รายงานตู้ขจัดกลิ่นรองเท้า

แบบรายงานการวิจัย (ว-สอศ-3)
รายงานผลโครงงานวิจยั

เร่ือง

ตขู้ จดั กลน่ิ รองเทา้

Box Off Smell

นางสาวนงนภัส แยม้ กลนิ่ รหสั นกั เรยี น 62202040015
นางสาวเจณปรญี า ชา้ งพาลี รหสั นกั เรยี น 62202040038

ประจำปกี ารศกึ ษา 2564
ปีพุทธศักราช 2564-2565

วทิ ยาลัยเทคนิคระยอง
อาชวี ศกึ ษาจังหวดั ระยอง
สำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา

กระทรวงศึกษาธกิ าร

ก

หัวขอ้ วจิ ยั ตขู้ จัดกล่นิ รองเทา้

ผดู้ ำเนนิ การวจิ ัย นางสาวนงนภสั แย้มกลิ่น

นางสาวเจณปรญี า ช้างพาลี

ทีป่ รกึ ษา นางสาวพณั ณช์ ิตา คำมะฤทธส์ิ ินชัย

หน่วยงาน วิทยาลยั เทคนิคระยอง

ปี พ.ศ. 2565

บทคดั ย่อ

การจดั ทำโครงการคร้ังนี้มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พ่ือใหผ้ ู้คนท่ีได้ทำแบบทดสอบการขจัดกลิ่นรองเท้าของ

เราเพือ่ ตอบโจทยส์ ำหรับคนที่มปี ัญหากลิ่นเท้าโดยตรงและยังสามารถกำจดั เช้อื โรคหรือแบคทีเรียได้ดี

มากและเพ่ือส่งเสริมบุคลิกภาพภายนอกบวกกับสภาพแวดล้อมท่ีดีขึน้ อีกดว้ ย และเพ่ือศึกษาความพึง

พอใจของนกั เรียนระดับประกาศนียบตั รวชิ ีพ สาขาวิชาเทคโนโลยธี ุรกิจดิจิทัล วทิ ยาลยั เทคนิคระยอง

ที่มีต่อตู้ขจัดกลิ่นรองเท้า โดยมีกลุ่มตัวอย่างที่ใช้เก็บประเมินผลคือ นักเรียนระดับประกาศนียบัตร

วชิ าชีพ ชั้นปีที่ 2 ห้อง 1 สาขาวิชาเทคโนโลยีธรุ กจิ ดจิ ทิ ลั วทิ ยาลัยเทคนคิ ระยอง และเคร่ืองมือท่ใี ช้ใน

การประเมินตู้ขจัดกลิ่นรองเท้าคือ แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนระดับประกาศนียบัตร

วิชาชีพ ชั้นปีที่ 2 ห้อง 1 สาขาวิชาเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล วิทยาลัยเทคนิคระยอง ที่มีต่อตู้ขจัดกลิ่น

รองเท้า ซึ่งสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์คือ ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าส่วนเบี่ยงเบน

มาตรฐาน (S.D.)

ผลท่ไี ด้รับจากแบบสอบถามความพึงพอใจ ท่ีมีต้ขู จดั กล่ินรองเทา้ อยูใ่ นระดับมาก ( ̅= 4.45 ,

S.D. = 0.54) ซึ่งโดยรวมถือว่าผ่านเกณฑ์ตามวัตถุประสงค์ เมื่อพิจารณาจากแบบสอบถามทั้ง 3 ด้าน

ที่มีค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อย ได้แก่ ด้านความคุ้มค่าภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( ̅= 4.44 , S.D. =

0.53) ด้านโครงสร้างพบว่าภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( ̅= 4.39 , S.D. = 0.59) ด้านการใช้งาน

ภาพรวมอยู่ในระดบั ท่มี ากท่ีสดุ ( ̅= 4.53 , S.D. = 0.51) ตามลำดบั

ข

กติ ติกรรมประกาศ

โครงการวิจัยฉบับนี้สำเร็จลุล่วงได้ด้วยดี เนื่องจากได้รับความกรุณาอย่างสูงจาก
นางสาวพัณณ์ชิตา คำมะฤทธิ์สินชัย อาจารย์ที่ปรึกษางานวิจัยที่กรุณาอนุมัติเห็นชอบในการจัดทำ
โครงการและให้การสนับสนุน ให้คำแนะนำปรึกษาและข้อคิดเห็นอันเป็นประโยชน์ต่อการศึกษา
ค้นคว้า ตลอดจนปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องต่าง ๆ ด้วยความเอาใจใส่อย่างดียิ่ง ผู้วิจัยตระหนักถึง
ความต้งั ใจจริงและความทุ่มเทของอาจารย์และขอกราบพระคณุ เป็นอย่างสงู ไว้ ณ ทนี่ ี้

ขอขอบคุณคณะครูอาจารยว์ ิทยาลัยเทคนิคระยอง แผนกเทคนิคระยอง แผนกเทคโนโลยีธุรกิจ
ดิจทิ ัลท่คี อยใหค้ วามช่วยเหลือด้านการเกบ็ รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ในเร่อื งเนือ้ หา และรปู ภาพในการทำ
โครงการ อีกทั้งยังได้ช่วยแนะนำโครงการ และให้ความช่วยเหลือด้านในการจัดทำรูปเล่มโครงงาน
และขอขอบคุณครอบครัว คณะเพื่อนร่วมห้องระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ชั้นปีที่ 3 ห้อง 1
สาขาวิชาเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล ที่ได้ช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ และนักเรียนระดับประกาศนียบัต ร
วิชาชีพ ชั้นปีที่ 2 ห้อง 4 สาขาวิชาเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล ที่ได้ให้ความร่วมมือในการตอบ
แบบสอบถามจนทำให้โครงการวจิ ยั คร้ังนี้ สำเรจ็ ลลุ ว่ งไปไดด้ ว้ ยดี

ท้ายสุดนี้คณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่า งานวิจัยฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาค้นควา้
อยไู่ ม่น้อย จึงขอมอบส่วนดีทง้ั หมดนี้ให้แก่เหล่าคณะครูอาจารย์ที่ได้ประสิทธิประสาทวิชาจนทำให้ผล
งานวิจัยเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้มีพระคุณทุกท่าน สำหรับข้อบกพร่องต่าง ๆ
ที่อาจจะเกิดขึ้น คณะผู้วิจัยขอน้อมรับผิดและยินดีที่จะรับฟังคำแนะนำจากทุกท่านที่ได้เข้ามา
ศกึ ษาเพื่อเป็นประโยชน์ในการพัฒนางานวจิ ยั ตอ่ ไป

คณะผูว้ จิ ยั
2564

สารบัญ หนา้
ก
เร่อื ง ข
บทคดั ย่อ ค
กิตติกรรมประกาศ จ
สารบัญ ฉ
สารบัญตาราง
สารบัญภาพ 1
บทที่ 1 บทนำ 2
2
1.1 ความเปน็ มาและความสำคัญ 3
1.2 วตั ถุประสงค์ของการวิจยั 3
1.3 ขอบเขตการวิจยั 3
1.4 ข้อจำกัด 3
1.5 สมมติฐานการวิจยั
1.6 คำจำกดั ความท่ีใชใ้ นการวิจัย 4
1.7 ประโยชนท์ ่คี าดวา่ จะได้รับ 6
บทที่ 2 แนวคดิ ทฤษฎี เอกสารและงานวิจัยท่ีเกีย่ วข้อง 7
2.1 ความหมายและที่มาของกา๊ ซโอโซน 7
2.2 การประยุกต์ใช้งานโอโซน 8
2.3 หลักการทา่ งานของต้อู บขจัดกลิ่นรองเทา้ ดว้ ยโอโซน
2.4 งานวจิ ัยท่ีเก่ยี วข้อง 9
2.5 กรอบแนวคิดการวจิ ัย 9
บทที่ 3 วธิ ีดำเนนิ การวิจัย 9
3.1 ประชากรและกลมุ่ ตัวอย่าง 17
3.2 การสร้างเคร่ืองมือในการวิจยั 19
3.3 การดำเนนิ งานการวจิ ัย 19
3.4 แผนผังงาน
3.5 การเกบ็ รวบรวมข้อมลู
3.6 สถิตทิ ี่ใชแ้ ละวธิ ีวิเคราะห์ข้อมลู

สารบัญ (ตอ่ ) ง

เร่อื ง หนา้
บทที่ 4 ผลการวิจัย
21
4.1 ผลการดำเนินการ
บทที่ 5 สรปุ ผลการวจิ ัยอภิปรายผลและข้อเสนอแนะ 28
28
5.1 สรปุ อภปิ รายผล 29
5.2 ข้อเสนอแนะ
บรรณานกุ รม 32
ภาคผนวก 44
ภาคผนวก ก 47
ภาคผนวก ข 50
ภาคผนวก ค
ประวัตผิ ู้วจิ ัย

สารบญั ตาราง หนา้
21
ตารางที่ 22
4.1 แสดงจำนวนของผู้ตอบแบบสอบถามจำแนกตามเพศ 23
4.2 แสดงจำนวนของผู้ตอบแบบสอบถามจำแนกตามอายุ 24
4.3 แสดงความพงึ พอใจด้านการออกแบบ 25
4.4 แสดงความพึงพอใจด้านการใชง้ าน 26
4.5 แสดงความพึงพอใจดา้ นผลสัมฤทธิ์
4.6 แสดงสถติ ิความพงึ พอใจของนกั เรยี นนกั ศึกษากบั ตขู้ จัดกลิ่นรองเท้า

สารบัญภาพ หนา้
8
ภาพท่ี 10
2.1 แสดงกรอบแนวคดิ การวิจัย 10
3.1 แสดงคอมพิวเตอร์ 10
3.2 แสดงโลโก้ Arduino 10
3.3 แสดงพาวเวอร์ซัพพลาย 10
3.4 แสดงบอร์ดอาดูโน่ R3 10
3.5 แสดงรเี ลย์ 4 ชอ่ ง 10
3.6 แสดงรเี ลย์ 2 ช่อง 10
3.7 แสดงสายจมั เปอร์ 11
3.8 แสดงโฟโต้บอรด์ 11
3.9 แสดงบัซเซอร์ 11
3.10 แสดงจอLCD 11
3.11 แสดงสวติ ช์ 11
3.12 แสดงหลอดโอโซน 11
3.13 แสดงพัดลม DC 12
3.14 แสดงไมอ้ ดั 12
3.15 แสดงการเขียนโคด้ การทำงานของชน้ิ งาน 13
3.16 แสดงการทดลองการรบั คา่ จากสวติ ช์ 13
3.17 แสดงตู้ขจดั กลิน่ รองเทา้ 14
3.18 แสดงการติดพดั ลมขา้ งในตู้ 14
3.19 แสดงจอLCDบนฝาตู้ 15
3.20 แสดงรสู วิตช์ 15
3.21 แสดงติดต้ังพาวเวอร์ซพั พลาย เต้ารับ รีเลย์ และบอรด์ อาดโู น่ 15
3.22 แสดงตดิ รเี ลย์ 2 ชอ่ ง บัซเซอร์ โฟโต้บอร์ดและเชือ่ มตอ่ สายไฟ 16
3.23 แสดงตดิ หลอดโอโซน 16
3.24 แสดงตขู้ จัดกลิ่นรองเท้าที่พร้อมใชง้ าน
3.25 แสดงจอLCDและสวติ ช์พรอ้ มใช้งาน

สารบญั ภาพ (ตอ่ ) ช

ภาพท่ี หน้า
4.1 แสดงแผนภมู จิ ำแนกตามเพศ 21
4.2 แสดงแผนภูมจิ ำแนกตามอายุ 22
4.3 แสดงแผนภมู แิ สดงความพงึ พอใจดา้ นการออกแบบ 23
4.4 แสดงแผนภูมแิ สดงความพงึ พอใจดา้ นการใช้งาน 24
4.5 แสดงแผนภมู แิ สดงความพงึ พอใจดา้ นผลสัมฤทธิ์ 25
4.6 แสดงแผนภูมแิ สดงสถิตริ วมผลความพึงพอใจ 26

