ภารกิจ การเขยี นขอ้ สอบ สัปดาห์ 12 กุมภาพนั ธ์ 2564 นางสาวดมิสา โพบขนุ ทด 6281112002
ขอ้ สอบรายวิชา เทคโนโลยี ( วิทยาการคานวณ) มธั ยมศึกษาปี ท่ี 1
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้/ตวั ช้ีวดั จุดประสงคก์ ารเรียนรู้/ตวั ช้ีวดั
นกั เรียนสามารถบอกแนวคิดเชิงนามธรรมได้ นกั เรียนสามารถบอกข้นั ตอนการแกป้ ัญหาได้
1 . ขอ้ ใดอธิบายความหมายของแนวคิดเชิง 4. จงบอกการคดั เลือกคุณลกั ษณะที่จาเป็นต่อการ
นามธรรม ไดอ้ ยา่ งชดั เจน ( รู้จา ) แกป้ ัญหาใหเ้ หมาะกบั รูปแบบของขอ้ มูล ( รู้จา )
ก. หลกั ในการทางานของระบบคอมพิวเตอร์ท้งั ก. ขอ้ มูลที่ซบั ซอ้ น
ระบบ ข. รายละเอียดและขอ้ มลู นอ้ ย
ข.ข้นั ตอนการทางานของเทคโนโลยอี ยา่ งละเอียด ค. รายละเอียดจานวนมากและขอ้ มลู
ง. ถูกทุกขอ้
พร้อมวธิ ีการใชง้ าน
ค. รูปแบบการทางานท่ีทางานร่วมกนั และสร้าง 5. ลาดบั แรกในการแกป้ ัญหาคืออะไร ( รู้จา )
ก. ออกแบบข้นั ตอนการแกป้ ัญหา
วิธีการทางานร่วมกนั ข. กาหนดแนวคดิ เชิงนามธรรม
ง. เป็นแนวคิดหน่ึงในการแกไ้ ขปัญหาและเป็น ค. แตกปัญหาใหญ่ออกเป็นปัญหายอ่ ย
ง. เขยี นโปรแกรมการแกป้ ัญหา
องคป์ ระกอบของแนวคิดเชิงคานวณ
6. จงบอกปัจจยั หลกั ท่ีทาให้การวางแผนในการ
2. แนวคดิ เชิงนามธรรม เป็นองคป์ ระกอบของ แกป้ ัญหาของแตล่ ะบคุ คลมีความแตกตา่ งกนั ตรง
แนวคดิ ใด ( รู้จา ) กบั ขอ้ ใด ( รู้จา )
ก. แนวคดิ เชิงตรรกะ ก. อาชีพ
ข. แนวคดิ เชิงคานวณ ข. โชคชะตา
ค. แนวคดิ เชิงรวบยอด ค. ตาแหน่งงาน
ง. แนวคิดการแยกยอ่ ย ง. ความรู้และประสบการณ์
3. แนวคดิ เชิงนามธรรม (Abstraction) จุดประสงคก์ ารเรียนรู้/ตวั ช้ีวดั
ตรงกบั ขอ้ ใด ( รู้จา ) นกั เรียนสามารถออกแบบและเขยี นโปรแกรมได้
ก. แตกปัญหากระบวนการออกเป็นส่วนย่อย 7. จงบอกขอ้ ใดคือคาส่งั การประกาศ
ข. แกป้ ัญหาโดยการออกแบบกระบวนการ ของตวั แปร ( รู้จา )
ก. int price, tax, net;
ทางานอยา่ งเป็นลาดบั ข้นั ตอน ข. #include<studio.h>
ค. มุ่งเนน้ ความสาคญั ของปัญหา ค. X: -90 y: 150
ง. Ncounter = Ncounter + 1
โดยไม่สนใจรายละเอียดท่ีไมจ่ าเป็น
ง. ดูความเหมือนความแตกต่างของรูปแบบ
d การเปล่ียนแปลง
8. ภาษาไพทอนเป็นภาษาระดบั สูงแบบใด 12. ขอ้ ใดจดั เป็นความหมายของเทคโนโลยี
( รู้จา ) สารสนเทศไดถ้ กู ตอ้ งมากที่สุด ( แปลความ )
ก. Interpreter ก. การนาความรู้มาประยกุ ตใ์ ชจ้ ดั การกบั
