หนังสือเล่มเล็ก
เรื่อง รวบรวมนิทานส่งเสริมความ
สามัคคี 10 เรื่อง
นำเสนอ
คุณครู เจริญ ผลฉัตร
จัดทำโดย
นางสาวคณิสร ลุงซาน เลขที่ 19 ชั้น ม.6/5
นางสาววราภรณ์ เจนวิถี เลขที่ 24 ชั้น ม.6/5
1.นิทานเรื่อง ลิงแข่งเรือ
ณ. ป่าแห่งหนึ่งแบ่งเป็นป่าเหนือ และป่าใต้ มีลำธารใสเย็นไหลผ่าน มีฝูง
ลิงอาศัยเล่นน้ำอย่างสำราญ ลิงมักจะไปท้าทาย สัตว์ต่างๆ ในป่ามา
แข่งพายเรือกับพวกตน จนสัตว์ป่าพากันระอา เมื่อช้างรู้ข่าวจึงรับคำ
ท้าของลิง และได้รวบรวมสัตว์ป่าเหนือฝึกฝนพายเรือโดยมีช้างอยู่
ท้าย ควายอยู่หน้า และตรงกลางคือหมู่ป่า แต่ทางฝ่ายลิงนั้นไม่เคยฝึก
ซ้อม วันๆ เอาแต่ขี้เกียจ หาเรื่องทะเลาะกับเพื่อน ๆ ฝูงลิงกันเอง เมื่อ
เวลาแข่งมาถึง สัตว์ป่าทางเหนือสามัคคีกัน พายเรือพร้อมเพรียงเป็น
จังหวะ โดยน้ำหนักของเพื่อนๆ ในเรือไม่เป็นอุปสรรค ในการพายเรือ
เลย ส่วนลิงนั้นมีน้ำหนักเบาแต่ขาดความพร้อมเพรียงและสามัคคีกัน
จนทำให้เรือคว่ำล้มเหลว สร้างความอับอายให้กับสัตว์ป่าทางเหนือ
เพราะความไม่สามัคคีกัน ในที่สุดสัตว์ป่าทางเหนือก็แข่งชนะไปถึงเส้น
ชัยก่อนฝูงลิง
คข้อวคาิมดสที่าไมดั้คจคาีกทนำิใทห้าปนรเระื่สอบงผนี้ลสำ
เร็จ
https://wbscport.dusit.ac.th/view/view.php?id=1789
2.บินสุดขอบฟ้า
เรื่องราวของอีกา 2 ตัว แห่งเกริงกาเวีย ที่ต่อสู้ชีวิตเพื่ออิสรภาพ อีกา
หนุ่มและอีกาแก่ถูกจับมาขังไว้ด้วยกัน เริ่มแรกอีกา 2 ตัวมีแต่ความไม่
เข้าใจกันและขุ่นเคืองกัน ต่อมาเกิดไมตรีกันต่างช่วยเหลือกันออกจาก
กรงขัง เพื่อกลับไปสู่ถิ่นกำเนิดอันมีอิสรภาพที่ใฝ่หา จนสุดท้ายอีกาแก่
ต้องสละชีพเพื่อให้อีกาหนุ่มไปถึงเกริงกาเวียอย่างปลอดภัย
ข้อคิดที่ได้จากนิทานเรื่องนี้
ความสามัคคีทำให้ประสบผลสำเร็จ
http://www.tup.ac.th/virtue/tale8.html
3.เรารักกัน
นุชและนพเป็นพี่น้องกัน แม่สอนให้นุชช่วยดูแลน้องและรักน้อง พ่อกับ
แม่พาทั้งสองไปหาตายาย ที่บ้านตายายมีเด็กเล็กหลายคน เด็กๆเล่น
ด้วยกัน ไม่รังแกกัน เมื่อนุชเข้าโรงเรียน นุชรักเพื่อนและรักครู นุชและ
เพื่อนเล่นด้วยกัน กินอาหารด้วยกัน และทำกิจกรรมร่วมกัน นุชมี
ความสุขมาก ทุกคนรักคุณครู รักเพื่อน และรักโรงเรียน
ข้อคิดที่ได้จากนิทานเรื่องนี้
สอนให้รักสามัคคีระหว่าง พี่น้อง และเพื่อน
http://www.tup.ac.th/virtue/tale8.html
4.นกกระจาบ
