The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เอกสารประกอบการเรียนเล่ม 1 แหล่งกำเนิดพลังงานไฟฟ้า11

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by orasa, 2019-12-12 02:55:31

เอกสารประกอบการเรียนเล่ม 1 แหล่งกำเนิดพลังงานไฟฟ้า11

เอกสารประกอบการเรียนเล่ม 1 แหล่งกำเนิดพลังงานไฟฟ้า11

1

2

 เซลล์ไฟฟ้ าเคมี
 เซลล์สุริยะ
 พลงั งานไฟฟ้ าเหนี่ยวนา
 แหล่งกาเนิดพลงั งานไฟฟ้ าอน่ื ๆ

3

คานา

เอกสารประกอบการเรียนการสอน “ชุดเรียนรู้เร่ืองพลงั งานไฟฟ้ า”
เล่ม 1 เร่ือง แหล่งกาเนิดพลงั งานไฟฟ้ า เล่มน้ีไดจ้ ดั ข้ึนเพอ่ื พฒั นาการเรียนการสอนวชิ า
วทิ ยาศาสตร์พ้ืนฐาน ใหเ้ ป็นไปตามผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวงั ของหลกั สูตรการศกึ ษา
ข้นั พ้ืนฐานพทุ ธศกั ราช 2544 ซ่ึงมุ่งเนน้ ใหน้ กั เรียนฝึ กปฏิบตั ิจริง คิดและแกป้ ัญหาได้
ดว้ ยตนเอง ผจู้ ดั ทาไดด้ าเนินการจดั กิจกรรมการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้
วทิ ยาศาสตร์ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปี ท่ี 3 โดยไดศ้ กึ ษาขอ้ มลู พ้ืนฐานจากบนั ทึกผลหลงั สอน
ซ่ึงผจู้ ดั ทาไดร้ ะบุไวห้ ลงั จากการสอบจบทุกคร้ัง รวบรวมปัญหาต่างๆ ท่ีพบและไดจ้ ดั ทา
เอกสารประกอบการเรียนการสอน เพ่ือแกป้ ัญหาดงั กล่าวและพฒั นาคุณภาพนกั เรียน
ใหไ้ ดต้ ามผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวงั ของหลกั สูตรสถานศกึ ษา ไดศ้ ึกษาคน้ ควา้ จากเอกสาร
และตาราหลายเล่ม เพือ่ ใชเ้ ป็นแนวทางในการจดั ทาเอกสารประกอบการเรียนการสอน
คร้ังน้ี ไดศ้ กึ ษาหลกั จิตวทิ ยาการเรียนรู้เพ่อื ใหเ้ ป็นเอกสารประกอบการเรียนการสอนที่
น่าสนใจและเหมาะกบั นกั เรียนช้นั มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 3 โดยจดั ทาเอกสารประกอบการเรียน
การสอนท้งั หมด 4 เล่ม ดงั น้ี 1. แหล่งกาเนิดพลงั งานไฟฟ้ า 2. ความต่างศกั ยไ์ ฟฟ้ า
กระแสไฟฟ้ าและความตา้ นทานไฟฟ้ า 3. วงจรไฟฟ้ า และอุปกรณ์ไฟฟ้ า
4. เครื่องใชไ้ ฟฟ้ า กาลงั ไฟฟ้ าและพลงั งานไฟฟ้ า ซ่ึงไดผ้ า่ นการตรวจสอบจาก
ผเู้ ชี่ยวชาญ และผา่ นการทดลองใช(้ Try Out ) จนมีคุณภาพทุกเล่ม ผจู้ ดั ทาจึงนามาใช้
กบั นกั เรียน ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 3
ผจู้ ดั ทาจึงหวงั เป็นอยา่ งยง่ิ วา่ เอกสารประกอบการเรียนการสอนท่ีสร้างข้ึน
จะเป็นประโยชนต์ ่อการนาไปใชป้ ระกอบการเรียนการสอนไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ และ
เป็นแนวทางสาหรับผสู้ นใจที่จะจดั ทาเอกสารประกอบการเรียนการสอนต่อไป

อรษา อภิรมยว์ ไิ ลชยั

4

สารบญั

หน้า

คานา ก

สารบญั ข

คาช้ีแจงการใชเ้ อกสารประกอบการเรียนการสอน 1

จุดประสงคข์ องเอกสารประกอบการเรียนการสอน 2

แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง แหล่งกาเนิดพลงั งานไฟฟ้ า 3

พลงั งานไฟฟ้ า 6

แหล่งกาเนิดพลงั งานไฟฟ้ า 7

เซลลไ์ ฟฟ้ าเคมี 7

กิจกรรมที่ 1 เรื่องเซลลไ์ ฟฟ้ าเคมี 9

กิจกรรมที่ 2 เรื่องเซลลไ์ ฟฟ้ าเคมีจากผกั

และผลไมใ้ นทอ้ งถิ่น 13

แบบฝึกหดั ท่ี 1 เร่ือง การผลิตกระแสไฟฟ้ า

จากเซลลไ์ ฟฟ้ าเคมี 18

เซลลส์ ุริยะ 20

พลงั งานไฟฟ้ าเหน่ียวนา 22

กิจกรรมที่ 3 เร่ืองไดนาโม 24

แบบฝึกหดั ท่ี 2 เรื่อง การผลิตกระแสไฟฟ้ าจาก

เซลลส์ ุริยะและพลงั งานไฟฟ้ าเหนี่ยวนา 27

แหล่งกาเนิดพลงั งานไฟฟ้ าอื่นๆ 29

แบบฝึกหดั ที่ 3 เรื่อง แหล่งกาเนิดพลงั งานไฟฟ้ า 31

แบบทดสอบหลงั เรียน เร่ือง แหล่งกาเนิดพลงั งานไฟฟ้ า 32

5

สารบญั
หน้า

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน เร่ือง แหล่งกาเนิดพลงั งานไฟฟ้ า 35

เฉลยกิจกรรมที่ 1 เรื่อง เซลลไ์ ฟฟ้ าเคมี 36

เฉลยกิจกรรมท่ี 2 เร่ือง เซลลไ์ ฟฟ้ าเคมีจากผกั และผลไมใ้ นทอ้ งถิ่น 38

เฉลยแบบฝึกหดั ท่ี 1 เร่ือง การผลิตกระแสไฟฟ้ าจากเซลลไ์ ฟฟ้ าเคมี 41

เฉลยกิจกรรมที่ 3 ไดนาโม 42

เฉลยแบบฝึกหดั ที่ 2 เรื่อง การผลิตกระแสไฟฟ้ าจากเซลลส์ ุริยะ

และพลงั งานไฟฟ้ าเหนี่ยวนา 43

เฉลยแบบฝึกหดั ที่ 3 เรื่องแหล่งกาเนิดไฟฟ้ า 44

เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน เรื่อง แหล่งกาเนิดพลงั งานไฟฟ้ า 46

หนงั สืออา้ งอิง 47

6

สารบัญภาพ

ภาพ หน้า

ภาพท่ี 1 แสดงประโยชนข์ องพลงั งานไฟฟ้ า 6

ภาพที่ 2 แสดงประโยชนข์ องพลงั งานไฟฟ้ า 6

ภาพที่ 3 แสดงส่วนประกอบของเซลลไ์ ฟฟ้ าเคมี 8

ภาพที่ 4 แสดงการทดลองวดั ค่ากระแสไฟฟ้ าจากถ่านไฟฉาย 10

ภาพท่ี 5 แสดงการทดลองเซลลไ์ ฟฟ้ าเคมีในผกั และผลไมใ้ นทอ้ งถ่ิน 14

ภาพที่ 6 แสดงโครงสร้างเชลลส์ ุริยะ 20

ภาพที่ 7 ประโยชนข์ องเซลลส์ ุริยะ 21

ภาพท่ี 8 แสดงการลาดบั การใชพ้ ลงั งานไฟฟ้ าจากเซลลส์ ุริยะ 21

ภาพท่ี 9 แสดงการเกิดกระแสไฟฟ้ าเหน่ียวนาจากไดนาโม 22

ภาพที่ 10 การผลิตกระแสไฟฟ้ าจากเขื่อน 29

ภาพท่ี 11 การผลิตกระแสไฟฟ้ าจากพลงั งานลม 29

ภาพที่ 12 การผลิตกระแสไฟฟ้ าจากพลงั งานเช้ือเพลิง

จากซากดึกดาบรรพ์ 30

ภาพที่ 13 การผลิตกระแสไฟฟ้ าจากพลงั งานความร้อนใตพ้ ิภพ 30

ภาพที่ 14 การผลิตกระแสไฟฟ้ าจากพลงั งานนิวเคลียร์ 30

7

คาชีแ้ จง
การใช้เอกสารประกอบการเรียนการสอน

เอกสารประกอบการเรียนการสอน เล่มที่ 1 เรื่อง แหล่งกาเนิดพลงั งานไฟฟ้ า
ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 3 แบ่งเป็นสาระประกอบท้งั หมด 4 เร่ือง ดงั น้ี

- เร่ืองเซลลไ์ ฟฟ้ าเคมี
- เรื่องเซลลส์ ุริยะ
- เรื่องพลงั งานไฟฟ้ าเหนี่ยวนา
- เรื่องแหล่งกาเนิดไฟฟ้ าอ่ืนๆ
ก่อนท่ีนกั เรียนจะปฏิบตั ิกิจกรรม ขอใหน้ กั เรียนปฏิบตั ิตามคาช้ีแจงดงั น้ี
1. ใหน้ กั เรียนอ่านคาช้ีแจงน้ีใหเ้ ขา้ ใจอยา่ งชดั เจน
2. ทาแบบทดสอบก่อนเรียน จานวน 15 ขอ้ เพ่อื วดั ความรู้พ้นื ฐาน
3. ใหน้ กั เรียนศึกษาเอกสารประกอบการเรียนการสอนและฝึ กกิจกรรม
ไปตามลาดบั จนจบเล่ม และในระหวา่ งปฏิบตั ิกิจกรรม จะมีกิจกรรมใหน้ กั เรียน
ฝึกปฏิบตั ิ หากนกั เรียนสงสัยหรือไม่เขา้ ใจ ขอใหน้ กั เรียนถามครูทนั ที
4. เม่ือศกึ ษาเอกสารประกอบการเรียนการสอนจบใหน้ กั เรียน
ทาแบบทดสอบอีกคร้ัง เพื่อดูความกา้ วหนา้ และวดั ความเขา้ ใจของตนเอง
5. ใหน้ กั เรียนศกึ ษาเอกสารประกอบการเรียนการสอนและทากิจกรรม
ดว้ ยความระมดั ระวงั และรอบคอบ

