The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หนังสือ ธรรมะหน้ากุฏิ #4

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by wonchai890, 2020-08-21 02:32:15

หนังสือ ธรรมะหน้ากุฏิ #4

หนังสือ ธรรมะหน้ากุฏิ #4

พระอาจารยส์ ุชาติ อภชิ าโต 49

สนทนาธรรมหน้ากฏุ ิ

โยม: พระอาจารย์สุชาตมิ ีความทุกข์ไหมเจา้ คะ
พระอาจารย:์ ถามท�ำไมละ่ เรื่องอยา่ งนม้ี นั พดู ไปมนั ก็ไม่เกิด
ประโยชน์อะไรส�ำหรับคนถาม ถามตัวเราเองดีกว่าว่าเรามี
ความทุกข์หรือเปล่า ถ้าเรามีความทุกข์ก็พยายามก�ำจัดมัน
โดยวธิ ที พี่ ระพุทธเจ้าทรงสอนนี่ 

(สนทนาธรรมหน้ากฏุ ิ ๑๓ ม.ิ ย. ๒๕๖๓)

โยม: พระพทุ ธเจา้ กบั พระปจั เจกพทุ ธเจา้ ตา่ งกนั อยา่ งไรคะ
พระอาจารย:์ ตรสั รธู้ รรมเหมอื นกนั แตต่ า่ งกนั ตรงทพี่ ระปจั เจก-
พุทธเจ้าไม่ได้สั่งสอนใคร ไม่มีการแสดงธรรม ไม่มีการผลิต
พระอรยิ สงฆส์ าวก กเ็ ลยมแี ตพ่ ระพทุ ธเจา้ เพยี งองคเ์ ดยี ว กเ็ ลย
ไม่มีพระพุทธศาสนาตามมา พระพุทธเจ้าของเราตอนต้นก็
ไมอ่ ยากจะสอนเหมอื นกนั แตพ่ อมที า้ วมหาพรหมมาขอความ
เมตตา แล้วหลังจากใช้ปัญญาพิจารณาก็เห็นว่านักเรียนนี่มี
๔ กลุ่มด้วยกัน เป็นพวกบัว ๔ เหล่า พวกท่ีชอบเรียนก็มี
พวกทไี่ มช่ อบเรยี นกม็ ี ดงั นนั้ กเ็ ลยเลอื กสอนแตพ่ วกทช่ี อบเรยี น

50 ธรรมะหนา้ กฏุ ิ เล่ม ๔

พวกชอบท�ำบุญท�ำทาน พวกชอบรักษาศีล พวกชอบภาวนา
แตพ่ วกทช่ี อบกนิ เหลา้ เมายา เทยี่ วเตรก่ ไ็ มส่ อน ตอนตน้ ทไ่ี มไ่ ด้
คดิ วา่ จะสอน กค็ ดิ วา่ เปน็ พวกชอบกนิ เหลา้ เมายา เทยี่ วเตรก่ นั
ไปหมด กเ็ ลยไมม่ กี ำ� ลงั ใจทจี่ ะสอน เพราะพวกนสี้ อนไมไ่ ด้ สอน
แลว้ กไ็ มฟ่ งั เขาไมป่ ฏบิ ตั ิ นค่ี อื ความแตกตา่ งระหวา่ งพระปจั เจก-
พุทธเจ้ากับพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ใจของท่าน
เหมือนกัน ได้นิพพานเหมือนกัน หลุดพ้นจากการเวียนว่าย
ตายเกิดเหมือนกัน เพียงแต่ว่าพระปัจเจกไม่สร้างพระพุทธ-
ศาสนา พระอรหนั ตสมั มาสมั พทุ ธเจา้ สรา้ งพระศาสนา พวกเรา
นี่ต้องอาศัยพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้ามาสร้างศาสนาให้
กบั พวกเรา ถ้าไมม่ ี เรากจ็ ะไมว่ นั รทู้ างสกู่ ารหลุดพน้ ได้ 

(สนทนาธรรมหน้ากุฏิ ๕ ก.ค. ๒๕๖๓)

โยม: คณุ แมอ่ ยากกราบเรยี นถามพระอาจารยว์ า่ เราเวยี น
ว่ายตายเกิดอยู่ในสังสารวัฏนี้ ถ้าหากว่าโลกใบน้ี
แตกสลาย จะเกิดอะไรขึ้นกับจิตทั้งหลายท่ียังไม่พ้น
สังสารวฏั เจา้ คะ

