The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือการจัดทำ จัดเก็บหลักฐานทางการศึกษา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by sahmai19, 2021-05-29 00:44:00

คู่มือการจัดทำ จัดเก็บหลักฐานทางการศึกษา

คู่มือการจัดทำ จัดเก็บหลักฐานทางการศึกษา

 

คู่มอื

การจัดทํา จดั เก็บรักษาแบบรายงานผสู้ าํ เรจ็ การศึกษา (ปพ.3)

กลุม่ สง่ เสรมิ การจัดการศกึ ษา
สาํ นักงานเขตพ้นื ทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาสงขลา เขต 2

 
 

สารบญั

เร่ือง หนา้
บทนํา 1
บทท่ี 1 หน้าทขี่ องผูเ้ กี่ยวขอ้ งกบั เอกสารการศกึ ษา 2
บทท่ี 2 เอกสารหลักฐานการศึกษา
- เอกสารทีก่ ระทรวงศกึ ษาธิการกําหนด 11
- เอกสารทส่ี ถานศกึ ษากําหนด
บทท่ี 3 การจดั เก็บรกั ษาแบบรายงานผสู้ ําเรจ็ การศกึ ษา 14
- ความสาํ คัญ
- ข้อเสนอแนะในการจัดทาํ เอกสาร
บทท่ี 4 การบรกิ ารการจดั เก็บหลักฐานสาํ คญั ทางการศกึ ษา ตรวจสอบวุฒิ
การออกเอกสารสาํ คัญ
ภาคผนวก

ค่มู อื การจดั ทาํ จัดเกบ็ รกั ษาแบบรายงานผสู้ ําเรจ็ การศึกษา (ปพ.3)

 

ïìîćĞ

ÖøąìøüÜýċÖþćíĉÖćøöĊÙĞćÿęĆÜĔĀšĔßš ĀúĆÖÿĎêøĒÖîÖúćÜÖćøýċÖþć×ĚĆîóČĚîåćî óčìíýĆÖøćß 2551 Ĕî
ēøÜđøĊ÷îêîš ĒïïĒúąēøÜđøĊ÷îìęĊöĊÙüćöóøšĂöÖćøĔßšĀúĆÖÿĎêø ĔîðŘÖćøýċÖþć 2552 ĒúąĔßšĔîēøÜđøĊ÷îìęĆüðøąđìý
ĔîðŘÖćøýċÖþć 2553 ĒúąÖĞćĀîéüŠć ÖćøüĆéĒúąðøąđöĉîñúÖćøđøĊ÷îøšĎđðŨîÖøąïüîÖćøóĆçîćðøĆïðøčÜÖćø
đøĊ÷îøĎš×ĂÜñšĎđøĊ÷îĒúąêĆéÿĉîüŠćöĊÙüćöøšĎ ìĆÖþąÙüćöÿćöćøë ÙčèúĆÖþèąĂĆîóċÜðøąÿÜÙŤÿëćîýċÖþćĔîåćî
ñšĎøĆïñĉéßĂïÖćøÝĆéÖćøýċÖþćÝąêšĂÜìĞćøąđïĊ÷ïüŠćéšü÷ÖćøüĆéĒúąðøąđöĉîñúÖćøđøĊ÷î×ĂÜÿëćîýċÖþćĔĀš
ÿĂéÙúšĂÜĒúąđðŨîĕðêćöĀúĆÖđÖèæŤĒúąĒîüðäĉïĆêĉìĊęđðŨîךĂÖĞćĀîé×ĂÜĀúĆÖÿĎêøĒÖîÖúćÜÖćøýċÖþć×ĆĚîóĚČîåćî
ó.ý.2551 đóČęĂĔĀšïÙč úćÖøìĊęđÖęĊ÷üךĂÜ×ĂÜìčÖòść÷ëĂČ ðäïĉ êĆ øĉ üŠ öÖîĆ

đĂÖÿćøĀúĆÖåćîÖćøýċÖþćđðŨîđĂÖÿćøÿĞćÙĆâìĊęĔßšĔîÖćøïĆîìċÖñúÖćøđøĊ÷î ךĂöĎúÿćøÿîđìýìĊęđÖęĊ÷üךĂÜ
ÖĆïÖćøóĆçîćñšĎđøĊ÷îàċęÜđðŨîñúÝćÖÖćøüĆéĒúąðøąđöĉîñú×ĂÜÙøĎñšĎÿĂî ÿëćîýċÖþćêšĂÜÝĆéìĞć×ĚċîđóČęĂĔßšĔîÖćø
ïĆîìċÖóĆçîćÖćø ñúÖćøđøĊ÷îøĎš Ēúą×šĂöĎúÿĞćÙĆâ đÖęĊ÷üÖĆïñšĎđøĊ÷îĒúąøĆïøĂÜñúÖćøđøĊ÷îĒúąñúÖćøðøąđöĉîéšćî
ĂęČî ė øüöìĆĚÜÖćøøĆïøĂÜýĆÖéĉĝĒúąÿĉìíĉĝ×ĂÜñĎšÝïÖćøýċÖþć ĒúąĂîčöĆêĉÖćøÝïĀúĆÖÿĎêø îĂÖÝćÖîĚĆî÷ĆÜĔßšđðŨîךĂöĎú
ÿćøÿîđìýĔîÖćøĔĀšïøĉĀćøìćÜÖćøýċÖþćĒÖŠĀîŠü÷Üćî ÿëćîýċÖþć îĆÖđøĊ÷î îĆÖýċÖþćĒúąðøąßćßîìĆęüĕð ēé÷
ÿĞćîĆÖÜćîđ×êóĚČîìĊęÖćøýċÖþćĀøČĂĀîŠü÷ÜćîêšîÿĆÜÖĆéöĊïìïćìĀîšćìĊęÿîĆïÿîčîÖćøéĞćđîĉîÜćî×ĂÜÿëćîýċÖþćĔĀš
ÖćøéĞćđîîĉ ÜćîđÖéĉ ðøąÿìĉ íĉõćóÿĎÜÿčé

đĂÖÿćøĀúĆÖåćîìćÜÖćøýċÖþćöĊøĎðĒïïĒêÖêŠćÜÖîĆ ĕðêćöÿëćîÖćøèŤìðęĊ øąÿÜÙÝŤ ąîĞćĕðĔßš đßîŠ đĂÖÿćø
ÖćøýċÖþćìęĊĂĂÖĔĀšĒÖŠñšĎÝïÖćøýċÖþćđðŨîøć÷ïčÙÙú ĒúąĀúĆÖåćîĒÿéÜñúÖćøÝïÖćøýċÖþćìęĊÝĆéìĞć×ĚċîđóęČĂïĆîìċÖ
ךĂöĎúñšĎÝïÖćøýċÖþć×ĂÜñšĎđøĊ÷îìĚĆÜēøÜđøĊ÷îĒúąÿŠÜĕðÝĆéđÖĘïøĆÖþćìĊęÿĞćîĆÖÜćîÙèąÖøøöÖćøÖćøýċÖþć×ĆĚîóĚČîåćî
ÿĞćîĆÖÜćîđ×êóĚČîìęĊÖćøýÖċ þćðøąëöýċÖþć ĀøČĂêšîÿĆÜÖéĆ ×ĂÜÿëćîýċÖþć ÝÜċ êĂš ÜÝéĆ đÖĘïĕüšĔîìęĊðúĂéõĆ÷đîČęĂÜÝćÖöĊ
ñúĕéšñúđÿĊ÷êŠĂñĎšđøĊ÷îĀøČĂñĎšÝïÖćøýċÖþćēé÷êøÜ ÝċÜêšĂÜøąöĆéøąüĆÜöĉĔĀšöĊÖćøĒÖšĕ×ĀøČĂđóĉęöđêĉöךĂöĎúēé÷ìčÝøĉê
ÿëćîýċÖþćÿćöćøëÖĞćĀîéđĂÖÿćøïćÜøĎðĒïïĔßšđĂÜĕéšêćöÿëćîÖćøèŤĒêŠÿĞćĀøĆïøĎðĒïïìĊęÖøąìøüÜýċÖþćíĉÖćø
ÖĞćĀîéÝćĞ đðîŨ êšĂÜïÜĆ ÙĆïĔßĔš ĀšđðŨîøðĎ ĒïïđéĊ÷üÖĆîìęĆÜðøąđìý

ÖúŠöč ÿŠÜđÿøöĉ ÖćøÝéĆ ÖćøýċÖþć
ÿĞćîÖĆ Üćîđ×êóĚîČ ìÖĊę ćøýÖċ þćðøąëöýÖċ þćÿÜ×úć đ×ê 2

ÙŠöĎ ČĂÖćøÝéĆ ìĞćÝéĆ đÖïĘ øĆÖþćĒïïøć÷ÜćîñšÿĎ ĞćđøÝĘ ÖćøýÖċ þć (ðó.3)

 
 

-1-

บทที่ 1
หนา้ ที่ของผเู้ ก่ยี วข้องกบั หลักฐานทางการศึกษา

การดาํ เนินงานดา้ นทะเบยี นวัดและประเมนิ ผลและการใหบ้ ริการขอ้ มูลทางการศึกษา จะเกีย่ วข้องกบั
องค์กรและบุคคลต่าง ๆ องคก์ รปฐมภมู ไิ ดแ้ ก่ สถานศกึ ษา สว่ นสาํ นกั งานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษาหรอื หนว่ ยงานตน้
สงั กัดตา่ งมบี ทบาทท่สี ําคัญเชน่ เดยี วกัน

1. บทบาทหนา้ ทข่ี องสถานศึกษา
ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา
1.1 เป็นเลขานกุ ารคณะกรรมการสถานศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน
1.2 เป็นประธานคณะกรรมการบริหารหลกั สตู รและวชิ าการของสถานศึกษา
1.3 อนมุ ตั ิผลการประเมินผลการเรยี นรายปี/รายภาค และตัดสนิ อนุมตั ิการเลื่อนช้ันเรียน การซํ้าชน้ั

การจบการศกึ ษา
1.4 ใหค้ ําแนะนําขอ้ ปรกึ ษาหารอื เกี่ยวกับการดาํ เนินงานแกบ่ ุคลากรในสถานศึกษา
1.5 กํากับ ตดิ ตามให้การดําเนนิ งานการวัดผลและประเมนิ ผลการเรียนบรรลุเปา้ หมาย
1.6 นําผลการประเมินไปจัดทํารายงานผลการดาํ เนนิ งาน กาํ หนดนโยบายและวางแผนพฒั นาการจดั

การศกึ ษา
งานทะเบยี น
1.1 ปฏิบตั งิ านร่วมกบั ครวู ัดผลในการรวบรวม ตรวจสอบและบันทกึ ผลการประมวลขอ้ มูลผลการ

เรยี นของผ้เู รียนแตล่ ะคน
1.2 ตรวจสอบและสรปุ ข้อมูลผลการเรียนของผ้เู รยี นรายบคุ คลแต่ละชนั้ ปแี ละเมอ่ื จบการศกึ ษาเพอื่

เสนอรายชื่อผู้มีคณุ สมบัติครบตามเกณฑ์ใหค้ ณะกรรมการบรหิ ารหลักสตู รและวิชาการ ของสถานศกึ ษาให้
ความเห็นชอบและเสนอใหผ้ บู้ ริหารสถานศกึ ษาตดั สินและอนุมตั ิผลการเลอ่ื นชัน้ เรียนและจบการศกึ ษาแตล่ ะ
ระดบั

1.3 จัดทาํ เอกสารหลกั ฐานการศึกษา

คูม่ ือการจดั ทําจดั เก็บรกั ษาแบบรายงานผูส้ ําเร็จการศกึ ษา (ปพ.3)

 

 
 

-2-

บทท่ี 2
เอกสารหลักฐานทางการศึกษา

สถานศึกษาต้องจัดให้มีงานทะเบียนและแต่งตั้งผู้รับผิดชอบการจัดทํา จัดเก็บและการออกเอกสาร
หลักฐานการศึกษาอย่างเป็นระบบ การดําเนินการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ในรูปแบบของคณะกรรมการ
ฝา่ ยตา่ ง ๆ อยา่ งกวา้ งขวาง

การจัดทําเอกสารหลักฐานการศึกษาภายในสถานศึกษาเป็นบทบาทหน้าที่ของครูท่ีรับผิดชอบงาน
ทะเบียนและนายทะเบียนของโรงเรียนที่ต้องจัดทํา โดยการรวบรวมข้อมูลผลการเรียนของนักเรียนทุกคนตาม
ระดับการศึกษาเป็นรายปีในระดับประถมศึกษาและเป็นรายภาคในระดับมัธยมศึกษา ต้องตรวจสอบข้อมูลให้
ถูกต้องก่อนที่จะประมวลผลการเรียนรู้ของผู้เรียน เป็นรายช้ันปีหรือรายภาคเรียนในแต่ระดับการศึกษา และ
ควรจัดเก็บข้อมลู ให้เปน็ ระบบ โดยอาจพัฒนาโปรแกรมการกรอกขอ้ มูลและการประมวลผลข้อมูล

เอกสารหลักฐานการศึกษาแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ เอกสารหลักฐานท่ีสถานศึกษากําหนด
รูปแบบขนึ้ ใช้เอง และเอกสารหลกั ฐานบังคบั แบบตามที่กระทรวงศกึ ษาธิการกาํ หนด

ประเภทที่ 1 เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษาทกี่ ระทรวงศกึ ษาธกิ ารกาํ หนด
เอกสารหลักฐานการศึกษาทกี่ ระทรวงศึกษาธกิ ารกําหนด ไดแ้ ก่
1. ระเบยี นแสดงผลการเรยี น (ปพ.1)
2. ประกาศนียบัตร (ปพ.2)
3. แบบรายงานผสู้ าํ เร็จการศกึ ษา (ปพ.3) และ

ประเภทท่ี 2 เอกสารหลักฐานการศกึ ษาทส่ี ถานศึกษากําหนด
เป็นเอกสารท่ีสถานศึกษาจัดทําขึ้นเพื่อบันทึกพัฒนาการ ผลการเรียนรู้และข้อมูลสําคัญ เก่ียวกับ