ข. Integrated
ค. Immediate สารสนเทศอยา่ งเป็นระบบ
ง. Debugger ข. การนาความรู้ทางวทิ ยาศาสตร์มาประยกุ ตใ์ ช้
9. ไพทอนไอดีอีโดยทวั่ ไปจะทางาน เพ่อื ใหเ้ ป็นระบบและรวดเร็ว
ตามคาสั่งไดก้ ี่โหมด ( รู้จา ) ค. การนาวิทยาศาสตร์มาประยกุ ตใ์ ชเ้ พอื่ สร้าง
ก. 1
ข. 2 หรือจดั การอยา่ งป็นระบบ
ค. 3 ง. การนาความรู้ทางดา้ นวิทยาศาสตร์มา
ง. 4
ประยกุ ตใ์ ช้ เพือ่ สร้างหรือจดั การกบั
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้/ตวั ช้ีวดั สารสนเทศอยา่ งเป็นระบบ
นกั เรียนสามารถแปลความหมาย ของหลกั การ
ทางานของระบบของคอมพิวเตอร์ได้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้/ตวั ช้ีวดั
10. ขอ้ ใดเป็นอปุ กรณ์รับขอ้ มลู ท้งั หมด นกั เรียนสามารถตอบคาถามจากรูปภาพ
( แปลความ ) ที่กาหนดได้
ก. แป้นพิมพ์ ลาโพง เมาส์
ข. สแกนเนอร์ ไมโครโฟน จอภาพ พจิ ารณาผงั งานตอ่ ไปน้ีแลว้ ตอบคาถามขอ้ 13-15
ค. กลอ้ งดิจิทลั ไมโครโฟน แป้นพมิ พ์
ง. กลอ้ งดิจิทลั สแกนเนอร์ ลาโพง
11.ความหมายของ อีเมล ตรงกบั
ขอ้ ใดมากที่สุด ( แปลความ )
ก. ส่งขอ้ ความ แนบไฟล์ ภาพ
ภาพเคล่ือนไหว
ข. เช่ือมต่ออินเทอร์เน็ต
ค. พมิ พข์ อ้ ความ
ง. ไม่มีขอ้ ถูก
13. ตาแหน่ง A ควรใชส้ ญั ลกั ษณณ์ในขอ้ ใด จุดประสงคก์ ารเรียนรู้/ตวั ช้ีวดั
(ตีความ) นกั เรียนสามารถบอกเหตกุ ารณ์ท่ีเกิดข้ึนได้
16. แพรทางานการเขียนโปรแกรมและมีการ
ก. เริ่มตน้ ออกแบบผงั งานเป็นลาดบั ข้นั ตอน จะเกิดผล
อยา่ งไรตามมา (ขยายความ)
ข. คะแนน ก. แพรเป็นท่ีช่ืนชมของเพือ่ นๆ และคุณครู
ข. แพรจะรวยข้ึน
ค. เริ่มตน้ ค. แพรจะทางานไม่สาเร็จ
ง. งานแพรจะเสร็จและเป็นระบบและชดั เจนใน
ง. คะแนน การแกป้ ัญหา
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้/ตวั ช้ีวดั 17. ถา้ ไม่ตรวจสอบและแกไ้ ขขอ้ มูลท่ีผดิ พลาด
นกั เรียนสามารถสรุปจากเน้ือเรื่องที่อา่ นได้ ก่อนจะส่งงานจะเกิดเหตกุ ารณ์อยา่ งไร
หอ้ งสมดุ แห่งหน่ึงตอ้ งการพฒั นาระบบการยมื (ขยายความ)
หนงั สือโดยสามารถบนั ทึกขอ้ มูลการยมื หนงั สือ ก. ขอ้ มลู จะมีขอ้ ผดิ พลาดไม่สมบูรณ์
ลงบนบตั รอิเลก็ ทรอนิกส์โดยไมต่ อ้ งเขยี นดว้ ยมือ ข. โปรแกรมจะสมบูรณ์
14. ระบบน้ีควรใชเ้ ทคโนโลยใี นขอ้ ใด ( ตีความ ) ค. โปรแกรมไม่เกิดขอ้ ผดิ พลาดข้นึ
ก. Smart Card. ง. สามารถแกไ้ ขปัญหาไดต้ รงจุด
ข. Fingerprint.
