51 กรณีที่ ณีที่ 3 : พนัก นั งานที่เ ที่ จ็บ จ็ป่ว ป่ ยด้ว ด้ ยโรคเรื้อ รื้ รัง รั* โรคทางสูติ สู ศ ติ าสตร์*ร์* โรคในกลุ่มลุ่ Musculo-skeletal*** Breast Mass * โรคเรื้อ รื้ รัง รั ได้แ ด้ ก่ ความดัน ดัโลหิต หิ สูง สู เบาหวาน ไทรอยด์ SLE MS โรคโลหิต หิ จาง โรคมะเร็ง ร็ เป็น ป็ ต้น ต้ ** โรคทางสูติ สู ศ ติ าสตร์ ได้แ ด้ ก่ Adenomyosis Endometriosis Ovarian cyst *** โรคในกลุ่มลุ่ Musculo-skeletal ได้แ ด้ ก่ หมอนรองกระดูก ดู ทับ ทั เส้น ส้ประสาท (Herniated Nucleus Pulposus) หมายเหตุฯ กรณีที่พนักงานกลุ่มนี้ เจ็บป่วยด้วยอาการทั่วไป (กลุ่มสีขาว หรือสีดำ ) ให้เข้ารับ การรักษาที่คลีนิกสวัสดิการพนักงาน (ตาม Flow ในกรณีที่ 1)
กรณีที่เป็นการรักษาที่มีค่าใช้จ่ายสูง เช่น ค่ายาฉีดที่ใช้ในการรักษามากกว่า 10,000 บาท/ครั้ง และเป็นการรักษาที่ไม่เป็นไปตามขั้นตอนการรักษา เจ้าหน้าที่การเงินจะเสนอให้หัวหน้าสำ นักงานบุคคลพิจารณาว่าสามารถใช้ สวัสดิการได้เต็มจำ นวนหรือไม่ หากไม่สามารถใช้สวัสดิการได้เต็มจำ นวน พนักงานจะต้องร่วมจ่าย (Co-payment) 50% ของราคาค่ายา หมายเหตุฯ แนวทางในการตัดสินใจ หัวหน้าสำ นักงานบุคคลจะปรึกษากับ แพทย์แผนกตรวจสุขภาพหรือรองผู้อำ นวยการฝ่ายการแพทย์ 52 กรณีที่ ณีที่ 4 : พนัก นั งานหญิง ญิฝากครรภ์แ ภ์ ละคลอด สามารถเข้า ข้ รับ รั การตรวจได้ต ด้ าม Flow เดิม ดิ ที่ปที่ ฏิบั ฏิ ติ บั อ ติ ยู่ กรณีที่ 5 : การสั่งใช้เวชภัณฑ์ เพื่อเป็นการป้องกันโรคหรือภาวะแทรกซ้อน ที่ยังไม่เกิดขึ้น ให้พนักงานร่วมจ่าย (Co-payment) 70% ของราคา เวชภัณฑ์
สิทธิประโยชน์ อัตราเงินสมทบ ลูกจ้าง นายจ้าง รัฐบาล เจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย คลอดบุตร 1.5% 1.5% 1.5% สงเคราะห์บุตร ชราภาพ 3% 3% 1% ว่างงาน 0.5% 0.5% 0.25% รวม 5% 5% 2.75% 53 กองทุนประกันสังคม เงินสมทบประกันสังคม ตัวอย่าง การคำ นวณเงินสมทบกองทุนประกันสังคม เงิน งิ เดือ ดื น 9,000 บาท (9,000*5/100) เท่า ท่ กับ กั จ่า จ่ ยเงินสมทบ 450 บาท ต่อ ต่ เดือ ดื น
กองทุนเงินทดแทน กองทุนประกันสังคม 1. หน้าที่ผู้จ่าย เงินเข้ากองทุน - นายจ้างเป็นผู้จ่ายเงินเข้ากอง ทุนฯ ฝ่ายเดียว จ่ายเป็นรายปี - ในอัตราร้อยละ 0.02 – 0.08% แล้วแต่ความเสี่ยงใน สถานประกอบการ - คำ นวณจากค่าจ้างแต่ละปี ของลูกจ้าง - นายจ้าง ลูกจ้าง ต้องจ่ายสมทบ เข้ากองทุนร้อยละ 5 ของรายได้ - จ่ายเป็นรายเดือนทุกเดือน 2. ผลประโยชน์ - คุ้มครองแก่ลูกจ้างที่ทำ งาน ตั้งแต่วันแรก - ใช้ได้เมื่อลูกจ้างได้รับอุบัติเหตุ จากการทำ งานเท่านั้น - เบิกได้ทั้งค่ารักษาพยาบาล และเงินชดเชยการหยุดงานเมื่อ เจ็บจากการทำ งาน - เป็นหลักประกันความมั่นคงทาง ด้านสุขภาพให้กับลูกจ้าง - ลูกจ้างได้รับสิทธิประโยชน์ ทั้งหมด 7 กรณี (เจ็บป่วย,ทุพล ภาพ,คลอดบุตร,สงเคราะห์ บุตร,ตาย,ชราภาพ,ว่างงาน) - สิทธิแต่ละกรณีเกิดตามอายุการ ส่งเงินสมทบ 54 เงินสมทบของสำ นักงานประกันสังคม แบ่งออกเป็น 2 กองทุน
55 สิทธิประโยชน์ กรณีทันตกรรม การถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน และผ่าตัดฟันคุด ให้ผู้ประกันตนมีสิทธิ ได้รับค่าบริการทางการแพทย์เท่าที่จ่ายจริง 900 บาท/ครั้ง/ปี กรณีใส่ฟันเทียมชนิดถอดได้บางส่วน ให้ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับค่า บริการทางการแพทย์และค่าฟันเทียมเท่าที่จ่ายจริง ตามความจำ เป็นใน วงเงินไม่เกิน 1,500 บาท ภายในระยะเวลา 5 ปีนับแต่วันที่ใส่ฟัน เทียมนั้น ตามหลักเกณฑ์ดังนี้ กรณีใส่ฟันเทียมชนิดถอดได้ทั้งปาก ให้ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับค่า บริการทางการแพทย์และค่าฟันเทียมเท่าที่จ่ายจริง ตามความจำ เป็นใน วงเงินไม่เกิน 4,400 บาท ภายในระยะเวลา 5 ปีนับตั้งแต่วันที่ใส่ฟัน เทียมนั้น ตามหลักเกณฑ์ดังนี้ (ก) 1-5 ซี่ เท่า ท่ ที่จ่ ที่ า จ่ ยจริง ริ ตามความจำ เป็น ป็ในวงเงินไม่เ ม่ กิน กิ 1,300 บาท (ข) มากกว่า ว่ 5 ซี่ เท่า ท่ ที่จ่ ที่ า จ่ ยจริง ริ ตามความจำ เป็น ป็ในวงเงินไม่เ ม่ กิน กิ 1,500 บาท (ก) ฟันเทียมชนิดถอดได้ทั้งปากบนหรือล่าง เท่าที่จ่ายจริงตาม ความ จำ เป็นในวงเงินไม่เกิน 2,400 บาท (ข) ฟันเทียมชนิดถอดได้ทั้งปากบนและล่าง เท่าที่จ่ายจริงตาม ความ จำ เป็นในวงเงินไม่เกิน 4,400 บาท
