วัดหลวงพรหมาวาส 2

วดั หลวงพรหมาวาส

โดย นางสาวณัฐชา สตั บญั

ทมี่ าและความสาคญั

• เนื่องจากพนื้ ทใี่ นอาเภอพนัสนิคม จงั หวดั ชลบรุ ี มวี ดั
ทงั้ หมด75แหง่ ซงึ่ หนึ่งใน75แหง่ นั้นคอื วดั หลวงพรหมา
วาส ซงึ่ เป็ นศาสนสถานทมี่ ปี ระวตั คิ วามเป็ นมาทนี่ ่าสนใจ
รวมไปถงึ มเี หตกุ ารณท์ นี่ ่าสนใจ เนื่องดว้ ยมคี า้ งคาวเป็ น
จานวนมากอพยพมาอาศยั อยู๋ ณ วดั หลวงพรหมาวา
สแหง่ นี้ ราว80,000 ตวั และมพี ระพุทธรปู ปางทสี่ าคญั
คอื ปางปฐมเทศนาซงึ่ นับวา่ เป็ นพระพุทธรปู ปางแรกใน
พระพุทธศาสนา และพบเห็นไดย้ ากในประเทศไทย อกี ทง้ั
วดั แห่งนีย้ งั มอี ายเุ กา่ แกก่ วา่ 300ปี เนื่องจากเหตผุ ล
ขา้ งตน้ นี้ จงึ ทาใหผ้ ูจ้ ดั ทามคี วามสนใจทจี่ ะศกึ ษาความ
เป็ นมาของวดั แหง่ นี้

วตั ถปุ ระสงค ์

• 1.เพอื่ ศกึ ษาประวตั คิ วามเป็ นมาของวดั หลวงพรหมาวาส
• 2.เพอื่ ศกึ ษาหาสาเหตทุ คี่ า้ งคาวมาอาศยั อยู่ ณ วดั พรหมาวาส
• 3.สามารถนาขอ้ มูลทไี่ ดศ้ กึ ษาไปเผยแพรส่ สู่ าธารณชนได ้
• ขอบเขตของโครงงาน

ขอบเขตของโครงงาน

• ขอบเขตสถานที่ คอื วดั หลวงพรหมาวาส
• ขอบเขตผูจ้ ดั ทา คอื นางสาวณัฐชา สตั บญั
• ขอบเขตระยะเวลา คอื 26สงิ หาคม-20กนั ยายน 2562

ประโยชนท์ ไี่ ดร้ บั

1.ทราบประวตั คิ วามเป็ นมาของวดั หลวงพรหมาวาส
2.ทราบสาเหตทุ คี่ า้ งคาวมาอาศยั อยู่ ณ วดั หลวงพรหมาวาส

วธิ กี ารดาเนินการ คอมพวิ เตอร ์
โทรศพั ทม์ อื ถอื
วสั ดอุ ปุ กรณห์ รอื
เครอื่ งมอื ทใี่ ชใ้ น สมุดบนั ทกึ

การศกึ ษา

ขนั้ ตอนการดาเนินงาน

คดิ หวั ขอ้ ศกึ ษาและ สมั ภาษณ์ ปฏบิ ตั กิ าร รวบรวม จดั ทารปู เลม่ เสนอตอ่ ครู
โครงงาน คน้ ควา้ ขอ้ มูล บุคคลทที่ ราบ จดั ทา ขอ้ มูล

