หน่วยการเรียนรูที่1
้
เวลาและการแบ่งยุคสมัย
ทางประวัติศาสตร์
ข้อความ รูปภาพ หรือเนื้อหาใด ๆ ที่เผยแพร่อยู่ในเว็บไซต์นี้ไม่ว่าในรูปแบบใดก็ตาม ("ข้อมูล")
ถือเป็นผลงานจากทางเพจ.ฝากบอกครูสังคม
อนุญาตให้ใช้ข้อมูลดังกล่าว เฉพาะเพื่อประโยชน์ในการสอนในสถานศึกษาเท่านั้น
ห้ามน าไปเป็นผลงานทางการศึกษาของคุณครูประจ ารายวิชา
เวลาและการแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ไทย
เวลา ยุคสมัย และศักราชในประวัติศาสตร์ไทย
การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ไทย
ตัวอย่างเวลาและยุคสมัยที่ปรากฏในหลักฐานทางประวัติศาสตร์ไทย
เวลา ยุคสมัย และศักราชในประวัติศาสตร์ไทย
ความส าคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์
บอกให้รู้ว่าเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นและสิ้นสุดเวลาใด
บอกให้รู้ว่าเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมานานเท่าใด
บอกให้รู้ว่าเหตุการณ์ต่างๆ เหตุการณ์ใดเกิดขึ้นก่อนหรือหลัง
เวลา ยุคสมัย และศักราชในประวัติศาสตร์ไทย
ความส าคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์
ู
บอกให้ร้ถึงความสัมพันธ์หรือเกี่ยวข้องของเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์
ท าให้เข้าใจและวิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆ ในประวัติศาสตร์ได้ดีขึ้น
สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ช่วงเวลาที่มนุษย์ยังไม่มีตัวอักษรใช้
อาศัยอยู่ตามเพิงผา หาของป่า ล่าสัตว์
สมัยประวัติศาสตร์ ช่วงเวลาที่มนุษย์เริ่มมีตัวอักษรใช้แล้ว
การนับและการเทียบศักราชในประวัติศาสตร์ไทย
พุทธศักราช
เป็นศักราชทางพระพุทธศาสนา
ไทยเริ่มใช้ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
น ามาใช้เป็นแบบอย่างของทางราชการสมัยรัชกาลที่ 6
จุลศักราช
บุปผะอรหันต์เป็นผู้ก่อตั้ง
แพร่หลายเข้าไทยผ่านอาณาจักรล้านนา
นิยมใช้กันมากในหลักฐานทางประวัติศาสตร์ไทย
มหาศักราช
พระเจ้ากนิษกะกษัตริย์อินเดียมีพระราชด าริขึ้น
ประเทศไทยรับผ่านมาทางขอมหรือเขมร
พบในหลักฐานทางประวัติศาสตร์สมัยสุโขทัย และอยุธยาตอนต้น
รัตนโกสินทร์ศก
รัชกาลที่ 5 มีพระราชด าริให้บัญญัติขึ้น
เริ่มนับปีที่สถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี
เลิกใช้ในต้นรัชกาลที่ 6
การเทียบศักราช
หลักเกณฑ์การเทียบศักราช
ม.ศ. + 621 = พ.ศ. พ.ศ. – 621 = ม.ศ.
จ.ศ. + 1181 = พ.ศ. พ.ศ. – 1181 = จ.ศ.
ร.ศ. + 2324 = พ.ศ. พ.ศ. – 2324 = ร.ศ.
ตัวอย่างการเปรียบเทียบเช่น
สงครามโลกครั้งที่ 1 (ค.ศ 1914-1918) เริ่มขึ้นในยุโรปเมื่อ ค.ศ. 1914
.