บทท่ี 1
บทนำ

1.1 ความเป็นมาและความสำคญั
โอโซน (Ozone) หรือ O3 คือ ก๊าซที่ประกอบไปด้วยออกซิเจน 3 อะตอม ซึ่งทุก ๆ

10 ล้านโมเลกุล ในบรรยากาศที่ความสูงระดับ 10–50 กิโลเมตร จะพบว่ามีโอโซนอยู่ที่ประมาณ
3 โมเลกุลเท่านั้น และโอโซนนี้ เรียกว่าเป็นก๊าซออกซิเจนที่มีพลังซึ่งมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อโรคที่รุนแรง
ได้ดีกว่าคลอรีนมากถึง 3,125 เท่าเลย ทีเดียว โดยโอโซนนี้จะทำการแยกย่อยสลายของโมเลกุล
ในสารปนเปอ้ื นต่าง ๆ และแมว้ ่าโอนโซนจะเป็นก๊าซท่ี มีโครงสรา้ งไม่เสถยี ร แต่เม่อื แปรสภาพกลับไป
เป็นก๊าซออกซิเจนแล้วก็ไมเ่ ป็นอันตรายใด ๆ ไม่ว่าจะท้ังกับคน สัตว์ หรือธรรมชาติสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ
ทำให้มีการนำโอโซนมาใช้กันอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เครื่องปรับอากาศ หรือเครื่องฟอกอากาศ
เป็นต้น โอโซนเกิดจากกระแสไฟฟ้าแรงสูงในอากาศอย่าง แสงอาทิตย์, ฟ้าแลบ หรือฟ้าผ่า เป็นต้น
โดยจะมีรังสียูวีที่คอยเปลี่ยนโครงสร้างของออกซิเจนให้เป็น O3 ความเข้มข้นของโอโซนสูงจากการ
ใช้สนามแม่เหล็กไฟฟ้าท่ีมีความถ่ีสงู การใช้รงั สียูวีจะสร้างก๊าซโอโซนใหม้ ีความ เข้มข้นที่ไม่สูงมากนัก
หรือในชว่ งคลื่น 185 นาโนเมตร เราสามารถผลิตโอโซนขึน้ เองไดจ้ ากอากาศทั่วไปและไฟฟา้

ประโยชน์ของโอโซน ได้แก่ 1) ช่วยกำจัดกลิ่นเหม็นอันไม่พึงประสงค์ได้อย่างรวดเร็ว
และดีมาก ๆ 2) ช่วยยับยั้งและทำลายการเจริญเติบโตของเชื้อโรคต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วโดยเฉพาะ
กับเชอ้ื แบคทเี รีย 3) ช่วยให้ อากาศบรสิ ุทธิ์ สลายกา๊ ซพิษต่าง ๆ ออกไปได้ดี 4) ชว่ ยในการฟอกสีและ
บำบัดน้ำเสียให้น้ำสะอาดและใสขึ้น และไม่ก่อให้เกิดสารพิษตกค้างในอากาศ อันตรายของโอโซน
ได้แก่ 1) อาจเกิดอันตรายแก่ปอดได้โดยเฉพาะในเด็กที่ระบบภูมิต้านทานยังไม่ แข็งแรงเพียงพอ
2) อาจเกิดผลเสียหรืออันตรายแก่ระบบพันธุกรรม หรืออวัยวะสืบพันธุ์ได้3) หากมีปริมาณ โอโซนสูง
มากเกินไปจะก่อให้เกิดเป็นก๊าซพิษที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ 3) หากมีการสัมผัสโอโซนในรูปของของ
เหลว ที่ความเข้มข้นสูงบริเวณดวงตาหรือผิวหนังอาจก่อให้เกิดการระคายเคือง ทำให้รู้สึกปวดแสบ
ปวดร้อนได้ ไปจนถึงอาการไหม้ที่รุนแรงขึ้นได้อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงอย่างปวดศีรษะ, แน่นท้อง,
ท้องเสีย, คลื่นไส้ อาเจียน หรือแน่นหน้าอก เป็นต้น โอโซนโดยทั่วไปนั้นจะแบ่งเป็น 2 ชนิด คือ
1) โอโซนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในบรรยากาศสูง ๆ ซึ่งทำหน้าท่ี ป้องกันอันตรายจากรังสี
อุลตร้าไวโอเลตซึ่งไม่เป็นพิษ และ 2) โอโซนที่เป็นพิษในอากาศที่เราใช้หายใจระดับ ล่างจัดว่าเป็น
โอโซนประเภทไม่ดีซึ่งจะมีผลกระทบ โดยตรงต่อมนุษย์โอโซนที่ระดับความสูงกว่าพื้นดินมากกว่า 40
กิโลเมตร ขึ้นไปจะเป็นโอโซนท่ีดี ส่วนโอโซนที่ระดับสูงกว่าพื้นดินไม่เกิน 2 กิโลเมตร จะเป็นโอโซนท่ี
ไมด่ ี สงิ่ ที่กอ่ ให้เกิดโอโซนในระดับต่ำไดแ้ ก่ ควนั ของรถยนต์ เปน็ ต้น ปจั จุบันการศกึ ษาวิจัยและพัฒนา
เทคโนโลยีการใช้โอโซนมากขึ้นและใช้กันอย่าง แพร่หลายด้วย โอโซนมีลักษณะเด่น ดังนี้
1) สลายตัวเร็ว เนื่องจาก ไม่คงตัว (Unstable) และไม่สามารถเก็บบรรจุใส่ภาชนะ ใด ๆ ได้

2

(ยกเว้นการเก็บในสภาวะอุณหภูมิต่ำหรือน้ำแข็ง) การสลายตัวจะขึ้นกับอุณหภูมิและความช้ืน
2) มีกลิ่นคล้ายกลิ่นฝนตกใหม่ ๆ และถ้ามีความเข้มข้นสูงจะมีกลิ่นฉุน 3) สถานะทั่วไปเป็นก๊าซ
4) มีฤทธิ์ในการฆ่า เชื้อแบคทีเรียที่ รุนแรงมากทั้งในน้ำและอากาศ 5) เป็นสารออกซิไดซ์ที่มีความ
รุนแรงมาก (Potential oxidizing agent) จึงสามารถท่าปฏิกิริยากับสารอินทรีและสารอนินทรีได้
การประยุกต์นำเอาก๊าซโอโซน ไปใช้ในอุตสาหกรรมและชีวิตประจำวัน ได้หลายวิธี อาทิเช่น
การบำบัดและอนุรักษ์พลังงานในระบบหอผ่ึงเย็นของระบบทำความเย็น ฆ่าเชื้อโรคในสระว่ายน้ำ
น้ำเสียในอาคารสำนักงาน และ อุตสาหกรรมฆ่าเชื้อโรคใน ระบบผลิตน้ำดื่ม บำบัดอากาศ
และกลิ่นบำบัดสีในขบวนการฟอกยอม ลดพลังงานในระบบ ซักผ้า บำบัด อากาศ และน้ำในสปา
ฆา่ เช้ือโรคในผกั และผลไม้ เป็นต้น

การสร้างตู้อบขจัดกลิ่นรองเท้าด้วยโอโซน โดยวิธีการผลิตโอโซน ซึ่งนำเอาหลักการ
และประโยชน์ ของโอโซนที่ช่วยกำจัดกลิ่นเหม็นอันไม่พึงประสงค์ไดอ้ ย่างรวดเร็ว นอกจากนั้นยังชว่ ย
ยับยั้งและทำลายการ เจริญเติบโตของเชื้อโรคต่าง ๆ โดยเฉพาะกับเชื้อแบคทีเรียได้อย่างรวดเร็ว
ซึ่งจะช่วยให้การอบกลิ่นที่ไม่พึง ประสงค์ โดยเฉพาะรองเท้าชนิดต่าง ๆ ที่ใช้สวมใส่ในการปฏิบัติงาน
ลดเวลาการซักและตากที่ต้องใช้เวลามาก สามารถอบขจัดกลิ่นได้ทุกฤดูกาล ใช้เวลาสั้นเหมาะสม
กบั ภาวะการดำรงชีวติ ของคนในสังคมทีต่ อ้ งแข่งขนั กัน ทกุ ด้านในปจั จุบนั อีกด้วย
1.2 วัตถุประสงค์ของการวจิ ัย

1.2.1 เพื่อสร้างและประเมินคุณภาพของตู้อบขจัดกลน่ิ รองเทา้ ดว้ ยโอโซน
1.2.2 เพอ่ื ศึกษาความพึงพอใจของผใู้ ช้งานต้อู บขจดั กล่นิ รองเท้าด้วยโอโซน
1.2.3 เพอื่ ทดสอบประสิทธภิ าพการทำงานของตู้อบขจัดกลน่ิ รองเทา้ ดว้ ยโอโซน
1.3 ขอบเขตการวจิ ัย
1.3.1 ขอบเขตดา้ นเน้อื หา

1.3.1.1 ศกึ ษาหาขอ้ มลู บอร์ด Arduino ว่าใช้งานอยา่ งไร
1.3.1.2 หลอดโอโซนทำหนา้ ท่ีเป็นตัวเปลย่ี นแปลงกลิน่ ทำไห้กลน่ิ เหมน็ ลดลง
1.2.1.3 ทามเมอร์เป็นตวั กำหนดเวลา
1.2.1.4 สวิสช์ใช้ปดิ -เปดิ การทำงาน
1.3.2 ขอบเขตดา้ นประชากรและกล่มุ ตัวอย่าง

ประชากรที่ใช้ในการวิจัยเพื่อทำการศึกษาค้นคว้าสำหรับการวิจัยครั้งนี้คือ
นักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ชั้นปีที่ 3 ห้อง 1 สาขาวิชาเทคโนโลยีธุรกิจ
ดิจิทลั วิทยาลยั เทคนคิ ระยอง เพื่อศึกษาความพงึ พอใจของผู้ใชง้ านจรงิ
1.3.3 ขอบเขตด้านเวลา
เดอื นพฤศจกิ ายน พ.ศ 2564 – เดอื นมีนาคม พ.ศ 2565

3

1.4 ขอ้ จำกัด
1.4.1 สามารถใส่รองเทา้ ได้ครั้งละ 1 คู่

1.5 สมมติฐานการวิจยั
1.5.1 ตอู้ บขจัดกล่ินรองเทา้ ดว้ ยโอโซนสามารถขจดั กลิ่นอบั ในรองเท้าชนิดต่าง ๆให้ปราศจาก
กล่นิ เหมน็ อับได้ภายในเวลา 30 นาที
1.5.2 ความเชื่อม่ันในการขจัดกลิ่นเหม็นอบั ในรองเท้าของตอู้ บขจัดกล่นิ รองเท้าดว้ ยโอโซนใน
ระดับไม่ นอ้ ยกว่าร้อยละ 70.00

1.6 คำจำกัดความทีใ่ ช้ในงานวิจัย
1.6.1 ตู้ของเราจะออกมาเป็นรูปแบบของสี่เหลี่ยมผืนผ้าซึ่งมีลักษณะคล้ายตู้เก็บรองเท้าเปน็
ขนาดที่มินินา่ รัก นอกจากความแขง็ แรง ทนทานของไม้อย่างดีแลว้ ยังมีความเรียบง่าย
สบายตาและจดั เกบ็ วางตงั้ ในสถานท่แี บบไหนกไ็ ด้ไม่รกหูรกตา
1.6.2 ขจัดกลน่ิ ก็คอื ตวั โอโซนจะไปทำปฏิกิริยาฆ่าเช้ือแบคทเี รยี ที่ก่อให้เกดิ กล่ินไม่พึงประสงค์
ทำใหเ้ ชอื้ แบคทเี รยี ถูกทำลายดว้ ยประสิทธิภาพของโอโซน
1.6.3 รองเท้าสามารถใช้ได้กับรองเท้าทุกประเภท แต่จุดประสงค์ของโครงงานคือทำมา
เพื่อขจัดกล่ินรองเท้าประเภทคัชชู เพื่อใชใ้ นสถานศึกษา