8

จุดประสงค์ของเอกสารประกอบการเรียนการสอน
เล่มที่ 1 เร่ือง แหล่งกาเนิดพลงั งานไฟฟ้ า

เมื่อนกั เรียนศกึ ษาเอกสารประกอบการเรียนการสอน เล่มท่ี 1
เรื่อง แหล่งกาเนิดพลงั งานไฟฟ้ า เล่มน้ีจบแลว้ นกั เรียนจะมีความรู้
ความสามารถดงั น้ี

1. อธิบายการเกิดกระแสไฟฟ้ าจากแหล่งกาเนิดต่างๆได้
2. ทดลองการเกิดกระแสไฟฟ้ าจากแหล่งกาเนิดต่าง ๆ ได้

9

แบบทดสอบก่อนเรียน

คาชี้แจง แบบทดสอบปรนยั จานวน 10 ขอ้ 10 คะแนน เวลา 10 นาที

ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบท่ีถกู ตอ้ งท่ีสุดเพียงคาตอบเดียว โดยทาเคร่ืองหมาย X

ลงในกระดาษคาตอบ

** * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

1. ขอ้ ใดกล่าวไม่ถูกตอ้ ง 2. ถา้ กระแสไฟฟ้ าไหลจาก A ไปยงั B

ก. กระแสไฟฟ้ าจะไหลจากศกั ยต์ ่า ขอ้ ใดกล่าวไม่ถกู ตอ้ ง

ไปยงั ศกั ยส์ ูง ก. B แตกตวั เป็นไอออนลบได้

ข. กระแสไฟฟ้ าเกิดจากการไหลของ มากกวา่ A

อิเลก็ ตรอน ข. กระแสอิเลก็ ตรอนไหลจากB ไป A

ค. กระแสไฟฟ้ าจะไหลเม่ือความต่าง ค. สารละลายC แตกตวั เป็นไอออนได้

ศกั ย์ 2 จุด แตกต่างกนั ง. A เป็นข้วั บวก เพราะมีศกั ยไ์ ฟฟ้ า

ง. กระแสไฟฟ้ าจะเกิดเมื่อมีความ ต่ากวา่ B

แตกต่างของศกั ยไ์ ฟฟ้ า

3. จะไม่มีกระแสไฟฟ้ าไหลเมื่อใด

ใหน้ กั เรียนใชภ้ าพต่อไปน้ีตอบคาถาม 1) ใชข้ ้วั ไฟฟ้ าเป็นโลหะ B ท้งั คู่

ขอ้ 2-3 2) นาข้วั ไฟฟ้ า A และ B ท่ีจุ่มใน

สารละลายมาแตะกนั

แอมมิเตอร์ 3) สลบั ข้วั ไฟฟ้ า A และ B

4) ศกั ยไ์ ฟฟ้ า A และ B เท่ากนั

5) ยกข้วั ไฟฟ้ า A หรือ B ออกจาก

สารละลาย

คาตอบขอ้ ใดถูกตอ้ ง
โลหะ B ก. 1 2 3 4
โลหะ A

ข. 1 3 4 5

สารละลาย C ค. 2 3 4 5

ง. 1 2 4 5

4. กระแสไฟฟ้ าเหน่ียวนาคือ 10
กระแสไฟฟ้ าที่เกิดข้ึนจากขอ้ ใด
6. ส่ิงที่มีผลต่อปริมาณของ
ก. ไดนาโม กระแสไฟฟ้ าท่ีเกิดจากหลกั การทางาน
ข. ถ่านไฟฉาย ของไดนาโมคือขอ้ ใด
ค. แบตเตอร์ร่ีรถยนต์
ง. ขอ้ ข และ ค ถกู ตอ้ ง ก. ขนาดของสนามแม่เหลก็
ข. อตั ราการหมุนของขดลวด
5. หลกั การต่อไปน้ี ขอ้ ใดท่ี ไมเคิล ค. จานวนรอบของขดลวดที่พนั
ฟาราเดย์ เป็นผคู้ น้ พบ
รอบแกน
ก. ผา่ นกระแสไฟฟ้ าเขา้ ไปในตวั นา ง. ถกู ทุกขอ้
จะเกิดสนามแม่เหลก็
รอบตวั นาน้นั 7. ไดนาโมผลิตกระแสไฟฟ้ าโดยการ
เปล่ียนรูปพลงั งานอยา่ งไร
ข. เคล่ือนตวั นาตดั สนามแม่เหลก็
เร็ว ๆจะมีกระแสไฟฟ้ าเกิดข้ึน ก. พลงั งานเคมี เป็น พลงั งาน
ในตวั นาน้นั ไฟฟ้ า

ค. เม่ือผา่ นกระแสไฟฟ้ าเขา้ ไปใน ข. พลงั งานแสง เป็น พลงั งาน
ลวดท่ีขดเป็นวงกลม จะมี ไฟฟ้ า
สนามแม่เหลก็ เกิดภายในขดลวด
วงกลมน้นั ค. พลงั งานกล เป็น พลงั งาน
ไฟฟ้ า
ง. เม่ืออุณหภูมิคงท่ี กระแสไฟฟ้ าที่
ผา่ นตวั นาอนั หน่ึงจะเป็นปฏิภาค ง. พลงั งานศกั ย์ เป็น พลงั งาน
โดยตรงกบั ความต่างศกั ย์ ไฟฟ้ า
ระหวา่ งปลายท้งั สองของตวั นา
น้นั 8. เซลลส์ ุริยะทาดว้ ยสารก่ึงตวั นา ถา้
แผน่ หน่ึงทาดว้ ยซิลิคอนผสม
ฟอสฟอรัส อีกแผน่ หน่ึงจะเป็นซิลิคอน
ผสมกบั สารใด

ก. โครเมียม
ข. คาร์บอน
ค. โบรอน
ง. อะลูมิเนียม

9. ในการผลิตกระแสไฟฟ้ าในประเทศ 11
ไทย เราใชพ้ ลงั งานจากแหล่งใดมาก
ที่สุด 10. ถา้ ตอ้ งการผลิตกระแสไฟฟ้ า
นกั เรียนคิดวา่ การผลิตกระแสไฟฟ้ า
ก. พลงั งานน้าจากเข่ือน จากแหล่งใดท่ีมีผลกระทบต่อ
ข. พลงั งานแสงอาทิตย์ สิ่งแวดลอ้ มนอ้ ยที่สุด
ค. กระแสลม ก. พลงั งานน้า
ง. น้ามนั เบนซิน ข. พลงั งานแสง
ค. พลงั งานน้ามนั
ง. พลงั งานถ่านหิน

นักเรียนตอบแบบทดสอบครบทกุ ข้อแล้ว
ตรวจคาตอบได้จากเฉลยท้ายเล่ม นะคะ

เกณฑ์การประเมนิ
ตอบแบบทดสอบถกู ต้งั แต่ 5 ขอ้ ข้ึนไป ถือวา่ ผา่ น

12

พพลลงั งั งงาานนไไฟฟฟฟ้ า้ า

การดารงชีวติ ของมนุษยต์ ้งั แต่โบราณ มนุษยม์ ีความเกี่ยวขอ้ งกบั พลงั งาน
มาโดยตลอด เริ่มต้งั แต่พลงั งานจากธรรมชาติ เช่น พลงั งานแสงและพลงั งานความร้อน
จากดวงอาทิตย์ ต่อมาความเจริญทางดา้ นวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยที าใหม้ นุษยม์ ี
ความเป็นอยสู่ ะดวกสบายมากข้ึนดว้ ยการใชป้ ระโยชนจ์ ากพลงั งานไฟฟ้ า ท้งั น้ีเพราะ
ไฟฟ้ าเป็นพลงั งานรูปหน่ึงท่ีสามารถเปลี่ยนเป็นพลงั งานรูปอ่ืนไดง้ ่าย เช่น สามารถ
เปลี่ยนเป็นพลงั งานเสียงในเครื่องเล่นวทิ ยุ เปลี่ยนเป็นพลงั งานความร้อนในการ
ทาอาหาร เปล่ียนเป็นพลงั งานแสงในหลอดไฟ หรือเปล่ียนเป็นพลงั งานกลในพดั ลม

ภาพท่ี 1-2 แสดงประโยชน์ของพลงั งานไฟฟ้ า
ท่ีมา: http://www.bangkokbiznews.com/home/media/2009/03/23,สืบคน้ วนั ที่ 11 ม.ค. 2551

13

แหล่งกาเนิดกระแสไฟฟ้ า

แหล่งกาเนิดกระแสไฟฟ้ ามีหลายรูปแบบ เช่น เกิดจากการเปลี่ยนรูปพลงั งาน
รูปอ่ืนๆ มาเป็นพลงั งานไฟฟ้ า หรือ กระแสไฟฟ้ ามาจากแหล่งผลิตพลงั งานไฟฟ้ า
โดยตรง เช่น พลงั งานไฟฟ้ าที่ใชใ้ นนาฬิกาไดม้ าจากถ่านไฟฉาย ซ่ึงถ่านไฟฉายเป็น
แหล่งกาเนิดไฟฟ้ าโดยตรงนน่ั เอง

เคร่ืองมือที่สามารถผลิตและจ่ายกระแสไฟฟ้ าผา่ นเขา้ ไปในวงจรไฟฟ้ าได้
เราเรียกวา่ เครื่องกาเนิดไฟฟ้ า

1. เซลล์ไฟฟ้ าเคมี

เซลล์ไฟฟ้ าเคมี คือ อุปกรณ์ที่ทาหนา้ ที่ผลิตกระแสไฟฟ้ าจากการ
เกิดปฏิกิริยาเคมี แลว้ เปล่ียนพลงั งานจากปฏิกิริยาเคมีมาเป็นพลงั งานไฟฟ้ า ตวั อยา่ งเช่น
ถ่านไฟฉาย แบตเตอร่ี

