แบบรายงานการวิจัย (ว-สอศ-3) รายงานผลโครงการวิจัย เรื่อง ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือน Control system for turn on - off the lights in the house นางสาวปารีณา ญาติเจริญ รหัสนักศึกษา 64302040010 นางสาวนภสร บุญเกิด รหัสนักศึกษา 64302040007 ประจำปีการศึกษา 2565 ปีพุทธศักราช 2565 – 2566 โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาโครงการ 2 รหัสวิชา (30204-8503) สาขาวิชาเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล วิทยาลัยเทคนิคระยอง
ก ชื่อโครงการ ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือน Control system for turn on - off the lights in the house สาขาวิชา เทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล ผู้รับผิดชอบโครงการ 1. นางสาวปารีณา ญาติเจริญ รหัสนักศึกษา 64302040010 2. นางสาวนภสร บุญเกิด รหัสนักศึกษา 64302040007 อาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ นางศลิษา หนูเสมียน นายมงคล พรมประเสริฐ ปีการศึกษา 2565 บทคัดย่อ การจัดทำโครงการครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟใน โรงเรือน 2) เพื่อประเมินผลประสิทธิภาพของระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือน 3) เพื่อเผยแพร่ ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือนโครงการประกวดโครงการวิชาชีพ ชมรมวิชาชีพเทคโนโลยี ธุรกิจดิจิทัลกลุ่มตัวอย่าง คือ เกษตรกร จำนวน 10 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินผล คือ ระบบเปิด-ปิด ไฟในโรงเรือน และแบบสอบถามความพึงพอใจความพึงพอใจของเกษตรกร ที่มีต่อระบบเปิด-ปิดไฟใน โรงเรือนสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลที่ได้จากแบบสอบถามความพึงพอใจของเกษตรกร ที่มีต่อระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟใน โรงเรือน พบว่าเป็นเพศชายจำนวน 6คน ร้อยละ 60.00 เพศหญิงจำนวน 4คน ร้อยละ 40.00 ของประชากรทั้งหมด ความพึงพอใจภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x =4.88, S.D.=0.17) โดยแบ่งออก เป็น 3 ด้าน ดังนี้ ด้านโครงสร้างภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด(x =4.78, S.D.= 0.25) ด้านการใช้งาน รวมอยู่ในระดับมากที่สุด(x =4.93, S.D.= 0.14) ด้านความคุ้มค่าภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x =4.95, S.D.= 0.15) ตามลำดับ คำสำคัญ : การควบคุมระบบ/ Smart Farm
ข กิตติกรรมประกาศ โครงการระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือน สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยความกรุณา และข้อเสนอแนะจาก นางศลิษา หนูเสมียน อาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ นายมงคล พรมประเสริฐ ที่ให้คำ เสนอแนะ ข้อคิดต่างๆ อีกทั้งยังสละเวลามาเพื่อตรวจสอบข้อบกพร่องในการจัดทำโครงการ จึงใคร่ขอ กราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงมา ณ โอกาสนี้ คณะผู้จัดทำขอขอบคุณ คุณพ่อ คุณแม่ ครู-อาจารย์ ครอบครัว ตลอดจนผู้มีพระคุณทุกท่าน ที่ช่วยให้คณะผู้จัดทำมีความมานะพยายาม และประสบผลสำเร็จในการศึกษา ผู้จัดทำมีความซาบซึ้ง ใจในความกรุณาอันดียิ่งจากทุกท่านที่ได้กล่าวนาม และขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้ คณะผู้จัดทำ
ค สารบัญ เรื่อง หน้า บทคัดย่อ ก กิตติกรรมประกาศ ข สารบัญ ค สารบัญ (ต่อ) ค สารบัญตาราง ง สารบัญภาพ จ บทที่ 1 บทนำ 1.1 ความเป็นมาและความสำคัญ 1 1.2 วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1 1.3 ขอบเขตการวิจัย 1 1.5 คำจำกัดความที่ใช้ในงานวิจัย 2 1.6 ประโยชนที่คาดว่าจะได้รับ 2 บทที่ 2 เอกสารและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง 2.1 แนวคิดเกี่ยวกับสมาร์ทฟาร์ม 3 2.2 แนวคิดเกี่ยวกับระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือน 5 2.3 แนวคิดเกี่ยวกับ Arduino และโปรแกรมที่ใช้ 6 2.4 การเชื่อมต่อระบบกับควบคุมเครือข่าย 7 บทที่ 3 วิธีการดำเนินการ 3.1 การศึกษาข้อมูลเบื้องต้น 9 3.2 การสร้างเครื่องมือในการวิจัย 10 3.3 การดำเนินการทดลอง 10 3.4 ขั้นตอนการดำเนินงาน 11 3.5 วงจรการทำงาน 15 3.6 เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล 15 3.7 ขั้นตอนการดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูล 16
ค สารบัญ (ต่อ) เรื่อง หน้า 3.8 พิจารณาจากคะแนนตามเกณฑ์ 17 3.9 สถิติที่ใช้และวิธีวิเคราะห์ข้อมูล 17 บทที่ 4 ผลการวิจัย 4.1 ผลการดำเนินการ 19 บทที่ 5 สรุปผลการวิจัยอภิปรายผลและขอเสนอแนะ 5.1 สรุป อภิปรายผล 24 5.2 ข้อเสนอแนะ 25 บรรณานุกรม ภาคผนวก ก แบบเสนอขออณุมัติโครงการ ข เครื่องมือประเมิน ค ประวัติผู้จัดทำ
ง สารบัญตาราง ตารางที่ หน้า 4.1 แสดงจำนวนของผู้ตอบแบบสอบถามจำแนกตามเพศ 19 4.2 แสดงจำนวนของผู้ตอบแบบสอบถามจำแนกตามอายุ 20 4.3 แสดงความพึงพอใจด้านโครงสร้าง 21 4.4 แสดงความพึงพอใจด้านการใช้งาน 22 4.5 แสดงความพึงพอใจด้านความคุ้มค่า 23
จ สารบัญภาพ ภาพที่ หน้า 2-1 แสดงภาพตัวอย่างโรงเรือนฟาร์มอัจฉริยะ 4 2-2 แสดงภาพรูปแบบของสมาร์ทฟาร์ม 5 2-3 แสดงภาพบอร์ด Arduino Esp8266 6 3-1 แสดงตัวอย่างตารางทฤษฎีของมอร์แกน 10 3-2 แสดง Flow Chart การดำเนินโครงการ 11 3-3 แสดง Flow Chart ขั้นตอนการสร้างชิ้นงาน 12 3-4 แสดง Flow Chart ขั้นตอนการสร้างชิ้นงาน (ต่อ) 13 3-5 แสดง Flow Chart วิธีการทำงานของชิ้นงาน 14 3-6 แสดงภาพวงจรการทำงาน 15 4-1 แผนภูมิแสดงเพศของผู้ตอบแบบสอบถาม 19 4-2 แผนภูมิแสดงอายุของผู้ตอบแบบสอบถาม 20 4-3 แผนภูมิแสดงถึงระดับความพึงพอใจโครงสร้าง 21 4-4 แผนภูมิแสดงถึงระดับความพึงพอใจด้านการใช้งาน 22 4-5 แผนภูมิแสดงถึงระดับความพึงพอใจด้านความคุ้มค่า 23
บทที่ 1 บทนำ
1 บทที่ 1 บทนำ 1.1 ความเป็นมาและความสำคัญ เทคโนโลยี (Technology) คือการใช้ความรู้ เครื่องมือ ความคิด หลักการ เทคนิค ความรู้ ระเบียบวิธี กระบวนการตลอดจน ผลงานทางวิทยาศาสตร์ทั้งสิ่งประดิษฐ์และวิธีการ มาประยุกต์ใช้ในระบบงานเพื่อช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการทำงานให้ดียิ่งขึ้นและเพื่อเพิ่ม ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงานให้มีมากยิ่งขึ้น เทคโนโลยีเป็นการประยุกต์ นำเอาความรู้ ทางวิทยาศาสตร์มาใช้ และก่อให้เกิดประโยชน์ ในทางปฏิบัติ ในปัจจุบันเทคโนโลยี Internet of Things (IoT) ได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของ ผู้คนมากขึ้น การเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ เข้าสู่อินเทอร์เน็ตทำให้การควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ เป็นไปอย่างมี อิสระมากขึ้น เช่น การควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ภายในครัวเรือนหรือที่ทำงานผ่านเครือข่าย อินเทอร์เน็ต Internet of Things (IoT) มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจดิจิทัลเป็นอย่างมาก โดย เทคโนโลยี IoT กำลังเติบโตอย่าง ก้าวกระโดดและส่งผลกระทบต่อแทบทุกภาคอุตสาหกรรม คาดการณ์ว่าจำนวนอุปกรณ์ IoT ที่ใช้ทั่วโลก จะสูงถึง 60,700 ล้านเครื่องภายในปี 2567 เพิ่มขึ้นจาก ปี 2561 ที่มี 19,900 ล้านเครื่อง มีการเติบโตเฉลี่ย 20.35% ต่อปี แสดงถึงความต้องการใช้เทคโนโลยี IoT ในระดับสูงมากในโลก เป็นที่น่าสังเกตว่าลักษณะ การเข้ามาของเทคโนโลยี IoT สำหรับผู้บริโภค หรือผู้ประกอบการทั่วไปมักจะอยู่ในรูปแบบของบ้าน อัจฉริยะ (Smart Home) หรือ ฟาร์มอัจฉริยะ (Smart Farming) สามารถควบคุมจากภายในบ้านหรือ ผ่านไมโครเซนเซอร์หรือผ่านแอปพลิเคชั่น และเมื่อเชื่อมเข้ากับระบบอินเทอร์เน็ตทำให้สามารถควบคุม จากสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ได้จากจุดใดก็ตาม ช่วยให้การดำรงชีวิตมีความสะดวกสบายยิ่งขึ้น ดังนั้นผู้จัดเห็นความสำคัญของการนำระบบ IoT มาใช้กับโลกเกษตร เพื่อประหยัด งบประมานในการจ้างแรงงาน ประหยัดระยะเวลาในการควบคุมหรือตรวจสอบการเก็บข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำไปวางแผนในการทำธุรกิจในอนาคต ผู้จัดทำจึงได้นำระบบเดิม มาพัฒนาให้สามารถใช้งาน ได้มีประสิทธิ์ภาพเพิ่มมากยิ่ง จึงได้มีระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือนขึ้นมา 1.2 วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1.2.1 เพื่อพัฒนาระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือน 1.2.2 เพื่อประเมินผลประสิทธิภาพของระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือน 1.2.3 เพื่อเผยแพร่ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือนโครงการประกวดโครงการวิชาชีพ ชมรมวิชาชีพเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล 1.3 ขอบเขตของการวิจัย 1.3.1 ขอบเขตด้านชิ้นงาน จัดทำโครงการครั้งนี้เพื่อที่จะต้องการพัฒนาระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือน 1.3.2 ขอบเขตด้านประชากรและกลุ่มตัวอย่าง เกษตรกร จำนวน 10 คน
2 1.3.3 ขอบเขตด้านฮาร์ดแวร์ 1) Nodemcu esp8266 2) หลอดไฟ 3) สายไฟ 4) สายจั้มเปอร์ 5) USB Micro 6) รีเลย์ (Relay Board) 1.4 คำจำกัดความที่ใช้ในงานวิจัย 1.4.1 การควบคุมระบบ หมายถึง การควบคุมระบบงานอาจแบ่งตามวิธีการควบคุม ได้เป็น 2 ประเภทคือการควบคุมโดยโปรแกรมและการควบคุมโดยผู้ปฏิบัติงาน การควบคุมโดย โปรแกรมเป็นการควบคุมในลักษณะของการตรวจสอบโดยอาศัยความสามารถทางด้านตรรกะของ คอมพิวเตอร์เปรียบเทียบข้อมูลจริงกับเกณฑ์หรือเงื่อนไขที่กำหนดไว้ล่วงหน้าในระบบคอมพิวเตอร์ การควบคุมโดยโปรแกรมอาจเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าการตรวจสอบโดยโปรแกรม 1.4.2 Board Arduino หมายถึง เป็นบอร์ดไมโครคอนโทรเลอร์ตระกูล AVR ที่มีการพัฒนา แบบ Open Source คือมีการเปิดเผยข้อมูลทั้งด้าน Hardware และ Software ตัวบอร์ด Arduino ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นศึกษาทั้งนี้ผู้ใช้งานยังสามารถดัดแปลง เพิ่มเติม พัฒนาต่อยอดทั้งตัวบอร์ด หรือโปรแกรมต่อได้อีกด้วย 1.4.3 Smart Farm หมายถึง การทำการเกษตรอัจฉริยะที่นำเทคโนโลยีเข้ามาบริหารจัดการ ระบบการเพาะปลูกในทุก ๆ ขั้นตอน และสามารถควบคุมทุกอย่างได้ด้วยเทคโนโลยี เพื่อทำการ ตรวจสอบ เก็บข้อมูล วิเคราะห์ และแก้ปัญหาการเพาะปลูกได้แบบ Real-Time พร้อมกับสามารถ แสดงผลข้อมูลการเจริญเติบโตและคาดการณ์ผลผลิตได้อย่าง 1.4.4 Smart App หมายถึง ระบบ SME SMART APP เป็นระบบบริหารจัดการองค์กรใหญ่ ๆ โดยระบบ SME SMART APP เป็นระบบบริหารที่สามารถเก็บข้อมูลพนักงาน ระบบจัดการเงินเดือน ระบบสั่งซื้อ ระบบออกใบเสนอราคา ระบบใบวางบิลสำหรับองค์กรที่ทำธุรกิจ ระบบออกบิลสำหรับ องค์กรที่ทำธุรกิจ และระบบรายรับรายจ่ายของบริษัท ตลอดจนสามารถดูข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตได้ เพื่อเป็นตัวช่วยในการจัดการภายในองค์กรที่จะสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น 1.5 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 1.5.1 มีระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือนใช้งาน 1.5.2 ได้ทราบผลประเมินผลประสิทธิภาพของระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือนของ แผนกเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัลอยู่ในระดับมาก 1.5.3 เผยแพร่ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือนผ่านโครงการประกวดโครงการวิชาชีพ ชมรมวิชาชีพเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล
บทที่ 2 แนวคิด ทฤษฎี เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
3 บทที่ 2 แนวคิด ทฤษฎี เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นแนวทางในการจัดทำโครงการครั้งนี้ คณะผู้จัดทำได้ศึกษาเอกสารและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ดังนี้ 2.1 แนวคิดเกี่ยวกับสมาร์ทฟาร์ม 2.2 แนวคิดเกี่ยวกับระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือน 2.3 แนวคิดเกี่ยวกับ Arduino และโปรแกรมที่ใช้ 2.4 แนวคิดเกี่ยวกับการเชื่อมต่อระบบกับควบคุมเครือข่าย 2.1 แนวคิดเกี่ยวกับสมาร์ทฟาร์ม แนวคิด “สมาร์ทฟาร์มเมอร์” ในมุมมองของกระทรวงเกษตรฯ หมายถึงเกษตรกรที่มีความรู้ อย่างถ่องแท้เกี่ยวกับการประกอบอาชีพเกษตรกรรม มีความคิดในการวางแผนเป็นเลิศโดยเฉพาะ การรู้ถึงอุปสงค์ของ ตลาดและเตรียมการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการ รวมทั้งความสามารถ ในเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และความพร้อมในการก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน 2.1.1 ฟาร์มอัจฉริยะ (Smart Farm) หรือ ฟาร์มที่มีความแม่นยำ (Precision Farm) หรือฟาร์ม โดยนำวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้เป็นเครื่องมือ เพื่อให้เกิดความสะดวกและง่าย ต่อการจัดการ โดยสามารถประมวลผลได้อย่างรวดเร็วและถูกต้องแม่นยำมีการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ อย่างคุ้มค่า เพิ่มปริมาณและคุณภาพของผลผลิต ช่วยลดต้นทุนการผลิต มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อมนำไปสู่การแข่งขันระดับสากลได้ การทำฟาร์มอัจฉริยะเป็นการทำเกษตรแบบควบคู่ กับนวัตกรรม ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกาและออสเตรเลีย ในปัจจุบัน เริ่มแพร่หลายไปยังประเทศแถบทวีปยุโรป ญี่ปุ่น มาเลเซีย และอินเดีย ซึ่งประเทศเหล่านี้เป็นประเทศ ที่ขึ้นชื่อเรื่องระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นอย่างมากโดยมีการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้กับการ ทำการเกษตร เพื่อให้มีประสิทธิภาพการผลิตที่สูงขึ้นมีการนำเอาเทคโนโลยีในรูปแบบต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ในการจัดการมากขึ้น ทำให้สามารถลดแรงงานด้านการเกษตร ซึ่งในปัจจุบันแรงงาน ในส่วนของภาคเกษตรก็ยิ่งลดลงไปเรื่อย ๆ ยิ่งในประเทศที่พัฒนาแล้วก็จะยิ่งมีแรงงานภาคเกษตร ลดลงแต่ประเทศดังกล่าวหันมาสนใจภาคการเกษตรมากขึ้น ดังนั้น จึงได้มีการนำเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ มาช่วยในการจัดการ ส่งผลให้เกิดการผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพและปริมาณที่เพียงพอต่อความ ต้องการของตลาดซึ่งประเทศไทยเองจัดเป็นประเทศที่มีความเกี่ยวพันกับการเกษตรมาตั้งแต่สมัย โบราณประชากรในประเทศประกอบอาชีพเกษตรกรเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น ภาครัฐจึงควรหันมา ให้ความสำคัญในด้านการทำเกษตรแบบอัจฉริยะและควรนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้กับภาคเกษตร มากขึ้นนำไปสู่การเกษตรยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมต่อไป