พระอาจารย:์ ออ๋ มันมโี ลกอ่ืนท่มี ีมนุษย์อยู่ เพียงแต่เราตดิ ต่อ
กบั เขาไมไ่ ด้ ในจกั รวาลนม้ี องขนึ้ ไปบนทอ้ งฟา้ สิ มดี วงดาวกด่ี วง

พระอาจารยส์ ชุ าติ อภิชาโต 51

แตล่ ะดวงกเ็ หมอื นพระอาทติ ยด์ วงหนง่ึ พระอาทติ ยก์ ม็ บี รวิ าร
มโี ลกแบบนอ้ี ยู่ มนั กต็ อ้ งมโี ลกทมี่ มี นษุ ยอ์ ยไู่ ดเ้ ยอะแยะไปหมด
เราอาจจะเคยไปเกิดในโลกอื่นมาแล้วก็ได้ เพราะจิตเรานี้
สามารถไปทั่วจักรวาลได้อย่างรวดเร็ว จิตเรานี้ไม่มีร่างกาย
มนั เลยเดนิ ทางดว้ ยความคดิ เพยี งคดิ มนั กถ็ งึ แลว้ เพราะฉะนน้ั
เราอาจจะเกิดเป็นมนุษย์อยู่ในโลกนั้นโลกน้ีมาก่อน เพียงแต่
เราไม่รู้วา่ เปน็ โลกนนั้ โลกน้ีเท่าน้ันเอง เพราะว่าโลกแต่ละโลก
มันอยู่ห่างไกลกันจนไม่สามารถติดต่อกันได้ ก็เลยคิดว่ามีเรา
คนเดียวในโลกเดียวในโลกน้ี แต่ความจริงมีเยอะแยะไปหมด
ดงั นั้นไมต่ ้องกงั วล 

(สนทนาธรรมหน้ากุฏิ ๕ ก.ค. ๒๕๖๓)

โยม: ต้องเป็นมนุษย์อย่างเดียวใช่ไหมครับ ถึงจะบรรลุ
ธรรมได้

พระอาจารย์: เป็นเทวดากไ็ ด้แต่ต้องมคี นสอน คนที่ตดิ ต่อกบั
เทวดาได้ คอื จติ ทเ่ี ปน็ เทวดากค็ อื จติ ระดบั เทวดา พวกทท่ี ำ� บญุ
รักษาศีล ๕ นี่ เวลาตายไปก็จะเป็นเทวดา แล้วพวกน้ีก็ถ้ามี
พระอรหนั ตห์ รอื พระพทุ ธเจา้ ทต่ี ดิ ตอ่ กบั กายทพิ ยไ์ ด้ กจ็ ะเรยี น
จากพระพทุ ธเจา้ พระอรหนั ตไ์ ด้ แตถ่ า้ เปน็ มนษุ ยม์ นั จะงา่ ยกวา่

52 ธรรมะหน้ากุฏิ เลม่ ๔

เพราะพระพทุ ธเจา้ กเ็ ปน็ มนษุ ย์ พระอรหนั ตก์ เ็ ปน็ มนษุ ย์ ดงั นนั้
ก็มีโอกาสที่จะได้ยินไดฟ้ ังธรรมงา่ ยกว่าพวกเทวดา 

(สนทนาธรรมหน้ากฏุ ิ ๕ ก.ค. ๒๕๖๓)

โยม: วันพระ ทำ� บุญกศุ ลอะไรได้บุญมากทสี่ ุดครับ
พระอาจารย์: วันไหนมันก็เหมือนกันแหละ บุญที่มากท่ีสุด
กต็ ้องภาวนา แตก่ ารจะภาวนาได้มันกต็ ้องรักษาศลี ใหไ้ ดก้ อ่ น
การจะรกั ษาศลี ไดก้ ต็ อ้ งทำ� บญุ ทำ� ทานใหไ้ ดก้ อ่ น ฉะนนั้ มนั เปน็
เหมอื นกบั ขน้ั ตอนของการเรยี นรหู้ นงั สอื นแี่ หละ เรยี นชน้ั ไหน
จะได้ความรู้มากกว่ากัน ก็เรียนช้ันปริญญาเอกซิ แต่การจะ
ไปเรียนปริญญาเอกได้มันก็ต้องผ่านปริญญาโท ปริญญาตรี
ผ่านชั้นมัธยม ชั้นประถมก่อน ต้องไล่ขึ้นไปจากต�่ำข้ึนไปหา
สงู กอ่ น ท�ำบญุ ทำ� ทานใหไ้ ดก้ อ่ น รกั ษาศลี ๕ ให้ได้ก่อน แลว้ ก็
รักษาศีล ๘ รักษาศีล ๘ ได้ก็ไปปลีกวิเวกได้ ก็ไปภาวนาได้
ไปอยู่วดั ได้ ไปนั่งสมาธไิ ด้ อันนีก้ ต็ ้องเปน็ ไปตามก�ำลังของตน
ถ้าไปภาวนาได้ก็ไปเลย ไม่ห้าม ไม่ต้องท�ำทานก็ได้ แต่ต้อง
รักษาศีล การภาวนานีเ้ ขารักษาศลี ๘ กนั ขึ้นไป 

