วั จ น ภ า ษ า / อ วั จ น ภ า ษ า
ครูนุท สุรเชษฐ์ อาจหม่นั
วั จ น ภ า ษ า / อ วั จ น ภ า ษ า
๑. อธิบายธรรมชาติของภาษาได้
๒. สามารถใชว้ ัจนภาษา อวัจนภาษาในการสือ่ สาร
ไดอ้ ย่างถูกต้อง
๓. เหน็ ความสาคญั ของการใช้ภาษาไทย
โดยนามาปรบั ใชก้ ับการดาเนนิ ชวี ิตไดอ้ ย่างเหมาะสม
เ ป็ น ม นุ ษ ย์ สุ ด นิ ย ม เ พี ย ง
ลมปากจะได้ยากโหยหิวเพราะชิวหา
แม้นพูดดีมีคนเขาเมตตา จะพูดจา
พิเคราะหใ์ ห้เหมาะความ
สนุ ทรภู่
ภาษาทีใ่ ช้ในการสื่อสาร
มี ๒ ลกั ษณะ
๑.วจั นภาษา
๒.อวจั นภาษา
วัจนภาษา
คือ ภาษาที่ใช้ถ้อยคา พูดหรือเขียนออกมา
(ไม่พูดในใจ) โดยมีการจัดภาษาของออกเป็น
ระดับ
ระดับของภาษา
หมายถึง ความลดหล่ันของถ้อยคา
และการเรียบเรียงถ้อยคาที่ใช้ตามโอกาส
กาลเทศะ และความสัมพันธร์ ะหว่างบุคคลที่
เปน็ ผสู้ ง่ สารและผรู้ บั สาร แบง่ เปน็ ๕ ระดับ
ระดับภาษา ภาษาพดู ปาก
ภาษาเขยี น สนทนา
ทางการ
กึง่ ทางการ
พิธกี าร
๑. ภาษาระดับปากหรือระดับกนั เอง
-ใช้กบั บคุ คลทีส่ นทิ สนมคุ้นเคยกนั เป็นพิเศษ
-สือ่ สารกันในเนื้อหาที่รับรู้กนั ได้เฉพาะคู่สนทนาเท่านน้ั
-คาทีใ่ ช้อาจไม่สภุ าพสาหรับสาธารณชน
-อาจใชค้ าคะนองหรือคาที่เข้าใจกันเฉพาะกลุ่ม
ตวั อย่าง
❖ เซง็ เปน็ บา้
❖ เหย้ แกร วันเน้ปยั กงิ ชาบกู ัลป์ปะ
❖ วันนโ้ี ดดเรียนวชิ าปา้ เหี่ยวกนั นะ
❖ รอแพรบบ เด่วมา
๒.ภาษาระดับสนทนา
- ใช้สื่อสารกันระหว่างบคุ คลที่มี
ความสมั พันธ์ยังไม่ถึงขั้นสนทิ สนม
- การสนทนาในการตดิ ต่อธรุ การงาน
แนะนาตวั ในสงั คม
- ผทู้ ี่ใช้ภาษาระดบั นีไ้ ม่ต้องใช้ความ
ระมัดระวังที่จะให้รับรู้กนั เฉพาะคู่
สนทนาเท่าน้ัน
ตวั อย่าง
❖ ไอเดียเคา้ เจง๋ จริงๆ
❖ ครูนทุ ครบั วนั นี้ครูท่ีสอนวชิ าคณติ มาไหมครบั
❖ ผมวา่ คณุ ควรปรับปรุงงานนเ้ี สียใหม่ครบั
๓.ภาษาระดับก่งึ ทางการ
-ผสมกนั ระหวา่ งพูดกบั ทางการ
-ใชเ้ พอ่ื สือ่ สารใหเ้ กิดความเขา้ ใจกนั
ดว้ ยความ
-ภาษาทีใ่ ชใ้ นจดหมายกงึ่ ทางการ
-การพดู ทางวทิ ยุหรอื โทรทศั นท์ ผี่ ู้ฟงั
เปน็ บคุ คลท่ัวไป
ตวั อย่าง
ตวั อย่าง
❖ การจัดซื้อจัดจ้างทุกๆผ่ายย่อมมีส่วนได้ส่วนเสีย
อยูแ่ ล้ว
❖ งานวัดปีนี้ คลาล่าไปด้วยผ้คู นหลายประเภท
❖ ต้ังใจจะมาจ่าหน่ายของดีราคาถูก แต่ร้านแน่น
เอยี๊ ดแบบนีค้ งไมไ่ หว
ตวั อยา่ งสนุ ทรพจน์ ๔.ภาษาระดับทางการ
• เ ป็ น ภ า ษ า ที่ ใ ช้ ใ น ห นั ง สื อ
ราชการ คาสั่งหรือประกาศ
เพือ่ ให้สาธารณชนทราบ
• ภาษาท่ีใช้ในการเขียนตาราทาง
วชิ าการ