1.7 ประโยชน์ทีค่ าดว่าจะไดร้ บั
1.7.1 ไดต้ ขู้ จัดกลน่ิ รองเท้าด้วยหลอดผลติ โอโซน และผลการประเมนิ การใช้งานตขู้ จดั กล่ิน
รองเทา้
1.7.2 ผใู้ ช้งานตู้ขจดั กลิ่นรองเท้า มีความพึงพอใจในการใช้ตขู้ จัดกล่ินรองเทา้ ด้วยหลอดผลิต
โอโซน
1.7.3 สามารถกำจัดกลนิ่ รองเทา้ ได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ

บทที่ 2
แนวคิด ทฤษฎี เอกสารและงานวิจัยที่เกีย่ วข้อง

ในการดำเนินงานเพื่อค้นคว้าและสร้าง “ตู้ขจัดกลิ่นรองเท้า” คณะผู้จัดทำได้รวบรวมแนวคิด
ทฤษฎีและหลกั การต่างๆ จากเอกสารต่างๆ ที่เกีย่ วข้อง เพือ่ ใช้เปน็ ขอ้ มูลพน้ื ฐาน ดังนี้

2.1 ความหมายและที่มาของกา๊ ซโอโซน
2.1.1 โอโซนตามธรรมชาตใิ นบรรยากาศสูง ๆ
2.1.2 โอโซนที่เปน็ พษิ ในอากาศ
2.1.3 การเกดิ ข้ึนของโอโซน

2.2 การประยกุ ตใ์ ช้งานโอโซน
2.2.1 การผลติ โอโซนสามารถใชไ้ ด้กบั อุตสาหกรรมขนาดใหญ่โดยการป้อนออกซเิ จน
ผา่ นเคร่ืองกำเนิดโอโซน
2.2.2 การพัฒนาเครือ่ งให้กำเนิดโอโซนในประเทศอตุ สาหกรรมใหญ่

2.3 หลกั การท่างานของตอู้ บขจัดกลิ่นรองเท้าดว้ ยโอโซน
2.4 งานวจิ ยั ท่เี กีย่ วข้อง
2.5 กรอบแนวคดิ การวิจยั
2.1 ความหมายและทม่ี าของกา๊ ซโอโซน
ก๊าซโอโซน (OZONE) หรอื O3 ประกอบด้วยธาตุออกซิเจน (O) 3 อะตอม น้ำหนกั โมเลกุล 48
โอโซน เป็นก๊าซที่เกิดขึ้นในโลกใบนี้ควบคู่กับการเกิดก๊าซออกซิเจนในบรรยากาศที่สูงขึ้นไป 10-50
กิโลเมตร มีก๊าซโอโซนหนาแน่น และรวมตัวเป็นชั้นบาง ๆทำหน้าที่เป็นเกาะหรือหลังคาป้องกันรังสี
จากภายนอกไม่ให้ตกกระทบผิวโลกมากจนเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม หากไม่มีก๊าซ
โอโซนโลกก็จะถูกทำลาย และเสียสมดุล สิ่งมีชีวิตก็ไม่อาจดำรงอยู่ได้โอโซนจึงเปรียบเสมือนเป็นผู้ให้
ชวี ติ แกโ่ ลกของเรา
สำหรับก๊าซโอโซนธรรมชาติซึ่งอยู่ใกล้ผิวโลก แม้จะมีในปริมาณเล็กน้อย แต่ก็เป็นประโยชน์ที่
ตัวช่วยทำให้พ้นื ดนิ พ้นื น้ำสะอาด และมีอากาศบรสิ ุทธด์ิ ังทเ่ี ราจะสามารถสัมผสั ได้กับความสดชื่นของ
บรรยากาศ แถบชายทะเล บนภูเขาสูง และที่โล่งแจ้งภายหลังฝนตก เพราะเป็นบริเวณที่พบว่าก๊าซ
โอโซนอยู่ด้วยก็มักจะมี สุขภาพที่ดี และมีอายุยื่นพืชพันธ์ธัญญาหารอุดมสมบูรณ์ตน้ ไม้มีภมู ิต้านทาน
ต่อโรคพืชได้ดีกว่า แต่ที่พบได้ในเมืองใหญ่ก๊าซโอโซนอาจเกิดขึ้นร่วมกับควันพิษจากการเผาไหม้
เชื้อเพลิงของยานพาหนะ และโรงงานอุตสาหกรรม และมีการใช้ก๊าซโอโซนเป็นตัวบงชี้ระดับมลพิษ
ของอากาศ ทำใหม้ กี ารเขา้ ใจผิดคิดวา่ ก๊าซโอโซน เป็นกา๊ ซพษิ ท่จี ริงในก๊าซโอโซนในปรมิ ารทเี่ ข้มข้นที่มี
อยู่ตามธรรมชาติกลับเป็นตัวสลายสารพิษ ไม่มีการจัดโอโซนไว้ในระดับของก๊าซพิษอันตรายร้ายแรง

5

อย่างก๊าซคลอรีน และไซยาไนด์ มีการพิสูจน์ได้ว่าก๊าซโอโซน ไม่ได้เป็นอนุมูลอิสระและไม่ได้เป็นสาร
ก่อมะเร็ง

ก๊าซโอโซนสามารถผลิตขึ้นด้วยกรรมวิธีการทางวิทยาศาสตร์ โดยการแยกสลายก๊าซออกซิเจน
โดยที่ กา๊ ซโอโซนจะให้พลังท่ีสูงกวา่ มีความไวในการทำปฏกิ ิริยากบั สารต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว และไม่
ทำให้เกิดสารตกค้างที่เป็นพิษกับสารเคมีอย่างอื่น เมื่อสลายตัวก็จะทำให้ก๊าซออกซิเจนซึ่งยังคงเป็น
ประโยชนต์ ่อการหายใจ จงึ มกี ารผลิตเคร่ืองให้กำเนิดโอโซนเพื่อประยุกต์ใช้กับวงการต่าง ๆ โดยเริ่มมี
การนำมาใช้ในการป้องกันโรค ระบาดในประเทศเยอรมัน และการทำน้ำดื่มในประเทศเนเธอร์แลนด์
เมื่อราวร้อยปีเศษมาแล้วปคี รสิ ต์ศักราช 1973 มีการกอ่ ต้ังสมาคมโอโซนนานา ชาติ หรอื ไอโอเอโดยมี
สำนักงานใหญ่ที่อยู่ที่สหรัฐอเมริกา เพื่อเป็นองค์ ระหว่างประเทศในการศึกษาวิจัย และพัฒนา
เทคโนโลยีในการผลิตเครื่องกำเนิดโอโซนมีปลอดภัย และมีประสิทธิภาพกับการใช้งาน ทั้งทางด้าน
วิทยาศาสตร์ อุตสาหกรรม เกษตรกรรม การแพทย์ และอื่น ๆ ทั้งนี้ เพราะก๊าซโอโซนมีคุณสมบัติ
เด่นชดั ในการหาเชอ้ื โรค กำจดั สารพษิ ดบั กลิน่ ฟอกสี และการเพม่ิ ออกซเิ จนในน้ำ

สำหรับประเทศไทย ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา มีการใช้ก๊าซโอโซนในการบำบัดน้ำเสียกันบ้าง
แต่ก็มีไม่มากนักที่จะมีการใช้อย่างแพร่หลายในระยะ 3-4 ปีมานี้ซึ่งมักเป็นเครื่องที่มีกำลังผลิตขนาด
เลก็ เพื่อใชใ้ นการดับกลน่ิ และบำบดั อากาศเสยี ภายในบ้าน สำนกั งานยานพาหนะ ใชน้ ้ำโอโซนแชล่ า้ ง
พชื ผกั และเนอื้ สัตว์ และมแี นวโนม้ ท่ีจะขยายตัวมากขึ้นเชน่ เดยี วกับในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการใช้
ทำน้ำดื่ม การใช้อุตสาหกรรม ผลิตอาหาร การถนอมอาหาร การเลี้ยงสัตว์การประมง การกำจัดขยะ
มพี ิษ การแพทย์ การเพาะปลูก การใช้ ในสระวา่ ยน้ำ การบำบัดนำ้ เสยี และการป้องกันโรคระบาด

2.1.1 โอโซนตามธรรมชาติในบรรยากาศสูง ๆ
ทำหน้าที่ป้องกันอันตรายจากรังสีอุลตร้าไวโอเลตซึ่งไม่เป็นพิษ โอโซน ที่มีระดับสูง

กว่าพื้นดินมากกว่า 40 กิโลเมตรขึ้นไป จะเป็นโอโซนที่ดี ส่วนโอโซนที่ ระดับสูงกว่า
พื้นดินไม่เกิน 2 กิโลเมตร จะเป็นโอโซนที่ไม่ดี สิ่งที่ก่อให้เกิดโอโซนในระดับต่ำได้แก่
ควันของ รถยนต์ เป็นต้น
2.1.2 โอโซนท่เี ป็นพษิ ในอากาศ

เราหายใจระดับล่างจัดว่าเป็นโอโซนประเภทไม่ดีซึ่งจะมี ผลกระทบ โดยตรงต่อ
มนุษย์การใช้เครื่องผลิตโอโซนจะเป็นการสร้างโอโซนในระดับต่ำ หรือโอโซนที่ไม่ดี
ดังนัน้ ในการใช้เครอื่ งผลิตโอโซน ควรที่จะเปดิ ในขณะทีเ่ ราไม่อยูใ่ นห้อง และควรจะปิด
เครอื่ งก่อนที่เราจะเข้าสู่ หอ้ งนน้ั เปน็ ระยะเวลา ประมาณครึง่ ชั่วโมง
2.1.3 การเกิดขนึ้ ของโอโซน

รังสีจากดวงอาทิตย์ ซึ่งประกอบด้วยรังสีต่าง ๆ นั้นไม่สามารถลง มายังพื้นผิวโลก
ไดท้ กุ ประเภท ชั้นของบรรยากาศทำหน้าที่ป้องกนั รังสีเช่น รงั สีเอก็ ซแ์ ละรังสีอุลตราไว

6

โอเลตไว้ดังนั้นจะเห็นได้ว่าบรรยากาศในชั้นเทอร์โมสเฟียร์ และชั้นบนของเมโซฟอส
ทำหน้าที่ป้องกันโลกจากรังสีเอกซ์ และรังสีอัลตราไวโอเลตในช่วงคลื่นสั้นต่อจากนั้น
บรรยากาศในชั้นสตราโทรเฟียร์จะดูดซึมรังสีอัลตรา ไวโอเลต ที่หลงเหลือบางส่วน
เอาไว้รงั สีอัลตราไวโอเลต ทำให้ก๊าซออกซิเจนในชั้นบนของสตราโทรเฟียร์แตกตัวเป็น
สอง อะตอม กา๊ ซโอโซนเกดิ ข้ึนเมือ่ อะตอมน้ีรวมตัวกับออกซเิ จนโมเลกลุ อ่นื ๆ อยา่ งไร
ก็ตามก๊าซโอโซนน้จี ะมี ความสามารถในการดูดซึมรังสีอัลตราไวโอเลตซึ่งอาจทำให้มัน
แตกตัวกลับเป็นอะตอมและโมเลกุลของ ออกซิเจนเหมือนดังเดิม การเกิดและการ
ทำลายชั้นโอโซนนี้เกิดขึ้น ต่อเนื่องในชั้นสูงที่สุดของก๊าซโอโซน คือที่ระดับประมาณ
50 กิโลเมตร การดดู ซึมรังสีอัลตราไวโอเลต จงึ ทำใหเ้ กิดความร้อนจัดในชัน้ บรรยากาศ
ระดับนี้ คือที่ระดับสูงสุดของสตราโทสเฟียร์เรียกว่า เขตอุ่น ก๊าซโอโซนแต่จะเคลื่อน
ตัวลงสู่ระดบั ต่ำ และพ้นจากรังสี อัลตราไวโอเลต ดังนั้นความเข้มข้นของก๊าซโอโซนท่ี
ระดับ ความสูงประมาณ 25-35 กิโลเมตร จึงอาจมีความ เข้มข้นสูงสุดถึง 10 ส่วน
ในล้านส่วน และก๊าซมีอายุนานนับเดือน โดยปกติโอโซนเป็นก๊าซที่ไม่คงตัวจึงจะทำ
ปฏิกิริยากับสิ่งต่าง ๆ เช่น ควัน ต้นไม้ เป็นต้น และกลายเป็นก๊าซออกซิเจน ธรรมดา
กอ่ นลงมาถึงพนื้ โลก อยา่ งไรก็ตามระดับของกา๊ ซน้ีในช้นั โอโซนจะเปลี่ยนแปลงไปตาม
วัน เวลา และสถานที่ นอกจากนั้นยังมี ความสัมพันธ์กับการหมุนเของลม และสภาพ
ภูมิอากาศอ่ืน ๆ
2.2 การประยุกต์ใชง้ านโอโซน
2.2.1 การผลิตโอโซนสามารถใช้ได้กับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่โดยการป้อนออกซิเจนผ่าน
เคร่ืองกำเนดิ โอโซน

