8 เวลาท าข้อสอบ 60 นาที 2 ซม. 1. ข้อใดเรียงล ำดับจำกจ ำนวนที่มีค่ำน้อย 7. ไปมำก ก. 203,676 203,667 302,676 302,667 ข. 311,247 311,427 311,274 311,724 มุม B เป็ นมุมชนิดใด ค. 112,344 112,433 211,344 211,443 ก. มุมแหลม ข. มุมฉำก ง. 159,463 159,364 195,463 195364 ค. มุมป้ำน ง. มุมตรง 2. 252,300 254,400 256,500 … 8. จ ำนวนถัดไปคือจ ำนวนใด ก. 257,600 ข. 257,800 ค. 258,600 ง. 258,800 3. จ ำนวนใดมีค่ำมำกกว่ำ 73,211อยู่ 507 จำกรูป จุดใดเป็ นจุดยอมมุม ก. 73,718 ข. 73,781 ก. จุด ก ข. จุด ม ค. 73,871 ง. 73,817 ค. จุด ย ง. จุด ข 4. 4,565,300 - 2,715,627 มีผลลัพธ์เท่ำกับ 9. จำกรูป หำกรัศมียำว ข้อใด 2 เซนติเมตร ก. 728,372 + 1,121,526 = เส้นผ่ำนศูนย์กลำงจะมี ข. 938,623 + 911,050 = ควำมยำวเท่ำไร ค. 1,265,300 + 584,327 = ก. 1 เซนติเมตร ข. 2 เซนติเมตร ง. 875,210 + 974,418 = ข. 3 เซนติเมตร ง. 4 เซนติเมตร 5. จ ำนวนใดมีค่ำน้อยกว่ำ 92,011 อยู่ 1,283 10. รูปสี่เหลี่ยมในข้อใด เรียกว่ำ รูปสี่เหลี่ยม ก. 93,851 ข. 95,725 จัตุรัส ค. 90,728 ง. 91,821 ก. ข. 6. ค. ง. จำกรูป เส้นตรงคู่ใดขนำนกัน 11. จำกรูป มีแกนสมมำตรกี่แกน ก. CD กับ EF ข. AB กับ CD ก. 0 แกน ข. 1 แกน ค. AB กับ EF ง. CD กับ GH ค. 2 แกน ง. 3 แกน ชุดที่2 B A D C F E H G B ย ข ก ม แบบทดสอบก่อนลงคอร์สเรียนประถม 5 ชื่อ....................................................................นามสกุล.........................................................คะแนน.............................. โรงเรียน...................................................................................................................................................................
9 12. 14. เฉลี่ยแล้วนักเรียนแต่ละช้นัมีกี่คน ก. 37 คน ข. 38 คน ค. 39 คน ง. 40 คน จำกรูป เป็ นรูปสมมำตรหรือไม่ เพรำะอะไร 15. นกัเรียนช้นั ป.1 – ป.6 มีจำ นวนท้งัหมดกี่คน ก. เป็ น เพรำะเมื่อพับแล้วคลี่ออกจะมีรอย ก. 240 คน ข. 235 คน พับเดียว ค. 230 คน ง. 225 คน ข. เป็น เพรำะเมื่อพบัคร่ึงรูปแลว้รูปท้งัสอง 