลงยอ้ ม

4.วสั ดอุ ปุ กรณใ์ นการทาผา้ มดั ยอ้ ม

1.ผา้ 2.สบู่ 3.สผี สมอาหาร 4.หมอ้ สแตนเลส 5.ไมพ้ าย 6.เตาแกส๊ 7.ก
ะละมงั 8.ถงั พลาสตกิ

5.การออกแบบลายของผา้ มดั ยอ้ ม

การออกแบบลายผา้ โดยการพบั จบี แลว้ มดั น้ันเป็ นเทคนิคทกี่ วา้ ง มอี สิ ระใน
การออกแบบลวดลายและวธิ มี ดี ไดห้ ลายอย่าง ทง้ั นีเ้ น่ืองจากหวั ใจหลกั ของการพั

บจบี แลว้ มดั คอื “การหาวธิ ใี หผ้ า้ ไดส้ มั ผสั สโี ดยทว่ั ถงึ เฉพาะบรเิ วณภายนอกทไ่ี ม่
ไดก้ นั สหี รอื มดั ” ดงั น้ัน

การจะพบั เป็ นจบี การมดั ผา้ การนาเอาวสั ดอุ น่ื เขา้ ไปในผนื ผา้ แลว้ มดั ให ้
เป็ นจบี ยงั เป็ นวธิ กี ารทใ่ี หผ้ า้ สมั ผสั ไดน้ ้าสี และไม่ซมึ เขา้ ในขอบเขตทไี่ ดม้ ดั ไว ้
รปู รา่ งของลวดลายจะเกดิ จากรอยพบั จบี มดั และรอยพบั จบี ของผา้ ทห่ี ่อหอ้ มวสั ดุ
อนื่ หรอื รอยอนั เกดิ จากการมดั

6. วธิ กี ารยอ้ ม

วธิ กี ารยอ้ มสมี วี ธิ กี ารยอ้ มดว้ ยกนั 3 วธิ ี

1.
การยอ้ มแบบจมุ่ ตอ้ งเอาผา้ ทต่ี อ้ งการยอ้ มจมุ่ ลงในน้ายอ้ มทมี่ ตี วั สยี อ้ มและสารชว่
ยยอ้ มละลายรวมกนั มคี วามเขม้ ขน้ ทเี่ หมาะสม ผา้ ทยี่ อ้ มจะเคลอื่ นไปไหวโดยกระ
บวนการเชงิ กล หรอื ในทางกลบั กนั นา้ จะไหลเวยี นโดยผา้ น้ันหยุดน่ิง กลา่ วคอื น้า
เคลอ่ื นทหี่ รอื ผา้ เคลอื่ นทมี่ จี ดุ มุ่งหมายใหย้ อ้ มผา้ ไดพ้ อดสี ตี ดิ อย่างสม่าเสมอ

2.
ยอ้ มแบบตอ่ เนื่องเป็ นวธิ ยี อ้ มสโี ดยผา้ ผ่านมาจากเครอ่ื งยอ้ มทท่ี าหนา้ ทอี่ ย่างหนึ่งไ
ปสู่เครอื่ งยอ้ มทที่ าหนา้ ทอี่ กี อยา่ งหนึ่งจนกวา่ จะยอ้ มเสรจ็ เรม่ิ จากการผ่านผา้ ลงจุ่
มในน้าสสี ่งไปบบี เอาน้าออกใหเ้ หลอื เพยี งเทา่ ทต่ี อ้ งการ สง่ ไปทาใหส้ รี วมตวั และ
ทาใหต้ ดิ ผา้

3.
ยอ้ มดว้ ยการระบายสหี รอื พมิ พส์ ลี งบนผนื ผา้ ใหเ้ นือ้ สซี มึ ตดิ เสน้ ใยผา้ จากดา้ นบน
ลงล่าง สจี ะซมึ ลงในเนอ้ ผา้ ทง้ั สองดา้ นการระบายซา้ จงึ ทาใหส้ ตี ดิ เสน้ ใยเขม้ และแ
น่น ส่วนการพมิ พผ์ า้ สตี ดิ ผา้ เฉพาะดา้ นหลงั เทา่ นั้น

7. คณุ สมบตั ขิ องผา้ มดั ยอ้ ม

คณุ ลกั ษณะของผา้ หรอื เสน้ ใยผา้ แตล่ ะชนิดทท่ี นตอ่ สภาพการณบ์ างอย่างแ
ตกตา่ งกนั การดดู ซมึ สแี ตกตา่ งกนั รวมทงั้ มลี กั ษณะตา่ ง ๆ ทแ่ี ตกตา่ งกนั ดงั นั้น
จงึ มคี วามสาคญั ทผ่ี ูบ้ รโิ ภคควรรชู ้ นิดของเสน้ ใยผา้ ทแ่ี ตกตา่ งกนั ยอ้ มมผี ลทาใหค้ ุ
ณสมบตั ขิ องผา้ แตกตา่ งกนั คณุ สมบตั นิ ีบ้ างทที าใหผ้ า้ น่าใชด้ แู ลง่ายสามารถนา

