The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by orasa, 2019-11-25 02:55:35

แผนการสอน หน่วยที่ 1แรงและความเร็วที่เปลี่ยนแปลง

แผนการสอน หน่วยที่ 1

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 1

กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตรพ์ ืน้ ฐาน รหสั วชิ า ว 23101

ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 1 ครผู ูส้ อน อรษา อภริ มย์วไิ ลชัย โรงเรยี นวัชรวทิ ยา

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 1 เรือ่ ง แรงและการเคลอ่ื นท่ี เวลา 6 ชวั่ โมง

แผนการสอนท่ี 2 เร่อื ง ความหมาย และชนิดของแรง เวลา 1 ช่วั โมง

1. สาระสาคญั / ความคิดรวบยอด
ในการดารงชวี ติ ประจาวันของมนษุ ย์เกี่ยวข้องกับแรงและการเคลอื่ นที่ วัตถุแม้นจะหยดุ นง่ิ

แตก่ อ็ ยภู่ ายใตแ้ รงทก่ี ระทาต่อวัตถุ แรงจะเป็นอานาจอยา่ งหนง่ึ ท่ีกระทาต่อวตั ถทุ สี่ ามารถกระทาหรอื
พยายามที่จะกระทาตอ่ วตั ถุให้เกิดการเปลยี่ นแปลงภาพการเคลอื่ นท่ี หรือเปล่ียนรูปลักษณะรูปรา่ ง
โดยแรงในธรรมชาตทิ ่เี ปน็ พน้ื ฐานของแรงทัง้ หลาย ตามหลกั วชิ าฟสิ ิกส์ สามารถแบ่งออกได้เปน็ 4
ประเภท คอื แรงดงึ ดูดระหวา่ งมวล แรงแมเ่ หลก็ แรงไฟฟา้ และ แรงนวิ เคลยี ร์

2. มาตรฐานการเรยี นรู้
สาระการเรยี นรูท้ ี่ 4 แรงและการเคลือ่ นท่ี
มาตรฐาน ว 4. 1 เข้าใจธรรมชาตขิ องแรงแม่เหลก็ ไฟฟา้ แรงโนม้ ถว่ ง และแรงนวิ เคลียร์ มี
กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สือ่ สารส่งิ ทเ่ี รยี นรแู้ ละนาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์
อยา่ งถูกตอ้ งและมคี ณุ ธรรม
สาระการเรยี นรู้ท่ี 8 ธรรมชาติของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

มาตรฐานท่ี ว 8. 1 ใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละจิตวทิ ยาศาสตรใ์ นการสบื เสาะหา
ความรู้ การแกป้ ัญหา รวู้ า่ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาตทิ เี่ กิดข้นึ ส่วนใหญ่มีรปู แบบทีแ่ นน่ อน สามารถ
อธบิ ายและตรวจสอบได้ ภายใตข้ ้อมูลและเครอ่ื งมอื ทีม่ อี ยูใ่ นช่วงเวลานัน้ ๆ เขา้ ใจวา่ วิทยาศาสตร์
เทคโนโลยี สงั คม และสง่ิ แวดลอ้ มมคี วามเก่ียวข้องสมั พันธ์กนั

1. ต้งั คาถามท่กี าหนดประเด็นหรือตัวแปรท่สี าคญั ในการสารวจตรวจสอบ หรือศกึ ษา
ค้นควา้ เรือ่ งทีส่ นใจได้อย่างครอบคลุมและเช่อื ถอื ได้

2. สรา้ งสมมติฐานทส่ี ามารถตรวจสอบไดแ้ ละวางแผนการสารวจตรวจสอบหลายๆ วธิ ี

3. เลือกเทคนิควิธีการสารวจตรวจสอบท้ังเชิงปรมิ าณและเชงิ คุณภาพทไ่ี ด้ผลเที่ยงตรงและ
ปลอดภัย โดยใช้วสั ดแุ ละเครือ่ งมอื ท่ีเหมาะสม

4. รวบรวมขอ้ มูล จัดกระทาข้อมลู เชิงปรมิ าณและคณุ ภาพ

5. วิเคราะห์และประเมนิ ความสอดคล้องของประจักษพ์ ยานกับขอ้ สรุป ทั้งที่สนับสนุนหรือ
ขัดแยง้ กบั สมมติฐาน และความผิดปกติของข้อมูลจากการสารวจตรวจสอบ

6. สรา้ งแบบจาลอง หรอื รปู แบบ ท่ีอธิบายผลหรอื แสดงผลของการสารวจตรวจสอบ

7. สร้างคาถามทนี่ าไปสกู่ ารสารวจตรวจสอบ ในเร่ืองท่ีเกยี่ วข้อง และนาความรู้ทไ่ี ดไ้ ปใช้
ในสถานการณ์ใหมห่ รืออธบิ ายเก่ียวกบั แนวคิด กระบวนการ และผลของโครงหงราือนช้ินงานใหผ้ ้อู นื่ เขา้ ใจ

8. บันทกึ และอธิบายผลการสังเกต การสารวจ ตรวจสอบ ค้นคว้าเพิม่ เตมิ จากแหล่งความรู้
ตา่ ง ๆ ให้ไดข้ ้อมลู ที่เช่อื ถือได้ และยอมรบั การเปลี่ยนแปลงความรูท้ ่ีค้นพบเมือ่ มขี ้อมูลและประจกั ษ์
พยานใหม่เพม่ิ ข้ึนหรือโต้แย้งจากเดิม

9. จัดแสดงผลงาน เขยี นรายงาน และ/หรืออธบิ ายเก่ยี วกับแนวคิด กระบวนการ และผล
ของโครงงานหรอื ช้นิ งานให้ผอู้ ่ืนเข้าใจ

มาตรฐานการเรยี นรชู้ ว่ งช้นั
อภปิ รายและอธบิ ายไดว้ ่าแรงเปน็ ปรมิ าณเวกเตอร์ ทาการทดลองหาแรงลัพธ์ของ

แรงหลายแรงที่กระทาตอ่ วตั ถุในระนาบเดยี วกนั
สารวจตรวจสอบและอธบิ ายว่าแรงลพั ธม์ ีผลทาใหว้ ัตถุมคี วามเร่งในทศิ เดียวกบั แรง

ลพั ธ์นั้น

3. ตวั ชีว้ ดั
1. อธบิ ายความหมายของแรงและสมบัตขิ องแรงได้
2. ทดลองและอธิบายแรงเป็นปรมิ าณเวกเตอร์
3. ทดลองและอธบิ ายแรงลัพธข์ องแรงหลายแรงท่ีกระทาตอ่ วตั ถใุ นระนาบเดยี วกนั
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธิบายความหมายของแรงได้
2. อธิบายผลของแรงทีม่ ีตอ่ การเปลี่ยนสภาพของวัตถุได้
3. บอกหน่วยของแรงได้
4. อธบิ ายปรมิ าณทางฟิสิกส์ได้
5. อธบิ ายชนดิ ของแรงตา่ งๆ ได้
6. ทดลองและอธบิ ายหลกั การของแรงบางชนิดได้

4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรยี นรู้ชว่ งชน้ั
การอภิปรายเกี่ยวกับเวกเตอรข์ องแรง การทดลองหาแรงลัพธ์ของแรงหลายแรง
ความรู้
1. ความหมายของแรง
2. ผลของแรงท่ีมตี อ่ การเปลี่ยนสภาพของวัตถุ
3. หนว่ ยของแรง
4. ปรมิ าณทางวทิ ยาศาสตร์
5. ชนดิ ของแรงประเภทต่างๆ
6. การทดลองและหลกั การของแรง

ทกั ษะ/สมรรถนะ
1. ทักษะการสื่อสารอย่างสร้างสรรคต์ ามชว่ งวยั
2. ตรวจสอบและอธบิ ายผลของแรงท่ีมีต่อการเคล่อื นทไี่ ด้

คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
1. ซอื่ สัตยส์ จุ รติ
2. ไผ่เรยี นรู้ มงุ่ มัน่ ในการทางาน

การบรู ณาการ
สาระการเรียนรูอ้ าเซยี น -
สาระการเรยี นรูท้ ้องถ่ิน -
หลกั เศรษฐกจิ พอเพียง -

5. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น
1. ความสามารถในการสอ่ื สารอยา่ งสร้างสรรคต์ ามช่วงวยั
2. ความสามารถในการคดิ คดิ วิเคราะห์ และการคิดอย่างเปน็ ระบบ

จุดเน้นทีต่ ้องการพัฒนาผู้เรียนด้านสมรรถนะ
ทักษะการสอ่ื สารอย่างสร้างสรรคต์ ามชว่ งวัย

6. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. ซ่อื สัตยส์ จุ รติ
2. ไผ่เรยี นรู้ มุ่งมัน่ ในการทางาน

จดุ เนน้ ทีต่ ้องการพัฒนาผูเ้ รยี นด้านคุณลักษณะ
คุณลัก ษณะการไผ่เรยี นรู้ และมงุ่ ม่นั ในการทางาน

7. ชนิ้ งาน/ภาระงาน 2) ทดสอบหลังเรยี น
1) ทดสอบกอ่ นเรยี น 4) ใบงาน/แบบฝกึ
3) รายงานปฏบิ ตั ิการทดลอง
5) สมุดบนั ทกึ การเรยี น

8. การวดั ผลและประเมินผล

8.1 การประเมนิ ระหวา่ งจัดกิจกรรมการเรียนรู้

ชน้ิ งาน/ภาระงาน วธิ กี ารประเมนิ เครือ่ งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ
-
1. ทดสอบ1ก.อ่ นเรียน 1. ให้นกั เรียนทา 1. 1. แบบทดสอบกอ่ นเรียน

แบบทดสอบก่อนเรยี น

2. รายงาน2. 1. สังเกตพฤตกิ รรร2ม.นักเรยี น 1. แบบประเมนิ ทักษะการ 1. นกั เรียนผา่ นเกณฑ์
ปฏบิ ตั ิการทดลอง
ภายในกล่มุ ขณะปฏิบตั กิ าร ปฏิบัติการทดลอง ประเมินตามแบบประเมิน
3.
ทดลอง และศกึ ษาเ3อ.กสาร ทกั ษะการปฏบิ ตั ิการทดลอง

ประกอบการเรียนการสอน อย่างนอ้ ย 50 %

2. ใหน้ ักเรยี นเขียนรายงาน

ผลการศกึ ษากิจกรรมการ

ทดลอง

8.2 การประเมนิ เมื่อสิน้ สดุ การเรียนรู้

ช้นิ งาน/ภาระงาน วธิ ีการประเมนิ เครือ่ งมือ เกณฑ์การประเมิน
1. แบบทดสอบหลงั 1. นกั เรยี นทาแบบทดสอบ
1. ทดสอ4บ.หลัง 1. ใหน้ ักเรียนทา เรยี น หลังเรียนไดผ้ า่ นเกณฑ์
เรียน แบบทดสอบหลงั เรยี น ประเมนิ ร้อยละ 80
1. นักเรียนตอบคาถามของ
3. ใบงาน5/. 1. ให้นกั เรยี นทาแบบฝึกหัด 1. ใบงาน/แบบฝึกหดั ครูไดอ้ ยา่ งน้อย 50 %
แบบฝึกหดั หรือใบงาน 2. นักเรียนผ่านเกณฑ์ประเมนิ
ตามแบบประเมนิ การแสวงหา
6. 1. ใหน้ กั เรยี นสรุป - ขอ้ มลู ของ
4. สมุดบ7นั .ทกึ สาระสาคญั ลงในสมดุ นกั เรยี นอยา่ งนอ้ ย 50 %
3. นักเรียนทาแบบฝกึ หดั ได้
8. คะแนนอยา่ งนอ้ ย 50 %
นกั เรยี นสรปุ สาระสาคัญลงใน
สมดุ ได้ถูกต้องครบถว้ น

10. กิจกรรมการจดั การเรียนรู้
( การจดั การเรียนการสอนแบบกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5 E )

ขัน้ สรา้ งความสนใจ
1. ทดสอบความรู้ก่อนเรยี นของนักเรียน เร่อื ง ความหมายและชนิดของแรงตา่ งๆ
2. นักเรยี นและครูรว่ มกนั อธิบายการดาเนนิ ชวี ิตประจาวนั การเคล่ือนทีข่ องวัตถุ และ การเปลี่ยน

สภาพของวัตถุ เกี่ยวข้องกบั แรง หรอื ไม่อย่างไร โดยครูใช้คาถาม และฉายภาพเกยี่ วกับเครอื่ ง
เลน่ ตา่ งๆ และถามนานักเรยี นดังนี้
1) ในชีวติ ประจาวันตั้งแตต่ ่ืนข้นึ มา ของนกั เรยี น เก่ยี วขอ้ งกบั แรงหรอื ไมอ่ ยา่ งไร
แนวตอบ ต้งั แต่ต่ืนเราจะเกย่ี วข้องกบั แรงตลอด
2) นักเรียนรู้จักแรอะไรบา้ ง ในชวี ติ ประจาวนั
แนวตอบ แรงโน้มถว่ ง แรงลอยตัว แรงหมนุ แรงขนาน แรงค่คู วบ

ขน้ั สารวจและค้นหา
3. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่ม รบั เอกสารประกอบการเรยี น เพื่อรว่ มกนั ศกึ ษาคน้ ควา้ หาคาตอบตามคาถาม