พลังงานทาให้โมเลกุลของออกซิเจนแตกตัวเป็นอะตอมแล้วไปจับกับโมเลกุลของ
ออกซิเจน เกิดเป็นโมเลกุลของโอโซนทั้งนี้โอโซนได้ถูกนามาประยุกต์ใช้ในงานด้าน
ต่าง ๆ เช่น ใช้ปรับสภาพอากาศ เพื่อขจัดกลิ่นอับ และฆ่าเชื้อโรค ใช้ประกอบกับ
เครื่องทาน้าดื่ม ใช้ประกอบการล้างผักผลไม้ และอาหารสด ใช้ใน การแพทย์ เช่น ใช้
ฆ่าเชื้อโรคในห้องผ่าตัด ใช้บาบัดน้าในสระว่ายนา้ ใช้ในกระบวนการ ซักผ้า รวมถึงใช้
เพื่อฆ่า เชื้อโรคและปรับสภาพน้าในระบบน้าระบายความร้อนสาหรับระบบปรับ
อากาศ และกระบวนการผลติ สาหรับ ในอตุ สาหกรรม โอโซนสามารถนามาประยุกต์ใช้
ในงานกระบวนการบาบัด และปรับสภาพน้าในระบบของ โรงงานอตุ สาหกรรมเพ่ือลด
คา่ ใชจ้ า่ ยในการใชส้ ารเคมเี พอ่ื ฆ่าเช้อื โรคหรือปรับสภาพน้า และลดคา่ ใช้จา่ ย

7

2.2.2 การพฒั นาเครือ่ งให้กำเนดิ โอโซนในประเทศอตุ สาหกรรมใหญ่
ประเทศกาลังพัฒนา มากกว่า 70 ประเทศ มีเทศบาล และเมืองใหญ่กว่า 3,000

แห่งทั่วโลกเป็นเวลา 150 ปีเศษเศษ ที่มีที่มีความ พยายามที่จะลดอันตรายจากการใช้
คลอรีนโดยเพ่มิ ระบบโอโซนในการทาน้าประปา และน้าดม่ื เขา้ ไปแทน สาหรับประเทศ
ไทยเริ่มมีการใช้กันประปลายในช่วงระยะเวลาไปถึง 10 ปีเพอื่ ใช้บาบัดน้าเสียในโรงงาน
อุตสาหกรรมรมใช้ดับกลิ่น และบาบัดอากาศในตัวอาคารที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย
อยู่ใน ระยะ 3-4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นเครื่องขนาดเล็กผลิตก๊าซโอโซนใน
ระดับเป็นมิลลิกรัมตัวชั่วโมง สาหรับดับกลิ่น และ บาบัดอากาศในรถยนต์ในอาคาร
บา้ นพกั และใช้น้าโอโซนแชล่ ้างพืชผกั อาหาร และภาชนะ ส่วนการทานา้ ดม่ื บรรจุขวด
การบาบัดน้าเสีย การกาจดั ขยะพษิ การใชใ้ นสระว่ายน้า ยังมีการใชอ้ ยใู่ นวงจากัด
2.3 หลักการทา่ งานของตู้อบขจัดกล่นิ รองเท้าดว้ ยโอโซน
ตู้อบขจัดกลิ่นรองเท้าด้วยโอโซน หมายถึง การออกซิเดชั่นสูงของโอโซนกับอากาศใช้ในการทา่
ปฏิกิริยาฆ่าเชื้อโรค ด้วยการทาลายผนังเซลล์ ประสิทธิภาพเร็วกว่าคลอรีน สลายโครงสร้างของไอ
ระเหยจาก สารอินทรีย์และอนินทรีย์ให้เป็นโมเลกุลที่ไม่มีกลิ่น และไม่มีพิษ สามารถสลายโครงสร้าง
ของสารเคมีในการ กาจัดสารพิษ ท่าลายผนังเซลล์ของแบคทีเรีย ที่เป็นต้นกาเนิดของไบโอฟิล์ม
และแหลง่ สะสมตะกรนั มาใช้ในการฆา่ เช้ือโรค ดบั กลน่ิ สลายสารพษิ ในน้ำ อากาศ รวมท้ังปรับใช้ใน
ดา้ นตา่ ง ๆ เช่น การถนอมอาหาร การ ดูแลผิวพรรณ เป็นตน้
2.4 งานวจิ ัยทีเ่ กีย่ วข้อง
( จักรกริช ปาระมี และคณะ 2558 ) เนื่องจากเล็งเห็นปัญหาสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ขึ้นมา
เพ่อื อำนวยความสะดวกในการตากรองเท้าในกรณที ี่ สภาพอากาศไมเ่ อื้ออำนวย ด้วยเคร่ืองกำจัดกล่ิน
รองเท้าระบบโอโซน นวัตกรรมใหม่ ทีช่ ว่ ยกำจดั กล่ินไม่พึง ประสงค์และความชื้นในรองเท้าได้ในเวลา
เดียวกัน ให้รองเท้าของคุณแห้ง สวมใส่สบายสามารถใช้งานได้กับ รองเท้าที่ผลิตจากวัสดุต่าง ๆ
ไม่ว่าจะเป็น หนงั ผา้ ใบ ยาง ไวนลิ ผ้า พลาสตกิ หรอื สิง่ ทอสมัยใหม่ เปน็ ต้น
( ธวัช นนทธรรม และคณะ 2558 ) 1) สร้างและประเมินคุณภาพของตู้อบขจัดกลิ่นรองเท้า
ด้วยโอโซน 2) ทดสอบประสิทธิภาพและความเชื่อมั่นในการทำงานของตู้อบขจัดกลิ่นรองเท้าด้วย
โอโซน และ 3) ศึกษา ความพึงพอใจของกลุ่มผู้ใช้ตู้อบขจัดกลิ่นรองเท้าด้วยโอโซน การประเมินหา
คุณภาพการทำงานของตู้อบขจดั กล่ินรองเท้าด้วยโอโซน ประเมนิ โดยกลมุ่ ผ้ทู ่ีทำงาน เกย่ี วข้องจำนวน
5 คน การทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานและความเชื่อมั่นของตู้อบขจัดกลิ่นรองเท้าด้วยโอโซน
โดยทดสอบจำนวน 10 ครั้ง ส่วนการหาความพึงพอใจของผู้ใช้ตู้อบขจัดกลิ่นรองเท้าด้วยโอโซน
ประเมินโดยกลมุ่ ตวั อย่างจำนวน 30 คน

8

( จุมพล ฤทธี และคณะ 2558 ) เพื่อนำหลอดผลิตรังสีอัลตราไวโอเลตใช้ดับกลิ่นและฆ่าเชื้อ
แบคทีเรียในรองเทา้ โดยนำมาประยุกตใ์ ชก้ ับการทำผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เมื่อออกแบบตู้เก็บรองเท้าด้วย
ขนาดและ รูปแบบที่เหมาะสม สำหรับการใช้งาน หลังจากนั้นก็ทำการติดตั้งแผงวงจรไฟฟ้า
และชดุ ควบคมุ เมอ่ื เปิดสวติ ช์ ควบคุมหลอดรงั สอี ลั ตราไวโอเลตก็จะผลติ ก๊าซโอโซน รวมทั้งเปิดสวิตช์
ควบคุมพดั ลม เพอ่ื พดั โอโซนเข้าไปใน ชน้ั วางรองเทา้ จากนั้นโอโซนจะฆา่ เช้ือแบคทีเรีย ส่งผลให้กลิ่น
อับในรองเทา้ ลดลงและหมดไปในทสี่ ดุ

( ชัยยะ น้อยเหว่า และคณะ 2559 ) เนื่องจากในหน้าฝนเกิดพายุฝนบ่อยครั้งทำให้ส่งผล
กระทบต่อการสวมใส่รองเท้าในการใช้ในชีวิตประจำวันของนักเรียนหรือบุคคลทั่วไป
คณะผู้จัดทำจึงประดิษฐ์คิดค้นเครื่องอบรองเท้าอัตโนมัติ เพื่ออำนวยความสะดวกในการตากรองเท้า
ในเวลาทีอ่ ากาศไม่เอ้ืออำนวยหรือฝนตกในตอนกลางคนื ชว่ ยกำจดั ความช้ืนหรอื เปียกจากการโดนฝน
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แบบสอบถามความพึงพอใจ คู่มือการใช้ตู้อบรองเท้าอัตโนมัติ
ผลการวิจัยสำหรับนักเรียน นักศึกษา คณะครูอาจารย์และ บุคคลทั่วไป ที่ทำการใช้ตู้อบรองเท้า
อัตโนมัติ พบว่า มีการตอบรับที่ดีในการใช้เครื่องนี้ สามารถใช้งานได้จริงและประหยัดเวลาได้มาก
และไม่มกี ล่ินอบั
2.5 กรอบแนวคิดการวิจยั

ตวั แปรต้น ตวั แปรตาม
กลิ่นรองเท้า
ตขู้ จัดกลิ่น
รองเทา้ ด้วย
หลอดผลิตโอโซน

รปู ที่ 2.1 แสดงกรอบแนวคดิ การวิจยั

บทที่ 3
วธิ ีดำเนินการวจิ ยั

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ สร้างตู้ขจัดกลิ่นรองเท้า เพื่อขจัดกลิ่นอันไม่ประสงค์รองเท้า
แก่ผู้ใช้งาน เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ชั้นปีที่ 2 ห้อง 1
สาขาวิชาเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล วิทยาลัยเทคนิคระยอง ที่มีต่อตู้ขจัดกลิ่นรองเท้า เผยแพร่ผ่าน
โครงการประกวดโครงงานวิชาชีพ ชมรมวิชาเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล วิทยาลัยเทคนิคระยอง
ซ่งึ คณะผ้วู จิ ัยได้ดำเนนิ การศกึ ษา ตามข้นั ตอนนี้
3.1 ประชากรและการสุ่มกลุ่มตวั อย่าง

นักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ชั้นปีที่ 2 ห้อง 1 สาขาวิชาเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล
วิทยาลัยเทคระยอง เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ
ชัน้ ปที ี่ 2 ห้อง 1 สาขาเทคโนโลยีธุรกจิ ดิจิทลั วิทยาลัยเทคนิคระยอง
3.2 การสร้างเครอื่ งมือในการวิจัย

3.2.1 เคร่อื งมือท่ใี ชใ้ นการสรา้ ง ตขู้ จดั กลนิ่ รองเท้า ไดแ้ ก่ คอมพิวเตอร์ท่ีเชอื่ มตอ่ อนิ เทอร์เน็ต
โปรแกรม Arduino , พาวเวอร์ซัพพลาย , บอร์ดอาดูโน่ R3 , รีเลย์ 4 ช่อง , รีเลย์ 2
ช่อง , สามจัมเปอร์ , โฟโต้บอร์ด , บัซเซอร์ , จอLCD , สวิตช์ , หลอดโอโซน , พัดลม
DC และไม้อัด

