The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์ 02

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

คู่มือประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์ 02

คู่มือประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์ 02

ค่มู ือประกอบเครือ่ งคอมพวิ เตอร์

จัดทำโดย
นาย รพพี งศ์ อินทรนมิ ิตร

ปวช.1/2 เลขที่ 15
วิทยาลยั การอาชีพหลงั สวน

สำรบัญ หนำ้
เร่ือง ก
สารบญั
อปุ กรณ์คอมพิวเตอร์ 2

1. จอภาพ (Monitor) 3

2. เคส (Case) 4
5
3. พาวเวอรซ์ ัพพลาย (Power Supply) 6
4. คีย์บอรด์ (Keyboard) 7
5. เมาส์ (Mouse) 8
6. เมนบอร์ด (Main board) 9
7. ซพี ียู (CPU) 10
8. การ์ดแสดงผล (Display Card) 11
9. แรม (RAM) 12
10. ฮาร์ดดสิ ก์ (Hard disk) 13
11. CD-ROM / CD-RW / DVD / DVD-RW
12. ฟล็อปป้ีดสิ ก์ (Floppy Disk) 14
เครื่องมือคอมพวิ เตอร์ 15
1. ไขควง
2. คมี ปากจ้ิงจก
บรรณานกุ รม

1.อปุ กรณ์คอมพิวเตอร์

1. จอภำพ (Monitor) เป็นอปุ กรณแ์ สดงผลท่ีมีความสาคัญมากท่สี ุด
เพราะจะติดตอ่ โดยตรงกบั ผู้ใช้ ชนิดของจอภาพทีใ่ ชใ้ นเคร่ืองพีซีโดยทวั่ ไปจะแบ่งไดเ้ ป็น 2ชนดิ
- จอซีอาร์ที (CRT : Cathode Ray Tube) โดยมากจะพบในคอมพวิ เตอร์ตั้งโตะ๊ ซึ่งลกั ษณะ
จอภาพชนดิ นี้จะคลา้ ยโทรทัศน์ ซึ่งจะใช้หลอดสุญญากาศ
- จอแอลซีดี (LCD : Liquid Crystal Display) ซง่ึ มี ลกั ษณะแบนราบ จะมี ขนาดเล็กและ
บาง เมื่อเปรยี บเทียบกับจอภาพแบบซแี อลที

การทางานของจอประเภทนจ้ี ะทางานโดย อาศยั หลอดภาพ ทสี่ ร้างภาพโดยการยิงลาแสง
อิเลก็ ตรอนไปยงั ทีผ่ วิ หนา้ จอ ท่มี ีสารพวกสารประกอบของฟอสฟอรัส ฉาบอยทู่ ี่ผวิ ซ่ึงจะเกดิ ภาพ
ขนึ้ มาเมื่อสารเหล่าน้เี กิดการเรืองแสงขน้ึ มา เมือ่ มอี ิเลก็ ตรอนมากระทบ ซ่งึ ในสว่ ยของจอแบบ
Shadow Mask น้ัน จะมีการนาโลหะที่มรี เู ล็กๆ มาใชใ้ นการกาหนดให้แสงอเิ ล็กตรอนน้ันยิงมาได้
ถูกตอ้ ง และแม่นยา ซ่ึงระยะห่างระหว่างรูน้เี ราเรยี กกนั ว่า Dot Pitch ซง่ึ ในรนู จ้ี ะมสี ารประกอบ
ของฟอสฟอรัสวางเรยี งกันอยู่เปน็ 3 จดุ 3 มมุ โดยแต่ละจุดจะเป็นสขี องแม่สนี ัน้ กค็ ือ สแี ดง สีเขียว
และสีน้าเงิน ซึง่ แต่ละจุดนเี้ ราเรียกวา่ Triad

2. เคส (Case)

เคส คอื โครงหรอื กลอ่ งสาหรับประกอบอปุ กรณต์ า่ ง ๆ ของคอมพิวเตอร์ไว้ภายใน การเรียกชอื่
และขนาด ของเคสจะแตกตา่ งกันออกไป ซง่ึ ในปจั จุบันมหี ลายแบบที่นิยมกัน แล้วแต่ผู้ซือ้ จะเลือก
ซ้ือตามความเหมาะสม ของงาน และสถานที่น้ัน