4 ภาพที่ 2-1 แสดงภาพตัวอย่างโรงเรือนฟาร์มอัจฉริยะ 2.1.2 ในอนาคตจากนั้นข้อมูลจะถูกส่งไป เก็บไว้ในฐานข้อมูลที่เชื่อมโยงเข้าสู่ขั้นตอนการ ประมวลผลและส่งต่อไปยังเครื่องหยอดปุ๋ยบนรถไถที่ติดตั้งระบบ GPS (Global Positioning System) ทำให้การหยอดปุ๋มสามารถกำหนดได้ว่าจะหยอดปุ๋ยชนิดใด ปริมาณเท่าใดและจะหยดลง บริเวณตำแหน่งใดในฟาร์ม เพื่อให้เพียงพอค่าความต้องการของพืชและช่วยลดอัตราการสูญเสียปุ๋ย หรือลดระดับความเป็นพิษของปุ๋ยที่มีค่าต่อพืชปลูกนั้น 2.1.3 รูปแบบของสมาร์ทฟาร์ม “สมาร์ท ฟาร์ม” เป็นรูปแบบการทำเกษตร ที่เน้นการพัฒนาเกษตรกรรม 4 ด้าน 1. ลดต้นทุนในกระบวนการผลิต 2. เพิ่มคุณภาพมาตรฐานการผลิตและมาตรฐานสินค้า 3. ลดความเสี่ยงที่เกิดจากการระบาดของศัตรูพืชและจากภัยธรรมชาติ 4. การจัดการและส่งผ่านความรู้ โดยนำเทคโนโลยีสารสนเทศจากการวิจัยไปประยุกต์ สู่การพัฒนาในทางปฏิบัติ ซึ่งมีตัวอย่างให้เห็น เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ยุโรปบาง ประเทศ รวมถึงญี่ปุ่น และอินเดีย
5 ภาพที่ 2-2 แสดงภาพรูปแบบของสมาร์ทฟาร์ม 2.1.4 ประโยชน์ของสมาร์ทฟาร์ม 1. ลดการใช้แรงงานคน เนื่องจากงานบางส่วนจะมีการใช้เทคโนโลยี เช่น โดรน หุ่นยนต์ รถไถอัตโนมัติ เข้ามาช่วย ดังนั้นจะลดภาระงานของคนโดยรวมได้ 2. ได้สินค้าที่มีคุณภาพมากขึ้น การใช้เครื่องมือที่มีความแม่นยำสูงเข้ามาช่วย จะทำให้เกษตรกรสามารถเพิ่มคุณภาพของสินค้าได้ ผ่านการปรับปรุงพันธุ์ ปรับสัดส่วนปุ๋ย การให้น้ำ การให้แสง เป็นต้น 3. ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการทำงานที่มีการเก็บข้อมูลอยู่ตลอดและการ จัดการในรูปแบบ Zero Waste ทำให้เกษตรกรสามารถคำนวณพื้นที่การปลูก รูปแบบพันธุกรรม ต่าง ๆ ให้มีคุณภาพที่ดี ตามต้องการของผู้บริโภคในลักษณะต่างๆ หรือในลักษณะ customization เพื่อขายได้ในราคาที่เหมาะสม ไม่ล้นตลาด 4. มีการขายที่ง่ายขึ้น ในปัจจุบันชาวนาชาวสวนสามารถเข้าถึงการขายได้ง่ายผ่าน การตลาดออนไลน์ในแอปพลิเคชันต่างๆ โดยการสนับสนุนจากภาครัฐหรือบริษัทเอกชน 2.2 แนวคิดเกี่ยวกับระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือน 2.2.1 ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือนต้องการโดยสั่งการด้วยโทรศัพท์มือถือซึ่งเราใช้ แสงจากหลอดไฟ LED แสงอัลตราไวโอเลต 2.2.2 สามารถบริหารจัดการระบบเปิด-ปิดไฟผ่านโทรศัพท์มือถือสำหรับ Smart Farm ปัจจุบันมีผู้ที่ต้องการจะปลูกต้นไม้แต่พื้นที่ที่ต้องการปลูกนั้นแสงแดดเข้าไม่ถึงโดย Smart Farm ของเราจะใช้ไฟ LED 100W แสงอัลตราไวโอเลต โดยไฟชนิดนี้สามารถให้แสงแทนแสงแดดจริง เพื่อที่จะสามารถปลูกต้นไม้ในที่ร่มหรือในอาคารได้
6 2.2.3 ประโยชน์ของระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือนจะช่วยให้ต้นไม้ได้รับแสงตาม ที่ต้องการ ความยาวของคลื่นแสงที่ได้จะช่วยในการเจริญเติบโตพร้อมกับสามารถแสดงผลข้อมูล การเจริญเติบโตและคาดการณ์ผลผลิตได้อย่างแม่นยำ 2.3 แนวคิดเกี่ยวกับ Arduino และโปรแกรมที่ใช้ 2.3.1 บอร์ด Arduino เป็นบอร์ดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากราคาไม่แพงส่วนใหญ่ โปรเจคและ Library ต่าง ๆ ที่พัฒนาขึ้นมา Support จะอ้างอิงกับบอร์ดนี้เป็นหลักเนื่องจากเป็น ขนาดที่เหมาะสำหรับการเริ่มต้นเรียนรู้ Arduino และมี Shields ให้เลือกใช้งานได้มากกว่าบอร์ด Arduino รุ่นอื่น ๆ ที่ออกแบบมาเฉพาะมากกว่า โดยบอร์ด Arduino Uno ได้มีการพัฒนาเรื่อยมา ตั้งแต่ R2 R3 และรุ่นย่อยที่เปลี่ยนชิปไอซีเป็นแบบ SMD และข้อดีอีกอย่างคือกรณีที่ MCU เสีย ผู้ใช้งานสามารถซื้อมาเปลี่ยนเองได้ง่าย ภาพที่ 2-3 แสดงภาพบอร์ด Arduino Esp8266
7 2.4 การเชื่อมต่อระบบกับควบคุมเครือข่าย 2.4.1 Internet of Things (IoT) Internet of Things (IoT) คือ การที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ สามารถเชื่อมโยง หรือส่งข้อมูลถึงกันได้ด้วยอินเทอร์เน็ต โดยไม่ต้องป้อนข้อมูล การเชื่อมโยงนี้ง่ายจนทำให้เราสามารถ สั่งการควบคุมการใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ผ่านทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ตได้ ไปจนถึงการ เชื่อมโยงการใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ผ่านทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเข้ากับการใช้งาน อื่น ๆ จนเกิดเป็นบรรดา Smart ต่าง ๆ ได้แก่ Smart Device, Smart Grid, Smart Home, Smart Network, Smart Intelligent Transportation ทั้งหลายที่เราเคยได้ยินนั่นเอง ซึ่งแตกต่าง จากในอดีตที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นเพียงสื่อกลางในการส่งและแสดงข้อมูลเท่านั้นกล่าวได้ ว่า Internet of Things นี้ได้แก่การเชื่อมโยงของอุปกรณ์อัจฉริยะทั้งหลายผ่านอินเทอร์เน็ตที่เรานึก ออก เช่น แอปพลิเคชัน แว่นตากูเกิลกลาส รองเท้าวิ่งที่สามารถเชื่อมต่อข้อมูลการวิ่ง ทั้งความเร็ว ระยะทาง สถานที่ และสถิติได้นอกจากนั้น Cloud Storage หรือบริการรับฝากไฟล์ และประมวลผลข้อมูลของคุณผ่านทางออนไลน์ หรือเราเรียกอีกอย่างว่าแหล่งเก็บข้อมูลบนก้อนเมฆ เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราใช้งานบ่อยๆแต่ไม่รู้ว่าเป็นหนึ่งในรูปแบบของ Internet of Things สมัยนี้ผู้ใช้นิยม เก็บข้อมูลไว้ในก้อนเมฆมากขึ้น เนื่องจากมีข้อดีหลายประการ คือ ไม่ต้องกลัวข้อมูลสูญหายหรือถูก โจรกรรม ทั้งยังสามารถกำหนดให้เป็นแบบส่วนตัวหรือสาธารณะก็ได้ เข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลาด้วย อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใด ๆ ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต แถมยังมีพื้นที่ใช้สอยมาก มีให้เลือก หลากหลาย ช่วยเราประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย 2.4.2 การประยุกต์ใช้งาน IoT (Internet of Things) ในปัจจุบัน ภาครัฐบาล ภาคเอกชน ภาคอุตสาหกรรมการผลิต ตลอดจนประชาชนทั่วไป ได้นำ IoT ไปประยุกต์ใช้ในการทำงานและชีวิตประจำวัน เพื่อสร้างรายได้ โอกาส และความสะดวกสบายยิ่งขึ้น ในอุตสาหกรรมและโครงการต่าง ๆ เช่น Smart Industry เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่ยุคของการปฏิวัติอุตสาหกรรม Industry 4.0 Smart City เพื่อนำมาปรับใช้ร่วมกับโครงสร้างพื้นฐาน และระบบต่าง ๆ ของเมือง ใน 4 ด้าน คือ ด้านการท่องเที่ยว ด้านความปลอดภัย ด้านสิ่งแวดล้อม และด้านเศรษฐกิจ โดยพัฒนา IoT เพื่อตอบสนอง และอำนวยความสะดวกในแต่ละด้านของเมือง อาทิ Smart Life เพื่อให้รูปแบบของการใช้ชีวิตของมนุษย์เปลี่ยนไปจากเดิม มนุษย์สามารถ พูดคุยกับสิ่งของได้สิ่งของสามารถพูดคุยและรับรู้พฤติกรรมของมนุษย์ได้ ซึ่งในอนาคตเทคโนโลยีจะมี การพัฒนาให้สิ่งของสามารถพูดคุยกันเองได้โดยไม่ต้องผ่านมนุษย์ Smart Governance เมืองที่บริหารจัดการโปร่งใส Smart Mobility เมืองที่สามารถติดต่อสื่อสารและเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย Smart People เมืองที่ให้ความเท่าเทียมกันในสังคม Smart Safety เมืองปลอดภัย Smart Economy เมืองที่เอื้อต่อการทำธุรกิจ
8 Smart Environment เมืองประหยัดพลังงาน Smart Tourism เมืองท่องเที่ยว Smart Farming เมืองเกษตรกรรมทันสมัย
บทที่ 3 วิธีดำเนินการวิจัย
9 บทที่ 3 วิธีดำเนินการวิจัย บทนี้เป็นการนำเสนอวิธีการดำเนินการวิจัย โดยการระบุวิธีการสร้างและพัฒนาผลงาน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย รูปแบบการวิจัย การเก็บรวบรวมข้อมูล และวิธีการวิเคราะห์ข้อมูล หัวข้อที่ นำเสนอในบทนี้มีดังนี้ 3.1 การศึกษาข้อมูลเบื้องต้น 3.2 การสร้างเครื่องมือในการวิจัย 3.3 การดำเนินการทดลอง 3.4 ขั้นตอนการดำเนินงาน 3.5 วงจรการทำงาน 3.6 เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล 3.7 ขั้นตอนการดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูล 3.8 พิจารณาจากคะแนนตามเกณฑ์ 3.9 สถิติที่ใช้และวิธีวิเคราะห์ข้อมูล ในการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือน, ประเมินผล ประสิทธิภาพของระบบควบคุมการเปิดปิดไฟในโรงเรือนและเผยแพร่ผ่านโครงการประกวดโครงการ วิชาชีพ ชมรมวิชาชีพเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล วิทยาลัยเทคนิคระยอง ซึ่งคณะผู้วิจัยได้ดำเนินการศึกษา ตามขั้นตอนดังนี้ 3.1 การศึกษาข้อมูลเบื้องต้น 3.1.1 ศึกษาค้นคว้าเอกสารงานวิจัยที่คล้ายกันจากอินเทอร์เน็ตและสื่อวีดิทัศน์ต่าง ๆ 3.1.2 ศึกษาหลักการทำงาน วิธีการใช้งาน การต่อวงจร และรายละเอียดของอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ 3.1.3 สำรวจกลุ่มเป้าหมายและจัดทำแบบสอบถาม 3.1.4 ศึกษาทฤษฎีการเก็บรวมรวมสถิติเพื่อวิเคราะห์ข้อมูล