3.2.2 เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน นักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ชั้นปีที่ 2 ห้อง 1
สาขาวิชาเทคโนโลยีธรุ กิจดิจิทัล วิทยาลัยเทคนิคระยอง เพื่อศึกษาความพึงพอใจของ
นักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ชั้นปีที่ 2 ห้อง 1 สาขาเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล
วิทยาลัยเทคนคิ ระยอง

3.3 การดำเนนิ งานการวิจยั
การดำเนินงานการวจิ ยั มขี นั้ ตอนดงั น้ี
3.3.1 ข้ันเตรยี ม
3.3.1.1 สืบค้นอุปกรณ์และข้อมูลที่เก่ียวขอ้ งกับระบบเซน็ เซอร์ และโปรแกรมทีใ่ ช้ใน
การเขยี นโคด้ ในการทำงานการวิจัย
3.3.1.2 เตรยี มอุปกรณแ์ ละโปรแกรมท่ใี ชใ้ นการสร้างช้ินงาน คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมตอ่
อนิ เทอรเ์ นต็ , Arduino , และอปุ กรณ์ตา่ งๆ
3.3.2 ขั้นดำเนินการ
3.3.2.1 เตรียมอปุ กรณแ์ ละโปรแกรมท่ีใชก้ ารทำงาน

10

รปู ท่ี 3.1 แสดงคอมพิวเตอร์ รปู ที่ 3.2 แสดงโลโก้ Arduino

รปู ท่ี 3.3 พาวเวอร์ซัพพลาย รูปท่ี 3.4 บอร์ดอาดโู น่ R3

รูปท่ี 3.5 รเี ลย์ 4 ชอ่ ง รูปท่ี 3.6 รเี ลย์ 2 ชอ่ ง

รูปท่ี 3.7 สายจมั เปอร์ รูปที่ 3.8 โฟโตบ้ อรด์

11

รปู ท่ี 3.9 บซั เซอร์ รูปที่ 3.10 จอLCD
รูปที่ 3.11 สวิตช์ รูปที่ 3.12 หลอดโอโซน

รปู ท่ี 3.13 พัดลม DC รูปท่ี 3.14 ไม้อัด

12
3.3.2.2 เปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ให้พร้อมใช้งาน เข้าโปรแกรม Arduino เพื่อทำการ
เขียนโคด้ ลงบอรด์

รูปที่ 3.15 แสดงการเขยี นโค้ดการทำงานของชิ้นงาน
3.3.2.3 ต่อสายจัมเปอรบ์ อรด์ อาดโู นเ่ ข้ากบั จอLCD และใชส้ ายจัมเปอรจ์ ากบอรด์ ต่อ
เข้ากบั โฟโตบ้ อร์ด เพื่อใหส้ วิตช์รับค่าจากบอร์ด

รปู ที่ 3.16 แสดงการทดลองการรับคา่ จากสวิตช์

13

3.3.2.4 ทำการประดิษฐ์ตู้ขจัดกลิน่ รองเท้าจากไม้อดั

รูปที่ 3.17 แสดงตู้ขจดั กล่นิ รองเท้า
3.3.2.5 ทำการเจาะรูข้างตูเ้ พ่ือใส่พดั ลม DC

รปู ท่ี 3.18 แสดงการตดิ พดั ลมขา้ งในตู้

14

3.3.2.6 เรม่ิ ทำการเจาะตู้ใสจ่ อLCD และเจาะรูใส่สวติ ช์

รปู ที่ 3.19 แสดงจอLCDบนฝาตู้

รปู ที่ 3.20 แสดงรูสวิตช์

15

3.3.2.7 ทำการตดิ ต้ังอุปกรณ์กับตู้ขจดั กลนิ่ รองเทา้

รูปที่ 3.21 แสดงตดิ ตง้ั พาวเวอร์ซัพพลาย เต้ารับ รีเลย์ และบอรด์ อาดโู น่

รูปที่ 3.22 แสดงตดิ รเี ลย์ 2 ช่อง บัซเซอร์ โฟโต้บอรด์ และเชือ่ มตอ่ สายไฟ
รูปท่ี 3.23 แสดงติดหลอดโอโซน

16

3.3.2.8 ติดตั้งอปุ กรณเ์ สร็จเรียบร้อยพร้อมใชง้ าน

รูปท่ี 3.24 แสดงตู้ขจัดกลิน่ รองเทา้ ท่ีพรอ้ มใชง้ าน
รูปท่ี 3.25 แสดงจอLCDและสวติ ช์พรอ้ มใชง้ าน

17

3.4 แผนผังงาน
3.4.1 แผนผงั ดำเนนิ การวิจัย

สรา้ งตขู้ จดั กลน่ิ รองเทา้

18

3.4.2 แผนผงั ช้ินงาน

19

3.5 การเก็บรวบรวมขอ้ มลู
3.5.1 จัดทำแบบประเมินความพงึ พอใจของนักเรียนระดับประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ ช้ันปที ี่ 2
ห้อง 1 สาขาวิชาเทคโนโลยธี รุ กิจดจิ ิทัล วิทยาลัยเทคนิคระยอง ทม่ี ตี ู้ขจัดกลิน่ รองเท้า
3.5.2 อธิบายข้นั ตอนการทำงานของตู้ขจัดกลิ่นรองเทา้ และการทำแบบประเมินความพึงพอใจ
3.5.3 นำตู้ขจัดกลิน่ รองเทา้ ไปใชก้ ับกลุ่มตวั อยา่ งและการทำแบบทดสอบตู้ขจัดกล่นิ รองเท้า
3.5.4 แจกแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวชิ าชีพ ชัน้ ปีท่ี 2
ห้อง 1 สาขาวิชาเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล วิทยาลัยเทคนิคระยอง ที่มีต่อตู้ขจัดกล่ิน
รองเทา้ และทำการประเมินหลังการใช้ตู้ขจดั กล่นิ รองเท้า
3.5.5 นำข้อมลู มาวิเคราะห์สรปุ อภิปรายผล

3.6 สถิตทิ ใ่ี ชแ้ ละวิธวี เิ คราะหข์ ้อมลู
3.6.1 สถติ ทิ ใี่ ช้ในการวิเคราะหข์ ้อมลู ได้แก่ คา่ ร้อยละ (%) ค่าเฉลย่ี (Mean) คา่ ส่วนเบ่ียงเบน
มาตรฐาน (S.D.) ดงั น้ี
3.6.1.1 คา่ รอ้ ยละ (%) โดยใชส้ ูตร
รอ้ ยละ = ×100



โดยท่ี
แทน จำนวนท่ตี อ้ งการหารอ้ ยละ
แทน จำนวนขอ้ มลู ทั้งหมด

3.6.1.2 คา่ เฉล่ีย (Mean) โดยใชส้ ูตร
̅ = ∑



โดยที่
̅ แทน ค่าเฉล่ยี
∑ แทน ผลรวมของคะแนนทั้งหมด
แทน จำนวนทง้ั หมด

3.6.1.3 คา่ เบีย่ งเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) โดยใชส้ ูตร

. . = √ ∑ 2−( )2

n(n−1)

โดยที่
. แทน คา่ เบีย่ งเบนมาตรฐาน
∑ แทน ผลรวมทง้ั หมดของคะแนน
∑ 2แทน ผลรวมของคะแนนยกกำลังสองทงั้ หมด

20

แทน จำนวนทงั้ หมด
3.6.2 วิธกี ารวิเคราะห์ขอ้ มลู

ขอ้ มลู ท่ีไดจ้ ากการรวบรวมจะดำเนนิ การแปลความหมายของคา่ เฉลยี่ ในแต่
ละด้านโดยใช้เกณฑก์ ารประเมิน แบง่ ออกเป็น 5 ระดับ ดังน้ี

ค่าเฉล่ยี 4.50 – 5.00 หมายถึง มากท่สี ดุ
ค่าเฉลี่ย 3.50 – 4.49 หมายถึง มาก
ค่าเฉล่ีย 2.50 – 3.49 หมายถึง ปานกลาง
คา่ เฉลี่ย 1.50 – 2.49 หมายถึง น้อย
คา่ เฉล่ยี 1.00 – 1.49 หมายถึง น้อยท่ีสุด

บทท่ี 4
ผลการวจิ ยั

การดำเนนิ โครงการวิจัยคร้งั นี้ไดม้ ีการตดิ ตามประเมินผล ผู้ประเมนิ ผลดำเนินการวิเคราะห์
ขอ้ มูลและแปรความตามลำดับ ดังนี้
4.1กกผลการดำเนินการ

ผลดำเนนิ งานโครงการตู้ขจัดกลิ่นรองเท้า จากการวเิ คราะห์ข้อมูลท่วั ไปของผูต้ อบ
แบบสอบถามทั้งหมดจำนวน 31 คน

ตารางที่ 4.1 แสดงจำนวนของผตู้ อบแบบสอบถามจำแนกตามเพศ

กลุม่ ท่ี เพศ จำนวน รอ้ ยละ
1 ชาย 2 6.5
1 หญิง 29 93.5
รวม 31 100

จากตารางที่ 4.1 พบว่าจำนวนของผตู้ อบแบบสอบถามจำแนกตามเพศ ได้แกเ่ พศชาย จำนวน
2คน คิดเป็นจำนวนรอ้ ยละ 6.5 และเพศหญงิ จำนวน 29 คน คิดเปน็ จำนวนรอ้ ยละ 93.5

แผนภูมจิ ำแนกตามเพศ

6.5%

93.5%

ชาย หญิง
ภาพที่ 4.1 แสดงแผนภมู ิจำแนกตามเพศ

22

ตารางที่ 4.2 แสดงจำนวนของผู้ตอบแบบสอบถามจำแนกตามอายุ

กลมุ่ ท่ี อายุ จำนวน รอ้ ยละ
1 15-16 ปี 1 3.2
2 17-18 ปี 30 93.5
3 19-20 ปี 0 0
รวม 31 100

จากตารางที่ 4.2 พบว่าจำนวนของผู้ตอบแบบสอบถามจำแนกตามอายุ ได้แก่ 15-16 ปี
จำนวน 1 คน คิดเป็นจำนวนร้อยละ 3.2 และ 17-18 ปี จำนวน 30 คน คิดเป็นจำนวนร้อยละ 93.5
และ 19-20 ปี จำนวน 0 คน คดิ เป็นจำนวนร้อยละ 0

แผนภูมิจำแนกตามอายุ

Column1

3.2%

93.5%

15-16 ปี 17-18 ปี 19-20 ปี

ภาพท่ี 4.2 แสดงแผนภูมจิ ำแนกตามอายุ

23

ตารางที่ 4.3 แสดงความพึงพอใจดา้ นการออกแบบ

เรื่องการประเมิน ค่าเฉล่ีย สว่ นเบีย่ งเบน ระดบั ความพึง
มาตรฐาน พอใจ
( ̅ ) ( S.D )
0.55 มาก
1.วสั ดุท่ใี ชม้ ีความเหมาะสม 4.39 0.72 มากที่สุด
4.42
2.ชนิ้ งานโครงงานมีความ 4.35 0.66 มากท่สี ุด
แข็งแรง 4.39
3.ขนาดของชิ้นงานมีความ 0.59 มาก
เหมาะสม

รวมท้ังส้ิน

จากตารางที่ 4.3 พบว่าความพึงพอใจด้านการออกแบบอยู่ในระดับมาก ( ̅ = 4.39 ,
S.D = 0.59) เมื่อพิจารณาแล้ววสั ดุที่ใช้มีความเหมาะสม ( ̅ = 4.39 , S.D = 0.55) ชนิ้ งานโครงงาน
มีความแข็งแรง ( ̅ = 4.42 , S.D = 0.72) ขนาดของชิ้นงานมีความเหมาะสม ( ̅ = 4.35 , S.D =
0.66) ตามลำดับ