เคส" คือ ตวั ถังหรอื ตวั กลอ่ งคอมพวิ เตอร์ หลายคนจะเรยี กว่าซีพียูเนื่องจากเขา้ ใจผดิ สาหรับเคส
น้ันใช้สาหรบั บรรจุอุปกรณอ์ ิเลคทรอนิคส์หลักของคอมพวิ เตอร์เอาไวข้ า้ งใน เช่น CPU เมนบอรด์
การ์ดจอฮาร์ดดิสก์ พัดลมระบายความร้อน และท่ีขาดไมไ่ ด้ก็คือ Power Supply ซง่ึ จะมีติดอยใู่ น
เคสเรยี บรอ้ ย

3. พำวเวอรซ์ ัพพลำย (Power Supply)
เปน็ อปุ กรณ์ท่ีทาหนา้ ทใี่ นการจ่ายกระแสไฟฟ้าใหก้ บั ชิน้ ส่วนอุปกรณค์ อมพวิ เตอร์ ซ่งึ ถ้า

คอมพวิ เตอร์มีอปุ กรณ์ตอ่ พวงเยอะๆ เช่น ฮาร์ดดิสก์ ซีดีรอมไดรฟ์ ดีวดี ีไดรฟ์กค็ วรเลือกพาวเวอร์
ซพั พลายท่ีมีจานวนวตั ต์สงู เพ่อื ให้สามารถ จา่ ยกระแสไฟไดเ้ พียงพอ

Power Supply คือ อปุ กรณ์จา่ ยไฟให้กบั คอมพวิ เตอร์ มีหนา้ ทีแ่ ปลงกระแสไฟฟ้าจาก
กระแสสลบั ขนาด 220V เปน็ กระแสตรง 5V, 12V ใหก้ ับอปุ กรณ์ต่างๆ โดยผ่านทางเมนบอรด์ เพ่ือ
เล้ียงไฟใหก้ บั อุปกรณ์ต่างๆ เชน่ VGA Card Harddisk, ช่อง DVD รวมไปถงึ พัดลมระบายความ
ร้อนตัวใหญ่ ๆ เปน็ ต้น

4. คีย์บอรด์ (Keyboard)
เปน็ อปุ กรณใ์ นการรับข้อมูลท่สี าคัญทสี่ ดุ มีลกั ษณะคล้ายแป้นพิมพ์ ของเครือ่ งพิมพ์ดีด มี

จานวนแป้น 84 - 105 แปน้ ขนึ้ อยกู่ บั แป้นทเ่ี ป็น กลมุ่ ตัวเลข (Numeric keypad) กลมุ่ ฟังก์ชัน
(Function keys) กลุม่ แป้นพเิ ศษ (Special-purpose keys) กล่มุ แปน้ ตวั อักษร (Typewriter
keys) หรือกลมุ่ แปน้ ควบคุมอนื่ ๆ (Control keys) ซึ่งการส่งั งานคอมพิวเตอร์และการทางาน
หลายๆ อย่างจาเปน็ ตอ้ งใช้แปน้ พิมพ์เปน็ หลกั