ค. Barcode. 18. โปรแกรม Scratch เหมาะกบั การสร้างชิ้นงาน
ง. Wi-F ใดมากที่สุด (ขยายความ)
ก. วาดรูป
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้/ตวั ช้ีวดั ข. ออกแบบบา้ น
นกั เรียนสามารถบอกถึงความสาคญั ของปัญหาได้ ค. สร้างเกมคอมพิวเตอร์
15. การม่งุ เนน้ ความสาคญั ของปัญหา โดยไม่ ง. คานวณ
สนใจรายละเอียดท่ีไม่จาเป็น สอดคลอ้ งกบั
แนวคดิ ใด ( ตีความ )
ก. แนวคดิ เชิงรูปธรรม
ข. แนวคดิ เชิงนามธรรม
ค. แนวคดิ การแยกยอ่ ย
ง. แนวคดิ เชิงรวบยอด
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้/ตวั ช้ีวดั 21.สมใจตอ้ งการรูปภาพดอกไมเ้ มืองหนาวจึงเขา้
นกั เรียนสามารถแกไ้ ขปัญหาได้ ไปคน้ หาในเวบ็ ปรากฏวา่ รูปภาพดงั กล่าวมีตวั ยอ่
19. ตารวจสอบปากคาพยานคนหน่ึง ซ่ึงเป็น BY สมใจ ( นาไปใช้ )
พนกั งานในร้านอาหาร ถึงเหตุการณ์ท่ีผตู้ อ้ งสงสัย สามารถใชร้ ูปภาพไดห้ รือไม่ เพราะเหตุใด
ซ่ึงมารับประทานอาหารในร้านอาหารแห่งน้ี ได้ ก. ใชไ้ ด้ แต่ตอ้ ง แสดงที่มาของภาพ
ขโมยกระเป๋ าสตางคข์ องเจา้ ของร้านไป ตาม ข. ใชไ้ ด้ แต่ตอ้ ง ไมน่ ารูปไปใชเ้ พอื่ การคา้
แนวคดิ เชิงนามธรรม ขอ้ มลู ใด ( นาไปใช้ ) ค. ใชไ้ ม่ได้ เพราะ มีลิขสิทธ์ิ
ท่ีตารวจควรละทิง้ มากที่สุด ง. ใชไ้ ม่ได้ เพราะ ไมไ่ ดร้ ับอนุญาตจากเจา้ ของ
ก. รูปร่างหนา้ ตาของผตู้ อ้ งสงสยั
ข. ลกั ษณะเส้ือผา้ ของผตู้ อ้ งสงสัย ภาพ
ค. ช่วงเวลาท่ีผตู้ อ้ งสงสัยอยใู่ นร้าน
ง. รายการอาหารท่ีผตู้ อ้ งสงสัยรับประทาน จุดประสงคก์ ารเรียนรู้/ตวั ช้ีวดั
นกั เรียนจาแนกความสาคญั ของเทคโนโลยไี ด้
20. สมชายนดั หมายกบั เพอ่ื นมาทารายงานที่บา้ น 22.การใชเ้ ทคโนโลยคี วรคานึงถึงสิ่งใดมากท่ีสุด
( วเิ คาระห์ความสาคญั )
ของสมชาย โดยท่ีเพื่อนยงั ไม่เคยมาบา้ นของเขา ก. ความสะดวก
ข. ความสวยงาม
เลย สมชายตอ้ งการเขยี นแผนที่โดยระบุขอ้ มลู ค. ความปลอดภยั
ง. ความทนั สมยั
ต่างๆลงในแผนที่โดยขอ้ มลู ที่สมชายนึกออกมี
23. เพราะเหตใุ ดการใชส้ ื่อสังคมออนไลน์จึงมี
ดงั น้ี ( นาไปใช้ ) ความเส่ียงต่อภยั คกุ คามในอนาคต
( วิเคาระห์ความสาคญั )
1. ชื่อซอย 2. บา้ นเลขที่ ก. ผใู้ ชส้ ่ือสงั คมออนไลน์สามารถเป็นผสู้ ร้าง
3. รหสั ไปรษณีย์ 4. สีประตรู ้ัวบา้ น ขอ้ มูลได้
ข. สื่อสังคมออนไลนม์ ีอิทธิพลต่อความคดิ และ
5. จานวนคนในบา้ น 6. สถานที่ใกลเ้ คยี ง
พฤติกรรมของคนในสงั คม
จากขอ้ มูลท่ีสมชายนึกออก มีจานวนขอ้ มลู ที่ไม่ ค. การส่งผา่ นขอ้ มูลทางสื่อสังคมออนไลน์
เป็นประโยชนใ์ นการหาบา้ นของสมชายก่ี เป็นไปอยา่ งรวดเร็ว
ง. อุปกรณ์ท่ีใชโ้ ปรแกรมสื่อสงั คมออนไลน์ตอ้ งมี
ขอ้ ความ