• การประชมุ ทม่ี ีแบบแผน
• การอภิปรายหรือปาฐกถาอย่าง
เป็นทางการ
ตวั อย่าง
❖ วรรณกรรมไทยมีหลายประเภทให้เลือกอ่าน เช่น นวนิยาย
เร่ืองส้ัน บทละคร ซึ่งล้วนสร้างความเพลินเพลินให้กับ
ผ้อู ่านทั้งส้นิ
❖ นักโบราณคดีพบโครงกระดูกของสัตว์ดึกด่าบรรพ์ชนิดหนึ่ง
บรเิ วณหมู่บ้านดงหว้า จงั หวดั ขอนแกน่
๕.ภาษาระดบั พิธกี าร
เป็นภาษาที่ใช้ในโอกาสสาคัญเป็นพิเศษ เช่น
ประกาศสาคัญๆงานพระราชพิธี ศาสนพิธีหรือ
รัฐพิธี
๕.ภาษาระดับพธิ กี าร
ตวั อย่าง
❖ ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปก
กระหม่อม ข้าพระพทุ ธเจ้า
❖ โปรดเกล้าฯ อ่านประกาศราชาภิสดุดี ท่ามกลาง
มหาสันนิบาตแห่งพระราชวงศ์ ข้าราชการและ
ประชาชน
ภาษาพดู ภาษาเขียน
อาทิตย์ สปั ดาห์
✓ กิน ?
✓ สิบโมง ?
✓ ยงั ไง ?
✓ ถวั ?
✓ รสเดด็ ?
✓ กะได ?
✓ ติดตาราง
ระดบั ใด??
บ้านเมืองไทยเราด่ารงมั่นคงมาช้านาน
เพราะด้วยคนไทยมีความพร้อมเพรียงอัน
เข้มแข็ง
ระดับใด??
นายกรัฐมนตรีกาลังบรรยายเรื่อง
ปัญหาเศรษฐกิจ ณ ทาเนยี บรฐั บาล
ระดบั ใด??
ข้าพเจ้ามีความเห็นว่าควรเอา
มนั ออกจากห้องนไ้ี ป
ระดบั ใด??
แกๆ ครกู ายหลอ่ เว่อรอ์ ะ
ระดบั ใด??
หั ว ใ จ ข อ ง ฉั น จ ะ ยึ ด มั่ น
เพียงแตเ่ ธอนะ
ระดับใด??
กวู า่ ละ มนั ตอ้ งแอบไปกินกันเอง
แนๆ่
ระดบั ใด??
กระผมกา่ ลังศกึ ษาอย่รู ะดับ
ม.ต้นครับ
ระดับใด??
บดิ ามารดาอยากใหฉ้ ันเรียนจบสูงๆ
ระดบั ใด??
การจัดล่าดับวัตถุประสงค์จะช่วยให้
ทราบว่าการอุดมศึกษาไทยควรด่าเนินไป
ทิศทางไหน
ระดับใด??
การประเมินมหาวิทยาลัยมีข้อดีคือท่า
ให้เกดิ การแขง่ ขนั ระหวา่ งมหาวิทยาลยั
คา่ พูดเป็นนายคน
คิดวกวนกอ่ นจะใช้
สูงต่าเป็นทาสไท
พจนาไซร้ใช้เปน็ เกณฑ์
อ วั จ น ภ า ษ า
ภาษาที่ไม่ใช้ถ้อยคา ได้แก่ การแสดงกิริยาท่าทาง
ของมนุษย์ การแสดงสีหน้า สายตา น้าเสียง การใช้มือ
วัตถุ การใช้สัญญาณต่างๆ เพ่ือน้ามาส่ือความหมาย และ
ท้าความเข้าใจต่อกันจดั แบ่งได้
๗ ประเภท
๑. เทศภาษา (proxemices)
เ ป็ น อ วั จ น ภ า ษ า ท่ี ใ ช้ เ ก่ี ย ว ข้ อ ง กั บ
สถานที่ หรือช่วงระยะห่างท่ีบุคคลก้าลังส่ือสารกัน
สถานท่ีที่บุคคลส่ือสารกันสามารถแสดงให้เห็นนัย
แห่งความสัมพันธ์บางประการของผู้ส่งสารและผู้รับ
นอกจากนีระยะห่างหรือใกล้ในขณะสนทนาก็บ่ง
บอกได้ว่าพูดคุยกันธรรมดาหรือคุยกันอย่างรู้จัก
สนทิ สนม
๒. เนตรภาษา (oculesics)
เป็นอวจั นภาษาที่เกี่ยวข้องกับการใช้ดวงตา สายตาเพื่อ