ส่วนประกอบของเซลล์ไฟฟ้ าเคมี ไดแ้ ก่
1) แผน่ โลหะที่ต่างกนั 2 ชนิด ทาหนา้ ท่ีเป็นข้วั ไฟฟ้ าข้วั บวกและข้วั ลบ
2) สารละลายท่ีนาไฟฟ้ าได้ ( อิเลก็ โทรไลต์ ) ซ่ึงสามารถแตกตวั ใหไ้ อออน
บวกและไอออนลบ โดยจะตอ้ งจุ่มแผน่ โลหะท้งั 2 ชนิดลงในสารละลายที่นาไฟฟ้ าได้
หลกั การสร้างเซลล์ไฟฟ้ าเคมี คือ
1.จุ่มแผน่ โลหะต่างกนั 2ชนิด ลงในสารละลายที่สามารถแตกตวั ใหไ้ อออนบวก
และลบแลว้ ต่อเขา้ กบั เครื่องวดั กระแสไฟฟ้ า
2. โลหะต่างชนิดกนั จะแตกตวั ใหอ้ ิเลก็ ตรอนไดต้ ่างกนั ดงั น้นั เมื่อต่อแผน่
โลหะท้งั สองเขา้ ดว้ ยกนั จะเกิดการเคลื่อนที่ของอิเลก็ ตรอนโลหะท่ีแตกตวั ใหอ้ ิเลก็ ตรอน
ไดด้ ีกวา่ จะมีศกั ยไ์ ฟฟ้ าต่า เรียกวา่ ข้วั ลบ ส่วนโลหะท่ีเสียอิเลก็ ตรอนยากกวา่ จะมี
ศกั ยไ์ ฟฟ้ าสูงกวา่ เรียกวา่ ข้วั บวก

14

3. อิเลก็ ตรอนจะไหลจากข้วั ที่มีศกั ยไ์ ฟฟ้ าต่าไปยงั ข้วั ที่มีศกั ยไ์ ฟฟ้ าสูง
ส่วนกระแสไฟฟ้ าจะไหลจากข้วั ที่มีศกั ยไ์ ฟฟ้ าสูงไปยงั ข้วั ที่มีศกั ยไ์ ฟฟ้ าต่า

4. กระแสไฟฟ้ าจะไหลจนกระทง่ั ศกั ยไ์ ฟฟ้ าท่ีข้วั ท้งั สองเท่ากนั จึงหยดุ ไหล
แสดงวา่ ไฟหมด

แอมมิเตอร์

กระแสอิเล็กตรอน กระแสไฟฟา

โลหะ A แตกตวั โลหะ B แตกตวั ใหอ้ ิเล็กตรอน
ไดไ้ ม่ดี มีศกั ยไ์ ฟฟ้ าสูง
ใหอ้ ิเล็กตรอนไดด้ ี เรียกข้วั น้ีวา่ แอโนด(ข้วั บวก)
มีศกั ยไ์ ฟฟ้ าต่า เรียก
ข้วั น้ีวา่ แคโทด (ข้วั ลบ) สารละลายอิเลกโทรไลต์

ภาพท่ี 3 แสดงส่วนประกอบของเซลลไ์ ฟฟ้ าเคมี
ท่ีมา : อรษา อภิรมยว์ ไิ ลชยั , 15 มี.ค. 2551 : 8

15

กจิ กรรมที่ 1 เร่ืองเซลล์ไฟฟ้ าเคมี

วนั ที่ …………………………………………………………………………………….

จุดประสงค์ของกจิ กรรม
1. เพื่อศึกษาการผลิตกระแสไฟฟ้ าจากเซลลไ์ ฟฟ้ าเคมี
2. ต่อวงจรไฟฟ้ าอยา่ งง่ายได้
3. อธิบายหลกั การของเชลลไ์ ฟฟ้ าเคมีได้
4. สรุปการเปล่ียนรูปพลงั งานในเชลลไ์ ฟฟ้ าเคมีได้

อปุ กรณ์และสารเคมี

1. เคร่ืองวดั กระแสไฟฟ้ าอยา่ งง่าย( แอมมิเตอร์)1 เครื่อง
แผน่
2. แผน่ สังกะสี 1 แผน่
ชุด
3. แผน่ ทองแดง 1 แผน่
กอ้ น
4. สายไฟพร้อมแจค็ และคลิปปากจระเข้ 2 ลูกบาศกเ์ ซนติเมตร

5. กระดาษทราย 1

6. ถ่านไฟฉาย 1

7. กรดซลั ฟิ วริกเจือจาง 200

วธิ ีการทดลอง

1. นาเครื่องวดั กระแสไฟฟ้ าอยา่ งง่าย( แอมมิเตอร์ )ต่อเขา้ กบั ถ่านไฟฉาย
พร้อมท้งั สังเกตเขม็ ของเคร่ืองวดั กระแสไฟฟ้ า

2. ตดั แผน่ ทองแดงและแผน่ สังกะสีใหม้ ีขนาดใหญ่ 1 x 5 เซนติเมตร
ใชก้ ระดาษทรายขดั แผน่ ทองแดง และแผน่ สังกะสีใหส้ ะอาด พร้อมท้งั งอปลายขา้ งหน่ึงไว้

3. เทกรดซลั ฟิ วริกเจือจาง100 ลูกบาศกเ์ ซนติเมตร ลงในบีกเกอร์ จุ่มปลายดา้ นหน่ึง
ของแผน่ โลหะท้งั สองลงในบีกเกอร์ ส่วนปลายอีกดา้ นหน่ึงพาดไวก้ บั ปากบีกเกอร์

4. ต่อสายไฟท้งั สองเส้นเขา้ กบั ปลายโลหะที่โผล่พน้ บีกเกอร์ข้ึนมา ส่วนอีก
ปลายหน่ึงของสายไฟเสียบติดกบั แอมมิเตอร์ สังเกตการเบนของเขม็ ของแอมมิเตอร์

16

5. สลบั สายไฟคลิปปากจระเขข้ องแผน่ ทองแดง และแผน่ สงั กะสสี งั เกตการเบน
ของเขม็ แอมมิเตอร์

6. ยกแผน่ สงั กะสีหรือแผน่ ทองแดงแผน่ ใดแผน่ หน่ึงข้ึนจากบีกเกอร์
สังเกตการเบนของเขม็ แอมมิเตอร์

7. จบั ปลายของแผน่ ทองแดงและแผน่ สงั กะสีส่วนท่ีจุ่มในกรดซลั ฟิ วริก
ใหแ้ ตะกนั สงั เกตการเบนของเขม็ แอมมิเตอร์

8. เปลี่ยนแผน่ โลหะท่ีอยใู่ นบีกเกอร์เป็นแผน่ ทองแดงท้งั สองแผน่ หรือแผน่
สังกะสีท้งั สองแผน่ สงั เกตการเบนของเขม็ แอมมิเตอร์

9. เทกรดซลั ฟุริก เจือจาง 100 ลูกบาศกเ์ ซนติเมตรในบีกเกอร์อีก 1 ใบ แลว้ จุ่ม
แผน่ ทองแดงและแผน่ สังกะสีลงในบีกเกอร์ คนละใบ ต่อสายไฟจากปลายโลหะท้งั สอง
เขา้ กบั แอมมิเตอร์สังเกตการเบนของเขม็ แอมมิเตอร์

ภาพท่ี 4 แสดงการทดลองวดั คา่ กระแสไฟฟ้ าจากถ่านไฟฉาย
ท่ีมา : อรษา อภิรมยว์ ไิ ลชยั , ถ่ายภาพเม่ือวนั ที่ 11 มี.ค 2551

17

ผลการทดลอง

การทดลอง การเบนของเขม
ต่อแอมมิเตอร์เขา้ กบั ถ่านไฟฉาย 1 กอ้ น แอมมเิ ตอร์

เบน ไม่เบน

ต่อแอมมิเตอร์เขา้ กบั แผน่ ทองแดงและแผน่ สงั กะสี
ที่จุ่มในบีกเกอร์สารละลายกรดซลั ฟิ วริก

ต่อแอมมิเตอร์เขา้ กบั แผน่ ทองแดงและแผน่ สังกะสี ที่จุ่ม
ในบีกเกอร์สารละลายกรดซลั ฟิ วริก แลว้ สลบั คลิปปากจระเข้
ต่อแอมมิเตอร์เขา้ กบั แผน่ ทองแดงและแผน่ สังกะสี ท่ีจุ่ม ใน
บีกเกอร์สารละลายกรดซลั ฟิ วริก แลว้ ยกแผน่ สังกะสีหรือแผน่
ทองแดงแผน่ ใดแผน่ หน่ึงข้ึนจากบีกเกอร์

ต่อแอมมิเตอร์เขา้ กบั แผน่ ทองแดงและแผน่ สังกะสี ที่จุ่ม
ในบีกเกอร์สารละลายกรดซลั ฟิ วริกโดยให้ปลายของแผน่
ทองแดงและแผน่ สังกะสีส่วนท่ีอยใู่ นบีกเกอร์แตะกนั
ต่อแอมมิเตอร์โดยใชแ้ ผน่ ทองแดงท้งั สองแผน่ ท่ีปลายจุ่ม
ในบีกเกอร์สารละลายกรดซลั ฟิ วริก

ต่อแอมมิเตอร์กบั แผน่ สงั กะสีท้งั สองแผน่ ที่ปลายจุ่มใน
บีกเกอร์สารละลายกรดซลั ฟิ วริก

ต่อแอมมิเตอร์กบั แผน่ สังกะสี และแผน่ ทองแดงที่ปลาย
จุ่มอยใู่ นบีกเกอร์สารละลายกรดซลั ฟิ วริกคนละบีกเกอร์

18

คาถามหลงั การทดลอง

1. เมื่อต่อแอมมิเตอร์เขา้ กบั ถ่านไฟฉาย 1 กอ้ นเขม็ ของแอมมิเตอร์เบนไปจาก
ตาแหน่งเดิมหรือไม่ .................... แสดงวา่ ........................................................................