56 เงื่อนไขกรณีเข้าทำ ฟัน โรงพยาบาลทักษิณ สำ หรับ รั พนัก นั งานที่มี ที่ สิ มี ท สิ ธิค ธิ รบตามที่ปที่ ระกัน กั สัง สั คมกำ หนด และบรรจุเ จุ ป็น ป็ พนัก นั งาน ประจำ แล้ว ล้ จะได้รั ด้ บ รั สิท สิ ธิคื ธิ อ คื ได้รั ด้ บ รั ค่า ค่ บริก ริ ารทางการแพทย์จ ย์ ากประกัน กั สัง สั คมได้ใด้ น อัต อั รา 900 บาท และค่า ค่ ใช้จ่ ช้ า จ่ ยในส่ว ส่ นที่เ ที่ กิน กิ จะได้รั ด้ บ รั ส่ว ส่ นลด 20% สำ หรับพนักงานที่มีสิทธิครบตามที่ประกันสังคมกำ หนด แต่ยังไม่ผ่านบรรจุ เป็นพนักงานประจำ จะได้รับสิทธิ คือ ได้รับค่าบริการทางการแพทย์จาก ประกันสังคมได้ในอัตรา 900 บาท แต่ไม่ได้รับส่วนลดจากโรงพยาบาลฯ สำ หรับพนักงานที่ยังไม่มีสิทธิครบตามที่ประกันสังคมกำ หนด และยัง ไม่ผ่านการบรรจุจะยังคงต้องจ่ายค่าบริการเต็มอัตรา 1. 2. 3. นิย นิ ามคำ ว่า ว่ “มีสิ มี ท สิ ธิค ธิ รบตามที่ปที่ ระกัน กั สัง สั คมกำ หนด” คือ คื ผู้ปผู้ ระกัน กั ตนที่จ่ ที่ า จ่ ยเงิน สมทบในกรณีเ ณี จ็บ จ็ป่ว ป่ ยมาแล้ว ล้ไม่น้ ม่ อ น้ ยกว่า ว่ 3 เดือ ดื น ภายในระยะเวลา 15 เดือ ดื น ก่อ ก่ นวัน วั รับ รั บริก ริ ารทางการแพทย์ สำ หรับรายละเอียดของสิทธิประโยชน์ทั้งหมด สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ https://money.kapook.com/view237474.html หรือ รื Website ของสำ นัก นั งานประกัน กั สัง สั คม https://www.sso.go.th/wpr/assets/upload/files_storage/sso _th/76b8bc295fed117f5ebf437e8423f655.pdf
57 การรักษาพยาบาลนอกสถานที่ ผู้มีสิทธิ เป็นพนักงาน รพ.ทักษิณ เท่านั้น (ไม่รวมครอบครัว) ต้องเป็นกรณีฉุกเฉิน ที่ไม่สามารถมารักษาที่โรงพยาบาลทักษิณได้ (หากไม่ได้รับการรักษาอาจส่งผลกระทบต่อชีวิตได้) วงเงินในการรักษา กรณีผู้ป่วยนอก กรณีอุบัติเหตุ รักษาได้โดยไม่จำ กัดจำ นวนครั้ง และหากเป็นกรณีที่เกิด จากรถ ให้เบิกสิทธิ พรบ. ก่อนตามลำ ดับ กรณีผู้ป่วยใน - กรณีที่พนักงานเกิดอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยต้องเข้าพักเป็นผู้ป่วยในให้ แจ้งกลับฝ่ายบุคคลหรือหัวหน้างานเพื่อประสานเรื่องการรักษาและรับ กลับ
กองทุน ทุ สำ รองเลี้ย ลี้ งชีพ ชี คือ คื กองทุน ทุ ที่น ที่ ายจ้า จ้ งและลูก ลู จ้า จ้ งร่ว ร่ มกัน กั จัด จั ตั้ง ตั้ ขึ้น ขึ้ เงิน งิ ของกองทุน ทุ มาจากเงินที่ลู ที่ ก ลู จ้า จ้ งจ่า จ่ ยส่ว ส่ นหนึ่ง นึ่ เรีย รี กว่า ว่ "เงินสะสม” และนายจ้า จ้ ง จ่า จ่ ยเงิน งิ เข้า ข้ อีก อี ส่ว ส่ นหนึ่ง นึ่ เรีย รี กว่า ว่ "เงินสมทบ" นั่น นั่ คือ คื นอกจากลูก ลู จ้า จ้ งจะออมแล้ว ล้ นายจ้า จ้ งยัง ยั ช่ว ช่ ยลูก ลู จ้า จ้ งออมอีก อี แรงหนึ่ง นึ่ ด้ว ด้ ย การจัด จั ตั้ง ตั้ กองทุน ทุ สำ รองเลี้ย ลี้ งชีพ ชี นอกจากจะทำ ให้ลู ห้ ก ลู จ้า จ้ งมีก มี ารออมอย่า ย่ งต่อ ต่ เนื่อ นื่ ง มีวิ มี นั วิ ย นั และมีน มี ายจ้า จ้ งช่ว ช่ ยออมแล้ว ล้ ยัง ยั มีก มี ารนำ เงิน งิไปบริห ริ ารให้เ ห้ กิด กิ ดอกผลงอกเงยโดยผู้บผู้ ริห ริ ารโดยมือ มื อาชีพ ชี ที่เ ที่ รีย รี ก ว่า ว่ "บริษั ริ ท ษั จัด จั การ" โดยดอกผลที่เ ที่ กิด กิ ขึ้น ขึ้ จะนำ มาเฉลี่ย ลี่ ให้กั ห้ บ กั สมาชิก ชิ กองทุน ทุ ทุก ทุ คน ตามสัด สั ส่ว ส่ นของเงินที่แ ที่ ต่ล ต่ ะคนมีอ มี ยู่ใยู่ นกองทุน ทุ 58 กองทุนสำ รองเลี้ยงชีพ
59 คุณสมบัติของสมาชิก การเข้าเป็นสมาชิก การสิ้นสมาชิกภาพ ลูกจ้างที่ได้รับการบรรจุเป็นพนักงานประจำ ของบริษัททุกคน ยื่นใบสมัครเข้าเป็นสมาชิกกองทุนต่อคณะกรรมการกองทุน โดยไม่ออก จากงานไม่มีสิทธิสมัครเข้ากองทุนอีก ลาออกจากการเป็นสมาชิกของกองทุนหรือลาออกจากงาน หรือออกจากงาน ด้วยเหตุอื่น หรือครบเกษียณอายุ หรือโอนเป็นสมาชิกของกองทุนอื่น หรือ กองทุนเลิก หรือเสียชีวิต เงินสะสมและเงินสมทบ เงิน งิ สะสม สมาชิก ชิ แต่ล ต่ ะคนจะจ่า จ่ ยเงินสะสมเข้า ข้ กองทุน ทุ ในอัต อั ราร้อ ร้ ยละ 3 5 7 หรือ รื 10 ของค่า ค่ จ้า จ้ ง (ระบุต บุ ามความสมัค มั รใจ) โดยยิน ยิ ยอมให้น ห้ ายจ้า จ้ งหัก หั เงินสะสมดัง ดั กล่า ล่ ว จากค่า ค่ จ้า จ้ งในวัน วั ที่จ่ ที่ า จ่ ยค่า ค่ จ้า จ้ ง เงิน งิ สมทบ บริษั ริ ท ษั จะจ่า จ่ ยเงิน งิ สมทบเข้า ข้ กองทุน ทุ ในวัน วั เดีย ดี วกับ กั ที่ส ที่ มาชิก ชิ จ่า จ่ ยเงิน สะสมเข้า ข้ กองทุน ทุ ในอัต อั ราร้อ ร้ ยละ 3 ของค่า ค่ จ้า จ้ ง ผู้จัผู้ด จั การกองทุน ทุ จะจ่า จ่ ยเงิน งิ ของกองทุน ทุ พร้อ ร้ มผลประโยชน์คื น์ อ คืให้แ ห้ ก่ส ก่ มาชิก ชิ ภายใน 30 วัน วั นับ นั แต่วั ต่ น วั สิ้น สิ้ สภาพสมาชิก ชิ
ระยะการสมทบ (นับอายุที่เริ่มเป็นสมาชิก) สัดส่วนการได้รับเงินสมทบ ลูกจ้าง นายจ้าง ผลประโยชน์ น้อยกว่า 2 ปี 100% 0 ได้ตามสัดส่วนรายได้ของกองทุน 2 – ไม่ถึง 4 ปี 100% 30% ได้ตามสัดส่วนรายได้ของกองทุน 4 – ไม่ถึง 6 ปี 100% 50% ได้ตามสัดส่วนรายได้ของกองทุน 6 – ไม่ถึง 8 ปี 100% 75% ได้ตามสัดส่วนรายได้ของกองทุน 8 ปีขึ้นไป 100% 100% ได้ตามสัดส่วนรายได้ของกองทุน 60 หลักเกณฑ์กองทุนสำ รองเลี้ยงชีพ โรงพยาบาลทักษิณ
การจ่ายเงินแก่สมาชิก เมื่อสิ้นสุดสมาชิก สมาชิกจะได้รับภายใต้เงื่อนไขดังต่อไปนี้ 1.เมื่อถึงแก่กรรม จะได้รับเงินสะสมและเงินสมทบ รวมถึงผลประโยชน์จาก เงินทั้งสองส่วน 2.เมื่อลาออกจากงานตามระเบียบ หรือออกจากงานด้วยเหตุอื่น หรือ เกษียณอายุ จะได้รับเงินสะสมรวมทั้งประโยชน์อันเกิดจากเงินสะสมทั้งจำ นวน และเงินสมทบรวมทั้งผลประโยชน์ เว้นแต่สมาชิกออกจากงาน เนื่องด้วยถูกให้ ออกเพราะกระทำ ผิดกฎระเบียบข้อบังคับของบริษัททุกกรณี สมาชิกไม่มีสิทธิ ได้รับเงินสมทบและผลประโยชน์จากเงินสมทบ 3.ผู้จัดการกองทุนจะจ่ายเงินของกองทุนพร้อมผลประโยชน์คืนให้แก่สมาชิก ภายใน 30 วัน นับแต่วันสิ้นสภาพสมาชิก 4.สิทธิประโยชน์ด้านภาษีอากร เงินสะสมส่วนของสมาชิกแต่ละปี นำ ไปหัก ลดหย่อนภาษีได้ตามจริง 61