ของครู
ดงั นี้
1) วตั ถทุ ว่ี างอยูก่ บั พนื้ มแี รงเข้ามาเกย่ี วขอ้ งหรือไม่ และมีแรงอะไรบ้าง
แนวตอบ มแี รงท่เี กย่ี วข้องจานวน 2 แรง คอื แรงกดของวัตถุท่กี ดบนพ้ืน และแรงทพี่ ้ืนดันวตั ถุ

แรงกดของวตั ถุ

แรงที่พนื ้ ดนั วตั ถุ

2) มดี ินนา้ มันหน่งึ ก้อน ถา้ กดให้แบนลง ใช้แรงหรือไม่
แนวตอบ ใชแ้ รง
3) การผลักตู้ใหเ้ คลื่อนท่ใี ช้แรงหรือไม่
แนวตอบ ใชแ้ รงผลัก
4) ขณะวัตถุกาลงั เคลือ่ นที่ แล้วเอามอื ไปก้นั ให้หยดุ เคล่ือนท่ี ใช้แรงหรือไม่
แนวตอบ ใชแ้ รงผลกั
5) ขณะวตั ถเุ คลอ่ื นท่มี าตรงๆ เราผลกั ให้วัตถเุ ปลย่ี นทิศ ใชแ้ รงหรือไม่
แนวตอบ ใชแ้ รงผลัก
6) นักเรยี นคิดว่าการเปล่ียนสภาพเดิมของวตั ถนุ ั้นเป็นผลเนื่องมาจากอะไร
แนวตอบ แรงทไี่ ปกระทากบั วัตถุ

7) แรงหมายถงึ อะไร
แนวตอบ ส่งิ ที่มากระทากับวตั ถแุ ลว้ ทาใหว้ ตั ถเุ ปลยี่ นสภาพการเคลื่อนที่ เปลยี่ นรูปรา่ ง หรอื
เปล่ยี นทศิ การเคลอ่ื นท่ี
8) หนว่ ยของแรงคอื อะไร
แนวตอบ นิวตนั
9) ถ้าต้องการวัดขนาดของแรงต้องทาอยา่ งไร
แนวตอบ ใช้เครื่องชัง่ สปริง
10) ปริมาณทางฟิสิกส์ แบ่งเป็นกช่ี นิดอะไรบ้าง
แนวตอบ 2 ชนดิ คือ ปริมาณเวกเตอร์ และสเกลลาร์
11) นักเรยี นมีวธิ กี ารตรวจสอบแรงในธรรมชาตบิ างชนิดได้อยา่ งไร
แนวตอบ ใช้เครื่องช่ังสปริงในการตรวจสอบ
4. นักเรียนศกึ ษาใบความรู้ และปฏบิ ตั ิตามใบงาน

ขน้ั อธิบายและลงข้อสรปุ
5. นักเรียนและครรู ว่ มกนั อธบิ ายสรปุ คาตอบของคาถามแต่ละขอ้
6. นักเรียนบนั ทึกสาระสาคญั จากการสรปุ ในใบงาน

ขนั้ ขยายความรู้
11. ครแู ละนักเรียนร่วมกันอธบิ ายการนาความรู้ทไ่ี ด้จากการศกึ ษาเร่อื ง ความหมายและ

ชนดิ ของแรงตา่ งๆ สอดคลอ้ งกับปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง 3 ห่วง 2 เงอื่ นไข โดยใหน้ ักเรียนนา
ความร้ทู ไี่ ด้ไปเปน็ ภูมคิ ุม้ กันตนเอง และเข้าใจถงึ การใช้ประโยชนจ์ ากแรงตา่ งๆ ในชีวิตประจาวัน
เพื่อนาไปสเู่ งอ่ื นไขคุณธรรม ความมสี ติ มีปญั ญาไม่เบยี ดเบียนกันและควรมีความสามคั คีกัน
โดยใชเ้ วลาอย่างพอประมาณในการทากิจกรรม 5 นาที

ข้ันประเมิน
1 2. ครใู ห้นักเรยี นแตล่ ะคนไดพ้ จิ ารณาหนงั สือแบบเรียน และใบความรู้ ท่ศี ึกษามาว่ามี
หวั ขอ้ ใดบ้างท่ีจะใหค้ รชู ว่ ยอธิบายเพิ่มเตมิ หรอื การปฏิบตั ิกิจกรรมมีปญั หาหรืออุปสรรคใดที่ควรไดร้ บั
การแกไ้ ข

13. นักเรียนนาสมดุ และใบงานส่งครูหน้าชั้นเรยี น
14. ทดสอบหลังเรียนดว้ ยคาถาม จานวน 10 ข้อ

10. สื่อการเรียนรู้ /แหล่ งการเรียนรู้
สื่อการเรยี นรู้
1. ใบความรู้ เร่ือง ความหมายของแรงและชนดิ ของแรง
2. ใบงาน เร่อื ง ความหมายของแรง และชนดิ ของแรง
3. ใบงาน เรื่องการวดั ขนาดของแรงดว้ ยตาช่ังสปรงิ
4. ใบงาน เรือ่ งน้าหนักของวตั ถุขึ้นอยู่กบั มวลของวตั ถุ
5. ใบงาน เร่อื งแรงกริ ยิ าและแรงปฏิกิรยิ า
6. ใบงาน เรอ่ื งการเคลื่อนทีข่ องรถตดิ ลูกโป่ง
7. ใบงาน เรื่องมาทารม่ ชูชีพกันเถอะ
8. ภาพประกอบกจิ กรรมต่างๆ ที่เก่ียวขอ้ งกับการใชแ้ รงในชีวิตประจาวนั
9. แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง ความหมายของแรง และชนดิ ของแรง
10. แบบทดสอบหลงั เรยี น เร่ือง ความหมายของแรง และชนิดของแรง

แหลง่ การเรยี นรู้
1. ห้องสมดุ โรงเรยี นวัชรวทิ ยา
2. ห้องสมดุ กลุ่มสาระวชิ า
3. เวปไซส์ทเ่ี ก่ียวขอ้ งกบั แรง และการเคล่อื นที่

11. กจิ กรรมเสนอแนะ
1. ให้นกั เรียนสืบคน้ ขอ้ มลู เกย่ี วกับแรง จากส่อื ออนไลน์

http://e-learning.e-tech.ac.th/learninghtml/somchai/unt11/un11.html
เรือ่ ง แรงและชนดิ ของแรง

บันทกึ ผลหลงั การสอนแผนการสอนท่ี 1 เรือ่ ง ความหมายของแรง และชนดิ ของแรง
ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 วิชา วิทยาศาสตร์พ้นื ฐาน รหสั วิชา ว 23101
ครผู ้สู อน นางอรษา อภิรมย์วิไลชยั

1. ผลการสอน

1.1 สรุปผลการสอน

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

1.2 หาความกา้ วหน้าในการเรยี น การสอน

จานวน คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน E1/E2 ความก้าว

นักเรียน เตม็ เฉลีย่ ก่อน เฉลยี่ เฉล่ยี หลงั หนา้ ในการ

เรียน ระหวา่ ง เรยี น เรยี น

เรียน

รอ้ ยละความกา้ วหนา้ = คะแนนหลงั เรียน-คะแนนก่อน X 100
2. ปัญหา/อุปสรรค์ เรียน คะแนนเต็ม

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………..……………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชือ่ ..........................................................................
( นางอรษา อภริ มย์วไิ ลชัย )

ตาแหนง่ ครูชานาญการพิเศษ โรงเรยี นวัชรวิทยา
วันท่ี เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2562

ความคิดเห็นของหัวหนา้ กล่มุ สาระ ความคิดเหน็ ของรองผู้อานวยการกล่มุ
การเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ บรหิ ารงานวชิ าการ

........................................................ ........................................................
....................................................... .......................................................
....................................................... .......................................................
....................................................... .......................................................
....................................................... .......................................................

ลงชื่อ............................................ ลงช่อื ............................................

( นางตวงรัตน์ อน้ อนิ ) ( นายวเิ ชียร ยอดนลิ )

หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ รองผู้อานวยการกลมุ่ บริหารงานวชิ าการ

วันที่ เดือน พ.ศ. 2562 วันที่ เดอื น พ.ศ. 2562

ขอ้ เสนอแนะของหวั หนา้ สถานศึกษา

…………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
………………………………………………….……………………………………………………………………………….…………
…………….………………………………………………………………………………………………….……………………………
………………..………………………………………………………….………………….……………………………………….……
…………………………………………………………………………………………….……………………………………….………

( นายไพชยนต์ ศรีมว่ ง )
ผอู้ านวยการโรงเรียนวชั รวทิ ยา
วนั ท่ี ...... เดือน ................................ พ.ศ. 2562

บันทึกหลังการสอน วิชาวทิ ยาศาสตร์พื้นฐาน ว 23101 ปีการศึกษา 2559
แผนการสอนท่ี 2 ความหมาย และชนดิ ของแรงต่างๆ

ผลการสอน ปญั หาการสอน ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการ
แก้ปญั หา

...………………………................... ...………………………................... ...………………………...................

……นกั เรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1. ระหว่างทาการทดลอง 1. ให้นกั เรียนท่มี ี

3/6, 3/7 และ 3/8 สามารถ นกั เรียนบางกลุ่มเสยี งดัง ไม่ ความสามารถในการเรียนที่

เรยี นรไู้ ด้เรว็ ทากิจกรรมผ่าน ศกึ ษาการทดลองใหใ้ ห้ ดีกว่า ชว่ ยเหลอื เพอ่ื นทีเ่ รียน

เกณฑ์การประเมินตาม รอบคอบ ทาใหใ้ ช้เวลาในการ ออ่ น

จุดประสงคท์ ุกข้อ ส่งงาน ได้ ทดลองนานกว่ากลมุ่ อน่ื ๆ…… กวา่ ……………………………......

ตรงตามเวลา 2. พน้ื หอ้ งเรียนและพน้ื โต๊ะ 2. ออกแบบทดสอบหลายๆ

……………………...................... ปฏิบัติการ เรียบและล่นื ชุด …………………………...........

………………………….................. เหมอื นกัน ทดลองแล้วไมเ่ ห็น …………………………………………

………………………….................. ความแตกตา่ ง …………………………..................

………………………………………… 3. ขณะทาการทดสอบ …………………………………………

………………………….................. นกั เรยี นบางคนแอบลอก …………………………..................

………………………….................. คาตอบจากเพ่อื น……………… …………………………..................

ลงชอื่ .......................................................................
(นางอรษา อภิรมย์วไิ ลชัย)

ตาแหนง่ ครูชานาญพเิ ศษ โรงเรียนวัชรวทิ ยา

แผนการจดั การเรยี นรู้ 2

กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ วชิ าวทิ ยาศาสตร์พื้นฐาน รหสั วชิ า ว 23101

ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 1 ครผู สู้ อน อรษา อภริ มย์วิไลชยั โรงเรยี นวชั รวิทยา

หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 1 เรอ่ื ง แรง และการเคลื่อนที่ เวลา 20 ชว่ั โมง

แผนการสอนท่ี 2 เรือ่ ง แรงโนม้ ถว่ ง เวลา 3 ช่วั โมง

1. สาระสาคัญ
แรงโน้มถว่ งเปน็ แรงที่เกดิ จากมวลของโลกกระทาตอ่ มวลของวัตถุ และดึงดดู วัตถุในทศิ เข้าสู่

ศนู ย์กลางของโลก โดยจะกระทาตลอดเวลา แรงดงึ ดูดระหวา่ งมวลของวตั ถใุ ด ๆ กบั มวลของโลกจะ
มากหรือนอ้ ยข้นึ อย่กู บั มวลของวตั ถุและระยะหา่ งจากจุดศูนยก์ ลางของโลก และแรงโน้มถ่วงที่กระทา
ต่อวตั ถุทาให้วตั ถุมีนา้ หนัก เราสามารถนาแรงโน้มถ่วงมาใชป้ ระโยชน์ในชวี ติ ประจาวนั ในเรือ่ งของ
การผลิตกระแสไฟฟ้าจากกระแสน้า การสร้างเครอื่ งเล่น และสง่ิ อนื่ ๆ

2. มาตรฐานการเรียนรู้
สาระการเรียนรู้ท่ี 4 แรงและการเคลอ่ื นท่ี
มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจลักษณะการเคลือ่ นท่แี บบต่างๆ ของวัตถุในธรรมชาติ มกี ระบวนการ

สบื เสาะหาความรแู้ ละจติ วทิ ยาศาสตร์ สื่อสารสง่ิ ที่เรียนร้แู ละนาความรไู้ ปใช้ประโยชน์
สาระการเรียนรู้ท่ี 8 ธรรมชาตขิ องวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

มาตรฐานท่ี ว 8. 1 ใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจติ วทิ ยาศาสตรใ์ นการสบื
เสาะหาความรู้ การแกป้ ัญหา รวู้ ่าปรากฏการณ์ทางธรรมชาติทเ่ี กิดขึ้นสว่ นใหญ่มรี ูปแบบท่แี น่นอน
สามารถอธบิ ายและตรวจสอบได้ ภายใตข้ ้อมูลและเคร่ืองมอื ท่มี อี ยใู่ นชว่ งเวลานนั้ ๆ เข้าใจว่า
วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และส่ิงแวดล้อมมีความเกย่ี วขอ้ งสัมพนั ธ์กัน

1. ตัง้ คาถามทก่ี าหนดประเด็นหรือตัวแปรท่สี าคญั ในการสารวจตรวจสอบ หรือศึกษา
ค้นควา้ เร่อื งทสี่ นใจได้อย่างครอบคลุมและเชอื่ ถอื ได้