ณ ไร่ข้าวโพด นกกระจายตัวหนึ่งทำรังอยู่บนต้นข้าวโพด เมื่อฤดูเก็บ
เกี่ยวมาถึงมันก็กลัวว่าชาวนาจะมาเก็บเกี่ยวข้าวโพดก่อนที่ลูกๆ ของ
มันจะบินได้ แม่นกจึงสั่งให้ลูกๆ คอยฟังว่าชาวนาจะเก็บข้าวโพดกัน
เมื่อใด เมื่อแม่นกกลับมาลูกๆ จึงรีบบอกว่า "เขาขอให้เพื่อนบ้านมาช่วย
กันเก็บเกี่ยวพรุ่งนี้ แต่เพื่อนบ้านขอพลัดไปก่อน" แม่นกจึงยังคงอยู่ที่
เดิมต่อ รุ่งขึ้นเมื่อแม่นกกลับมาหลังจากหาอาหารลูกนกก็รีบบอกแม่น
กว่า "แม่จ๋า ชาวนาเขาเพิ่งบอกให้ลูกชายไปหยิบเคียวมา เขาจะลงมือ
วันนี้เลย" แม่นกจึงบอกกับลูกๆ ว่า "เราคงต้องรีบย้ายรังกันตอนนี้
แล้วล่ะ เพราะถ้ามนุษย์คิดจะทำอะไรเขาจะไม่ยอมเสียเวลาเลยสักนิด
เดียว"
ข้อคิดที่ได้จากนิทานเรื่องนี้
หากคิดจะทำอะไรจงมีความมุ่งมั่
น ทำให้ประสบผลสำเร็จอย่าหวังแต่
จะพึ่งพาคนอื่นควรสามัคคีกันเข้าไว้
http://www.tup.ac.th/virtue/tale8.html
5.สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสมเด็จพระนเรศวรเมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์ได้
ถูก เจ้าเมืองพม่าขอไปเป็นเชลยและทางพม่าทรงเลี้ยงดูจนเติบใหญ่
และเมื่อสมเด็จ พระนเรศวรโตขึ้นจึงคิดกู้กรุงศรีอยุธยากลับมาให้เป็น
เอกราช โดยรวบรวมสมัครพรรคพวก จนสามารถกู้เอกราชได้ในที่สุด
ข้อคิดที่ได้จากนิทานเรื่องนี้
ความสามัคคี คือพลัง ทำให้ประส
บผลสำเร็จ
http://www.tup.ac.th/virtue/tale8.html
6.บางระจัน
เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับกรุงศรีอยุธยาตอนปลายที่มีการแก่งแย่งราชบัล
ลังค์ พม่าจึงยกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาแต่มีคนไทยกลุ่มหนึ่งซึ่งมีนาย
แท่น นายโชติ นายอิน นายคอก นายเสวง และนายทองแก้วที่ช่วย
ล่อลวงพม่าไปฆ่าและหลบหนีไปอยู่ที่บางระจันจึงทำให้เกิดเป็นวีรกรรม
และประวัติของชาวบางระจันขึ้น
ข้อคิดที่ได้จากนิทานเรื่องนี้
ความสามัคคี คือพลัง
http://www.tup.ac.th/virtue/tale8.html
7.สามพี่น้องกับกิ่งไม้
ชายแก่คนหนึ่งมีลูกชาย 3 คน ลูกชายทั้งสามคนของเขาเป็นคนที่ขยันขันแข็งมาก
แต่พวกเขามักทะเลาะเบาะแวงกันอยู่เป็นประจำ ผู้เป็นพ่อพยายามตักเตือนให้พวก
เขารักสามัคคีกัน แต่แล้วก็ต้องล้มเหลวไปทุกครั้งผู้เป็นพ่อจึงตัดสินใจจะแสดง
ตัวอย่างให้เห็นถึงผลร้ายของความไม่สามัคคี…วันหนึ่งเขาบอกให้ลูกๆ ไปหากิ่งไม้