62 การตรวจสุขภาพประจำ ปี พนักงาน ตามโปรแกรมการตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลกำ หนด ปีละ 1 ครั้ง
1.สหกรณ์ออมทรัพย์ โรงพยาบาลทักษิณ จำ กัด 2.โบนัสประจำ ปี 3.หอพักสำ หรับพยาบาลวิชาชีพ 4.ห้องนอนเวรสำ หรับเจ้าหน้าที่ 5.รถส่งเจ้าหน้าที่เวรบ่าย 6.รางวัลเจ้าหน้าที่ทำ งานครบ 10 และ 20 ปี 7.สวัสดิการชุดฟอร์ม 8.การฝึกอบรม ทั้งภายใน และภายนอก 9.กิจกรรมนันทนาการ และงานเลี้ยงสังสรรค์ปีใหม่ 10.การไปร่วมงานฌาปนกิจของสมาชิกในครอบครัวเจ้าหน้าที่ 11.การให้การช่วยเหลือครอบครัวเจ้าหน้าที่ที่เดือดร้อน 12.Day Care โรงพยาบาลทักษิณ รับเลี้ยงบุตรพนักงาน 63 สวัสดิการนอกจากกฎหมายกำ หนด
กรณีทำ งานติดต่อกันครบ 120 วัน แต่ไม่ครบ 1 ปี ได้เงินชดเชยไม่ น้อยกว่าค่าจ้าง 30 วันสุดท้าย กรณีทำ งานติดต่อกันครบ 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี ได้เงินชดเชยไม่น้อย กว่าค่าจ้างค้าจ้าง 90 วันสุดท้าย กรณีทำ งานติดต่อกันครบ 3 ปี แต่ไม่เกิน 6 ปี ได้รับเงินชดเชยไม่ น้อยกว่าค่าจ้าง 180 วัน กรณีทำ งานติดต่อกันครบ 6 ปี แต่ไม่เกิน 10 ปี ได้เงินชดเชยไม่น้อย กว่าค่าจ้าง 240 วันสุดท้าย กรณีทำ งานติดต่อกัน 10 ปี แต่ไม่เกิน 20 ปี ได้เงินชดเชยไม่น้อย กว่าค่าจ้าง 300 วันสุดท้าย กรณีทำ งานติดต่อกันครบ 20 ปี ขึ้นไป ได้เงินชดเชยไม่น้อยกว่าค่า จ้าง 400 วันสุดท้าย 64 สิทธิประโยชน์ ภายหลังเกษียณอายุ เงินชดเชยการเกษียณอายุของบริษัท เมื่อ มื่ อายุค ยุ รบ 55 ปีบ ปี ริบู ริ ร บู ณ์ และสิ้น สิ้ สุด สุ สภาพการเป็น ป็ พนัก นั งานของโรงพยาบาล จะได้รั ด้ บ รั เงิน งิ ชดเชยตามอัต อั ราค่า ค่ จ้า จ้ งสุด สุ ท้า ท้ ย (คำ นวณเป็น ป็ รายวัน วั) ตามสัด สั ส่ว ส่ นต่อ ต่ ไปนี้
65 บทที่ 5 ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำ งาน จุดรวมพล ทางโรงพยาบาลทักษิณ จุดรวมพลที่ 1 : หน้าอาคารสำ นักงาน จุดรวมพลที่ 2 : หน้าแผนกฉุกเฉิน
66 การจำ แนกพื้นที่ เมื่อเกิดอัคคีภัย 1. จุดเกิดเหตุ (Immediate Danger Area) หมายถึง พื้นที่ซึ่งเป็นจุด กำ เนิดของการเกิดอัคคีภัยและต่อเนื่อง มี อันตรายสูงมาก ทั้งความร้อน ควัน ผู้ที่อยู่ในบริเวณนี้ ต้องถูกอพยพไปยังจุดปลอดภัยทันที 2. พื้นที่อันตราย (Danger Area) หมายถึง พื้นที่โดยรอบจุดเกิดเหตุ ระยะห่างขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการเกิดอัคคีภัย เมื่อประกาศแผนฉุกเฉิน ต้องมีการอพยพผู้ป่วยและทรัพย์สิน 3. พื้นที่เสี่ยง (Risk Area) หมายถึง พื้นที่รอบนอกพื้นที่อันตราย ซึ่ง เมื่อมีการประกาศแผนฉุกเฉิน ไม่ต้องมีการอพยพผู้ป่วยและทรัพย์สิน แต่ ต้องคอยเฝ้าระวัง เพราะอยู่ในภาวะเตรียมพร้อม 4.จุดปลอดภัย (Safe Area) หมายถึงพื้นที่ปลอดภัยซึ่งหน่วยงานของ อาคารนั้น กำ หนดให้เป็นที่นัดพบหรือรวมตัวกันเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ก่อนมี การประกาศแผนฉุกเฉินเพื่อย้ายไปยังจุดร่วมพล 5.จุด จุ รวมพล (Assembly Area) หมายถึง ถึ พื้น พื้ ที่ปที่ ลอดภัย ภั ซึ่ง ซึ่ รองรับ รั การ อพยพการส่ง ส่ ต่อ ต่ ทรัพ รั ย์สิ ย์ น สิ ผู้ป่ผู้ว ป่ ย และผู้ปผู้ ระสบภัย ภั เมื่อ มื่ เกิด กิ เหตุฉุ ตุ ก ฉุ เฉิน ฉิ มีไมี ม่น้ ม่ อ น้ ย กว่า ว่ 2 จุด จุ แต่ไต่ ม่เ ม่ กิน กิ 4 จุด จุ ประกาศใช้ค ช้ รั้ง รั้ ละ 1 จุด จุ เท่า ท่ นั้น นั้ เกิด กิ เหตุ ฉุก ฉุ เฉิน ฉิ
67 “อุปกรณ์เตือนภัย” เครื่องดักจับควัน Smoke Detectors Fire Alarm อุปกรณ์ดับเพลิง เครื่องดับเพลิง แบบยกหิ้ว 1 เครื่อง ต่อพื้นที่ไม่เกิน 20 เมตร โดย ทุกระยะไม่เกิน 200 ตารางเมตร ติดตั้งในระดับความสูง 140-150 เซนติเมตร โดยวัดจากพื้นถึงส่วนสูงที่สุด
68 ชนิดถังดับเพลิงแบบมือถือในโรงพยาบาล ถังสีเขียว เป็นเครื่องดับเพลิงชนิดน้ำ ยาเหลว ระเหย (ฮาโลตรอนที่ไม่มีสาร CFC สารที่ ทำ ลายชั้นบรรยากาศของโลก) ถังสีแดง เป็นเครื่องดับเพลิงชนิดผงเคมี แล้ว อัดแรงดันเข้าไป เวลาใช้ผงเคมีจะถูกดันออกไป คลุมไฟทำ ให้อับอากาศ ใช้ดับไฟประเภท B ห้ามใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าเพราะอาจทำ ให้เสีย หายได้
69 สายส่งน้ำ ดับเพลิง พร้อมหัวฉีด อุปกรณ์สำ รองไฟฟ้าและแสงสว่าง จะต้องดำ เนินการติดตั้งให้เพียงพอต่อการใช้งาน เครื่องกำ เนิดไฟฟ้าสำ รอง (Generator) ไฟฉุกเฉิน ประจำ ทุกอาคาร และทุกหน่วยงาน อุปกรณ์ป้องกันภัยและช่วยชีวิต หน้ากากป้องกันความร้อนหรือควันพิษ
70 แนวทางปฏิบัติเมื่อเกิดอัคคีภัย
71 การจัดการขยะในโรงพยาบาลทักษิณ
72 ระบบบำ บัดน้ำ เสีย โรงพยาบาลทักษิณ ระบบบำ บัดน้ำ เสียในโรงพยาบาล ระบบ Activated Sludge มีส่วนประกอบหลัก 2 อย่าง คือ ถังเติมอากาศที่ใช้เลี้ยงจุลินทรีย์ และถัง ตกตะกอน ซึ่งแยกจุลินทรีย์ออกจากน้ำ ก่อนระบายทิ้ง