ผู้เรียน เช่น แบบรายงานประจําตัวนักเรียน แบบบันทึกผลการเรียนประจํารายวิชา ระเบียนสะสม ใบรับรอง
ผลการเรยี น และเอกสารอ่ืน ๆ ตามวตั ถุประสงคข์ องการนาํ เอกสารไปใช้

1. เอกสารหลักฐานการศึกษาทกี่ ระทรวงศึกษาธิการกําหนด (แบบบงั คับ)
1.1 ระเบยี นแสดงผลการเรียน (ปพ.1)
เป็นเอกสารแสดงผลการเรียนและรับรองผลการเรียนรู้ของผู้เรียนตามรายวิชา ผล

การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ และผลการประเมิน
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ปพ.1) ซึ่งสถานศึกษาจัดทําขึ้นเป็นรายบุคคลเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการรับรองผลการ
เรียน และใช้เป็นเอกสารสําหรับการตรวจสอบ รับรอง และยืนยันวุฒิการศึกษาของผู้เรียนสถานศึกษาต้อง
ดําเนินการจัดทําโดยใช้แบบพิมพ์และวิธีการ ท่ีกระทรวงศึกษาธิการกําหนด เพ่ือใช้รูปแบบการจัดทํา การ
ควบคุม และการตรวจสอบ รับรองเอกสาร เป็นไปอย่างมีเอกภาพและมีมาตรฐานในการดําเนินการอย่าง
เดียวกนั

ข้อกาํ หนดของเอกสาร มีดังน้ี
1. สถานศึกษา จะต้องจัดทาํ ระเบยี นแสดงผลการเรียนของผูเ้ รียน ตามรูปแบบท่ีกระทรวงศึกษาธิการ

กําหนด โดยสถานศกึ ษาต้องส่ังซอ้ื จากหนว่ ยงานท่กี ระทรวงศกึ ษาธิการมอบหมายใหจ้ ดั พิมพ์ จาํ หนา่ ย เพ่อื ให้

คู่มอื การจัดทาํ จดั เกบ็ รกั ษาแบบรายงานผู้สําเรจ็ การศกึ ษา (ปพ.3)

 

 
 

-3-

ใชเ้ ปน็ แบบเดียวกนั ซง่ึ จะทําใหเ้ กิดความสะดวกในการตรวจสอบขอ้ มูลและส่งตอ่ เอกสสารระหวา่ งสถานศึกษา
และหน่วยงานตา่ ง ๆ

2. สถานศึกษาต้องจัดทําต้นฉบับ ระเบียนแสดงผลการเรียนของผู้เรียนทุกคนเก็บรักษาไว้ตลอดไป
และระมัดระวังดูแลรักษาไม่ใช้ชํารุดเสียหาย สูญหาย หรืทอมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูลเป็นอันขาด และ
เพอ่ื ความสะดวกในการคน้ หาข้อมลู สถานศึกษาอาจเก็บข้อมูลในเอกสารน้ีไว้ในรูปของซีดีรอม หรือเทคโนโลยี
อนื่ ใดอีกทางหน่งึ กไ็ ด้

3. เมอ่ื ผู้เรียนสําเร็จการศึกษาแต่ละระดับการศึกษา สถานศึกษาต้องจัดทําระเบียนแสดงผลการเรียน
ให้แก่ผู้เรียน โดยคัดลอกข้อมูลจากต้นฉบับท่ีสถานศึกษาได้จัดทําไว้ให้ครบถ้วน สมบูรณ์ อย่าให้ตกหล่นหรือ
ผดิ พลาดไดเ้ ปน็ อนั ขาด

4. กรณีผเู้ รียนย้ายสถานศึกษา สถานศึกษาจะต้องจัดทําระเบียนแสดงผลการเรียนของนักเรียนในช้ัน
ปีหรือภาคเรียนที่มีระดับผลการเรียนแล้ว โดยคัดลอกข้อมูลจากต้นฉบับท่ีเป็นปัจจุบันให้ถูกต้องสมบูรณ์ ให้
ผเู้ รียนนําไปเปน็ หลักฐานการสมคั รเขา้ เรยี นทีส่ ถานศึกษาใหม่

5. กรณีผู้เรียนรับระเบียนแสดงผลการเรียนของนักเรียนตนไปแล้ว เกิดการชํารุดเสียหาย ถ้าผู้เรียน
ต้องการเอกสารฉบับใหม่ ให้สถานศึกษาออกเอกสารฉบับใหม่แก่ผู้เรียน โดยคัดลอกจากต้นฉบับเอกสารที่
รักษาไวโ้ ดยหัวหน้าสถานศึกษาและนายทะเบียนทปี่ ฏิบตั ิหนา้ ที่ในขณะนนั้ เปน็ ผูล้ งนามในเอกสาร

6. กรณีผู้เรียนต้องการใบแสดงผลการเรียนท่ีเป็นภาษาอังกฤษ ให้ออกเอกสารโดยมีข้อมูลที่สําคัญ
เพื่อการส่ือสารส่งต่อให้กับสถานศึกษาในระดับท่ีสูงข้ึน หรือส่งต่อให้กับหน่วยงานที่รับสมัครเข้าทํางาน สํานัก
คณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ได้กําหนดรูปแบบการจัดทําใบแสดงผลการเรียนเป็นภาษาอังกฤษ
(Transcript) เพือ่ ใหเ้ ปน็ รูปแบบมาตรฐาน และสถานศกึ ษาสามารถนาํ ไปใชเ้ ป็นแนวทางการจัดทาํ ได้

7. กรณตี น้ ฉบับเอกสารเกดิ การสญู หายให้แจ้งยกเลิกการใช้เอกสารทันที

2. บทบาทหนา้ ท่ีของสํานักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษา
สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาหรือหน่วยงานต้นสังกัด มีบทบาทหน้าท่ีสนับสนุนการดําเนินงานของ

สถานศึกษาในด้านต่าง ๆ รวมท้ังการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ตามหลักสูตรสถานศึกษา ซึ่งสํานักงานเขต
พ้ืนท่กี ารศกึ ษาควรสนบั สนนุ การดาํ เนินการของสถานศกึ ษา ดังนี้

1. การสร้างความรู้ ความเข้าใจกับบุคลากรในสถานศึกษาท่ีเกี่ยวกับการวัดและประเมินผลการเรียนรู้
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน พ.ศ.2551 และการเทยี บโอนผลการเรียน

2. การจัดทาํ ระเบยี บว่าด้วยการวัดและประเมนิ ผลการเรยี นร้ตู ามหลักสตู รสถานศึกษา
3. การส่งเสริมและสนับสนุนการเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ต่าง ๆ การประเมิน การอ่าน คิด
วเิ คราะหแ์ ละเขยี น การประเมินคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น
4. การส่งเสริมให้ครู บุคลากรในสถานศึกษา มีความรู้ ความเข้าใจในแนวปฏิบัติการวัดและ
ประเมินผลตลอดจนความเข้าใจในเทคนิควิธีการวัดและประเมินผลรูปแบบต่าง ๆ โดยเน้นการประเมินตาม
สภาพจริง เช่น การประเมินการปฏิบัติงาน การประเมินด้วยแฟ้มสะสมงาน หรือการประเมินด้วยการส่ือสาร
สว่ นบคุ คล เชน่ การซักถาม การสัมภาษณ์ เปน็ ต้น
5. การส่งเสริมสนับสนุนให้สถานศึกษาพัฒนาเครื่องมือ บริหารจัดการวัดและประเมินผลการเรียนรู้
และการจดั เกบ็ เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษาอย่างเป็นระบบ

คมู่ ือการจดั ทําจดั เก็บรกั ษาแบบรายงานผูส้ ําเรจ็ การศกึ ษา (ปพ.3)

 

 
 

-4-

6. การให้คําปรึกษา แนะนําเก่ียวกับการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ การจัดทําเอกสารหลักฐาน
การศกึ ษา

7. การประเมินคุณภาพผู้เรียนที่ดําเนินการโดยเขตพื้นท่ีการศึกษาหรือหน่วยงานต้นสังกัด และ
ระดับชาติ

8. อืน่ ๆ ตามความเหมาะสม
ปัจจุบันเขตพื้นที่การศึกษา มีบทบาทในการส่งเสริม สนับสนุนการจัดการศึกษาและพัฒนางานด้าน
วิชาการมากขึ้น โดยเฉพาะภารกิจในการสั่งซื้อ ควบคุม จัดเก็บเอกสารหลักฐานการศึกษาและการให้บริหาร
ข้อมูลทางการศึกษา เช่น การตรวจสอบและรับรองวุฒิการศึกษา การออกเอกสารการศึกษา สามารถ
สนองตอบตอ่ ความต้องการของผู้รบั บริการ สร้างความพงึ พอใจได้สูงสุด

1.1 การสัง่ ซอื้ ควบคุม และการจัดเก็บรักษาระเบยี นแสดงผลการเรยี น (ปพ.1)
ระเบียนแสดงผลการเรียนหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน (ปพ.1) เป็นเอกสารหลักฐาน

ทีโ่ รงเรียนทุกแหง่ ทุกสงั กัด ในระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน จะต้องดําเนินการจัดทําให้เป็นแนวทางเดียวกัน โดย
ผู้อํานวยการสํานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา เป็นผู้ดําเนินการจัดซ้ือให้โรงเรียนทุกแห่ง ทุกสังกัดในเขตพ้ืนท่ี
การศกึ ษาท่รี ับผดิ ชอบตามข้ันตอน ดังนี้

กรณีที่ 1 สํานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาเป็นผู้ดําเนินการจัดซ้ือ (แบบควบคุม) (กรณีซื้อทางไปรษณีย์)
มีขนั้ ตอนดงั น้ี

1. ผู้บริหารโรงเรียน ทําหนังสือแจ้งความประสงค์ของซื้อแบบพิมพ์ พร้อมแนบสําเนาใบเสร็จค่าแบบ
พิมพ์ และแบบใบขออนุญาตส่ังซื้อแบบพิมพ์ฯ (แบบควบคุม) ถึงผู้อํานวยการสํานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา
สงขลา เขต 2

2. สํานักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษาทาํ หนงั สอื สงั่ ซ้ือแบบพิมพ์ (ปพ.1) ถงึ องค์การคา้ ของสกสค. โดยระบุ
- โดยระบโุ รงเรยี นท่จี ะสั่งซื้อแบบพมิ พแ์ ละแจ้งไปยังองคก์ ารค้าของสกสค.
- ชนิดของแบบพิมพ์ (แบบพิมพ์ปกติหรือแบบพิมพ์สําหรับพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์) จํานวน

แบบพมิ พ์ จาํ แนกเปน็ ระดับชนั้ วา่ มีระดับชน้ั ละกเ่ี ลม่ (1 เลม่ มี 50 แผ่น)
3. สํานักงานเขตพ้นื ท่ีการศึกษา แจง้ ใหโ้ รงเรยี นมารบั แบบพมิ พ์ทไ่ี ดส้ ั่งซือ้ ไว้
4. เมือ่ ไดร้ ับแบบพมิ พ์ ผู้ท่ีได้รับมอบฉันทะของโรงเรียนดังกล่าว นําแบบพิมพ์นั้นมาควบคุมหมายเลข

ชดุ ท่ี เลขที่ ในบญั ชีรบั – จ่าย แบบพมิ พ์ของสํานกั งานเขตพืน้ ทีก่ ารศกึ ษา
5. ใหผ้ ้รู ับมอบฉันทะของโรงเรยี น นําแบบพมิ พ์นั้นมาควบคุมหมายเลข ชดุ ท่ี เลขท่ี ในบญั ชรี บั – จา่ ย

แบบพมิ พ์ของสถานศกึ ษาและจดั เก็บรักษาไว้อย่างดีต่อไป

กรณีที่ 2 สํานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามอบฉันทะให้โรงเรียนเป็นผู้ดําเนินการจัดซื้อเอง(แบบควบคุม)
(กรณซี ้อื ด้วยตนเอง) มีข้ันตอนดังน้ี

1. ผู้บริหารโรงเรียน ทําหนังสือแจ้งความประสงค์ขอซื้อแบบพิมพ์ (ปพ.1) และแจ้งขอไปซ้ือแบบ
พิมพ์ด้วยตนเอง โดยจะต้องสําเนาบัตรประชาชนของผู้ซ้ือและแนบลายมือช่ือผู้ขอจัดซื้อแบบพิมพ์ดังกล่าว
มายงั สาํ นกั งานเขตพ้ืนที่การศกึ ษาประถมศกึ ษาสงขลา เขต 2

คูม่ ือการจัดทาํ จัดเก็บรักษาแบบรายงานผสู้ ําเรจ็ การศกึ ษา (ปพ.3)

 

 
 

-5-

- โดยระบุช่ือ – สกุลครู หรือบุคลากรทางการศึกษาของโรงเรียนที่ได้รับมอบหมายให้เป็น
ผู้ดาํ เนินการจัดซ้ือโดยผทู้ ่ไี ดร้ บั มอบฉันทะตอ้ งนาํ บตั รประชาชนหรอื บัตรขา้ ราชการไปแสดงด้วย

- ชนิดแบบพิมพ์ (แบบพิมพ์ปกติ หรือแบบพิมพ์สําหรับพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์) จํานวนแบบ
พมิ พจ์ ําแนกเป็นระดับชน้ั ว่ามรี ะดับชั้นละกีแ่ ผ่น

2. สํานกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษาสงขลา เขต 2 ออกหนังสือการซื้อแบบพิมพ์ (ปพ.1) ถึง
องคก์ ารค้าของสกสค. โดยระบุ

- ชื่อ – สกุลของครูหรือบุคลากรทางการศึกษาของโรงเรียนท่ีได้มอบหมายในขั้นตอนที่ 1
เป็นผไู้ ดร้ บั มอบฉนั ทะดาํ เนนิ การจดั ซ้ือ

- ช่ือโรงเรียน ช่ืออําเภอ ลักษณะแบบพิมพ์ จํานวนแบบพิมพ์ จําแนกเป็นระดับช้ันว่ามี
ระดบั ช้นั ละก่ีเลม่