2. เม่ือจุ่มแผน่ สงั กะสีและแผน่ ทองแดงในบีกเกอร์ของสารละลายกรด
ซลั ฟิ วริก แผน่ โลหะที่เกิดการเปล่ียนแปลงสงั เกตไดช้ ดั เจนคือแผน่ โลหะ........................
แสดงวา่ ......................................................................……………………………………
3. เม่ือจุ่มแผน่ สงั กะสีและแผน่ ทองแดงในบีกเกอร์สารละลายกรดซลั ฟิ วริก
แลว้ ต่อเขา้ กบั แอมมิเตอร์เขม็ ของแอมมิเตอร์มีการเปลี่ยนแปลงอยา่ งไร…………………
แสดงวา่ …………………………………………………………………………………..
4. เมื่อยกแผน่ โลหะแผน่ ใดแผน่ หน่ึงออกจาบกีกเกอร์สารละลายกรดซลั ฟิ วริก
จะมีกระแสไฟฟ้ าเกิดข้ึนหรือไม่…….และทราบไดอ้ ยา่ งไร………….…………………..
5. เมื่อเราจบั ปลายแผน่ โลหะทองแดงและสงั กะสีใหแ้ ตะกนั
จะมีการเปลี่ยนแปลงอยา่ งไร …………………………………………..………………..
6. เม่ือใชแ้ ผน่ โลหะทองแดงและแผน่ สังกะสีจุ่มในบีกเกอร์กรดซลั ฟิ วริก
คนละใบกนั จะเกิดอะไรข้ึน …………………..…………………………………………
7. การทดลองน้ีมีการเปล่ียนรูปพลงั งานเป็ นอยา่ งไร ………………………
.…………………………………………………………………………………………..

สรุปและอภปิ รายผล

…………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………
……………………..……………………………………………………………………
…………………………………………..………………………………………………
……………………………………………………..……………………………………
………………………………………………………………………………...................

19

กจิ กรรมที่ 1 เรื่องเซลล์ไฟฟ้ าเคมจี ากผกั และผลไม้ในท้องถ่นิ

วนั ที่ …………………………………………………………………………………….

จุดประสงค์ของกจิ กรรม
1. เพ่อื ศกึ ษาการผลิตกระแสไฟฟ้ าเซลลไ์ ฟฟ้ าเคมีจากผกั และผลไมใ้ นทอ้ งถิ่น
2. ต่อวงจรไฟฟ้ าอยา่ งง่ายได้
3. อธิบายหลกั การของเชลลไ์ ฟฟ้ าเคมีได้
4. สรุปการเปลี่ยนรูปพลงั งานในเชลลไ์ ฟฟ้ าเคมีได้

อปุ กรณ์และสารเคมี 1 เคร่ือง
1 แผน่
1. เคร่ืองวดั กระแสไฟฟ้ าอยา่ งง่าย(แอมมิเตอร์) 1 แผน่
2. แผน่ สงั กะสี 2 ชุด
3. แผน่ ทองแดง 1 แผน่
4. สายไฟพร้อมแจค็ และคลิปปากจระเข้ 1 กอ้ น
5. กระดาษทราย 2 ผล
6. ถ่านไฟฉาย
7. สม้ เขียวหวาน
8. ผกั และผลไมใ้ นทอ้ งถ่ิน

วธิ ีการทดลอง

1. นาเคร่ืองวดั กระแสไฟฟ้ าอยา่ งง่าย( แอมมิเตอร์ )ต่อเขา้ กบั ถ่านไฟฉาย
ท่ีเตรียมมา พร้อมท้งั สังเกตเขม็ ของเคร่ืองวดั กระแสไฟฟ้ า

2. ตดั แผน่ ทองแดงและแผน่ สงั กะสีใหม้ ีขนาดใหญ่ 1 x 5 เซนติเมตร
ใชก้ ระดาษทรายขดั แผน่ ทองแดง และแผน่ สังกะสีใหส้ ะอาด พร้อมท้งั งอปลายขา้ งหน่ึงไว้

3. นาส้มเขียวหวานวางไวบ้ นพ้ืนโต๊ะ แลว้ เสียบปลายดา้ นหน่ึงของแผน่ โลหะ
ท้งั สองลงในผลสม้ เขียวหวาน ส่วนปลายอีกดา้ นหน่ึงอยเู่ หนือผวิ ของผลส้มเขียวหวาน

20

4. ต่อสายไฟท้งั สองเสน้ เขา้ กบั ปลายโลหะที่โผล่พน้ ผวิ สม้ เขียวหวานข้ึนมา
ส่วนอีกปลายหน่ึงของสายไฟเสียบติดกบั แอมมิเตอร์ สงั เกตการเบนของเขม็ แอมมิเตอร์

5. สลบั สายไฟคลิปปากจระเขข้ องแผน่ ทองแดง และแผน่ สังกะสีงั เกตการเบน
ของเขม็ ของแอมมิเตอร์

6. ยกแผน่ สงั กะสีหรือแผน่ ทองแดงแผน่ ใดแผน่ หน่ึงข้ึนจากผลส้มเขียวหวาน
สงั เกตการเบนของเขม็ ของแอมมิเตอร์

7. จบั ปลายของแผน่ ทองแดงและแผน่ สังกะสีส่วนท่ีอยใู่ นผลสม้ เขียวหวาน
ใหแ้ ตะกนั สังเกตการเบนของเขม็ แอมมิเตอร์

8. เปล่ียนแผน่ โลหะที่อยใู่ นผลส้มเขียวหวานเป็นแผน่ ทองแดงท้งั สองแผน่
หรือแผน่ สงั กะสีท้งั สองแผน่ สังเกตการเบนของเขม็ แอมมิเตอร์

9. เสียบแผน่ ทองแดง และแผน่ สงั กะสี ในผลสม้ เขียวหวานคนละผลกนั
โดยแผน่ ท้งั สองอยใู่ นผลของสม้ เขียวหวานคนละผล สงั เกตการเบนของเขม็ แอมมิเตอร์

10. ทาซ้าขอ้ 3 – 4 แต่เปล่ียนจากสม้ เขียวหวานเป็นผกั หรือผลไมใ้ นทอ้ งถ่ิน
อยา่ งนอ้ ย 5 ชนิด สงั เกตการเบนของเครื่องวดั กระแสไฟฟ้ าอยา่ งง่าย ใหม้ ีหน่วยเป็น
มิลลิแอมแปร์

ภาพที่ 5 แสดงการทดลองเซลลไ์ ฟฟ้ าเคมีในผกั และผลไมใ้ นทอ้ งถิ่น
ที่มา : อรษา อภิรมยว์ ไิ ลชยั , ถ่ายภาพเมื่อวนั ที่ 11 มี.ค. 2551.

21

บันทกึ ผลการทดลอง
ตารางท่ี 1 แสดงการเบนของเขม็ แอมมิเตอร์จากเซลลไ์ ฟฟ้ าเคมีของผกั และผลไม้

การทดลอง การเบนของเขมแอมมเิ ตอร์
ต่อแอมมิเตอร์เขา้ กบั ถ่านไฟฉาย 1 กอ้ น เบน ไม่เบน

ต่อแอมมิเตอร์เขา้ กบั แผน่ ทองแดงและแผน่ สงั กะสีขณะ
ปลายของแผน่ โลหะท้งั สองอยใู่ นผลสม้

ต่อแอมมิเตอร์แลว้ สลบั คลิปปากจระเขบ้ นแผน่ ทองแดง
และแผน่ สังกะสีขณะท่ีปลายโลหะท้งั สองอยใู่ นผลส้ม

ต่อแอมมิเตอร์กบั แผน่ สังกะสีและแผน่ ทองแดงโดย
ยกแผน่ โลหะแผน่ ใดแผน่ หน่ึงข้ึนจากผวิ ของลผส้ม

ต่อแอมมิเตอร์กบั ปลายของแผน่ ทองแดงและแผน่ สังกะสี
โดยใหป้ ลายโลหะท้งั สองที่อยใู่ นผลส้มแตะกนั

ต่อแอมมิเตอร์กบั แผน่ ทองแดงสองแผน่ โดยใหแ้ ผน่
ทองแดงท้งั สองแผน่ อยใู่ นผลสม้เดียวกนั

ต่อแอมมิเตอร์กบั แผน่ สงั กะสีสองแผน่โดยปลายแผน่
สงั กะสีท้งั สองแผน่ อยใู่ นผลส้มเดียวกนั

ต่อแอมมิเตอร์กบั แผน่ สงั กะสี และแผน่ ทองแดงขณะ
แผน่ โลหะท้งั สองอยใู่ นสม้ คนละผล

22

ตารางที่ 2 ปริมาณกระแสไฟฟ้ าจากเชลลไ์ ฟฟ้ าเคมีจากผกั และผลไมใ้ นทอ้ งถิ่น

ชนิดของผกั และผลไม้ในท้องถ่ิน การเบนของเขมแอมมเิ ตอร์
( มลิ ลแิ อมแปร์ )

คาถามหลงั การทดลอง

1. เมื่อต่อเคร่ืองวดั กระแสไฟฟ้ าอยา่ งง่ายเขา้ กบั ถ่านไฟฉาย 1 กอ้ นเขม็ ของเครื่องวดั
กระแสไฟฟ้ าเบนหรือไม่…………………แสดงวา่ ……………………………………...
…………………………………………………………………………………………...
2. เมื่อเสียบแผน่ สงั กะสีและแผน่ ทองแดงในผลสม้ เขียวหวาน แผน่ โลหะ ท้งั สองมี
การเปล่ียนแปลงหรือไม่อยา่ งไร…...……………………………………………………
3. เมื่อจุ่มแผน่ สังกะสีและแผน่ ทองแดงในผลส้มเขียวหวาน แลว้ ต่อเขา้ กบั แอมมิเตอร์
เขม็ ของแอมมิเตอร์มีการเปลี่ยนแปลงอยา่ งไร………………..…………………………..
แสดงวา่ …………………………………………………………………………………..
4. เม่ือยกแผน่ โลหะแผน่ ใดแผน่ หน่ึงออกจากผลส้มเขียวหวาน จะมีกระแสไฟฟ้ า
เกิดข้ึนหรือไม่………………………….และทราบไดอ้ ยา่ งไร…………………………..
…………………………………………………………………………………………...
5. เมื่อเราจบั ปลายแผน่ โลหะทองแดงและสงั กะสีใหแ้ ตะกนั จะมีการเปลี่ยนแปลงอยา่ งไร
.............. …………………………………………………………………………………
6. เมื่อใชแ้ ผน่ โลหะทองแดงและแผน่ สังกะสีกดในผลส้มเขียวหวานคนละผลกนั จะเกิด
อะไรข้ึน …...……………………………………………………………………………

23

7. การทดลองน้ีมีการเปล่ียนรูปพลงั งานเป็ นอยา่ งไร……………………………………
.…………………………………………………………………………………………..
8. ผลไมห้ รือผกั ชนิดใดท่ีทาใหเ้ ขม็ ของแอมมิเตอร์เบนไปมากที่สุด…………………….
9. ใหน้ กั เรียนเรียงลาดบั ผกั หรือผลไมท้ ่ีเขม็ ของแอมมิเตอร์เบนไปจากมากไปนอ้ ย
………………..…………………………………………………….……………………
………………………………………………………………..………….........................
………………………………………………………………..………….........................
………………………………………………………………..………….........................

