เอกสารประกอบ การบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กลุ่มพัฒนาระบบบริหาร กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
สารบัญ เรื่อง หน้า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช 1 การบริหารส่วนราชการกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช 6 การบริหารจัดการเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ 9 นโยบายการบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ 11 การด าเนินงานการบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ 16 การด าเนินงานการบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖7 18 เอกสาร เอกสาร 1 ค าสั่งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่ 562/2566 ลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 เรื่อง มอบหมายหน้าที่การบริหารจัดการ ทรัพยากรป่าไม้ สัตว์ป่า และทรัพยากรธรรมชาติอื่น ๆ เชิงพื้นที่ 22 เอกสาร 2 หนังสือกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ด่วนที่สุด ที่ ทส 0928.2/ว 8916 ลงวันที่ 28 เมษายน 2566 เรื่อง รายงานการประชุมหารือแนวคิดการบริหารจัดการ แบบบูรณาการเชิงพื้นที่ฯ 25 เอกสาร 3 กรอบแนวคิดการบริหารจัดการแบบบูรณาการเชิงพื้นที่ฯ 35 เอกสาร 4 หนังสือกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ด่วนที่สุด ที่ ทส 0928.2/ว 16588 ลงวันที่ 15 สิงหาคม 2566 เรื่อง การบริหารราชการส่วนกลาง และส่วนกลาง ในภูมิภาค 37 เอกสาร 5 หนังสือกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ด่วนที่สุด ที่ ทส 0928.2/ว 19084 ลงวันที่ 11 กันยายน 2566 เรื่อง การบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 44 เอกสาร 6 หนังสือกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ด่วนที่สุด ที่ ทส 0905.703/ ว 19354 ลงวันที่ 13 กันยายน 2566 เรื่อง การจัดท าแผนปฏิบัติงาน และแผนการใช้จ่ายเงินประจ าปี ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรณีการบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการเชิงพื้นที่ 56 เอกสาร 7 ค าสั่งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่ 4355/2566 ลงวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2566 เรื่อง การบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช 61 เอกสาร 8 หนังสือกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ด่วนที่สุด ที่ ทส 0928.2/ว 22040 ลงวันที่ 17 ตุลาคม 2566 เรื่อง แนวทางการบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 63 เอกสาร 9 แนวทางการปฏิบัติราชการในพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการเชิงพื้นที่ 67
สารบัญ (ต่อ) เรื่อง หน้า เอกสาร 10 กรอบการด าเนินงานการบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการเชิงพื้นที่ เดือนพฤษภาคม – กันยายน 2566 69 เอกสาร 11 รายชื่อพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 จ านวน 52 หน่วย 71 เอกสาร 12 กรอบการด าเนินงานการบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการเชิงพื้นที่ ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 75
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. ๒๕๔๖ เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการ บ้านเมืองที่ดี พ.ศ. ๒๕๔๖ คือ โดยที่มีการปฏิรูประบบราชการ เพื่อให้การปฏิบัติงานของส่วนราชการ ตอบสนองต่อการพัฒนาประเทศและให้บริการแก่ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งการบริหาร ราชการและการปฏิบัติหน้าที่ของส่วนราชการนี้ต้องใช้วิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีเพื่อให้การบริหาร ราชการแผ่นดินเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ มีประสิทธิภาพ เกิดความคุ้มค่าในเชิงภารกิจของรัฐ ลดขั้นตอนการปฏิบัติงานที่เกินความจำเป็น และประชาชนได้รับ การอำนวยความสะดวกได้รับการตอบสนองความต้องการ รวมทั้งมีการประเมินผลการปฏิบัติราชการ อย่างสม่ำเสมอ มาตรา ๖ การบริหารบ้านเมืองที่ดี ได้แก่ การบริหารราชการเพื่อบรรลุเป้าหมายดังต่อไปนี้ ๑. เกิดประโยชน์สุขของประชาชน ๒. เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ ๓. มีประสิทธิภาพและเกิดความคุ้มค่าในเชิงภารกิจของรัฐ ๔. ไม่มีขั้นตอนการปฏิบัติงานเกินความจำเป็น ๕. มีการปรับปรุงภารกิจของส่วนราชการให้ทันต่อสถานการณ์ ๖. ประชาชนได้รับการอำนวยความสะดวกและได้รับการตอบสนองความต้องการ ๗. มีการประเมินผลการปฏิบัติราชการอย่างสม่ำเสมอ พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 119 ตอนที่ 99 ลงวันที่ 2 ตุลาคม 2545 มาตรา 5 ลำดับที่ 9 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และมาตรา 23 ลำดับที่9 กำหนดให้มีกรมอุทยาน แห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และตามกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2547 กำหนดการแบ่งส่วนราชการภายในกรมอุทยาน แห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้มีภารกิจเกี่ยวกับการอนุรักษ์ สงวน คุ้มครอง ฟื้นฟู ดูแลรักษา ส่งเสริมและ ทำนุบำรุงทรัพยากรป่าไม้ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช การจัดให้ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน โดยการควบคุม ป้องกันพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่มีอยู่เดิมและฟื้นฟูป่าเสื่อมโทรมให้กลับสมบูรณ์ด้วยกลยุทธ์การส่งเสริม กระตุ้นและปลุกจิตสำนึกให้ชุมชนมีความรู้สึกหวงแหน และมีส่วนร่วมในการดูแลทรัพยากรในท้องถิ่น เพื่อเป็นการรักษาสมดุลของระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนความหลากหลายทางชีวภาพ สำหรับเป็นแหล่ง ต้นน้ำลำธาร แหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า แหล่งอาหาร แหล่งนันทนาการ และการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ของประชาชน ภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ทำหน้าที่คุ้มครองดูแล สัตว์ป่าและพืชป่า ซึ่งเป็นทรัพยากรอันมีค่าของชาติโดยการคุ้มครองรักษาป่าอนุรักษ์ พื้นที่รวมประมาณ 73.๖๘ ล้านไร่ เพื่อให้“ป่าไม้ สัตว์ป่า ระบบนิเวศ และความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ มีความสมบูรณ์และสมดุล เป็นฐานทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญของประเทศ ด้านเศรษฐกิจและสังคม อำนวยประโยชน์ให้ประชาชนอย่างยั่งยืน” ซึ่งถือเป็น Value Proposition ของกรมฯ ที่จะสร้างให้กับประเทศ ที่เกิดขึ้นจากการขับเคลื่อนและบูรณาการการปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลตามภารกิจ ต่าง ๆ โดยให้มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้ - 1 -
- 2 - 1) อนุรักษ์ คุ้มครอง ดูแล รักษาทรัพยากรป่าไม้ และสัตว์ป่า ให้สมบูรณ์และสมดุลตามธรรมชาติ โดยให้มีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนที่เกิดประโยชน์สูงสุดทางด้านเศรษฐกิจและสังคม 2) ฟื้นฟู แก้ไข ความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ และระบบนิเวศในพื้นที่ป่าไม้ 3) ควบคุม กำกับดูแล ป้องกันการบุกรุก การทำลายป่า และการกระทำผิดตามกฎหมายว่าด้วย ป่าไม้กฎหมายว่าด้วยป่าสงวนแห่งชาติ กฎหมายว่าด้วยอุทยานแห่งชาติ กฎหมายว่าด้วยการสงวนและคุ้มครอง สัตว์ป่า และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง 4) ศึกษา วิจัย และพัฒนาวิธีการอนุรักษ์ การบริหารจัดการ และการฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ สัตว์ป่า และความหลากหลายทางชีวภาพ 5) กำหนดมาตรการและมาตรฐานเกี่ยวกับการอนุรักษ์ การบริหารจัดการ และการใช้ประโยชน์ จากทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า 6) บริการข้อมูลสารสนเทศและถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านป่าไม้ 7) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของกรมหรือตามที่กระทรวง หรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย ห่วงโซ่คุณค่า (Value chain) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ดำเนินการวิเคราะห์ทบทวนบทบาทภารกิจ โดยใช้ห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) (ภาพที่ 1) เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์ให้เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับ บทบาทภารกิจในภาพรวมของกรมฯ เพื่อให้ป่าไม้ สัตว์ป่า ระบบนิเวศ และความหลากหลายทางชีวภาพ ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ มีความสมบูรณ์และสมดุล เป็นฐานทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญของประเทศ ด้านเศรษฐกิจ และสังคม อำนวยประโยชน์ให้ประชาชนอย่างยั่งยืน ซึ่งถือเป็น Value Proposition ของกรมฯ ที่จะสร้าง ให้กับประเทศ โดยเกิดขึ้นจากการขับเคลื่อนและบูรณาการการปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล ตามภารกิจหลัก ๗ ภารกิจ/ด้าน ได้แก่ 1) การบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์ คุ้มครอง ดูแลรักษาทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า กล่าวคือ ภารกิจว่าด้วยการจัดการทรัพยากรในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ในลักษณะการอนุรักษ์ คุ้มครอง ดูแล จัดการทรัพยากร ป่าไม้และสัตว์ป่าให้สมบูรณ์และสมดุลตามธรรมชาติ ฟื้นฟู แก้ไขความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ และระบบนิเวศในพื้นที่ป่าอนุรักษ์รวมถึงป้องกันการบุกรุกการทำลายและการกระทำผิดตามกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ กฎหมายว่าด้วยป่าสงวนแห่งชาติ กฎหมายว่าด้วยอุทยานแห่งชาติ กฎหมายว่าด้วยสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า และงานตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยให้มีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน เกิดประโยชน์สูงสุด ทางเศรษฐกิจและสังคม 2) การป้องกันการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้อย่างบูรณาการ กล่าวคือ ภารกิจว่าด้วย การกำหนดแผนปฏิบัติงาน กำกับ ติดตาม และประเมินผลการดำเนินงานเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปราม การควบคุมไฟป่า การกระทำผิดกฎหมายและระเบียบที่อยู่ในความรับผิดชอบ/ที่เกี่ยวข้อง เช่น การป้องกัน และแก้ไขปัญหาไฟป่า เป็นต้น 3) การบริหารจัดการอุทยานแห่งชาติและนันทนาการในพื้นที่อนุรักษ์กล่าวคือ ภารกิจว่าด้วย การกำหนดหลักเกณฑ์ มาตรการ และการปฏิบัติงานเพื่อการคุ้มครองและดูแลรักษาอุทยานแห่งชาติและวนอุทยาน การจัดการท่องเที่ยวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน แหล่งนันทนาการทางธรรมชาติในพื้นที่อนุรักษ์อื่น ๆ และการบริการการท่องเที่ยวแก่ประชาชน การอนุมัติ อนุญาต ตามบทบัญญัติของกฎหมาย เป็นต้น
- 3 - 4) การบริหารจัดการสัตว์ป่าและแหล่งที่อยู่อาศัยให้เกิดความสมดุลตามธรรมชาติกล่าวคือ ภารกิจว่าด้วยการกำหนดหลักเกณฑ์ มาตรฐาน เทคนิคและวิธีการด้านการอนุรักษ์สัตว์ป่า การจัดการสัตว์ป่า การบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์สัตว์ป่า นิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า การเฝ้าระวัง ป้องกัน ติดตาม และควบคุมโรค อุบัติใหม่หรืออุบัติซ้ำในสัตว์ป่าและการจัดการสุขภาพและสวัสดิภาพสัตว์ป่าการอนุมัติอนุญาตตามบทบัญญัติ ของกฎหมาย เป็นต้น 5) การอนุรักษ์ ฟื้นฟูต้นน้ำและระบบนิเวศในพื้นที่อนุรักษ์ให้เกิดความสมบูรณ์กล่าวคือ ภารกิจว่าด้วยการกำหนดมาตรการและวิธีการในการบริหารจัดการระบบนิเวศและระบบลุ่มน้ำ เพื่อให้ระบบนิเวศ มีความสมบูรณ์ เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า ที่อำนวยประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน ๖) การจัดการที่ดินและราษฎรในพื้นที่อนุรักษ์ให้เกิดความยั่งยืนเกิดความสมดุลระหว่าง คนและธรรมชาติโดยการสำรวจ รังวัด รวบรวมข้อมูล เพื่อจัดทำแผนที่ ปรับปรุงแนวเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ และการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่อนุรักษ์ มีการพัฒนาคุณภาพชีวิตราษฎรในพื้นที่อนุรักษ์ โดยการน้อมนำ แนวทางตามพระราชดำริมาดำเนินการ เป็นต้น ๗) การศึกษา วิจัย พัฒนา และสร้างนวัตกรรมเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการ กล่าวคือ ภารกิจว่าด้วยการศึกษา ค้นคว้า ทดลอง และวิจัยทางระบบนิเวศป่าไม้ สิ่งแวดล้อม ความหลากหลายทางชีวภาพ พฤกษศาสตร์ป่าไม้ กีฏวิทยา และจุลชีววิทยาป่าไม้ เป็นต้น โดยมีภารกิจ/งานสนับสนุน ได้แก่ กฎหมาย ระเบียบ นโยบาย และยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง/ เทคโนโลยี สารสนเทศ การสื่อสาร และประชาสัมพันธ์/ การบริหารการเงิน บัญชี พัสดุ /การตรวจสอบภายใน/ การบริหารทรัพยากรบุคคล/ การพัฒนาระบบบริหารและองค์กร ภาพที่ 1 ห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
- 4 - การบริหารราชการแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ (Result Based Management) การบริหารราชการกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ภายใต้ กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2547 กำหนดให้แบ่งส่วนราชการภายในกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และเพื่อให้เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี(Good Governance) เป็นการบริหารราชการแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ (Result Based Management) กล่าวคือ เป็นวิธีการบริหารที่มุ่งเน้นสัมฤทธิ์ผลของกรมฯ เป็นหลัก การปฏิบัติงานของกรมฯ มีผลสัมฤทธิ์เพียงใด พิจารณา ได้จากการเปรียบเทียบผลผลิตและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงกับเป้าหมายที่กำหนด โดยผลผลิตเป็นผลงานที่เกิดขึ้น จากการดำเนินกิจกรรมของส่วนราชการโดยตรงเพื่อส่งมอบให้ประชาชนหรือผู้รับบริการ และผลลัพธ์ หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นติดตามมา เป็นผลกระทบหรือเงื่อนไขที่เกิดขึ้นจากผลผลิต ผลลัพธ์จึงมีความสัมพันธ์โดยตรงกับ ประชาชนหรือผู้รับบริการและสาธารณชน (สำนักงาน ก.พ. 2546) การบริหารจัดการเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Management) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช บริหารจัดการเชิงยุทธศาสตร์(Strategic Management) กำหนดให้มีแผนปฏิบัติราชการทั้งระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งจัดทำขึ้นตามหลักวิชาการ ของการวางแผนเชิงยุทธศาสตร์สอดคล้องกับกรอบการพัฒนาประเทศ ตอบสนองต่อความต้องการ และความคาดหวังของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ผ่านการรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์สถานการณ์และแนวโน้มทุกมิติ เป็นกระบวนการในการบริหารเพื่อให้บรรลุภารกิจขององค์การ อยู่บนแนวคิดที่ว่าองค์การของเราไม่ได้ อยู่เป็นเอกเทศโดยตัวของเราเอง แต่อยู่ภายใต้บริบทของสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งสภาพแวดล้อมที่มากระทบกับองค์การนั้น บางครั้งก็เป็นโอกาส บางครั้งก็เป็นภัยคุกคาม นอกจากนี้ องค์การเองก็ต้องกำหนดจุดยืนขององค์การด้วย เพื่อวางยุทธศาสตร์ให้ชัดเจนมากขึ้น กระบวนการบริหาร เชิงยุทธศาสตร์แบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอน คือ 1. การวางแผนเชิงยุทธศาสตร์ (Strategy Formulation) เป็นเรื่องของการกำหนดวิสัยทัศน์ ประเด็นยุทธศาสตร์ เป้าประสงค์ ตัวชี้วัด/ค่าเป้าหมาย กลยุทธ์(Strategy – Map) 2. การนำไปสู่การปฏิบัติ (Strategy Implementation) เป็นการนำแผนยุทธศาสตร์ถ่ายทอด ออกมาเป็นแผนปฏิบัติการ รวมถึงการปรับแต่งองคาพยพทางด้านการบริหารจัดการ ได้แก่ กระบวนการ โครงสร้าง เทคโนโลยี และคน ผลสัมฤทธิ์ (Results) = ผลผลิต (Outputs) + ผลลัพธ์ (Outcomes) ผลผลิต (Outputs) หมายถึง งานบริการ หรือกิจกรรมที่เจ้าหน้าที่ทำเสร็จ สมบูรณ์ พร้อมส่งมอบให้ประชาชนผู้รับบริการ ผลผลิตเป็นผลงานที่เกิดจาก การดำเนินกิจกรรมโดยตรง ผลลัพธ์ (Outcomes) หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นตามมา ผลกระทบหรือเงื่อนไข ที่เกิดจากผลผลิต ผลลัพธ์มีความสัมพันธ์โดยตรงกับประชาชนผู้รับบริการ และสาธารณชน
- 5 - 3. การควบคุมเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Control) เป็นการกำกับติดตามและประเมินผล การดำเนินงาน และการทบทวนสถานการณ์เพื่อปรับแต่งยุทธศาสตร์ แผนปฏิบัติราชการกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ประกอบด้วย เป้าหมาย พันธกิจ เป้าประสงค์ ตัวชี้วัด แผนงาน โครงการ ผู้รับผิดชอบ และงบประมาณ มีเป้าหมายการดำเนินงาน ภายใต้ภารกิจของกรมฯ ที่ชัดเจน ครอบคลุมพื้นที่รับผิดชอบของกรมฯ (ประมาณ ๗๓.๖๘ ล้านไร่) ทั้งนี้ ให้สอดคล้องกับเป้าหมายและยุทธศาสตร์ของกรมฯ รวมถึงแผนชาติทั้ง ๓ ระดับ โดยมุ่งเน้นการป้องกัน และรักษาพื้นที่ป่าอนุรักษ์เดิมที่มีอยู่และฟื้นฟูป่าเสื่อมโทรมให้กลับสมบูรณ์เพื่อเป็นการรักษาสมดุลของระบบ นิเวศและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนความหลากหลายทางชีวภาพ ด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ รวมทั้งปรับสมดุลและพัฒนาระบบบริหารจัดการภาครัฐ เพื่อการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน โดยสรุป “ระบบบริหารราชการ การจัดทำแผนงาน และแผนงบประมาณ ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมือง ที่ดี (Good Governance) โดยวิธีการบริหารจัดการเชิงยุทธศาสตร์แบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ ประกอบด้วย การบริหารราชการแบบบูรณาการ เชื่อมโยงแต่ละภารกิจ แต่ละหน่วยงานภายในกรมฯ ให้ตอบสนองเป้าหมาย ของแต่ละยุทธศาสตร์ที่กำหนดในแผนปฏิบัติราชการเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Management) ให้เกิด ประสิทธิภาพ ประสิทธิผล บรรลุผลสัมฤทธิ์ของกรมฯ และตอบสนองต่อวิสัยทัศน์และคุณค่า ของกรมฯ (Result Base Management) ต่อไป”