2. สรา้ งสมมติฐานทส่ี ามารถตรวจสอบไดแ้ ละวางแผนการสารวจตรวจสอบหลายๆ วธิ ี

3. เลือกเทคนคิ วิธีการสารวจตรวจสอบทงั้ เชิงปริมาณและเชงิ คุณภาพทไี่ ด้ผลเท่ยี งตรงและ
ปลอดภยั โดยใช้วสั ดุและเครื่องมือที่เหมาะสม

4. รวบรวมข้อมลู จดั กระทาข้อมูลเชงิ ปรมิ าณและคุณภาพ

5. วิเคราะห์และประเมินความสอดคล้องของประจกั ษ์พยานกับข้อสรุป ท้งั ทีส่ นับสนุนหรอื
ขดั แยง้ กบั สมมตฐิ าน และความผดิ ปกติของขอ้ มลู จากการสารวจตรวจสอบ

6. สร้างแบบจาลอง หรอื รปู แบบ ทอ่ี ธิบายผลหรอื แสดงผลของการสารวจตรวจสอบ
7. สรา้ งคาถามท่ีนาไปสกู่ ารสารวจตรวจสอบ ในเรอื่ งที่เก่ียวขอ้ ง และนาความรทู้ ่ไี ดไ้ ปใช้
ในสถานการณใ์ หมห่ รืออธบิ ายเกย่ี วกบั แนวคิด กระบวนการ และผลของโครงหงราอืนชิ้นงานใหผ้ อู้ น่ื เขา้ ใจ

8. บันทึกและอธิบายผลการสงั เกต การสารวจ ตรวจสอบ ค้นคว้าเพ่ิมเติมจากแหลง่ ความรู้
ตา่ ง ๆ ให้ไดข้ ้อมลู ท่ีเชือ่ ถือได้ และยอมรับการเปลี่ยนแปลงความร้ทู ค่ี น้ พบเมื่อมีข้อมลู และประจักษ์
พยานใหมเ่ พ่ิมข้นึ หรือโตแ้ ย้งจากเดิม

9. จัดแสดงผลงาน เขียนรายงาน และ/หรืออธิบายเกีย่ วกับแนวคิด กระบวนการ และผล
ของโครงงานหรอื ช้ินงานให้ผูอ้ ่ืนเข้าใจ

มาตรฐานการเรยี นร้ชู ่วงชัน้
เขา้ ใจธรรมชาติของแรงแมเ่ หล็กไฟฟา้ แรงโน้มถว่ ง และแรงนิวเคลียร์ มีกระบวนการสบื
เสาะหาความรู้ สอื่ สารสงิ่ ทเี่ รียนรูแ้ ละนาความรไู้ ปใช้ประโยชนอ์ ย่างถูกต้องและมคี ุณธรรม

3. ตัวชีว้ ัด
ทดลองและอธบิ ายแรงกิริยาและแรงปฏกิ ิรยิ าระหว่างวตั ถุและนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. ทดลองวัดคา่ แรงโนม้ ถว่ งของโลกท่กี ระทาตอ่ วัตถุ
2. ทดลองและอธบิ ายไดว้ ่าแรงโนม้ ถว่ งของโลกทก่ี ระทาต่อวัตถมุ ีความสัมพันธ์กบั มวลของ

วตั ถุ
3. บอกความหมายของนา้ หนกั ของวัตถไุ ด้
4. สารวจประโยชน์ของแรงโนม้ ถ่วงทีใ่ ชใ้ นชีวติ ประจาวัน

4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรยี นรู้ช่วงชน้ั
ทดลองและอธิบายไดว้ า่ แรงโน้มถ่วงของโลกที่กระทาต่อวตั ถมุ คี วามสัมพนั ธ์

กบั มวลของวัตถุ
ความรู้
1. การทดลองหาคา่ แรงโนม้ ถ่วงของโลก
2. ความสัมพนั ธ์ระหว่างแรงโนม้ ถ่วงของโลกกบั มวลของวัตถุ
3. ความหมายของมวลและน้าหนักของวตั ถุ
4. ประโยชน์ของแรงโน้มถ่วงของโลก ท่ีใชใ้ นชวี ิตประจาวัน

ทักษะ/สมรรถนะ
ทักษะการสอื่ สารอยา่ งสรา้ งสรรคต์ ามชว่ งวัย
ตรวจสอบและอธบิ ายแรงโน้มถว่ ง
คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. ซื่อสตั ย์สจุ รติ
2. ไผ่เรยี นรู้ มงุ่ ม่ันในการทางาน

สาระการเรยี นรทู้ ้องถิ่น -
สาระการเรยี นรู้เกย่ี วกบั อาเซยี น -
สาระการเรยี นรู้เศรษฐกจิ พอเพียง -

5. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
1. ความสามารถในการสื่อสารอย่างสร้างสรรคต์ ามชว่ งวัย
2. ความสามารถในการคิด คิดวิเคราะห์ และการคิดอย่างเป็นระบบ

จุดเนน้ ทต่ี ้องการพัฒนาผูเ้ รียนด้านสมรรถนะ
ทกั ษะการส่ือสารอยา่ งสร้างสรรคต์ ามช่วงวัย

6. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. ซอ่ื สตั ย์สุจริต
2. ไผ่เรียนรู้ ม่งุ ม่นั ในการทางาน

จดุ เนน้ ที่ต้องการพฒั นาผู้เรียนด้านคณุ ลกั ษณะ
คณุ ลัก ษณะการไผ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นในการทางาน

7. ชนิ้ งาน/ภาระงาน
1) ทดสอบก่อนเรียน
2) ทดสอบหลังเรียน
3) รายงานปฏบิ ัติการทดลอง
4) ใบงาน/แบบฝึก
5) สมุดบนั ทกึ การเรยี น
6) แบบแสดงความคดิ เห็น แนวทางการพฒั นาการผลติ กระแสไฟฟา้ จากแรงนา้ ตก ของ

นา้ ตกคลองลาน (แรงโน้มถว่ ง )

8. การวดั ผลและประเมนิ ผล

8.1 การประเมินระหว่างจัดกิจกรรมการเรยี นรู้

ช้นิ งาน/ภาระงาน วธิ ีการประเมิน เครอื่ งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ

1. ทดสอบ9ก.อ่ นเรยี น 1. ให้นักเรยี นทา 4. 1. แบบทดสอบกอ่ นเรียน -

แบบทดสอบก่อนเรยี น

2. รายงาน10. 1. สงั เกตพฤตกิ รรร5ม.นักเรยี น 1. แบบประเมนิ ทักษะการ 1. นกั เรียนผ่านเกณฑ์

ปฏบิ ัตกิ ารทดลอง ภายในกลุ่ม ขณะปฏบิ ตั ิการ ปฏบิ ัติการทดลอง ประเมินตามแบบประเมิน

ทดลอง และศกึ ษาเอกสาร ทักษะการปฏิบตั ิการทดลอง

ประกอบการเรียนการสอน อยา่ งนอ้ ย 50 %

11. 2. ใหน้ ักเรียนเขยี นรายงาน

ผลการศกึ ษากิจกรรมการ

ทดลอง

3. ใบงาน แ1ส2ด.ง 1. สังเกตการณ์ระดม 1. แบบประเมนิ ใบงาน 1. นักเรยี นผา่ นเกณฑก์ าร

ความคดิ เห็นในการ ความคดิ ขณะทาใบง6า.น ประเมินใบงาน ตั้งแต่ 50%

พฒั นาการผ1ล3ติ . 2. ใหน้ ักเรียนสรุปความคิด

กระแสไฟฟ้าจากแรง ในใบงาน

นา้ ตก ของนา้ ตก

คลองลาน

8.2 การประเมนิ เม่ือสน้ิ สุดการเรียนรู้

ช้นิ งาน/ภาระงาน วธิ กี ารประเมิน เครือ่ งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ
1. แบบทดสอบหลังเรียน 1. นักเรยี นทาแบบทดสอบ
1. ทดสอ1บ4ห.ลงั 1. ให้นกั เรียนทา 1. ใบงาน/แบบฝึกหัด หลังเรียนได้ผ่านเกณฑ์
ประเมินรอ้ ยละ 80
เรียน แบบทดสอบหลังเรียน - 1. นักเรียนตอบคาถามของ
ครูไดอ้ ย่างน้อย 50 %
3. ใบงาน1/5. 1. ให้นักเรยี นทาแบบฝึกหัด 2. นักเรียนผ่านเกณฑ์
แบบฝกึ หัด หรอื ใบงาน ประเมินตามแบบประเมินการ
แสวงหาข้อมูลของ
16. 1. ใหน้ ักเรยี นสรุป นักเรยี นอยา่ งน้อย 50 %
4. สมดุ บ1นั 7ท.ึก สาระสาคัญลงในสมุด 3. นกั เรยี นทาแบบฝึกหัดได้
คะแนนอยา่ งน้อย 50 %
18. นกั เรยี นสรุปสาระสาคญั ลง
ในสมดุ ได้ถกู ตอ้ งครบถว้ น

10. กิจกรรมการจดั การเรียนรู้
( การจดั การเรียนการสอนแบบกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5 E )

ข้ันสรา้ งความสนใจ
1. ทดสอบความรกู้ อ่ นเรยี นของนักเรียน เรอื่ ง แรงโน้มถ่วงของโลก
2. ครูแจง้ ผลการเรียนรู้ท่คี าดหวงั ให้กับนักเรยี นทราบ
3. ครทู บทวนเร่ืองแรง
( แรงทาใหว้ ัตถุเปลยี่ นรูปร่าง เปล่ียนสภาพการเคล่อื นท่ี หรอื วัตถุเปล่ยี นทิศทางการเคล่อื นที่ )
4. ครูสาธติ โดยการปลอ่ ยวตั ถุจากมอื ลงสู่พื้นแลว้ ใชค้ าถาม ถามนกั เรียนวา่

- จะเกดิ ผลอยา่ งไรกบั วัตถุ
( วตั ถุจะตกลงสพู่ น้ื )

-วัตถุจะเปลี่ยนสภาพการเคล่ือนท่หี รือไม่
( เปลี่ยนสภาพการเคลื่อนท่ี )

- มแี รงมากระทากับวัตถหุ รือไม่
( มี )

- แรงที่กระทาต่อวตั ถุ คอื แรงอะไร
( แรงโน้มถ่วงของโลก )

ข้นั สารวจและคน้ หา
5. ครใู ห้นักเรยี นรว่ มกันศกึ ษาเอกสารเร่อื งใบความรทู้ ่ี 1 เร่ือง แรงโน้มถว่ ง
6. นกั เรยี นร่วมกนั อภปิ รายแรงโน้มถว่ ง
( วัตถุจะตกลงสพู่ นื้ เนอ่ื งมาจากแรงดึงดดู ของโลกทก่ี ระทาตอ่ วตั ถุ หรือทีเ่ รยี กว่าแรงโนม้ ถว่ งของโลก

)
7. ครูใช้คาถาม ถามนักเรียนว่า แรงโนม้ ถว่ งจะมากหรือนอ้ ย ขึน้ อยกู่ ับสิง่ ใด โดยให้นักเรียนศกึ ษา

และปฏิบตั ิตามใบกิจกรรมที่ 1 เรือ่ ง การวดั แรงโนม้ ถว่ งของโลก
8. นักเรยี นรับอุปกรณต์ ามใบกิจกรรม
9. ครูแนะนาเรอื่ งการใชอ้ ุปกรณ์การทดลอง
10. นกั เรยี นปฏบิ ัติการทดลองตามใบกจิ กรรม

ขน้ั อธบิ ายและลงขอ้ สรุป
11. ครูส่มุ ตวั แทนนกั เรียนแต่ละกลุ่ม บอกผลการทดลอง
12. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั อภิปรายผลการทดลอง
13. นกั เรียนตอบคาถามหลงั ทากจิ กรรม
14. นักเรียนสรปุ ผลการทากจิ กรรม และครูใหค้ วามรเู้ พม่ิ เติม เร่ืองมวล และน้าหนกั ของวัตถุ
15. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั ตอบคาถามหลงั ทากิจกรรมและรว่ มกันสรุป
16. นักเรยี นสรุปความสาคัญของเรือ่ งลงในสมดุ ( แรงดึงดูดที่โลกกระทาต่อวตั ถหุ รือแรงโน้มถว่ ง ทา

ใหว้ ัตถมุ ีนา้ หนกั ดงั นน้ั น้าหนักของวตั ถตุ ่างๆจะมคี า่ มากหรอื นอ้ ยขึน้ อยู่กบั มวลของวตั ถนุ น้ั
โดยวัตถทุ ีม่ มี วลมากกจ็ ะมีน้าหนักมาก วัตถทุ ีม่ ีมวลนอ้ ยกจ็ ะมนี า้ หนกั น้อย)

ข้นั ขยายความรู้
11. ครูและนักเรยี นร่วมกนั อธบิ ายการนาความร้ทู ่ีไดจ้ ากการศกึ ษาเร่ือง แรงโน้มถว่ ง ไปใช้
ใหส้ อดคล้องกบั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง 3 ห่วง 2 เง่อื นไข โดยให้นกั เรียนนาความร้ทู ี่ไดไ้ ปเป็น
ภูมคิ มุ้ กันตนเอง และเข้าใจถึงการใช้ประโยชนจ์ ากแรงต่างๆ ในชีวิตประจาวัน เพอ่ื นาไปสเู่ ง่อื นไข
คุณธรรม ความมสี ติ มีปัญญาไมเ่ บยี ดเบยี นกนั และควรมคี วามสามคั คกี ัน
โดยใช้เวลาอยา่ งพอประมาณในการศึกษากจิ กรรรมตามเวลาเหมาะสม

