สถานการณ์การผลติ และการตลาดขา้ ว จงั หวดั พิษณโุ ลก ปเี พา
สินคา้ หนว่ ย ปี 2560/61 ปี 2561/62 ป
ขา้ วนาปี
เนอื้ ท่เี พาะปลูก ไร่ 1,337,171 1,339,068
ผลผลติ ตัน 723,701 736,832
ผลผลติ ตอ่ ไร่ กโิ ลกรมั 589 567
ข้าวนาปรัง
เน้อื ทเี่ พาะปลกู ไร่ 714,234 844,203
ผลผลติ ตัน 449,555 558,955
ผลผลติ ต่อไร่ กโิ ลกรมั /ไร่ 631 665
ปริมาณการใช้ (รวม) ตนั
ความตอ้ งการในจังหวัด ตัน NA NA
ความตอ้ งการนอกจังหวดั ตนั NA NA
ปรมิ าณการผลิต ตนั 1,173,256 1,295,787
ราคาขา้ วเปลอื ก ณ ความชื้น 15 %
ข้าวหอมจังหวัด บาท/ตัน 11,235 14,020
ข้าวเจ้าทวั่ ไป บาท/ตัน 7,952 7,921
ขา้ วเหนยี ว บาท/ตนั 9,156 9,834
ตน้ ทุนการผลติ ภาคเหนือ
ข้าวเจ้าทว่ั ไป บาท/ตัน 8,071 8,131
ขา้ วเหนียว บาท/ตัน 6,727 6,706
ต้นทุนการผลิตจังหวัด ปเี พาะปลูก 2562/63
ขา้ วเจ้าท่วั ไป บาท/ตนั พนื้ ท่ี S1 S2 5,910
ผลตอบแทนสทุ ธภิ าคเหนือ
ข้าวเจ้าท่วั ไป บาท/ตนั -119 -210
าะปลูก 2560/61-2564/65 ในพ้นื ทร่ี บั ผดิ ชอบของ สศท. 2 พิษณุโลก
ปี 2562/63 ปี 2563/64 Growth Rate % ปี 64-65 *ปี 2564/65
1,391,726 1,448,224 2.06 0.11 1,449,885
774,482 805,901 3.13 1.53 818,192
577 568 -0.53 1.41 576
781,212 402,669 -4.95 17.9 474,750
497,596 235,742 -6.04 15.09 271,310
-1.82 -1.19
652 590 583
813,165 NA NA
812,385 NA NA NA NA
780 NA NA NA NA
1,041,643 1,089,502
1,272,078
13,366 10,955 -1.41 -7.74 10,108
7,821 -4.86 8,024
13,863 8,434 0.33 -20.87 8,425
10,648 1.08
8,131 8,412 1.11 0.24 8,432
6,900 6,978 1.38 1.79 7,103
พ้นื ที่ S3 N 7,570
-310 22 -484 -1,922 -408
ขา้ วเหนียว บาท/ตนั 2,429 3,128
ผลตอบแทนสุทธิจงั หวัด ปเี พาะปลกู 2562/63
ขา้ วเจ้าทว่ั ไป บาท/ตัน พนื้ ที่ S1 S2 1,911
ท่ีมา : ศนู ย์สารสนเทศการเกษตร สศก. และสานกั งานเศรษฐกจิ การเกษตรท่ี 2 สศก.