คีย์บอร์ดคอื อุปกรณ์รบั ข้อมลู ท่ใี ชก้ ารเรยี งตวั ของปมุ่ ซ่งึ แตล่ ะปมุ่ ทาหน้าทเ่ี หมือนเปน็ สวิทช์
อิเลก็ ทรอนกิ ส์โดยปกติ แล้วคยี บ์ อรด์ ใช้สาหรับพมิ พ์ตัวหนงั สือ หรือตวั เลขเขา้ ไปยังโปรแกรม
เทคโนโลยี
-ป่มุ กด และหนว่ ยประมวลผลควบคมุ ปมุ่ กดแบบสวิทช์รปู โดม เป็นรูปแบบท่ีถกู ใชม้ ากทส่ี ดุ
ต้งั แต่ปคี .ศ.2000 เปน็ ต้นมาเมื่อปุ่มถูกกด มนั จะไปผลกั ยางรปู โดมที่อยู่ด้านล่างปุม่ ตวั
เหนี่ยวนาทีอ่ ยู่ดา้ นล่างของโดมจะไปแตะคขู่ องสายเหนยี่ วนาทอี่ ยู่ ในวงจรด้านล่างอกี ที
จะทาใหเ้ กิดการเชื่อมระหว่างสายเหน่ยี วนาสองเส้น ทาใหก้ ระแสไฟฟ้าสามารถไหลผา่ นได้ ใน
สายเหน่ยี วนาแตล่ ะคจู่ ะมสี ัญญาณแสกนที่ถูกสง่ ออกมาจากชิพเม่ือสัญญาณจากสายแตล่ ะคู่
เปลี่ยนไป ชพิ จะสร้าง “รหสั สรา้ ง” ขึน้ มาตอบสนองต่อปมุ่ ท่เี ป็นตัวเช่ือมสายค่นู ้ันๆ เมือ่
คอมพวิ เตอรไ์ ดร้ ับสัญญาณบิทจากคยี บ์ อรด์ และถอดรหสั มนั ออกมาเปน็ ปุม่ ทถ่ี กู กดอย่างถกู ต้อง
แล้ว คอมพวิ เตอร์จะตัดสินใจว่าจะทาอะไร

5. เมำส์ (Mouse)
อุปกรณ์รบั ขอ้ มลู ทนี่ ิยมรองจากคียบ์ อร์ด เมาสจ์ ะช่วยในการบง่ ชต้ี าแหน่งวา่ ขณะน้ีกาลังอยู่ ณ

จุดใดบนจอภาพ เรียกวา่ "ตัวช้ตี าแหน่ง (Pointer)" ซง่ึ อาศัยการเลอื่ นเมาส์ แทนการกดปุ่มบงั คับ
ทิศทางบนคีย์บอรด์

อุปกรณท์ ใ่ี ชใ้ นการควบคมุ ตวั ชี้บนจอคอมพิวเตอร์ (pointing device) เป็นอปุ กรณส์ าคญั ใน
การใชง้ านคอมพวิ เตอรช์ ิ้นหน่ึง ซ่ึงปจั จุบนั ถกู ออกแบบมาใหม้ รี ปู รา่ ง ลักษณะ สีสนั ตา่ ง ๆ กนั
บางรุ่นมไี ฟประดบั ใหส้ วยงาม เพื่อใหเ้ มาะสมกับการใชง้ านในแต่ละประเภทและความชนื่ ชอบของ
ผใู้ ช้ เช่นมีขนาดเล็ก

6. เมนบอร์ด (Main board)
แผน่ วงจรไฟฟ้าแผน่ ใหญท่ ร่ี วมเอาชน้ิ ส่วนอเิ ล็กทรอนกิ ส์ทสี่ าคญั ๆมาไว้ด้วยกนั ซงึ่ เปน็ ส่วนที่

ควบคุม การทางานของ อุปกรณ์ต่างๆ ภายในพีชที ง้ั หมด มลี ักษณะเป็นแผ่น รปู ร่างสีเ่ หล่ยี มแผ่นท่ี
ใหญ่ทีส่ ุดในพชี ี ท่ีจะรวบรวมเอาชิปและไอชี (IC = Integrated Circuit) รวมท้ัง การ์ดต่อพว่ งอ่ืนๆ
เอาไว้ด้วยกนั บนบอร์ดเพยี งอนั เดยี วเครื่องพชี ีทุกเครอ่ื งไม่สามารถทางาน ได้ถ้าขาดเมนบอร์ด

คือ อปุ กรณท์ ่ที าหน้าทค่ี วบคุมและจดั การการทางานของอุปกรณช์ นดิ ต่างๆในเครอ่ื ง
คอมพวิ เตอร์ ตัง้ แต่ซพี ียู ไปจนถงึ หน่วยความจาแคช หนว่ ยความจาหลกั ฮาร์ดดกิ ส์ และระบบบัส
เปน็ ต้น ซง่ึ บนเมนบอร์ดประกอบด้วยชิ้นส่วนตา่ งๆ มากมาย โดยปกติแล้วเมนบอร์ดนั้นมักมชี ือ่ เรียก
อยู่หลายชื่อ เช่น มาเธอร์บอรด์ (motherboard)