10 ภาพที่ 3-1 แสดงตัวอย่างตารางทฤษฎีของมอร์แกน 3.2 การสร้างเครื่องมือในการวิจัย 3.2.1 เครื่องมือที่ใช้ในการสร้างระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือน ได้แก่ Nodemcu esp8266 หลอดไฟสำหรับปลูกผัก สายไฟ สายJumper สายUsb รีเลย์ ซึ่งได้จากการสั่งออนไลน์ และร้านอิเล็กทรอนิกส์ 3.3 การดำเนินการทดลอง การดำเนินการทดลอง มีขั้นตอนดังนี้ 3.3.1 ขั้นเตรียม 3.3.1.1 หาข้อมูลเกี่ยวกับการทำระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือน 3.3.1.2 หาวัสดุอุปกรณ์ที่ต้องการใช้ในการสร้างชิ้นงาน 3.3.1.3 เตรียมหา Code และแอพพลิเคชั่นสำหรับในการสั่งการทำงาน 3.3.2 ขั้นดำเนินการ 3.3.2.1 เขียน Code และต่อวงจร 3.3.2.2 สร้างตัวชิ้นงาน 3.3.2.3 ติดตั้งวงจรเข้ากับตัวชิ้นงานในการทำงานระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟใน โรงเรือน
11 3.3.3 ขั้นทดลองและนำไปใช้ 3.3.3.1 ทดลองหลอดไฟเปิดใช้งานได้หรือไม่ 3.3.3.2 ทดสอบว่าการต่อสายไฟมีประสิทธิภาพหรือไม่ 3.3.3.3 มีการนำไปใช้กับผักในโรงเรือน 3.4 ขั้นตอนการดำเนินงาน 3.4.1 การออกแบบผังงาน 3.4.1.1 ผังงานการดำเนินโครงการ ภาพที่ 3-2 แสดง Flow Chart การดำเนินโครงการ
12 3.4.1.2 ผังงานขั้นตอนการสร้างชิ้นงาน ภาพที่ 3-3 แสดง Flow Chart ขั้นตอนการสร้างชิ้นงาน
13 ภาพที่ 3-4 แสดง Flow Chart ขั้นตอนการสร้างชิ้นงาน (ต่อ)
14 3.4.1.3 ผังงานวิธีการทำงานของชิ้นงาน ภาพที่ 3-5 แสดง Flow Chart วิธีการทำงานของชิ้นงาน
15 3.5 วงจรการทำงาน ภาพที่ 3-6 แสดงภาพวงจรการทำงาน 3.6 เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล 3.6.1 ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือน 3.6.2 แบบสอบถามความพึงพอใจของเกษตรกรทีมีต่อ ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือน โดยยึดตามวัตถุประสงค์และกรอบแนวคิดในการทำโครงการแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ ส่วนที่ 1 แบบสอบถามปัจจัยส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม ได้แก่ เพศ อายุ ของผู้ตอบแบบสอบถาม ส่วนที่ 2 แบบสอบถามความพึงพอใจของเกษตรกรที่มีต่อระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟใน โรงเรือนมีลักษณะเป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) แบ่งเป็น 5 ระดับ 5 หมายถึง ความพึงพอใจมากที่สุด 4 หมายถึง ความพึงพอใจมาก 3 หมายถึง ความพึงพอใจปานกลาง 2 หมายถึง ความพึงพอใจน้อย 1 หมายถึง ความพึงพอใจน้อยที่สุด ส่วนที่ 3 ข้อเสนอแนะปรับปรุงแก้ไข การสร้างระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือน 3.6.3 การสร้างเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลมีดังนี้ 3.6.3.1 กำหนดโครงการสร้างและขอบข่ายเนื้อหาสาระของแบบสอบถามโดยกำหนด เนื้อหาสาระที่นำมาสร้างแบบสอบถามให้เห็นขอบเขตของคำถามที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์และ ครอบคลุมเรื่องที่จะปรึกษาโดยคำแนะนำจากครูที่ปรึกษาโครงร่างการจัดทำโครงการ
16 3.6.3.2 ศึกษาแนวทางทฤษฎีหลักการสร้างแบบสอบถามจากเอกสารตำราบทความ ทางวิชาการ 3.6.3.3 ศึกษาวิธีสร้างแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า(Rating Scale) สร้างแบบสอบถาม ฉบับร่างโดยเขียนข้อความที่สอดล้องกับตัวแปรที่ศึกษาให้ครบถ้วนตามโครงการสร้าง 5 ระดับ คือ ระดับมากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย และ น้อยที่สุด 3.6.3.4 ดำเนินการสร้างแบบสอบถามขึ้นมาให้ครอบคลุมกับการจัดทำโครงการระบบ ควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือน 3.6.3.5 ตรวจสอบคุณภาพแบบสอบถามเบื้องต้นโดยให้อาจารย์ที่ปรึกษาโครงการและ ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบพิจารณาเพื่อความเที่ยงตรงของเนื้อหาและความถูกต้องของสำนวนภาษาที่ใช้ เพื่อให้คำถามครอบคลุมและสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของโครงการแล้วปรับปรุงแก้ไขตามคำแนะนำ มาจัดทำแบบสอบถามฉบับสมบูรณ์เพื่อนำไปใช้ต่อของอาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ 3.6.3.6 จัดทำแบบสอบถามฉบับสมบูรณ์ตามคำแนะนำของอาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ นำมาจัดทำแบบสอบถามฉบับสมบูรณ์เพื่อนำไปใช้ต่อไป 3.7 ขั้นตอนการดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูล 3.7.1 ศึกษาโครงการที่ต้องการพัฒนาต่อ 3.7.2 นำเสนอหัวข้อโครงการให้กับอาจารย์ที่ปรึกษา 3.7.3 ศึกษาค้นคว้าเอกสารงานวิจัยจากรุ่นพี่ หลักการทำงาน วิธีการใช้งาน การต่อวงจร และรายละเอียดของอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ 3.7.4 ออกแบบภาพร่างของชิ้นงานและโครงสร้างโรงเรือน 3.7.5 ลงมือสร้างระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือน 3.7.5.1 สั่งซื้ออุปกรณ์ต่างๆที่ต้องใช้ในการสร้างชิ้นงาน 3.7.5.2 ต่อวงจรไฟฟ้าเข้าสู่อุปกรณ์ 3.7.5.3 ทดสอบการทำงานของอุปกรณ์ทำงานว่าสามารถทำงานได้หรือไม่ 3.7.5.4 ทำการติดตั้งแอพพลิเคชั่น Blynk บนสมาร์ทโฟน 3.7.5.5 ทำการเชื่อมต่อเครือข่ายสัญญาณ WiFi กับแอพพลิเคชั่นและอุปกรณ์ 3.7.5.6 ทดสอบการเชื่อมต่อ WiFi กับแอพพลิเคชั่นและอุปกรณ์ 3.7.5.7 ตั้งค่าการทำงานของอุปกรณ์ด้วยแอพพลิเคชั่น Blynk ให้อุปกรณ์ทำงาน ตามเงื่อนไขที่กำหนด 3.7.5.8 ทดสอบการทำงานของอุปกรณ์ด้วยการสั่งการผ่านสมาร์ทโฟน 3.7.5.9 ติดตั้งอุปกรณ์เข้ากับโครงโรงเรือน 3.7.5.10 ทดสอบการทำงานของอุปกรณ์ทั้งหมด 3.7.6 เก็บผลสถิติ และสรุปผลจากการแบบประเมินความพึงพอใจของระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟ ในโรงเรือน โดยสรุปว่ามีความพึงพอใจเพียงใดและคำนวณออกมาเป็นค่าเฉลี่ย 3.7.7 จัดทำรายงานผลการดำเนินงานและนำเสนอต่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ
17 3.8 พิจารณาจากคะแนนตามเกณฑ์ เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถาม เพื่อสำรวจความพึงพอใจ ของเกษตรกร กลุ่มตัวอย่างต่อโครงการมีขั้นตอนดังต่อไปนี้ 3.8.1 สร้างแบบสอบถาม ซึ่งมีมาตราส่วนประมาณค่า (Rating scale) 5 ระดับ ดังนี้ 5 หมายถึง ความพึงพอใจมากที่สุด 4 หมายถึง ความพึงพอใจมาก 3 หมายถึง ความพึงพอใจปานกลาง 2 หมายถึง ความพึงพอใจน้อย 1 หมายถึง ความพึงพอใจน้อยที่สุด 3.8.2 เกณฑ์การประเมินค่าความพึงพอใจ กำหนดค่าคะแนนออกเป็น 5 ระดับ ดังนี้ 4.50 - 5.00 หมายถึงมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด 3.50 - 4.49 หมายถึงมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก 2.50 - 3.49 หมายถึงมีความพึงพอใจอยู่ในระดับปานกลาง 1.50 - 2.49 หมายถึงมีความพึงพอใจอยู่ในระดับน้อย 0.00 - 1.49 หมายถึงมีความพึงพอใจอยู่ในระดับน้อยที่สุด หมายเหตุ อยู่ในระดับ 2.50 หรือเท่ากับขึ้นไปผ่านเกณฑ์ 3.9 สถิติที่ใช้และวิธีวิเคราะห์ข้อมูล ในการจัดทำโครงการระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล แบ่งออกได้ ดังนี้ 3.9.1 สูตรการหาค่าสถิติร้อยละ (Percentage) สูตร p = f x 100 n เมื่อ p แทน ค่าร้อยละ f แทน จำนวนหรือความถี่ที่ต้องการ n แทน จำนวนข้อมูลทั้งหมด 3.9.2 สูตรการหาค่าเฉลี่ย (̅) สูตร x̄ = ∑x เมื่อ x̄ แทน ค่าเฉลี่ย ∑x แทน ผลรวมของทั้งหมด N แทน จำนวนข้อมูล