มาตกแตง่ แปรรปู ยอ้ มสเี ขยี นลวดลาย และเลอื กสใี ชไ้ ดเ้ หมาะสม

8.แนวคดิ ในการใชผ้ า้ มดั ยอ้ ม

เทคนิคการใชผ้ า้ มาผูกแลว้ ยอ้ มสหี รอื การมดั ยอ้ มนีม้ ที ใ่ี ชอ้ ย่างไม่จากดั แบ

ะเพงิ่ มกี ารสนใจอย่างจรงิ จงั ศลิ ปิ นไดพ้ ยายามผสมผสานวธิ การตา่ ง ๆ

เพอ่ื ใหไ้ ดร้ ปู แบบตา่ ง ๆ ในมติ ใิ หม่ ๆ

นอกเหนือไปจากรปู แบบทท่ี าไดอ้ ย่เู ดมิ สง่ิ เหล่านีข้ นึ้ อยูก่ บั จนิ ตนาการความหลกั

แหลมและความสามารถในการออกแบบของแตล่ ะคนว่าสามารถทาไดแ้ ปลกใหม่แ

คไ่ หน
การเย็บและสอยมกั จะเป็ นวธิ กี ารทไ่ี ปดว้ ยกนั กบั เทคนิคการทาผา้ มดั ยอ้ มโดยธรร
มชาตอิ ยแู่ ลว้ หลงั จากทแ่ี กท้ ผ่ี ูกออก ผา้ จะยงั คงมรี อยยบั เพราะการบดิ ของเนือ้ ผ ้

าศลิ ปิ นมากคนไดอ้ อกแบบอยา่ งอยา่ งฉลาดไดโ้ ดยการใชด้ า้ ยและเข็มเย็บบรเิ วณ
ทเ่ี ป็ นรอยผูก เป็ นการจดั แบบใหม้ พี นื้ ผวิ นูน

9.ผลทไี่ ดร้ บั

1 สามารถรวู ้ ธิ กี ารผลติ ผา้ มดั ยอ้ ม

2 สามารถนาไปผลติ เองและประกอบอาชพี ได ้
3 สามารถไดร้ เู ้ กยี่ วกบั การผสมสี เพอื่ มาทาผา้ มดั ยอ้ ม
4 สามารถนาความรไู ้ ปเผยแพรใ่ หป้ ระชาชนไดร้ เู ้ กย่ี วกบั ผา้ มดั ยอ้ ม

5 สามารถนามาเป็ นสนิ คา้ OTOP ภายในหมูบา้ นหรอื ภายในจงั หวดั ได ้

บทที่ 3

วธิ กี ารดาเนินโครงงาน

ในการจดั ทาโครงงานอาชพี พฒั นาเพอ่ื ศกึ ษา เรอื่ งเสอื้ มดั ยอ้ มนี้
ผูจ้ ดั ทาโครงงานมวี ธิ ที า ตามขนั้ ตอนดงั นี้
ขนั้ ตอนการดาเนินงาน
1 คดิ หวั ขอ้ โครงงานเพอ่ื นาเสนอทปี่ รกึ ษาโครงงาน
2 ศกึ ษาและคน้ ควา้ ขอ้ มูลทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั เรอื่ งทส่ี นใจ คอื เรอ่ื ง
กล่องอเนกประสงคว์ ่ามเี นือ้ หามากนอ้ ยเพยี งใดและตอ้ งศกึ ษาคน้ ควา้ เพมิ่ เตมิ เพยี ง
ใด และเก็บขอ้ มูลไวเ้ พอ่ื จดั ทาเนือ้ หาตอ่ ไป
3 ศกึ ษาการทาจากgoogle และจากเว็บไซตต์ า่ งๆ ทนี่ าเสนอเทคนิค
วธิ กี ารสรา้ งเนือ้ หาของโครงงาน