หมายเหตุ
จากขอ้ มลู สมดลุ สนิ คา้ Demand Supply ขา้ วของจงั หวัดพิษณโุ ลก พบวา่ ผลผลิตขา้ ว (S
สง่ ออกต่างประเทศ อีกร้อยละ 5 เปน็ ความตอ้ งการเพอื่ ทาพันธุ์ /รอ้ ยละ 1 เป็นความตอ้ ง
เพื่อนาไปจาหน่ายในจังหวดั อ่ืน ๆ
6,964 3,670 18 -64 1,322
251
พ้ืนที่ S3 N
Supply) ร้อยละ 93.04 เป็นความต้องการของผ้ปู ระกอบการโรงสเี พือ่ แปรสภาพเป็นข้าวสาร
งการเพื่อบรโิ ภค ท่เี หลืออีกรอ้ ยละ 0.96 เป็นความตอ้ งการเพอ่ื ผู้ประกอบการโรงสี / ท่าขา้ ว
1. ข้าว
1.1 การผลิต
ขา้ วนาปี
ในช่วง 4 ปี (2560/61-2563/64) เนอ้ื ที่เพาะปลกู เพิ่มขน้ึ ร้อยละ 2.06 ต่อปี เนื่องจากราคาขา้ วอยู่ในเกณฑ์ดี
ประกอบกับภาครฐั ไดด้ าเนนิ มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผ้ปู ลูกข้าวอย่างต่อเนื่อง จงึ จงู ใจใหเ้ กษตรกรขยายพ้ืนท่ี
เพาะปลกู ในท่นี าท่เี คยปล่อยวา่ งไว้ ทาให้ผลผลติ เพ่มิ ขน้ึ รอ้ ยละ 3.13 ตามเนื้อทป่ี ลกู ทเ่ี พมิ่ ขน้ึ อีกท้งั มีหลายพนื้ ทที่ ่ี
เกษตรกรมีบ่อบาดาลในแปลงนา ทาให้มนี า้ เพยี งพอตลอดรอบการผลติ ตน้ ขา้ วเจริญเตบิ โตดี ในขณะท่ีผลผลติ ต่อไร่ ลด
ลดเหลือร้อยละ 0.53 ต่อปี เนอ่ื งจากในช่วงปี 2562-2563 ประสบปัญหาฝนท้ิงชว่ ง และภยั แลง้ ยาวนานต่อเน่ือง ซึ่งอยู่
ในชว่ งทีต่ น้ ขา้ วกาลังเจรญิ เติบโต สง่ ผลใหผ้ ลผลติ ตอ่ ไร่ลดลง
สาหรบั ปีเพาะปลูก 2564/65 เนื้อท่เี พาะปลกู ผลผลติ และผลผลติ ตอ่ ไร่ เพ่มิ ขนึ้ จาก ปี 2563/64 เลก็ น้อย รอ้ ย
ละ 0.11 ร้อยละ 1.53 และรอ้ ยละ 1.41 ตามลาดบั เน่ืองจากราคาข้าวเปลอื กทีเ่ กษตรกรขายไดย้ ังคงอยู่ในเกณฑ์ดแี มจ้ ะมี
การปรับตวั ลดลง ประกอบกบั มกี ารดาเนนิ มาตรการชว่ ยเหลือเกษตรกรจากภาครฐั ตอ่ เน่ือง ฤดูฝนมาเร็ว ซง่ึ คาดว่าจะมี
ปรมิ าณนา้ ฝนมากข้นึ และสถานการณ์ภัยแลง้ รุนแรงนอ้ ยกว่าปีท่ีผา่ นมาจูงใจให้เกษตรกรขยายพน้ื ทป่ี ลูก สายพนั ธุ์ขา้ วที่
เกษตรกรนิยมปลูก ไดแ้ ก่ ข้าวเจ้าพันธส์ุ ุพรรณบุรี พิษณโุ ลก2 ข้าวเจา้ พันธ์ุ กข.57 และข้าวเจา้ พันธุ์ กข.41
ขา้ วนาปรัง
ในชว่ ง 4 ปี (2560-2564) เนื้อท่ีเพาะปลูก ผลผลิต และผลผลิตตอ่ ไร่ ลดลงรอ้ ยละ 4.95 ร้อยละ 6.04 และรอ้ ย
ละ 1.82 ตามลาดบั เนื่องจากหลายปที ี่ผา่ นมา ปริมาณนา้ ฝนลดลง อากาศร้อนจัด อุณหภมู ิเพมิ่ สูงขน้ึ เกิดภาวะภยั แลง้
รุนแรงต่อเนื่อง ทาใหป้ รมิ าณนา้ สะสมในเขอ่ื นสาคญั อาทิ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิรกิ ิตติ์มนี ้อยมากไมเ่ พยี งพอต่อการ