73 การควบคุมและป้องกันการติดเชื้อ การป้องกันการติดเชื้อที่เป็นมาตรฐาน (Standard Precaution) เป็นวิธีมาตรฐานในการป้องกันการแพร่กระจายของโรคติดเชื้อ โดยเน้นเชื้อ โรคที่มีการติดต่อทางเลือด, สารคัดหลั่งจากร่างกาย , แผลและเยื่อเมือก ประกอบด้วย การล้างมือ การป้องกันอุบัติเหตุขณะทำ งาน การใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองที่เหมาะสม การล้างมือ ท่าล้างมือ 6 ท่า
การใส่หรือปลดใบมีดออกจากด้าม *** ให้ใช้เครื่องมือ เช่น Holder หรือ Clamp ช่วยแทนการใช้มือเปล่า ของมีคม : ไม่วางส่วนที่แหลมคมยื่นออกนอกภาชนะ ส่งของโดยวาง ในภาชนะรองรับก่อนจึงหยิบใช้ Forceps หรือ Needle holder คีบเข็ม / ของ มีคม แทนการใช้มือเปล่าหยิบจับ ห้ามถอดด้ามมีดโดย ใช้มือ ให้ใช้คีมจับใบมีดดึงออก 74 การป้องกันอุบัติเหตุขณะทำ งาน เข็มฉีดยา : -ปลดหัวเข็มจากที่ทิ้งเข็มทันที ทิ้งในที่ทิ้งเข็ม -ห้ามสวมเข็มที่ใช้แล้วกลับเข้าปลายเข็มโดยใช้มือจับปลอกเข็ม *** หรือปลดเข็มที่ไม่สวมปลอกจาก Syringe โดยไม่ใช้เครื่องมือช่วย
75 การใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง ถุงมือ -ป้องกันมือไม่ให้จับสิ่งสกปรก และป้องกันมือที่สกปรกไปจับสิ่งอื่น -ใส่ถุงมือเมื่อต้องสัมผัสกับเลือด สารน้ำ จากร่างกายผู้ป่วยที่คาดว่าจะ สัมผัสสิ่งที่อาจมีเชื้อโรคได้ เปลี่ยนถุงมือหลังจากการดูแลผู้ป่วยแต่ละคน และก่อนจะดูแลผู้ป่วยคนต่อไป -ถ้ามีแผลที่มือหรือนิ้ว ให้ปิดแผลด้วยพลาสเตอร์ให้มิดชิดก่อนสวมถุงมือ เพื่อป้องกันเชื้อโรคหรือสารพิษเข้าทางบาดแผล -หากต้องการสิ่งของที่สะอาดให้ถอดถุงมือก่อนทุกครั้ง -ต้องเปลี่ยนถุงมือทุกครั้งที่ดูแลผู้ป่วยคนต่อไป หรือเมื่อไปทำ งานอื่น -เมื่อเสร็จภารกิจ ให้ถอดถุงมือและล้างมือด้วยน้ำ และสบู่หรือน้ำ ยาฆ่าเชื้อ หน้ากากอนามัย (Surgical mask) -ป้อ ป้ งกัน กั การแพร่เ ร่ ชื้อ ชื้ จากจมูก มู และปากจากผู้สผู้วมไปสู่ผู้สู่ อื่ผู้น อื่ ดัก ดั น้ำ มูก มู น้ำ ลายขณะพูด พู ไอ จาม -ป้องกันการติดเชื้อจากผู้อื่นสู่ผู้สวม ผู้สวมภูมิต้านทานต่ำ หรือต้อง เข้าใกล้ผู้ป่วยที่แพร่กระจายเชื้อทางอากาศ ทางเสมหะ -สวมผ้าปิดปาก จมูกทุกครั้ง เมื่อคาดว่าจะมีสารน้ำ จากร่างกายผู้ป่วย กระเด็นเข้าปากขณะให้การรักษาพยาบาล
76 เสื้อคลุม ผ้ากันเปื้อน -ป้องกันการปนเปื้อนเสื้อผ้าจากสิ่งที่มีเชื้อโรค ป้องกันไม่ให้บุคลากรสัมผัสเชื้อ แล้วติดเชื้อ -ป้องกันเชื้อที่ติดบนเสื้อผ้าบุคลากรแพร่ไปสู่ผู้อื่น -สวมเสื้อคลุม (Gown) เพื่อป้องกันเลือด หรือสารน้ำ จากร่างกายผู้ป่วย กระเด็นเข้าสู่ร่างกาย -การใช้ผ้ายางกันเปื้อน (Aporn) ในการป้องกันเมื่อคาดว่าจะมีเลือด หรือ สารน้ำ จากร่างกายผู้ป่วย กระเด็นหรือใช้ในขณะล้างเครื่องมือที่ปนเปื้อน แว่นตา -ใช้แว่นป้องกันตา เพื่อป้องกันสิ่งปนเปื้อนที่เป็นสารน้ำ หรือละอองกระเด็นเข้า ตาหรือหัตถการที่อาจมีละอองฝอยเข้าตา รองเท้าบู๊ท รองเท้ายางหุ้มข้อ -การใช้รองเท้าบู๊ท ป้องกันมิให้เลือดและสารน้ำ จากร่างกายผู้ป่วยสัมผัสเท้า หรือขาของบุคลากร และป้องกันของมีคมที่ทิ่มเข้าเท้า
77 วิธีปฏิบัติทั่วไปในการป้องกันการติดเชื้อแบบมาตรฐาน อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ปราศจากเชื้อที่เปื้อนเลือด สารคัดหลั่งจาก ตัวผู้ป่วย ส่งทำ ลายเชื้อและทำ ให้ปราศจากเชื้อที่หน่วยจ่ายกลาง ไม่ล้าง ทำ ความสะอาดที่หน่วยงาน เมื่อดูดเลือดหรือสารคัดหลั่งจากตัวผู้ป่วย ห้ามฉีดเลือดและสารคัดหลั่ง นั้นๆ ทิ้งในภาชนะใดๆ ให้ทิ้งทั้ง Syringe ในถังขยะติดเชื้อ ผ้า ผ้ เปื้อ ปื้ นเลือ ลื ดหรือ รื สารคัด คั หลั่ง ลั่ จากตัว ตั ผู้ป่ผู้ว ป่ ย ใส่ถุ ส่ ง ถุ แยกติด ติ เชื้อ ชื้ เขีย ขี นป้า ป้ ยติด ติไว้ ที่ถุ ที่ ง ถุ ให้ชั ห้ ด ชั เจนว่า ว่ เป็น ป็ ผ้า ผ้ เปื้อ ปื้ น และมีกี่ มี ชิ้ กี่ น ชิ้ เพื่อ พื่ สะดวกในการตรวจนับ นั และ ป้อ ป้ งกัน กั การติด ติ เชื้อ ชื้ เพื่อ พื่ ส่ง ส่ ทำ ความสะอาดตามวิธี วิ ที่ ธี เ ที่ หมาะสม มูลฝอยติดเชื้อ เช่น ผ้าก๊อช หรือสำ ลี ที่เปื้อนเลือดหรือสารคัดหลั่ง จากตัวผู้ป่วย ทิ้งในถังขยะติดเชื้อ ห้อ ห้ ง / เตีย ตี งผู้ป่ผู้ว ป่ ย เช็ด ช็ หรือ รื ทำ ความสะอาดด้ว ด้ ยผงซัก ซัฟอก และน้ำ ตามปกติ ถ้า ถ้ เปื้อ ปื้ นเลือ ลื ดหรือ รื สารคัด คั หลั่ง ลั่ จาดตัว ตั ผู้ป่ผู้ว ป่ ยให้เ ห้ ช็ด ช็ บริเ ริ วณนั้น นั้ ด้ว ด้ ยกระดาษ แล้ว ล้ ทิ้ง ทิ้ ลงถุง ถุ ขยะสีแ สี ดง แล้ว ล้ ราดด้ว ด้ ย 0.5% Hypochlorite นาน 30 นาที (ก่อ ก่ นเช็ด ช็ ถูต ถู ามปกติ)ติ
78 การปฏิบัติเมื่อได้รับอุบัติเหตุทางการแพทย์ (เข็มตำ ) การสัมผัสเลือดหรือสิ่งคัดหลั่ง
79
80 แนวทางปฏิบัติเมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับอุบัติเหตุ อันเนื่องมาจากการทำ งาน วิธีปฏิบัติ 1.เจ้าหน้าที่ที่ได้รับอุบัติเหตุปฐมพยาบาลเบื้องต้นและแจ้งหัวหน้าหน่วยงาน (กรณีหัวหน้าหน่วยงานหยุดให้แจ้งผู้ตรวจการ) ทันที - หัวหน้าหน่วยงาน / ผู้ตรวจการพิจารณาแยกเป็นกรณีอุบัติเหตุในงาน นอกเวลางาน หรืออุบัติเหตุทางการแพทย์ ( เข็มตำ ) 2.หัวหน้าหน่วยงาน หรือ ผู้ตรวจการ เขียนแบบฟอร์มส่งตัวเจ้าหน้าที่ที่ได้รับ อุบัติเหตุจากการทำ งานส่วนที่ 1 และส่วนที่ 2 ให้เจ้าหน้าที่ที่ได้รับอุบัติเหตุนำ ไปแจ้งเคาน์เตอร์เวชระเบียน 3.เจ้าหน้าที่แผนกเวชระเบียน ดำ เนินการออก VN ตามระบบงาน OPD – ER 4.เจ้าหน้าที่แผนกเวชระเบียน พิจารณาข้อมูลจากแบบฟอร์มส่งตัวว่าเป็น อุบัติเหตุในงานหรือเข็มตำ หรือไม่ 4.1.1 หากเป็นอุบัติเหตุในงานหรือเข็มตำ (อุบัติเหตุทางการแพทย์) ให้นำ แบบแจ้งการประสบอันตรายหรือ เจ็บป่วยและคำ ร้องขอรับเงินทดแทน ( แบบ กท.16 ) แนบพร้อมแบบฟอร์มส่งตัวให้กับเจ้าหน้าที่ที่ได้รับอุบัติเหตุ แล้ว ดำ เนินต่อในข้อ 7.5 4.1.2 หากเป็นอุบัติเหตุนอกงาน ให้ดำ เนินการต่อในข้อ 7.7
5.เจ้าหน้าที่ที่ได้รับอุบัติเหตุนำ แบบ กท.16 และแบบฟอร์มส่งตัว ติดต่อที่จุด คัดกรองผู้ป่วย 6.เจ้า จ้ หน้า น้ ที่คั ที่ ด คั กรองผู้ป่ผู้ว ป่ ย จุด จุ OPD – ER นำ แบบฟอร์ม ร์ ส่ง ส่ ตัว ตั และแบบ กท.16 แนบกับ กั OPD Card ส่ง ส่ เข้า ข้ ห้อ ห้ งตรวจพร้อ ร้ มเจ้า จ้ หน้า น้ ที่ที่ ที่ ไที่ ด้รั ด้ บ รั อุบั อุ ติ บั เ ติ หตุ 7.แพทย์ทำ ย์ ทำการตรวจรัก รั ษา บัน บั ทึก ทึ ข้อ ข้ มูล มู ใน OPD Card และเขีย ขี นในรับ รั รอง แพทย์ เช่น ช่ เข็ม ข็ ตำ ให้ดู ห้ใ ดู นคู่มืคู่ อ มื "แนวทางปฏิบั ฏิ ติ บั เ ติ มื่อ มื่ ได้รั ด้ บ รั อุบั อุ ติ บั เ ติ หตุท ตุ างการแพทย์"ย์ (TSH – HSPD – 005) 8.เจ้าหน้าที่ OPD – ER ตรวจสอบแบบ กท.16 (เฉพาะกรณีอุบัติเหตุใน งานหรือเข็มตำ ) ต้องมีลายเซ็นเจ้าหน้าที่ที่ได้รับอุบัติเหตุ และใบรับรองแพทย์ ต้องมีลายเซ็นแพทย์ก่อนส่งเอกสารต่อไปยังฝ่ายการเงิน 9.ฝ่ายการเงินตรวจสอบความครบถ้วนแล้ว รวบรวมส่งฝ่ายบุคคลทุกวัน 9.1.1หากพบว่า ว่ไม่มี ม่ เ มี อกสารหรือ รื เอกสารไม่ค ม่ รบถ้ว ถ้ น ให้ส่ ห้ ง ส่ แผนกOPD–ERดำ เนิน นิ การทัน ทั ที 9.1.2 หากเอกสารครบถ้วนแล้ว รวบรวมส่งฝ่ายบุคคลทุกวัน 10.เจ้า จ้ หน้า น้ ที่ฝ่ที่ า ฝ่ ยบุค บุ คล รวบรวมเอกสารแจ้ง จ้ เบิก บิ กองทุน ทุ ทดแทนภายใน 7 วัน วั หลัง ลัได้รั ด้ บ รั อุบั อุ ติ บั เ ติ หตุจ ตุ ากการทำ งาน ( เฉพาะกรณีอุ ณี บั อุ ติ บั เ ติ หตุใ ตุ นงานหรือ รื อุบั อุ ติ บั เ ติ หตุ ทางการแพทย์เ ย์ ช่น ช่ เข็ม ข็ ตำ ) และแยกเก็บ ก็ แบบฟอร์ม ร์ ส่ง ส่ ตัว ตั ไว้เ ว้ พื่อ พื่ จัด จั ทำ ข้อ ข้ มูล มู ทาง สถิติ ถิติ 81
82 11.เจ้า จ้ หน้า น้ ที่ที่ ที่ ไที่ ด้รั ด้ บ รั อุบั อุ ติ บั ห ติ รือ รื หัว หั หน้า น้ หน่ว น่ ยงานบัน บั ทึก ทึ IR ในระบบ Commain ภายใน 24 ชั่ว ชั่ โมงหลัง ลั เกิด กิ เหตุ ทั้ง ทั้ อุบั อุ ติ บั เ ติ หตุใ ตุ นงานและอุบั อุ ติ บั เ ติ หตุน ตุ อกงาน 12.หัว หั หน้า น้ หน่ว น่ ยงาน สอบสวน วิเ วิ คราะห์อุ ห์ บั อุ ติ บั เ ติ หตุอุ ตุ บั อุ ติ บั ก ติ ารณ์ด้ ณ์ ว ด้ ยแบบรายงาน สอบสวนอุบั อุ ติ บั เ ติ หตุอุ ตุ บั อุ ติ บั ก ติ ารณ์ (TSH – FM -826-00) ภายใน 5 วัน วั ทำ การหลัง ลั เกิด กิ อุบั อุ ติ บั เ ติ หตุ กรณีมี ณี ค มี วามรุน รุ แรงสูง สู ตั้ง ตั้ แต่ร ต่ ะดับ ดั 4 ขึ้น ขึ้ ไปให้ดำ ห้ดำเนิน นิ การทัน ทั ทีแ ที ละรายงานตาม Line Manager และส่ง ส่ แบบรายงาน มายัง ยัฝ่า ฝ่ ย บุค บุ คล 13.เจ้า จ้ หน้า น้ ที่ฝ่ที่ า ฝ่ ยบุค บุ คลรวบรวมข้อ ข้ มูล มู การได้รั ด้ บ รั อุบั อุ ติ บั เ ติ หตุจ ตุ ากการทำ งานจัด จั ทำ สถิติ ถิปติ ระจำ เดือ ดื นส่ง ส่ รายงานไปยัง ยั รองผู้อำผู้อำนวยการ
1.ความสะอาดและกลิ่น -รักษาความสะอาดของร่างกายอย่างสม่ำ เสมอ ก่อนการปฏิบัติงานต้อง ไม่มีกลิ่นตัวหรือกลิ่นน้ำ หอมที่ฉุนจนเกินไป -มีการรักษาความสะอาดของเส้นผมอย่างสม่ำ เสมอ ไม่มีรังแค ผมไม่มัน เยิ้ม ไม่มีกลิ่นเหม็น 2.เล็บ -มีการรักษาความสะอาดของเล็บอย่างสม่ำ เสมอ ไม่มีคราบสกปรกติดอยู่ ในซอกเล็บ -ต้องตัดเล็บให้สั้น ไม่อนุญาตให้ไว้เล็บยาว -เจ้าหน้าที่ที่ให้บริการผู้ป่วย : ไม่อนุญาตให้ทาสีเล็บ -เจ้าหน้าที่สำ นักงาน : อนุญาตให้ทาเล็บสีอ่อน สุภาพ 83 บทที่ 6 มาตรฐานด้านร่างกายและการแต่งกาย
3.ช่องปากและฟัน -มีก มี ารรัก รั ษาความสะอาดของช่อ ช่ งปากและฟัน ฟั อย่า ย่ งสม่ำ เสมอ ต้อ ต้ งมีฟัมี น ฟั ที่ส ที่ ะอาดและ ไม่มี ม่ ก มี ลิ่น ลิ่ ปาก -หลังการรับประทานอาหารต้องมีการสำ รวจความสะอาดของฟันต้องไม่ให้ มีเศษอาหารติดอยู่ที่ฟันก่อนปฏิบัติงานทุกครั้ง 4.ใบหน้า -หมั่นดูแลใบหน้าของตนเองให้ดูสดชื่นแจ่มใสขณะปฏิบัติงานตลอดเวลา -แต่ง ต่ หน้า น้โดยใช้โช้ ทนสีสุ สี ภ สุ าพไม่ฉู ม่ ด ฉู ฉาด และต้อ ต้ งดูดี ดู ต ดี ลอดวัน วั ใบหน้า น้ไม่มั ม่ น มั เยิ้ม ยิ้ -ผู้หญิงจะต้องทาแป้งและลิปสติกสีที่เหมาะสมในการปฏิบัติงาน 5.รูปร่าง -เจ้าหน้าที่ต้องรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงและดูดีอยู่เสมอ -ต้อ ต้ งดูแ ดู ลรูป รู ร่า ร่ งให้มี ห้ ค มี วามคล่อ ล่ งตัว ตัในการปฏิบั ฏิ ติ บั ง ติ านไม่อ้ ม่ ว อ้ นหรือ รื ผอมจนเกิน กิไป -มีการควบคุมและบริหารร่างกายให้ดูสมส่วน 84