(สนทนาธรรมหน้ากุฏิ ๑๓ มิ.ย. ๒๕๖๓)

พระอาจารย์สชุ าติ อภชิ าโต 53

โยม: ถ้ามีเพ่ือนบ้านชอบพูดเสียงดัง ชอบพูดเร่ืองคนอ่ืน
เสียงมันเข้ามารบกวนตอนเราท�ำงาน เราเกิดความ
ยินดียินร้าย ไม่พอใจขึ้นมา ท้ังๆ ท่ีพยายามกดข่ม
อารมณ์แลว้ ควรจะแก้ไขอย่างไรดีครับ

พระอาจารย์: อ๋อ เราไม่มีอุเบกขา ไม่มีสมาธิน่ันเอง ดังนั้น
ก็ต้องพยายามฝึกสมาธิให้มากๆ ท�ำใจให้สงบให้เป็นอุเบกขา
เม่ือใจเป็นอุเบกขา ใจสงบแล้ว เวลาได้ยินเสียงใครก็จะรู้สึก
เฉยๆ ได ้ 

(สนทนาธรรมหน้ากฏุ ิ ๑๓ มิ.ย. ๒๕๖๓)

โยม: เราจะทราบไดอ้ ยา่ งไรว่า เราเข้าอยสู่ ภาวะอุเบกขาได้
จากเหตุการณท์ ี่เราพบในชวี ิตประจำ� วันครบั

พระอาจารย์: อ๋อ ก็รู้น่ี ถ้าเห็นแล้วเฉยได้ก็ต้องเป็นอุเบกขา
ถ้าเห็นแล้วเฉยไม่ได้ก็แสดงว่าไม่มีอุเบกขา อุเบกขามันก็เป็น
แบบเกดิ ๆ ดบั ๆ ได้ บางเรือ่ งกอ็ ุเบกขาได้ บางเร่อื งกอ็ ุเบกขา
ไมไ่ ด้ อันนีก้ เ็ ป็นระดบั ของอุเบกขา บางเร่ืองเราเหน็ แลว้ ก็เฉย
ช่างมัน

54 ธรรมะหน้ากฏุ ิ เล่ม ๔

อย่างเคยเล่านิทานให้ฟัง ตอนหลวงตาบวชก็ทิ้งครอบครัวไว้
ภรรยากส็ ง่ ลูกเอาอาหารมาเล้ยี งมาใหห้ ลวงตาทกุ วนั ๆ แล้วก็
จะมีเรื่องมาเล่าให้ฟัง เวลามีปัญหาทางบ้านอะไรก็มาเล่าให้
หลวงตาฟงั หลวงตาฟงั แลว้ ก็ “เออ้ ชา่ งมนั ” แมเ่ ขาจะขายนาก็
“ชา่ งมนั ” แมเ่ ขาจะยา้ ยทอี่ ยไู่ ปอยทู่ อี่ นื่ ก็ “ชา่ งมนั ” แตพ่ อบอก
วา่ แมเ่ ขาจะมแี ฟนใหม่ ไมช่ า่ งแลว้ อยไู่ มไ่ ดแ้ ลว้ อนั นกี้ แ็ สดงวา่
มีอุเบกขาหลายระดับ เร่ืองท่ีเราไม่ยึดไม่ติดก็อุเบกขาได้
ส่วนเรือ่ งท่เี รายังยึดยังติดอยู่ มันกย็ ังอเุ บกขาไม่ได้ 

(สนทนาธรรมหนา้ กุฏิ ๑๓ ม.ิ ย. ๒๕๖๓)