มาหลายๆ กิ่ง เมื่อลูกๆ นำมาให้แล้ว เขาได้มัดกิ่งไม้รวมกันเป็นมัดใหญ่ แล้วบอก
ให้ลูกชายแต่ละคนลองหักไม้ออกเป็น 2 ท่อน ทุกคนพยายามหักกิ่งไม้จนสุดแรง
แต่ก็ไม่สำเร็จ…ต่อจากนั้น ผู้เป็นพ่อได้แก้มัดกิ่งไม้ออก แล้ววางกิ่งไม้ลงบนมือ
ของลูกชายทุกคน คนละ 1 กิ่ง แล้วบอกให้ลูกๆ ลองหักกิ่งไม้ดู ลูกๆ ทุกคนก็หัก
กิ่งไม้ออกเป็นสองท่อนได้อย่างง่ายดาย…ผู้เป็นพ่อ จึงพูดว่า “นี่แหละลูก ถ้าพวก
เจ้ารู้รักสามัคคีและช่วยเหลือกัน พวกเจ้าจะเป็นเหมือนกิ่งไม้มัดนี้ ที่ศัตรูไม่อาจ
ทำร้ายได้ แต่ถ้าพวกเจ้าแบ่งแยกทะเลาะกันเอง ศัตรูจะสามารถเอาชนะพวกเจ้าได้
อย่างง่ายดาย เหมือนกิ่งไม้ที่แยกออกจากกันเหล่านี้แล”…หลังจากนั้นเป็นต้นมา
ลูกชายทั้งสามคนก็เข้าใจถึงพลังของความสามัคคี และให้สัญญากับพ่อไปว่า “ต่อ
จากนี้ไปไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พวกเราก็จะรักและสามัคคีกันตลอดไปค่ะ”
สข้อามคัิคดคทีี่ไคดื้อจาพกลนัิงทา“นรเวรื่มอกงันนี้เราอย
ู่ แยกหมู่เราตาย”
https://nitanstory.com/three-sons-and-bundle-of-sticks/
8.ไม้มัดรวมกัน
เป็นเรื่องของชายคนหนึ่งมีลูกชายหลายคน ลูกของเขามักจะมีเรื่องทะเลาะกันอยู่
ตลอดเวลา เขาเคยห้ามปรามและทำหลายวิธีแต่ก็ไม่สามารถหยุดพวกลูก ๆ ได้ ทุก
วันจะต้องมีเรื่องทะเลาะกันให้ผู้เป็นพ่อหนักใจอยู่ตลอด เขาจึงคิดหาวิธีที่จะพูดให้
ลูกๆ ได้คิดและเลิกทะเลาะกันหันมาปรองดองกันให้ได้ จนกระทั่งครั้งหนึ่งที่ลูกๆ
ทะเลาะกันรุนแรงกว่าครั้งไหน ๆ ถึงขั้นลงไม้ลงมือต่อสู้กัน ไม่มีใครยอมใคร ชาย
ผู้เป็นพ่อจึงคิดหาวิธีจนได้ เขาเรียกลูกชายแต่ละคนมา จากนั้นจึงยื่นกิ่งไม้ก้าน
เล็ก ๆ ให้คนละ 1 ก้าน แล้วบอกให้ลูก ๆ หักไม้นั่นเป็นสองท่อน เหล่าลูกชายใช้แรง
เพียงนิดเดียวก็หักไม้นั้นสำเร็จ หลังจากนั้น พ่อจึงส่งไม้กำใหญ่ให้ลูกคนหนึ่ง
บอกให้หักไม้กำนั้น แต่ลูกชายก็ไม่สามารถหักไม้นั้นได้ เมื่อพ่อส่งให้ลูกชายคนต่อ
ๆ ไปหัก ก็ไม่มีลูกคนใดที่หักไม้นั้นได้เลย พ่อจึงพูดกับลูกว่า “ลูกชายของพ่อเอ๋ย
พวกเจ้าคงจะเห็นแล้วว่า ไม้เพียง 1 ก้านสามารถหักลงได้ง่ายดาย แต่เมื่อนำไม้มา
มัดรวมกันมาก ๆ ก็ยากที่จะหักลงได้ เช่นเดียวกับพวกเจ้า ถ้ารวมกันเป็นหนึ่ง
เดียวไม่ทะเลาะกันอีก พวกเจ้าจะแข็งแกร่ง ไม่ว่าศัตรูหรือใครก็ไม่อาจจะต่อสู้ หรือ