4 จดั ทาโครงรา่ งโครงงานเพอ่ื นาเสนอครทู ป่ี รกึ ษาผ่าน Google classroom
ของตวั เอง
5 ปฏบิ ตั กิ ารทาโครงงานคอมพวิ เตอร ์เรอื่ งกล่องอเนกประสงค ์
โดยการสมคั รสมาชกิ และสรา้ งบทเรยี นทสี่ นใจตามแบบเสนอโครงรา่ งทเ่ี สนอไวแ้ ล ้
ว ทง้ั นีไ้ ดน้ าเสนอบทเรยี นผ่าน google classrooom
6 นาเสนอรายงานความกา้ วหนา้ เป็ นระยะๆ ซง่ึ ครทู ปี่ รกึ ษาจะใหข้ อ้ เสนอแนะตา่ งๆ
เพอื่ ใหจ้ ดั ทาเนือ้ หาและการนาเสนอทน่ี ่าสนใจตอ่ ไป
ทงั้ นีเ้ มอ่ื ไดร้ บั คาแนะนาก็จะนามาปรบั ปรงุ แกไ้ ขใหเ้ ป็ นทส่ี นใจยง่ิ ขนึ้
อกี ทง้ั ไดส้ รา้ งเครอื ข่ายสงั คมโดยใชเ้ ว็บไซต ์ Facebook
เพอื่ ใหเ้ พอ่ื นๆมาชว่ ยใหข้ อ้ เสนอแนะและสอ่ื สารกนั หากมขี อ้ สงสยั เกย่ี วกบั การทาง
าน
7 จดั ทาเอกสารรายงานโครงงานคอมพวิ เตอร ์
โดยนาเสนอในรปู แบบไฟลค์ อมพวิ เตอร ์
8 ประเมนิ ผลงาน โดยการนาเสนอผ่าน Google Side
9 นาเสนอผ่าน Google Side เพอ่ื ใหผ้ ูส้ นใจศกึ ษาหาความรตู ้ อ่ ไป

วสั ดุ อปุ กรณ์
1 เสอื้
2 สมี ดั ยอ้ ม
3 ขวดพลาสตกิ มฝี าจกุ สาหรบั ใส่สี
4 ถงุ ซปิ ล็อก
5 หนังสตกิ๊
6 เกลอื

ขน้ั ตอนการทา
1 เตรยี มเสอื้ สขี าวขนาดทตี่ อ้ งการ

2 นาเสอื้ มามดั และลงสไี ดเ้ ลยตามใจชอบ

3 เก็บไวใ้ นถงุ ซปิ ล็อกประมาณ 6-8 ชว่ั โมง
4 ลา้ งออกดว้ ยน้ายาซกั ผา้ และน้าเปลา่ ตากใหแ้ หง้ ก็เสรจ็ เรยี บรอ้ ย

บทที่ 4

ผลการดาเนินการ
ผลการดาเนินงาน
สรปุ การศกึ ษาเรอื่ งการทาผา้ มดั ยอ้ มจากสสี งั เคราะห ์ ศกึ ษาเฉพาะ
เทคนิคและกระบวนการทาผา้ มดั ยอ้ ม และสสี งั เคราะห ์
โดยเป็ นการสรปุ ผลทไี่ ดจ้ ากบทท่ี 1-3
ซงึ่ ผูศ้ กึ ษานาขอ้ มูลตา่ งๆมาเป็ นแนวทางในการออกแบบลวดลายเสอื้
โดยมรี ายละเอยี ดดงั ตอ่ ไปนี้

การศกึ ษาเรอื่ งการทาผา้ มดั ยอ้ มจากสสี งั เคราะห ์ ศกึ ษาเฉพาะ
เทคนิคและกระบวนการทาผา้ มดั ยอ้ ม และสสี งั เคราะห ์
ทน่ี ามาส่ลู วดลายผา้ มดั ยอ้ ม
โดยลวดลายนีผ้ ูศ้ กึ ษาไดน้ าเทคนิคการมดั แบบตา่ งๆมาใชแ้ ละยอ้ มผา้ ดว้ ยสสี งั เคร
าะห ์ ผสมผสานกนั จนเกดิ ลวดลายใหม่และยอ้ มสี
จะไดเ้ สอื้ ตวั ใหม่ทมี่ สี สี นั ลวดลายสวยงามและไม่เหมอื นใคร

บทท5ี่

สรุป อภปิ รายผลการดาเนินการ

สรุปผลการดาเนินการ

จากการดาเนินการในการทาโครงงานการงานอาชพี
เรอื่ งเสอื้ มดั ยอ้ ม
สรปุ ผลการดาเนินการตามจดุ หมายของโครงงานดงั นี้

1. ไดเ้ สอื้ มดั ยอ้ มทลี่ ายไม่ซา้ ใครไวส้ วมใส่

2.
ไดน้ าเสอื้ ทเี่ กา่ หรอื เปื้อนมาทาใหส้ วยและกลบั มาสวมใส่ใหม่ได ้

3.
เป็ นแนวทางในการประกอบอาชพี หลกั หรอื อาชพี เสรมิ ตอ่ ไปในอนาคต
และใหผ้ อู้ นื่ สามารถศกึ ษาและนาไปพฒั นาตอ่ ใหด้ ยี งิ่ ขนึ้