แผนภูมแิ สดงความพึงพอใจดา้ นการออกแบบ

5 4.39 4.42 4.35

4

3

2

1

0 1 0.55 2 0.72 3 0.66

คา่ เฉลีย่ ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน

ภาพท่ี 4.3 แสดงแผนภมู ิแสดงความพึงพอใจด้านการออกแบบ

24

ตารางท่ี 4.4 แสดงความพงึ พอใจดา้ นการใช้งาน

เรอื่ งการประเมนิ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบย่ี งเบน ระดบั ความพึง
มาตรฐาน พอใจ
( ̅ ) ( S.D )
0.56 มากที่สดุ
4.วสั ดทุ ี่ใชม้ คี วามเหมาะสม 4.45 มาก
4.42 0.56
5.ชน้ิ งานมคี วามปลอดภยั 4.45 0.72 มากที่สดุ

6.เพม่ิ ความสะดวกและ 4.44 0.53 มาก
ประหยดั เวลา

รวมท้ังส้ิน

จากตารางที่ 4.4 พบว่าความพึงพอใจด้านการใช้งานอยู่ในระดับมากที่สุด ( ̅ = 4.44 ,
S.D = 0.53) เมื่อพิจารณาแล้ววัสดุที่ใช้มีความเหมาะสม ( ̅ = 4.45 , S.D = 0.56) ชิ้นงานมีความ
ปลอดภัย ( ̅ = 4.42 , S.D = 0.56) เพิ่มความสะดวกและประหยัดเวลา ( ̅ = 4.45 , S.D = 0.72)
ตามลำดบั

แผนภูมิแสดงความพึงพอใจดา้ นการใชง้ าน

5 4.45 4.42 4.45

4

3

2

1

0 1 0.56 2 0.56 3 0.72

คา่ เฉลย่ี ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ภาพที่ 4.4 แสดงแผนภูมิแสดงความพึงพอใจดา้ นการใช้งาน

25

ตารางท่ี 4.5 แสดงความพงึ พอใจดา้ นผลสัมฤทธ์ิ

เรือ่ งการประเมิน ค่าเฉล่ยี ส่วนเบยี่ งเบน ระดับความพึง
มาตรฐาน พอใจ
( ̅ ) ( S.D )
0.56 มากท่สี ุด
7.สามารถนำไปใช้ประโยชน์ 4.58
ได้จรงิ 0.62 มากทสี่ ุด
8.ช่วยอำนวยความสะดวก 4.45 0.56 มากทสี่ ดุ
4.55
9.ความพึงพอใจของผูใ้ ชง้ านท่ี 0.51 มากทส่ี ุด
มตี ่อโครงงาน 4.53

รวมท้ังสิน้

จากตารางที่ 4.5 พบว่าความพึงพอใจด้านผลสัมฤทธิ์อยู่ในระดับมากที่สุด ( ̅ = 4.53 ,
S.D = 0.51) เมอ่ื พจิ ารณาแล้วสามารถนำไปใช้ประโยชนไ์ ดจ้ รงิ ( ̅ = 4.58 , S.D = 0.56) ชว่ ยอำนวย
คว ามสะดว ก ( ̅ = 4.45 , S.D = 0.62) คว ามพึงพอใ จข อ งผู้ ใช ้งา นที ่ม ีต่ อโ ค ร ง ง า น
( ̅ = 4.55 , S.D = 0.56) ตามลำดับ

แผนภมู แิ สดงความพึงพอใจด้านผลสัมฤทธิ์

5 4.58 4.45 4.55

4

3

2

1

0 1 0.56 2 0.62 3 0.56

ค่าเฉลีย่ สว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ภาพท่ี 4.5 แสดงแผนภมู แิ สดงความพึงพอใจดา้ นผลสมั ฤทธิ์

26

ตารางท่ี 4.6 แสดงสถิติความพงึ พอใจของนักเรียนนกั ศึกษากบั ตขู้ จดั กลนิ่ รองเท้า

เรื่องการประเมิน ค่าเฉลย่ี สว่ นเบย่ี งเบน ระดับความพึง
( ̅ ) มาตรฐาน พอใจ
ด้านการออกแบบ ( S.D )
1.วัสดุท่ใี ชม้ ีความเหมาะสม 4.39 มาก
2.ชน้ิ งานโครงงานมีความแขง็ แรง 4.42 0.55 มากท่ีสุด
3.ขนาดของช้ินงานมีความเหมาะสม 4.35 0.72 มากทสี่ ุด
4.39 0.66
รวม 0.59 มาก
ดา้ นการใช้งาน 4.45
4.วัสดุทใ่ี ช้มีความเหมาะสม 4.42 0.56 มากทส่ี ุด
5.ชน้ิ งานมีความปลอดภัย 4.45 0.56 มาก
6.เพมิ่ ความสะดวกและประหยัดเวลา 4.44 0.72
0.53 มากท่ีสุด
รวม 4.58 มาก
ด้านผลสมั ฤทธ์ิ 4.45 0.56
7.สามารถนำไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้จริง 4.55 0.62 มากที่สดุ
8.ช่วยอำนวยความสะดวก 0.56 มากที่สุด
9.ความพงึ พอใจของผใู้ ชง้ านที่มีต่อ 4.53 มากที่สดุ
โครงงาน 4.45 0.51
0.54 มากที่สุด
รวม มาก
รวมทั้งส้นิ

จากตารางที่ 4.6 พบว่าความพึงพอใจของโครงการตู้ขจัดกลิ่นรองเท้า อยู่ในระดับมาก ( ̅ =
4.45 , S.D = 0.54) ซึ่งโดยรวมถือว่าผ่านเกณฑ์ตามวัตถุประสงค์ เมื่อพิจารณาจากแบบทดสอบ 3
ด้านท่ีมคี ่าเฉลี่ยจากมากไปน้อย ได้แก่ ดา้ นการออกแบบพบว่าภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( ̅ = 4.39 ,
S.D = 0.59) ด้านการใช้งานพบวา่ ภาพรวมอยู่ในระดบั มาก ( ̅ = 4.44 , S.D = 0.53) ด้านผลสัมฤทธ์ิ
พบว่าภาพรวมอยูใ่ นระดบั มากทีส่ ดุ ( ̅ = 4.53 , S.D = 0.51) ตามลำดับ

27

แผนภมู แิ สดงสถติ ิรวมผลความพงึ พอใจ

5

4.5 4.39 4.42 4.35 4.45 4.42 4.45 4.58 4.45 4.55

4
3.5

3
2.5

2
1.5

1
0.5

0 10.55 2 0.72 3 0.66 4 0.56 5 0.56 6 0.72 7 0.56 8 0.62 9 0.56

ค่าเฉล่ยี สว่ นเบี่บงเบนมาตรฐาน

ภาพที่ 4.6 แสดงแผนภูมิแสดงสถติ ริ วมผลความพงึ พอใจ

บทที่ 5
สรปุ ผลการวิจยั อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ

การดำเนินโครงการครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนระดับ
ประกาศนียบัตร วิชาชีพ ชั้นปีที่ 2 ห้อง 2 สาขาเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล วิทยาลัยเทคนิคระยอง
ท่มี ตี อ่ ตู้ขจดั กลิ่นรองเทา้

ในการประเมินผลครั้งนี้ให้กลุ่มประเมินจากการใช้งานจากการใช้งานแบบประเมินความพึ ง
พอใจ เพื่อใช้งานในโครงการ และให้กลุ่มประเมินทำแบบประเมินคุณภาพการดำเนินการสร้างแบบ
ประเมิน ความพงึ พอใจเพ่ือใชง้ านตู้ขจัดกลิ่นรองเท้า และนำแบบประเมินที่ได้ไปหาประสิทธิภาพโดย
ใช้สูตรหาค่าเฉลี่ย STDEV

5.1 สรปุ อภิปรายผล
5.1.1 ข้อมลู ท่ัวไปของผูต้ อบแบบสอบถาม
จากการประเมินโครงการตู้ขจัดกลิ่นรองเท้า เพื่อใช้งานใน โครงการแบบ

ประเมินความพึงพอใจ ผลที่ได้คือจำนวนร้อยละของผู้ตอบแบบประเมินความพึงพอใจ จำแนกตาม
เพศ เพศชายคดิ เป็นร้อยละ 6.5 เพศหญิงคดิ เป็นร้อยละ 93.5 ของประชากรทง้ั หมด

5.1.2 ความพงึ พอใจในด้านตา่ งๆ

ความพึงพอใจต่อโครงการตู้ขจัดกลิ่นรองเท้า อยู่ในระดับมาก ( ̅= 4.45 ,
S.D = 0.54) ซึ่งโดยรวมถือว่าผ่านเกณฑ์ตามวัตถุประสงค์ เมื่อพิจารณาจาก แบบทดสอบ 3 ด้านที่มี

ค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อย ได้แก่ ด้านการออกแบบพบว่าภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( ̅= 4.39 ,

S.D = 00.59) ด้านการใช้งานพบว่าภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( ̅= 4.44 , S.D = 0.53)

ดา้ นผลสัมฤทธิพ์ บว่าภาพรวมอยูใ่ นระดับมากทีส่ ุด ( ̅= 4.53 , S.D = 0.51) ตามลำดับ
5.2 ข้อเสนอแนะ
5.2.1 ขอ้ เสนอแนะจากการทำโครงการ
1) ควรปรับปรุงขนาดของตู้
2) ควรปรบั ปรงุ ความทนทานของตตู้ อ่ สภาพแวดลอ้ ม
5.2.2 ขอ้ เสนอแนะเพือ่ ทำโครงการตอ่ ไป
1) ควรศกึ ษาเกย่ี วกับหลอดโอโซนมากกว่านี้
2) ควรศกึ ษาโค้ดArduinoและการต่อวงจร

บรรณานุกรม

อมรเทพ แอวงค์. พัดลมระบายความร้อน แหล่งข้อมูล: http://www.ventilation-fan-
center.com/cooling-fan.html, สืบคน้ เมอ่ื วันที่ 12 พฤศจกิ ายน 2564

สื่อออนไลน์. โอโซนคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร แหล่งข้อมูล: WWW. เกร็ดความรู้. Net/
โอโซน/, สบื ค้นเมอื่ วันท่ี 12 พฤศจกิ ายน 2564

จักรกริช ปาระมี และคณะ. (2558). ตู้ขจัดกลิ่นรองเท้า แหล่งข้อมูล: วิทยาลัยเทคโนโลยี
พายพั และบรหิ ารธรุ กจิ , สบื คน้ เมื่อวนั ท่ี 14 พฤศจกิ ายน 2564

ธวัช นนทธรรม และคณะ. (2558). การสร้างตู้อบขจัดกลิ่นรองเท้าด้วยโอโซน แหล่งข้อมูล:
วิทยาลัยเทคนิคเชียงใหม่ สถาบันการอาชีวศึกษาภาคเหนือ 1, สืบค้นเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน
2564

สื่อออนไลน์. การประยุกต์ใช้โอโซนในอุตสาหกรรม แหล่งข้อมูล: WWW. Energysaving
media.com/, สืบคน้ เม่อื วันที่ 14 พฤศจกิ ายน 2564

สื่อออนไลน์. การใช้งาน Arduino Timer1 Interrupt เป็นนาฬิกาจับเวลา แหล่งข้อมูล:
http://www.thaidbselec.com/article/47/, สบื คน้ เมอ่ื วนั ท่ี 25 พฤศจิกายน 2564

สื่อออนไลน์. นาฬิกาจับเวลา Arduino แหล่งข้อมูล: https://youtu.be/xOoROfhV4Qw,
https://drive.google.com/file/d/0B15MFIcRT5KUdk5OQ09LSlZjVWc/view?resourcekey=
0-jQe0nN-H_3bIVjNftlH7Aw, สบื ค้นเมื่อวนั ท่ี 26 พฤศจิกายน 2564

สื่อออนไลน์. สอนใช้งาน จอ LCD IIC/I2C Interface ด้วย Arduino แหล่งข้อมูล:
https://www.ab.in.th/article/57, สบื ค้นเมอื่ วันท่ี 20 พฤศจกิ ายน 564

ภาคผนวก

ภาคผนวก ก

แบบเสนอขออนุมัติโครงงาน

แบบเสนอโครงการวิจยั สิง่ ประดิษฐ์คนรนุ่ ใหม่
(ว-สอศ-2)

ประจำปีการศกึ ษา 2564
ปพี ุทธศักราช 2563 - 2564

ผลงานส่ิงประดิษฐ์ประเภทท่ี 1
สง่ิ ประดษิ ฐ์ดา้ น คุณภาพชีวิต

ตู้ขจดั กล่ินรองเทา้ (Box off smell)

วิทยาลยั เทคนิคระยอง
อาชีวศึกษาจงั หวดั ระยอง
สำนักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา

กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

33

สำนักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา แบบ ว-สอศ-2

(สำหรับนักเรยี น นักศึกษา)

แบบเสนอโครงการวิจยั สง่ิ ประดิษฐข์ องคนรุ่นใหม่ “สดุ ยอดนวตั กรรมอาชวี ศกึ ษา”

การประกวดสิ่งประดษิ ฐข์ องคนรุ่นใหม่ ประจำปกี ารศกึ ษา 2564

ปพี ทุ ธศกั ราช 2563 – 2564

......................................................................