เพาะปลกู ขา้ วรอบ 2 หรือขา้ วนาปรงั ทาให้กระทรวงเกษตรและสหกรณด์ าเนนิ มาตรการเขม้ งวด โดยส่งั การใหก้ รม
ชลประทานไมส่ นบั สนนุ นา้ เพ่ือการเกษตรฤดแู ลง้ ปรมิ าณนา้ จงึ ไม่เพยี งพอตอ่ การเจริญเตบิ โตของตน้ ข้าว ทาใหเ้ มลด็ ข้าว
ไมส่ มบูรณ์ ส่งผลให้ปริมาณผลผลิต และผลผลติ ตอ่ ไร่ลดลง
สาหรับปี 2564 เนอ้ื ทีเ่ พาะปลูก และผลผลติ เพิ่มขึ้นจากปี 63 ร้อยละ 17.9 และรอ้ ยละ 15.09 เนอ่ื งจาก
เกษตรกรคาดว่าปรมิ าณฝน และน้าตน้ ทนุ ในอ่างเก็บน้าและปรมิ าณนา้ ตามแหล่งนา้ ธรรมชาติมเี พียงพอต่อการผลิต ทาให้
เกษตรกรขยายพืน้ ที่ปลูกเพมิ่ ประกอบกับหน่วยงานภาครฐั มีการบริหารจดั การแหลง่ น้าไดด้ ี เกษตรกรบางรายมกี ารขดุ
เจาะบ่อบาดาลเพม่ิ เพ่อื รับมือกับปญั หาภัยแลง้ แตอ่ ย่างไรก็ตาม ผลผลติ ตอ่ ไร่ยงั คงลดลงจากปี 63 รอ้ ยละ 1.19
เน่อื งจากมแี หล่งผลิตขา้ วในบางพื้นท่ีเกดิ ภาวะฝนทง้ิ ชว่ ง ภัยแล้ง และพบการระบาดของโรคและแมลงศัตรพู ชื ทาให้ผล
ผลิตไดร้ บั ความเสียหาย
1.2 การบริหารจดั การสินค้า
1) ผลผลติ
ในช่วง 4 ปี (2560/61-2563/64) ผลผลิตข้าวนาปี (Supply) เพ่ิมขึ้นร้อยละ 3.13 ต่อปี และในปี
เพาะปลูก 2564/65 ผลผลิตเพิ่มข้ึนเป็น 818,192 ตัน โดยร้อยละ 98 เป็นผลผลิตท่ีผลิตได้ในจังหวัด ท่ีเหลืออีก
ร้อยละ 2 เปน็ ผลผลิตทนี่ าเข้าจากจงั หวดั ใกล้เคยี ง โดยจะเร่ิมทยอยเก็บเกยี่ วผลผลิตในช่วงระหว่างเดือนสิงหาคม
2564 – กมุ ภาพันธ์ 2565
2) ความต้องการใช้
จากข้อมูลปเี พาะปลูก 2562/63 ความตอ้ งการใช้ข้าวนาปี (Demand) ของจงั หวดั พิษณุโลกมี 812,385
ตัน โดยผลผลิตส่วนใหญ่ร้อยละ 93.04 เป็นความต้องการของผู้ประกอบการโรงสีเพ่ือแปรสภาพเป็นข้าวสาร
ส่งออกต่างประเทศจานวน 755,842 ตัน อีกร้อยละ 5 เป็นความต้องการเพ่ือทาพันธ์ุ 40,619 ตัน อีกร้อยละ 1
เปน็ ความตอ้ งการเพอื่ บรโิ ภค 8,125 ตัน และทเ่ี หลอื ร้อยละ 0.96 เป็นความตอ้ งการเพอ่ื ผู้ประกอบการโรงสี / ทา่
ขา้ ว เพ่อื นาไปจาหน่ายในจงั หวัดอืน่ ๆ 7,800 ตนั
ทง้ั นีจ้ ะเหน็ ได้วา่ ความตอ้ งการซ้ือผลผลิตข้าวนาปภี ายในจังหวัดพิษณโุ ลกยังคงตา่ กว่าปริมาณผลผลิตท่ี
ออกสู่ตลาด โดยเฉพาะในช่วงเดือน สิงหาคม-พฤศจิกายน ซ่ึงเป็นช่วงท่ีผลผลิตออกสู่ตลาดมาก ซึ่งอาจทาให้ไม่มี
ผลผลติ สว่ นเกนิ เหลืออยู่ในจังหวดั สง่ ผลให้ความต้องการใชข้ ้าวนาปขี องจงั หวดั พษิ ณุโลกเกิดอุปทานส่วนเกนิ (Over