ทำร้ายพวกเจ้าได้ ”
ข้อคิดที่ได้จากนิทานเรื่องนี้
ความสามัคคีกัน มีพลังสามารถเอาชนะอุปสรรคและศัตรู
ได้
https://xn--o3cdbi8era7aon.com/aesop-fables/82/
9.นกกระจาบแตกความสามัคคี
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วในป่าแห่งหนึ่งมีนกกระจาบฝูงใหญ่อาศัยอยู่ร่วมกันหลายพันตัวโดยมี
พญานกกระจาบเป็นหัวหน้าฝูงคอยดูแลบริวารด้วยความผาสุกตลอดมาต่อมาพญานกกระจาบ
สังเกตเห็นว่ามีบริวารนกกระจาบหายไปจำนวนหนึ่งจึงรีบสืบหาสาเหตุพบว่ามีนายพรานคนหนึ่ง
เข้ามาจับนกกระจาบไปขายโดยการทอดตาข่ายทำให้ได้นกกระจาบไปเป็นจำนวนมากพญานก
กระจาบจึงเรียกบริวารนกมาประชุมกันแล้วแนะนำวิธีเอาตัวรอดจากตาข่ายของนายพราน
ว่า“ท่านทั้งหลาย หากวันใดพวกท่านพลาดพลั้งถูกนายพรานใช้ตาข่ายครอบจับได้ ให้ทุกท่านที่
อยู่ในตาข่ายสอดหัวเข้าไปในช่องแต่ละช่องของตาข่ายแล้วพร้อมใจกันบินพาตาข่ายไปพาดไว้ที่
ต้นหนาม จากนั้นให้บินหนีออกมาทางด้านล่างของตาข่ายด้วยวิธีนี้จะทำให้พวกท่านรอดพ้นจาก
ภัยอันตรายได้”เมื่อได้ฟังคำจากพญานกกระจาบแล้วเหล่านกบริวารก็ร่วมมือกันทำตามคำแนะนำ
นั้นเป็นอย่างดีนับจากวันนั้นนายพรานก็ไม่สามารถจับนกกระจาบไปขายได้อีกเลยอยู่มาวันหนึ่งมีน
กกระจาบตัวหนึ่งบินร่อนลงมาไม่ทันระวังจึงไปเหยียบหัวนกกระจาบอีกตัวเข้านกกระจาบตัวที่ถูก
เหยียบหัวโกรธมากแม้จะได้รับคำขอโทษแล้วก็ยังไม่หายโกรธจึงเกิดการการทุ่มเถียงกันไม่รู้จบ
สุดท้ายเรื่องลุกลามจนกระทั่งแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันขึ้น แม้พญานกกระจาบจะเข้ามาห้ามปรามแต่ทั้ง
สองฝ่ายก็ไม่รับฟังพญานกกระจาบจึงรำพึงออกมาว่า“เมื่อมีการทะเลาะวิวาทเกิดขึ้นที่ใดแล้ว
ความสามัคคีก็จักไม่เกิดขึ้นที่นั่นแล้วไม่นานความพินาศจะต้องมาถึง”กล่าวจบพญานกกระจาบก็
พาบริวารนกกระจาบที่ยังมีความสามัคคีกันอยู่อพยพไปหาแหล่งที่อยู่ใหม่หลังจากนั้นไม่นานนาย
พรานคนเดิมก็เข้ามาจับนกกระจาบในป่าแห่งนี้อีกครั้งคราวนี้เมื่อเหล่านกกระจาบถูกจับได้พวก
มันกลับไม่ช่วยกันยกตาข่ายขึ้นอีกแล้วบ้างก็พากันบินไปในทิศทางที่ตนพอใจบ้างก็พากันทุ่มเถียง
เกี่ยงหน้าที่ในการยกตาข่ายขึ้นจนในที่สุดเหล่านกกระจาบก็ถูกนายพรานรวบตาข่ายจับเอาไปขาย
ได้เสียทั้งหมด
ข้อคิดที่ได้จากนิทานเรื่องนี้
การทะเลาะกันนำมาซึ่งความพินาศ เพราะฉะนั้นควรสามัคคีปองดอง