16. จำ นวนนกัเรียนช้นั ป. 2 กับ ป. 3รวมกัน ข้ำงทับกันสนิท มำกกวำ่หรือนอ้ยกวำ่จำ นวนนกัเรียนช้นั ค. ไม่เป็ น เพรำะเมื่อพับแล้วคลี่ออกจะมี ป. 5 กับ ป. 6รวมกันเท่ำไร รอยพับเดียว ก. มำกกว่ำ 10 คน ง. ไม่เป็น เพรำะเมื่อพบัคร่ึงรูปแลว้รูปท้งัข. มำกกว่ำ 5 คน สองข้ำงทับกันสนิท ค. น้อยกว่ำ 5 คน ใช้แผนภูมิต่อไปนี้ตอบค าถามข้อ13 – 16 ง. น้อยกว่ำ 10 คน 17. ของใช้ใดมีมุม ก. แหวน ข. มีด ค. สำยยำง ง. โอ่งน้ำ 18. หำกเรำต้องกำรวำดรูปวงกลมควรใช้ สิ่งของใดเป็นแบบ ก. ไข่ ข. ลูกบอล ค. ลูกปิ งปอง ง. แกว้น้ำ 19. 2,346 59 = ผลลัพธ์คือข้อใด ก. 138,144 ข. 138,314 ค. 138,414 ง. 138,441 13. ช้นั ใดมีจำ นวนนกัเรียนเท่ำกนัและมีจำ นวน 20. สองยำวน้อยกว่ำม้วนแรก 60 เมตร ถ้ำมำ กี่คน ตัดเป็ นผืนให้ยำวผืนละ 5 เมตร จะได้ผ้ำ ก. ช้นั ป.2 กับ ป.5 40 คน ท้งัหมดกี่ผืน ข. ช้นั ป.1 กับ ป.4 45 คน ก. 44 ผืน ข. 45 ผืน ค. ช้นั ป.3 กับ ป.5 40 คน ค. 46 ผืน ง. 47 ผืน ง. ช้นั ป.2 กับ ป.6 30 คน
10 21. “พ่อบอกว่ำระยะทำงจำกตัวบ้ำนถึงต้นไม้ 24. ข้อใดกล่ำวถูกต้อง ใหญ่หน้ำบ้ำนประมำณ 300 เมตร พี่ใช้เชือก ก. ถุงใบที่ 1 หนักน้อยกว่ำใบที่ 2 ที่มีควำมยำว 4 เมตรวดัระยะทำงน้นั ได้ 2กิโลกรัม 68คร้ัง” ข้อใดกล่ำวถูกต้อง ข. ถุงใบที่ 2 หนักน้อยกว่ำใบที่ 1 ก. ระยะทำงจำกตัวบ้ำนถึงต้นไม้ใหญ่ยำว 2กิโลกรัม 328 เมตร ค. ถุงใบที่2 หนักมำกกว่ำใบที่ 1 ข. ระยะทำงจำกตัวบ้ำนถึงต้นไม้ใหญ่ยำว 1กิโลกรัม 300 เมตร เท่ำกับที่ประมำณไว้ ง. ถุงใบที่ 1 หนักมำกกว่ำใบที่ 2 ค. ระยะทำงจำกตัวบ้ำนถึงต้นไม้ใหญ่ยำว 1กิโลกรัม กว่ำที่ประมำณไว้ 28 เมตร 25. น้ำ หนกัรวมของถุงแต่ละใบเท่ำกบัขอ้ใด ง. ระยะทำงจำกตัวบ้ำนถึงต้นไม้ใหญ่ยำว ก. ถุงใบที่ 1 หนัก 3กิโลกรัม 900กรัม 272 เมตร ส้ันกวำ่ที่ประมำณไว้28 เมตร ถุงใบที่ 2 หนัก 2กิโลกรัม 900กรัม 22. มำตรำส่วนในข้อใดเป็นมำตรำส่วนเดียวกับ ข. ถุงใบที่ 1 หนัก 3กิโลกรัม 90ขีด 1 เซนติเมตร :1 เมตร ถุงใบที่ 2 หนัก 2กิโลกรัม 90ขีด ก. 1 : 10 ข. 1 : 100 ค. ถุงใบที่ 1 หนัก 290กรัม ค. 1 : 1,000 ง. 1 : 10,000 ถุงใบที่ 2 หนัก 390กรัม 23. ต ำบล ก อยู่ห่ำงจำกต ำบล ข 25กิโลเมตร ง. ถุงใบที่ 1 หนัก 29ขีด ถ้ำเขียนแผนผังโดยใช้มำตรำส่วน ถุงใบที่ 2 หนัก 39ขีด 1 เซนติเมตร : 5กิโลเมตร ระยะทำงจำก 26. พิจำรณำขอ้ควำมต่อไปน้ี ต ำบล ก ไปต ำบล ข ในแผนผังจะยำวเท่ำไร 1. 