ขน้ั ประเมิน
1 2. ครูใหน้ ักเรยี นแตล่ ะคนได้พิจารณาหนงั สือแบบเรยี น และใบความรู้ ทีศ่ ึกษามาวา่ มี
หวั ข้อใดบ้างที่จะใหค้ รชู ่วยอธิบายเพมิ่ เตมิ หรอื การปฏิบัตกิ จิ กรรมมีปัญหาหรืออุปสรรคใดทค่ี วรไดร้ บั
การแก้ไข

13. นักเรียนนาสมดุ และใบงานส่งครหู นา้ ชนั้ เรียน

ชั่วโมงท่ี 2-3
( การจัดการเรยี นการสอนแบบกระบวนการสบื เสาะหาความรู้ 5 E )

ขัน้ สรา้ งความสนใจ
1. ทดสอบความรู้กอ่ นเรียนของนกั เรยี น เรือ่ ง แรงโน้มถว่ งของโลก
2. ครูแจ้งผลการเรยี นรู้ท่คี าดหวังใหก้ บั นกั เรยี นทราบ
3. ครูทบทวนเรือ่ งแรงดึงดูดท่โี ลกกระทาตอ่ วตั ถุหรอื แรงโนม้ ถว่ ง ทาใหว้ ัตถมุ ีน้าหนัก ดงั นนั้ นา้ หนกั

ของวัตถุตา่ งๆจะมคี ่ามากหรือนอ้ ยขึน้ อยกู่ บั มวลของวตั ถุนัน้ โดยวัตถุท่ีมมี วลมากก็จะมนี า้ หนัก
มาก วัตถทุ ่มี ีมวลนอ้ ยก็จะมีนา้ หนกั น้อย

ข้นั สารวจและค้นหา
17. ครใู ช้คาถาม ถามนกั เรียนวา่ นอกจากมวลแลว้ แรงโนม้ ถว่ งของโลกจะมากหรอื น้อย ข้นึ อยู่กับ

อะไรอีก
18. นักเรยี นศึกษา ตารางเรอ่ื ง แรงโนม้ ถ่วงของโลกกบั ระยะทางจากจุดศนู ยก์ ลางของโลกตามใบ

ความรูท้ ี่ 1 เรอื่ ง แรงโน้มถ่วง
19. นักเรยี นทาใบกจิ กรรมที่ 2 เรอ่ื งแรงโนม้ ถ่วงกบั ระยะห่างจากจดุ ศนู ย์กลางของโลก
20. นักเรียนตอบคาถามตามใบกิจกรรม

ข้ันอธิบายและลงขอ้ สรปุ
21. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันเฉลยคาตอบตามใบกิจกรรม
22. ครูและนกั เรียนร่วมกันอภิปรายโดยอาศัยแนวการตอบคาถามเป็นแนวทาง

( แรงโนม้ ถว่ งนอกจากจะขึ้นอยกู่ ับมวลของวัตถุแลว้ ยงั ข้นึ อยูก่ ับระยะห่างจากจดุ ศูนยก์ ลางของ
โลกดว้ ย )

ข้ันขยายความรู้
23. ครูถามนักเรียนว่า แรงโน้มถ่วงมปี ระโยชน์อยา่ งไรในชีวติ ประจาวนั
24. ครูและนกั เรยี นร่วมกันอภิปรายประโยชนข์ องแรงโนม้ ถ่วงในชีวติ ประจาวนั
25. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั อภปิ รายแนวทางการพัฒนาการผลติ กระแสไฟฟา้ จากแรงนา้ ตก ของนา้ ตก

คลองลาน
26. นกั เรียนทาใบงานที่ 2 เรอ่ื งแรงโน้มถว่ ง
27. นักเรยี นทาใบงานท่ี 3 เรอ่ื งแนวทางการพฒั นาการผลติ กระแสไฟฟา้ จากแรงนา้ ตก ของน้าตก

คลองลาน
28. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั เฉลย

ขั้นประเมินผล
29. นักเรยี นทดสอบหลงั เรียนเร่ืองแรงโน้มถ่วง

10. สื่อการเรียนรู้ /แห่ลงการเรียนรู้
สือ่ การเรียนรู้
1. แบบทดสอบก่อนเรยี นเร่ือง แรงโน้มถว่ ง
2. ใบความรทู้ ี่ 1 เรือ่ ง แรงโนม้ ถว่ ง
3. ใบงานที่ 1 เรอื่ ง แรงโน้มถว่ ง
4. ใบงานท่ี 2 เร่ือง แรงโนม้ ถว่ ง
5. ใบงานท่ี 2 เรื่อง แนวทางการพฒั นาพฒั นาการผลิตกระแสไฟฟ้าจากแรงนา้ ตก
ของนา้ ตกคลองลาน
6. ใบกจิ กรรมท่ี 1 เรอ่ื ง วดั ขนาดแรงโน้มถว่ ง
7. แบบทดสอบหลงั เรยี น เรื่องแรงโนม้ ถว่ ง

แหล่งการเรียนรู้
1. หอ้ งสมดุ โรงเรยี นวัชรวิทยา
2. หอ้ งสมดุ กลุ่มสาระวิชาวิทยาศาสตร์
3. http://www.phutti.net/elearning/por/Friction.htm
4. http://www.obec.go.th/news/_develop_media/news12/songkha/chaiwat_ch/sec04p01-

10.html

5. http://202.129.34.101/model14/p1/ph1/rangsie.htm

11. กจิ กรรมเสนอแนะ
1. ให้นกั เรยี นสบื ค้นขอ้ มลู เกย่ี วกบั แรงโนม้ ถว่ ง จากสื่อ ออนไลน์

http://e-learning.e-tech.ac.th/learninghtml/somchai/unt11/un11.html
เร่ือง แรงโนม้ ถว่ ง

บันทกึ ผลหลงั การสอนแผนการสอนท่ี 2 เรือ่ ง แรงโนม้ ถว่ ง
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 วิชา วิทยาศาสตรพ์ ้ืนฐาน รหสั วิชา ว23101

ครผู ้สู อน นางอรษา อภิรมย์วิไลชัย

1. ผลการสอน

1.1 สรุปผลการสอน

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

1.2 หาความก้าวหนา้ ในการเรียน การสอน

จานวน คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน E1/E2 ความก้าว

นักเรียน เต็ม เฉล่ียกอ่ น เฉลี่ย เฉลีย่ หลงั หน้าในการ

เรยี น ระหวา่ ง เรยี น เรยี น

เรยี น

รอ้ ยละความกา้ วหนา้ = คะแนนหลังเรียน-คะแนนก่อน X 100
2. ปญั หา/อปุ สรรค์ เรียน คะแนนเตม็

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………..……………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแก้ไข
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่อื ..........................................................................
( นางอรษา อภิรมยว์ ไิ ลชยั )

ตาแหนง่ ครูชานาญการพิเศษ โรงเรียนวชั รวทิ ยา
วนั ที่ เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. 2562

ความคดิ เห็นของหวั หนา้ กลมุ่ สาระ ความคดิ เห็นของรองผอู้ านวยการกลมุ่
การเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ บรหิ ารงานวิชาการ

........................................................ ........................................................
....................................................... .......................................................
....................................................... .......................................................
....................................................... .......................................................
....................................................... .......................................................

ลงชือ่ ............................................ ลงช่อื ............................................

( นายสรุ ศักด์ิ ยอดหงษ์ ) ( นายวเิ ชียร ยอดนิล )

หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ รองผู้อานวยการกลุม่ บริหารงานวชิ าการ

วันท่ี เดอื น พ.ศ. 2561 วันที่ เดือน พ.ศ. 2561

ขอ้ เสนอแนะของหัวหนา้ สถานศกึ ษา

…………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
………………………………………………….……………………………………………………………………………….…………
…………….………………………………………………………………………………………………….……………………………
………………..………………………………………………………….………………….……………………………………….……
…………………………………………………………………………………………….……………………………………….………

( นายไพชยนต์ ศรมี ่วง )
ผู้อานวยการโรงเรียนวชั รวทิ ยา
วนั ท่ี ...... เดือน ................................ พ.ศ. 2561

12. เอกสารอา้ งองิ

ศรลี กั ษณ์ ผลวัฒนะ และคณะ . พิมพ์คร้ังที่ 1 . วทิ ยาศาสตร์ ชว่ งช้นั ท่ี3 (ม.1-ม.3) , กรุงเทพฯ .
สานักพิมพ์นยิ มวิทยา .2544

ป่ินศักดิ์ ชุมเกษยี น และปยิ าณี สมคิด . พมิ พค์ รง้ั ที่ 1 .วทิ ยาศาสตร์ 2 ชว่ งช้นั ท่ี3 (ม.1-ม.3) ,
กรุงเทพฯ .สานกั อักษรเจรญิ ทัศน์ .2544

ศึกษาธกิ าร,กระทรวงศึกษาธิการ.สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี .วทิ ยาศาสตร์
เลม่ 6 , ว 306 . กรุงเทพฯ: โรงพิมพค์ รุ ุสภาลาดพร้าว.กรุงเทพ . 2535

ศึกษาธิการ,กระทรวงศกึ ษาธิการ.สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี .ค่มู อื ครู
วิทยาศาสตร์เล่ม 6 , ว 306 . กรุงเทพฯ: โรงพิมพค์ ุรุสภาลาดพรา้ ว.กรงุ เทพ . 2535

พิมพันธ์ เดชะคปุ ตแ์ ละคณะ . วทิ ยาศาสตร์ ช่วงชัน้ ที่ 3 ,กรุงเทพฯ . สานกั พิมพ์บริษัทพัฒนา
คณุ ภาพวชิ าการ(พว.) จากดั .2548

http://www.phutti.net/elearning/por/Friction.htm
http://www.obec.go.th/news/_develop_media/news12/songkha/chaiwat_ch/sec04p01-10.html

http://202.129.34.101/model14/p1/ph1/rangsie.htm
http://www.google.co.th/search?hl=th&q=%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0

%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B8%97%E
0%B8%B2%E0%B8%99&btnG=%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8
%AB%E0%B8%B2%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%A2+Google&meta=

ลงชอ่ื ..........................................................................
( นางอรษา อภริ มยว์ ไิ ลชยั )

ตาแหนง่ ครูชานาญการพเิ ศษ โรงเรียนวชั รวทิ ยา

13. ข้อเสนอแนะของหัวหน้าสถานศึกษาหรอื ผูท้ ไ่ี ด้รับมอบหมาย (ตรวจสอบ/นเิ ทศ/เสนอแนะ
รบั รอง) แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 3 เรอื่ ง แรงโน้มถว่ ง

ขอ้ เสนอแนะของหวั หน้ากลมุ่ สาระ ข้อเสนอแนะของรองผู้อานวยการกลุ่ม
การเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ บริหารงานวชิ าการ

........................................................ ........................................................
....................................................... .......................................................
....................................................... .......................................................
....................................................... .......................................................
....................................................... .......................................................

ลงช่ือ............................................ ลงชอื่ ............................................
( นายสุรศกั ด์ิ ยอดหงษ์ ) ( นายวเิ ชยี ร ยอดนิล )

หวั หน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ รองผอู้ านวยการโรงเรยี นวชั รวทิ ยา

ขอ้ เสนอแนะของผ้อู านวยการโรงเรยี นวชั รวทิ ยา

…………………………………………………………………………………….………………………………………………………
……………………………………………….……………………………………………………………………………………………
…….…………………………………………………………………………………………….…………………………………………
…………………………………………………………….……………………………………………………………………………..

( นายจานง อินทพงษ์ )
ผอู้ านวยการโรงเรียนวัชรวิทยา
วนั ท่ี ........ เดือน ................................ พ.ศ. 2559

บนั ทกึ หลังการสอน วิชาวทิ ยาศาสตรพ์ ้นื ฐาน ว 23101 ปีการศึกษา 2559
แผนการสอนท่ี 3 เร่อื ง แรงโน้มถ่วง

ผลการสอน ปัญหาการสอน ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการ
แกป้ ญั หา

...………………………................... ...………………………................... ...………………………...................

……นกั เรยี นชน้ั มัธยมศึกษา 1. นักเรยี นเสียงดงั ขณะทา 1. เนอื่ งจากระดมความ

ปที ี่ 3/6, 3/7 และ 3/8 การเรียนการสอน คดิ เห็นเรื่องเกย่ี วกบั ทอ้ งถ่ิน

สามารถเรยี นรู้ได้เรว็ ทา 2. ขณะทาการทดสอบ นักเรยี นทกุ คนมีความรใู้ นเรอ่ื ง

กิจกรรมผ่านเกณฑ์การ นักเรียนบางคนแอบลอก น้าตกคลองลานอยา่ งดี ทาให้

ประเมินตามจุดประสงคท์ กุ ข้อ คาตอบจากเพ่ือน……………… มีการส่งเสียงดัง ขณะระดม

ส่งงาน ได้ตรงตามเวลา............ ………………………….................. ความคดิ เมื่อครูการาบให้เบา

………………………….................. ………………………….................. เสยี ง นกั เรียนก็ทางาน

………………………….................. ………………………………………… 2. ออกแบบทดสอบหลายๆ

………………………………………… ………………………….................. ชดุ …………………………...........

………………………….................. ………………………….................. …………………………………………

………………………….................. ………………………………………… …………………………..................