Supply) นัน่ คือ มปี ริมาณผลผลติ ในจังหวัดมากกว่าปริมาณความต้องการใช้
1.3 ราคา
ปี 2560-2563 ราคาที่เกษตรกรขายได้ของข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% ข้าวเหนียว และข้าวเจ้าท่ัวไป
เพิม่ ข้ึนรอ้ ยละ 1.08 และร้อยละ 0.33 ตอ่ ปตี ามลาดับ เนอ่ื งจากบางพื้นทไ่ี ด้รับผลกระทบจากปญั หาภยั แลง้ ฝนทงิ้
ช่วง โรคและแมลงศัตรูพืชระบาดทาให้ผลผลิตได้รับความเสียหาย ปริมาณผลผลิตข้าวนาปีโดยภาพรวมลดลง
ในขณะท่ขี า้ วหอมจังหวัด (ขา้ วขาวดอกมะลิ 105) ลดลงร้อยละ 1.41 ต่อปี
ในภาพรวมปี 2564 ราคาที่เกษตรกรขายได้ของข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% ท้ังข้าวเหนียว ข้าวหอม
จังหวัด ข้าวเจ้าทั่วไป และปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก ร้อยละ 20.87 ร้อยละ 7.74 และ ร้อยละ 4.86 ตามลาดับ
เนื่องจากผลผลิตข้าวนาปี 2564/65 ที่คาดว่าจะออกสู่ตลาดในช่วงปลายปีน้ีประมาณ 29 ล้านตันข้าวเปลือก
เพิ่มขึ้นจากปี 2563/2564 ท่ีมีปริมาณ 24-25 ล้านตันข้าวเปลือก(ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งมาอย่างต่อเน่ือง)
ทง้ั น้ี สืบเนือ่ งจากในปนี ้ีหลายพื้นท่ีมีปริมาณนา้ มีมากกว่าปีทีผ่ ่านมา ผลผลติ ภาพรวมทั้งประเทศจงึ เพิ่มขน้ึ (อา้ งอิง
ข้อมูลจาก นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย) ประกอบกับต้นทุนการผลิตข้าวของไทยสูงกว่าประเทศผู้ผลิตข้าวสาคัญ
อ่ืนๆ อาทิ อินเดีย เวียดนาม เมียนมาร์ ทาให้ไทยไม่สามารถแข่งขันด้านราคากับคู่แข่งได้มากนัก ส่งผลทาให้
ปริมาณการสง่ ออกข้าวไทยลดลง แม้วา่ สถานการณ์ค่าเงนิ บาทจะอ่อนตวั แต่ยังไม่สามารถทาใหป้ ริมาณการส่งออก
เพิม่ มากข้นึ ได้มากนกั
1.4 ตน้ ทนุ และผลตอบแทนการผลิต
ในช่วง 4 ปี (2560/61-2563/64) ต้นทุนการผลิตข้าวนาปี (ภาคเหนือ) ได้แก่ ข้าวเหนียว และข้าวเจ้าท่ัวไป
เพ่ิมขึ้นร้อยละ 1.38 และร้อยละ 1.11 ต่อปี ตามลาดับ และในปี 2564/65 ต้นทุนการผลิตข้าวเหนียวอยู่ที่ 7,103 บาท/
ตัน และตน้ ทนุ การผลิตข้าวเจ้าทว่ั ไปอย่ทู ี่ 8,432 บาท/ตัน เพิม่ ข้นึ รอ้ ยละ 1.79 และร้อยละ 0.24 จากปี 2563/64
สาหรับผลตอบแทนการผลิตสุทธิข้าวภาคเหนือ ในช่วง 4 ปี (2560/61-2563/64) พบว่า ข้าวเจ้านาปีมผี ลตอบแทน
การผลิตสุทธิลดลงในอัตราที่เพ่ิมมากขึ้น ท้ังน้ีเนื่องจากการลดลงของผลผลิตต่อไร่ และต้นทุนการผลิตข้าวของเกษตรกร
ยังคงอยู่ในระดับสูง และในปี 2564/65 ข้าวเจ้าท่ัวไปภาคเหนือขาดทุนสุทธิ 408 บาท/ตัน และข้าวเหนียวนาปีมี