โยม: การที่เราเห็นอะไร มันก็ตีเป็นสภาวธรรมต่างๆ เอง
ถือวา่ ปญั ญาเราเกิดขน้ึ ใชห่ รอื ไม่เจ้าคะ

พระอาจารย์: ก็ต้องตีว่ามันเป็นไตรลักษณ์หรือเป็นปัญญา
ถ้าเป็นสภาวธรรมต่างๆ เรายังไปหลงไปรักไปชอบไปยึดไป
ตดิ อยู่ ก็ยังไมเ่ ปน็ ปญั ญา ถ้าเป็นปัญญานี้ มันจะไม่หลงไมร่ ัก
ไม่ชอบไม่ชัง ไม่ยึดไม่ติดกับอะไร เห็นก็สักแต่ว่าเห็น ได้ยิน
กส็ กั แต่ว่าได้ยิน ไมม่ คี วามผูกพันกบั อะไรทัง้ สนิ้ ท้ังปวง 

(สนทนาธรรมหนา้ กฏุ ิ ๑๓ ม.ิ ย. ๒๕๖๓)

พระอาจารย์สชุ าติ อภิชาโต 55

โยม: พจิ ารณาอสภุ ะถึงช่วงหน่งึ เห็นจิตมรี าคะตณั หาเอง
จะปฏิบตั ิอยา่ งไรตอ่ ไปคะ

พระอาจารย์: กแ็ สดงวา่ ไมไ่ ดพ้ จิ ารณาอสภุ ะแลว้ ถ้าพิจารณา
อสภุ ะ ราคะตณั หามนั จะเกดิ ขนึ้ มาไมไ่ ด้ แสดงวา่ กำ� ลงั พจิ ารณา
สภุ ะคอื ความสวยงามกำ� ลงั ดูPlayboyอยู่มนั ไมด่ ูAnatomyน่ี
ลองไปเปดิ หนังสือ Anatomy ดู ดมู ันจะเกิดกามราคะขึ้นมา
หรือเปลา่ 

(สนทนาธรรมหน้ากุฏิ ๕ ก.ค. ๒๕๖๓)

โยม: ท�ำอยา่ งไรจะละกามตณั หาไดอ้ ย่างถาวรครบั
พระอาจารย์: ก็ต้องภาวนา ต้องถือศีล ๘ ต้องไปปลีกวิเวก
ถ้าบวชได้ก็บวชเลย แล้วถ้าปฏิบัติภาวนาได้สมาธิได้ปัญญา
ก็จะสามารถตัดกามตัณหา ภวตัณหา และวิภวตัณหาได้
หมดเลย 

(สนทนาธรรมหนา้ กุฏิ ๑๓ ม.ิ ย. ๒๕๖๓)

โยม: มีสภาวะจิตหลุดขณะนอนหลับ ๒ ครั้งแล้ว ควรจะ
จัดการอย่างไรดเี จา้ คะ

56 ธรรมะหน้ากฏุ ิ เลม่ ๔

พระอาจารย:์ กใ็ หร้ เู้ ฉยๆ รวู้ า่ มนั เปน็ สภาวะอยา่ งหนงึ่ เหมอื น
ฝนตกแดดออก ฟ้าแลบ มันก็แลบไปแล้ว มันก็ผ่านไปแล้ว
อะไรจะเกดิ ขึ้น มนั ก็ไม่มาท�ำให้จติ มันหายไปหรอื เป็นอะไรไป
จติ กย็ งั เปน็ เหมอื นเดมิ อยู่ ฉะนน้ั ไมต่ อ้ งไปตน่ื เตน้ ตกใจ ไมต่ อ้ ง
ไปท�ำอะไร ใหส้ ักแตว่ า่ รูเ้ ฉยๆ รู้ว่ามันเป็นไตรลกั ษณ์ รู้วา่ มัน
เปน็ อนจิ จงั ไมเ่ ทยี่ ง รวู้ า่ มนั เปน็ อนตั ตา เราไปสง่ั มนั ไมไ่ ด้ 

(สนทนาธรรมหน้ากุฏิ ๑๓ มิ.ย. ๒๕๖๓)

โยม: ปญั ญาสามารถเกดิ ขน้ึ ไดจ้ ากการเจรญิ สมาธใิ ชห่ รอื
ไม่ครบั หรอื จำ� เปน็ ต้องฝึกฝนหรอื ครบั