สรุปและอภิปรายผล

…………………………………………………………………………………………
……………………..……………………………………………………………………
…………………………………………..………………………………………………
………………………………………………………………..…………………………
……………………………………………………………………………………..……
…………………………………………………………………………………………
………………..…………………………………………………………………………
……………………………………………………………….…………………………..

24

แบบฝึ กหัดท่ี 1
เร่ือง การผลติ กระแสไฟฟ้ าจากเซลล์ไฟฟ้ าเคมี

คาชี้แจง แบบฝึกหดั แบบปรนยั จานวน 10 ขอ้ 10 คะแนน เวลา 10 นาที

ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบที่ถกู ตอ้ งท่ีสุดเพยี งคาตอบเดียว โดยทาเครื่องหมาย X

ลงบนขอ้ ท่ีถกู ตอ้ ง

** * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

1. เซลลไ์ ฟฟ้ าเคมีมีการเปลี่ยนรูป 4. เมื่อต่อแผน่ ทองแดงกบั สงั กะสีท่ีจุ่ม

พลงั งานอยา่ งไร ในสารลายซลั ฟุริกเจือจาง เขา้ กบั

ก. พลงั งานไฟฟ้ า เป็นพลงั งานเคมี แอมมิเตอร์ กระแสไฟฟ้ าจะไหลจาก

ข. พลงั งานเคมี เป็นพลงั งานไฟฟ้ า โลหะแผน่ ใดไปยงั แผน่ ใด

ค. พลงั งานไฟฟ้ า เป็นพลงั งานเคมี ก. แผน่ ทองแดง ไปยงั แผน่ สังกะสี

พลงั งานเคมี ข. แผน่ สงั กะสี ไปยงั แผน่ ทองแดง

ง. พลงั งานเคมี เป็นพลงั งานไฟฟ้ า และ ค. จากสารละลายซลั ฟุริกไปยงั

เป็นพลงั งานเคมี แผน่ ทองแดง

ง. จากสารละลายซลั ฟุริกไปยงั

2. อิเลก็ โทรไลต์ หมายถึงอะไร แผน่ สังกะสี

ก. แมงกานิสออกไซด์

ข. กรดซลั ฟิ วริกเจือจาง 5. ในเซลลไ์ ฟฟ้ าเคมี อิเลคตรอนมีการ

ค. แผน่ โลหะท่ีทาหนา้ ท่ีเป็นข้วั ไฟฟ้ า เคล่ือนที่อยา่ งไร

ง. สารละลายท่ีทาหนา้ ท่ีเป็นตวั นาไฟฟ้ า ก. เคลื่อนที่ไปมาระหวา่ งแผน่ ทองแดง

กบั แผน่ สงั กะสี

3. เซลลไ์ ฟฟ้ าเคมีเป็นแหล่งกาเนิดไฟฟ้ า ข. เคลื่อนท่ีจากแผน่ ทองแดงไปยงั

ชนิดใด แผน่ สังกะสี

ก. กระแสสลบั ค. เคล่ือนที่จากแผน่ สงั กะสีไปยงั

ข. กระแสตรง แผน่ ทองแดง

ค. กระแสเหนี่ยวนา ง. ไม่แน่นอนข้ึนอยกู่ บั ความเขม้ ขน้

ง. กระแสไฟแรงสูง ของสารละลายซลั ฟิ วริก

6. ในถ่านไฟฉาย สารใดทาหนา้ ท่ีเป็นอิ 25
เลก็ โทรไลต์
ก. กรดซลั ฟิ วริกเจือจาง 9. จากภาพ กระแสไฟฟ้ าไหลจากจุด A
ข. แมงกานีสไดออกไซด์ ไปยงั จุด B ขอ้ ใดกล่าวถูกตอ้ ง
ค. แอมโมเนียมคลอไรด์
ง. ผงถ่าน กระแสไฟฟ้ า

7. แบตเตอร์รีรถยนตม์ ีการเปล่ียนรูป AB
พลงั งานอยา่ งไร
ก. พลงั งานเคมี เป็นพลงั งานไฟฟ้ า ก. A มีความต่างศกั ยส์ ูงกวา่ B
ข. พลงั งานไฟฟ้ า เป็นพลงั งานเคมี ข. B มีความต่างศกั ยส์ ูงกวา่ A
ค. พลงั งานไฟฟ้ า เป็นพลงั งานกล ค. A มีความต่างศกั ยเ์ ท่ากบั B
ง. พลงั งานกล เป็นพลงั งานไฟฟ้ า ง. ไม่มีขอ้ ใดถกู

8. การไหลของกระแสไฟฟ้ า เปรียบได้ 10. ถา้ วตั ถุมีประจุบวกนอ้ ย จะมี
กบั ขอ้ ใด ศกั ยไ์ ฟฟ้ าเป็นอยา่ งไร
ก. น้าฝนท่ีตกลงมา ก. ศกั ยไ์ ฟฟ้ าสูง
ข. การพดั ของกระแสลม ข. ศกั ยไ์ ฟฟ้ าต่า
ค. ควนั ไฟที่ลอยตามลม ค. มีศกั ยไ์ ฟฟ้ าเท่ากบั 0
ง. การไหลของกระแสน้า ง. เป็นกลางทางไฟฟ้ า

26

2 เซลล์สุริยะ (Solar Cell)
เซลล์สุริยะ คือ อุปกรณ์ท่ีสามารถนาพลงั งานแสงอาทิตยม์ าเปลี่ยนใหเ้ ป็น
กระแสไฟฟ้ า ไฟฟ้ าท่ีผลิตไดเ้ ป็นไฟฟ้ ากระแสตรง เซลลส์ ุริยะมีลกั ษณะเป็นแผน่
กระจก ประกอบดว้ ยสารก่ึงตวั นา 2 ช้นั ดงั น้ี
1. ช้นั บนหรือแผน่ บน เป็นช้นั ที่รับแสงประกอบดว้ ยสารซิลิคอนเจือ
ดว้ ยฟอสฟอรัส โดยช้นั บนจะบางกวา่ ช้นั ล่าง เพ่ือใหแ้ สงสวา่ งสามารถส่องทะลุ
ลงไปถึงช้นั ล่างได้
2. ช้นั ล่างหรือแผน่ ล่าง ประกอบดว้ ยสารซิลิคอนเจือดว้ ยโบรอน

ภาพที่ 6 แสดงโครงสร้างเชลลส์ ุริยะ
ที่มา: www.thaigoodview.com/.../content/2_5.htm.สืบคน้ วนั ท่ี 22 มิถุนายน 2549.

หลกั การทางาน เมื่อแสงอาทิตยต์ กกระทบแผน่ ดา้ นบน จะเกิดความต่าง
ศกั ยไ์ ฟฟ้ าระหวา่ งแผน่ สารก่ึงตวั นาท้งั สอง ถา้ ต่อสายไฟระหวา่ งแผน่ สารท้งั สอง กจ็ ะมี
กระแสไฟฟ้ าไหลจากช้นั ล่างไปตามสายไฟไปยงั แผน่ สารช้นั บน ดงั น้นั ช้นั บนจึงเป็นข้วั
ลบ และช้นั ล่างกเ็ ป็นข้วั บวก

27

ประโยชน์ ปัจจุบนั ไดม้ ีการนาเซลลส์ ุริยะมาใชใ้ นอุปกรณ์ต่างๆมากมาย เช่น
นาฬิกาขอ้ มือ เคร่ืองคิดเลข โคมไฟสนาม ดาวเทียม สถานีอวกาศหรือแมแ้ ต่บา้ นพกั อาศยั

ภาพที่ 7 ประโยชนข์ องเซลลส์ ุริยะ
ที่มา : http://green.in.th/files/imagecache/greenpic_scale/images/Solarcell.jpg.

สืบคน้ วนั ท่ี 11 มี.ค. 2553.

เซลลส์ ุริยะผลิตไฟฟ้ าไดเ้ ฉพาะช่วงเวลาที่มีแสงสวา่ งเท่าน้นั ส่วนในช่วง
เวลากลางคืน เซลลส์ ุริยะจะไม่ทางาน ดงั น้นั จึงตอ้ งมีการเกบ็ สะสมพลงั งานไฟฟ้ า
ไวใ้ นแบตเตอรี่ก่อน จากน้นั จึงจ่ายกระแสไฟฟ้ าออกมาใชเ้ ม่ือยามที่ตอ้ งการ
แต่ก่อนจะนากระแสไฟฟ้ าจากแบตเตอรี่ซ่ึงเป็นกระแสตรงมาใชก้ บั เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้ า

ตามบา้ นเรือน จะตอ้ งแปลงกระแสไฟฟ้ าใหเ้ ป็นกระแสสลบั ก่อน

เซลล์สุริยะ แบตเตอร์ร่ี เครื่องใช้ไฟฟ้ ากระแสตรง
เคร่ืองแปลงไฟฟ้ ากระแสตรงเปนกระแสสลบั

เครื่องใช้ไฟฟ้ าในบ้าน

ภาพที่ 8 แสดงการลาดบั การใชพ้ ลงั งานไฟฟ้ าจากเซลลส์ ุริยะ
ท่ีมา : อรษา อภิรมยว์ ไิ ลชยั , 13 มี.ค. 2551.