ชอ่ื ผลงานวิจยั (ภาษาไทย) ตขู้ จัดกลน่ิ รองเท้า

(ภาษาองั กฤษ) Box off smell

ชอื่ สถานศึกษา วทิ ยาลัยเทคนคิ ระยอง อาชีวศึกษา จังหวัดระยอง

ท่ีอยู่ 086/13 ตำบล ท่าประดู่ อำเภอ เมือง จังหวัด ระยอง

เบอร์โทรศพั ท์ 038 – 611192 E-mail [email protected]

ส่วน ก : ลักษณะงานวจิ ัย

 งานวจิ ัยใหม่  งานวจิ ยั ตอ่ เนือ่ งระยะเวลา..........…..ปี

ความสอดคล้องระดับชาติ
1. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติฉบับท่ี 12
ยุทธศาสตร์ สรา้ งความเขม้ แข็งทางเศรษฐกจิ และแขง่ ขนั ได้อย่างย่ังยนื
2. นโยบายและยุทธศาสตร์การวิจยั ของชาติฉบบั ที่ 9
ยุทธศาสตร์ ส่งเสริมกลไกและกิจกรรมการนำกระบวนการวิจัยผลงานวิจัย
องค์ความรู้ นวัตกรรม และเทคโนโลยีจากงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ได้จริง
โดยความรว่ มมอื ของภาคส่วนต่าง ๆ
3. ยทุ ธศาสตรก์ ารวิจัยของชาตริ ายประเด็น
ยุทธศาสตร์ การพฒั นาเทคโนโลยี
4. ยทุ ธศาสตรป์ ระเทศ
ยทุ ธศาสตร์ การพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัย และนวัตกรรม
5. นโยบายรัฐบาล/เป้าหมายของรัฐบาล
นโยบาย/เป้าหมาย การพัฒนาและส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์
เทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนานวตั กรรม

34

ความสอดคล้องระดบั กระทรวง
1. นโยบายของรฐั มนตรวี า่ การกระทรวงศกึ ษาธิการ
นโยบาย การศึกษาเพื่ออาชีพและสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของ
ประเทศ
2. ยุทธศาสตรก์ ระทรวงศกึ ษาธิการ
ยุทธศาสตร์ ผลิตและพัฒนากำลังคน รวมทั้งงานวิจัยที่สอดคล้องกับความ
ตอ้ งการของประเทศ
3. ยุทธศาสตรส์ ำนักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา
ยุทธศาสตร์ ดา้ นการสรา้ งความสามารถในการแข่งขัน

ความสอดคลอ้ งระดับส่วนภูมภิ าค
1. ยทุ ธศาสตร์กลมุ่ จังหวัดภาคตะวนั ออก
ยทุ ธศาสตร์ สง่ เสรมิ และพฒั นาอุตสาหกรรมใหเ้ ปน็ มติ รต่อสิง่ แวดล้อม
2. จังหวดั ระยอง
ยุทธศาสตร์ การพัฒนาความเป็นเลิศด้านการศึกษา ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม
ภมู ปิ ัญญาท้องถน่ิ และการกฬี า
3. พนั ธกจิ หรอื นโยบายของสถานศกึ ษา/สถาบันการอาชีวศกึ ษา
พันธกิจหรือนโยบาย มีการวิจัยและพัฒนาเพื่อส่งผลไปสู่ความเข้มแข็งของ
สถาบนั และชมุ ชนใหส้ อดคลอ้ งกบั ภมู ิปญั ญาของทอ้ งถ่ิน

โครงการวจิ ัยนี้ สามารถนำไปเผยแพรแ่ ละขยายผลไปสู่การใช้ประโยชนไ์ ด้
 เชิงนโยบาย (ระบุ) .................................................................................
 เชิงพาณชิ ย์ (ระบุ) .................................................................................
 เชงิ วิชาการ (ระบ)ุ .................................................................................
 เชิงพ้นื ที่ (ระบ)ุ ......................................................................................
 เชิงสาธารณะ/สังคม (ระบุ) ...................................................................
 อื่น ๆ (ระบ)ุ ...........................................................................................

35

ภาพแบบรา่ ง/หรอื ภาพผลงานส่ิงประดิษฐ์

ส่วน ข : องคป์ ระกอบในการจัดทำโครงการวจิ ยั
1. ผู้รบั ผดิ ชอบประกอบดว้ ย
1.1 หวั หนา้ ทีมโครงการวิจัย
ชื่อ นางสาวนงนภัส นามสกลุ แย้มกล่ิน
ตำแหน่ง นักศึกษา
ท่ีอยู่ 13/11 หมู่ 13 ต.ตะพง อ.เมือง จ.ระยอง 21000
เบอร์โทรศพั ท์ 0610238416
E-mail [email protected]
1.2 นักวิจัยรนุ่ ใหม่/คณะผูร้ ว่ มวิจัย
1.2.1 ชอื่ นางสาวเจณปรีญา นามสกุล ชา้ งพาลี
ตำแหนง่ นักศกึ ษา
ระดับชัน้ ปวช.3/1 สาขาวิชา เทคโนโลยีธรุ กจิ ดจิ ิทลั
1.3 คณะผ้รู ว่ มวิจยั /ที่ปรกึ ษาโครงการวิจัย
1.3.1 ชอื่ นายมงคล นามสกุล พรมประเสริฐ
ตำแหนง่ ครูอตั ราจา้ ง
แผนกวชิ า เทคโนโลยีธุรกจิ ดจิ ทิ ัล
สาขาวชิ าเชย่ี วชาญ นวตั กรรมซอฟต์แวร์และระบบสมองกลฝงั ตัว

36

1.3.2 ช่ือ นางสาวพัณณช์ ิตา นามสกลุ คำมะฤทธิส์ ินชยั
ตำแหนง่ ครชู ำนาญการ
แผนกวชิ า เทคโนโลยธี ุรกิจดจิ ทิ ลั
สาขาวชิ าเชย่ี วชาญ โปรแกรมสำเร็จรปู ทางสถิติ

1.4 หน่วยงานหลกั วทิ ยาลยั เทคนคิ ระยอง แผนกวชิ าเทคโนโลยีธรุ กิจดจิ ทิ ัล
1.5 หนว่ ยงานสนับสนุน(ถา้ มี)

1.5.1 หน่วยงานภาครฐั วทิ ยาลยั เทคนคิ ระยอง
1.5.2 หนว่ ยงานภาคเอกชน………….....………………………………………..
1.6 อ่ืน ๆ …………………………………………………………………………………………
2. ประเภทการวิจยั
 การวจิ ยั และพฒั นา (research and development)
3. สาขาวิชาการ/ประเภทสิ่งประดิษฐข์ องคนรุ่นใหม่
 สิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมที่ทำการวิจัย ประเภทที่ 1

สิ่งประดษิ ฐ์ดา้ นพัฒนาคุณภาพชีวติ
 สิ่งประดิษฐแ์ ละนวตั กรรมท่ีทำการวิจยั ประเภทที่ 2

สิ่งประดษิ ฐ์ดา้ นการประกอบอาชีพ
 สิ่งประดิษฐแ์ ละนวตั กรรมที่ทำการวจิ ัย ประเภทที่ 3

สงิ่ ประดษิ ฐ์ด้านเพื่อการอนรุ ักษ์พลังงาน
 สง่ิ ประดิษฐ์และนวตั กรรมท่ีทำการวจิ ัย ประเภทที่ 6

สิ่งประดิษฐ์ด้านนวตั กรรมซอฟตแ์ วร์และระบบสมองกลฝงั ตัว
 สง่ิ ประดิษฐแ์ ละนวัตกรรมที่ทำการวจิ ยั ประเภทท่ี 9

สง่ิ ประดษิ ฐ์ประเภทกำหนดโจทย์ : Mini Smart Farms

37

4. คำสำคัญ (keywords) ของการวจิ ยั
4.1 บอร์ดอาดูโน่ หมายถึง เป็นบอร์ดไมโครคอนโทรเลอร์ตระกูล AVR ที่มีการ
พัฒนาแบบ Open Source คือมีการเปิดเผยข้อมูลทั้งด้าน Hardware
และ Software ตัวบอร์ด Arduino ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย ดังนั้นจึง
เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นศึกษา ทั้งนี้ผู้ใช้งานยังสามารถดัดแปลง เพิ่มเติม พัฒนา
ต่อยอด
4.2 จอ LCD หมายถงึ ใช้ทำจอภาพ ใช้เป็นตัวแสดงอักขระและภาพคอมพิวเตอร์
ขนาดวางตักนิยมใช้จอภาพชนิดน้ี จอภาพนี้แม้จะใช้กำลังไฟฟ้าน้อยมาก
แต่จะชัดเจนดี

5. ความสำคญั และทีม่ าของปัญหาทท่ี ำการวจิ ยั
เกิดจากตัวพวกเราเองเลยค่ะซึ่งเนื่องจากการที่เราใส่รองเท้าเป็นเวลานาน ๆ

ไม่ใช่แค่รองเท้าคัชชูแต่เป็นรองเท้าทั่วๆไปซึ่งปัญหาเท้าเหม็นเป็นปญั หาทีพ่ บบ่อย
มาก โดยทั่วไปเจ้าของกลิ่นเท้าอาจไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำไป แต่ทราบจากคนรอบข้าง
เริ่มแสดงอาการ ทำให้เสียบุคลิกภาพและความมั่นใจต่อเจ้าของกลิ่นเท้า
ปัญหากลิ่นเท้าจะพบบ่ อยในบุ คคลที่ มีเหง่ื อออกมากและอาจ ทำให้มีเชื้ อโ ร ค
และแบคทีเรยี ดว้ ย
6. วัตถุประสงคข์ องการวจิ ยั
6.1 เพ่อื ประหยดั พลงั งานและคา่ ใช้จ่าย
6.2 เพอ่ื ฝกึ ทักษะในการทาโครงงาน
6.3 เพอื่ ดับรองกลน่ิ รองเท้าและฆ่าเช้ือแบคทเี รยี
7. ขอบเขตของการวจิ ัย

ซึ่งตู้ของเราจะเตรียมที่เจาะรูดูดอากาศเราจะติดตั้งตัวโอโซน จะทำหน้าที่
ดับกลิ่นและฆ่าเชื้อแบคทีเรียและทำการติดตั้งพัดลมดูดอากาศต่อสายไฟเจาะรู
และติดตั้งทามเมอร์และสวิตช์ซึ่งเราจะมีจอแสดงผลสำหรับบอกเวลาการทำงาน
ของตัวเครอ่ื งอย่างละเอียด
8. ทฤษฎี สมมุตฐิ าน (ถ้าม)ี และกรอบแนวความคิดของการวิจัยหรอื แบบร่าง

8.1 กระบวนการทางานของโอโซน
8.2 กระบวนการทำงานของบอร์ดอาดโู น่
8.3 การทางานของโปรแกรม ARDUINO