พระอาจารย์: อ๋อ ปัญญาน้ีไม่ได้เกิดจากการฝึกสมาธิ สมาธิ
เป็นเพียงแต่ผู้สนับสนุนให้การเจริญปัญญาเป็นไปได้ ถ้าใจ
ไมส่ งบน้ี กจ็ ะมอี ารมณต์ า่ งๆ เขา้ มาครอบงำ� ทำ� ใหใ้ จไมส่ ามารถ
พจิ ารณาด้วยเหตุด้วยผลในสิ่งต่างๆ ได้
ดงั นนั้ เบอ้ื งตน้ ตอ้ งสยบอารมณ์ตา่ งๆ ให้มนั ลดลงก่อน หรือให้
มนั ลด แลว้ คอ่ ยมาใชป้ ญั ญาพจิ ารณาสง่ิ ตา่ งๆ ดว้ ยเหตดุ ว้ ยผล
ตอ้ งพจิ ารณาไตรลกั ษณถ์ งึ จะเกดิ ปญั ญา ตอ้ งพจิ ารณาอนจิ จงั
ความไม่เท่ียงแท้แน่นอนของส่ิงต่างๆ ต้องพิจารณาอนัตตา

พระอาจารยส์ ุชาติ อภชิ าโต 57

ความไม่มีตัวตนในสิ่งต่างๆ เพื่อท่ีจะได้หยุดความทุกข์ที่เกิด
จากการไปหลงไปยึดไปตดิ กับส่ิงต่างๆ ได้ 

(สนทนาธรรมหนา้ กุฏิ ๑๓ มิ.ย. ๒๕๖๓)

โยม: ฟังธรรมะแล้วเกดิ ปัญญาไดไ้ หมครับ
พระอาจารย์: ได้ ก็เป็นปัญญาระดับแรก เรียกว่า “สุตมย-
ปัญญา” ปัญญาที่ได้รับจากการได้ยินได้ฟัง ได้เรียนรู้ แต่ยัง
เป็นปัญญาขั้นต้นที่ต้องไปขยายผลต่อ ต้องไปขยายให้เป็น
“จนิ ตามยปญั ญา” คอื ใหไ้ ปนกึ คดิ บอ่ ยๆ เพอ่ื จะไดไ้ มล่ มื เพราะ
ฟงั วนั นเ้ี ดยี๋ วลมื ไดอ้ ยแู่ ลว้ พรงุ่ นไ้ี ปทำ� งาน ไปทำ� เรอื่ งนนู้ เรอ่ื งน้ี
เรอื่ งทไี่ ดย้ นิ ในวนั นก้ี ล็ มื ไป ดงั นนั้ กต็ อ้ งตามดว้ ยจนิ ตามยปญั ญา
คอื ตอ้ งน�ำเอาไปใคร่ครวญพิจารณาอยา่ งต่อเนอื่ ง เพ่ือทีจ่ ะได้
เอาไปใชใ้ นการสกู้ บั ความอยาก กำ� จดั ความอยาก การทจ่ี ะทำ� ได้
ก็ตอ้ งไปฝึกสมาธกิ ่อน เพราะถา้ ไมม่ สี มาธิ ปัญญา ๒ ขนั้ แรกนี้
ไมม่ กี ำ� ลงั ทจี่ ะสกู้ บั ความอยากได้ ตอ้ งไปฝกึ สมาธจิ นมอี เุ บกขา
มีความสงบ ทีนี้ก็สามารถใช้ปัญญาท่ีได้จากสุตตะ ได้จาก
จนิ ตาน้ี ไปสกู้ ับความอยากได้ หยุดความอยาก และฆา่ กิเลส
ต่างๆ ได้ 

(สนทนาธรรมหน้ากฏุ ิ ๑๓ ม.ิ ย. ๒๕๖๓)

58 ธรรมะหนา้ กฏุ ิ เลม่ ๔

โยม: เราควรจะไปทางไหนดี บางทใี จกค็ ดิ วา่ อยา่ ลมื ทำ� ทาน
ท�ำกุศล แต่อีกใจหนึ่งก็อยากจะถือศีลภาวนาไปเลย
ควรจะเชื่ออะไรดีเจ้าคะ จิตฝ่ายกุศลก็ชวนให้มา
ท�ำระดับล่าง หรือควรจะไปท�ำระดับสูงเลยเจ้าคะ
เพอ่ื ปฏบิ ตั ใิ หถ้ งึ นพิ พานอย่างเดยี ว