ลงชื่อ.......................................................................
(นางอรษา อภริ มยว์ ไิ ลชยั )

ตาแหนง่ ครูชานาญพเิ ศษ โรงเรยี นวัชรวิทยา

แผนการจัดการเรยี นรู้ 3 (บรู ณาการพฒั นาทกั ษะชวี ติ )

กลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ วชิ าวทิ ยาศาสตร์พน้ื ฐาน รหสั วิชา ว23101

ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ครผู สู้ อน อรษา อภิรมย์วิไลชยั โรงเรียนวัชรวทิ ยา

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 เรื่อง แรงและการเคลอื่ นท่ี เวลา 20 ชัว่ โมง

แผนการสอนท่ี 3 เรอื่ ง แรงเสยี ดทาน เวลา 3 ชว่ั โมง

แผนการจดั การเรียนรบู้ รู ณาการอาเซยี น และ บรู ณาการการพัฒนาทกั ษะชีวติ

1. สาระสาคัญ
เมอ่ื เราลากหรือดนั วตั ถใุ ห้เคลอ่ื นท่ีไปบนพื้น จะมีแรงชนดิ หน่งึ ตา้ นการเคลือ่ นท่ีของวัตถุ

เรียกวา่ แรงเสยี ดทาน ในการดาเนนิ ชีวติ ประจาวันของเรา จะมแี รงเสยี ดทานเข้ามาเกย่ี วข้องอยู่
เสมอ แต่ละประเทศทม่ี กี ารขนสง่ สินค้า จะพยายามออกแบบยานพาหนะเพอ่ื ลดแรงเสยี ดทาน แต่
แรงเสียดทานไม่ไดม้ ีโทษเพียงอย่างเดียวแต่ยงั มีประโยชน์ดว้ ย

2. มาตรฐานการเรียนรู้
สาระที่ 4 แรงและการเคลอ่ื นที่
มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจลักษณะการเคลอ่ื นทแ่ี บบต่างๆ ของวัตถุในธรรมชาติ มกี ระบวนการ

สบื เสาะหาความรู้และจิตวิทยาศาสตร์ สอื่ สารส่งิ ที่เรียนรูแ้ ละนาความรู้ไปใช้
ประโยชน์

สาระการเรยี นรู้ท่ี 8 ธรรมชาตขิ องวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

มาตรฐานท่ี ว 8. 1 ใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละจติ วิทยาศาสตรใ์ นการสบื เสาะหา
ความรู้ การแกป้ ัญหา รู้ว่าปรากฏการณ์ทางธรรมชาตทิ ่เี กิดข้นึ ส่วนใหญม่ ีรูปแบบท่ีแน่นอน สามารถ
อธิบายและตรวจสอบได้ ภายใตข้ ้อมูลและเคร่ืองมอื ทม่ี ีอยู่ในชว่ งเวลานนั้ ๆ เข้าใจว่า วิทยาศาสตร์
เทคโนโลยี สงั คม และส่งิ แวดลอ้ มมคี วามเกี่ยวข้องสัมพันธก์ นั

1. ตัง้ คาถามทีก่ าหนดประเด็นหรอื ตัวแปรทสี่ าคญั ในการสารวจตรวจสอบ หรอื ศกึ ษา
ค้นควา้ เรือ่ งที่สนใจได้อย่างครอบคลุมและเชอ่ื ถอื ได้

2. สร้างสมมตฐิ านท่ีสามารถตรวจสอบไดแ้ ละวางแผนการสารวจตรวจสอบหลายๆ วธิ ี

3. เลือกเทคนคิ วธิ ีการสารวจตรวจสอบท้ังเชงิ ปรมิ าณและเชงิ คุณภาพท่ีไดผ้ ลเทยี่ งตรงและ
ปลอดภยั โดยใช้วสั ดุและเครอื่ งมือที่เหมาะสม

4. รวบรวมขอ้ มูล จัดกระทาขอ้ มูลเชิงปริมาณและคณุ ภาพ

5. วิเคราะห์และประเมนิ ความสอดคลอ้ งของประจกั ษพ์ ยานกับขอ้ สรปุ ทง้ั ท่สี นับสนุนหรอื
ขดั แย้งกับสมมตฐิ าน และความผิดปกติของขอ้ มูลจากการสารวจตรวจสอบ

6. สรา้ งแบบจาลอง หรือรูปแบบ ท่ีอธบิ ายผลหรือแสดงผลของการสารวจตรวจสอบ

7. สร้างคาถามทน่ี าไปสู่การสารวจตรวจสอบ ในเรอื่ งที่เก่ยี วข้อง และนาความรูท้ ่ไี ดไ้ ปใช้
ในสถานการณ์ใหม่หรอื อธิบายเก่ียวกบั แนวคดิ กระบวนการ และผลของโครงหงราือนช้ินงานให้ผอู้ ่นื เข้าใจ

8. บนั ทกึ และอธิบายผลการสงั เกต การสารวจ ตรวจสอบ คน้ คว้าเพ่มิ เตมิ จากแหลง่ ความรู้
ตา่ ง ๆ ให้ไดข้ อ้ มลู ท่ีเช่อื ถอื ได้ และยอมรบั การเปล่ียนแปลงความรทู้ ีค่ ้นพบเมื่อมขี อ้ มูลและประจกั ษ์
พยานใหมเ่ พิ่มข้นึ หรอื โต้แยง้ จากเดิม

9. จัดแสดงผลงาน เขียนรายงาน และ/หรืออธบิ ายเกย่ี วกบั แนวคิด กระบวนการ และผล
ของโครงงานหรือชิน้ งานให้ผอู้ นื่ เขา้ ใจ

มาตรฐานการเรยี นรชู้ ว่ งช้นั
สารวจตรวจสอบและอธบิ ายแรงเสยี ดทานที่เกิดจากสถานการณต์ ่างๆในเชงิ คณุ ภาพและ
เสนอแนะวธิ กี ารเพม่ิ หรอื ลดแรงเสยี ดทานเพ่อื ใชป้ ระโยชนอ์ ย่างเหมาะสม

3. ตวั ชีว้ ดั
ทดลองและอธิบายความแตกตา่ งระหว่างแรงเสยี ดทานสถติ กบั แรงเสียดทานจลน์ และนา

ความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์
จุดประสงค์
1. ทดลองและอธิบายหลกั การของแรงเสียดทาน
2. วเิ คราะห์แรงเสยี ดทานที่เกิดจากสถานการณต์ า่ งๆ รวมทั้งเสนอแนวคดิ ทีจ่ ะเพ่มิ หรือลด
แรงเสียดทานเพื่อใหเ้ กิดประโยชนใ์ นสถาณการณ์ตา่ ง ๆ

4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรียนรู้ชว่ งชนั้
1. แรงเสยี ดทานสถติ เป็นแรงเสยี ดทานท่กี ระทาต่อวัตถขุ ณะหยุดนง่ิ สว่ นแรงเสียดทานจลน์

เปน็ แรงเสยี ดทานทกี่ ระทาต่อวตั ถุขณะเคล่อื นท่ี
2. การเพิม่ แรงเสียดทาน เชน่ การออกแบบพื้นรองเทา้ เพ่ือกันล่นื
3. การลดแรงเสยี ดทาน เชน่ การใช้นา้ มันหลอ่ ลื่นท่จี ดุ หมุน
ความรู้
1. ความหมายของแรงเสยี ดทาน
2. ขนาดและทิศของแรงเสียดทาน

3. ประเภทของแรงเสียดทาน
4. การทดลองปจั จยั ทม่ี ีผลตอ่ การเพม่ิ หรอื ลด แรงเสยี ดทาน
5. ประโยชนแ์ ละโทษ ของแรงเสียดทาน
6. การพัฒนาเพือ่ ลดแรงเสยี ดทานของยานพาหนะในการขนของกลุ่มประเทศอาเซยี น

ทกั ษะ/สมรรถนะ
1. ทกั ษะการสื่อสารอย่างสรา้ งสรรค์ตามชว่ งวัย
2. อธบิ าย และตรวจสอบแรงเสยี ดทานได้

สาระการเรียนรูท้ ้องถ่นิ -

สาระการเรยี นรู้เกย่ี วกบั อาเซียน การพฒั นายานยนต์ในการขนสง่ ของกลุ่มประเทศอาเซียน

สาระการเรียนร้เู ศรษฐกจิ พอเพยี ง -

พัฒนาทักษะชวี ิต

องคป์ ระกอบที่ 2 การคิดวเิ คราะห์ ตัดสนิ ใจ และแกป้ ัญหาอยา่ งสร้างสรรค์

พฤติกรรมทักษะชีวติ ท่ีคาดหวงั 1) เลอื กรับข้อมลู ขา่ วสารอย่างไตร่ตรอง และรู้เทา่ ทนั สังคม

ทเ่ี ปลยี่ นแปลง 2) มที ักษะในการแสวงหาขอ้ มูลและการใชข้ อ้ มูลให้เป็นประโยชน์

เทคนคิ การใชค้ าถาม R C A เพื่อพัฒนาทักษะชีวติ

5. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน
1. ความสามารถในการส่อื สารอย่างสร้างสรรคต์ ามชว่ งวัย
2. ความสามารถในการคดิ คิดวเิ คราะห์ และการคดิ อยา่ งเป็นระบบ

6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. ซอ่ื สตั ยส์ ุจริต
2. ไผ่เรยี นรู้ มงุ่ มน่ั ในการทางาน
จดุ เน้นทต่ี อ้ งการพฒั นาคุณภาพผูเ้ รยี น
ทักษะการสือ่ สารอย่างสร้างสรรคต์ ามชว่ งวัย

การบรู ณาการ
สาระการเรยี นรอู้ าเซยี น การพฒั นาสงิ่ ประดษิ ฐ์เพื่อลดแรงเสียดทานในกลุม่ ประเทศอาเซยี น
สาระการเรยี นรทู้ ้องถิน่ -
หลักเศรษฐกจิ พอเพยี ง ความมีเหตผุ ล และ เงือ่ นไขความรู้

7. ชนิ้ งาน/ภาระงาน

1) ทดสอบก่อนเรยี น

2) ทดสอบหลังเรยี น

3) รายงานปฏบิ ตั ิการทดลอง

4) ใบงาน/แบบฝึก

5) สมดุ บนั ทึกการเรียน

6) ข่าวการพฒั นายานยนตเ์ พ่ือลดแรงเสยี ดทานกลุ่มประเทศอาเซยี น

8. การวัดผลและประเมินผล

8.1 การประเมนิ ระหวา่ งจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้

ชิ้นงาน/ภาระงาน วธิ กี ารประเมนิ เครอ่ื งมือ เกณฑก์ ารประเมิน
-
1. ทดสอบ1ก9อ่ .นเรยี น 1. ใหน้ กั เรียนทา 7. 1. แบบทดสอบกอ่ นเรียน

แบบทดสอบกอ่ นเรียน

2. รายงาน20. 1. สงั เกตพฤตกิ รรร8ม.นกั เรยี น 1. แบบประเมนิ ทกั ษะการ 1. นกั เรียนผา่ นเกณฑ์
ปฏบิ ัติการทดลอง
ภายในกลุม่ ขณะปฏิบัตกิ าร ปฏบิ ัติการทดลอง ประเมินตามแบบประเมนิ
21.
ทดลอง และศกึ ษาเ9อ.กสาร ทักษะการปฏิบตั กิ ารทดลอง

ประกอบการเรียนการสอน อยา่ งนอ้ ย 50 %

2. ให้นกั เรียนเขียนรายงาน

ผลการศกึ ษากิจกรรมการ

ทดลอง

8.2 การประเมินเมือ่ สิ้นสุดการเรียนรู้

ชน้ิ งาน/ภาระงาน วธิ ีการประเมิน เครือ่ งมอื เกณฑ์การประเมิน
1. แบบทดสอบหลงั 1. นักเรยี นทาแบบทดสอบ
1. ทดสอ2บ2ห.ลัง 1. ให้นักเรยี นทา เรยี น หลงั เรียนได้ผ่านเกณฑ์
เรียน แบบทดสอบหลงั เรยี น ประเมินร้อยละ 80
1. นักเรยี นตอบคาถามของ
2. ใบงาน2/3. 1. ให้นักเรยี นทาแบบฝึกหดั 1. ใบงาน/แบบฝึกหัด ครไู ด้อยา่ งน้อย 50 %
แบบฝกึ หดั หรอื ใบงาน 2. นักเรยี นผา่ นเกณฑ์ประเมนิ
ตามแบบประเมนิ การแสวงหา
24. 1. ให้นกั เรยี นสรปุ ข้อมลู ของ
3. สมุดบ2ัน5ท.กึ สาระสาคญั ลงในสมดุ นกั เรียนอย่างนอ้ ย 50 %
3. นกั เรียนทาแบบฝึกหัดได้
4. ขา่ วการพฒั นา 1. ใหน้ ักเรยี นแต่ละกลมุ่ แบบประเมนิ ผลการ คะแนนอยา่ งนอ้ ย 50 %
สืบคน้ นกั เรียนสรปุ สาระสาคัญลงใน
ส่งิ ประดิษฐ์ท่ีลด สบื ค้นข่าว สมดุ ไดถ้ กู ต้องครบถว้ น
1. นักเรยี นสืบค้นสิง่ ประดษิ ฐ์
แรงเสยี ดทานใน 2 นักเรียนแตล่ ะกล่มุ น้าเสนอ และอธบิ ายผลของแรงเสยี ด
ทานไดอ้ ย่างน้อย 50%

อาเซยี น ผลการสืบคน้

9. กิจกรรมการจดั การเรยี นรู้

( การจัดการเรียนการสอนแบบ 5 STEP )