ประเทศไทยประกาศสงครามต่อฝ่ายมหาอ านาจกลางและเข้าร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตร
ใน พ.ศ. 2460 หรือ ค.ศ. 1917 (พ.ศ. 2460 - 543 = ค.ศ. 1917) ซึ่งแสดง
ให้เห็นว่าไทยด าเนินนโยบายเป็นกลางมาตลอดจนถึงช่วงท้ายของสงครามจึงตัดสินใจ
เข้าร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตร
สมัยก่อนประวัติศาสตร์
ในประเทศไทย
การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ไทย
ยุคหินเก่า
แบ่งตามลักษณะเครื่องมือหิน
ยุคหินใหม่
สมัยก่อนประวัติศาสตร์
ยุคส าริด
แบ่งตามลักษณะเครื่องมือโลหะ
ยุคเหล็ก
สมัยประวัติศาสตร์
แบ่งตามราชอาณาจักรหรือราชธานี
สมัยสุโขทัย สมัยอยุธยา สมัยธนบุรี สมัยรัตนโกสินทร์
สมัยสมบูรณาญา
แบ่งตามลักษณะการปกครอง สิทธิราชย์
สมัยประชาธิปไตย
สมัยประวัติศาสตร์
สมัยโบราณ
แบ่งตามหลักสากล
สมัยใหม่
สมัยปัจจุบัน
ยุคหินในประเทศไทย
ยุคหินเก่า
มีอายุ 700,000-10,000 มาแล้ว
รู้จักใช้เครื่องมือหินกรวดกะเทาะหน้าเดียว
พบที่บ้านแม่ทะ และบ้านดอนมูล จ. ล าปาง แหล่งโบราณคดีผาบุ้ง
จ.เชียงใหม่ ที่ถ้ าหลังโรงเรียนทับปริก จ. กระบี่ เป็นต้น
ยุคหินในประเทศไทย
ยุคหินใหม่
มีอายุระหว่าง 10,000-4,000 ปีมาแล้ว
พบเครื่องมือหินขัดด้านหนึ่งคม ด้านหนึ่งมน ผิวเรียบ
พบภาชนะดินเผาแบบต่างๆ
พบที่บ้านเก่า จ. กาญจนบุรี ที่โคกพนมดี จ. ชลบุรี เป็นต้น
ยุคโลหะในประเทศไทย
ยุคส าริด
มีอายุระหว่าง 4,000-2,500 ปีล่วงมาแล้ว
รู้จักน าโลหะส าริดมาท าเครื่องมือเครื่องใช ้
พบที่บ้านโคกพลับ จ. ราชบุรี ที่บ้านเชียง จ. อุดรธานี
ยุคโลหะในประเทศไทย
ยุคเหล็ก
เริ่มเมื่อประมาณ 2,500 ปีล่วงมาแล้ว
สังคมมีความซับซ้อนมากขึ้น ผู้คนมีวิถีชีวิตที่เจริญขึ้น
พบที่บ้านดอนตาเพชร จ. กาญจนบุรี บ้านหนองนาตูม จ.
นครราชสีมา เป็นต้น
สมัยประวัติศาสตร์
ของประเทศไทย
สมัยอาณาจักรโบราณ
อาณาจักรที่เก่าแก่ที่สุด คือ อาณาจักรทวารวดี
พบเหรียญเงินที่มีจารึก “ศรีทวารวตี ศวรปุณยะ”
อาณาจักรโบราณอื่น เช่น ละโว้ ตามพรลิงค์ ศรีวิชัย เป็นต้น
สมัยสุโขทัย
เริ่มตั้งแต่สถาปนาอาณาจักรสุโขทัย จนถูกผนวกเข้ากับอยุธยา
มีการประดิษฐ์ตัวอักษรไทย
มีการนับถือพระพุทธศาสนานิกายเถรวาท
มีการจัดระเบียบการปกครอง
มีการสร้างศิลปะแบบสุโขทัย เช่น เจดีย์ทรงดอกบัวตูม
พระพุทธรูปปางลีลา เป็นต้น
สมัยอยุธยา
สมัยการวางรากฐานอ านาจและเสริมสร้างความมั่นคง
สมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (อู่ทอง) ถึง สมัยพระบรมราชาธิราชที่ 2
อาณาจักรมีขนาดเล็ก
สร้างความมั่นคงโดยการเป็นพันธมิตรกับขอมในระยะแรก
มีการติดต่อค้าขายกับต่างประเทศ
สมัยที่มีอ านาจทางการเมืองและความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ
สมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ถึงสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
การปกครองเป็นระบบและมั่นคงยิ่งขึ้น ติดต่อค้าขายกับต่างชาติอย่างกว้างขวาง