3. เมื่อได้รับระเบียนแสดงผลการเรียนครบถ้วนและถูกต้องแล้ว ให้นําแบบพิมพ์ดังกล่าวมาควบคุม
หมายเลข ชุดที่ เลขที่ ในบัญชีรับ-จ่าย แบบพิมพ์ของสํานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 2
กอ่ นนําไปใช้

4. หลงั จากนั้นให้โรงเรยี นนําแบบพิมพ์มาควบคมุ หมายเลข ชดุ ที่ เลขท่ี ในบัญชีรบั -จา่ ยแบบพิมพ์ของ
โรงเรียนและจดั เก็บรักษาไวอ้ ย่างดตี ่อไป

หมายเหตุ
1. แบบพิมพ์ระเบียนแสดงผลการเรียน (ปพ.1) ที่จัดซ้ือมาให้ใช้เฉพาะในโรงเรียนจัดซ้ือเท่าน้ัน ห้าม

ให้โรงเรยี นอื่นยมื แลกเปล่ยี น ระหวา่ งโรงเรียนเป็นอันขาด
2. แบบพิมพ์ระเบียนแสดงผลการเรียน (ปพ.1) ที่โรงเรียนจัดซ้ือมาและไม่ประสงค์จะนํามาใช้

สถานศกึ ษาตอ้ งเกบ็ รกั ษาไวต้ ลอดไป
3. เมื่อโรงเรียนจะต้องออกระเบียนแสดงผลการเรียน (ปพ.1) ให้ผู้เรียน โรงเรียนต้องทําบัญชีจ่าย

แบบระเบียนแสดงผลการเรียนหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน (ปพ.1) ในทุกกรณีและบันทึกในสมุด
จดหมายเหตุรายวันของโรงเรยี นทุกครัง้ ท่ีมกี ารออกเอกสาร

4. ในการสั่งซื้อแบบพิมพ์ ขอให้โรงเรียนดําเนินการสั่งซ้ือระหว่างเดือนกันยายน – พฤศจิกายน ของ
ทุกปี เพือ่ ให้สถานศึกษาสามารถนาํ มาออกให้กบั เดก็ นกั เรยี นไดท้ ันตามเวลาที่จบการศึกษา

1.2 ประกาศนยี บัตร (ปพ.2)
เปน็ เอกสารแสดงวุฒิการศึกษาท่ีสถานศกึ ษาออกให้กบั ผูส้ ําเร็จการศึกษาภาคบังคับ 9 ปี และผู้สําเร็จ

การศึกษาข้นั พื้นฐาน 12 ปี เพ่อื แสดงศกั ด์ิและสิทธขิ์ องผู้สาํ เรจ็ การศกึ ษาตามวุฒแิ หง่ ประกาศนียบตั รนนั้

ขอ้ กาํ หนดของเอกสาร มีดังนี้
1. เปน็ เอกสารแสดงวุฒิการศึกษาของผู้สาํ เรจ็ การศึกษาเปน็ รายบุคคล
2. เปน็ เอกสารท่ีจะออกให้แกผ่ ู้สําเรจ็ การศกึ ษา โดยสมบูรณแ์ ล้วดังน้ี
1) ผสู้ าํ เรจ็ การศึกษาภาคบังคับ 9 ปี (ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 3)
2) ผู้สําเรจ็ การศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน 12 ปี (ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6)

คมู่ ือการจดั ทําจดั เกบ็ รักษาแบบรายงานผู้สําเร็จการศกึ ษา (ปพ.3)

 

 
 

-6-

3. กระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้กําหนดแบบพิมพ์รูปแบบเอกสาร ใบแทนเอกสาร เพ่ือให้สถานศึกษา
นําไปใชอ้ อกใหแ้ ก่ผ้เู รียนที่สาํ เร็จการศกึ ษา โดยสถานศึกษาเปน็ ผู้ควบคุมการจัดทํา การเก็บรักษาและการออก
เอกสารทัง้ การออกใบแทนเอง

4. กรณีผู้เรียนรับเอกสารไปแล้ว ถ้าผู้เรียนมีความประสงค์ขอรับเอกสารน้ีใหม่ สถานศึกษาจะต้อง
ออกใบแทนให้ โดยใบแทนจะมีลกั ษณะแตกตา่ งจากเอกสารจรงิ ตามรปู แบบที่กระทรวงศึกษาธกิ ารกาํ หนด

5. สถานศึกษาจะต้องเก็บรักษา และควบคุมแบบพิมพ์ของเอกสารให้ปลอดภัยอย่าให้ชํารุดเสียหาย
หรือมีผู้นําไปใช้ในทางมชิ อบเป็นอันขาด
การสั่งซอื้ ควบคมุ และการจัดเกบ็ รกั ษาประกาศนียบัตร (ปพ.2)

เอกสารแสดงวุฒิการศกึ ษา ประกาศนยี บัตร (ปพ.2) เปน็ เอกสารหลักฐานท่ีโรงเรียนทุกแห่ง ทุกสังกัด
ในระดับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน จะต้องดําเนินการจัดทําให้เป็นแนวทางเดียวกันโดย
ผู้อํานวยการสํานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา เป็นผู้ดําเนินการจัดซื้อให้โรงเรียนทุกแห่งทุกสังกัดในเขตพื้นที่
การศึกษาท่ีรับผดิ ชอบ โดยมขี น้ั ตอนการดาํ เนินงาน 2 กรณี (เหมือนการจดั ซ้ือ ปพ.1)

1.3 แบบรายงานผ้สู ําเรจ็ การศึกษา (ปพ.3)
เปน็ หลักฐานสําหรับอนุมัติการจบการศึกษาตามหลักสูตรของผู้เรียนในแต่ละรุ่นโดยบันทึกรายงานชื่อ

และข้อมูลของผู้จบการศึกษา ระดับประถมศึกษา (ป.6) ผู้จบการศึกษาภาคบังคับ (ม.3) ผู้จบการศึกษาขั้น
พื้นฐานตามหลักสูตร (ม.6) เพ่ือใช้เป็นหลักฐานสําหรับการตัดสินและอนุมัติผลการเรียนให้เป็นผู้สําเร็จ
การศกึ ษาและใช้ในการตรวจสอบ ยนื ยนั และรบั รองความสําเรจ็ และวุฒกิ ารศึกษาของผสู้ าํ เร็จการศึกษาแต่ละ
คน

ข้อกาํ หนดของเอกสาร มีดงั น้ี
1. เป็นเอกสารสําหรับรายงานข้อมูลผู้สําเร็จหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานแต่ละระดับการศึกษา

ได้แก่ ระดับประถมศกึ ษา (ป.6) ระดับมัธยมศกึ ษาตอนตน้ (ม.3) และระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย (ม.6)
2. ให้สถานศึกษาใช้แบบพิมพ์เอกสารตามรูปแบบที่กระทรวงศกึ ษาธิการกาํ หนด
3. ให้สถานศึกษาจัดทําเอกสารน้ีสําหรับระดับประถมศึกษา (ป.6) จํานวน 2 ชุด โดยเก็บรักษาไว้ที่

สถานศึกษา 1 ชุด ส่งเก็บท่ีสํานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา จํานวน 1 ชุด สําหรับช้ันมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.3)
และชนั้ มธั ยมศึกษาตอนปลาย ให้สถานศกึ ษาจดั ทาํ จาํ นวน 3 ชุด โดยเก็บรักษาไว้ที่สถานศึกษา 1 ชุด ส่งเก็บ
รักษาที่สํานกั งานเขตพืน้ ท่กี ารศกึ ษา จาํ นวน 1 ชุด และสง่ เก็บรกั ษาที่กระทรวงศึกษาธิการอีก 1 ชุด ชุดท่ีเก็บ
รักษาท่ีกระทรวงศึกษาธิการถือเป็นเอกสารต้นฉบับ ทั้งน้ีให้จัดทําเป็นฉบับตัวจริงในแบบ ปพ.3 ท่ีซ้ือจาก
สกสค. ดว้ ยตวั พิมพ์หรอื ลายมอื ใหเ้ หมือนกนั ทกุ ชดุ โดยไมใ่ ช้การถ่ายเอกสาร

4. สถานศึกษาและหน่วยงานท่ีจัดเก็บรักษาเอกสารนี้ จะต้องดูแลรักษาเอกสารอย่าให้ชํารุดเสียหาย
สูญหาย หรอื ขอ้ มลู ถูกเปล่ียนแปลงแกไ้ ขเป็นอนั ขาด และต้องเก็บรกั ษาไว้ในสถานศึกษาท่ีที่มีความปลอดภัยไว้
ตลอดไป เพอื่ ความสะดวกในการคน้ หาข้อมูลในเอกสารน้ีไวใ้ นรปู ของ ซดี รี อม หรอื เทคโนโลยอี น่ื ใดอกี ทางหนึ่ง
ก็ได้

5. สถานศึกษาจะต้องจัดส่งเอกสารที่จัดทําเรียบร้อยแล้วไปให้หน่วยงานที่กําหนดภายในเวลา 30
วัน หลังจากผู้เรียนได้รับการอนุมัติให้สําเร็จการศึกษา การจัดส่งเอกสารไม่ตรงกับเวลาหรือล่าช้าถือว่าเป็น
ความบกพร่องตอ่ หนา้ ท่ขี องผรู้ บั ผดิ ชอบ

คู่มือการจดั ทําจัดเก็บรกั ษาแบบรายงานผู้สําเร็จการศึกษา (ปพ.3)

 

 

 

-7-

การสั่งซื้อ ควบคุม และการจัดเก็บรกั ษาแบบรายงานผ้สู าํ เรจ็ การศึกษา (ปพ.3)
แบบรายงานผู้สําเร็จการศึกษา (ปพ.3) เป็นหลักฐานที่โรงเรียนทุกแห่งทุกสังกัดในระดับหลักสูตร

แกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน จะตอ้ งดําเนนิ การจัดทาํ ใหเ้ ปน็ แนวทางเดยี วกัน โรงเรียนสามารถสั่งซื้อโดยตรง
ได้ที่องคก์ ารค้าของ สกสค. โดยหัวหนา้ สถานศึกษาเป็นผู้รบั ผดิ ชอบในการจัดซื้อ

วิธีการตรวจสอบความถูกตอ้ งของรายงานทกี่ รอกใน ปพ.3
1. ใช้แบบพิมพ์ที่จัดซ้ือจาก องค์การค้า สกสค. พิมพ์ด้วยหมึก Prit ชนิดพ่นหรือหัวฉีดสีดําหรือเขียน
ด้วยหมึกซึม/หมึกเจลสีดํา ตัวหนังสือคมชัด (ห้ามใช้ปากกาลูกล่ืนสีดํา) เป็นระเบียบ อ่านง่าย ตัวเลขท่ีเขียน
หรือพิมพ์ควรเป็นเลขฮินดูอารบิก เพ่ือสะดวกในการตรวจสอบและจัดทําเอกสารทางการศึกษาเป็น
ภาษาอังกฤษ
2. กรอก ปพ.3 โดยใช้แผ่น ปพ.3 ด้านหน้า (10 คน) ซ่ึงมีตราครุฑสีดําเป็นที่สังเกตและด้านหลัง
(14 คน) แล้วจึงเริ่มแผ่นต่อไปในลักษณะเดียวกัน กรณีนักเรียนจบในหน้าท่ี 1 ไม่ถึง 10 คน ในแบบพิมพ์
ชนิดคอมพิวเตอร์ ต้องมีช่องตารางตามฟอร์ม ทั้งหมด 10 ช่องใหญ่ และหน้าท่ี 2 ต้องมีตาราง 14 ช่องใหญ่
เสมอ
3. “หน้า” กรอกเลขลําดับ จากหน้าแรกจนถึงหน้าสุดท้ายของจํานวนหน้า ปพ.3 ท่ีกรอกข้อมูลผู้ที่
สําเรจ็ การศกึ ษาในแตล่ ะครัง้ หรอื แต่ละรนุ่ ทีอ่ นุมตั กิ ารจบหลักสูตร
4. “สาํ เรจ็ การศกึ ษาภาคเรียนท่ี..........ปีการศกึ ษา..............” กรอกภาคเรียนโดยระบุว่าเป็นภาคเรียน
ท่ี 1 หรือ 2 (รวมภาคเรียนฤดูร้อน) ปีการศึกษาให้เขียนตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยปีการศึกษา
การเปิดและปิดสถานศึกษา พ.ศ.2549 ซึ่งมีสาระสําคัญเกี่ยวข้องกับการกรอก ปพ.3 ซึ่งสรุปว่าในรอบปี
การศึกษาหน่งึ วนั เรม่ิ ตน้ ปีการศึกษา คือวันที่ 16 พฤษภาคม ของ พ.ศ.หน่ึง จนถึง วันท่ี 15 พฤษภาคม ของ
พ.ศ.ถัดไป สถานศึกษาสามารถอนุมัติการจบการศึกษาได้ตลอดปีท่ีมีผู้จบการศึกษา จึงมีท้ังผู้จบการศึกษาใน
รุ่นปกติ และไมพ่ รอ้ มรุน่ สามารถพิจารณาได้ ดังน้ี

4.1 การอนุมัติจบการศึกษาพร้อมรุ่นสถานศึกษาอนุมัติจบการศึกษารุ่นปกติในช่วงเดือน
มนี าคมของทกุ ปี เป็นการจบการศึกษาในภาคเรียนท่ี 2 ของปีการศกึ ษา

4.2 การอนุมัติจบการศึกษาไม่พร้อมรุ่นผู้เรียนท่ีมีคุณสมบัติยังไม่ครบตามเกณฑ์การจบ
การศึกษาในรุ่นปกติ จําเป็นต้องเรียนต่อเพื่อให้จบหลักสูตร หรือต้องแก้ไขผลการเรียน เนื่องจากสอบไม่ผ่าน
หรือดว้ ยเหตจุ าํ เปน็ บางประการ และเมือ่ ไดเ้ ปลยี่ นผลการเรียนหรือเรียนซํ้าตามกรณี และมีคุณสมบัติครบตาม
เกณฑ์การจบการศึกษาแล้ว สถานศึกษาสามารถอนุมัติจบการศึกษาให้ผู้เรียนได้ตลอดปีท่ีมีผู้จบการศึกษาจริง
โดยไม่ตอ้ งรอจนถึงปลายภาคหรือปลายปีการศกึ ษา ตามช่วงเวลาของภาคเรยี นท่ี 1 และภาคเรียนท่ี 2 ดงั นี้