สื่อสารถึงอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด ทัศนคติ และความ
ต้องการจากผู้ส่งสารไปยังผู้รับสาร เช่น การมอง การจ้อง
เหลือบ ชาเลือง หรีต่ า ถลึงตา ฯลฯ
๒. เนตรภาษา (oculesics)
๒. เนตรภาษา (oculesics)
๒. เนตรภาษา (oculesics)
๒. เนตรภาษา (oculesics)
๓. กาลภาษา (chonemics)
เป็นอวัจนภาษาที่เกี่ยวข้องกับระยะเวลา หรือช่วง
ระยะเวลาทีก่ าลงั สื่อสารกันอยู่ เช่น
- ไม่ควรโทรหาบคุ คลหลงั สี่ทมุ่
- การตรงตอ่ เวลาในการนดั หมาย
- เดชาตื่นนอนเวลา 9 โมงทุกวัน
๔. อาการภาษา (kinesics)
เป็นอวัจนภาษาที่เก่ียวข้องกับการเคลื่อนไหวอวัยวะส่วน
ต่างๆ ของร่างกายเพื่อสือ่ ความหมายบางประการ
เช่น
การเคลื่อนไหวศีรษะ ลาตวั แขนขา
ส่ายศีรษะ แสดงว่า ปฏิเสธ
โบกมือ แสดงการทักทายหรือการลากไ็ ด้
๔. อาการภาษา (kinesics)
๔. อาการภาษา (kinesics)
๔. อาการภาษา (kinesics)
๕. สมั ผัสภาษา (haptics)
เป็นอวจั นภาษาทีส่ อื่ กับผู้รบั สารโดยการใชอ้ วยั วะส่วน
ใดส่วนหน่ึงของผู้ส่งสารสัมผัสกับผู้รับสารเพ่ือแสดงถึง
ความรู้สึก ความปรารถนาและอารมณ์ของผู้ส่งสารที่ต้อง
การสื่อ เช่น การเดินคล้องแขน จับมือ โอบกอด ลูบไล้
เช่น การโอบกอดและหอมแก้มในสังคมตะวันตก หมายถึง
การแสดงความรกั และห่วงใย
๕. สมั ผสั ภาษา (haptics)
๕. สมั ผสั ภาษา (haptics)
๖. ปริภาษา (vocalic / paralanguage)
เป็ นอวัจน ภ าษาที่หมายถึงสิ่งที่ เกิด ข้ึนรอบๆ
วจั นภาษา แบ่งเป็น ๒ ลกั ษณะ
๑. ปริภาษาเกี่ยวกับภาษาพูด ได้แก่ น้าเสียง ความเร็ว ความดัง
จังหวะในการพูดเพราะสามารถบ่งบอกถึงอารมณ์ความรู้สึกของผู้พดใน
ขณะน้ันได้
๒. ปริภาษาเกี่ยวกับภาษาเขียน ได้แก่ การใช้รูปแบบตัวอักษรใหญ่
เล็ก ตัวหนา บาง เอียง สีของอักษร การขีดเส้นใต้ การใช้เครื่องหมาย
วรรคตอนเพื่อเน้นย้าความสาคญั ของข้อความ
๗.วตั ถุภาษา (objects)
เป็นอวจั นภาษาท่เี กีย่ วขอ้ งกบั การเลอื กใช้วัตถุเพ่ือ
นามาสื่อถึงความหมายบางประการ เช่น การเลือกใช้
เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ ข้าวของเครื่องใช้ในการแต่ง
บ้าน เช่น สร้อยทองคาแสดงถึงความร่ารวย แต่งกายชุดสี
ดา แสดงว่าเสียใจและไว้อาลัยให้ผู้ตาย ฯลฯ
๗.วตั ถภุ าษา (objects)
สรุป
๑.วัจนภาษา ได้แก่ ภาษาทีเ่ ปน็ ถ้อยคา เขยี นหรือพดู
ออกมา ไม่ใช่ในใจและต้องฟงั รูเ้ รื่อง แบง่ เปน็ ๕ ระดับ
๒.ตัวอกั ษรทร่ี วมกนั เปน็ รปู คาอ่านออกเป็นวัจนภาษา
๓.อ่านรูปภาพ/เคร่ืองหมาย/สัญลักษณ์ เป็นอวัจน
ภาษา
อกั ษร นา คาตอบ