7. ซพี ียู (CPU)
ซพี ยี หู รือหน่วยประมวลผลกลาง เรียกอีกชอื่ หน่งึ ว่า โปรเซสเซอร์ (Processor) หรอื ชิป

(chip) นบั เปน็ อปุ กรณท์ ี่มคี วามสาคญั มากทสี่ ุดของฮาร์ดแวร์ เพราะมีหนา้ ทใ่ี นการประมวลผล
จากข้อมูลท่ผี ู้ใช้ปอ้ น เขา้ มาทางอุปกรณน์ าเข้าข้อมลู ตามชดุ คาสงั่ หรอื โปรแกรมท่ีผู้ใช้ต้องการใช้
งาน หนว่ ยประมวลผลกลาง ประกอบดว้ ยสว่ นสาคัญ 3 สว่ น คือ

1) หน่วยคำนวณและตรรกะ (Arithmetic & Logical Unit: ALU) หน่วยคานวณตรรกะ
ทาหนา้ ทเี่ หมอื นกบั เคร่อื งคานวณอยู่ในเคร่อื งคอมพวิ เตอร์ โดยทางานเกยี่ วกับการคานวณทาง
คณติ ศาสตร์ เช่น บวก ลบ คณู หาร อกี ทั้งยังมีความสามารถอกี อย่างหนึ่งทเ่ี คร่อื งคานวณ
ธรรมดาไม่มี คอื ความสามารถในเชิงตรรกะศาสตร์ หมายถึง ความสามารถในการเปรยี บเทยี บ
ตามเงอื่ นไขและกฎเกณฑ์ทางคณติ ศาสตร์ เพื่อให้ไดค้ าตอบออกมาว่าเง่ือนไข น้ันเป็น จริง หรือ
เท็จ ได้

2) หนว่ ยควบคุม (Control Unit) หน่วยควบคมุ ทาหน้าทคี่ วบคมุ ลาดับขัน้ ตอนการ
ประมวลผล รวมไปถึงการประสานงานกับอปุ กรณน์ าเข้าขอ้ มลู อุปกรณ์แสดงผล และ
หน่วยความจาสารองดว้ ย ซีพียูทมี่ ีจาหน่ายในท้องตลาด ได้แก่ Pentium III , Pentium 4 ,
Pentium M (Centrino) , Celeron , Dulon , Athlon

8. กำรด์ แสดงผล (Display Card)
การ์ดแสดงผลใช้สาหรับเกบ็ ขอ้ มูลที่ได้รับมาจากซีพยี ู โดยทก่ี าร์ดบางรุ่นสามารถประมวล

ผลไดใ้ นตัวการด์ ซ่งึ จะชว่ ยแบง่ เบาภาระการประมวลผลให้ซพี ยี ู จึงทาให้การทางานของ
คอมพวิ เตอร์นนั้ เร็วขึ้นด้วย ซง่ึ ตวั การ์ดแสดงผลนน้ั จะมหี นว่ ยความจาในตัวของมันเอง ถ้าตัว
การ์ดมีหนว่ ยความจามาก ก็จะรับข้อมูลจากซพี ียูได้มากขึ้น ซึ่งจะชว่ ยให้การแสดงผลบนจอภาพ
มีความเรว็ สงู ขนึ้ ดว้ ย

กำรแบ่งตำมกำรใชง้ ำน
การด์ แสดงผลอาจเรียกอีกอยา่ งหนึ่งว่าการด์ วดี โี อหรอื การ์ดจอ เปน็ สว่ นที่ทาหนา้ ทน่ี าผล

การประมวลจากซีพยี ูไปแสดงบนจอภาพ การ์ดแสดงผลมอี ยู่หลายแบบ ข้นึ อย่กู ับลกั ษณะการ
นาไป ใชง้ าน ถ้าหากเปน็ การใชง้ านทัว่ ๆ ไป เชน่ พมิ พ์งานในสานกั งาน ใชอ้ ินเทอร์เนต็ อาจใช้
การ์ดแบบ 2 มิติ กเ็ พยี งพอแล้ว แต่หากเป็นการ เล่นเกมใช้โปรแกรมประเภทกราฟิก 3 มิติ ก็
ควรเลือกการ์ดจอ ท่ีจะ ชว่ ยแสดงผลแบบสามมิติหรอื 3D การด์ การ์ดจอบางแบบอาจถูก
ออกแบบติดไวก้ ับเมนบอร์ด โดยเฉพาะเมนบอรด์ แบจอเข้ากบั เมนบอร์ด อาจสะดวกและ
ประหยัด แต่หากพูดถงึ ประสทิ ธภิ าพ โดยรวมของเครื่องแล้ว อาจจะไม่ดีเท่ากับการ์ดที่แยก
ต่างหากจากเมนบอร์ด ซ่ึงอาจแบง่ ช่วงของการ ใช้การด์ จอได้