1) ช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมีนาคมของทุกปี (1 พฤศจิกายน – 31 มีนาคม)
เปน็ การจบการศกึ ษาในภาคเรียนที่ 2

2) ช่วงเดือนเมษายนของทุกปี (1-30 เมษายน) หรือภาคฤดูร้อน เป็นการจบ
การศึกษาในภาคเรยี นท่ี 2

3) ช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกปี (1-15 พฤษภาคม) เป็นการจบการศึกษาในภาค
เรยี นท่ี 2

4) ช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคมของทุกปี (16 พฤษภาคม – 31 ตุลาคม)
เปน็ การจบการศกึ ษาในภาคเรยี นท่ี 1

คู่มือการจัดทําจัดเก็บรักษาแบบรายงานผ้สู ําเรจ็ การศึกษา (ปพ.3)

 

 
 

-8-

ตารางตัวอยา่ งการระบภุ าคเรยี นและปกี ารศกึ ษาทอี่ นุมตั จิ บการศกึ ษา

สาํ เรจ็ การศกึ ษาภายในวนั เดอื น ปี ภาคเรยี นท่ี ปี หมายเหตุ

การศกึ ษา

16 พ.ค.2558-31 ต.ค.2558 1 2558 วันท่ี เดอื น ปี พ.ศ.ท่สี ําเรจ็ การศึกษา

1 พ.ย.2558 – 31 มี.ค.2559 2 2558 ใน ปพ.3 (ใตช้ ื่อ ผอ.สถานศึกษา) เปน็

1 เม.ย.2559 – 30 เม.ย.2559 2 2558 วันท่ี เดอื นปี พ.ศ.ทอ่ี นุมัตจิ บ

1 พ.ค.2559 – 15 พ.ค.2559 2 2558 การศึกษา ซง่ึ จะระบไุ วต้ รงกนั กับท่ี

16 พ.ค.2559 – 31 ต.ค.2559 1 2559 ระบุในปพ.1 และ ปพ.2 และในแบบ

1 พ.ย.2559 – 31 ม.ี ค.2560 2 2559 รายงานการออกประกาศนียบัตร ไม่วา่

1 เม.ย.2560 – 30 เม.ย.2560 2 2559 สถานศกึ ษาจะจดั ทํา ปพ.3 เสร็จสน้ิ

1 พ.ค.2560 – 15 พ.ค.2560 2 2559 และผอ.จะลงนามเมื่อใดกต็ าม วันที่

16 พ.ค.2560 – 31 ต.ค.2560 1 2560 เดือน ปพี .ศ.จะไมเ่ ปล่ียนแปลงไปตาม

1 พ.ย.2560 – 31 ม.ี ค.2561 2 2560 วนั ท่ีจดั ทํา ปพ.3 สําเร็จเสร็จสนิ้

1 เม.ย.2560 – 30 เม.ย.2561 2 2560 สรปุ ข้อมูลวนั ที่จบการศึกษาใน

1 พ.ค.2561 – 15 พ.ค.2561 2 2560 ปพ.1,ปพ.2 และปพ.3 ต้องตรงกัน


ดังน้ัน ผู้สําเร็จการศึกษาในช่วงต้ังแต่วันท่ี 16 พฤษภาคม 2559 จึงถึงวันท่ี 31 ตุลาคม 2559

ทต่ี กร่นุ มาจากร่นุ ท่ีแลว้ จะไดร้ ับการอนมุ ตั จิ บหลกั สูตรในภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2559

ภาคเรยี นฤดูร้อน เร่มิ ตง้ั แต่วันปิดภาคเรียนท่สี อง (1 เมษายน) จนถึงวันก่อนเปิดภาคเรียนท่ีหน่ึง (15

พฤษภาคม) ซงึ่ ภาคเรียนฤดรู ้อนนับเปน็ การเรยี นในชว่ งเวลาของภาคเรียนที่ 2

5. “โรงเรยี น..........ตําบล/แขวง..........อาํ เภอ/เขต...........จังหวัด” กรอกใหถ้ กู ตอ้ งครบถว้ นชัดเจนตรง

บรรทดั

6. “ลาํ ดบั ท.่ี ...........” กรอกเลขลําดบั 1,2,3...........จากน้อยไปมาก ของผู้จบหลักสูตรเรียงลําดับจาก

คนแรกถงึ คนสุดท้ายของการอนมุ ตั กิ ารจบหลกั สูตรแต่ละคร้งั

7. “เลขประจําตัวนักเรียน” เรียงลําดับเลขท่ี จากน้อยไปหามาก ตามเลขท่ีในทะเบียนนักเรียนเลข

ประจาํ ตัวประชาชนใหล้ งตามทะเบียนบ้าน (ทร.14) ดังนี้ 3 6305 000252 25 5 ไมต่ อ้ งขดี –

8. “ชุดที่ ปพ.1............เลขท่ี ปพ.1...........” นําเลข” ชุดที่...........เลขท่ี.........จากปพ.1ของผู้ท่ีสําเร็จ

การศึกษาแต่ละคนมากรอกลงใน ปพ.3 ให้ถูกต้องตรงกันทุกราย โดยชุดที่ต้องเป็นเลข 5 หลัก เช่น ชุดที่

00007 เลขที่ ปพ.1 ต้องเปน็ เลข 6 หลกั เชน่ 056231

9.”เลขท่ี ปพ.2:บ” ใน ปพ.3 ระดับ ม.3 และม.6 กรอกเลขที่ตามลําดับ 1,2,3........โดยเริ่มจากคน

แรกเป็นเลขที่ 1 จนถึงคนสุดท้ายของการอนุมัติการจบหลักสูตรในแต่ละครั้งหรือแต่ละรุ่น การอนุมัติแต่ละ

ครัง้ ให้ขึ้นเลขที่ 1 ใหมท่ ุกครั้ง และเลขท่ีประกาศนียบตั ร จะมจี าํ นวนเทา่ กับจํานวนผู้จบการศึกษาไม่ต้องมีเลข

0 นาํ หนา้ และไมม่ /ี พ.ศ.ตามหลัง

10.”ชื่อ ช่ือสกุล” ของนักเรียนและบิดาต้องกรอกให้ถูกต้องชัดเจน คํานําหน้านาม ฐานันดรศักด์ิ

ราชทนิ นาม ยศ ให้ใชค้ ําเตม็ เชน่ เด็กชาย เด็กหญิง นาย นางสาว หม่อมหลวง รอ้ ยตํารวจโท เป็นต้น

คมู่ ือการจัดทําจดั เกบ็ รักษาแบบรายงานผสู้ ําเรจ็ การศึกษา (ปพ.3)

 

 

 

-9-

11. นักเรียนที่มีอายุครบ 15 ปีบริบูรณ์ (โดยนับจากวัน เดือน ปีเกิด ถึงวันอนุมัติการจบหลักสูตร)
จะต้องเปล่ียนคํานําหน้านามจากเด็กชาย......เด็กหญิง เป็น นาย......นางสาว การพิมพ์คํานําหน้าให้พิมพ์ตัว
เต็มและติดกันไม่เวน้ วรรค เชน่ เด็กชายวสุ ใจภูผา

12. “วนั เดือน ปเี กิด” จะตอ้ งพิมพ์หรือเขียนเตม็ เช่น “20 เมษายน 2545”
13. หากนักเรียนที่ไม่มีหลักฐานทางทะเบียนราษฎรหรือมีแต่ไม่ครบถ้วนทําให้การกรอกข้อมูลไม่
สมบูรณ์ ให้ขีดเคร่ืองหมาย – ห้ามกรอกชื่อบิดาบุญธรรมหรือมารดาบุญธรรม หรือผู้ที่มิใช่บิดา มารดา ผู้ให้
กําหนดผู้เรียน และต้องมีหัวหน้าสถานศึกษาบันทึก ด้วยหมึกสีแดงและลงลายมือช่ือรับรอง ข้อความในช่อง
หมายเหตุว่า “ไมม่ หี ลกั ฐานตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการทะเบยี นราษฎร”
14. ช่อง “สรุปผลการเรียน.............” ประกอบด้วย “หน่วยการเรียนท่ีเรียน” และ “หน่วยการเรียน
ท่ีได้” ต้องกรอกแต่ละช่องให้ชัดเจนและถูกต้องตรงตาม ปพ.1 และเป็นไปตามเกณฑ์การจบหลักสูตร (ไม่ตํ่า
กว่าเกณฑ์การจบหลักสูตรที่โรงเรียนกําหนด) กรณีการโอนผลการเรียนมาจากที่อ่ืน ต้องนํามารวมในช่อง
สรุปผลการเรยี นดว้ ย
15. “ช่องหมายเหตุ” มีไว้สําหรับบันทึกรายละเอียดการแก้ไขเปล่ียนแปลง รายการใน ปพ.3 เช่น
กรณกี ารเปลยี่ นช่ือ ช่ือสกลุ ระหว่างเรียน ตอ้ งระบชุ ือ่ ช่ือสกลุ เดิมไวด้ ้วย
16. “จํานวนนักเรียนท่ีจบตามหลักสูตร” โรงเรียนจะต้องกรอกยอดรวมของจํานวนนักเรียนท่ีจบ
หลักสูตรทั้งหมดของการอนุมัติการจบหลักสูตรแต่ละคร้ัง/แต่ละรุ่น ในช่องที่ระบุ ชาย หญิง และรวมในทุก
แผน่ และจะเป็นตัวเลขตรงกันทุกแผน่
17. “ผู้เขียน/ผู้พิมพ์ ผู้ทาน ผู้ตรวจ นายทะเบียน” ต้องลงลายมือช่ือ (ลายเซ็น) ให้ครบทุกแผ่นด้วย
ปากกาหมกึ สดี าํ หรือน้าํ เงิน ไมใ่ ช้ปากกาลกู ลน่ื สดี ํา ผู้เขียนและผ้ทู าน ผู้ตรวจควรเป็นคนละคนกัน
18. “วันอนุมัตกิ ารจบหลักสูตร” สาํ หรบั วัน...........เดือน............พ.ศ........ให้กรอก วนั ท่ี เดือน และปี
พ.ศ.ที่อนุมัติการจบหลักสูตรให้เต็ม เช่น วันที่ 30 มีนาคม 2560 ในช่องนี้ และให้ดูวันด้วยว่าไม่ตรงกันกับ
วันหยุดราชการห้ามกรอกวันเดือนปี อื่น ๆ ลงไป หากจัดทํา ปพ.3 เสร็จส้ินภายหลังให้กรอก วันเดือนปี
ยอ้ นกลบั ไปซ่งึ เป็นวันเดือนปีที่อนุมัติการจบหลกั สตู รเทา่ น้นั
.......................................บรรทัดให้ลงลายมือช่ือของผูอ้ นมุ ตั ิการจบหลกั สูตร
(.....................................) ให้กรอกชื่อและช่ือสกลุ เต็มของผู้อนมุ ัตกิ ารจบหลักสูตรและระบุตําแหน่งของผู้อนุมัติ
การจบหลกั สตู ร
19. “วันที่...........เดือน..............พ.ศ.............อนุมัติการจบหลักสูตร” จะต้องกรอกให้ถูกต้องตาม
ความเป็นจริง สถานศึกษาจะต้องอนุมัติการจบทันทีหลังจากที่ได้ประเมินผลการเรียนจนนักเรียนมีคุณสมบัติ
ครบถว้ นตามเกณฑ์การจบหลักสูตรแล้ว หากโรงเรียนกรอกวันอนุมัติไม่ถูกต้อง อนุมัติล่าช้า หรือวันอนุมัติการ
จบหลักสูตรซํา้ ซอ้ นกันหลายฉบับ ต้องสง่ ไปใหแ้ กไ้ ขใหถ้ ูกตอ้ ง
20. การแก้ไขข้อผิดพลาดใน ปพ.3 ผู้อนุมัติการจบหลักสูตรจะต้องขีดฆ่าด้วยหมึกแดงและเขียนใหม่
ด้วยหมึกแดงเท่าน้ัน แลว้ ลงลายมอื ช่ือรบั รองทุกแห่งด้วยหมึกสดี าํ
21. ข้อมูลท่ีมีข้อความซา้ํ กนั ให้กรอกทุกบรรทัดไมใ่ ช้บพุ สญั ญา (“)
22. เมือ่ กรอกข้อมลู ใน ปพ.3 ครบถว้ นตามจาํ นวนของนกั เรยี นทจี่ บหลักสูตรแล้ว โรงเรียนจะต้องขีด
เส้นแดงใต้ช่ือนักเรียนคนสุดท้ายกลางช่องไฟใต้ชื่อนักเรียนคนสุดท้ายโดยไม่เว้นบรรทัด เพื่อมิให้มีการเติม
ข้อมลู ทไี่ ม่ถูกตอ้ งเพิ่มเข้าไป แลว้ ใหผ้ ูอ้ นุมตั ิลงลายมอื ช่อื กํากับใต้เสน้ แดงด้วยหมกึ ซมึ สีดาํ อกี ครั้งหน่ึง

ค่มู ือการจดั ทําจดั เกบ็ รกั ษาแบบรายงานผ้สู ําเรจ็ การศกึ ษา (ปพ.3)

 

 
 

-10-
หมายเหตุ

1. กรณีที่โรงเรียนจัดทําแบบรายงานผู้สําเร็จการศึกษา (ปพ.3) สําหรับผู้เรียนจบไม่พร้อมรุ่น ไม่ว่า
กรณีใดก็ตามระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนต้องจัดทําแบบรายงานเป็น
3 ชุด เก็บรักษาไว้ที่โรงเรียน 1 ชุด ส่งเก็บที่สํานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาต้นสังกัด 1 ชุด และส่งเก็บรักษาท่ี
สาํ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ 1 ชุด (จดั ทาํ ตวั จรงิ ทกุ ฉบบั )