18 3.9.3 สูตรการหาค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D Standard Deviation) สูตร S.D.= √∑x 2 (∑x 2) N(n−1) เมื่อ S.D. แทน ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน X แทน คะแนนแต่ละตัว N แทน จำนวนคะแนนในกลุ่ม ∑ แทน ผลรวม
บทที่ 4 ผลการวิจัย
19 บทที่ 4 ผลการวิจัย จากการดำเนินโครงการระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือน ได้มีการติดตามประเมินผู้จัดทำมี ผลดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลแปรความตามลำดับดังนี้ 4.1 ผลการดำเนินการ ผลการดำเนินโครงการระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือน จากการวิเคราะข้อมูลทั่วไป ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด จำนวน 10 คน ตารางที่ 4.1 แสดงจำนวนของผู้ตอบแบบสอบถามจำแนกตามเพศ เพศ (คน) จำนวน ร้อยละ ชาย 6 60.0 หญิง 4 40.0 รวม 10 100 จากตารางที่ 4.1 พบว่าจำนวนของผู้ตอบแบบสอบถามจำแนกตามเพศ ได้แก่ เพศชาย จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 60.0 และเพศหญิงจำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 40.0 แผนภูมิแสดงเพศของผู้ตอบแบบสอบถาม ภาพ 4-1 แผนภูมิแสดงเพศของผู้ตอบแบบสอบถาม
20 ตารางที่ 4.2 แสดงจำนวนของผู้ตอบแบบสอบถามจำแนกตามอายุ อายุ (ปี) จำนวนคน ร้อยละ ต่ำกว่า 20 ปี 1 10.0 20 – 30 ปี 4 40.0 30 ปีขึ้นไป 5 50.0 รวม 10 100 จากตารางที่4.2 พบว่าจำนวนของผู้ตอบแบบสอบถามจำแนกตามอายุ ได้แก่ อายุต่ำกว่า 20 ปีจำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 10.0, อายุ 20 – 30 ปี จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 40.0 และ อายุ 30 ปีขึ้นไป จำนวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 50.0 แผนภูมิแสดงอายุของผู้ตอบแบบสอบถาม ภาพที่ 4-2 แผนภูมิแสดงอายุของผู้ตอบแบบสอบถาม
21 ตารางที่ 4.3 แสดงความพึงพอใจด้านโครงสร้าง จากตารางที่ 4.3 พบว่าความพึงพอใจด้านโครงสร้างภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x =4.78, S.D.=0.25) เมื่อพิจารณาพบว่าวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้สร้างระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือนมีความแข็งแรง อยู่ในระดับมากที่สุด (x =4.70, S.D.=0.48), ความแข็งแรงของโครงสร้างและอุปกรณ์การเปิด-ปิดไฟใน โรงเรือนโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x =4.80, S.D.=0.42) มีความเหมาะสมของขนาดอุปกรณ์ ควบคุมอุณหภูมิโรงเรือนอยู่ในระดับมากที่สุด (x =5.00, S.D.=0.00) ความทนทานของวัสดุที่ใช้อยู่ใน ระดับมากที่สุด (x =4.60, S.D.=0.51) และความสวยงามของอุปกรณ์การเปิด-ปิดไฟในโรงเรือนอยู่ใน ระดับมากที่สุด (x =4.80, S.D.=0.42) ตามลำดับ แผนภูมิแสดงระดับความพึงพอใจด้านโครงสร้าง ภาพที่ 4-3 แผนภูมิแสดงถึงระดับความพึงพอใจโครงสร้าง เรื่องการประเมิน ค่าเฉลี่ย () ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน (S.D.) ระดับความพึงพอใจ 1. วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้สร้างระบบควบคุม การเปิด-ปิดไฟในโรงเรือนมีความแข็งแรง 4.70 0.48 มากที่สุด 2. ความแข็งแรงของโครงสร้างและ อุปกรณ์การเปิด-ปิดไฟในโรงเรือน โดยรวม 4.80 0.42 มากที่สุด 3. ความเหมาะสมของขนาดอุปกรณ์ การเปิด-ปิดไฟในโรงเรือน 5.00 0.00 มากที่สุด 4. ความทนทานของวัสดุที่ใช้ 4.60 0.51 มากที่สุด 5. ความสวยงามของอุปกรณ์การ เปิด-ปิดไฟในโรงเรือน 4.80 0.42 มากที่สุด รวมทั้งสิ้น 4.78 0.25 มากที่สุด
22 จากตารางที่ 4.4 แสดงความพึงพอใจด้านการใช้งาน เรื่องการประเมิน ค่าเฉลี่ย () ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน (S.D.) ระดับความพึงพอใจ 1. ความสะดวกในการใช้งาน ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟ ในโรงเรือน 4.90 0.31 มากที่สุด 2. ความปลอดภัยในการใช้ งานระบบควบคุมการเปิด-ปิด ไฟในโรงเรือน 4.90 0.31 มากที่สุด 4. ความสามารถในการ ควบคุมการเปิด-ปิดไฟ 5.00 0.00 มากที่สุด รวมทั้งสิ้น 4.93 0.14 มากที่สุด จากตารางที่4.4 พบว่าความพึงพอใจด้านการใช้งานภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x =4.93, S.D.= 0.14) เมื่อพิจารณา พบว่าความสะดวกในการใช้งานระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือน อยู่ในระดับมากที่สุด (x =4.90, S.D.= 0.31) ความปลอดภัยในการใช้งานระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟ ในโรงเรือนอยู่ในระดับมากที่สุด (x =4.90, S.D.= 0.31) และความสามารถในการควบคุมการเปิด-ปิด ไฟอยู่ในระดับมากที่สุด (x =5.00, S.D.= 0.00) ตามลำดับ แผนภูมิแสดงระดับความพึงพอด้านการใช้งาน ภาพที่ 4-4 แผนภูมิแสดงถึงระดับความพึงพอใจด้านการใช้งาน
23 จากตารางที่ 4.5 แสดงความพึงพอใจด้านความคุ้มค่า เรื่องการประเมิน ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน ระดับความพึงพอใจ 1. ระยะเวลาที่ใช้การทำระบบ ควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือน 4.90 0.31 มากที่สุด 2. ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟ ในโรงเรือนสามารถใช้งานได้จริง 5.00 0.00 มากที่สุด รวมทั้งสิ้น 4.95 0.15 มากที่สุด ตารางที่ 4.5 พบว่าระดับความพึงพอใจในด้านความคุ้มค่าภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x =4.95, S.D.=0.15) เมื่อพิจารณาพบว่าระยะเวลาที่ใช้การทำระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟใน โรงเรือนอยู่ในระดับมากที่สุด (x =4.90, S.D.=0.31) และระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือน สามารถใช้งานได้จริงอยู่ในระดับมากที่สุด (x =5.00, S.D.=0.00) ตามลำดับ แผนภูมิแสดงความพึงพอใจด้านความคุ้มค่า ภาพที่ 4-5 แผนภูมิแสดงถึงระดับความพึงพอใจด้านความคุ้มค่า
20 บทที่ 5 สรุปผลการวิจัยอภิปรายผลและขอเสนอแนะ
24 บทที่5 สรุปผลการวิจัยอภิปรายผลและขอเสนอแนะ การดำเนินโครงการครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือน เนื่องจากแบบสอบถามในรูปแบบ sheet มีความล่าช้าอีกทั้งยังสิ้นเปลืองทรัพยากรกระดาษซึ่งทาง วิทยาลัยเทคนิคระยอง ได้มีการรณรงค์ลดการใช้กระดาษเพื่อให้ความร่วมมือกับทางวิทยาลัยเทคนิค ระยอง จึงได้จัดทำแบบฟอร์มออนไลน์ขึ้น ทั้งมีความสะดวก รวดเร็วและมีรูปแบบที่ใช้งานได้ง่ายไม่ ซับซ้อนจัดทำในรูปแบบบ QR Code เพื่อให้เกษตรกรจำนวน 10คนสามารถทำการประเมินได้อย่าง สะดวก ในการประเมินผลครั้งนี้ได้ให้ผู้ประเมินทำการประเมินผลการดำเนินโครงการระบบควบคุมการ เปิด-ปิดไฟในโรงเรือน จากการใช้แบบฟอร์มออนไลน์ Google Form เพื่อใช้ในการเก็บผลสถิติ และนำแบบประเมินที่ได้ไปหาประสิทธิภาพ โดยใช้ สูตร STDEV และหาค่าเฉลี่ย 5.1 สรุป อภิปรายผล 5.1.1 สถานภาพทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม จากการประเมินโครงการสร้างแบบฟอร์มออนไลน์เพื่อใช้งานในการประเมินผลโครงการ ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือนด้วย Google Form ผลที่ได้คือจำนวนร้อยละของผู้ตอบแบบ ประเมินจำแนกตามเพศ เพศชาย คิดเป็นร้อยละ 60.00 เพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 40.00ของประชากร