- 6 - การบริหารส่วนราชการกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กำหนดส่วนราชการเป็น ๒ ระดับ คือส่วนราชการส่วนกลาง และส่วนราชการส่วนกลาง ในภูมิภาค (ภาพที่ ๒) ดังนี้ ส่วนราชการ “ส่วนกลาง” กรมฯ จัดตั้งหน่วยงานภายในขึ้นเพื่อรองรับอำนาจหน้าที่และภารกิจ ต่าง ๆ ตามห่วงโซ่คุณค่าของกรมฯ การบริหารราชการส่วนกลางเป็นการบริหารแบบเชิงภารกิจ (Function base) มีหน้าที่กำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ แผนงาน และงบประมาณ รวมถึงการกำกับ ติดตาม และประเมินผล ทั้งในส่วนของหน่วยงานและการปฏิบัติราชการ มีหน่วยงานรองรับภารกิจหลักและภารกิจสนับสนุน ประกอบด้วย หน่วยงานที่จัดตั้งตามกฎกระทรวงฯ จำนวน ๑๐ หน่วยงาน คือ สำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า/ สำนักอุทยานแห่งชาติ/สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า/สำนักอนุรักษ์และจัดการต้นน้ำ/สำนักฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์/ สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช/กองคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญา/สำนักบริหารงานกลาง/ สำนักแผนงานและสารสนเทศ/และกองนิติการ ที่จัดตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรีจำนวน ๒ หน่วยงาน คือ กลุ่มตรวจสอบภายใน และ กลุ่มพัฒนาระบบบริหาร ที่จัดตั้งโดยอำนาจบริหารของกรมฯ จำนวน ๔ หน่วย คือ สำนักสนองงานพระราชดำริ/กองการต่างประเทศ /ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร /และกลุ่มงาน จริยธรรม เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ บรรลุเป้าหมายและคุณค่าของกรมฯ เป็นเสมือนเสนาธิการ และอำนวยการ โดยกำหนดแนวทาง มาตรการ แผนงานและงบประมาณ ไปสู่ส่วนกลางในภูมิภาค ซึ่งมีหน้าที่อนุรักษ์ คุ้มครอง ดูแล รักษา และบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์ ประมาณ ๗๓.๖๘ ล้านไร่ ด้วยสรรพกำลังที่มี ซึ่งเป็นเสมือน ส่วนหน้าในสนามรบ ส่วนกลางในภูมิภาค เป็นการบริหารจัดการเชิงพื้นที่ (Area base) มีหน้าที่อนุรักษ์ คุ้มครอง ดูแล รักษา และบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์ ประมาณ ๗๓.๖๘ ล้านไร่ ให้เกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผล บรรลุผลสัมฤทธิ์และเป้าหมายของกรมฯ โดยจัดตั้งสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ ๑ – ๑๖ ตามกฎกระทรวงฯ และสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์สาขาทุกสาขา ตามอำนาจบริหารของกรมฯ มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้ (1) บริหารจัดการเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ให้สนองตอบแผนปฏิบัติราชการของกรมฯ (2) ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรในพื้นที่ป่าอนุรักษ์และการจัดการพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ในลักษณะการอนุรักษ์ คุ้มครอง ดูแล จัดการทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าให้สมบูรณ์และสมดุลตามธรรมชาติ ฟื้นฟู แก้ไขความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติและระบบนิเวศในพื้นที่ป่าอนุรักษ์รวมถึงป้องกันการบุกรุกการทำลาย และการกระทำผิดตามกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ กฎหมายว่าด้วยป่าสงวนแห่งชาติ กฎหมายว่าด้วยอุทยานแห่งชาติ กฎหมายว่าด้วยสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า และงานตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยให้มีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ อย่างยั่งยืน เกิดประโยชน์สูงสุดทางเศรษฐกิจและสังคม (3) สนับสนุนการดำเนินงานเกี่ยวกับการศึกษา วิจัย พัฒนาวิธีการอนุรักษ์ การใช้นวัตกรรม และเทคนิคทางวิชาการ และการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากร ธรรมชาติ ความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อเป็นฐานนวัตกรรมและองค์ความรู้ (4) บูรณาการเชิงพื้นที่ร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ ในการบริหารจัดการพื้นที่ป่าอนุรักษ์ การป้องกัน และปราบปราม การตัดไม้ทำลายป่า และการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เพื่อให้ระบบนิเวศในพื้นที่ป่าอนุรักษ์คงความ สมบูรณ์นำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน
- 7 - (5) ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือที่ได้รับ มอบหมาย มีการกำหนด ส่วน/กลุ่ม/ศูนย์ ขึ้นเพื่อรองรับภารกิจหลักและภารกิจสนับสนุนจากส่วนกลาง เช่น ส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร ส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า ส่วนอุทยานแห่งชาติ ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า ส่วนจัดการต้นน้ำ ส่วนสนองงานโครงการพระราชดำริและกิจการพิเศษ กลุ่มงานวิชาการ กลุ่มงานกฎหมาย เป็นต้น เพื่อช่วยอำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ และสนับสนุนพื้นที่อนุรักษ์ในความรับผิดชอบของแต่ละ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ตามภารกิจ และอำนาจหน้าที่ของแต่ละส่วน/กลุ่ม/ศูนย์ มีการจัดตั้งหน่วยงานพื้นที่อนุรักษ์ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๒ และ พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๖๒ เพื่อบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์ประมาณ ๗๓.๖๘ ล้านไร่ ได้แก่อุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตห้ามล่าสัตว์ป่า จำนวน ๔๒๙ หน่วย(พ.ศ. ๒๕๖๖) ปรากฏว่า พ.ศ. ๒๕๖๖ ภายในพื้นที่รับผิดชอบของส่วนกลางในภูมิภาค ยังมีหน่วยงานปฏิบัติ ตามภารกิจ (function based) ได้แก่ ภารกิจป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า ภารกิจบริหารและจัดการ ต้นน้ำ ภารกิจฟื้นฟูธรรมชาติ ภารกิจสนองงานตามแนวทางพระราชดำริ เป็นต้น รวมจำนวน ๒,๕๗๑ หน่วย ซึ่งปฏิบัติงานในพื้นที่อนุรักษ์ดังกล่าวข้างต้น รวมเป็น ๓,๐๐๐ หน่วย (ภาพที่ ๒) ซึ่งบริหารงานกันแบบแยกส่วน ตามภารกิจของแต่ละด้านจากส่วนกลาง ปฏิบัติงานแบบแยกคิด แยกแผนงาน แยกปฏิบัติความสำเร็จอาจจะ เกิดขึ้นได้ในระดับภารกิจ แต่ไม่สำเร็จในภาพรวมของพื้นที่อนุรักษ์และกลุ่มป่า ยังส่งผลถึงอัตรากำลัง ที่ปฏิบัติงานอย่างกระจัดกระจาย หลายหน่วยงานมีอัตรากำลังไม่สมดุลกับปริมาณงาน ภาพที่ ๒ โครงสร้างการบริหารราชการ ส่วนกลาง และ ส่วนกลางในภูมิภาค
- 8 - ประเด็นปัญหาด้านการบริหารงานในภาคสนาม ๑. การจัดตั้งและบริหารหน่วยงานระดับต่ำกว่ากอง ตั้งแต่ระดับส่วนไปถึงหน่วยงานปฏิบัติ มีปัญหาในการจัดตั้ง ไม่ได้ดำเนินการตามแนวทาง สำนักงาน ก.พ. และ สำนักงาน ก.พ.ร. ประกอบกับ การจัดตั้งหน่วยงานปฏิบัติตามภารกิจ (Function) ซึ่งไม่มีกรอบของอัตรากำลังและโครงสร้างราชการกำกับ จึงจัดตั้งอย่างเสรีไม่ได้วิเคราะห์ถึงภารกิจในภาพรวมของกรมฯ ต่อพื้นที่ภาคสนามทั้งประเทศ ปรากฏว่า แต่ละหน่วยมีพื้นที่ปฏิบัติงาน อัตรากำลัง และแผนงานที่ไม่สมดุลกัน รวมถึงผลผลิตและผลลัพธ์ตามแผนงาน ก็ไม่ได้พุ่งเป้าที่พื้นที่รับผิดชอบของกรมฯ อย่างเป็นรูปธรรม ผลกระทบ คือ ความไม่เหมาะสมของอัตรากำลัง ขาดอัตรากำลังปฏิบัติงานในพื้นที่อนุรักษ์ ซึ่งเป็นพื้นที่และภารกิจหลักของกรมฯ ทำให้ขาดหัวหน้าหน่วยงานที่มีประสบการณ์ในการบริหารจัดการพื้นที่ อนุรักษ์ ๒. ผลสัมฤทธิ์เชิงพื้นที่ ปรากฏปัญหาคือ หน่วยงานส่วนกลางไม่ได้ดำเนินการบูรณาการ และเชื่อมโยงแต่ละภารกิจ ตั้งแต่การกำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ แผนงาน ในภาพรวมของกรมฯ และมีการถ่ายทอด ลงสู่พื้นที่ภาคสนาม เพื่อให้เกิดผลผลิตและผลลัพธ์ในระดับพื้นที่และส่งผลถึงในภาพรวมกรมฯ ปรากฏว่า เกิดการซ้ำซ้อนของกิจกรรม/โครงการระหว่างหน่วยงาน มีการกำหนดแผนงานและงบประมาณแบบแยกส่วน ตามภารกิจ ไม่ตอบสนองยุทธศาสตร์และไม่ปรากฏเป้าหมายในภาพรวมของกรมฯ แผนงานและงบประมาณ ที่ถ่ายทอดลงสู่ภาคสนาม จึงเป็นการปฏิบัติงานแบบแยกส่วนตามภารกิจที่ถูกกำหนดแบบแยกส่วน ผลกระทบ คือ ไม่สามารถแสดงถึงผลสัมฤทธิ์เชิงพื้นที่ได้