คนเขา้ สู่ระบบอินเทอร์เนต็ ตลอดเวลา
ก. 1 ขอ้ ความ
ข. 2 ขอ้ ความ
ค. 3 ขอ้ ความ
ง. 4 ขอ้ ความ
24. จินดาเป็นพนกั งานของษริษทั แห่งหน่ึงแต่นา 26. จากขอ้ มูลท่ีกาหนดให้ สามารถเขียนคาส่ัง
ขอ้ มูลของบริษทั ไปเปิ ดเผยใหบ้ ริษทั คแู่ ข่งทราบ ขอ้ มลู นาเขา้ ระยะทางในโปรแกรมภาษาไดต้ าม
เธอจึงถกู ไล่ออกจากงาน จินดาโกรธแคน้ ที่โดน ขอ้ ใด ( วิเคาระหค์ วามสัมพนั ธ์ )
ไล่ออกจึงแอบเจาะเขา้ ไปในระบบเพือ่ ลบไฟล์ ก. int distance, time;
ระบบปฏิบตั ิการของบริษทั การกระทาของจินดา ข. printf(''distance : '')
เป็นรูปแบบภยั คุกคามต่อระบบรักษาความ ค. scanf(''%d'', &distance);
ปลอดภยั ทางคอมพิวเตอร์ในขอ้ ใด ง. Include(''distance :%d'')
( วเิ คาระห์ความสาคญั )
27. การเขียนคาสัง่ คานวณอตั ราเร็วโดยใช้
ก. ภยั คุกคามแก่ระบบ โปรแกรมภาษาขอ้ ใดถูกตอ้ ง
( วิเคาระหค์ วามสมั พนั ธ์ )
ข. ภยั คกุ คามท่ีไมม่ ีเป้าหมาย ก. speed = distance / time;
ข. printf(''speed = distance / time'')
ค. ภยั คกุ คามความเป็นส่วนตวั ค. scanf(''speed = distance / time'')
ง. comput(''speed = distance / time''')
ง. ภยั คุกคามท่ีสร้างความราคาญ
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้/ตวั ช้ีวดั
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้/ตวั ช้ีวดั นกั เรียนสามารถบอกความสาคญั ของการ
จาแนกส่ิงท่ีสมั พนั ธ์ของการออกแบบข้นั ตอนการ ออกแบบโปรแกรมได้
เขียนโปรแกรม 28. พิจารณาคาส่งั “scanf(''%d'', &height);” ขอ้
พจิ ารณาสถานการณ์ต่อไปน้ีใชต้ อบคาถาม ใดกล่าวถึงคาสงั่ น้ีไม่ถูกตอ้ ง (วเิ คราะห์ หลกั การ)
ขอ้ 25 – 27 ก. เป็นคาสั่งการแสดงผลขอ้ มลู อกมาทางหนา้ จอ
“การคานวณอตั ราเร็ว (speed) ของรถยนตท์ ่ีว่งิ บน ข. height คือชื่อตวั แปร
ถนนตรง หาไดจ้ าก ระยะทาง (distance) ท่ีรถวิง่ ค. ขอ้ มูลในคาสัง่ น้ีเป็นเลขจานวนเตม็
ไดห้ ารดว้ ยเวลา (time) ที่รถใช้ กาหนดให้ ง. เป็นโปรแกรมภาษา C
ระยะทางและเวลาที่รถว่งิ ไดเ้ ป็นขอ้ มูลนาเขา้ ”
25. อลั กอริทึมในขอ้ ใดไม่เกี่ยวขอ้ งกบั ขอ้ ความท่ี 29. เพราะเหตใุ ดการออกแบบผงั งานจึงมี
กาหนดให้ ( วิเคาระห์ความสัมพนั ธ์ ) ความสาคญั (วิเคราะห์ หลกั การ)
ก. START ก. ช่วยลดคา่ ใชจ้ ่าย
ข. เพอ่ี รวมของการทางานแตล่ ะข้นั ตอน
ข. Distanc ค. เพ่อื สร้างองคป์ ระกอบ
ง. ถกู ทกุ ขอ้
e
ค. Spee
d
ง.
Tim
e
30.“โครงสร้างของโปรแกรม ประกอบดว้ ย เวที
ตวั ละคร สคริปต”์ จากขอ้ ความดงั กลา่ วเป็น
ลกั ษณะของโปรแกรมภาษาชนิดใด
(วเิ คราะห์ หลกั การ)
ก. โปรแกรมภาษไพทอน
ข. โปรแกรมภาษาจาวา
ค. โปรแกรมภาษา C
ง. โปรแกรมภาษา Scratch