กันเอาไว้
https://web.facebook.com/1496740800566477/
posts/2324215457819003/?_rdc=1&_rdr
10.ความสามัคคี คือพลัง
นายพรานผู้หนึ่งได้กางตาข่ายและโรยเมล็ดข้าวไว้ดักนก เมื่อนกพิราบฝูงหนึ่ง มา
จิกกินข้าว นายพรานก็ปล่อยตาข่ายลงมาคลุมนกไว้ได้ทั้งฝูง แต่แล้วนกพิราบเหล่า
นั้นกลับร่วมแรงร่วมใจกันบินขึ้นอย่างพร้อมเพรียงพวกมันสามารถบินขึ้นสู่ท้องฟ้า
ได้ทั้งที่มีตาข่ายคลุมอยู่ นายพรานจึงวิ่งตามนกไป เขาวิ่งไปเรื่อยๆ กระทั่งชาวนาผู้
หนึ่งเห็นเข้า ก็ถามนายพรานว่า “นี่ท่าน นกบินไปแล้ว ท่านจะตามไปทำไม”นายพราน
ตอบว่า “ถ้าในตาข่ายมีนกเพียงตัวเดียว ฉันก็คงไม่ตามมันไปหรอก แต่นี้เป็นนกทั้ง
ฝูงฉันจะจับทั้งฝูงเลย” เวลาผ่านไปจนใกล้พลบค่ำนกแต่ละตัวในตาข่ายเริ่มมีความ
คิดขัดแย้งกันเองตัวนี้จะไปทางนั้นตัวนั้นจะไปทางนี้ตัวโน้นจะกลับรังต่าง
กระจัดกระจายไปคนละทิศละทางเป็นเหตุให้ทั้งตาข่ายทั้งนกตกลงสู่พื้นดินในที่สุด
นกเหล่านั้นก็ถูกนายพรานรวบได้ทั้งฝูง ความสามัคคี ได้ทำให้นกตัวเล็กๆ กลาย
เป็นฝูงนกที่ทรงพลังยกตาข่ายของนายพรายบินหนีไปได้แต่ในทันทีที่แตกความ
สามัคคี ก็ไม่มีนกตัวใดรอดพ้นจากเงื้อมมือของนายพรานไปได้เลยชัยชนะที่เห็นอยู่
เบื้องหน้าต้องกลับกลายเป็นความพ่ายแพ้เช่นนี้ก็เพราะว่าการแตกความสามัคคี
ทำให้พลังที่แต่ละคนมีอยู่ กลับกลายเป็นพลังที่หักล้างบั่นทอนกันเองนับเป็นการ
ทำลายหมู่คณะที่ร้านแรงยิ่งกว่าการทำลายจากศัตรูใด ๆ ทั้งสิ้น
ข้อคิดที่ได้จากนิทานเรื่องนี้
ในการทำงานเป็นหมู่คณะ หากจะขาดตกบกพร่องในคุณสมบัติ
ข้อใดไปบ้างก็ยังไม่อันตรายเท่าใด แต่จะขาดความสามัคคีนั้นไม่
ได้เลย
https://www.pohchae.com/2017/11/13/
บรรณานุกรม
1. https://wbscport.dusit.ac.th/view/view.php?id=1789
2.http://www.tup.ac.th/virtue/tale8.html
3. http://www.tup.ac.th/virtue/tale8.html
4. http://www.tup.ac.th/virtue/tale8.html
5. http://www.tup.ac.th/virtue/tale8.html
6. http://www.tup.ac.th/virtue/tale8.html
7. https://nitanstory.com/three-sons-and-bundle-of-sticks/
8. https://xn--o3cdbi8era7aon.com/aesop-fables/82/
9.https://web.facebook.com/1496740800566477/posts/2324
215457819003/?_rdc=1&_rdr
10.https://www.pohchae.com/2017/11/13