9. แรม (RAM)
RAM ย่อมาจากคาว่า Random-Access Memory เป็นหนว่ ยความจาหลกั แตไ่ ม่ถาวร

ซ่ึงจะต้องมีไฟมาหลอ่ เลีย้ งอุปกรณต์ ลอดในการทางาน โดยถา้ เกิดไฟฟ้ากระพริบหรือดบั
ขอ้ มูลท่ถี ูกบนั ทกึ ไว้ในหนว่ ยความจาจะหายไปทันที

(RAM) คือ หน่วยความจาหลักของคอมพิวเตอรท์ ่ีย่อมาจากคาว่า
RandomAccess Memory เป็นองคป์ ระกอบสาคัญต่อประสิทธิภาพการทางานโดยรวมและ
ความเร็วในการทางานของระบบคอมพิวเตอร์ เปน็ หน่วยความจาแบบช่ัวคราว ซ่งึ หมายถึงจะ
สามารถทางานไดเ้ มือ่ มีกระแสไฟฟ้ามาหล่อเลี้ยง เม่อื มีการตัดกระแสไฟฟ้าหรือปิดเครอื่ ง
คอมพวิ เตอร์ ขอ้ มลู ใน RAM

10. ฮำรด์ ดสิ ก์ (Hard disk)
เป็นอุปกรณ์ท่ใี ช้ในการเก็บข้อมูลหรอื โปรแกรมตา่ งๆ ของคอมพิวเตอร์ โดยฮาร์ดดิสค์

จะมีลกั ษณะเป็นรูปสี่เหล่ียมท่มี เี ปลอื กนอก เป็นโลหะแข็ง และมีแผงวงจรสาหรับการ
ควบคมุ การทางานประกบอยทู่ ่ีด้านล่าง พรอ้ มกับช่องเสียบสายสญั ญาณและสายไฟเล้ยี ง
ส่วนประกอบภายในจะถูกปดิ ผนึกไว้อย่างมิดชดิ โดยฮารด์ ดสิ ค์ส่วนใหญ่จะประกอบดว้ ย
แผน่ จานแมเ่ หล็ก(platters) สองแผน่ หรอื มากกว่ามาจัด เรยี งอยบู่ นแกนเดียวกันเรยี ก
Spindle ทาให้แผน่ แม่เหลก็ หมนุ ไปพรอ้ ม ๆ กัน จากการขบั เคลอื่ นของมอเตอร์ แตล่ ะหนา้
ของแผน่ จานจะมีหัวอ่านเขียนประจาเฉพาะ โดยหัวอ่านเขยี นทุกหัวจะเช่ือมติดกันคลา้ ยหวี
สามารถเคลื่อนเขา้ ออกระหว่างแทร็กตา่ ง ๆ อย่างรวดเรว็ ซง่ึ อินเตอร์เฟสของฮารด์ ดสิ ก์ทใ่ี ช้
ในปัจจบุ ัน มอี ยู่ 3 ชนิดด้วยกัน

- IDE (Integrated Drive Electronics)
เป็นระบบของ ฮารด์ ดสิ ก์อินเตอร์เฟสทีใ่ ช้กนั มากในปจั จบุ นั นี้ การต่อไดร์ฟฮารด์ ดสิ ก์
แบบ IDE จะต่อผา่ นสายแพรและคอนเน็คเตอร์จานวน 40 ขาทีม่ อี ยูบ่ นเมนบอร์ด สว่ นใหญ่
แล้วใน 1 คอนเน็คเตอร์ จะสามารถตอ่ ฮาร์ดดสิ ก์ได้ 2 ตวั และบนเมนบอรด์