2. กรณีข้อมูลในแบบรายงานผู้สําเร็จการศึกษา (ปพ.3) ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและระดับ
มัธยมศึกษาตอนปลาย ที่เก็บรักษาไว้ท่ีหน่วยงานต่าง ๆ มีข้อมูลไม่ตรงกันให้ยึดข้อมูลในเอกสารหลักฐานฉบับ
ท่ีเก็บรกั ษาไว้ทสี่ าํ นกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร เป็นขอ้ มลู ท่ถี ูกต้อง

3. การขอแก้ไข เปลี่ยนแปลงหรือเพ่ิมเติมแบบรายงานผู้สําเร็จการศึกษา (ปพ.3) ท่ีได้ส่งไปยัง
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐานแล้ว ให้สถานศึกษาดําเนินการตามคําส่ังกระทรวงศึกษาธิการ
ที่ สพฐ.243/2546 สั่ง ณ วันที่ 25 กันยายน 2546 เร่ือง การจัดทํา จัดส่งและจัดเก็บแบบรายงานผู้สําเร็จ
การศึกษาตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน (ปพ.3)

ขอ้ เสนอแนะในการจดั ทํา ปพ.3 ใหถ้ กู ตอ้ งและรวดเรว็ ทนั ตามกาํ หนดเวลา ควรปฏบิ ัติดงั น้ี
1. จัดตั้งแฟ้มคาดว่าจะจบการศกึ ษา โดยนาํ เอกสารของนกั เรียนท่ีคาดว่าจะจบ เรียงตามเลขทะเบียน

นกั เรยี น
2. กรอก ปพ.3 เป็นฉบับร่าง ด้วยดินสอเรียงลําดับเลขประจําตัวนักเรียนตามทะเบียนนักเรียนไว้

ล่วงหน้าต้งั แต่ปกี ารศกึ ษา และกรอกรายละเอียดในฉบับร่าง ยกเว้นช่องเลขท่ีประกาศนียบัตร ช่องสรุปผลการ
ประเมิน ชอ่ งจํานวนผูส้ ําเร็จการศกึ ษาและช่องผู้อนมุ ตั กิ ารจบการศกึ ษา

3. เมื่อทราบจํานวนผู้สําเร็จการศึกษาแต่ละภาคเรียนแล้ว ให้นําผลการเรียนใน ปพ.1 มากรอกลงใน
ชอ่ งสรุปผลการเรียนใน ปพ.3

4. ขดี ฆา่ รายชื่อนักเรยี นทีย่ งั ไม่จบหลักสตู รในฉบับร่าง ปพ.3
5. ให้กรอกเลขลําดับท่ีใหม่และกรอกเลขทปี่ ระกาศนยี บตั ร
6. นับจํานวนนักเรียนชายและหญิงที่สําเร็จการศึกษา กรอกลงในช่องจํานวนนักเรียนที่จบตาม
หลักสตู รโดยแยกชาย หญงิ และรวม
7. ส่ง ปพ.3 ฉบบั รา่ ง ให้เจ้าหน้าท่นี ําไปจดั ทํา ปพ.3 ฉบับจริง
8. นายทะเบียนเป็นผู้ดูแลการจัดทํา ปพ.3 ให้ตรวจทานความถูกต้องเรียบร้อยและเจ้าหน้าที่ท่ี
เกี่ยวข้องที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะผู้จัดทําลงลายมือชื่อ แล้วนําเสนอหัวหน้าสถานศึกษาเพื่ออนุมัติการจบ
การศกึ ษา

คู่มอื การจัดทาํ จัดเก็บรักษาแบบรายงานผสู้ ําเรจ็ การศึกษา (ปพ.3)

 

 
 

-11-

บทท่ี 3
การจดั เกบ็ รกั ษาแบบรายงานผูส้ ําเรจ็ การศกึ ษา (ปพ.3)

ความสาํ คัญ
หลักฐานแสดงผลการจบการศึกษา เป็นเอกสารท่ีสถานศึกษาจัดทําข้ึนเพื่อบันทึกข้อมูลผลสําเร็จ

การศึกษาของผู้เรียน โดยผู้บริหารโรงเรียนใช้สําหรับตัดสินและอนุมัติการจบการศึกษาสถานศึกษาจะต้องจัด
ทําขน้ึ ให้ถกู ต้องตามระเบียบ คาํ สงั่ หรือแนวปฏิบัติกําหนดไว้ หลักฐานการจบการศึกษาเป็นเอกสารเบื้องต้นท่ี
จะนําไปสู่การจัดทําเอกสารสําคัญทางการศึกษาอ่ืน ๆ รูปแบบของหลักฐานแสดงผลการจบการศึกษามีหลาย
รูปแบบแตกต่าง จึงเป็นเอกสารท่ีจะจัดเก็บไว้ไปตราบเท่าท่ีมีความจําเป็นต้องใช้ข้อมูลเหล่าน้ัน การจัดเก็บ
เอกสารไว้เป็นระยะเวลาหลายสบิ ปีอาจทําใหห้ ลกั ฐานการจบการศึกษาเกิดการเส่ือมสภาพ แม้ว่าจะจัดทําด้วย
กระดาษท่ีมีคุณภาพดีเพียงใด จึงมีความจําเป็นต้องใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยจัดเก็บ บันทึกข้อมูลด้วย
ระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งอาจมีหลายทางเลือกเช่น บันทึกด้วยไมโครฟิล์ม หรือจัดทําฐานข้อมูลบันทึกจัดเก็บใน
แผ่นซีดีรอม เป็นต้น ซ่ึงมีความจําเป็นต้องทําไว้ 3 ชุด โดยจัดเก็บไว้ที่สถานศึกษา 1 ชุด สํานักงานเขตพื้นที่
การศึกษา 1 ชุด และส่งจัดเก็บหน่วยงานกลาง สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน 1 ชุด แนบ
หลักฐานการจบการศกึ ษาชุดใดชดุ หนง่ึ ท่จี ัดเก็บไว้ทส่ี ถานศกึ ษาหรือหน่วยงานชํารุด สูญหาย หรือเสียหายจาก
ไฟไหม้ ปลวกข้ึน หรือเกิดจากภัยธรรมชาติก็สามารถท่ีจะคัดลอกโดยอาศัยหลักฐานชุดท่ีจัดเก็บไว้ที่สํานักงาน
คณะกรรมการการศึกษาขนั้ พื้นฐาน ท้ังนี้การดําเนินงานคัดลอกจะอยู่ภายใต้การควบคุม ดูแล ดําเนินการของ
คณะกรรมการการเฉพาะกิจ ซ่ึงได้รับแต่งตั้งจากหัวหน้าองค์กรที่ควบคุม ดูแล รับผิดชอบการจัดเก็บหลักฐาน
การจบการศกึ ษา

การส่ง ปพ.3 ใหส้ าํ นักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐานและสํานกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษา เกบ็ รักษา
ตอ้ งสง่ ด้วยตน้ ฉบบั

สถานศึกษาจัดทํา 3 ชุด ดงั นี้
1. โดยจดั เก็บท่สี ถานศึกษา 1 ชดุ
2. ส่งสาํ นกั งานเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษา 1 ชุด และ
3. ส่งสาํ นกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน 1 ชดุ
ควรนําส่งด้วยตนเองหรือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนและต้องมีหนังสือนําส่งทุกครั้งเพ่ือเป็นหลักฐาน
และไมส่ ญู หาย เขยี นหนา้ ซองเอกสาร ดังน้ี

เรยี น
เลขาธกิ ารคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน
สาํ นักวชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา (ส่งแบบ ปพ.3)
สาํ นักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน (อาคาร สพฐ.4)
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
ถนนราชดาํ เนนิ นอก เขตดุสติ
กรุงเทพฯ 10300

คู่มือการจัดทําจัดเกบ็ รักษาแบบรายงานผสู้ ําเร็จการศกึ ษา (ปพ.3)

 

 
 

-12-

การส่ง ปพ.3 เพ่ิมเตมิ หรือไม่พรอ้ มรุ่น ให้สถานศึกษาจดั ทาํ ปพ.3 แยกต่างหาก เป็น 2 กรณคี อื
1) ส่งเพ่ิมเติมเนื่องจากนักเรียนติด “ร” หรือ “มส” ที่ได้รับการแก้ไขจนมีคุณสมบัติครบถ้วนตาม

เกณฑ์การจบหลักสูตร กรณีนี้ให้นําส่งสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐานและสํานักงานเขตพ้ืนที่
การศึกษา ได้โดยตรง

2) ส่งเพิ่มเติมเน่ืองจากกรอกรายช่ือตกหล่นจากการจัดทํา ปพ.3 ที่ได้ส่งไปยังสํานักงาน
คณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน สํานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาแล้ว กรณีน้ีต้องให้เลขท่ี
ประกาศนียบัตรต่อท้ายจากรุ่นเดียวกันท่ีได้จัดส่งมาให้แล้ว และนายทะเบียนและหัวหน้าสถานศึกษาต้องเป็น
บคุ คลเดยี วกัน

3) การแก้ไข วัน เดือน ปีเกิด ของนักเรียนให้ดําเนินการตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการ
แก้ไขวนั เดือน ปเี กิด ของนักเรยี นและนักศึกษา พ.ศ.2547

4) การขอแก้ไข เปล่ียนแปลง หรือเพ่ิมเติมแบบรายงานผลการเรียนของผู้ท่ีจบหลักสูตร (ปพ.3) ที่ได้
ส่งไปสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน สํานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาแล้ว ให้สถานศึกษา
ดําเนินการตามคําส่งั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ท่ี สพฐ.618/2552 เรื่อง การจัดทาํ แบบรายงานผ้สู าํ เร็จการศึกษา
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พ.ศ.2551

เวบ็ ไซต์ สพฐ.ทเี่ กยี่ วข้องกบั เอกสารทางการศกึ ษา
http://www.obec.go.th

สาํ นกั วชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา สพฐ. โทร 02 288 5767 – 68 โทรสาร 02 288 5745
...........................

ชอ่ งทางการสง่ั ซอ้ื และจดั ทําแบบ ปพ.
สพป.สงขลา เขต 2 แบง่ การบริหารจัดการเอกสารทางการศึกษาทเ่ี กยี่ วขอ้ งดังน้ี

1. จัดทําหนังสือขอซื้อแบบพิมพ์ตามระเบียบมายังสพป. ระหว่างเดือนกันยายน – พฤศจิกายน ของ
ทกุ ปี (รายละเอยี ดการจดั ซือ้ สามารถศกึ ษาจากค่มู อื ปฏบิ ัตงิ าน การสงั่ ซือ้ แบบพมิ พฯ์ (ปพ.) ปรับปรุงครัง้ ท่ี 1

2. เจา้ หนา้ ที่ประสานงานการจดั ซื้อแบบพมิ พ์ได้ ณ กล่มุ ส่งเสรมิ การจัดการศกึ ษา
3. เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบประสานจัดทํา จัดเก็บ แบบรายงาน ปพ.2 และ ปพ.3 ณ กลุ่มส่งเสริมการ
จัดการศึกษา

3.1 จัดทําแบบรายงานออกประกาศนียบัตร (ปพ.2) ช้ันม.3 เก็บที่โรงเรียน 1 ชุด ส่ง
สาํ นกั งานเขตพื้นทีก่ ารศึกษา จํานวน 1 ชุด และสํานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน จาํ นวน 1 ชุด

3.2 จัดทํา ปพ.3 ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3 ฉบับจริงท่ีใช้กระดาษจาก
องคก์ ารค้า สกสค. ทุกชดุ

3.3 ปพ.3 :ป ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จัดทําจํานวน 2 ชุด เก็บรักษาที่โรงเรียน 1 ชุดส่งไป
ยังไปเก็บไว้ที่สํานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา จํานวน 1 ชุด (ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ไม่ต้องส่งสํานักงาน
คณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน)

3.4 ปพ.3 : บ ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 (โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา) จัดทํา 3 ชุดเก็บ
รกั ษาทีโ่ รงเรยี นจาํ นวน 1 ชดุ ส่งเกบ็ ทีส่ าํ นกั งานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาสงขลา เขต 2 จํานวน 1 ชุด

คมู่ ือการจดั ทําจดั เก็บรกั ษาแบบรายงานผสู้ ําเร็จการศกึ ษา (ปพ.3)

 

 
 

-13-
และสง่ เกบ็ ท่ีสาํ นักงานคณะกรรมการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน จํานวน 1 ชุด ทําหนังสือนําส่งสํานักงานคณะกรรมการ
ศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน โดยตรง (ลงทะเบียน)
หมายเหตุ กรณเี อกสาร ปพ.3 ของปกี อ่ นทไี่ ด้รับคืนจากสพฐ. ของโรงเรียนที่ผดิ และไมส่ ามารถแกไ้ ขได้ เชน่

- เขียนด้วยปากกาลูกล่ืน ใช้หมึกขาวลบข้อมูล ลงภาคเรียนการศึกษาผิด ลงเดือนจบ
หลักสูตรผิด ไม่ขีดเส้นแดงยาวตลอดแนวนอนกลางช่องบรรทัดต่อจากผู้จบคนสุดท้ายลงมา และผู้บริหารฯไม่
ลงลายมอื ชอ่ื รับรองกํากับไว้ใตเ้ สน้ ใชป้ ากกาหลายดา้ มในชดุ เดยี วกัน สหี มกึ ไม่สม่ําเสมอ เขียนวัน เดือน ปีเกิด
แบบย่อ (ผิด) ข้อมูลท่ีต้องบันทึกไม่ครบถ้วน จัดทําแบบพิมพ์ผิดแบบ ฯลฯ ควรจัดทําขึ้นใหม่ให้ถูกต้องและ
บนั ทึกเหตกุ ารณล์ งในสมดุ จดหมายเหตรุ ายวันของโรงเรียนทุกครั้งท่ีมีการออกเอกสารใหม่ และนําส่งพร้อมกับ
ปพ.3 ของปกี ารศกึ ษาน้นั ๆ โดยแยกหนงั สือนําสง่ โดยเรว็

