บทท่ี2
เอกสารท่เี ก่ยี วข้อง
ในการจดั ทาโครงงานประวตั ิศาสตร์ เรื่องศกึ ษาลกั ษณะของเรือนแพท่ีรัชกาลท่ี๕ทรงประทบั
ณ วดั อโุ ปสถาราม อ.เมือง จ.อทุ ยั ธานี นี ้คณะผ้จู ดั ทาโครงงานได้ศกึ ษาเอกสารและจากเว็บไซต์
ตา่ งๆท่ี เก่ียวข้องดงั ตอ่ ไปนี ้
1.ศกึ ษาลกั ษณะของเรือนแพท่ีรัชกาลที่๕ทรงประทบั ณ วดั อโุ ปสถาราม อ.เมือง จ.
อทุ ยั ธานี
2.เพื่อเปรียบเทียบเรือแพในรัชกาลท่ี๕ทรงประทบั ณ วดั อโุ ปสถาราม อ.เมือง จ.อทุ ยั ธานี
กบั เรือนแพสมยั ปัจจบุ นั ในบริเวณวดั อโุ ปสถาราม
ลกั ษณะของเรือนแพที่รัชกาลท่ี๕ทรงประทบั ณ วดั อโุ ปสถาราม
โดยปกติหลงั คารูปจวั่ ของแพมกั จะปิดขอบจว่ั ด้วยไม้มีปลายหกั โค้งที่เรียกวา่ ตวั เหงา แต่การ
ประดบั หลงั คาแพด้วยชอ่ ฟา้ นนั้ คือเรื่องของการยกศกั ด์ิให้กบั แพหลงั นีว้ า่ คือท่ีประทบั ของพระมา
กษัตริย์ และในคราวที่พระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกล้าเจ้าอย่หู วั เสดจ็ ประพาสเมืองอทุ ยั ธานีครัง้
ท่ี ๒ เม่ือ พทุ ธศกั ราช ๒๔๔๙ ทรงพระราชนิพนธ์ว่า เม่ือเสดจ็ ถึงเมืองอทุ ยั ธานี “เขายืมแพวดั ไป
จอดท่ีท่ีเคยจอดแต่ก่อน”เข้าใจว่า แพท่ีทรงระบถุ งึ ทงั้ ๒ ครัง้ คือแพหลงั เดียวกนั เป็นแพหลงั คา
ประดบั ด้วยชอ่ ฟา้ แพรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกล้าเจ้าอย่หู วั เม่ือเสดจ็ ประพาสเมือง
อทุ ยั ธานีครัง้ แรก พทุ ธศกั ราช ๒๔๔๔ ซงึ่ ทรงบนั ทกึ ว่า พระครูอไุ ทยธรรมนเิ ทศ(จนั )ทาแพชอ่ ฟา้
จอดท่ีหน้าวดั อโุ ปสถารามเพื่อรับเสดจ็ ปัจจบุ นั มีแพหลงั คาทรงปัน้ หยาจอดหน้าวดั ๑ หลงั เป็นท่ี
รับรู้กบั วา่ คือแพเก่าซง่ึ พระครูอไุ ทยธรรม(จนั ) สร้างขนึ ้ เพื่อใช้รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระ
จลุ จอมเกล้าเจ้าอย่หู วั แตเ่ นื่องจากผ่านกาลเวลามานาน แพหลงนีจ้ งึ ได้รับการซอ่ มแซมและ
เปลี่ยนแปลงรูปแบบหลายครัง้ และหลกั ฐานท่ีทาให้เช่ือว่าเป็นแพหลงั เดียวกนั กบั แพ
ประวตั ิศาสตร์หลงั ดงั กลา่ วคือ ที่หน้าจว่ั มขุ หลงั คามีอกั ษร (ไทย/ขอม) ภาษาบาลีว่า “สุ อาค เต
มหาราชะ” แปลวา่ “ข้าแต่มหาราชะพระองค์เสด็จมาดี” และ๑๒0 ซง่ึ นา่ จะหมายถึงร.ศ. ๑๒0
ตรงกบั พ.ศ.๒๔๔๔
ลกั ษณะเรือแพสมยั ปัจจบุ นั บริเวณหน้าวดั อโุ ปสถาราม
จากลกั ษณะของเรือนแพ พบว่าเกือบทกุ หลงั มีลกั ษณะเป็นแพไม้ หลงั คาไมส่ งู มากนกั เพอื่
ปอ้ งกนั การต้านลม มีเลขที่บ้าน มีไฟฟา้ ใช้และทกุ แพไมม่ ีรัว้ รอบขอบชดิ ถึงแม้จะมีการแสดง
อาณาเขตจากไม้ไผ่ท่ีลอยอยใู่ นนา้ จะมีให้เหน็ ทงั้ แบบบ้านไม้ธรรมดาที่ไมไ่ ด้ตกแตง่ ประดบั
ประดามากมายและแบบท่ีเป็นเรือนทรงจวั่ แหลม,ทรงปัน้ หยา,ทรงมะลิลา โดยที่หลงั คามงุ ด้วย
หญ้าแฝก และสร้างคร่อมบนแพลกู บวบไม้ไผ่มีการทาพนื ้ ตงั้ เสา ทาคาน คล้ายๆกบั บ้านท่ีอย่บู น
บก