อภปิ รายผลการดาเนินการ
จากโครงงานการงานอาชพี เรอื่ งเสอื้ มดั ยอ้ ม

การทาเสอื้ มดั ยอ้ มสามารถนามาจาหน่ายและสวมใสไ่ ดจ้ รงิ
โดยการนาเสอื้ ไปมดั ยอ้ มสี จากเสอื้ สขี าว
สอี อ่ นหรอื เสอื้ เปื้อนไดเ้ สอื้ มดั ยอ้ มใหม่ลายไม่ซา้ ใครไวส้ วมใส่และจาหน่า
ยสรา้ งรายไดเ้ ป็ นอาชพี หลกั หรอื อาชพี เสรมิ

ขอ้ เสนอแนะ

1. พบั หรอื มว้ นเสอื้ และลงสอี ย่างระมดั ระวงั เพราะไม่สามารถแกไ้ ขได ้
เมอื่ ลงไปแลว้

2. หลงั จากขน้ั ตอนซกั เพอื่ ลา้ งสอี อกควรบดิ เสอื้ ใหห้ มาดกอ่ นนามา
ตากไม่ฉะนั้นสจี ะหยดทาใหล้ ายออกมาไม่สวย

3. สวมใส่ถงุ มอื ในขนั้ ตอนการยอ้ มผา้

ประโยชนท์ ไี่ ดร้ บั
1. ไดร้ บั ความรเู ้ กยี่ วกบั การยอ้ มผา้
2. ไดเ้ สอื้ มดั ยอ้ มลายไม่ซา้ ใครไวส้ วมใส่
3. ไดร้ ายไดจ้ ากการนาเสอื้ มดั ยอ้ มไปจาหน่าย
4. ผูอ้ นื่ สามารถนาความรทู ้ ไี่ ดไ้ ปทาเสอื้ มดั ยอ้ มไวส้ วมใสแ่ ละยงั นาไ
ปสรา้ งอาชพี หลกั หรอื หารายไดเ้ สรมิ

บรรณานุ กรม

วธิ กี ารทาผา้ มดั ยอ้ ม
https://sites.google.com/site/phattaratidasrimontree61/page
5
วสั ด-ุ อปุ กรณ์
https://sites.google.com/a/wangwiset.ac.th/pha-mad-
yxm/home/wasdu-xupkrn
อปุ กรณ.์ tiedye-001. 1.เสอื้ ยดื ควรเลอื กเนือ้ ผา้ ทท่ี ามา จากเสน้ ใยธรรมชาติ
เพราะง่ายตอ่ การยอ้ มอย่างคอตตอน เรยอน ...
https://today.line.me/th/v2/article/DIY+วธิ ที าเสอื้ มดั ยอ้ มง่ายๆ+
ไดไ้ อเทม็ ปังรบั เทรนดล์ า่ สุด-jojEog
แกะอปุ กรณม์ ดั ผา้ ออก คลผี่ า้ แลว้ เอาผา้ ไปตากใหแ้ หง้ สนิทอกี รอบ. 5.
นาผา้ แหง้ ไปแชใ่ น โซเดยี มซลิ เิ กตทงิ้ ไว ้ 1 คนื เพอ่ื ทาใหส้ ตี ดิ ทนนานและไม่ลอก
https://home.kapook.com/view196809.html

ผา้ มดั ยอ้ ม นอกจากจะมเี อกลกั ษณท์ โ่ี ดดเดน่ ดา้ นรปู ลกั ษณภ์ ายนอกแลว้ ...
เป็ นการคาใน ภาษามลายู ซงึ่ หมายความวา่ หลากสหี รอื ลายจดุ บนพนื้ สี
เป็ นวธิ กี ารมดั ... ทาใหเ้ กดิ เป็ นวง หรอื เหลยี่ มเล็กๆสี ขาวหรอื ตามสพี นื้ ผา้
นิยมทาเป็ นลวดลายธรรมชาติ เชน่ ดอกไม ้
https://www.bareo-isyss.com/service/design-tips/indigo-dye-
เสน่หก์ ารตกแตง่ ดว้ ยผ/

ภาคผนวก

ภาพอปุ กรณท์ าเสอื้ มดั ยอ้ ม
ภาพแสดงขน้ั ตอนการทาเสอื้ มดั ยอ้ ม

ภาพเสอื้ มดั ยอ้ มทเี่ สรจ็ สมบูรณแ์ ลว้


Click to View FlipBook Version