85 ด้านการแต่งกาย 1.ทรงผม -ผมจะต้องเก็บเรียบร้อยไม่ปล่อยให้เกะกะบริเวณใบหน้า -ผมยาวต้องรวบเก็บให้เรียบร้อยหรือใส่เน็ต ไม่ปล่อยชายผมทิ้งไว้ด้านหลัง ไม่ปล่อยผมเป็นพวงแกว่งไปมา -ผมสั้น สั้ ต้อ ต้ งเหนือ นื ระดับ ดั บ่า บ่ จัด จั ทรงให้เ ห้ รีย รี บร้อ ร้ ย ดูไ ดู ม่รุ ม่ ง รุ รัง รั ไม่ชี้ ม่ ไชี้ปมา ไม่ไม่ ด้รู ด้ป รู ทรง -ผมด้า ด้ นหน้า น้ ตัด ตั สั้น สั้ ต้อ ต้ งเก็บ ก็ ให้เ ห้ รีย รี บร้อ ร้ ย เข้า ข้ รูป รู ทรง ไม่ห ม่ ล่น ล่ ลงมาปิด ปิ หน้า น้ ตาขณะ ปฏิบั ฏิ ติ บั ง ติ าน -การทำ สีผม ต้องไม่ฉูดฉาด และให้เหมาะสมกับหน้าตาและสีผิว 2.เครื่องประดับ ต้องไม่สวมใส่เครื่องประดับที่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงาน หรือถ้าใส่เครื่องประดับต้องมีรูปแบบและสีสันที่สุภาพ จำ นวนเหมาะสม -เครื่อ รื่ งประดับ ดั ผมโบว์ หรือ รื กิ๊บ กิ๊ ติด ติ ผม รูป รู แบบและสีสุ สี ภ สุ าพ เช่น ช่ สีดำ สีดำ เทา น้ำ ตาล น้ำ เงิน งิ ขาว กิ๊บ กิ๊ ติด ติ ผม หมวกของพยาบาลเป็น ป็ กิ๊บ กิ๊ สีข สี าวหรือ รื อลูมิ ลู เ มิ นีย นี ม -ตุ้มตุ้ หู เป็น ป็ ตุ้มตุ้ หูที่ หู ข ที่ นาดไม่ใม่ หญ่จ ญ่ นเกิน กิไป หรือ รื ตุ้มตุ้ หูห่ หู ว ห่ งขนาดเล็ก ล็ ไม่ใม่ หญ่ ตุ้มตุ้ หูต้ หู อ ต้ ง ไม่ห้ ม่ อ ห้ ยเกะกะหรือ รื แกว่ง ว่ ไปมา -สร้อยคอ ไม่ใส่จนติดคอขณะปฏิบัติงาน เก็บอยู่ในเสื้อเรียบร้อย ไม่ออกมา เกะกะภายนอกเสื้อ -สร้อยข้อมือและแหวน ไม่อนุญาตให้ใส่แหวนและสร้อยข้อมือขณะปฏิบัติงาน -นาฬิกา รูปแบบและสีสันสุภาพไม่ฉูดฉาดพอเหมาะกับข้อมือไม่ใหญ่จนเกินไป
3.ถุงน่อง ถ้าหากเจ้าหน้าที่สวมใส่ถุงน่อง ให้ใส่สีเดียวกับสีผิว 4.รองเท้า -พยาบาลและเจ้าหน้าที่พยาบาล : รองเท้าคัตชูสีขาวเท่านั้น เจ้าหน้าที่อื่น : รองเท้าคัตชูสีสุภาพ -รองเท้าต้องอยู่ในสภาพสะอาด เรียบร้อย ไม่ชำ รุด และไม่มีกลิ่นเหม็น -ห้ามสวมรองเท้าแตะขณะปฏิบัติงาน ให้เป็นรองเท้าคัตชูหุ้มส้นที่เหมาะกับ ลักษณะงานในแต่ละแผนก -ห้ามเหยียบส้นรองเท้า 5.การติดบัตร -ติดบัตรพนักงานของโรงพยาบาลตลอดการปฏิบัติงาน -บัตรต้องเป็นปัจจุบัน ไม่ชำ รุด อยู่ในรูปแบบบัตรของโรงพยาบาลทักษิณ -ตำ แหน่งการติดบัตร จะต้องติดบริเวณหน้าอก และอยู่ในตำ แหน่งที่ สามารถมองเห็นได้ชัดเจน 6.เสื้อผ้า -สวมเสื้อผ้าตามข้อกำ หนดของโรงพยาบาล -กระโปรง ทรงสอบผ่าหลัง ความยาวสั้นเลยเข่า (ไม่สั้นจนเกินไป) ใต้เข่าได้ ไม่เกิน 4 นิ้ว/รูปทรงไม่ฟิต หรือเน้นสัดส่วนเกินไป 86
การแต่งกายในวันเสาร์ของหน่วยงานสำ นักงานที่ทำ งานครึ่งวัน ได้แก่ คอมพิวเตอร์, จัดซื้อ, จัดจ้าง, บัญชี, บุคคล, ธุรการฝ่ายการ พยาบาล, เลขาฯ, TQM, แม่บ้านที่ประจำ สำ นักงาน ขอให้แต่งกาย สุภาพ และสวมเสื้อที่มี Logo โรงพยาบาล ไม่สวมรองเท้าแตะและติด บัตรพนักงานให้เรียบร้อย ตำ แหน่งงานที่จำ เป็นต้องออกไปทำ งานนอกโรงพยาบาล เช่น จัดซื้อ ตรวจสุขภาพ การเงิน หรือ เร่งรัดหนี้สิน ลักษณะงานที่จำ เป็นต้องแต่ง กายรัดกุม เช่น คอมฯ คลังฯ ให้สวมชุดกางเกง ได้ตามความเหมาะสม โดยอยู่ภายใต้ดุลยพินิจของหัวหน้างานเป็นหลัก รวมทั้งการกำ หนดวัน สวมใส่ให้เหมือนกันภายในแผนก กรณีต้องการสวมเสื้อผ้ากันหนาว ให้ใช้เสื้อสูทที่โรงพยาบาลกำ หนด หมายเหตุ 87
88 บทที่ 7 นโยบายและความรู้ด้านการประหยัดพลังงาน ของโรงพยาบาล นโยบายด้านการประหยัดพลังงานของโรงพยาบาล 1. บริษัริท ษั ฯ จะดำ เนินนิการและพัฒ พั นาระบบการจัด จั การพลัง ลั งานอย่า ย่ งเหมาะสม โดยกำ หนดให้ก ห้ ารอนุรั นุ ก รั ษ์พ ษ์ ลัง ลั งานเป็น ป็ ส่ว ส่ นหนึ่ง นึ่ ของการดำ เนินนิงานสอดคล้อ ล้ งกับ กั กฎหมายและข้อ ข้ กำ หนดอื่น อื่ ๆ ที่เ ที่ กี่ย กี่ วข้อ ข้ ง 2. บริษัริท ษั ฯ จะดำ เนินนิการปรับ รั ปรุง รุ ประสิทสิธิภธิาพการใช้ท ช้ รัพ รั ยากรพลัง ลั งานของ องค์ก ค์ รอย่า ย่ งต่อ ต่ เนื่อ นื่ ง และเหมาะสมกับ กั เทคโนโลยีที่ ยีใที่ ช้ และแนวทางการปฏิบัฏิติ บั งติานที่ดี ที่ ดี 3. บริษัทฯ จะกำ หนดวางแผนและเป้าหมายการอนุรักษ์พลังงานในแต่ละปี และสื่อสารให้พนังงานทุกคนเข้าใจและปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง 4. บริษัริท ษั ฯ ถือ ถื ว่า ว่ การอนุรั นุ ก รั ษ์พ ษ์ ลัง ลั งานเป็น ป็ หน้า น้ ที่ค ที่ วามรับ รั ผิดผิชอบของเจ้า จ้ ของอาคาร ควบคุม คุ และพนัก นั งานทุก ทุ ระดับ ดั ที่จ ที่ ะหึค หึ วามร่ว ร่ มมือ มืในการปฏิบัฏิติ บั ตติามมาตรการที่กำ ที่ กำหนด ติดติตามตรวจสอบและรายงานต่อ ต่ คณะทำ งานด้า ด้ นการจัด จั การพลัง ลั งาน 5. บริษัทฯ จะให้การสนับสนุนที่จำ เป็น รวมถึงทรัพยากรด้านบุคลากร ด้านงบประมาณ เวลาในการทำ งาน การฝึกอบรมและการมีส่วนร่วมใน การนำ เสนอข้อคิดเห็นเพื่อพัฒนางานด้านกฎหมาย 6. ผู้บริหารและคณะทำ งานด้านการจัดการพลังงานจะทบทวนและ ปรับปรุงนโยบาย เป้าหมาย และแผนการดำ เนินงานด้านพลังงาน ทุกปี
89 มาตรการประหยัดพลังงานไฟฟ้าที่สำ คัญในโรงพยาบาล
90