ทั้งหมดจำนวนร้อยละของผู้ตอบแบบประเมินจำแนกตามอายุ อายุต่ำกว่า 20 ปีคิดเป็นร้อยละ 10.00 อายุ 20 – 30 ปีคิดเป็นร้อยละ 40.00 อายุ 30 ปีขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ 50.00 5.1.2 ความพึงพอใจในด้านต่าง ๆ จากการประเมินความพึงพอใจต่อแบบฟอร์มออนไลน์เพื่อใช้ในการเก็บผลโครงการ ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือน พบว่าความคิดเห็นของผู้ประเมินกลุ่มตัวอย่างที่ให้เกษตรกร จำนวน 10คน ผลที่ได้คะแนนสูงสุด ได้แก่ ด้านโครงสร้าง ลำดับที่ 1 ความเหมาะสมของขนาด อุปกรณ์การเปิด-ปิดไฟในโรงเรือน พบว่าค่าเฉลี่ยเท่ากับ 5.00 ลำดับที่ 2 ความแข็งแรงของโครงสร้าง และอุปกรณ์การเปิด-ปิดไฟในโรงเรือนโดยรวม พบว่าค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.80 ลำดับที่ 3 ความสวยงาม ของอุปกรณ์การเปิด-ปิดไฟในโรงเรือน พบว่าค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.80 ลำดับที่ 4 วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้สร้าง ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือนมีความแข็งแรง พบว่าค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.70 ลำดับที่ 5 ความ ทนทานของวัสดุที่ใช้พบว่าค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.60 ด้านการใช้งาน ลำดับที่ 1 ความสามารถในการ ควบคุมการเปิด-ปิดไฟ พบว่าค่าเฉลี่ยเท่ากับ 5.00 ลำดับที่ 2 ความสะดวกในการใช้งานของระบบ ควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือน พบว่าค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.90 ลำดับที่ 3 4 ความปลอดภัยในการใช้ งานระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือน พบว่าค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.90 ด้านความคุ้มค่า ลำดับที่ 1 ระบบควบการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือนสามารถใช้งานได้จริง พบว่าค่าเฉลี่ยเท่ากับ 5.00 ลำดับที่ 2 ระยะเวลาที่ใช้การทำระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือน พบว่าค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.90 รวมคะแนน เฉลี่ยทั้งหมดเท่ากับ 4.88 อยู่ในเกณฑ์ดีมาก
25 5.2 ข้อเสนอแนะ 5.2.1 ข้อเสนอแนะจากการนำผลการวิจัยไปใช้ประโยชน์ 5.2.1.1 สามารถนำไปใชประโยชนเชิงพานิชย์ได้ 5.2.1.2 สามารถนําผลการวิจัยไปใชประโยชนด้านการเกษตรเพื่อการควบคุมผลผลิตได้ 5.2.2 ข้อเสนอแนะเพื่อการทำการวิจัยต่อเนื่องหรือวิจัยต่อยอด ทางคณะผู้จัดทำมีความเห็นว่าควรจะใช้อุปกรณ์ที่มีประสิทธิมากมากกว่านี้ เพื่อให้ได้ ชิ้นงานที่มีประสิทธิมากขึ้น
บรรณานุกรม [1] Svhroup. 2020.สมาทฟาร์ม (Smart Farm) ระบบเพื่อการเกษตรในอนาคต ดิจิตอล4.0 [ออนไลน์]. สืบค้นจาก: https://bit.ly/3jaL02D (วันที่สืบค้น 6 มิถุนายน 2565) [2] ExpresSo. 2020.Smart Farmer คืออะไร? ช่วยลดต้นทุนทางการเกษตรได้อย่างไรบ้าง. [ออนไลน์]. สืบค้นจาก: https://bit.ly/3qnwQws (วันที่สืบค้น 7 มิถุนายน 2565) [3] LNW shop. 2019.ไฟสำหรับปลูกต้นไม้หรือ LED Grow Light คืออะไร? [ออนไลน์]. สืบค้น จาก: https://bit.ly/3dfupXI (วันที่สืบค้น 7 มิถุนายน 2565) [4] Duangdara.(2563)."Temperature Controller คืออะไร?".สืบค้นเมื่อ วันที่ 8 มิถุนายน2565, จาก https://1th.me/YQoix
ภาคผนวก ก แบบเสนอขออนุมัติโครงการ
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา แบบ ว-สอศ-2 (สำหรับนักเรียน นักศึกษา) แบบเสนอโครงการวิจัยสิ่งประดิษฐ์ของคนรุ่นใหม่ “สุดยอดนวัตกรรมอาชีวศึกษา” การประกวดสิ่งประดิษฐ์ของคนรุ่นใหม่ ประจำปีการศึกษา 2565 ปีพุทธศักราช 2565 - 2566 ...................................................................... ชื่อผลงานวิจัย(ภาษาไทย) ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือน (ภาษาอังกฤษ) Control system for turn on - off the lights in the house ชื่อสถานศึกษา วิทยาลัยเทคนิคระยอง อาชีวศึกษา จังหวัดระยอง ที่อยู่ 086/13 ถนนตากสินมหาราช ตำบลท่าประดู่ อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง เบอร์โทรศัพท์ 081-651 9360 E-mail [email protected] ส่วน ก : ลักษณะงานวิจัย งานวิจัยใหม่ งานวิจัยต่อเนื่องระยะเวลา 1 ปี ความสอดคล้องระดับชาติ 1. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่12 ยุทธศาสตร์ สร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและแข่งขันได้อย่างยั่งยืน 2. นโยบายและยุทธศาสตร์การวิจัยของชาติฉบับที่9 ยุทธศาสตร์ ส่งเสริมกลไกและกิจกรรมการนำกระบวนการวิจัยผลงานวิจัด องค์ความรู้ นวัตกรรม และเทคโนโลยีจากงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ได้จริงโดย ความร่วมมือของภาคส่วนต่าง ๆ 3. ยุทธศาสตร์การวิจัยของชาติรายประเด็น ยุทธศาสตร์ การพัฒนาเทคโนโลยี 4. ยุทธศาสตร์ประเทศ ยุทธศาสตร์ การพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีวิจัย และนวัตกรรม 5. นโยบายรัฐบาล/เป้าหมายของรัฐบาล นโยบาย/เป้าหมาย การพัฒนาและส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนานวัตกรรม ความสอดคล้องระดับกระทรวง 1. นโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นโยบายการศึกษาเพื่ออาชีพและสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน ของประเทศ 2. ยุทธศาสตร์กระทรวงศึกษาธิการ ยุทธศาสตร์ ผลิตและพัฒนากำลังคน รวมทั้งงานวิจัยที่สอดคล้องกับความ ต้องการของประเทศ
3. ยุทธศาสตร์สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ยุทธศาสตร์ ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน ความสอดคล้องระดับส่วนภูมิภาค 1. ยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก ยุทธศาสตร์ ส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 2. จังหวัดระยอง ยุทธศาสตร์ การพัฒนาความเป็นเลิศด้านการศึกษา ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่นและการกีฬา 3. พันธกิจหรือนโยบายของสถานศึกษา/สถาบันการอาชีวศึกษา พันธกิจหรือนโยบาย มีการวิจัยและพัฒนาเพื่อส่งผลไปสู่ความเข้มแข็ง ของสถาบันและชุมชนให้สอดคล้องกับภูมิปัญญาของท้องถิ่น โครงการวิจัยนี้ สามารถนำไปเผยแพร่และขยายผลไปสู่การใช้ประโยชน์ได้ เชิงนโยบาย (ระบุ) ................................................................................. เชิงพาณิชย์ (ระบุ) งานวิจัยที่นำไปสู่การสร้างสิ่งประดิษฐ์ ต่อยอด พัฒนานวัตกรรมเชิงพาณิชย์ เชิงวิชาการ (ระบุ) ................................................................................. เชิงพื้นที่ (ระบุ) ...................................................................................... เชิงสาธารณะ/สังคม (ระบุ) งานวิจัยนี้ที่นำไปสู่การสร้างสิ่งประดิษฐ์ นักวิจัยรุ่นใหม่สามารถนำงานวิจัยชิ้นนี้ ต่อยอดพัฒนานวัตกรรมเชิง พาณิชย์ อื่น ๆ (ระบุ) ........................................................................................... ภาพแบบร่าง/หรือภาพผลงานสิ่งประดิษฐ์