แม้จะเสียกรุงครั้งที่ 1 แต่ก็ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วมีพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่หลาย
พระองค์ เช่น สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
และสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นต้น
สมัยเสื่อมอ านาจ
สมัยสมเด็จพระเพทราชาถึงสมัยสมเด็จ
พระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์อยุธยามีความ
เข้มแข็งน้อยลงเกิดการแย่งชิงอ านาจกันหลาย
ครั้งเสียกรุงครั้งที่ 2 สิ้นสุดสมัยอยุธยา
สมัยธนบุรี
เป็นสมัยกอบก้เอกราชหลังจากเสียกรุง
ู
สร้างบ้านเมืองให้เป็นปึกแผ่นขึ้นมาใหม่
ื
ู
ฟ้นฟศาสนา ศิลปกรรม วรรณกรรม
ู
ฟ้นฟความสัมพันธ์กับจีนเพื่อผลประโยชน์ทางการค้า
ื
ท าสงครามกับพม่าเกือบตลอดเวลาขยายอ านาจไปยังล้านนา ล้านช้าง
สมัยรัตนโกสินทร์
สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
ช่วงสมัยรัชกาลที่ 1-3 หรือเรียกว่าสมัยการท าให้เหมือนเมื่อครั้งบ้านเมืองดี
กฎหมายตราสามดวงในสมัยรัชกาลที่ 1
กฎหมายห้ามสูบฝิ่นในสมัยรัชกาลที่ 2
การท าสนธิสัญญาทางการค้ากับอังกฤษในสมัยรัชกาลที่ 3
สร้างพระบรมมหาราชวังรูปแบบเหมือนกรุงศรีอยุธยา
สังคายนาพระไตรปิฎก
ื
ู
ฟ้นฟพระราชประเพณีสมัยอยุธยา
ส่งเสริมศิลปะและวรรณกรรม ท านุบ ารุงพระพุทธศาสนา
ยุคปรับปรุงและปฏิรูปประเทศ
ช่วงสมัยรัชกาลที่ 4-7 (ถึง พ.ศ. 2475)
สมัยของการปฏิรูปประเทศให้ทันสมัย
สมัยรัชกาลที่ 4 เป็นช่วงเริ่มปรับปรุงประเทศ
สมัยรัชกาลที่ 5 เป็นช่วงปฏิรูปประเทศในทุกด้าน
สมัยรัชกาลที่ 6 เป็นช่วงน าประเทศเข้าสู่สังคมโลก
สมัยรัชกาลที่ 7 เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบ
ประชาธิปไตย
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรง
เครื่องแบบเสือป่า และ
ลายพระหัตถ์พระราชทานแก่กองเสือป่า
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
โปรดเกล้าฯ ให้ประกาศใช้พระราชบัญญัตินามสกุล เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๖
สมัยประชาธิปไตย
พ.ศ. 2475-ปัจจุบัน
มีการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ
อ านาจการปกครองแบ่งออกเป็น 3 ฝ่าย
ตัวอย่างการใช้เวลา ศักราช
และยุคสมัย
ศักราช 712 ขาลศก...แรกสถาปนากรุงศรีอยุธยา
ที่มา : พระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐฯ หน้า 5
ศักราชที่กล่าวถึง 712 เป็นจุลศักราช
เทียบเป็น พ.ศ.+ 1181 = 1893
การใช้ยุคสมัยเป็นชื่อหนังสือ เช่น หนังสือสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ในประเทศ
ไทย พระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐฯ เป็นต้น
การใช้ยุคสมัยเพื่ออธิบายความ เพื่อให้เกิดความเข้าใจง่ายไม่ต้องอธิบายให้ยืดยาว
การใช้ยุคสมัยประกอบบทความ เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกัน ว่าจะศึกษา
วิเคราะห์ประวัติศาสตร์ยุคสมัยใด