91 บทที่ 8 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการใช้คอมพิวเตอร์ การใช้โปรแกรมในการปฏิบัติงาน
92 ระบบ HIMS ระบบ Intranet (Commain)
93 การลงชื่อเข้าใช้งานระบบ วิธีปฏิบัติการและข้อตกลงการใช้งาน 1.ห้ามนำ Username และ Password ให้ผู้อื่นใช้อย่างเด็ดขาด เพราะ หากบุคคลอื่นนำ ไปใช้ในทางไม่ดีหรือเกิดเหตุใดๆ ขึ้น เจ้าของบัญชีรายชื่อดัง กล่าวจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น 2.ผู้ใช้ต้อง Logout จากระบบทุกครั้งที่ไม่ได้ใช้งาน หรือไม่ได้ใช้งานนานๆ 3.ผู้ใช้ต้องมีการเปลี่ยนรหัสผ่าน ทุก 1 ปี ข้อกำ หนดในการเข้าถึงข้อมูลผู้ป่วยผ่านระบบคอมพิวเตอร์ 1.มีวัตถุประสงค์เพื่อการรักษา 1.1.ต้องเป็นผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยนอก ณ วันนั้น หรือกำ ลังรับ การรักษาเป็นผู้ป่วยใน 2.มีวัตถุประสงค์อื่นๆ ดังต่อไปนี้ 2.1.จัดหาบริการ หรือส่งมอบบริการของโรงพยาบาล 2.2.นัดหมายแพทย์ ส่งข่าวสาร แนะนำ บริการของโรงพยาบาล 2.3.การประสานงานและส่งต่อข้อมูลซึ่งจะช่วยให้การส่งต่อผู้ป่วยมีความ รวดเร็วขึ้น 2.4.การยืนยันตัวตนของผู้ป่วย 2.5.ส่งข้อความแจ้งเตือนการนัดหมายแพทย์ หรือการเสนอความช่วยเหลือ จากโรงพยาบาล
94 2.6.อำ นวยความสะดวกและนำ เสนอรายการสิทธิประโยชน์ต่างๆ แก่ท่าน 2.7.จุดประสงค์ด้านการตลาด การส่งเสริมการขาย และการลูกค้าสัมพันธ์ เช่น การส่งข้อมูลเกี่ยวกับโปรโมชั่นผลิตภัณฑ์และบริการ รายการส่งเสริม การขาย และธุรกิจพันธมิตร 2.8.เพื่อ พื่ เป็น ป็ ช่อ ช่ งทางในการสื่อ สื่ สาร ตอบคำ ถาม หรือ รื ตอบสนองข้อ ข้ ร้อ ร้ งเรีย รี น 2.9.สำ รวจความพึงพอใจของลูกค้า วิจัยตลาด วิเคราะห์ทางสถิติ ประมวลผลและแสดงผลเพื่อเป็นข้อมูลในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์และ บริการ หรือสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ให้แก่ผู้ใช้บริการ ได้รับประโยชน์ยิ่งขึ้น 2.10.วัตถุประสงค์ทางบัญชีหรือทางการเงิน เช่น การตรวจสอบ การชำ ระเงินผ่านบัตรเครดิต การเรียกเก็บเงินและการตรวจสอบ ความถูกต้อง การขอคืนเงิน 2.11.รัก รั ษาความปลอดภัย ภั รวมถึง ถึ ความปลอดภัย ภั ขณะพัก พั รัก รั ษาอยู่ใยู่นโรงพยาบาล 2.12.เพื่อ พื่ วัต วั ถุป ถุ ระสงค์ใค์ นการสมัค มั รงาน การเป็น ป็ พนัก นั งาน หรือ รื วัต วั ถุป ถุ ระสงค์ อื่น อื่ ใดที่เ ที่ กี่ย กี่ วข้อ ข้ ง 2.13.ปฏิบัติตามกฎของโรงพยาบาล 2.14.ปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อกำ หนด ระเบียบ ข้อบังคับ หรือการร้องขอ ใดๆจากหน่วยงานภาครัฐ เช่น การปฏิบัติตามหมายเรียกพยาน หรือคำ สั่ง ศาล หรือการร้องขออื่นๆ ที่ถูกต้องตามกฎหมาย 2.15.วัตถุประสงค์อื่นๆ ที่สนับสนุนการดำ เนินการตามวัตถุประสงค์ข้างต้น หรือที่ได้รับความยินยอมจากผู้ป่วยเป็นครั้งคราว
95 ข้อปฏิบัติสำ หรับสำ หรับเจ้าหน้าที่ทุกคน ที่มีโอกาสเข้าถึงข้อมูลผู้ป่วย 1.เจ้า จ้ หน้า น้ ที่ทุ ที่ ก ทุ คนมีห มี น้า น้ ที่ต้ ที่ อ ต้ งป้อ ป้ งกัน กั ดูแ ดู ล รัก รั ษาไว้ซึ่ ว้ ง ซึ่ ความลับ ลั ความถูก ถู ต้อ ต้ ง และความพร้อ ร้ มใช้ข้ ช้ อ ข้ มูล มู ตลอดจนเอกสารเวชระเบีย บี นของผู้ป่ผู้ว ป่ ย 2.ห้ามเผยแพร่ ทำ สำ เนาถ่ายภาพ เปลี่ยนแปลง ลบทิ้ง หรือทำ ลายข้อมูล ผู้ป่วยในเวชระเบียนและในระบบคอมพิวเตอร์ทุกกรณี การใช้งานคอมพิวเตอร์ วิธีปฏิบัติการและข้อตกลงการใช้งาน 1.ผู้ใช้ต้องตรวจสอบ การทำ งานของ Antivirus ว่ายังเป็นปัจจุบัน 2.การใช้งาน Handy Drive/External HDD 2.1ผู้ใช้นำ Handy Drive ไป Scan Virus ที่ฝ่ายคอมพิวเตอร์ก่อน การใช้งานทุกครั้ง 3.การ Share File ต้องใช้แบบมีการกำ หนด Password เท่านั้น
วิธีปฏิบัติในการป้องกันไวรัส และซอฟแวร์ที่ไม่พึงประสงค์ดี 1.ก่อนนำ ซอฟต์แวร์จากภายนอกมาใช้งานภายในองค์กร ต้องนำ ซอฟต์แวร์ ดังกล่าว มาให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายคอมพิวเตอร์ตรวจสอบทุกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่า ซอฟต์แวร์นั้นๆ ไม่มีไวรัสคอมพิวเตอร์หรือซอฟต์แวร์อันตรายแฝงอยู่ 2.การนำ สื่อบันทึกข้อมูลจากหน่วยงานภายนอกองค์กรมาใช้ ผู้ใช้งาน สื่อข้อมูลนั้นต้องได้รับตรวจสอบไวรัสคอมพิวเตอร์จากเจ้าหน้าที่ฝ่าย คอมพิวเตอร์ก่อนใช้งานทุกครั้ง 3.ผู้ดูแลระบบรายงานการติดไวรัสในหน่วยงาน ให้ผู้ใช้งานทั้งหมด ทราบทุกเดือน หากพบการติดไวรัสในหน่วยงานใด ให้หัวหน้าหน่วย งานเขียนรายงานระบุเหตุผลที่ทำ ให้เกิดการติดไวรัสจากการใช้งาน ส่งไปยังสำ นักงานเลขานุการ เพื่อส่งให้ผู้อำ นวยการพิจารณาต่อไป 96 การป้องกันไวรัส และซอฟแวร์ที่ไม่พึงประสงค์ดี