- 9 - การบริหารจัดการเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ พ.ศ. ๒๕๖๖ พบว่าจากประเด็นปัญหาด้านการบริหารงานในภาคสนาม ที่เกิดจากการจัดตั้ง และบริหารหน่วยงาน ตั้งแต่ระดับส่วนไปถึงหน่วยงานปฏิบัติ พบปัญหาในการจัดตั้งขาดการวิเคราะห์ตามแนวทาง สำนักงาน ก.พ.ร. และ สำนักงาน ก.พ. ประกอบกับการจัดตั้งหน่วยงานปฏิบัติตามภารกิจ (function based) ทั้งที่ขึ้นตรงกับส่วนกลางและที่ขึ้นตรงกับสำนักบริหารในพื้นที่อนุรักษ์ ไม่มีกรอบอัตรากำลังและโครงสร้าง ราชการกำกับ การจัดตั้งไม่ได้วิเคราะห์ถึงภารกิจในภาพรวมของกรมฯ ต่อพื้นที่ภาคสนามทั้งประเทศ ได้แก่ ภารกิจป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า ภารกิจบริหารและจัดการต้นน้ำ ภารกิจฟื้นฟูธรรมชาติ ภารกิจ สนองงานตามแนวทางพระราชดำริ เป็นต้น รวมจำนวน ๒,๕๗๑ หน่วย ซึ่งปฏิบัติงานในพื้นที่อนุรักษ์จำนวน ๔๒๙ หน่วย รวมเป็น ๓,๐๐๐ หน่วย ซึ่งบริหารงานกันแบบแยกส่วนตามภารกิจของแต่ละด้านจากส่วนกลาง ปฏิบัติงานแบบแยกคิด แยกแผนงาน แยกปฏิบัติความสำเร็จอาจจะเกิดขึ้นได้ในระดับภารกิจ แต่ไม่สำเร็จ ในภาพรวม ของพื้นที่อนุรักษ์และกลุ่มป่า ยังส่งผลถึงอัตรากำลังที่ปฏิบัติงานอย่างกระจัดกระจาย หลายหน่วยงาน มีอัตรากำลังไม่สมดุลกับปริมาณงาน แต่ละหน่วยมีพื้นที่ปฏิบัติงาน อัตรากำลัง และแผนงานที่ไม่สมดุลกัน รวมถึงผลผลิตและผลลัพธ์ตามแผนงานก็ไม่ได้พุ่งเป้าที่พื้นที่รับผิดชอบของกรมฯ อย่างเป็นรูปธรรม ผลกระทบ คือ ความไม่เหมาะสมของอัตรากำลัง ขาดอัตรากำลังปฏิบัติงานในพื้นที่อนุรักษ์ ซึ่งเป็นพื้นที่และภารกิจหลักของกรมฯ ทำให้ขาดหัวหน้าหน่วยงานที่มีประสบการณ์ในการบริหารจัดการ พื้นที่อนุรักษ์ และไม่สามารถแสดงถึงผลสัมฤทธิ์เชิงพื้นที่ได้ การบริหารจัดการเชิงพื้นที่ “การพัฒนาเชิงพื้นที่” (Area Based Approach) เป็นเป้าหมายและทิศทางการพัฒนา เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของประเทศ โดยเน้นการเปลี่ยนแปลงจากฐานราก คือ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม “คน” เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในระดับครัวเรือน /ชุมชน/พื้นที่ ก่อนที่จะขยายไปสู่การเปลี่ยนแปลง ในเชิงโครงสร้างที่ใหญ่ขึ้น การเปลี่ยนมุมมองการพัฒนามาให้ความสำคัญกับ “การพัฒนาเชิงพื้นที่” ซึ่งถือเป็น จุดเปลี่ยนสำคัญของกระบวนการผลักดันการพัฒนาประเทศ โดยการพัฒนาหรือส่งเสริมให้ชุมชน /พื้นที่ มีความเข้มแข็ง พึ่งตนเองได้สามารถปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ใช้ความรู้ในการหาวิธีจัดการหรือแก้ไข ปัญหาของตัวเอง ครัวเรือน ชุมชน พื้นที่ และประเทศได้อย่างยั่งยืน “การบริหารจัดการเชิงพื้นที่” คือ การบริหารจัดการที่ให้ภาคีมาร่วมแก้ไขปัญหาในเรื่องใหญ่ ที่ทุกคนในพื้นที่เห็นว่าต้องแก้ไข และจะสำเร็จได้ด้วยความร่วมมือของคนในพื้นที่ เป็นการบริหารจัดการ แนวใหม่ที่ดำเนินการจากฐานรากขึ้นสู่ข้างบน เป็นส่วนสะท้อนว่าแนวทางในการให้ระดับพื้นที่ได้รับประโยชน์ จากการปฏิบัติราชการขององค์กรอย่างแท้จริงนั้นควรเป็นอย่างไร ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่ท้าทายของคนทำงาน ซึ่งจะต้องแสวงหาวิธีการสนับสนุนการสร้างองค์ความรู้ในมิติต่าง ๆและเน้นการเสริมสร้างความเข้มแข็งระดับพื้นที่ โดยใช้“การบูรณาการในระดับชุมชนหรือพื้นที่ (Community/Area-Based Approach)” จึงเป็นแนวทางใหม่ ที่เรียกได้ว่าเป็นการทำงานแบบ "ฐานรากขึ้นสู่ข้างบน" อย่างแท้จริง
- 10 - อย่างไรก็ตาม การสกัดความต้องการอันหลากหลายของภาคีต่าง ๆ ในพื้นที่ออกมาเป็น งานในภาพรวมที่ตั้งอยู่ในวิถีอันควรนั้น เป็นจุดร่วมระหว่างคณะทำงานที่จะต้องตกลงกันของภาคีให้เข้าใจ ว่าในภาพรวมมิได้สามารถให้ได้ทุกอย่างดังที่แต่ละภาคีร้องขอ แต่จะให้ได้ในสิ่งที่ต้องอาศัยความร่วมมือ ร่วมใจจากภาคีมาร่วมกันก่อให้เกิดขึ้นและรักษาให้ยั่งยืนโดยภาคีนั่นเอง การบริหารจัดการแบบบูรณาการ การบริหารราชการแบบบูรณาการ (Integrated management : IM) การบริหารราชการ ให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ให้บรรลุวัตถุประสงค์/เป้าหมาย เกิดผลสัมฤทธิ์และประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด โดยมีการบูรณาการ ยุทธศาสตร์ แผนงาน/โครงการ ทรัพยากรในหน่วยงาน และมีการประสานงานร่วมมือ กับผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนในสังคม มีการร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานในพื้นที่อนุรักษ์นั้น ๆ ได้แก่ การป้องกัน และปราบปราม การควบคุมไฟป่า การฟื้นฟูระบบนิเวศ การจัดการต้นน้ำ การจัดการสัตว์ป่า การจัดการ ท่องเที่ยวและนันทนาการ การศึกษาวิจัย เป็นต้น เพื่อให้มีการปฏิบัติงานร่วมกันหรือมีแผนการดำเนินงาน ที่สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งจะทำให้ภารกิจที่สำคัญของกรมฯ ในแต่ละด้านเกิดความสำเร็จ และมีความประหยัด โดยใช้ทรัพยากรร่วมกันให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญของแต่ละคน/แต่ละ ด้าน มาสนับสนุนองค์รวมหรือเป้าหมายในภาพรวมของพื้นที่อนุรักษ์นั้น ๆ พื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ หมายถึง อุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ซึ่งประกาศจัดตั้งภายใต้ พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๖๒ และ พระราชบัญญัติ สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๖๒ รวมถึงพื้นที่เตรียมการประกาศตาม พระราชบัญญัติ ทั้ง ๒ ฉบับ (ที่มีหน่วยงาน หรือแผนงานตามภารกิจนอกเหนือจากแผนงานปกติของพื้นที่อนุรักษ์นั้น ๆ ดำเนินงานอยู่ในพื้นที่) หน่วยงานร่วมบูรณาการ หมายถึง ประเภทหน่วยงานที่กรมฯ กำหนดให้ร่วมบูรณาการ ไม่รวม หน่วยงานที่มีภารกิจ ดังนี้ งานวิชาการ งานเฉพาะ งานที่ไม่ได้ดำเนินการในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง งานที่ดำเนินการ นอกพื้นที่อนุรักษ์ งานที่ขึ้นตรงกับส่วนกลาง ตามที่หน่วยงานส่วนกลางกำหนด ประกอบด้วย - สถานีควบคุมไฟป่า - หน่วยจัดการต้นน้ำ - สวนป่า/โครงการด้านฟื้นฟูป่าอนุรักษ์ - โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อาทิ โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ สถานีพัฒนาเกษตรที่สูง โครงการอนุรักษ์สภาพป่า โครงการหมู่บ้านยามชายแดน โครงการอนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้ โครงการฟื้นฟูอาหารช้าง โครงการพัฒนาเพื่อความมั่นคง ฯ - โครงการขยายผลอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (โครงการที่มีชื่อ “โครงการพัฒนาป่าไม้ ตามแนวพระราชดำริ..........”) - โครงการหมู่บ้านพิทักษ์ป่ารักษาสิ่งแวดล้อม
- 11 - นโยบายการบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ กรมฯ จึงเสนอแนวคิดและแนวทางเพื่อการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงระบบบริหารราชการ ส่วนกลางในภูมิภาค ในพื้นที่อนุรักษ์ทั้ง ๗๓.๖๘ ล้านไร่ ให้สามารถรองรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ทั้งในส่วน ของราชการและสถานการณ์ของประเทศ การปฏิรูปทั้งเชิงนโยบายและการบริหารราชการ จำเป็นต้องพัฒนา และปรับตัว จากเดิมการบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์เป็นแบบแยกภารกิจ (Function based) คือ ภารกิจ ด้านป้องกันและปราบปราม อุทยานแห่งชาติและนันทนาการ สัตว์ป่าและแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า การจัดการ ต้นน้ำ การฟื้นฟูระบบนิเวศ การสนองงานตามแนวทางพระราชดำริ การจัดการที่ดินและราษฎรในพื้นที่อนุรักษ์ การศึกษาวิจัย เป็นต้น จำนวน ๓,๐๐๐ หน่วย (พ.ศ. ๒๕๖๖) มีการกำหนดให้พัฒนาและปรับเปลี่ยนไปเป็น การบริหารจัดการแบบเชิงพื้นที่ (Area based) ด้วยการบูรณาการภารกิจและองคาพยพที่เกี่ยวข้อง ทั้งเป้าหมาย คน งาน งบประมาณ และทรัพยากรบริหารอื่น ๆ ของหน่วยงานปฏิบัติตามภารกิจต่าง ๆ ทั้ง ๓,๐๐๐ หน่วย ไปเป็นการพุ่งเป้าพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ จำนวน ๔๒๙ หน่วย ภายใต้การบริหาร ของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ ๑ - ๑๖ และสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์สาขาทุกสาขา โดยให้พื้นที่อนุรักษ์ต่าง ๆ ร่วมกับหน่วยงานปฏิบัติตามภารกิจอื่นที่ปฏิบัติงานในพื้นที่อนุรักษ์นั้น ๆดำเนินการบูรณาการ แผนงาน/โครงการ ของแต่ละภารกิจเข้าเป็นแผนงานรวมของพื้นที่อนุรักษ์ บุคลากร รวมถึงทรัพยากรบริหารที่เกี่ยวข้องจากหน่วยงาน ในพื้นที่อนุรักษ์จะเกิดการบริหารจัดการในภาพรวม เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของทุกภารกิจและตอบสนอง เป้าหมายในภาพรวมของพื้นที่อนุรักษ์นั้น จึงต้องอาศัยประสบการณ์ความเชี่ยวชาญของแต่ละคน/แต่ละด้าน จากทุกหน่วยงานในพื้นที่อนุรักษ์มาสนับสนุนองค์รวมหรือเป้าหมายในภาพรวมของพื้นที่อนุรักษ์และมีการ ประสานงานร่วมมือกับผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนในสังคม มีการร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานต่างๆในระดับกลุ่มป่า เพื่อให้มีการปฏิบัติงานร่วมกันหรือมีแผนการดำเนินงานที่สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งจะทำให้ภารกิจ ที่สำคัญของกรมฯ ในแต่ละด้านเกิดความสำเร็จ “ป่าไม้สัตว์ป่า ระบบนิเวศ และความหลากหลาย ทางชีวภาพในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ มีความสมบูรณ์และสมดุล เป็นฐานทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญของประเทศ ด้านเศรษฐกิจและสังคม อำนวยประโยชน์ให้ประชาชนอย่างยั่งยืน” และมีการประหยัดทรัพยากรบริหาร โดยใช้ทรัพยากรร่วมกันให้เกิดประโยชน์สูงสุด (ภาพที่ ๓) ภาพที่ ๓ การบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ ๔๒๙ หน่วยงาน