พระอาจารย์: อ๋อ ให้คิดถึงความตายอยู่เร่ือยๆ แล้วเดี๋ยว
มนั จะบอกเราเองวา่ ใหไ้ ปทางไหนดี หมน่ั ระลกึ ถงึ ความตายอยู่
เรอื่ ยๆ เกดิ มาแลว้ ตอ้ งตาย อาจจะตายวนั น้ี เยน็ น้ี คนื น้ี พรงุ่ น้ี
ไมม่ ใี ครรู้ คดิ อยา่ งนีเ้ ร่ือยๆ เด๋ยี วจะได้ค�ำตอบเอง 

(สนทนาธรรมหนา้ กุฏิ ๕ ก.ค. ๒๕๖๓)

โยม: กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ เคยไปกราบขอ
คำ� แนะนำ� บนเขาเรอื่ งวธิ กี ารปฏบิ ตั คิ รบั พระอาจารย์
เคยแนะนำ� กระผมใหเ้ พง่ ไปทร่ี า่ งกายครบั ในเรอ่ื งของ
ความรอ้ น กระผมปฏบิ ตั มิ าไดร้ ะยะหนงึ่ พอเราเพง่ ไป
ท่ีขาหรือเท้าท่ีมันร้อนแล้วกลับมาอยู่ที่ฐานเดิมครับ
กค็ อื ตรงลนิ้ ป่ี ทนี ม้ี นั เกดิ สภาวะทแี่ บบวา่ มนั รอ้ นแลว้
มันกเ็ ริ่มหายไปแล้วมันไมเ่ หน็ ความรอ้ น ทีน้จี ะมาจับ
เอาไว้ท่ีล้ินปี่เหมือนเดิม แต่มันกลับไม่เห็นอาการที่

พระอาจารย์สชุ าติ อภิชาโต 59

มันพองยุบ ก็เลยไม่รู้ว่าตอนน้ีมันเหมือนหาตัวจับ
ไม่เจอ ก็เลยไมร่ วู้ า่ ทำ� ผดิ หรอื ท�ำถูก

พระอาจารย์: คือความจริงเราไม่เคยสอนแบบนี้นะ อาจจะ
จ�ำผิด เรียนจากใครก็ไม่รู้ เพราะเราจะสอนให้ดูลมเป็นหลัก
หรือพุทโธ ดูลมท่ีปลายจมูก ลมมันต้องเข้าออกท่ีปลายจมูก
ไม่ต้องไปไหน มันไม่หายไปไหน แล้วอย่าไปสนใจกับอาการ
อน่ื ๆ ทปี่ รากฏขนึ้ มาในขณะทดี่ ลู ม บางทเี กดิ อาการรสู้ กึ ตรงนนั้
ตรงน้ี ไมต่ อ้ งไปสนใจ อาการรา่ งกายใหญข่ นึ้ อาการร่างกาย
เลก็ ลงหรอื อะไรตา่ งๆเหลา่ นไี้ มต่ อ้ งไปสนใจใหด้ ลู มทป่ี ลายจมกู
ลมเขา้ ลมออกกอ็ ยทู่ จ่ี ดุ นนั้ ไมต่ อ้ งตามลมเขา้ ไป ไมต่ อ้ งตามลม
ออกมา อยู่ที่ปลายจมูก ดูที่ตอนมันเข้ามันออก ตรงทวาร
ทางเข้าออก แล้วใจมันจะได้น่ิงได้ ใจมันจะได้มีอะไรเกาะ
ถา้ มนั ไมย่ อมอยกู่ ใ็ ชพ้ ทุ โธชว่ ยกไ็ ด้ ทอ่ งพทุ โธๆ หรอื เปลย่ี นจาก
การดลู มมาทอ่ งพทุ โธแทนกไ็ ด้ พทุ โธๆ ไป ถา้ ใชพ้ ทุ โธกไ็ มต่ อ้ ง
ดูลม ใหอ้ ยกู่ ับคำ� ว่าพทุ โธไปอยา่ งเดียว อยา่ ใหม้ ันหาย อยา่ ให้
พทุ โธหาย มนั จะหายตอ้ งใหม้ นั ตกหลมุ ตกบอ่ กอ่ น แลว้ มนั หาย
อยา่ งนน้ั ได้ ถา้ มนั ยงั ไมต่ กหลมุ ตกบอ่ แลว้ เราหยดุ น้ี หายแบบน้ี
ไมไ่ ด้ หายแบบนเี้ ดย๋ี วมนั กค็ ดิ ปรุงแตง่ ข้นึ มาได้ แตถ่ า้ มนั หาย
แบบตกหลมุ ตกบอ่ นี้ มนั จะไมค่ ดิ ปรงุ แตง่ มนั จะนง่ิ มนั จะสงบ