ชวั่ โมงท่ี 1
ขั้นที่ 1 การตั้งคาถาม
1. ทดสอบความรกู้ ่อนเรยี นของนักเรียน เรื่อง แรงเสยี ดทาน
2. ครูแจ้งผลการเรยี นรทู้ ี่คาดหวังให้กับนกั เรยี นทราบ
3. ครใู ห้นกั เรียนสังเกตการเคลอื่ นทข่ี องกลอ่ ง หลงั จากครูออกแรงผลัก โดยครใู ชค้ าถาม ถาม
ประกอบดงั นี้
- หลังออกแรงผลกั กลอ่ งให้เคลอ่ื นท่ี กลอ่ งมีการเปลีย่ นแปลงอย่างไร

( กลอ่ งเกิดการเคล่อื นที่ สักพักก็จะหยดุ )
- เหตใุ ดเมือ่ กลอ่ งเคลอื่ นที่แล้วจงึ หยุด
( เนื่องจากมีแรงต้านการเคลื่อนท่ี )

ขน้ั ท่ี 2 ขนั้ แสวงหาสารสนเทศ
3. ครูใหน้ กั เรียนศกึ ษาความหมายของแรงต้านการเคลื่อนท่ี จากใบความรู้ 1 เรอ่ื งแรงเสียดทาน
4. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกัน อภิปราย ความหมาย ของแรงเสียดทาน โดยใช้คาถามดังนี้

- แรงเสียดทานหมายถึงอะไร
( แรงต้านการเคลอื่ นท่ขี องวตั ถุ )
- ทศิ ของแรงเสยี ดทานเปน็ อยา่ งไร

( ทศิ ของแรงเสยี ดทานตรงขา้ มกับการเคลอื่ นที่ของวตั ถุ )
- แรงเสียดทาน แบ่งออกเป็นกีป่ ระเภท อะไรบ้าง

( 2 ประเภท แรงเสยี ดทานสถติ ย์ และแรงเสียดทานจลน์ )
5. ครนู าอธิบายเพ่อื ทากิจกรรมตาม ใบกจิ กรรมที่ 1 เร่ือง รูจ้ ักแรงเสยี ดทาน
6. นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม กล่มุ ละ 5-6 คน รบั อปุ กรณ์ และปฏบิ ตั ิตามใบกิจกรรม .1
7. ครูแนะนาและชี้แจง การทากจิ กรรม รวมทง้ั ข้อควรระวงั ในการใชอ้ ุปกรณ์
8. นักเรียนทาการทดลอง ตามใบกจิ กรรมที่ 6.1 แลว้ บันทึกผล

ข้นั ท่ี 3 ขนั้ สร้างองค์ความรู้
9. ครูสุ่มนกั เรยี นในกลุ่ม ให้มานาเสนอผลการทดลองหนา้ ช้ันเรยี นโดยแตล่ ะกลมุ่ ใช้เวลาประมาณ
กลุ่มละ 3 นาที
10. ครูอภิปรายผลการทดลอง โดยใช้คาถาม หลังทากิจกรรม ตามใบกจิ กรรมที่ 1 เป็นแนวทาง

ข้ันท่ี 4 ข้ันสอ่ื สาร
11. นักเรียนส่งตัวแทนกลุม่ นาเสนอหน้าชัน้ เรยี น เพือ่ ร่วมกนั สรุปและบันทกึ ลงในสมุด
12. ครแู ละนักเรยี นร่วมกันอธบิ ายการนาความรทู้ ไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาเรือ่ ง แรงเสียดทาน
13. นกั เรียนร่วมกันสรปุ ผลการทดลองและบันทึกลงในใบกิจกรรมท่ี 1
นักเรียนทาใบงานที่ 1 เรอื่ งแรงเสียดทาน

ขน้ั ท่ี 5 ตอบแทนสงั คม
14. ครูมอบหมายให้นกั เรยี นไปศึกษา วิวัฒนาของเครอ่ื งยนตใ์ นการขนส่งของกลุ่มประเทศใน
อาเซยี น โดยใหศ้ ึกษาเปน็ กลุม่ สมาชกิ ไมเ่ กนิ 3 คน เลอื กกลุม่ ไดเ้ องตามความสมคั รใจ โดยนาเสนอ
เป็นแผน่ พบั
15. นกั เรยี นแต่ละกล่มุ รว่ มกนั คิดวางแผนทาแผ่นพบั ความรเู้ รอื่ ง วิวัฒนาของเครอื่ งยนตใ์ นการขนสง่
ของกลมุ่ ประเทศในอาเซยี น
16. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั จดั ทาแผน่ พบั แล้วนาไป เสนอให้กบั นกั เรียนอืน่ ในโรงเรยี น เช่นในโรง
อาหาร หรอื ชัว่ โมงประชมุ ระดบั ช้ัน

ชัว่ โมงที่ 2-3

ข้ันนา
17. ครูทบทวนเร่อื ง ความหมายของแรงเสียดทาน โดยครูวาดภาพใหน้ ักเรยี นดู แลว้ ถามนกั เรยี น
ดังนี้
- แรงท่ีใช้ดึงวัตถุคอื แรงอะไร

( แรง A )
- แรงเสียดทานคือแรงอะไร

( แรง B )
BA

พนื ้

- ถ้าวัตถหุ ยุดนงิ่ และเคล่อื นท่ี เรยี กแรง B วา่ อะไร
( แรงเสียดทานสถิตย์ และ แรงเสียดทานจนล์ )

- ถา้ วตั ถหุ ยุดน่ิง ขนาดของแรง A และ B จะเป็นอย่างไร
( มีขนาดเท่ากัน)

- แรงเสียดทานส่งผลต่อการเคลอ่ื นท่ขี องวตั ถอุ ย่างไร
( ถา้ มีแรงเสยี ดทานระหวา่ งผวิ สัมผสั มาก จะทาให้วัตถุเคล่อื นท่ีไดย้ าก หรอื ชา้ ลง )
- มปี จั จยั อะไรบา้ งทที่ ามผี ลตอ่ แรงเสยี ดทานของวัตถุ

( นา้ หนกั ของวัตถุ พื้นผิวของวัตถุ ขนาดของพื้นผิวสมั ผัส )

ข้นั สอน

18. ครนู าอภิปรายถงึ แรงเสยี ดทานท่มี ีผลตอ่ การเคล่อื นท่ี โดยครูยกตัวอยา่ งในการเพ่มิ และลดแรง
เสยี ดทานทจ่ี ะนาไปใชใ้ ห้เป็นประโยชน์ต่อชีวติ ประจาวนั
19 ครูมอบหมายให้ในกลุ่มร่วมกนั ระดมความคิดกิจกรรมในชวี ิตประจาวนั ใดบ้างท่ตี อ้ งมีการเพมิ่ แรง
เสียดทาน ( การเดนิ รอยหยกั บนพน้ื รองเท้า รอยหยักบนยางรถยนต์ การสซี อ การสีสายไวโอลิน
การเปดิ จุกเกลียวขวด ) และกิจกรรมใดบ้าง ท่มี ีการลดแรงเสียดทาน
( การเล่นกระดานลน่ื การเปิด-ปิดประตู การทางานของลูกสูบในเคร่ืองยนต์ )
20. นักเรียนตัวแทนแตล่ ะกลุ่มนาเสนอคาตอบของกลุ่มตวั เอง

21. ครูฉายภาพการใชพ้ าหนะขนส่งของแตล่ ะประเทศในกลมุ่ อาเซยี นใหน้ กั เรยี นดูเปน็ ตัวอยา่ ง แลว้
ใช้คาถามเพื่อเช่อื มโยงสกู่ ารมที กั ษะชวี ติ
ภาพแสดงการขนสง่ ของประเทศกาพชู า
ภาพแสดงการขนส่งของประเทศเวยี ดนาม

การขนส่งประเทศบูไน

22 ครูสนทนาด้วยเทคนคิ คาถาม R C A เพอื่ พัฒนาทักษะชีวิต
1. ( R ) การสรา้ งคาถามเพือ่ สะท้อน
- นักเรียนมีความคดิ เหน็ อย่างไรกบั การส่งขนสง่ ของแต่ละประเทศ
- มีการใชพ้ ลังงานอะไรบ้างในการขนส่ง
2. ( C) การสรา้ งคาถามเพือ่ เชื่อมโยง
- จากภาพการขนสง่ นกั เรียนคดิ วา่ การขนสง่ จะส่งผลกระทบอย่างไรตอ่ ตัวเรา
- ปญั หาทพี่ บจากการขนส่งของแตล่ ะประเทศเกย่ี วขอ้ งกับส่ิงใดบ้าง
- แรงเสียดทานเกี่ยวข้องกับการขนสง่ ในแต่ละภาพอยา่ งไร
3. ( A ) การสรา้ งคาถามเพ่อื การปรบั ใช้
- นักเรยี นมแี นวทางในการเปลีย่ นแปลงเพอ่ื พัฒนาการขนส่งของเราไดอ้ ย่างไร
- นักเรยี นจะออกแบบยานพาหนะในการขนส่งอย่างไรให้มแี รงเสยี ดทานน้อยลง
- ถ้าต้องการลดพลงั งานท่ใี ชใ้ นการขนสง่ นักเรยี นจะต้องทาอยา่ งไร
- ถา้ นกั เรียนเปน็ ผนู้ าในกลมุ่ ประเทศอาเซยี น นักเรยี นจะมแี นวคิดอย่างไรในการ

พฒั นาการขนส่งในกลุ่มของอาเซียน
23. นักเรยี นสรุปสาระสาคญั จากคาถามลงในสมดุ
24. นักเรยี นทาใบงานท่ี 2 เร่ืองแรงเสยี ดทาน
25. ครแู ละนกั เรียนร่วมกันเฉลยใบงานท่ี 2
26. ทดสอบหลงั เรียนเรื่องแรงเสียดทาน

10. สื่อการเรยี นรู้ /แหล่ งการเรียนรู้
ส่ือการเรียนรู้
8. แบบทดสอบก่อนเรยี นเร่ือง แรงเสยี ดทาน
9. ใบความรู้ท่ี 1.1 เรอ่ื ง แรงเสียดทาน
10. ใบงานที่ 1.1 เรอื่ ง แรงเสียดทาน
11. ใบงานที่ 1.2 เรื่อง แรงเสยี ดทาน
12. ใบกจิ กรรมที่ 1.1 เรื่อง แรงเสียดทาน
13. ภาพการยานพาหนะการขนสง่ ของกล่มุ ประเทศอาเซียน
14. แบบทดสอบหลงั เรยี น เรื่องแรงเสียดทาน

แหลง่ การเรยี นรู้
1. ห้องสมุดโรงเรยี นวชั รวิทยา
2. หอ้ งสมดุ กลมุ่ สาระวิชาวิทยาศาสตร์
3. http://www.phutti.net/elearning/por/Friction.htm
4. http://www.obec.go.th/news/_develop_media/news12/songkha/chaiwat_ch/sec04p01-

10.html

5. http://202.129.34.101/model14/p1/ph1/rangsie.htm
6. ภาพการขนสง่ สนิ ค้าของเขมร http://www.holidaythai.com/9kimjor/blogs-

8134.htm

11. กิจกรรมเสนอแนะ
1. ใหน้ ักเรยี นสืบคน้ ข้อมลู จากส่อื ออนไลน์ เร่ืองแรงเสียดทาน
https://www.autospinn.com/category/%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%B4
%E0%B8%94%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%9
6%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C/ecocar-hybrid-ev/
เครือ่ งยนตป์ ระหยดั พลังงาน

http://www.maceducation.com/e-knowledge/2432210100/16.htm . แรงเสยี ดทาน

บันทึกผลหลังการสอนแผนการสอนที่ 3 เรอื่ ง แรงเสียดทาน
ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 วิชา วิทยาศาสตรพ์ ืน้ ฐาน รหสั วิชา ว23101

ครผู ู้สอน นางอรษา อภริ มย์วิไลชัย

1. ผลการสอน

1.1 สรปุ ผลการสอน

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

1.2 หาความก้าวหนา้ ในการเรียน การสอน

จานวน คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน E1/E2 ความก้าว

นักเรียน เต็ม เฉลีย่ ก่อน เฉลยี่ เฉลี่ยหลัง หน้าในการ

เรียน ระหวา่ ง เรยี น เรียน

เรยี น

รอ้ ยละความกา้ วหนา้ = คะแนนหลงั เรียน-คะแนนก่อน X 100
2. ปัญหา/อุปสรรค์ เรยี น คะแนนเตม็

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………..……………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ..........................................................................
( นางอรษา อภริ มยว์ ไิ ลชยั )

ตาแหนง่ ครชู านาญการพิเศษ โรงเรยี นวชั รวทิ ยา
วนั ที่ 18 เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2562

ความคดิ เหน็ ของหวั หนา้ กลุม่ สาระ ความคดิ เห็นของรองผอู้ านวยการกลมุ่
การเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ บริหารงานวิชาการ

........................................................ ........................................................
....................................................... .......................................................
....................................................... .......................................................
....................................................... .......................................................
....................................................... .......................................................

ลงชือ่ ............................................ ลงช่อื ............................................