- 12 - การดำเนินงานตามนโยบาย การบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ ๑. คำสั่งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่ 562/2566 ลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 เรื่อง มอบหมายหน้าที่การบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้ สัตว์ป่า และทรัพยากรธรรมชาติอื่น ๆ เชิงพื้นที่ (เอกสาร ๑) มีรายละเอียดดังนี้ 1) เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน เร่งด่วน ภัยพิบัติ หรือภัยอันตรายใด ๆ ที่อาจเกิดความเสียหาย ต่อทรัพยากรป่าไม้ สัตว์ป่า และทรัพยากรธรรมชาติอื่น ๆ หรือกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ตลอดจนทรัพย์สิน ของประชาชนในพื้นที่ รวมถึงการแก้ไขปัญหาที่สำคัญในพื้นที่ ให้หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ หัวหน้าวนอุทยาน หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่า รายงานให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นทราบ โดยเร่งด่วน 2) ให้หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ หัวหน้าวนอุทยาน หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และหัวหน้า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า บูรณาการการบริหารจัดการเชิงพื้นที่ ให้เป็นไปตามนโยบายและข้อสั่งการของผู้บังคับบัญชา ทุกระดับ โดยให้สั่งการและใช้ทรัพยากรทางการบริหารของหน่วยงานต่าง ๆ ในสังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่มีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ เช่น อัตรากำลัง วัสดุ ครุภัณฑ์ ยานพาหนะ และอื่น ๆ ได้ตามความจำเป็น และเหมาะสมกับภารกิจ ทั้งนี้ ในการดำเนินงานดังกล่าว ให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง และไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อภารกิจตามแผนงานปกติของหน่วยงาน 3) ให้หน่วยงานในสังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่มีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ สนับสนุนทรัพยากรทางการบริหาร เช่น อัตรากำลัง วัสดุ ครุภัณฑ์ ยานพาหนะ และอื่น ๆ โดยให้จัดส่งข้อมูล ทรัพยากรทางการบริหารให้หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ หัวหน้าวนอุทยาน หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และหัวหน้า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า เพื่อให้การดำเนินงานตามภารกิจของอุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ตามข้อ 2) บรรลุตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนด 4) ให้ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 - 16 และผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่ อนุรักษ์สาขาทุกสาขา อำนวยการและกำกับดูแลการดำเนินงานของหัวหน้าอุทยานแห่งชาติ หัวหน้าวนอุทยาน หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ตามข้อ 2) ให้เป็นไปตามนโยบายและข้อสั่งการ ของผู้บังคับบัญชาทุกระดับ เพื่อให้การดำเนินงานบรรลุตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนด ๒. การบริหารจัดการเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ จากการมอบหมายหน้าที่การบริหารจัดการ ทรัพยากรป่าไม้ สัตว์ป่า และทรัพยากรธรรมชาติอื่น ๆ เชิงพื้นที่ ให้หัวหน้าหน่วยงานพื้นที่อนุรักษ์ แบบ Single command ตามคำสั่งกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่ 562/2566 ลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์พ.ศ. 2566 ต่อมากรมฯ เสนอแนวคิดเพื่อการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงด้านการบริหารจัดการพื้นที่แบบแยกภารกิจ (Function based) คือ ภารกิจด้านป้องกันและปราบปราม อุทยานแห่งชาติและนันทนาการ สัตว์ป่าและแหล่งที่อยู่อาศัย ของสัตว์ป่า การจัดการต้นน้ำ การฟื้นฟูระบบนิเวศ การสนองงานตามแนวทางพระราชดำริ การจัดการที่ดิน และราษฎรในพื้นที่อนุรักษ์ การศึกษาวิจัย เป็นต้น จำนวน ๓,๐๐๐ หน่วย ไปเป็นแบบเชิงพื้นที่ (Area Based Approach) คือ “การบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ” เป็นการถ่ายโอนภารกิจและกระจายอำนาจ ไปสู่พื้นที่อนุรักษ์ทั้งสิ้น ๔๒๙ หน่วยงาน มีพื้นที่รับผิดชอบ ๗๓.๖๘ ล้านไร่ ภายใต้การบริหารของสำนักบริหาร พื้นที่อนุรักษ์ที่ ๑ - ๑๖ และสาขาทุกสาขา เพื่อแก้ไขปัญหาด้านอัตรากำลังที่ไม่สมดุลและให้เกิดความคุ้มค่า ในเชิงภารกิจของรัฐ มุ่งที่จะให้เกิดผลสัมฤทธิ์เชิงพื้นที่ (เอกสาร ๒)
- 13 - ประกอบด้วยกรอบแนวคิด (เอกสาร ๓) ดังนี้ ๑) การกำหนดรูปแบบการบริหารจัดการแบบบูรณาการเชิงพื้นที่ โดยสำนักหลัก เช่น สำนักอุทยานแห่งชาติ สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า และสำนักที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันออกแบบรูปแบบการบริหารงาน ให้ครอบคลุมภารกิจทั้งหมด ๒) การจัดทำแผนงานและแผนงบประมาณ แบบบูรณาการเชิงพื้นที่อนุรักษ์นั้น ๆ ๓) กำหนดกรอบและจัดอัตรากำลัง สำหรับพื้นที่อนุรักษ์ที่มีการบูรณาการเชิงพื้นที่ รวมถึง กำหนดเส้นทางในสายอาชีพสำหรับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่อนุรักษ์ ๔) กำหนดรูปแบบการบริหารและความเชื่อมโยงระหว่างหน่วยงานส่วนกลาง ส่วนกลาง ในภูมิภาค ลงถึงระดับพื้นที่ภาคสนาม เป้าหมายการบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ ๑) ปรากฎผลสัมฤทธิ์เชิงพื้นที่ จากการบูรณาการแผนงานร่วมกัน ๒) สามารถแก้ปัญหาสำคัญระดับพื้นที่ และระดับกรมฯ ๓) แก้ปัญหาอัตรากำลังในหน่วยงานภาคสนาม ๔) มีความประหยัดโดยใช้ทรัพยากรร่วมกันเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ๓. กรอบการดำเนินงานการบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ การบริหารหน่วยงานภาคสนามในพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ เป็นการบริหารงานแบบเน้น การมีส่วนร่วม และผสมผสานทรัพยากรภายใต้การบริหารงานของหัวหน้าพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ เพื่อให้ สามารถเกิดการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพ และเกิดการพัฒนา จึงกำหนดแนวทางการปฏิบัติราชการในพื้นที่ อนุรักษ์แบบบูรณาการ ให้สามารถสั่งการบังคับบัญชาหน่วยงานภาคสนามอื่นที่มีที่ตั้งหรือมีพื้นที่ปฏิบัติงาน อยู่ในพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ และสามารถวินิจฉัยข้อมูล ปัญหา อุปสรรค ตลอดจนกำหนดแนวทางแก้ไข ปัญหาและดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว ตรงตามนโยบาย สนองตอบต่อความต้องการและข้อเท็จจริงได้โดยตรง และทันต่อสถานการณ์ ดังนี้ ๑) สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์จัดทำคำสั่งให้หัวหน้าหน่วยงานร่วมบูรณาการ ไปปฏิบัติ ราชการที่พื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ อีกหน้าที่หนึ่ง พร้อมรายงานให้กรมฯ ทราบ ๒) สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์จัดทำคำสั่งให้บุคลากรในสังกัดหน่วยงานร่วมบูรณาการ ซึ่งมิใช่ หัวหน้าหน่วยงานภาคสนาม ที่มีที่ตั้งหรือพื้นที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ ไปปฏิบัติราชการ ในพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการนั้นๆ อีกหน้าที่หนึ่ง หรืออาจพิจารณาให้บุคลากรในสังกัดไปปฏิบัติราชการ ที่พื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ อีกหน้าที่หนึ่ง เพิ่มเติมได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม พร้อมรายงานกรม ฯ ทราบ ๓) พื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ จัดทำแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงิน (Action Plan : อส. 201 - อส. 204) โดยผ่านความเห็นชอบของคณะทำงานพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ ที่มีหัวหน้าพื้นที่ อนุรักษ์เป็นประธานคณะทำงานพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ และเสนอแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงิน (Action Plan : อส. 201 - อส. 204) ต่อคณะกรรมการอำนวยการพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ ที่มีผู้อำนวยการ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์/สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์สาขาเป็นประธานคณะกรรมการพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ เพื่อพิจารณาอนุมัติการจัดทำแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงิน (Action Plan : อส. 201 - อส. 204)