ฮำร์ดดิสก์ หรอื จานบนั ทกึ แบบแขง็ (อังกฤษ: hard disk drive) คือ อุปกรณค์ อมพวิ เตอร์
ทีบ่ รรจุข้อมลู แบบไมล่ บเลอื น มลี กั ษณะเปน็ จานโลหะทีเ่ คลือบดว้ ยสารแม่เหล็กซึง่ หมนุ อยา่ ง
รวดเรว็ เมอ่ื ทางาน การติดต้ังเข้ากับตวั คอมพิวเตอร์สามารถทาไดผ้ า่ นการตอ่ เข้ากบั แผงวงจรหลัก
(motherboard) ท่มี อี นิ เตอรเ์ ฟซแบบขนาน (PATA) , แบบอนกุ รม (SATA)

11. CD-ROM / CD-RW / DVD / DVD-RW
เป็นไดรฟ์สาหรบั อ่านข้อมลู จากแผน่ ซดี ีรอม หรือดีวีดรี อม ซ่ึงถา้ หากตอ้ งการบนั ทึก

ข้อมลู ลงบนแผน่ จะตอ้ งใช้ไดรฟท์ ีส่ ามารถเขียนแผน่ ไดค้ อื CD-RW หรอื DVD-RW โดย
ความเร็วของ ซีดีรอมจะเรยี กเป็น X เช่น 16X , 32X หรอื 52X โดยจะมี Interface
เดยี วกับ Harddisk

การทางานของ CD-ROM ภายในซีดีรอมจะแบ่งเป็นแทร็กและเซก็ เตอร์เหมอื นกบั
แผ่นดสิ ก์ แต่เซ็กเตอรใ์ นซีดีรอมจะมีขนาดเทา่ กัน ทกุ เซก็ เตอร์ ทาใหส้ ามารถเกบ็ ข้อมลู ไดม้ ากข้ึน
เมือ่ ไดรฟ์ซีดีรอมเร่ิมทางานมอเตอร์จะเร่มิ หมนุ ดว้ ยความเรว็ หลายค่า ทงั้ นีเ้ พอื่ ให้อัตราเรว็ ใน
การอ่านข้อมูลจากซีดีรอมคงท่สี มา่ เสมอทกุ เซ็กเตอร์ ไม่ว่าจะเปน็ เซ็กเตอร์ ท่อี ย่รู อบนอกกรือวง
ในกต็ าม จากน้นั แสงเลเซอรจ์ ะฉายลงซีดีรอม โดยลาแสงจะถูกโฟกสั ดว้ ยเลนส์ท่เี คล่ือนตาแหน่ง
ได้ โดยการทางานของขดลวด ลาแสงเลเซอร์จะทะลุผ่านไปท่ีซดี ีรอมแลว้ ถูกสะทอ้ นกลับ ท่ี
ผิวหนา้ ของซีดีรอมจะเป็น หลุมเปน็ บ่อ สว่ นท่ีเป็นหลมุ ลงไปเรียก "แลนด์" สาหรบั บรเิ วณทไี่ ม่มี
การเจาะลึกลงไปเรียก "พิต"

12. ฟล็อปป้ดี ิสก์ (Floppy Disk)
เปน็ อุปกรณท์ ก่ี าเนิดมาก่อนยคุ ของพีซีเสียอีก โดยเร่มิ จากท่ีมีขนาด 8 นิ้ว กลายมาเป็น

5.25 น้วิ จนมาถึงปจั จบุ นั ซ่งึ อยทู่ ่ี 3.5 นิ้ว ในสว่ นของความจเุ ริ่มต้นตั้งแตไ่ ม่กร่ี ้อยกโิ ลไบต์
มาเป็น 1.44 เมกะไบต์ และ 2.88 เมกะไบต์ ตามลาดบั