( นายสรุ ศักด์ิ ยอดหงษ์ ) ( นายวิเชียร ยอดนลิ )

หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ รองผอู้ านวยการกลุ่มบริหารงานวชิ าการ

วันท่ี เดอื น พ.ศ. 2561 วนั ที่ เดือน พ.ศ. 2561

ข้อเสนอแนะของหวั หนา้ สถานศึกษา

…………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
………………………………………………….……………………………………………………………………………….…………
…………….………………………………………………………………………………………………….……………………………
………………..………………………………………………………….………………….……………………………………….……
…………………………………………………………………………………………….……………………………………….………

( นายไพชยนต์ ศรมี ว่ ง )
ผู้อานวยการโรงเรยี นวชั รวทิ ยา
วนั ท่ี ...... เดอื น ................................ พ.ศ. 2561

12. เอกสารอ้างอิง

ศรลี ักษณ์ ผลวัฒนะ และคณะ . พมิ พค์ ร้งั ท่ี 1 . วิทยาศาสตร์ ช่วงชนั้ ท่ี3 (ม.1-ม.3) , กรงุ เทพฯ .
สานกั พิมพ์นิยมวิทยา .2544

ปน่ิ ศักดิ์ ชุมเกษยี น และปิยาณี สมคดิ . พิมพค์ รัง้ ที่ 1 .วิทยาศาสตร์ 2 ช่วงช้ันที่3 (ม.1-ม.3) ,
กรงุ เทพฯ .สานักอกั ษรเจรญิ ทศั น์ .2544

ศึกษาธกิ าร,กระทรวงศกึ ษาธกิ าร.สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี .วทิ ยาศาสตร์
เล่ม 6 , ว 306 . กรงุ เทพฯ: โรงพิมพค์ รุ สุ ภาลาดพร้าว.กรงุ เทพ . 2535

ศกึ ษาธกิ าร,กระทรวงศึกษาธกิ าร.สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี .คูม่ อื ครู
วทิ ยาศาสตรเ์ ล่ม 6 , ว 306 . กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พค์ รุ สุ ภาลาดพร้าว.กรุงเทพ . 2535

พมิ พนั ธ์ เดชะคุปตแ์ ละคณะ . วิทยาศาสตร์ ช่วงชน้ั ที่ 3 ,กรงุ เทพฯ . สานกั พมิ พบ์ รษิ ัทพฒั นา
คณุ ภาพวิชาการ(พว.) จากัด .2548

http://www.phutti.net/elearning/por/Friction.htm
http://www.obec.go.th/news/_develop_media/news12/songkha/chaiwat_ch/sec04p01-10.html

http://202.129.34.101/model14/p1/ph1/rangsie.htm
http://www.google.co.th/search?hl=th&q=%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0

%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B8%97%E
0%B8%B2%E0%B8%99&btnG=%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8
%AB%E0%B8%B2%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%A2+Google&meta=
http://www.holidaythai.com/9kimjor/blogs-8134.htm

ลงช่อื ..........................................................................
( นางอรษา อภริ มย์วไิ ลชัย )

ตาแหนง่ ครูชานาญการพิเศษ โรงเรยี นวชั รวิทยา

13. ข้อเสนอแนะของหัวหน้าสถานศึกษาหรอื ผูท้ ่ไี ดร้ ับมอบหมาย (ตรวจสอบ/นเิ ทศ/เสนอแนะ
รบั รอง) แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 2 เรอื่ ง แรงเสียดทาน

ขอ้ เสนอแนะของหวั หน้ากลมุ่ สาระ ขอ้ เสนอแนะของรองผู้อานวยการกลุ่ม
การเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ บริหารงานวชิ าการ

........................................................ ........................................................
....................................................... .......................................................
....................................................... .......................................................
....................................................... .......................................................
....................................................... .......................................................

ลงช่ือ............................................ ลงชอ่ื ............................................
( นายสุรศกั ด์ิ ยอดหงษ์ ) ( นายวเิ ชยี ร ยอดนิล )

หวั หน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ รองผอู้ านวยการโรงเรยี นวชั รวทิ ยา

ขอ้ เสนอแนะของผ้อู านวยการโรงเรยี นวชั รวทิ ยา

…………………………………………………………………………………….………………………………………………………
……………………………………………….……………………………………………………………………………………………
…….…………………………………………………………………………………………….…………………………………………
…………………………………………………………….……………………………………………………………………………..

( นายจานง อินทพงษ์ )
ผอู้ านวยการโรงเรียนวัชรวิทยา
วนั ท่ี ........ เดอื น ................................ พ.ศ. 2559

บนั ทึกหลงั การสอน วิชาวิทยาศาสตร์พืน้ ฐาน ว 23101 ปกี ารศกึ ษา 2559
แผนการสอนที่ 3 เรื่อง แรงเสียดทาน

ผลการสอน ปัญหาการสอน ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการ
แก้ปัญหา

...………………………................... ...………………………................... ...………………………...................
……นักเรยี นชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่
3/6, 3/7 และ 3/8 สามารถ 1. นกั เรยี นหอ้ ง 3/6 ขาด 1. การสอนคานวณห้องเรียน
เรยี นรูไ้ ดเ้ รว็ ทากิจกรรมผา่ น
เกณฑก์ ารประเมินตาม ทกั ษะการคานวณ ทาให้การ 3/6 ต้องยกตวั อย่างหลายๆ
จดุ ประสงคท์ ุกขอ้ สง่ งาน ได้
ตรงตามเวลา รบั รู้ การสอนชา้ กวา่ ห้องอื่น ตัวอย่าง และใชต้ วั เลขและ
……………………..................
………………………….................. …………………….................. โจทย์ท่ีไมซ่ ับซอ้ น ……………
…………………………..................
………………………………………… 2. ระหว่างทาการทดลอง 2. ใหน้ ักเรยี นท่ีมี
…………………………..................
………………………….................. นักเรียนบางกล่มุ เสยี งดงั ไม่ ความสามารถในการเรยี นที่

ศกึ ษาการทดลองใหใ้ ห้ ดีกวา่ ชว่ ยเหลอื เพื่อนท่เี รียน

รอบคอบ ทาใหใ้ ชเ้ วลาในการ ออ่ นกว่า…………………………......

ทดลองนานกว่ากลุ่มอืน่ ๆ…… 3. ออกแบบทดสอบหลายๆชุด

3. ขณะทาการทดสอบ …………………………...........

นกั เรียนบางคนแอบลอก …………………………………………

คาตอบจากเพ่อื น……………… …………………………..................

ลงชือ่ .......................................................................
(นางอรษา อภิรมย์วิไลชัย)

ตาแหน่ง ครชู านาญพิเศษ โรงเรียนวชั รวิทยา

แผนการจัดการเรียนรู้ 4

กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ วชิ าวิทยาศาสตรพ์ ้ืนฐาน รหสั วิชา ว 23101
ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นที่ 1 ครูผู้สอน อรษา อภิรมยว์ ไิ ลชยั โรงเรยี นวัชรวทิ ยา
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เร่ือง แรงและการเคล่ือนที่ เวลา 20 ช่วั โมง
แผนการสอนท่ี 3 เร่ือง โมเมนตข์ องแรง เวลา 6 ชั่วโมง

1. สาระสาคัญ
โมเมนต์เกี่ยวขอ้ งกบั กิจกรรมตา่ งๆ ในชีวติ ประจาวนั ของเรามาก แม้แตก่ ารเคล่ือนทขี่ อง

อวยั วะ บางส่วน การใช้เครือ่ งมอื หรืออุปกรณต์ า่ งๆ จากหลักการของโมเมนตจ์ ะช่วยใหเ้ ราออก
แรงน้อยๆ แตส่ ามารถทางานหนกั ไดม้ าก

2. มาตรฐานการเรียนรู้
สาระท่ี 4 แรงและการเคลื่อนท่ี
มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจลกั ษณะการเคลอื่ นทแ่ี บบต่างๆ ของวตั ถุในธรรมชาติ มกี ระบวนการ

สบื เสาะหาความรู้และจิตวิทยาศาสตร์ สือ่ สารส่งิ ที่เรยี นรแู้ ละนาความรู้ไปใช้
ประโยชน์

มาตรฐานท่ี ว 8. 1 ใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และจติ วิทยาศาสตร์ในการสบื เสาะหา
ความรู้ การแกป้ ัญหา ร้วู ่าปรากฏการณ์ทางธรรมชาติทเี่ กิดขน้ึ สว่ นใหญม่ ีรปู แบบที่แนน่ อน สามารถ
อธบิ ายและตรวจสอบได้ ภายใต้ข้อมลู และเครื่องมือที่มีอยูใ่ นชว่ งเวลานั้นๆ เข้าใจว่า วทิ ยาศาสตร์
เทคโนโลยี สังคม และสิง่ แวดล้อมมีความเกีย่ วขอ้ งสัมพันธ์กัน

1. ตั้งคาถามท่กี าหนดประเดน็ หรอื ตัวแปรท่ีสาคญั ในการสารวจตรวจสอบ หรอื ศกึ ษา
ค้นควา้ เรอ่ื งทส่ี นใจได้อย่างครอบคลุมและเช่ือถือได้

2. สร้างสมมติฐานทสี่ ามารถตรวจสอบไดแ้ ละวางแผนการสารวจตรวจสอบหลายๆ วธิ ี

3. เลอื กเทคนิควธิ ีการสารวจตรวจสอบทงั้ เชิงปรมิ าณและเชิงคณุ ภาพทีไ่ ดผ้ ลเท่ยี งตรงและ
ปลอดภัย โดยใชว้ ัสดุและเครอ่ื งมอื ทเี่ หมาะสม

4. รวบรวมขอ้ มูล จัดกระทาข้อมลู เชงิ ปรมิ าณและคุณภาพ

5. วิเคราะห์และประเมนิ ความสอดคล้องของประจกั ษพ์ ยานกับข้อสรปุ ทั้งทสี่ นบั สนุนหรอื
ขดั แยง้ กับสมมตฐิ าน และความผดิ ปกติของขอ้ มูลจากการสารวจตรวจสอบ

6. สร้างแบบจาลอง หรอื รูปแบบ ทีอ่ ธิบายผลหรือแสดงผลของการสารวจตรวจสอบ

7. สรา้ งคาถามท่ีนาไปสูก่ ารสารวจตรวจสอบ ในเรื่องทเ่ี กีย่ วขอ้ ง และนาความรูท้ ไี่ ดไ้ ปใช้
ในสถานการณ์ใหม่หรอื อธิบายเกีย่ วกบั แนวคิด กระบวนการ และผลของโครงหงราือนชิ้นงานให้ผอู้ ืน่ เขา้ ใจ

8. บนั ทกึ และอธบิ ายผลการสงั เกต การสารวจ ตรวจสอบ คน้ คว้าเพ่ิมเตมิ จากแหลง่ ความรู้
ตา่ ง ๆ ใหไ้ ดข้ ้อมูลทเี่ ชื่อถอื ได้ และยอมรบั การเปล่ยี นแปลงความรู้ทค่ี น้ พบเมือ่ มขี อ้ มูลและประจกั ษ์
พยานใหม่เพิ่มขึน้ หรอื โตแ้ ยง้ จากเดมิ

9. จัดแสดงผลงาน เขยี นรายงาน และ/หรืออธิบายเกีย่ วกบั แนวคิด กระบวนการ และผล
ของโครงงานหรือช้นิ งานให้ผอู้ ื่นเขา้ ใจ

มาตรฐานการเรียนรชู้ ว่ งชัน้
ทดลองและอธบิ ายหลกั การของโมเมนต์ และ วิเคราะห์โมเมนตใ์ นสถานการณ์ต่างๆ

รวมทั้งคานวณ และนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

3. ตวั ชว้ี ัด
1. วิเคราะห์และคานวณโมเมนตข์ องแรงในสถานการณต์ า่ งๆ
2. สืบค้นข้อมลู อธิบาย และยกตวั อยา่ งการนาหลกั การของโมเมนต์ของแรงไปใช้
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. โมเมนตใ์ นชีวติ ประจาวนั
2. การคานวณโมเมนต์ของแรงใน

4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรียนรูช้ ว่ งชนั้
การทดลอง การอภิปราย เก่ยี วกับหลกั การของโมเมนต์ของแรงในเชงิ ปรมิ าณและการ

วเิ คราะห์โมเมนต์ในสถานการณต์ ่างๆ และการใชป้ ระโยชน์
ความรู้
1. โมเมนต์ ในชวี ิตประจาวนั
2 ประโยชน์ ของโมเมนตใ์ นชวี ิตประจาวนั
3. คานวณหาคา่ โมเมนตใ์ นสถานการณต์ า่ งๆ
ทกั ษะ/สมรรถนะ
ทกั ษะการส่ือสารอยา่ งสร้างสรรคต์ ามชว่ งวัย
คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
1. ซอื่ สตั ยส์ จุ ริต
2. ไผเ่ รียนรู้ มุง่ มน่ั ในการทางาน

สาระการเรียนรู้ทอ้ งถน่ิ -
สาระการเรยี นรู้เก่ียวกับอาเซยี น -
สาระการเรียนรูเ้ ศรษฐกิจพอเพยี ง -

5. สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น
1. ความสามารถในการสอื่ สารอยา่ งสรา้ งสรรค์ตามช่วงวยั
2. ความสามารถในการคดิ คดิ วเิ คราะห์ และการคิดอย่างเป็นระบบ

6. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. ซอื่ สตั ยส์ จุ รติ
2. ไผ่เรียนรู้ ม่งุ ม่นั ในการทางาน
จดุ เน้นทีต่ ้องการพฒั นาคณุ ภาพผ้เู รียน
ทกั ษะการสื่อสารอย่างสร้างสรรคต์ ามชว่ งวยั