- 14 - ๔) พื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ ดำเนินการกำกับ ติดตาม และประเมินผลการปฏิบัติงาน ตามการจัดทำแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงิน (Action Plan : อส. 201 - อส. 204) แล้วรายงาน ตามลำดับ ๕) พื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ กำหนดรูปแบบการบริหารจัดการพื้นที่แบบบูรณาการ รองรับการบูรณาการหน่วยงานในพื้นที่ โดยหารือสำนักอุทยานแห่งชาติ/สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า เพื่อกำหนดรูปแบบ มาตรฐานการบริหารจัดการพื้นที่ (อาจมีรูปแบบได้มากกว่า ๑ แบบ ที่สามารถปฏิบัติงานได้จริงและเป็นไปตาม เป้าหมายของการบูรณาการเชิงพื้นที่) ๖) พื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ ดำเนินการจัดทำคำสั่งให้บุคลากรสังกัดพื้นที่อนุรักษ์ แบบบูรณาการ ตามคำสั่งสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ให้บุคลากรสังกัดหน่วยงานร่วมบูรณาการไปปฏิบัติราชการ ในพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ อีกหน้าที่หนึ่ง โดยให้สอดคล้องกับรูปแบบการบริหารจัดการพื้นที่แบบบูรณาการ ที่กำหนด ๗) พื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ รวมรวม วิเคราะห์ ปัญหาและอุปสรรค เสนอแนะเกี่ยวกับ การบริหารจัดการพื้นที่แบบบูรณาการ ให้กรมฯ ทราบ เป็นรายไตรมาส ๘) ให้สำนักแผนงานและสารสนเทศ กำหนดแนวทางการจัดทำแผนปฏิบัติงานและแผน การใช้จ่ายเงิน สำหรับพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ ๙) ให้สำนักบริหารงานกลาง กำหนดปริมาณงานและอัตรากำลัง สำหรับพื้นที่อนุรักษ์ แบบบูรณาการ ๑๐) ให้กลุ่มพัฒนาระบบบริหาร กำหนดรูปแบบการเชื่อมโยงระบบบริหารระหว่างหน่วยงาน ส่วนกลาง - สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์- พื้นที่อนุรักษ์ ๔. หนังสือกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ด่วนที่สุด ที่ ทส ๐๙๒๘.๒/ว ๑๖๕๘๘ ลงวันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ เรื่อง การบริหารราชการส่วนกลาง และส่วนกลางในภูมิภาค (เอกสาร ๔) เพื่อให้ ดำเนินการ ดังนี้ ๑) ให้ผู้อำนวยการสำนัก/ส่วน/กลุ่ม/ศูนย์ ส่วนกลางที่รับผิดชอบภารกิจหลักทั้ง ๗ ด้าน บริหารราชการแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ (Result Base Management) กำหนดเป้าหมาย ยุทธศาสตร์ แผนงาน งบประมาณ ของแต่ละภารกิจแบบบูรณาการและเชื่อมโยง ให้สอดคล้องกับเป้าหมายและยุทธศาสตร์ของกรมฯ รวมถึงแผนระดับชาติ ทั้ง ๓ ระดับ ถ่ายทอดลงสู่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ ๑ - ๑๖ และสาขาทุกสาขา ให้ครอบคลุมพื้นที่รับผิดชอบของกรมฯ ๒) ให้ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ ๑ - ๑๖ และสาขาทุกสาขา อำนวยการ และบริหารราชการเชิงพื้นที่ (Area Base Management) จัดทำแผนการปฏิบัติงาน กำหนดกลยุทธ์ ระบบงาน และวิธีปฏิบัติราชการของหน่วยงาน ให้เป็นไปตามเป้าหมายและเกิดผลสัมฤทธิ์ตามข้อ ๑) โดยการบริหาร ราชการแบบบูรณาการให้ครบทุกภารกิจของกรมฯ ในทุกพื้นที่อนุรักษ์ที่รับผิดชอบ ๓) ให้ผู้อำนวยการส่วน/กลุ่ม/ศูนย์ ภายใต้การบริหารของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์อำนวยการ ตามภารกิจที่รับผิดชอบให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามกำหนด ดำเนินการ กำกับ ดูแล สนับสนุน ติดตาม และ ประเมินผล ตามภารกิจของแต่ละส่วนงาน ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่รับผิดชอบของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์นั้น ๆ ให้คำปรึกษา แนะนำ นิเทศการดำเนินงานแก่หน่วยงานภาคสนาม ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกิดความร่วมมือ และบูรณาการทุกภารกิจหลักในทุกพื้นที่อนุรักษ์
- 15 - ๕. หนังสือกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ด่วนที่สุด ที่ ทส ๐๙๒๘.๒/ว ๑๙๐๘๔ ลงวันที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๖๖ เรื่อง การบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 เพื่อให้ทราบและดำเนินการตามมติที่ประชุม คณะกรรมการอำนวยการการบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เมื่อวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๖ เกี่ยวกับทิศทาง แนวทาง และข้อปฏิบัติ สำหรับหน่วยงานส่วนกลาง ส่วนกลาง ในภูมิภาค รวมถึงหน่วยปฏิบัติตามภารกิจต่าง ๆ ในพื้นที่ (เอกสาร ๕) ๖. หนังสือกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ด่วนที่สุด ที่ ทส 0905.703/ว ๑๙๓๕๔ ลงวันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๖ เรื่อง การจัดทำแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงินประจำปี ของกรมอุทยาน แห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรณีการบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการเชิงพื้นที่ เพื่อให้ทราบ แผนผัง (Flowchart) และคู่มือการจัดทำแผนปฏิบัติการ (Action Plan) สำหรับการบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์ แบบบูรณาการเชิงพื้นที่ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อนำไปใช้เป็นแนวทางในการจัดทำ แผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงินประจำปี ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (เอกสาร ๖) 7. คำสั่งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่ ๔๓๕๕/๒๕๖๖ ลงวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๖ เรื่อง การบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้การควบคุม กำกับ ดูแล และการบังคับบัญชาหน่วยงานร่วมบูรณาการในพื้นที่อนุรักษ์ อยู่ ภายใต้ความรับผิดชอบของหัวหน้าพื้นที่อนุรักษ์ ผู้อำนวยการส่วนที่กำกับดูแลแต่ละภารกิจ และผู้อำนวยการ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์หรือผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์สาขา ตามลำดับ (เอกสาร ๗) 8. หนังสือกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ด่วนที่สุด ที่ ทส ๐๙๒๘.๒/ว 22040 ลงวันที่ ๑7 ตุลาคม ๒๕๖๖ เรื่อง แนวทางการบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เพื่อให้การบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เกี่ยวกับ การจัดทำแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงิน (Action Plan : อส. 201 - อส. 204) ของหน่วยงานพื้นที่ อนุรักษ์แบบบูรณาการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เป็นไปตามมติที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการ การบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เมื่อวันจันทร์ที่ 9 ตุลาคม 2566 (เอกสาร 8)
- 16 - การดำเนินงานการบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ เพื่อให้เกิดการติดตามการปฏิบัติราชการในพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ (๕๒ หน่วยงาน) สำหรับทุกภารกิจของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้ทราบและเข้าใจได้ว่า มีหน่วยงานใดบ้าง ภารกิจใด มีแผนงานอะไร ดำเนินงานที่ไหน โดยเจ้าหน้าที่ใดบ้าง จะเกิดผลลัพธ์และสนับสนุนให้เกิดผลสัมฤทธิ์ ต่อพื้นที่อนุรักษ์นั้น ๆ ได้อย่างไร โดยกระบวนการบูรณาการเชิงความคิด การมีส่วนร่วม การแลกเปลี่ยน ซึ่งกันและกัน มีการประชุมหารือ มีการทำงานร่วมกัน และมีการเตรียมการสู่ความเข้มข้นด้านการบูรณาการ ในปีต่อไป จึงให้มีการดำเนินงาน ดังนี้ ๑) กำหนดแนวทางการปฏิบัติราชการในพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการเชิงพื้นที่ (เอกสาร 9) การบริหารหน่วยงานภาคสนามในพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการเชิงพื้นที่ เป็นการบริหารงานแบบเน้นการมีส่วนร่วม และผสมผสานทรัพยากรภายใต้การบริหารงานของหัวหน้าพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการเชิงพื้นที่ เพื่อให้เกิด การบริหารงานที่มีประสิทธิภาพ และเกิดการพัฒนา จึงกำหนดแนวทางการปฏิบัติราชการในพื้นที่อนุรักษ์ แบบบูรณาการเชิงพื้นที่ ให้สามารถสั่งการบังคับบัญชาหน่วยงานภาคสนามอื่นที่มีที่ตั้งหรือมีพื้นที่ปฏิบัติงาน อยู่ในพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการเชิงพื้นที่ และสามารถวินิจฉัยข้อมูล ปัญหา อุปสรรค ตลอดจนกำหนดแนวทาง แก้ไขปัญหาและดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว ตรงตามนโยบาย สนองตอบต่อความต้องการและข้อเท็จจริงได้โดยตรง และทันต่อสถานการณ์ ๒) กรอบการดำเนินงานการบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการเชิงพื้นที่ พ.ค. - ก.ย. ๒๕๖๖ (เอกสาร 10) การบริหารหน่วยงานภาคสนามในพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ เป็นการบริหารงาน แบบเน้นการมีส่วนร่วม และผสมผสานทรัพยากรภายใต้การบริหารงานของหัวหน้าพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ เพื่อให้สามารถเกิดการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพ และเกิดการพัฒนา จึงกำหนดแนวทางการปฏิบัติราชการ ในพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ ให้สามารถสั่งการบังคับบัญชาหน่วยงานภาคสนามอื่นที่มีที่ตั้งหรือมีพื้นที่ ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ และสามารถวินิจฉัยข้อมูล ปัญหา อุปสรรค ตลอดจนกำหนด แนวทางแก้ไขปัญหาและดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว ตรงตามนโยบาย สนองตอบต่อความต้องการและข้อเท็จจริง ได้โดยตรง และทันต่อสถานการณ์ ๓) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โดยการเสนอจากสำนักอุทยานแห่งชาติ สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า และสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ทั่วประเทศ ได้คัดเลือกพื้นที่อนุรักษ์จำนวน ๕๒ หน่วยงาน (เอกสาร ๑1) ประกอบด้วย อุทยานแห่งชาติเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตห้ามล่าสัตว์ป่า เพื่อใช้แนวทาง การปฏิบัติราชการในพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการเชิงพื้นที่ และปฏิบัติงานตามกรอบการดำเนินงานการบริหาร จัดการพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการเชิงพื้นที่ พ.ค.-ก.ย. ๒๕๖๖ โดยมีหน่วยงานร่วมบูรณาการ จำนวน ๖๖๔ หน่วย ประกอบด้วย หน่วยงานที่ปฏิบัติตามภารกิจ ควบคุมไฟป่า การจัดการต้นน้ำ การฟื้นฟูระบบนิเวศ และการสนองงาน พระราชดำริ