ผลตอบแทนสุทธิลดลงร้อยละ 64 อยู่ที่ 1,322 บาท/ตัน สาหรับผลตอบแทนสุทธิข้าวเจ้าทั่วไปจังหวัดพิษณุโลกในพ้ืนท่ี
S1 S2 อยทู่ ี่ 1,911 บาท/ตัน และ 251 บาท/ตนั ในพืน้ ท่ี S3 N
1.5 การดาเนินมาตรการชว่ ยเหลอื เกษตรกรผ้ปู ลกู ขา้ ว ปีการเพาะปลูก 64/65
1) มติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ครั้งท่ี 2/2564 วันที่ 23 ส.ค. 64
เห็นชอบในหลักการมาตรการคู่ขนาน โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/2565 รอบท่ี 1 โดย
มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง และหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องไปหารือแนวทางการจัดสรร
งบประมาณพร้อมจดั ทารายละเอียดให้ชดั เจนเพอื่ นาเสนอครม. พิจารณาตอ่ ไป
1.1) โครงการประกนั รายได้เกษตรกรผ้ปู ลูกข้าว ปี 2564/65 รอบที่ 1 กาหนดชนดิ ขา้ ว ราคา ปริมาณ
ประกันรายได้ (ณ ราคาความช้ืนไม่เกิน 15% ) ดังน้ี (1) ข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคาประกันตันละ 15,000 บาท
ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน (2) ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพ้ืนท่ี ราคาประกันตันละ 14,000 บาท ครัวเรือนไม่เกิน
16 ตนั (3)ขา้ วเปลอื กเจ้า ราคาประกันตันละ 10,000 บาท ครัวเรอื นละไมเ่ กนิ 30 ตัน (4)ข้าวเปลอื กหอมปทุมธานี
ราคาประกันตันละ 11,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ตัน และ (5) ข้าวเปลือกเหนียว ราคาประกันตันละ
12,000 บาท ครัวเรอื นละไม่เกิน 16 ตนั
1.2) มาตรการคู่ขนานโครงการประกนั รายได้เกษตรกรผปู้ ลูกข้าว ปีการผลติ 2564/65 ประกอบด้วย 3
มาตรการ ได้แก่ (1)โครงการสินเช่ือชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2564/65 (2) โครงการสินเช่ือเพื่อ
รวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพ่ิมโดยสถาบันเกษตรกร ปีการผลิต 2564/65 (3) โครงการชดเชยดอกเบ้ียให้
ผูป้ ระกอบการคา้ ข้าวในการเกบ็ สต๊อก ปีการผลิต 2563/64
1.3) โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต
2564/65 ธ.ก.ส. ดาเนินการจ่ายเงินให้เกษตรผู้ปลูกข้าวที่ข้ึนทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร ในอัตราไร่ละ
1,000 บาท ไม่เกนิ นครัวเรอื นละ 20 ไร่ (ครัวเรอื นละไม่เกนิ 20,000 บาท)
2) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดาเนินโครงการเช่ือมโยงตลาดข้าวอินทรีย์และข้าว GAP ครบวงจรใน
ระยะท่ี 2 (ปี 2565 – 2568) โดยกระทรวงพาณิชย์ และ ธ.ก.ส. ร่วมเป็นหน่วยงานร่วมดาเนินการ และให้
กระทรวงพาณชิ ย์ ร่วมดาเนนิ การประชาสัมพนั ธแ์ ละการตลาดขา้ วอนิ ทรีย์และขา้ ว GAP
3) กระทรวงพาณิชย์ จัดสรรโควตารอ้ ยละ 10 ของโควตาการสง่ ออกข้าวไปยังสหภาพยุโรป (EU) จานวน
1,700 ตันตอ่ ปี สาหรบั จดั สรรใหเ้ ฉพาะผ้ปู ระกอบการท่ีเข้าร่วมโครงการตามหลักเกณฑ์ทก่ี าหนด
4) ธ.ก.ส. สนับสนุนสินเช่ือดอกเบี้ยต่าในโครงการสินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย ให้กับกลุ่มเกษตรกร
วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์การเกษตร ท่ีดาเนินโครงการ ท้ังน้ี ประโยชน์ท่ีจะได้รับคาดว่า คือ เกษตรกรมีตลาด
รองรับผลผลิตข้าวคุณภาพที่แน่นอนไม่น้อยกว่า 30,000 ครัวเรือน มีรายได้เพิ่มข้ึนอย่างน้อย 350 ล้านบาท (ข้าว
GAP เพิ่มข้นึ ตันละ 500 บาท ขา้ วอนิ ทรยี ์เพม่ิ ขึ้นตันละ 2,000 บาท)
5) ขยายพ้ืนท่ีการผลิตข้าวคุณภาพท่ีได้รับการรับรองมาตรฐานข้าวอินทรีย์และข้าว GAP อย่างน้อย
700,000 ไร่
1.6 ปัญหาอุปสรรคภาพรวมประเทศ
1) การพฒั นาระบบชลประทานยังมีข้อจากดั ด้านกายภาพ
2) มีการระบาดของโรคและแมลงทีส่ าคญั เช่น โรคไหม้คอรวง และเพล้ียกระโดดสีน้าตาล
3) ประสิทธิภาพการผลติ ของเกษตรกรตา่ ใช้เทคโนโลยีในการผลติ ไม่เหมาะสม ขาดการประยุกตใ์ ชเ้ ทคโนโลยี
และนวัตกรรมการเกษตร และนาผลการวิจัยไปสู่การปฏิบัติ น้อย ทาให้ตน้ ทนุ การผลิตยังสูง
4) คแู่ ข่ง เช่น เวยี ดนาม ได้พฒั นาขา้ วพนื้ น่มุ ซง่ึ เป็นทน่ี ิยมในประเทศจีน ฟลิ ิปปินส์ มาเลเซีย สงิ คโปร์ กานา่
ไอวอรโ่ี คสต์ ส่งผลกระทบตอ่ การสง่ ออกข้าวไทย ประกอบกับ Yeild สูงกว่าข้าวไทย เนอื่ งจากมีระบบชลประทาน
และใช้พนั ธขุ์ ้าวทใ่ี ห้ผลผลิตสูงกว่าไทย
5) ขาดแคลนพันธ์ุขา้ วพนื้ นุม่ ที่มีคุณภาพ และผลผลิตตอ่ ไรส่ ูง เพ่ือสรา้ งขดี ความสามารถดา้ นการแข่งขนั
6) เกษตรกรในประเทศนยิ มเกบ็ เมลด็ พนั ธข์ุ า้ วหอมมะลิ ไว้ทาพนั ธ์ุเอง ซึ่งเก็บไว้หลายรอบการผลติ ทาให้
คณุ ภาพ
ของเมลด็ พนั ธ์ลุ ดลง สง่ ผลให้คณุ ภาพของผลผลติ ลดลงตลาดสง่ ออกขา้ วมกี ารแข่งขันดา้ นราคาอย่างรุนแรง เน่ืองจาก
ราคาขา้ วของอนิ เดยี โดยเฉพาะในกลุ่มของข้าวขาวและข้าวนง่ึ ยังคงอยู่ในระดับท่ีต่ากวา่ ไทยประมาณ 20-40 เหรียญ
สหรัฐตอ่ ตัน ทาให้ไทยสูญเสียสว่ นแบ่งตลาดสง่ ออกข้าวขาวและข้าวนง่ึ ไป