คู่มือการจดั ทําจดั เกบ็ รักษาแบบรายงานผู้สําเร็จการศกึ ษา (ปพ.3)

 

 
 

-14-

บทท่ี 4
การบริการจดั เก็บหลกั ฐานสําคญั ทางการศึกษา
การตรวจสอบวฒุ ิ และการออกเอกสารสําคญั ทางการศึกษา

การจัดการกับหลักฐาน เอกสารสําคัญทางการศึกษาท่ีเป็นหลักฐานแสดงการจบการศึกษาของผู้เรียน
จะต้องดําเนินการอย่างเป็นระบบและเป็นระเบียบ หลักฐานเหล่านี้จะสะท้อนถึงระบบการวัดและประเมินผล
การจัดการศึกษาของหลักสูตรในแต่ละยุคสมัยได้อย่างดี วิธีการจัดเก็บหลักฐานแสดงผลการจบการศึกษา
สามารถทําไดห้ ลายวิธี เพียงแตว่ ิธีใดจึงจะเหมาะสมกับขอ้ มลู ท่จี ะจัดเก็บ ซึ่งจะต้องคํานึงถึงความปลอดภัยของ
ข้อมูลเป็นสําคัญและจะต้องพัฒนาระบบการจัดเก็บให้ทันสมัย ข้อมูลเป็นปัจจุบัน และเป็นศูนย์กลางของ
ข้อมูลอันเปน็ ประโยชน์สงู สดุ แก่ผู้นําไปใช้และเป็นศูนย์กลางของข้อมูลอันเป็นประโยชน์สูงสุดแก่ผู้นําไปใช้และ
ผูใ้ หบ้ รกิ าร หากระบบการจดั เกบ็ ไดร้ ับการพัฒนาให้ดยี งิ่ ข้นึ การตรวจคน้ ข้อมูลเพอ่ื ตรวจสอบการจบการศึกษา
ของผเู้ รยี นซ่ึงนบั วนั จะมีปริมาณเพ่มิ มากขึน้ ก็จะสามารถดาํ เนินการได้อย่างด้วยความถูกตอ้ ง รวดเร็วเที่ยงตรง
ด้วยเชน่ กนั ซึง่ เป็นผลใหก้ ารปลอมแปลงเอกสารทางการศกึ ษาลดลงดว้ ยในระดับหนึง่

สํานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาและสถานศึกษา มีภาระหน้าที่ในการจัดเก็บหลักฐานสําคัญทาง
การศึกษา ตรวจสอบวฒุ ิ ผจู้ บการศึกษาและการออกเอกสารสําคญั ทางการศึกษา ดังนี้

1. สํานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา แต่งต้ัง นายทะเบียน เพื่อรับผิดชอบการดําเนินงานท่ีเก่ียวข้องกับ
ระบบทะเบียนข้อมูล การกําหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของบุคคลอย่างชัดเจน จะช่วยให้ดําเนินงานมีความ
คล่องตัว สามารถดําเนินการด้วยความรวดเร็ว และเพ่ือการดูแลรักษาความปลอดภัยของหลักฐานท่ีเก่ียวข้อง
การจัดเก็บหลักฐานและเอกสารต้องไม่ปะปนกันและผู้มีหน้าท่ีในการปฏิบัติงานเฉพาะด้านตามท่ีได้รับ
มอบหมายเท่าน้ัน จงึ จะปฏิบัตงิ านในดา้ นนัน้ ได้ ซงึ่ ได้แก่

1.1 งานตรวจสอบวุฒิ
1.2 งานจดั ระบบเอกสาร
1.3 และงานออกเอกสารสําคัญทางการศึกษา ข้อมูลทางการศึกษาของบุคคลรวมทั้ง
หลกั ฐาน เอกสารตา่ ง ๆ ถือเป็นขอ้ มลู ท่จี ะตอ้ งควบคมุ ดแู ล ให้มคี วามปลอดภัย
1.4 การแก้ไขข้อมูลต้องดําเนินการโดยถูกต้องตามระเบียบ คําส่ังและแนวปฏิบัติของ
กระทรวงศึกษาธกิ าร
1.5 การเปิดเผยข้อมูลทางการศึกษาของบุคคลจะต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล
โดยอาํ นาจศาล หรือโดยอํานาจหน้าที่ท่ีได้รบั มอบหมาย
ดังน้ัน สถานศึกษาท่ีจัดเก็บหลักฐานและเอกสาร จะต้องเป็นสัดส่วนและมิดชิดต่อสายตา
บุคคลภายนอก จึงต้องกําหนดระบบงานให้ครอบคลุมภารกิจทั้งหมด ซึ่งลักษณะของการดําเนินงานส่วนใหญ่
จะเป็นการปฏิบัติงานต่อเน่ืองกันตลอดปี ดังนั้นเพื่อให้การดําเนินงานสําเร็จตามเป้าหมายท่ีกําหนดอย่างมี
ประสิทธิภาพจําเป็นต้องได้รับความร่วมมือประสานงานกันระหว่างผู้เกี่ยวข้อง ทั้งภายในหน่วยงานและ
ภายนอกหน่วยงาน เช่น สถานศึกษา สํานักงานทดสอบทางการศึกษา สํานักงานคณะกรรมการการศึกษา
ขั้นพ้นื ฐาน เปน็ ต้น

คูม่ ือการจดั ทาํ จดั เกบ็ รกั ษาแบบรายงานผูส้ ําเรจ็ การศึกษา (ปพ.3)

 

 
 

-15-
การจดั ระบบการบริหารจดั การ

เพอ่ื ให้การจดั ระบบการบรหิ ารจัดการงานจัดเก็บหลักฐานสําคัญทางการศึกษา งานตรวจสอบวุฒิและ
งานออกเอกสารสําคัญทางการศึกษา มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล จะต้องเตรียมการดําเนินงานให้เป็นไป
อย่างมีระบบ เนอ่ื งจากการปฏบิ ตั ิงานแต่ละงานจําเปน็ ต้องเก่ียวของและสอดคล้อง มแี นวทางดงั น้ี

1. การเตรียมการดาํ เนินงาน
1.1 ศึกษาระเบียบ คาํ ส่งั แนวปฏิบตั ิตา่ ง ๆ ทเ่ี ก่ียวข้องของกระทรวงศึกษาธิการ รวมทั้งของ

ส่วนราชการซงึ่ เป็นองคก์ รหลกั ท่ีอาจกาํ หนดรายละเอยี ดเสริมทีส่ อดรับกบั แนวทางของกระทรวงศกึ ษาธิการ
1.2 การกําหนดวิธีการดําเนินงาน การจัดทําเกณฑ์การปฏิบัติงาน การจัดทําคู่มือการ

ปฏิบัติงานของแตล่ ะงานและการจัดทําคู่มือการให้การบริการแก่หน่วยงาน สถานศึกษา สถาบันการศึกษาและ
ประชาชนทวั่ ไป

1.3 การกําหนดรูปแบบของเอกสารที่ใช้ในการปฏิบัติงาน รูปแบบคําร้อง จัดเตรียมแบบ
พิมพเ์ อกสารสาํ คัญทางการศึกษา กําหนดจํานวนเอกสาร แบบพมิ พ์ที่จะต้องใชใ้ นแต่ละปี

1.4 การกําหนดผงั การจัดสถานทีเ่ พ่ือการปฏิบัตงิ านให้เปน็ สัดส่วน แยกจากสว่ นทใ่ี หบ้ รกิ าร
1.5 กําหนดงบประมาณที่จะใช้ในการดําเนินงานและเตรียมการจัดบุคลากรให้เหมาะสมกับ
งาน
1.6 เตรยี มเทคโนโลยที จ่ี ะใชใ้ นการปฏิบัตงิ าน
2. การดําเนินงาน
1. จดั หาอปุ กรณ์ เคร่ืองมอื เทคโนโลยีทท่ี นั สมยั ให้เพยี งพอ
2. แต่งต้งั บุคลากรรับผิดชอบการปฏบิ ัติงานตามภารกิจทก่ี ําหนด
3. จัดพมิ พ์เอกสาร คํารอ้ ง แบบพมิ พ์ตามจํานวนทก่ี ําหนด
4. กําหนดข้ันตอนและวิธีปฏิบัติราชการเพื่อประชาชนและปิดประกาศเผยแพร่ให้ทราบท่ัว
กัน
5. ใหบ้ ริหารขอ้ มูลขา่ วสารตา่ ง ๆ ด้วยเทคโนโลยสี ารสนเทศ

คมู่ ือการจดั ทําจดั เก็บรักษาแบบรายงานผสู้ ําเร็จการศึกษา (ปพ.3)

 

 
 

ภาคผนวก

คู่มอื การจดั ทาํ จัดเกบ็ รกั ษาแบบรายงานผู้สําเรจ็ การศกึ ษา (ปพ.3)

 

-19-

-20-

-21-

-22-

-23-

-24-

-25-

-26-

-27-

-28-

-29-

-30-

-31-

-32-

แนวทางการจัดทาแบบรายงานผู้สาเร็จการศกึ ษา ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน (ปพ.๓)

การจดั ทา ปพ.3
1. พมิ พ์หรือเขียนด้วยหมกึ สีดา ตวั หนงั สือคมชดั เปน็ ระเบยี บ อา่ นง่าย และตรงบรรทัด
2. กรอก ปพ.3 โดยใชแ้ ผน่ ปพ.3 ดา้ นหนา้ 10 คน ซงึ่ มีตราครฑุ สดี าเปน็ ที่สังเกต และดา้ นหลงั 14

คนแลว้ จงึ เรมิ่ แผ่นต่อไปในลักษณะเดยี วกัน
3. ”หน้า” กรอกเลขลาดบั จากหนา้ แรกจนถึงหน้าสุดท้ายของจานวนหน้า ปพ.3 ทกี่ รอกข้อมลู ผู้ท่ี

สาเร็จการศึกษาในแต่ละครัง้ หรอื แตล่ ะรนุ่ ท่ีอนุมัติการจบการศกึ ษา
4. “สาเรจ็ การศกึ ษาภาคเรียนที่............ปกี ารศกึ ษา...............” กรอกภาคเรยี นโดยระบุวา่ เปน็ ภาคเรยี น

ท่ี 1 หรือ 2 (รวมภาคฤดูรอ้ น) ปีการศกึ ษาใหเ้ ขยี นตามระเบยี บกระทรวงศกึ ษาธิการว่าด้วย ปีการศกึ ษา การ
เปิดและปดิ สถานศกึ ษา พ.ศ. 2549 ซ่งึ มสี าระสาคญั เกี่ยวขอ้ งกบั การกรอก ปพ.3 ซง่ึ สรุปวา่ ในรอบปกี ารศกึ ษา
หน่งึ วนั เรมิ่ ต้นปีการศึกษา คือวันท่ี 16 พฤษภาคม ของ พ.ศ.หน่ึง จนถงึ วันท่ี 15 พฤษภาคม ของ พ.ศ.
ถดั ไป สถานศึกษา สามารถอนมุ ัตกิ ารจบการศึกษาได้ตลอดปที ม่ี ีผูจ้ บการศึกษา จงึ มที ั้งผู้จบการศึกษาในรนุ่ ปกติ
และไม่พร้อมรุ่น สามารถพจิ ารณาได้ดังน้ี

4.1 การอนมุ ัตกิ ารจบการศึกษาพร้อมรุน่
สถานศึกษาอนุมัติจบการศกึ ษารุ่นปกติในชว่ งเดอื นมนี าคมของทุกปี เป็นการจบการศกึ ษา

ในภาคเรียนท่ี 2 ของปกี ารศึกษา
4.2 การอนุมตั จิ บการศกึ ษาไม่พร้อมร่นุ
ผูเ้ รยี นท่ีมีคุณสมบตั ิยังไม่ครบตามเกณฑก์ ารจบการศึกษาในร่นุ ปกติ จาเป็นต้องเรยี นต่อเพื่อให้

จบหลักสูตรหรือต้องแกไ้ ขผลการเรยี นเน่ืองจากสอบไม่ผา่ นหรือด้วยเหตจุ าเปน็ บางประการ และเมื่อได้เปลยี่ นผล
การเรียนหรือเรียนซา้ ตามแต่กรณี และมีคุณสมบัติครบตามเกณฑ์การจบการศึกษาแลว้ สถานศกึ ษาสามารถ
อนมุ ตั ิจบการศึกษาให้ผู้เรียนได้ตลอดปีที่มผี จู้ บการศึกษาจริง โดยไมต่ อ้ งรอจนถงึ ปลายภาคหรือปลายปีการศึกษา
ตามช่วงเวลาของภาคเรยี นท่ี 1 และภาคเรยี นท่ี 2 ดังน้ี

1) ชว่ งเดอื นพฤศจิกายนถงึ เดือนมีนาคมของทุกปี (1 พฤศจิกายน – 31 มีนาคม) เปน็ การจบ
การศึกษาในภาคเรยี นท่ี 2

2) ชว่ งเดือนเมษายนของทกุ ปี (1 – 30 เมษายน) หรอื ภาคฤดูรอ้ น เปน็ การจบการศึกษา
ในภาคเรยี นที่ 2

3) ชว่ งเดอื นพฤษภาคมของทุกปี (1 – 15 พฤษภาคม) เป็นการจบการศกึ ษาในภาคเรียนท่ี 2
4) ช่วงเดอื นพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคมของทกุ ปี (16 พฤษภาคม – 30 ตลุ าคม) เป็นการจบ
การศึกษาในภาคเรียนที่ 1
5. “โรงเรียน.............ตาบล/แขวง..................อาเภอ/เขต............จังหวดั ..........” กรอกให้ถกู ต้องครบถว้ น
ชัดเจนตรงบรรทัด
6. “ลาดบั ที่.........” กรอกเลขลาดับ 1, 2, 3...........จากนอ้ ยไปมาก ของผูจ้ บหลกั สตู รโดยเรียงลาดับ
จากคนแรกถงึ คนสุดท้ายของการอนมุ ัตกิ ารจบหลักสตู รแต่ละครงั้
7. “เลขประจาตวั นกั เรียน” เรียงลาดับเลขท่ีจากน้อยไปมาก ตามเลขที่ในทะเบียนนักเรียน
8. “ชุดท่ี ปพ.1......เลขที่ ปพ.1...............” นาเลข “ชดุ ที่.........เลขท.ี่ .............”.จาก ปพ.1 ของผทู้ ส่ี าเรจ็
การศึกษาแตล่ ะคนมากรอกลงใน ปพ.3 ให้ถกู ต้องตรงกันทุกราย สถานศกึ ษาต้องใชแ้ บบพมิ พ์ขององค์การคา้
สกสค.