- 17 - ๔) ให้ผู้อำนวยการสำนัก/ส่วน/กลุ่ม/ศูนย์ ส่วนกลางที่รับผิดชอบภารกิจหลัก ทั้ง ๗ ด้าน บริหารราชการแบบมุงผลสัมฤทธิ์ (Result Based Management) กำหนดเป้าหมาย ยุทธศาสตร์ แผนงาน งบประมาณ ของแต่ละภารกิจแบบบูรณาการและเชื่อมโยง ให้สอดคล้องกับเป้าหมายและยุทธศาสตร์ของกรมฯ รวมถึงแผนชาติทั้ง ๓ ระดับ ถ่ายทอดลงสู่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ ๑ - ๑๖ และสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ สาขาทุกสาขา ให้ครอบคลุมพื้นที่รับผิดชอบของกรมฯ ๕) ให้ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ ๑ - ๑๖ และสาขาทุกสาขา อำนวยการ และบริหารราชการเชิงพื้นที่ (Area Based Approach) จัดทำแผนการปฏิบัติงาน กำหนดกลยุทธ์ ระบบงาน และวิธีปฏิบัติราชการของหน่วยงาน ให้เป็นไปตามเป้าหมายและเกิดผลสัมฤทธิ์ตามข้อ ๑) โดยการบริหารราชการ แบบบูรณาการให้ครบทุกภารกิจของกรมฯ ในทุกพื้นที่อนุรักษ์ที่รับผิดชอบ ๖) ให้ผู้อำนวยการส่วน/กลุ่ม/ศูนย์ ภายใต้การบริหารของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ อำนวยการตามภารกิจรับผิดชอบให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามกำหนด ดำเนินการกำกับ ดูแล สนับสนุน ติดตาม และประเมินผล ตามภารกิจของแต่ละส่วนงาน ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่รับผิดชอบของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์นั้น ๆ ให้คำปรึกษา แนะนำ นิเทศการดำเนินงานแก่หน่วยงานภาคสนามในพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกิดความร่วมมือ และบูรณาการทุกภารกิจหลักในทุกพื้นที่อนุรักษ์ ๗) ให้หัวหน้าพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ มีหน้าที่รวบรวมแผนปฏิบัติงานและแผน การใช้จ่ายเงิน ดำเนินการติดตามการปฏิบัติงานและการใช้จ่ายเงินของหน่วยงานร่วมบูรณาการในพื้นที่แล้ว รายงานให้กรมฯ ทราบ รวมถึงกำหนดรูปแบบและจัดอัตรากำลังการบริหารงานภายในเพื่อรองรับภารกิจต่าง ๆ ที่ร่วมบูรณาการในพื้นที่ ผลการดำเนินงานของพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ ๑) การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างภารกิจ ซึ่งเกิดขึ้นจากการประชุมหารือและทำงานร่วมกัน ๒) การพิจารณาเป้าหมายเพื่อผลลัพธ์เชิงพื้นที่อนุรักษ์นั้น ๆ ๓) การติดตามผลการปฏิบัติงานในภาพรวมของพื้นที่อนุรักษ์ทุกเดือน ๔) เตรียมการเข้าสู่การบูรณาการที่เข้มข้นขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗
- 18 - การดำเนินงานการบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖7 เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งในการบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ ของกรมอุทยาน แห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และยกระดับขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ โดยการพัฒนาจากการติดตาม ไปเป็นการกำกับ ติดตาม และประเมินผลการบูรณาการในพื้นที่อนุรักษ์ทั่วประเทศ ด้วยการพัฒนาการบริหาร จัดการหน่วยงานต่าง ๆ ที่ร่วมบูรณาการในพื้นที่อนุรักษ์ให้ผ่านหรือขึ้นตรงกับพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการนั้น ๆ เช่น การบริหารงานบุคคล การปฏิบัติงานตามแผนปฏิบัติงานและการใช้จ่ายเงิน เป็นต้น มีการพัฒนา แผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงินในภาพรวมของพื้นที่ฯ เกิดกระบวนการบูรณาการเชิงความคิดมากขึ้น การมีส่วนร่วมและแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน มีการประชุมหารือและทำงานร่วมกัน มีการกำกับ ติดตาม และประเมินผลการปฏิบัติงานผ่านคณะทำงานพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการนั้น ๆ โดยให้หัวหน้าพื้นที่ อนุรักษ์นั้น ๆ เป็นประธานคณะทำงาน และมีการเตรียมการสู่ความเข้มข้นด้านการบูรณาการในปีต่อไป ตามหนังสือกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ด่วนที่สุด ที่ ทส ๐๙๒๘.๒/ว ๑๙๐๘๔ ลงวันที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๖๖ เรื่อง การบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ (เอกสาร ๕) ให้ดำเนินการดังนี้ ๑) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้พิจารณาให้ยกระดับการบริหารจัดการพื้นที่ อนุรักษ์แบบบูรณาการ จาก ๕๒ หน่วยไปเป็นทุกพื้นที่อนุรักษ์ทั่วประเทศ โดยใช้แนวทางการปฏิบัติราชการ พ.ศ. ๒๕๖๖ และกรอบการดำเนินงานการบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ ทั้งนี้ให้หน่วยงานร่วมบูรณาการในพื้นที่อนุรักษ์ดำเนินงานไปตามแผนงานปกติ ๒) ให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จัดทำแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงิน ประจำปีพ.ศ. ๒๕๖๗ รวมถึงแนวทางการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๖ ไปพลางก่อน เป็นแบบพื้นที่อนุรักษ์ แบบบูรณาการ (โดยรวบรวมทุกภารกิจให้เป็นแผนของพื้นที่อนุรักษ์นั้น ๆ) - ให้หน่วยงานส่วนกลางที่รับผิดชอบงบประมาณของแผนงาน-ผลผลิต-โครงการ/ กิจกรรมงาน ร่วมกับสำนักแผนงานและสารสนเทศ จัดทำสรุปแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงินประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2567 รวมถึงแนวทางการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ไปพลางก่อน เป็นแผนภาพรวมพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ - ให้สำนักแผนงานและสารสนเทศ จัดทำกระบวนงานการจัดทำสรุปแผนปฏิบัติงาน และแผนการใช้จ่ายเงิน ภาพรวมพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 รวมถึงแนวทาง การใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ไปพลางก่อน (เอกสาร ๖) และจัดประชุมชี้แจง เพื่อสร้างความเข้าใจเรื่องกระบวนงานการจัดทำแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงิน ภาพรวมพื้นที่อนุรักษ์ แบบบูรณาการ - ให้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์/สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์สาขา แต่งตั้งคณะกรรมการ อำนวยการพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ เพื่อพิจารณาอนุมัติการจัดทำแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงิน (Action Plan : อส. 201 - อส. 204) ของพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการทุกแห่งในความรับผิดชอบ อำนวยการ และบริหารราชการเชิงพื้นที่ (Area Based Approach) ให้เป็นไปตามเป้าหมายเกิดผลสัมฤทธิ์ โดยการบริหาร ราชการแบบบูรณาการให้ครบถ้วนทุกภารกิจของกรมฯ ในทุกพื้นที่อนุรักษ์ที่รับผิดชอบ
- 19 - - ให้พื้นที่อนุรักษ์ทุกแห่ง จัดทำแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงิน (Action Plan : อส. 201 - อส. 204) โดยผ่านความเห็นชอบของคณะทำงานพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ ที่มีหัวหน้าพื้นที่ อนุรักษ์เป็นประธานคณะทำงานพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ และเสนอการจัดทำแผนปฏิบัติงานและ แผนการใช้จ่ายเงิน (Action Plan : อส. 201 - อส. 204) ต่อคณะกรรมการอำนวยการพื้นที่อนุรักษ์ แบบบูรณาการ ที่มีผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์/สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์สาขาเป็นประธาน คณะกรรมการพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ เพื่อพิจารณาอนุมัติการจัดทำแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงิน (Action Plan : อส. 201 - อส. 204) ดังกล่าว ๓) ให้สำนักบริหารงานกลาง พิจารณาดำเนินการออกคำสั่งหรือแนวทางการสั่งการจากกรมฯ กรณีการสั่งการหน่วยงานร่วมบูรณาการในพื้นที่อนุรักษ์เปลี่ยนสายบังคับบัญชาจากขึ้นกับส่วนต่างๆในสำนักบริหาร พื้นที่อนุรักษ์ไปขึ้นตรงกับหัวหน้าพื้นที่อนุรักษ์ที่มีแผนงานและงบประมาณไปดำเนินงาน (เอกสาร ๗) ๔) ให้สำนักบริหารงานกลาง จัดอัตรากำลังทุกพื้นที่อนุรักษ์ใหม่ โดยอ้างอิงจากปริมาณงาน ของหน่วยงานที่ร่วมบูรณาการในแต่ละพื้นที่อนุรักษ์ และกรอบปริมาณงานตามภารกิจหลักของกรมฯซึ่งสำนัก/กอง /กลุ่ม ส่วนกลาง กำหนดแนวทางหรือการดำเนินงานในพื้นที่อนุรักษ์ ๕) ให้สำนักบริหารงานกลาง สำนักอุทยานแห่งชาติ สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่ อนุรักษ์ และสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์สาขา พิจารณาหลักเกณฑ์คัดเลือกหัวหน้าพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ ที่มีความพร้อมในการบริหารแบบบูรณาการและรองรับเส้นทางความก้าวหน้าสายอาชีพตามที่กรมฯจะกำหนดต่อไป ๖) ให้ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ ๑ - ๑๖ และสาขาทุกสาขา อำนวยการและบริหาร ราชการเชิงพื้นที่ (Area Base Management) ดำเนินการดังนี้ - อำนวยการและกำกับดูแลการดำเนินงานของหัวหน้าอุทยานแห่งชาติ หัวหน้าวนอุทยาน หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ให้เป็นไปตามนโยบาย ข้อสั่งการของผู้บังคับบัญชา ทุกระดับ และกรอบการดำเนินงานการบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ (เอกสาร ๑2) เพื่อให้การดำเนินงานบรรลุตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนด -จัดทำคำสั่งให้หัวหน้าหน่วยงานร่วมบูรณาการไปปฏิบัติราชการ ที่พื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ อีกหน้าที่หนึ่ง พร้อมรายงานให้กรมฯ ทราบ - จัดทำคำสั่งให้บุคลากรในสังกัดหน่วยงานร่วมบูรณาการ ซึ่งมิใช่หัวหน้าหน่วยงาน ภาคสนาม ที่มีที่ตั้งหรือพื้นที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ ไปปฏิบัติราชการในพื้นที่อนุรักษ์ แบบบูรณาการนั้น ๆ อีกหน้าที่หนึ่ง หรืออาจพิจารณาให้บุคลากรในสังกัดไปปฏิบัติราชการที่พื้นที่อนุรักษ์ แบบบูรณาการ อีกหน้าที่หนึ่ง เพิ่มเติมได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม พร้อมรายงานกรมฯ ทราบ - กรณีที่มีหน่วยงานร่วมบูรณาการมาจากต่างสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ให้ส่งรายชื่อ หน่วยงานร่วมบูรณาการนั้น ๆ พร้อมหัวหน้าหน่วยงานและบุคลากรในสังกัดหน่วยงานร่วมบูรณาการนั้น ๆ ให้กรมฯ ทราบและพิจารณาจัดทำคำสั่งไปปฏิบัติราชการอีกหน้าที่หนึ่งต่อไป ๗) ให้หัวหน้าพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ ดำเนินการตามกรอบการดำเนินงานการบริหาร จัดการพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ (เอกสาร ๑2) และให้กำกับดูแลการปฏิบัติงาน ของบุคลากรในสังกัดพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ โดยสามารถสั่งการให้ไปปฏิบัติงานได้ในทุกภารกิจ
- 20 - ๘) ให้หัวหน้าหน่วยงานร่วมบูรณาการ ปฏิบัติตามคำสั่งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่ ๔๓๕๕/๒๕๖๖ ลงวันที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๖ เรื่อง การบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์ แบบบูรณาการ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้การควบคุม กำกับ ดูแล และการบังคับบัญชา หน่วยงานร่วมบูรณาการในพื้นที่อนุรักษ์ อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของหัวหน้าพื้นที่อนุรักษ์ ผู้อำนวยการส่วน ที่กำกับดูแลแต่ละภารกิจ และผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ หรือผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ สาขา ตามลำดับ ให้ดำเนินการดังนี้ - การบริหารหน่วยงานร่วมบูรณาการ ทั้งด้านการบริหารบุคลากร การเงิน-การบัญชี การพัสดุ เป็นต้น ให้กำกับ ติดตาม และประเมินผล โดยหัวหน้าพื้นที่อนุรักษ์นั้น ๆ ก่อนเสนอ/รายงาน ผู้อำนวยการส่วนที่เกี่ยวข้อง และผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ตามลำดับ - การจัดทำแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงิน (Action Plan : อส. 201 - อส. 204) ภาพรวมพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 รวมถึงแนวทางการใช้งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ไปพลางก่อน โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบในการดำเนินการใน 2 กรณี ได้แก่ 1. กรณีหน่วยงานที่มีแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงินมากกว่า 1 พื้นที่อนุรักษ์ แต่อยู่ในสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์เดียวกัน หากไม่สามารถแยกแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงินได้ ให้หน่วยงานจัดทำแผนปฏิบัติงาน (Action Plan : อส. 201 - อส. 204) ผ่านความเห็นชอบของคณะทำงาน พื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ พื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งแล้วสำเนาให้พื้นที่อนุรักษ์อื่นๆ ที่เหลือทราบ เช่น สถานีควบคุม ไฟป่าซับลังกา-เขาสมโภชน์ เป็นหน่วยงานในสังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 สาขาสระบุรี มีภารกิจ ใน 7 พื้นที่อนุรักษ์ ได้แก่ 1) เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา 2) เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาสมโภชน์ 3) เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเอราวัณ 4) เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ 5) เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาวงจันแดง 6) เตรียมการเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาโลมนาง 7) เตรียมการเขตห้ามล่าสัตว์ป่าวังเพลิง หากไม่สามารถแยกแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงินได้ให้สถานีควบคุมไฟป่าซับลังกา-เขาสมโภชน์ จัดทำ แผนปฏิบัติงาน (Action Plan : อส. 201 - อส. 204) ผ่านความเห็นชอบของคณะทำงานพื้นที่อนุรักษ์ แบบบูรณาการ พื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งแล้วสำเนาให้พื้นที่อนุรักษ์อีก 6 หน่วย ที่เหลือทราบ 2. กรณีหน่วยงานมีแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงินมากกว่า 1 สำนักบริหารพื้นที่ อนุรักษ์ให้หน่วยงานจัดทำแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงิน (Action Plan : อส. 201 - อส. 204) ผ่านความเห็นชอบจากผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ในสังกัด และสำเนาแผนดังกล่าวให้ผู้อำนวยการ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ที่หน่วยงานมีแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงินในพื้นที่อนุรักษ์นั้น ๆ ทราบ เช่น - หน่วยจัดการต้นน้ำตรัง สังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (นครศรีธรรมราช) มีภารกิจในพื้นที่อนุรักษ์อุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า ซึ่งสังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 6 (สงขลา) ให้หน่วยงาน จัดทำแผนปฏิบัติงาน (Action Plan : อส. 201 - อส. 204) ผ่านความเห็นชอบจากผู้อำนวยการสำนักบริหาร พื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (นครศรีธรรมราช) แล้วสำเนาแผนดังกล่าวให้อุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า และสำนักบริหาร พื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 (สงขลา) ทราบ
- 21 - ๙) การดำเนินงานของพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ ให้ยึดถือตามระเบียบ กฎหมาย หนังสือสั่งการ และคำสั่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด และเบิกจ่ายงบประมาณตามแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงิน ประจำปีตามที่ได้รับจัดสรรจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมรายงานผลการ ปฏิบัติงาน และความก้าวหน้าให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับภายใต้การควบคุมและบริหารงานของผู้อำนวยการ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์
คาํส่งักรมอท ุ ยานแหงชาติสัตว ปาและพนัธ พ ุ ื ช ท ี่562/2566 ลงวันท่ี 1 ก ุ มภาพันธ พ.ศ. 2566 เร่อ ื ง มอบหมายหนา ท่ก ี ารบรหิาร จัดการทรัพยากรปา ไม สัตว ปาและทรพัยากรธรรมชาตอิื่น ๆ เชิงพ ้ น ื ท ี่ เอกสาร 1 - 22 -
- 23 -
- 24 -
หนังสอ ื กรมอ ุ ทยานแหงชาติสตัว ปาและพันธ พ ุ ช ื ดวนท่ส ี ุ ด ท ี่ทส 0928.2/ว 8916 ลงวันท่ี 28 เมษายน 2566 เร่อ ื ง รายงาน การประช ุ มหาร ื อแนวคิดการบรหิารจัดการแบบบร ู ณาการเชงิพ ้ น ื ท ี่ฯ เอกสาร 2 - 25 -
- 26 -
- 27 -
- 28 -
- 29 -
- 30 -
- 31 -
- 32 -
- 33 -
- 34 -
กรอบแนวคิดการบริหารจัดการแบบบ ู รณาการเชงิพ ื ้ นท ี่ฯ เอกสาร 3 - 35 -
การบริหารจัดการ แบบบูรณาการ เชิ ง พื้น ที่ (อช./วน./ขสป./ขหล.) กํา ห น ด รู ป แ บ บ ก า ร บ ริ ห า ร จัด ก า รแบบบูรณาการเชิงพื้นที่ -ใ ห ค ร บ ภ า ร กิ จ ห นว ยงา นใ น พื้น ที่โ ด ย ยึ ด วัต ถุป ร ะ สงคข องก า ร จัด ตั้งหนวยงานเปนเรื่องหลัก - (สอป./สอช./สปฟ./สตน./สฟอ./สนร./กตป.) (หลายโมเดล)จัดทําแผนงาน /แผนงบประมาณ แบบบูรณาการเชิงพื้นที่ - (สผส./ สอป./สอช./สปฟ./สตน./สฟอ./สนร./กตป) กํา ห น ด ก ร อ บ แ ล ะ จัด อัต ร า กํา ลังกําหนดเสนทางในสายอาชีพ สําหรับหนวยงานบริหารจัดการ แ บ บ บูร ณ า ก า รเชิงพื้น ที่ - (สบก./สอป./สอช.) กํา ห น ด รู ป แ บ บ ก า ร บ ริ ห า รและความเชื่อมโยงระหวาง สวนกลาง-สบอ.-หนวยงานในพื้นที่ - (กพร./สบอ./สบก.) - 36 -
หนังสอ ื กรมอ ุ ทยานแหงชาติสตัว ปาและพันธ พ ุ ช ื ดวนท่ส ี ุ ด ท ี่ทส 0928.2/ว 16588 ลงวนัท่ี 15 สงิหาคม 2566 เร่อ ื ง การบริหารราชการสวนกลาง และสวนกลางในภ ู มิภาค เอกสาร 4 - 37 -
- 38 -
- 39 -
- 40 -
- 41 -
- 42 -
- 43 -
หนังสอ ื กรมอ ุ ทยานแหงชาติสตัว ปาและพันธ พ ุ ช ื ดวนท่ส ี ุ ด ท ี่ทส 0928.2/ว 19084 ลงวนัท่ี 11 กันยายน 2566 เร่อ ื ง การบรหิารจดัการพ ื ้ นท ี่อนร ุ กัษ แบบบ ู รณาการ กรมอ ุ ทยานแหงชาติสตัว ปาและพนัธ ุ พช ื ประจําปง บประมาณ พ.ศ. 2567 เอกสาร 5 - 44 -
- 45 -
- 46 -
- 47 -