28

ปัจจุบนั การไฟฟ้ าฝ่ ายผลิตแห่งประเทศไทยไดน้ าเซลลส์ ุริยะมาใชผ้ ลิต
กระแสไฟฟ้ าใหต้ ามหมู่บา้ นที่อยหู่ ่างไกล ไม่มีสายไฟฟ้ าผา่ น นอกจากน้ียงั มีหน่วยงาน
อีกหลายแห่งไดน้ าเซลลส์ ุริยะไปใชผ้ ลิตไฟฟ้ า เพื่อใชใ้ นกิจการต่างๆ เช่น ใชใ้ นระบบสื่อสาร

กระแสไฟฟ้ าจากการเหนี่ยวนา

กระแสไฟฟ้ าเหนี่ยวนา เกิดจากการเคล่ือนท่ีของขดลวดตวั นา ตดั กบั
สนามแม่เหลก็ โดยเร็ว หรือ เกิดการเคล่ือนที่ของแท่งแม่เหลก็ ใหส้ นามแม่เหลก็ ตดั
ขดลวด หรือเกิดจากการเคลื่อนที่ท้งั ขดลวดตวั นาและแท่งแม่เหลก็ ทาใหเ้ กิด
การเปลี่ยนแปลงสนามแม่เหลก็ บนขดลวด จึงเกิดกระแสไฟฟ้ าไหลในขดลวด
ผคู้ น้ พบหลกั การน้ีคือ ไมเคิล ฟาราเดย์ (Michael Faraday) เป็นนกั วทิ ยาศาสตร์
ชาวองั กฤษ

พลงั งานไฟฟ้ าท่ีใชต้ ามบา้ นเรือนเป็นพลงั งานไฟฟ้ ากระแสสลบั
ซ่ึงการไฟฟ้ าผลิตข้ึน โดยใชเ้ คร่ืองกาเนิดไฟฟ้ าที่เรียกกวา่ ไดนาโม ซ่ึงอาศยั
หลกั การเหน่ียวนาทางแม่เหลก็ ไฟฟ้ า

ภาพท่ี 9 แสดงการเกิดกระแสไฟฟ้ าเหนี่ยวนาจากไดนาโม
ท่ีมา : http://www.sudipan.net/phpBB2/viewtopic.php?p=48448.

สืบคน้ วนั ที่ 2 ม.ค. 2551.

29

ส่ วนประกอบของไดนาโม
1. แท่งแม่เหลก็ 2 แท่ง โดยจะหนั ข้วั ต่างกนั เขา้ หากนั เพอ่ื ใหเ้ กิด

สนามแม่เหลก็ โดยจะมีเส้นแรงแม่เหลก็ พุง่ จากข้วั เหนือไปยงั ข้วั ใต้ และบริเวณข้วั
จะมีความเขม้ ของสนามแม่เหลก็ มากกวา่ บริเวณอ่ืน

2. ขดลวดอาร์เมเจอร์หรือโรเตอร์ (Armature or Rotor) คือ ขดลวดตวั นา
อาบน้ายานามาพนั รอบแกนเหลก็ อ่อน โดยปลายท้งั สองของขดลวดจะต่ออยกู่ บั
วงแหวนที่ทาหนา้ ท่ีจ่ายกระแสไฟฟ้ าออกไปสู่วงจรภายนอก อาร์เมเจอร์จะวางอยู่
ในสนามแม่เหลก็ และหมุนได้

3. วงแหวน (Output Ring) คือ ส่วนที่จ่ายกระแสไฟฟ้ าจากอาร์เมเจอร์
ออกไปสู่วงจรภายนอก วงแหวนมี 2 ชนิด คือ วงแหวนลื่น (Slip Ring) เป็นวงแหวน
ทองแดงกลม 2 วงใชก้ บั ไดนาโมกระแสไฟฟ้ าสลบั และ วงแหวนแยก (Split Ring) หรือ
คอมมิวเตเตอร์(Commutator) เป็นวงแหวนทองแดงผา่ ซีก ใชก้ บั ไดนาโมกระแสไฟฟ้ าตรง

4. แปรงตวั นาไฟฟ้ า (Brush) เป็นส่วนท่ีวงแหวนลื่นหรือวงแหวนแยก
มาแตะสมั ผสั เพ่ือรับกระแสไฟฟ้ าที่ไหลมาจากอาร์เมเจอร์ออกไปสู่วงจรภายนอก

ปัจจยั ทมี่ ผี ลต่อปริมาณกระแสไฟฟ้ าเหนี่ยวนาทไ่ี หลในขดลวด
1. จานวนรอบของขดลวด ถา้ ขดลวดมีจานวนรอบมาก ปริมาณกระแสไฟฟ้ า
เหน่ียวนาจะมาก
2. ความเขม้ ของสนามแม่เหลก็ ที่ตดั ผา่ นขดลวด ถา้ ความเขม้ ของ
สนามแม่เหลก็ มาก ปริมาณกระแสไฟฟ้ าเหนี่ยวนาจะมาก
3.ความเร็วในการเคล่ือนที่ของขดลวดหรือแท่งแม่เหลก็ ถา้ ขดลวด
หรือแท่งแม่เหลก็ เคลื่อนท่ีเขา้ ออกเร็ว ปริมาณกระแสไฟฟ้ าเหนี่ยวนาจะมาก

พลงั งานไฟฟ้ ามปี ระโยชน์ โปรดช่วยกนั ประหยดั

30

ไดนาโม เป็นเครื่องกาเนิดไฟฟ้ าที่สามารถผลิตและจ่ายกระแสไฟฟ้ าผา่ นเขา้ ไป
ในวงจรไดซ้ ่ึงมี 2 ลกั ษณะ คือ

1. ไดนาโมกระแสตรง เป็นเคร่ืองกาเนิดไฟฟ้ าชนิดกระแสตรง ซ่ึงกระแสไฟฟ้ า
ท่ีไดจ้ ะเหมือนกระแสไฟฟ้ าจากเซลลไ์ ฟฟ้ า หรือแบตเตอร์รี่

2. ไดนาโมกระแสสลบั เป็นเคร่ืองกาเนิดไฟฟ้ ากระแสสลบั ซ่ึงกระแสไฟฟ้ า
ท่ีไดจ้ ะไหลกลบั ไปกลบั มา จะเหมือนกระแสไฟฟ้ าที่ใชต้ ามบา้ นเรือน

วนักจิทก่ี ร..ร..ม...ท...ี่ ..3....เ.ร..ื่อ..ง..ไ..ด..น...า..โ.ม.................................................................................................

จุดประสงค์
1. นกั เรียนสามารถต่อวงจรไฟฟ้ าอยา่ งง่ายได้
2. อธิบายหลกั การผลิตกระแสไฟฟ้ าจากไดนาโมได้

อปุ กรณ์

1. ขดลวดทองแดงท่ีพนั รอบแกนพลาสติก 1 ชุด
2. แท่งแม่เหลก็ 1 แท่ง
3. แอมมิเตอร์ 1 เคร่ือง

วธิ ที ดลอง
1. ต่อสายไฟท่ีปลายขดลวดทองแดงท้งั สองขา้ งเขา้ กบั แอมมิเตอร์
2. จบั ขดลวดอยกู่ บั ท่ี แลว้ นาปลายขา้ งหน่ึงของแท่งแม่เหลก็ มาใกลๆ้

ขดลวด สงั เกตการเบนของเขม็ แอมมิเตอร์
3. เคลื่อนแท่งแม่เหลก็ เขา้ และออกจากขดลวดอยา่ งรวดเร็ว สงั เกตการเบน

ของเขม็ แอมมิเตอร์
4. เคล่ือนแท่งแม่เหลก็ เขา้ ไปในขดลวดแลว้ หยดุ นิ่ง สังเกตการเบน

ของเขม็ แอมมิเตอร์

31

5. จบั แม่เหลก็ อยกู่ บั ท่ีแลว้ นาขดลวดมาใกลป้ ลายของแท่งแม่เหลก็
เคล่ือนขดลวดเขา้ และออกจากแท่งแม่เหลก็ อยา่ งรวดเร็ว สงั เกตการเบน
ของเขม็ แอมมิเตอร์

ตารางบันทกึ ผล

การทดลอง การเบนของเขมแอมมเิ ตอร์
เบน ไม่เบน
ขดลวดอยกู่ บั ที่ และปลายแท่งแม่เหลก็ อยใู่ กล้
เคลื่อนแท่งแม่เหลก็ เขา้ และออกจากขดลวดอยา่ งเร็ว
เคล่ือนแท่งแม่เหลก็ เขา้ ไปในขดลวดแลว้ หยดุ
เคลื่อนขดลวดเขา้ และออกจากแท่งแม่เหลก็

คาถามหลงั ทากจิ กรรม

1. เมื่อจบั ขดลวดอยกู่ บั ท่ี แลว้ นาปลายขา้ งหน่ึงของแท่งแม่เหลก็ มาใกลๆ้ ขดลวด
เขม็ ของแอมมิเตอร์จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ อยา่ งไร……………………………...
…………………………………………………………………………………………...
2. เม่ือเคลื่อนแท่งแม่เหลก็ เขา้ และออกจากขดลวดอยา่ งรวดเร็ว
เขม็ ของแอมมิเตอร์จะเกิดการเปล่ียนแปลงหรือไม่อยา่ งไร………………………………
…………………………………………………………………………………………..
3. เมื่อนกั เรียนจบั แม่เหลก็ อยกู่ บั ท่ีแลว้ นาขดลวดมาใกลป้ ลายของแท่งแม่เหลก็
เคลื่อนขดลวดเขา้ และออกจากแท่งแม่เหลก็ อยา่ งรวดเร็ว เขม็ ของแอมมิเตอร์จะเกิด
การเปลี่ยนแปลงหรือไม่ อยา่ งไร……………………………...........................................
…………………………………………………………………………………………...

32

4. กระแสไฟฟ้ าท่ีเกิดข้ึน จากการทดลองน้ีมีทิศการไหลอยา่ งไร....................................
สงั เกตไดจ้ าก ....................................................................................................................
กระแสไฟฟ้ าชนิดน้ีเรียกวา่ ................................................................................................