38

8.1 กระบวนการทางานของโอโซน
การทางานของโอโซน ด้วยคุณสมบัติพิเศษของโอโซนซึ่งเป็นก๊าซที่เป็น

Oxidizing agent ที่ดีมาก ทาให้มีการนาโอโซนมาใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวาง
ในด้านการทาความสะอาด กาจัดกลิ่น และฆ่าเชื้อโรคได้ทั้งเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส
เชื้อรา ปรสิต และจุลินทรีย์อื่น ๆ โดยโอโซนจะทาปฏิกิริยา Oxidation กับผนัง
เซลล์ของเชื้อโรค/กลิ่น ทาให้เชื้อโรค/กลิ่นสลายตัว โดยที่ระดับความเข้มข้นของ
โอโซนที่ 0.40 ppm จะมีผลทาลายเช้ือได้แก่ Candida albican, Aspergillus
fumigatus, Proteus, Clostridium, E.coli, Influenza Virus, Mycobacterium,
Pseudomonas, Salmonella typhimurium, Streptococcus, Staph. aureus
ฯลฯ และหลังจากโอโซนเกิดปฏิกิริยาแล้วนั้นจะไม่ทิ้งสารพิษตกค้างในภายหลัง
เพราะโอโซนจะสลายกลับคืนไปเป็น Oxygen ทาให้มีความปลอดภัยในการใช้งาน
โอโซนยังมีประสิทธิภาพฆ่าเชื้อโรคได้สูงกว่าเมื่อเทียบกับ UV light, HEPA Filter
หรือ สาร Chlorine และโอโซนยังมีค่าใช้จ่ายในการใช้งานและการบารุงรักษา
ตา่ มาก เม่อื เทียบกบั สารเคมฆี ่าเช้ือโรค หรอื เครอ่ื งมือกาจดั เชอ้ื อ่นื ๆ
8.2 กระบวนการทำงานของบอร์ดอาดูโน่

บอร์ดอาดูโน่ หมายถึง บอร์ดอาดเชื่อมต่อสาย USB จาก คอมพิวเตอร์ ไปที่
บอร์ด Arduino UNO R3. คลิกขวา ที่ Start เลือกไปที่ Device Manager
ตรวจสอบไดร์เวอร์ ของ Arduino UNO R3. ไปที่ Ports (COM & LPT) จะพบ
Arduino Uno ในตัวอย่างเป็น (COM3) แสดงว่าคอมพิวเตอร์ของเราสามารถ
ติดต่อส่ือสารกับ บอร์ด Arduino UNO R3 ไดแ้ ลว้
8.3 การทางานของโปรแกรม ARDUINO

มีฟังก์ชันหลักอยู่ 2 ฟังก์ชันได้แก่ ฟังก์ชัน Setup คือฟังก์ชันหลักสาหรับ
การทางาน จะทางานเพยี ง 1 ครัง้ หลังจาก ไดร้ นั โปรแกรมและจะทาการไปทางาน
ในฟังก์ชันถัดไป คือฟังก์ชัน Loop ฟังก์ชัน Loop คือฟังก์ชันการท างาน
ของฟังกช์ ัน Loop จะทางานวนซ้าไปเรื่อย ๆ เรียนว่า infinite loop การทางานท่ี
ไมม่ สี ิน้ สุด
9. การทบทวนวรรณกรรม/สารสนเทศ (information) ท่เี ก่ยี วขอ้ ง
-
10. การสบื ค้นจากฐานข้อมลู สิทธบิ ตั ร
-

39

11. เอกสารอ้างองิ ของการวิจัย
แหล่งขอ้ มลู
http://www.iven1.ac.th/main/attachments/
แหลง่ ข้อมลู
http://thaiinvention.net/detail.php?p=cHvamVjdF9pZD01MjAyMiZjZm

12. ประโยชน์ท่คี าดวา่ จะได้รบั
12.1 อานวยความสะดวกสบายต่อผู้ใชท้ ่มี ีเหงอ่ื ออกมาก
12.2 ปลอดภยั จากสง่ิ สกปรกเช้ือโรคหรือแบคทีเรีย
12.3 ถูกสขุ อนามยั และปลอดภยั

13. แผนการถา่ ยทอดเทคโนโลยีหรอื ผลการวิจยั สู่กลมุ่ เป้าหมาย
13.1 ทดลองใช้งานจริงกับกลุ่มเปา้ หมาย
13.2 เผยแพรต่ ู้ขจัดกลิ่นรองเทา้ ผ่านทางการเสนอโครงงานวิชาชีพวิชาชพี
เทคโนโลยธี รุ กจิ ดจิ ทิ ลั

14. วิธีการดำเนินการวิจัยและสถานทท่ี ำการทดลอง/เก็บขอ้ มูล
14.1 นาเสนอหัวขอ้ โครงงาน
14.2 ทาแบบเสนอขออนุมตั ิโครงงาน
14.3 คน้ คว้ารวบรวมขอ้ มูลจดั ทาโครงงาน
14.4 ปฏิบัติงานตามโครงงาน
14.5 รายงานการปฏิบตั งิ านตามขน้ั ตอน
14.6 ประเมินผลความกา้ วหน้าในการปฏบิ ตั ิงาน
14.7 สาทติ /ทดลอง ชิ้นงาน
14.8 ทาแบบสอบถามความพึงพอใจ
14.9 จดั ทาคมู่ อื การใช้งาน (ถา้ มี)
14.10 ปรับปรงุ แกไ้ ข (ถา้ ม)ี
14.11 นาเสนอผลงาน
14.12 ส่งโครงงานฉบับสมบูรณ์

15. ระยะเวลาทำการวิจัยและแผนการดำเนินงานตลอดการวิจัย
พฤศจกิ ายน 2564 ถึง มีนาคม 2565

16. ปจั จยั ที่เอื้อต่อการวจิ ัย
การไดร้ ่วมทำกับคนทเี่ ราสบายใจด้วยแล้วสนกุ ไปกบั มนั และได้การชว่ ยเหลือจาก
ที่ปรึกษาอย่างดี

40

17. งบประมาณของการวจิ ยั

17.1 งบประมาณท้ังหมด 1300 บาท

17.2 รายละเอยี ดงบประมาณคา่ ใช้จ่าย

รายละเอียดงบประมาณการวจิ ยั จำแนกตามงบประเภทต่าง ๆ (ปีงบประมาณที่เสนอขอ)

รายการ จำนวนเงนิ หมายเหตุ

1. งบบุคลากร -

ค่าจา้ งช่วั คราว

2. งบดำเนนิ งาน -

2.1 ค่าตอบแทน ใช้สอยและวสั ดุ

2.1.1 ค่าตอบแทน เชน่ ค่าตอบแทนปฏิบตั งิ านนอกเวลา

ราชการ คา่ เบ้ียเล้ียงประชมุ กรรมการ ฯลฯ

2.1.2 คา่ ใชส้ อย เช่น

1) คา่ เบี้ยเลย้ี ง ค่าเชา่ ท่พี ัก ค่าพาหนะ

2) คา่ จ้างเหมาบรกิ าร

3) ค่าใช้จา่ ยในการสมั มนาและฝึกอบรม

4) คา่ ใชส้ อยอนื่ ๆ

2.1.3 ค่าวสั ดุ เช่น

1) วสั ดสุ ำนักงาน

2) วสั ดุเชือ้ เพลงิ และหล่อล่นื

3) วัสดไุ ฟฟ้าและอเิ ล็กทรอนิกส์

4) วัสดโุ ฆษณาและเผยแพร่

5) วัสดหุ นงั สอื วารสารและตำรา

6) วสั ดุคอมพวิ เตอร์

7) วัสดุอืน่ ๆ

2.2 คา่ สาธารณูปโภค เชน่ -

คา่ ไฟฟา้ ค่าน้ำประปา ค่าโทรศัพท์ คา่ ไปรษณยี ์

คา่ บรกิ ารดา้ นส่ือสารและโทรคมนาคม

3. งบลงทุน -

คา่ ครุภัณฑ์

รวมงบประมาณท่เี สนอขอ 1300

41

18. ผลสำเรจ็ และความค้มุ คา่ ของโครงการวิจัยทค่ี าดว่าจะได้รบั
18.1 ผู้คนไดร้ บั ความสะดวกสบายมากข้ึน
18.2 คุณภาพชวี ิตดขี ้นึ

19. โครงการวิจัยน้หี รอื ส่วนใดส่วนหนึง่ หรอื งานวิจยั สบื เนอื่ งจากน้ี ไดย้ ่นื เสนอขอรบั ทุน
หรือได้รับการสนับสนนุ จากแหล่งทนุ อน่ื หรือไม่
 ไมไ่ ดย้ ื่นเสนอขอรับทุน
 ยนื่ เสนอ โปรดระบุแหล่งทุน …………………....................……………......………………
( ) ได้รับการสนับสนุน จาก…….....……ชื่อโครงการ…………...............................
( ) ไมไ่ ด้รับการสนบั สนนุ
( ) ยังไมท่ ราบผลการพจิ ารณา

20. โครงการวิจยั นมี้ ีการใช้สงิ่ มชี ีวติ ที่มีการดัดแปลงทางพนั ธุกรรมหรอื ไม่
 มี  ไม่มี

21. คำช้แี จงอืน่ ๆ (ถา้ ม)ี
……………...……………………………………………………………….…………………..............................
22. ลงชือ่ หวั หน้าทมี วิจัย (นักศึกษา)

(ลงชื่อ).....................................................
( นางสาวนงนภสั แยม้ กลนิ่ )

วันทื่ 16 เดือน พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2564
23. ลงชื่อครทู ่ปี รกึ ษางานวจิ ยั

(ลงชอื่ )...............................................................
( นางสาวพัณณ์ชติ า คำมะฤทธิ์สนิ ชัย)

วนั ที่ 19 เดอื น พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2564

24. คำรบั รองของหัวหน้าสาขาวิชาเทคโนโลยีธุรกิจดิจทิ ลั

(ลงช่ือ).....................................................
(นายอทุ ัย ศรษี ะนอก)

วนั ท่ี 17 เดอื น พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

42

ส่วน ค : ประวัติคณะผู้วิจยั
นกั เรียน นกั ศึกษา
1. ชอ่ื -นามสกุล (ภาษาไทย) นางสาว นงนภัส แย้มกล่นิ
Name – Surname (ภาษาองั กฤษ) Miss Nongnaphat Yaemklin
2. ระดับการศกึ ษา  ปวช. ชนั้ ปที ่ี 3 ปวส. ช้นั ปที ี่ .......................
สาขาวิชา พาณิชยกรรม สาขางาน เทคโนโลยีธรุ กิจดิจิทัล
ระยะเวลาทีใ่ ช้ทำวจิ ัย พฤศจิกายน 2564 – กมุ ภาพันธ์ 2565
3. ที่อยูท่ ีต่ ิดตอ่ ไดส้ ะดวก พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ และไปรษณียอ์ เิ ล็กทรอนิกส์
13/11 หมู่ 13 ต.ตะพง อ.เมือง จ.ระยอง 21000
เบอร์โทรศัพท์ 0610238416
(e-mail) [email protected]

1. ชือ่ -นามสกลุ (ภาษาไทย) นางสาว เจณปรญี า ช้างพาลี
Name – Surname (ภาษาอังกฤษ) Miss Jenpreeya Changpalee

2. ระดับการศึกษา  ปวช. ชน้ั ปีที่ 3  ปวส. ชัน้ ปีที่ .........................
สาขาวชิ า พาณิชยกรรม สาขางาน เทคโนโลยธี รุ กจิ ดิจิทัล
ระยะเวลาที่ใชท้ ำวิจยั พฤศจิกายน 2564 – กมุ ภาพันธ์ 2565

3. ท่ีอย่ทู ตี่ ิดตอ่ ไดส้ ะดวก พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ และไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์
165/1 ม.2 ถนน ซ.13 ต.มะขามคู่ อ.นคิ มพฒั นา จ.ระยอง 21180
เบอร:์ 0960594947
(e-mail) [email protected]