ส่วน ข : องค์ประกอบในการจัดทำโครงการวิจัย 1. ผู้รับผิดชอบประกอบด้วย 1.1 หัวหน้าทีมโครงการวิจัย ชื่อ นางสาวปารีณา นามสกุล ญาติเจริญ ตำแหน่ง นักศึกษา ระดับชั้น ปวส.2 สาขาวิชา เทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล ที่อยู่ 15/33 ซ.กอไผ่ ถ.ราษฎร์นิยม ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง จ.ระยอง 21150 เบอร์โทรศัพท์087-133 6348 E-mail [email protected] 1.2 นักวิจัยรุ่นใหม่/คณะผู้ร่วมวิจัย 1.2.1 ชื่อ นางสาวนภสร นามสกุล บุญเกิด ตำแหน่ง นักศึกษา ระดับชั้น ปวส.2 ทวิภาคี ระดับชั้น ปวส. 2 สาขาวิชา เทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล 1.3 คณะผู้ร่วมวิจัย/ที่ปรึกษาโครงการวิจัย 1.3.1 ชื่อ นายมงคล นามสกุล พรมประเสริฐ ตำแหน่ง ครูอัตราจ้าง แผนกวิชา เทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล สาขาวิชาที่เชี่ยวชาญ วิศวกรคอมพิวเตอร์ หลักสูตร 5 ปี 2. ประเภทการวิจัย การวิจัยและพัฒนา (research and development) 3.ฏสาขาวิชาการ/ประเภทสิ่งประดิษฐ์ของคนรุ่นใหม่ สิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมที่ทำการวิจัย ประเภทที่ 1 สิ่งประดิษฐ์ด้านพัฒนาคุณภาพชีวิต สิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมที่ทำการวิจัย ประเภทที่ 2 สิ่งประดิษฐ์ด้านการประกอบอาชีพ สิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมที่ทำการวิจัย ประเภทที่ 3 สิ่งประดิษฐ์ด้านเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน สิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมที่ทำการวิจัย ประเภทที่ 6 สิ่งประดิษฐ์ด้านนวัตกรรมซอฟต์แวร์และระบบสมองกลฝังตัว สิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมที่ทำการวิจัย ประเภทที่ 9 สิ่งประดิษฐ์ประเภทกำหนดโจทย์ : Mini Smart Farms 4. คำสำคัญ (keywords) ของการวิจัย 4.1 การควบคุมระบบ หมายถึง การควบคุมระบบงานอาจแบ่งตามวิธีการควบคุม ได้เป็น 2 ประเภทคือการควบคุมโดยโปรแกรมและการควบคุมโดยผู้ปฏิบัติงาน การควบคุม โดยโปรแกรมเป็นการควบคุมในลักษณะของการตรวจสอบโดยอาศัยความสามารถทางด้านตรรกะ ของคอมพิวเตอร์เปรียบเทียบข้อมูลจริงกับเกณฑ์หรือเงื่อนไขที่กำหนดไว้ล่วงหน้าในระบบ คอมพิวเตอร์การควบคุมโดยโปรแกรมอาจเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าการตรวจสอบโดยโปรแกรม
4.2 Board Arduino หมายถึง เป็นบอร์ดไมโครคอนโทรเลอร์ตระกูล AVR ที่มีการพัฒนาแบบ Open Source คือมีการเปิดเผยข้อมูลทั้งด้าน Hardware และ Software ตัวบอร์ด Arduino ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นศึกษา ทั้งนี้ผู้ใช้งานยังสามารถดัดแปลง เพิ่มเติม พัฒนาต่อยอดทั้งตัวบอร์ด หรือโปรแกรมต่อได้อีกด้วย 4.3 Smart Farm หมายถึง การทำการเกษตรอัจฉริยะที่นำเทคโนโลยีเข้ามาบริหาร จัดการระบบการเพาะปลูกในทุก ๆ ขั้นตอน และสามารถควบคุมทุกอย่างได้ด้วยเทคโนโลยี เพื่อทำการตรวจสอบ เก็บข้อมูล วิเคราะห์ และแก้ปัญหาการเพาะปลูกได้แบบ Real-Time พร้อมกับ สามารถแสดงผลข้อมูลการเจริญเติบโตและคาดการณ์ผลผลิตได้อย่าง 4.4 Smart App หมายถึง ระบบ SME SMART APP เป็นระบบบริหารจัดการองค์กร ใหญ่ ๆ โดยระบบ SME SMART APP เป็นระบบบริหารที่สามารถเก็บข้อมูลพนักงาน ระบบจัดการ เงินเดือน ระบบสั่งซื้อ ระบบออกใบเสนอราคา ระบบใบวางบิลสำหรับองค์กรที่ทำธุรกิจ ระบบออกบิล สำหรับองค์กรที่ทำธุรกิจ และระบบรายรับรายจ่ายของบริษัท ตลอดจนสามารถดูข้อมูล ผ่านอินเทอร์เน็ตได้ เพื่อเป็นตัวช่วยในการจัดการภายในองค์กรที่จะสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น 5. ความสำคัญและที่มาของปัญหาที่ทำการวิจัย เทคโนโลยี (Technology) คือการใช้ความรู้ เครื่องมือ ความคิด หลักการ เทคนิค ความรู้ ระเบียบวิธี กระบวนการตลอดจน ผลงานทางวิทยาศาสตร์ทั้งสิ่งประดิษฐ์และวิธีการ มาประยุกต์ใช้ในระบบงานเพื่อช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการทำงานให้ดียิ่งขึ้นและเพื่อเพิ่ม ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงานให้มีมากยิ่งขึ้น เทคโนโลยีเป็นการประยุกต์ นำเอาความรู้ทาง วิทยาศาสตร์มาใช้ และก่อให้เกิดประโยชน์ ในทางปฏิบัติ ใ นปั จ จ ุ บั นเท ค โนโล ยี Internet of Things (IoT) ได้ เข ้ าม าม ี บท บาท ในชีวิตประจำวันของผู้คนมากขึ้น การเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ เข้าสู่อินเทอร์เน็ตทำให้การควบคุมอุปกรณ์ ต่างๆ เป็นไปอย่างมีอิสระมากขึ้น เช่น การควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ภายในครัวเรือนหรือที่ทำงาน ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต Internet of Things (IoT) มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจดิจิทัล เป็นอย่างมาก โดยเทคโนโลยี IoT กำลังเติบโตอย่าง ก้าวกระโดดและส่งผลกระทบต่อแทบทุก ภาคอุตสาหกรรม คาดการณ์ว่าจำนวนอุปกรณ์ IoT ที่ใช้ทั่วโลก จะสูงถึง 60,700 ล้านเครื่องภายในปี 2567 เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ที่มี 19,900 ล้านเครื่อง มีการเติบโตเฉลี่ย 20.35% ต่อปี แสดงถึงความ ต้องการใช้เทคโนโลยี IoT ในระดับสูงมากในโลก เป็นที่น่าสังเกตว่าลักษณะ การเข้ามาของเทคโนโลยี IoT สำหรับผู้บริโภคหรือผู้ประกอบการทั่วไปมักจะอยู่ในรูปแบบของบ้าน อัจฉริยะ (Smart Home) หรือ ฟาร์มอัจฉริยะ (Smart Farming) สามารถควบคุมจากภายในบ้านหรือ ผ่านไมโครเซนเซอร์ หรือผ่านแอปพลิเคชั่นและเมื่อเชื่อมเข้ากับระบบอินเทอร์เน็ตทำให้สามารถควบคุม จากสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ได้จากจุดใดก็ตาม ช่วยให้การดำรงชีวิตมีความสะดวกสบายยิ่งขึ้น ดังนั้นผู้จัดเห็นความสำคัญของการนำระบบ IoT มาใช้กับโลกเกษตร เพื่อประหยัด งบประมานในการจ้างแรงงาน ประหยัดระยะเวลาในการควบคุมหรือตรวจสอบการเก็บข้อมูล ต่าง ๆ เพื่อนำไปวางแผนในการทำธุรกิจในอนาคต ผู้จัดทำจึงได้นำระบบเดิม มาพัฒนาให้สามารถใช้ งานได้มีประสิทธิ์ภาพเพิ่มมากยิ่ง จึงได้มีระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือนขึ้นมา
6. วัตถุประสงค์ของการวิจัย 6.1 เพื่อพัฒนาระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือน 6.2 เพื่อประเมินผลประสิทธิภาพของระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือน 6.3 เพื่อเผยแพร่ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือนโครงการประกวดโครงการ วิชาชีพ ชมรมวิชาชีพเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล 7. ขอบเขตของการวิจัย 7.1 ขอบเขตด้านชิ้นงาน จัดทำโครงการครั้งนี้เพื่อที่จะต้องการพัฒนาระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟใน โรงเรือน 7.2 ขอบเขตด้านประชากรและกลุ่มตัวอย่าง เกษตรกร จำนวน 10 คน 7.3 ขอบเขตด้านฮาร์ดแวร์ 7.3.1 Nodemcu esp8266 7.3.2 หลอดไฟ 7.3.3 สายไฟ 7.3.4 สายจั้มเปอร์ 7.3.5 USB Micro 7.3.6 รีเลย์ (Relay Board) 8. การทบทวนวรรณกรรม/สารสนเทศ (information) ที่เกี่ยวข้อง ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือน คือ การทำการเกษตรอัจฉริยะ ที่นำเทคโนโลยีเข้ามาบริหารจัดการระบบการเพาะปลูกระบบที่ควบคุมการเปิด-ปิดไฟภายในโรงเรือน ที่เราต้องการโดยสั่งการด้วยโทรศัพท์มือถือซึ่งการที่เราใช้แสงจากหลอดไฟ LED แสงอัลตราไวโอเลต จะช่วยให้ต้นไม้ได้รับแสงตามที่ต้องการความยาวของคลื่นแสงที่ได้จะช่วยในการเจริญเติบโต พร้อมกับสามารถแสดงผลข้อมูลการเจริญเติบโต 9. เอกสารอ้างอิงของการวิจัย 10.1 Svhroup. 2020.สมาทฟาร์ม (Smart Farm) ระบบเพื่อการเกษตรในอนาคต ดิจิตอล4.0 [ออนไลน์]. สืบค้นจาก: https://bit.ly/3jaL02D (วันที่สืบค้น 6 มิถุนายน 2565) 10.2 ExpresSo. 2020.Smart Farmer คืออะไร? ช่วยลดต้นทุนทางการเกษตรได้ อย่างไรบ้าง.[ออนไลน์]. สืบค้นจาก: https://bit.ly/3qnwQws (วันที่สืบค้น 7 มิถุนายน 2565) 10.3 LNW shop. 2019.ไฟสำหรับปลูกต้นไม้หรือ LED Grow Light คืออะไร? [ออนไลน์]. สืบค้นจาก: https://bit.ly/3dfupXI (วันที่สืบค้น 7 มิถุนายน 2565)
10. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 11.1 มีระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือนใช้งาน 11.2 ได้ทราบผลประเมินผลประสิทธิภาพของระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟใน โรงเรือนของแผนกเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัลอยู่ในระดับมาก 11.3 เผยแพร่ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือนผ่านโครงการประกวดโครงการ วิชาชีพ ชมรมวิชาชีพเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล 11. ควบคุมระบบเปิด-ปิดไฟในโรงเรือน 12.1 ทดลองใช้งานระบบเปิด-ปิดไฟในโรงเรือน 12.2 ทดลองใช้งานจริงกับกลุ่มเป้าหมาย 12. วิธีการดำเนินการวิจัยและสถานที่ทำการทดลอง/เก็บข้อมูล 12.1 สถานที่ในการทดลอง แผนกเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล 12.2 แบบประเมินผลประสิทธิภาพของระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือน สาขาวิชาเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล วิทยาลัยเทคนิคระยอง 12.3 เครื่องมือในการวิจัย การวิจัยในครั้งนี้จะใช้แบบประเมินประสิทธิภาพระบบ ซึ่งเครื่องมือที่ใช้จะเป็น การทดลองใช้ระบบ โดยมีประเด็นในการประเมินดังต่อไปนี้ 13.3.1 ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือน 13.3.2 ประเมินผลประสิทธิภาพการใช้งานโดยการทดสอบระบบ โดยมี ประเด็นดังนี้ 1) ความเร็วในการตอบสนองการสั่งงาน 2) ความเสถียรของระบบ 3) ความสามารถในการนำไปใช้งานจริง 12.4 การเก็บรวบรวมข้อมูล 13.4.1 เก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อหาประสิทธิภาพในและความพึงพอใจ 12.5 วิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 12.6 สถิตติที่ใช้ 12.6.1 ค่าเฉลี่ยร้อยละ 12.6.2 ค่าเฉลี่ย 12.6.3 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การวิเคราะห์ความพึงพอใจของ ผู้ใช้ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือนเลือกใช้สถิติพื้นฐานดังนี้
1) ค่าเฉลี่ย (Mean) สูตร ̅= ∑ เมื่อ ̅ แทน ค่าเฉลี่ย ∑ แทน ผลรวมของคะแนนทั้งหมด แทน จำนวนทั้งหมด 2) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) สูตร . = √ ∑ 2−(∑) 2 (−1) เมื่อ . แทน ส่วนเบี่ยงเบนมาตราฐาน ∑ แทน ผลรวมของเลขคณิตในกลุ่มทั้งหมด แทน จำนวนคะแนนในกลุ่ม ∑ 2 แทน ผลรวมของเลขคณิตตัวละกำลังสอง 13. ระยะเวลาทำการวิจัยและแผนการดำเนินงานตลอดการวิจัย ใช้ระยะเวลา 1 ปี 14. ปัจจัยที่เอื้อต่อการวิจัย (ถ้ามี) อุปกรณ์สำหรับทำระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือน 15. งบประมาณของการวิจัย 15.1 งบประมาณทั้งหมด 360 บาท 16.2 รายละเอียดงบประมาณค่าใช้จ่าย รายละเอียดงบประมาณการวิจัยจำแนกตามงบประเภทต่าง ๆ (ปีงบประมาณที่เสนอขอ) รายการ จำนวนเงิน หมายเหตุ 1. งบบุคลากร - ค่าจ้างชั่วคราว 0 2. งบดำเนินงาน - 2.1 ค่าตอบแทน ใช้สอยและวัสดุ - 2.1.1 ค่าตอบแทน เช่น ค่าตอบแทนปฏิบัติงานนอกเวลา ราชการ ค่าเบี้ยเลี้ยงประชุมกรรมการ ฯลฯ 0 2.1.2 ค่าใช้สอย เช่น - 1) ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าเช่าที่พัก ค่าพาหนะ 0 2) ค่าจ้างเหมาบริการ 0 3) ค่าใช้จ่ายในการสัมมนาและฝึกอบรม 0
รายละเอียดงบประมาณการวิจัยจำแนกตามงบประเภทต่าง ๆ (ปีงบประมาณที่เสนอขอ)(ต่อ) รายการ จำนวนเงิน หมายเหตุ 4) ค่าใช้สอยอื่น ๆ 0 2.1.3 ค่าวัสดุ เช่น - 1) วัสดุสำนักงาน 0 2) วัสดุเชื้อเพลิงและหล่อลื่น 0 3) วัสดุไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 130 4) วัสดุโฆษณาและเผยแพร่ 0 5) วัสดุหนังสือ วารสารและตำรา 0 6) วัสดุคอมพิวเตอร์ 0 7) วัสดุอื่น ๆ 0 2.2 ค่าสาธารณูปโภค เช่น - ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา ค่าโทรศัพท์ ค่าไปรษณีย์ ค่าบริการด้านสื่อสารและโทรคมนาคม 0 3. งบลงทุน - ค่าครุภัณฑ์ 0 รวมงบประมาณที่เสนอขอ 130 17. ผลสำเร็จและความคุ้มค่าของโครงการวิจัยที่คาดว่าจะได้รับ 17.1 ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือนสามารถใช้งานได้จริง 17.2 สามารถต่อยอดระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงเรือนในธุรกิจ
18. ลงชื่อหัวหน้าทีมวิจัย (นักศึกษา) (ลงชื่อ)..................................................... (นางสาวปารีณา ญาติเจริญ) วันที่........ เดือน....................... พ.ศ.......... 19. ลงชื่อครูที่ปรึกษางานวิจัย (ลงชื่อ)..................................................... (นายมงคล พรมประเสริฐ) วันที่........ เดือน....................... พ.ศ.......... 20. ลงชื่อครูที่ปรึกษางานวิจัย (ลงชื่อ)..................................................... (นางศลิษา หนูเสมียน) วันที่........ เดือน....................... พ.ศ.......... 21. คำรับรองของหัวหน้าสาขาวิชาเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล (ลงชื่อ)..................................................... (นายอุทัย ศรีษะนอก) วันที่........ เดือน....................... พ.ศ..........
ส่วน ค : ประวัติคณะผู้วิจัย นักเรียน นักศึกษา 1.กกชื่อ -นามสกุล (ภาษาไทย) นางสาวปารีณา ญาติเจริญ Name – Surname (ภาษาอังกฤษ) Miss Pareena Yatjaroen 2.กกระดับการศึกษา ปวช. ชั้นปีที่ .................... ปวส. ชั้นปีที่ 2 สาขาวิชา เทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล สาขางาน เทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล ระยะเวลาที่ใช้ทำวิจัย 1 ปี 3.กกที่อยู่ที่ติดต่อได้สะดวก พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ และไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ 15/33 ซ.กอไผ่ ถ.ราษฎร์นิยม ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง จ.ระยอง 21150 เบอร์โทรศัพท์087-133 6348 (e-mail) [email protected] 1. ชื่อ -นามสกุล (ภาษาไทย) นางสาวนภสร บุญเกิด Name – Surname (ภาษาอังกฤษ) Miss Napasorn Boonkert 2. ระดับการศึกษา ปวช. ชั้นปีที่ .................... ปวส. ชั้นปีที่ 2 สาขาวิชา เทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล สาขางาน เทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล ระยะเวลาที่ใช้ทำวิจัย 1 ปี 3. ที่อยู่ที่ติดต่อได้สะดวก พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ และไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ 51/3 หมู่ 2 ซอยน้ำโฉ่ ตำบลหนองตะพาน อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง 21120 เบอร์โทรศัพท์085-977 3539 (e-mail) [email protected]
ประวัติครูที่ปรึกษา 1. ชื่อ - นามสกุล (ภาษาไทย) นายมงคล พรมประเสริฐ Name – Surname (ภาษาอังกฤษ) Mr. Mongkol Promprasert 2. ตำแหน่งปัจจุบัน ครูอัตราจ้าง แผนกวิชา เทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล 3. หน่วยงานและสถานที่อยู่ที่ติดต่อได้สะดวก พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ แผนกวิชาเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล วิทยาลัยเทคนิคระยอง ที่อยู่ 086/13 ถนนตากสิน มหาราช ตำบลท่าประดู่ อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง หมายเลขโทรศัพท์ 098-573 2347 อิเล็กทรอนิกส์ (e-mail) [email protected] 4. ประวัติการศึกษา (ตั้งแต่ระดับปริญญาตรีขึ้นไป) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี คณะ : ครุศาสตร์อุตสาหกรรม สาขาวิชา : วิศวรกรคอมพิวเตอร์ หลักสูตร 5 ปี ชื่อปริญญา : ครุศาสตร์อุตสาหกรรมบัฌฑิต (ค.อ.บ.)