60 ธรรมะหน้ากฏุ ิ เลม่ ๔

โยม: กระผมเคยฝกึ ดลู มครบั แตพ่ อดไู ปนานๆ เหมอื นมอง
ไมเ่ หน็ ลมครบั เหมือนมนั หายไปเลย

พระอาจารย์: ดูใจแทนก็ได้ ดูใจว่าก�ำลังคิดอะไรหรือเปล่า
ถ้าคิดก็ต้องหยุดมัน อย่าให้มันคิด คอยควบคุมความคิด
อยา่ ให้มนั คิดนะ พอไมม่ ีลมดกู ็ดูใจต่อ ตอนน้ยี งั คดิ หรอื เปลา่
ถา้ คดิ กใ็ หม้ นั หยดุ บอกวา่ อยา่ คดิ ๆ กไ็ ด้ หรอื ใชพ้ ทุ โธๆ ไปกไ็ ด้
ถ้ามันยงั คดิ อยู่

โยม: ขออีกหนึ่งค�ำถามครับ คือถ้ากระผมนั่งดูลมไปแล้ว
มีสภาวะอะไรเข้ามา แลว้ เราตัด เราเผลอไปแล้วเราก็
กลับมาท่ลี มอกี

พระอาจารย:์ ใช่ ตอ้ งกลบั มาทล่ี มเสมอ เพราะลมจะพาเราเขา้
สคู่ วามสงบ อย่างอ่ืนจะพาใหเ้ ราไม่เขา้ สู่ความสงบ

โยม: เราไม่ตอ้ งไปพจิ ารณาใช่ไหมครับ
พระอาจารย์: ไม่ต้องพจิ ารณา ตอนทเี่ ราท�ำสมาธิ ไมต่ ้องการ
พิจารณาอะไรทั้งสิ้น ต้องการท�ำใจให้สงบอย่างเดียว ถ้าไป
พจิ ารณากจ็ ะไมม่ วี นั สงบ ถา้ พจิ ารณากเ็ ละเทะ ไมร่ วู้ า่ พจิ ารณา
อะไร ดงั นน้ั อยา่ เพง่ิ ไปพจิ ารณาในเบอ้ื งตน้ ตอ้ งทำ� ใจใหส้ งบกอ่ น

พระอาจารย์สุชาติ อภชิ าโต 61

แล้วเวลาพจิ ารณา ขน้ั พิจารณาตอ้ งมาศกึ ษากอ่ นว่าพิจารณา
ยังไงถึงจะเรียกว่าเป็นการพิจารณา คือให้พิจารณาเป็น
เรื่องๆ ไม่ใช่นึกอยากจะคิดอะไรก็คิดไปเร่ือยเปื่อย อันน้ัน
ไม่ถูก สิ่งท่ีพระพุทธเจ้าต้องการให้เราพิจารณาคือร่างกาย
ของเรา เวทนาของเรา อารมณข์ องเรา นคี่ อื เปา้ หมายของการ
พิจารณา ไม่ใช่คิดพิจารณาอะไรเละเทะเร่ือยเปื่อยไปหมดน้ี
มันไม่ใช่เป็นเป้าหมายของการเจริญวิปัสสนา แต่ก่อนจะ
เจริญวิปัสสนาได้ ต้องท�ำใจให้สงบให้ได้ก่อน ให้เป็นอุเบกขา
ให้น่ิงก่อน แล้วเวลาออกจากสมาธิค่อยท�ำ แต่เวลามันน่ิง
อย่าเพ่งิ ไปทำ� เวลาอยใู่ นสมาธิใหม้ นั น่งิ ไปนานๆ พอเวลาออก
จากสมาธิมา เราจะไดใ้ ชใ้ จท่ีนงิ่ นีม้ าพจิ ารณาทางวปิ ัสสนาได้
ตอ่ ไป
โยม: สาธุครบั
พระอาจารย์: มันเป็น ๒ วิชา เราจะไม่เรียนพร้อมกัน วิชา
คณิตศาสตร์กับวิชาภูมิศาสตร์น้ี ไม่เรียนพร้อมกัน วิชาสมาธิ
กบั วชิ าปัญญาไม่ทำ� พรอ้ มกนั ใหผ้ ลัดกันทำ� 