7) การระบาดของเช้ือไวรัส COVID-19 ส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศผู้นาเข้าข้าวทาให้
กาลงั ซื้อลดลง
1.6 ขอ้ เสนอแนะ
1) เพม่ิ ระบบชลประทานใหท้ ัว่ ถงึ ควบคู่กบั การกาหนดพน้ื ทปี่ ลกู ข้าวทเ่ี หมาะสม เพ่อื ให้สามารถดาเนนิ การตาม
นโยบายและมาตรการได้ตามเปา้ หมาย
2) สง่ เจ้าหนา้ ท่ีไปศกึ ษาขอ้ มลู การเพม่ิ ประสิทธภิ าพการผลติ และการตลาดของประเทศจนี ญีป่ นุ่ อนิ เดยี
สหรฐั อเมรกิ า เวยี ดนาม
3) กรมการข้าวควรเพิม่ บคุ ลากรขบั เคลื่อนงานเพอื่ รองรับการเพิม่ ศูนย์เมลด็ พันธอุ์ กี 6 แหง่ เพ่ือผลติ เมล็ดพันธด์ุ ี
กระจายใหเ้ กษตรกรในประเทศได้อยา่ งท่วั ถึง
4) ปรบั โครงสรา้ งการผลิตในประเทศ เพ่อื รองรับการปรบั ตัวของประชาคมเศรษฐกจิ อาเซยี น
5) ส่งเสริม สนบั สนุนให้มกี ารผลิตข้าว GAP อย่างเป็นระบบ ทงั้ ข้าวเปลอื กและขา้ วสารท่มี สี ัญลักษณ์ Q หรือ
มาตรฐานรบั รองการผลติ เชน่ ขา้ วหอมมะลิ ข้าวอินทรีย์
6) ส่งเสรมิ ใหเ้ กษตรกรใช้เทคโนโลยใี นการผลิตอยา่ งเหมาะสม โดยประสานเชือ่ มโยงรับการสนบั สนนุ จาก
สถาบนั การศึกษาในพนื้ ท่ีสงั กัด อว. และสานกั งานนวัตกรรมแหง่ ชาติ เพ่ือนาเทคโนโลยแี ละนวตั กรรมเกษตรมา
ประยุกตใ์ ชใ้ ห้มากข้ึน เพอ่ื เพ่ิมมูลค่าเปน็ function food /ลดตน้ ทุนการผลติ /เพิ่ม yield ฯลฯ
7) รณรงค์ให้มีการบริโภค และแปรรูปข้าวเพ่ือสร้างมลู คา่ เพ่ิมภายในประเทศให้มากข้ึน อกี ทงั้ เพ่อื เพ่มิ ช่องทางการ
กระจายสินคา้ ออกจากระบบการจาหน่ายเพอ่ื บรโิ ภค
8) ปรับปรุง และพัฒนาระบบการพยากรณผ์ ลผลิตให้มปี ระสิทธภิ าพมากขึ้น เพ่ือนาไปใช้ในการวางแผนเพอื่ บรหิ าร
จดั การสนิ ค้าใหเ้ กดิ สมดลุ หรือสร้างมูลคา่ ให้เพ่มิ สงู ขน้ึ วจิ ยั และพัฒนาสายพนั ธข์ุ ้าวพื้นนิ่ม นอกเหนือจาก กข79 เน้นผลิต
เมล็ดพันธใุ์ หเ้ พียงพอต่อความต้องการของเกษตรกร และความตอ้ งการของตลาดตา่ งประเทศ เพอ่ื สรา้ งความสามารถใน
การแข่งขันกับเวยี ดนามท่ีชิงตลาดข้าวขาวดอกมะลิ105 ของไทย ด้วยขา้ วพน้ื นมุ่ ไป ควบคู่กบั คน้ ควา้ วิจยั พนั ธข์ุ า้ วขาวที่
Yield สงู เพ่อื ลดตน้ ทุนต่อหนว่ ย
9) สรา้ งการรับรู้ สง่ เสรมิ และสนบั สนนุ เกษตรกร ใหป้ รับรปู แบบฟารม์ เป็น Smart Farm เพอื่ รองรับสถานการณ์การ
เปลย่ี นแปลงทางภูมอิ ากาศ (Climate Change) โดยให้ศึกษาถงึ ความคุ้มคา่ ในการลงทุนระบบเทคโนโลยนี วตั กรรมดว้ ย
…………………………………………………………………………….