สรุปผลการทดลอง
...........................................................................................................................................
...........................................................................................................................................
...........................................................................................................................................
...........................................................................................................................................
...........................................................................................................................................
...........................................................................................................................................
...........................................................................................................................................
...........................................................................................................................................

......สนามแม่เหลก หมายถงึ บริเวณ
โดยรอบแท่งแม่เหลก ทแ่ี ท่งแม่เหลก
สามารถส่งอานาจไปถึง ...

33

แบบฝึ กหดั ท่ี 2
เรื่อง การผลติ กระแสไฟฟ้ าจากเซลล์สุริยะและพลงั งานไฟฟ้ าเหนี่ยวนา

คาชี้แจง แบบฝึกหดั จานวน 10 ขอ้ 10 คะแนน เวลา 10 นาที

ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบที่ถูกตอ้ งที่สุดเพียงคาตอบเดียว โดยทาเครื่องหมาย X

ลงบนขอ้ ท่ีถูกตอ้ ง

** * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

1. กระแสไฟฟ้ าเหน่ียวนาเกิดข้ึนได้ 3. แหล่งกาเนิดไฟฟ้ าใดสามารถผลิต

อยา่ งไร ไฟฟ้ ากระแสสลบั ได้

ก. เกิดจากแท่งแม่เหลก็ เคลื่อนที่ตดั กบั ก. เซลลไ์ ฟฟ้ าเคมี

สนามแม่เหลก็ โลก ข. เซลลส์ ุริยะ

ข. เกิดจากแท่งแม่เหลก็ เคล่ือนที่ผา่ นเสน้ ค. ไดนาโม

แรงแม่เหลก็ ง. ถกู ทุกขอ้

ค. เกิดจากเส้นแรงแม่เหลก็ เคล่ือนที่ผา่ น

เสน้ แรงแม่เหลก็ 4. การกระทาในขอ้ ใดทาใหไ้ ด้

ง. เกิดจากขดลวดหมุนตดั เส้นแรง กระแสไฟฟ้ าปริมาณมาก

แม่เหลก็ 1) เพ่ิมความเร็วในการหมุนของขดลวด

2) ใชล้ วดสองชนิดพนั รอบแกนเดียวกนั

2. “ กระแสไฟฟ้ าเกิดจากการหมุนของ 3) ใชล้ วดท่ีมีเส้นผา่ นศนู ยก์ ลางเลก็ ลง

ขดลวดในสนามแม่เหลก็ ” เป็นหลกั การ มาพนั รอบแกน

ของสิ่งใด 4) เพ่มิ จานวนรอบของขดลวด

ก. มอเตอร์ ขอ้ ที่ถกู ตอ้ ง คือขอ้ ใด

ข. ไดนาโม ก. 1, 2

ค. เซลลไ์ ฟฟ้ าเคมี ข. 1, 3

ง. เคร่ืองวดั กระแสไฟฟ้ า ค. 1, 4

ง. 1, 2, 3 และ 4

5. ไดนาโมเป็นอุปกรณ์ที่มีการเปลี่ยน 34
รูปพลงั งานตรงกบั ขอ้ ใด
ก. พลงั งานกล เป็นพลงั งานไฟฟ้ า 8. ขอ้ ใดทาหนา้ ท่ีเปลี่ยนพลงั งาน
ข. พลงั งานไอน้า เป็นพลงั งานไฟฟ้ า แสงอาทิตยใ์ หเ้ ป็นพลงั งานไฟฟ้ า
ค. พลงั งานไฟฟ้ า เป็นพลงั งานกล ก. เตาสุริยะ
ง. พลงั งานความร้อน เป็นพลงั งานไฟฟ้ า ข. เครื่องคิดเลข
ค. เครื่องทาน้าอุ่น
ง. แบตเตอรี่

6. กิจกรรมใดเปล่ียนพลงั งานกลเป็น 9. เซลลส์ ุริยะผลิตกระแสไฟฟ้ าโดยการ
พลงั งานไฟฟ้ า เปล่ียนรูปพลงั งานอยา่ งไร
ก. เปิ ดวทิ ยฟุ ังเพลง ก. พลงั งานแสงเป็นพลงั งานไฟฟ้ า
ข. ถีบจกั รยานไฟหนา้ รถจะสวา่ ง ข. พลงั งานไฟฟ้ าเป็นพลงั งานแสง
ค. เปิ ดตูเ้ ยน็ หยบิ น้าอดั ลม ค. พลงั งานเคมีเป็นพลงั งานแสง
ง. กดสวติ ชไ์ ฟฟ้ า ง. พลงั งานแสงเป็นพลงั งานกล

7. ธาตุชนิดใดสามารถนามาทาเซลล์ 10. การผลิตกระแสไฟฟ้ าเป็นจานวน
สุริยะทาได้ มากเพือ่ ใหเ้ พยี งพอแก่ความตอ้ งการ
ก. ซิลิคอน ประชาชนใช้ ควรใชว้ ธิ ีการใด
ข. คาร์บอน ก. สร้างแบตเตอรี่ขนาดใหญ่จานวนมาก
ค. ฟอสฟอรัส ข. สร้างเซลลส์ ุริยะทุกหม่บู า้ น
ง. ทองแดง ค. สร้างโรงไฟฟ้ าพลงั งานความร้อน
ง. สร้างโรงไฟฟ้ าพลงั ลม

35

3. แหล่งกาเนิดพลงั งานไฟฟ้ าจากแหล่งอน่ื

แหล่งกาเนิดพลงั งานไฟฟ้ า จากแหล่งอ่ืนๆ มีตวั อยา่ งดงั น้ี

พลงั งานนา้
นามาผลิตเป็นกระแสไฟฟ้ า ทาได้
โดยใชพ้ ลงั งานจากแหล่งน้าท่ีตก
จากท่ีสูงเช่นเข่ือนไปหมุนกงั หนั ที่
ต่อกบั ไดนาโม

ภาพท่ี 10 การผลิตกระแสไฟฟ้ าจากเขื่อน
ที่มา : http://www.amulet.in.th/forums/images/1500.jpg ,สืบคน้ วนั ที่ 12 ม.ค. 2552.

พลงั งานลม
นามาผลิตเป็นกระแสไฟฟ้ า

โดยใชพ้ ลงั งานลมหมุนใบพดั ของ
กงั หนั ท่ีต่อกบั ไดนาโม

ภาพท่ี 11 การผลิตกระแสไฟฟ้ าจากพลงั งานลม
ท่ีมา : http://www.tint.or.th/nkc/nkc5004/nkc5004m-05.jpg, สืบคน้ วนั ที่11 ม.ค. 2552.

36

พลงั งานเชื้อเพลงิ จากซากดึกดาบรรพ์
นามาผลิตเป็นพลงั งานไฟฟ้ า
โดยการนาเอา พลงั งานจากถ่านหิน
แก๊สธรรมชาติ น้ามนั ปิ โตรเลี่ยม
นาไปใชเ้ ป็นเช้ือเพลิงในการตม้ น้าให้
เป็นไอน้าไปหมุนกงั หนั ท่ีต่อกบั ไดนาโม

ภาพท่ี 12 การผลิตกระแสไฟฟ้ าจากพลงั งานเช้ือเพลิงจากซากดึกดาบรรพ์
ที่มา : http://www.thaimuslim.com/Worldmuslim/pics/200911_02.jpg,สืบคน้ วนั ที่ 11 ม.ค. 2552.

พลงั งานความร้อนใต้พภิ พ
นาพลงั งานความร้อนใตพ้ ิภพ
มาผลิตกระแสไฟฟ้ าโดยบริเวณใตด้ ิน
บางพ้นื ท่ีของผวิ โลก มีน้าร้อนเป็นไอ
จากหินที่หลอมเหลว สามารถนาไอน้า
ไปหมุนกงั หนั ซ่ึงต่อกบั ไดนาโม

ภาพท่ี 13 การผลิตกระแสไฟฟ้ าจากพลงั งานความร้อนใตพ้ ภิ พ
ท่ีมา : http://www.tps.ac.th/~lop/astro/index_files/image235.jpg.jpg,สืบคน้ วนั ที่ 11 ม.ค. 2552.

พลงั งานนิวเคลยี ร์
พลงั งานนิวเคลียร์จากอะตอม
ของธาตุบางชนิดถูกปลดปล่อย เม่ือทาให้
มวลของนิวเคลียสเกิดการเปลี่ยนแปลง
นาพลงั งานท่ีเกิดข้ึน ไปตม้ น้าแลว้ นาไอน้า
ไปหมุนกงั หนั ท่ีต่อเขา้ กบั ไดนาโม

ภาพท่ี 14 การผลิตกระแสไฟฟ้ าจากพลงั งานนิวเคลียร์
ท่ีมา : http://std.kku.ac.th/5130406300/wer_clip_image001.jpg, สืบคน้ วนั ที่ 11 ม.ค. 2552.