/9. “เลขท.่ี ..

-33-

2

9. “เลขท่ีประกาศนียบัตร.....” กรอกเลขทต่ี ามลาดับ 1, 2, 3............โดยเรม่ิ จากคนแรกเปน็ เลขท่ี 1
จนถึงคนสดุ ทา้ ยของการอนมุ ัติการจบหลกั สูตรในแตล่ ะครง้ั หรอื แตล่ ะรุ่น การอนุมัตแิ ต่ละครัง้ ให้ขน้ึ เลขที่ 1
ใหม่ทกุ คร้งั และเลขทป่ี ระกาศนยี บัตร จะมีจานวนเทา่ กับจานวนผ้จู บการศึกษา

10. “ชอื่ -ช่อื สกลุ ” ของนักเรียนและบดิ ามารดาต้องกรอกใหถ้ ูกต้องชดั เจน คานาหน้านาม ฐานนั ดร
ศกั ดร์ิ าชทินนาม ยศ ใหใ้ ช้คาเต็ม เช่น เด็กชาย เดก็ หญิง นาย นางสาว หมอ่ มหลวง รอ้ ยตารวจโท เป็นต้น

11. นักเรยี นทีม่ ีอายุครบ 15 ปบี รบิ ูรณ์ (โดยนบั จากวนั เดอื น ปเี กดิ ถึงวันอนมุ ัติการจบหลักสตู ร)
จะต้องเปล่ียนคานาหน้านามจากเดก็ ชาย เดก็ หญิง เป็น นาย นางสาว

12. “วนั เดอื น ปีเกิด” จะต้องพิมพ์หรือเขียนเต็ม เช่น 17 กมุ ภาพันธ์ 2543
13. หากนักเรยี นท่ไี ม่มีหลกั ฐานทางทะเบยี นราษฎรหรือมีแต่ไม่ครบถว้ นทาให้การกรอกข้อมูลไมส่ มบรู ณ์
ตอ้ งมหี ัวหน้าสถานศึกษาบันทึกดว้ ยหมึกสีแดงและลงลายมือชือ่ รบั รองข้อความว่า “ไม่มีหลกั ฐานตามกฎหมายวา่
ดว้ ยการทะเบยี นราษฎร”
14. ชอ่ ง “สรุปผลการเรียน..........” ประกอบด้วย “หนว่ ยการเรยี นทีเ่ รยี น” และ “หน่วยการเรยี นท่ี
ได”้ ต้องกรอกแต่ละชอ่ งชดั เจนและถูกตอ้ งตรงตาม ปพ.1 และเปน็ ไปตามเกณฑ์การจบหลกั สูตร (ไม่ต่ากว่า
เกณฑ์การจบหลักสูตรที่โรงเรียนกาหนด) กรณีการโอนผลการเรยี นมาจากที่อนื่ ต้องนามารวมในชอ่ งสรปุ ผลการ
เรียนดว้ ย
15. “ชอ่ งหมายเหตุ” มไี ว้สาหรบั บนั ทกึ รายละเอยี ดการแกไ้ ขเปล่ียนแปลง รายการใน ปพ.3 เช่น
กรณีการเปล่ียนช่ือ-ช่ือสกุลระหวา่ งเรยี น ตอ้ งระบชุ ่อื ชอ่ื สกุลเดิมไวด้ ว้ ย
16. “จานวนนักเรยี นท่ีจบตามหลกั สูตร” โรงเรียนจะตอ้ งกรอกยอดรวมของจานวนนักเรยี นที่จบ
หลกั สูตรทงั้ หมดของการอนุมัตกิ ารจบหลกั สูตรแตล่ ะครั้ง/แตล่ ะร่นุ ในช่องทร่ี ะบุ ชาย หญิง และรวม ในทุก
แผน่ และจะเปน็ ตัวเลขตรงกันทกุ แผ่น
17. “ผกู้ รอก ผ้ทู าน ผู้ตรวจ นายทะเบยี น” ต้องลงลายมือช่อื (ลายเซ็น) ใหค้ รบทุกแผ่น
18. “วนั อนุมตั กิ ารจบหลกั สูตร”

สาหรบั วนั .............เดือน..............พ.ศ............ใหก้ รอกวนั ท่ี เดือน และปี พ.ศ.ท่ีอนมุ ตั กิ ารจบ
หลกั สูตร ใหเ้ ตม็ เชน่ วนั ท่ี 30 มนี าคม 2556 ในช่องนี้ หา้ มกรอกวนั เดอื นปี อื่น ๆ ลงไป หากจัดทา ปพ.
3 เสร็จสิน้ ในภายหลัง ใหก้ รอก วันเดือนปี ยอ้ นกลบั ไป ซ่ึงเปน็ วันเดอื นปีท่อี นุมตั ิการจบหลกั สตู รเทา่ น้ัน

…………………………………….บรรทัดใหล้ งลายมือชอ่ื ของผอู้ นุมัติการจบหลักสตู ร
(...........................................) ใหก้ รอกชอื่ และช่อื สกุลเตม็ ของผอู้ นมุ ัติการจบหลักสูตร และระบุ
ตาแหน่งของผู้อนุมัตกิ ารจบหลกั สตู ร (ระบุคานาหน้านามด้วย)
19. “วันท่ี.........เดือน.............พ.ศ.............อนุมตั กิ ารจบหลกั สูตร” จะต้องกรอกใหถ้ กู ต้องตามความเปน็
จริง สถานศึกษาจะต้องอนมุ ัติการจบทันทหี ลงั จากที่ไดป้ ระเมินผลการเรียนจนนักเรยี นมีคุณสมบัติครบถ้วนตาม
เกณฑ์ การจบหลกั สตู รแลว้ หากโรงเรยี นกรอกวนั อนุมัติไมถ่ ูกต้อง อนุมัตลิ ่าช้า หรอื วันอนุมตั ิการจบหลกั สตู ร
ซา้ ซอ้ นกันหลายฉบับ ตอ้ งสง่ ไปใหแ้ ก้ไขใหถ้ ูกตอ้ ง
20. การแกไ้ ขข้อผิดพลาดใน ปพ.3 ผอู้ นมุ ตั ิการจบหลกั สูตรจะตอ้ งขดี ฆ่าดว้ ยหมึกแดงและเขยี นใหมด่ ว้ ย
หมกึ แดงเท่าน้นั แลว้ ลงลายมอื ชื่อรับรองทุกแห่งด้วยหมึกสีดาหรือนา้ เงนิ
21. ข้อมูลที่มขี ้อความซ้ากนั ให้กรอกทกุ บรรทัดไมใ่ ชบ้ ุพสัญญา (“)

/22. เมอื่ กรอก…

-34-

3

22. เมื่อกรอกข้อมลู ใน ปพ.3 ครบถ้วนตามจานวนของนักเรยี นทีจ่ บหลักสูตรแลว้ โรงเรยี นจะต้องขดี
เส้นแดงใต้ชือ่ นักเรียนคนสดุ ท้ายโดยไมเ่ ว้นบรรทดั เพ่ือมิให้มีการเติมขอ้ มลู ที่ไม่ถูกตอ้ งเพ่ิมเข้าไป แล้วใหผ้ ้อู นุมัติ
ลงลายมือชอื่ กากับอกี ครง้ั ด้วยหมึกสดี าหรือนา้ เงิน เชน่

กรณมี นี ักเรียน จานวนทั้งสิ้น 10 คน ให้ขีดเสน้ แดงใต้ลาดับท่ี 10 แลว้ เซ็นชอ่ื กากับ ดงั น้ี 10
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

กรณีมนี ักเรยี น จานวน 15 คน ให้ขดี เสน้ แดงตรงเส้นกลางของลาดบั ที่ 16 แลว้ เซ็นช่ือกากบั
ดงั น้ี 15
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

การสง่ ปพ.3
การส่ง ปพ.3 ใหส้ านกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน และสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา

ประถมศึกษาเก็บรักษา ตอ้ งสง่ ด้วยตน้ ฉบับเทา่ นน้ั
1. สถานศึกษาในระดับประถมศกึ ษาจะต้องจัดทา จานวน 2 ชดุ ส่งสานักงานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษา

ประถมศกึ ษา จานวน 1 ชุด และเก็บไว้ทีโ่ รงเรยี น จานวน 1 ชดุ
2. สถานศกึ ษาในระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย ต้องจัดทา จานวน 3 ชุด

ส่งสานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน จานวน 1 ชุด สง่ สานักงานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษา .
จานวน 1 ชดุ และเกบ็ ไวท้ ี่โรงเรียน จานวน 1 ชุด

3. การนาส่งควรนาสง่ ด้วยตนเองหรือทางไปรษณียล์ งทะเบียนและต้องมหี นงั สือนาส่งทกุ ครัง้ เพือ่ เป็น
หลกั ฐาน และไมส่ ูญหาย เขียนหนา้ ซองจดหมาย ดังนี้

เรียน เลขาธกิ ารคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน
สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน (อาคาร สพฐ.4)
กระทรวงศกึ ษาธิการ
ถนนราชดาเนนิ นอก เขตดุสิต
กรงุ เทพฯ 10300

4. การส่ง ปพ.3 เพิม่ เตมิ ให้สถานศึกษาจัดทา ปพ.3 แยกตา่ งหากเปน็ 2 กรณี คือ
4.1 ส่งเพิ่มเตมิ เน่ืองจากนักเรียนตดิ “ร” หรอื “มส” ที่ได้รับการแก้ไขจนมีคุณสมบัตคิ รบถว้ นตาม

เกณฑ์การจบหลกั สูตร กรณีน้ี ใหน้ าส่งสานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน และสานกั งานเขตพ้ืนที่
การศกึ ษาไดโ้ ดยตรง

4.2 ส่งเพ่ิมเตมิ เน่ืองจากกรอกรายช่ือตกหลน่ จากการจัดทา ปพ.3 ท่ีไดส้ ่งไปยังสานักงาน
คณะกรรมการการศึกษาขน้ั พื้นฐาน สานักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษาแลว้ กรณนี ้ีต้องใหเ้ ลขที่ประกาศนียบัตรตอ่ ทา้ ย
จากร่นุ เดียวกนั ท่ีได้จดั ส่งมาให้แลว้ นายทะเบยี นและหัวหนา้ สถานศกึ ษาต้องเปน็ บุคคลเดียวกนั

5. การแกไ้ ข วนั เดือน ปีเกดิ ของนักเรียนและนักศึกษาใหด้ าเนนิ การตามระเบยี บ
กระทรวงศกึ ษาธกิ ารว่าดว้ ยการแก้ไข วนั เดอื น ปเี กิด ของนกั เรียนและนักศึกษา พ.ศ. 2547

/6. การขอแก้ไข...

-35-

6. Öćø×ĂĒÖšĕ× đðúĊę÷îĒðúÜ ĀøČĂđóęĉöđêĉöĒïïøć÷ÜćîñúÖćøđøĊ÷î×ĂÜñĎšìĊęÝïĀúĆÖÿĎêø (ðó.3) ìęĊĕéš
ÿŠÜĕð÷ĆÜÿĞćîÖĆ ÜćîÙèąÖøøöÖćøÖćøýċÖþć×ĆĚîóĚîČ åćî ÿĞćîÖĆ Üćîđ×êóîĚČ ìęĊÖćøýċÖþćðøąëöýÖċ þćÿÜ×úć đ×ê 2 ĔĀš
ÿëćîýċÖþćéĞćđîĉîÖćøêćöÙĞćÿĆęÜÖøąìøüÜýċÖþćíĉÖćø ìęĊ ÿóå.618/2552 đøęČĂÜ ÖćøÝĆéìĞćĒïïøć÷ÜćîñšĎÿĞćđøĘÝ
ÖćøýċÖþćêćöĀúĆÖÿĎêøĒÖîÖúćÜÖćøýċÖþć×îĆĚ óîĚČ åćî óčìíýĆÖøćß 2551
ךĂđÿîĂĒîą