ในปัจจบุ ันการใช้งานฟล็อปปด้ี สิ กน์ น้ั นอ้ ยลงไปมากเพราะ เนือ่ งจากจุข้อมูลได้นอ้ ยซงึ่ ไม่
เพยี งพอกบั ความต้องการ แตฟ่ ลอ็ ปป้ดี สิ กก์ ็ยังคงเป็นมาตรฐานหน่ึงทีเ่ ครอื่ งคอมพิวเตอร์ทกุ
เครื่องตอ้ งมี การพัฒนาฟล็อปปด้ี สิ ก์ก็ไม่ไดห้ ยุดยง้ั ไปเสยี ทีเดียว ยังมกี ารพฒั นาเทคโนโลยีใหม่ท่ี
ใช้ระบบ Optical ทาใหส้ ามารถขยายความจุไปไดถ้ ึง 120 เมกะไบต์ตอ่ แผ่น

2.เคร่อื งมือคอมพวิ เตอร์

1.ไขควง
ไขควง คืออุปกรณช์ นิดหนึ่งซ่งึ ออกแบบมาเพื่อขนั สกรูใหแ้ น่นหรือคลายสกรอู อก ไข

ควงทว่ั ไปประกอบดว้ ยแท่งโลหะ สว่ นปลายใช้สาหรับยึดกับสกรู ซึง่ มรี ูปร่างแตกต่างกนั
เพ่ือให้ใชไ้ ดก้ บั สกรชู นิดต่าง ๆ และมีแทง่ สาหรับจับคลา้ ยทรงกระบอกอย่อู กี ด้านหนึ่ง
สาหรบั การไขดว้ ยมือ หรือไขควงบางชนิดอาจจะหมุนดว้ ยมอเตอร์ก็ได้ ไขควงทางานโดย
การส่งทอรก์ (torque) จากการหมุนไปทป่ี ลาย ทาให้สกรูหมนุ ตามเกลยี วเข้าหรือออกจาก
วัสดุอ่ืน

ไขควงเปน็ เครื่องมือสาหรบั ขนั และคลาย สกรูชนดิ หัวผ่า ขนาดและรปู ทรงของไขควงถูก
ออกแบบให้เป็นไปตามลักษณะการ ใชง้ าน เช่น ไขควงทีใ่ ชส้ าหรบั งานของช่างอญั มณี
(Jeweler's Screw Driver) จะออกแบบมาใหเ้ ป็นไขควงท่ใี ช้สาหรบั งานละเอียดเท่ียงตรง ส่วนไข
ควงทใ่ี ชใ้ นงานหนักของช่างเครอ่ื งกลจะออกแบบใหก้ า้ นใบเปน็ รปู สี่เหล่ียมจัตุรัสเพอ่ื ใหใ้ ช้ประแจ
หรือคีมจับขัน เพอื่ เพมิ่ แรงในการบดิ ของไขควงให้มากกว่าเดิมได้

2.คมี ปำกจ้ิงจก
คมี ปากจิง้ จก เปน็ เครอื่ งมอื ช่างทีใ่ ชส้ าหรับการจบั ชน้ิ งานขนาดเลก็ หรอื ในส่วนทแ่ี คบท่ี

คีมปากจระเข้ไม่สามารถเขา้ ถึงได้ นอกจากนคี้ มี ปากจิ้งจกยังสามารถใช้ในการดัด โค้งงอสายได้
อีกด้วย

คีม (Pliers) เป็นเครือ่ งมอื จบั ยึดชนิดหน่งึ ใช้สาหรบั การจบั ช้ินงานเพือ่ ทางานใดๆ ให้
ตดิ กันหรอื ดึงช้นิ งาน นอกจากนนั้ ยังใชจ้ บั บีบ ดดั ตัด คือใชใ้ นงานตัดวตั ถุทีไ่ ม่แข็งแรงมากนกั
เช่น สายไฟฟ้า ลวด หรือสลกั ลอ็ คขนาดเลก็ คีมแตล่ ะประเภทไดร้ ับการออกแบบมาให้ใช้งาน
เฉพาะทาง และมีรปู รา่ งกบั โครงสร้างท่ตี า่ งกนั ไป

บรรณำนกุ รม

http://computer.kapook.com/equpiment.php

ขอ้ มลู ผู้จดั ทำ

ช่ือ-นำมสกุล นาย รพีพงศ์ อินทรนิมติ ร

สำขำวชิ ำ คอมพวิ เตอรธ์ รุ กิจ

สถำนทศี่ กึ ษำ วิทยาลยั การอาชีพหลังสวน

รหสั ประจำตัวนักเรยี น 62202040039


Click to View FlipBook Version