เรอื่ งราว โครงงาน
ประวตั ศิ าสตร ์

ผลการดาเนินงาน

• ประวตั คิ วามเป็ นมา

วดั หลวงพรหมาวาส ตงั้ อย่เู ลขที่ 51 หมู่ที่ 7 บา้ นดอน
สะแก ตาบลวดั หลวง อาเภอพนัสนิคม จงั หวดั ชลบรุ ี สงั กดั
คณะสงฆม์ หานิกาย มเี นือ้ ที่ 32 ไร่ 1 งาน 12 ตารางวา สรา้ ง
ขนึ้ เมอื่ พ.ศ. 2257 (ชว่ งปลายกรงุ ศรอี ยธุ ยาหรอื ตน้ กรงุ
รตั นโกสนิ ทร)์ มคี ลองหลวงลอ้ มรอบ ไม่ปรากฏนามผสู ้ รา้ ง
ไดร้ บั พระราชทานวสิ งุ คามสมี า เมอื่ วนั ที่ 18 กมุ ภาพนั ธ ์
พ.ศ. 2495 มเี จา้ อาวาสไปแลว้ 11 คน โดยเจา้ อาวาสองค ์
ปัจจบุ นั คอื พระครสู ทิ ธธิ รรมานุวตั ิ ท่านเป็ นเจา้ คณะอาเภอ
พนัสนิคม คอื เป็ นผดู ้ แู ลพระทง้ั อาเภอ โดยวดั หลวงน้ันจดั อยู่
ในวดั ทเี่ ป็ นคามวาสี คอื เป็ นวดั ใกลบ้ า้ น และเป็ นวดั พฒั นา
ตวั อยา่ งของอาเภอพนัสนิคม ในอดตี เคยเป็ นสถานทที่ าพธิ ี
ถอื นา้ พพิ ฒั นส์ ตั ยา

ผลการดาเนินงาน

• คา้ งคาวทมี่ าอาศยั อยูภ่ ายในวดั

หลวพงพรระมหหมาาชวาาสญทชบี่ ยันั อทภกึ นิ ไวนใโฺ้ นทส.สมมั ุดภขาอ่ ษยณโบ,์ ร3า1ณสทงิ ลหี่ งารคกั มไว2้ ว5ดั6ห2.ลใวหงข้สอ้รมา้ งูลปวี า่ 22ค5ว7ามชเวป่ ็งนปมลาาขยอสงมวยั ดั
กรงุ ศรอี ยธุ ยา โบสถข์ องวดั มลี กั ษณะเป็ นศลิ ปะแบบหนึ่งในอยธุ ยาตอนปลาย เมอื่ สรา้ งวดั ไดไ้ ม่กี่
ค10า้ ปงคี กา็มวคี แาม้ ง่ไคกาต่ ววัมหานอึ่งาบศายั ดอเยจู่ค็บา้สงาคหาสั วททปี่มี่ ี กาอมาาศจยบัั อบยนูภ่ กางิ่ ไยมในจ้ วาดมั หจรุลีวแงลพว้ รหหกั มลางวมาาสคสา้ นั งคนิาษวฐพานยาวยา่ มามี บนิ
ขนึ้ แตไ่ ม่สามารถบนิ ได ้ หลวงพอ่ คา (พระครอู นิ ทโมลศี รสี งั วร) เจา้ อาวาส รปู ที่ 8 ในอดตี ทา่ น
เคยเป็ นหมอยามากอ่ น ไดพ้ บเขา้ จงึ นามารกั ษาดว้ ยการนาไมไ้ ผ่มาเหลาทาเป็ นเฝื อกผูกตดิ กบั
ปี กแลว้ ทาดว้ ยนา้ มนั ชนิดหนึ่ง จงึ เรมิ่ มกี ารดขี นึ้ ตามปกตทิ า่ นจงึ นาเฝื อกออกคา้ งคาวกย็ งั บนิ
ไม่ได ้ ใชเ้ วลานานนับเดอื นคา้ งคาวเรมิ่ มกี ารดขี นึ้ และบนิ ไดบ้ า้ งจนในทสี่ ดุ คา้ งคาวก็หายไปหลาย
เดอื น ชว่ งเวลาเกบ็ เกยี่ วประมาณเดอื นธนั วาคมหรอื มกราคมไดม้ คี า้ งคาวจานวนมากมาเกาะ
ตามตน้ ใหญ่ ๆ จนชาวบา้ นเรมิ่ แปลกใจเพราะกลวั จะมาทาลายผลผลติ ของชาวบา้ นเลย แตพ่ วก
มชนวั่ งกเวลลบั ไามท่ทพี่ ารละสายงฆเลท์ ยาวพตั อรเเวชลา้าทเยกุ ็นวคนั าแ้ งลคะากว็เปท็ นงั้ หอลยา่ายงนจีะม้ พาาจกนนัทอกุ อวกนั ไนปี้หากนิ จะกลบั มากเ็ วลาตสี ี่

THANK YOU!