การบรู ณาการ -

7. ชิน้ งาน/ภาระงาน
1) ทดสอบกอ่ นเรียน
2) ทดสอบหลงั เรียน
3) รายงานปฏิบตั กิ ารทดลอง
4) ใบงาน/แบบฝึก
5) สมดุ บนั ทึกการเรียน
6) แบบบันทกึ ผลการศึกษาพพิ ธิ ภณั ฑก์ าแพงเพชร

8. การวดั ผลและประเมนิ ผล

8.1 การประเมนิ ระหวา่ งจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

ชิ้นงาน/ภาระงาน วิธกี ารประเมิน เครอื่ งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ
-
1. ทดสอบ2ก6่อ.นเรียน 1. ใหน้ กั เรยี นทา 10. 1. แบบทดสอบก่อนเรียน

แบบทดสอบก่อนเรยี น

2. รายงาน27. 1. สงั เกตพฤตกิ รรร1ม1น.กั เรียน 1. แบบประเมนิ ทักษะการ 1. นักเรียนผ่านเกณฑ์
ปฏิบตั ิการทดลอง
ภายในกล่มุ ขณะปฏบิ ัติการ ปฏิบัตกิ ารทดลอง ประเมนิ ตามแบบประเมิน
28.
ทดลอง และศึกษาเ1อ2ก.สาร ทกั ษะการปฏิบตั กิ ารทดลอง

ประกอบการเรยี นการสอน อยา่ งน้อย 50 %

2. ให้นกั เรยี นเขียนรายงาน

ผลการศึกษากจิ กรรมการ

ทดลอง

8.2 การประเมินเมื่อสนิ้ สุดการเรียนรู้

ชิ้นงาน/ภาระงาน วธิ กี ารประเมนิ เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ
1. แบบทดสอบหลงั 1. นักเรียนทาแบบทดสอบ
1. ทดสอ2บ9ห.ลงั 1. ใหน้ กั เรียนทา เรียน หลงั เรยี นไดผ้ า่ นเกณฑ์
ประเมินรอ้ ยละ 80
เรยี น แบบทดสอบหลังเรยี น 1. นกั เรียนตอบคาถามของ
ครูไดอ้ ยา่ งนอ้ ย 50 %
3. ใบงาน3/0. 1. ให้นกั เรียนทาแบบฝึกหัด 1. ใบงาน/แบบฝึกหดั 2. นกั เรียนผา่ นเกณฑ์ประเมนิ
แบบฝกึ หัด หรือใบงาน ตามแบบประเมินการแสวงหา
ข้อมลู ของ
31. 1. ให้นักเรียนสรุป - นกั เรียนอยา่ งน้อย 50 %
4. สมุดบ3ัน2ท.ึก สาระสาคัญลงในสมดุ 3. นกั เรยี นทาแบบฝึกหัดได้
คะแนนอยา่ งน้อย 50 %
33. นักเรียนสรุปสาระสาคัญลงใน
สมุดไดถ้ ูกต้องครบถว้ น

9. กิจกรรมการจดั การเรียนรู้
ขั้นนา
1. ทดสอบความรกู้ ่อนเรียนของนกั เรยี น เรือ่ ง โมเมนตใ์ นชวี ิตประจาวันและการคานวณ
2. นักเรยี นและครูรว่ มกนั อธบิ ายโมเมนตใ์ นชีวติ ประจาวันและการคานวณ โดยครูใชค้ าถาม ถามนา

นกั เรียนดงั น้ี
- โมเมนตเ์ กย่ี วข้องกับชวี ิตประจาวันอยา่ งไร
- โมเมนต์มีประโยชน์อยา่ งไร ในชีวิตประจาวัน
- มวี ธิ ีการคานวณหาคา่ โมเมนตไ์ ด้อยา่ งไร

ข้นั สอน
3. นักเรยี นแต่ละกลุ่ม รับเอกสารประกอบการเรียน เพอื่ รว่ มกนั ศกึ ษาคน้ คว้าหาคาตอบตามคาถาม

ของครู
4. นักเรียนศึกษาใบความรู้ และปฏบิ ตั ติ ามใบงาน
5. ครมู อบหมายใหน้ ักเรยี นไปสบื คน้ เครอื่ งกลทใ่ี ช้ผ่อนแรงหรืออานวยความสะดวกในการทางานที่ใช้

หลกั การโมเมนต์ ในทอ้ งถน่ิ ของตนเอง หรอื พพิ ิธภัณฑ์กาแพงเพชร
6. นกั เรียนและครรู ่วมกันอธิปรายสรุปคาตอบของคาถามแตล่ ะข้อ

ขัน้ สรุป
7. นกั เรยี นบันทกึ สาระสาคญั จากการสรุปในใบงาน
8. นักเรียนทาแบบทดสอบหลงั เรยี น

11. สื่อการเรยี นรู้ /แห่ลงการเรยี นรู้
สอ่ื การเรียนรู้
1. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น
2. แบบทดสอบหลังเรยี น
3. ใบความรู้ โมเมนต์ในชวี ติ ประจาวนั และการคานวณ
4. ใบงาน เรอ่ื ง โมเมนตใ์ นชีวติ ประจาวันและการคานวณ

แหล่งการเรียนรู้
1. หอ้ งสมุดโรงเรยี นวชั รวิทยา
2. หอ้ งสมุดกลุม่ สาระวิชา
3. www. ทีเ่ กี่ยวข้องกบั โมเมนต์

12. กิจกรรมเสนอแนะ
1. ให้นักเรยี นสืบคน้ เร่อื งโมเมนตจ์ ากสอ่ื ออนไลน์ ดงั นี้

http://guru.sanook.com/19881/ โมเมนตใ์ นชวี ิตประจาวัน
https://www.youtube.com/watch?v=_-f3YvSh3yc โมเมตใ์ นชวี ติ ประจาวนั

บนั ทกึ ผลหลังการสอนแผนการสอนท่ี 4 เรอื่ ง โมเมนต์
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 วชิ า วทิ ยาศาสตรพ์ น้ื ฐาน รหสั วชิ า ว 23101

ครูผสู้ อน นางอรษา อภิรมยว์ ไิ ลชยั

1. ผลการสอน

1.1 สรุปผลการสอน

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

1.2 หาความกา้ วหนา้ ในการเรียน การสอน

จานวน คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน E1/E2 ความกา้ ว

นักเรยี น เตม็ เฉลี่ยก่อน เฉลย่ี เฉล่ียหลงั หน้าในการ

เรียน ระหวา่ ง เรียน เรียน

เรยี น

รอ้ ยละความกา้ วหนา้ = คะแนนหลังเรียน-คะแนนกอ่ น X 100
2. ปัญหา/อปุ สรรค์ เรียน คะแนนเต็ม

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………..……………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแก้ไข
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอ่ื ..........................................................................
( นางอรษา อภริ มยว์ ไิ ลชัย )

ตาแหน่ง ครูชานาญการพเิ ศษ โรงเรยี นวัชรวิทยา
วนั ท่ี เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2562

ความคดิ เหน็ ของหวั หนา้ กลุม่ สาระ ความคดิ เห็นของรองผู้อานวยการกลมุ่
การเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ บริหารงานวิชาการ

........................................................ ........................................................
....................................................... .......................................................
....................................................... .......................................................
....................................................... .......................................................
....................................................... .......................................................

ลงชือ่ ............................................ ลงช่ือ............................................

( นายสรุ ศักด์ิ ยอดหงษ์ ) ( นายวเิ ชียร ยอดนลิ )

หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ รองผอู้ านวยการกลุ่มบริหารงานวิชาการ

วันท่ี เดอื น พ.ศ. 2561 วนั ที่ เดอื น พ.ศ. 2561

ข้อเสนอแนะของหวั หนา้ สถานศึกษา

…………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
………………………………………………….……………………………………………………………………………….…………
…………….………………………………………………………………………………………………….……………………………
………………..………………………………………………………….………………….……………………………………….……
…………………………………………………………………………………………….……………………………………….………

( นายไพชยนต์ ศรมี ว่ ง )
ผู้อานวยการโรงเรียนวชั รวทิ ยา
วนั ท่ี ...... เดอื น ................................ พ.ศ. 2561

บนั ทกึ หลังการสอน วชิ าวทิ ยาศาสตรพ์ ื้นฐาน ว 23101 ปกี ารศกึ ษา 2559
แผนการสอนท่ี 4 เรอ่ื ง โมเมนต์ในชีวิตประจาวนั และการคานวณ

ผลการสอน ปญั หาการสอน ข้อเสนอแนะ/แนวทางการ
แก้ปัญหา

...………………………................... ...………………………................... ...………………………...................

……นกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1. นักเรียนห้อง 3/6 ขาด 1. การสอนคานวณหอ้ งเรยี น

3/6, 3/7 และ 3/8 สามารถ ทักษะการคานวณ ทาให้การ 3/6 ตอ้ งยกตัวอยา่ งหลายๆ

เรยี นรไู้ ดเ้ ร็วทากจิ กรรมผา่ น รบั รู้ การสอนช้ากวา่ ห้องอน่ื ตวั อย่าง และใช้ตวั เลขและ

เกณฑก์ ารประเมินตาม …………………….................. โจทย์ที่ไม่ซบั ซอ้ น ……………

จุดประสงค์ทกุ ข้อ สง่ งาน ได้ 2. ระหวา่ งทาการทดลอง 2. ให้นกั เรยี นทม่ี ี

ตรงตามเวลา นกั เรยี นบางกลมุ่ เสียงดัง ไม่ ความสามารถในการเรยี นที่

……………………...................... ศึกษาการทดลองให้ให้ ดีกวา่ ชว่ ยเหลอื เพอื่ นที่เรยี น

………………………….................. รอบคอบ ทาใหใ้ ชเ้ วลาในการ อ่อน

………………………….................. ทดลองนานกว่ากลุม่ อนื่ ๆ…… กวา่ ……………………………......

………………………………………… 3. พืน้ หอ้ งเรียนและพนื้ โต๊ะ 3. ออกแบบทดสอบหลายๆ

………………………….................. ปฏิบัตกิ าร เรียบและล่นื ชุด …………………………...........

………………………….................. เหมือนกนั ทดลองแลว้ ไม่เห็น …………………………………………

ความแตกต่าง …………………………..................

4. ขณะทาการทดสอบ

นักเรียนบางคนแอบลอก

คาตอบจากเพอื่ น………………

ลงช่ือ.......................................................................
(นางอรษา อภริ มยว์ ิไลชยั )

ตาแหนง่ ครูชานาญพิเศษ โรงเรียนวชั รวทิ ยา

แผนการจดั การเรยี นรู้ 5

กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ วชิ าวิทยาศาสตร์พน้ื ฐาน รหัสวิชา ว 23101

ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 1 ครูผู้สอน อรษา อภิรมยว์ ิไลชยั โรงเรียนวชั รวทิ ยา

หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 1 เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ เวลา 20 ชัว่ โมง

แผนการสอนท่ี 3 เรือ่ ง ความเร่ง เวลา 4 ช่ัวโมง

1. สาระสาคัญ

ในการเคลื่อนทขี่ องวัตถุ บางชว่ งเวลาวัตถุจะมีความเรว็ คงตวั คอื ขนาดของความเร็วและ
ทิศการเคล่ือนทีข่ องวตั ถุไมเ่ ปลย่ี นแปลง ความเรว็ ของวัตถุจะเปล่ยี นเมอ่ื มีการเปลี่ยนขนาดของ
ความเร็ว หรอื มกี ารเปลยี่ นทศิ หรอื มกี ารเปลีย่ นทง้ั ขนาดและทิศของความเร็วโดยจะเรียกวา่
วตั ถุมคี วามเรง่
ความเรง่ หมายถึง ความเร็วทเ่ี ปล่ียนไปใน 1 วนิ าที ความเร่งของวตั ถุอาจมคี ่าเปล่ยี นแปลง
ไปเรื่อยๆ ขณะเคลอ่ื นท่ีความเรง่ หาได้จาก

ความเร่ง = ความเรว็ ทีเ่ ปล่ียนไป (เมตร/วนิ าที)
เวลาท่ใี ชใ้ นการเปลยี่ นความเรว็ (วนิ าที)

2. มาตรฐานการเรียนรู้
สาระการเรียนรูท้ ี่ 4 แรงและการเคลื่อนท่ี
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจลักษณะการเคล่อื นทีแ่ บบตา่ งๆ ของวัตถุในธรรมชาติ มีกระบวนการ

สบื เสาะหาความรู้และจติ วิทยาศาสตร์ ส่อื สารสิ่งที่เรยี นรูแ้ ละนาความรู้ไปใช้
ประโยชน์

สาระการเรียนรู้ท่ี 8 ธรรมชาตขิ องวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
มาตรฐานท่ี ว 8. 1 ใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และจิตวทิ ยาศาสตร์ในการสืบเสาะหา
ความรู้ การแก้ปญั หา รู้วา่ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติท่เี กิดข้ึนส่วนใหญม่ ีรปู แบบท่แี น่นอน สามารถ
อธบิ ายและตรวจสอบได้ ภายใต้ขอ้ มูลและเครอื่ งมอื ทมี่ ีอยู่ในช่วงเวลาน้ันๆ เข้าใจวา่ วทิ ยาศาสตร์
เทคโนโลยี สังคม และส่ิงแวดลอ้ มมีความเกีย่ วข้องสัมพันธ์กัน

1. ตงั้ คาถามทีก่ าหนดประเด็นหรอื ตวั แปรท่สี าคญั ในการสารวจตรวจสอบ หรือศกึ ษา
คน้ ควา้ เร่ืองทส่ี นใจได้อยา่ งครอบคลมุ และเช่อื ถอื ได้


Click to View FlipBook Version