37

แบบฝึ กหัดที่ 3
เรื่อง แหล่งกาเนิดพลงั งานไฟฟ้ า

ใหน้ กั เรียนเติมคาตอบท่ีถูกตอ้ งและสมบรู ณ์ที่สุดในช่องวา่ ง
1. ไฟฟ้ ามีประโยชนอ์ ยา่ งไรกบั มนุษย…์ ………………………………………………...
……………………….......................................................................................................
…………………………………………………………………………………………...
…………………………………………………………………………………………...
………….………………………………………………………………………………..
2. เพราะเหตุใดพลงั งานไฟฟ้ าจึงเป็นที่นิยมใชก้ นั มากที่สุดในปัจจุบนั ………………….
…………………...………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………...…
……………………….......................................................................................................
3. ใหน้ กั เรียนยกตวั อยา่ งการเปลี่ยนรูปของพลงั งานไฟฟ้ าเป็นพลงั งานต่างๆ……………
…………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………..
….............................................…………………………………………………………..
4. ใหน้ กั เรียนยกตวั อยา่ งวธิ ีการผลิตกระแสไฟฟ้ าพร้อมอธิบายการผลิต………………..
…………………………………………………………………………………………..
…...………………………………………………………………………………………
……...……………………………………………………………………………………
………...…………………………………………………………………………………
..................................................………………………………………………………….
5. ใหน้ กั เรียนอธิบายการส่งพลงั งานไฟฟ้ าจากแหล่งผลิตไปยงั บา้ นเรือน…
……...……………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………

38

แบบทดสอบหลงั เรียน
เรื่อง แหล่งกาเนิดพลงั งานไฟฟ้ า

คาชี้แจง แบบทดสอบปรนยั จานวน 10 ขอ้ 10 คะแนน เวลา 10 นาที

ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบท่ีถกู ตอ้ งท่ีสุดเพียงคาตอบเดียว โดยทาเคร่ืองหมาย X

ลงในกระดาษคาตอบ

** * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

1. ขอ้ ใดกล่าวไม่ถูกตอ้ ง 2. ถา้ กระแสไฟฟ้ าไหลจาก A ไปยงั B

ก. กระแสไฟฟ้ าเกิดจากการไหลของ ขอ้ ใดกล่าวไม่ถกู ตอ้ ง

อิเลก็ ตรอน ก. B แตกตวั เป็นไอออนลบได้

ข. กระแสไฟฟ้ าจะไหลจากศกั ยต์ ่า มากกวา่ A

ไปยงั ศกั ยส์ ูง ข. กระแสอิเลก็ ตรอนไหลจากB ไป A

ค. กระแสไฟฟ้ าจะไหลเมื่อความต่าง ค. สารละลายC แตกตวั เป็นไอออนได้

ศกั ย์ 2 จุด แตกต่างกนั ง. A เป็นข้วั บวก เพราะมีศกั ยไ์ ฟฟ้ า

ง. กระแสไฟฟ้ าจะเกิดเม่ือมีความ ต่ากวา่ B

แตกต่างของศกั ยไ์ ฟฟ้ า

3. จะไม่มีกระแสไฟฟ้ าไหลเมื่อใด

ใหน้ กั เรียนใชภ้ าพต่อไปน้ีตอบคาถาม 1) ใชข้ ้วั ไฟฟ้ าเป็นโลหะ B ท้งั คู่

ขอ้ 2-3 2) นาข้วั ไฟฟ้ า A และ B ที่จุ่มใน

แอมมิเตอร์ สารละลายมาแตะกนั
3) สลบั ข้วั ไฟฟ้ า A และ B

4) ศกั ยไ์ ฟฟ้ า A และ B เท่ากนั

5) ยกข้วั ไฟฟ้ า A หรือ B ออกจาก

สารละลาย

คาตอบขอ้ ใดถกู ตอ้ ง
โลหะ B ก. 1 2 3 4
โลหะ A

ข. 1 3 4 5

สารละลาย C ค. 2 3 4 5

ง. 1 2 4 5

39

4. หลกั การต่อไปน้ี ขอ้ ใดที่ไมเคิล 6. ส่ิงท่ีมีผลต่อปริมาณของ
ฟาราเดย์ เป็นผคู้ น้ พบ กระแสไฟฟ้ าที่เกิดจากหลกั การทางาน
ของไดนาโมคือขอ้ ใด
ก. ผา่ นกระแสไฟฟ้ าเขา้ ไปในตวั นา
จะเกิดสนามแม่เหลก็ ก. ขนาดของสนามแม่เหลก็
รอบตวั นาน้นั ข. อตั ราการหมุนของขดลวด
ค. จานวนรอบของขดลวดท่ีพนั
ข. เคล่ือนตวั นาตดั สนามแม่เหลก็
เร็ว ๆจะมีกระแสไฟฟ้ าเกิดข้ึน รอบแกน
ในตวั นาน้นั ง. ถกู ทุกขอ้

ค. เม่ือผา่ นกระแสไฟฟ้ าเขา้ ไปใน 7. ไดนาโมผลิตกระแสไฟฟ้ าโดยการ
ลวดที่ขดเป็นวงกลม จะมี เปลี่ยนรูปพลงั งานอยา่ งไร
สนามแม่เหลก็ เกิดภายในขดลวด
วงกลมน้นั ก. พลงั งานเคมีเป็น พลงั งานไฟฟ้ า
ข. พลงั งานแสงเป็น พลงั งานไฟฟ้ า
ง. เม่ืออุณหภมู ิคงที่ กระแสไฟฟ้ าที่ ค. พลงั งานกล เป็น พลงั งานไฟฟ้ า
ผา่ นตวั นาอนั หน่ึงจะเป็นปฏิภาค ง. พลงั งานศกั ยเ์ ป็น พลงั งานไฟฟ้ า
โดยตรงกบั ความต่างศกั ย์
ระหวา่ งปลายท้งั สองของตวั นา 8. เซลลส์ ุริยะทาดว้ ยสารก่ึงตวั นา ถา้
น้นั แผน่ หน่ึงทาดว้ ยซิลิคอนผสม
ฟอสฟอรัส อีกแผน่ หน่ึงจะเป็นซิลิคอน
5. กระแสไฟฟ้ าเหน่ียวนาคือ ผสมกบั สารใด
กระแสไฟฟ้ าที่เกิดข้ึนจากขอ้ ใด
ก. โครเมียม
ก. ไดนาโม ข. คาร์บอน
ข. ถ่านไฟฉาย ค. โบรอน
ค. แบตเตอร์ร่ีรถยนต์ ง. อะลมู ิเนียม
ง. ขอ้ ข และ ค ถกู ตอ้ ง

40

9. ในการผลิตกระแสไฟฟ้ าในประเทศ 10. ถา้ ตอ้ งการผลิตกระแสไฟฟ้ า
ไทย เราใชพ้ ลงั งานจากแหล่งใดมาก นกั เรียนคิดวา่ การผลิตกระแสไฟฟ้ า
ที่สุด จากแหล่งใดท่ีมีผลกระทบต่อ
ส่ิงแวดลอ้ มนอ้ ยท่ีสุด
ก. พลงั งานน้าจากเขื่อน ก. พลงั งานน้า
ข. พลงั งานแสงอาทิตย์ ข. พลงั งานน้ามนั
ค. กระแสลม ค. พลงั งานแสง
ง. น้ามนั เบนซิน ง. พลงั งานถ่านหิน

นักเรียนตอบแบบทดสอบครบทกุ ข้อแล้ว
ตรวจคาตอบได้จากเฉลยท้ายเล่ม นะคะ

เกณฑ์การประเมนิ
ตอบแบบทดสอบถูกต้งั แต่ 5 ขอ้ ข้ึนไป ถือวา่ ผา่ น

41

บรรณานุกรม

กาญจนา เนตรวงศ.์ ส่ือเสริมสาระการเรียนรู้พนื้ ฐาน แรงและการเคลอื่ นที่ พลงั งาน.
กรุงเทพมหานคร: ฟิ สิกส์เซ็นเตอร์, 2549.

ศรีลกั ษณ์ ผลวฒั นะ และคณะ . วทิ ยาศาสตร์ ช่วงช้ันท่ี3 (ม.1-ม.3) .พมิ พค์ ร้ังท่ี 1 .
กรุงเทพมหานคร: สานกั พมิ พน์ ิยมวทิ ยา, 2544 .

ปิ่ นศกั ด์ิ ชุมเกษียน และปิ ยาณี สมคิด . วทิ ยาศาสตร์ 2 ช่วงช้ันท3่ี (ม.1-ม.3) .พมิ พ์
คร้ังท่ี 1. กรุงเทพฯ : สานกั อกั ษรเจริญทศั น์ ,2544 .

พมิ พนั ธ์ เดชะคุปต์ และคณะ.วทิ ยาศาสตร์ ช่วงช้ันท่ี 3 (ม.3 ).กรุงเทพฯ:สถาบนั พฒั นา
คุณภาพวชิ าการ,2546.

ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลย,ี สถาบนั .หนังสือเรียนวทิ ยาศาสตร์เล่ม 6 ว
306 . กรุงเทพฯ:โรงพิมพค์ ุรุสภาลาดพร้าว, 2535.

ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลย,ี สถาบนั .คู่มอื ครูวทิ ยาศาสตร์เล่ม 6
ว 306 . กรุงเทพฯ:โรงพิมพค์ ุรุสภาลาดพร้าว, 2535

ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลย,ี สถาบนั . หนังสือเรียนแรงและการ
เคลอื่ นท่ี พลงั งาน . กรุงเทพฯ:โรงพิมพค์ ุรุสภาลาดพร้าว, 2544.

ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลย,ี สถาบนั .คู่มอื ครูแรงและการเคลอ่ื นท่ี
พลงั งาน . กรุงเทพฯ:โรงพิมพค์ ุรุสภาลาดพร้าว, 2544.

สุพจน์ แสงมณีและคณะ.วทิ ยาศาสตร์ ช่วงช้ันท่ี 3(ม.1-ม.3) .กรุงเทพมหานคร:
สานกั งานประสานมิตร, 2545.

http://www.amulet.in.th/forums/images/1500.jpg ,สืบคน้ วนั ที่ 12 ม.ค 2552.
http://www.bangkokbiznews.com/home/media/2009/03/23,สืบคน้ วนั ที่ 11 ม.ค 2551.
http://www.green.in.th/files/imagecache/greenpic_scale/images/Solarcell.jpg.

สืบคน้ วนั ที่ 11 มี.ค 2553.
http://www.std.kku.ac.th/5130406300/wer_clip_image001.jpg, สืบคน้ วนั ที่ 11 ม.ค

2552.

http://www.sudipan.net/phpBB2/viewtopic.php?p=48448.สืบคน้ วนั ที่ 2 ม.ค 2551

42

www.thaigoodview.com/.../content/2_5.htm.สืบคน้ วนั ท่ี 22 มิ.ย 2549.
http://www.thaimuslim.com/Worldmuslim/pics/200911_02.jpg,สืบคน้ วนั ท่ี 11 ม.ค

2552.
http://www.tint.or.th/nkc/nkc5004/nkc5004m-05.jpg, สืบคน้ วนั ท่ี11 ม.ค 2552.
http://www.tps.ac.th/~lop/astro/index_files/image235.jpg.jpg,สืบคน้ วนั ท่ี 11 ม.ค
2552.:


Click to View FlipBook Version