×Ăš đÿîĂĒîąĔîÖćøÝĆéìĞć ðó.3 ĔĀëš ĎÖêšĂÜĒúąøüéđøüĘ ìîĆ êćöÖćĞ ĀîéđüúćÙüøðäïĉ êĆ ĉéÜĆ îĊĚ
1. ÖøĂÖ ðó.3 đðŨîÞïĆïøŠćÜéšü÷éĉîÿĂđøĊ÷ÜúĞćéĆïđú×ðøąÝĞćêĆüîĆÖđøĊ÷îêćöìąđïĊ÷îîĆÖđøĊ÷îĕüšúŠüÜĀîšć
êĆÜĚ ĒêŠêîš ðÖŘ ćøýÖċ þć ĒúąÖøĂÖøć÷úąđĂ÷Ċ éĔîÞïïĆ øŠćÜ ÷Öđüšî ߊĂÜđú×ìðĊę øąÖćýîĊ÷ïêĆ ø ßĂŠ ÜÿøčðñúÖćøðøąđöĉî
ߊĂÜÝĞćîüîñšÿĎ ćĞ đøÝĘ ÖćøýċÖþćĒúąßĂŠ ÜñĂĎš îöč êĆ Öĉ ćøÝïÖćøýċÖþć
2. đöČęĂìøćïÝćĞ îüîñšÿĎ ĞćđøÝĘ ÖćøýċÖþćĒêŠúąõćÙđøĊ÷îĒúšü ĔĀšîĞćñúÖćøđøĊ÷îĔî ðó.1 öćÖøĂÖúÜĔîߊĂÜ
ÿøčðñúÖćøđø÷Ċ îĔî ðó.3
3. ×éĊ ÛćŠ øć÷ßĂęČ îĆÖđøĊ÷îì÷ęĊ ÜĆ ĕöÝŠ ïĀúĆÖÿêĎ øĔîÞïïĆ øćŠ Ü ðó.3
4. ĔĀÖš øĂÖđú×úćĞ éïĆ ìĔęĊ ĀöŠ ĒúąÖøĂÖđú×ìęðĊ øąÖćýîĊ÷ïêĆ ø
5. îĆïÝĞćîüîîĆÖđøĊ÷îßć÷ĒúąĀâĉÜìĊęÿĞćđøĘÝÖćøýċÖþć ÖøĂÖúÜĔîߊĂÜÝĞćîüîîĆÖđøĊ÷îìęĊÝïêćöĀúĆÖÿĎêø
ēé÷Ē÷Ößć÷ ĀâĉÜ Ēúąøüö
6. ÿŠÜ ðó.3 ÞïĆïøŠćÜ ĔĀšđÝšćĀîćš ìĊęîćĞ ĕðÝéĆ ìĞć ðó.3 ÞïïĆ ÝøĉÜ
7. îć÷ìąđïĊ÷îđðŨîñšĎéĎĒúÖćøÝĆéìĞć ðó.3 ĔĀšêøüÝìćîÙüćöëĎÖêšĂÜđøĊ÷ïøšĂ÷ ĒúąĔĀšđÝšćĀîšćìęĊìĊę
đÖĊę÷üךĂÜìęĊĕéšøĆïÖćøĒêŠÜêĚĆÜđðŨîÙèąñšĎÝĆéìĞć úÜúć÷öČĂßęČĂĒúšüîĞćđÿîĂĀĆüĀîšćÿëćîýċÖþćđóęČĂĂîčöĆêĉÖćøÝï
ÖćøýÖċ þć
ÝÜċ đøĊ÷îöćđóČęĂēðøéìøćïĒúąëĂČ ðäĉïêĆ ĉêĂŠ ĕð

ÖúöčŠ ÿÜŠ đÿøöĉ ÖćøÝéĆ ÖćøýÖċ þć
ÿĞćîĆÖÜćîđ×êóČîĚ ìĊÖę ćøýÖċ þćðøąëöýÖċ þćÿÜ×úć đ×ê 2

ÙöĎŠ ĂČ ÖćøÝĆéìćĞ ÝéĆ đÖĘïøĆÖþćĒïïøć÷ÜćîñÿšĎ ĞćđøÝĘ ÖćøýÖċ þć (ðó.3)

-36-

***ซักซ้อมความเข้าใจในการจดั ทา ปพ. 3***

การจัดทาแบบรายงานผูส้ าเร็จการศกึ ษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน (ปพ.๓) พบเหน็
สถานศกึ ษาหลายแห่งยังดาเนินการไม่ถกู ต้องตามคาสงั่ กระทรวงศกึ ษาธิการ ท่ี สพฐ. ๖๑๘/๒๕๕๒ เรอื่ ง การ
จัดทาแบบรายงานผสู้ าเร็จการศกึ ษา ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน (ปพ.๓) สัง่ ณ วันที่ ๓๐
กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๕๒ ที่ให้ใชต้ ั้งแตป่ กี ารศกึ ษา ๒๕๕๒ เป็นตน้ ไป น้ัน เว็บครไู ทยจึงนามาเสนอ ดงั น้ี

๑. แบบรายงานผู้สาเร็จการศกึ ษา (ปพ.๓) เป็นเอกสารสาหรับสถานศึกษาใช้ตดั สนิ และอนมุ ัติผลการเรยี น
ใหผ้ เู้ รยี นเปน็ ผู้สาเร็จการศกึ ษา ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ โดยบนั ทกึ ข้อมลู
ของผเู้ รยี นท่จี บการศึกษาในรุ่นเดียวกนั สถานศึกษาตอ้ งจัดทาแบบรายงานผู้สาเรจ็ การศึกษา (ปพ.๓) โดยใช้แบบ
พิมพเ์ อกสารท่ีกระทรวงศึกษาธิการกาหนดเท่านัน้

๒. ลกั ษณะแบบพิมพ์แบบรายงานผสู้ าเรจ็ การศึกษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน (ปพ.๓)
๒.๑ แบบพมิ พแ์ บบรายงานผสู้ าเรจ็ การศกึ ษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน (ปพ.๓)

จาแนกเปน็ ๓ แบบ คือ
๒.๑.๑ แบบรายงานผสู้ าเรจ็ การศกึ ษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน ระดบั ประถมศกึ ษา

(ปพ.๓ : ป)
๒.๑.๒ แบบรายงานผู้สาเร็จการศึกษาตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน ระดับมัธยมศกึ ษา

ตอนตน้ (ปพ.๓ : บ)
๒.๑.๓ แบบรายงานผู้สาเร็จการศึกษาตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน ระดบั มัธยมศึกษาตอน

ปลาย (ปพ.๓ : พ)
การจัดทาแบบรายงานผสู้ าเรจ็ การศกึ ษาตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน (ปพ.๓)

สถานศกึ ษาจะต้องใชแ้ บบพิมพ์ให้ถูกต้องตรงกบั ระดับการศกึ ษาท่ีจัดทา
๒.๒ แบบพิมพแ์ บบรายงานผู้สาเรจ็ การศึกษาตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน (ปพ.๓)

ทุกระดับ จัดทาไว้ ๒ ประเภท ไดแ้ ก่
๒.๒.๑ แบบพมิ พ์ปกติ มลี ักษณะเปน็ แบบพิมพส์ มบรู ณ์ ครบถว้ น สาหรับใช้กรอกขอ้ มลู ดว้ ยการเขียนหรอื

พมิ พด์ ีด
๒.๒.๒ แบบพมิ พ์สาหรับใชก้ ับคอมพวิ เตอร์ มีลกั ษณะเปน็ กระดาษว่าง พิมพ์เฉพาะชอื่ เอกสารและข้อมลู

บางส่วนท่ีสาคัญ สถานศึกษาเลอื กใช้ใหเ้ หมาะสมกับวิธกี ารจัดทาเอกสารของตน
๓. การพมิ พแ์ ละการสั่งซ้อื แบบพิมพ์แบบรายงานผสู้ าเรจ็ การศกึ ษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ัน

พน้ื ฐาน (ปพ.๓)
๓.๑ การพมิ พ์ ให้องค์การคา้ ของ สกสค. จัดพมิ พ์ ภายใต้การควบคุมของสานักงานคณะกรรมการ

การศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร
๓.๒ การส่ังซ้ือแบบพิมพ์ ใหส้ ถานศกึ ษาสามารถส่ังซ้ือได้โดยตรง โดยหวั หน้าสถานศึกษาเปน็ ผรู้ บั ผดิ ชอบ

ในการสง่ั ซ้ือ และเก็บรักษาแบบพมิ พ์ทส่ี ่ังซ้ือแลว้

-37-

๔. การจดั ทาแบบรายงานผสู้ าเร็จการศึกษา (ปพ.๓) ให้สถานศึกษาดาเนินการดงั นี้
๔.๑ แตง่ ต้งั นายทะเบยี นของสถานศึกษาอย่างเป็นทางการ เพอื่ รบั ผดิ ชอบการจดั ทาแบบรายงาน

ผู้สาเร็จการศกึ ษา (ปพ.๓) และเอกสารสาคัญอืน่ ๆ ของสถานศกึ ษา
๔.๒ แต่งตงั้ คณะกรรมการดาเนินการจดั ทาแบบรายงานผสู้ าเรจ็ การศึกษา (ปพ.๓) เปน็ คราวๆ

ไป ประกอบดว้ ยผเู้ ขียน/พิมพ์ ผทู้ าน และผูต้ รวจ การดาเนินงานจดั ทาใหป้ ฏิบตั ิตามคาอธิบายการจดั ทาแบบ
รายงานผู้สาเรจ็ การศึกษา (ปพ.๓) แนบท้ายคาสัง่ นี้อยา่ งถูกต้อง ภายใต้การกากบั ดูแลของนายทะเบียน

๔.๓ เมือ่ จัดทาแบบรายงานผู้สาเร็จการศกึ ษา (ปพ.๓) เสรจ็ เรยี บร้อยแล้ว ให้กรรมการทุกคนและนาย
ทะเบียนลงนามไวท้ ีด่ ้านหน้าของเอกสารในช่องที่กาหนดไวท้ ุกแผน่ ก่อนเสนอใหผ้ ู้อานวยการ หรอื อาจารยใ์ หญ่
หรอื ครใู หญ่ แลว้ แต่กรณี พิจารณาอนุมตั กิ ารจบการศึกษา

๔.๔ ผูอ้ านวยการ หรืออาจารย์ใหญ่ หรอื ครูใหญ่ ควรเสนอคณะกรรมการบรหิ ารหลักสูตร และงาน
วิชาการสถานศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พิจารณาแบบรายงานผูส้ าเรจ็ การศกึ ษา (ปพ.๓) ท่ีจดั ทาเสร็จเรียบร้อย
แลว้ เพื่อความถูกต้อง สมบูรณ์ และรอบคอบก่อนลงนาม อนุมตั ิผลการจบการศึกษา

๔.๕ สถานศึกษาต้องจัดทาแบบรายงานผู้สาเร็จการศกึ ษา (ปพ.๓) ภายในเวลา ๓๐ วัน นับจากวัน
อนุมัตผิ ลการเรยี นและสาเรจ็ การศกึ ษาแตล่ ะครง้ั โดย

ระดบั ประถมศึกษา จดั ทาคร้ังละ ๒ ชดุ เก็บรักษาไว้ที่สถานศึกษา ๑ ชุด ส่งเก็บรกั ษาที่สานกั งานเขต
พ้นื ทีก่ ารศึกษาตน้ สังกดั ของสถานศกึ ษา ๑ ชดุ

สาหรบั ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้นและระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย ใหจ้ ัดทาครั้งละ ๓ ชุด เกบ็ รักษาไว้
ท่สี ถานศึกษา ๑ ชดุ ส่งเกบ็ รักษาทสี่ านักงานเขตพื้นทก่ี ารศกึ ษาต้นสังกัดของสถานศึกษา ๑ ชุด และสง่ เกบ็ รักษา
ทีส่ านักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ ๑ ชุด เพ่อื ใชเ้ ป็นหลักฐานสาหรับ
ตรวจสอบวฒุ ิการศกึ ษาของผู้สาเร็จการศึกษา

๕. การจัดเกบ็ รักษาแบบรายงานผูส้ าเร็จการศึกษา (ปพ.๓) ใหส้ ถานศึกษา สานักงานเขตพ้นื ที่การศึกษาต้น
สงั กัดของสถานศึกษา จัดเก็บรกั ษาแบบรายงานผู้สาเรจ็ การศึกษา (ปพ.๓) ไว้ในที่ปลอดภัยตลอดไป อย่าให้ชารดุ
เสียหาย หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงแกไ้ ขข้อมูลได้

กรณีข้อมลู ในแบบรายงานผูส้ าเรจ็ การศึกษา (ปพ.๓) ระดับมธั ยมศึกษาตอนต้น และระดับมธั ยมศึกษา
ตอนปลาย ทีเ่ ก็บรักษาไวท้ หี่ น่วยงานต่าง ๆ มีข้อมูลไม่ตรงกัน ใหย้ ดึ ข้อมูลในเอกสารหลักฐานฉบบั ท่ีเก็บรกั ษาไวท้ ี่
สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ เปน็ ข้อมลู ท่ีถกู ต้อง

๖. การแก้ไข เปล่ียนแปลง หรอื เพม่ิ รายช่ือผู้สาเร็จการศกึ ษาในแบบรายงานผสู้ าเร็จการศึกษา (ปพ.๓) ที่
สง่ ไปเกบ็ รักษาที่สานักงานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษา และสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน
กระทรวงศึกษาธิการ แล้ว ใหด้ าเนนิ การดงั นี้

๖.๑ สถานศึกษายืน่ คาร้องขอแก้ไข เปลยี่ นแปลง หรอื เพิม่ รายช่ือต่อผู้อานวยการสานักงาน
เขตพื้นทีก่ ารศึกษา

๖.๒ ผ้อู านวยการสานักงานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษาแต่งต้ังคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงในการขอแกไ้ ข
เปลย่ี นแปลง หรือเพิ่มเตมิ รายชอื่ ของผูส้ าเร็จการศึกษา

๖.๓ เม่อื คณะกรรมการสอบสวนไดข้ อ้ เท็จจริงประการใดแล้ว ให้รายงานผลการสอบสวนขอ้ เท็จจรงิ พรอ้ ม
หลักฐานต่าง ๆ ใหผ้ อู้ านวยการสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาเพื่อพจิ ารณาดาเนินการต่อไป

.

-38-

-39-

-40-

-41-

-42-

-43-

-44-

-45-

-46-

-47-

-48-

กระทรวงศึกษาธกิ าร แบบรายงานผู้สาเรจ็ การศกึ ษาตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐา
สำเร็จกำรศกึ ษำภำคเรียนที่ ...................................... ปกี ำรศึกษำ ..................................... โรงเรียน
ตำบล/แขวง .......................................... อำเภอ/เขต.......................................................... จงั หวดั ...

เลขประจำตัวนักเรียน ชดุ ที่ ปพ.1:ป ชื่อนกั เรียน วนั ท่ี เดอื น ชื่อ-ช
ลำดบั ท่ี เลขท่ี ปพ.1:ป ชือ่ สกลุ นกั เรยี น ปีเกดิ ชอื่ -ชอื่

เลขประจำตัวประชำชน

จำนวนผสู้ ำเร็จกำรศึกษำ ......................................................ผเู้ ขยี น/
......................................................ผูท้ ำน
ชาย หญิง รวม ......................................................ผตู้ รวจ
......................................................นำยทะ


Click to View FlipBook Version