97 การใช้งานอินเทอร์เน็ต วิธีปฏิบัติการในการขอใช้อินเทอร์เน็ตและข้อตกลงการใช้งาน 1. หัวหน้าหน่วยงาน ทำ หนังสือขอใช้งานอินเทอร์เน็ต พร้อมระบุ ชื่อ เครื่องคอมฯ ระยะเวลาการใช้งาน และเหตุผล เพื่อให้รองผู้อำ นวยการ พิจารณาอนุญาต (ระดับหัวหน้าตึกขึ้นไป รวมทั้งแพทย์ สามารถกรอก แบบฟอร์มการขอใช้งานอินเตอร์ ส่งให้ฝ่ายคอมพิวเตอร์ โดยไม่ต้องขอ อนุมัติจากรองผู้อำ นวยการ) 2. หน่วยงานนำ หนังสือที่ได้รับอนุญาตแล้ว ส่งให้กับฝ่ายคอมพิวเตอร์ 3. ผู้ดูผู้ แ ดู ลระบบดำ เนิน นิ การเปิด ปิ การใช้ง ช้ าน และแจ้ง จ้ กลับ ลั ไปยัง ยั หน่ว น่ ยงานผู้ขผู้ อ 4. ผู้ที่ได้รับอนุญาตใช้งานอินเทอร์เน็ต มีข้อปฏิบัติดังนี้ที่ได้รับอนุญาตใช้ งานอินเทอร์เน็ต มีข้อปฏิบัติดังนี้ 4.1 ห้ามใช้อินเทอร์เน็ตขององค์กร เพื่อหาประโยชน์ในเชิงธุรกิจส่วนตัว และทำ การ เข้าสู่เว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม เช่น เว็บไซต์ที่ขัดต่อศีลธรรม เว็บไซต์ที่มีเนื้อหาที่ขัดต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ หรือเว็บไซต์ที่เป็น ภัยต่อสังคม เป็นต้น 4.2 ห้ามผู้ใช้เปิดเผยข้อมูลสำ คัญที่เป็นความลับเกี่ยวกับงานขององค์กร 4.3 ห้ามผู้ใช้นำ เข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันเป็นเท็จ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร อันเป็นความ ผิดเกี่ยวกับการก่อการร้าย หรือภาพที่มีลักษณะ อันลามก และห้าม ทำ การเผยแพร่หรือส่งต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ดังกล่าวผ่านอินเตอร์เน็ต
98 4.4 ห้ามผู้ใช้นำ เข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่เป็นภาพของผู้อื่นและภาพ นั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติมหรือดัดแปลงด้วยวิธี การทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีการอื่นใดทั้งนี้จะทำ ให้ผู้อื่นนั้น เสีย ชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย 4.5 ผู้ใช้มีหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องและความน่าเชื่อถือของ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่อยู่บนอินเตอร์เน็ตก่อนนำ ข้อมูลไปใช้งาน 4.6 ผู้ใช้ต้องระมัดระวังการดาวน์โหลดโปรแกรมใช้งานจาก อินเทอร์เน็ต ซึ่งรวมถึง Patch หรือ Fixes ต่าง ๆ จากผู้ ขาย ต้องเป็นไปโดยไม่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา 4.7 ห้ามนำ Username และ Password ให้ผู้อื่นใช้อย่าง เด็ดขาด เพราะหากบุคคลอื่นนำ ไปใช้ในทางไม่ดีหรือเกิดเหตุใดๆ ขึ้น เจ้าของบัญชีรายชื่อดังกล่าวจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในความ เสียหายที่อาจเกิดขึ้น 4.8 ในการใช้งาน Internet ผู้ใช้ห้ามกระทำ การอย่างใดอย่างหนึ่งที่ มีเจตนาจะทำ ลายระบบ หรือ สร้างความเสียหายแก่ ผู้ใช้อื่นๆ เช่น 4.8.1 การส่ง Mail แบบกระจายที่ไม่มีประโยชน์ 4.8.2 พยายามถอดรหัสผ่าน (Password) ของผู้ใช้คนอื่น 4.8.3 การโพสต์ข้อความ สื่อลามกอนาจาร 4.8.4 การดูทีวีออนไลน์ / เล่นเกมส์ออนไลน์ / การ download ข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องกับงาน
99 4.8.5 ขั้นตอนการ download ข้อมูลในการทำ งาน ให้ทำ ตามลำ ดับ ดังนี้ 4.8.5.1 พิจารณาแหล่งข้อมูล มีความน่าเชื่อถือหรือไม่ เช่น ชื่อ Website, ชื่อผู้ส่งไฟล์ หรือชื่อ Email เป็นที่รู้จักหรือไม่, ชื่อไฟล์ หากคิดไม่แน่ใจกรุณาติดฝ่ายคอมพิวเตอร์ก่อนเป็น อันดับแรก 4.8.5.2 Download ไฟล์ ต่อไปทำ การ คลิกขวาเพื่อ Scan Virus แล้วจึงเปิดไฟล์ 4.8.6 การเผยแพร่ข้อมูล บทความ หรือกระทำ ใด การๆ ที่ทำ ให้บุคคล อื่นได้รับความเสียหาย ตาม พรบ .ว่าด้วยการ กระทำ ผิดเกี่ยวกับ คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 9. มาตรการดัง ดั กล่า ล่ ว มีเ มี พื่อ พื่ ป้อ ป้ งกัน กั และรัก รั ษาความปลอดภัย ภั ข้อ ข้ มูล มู สำ คัญ คั ของ องค์ก ค์ รและเพื่อ พื่ ให้บุ ห้ ค บุ ลากรของโรงพยาบาลทัก ทั ษิณ ษิ ใช้ปช้ ระโยชน์จ น์ าก Internet อย่า ย่ งรู้คุรู้ณ คุ ค่า ค่ ในการศึก ศึ ษาค้น ค้ คว้า ว้ หาความรู้เรู้พื่อ พื่ พัฒ พั นาตนเอง และพัฒ พั นางาน ที่ รับ รั ผิด ผิ ชอบ จึง จึ ขอให้ทุ ห้ ก ทุ ท่า ท่ นที่ใที่ ช้ง ช้ าน Internet โปรดตระหนัก นั และระมัด มั ระวัง วั ในการใช้ง ช้ าน ตลอดจนช่ว ช่ ยพิทั พิ ก ทั ษ์รั ษ์ ก รั ษา ผลประโยชน์ข น์ ององค์ก ค์ ร 10. หากฝ่ายคอมพิวเตอร์ ตรวจสอบพบว่าผู้ใช้ ละเมิดข้อตกลงที่ ได้กำ หนดไว้ ฝ่ายคอมพิวเตอร์ขอสงวนสิทธิ์ในการระงับการให้บริการ กับผู้ใช้ท่านนั้นโดยมิต้องบอกกล่าวล่วงหน้า รวมถึงแจ้งผู้บริหารเพื่อ พิจารณาการกระทำ ดังกล่าว
ไม่ควรทำ ความสะอาดเครื่องคอมพิวเตอร์ในขณะที่เครื่องยังเปิด ใช้งานอยู่ ถ้าจะทำ ความสะอาดเครื่อง ควรปิดเครื่องทิ้งไว้ 5 นาที ก่อนลงมือทำ ความสะอาด อย่าใช้ผ้าเปียก ผ้าชุ่มน้ำ เช็ดคอมพิวเตอร์อย่างเด็ดขาด อย่าใช้สบู่ น้ำ ยาทำ ความสะอาดใดๆ กับคอมพิวเตอร์ เพราะจะทำ ให้ ระบบจองเครื่องเกิดความเสียหาย ไม่ควรฉีดสเปรย์ใดๆ ไปที่เครื่องคอมพิวเตอร์ แป้นพิมพ์ และ อุปกรณ์ต่างๆ ไม่ควรใช้เครื่องดูดฝุ่นกับคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ประกอบอื่นๆ ไม่ควรดื่มน้ำ ชา กาแฟ เครื่องดื่มต่างๆ ในขณะที่ใช้คอมพิวเตอร์ วิธีการทำ ความสะอาดเครื่องคอมพิวเตอร์ 1. 2. 3. 4. 5. 6. 100 การบำ รุงรักษาคอมพิวเตอร์