(สนทนาธรรมหนา้ กุฏิ ๑๙ ก.ค. ๒๕๖๓)

62 ธรรมะหนา้ กฏุ ิ เล่ม ๔

โยม: ชว่ งทน่ี งั่ สมาธเิ กดิ ปตี บิ อ่ ยๆ แลว้ ไปตอ่ ฌาน ๓ ถงึ ๔
จะแยกได้อย่างไรว่าได้อัปปนาสมาธิหรือภวังค์จิต
เพราะดับหมดทงั้ ทวาร ๕

พระอาจารย:์ ออ๋ มนั ยงั ไมห่ มด เหลอื สกั แตว่ า่ รู้ จติ วา่ ง จติ เปน็
อเุ บกขา จติ มคี วามสขุ มาก มันก็เขา้ สฌู่ านท่ี ๔ วิธเี ขา้ กค็ อยดู
ลมหรอื พทุ โธไปเรอ่ื ยๆ อยา่ ไปคดิ ถงึ เรอื่ งอะไรทงั้ นน้ั เรอ่ื งฌาน
กอ็ ยา่ ไปคดิ ว่า เอ๊ะ ตอนนี้เราอย่ฌู านไหนแลว้ ฌาน ๑ หรอื
ฌาน ๒ ถ้าคิดอย่างน้ีแล้ว จิตมันก็ไม่สงบ ต้องไม่ให้มีความ
คิดอะไรเลย แล้วก็ต้องไม่มีความอยากใหม้ ันสงบดว้ ย นัง่ ดูลม
ไปอย่างเดียว ท�ำเป็นไม่รู้ไม่ช้ีว่าดูลมแล้วมันจะพาเราไปไหน
พุทโธแลว้ มนั จะพาเราไปไหน ไม่ต้องไปสนใจ เหมอื นกนิ ขา้ ว
เวลากนิ ไมไ่ ด้มาน่งั คิดว่า “กจู ะอ่ิมเมอ่ื ไหร่” ใชไ่ หม กนิ เขา้ ไป
เรื่อยๆ เดีย๋ วอมิ่ มันบอกเราเอง “เอ๊ย พอแลว้ กินไมล่ ง” 

(สนทนาธรรมหนา้ กุฏิ ๕ ก.ค. ๒๕๖๓)

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต 63

โยม: หากภาวนามาถงึ จุดทร่ี า่ งกายเราเปน็ เหมือนหุ่นยนต์
เราเปน็ ตวั บงั คบั หนุ่ ยนตท์ เ่ี ปน็ รา่ งกาย แมแ้ ตค่ วามคดิ
ก็เห็นว่าก�ำลังก่อตัวกลายเป็นความคิด ถ้าคิดดี
ก็ปล่อย ถ้าคิดไม่ดีจะถูกตัดทันที ไม่กลายเป็น
ความคดิ จะสลายไปทนั ทีผมควรพจิ ารณาอยา่ งไรตอ่
เพ่ือเขา้ ทางสติปฏั ฐานครับ

พระอาจารย์: ก็คิดเพ่ือปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่างท่ีเรามีอยู่
ปล่อยวางร่างกาย ปล่อยวางความรู้สึกที่เกิดจากทางร่างกาย
ปล่อยวางอารมณ์ตา่ งๆ ทเี่ กดิ ข้ึนภายในใจ ไม่ตอ้ งไปยงุ่ กบั มนั
ปล่อยมันเกดิ มันดับไป ไม่ตอ้ งไปอยากให้มนั เกิดหรอื ไปอยาก
ใหม้ นั ดบั 

(สนทนาธรรมหนา้ กฏุ ิ ๕ ก.ค. ๒๕๖๓)

รับชมการแสดงธรรมโดย พระอาจารยส์ ชุ าติ อภชิ าโต ไดท้ ุกวนั
เวลา ๑๔.๐๐-๑๖.๐๐ น. รับชมไดท้ าง

Youtube: Phrasuchart Live
Facebook: พระอาจารยส์ ชุ าติ อภชิ าโต

สามารถรับฟังผา่ นวทิ ยุธรรมะออนไลน์ที่
Phrasuchart.com

และสามารถถามปัญหาธรรมะได้ทาง
Facebook และ Youtube




Click to View FlipBook Version