3กิโลกรัม 300กรัม หนักน้อยกว่ำ ก. 3.5 เซนติเมตร ข. 4 เซนติเมตร 33ขีด ค. 4.5 เซนติเมตร ง. 5 เซนติเมตร 2. 60ขีด หนักเท่ำกับ 5กิโลกรัม 9ขีด ใช้ข้อมูลต่อไปนี้ตอบค าถามข้อ24 -25 3. 5กิโลกรัมครึ่ง หนักเท่ำกับ 5กิโลกรัม ซ้ือของใส่ถุง 2ถุง ดงัน้ี 5ขีด 4. 45ขีด หนักไม่ถึง 4กิโลกรัม 5ขีด ข้อใดถูกต้อง ก. ข้อ 1, 2 ข. 2, 3 ค. ข้อ 3 ค. ข้อ 4 ถุงใบที่1 ถุงใบที่2 - เน้ือสัตว์คร่ึงกิโลกรัม -แตงกวำ 6ขีด - มะเขือเทศ 800กรัม - น้ำ ตำลทรำย1,000กรัม - มะพร้ำวขูด 2กิโลกรัม - มะนำว 8ขีด -คะน้ำ 600กรัม - ฟักทอง ครึ่งกิโลกรัม
11 27. ถงัน้ำ ใบใหญ่ใบหน่ึงมีน้ำ บรรจุอยู่200 ลิตร 30. สวนผลไมรู้ปสี่เหลี่ยมผืนผำ้มีพ้ืนที่ท้งัหมด 800 มิลลิลิตร ตักไปใส่ถงัน้ำ ใบเลก็ 60 ลิตร 450 ตำรำงวำ วัดด้ำนยำวได้ 25วำ สวนผลไม้ 200 มิลลิลิตรและตกัไปใส่ตูเ้ล้ียงปลำอีก น้ีจะมีดำ้นกวำ้งกี่วำ 30ลิตร 500 มิลลิลิตร ข้อใดกล่ำวถูกต้อง ก. 16 วำ ข. 18 วำ ก. น้ำ ในถงัใบใหญ่เหลืออยู่110ลิตร ค. 20 วำ ง. 22 วำ 100 มิลลิลิตร 31. หำกตอ้งกำรชงั่น้ำ หนกัของสร้อยคอทองคำ ข. น้ำ ในถงัใบใหญ่เหลืออยู่น้อยกว่ำ ควรใชเ้ครื่องชงั่ใดจึงจะเหมำะสม 100ลิตร ก. เครื่องชงั่น้ำ หนกัตวั ค. น้ำ ในถงัใบเลก็รวมกบัน้ำ ในตูป้ลำเท่ำกบัข. เครื่องชงั่แบบตุม้เลื่อน 100ลิตร ค. เครื่องชงั่สปริง ง. น้ำ ในตูเ้ล้ียงปลำนอ้ยกวำ่ ในถงัใบเลก็ง. เครื่องชงั่สองแขน 30ลิตร 300 มิลลิลิตร 32. ข้อใดถูกต้อง 28. พิจำรณำขอ้ควำมต่อไปน้ีก. 1. 2,000 มิลลิลิตร มีปริมำตรไม่ถึง 2ลิตร 2. 1,000 มิลลิลิตร มีปริมำตรเท่ำกับ 1,000 ข. ลูกบำศก์เซนติเมตร 3. 2ถัง มีปริมำตรมำกกว่ำ 30ลิตร ค. ข้อใดไม่ถูกต้อง ก. ข้อ 1 เท่ำน้นัง. ข. ข้อ 2 เท่ำน้นั ค. ข้อ 2 กับ 3 33. มีค่ำมำกกว่ำ อยู่เท่ำไร ง. ข้อ 1 กับ 3 29. 1 ตำรำงหน่วย มีควำมกว้ำงและควำมยำว ก. เป็ นอย่ำงไร ก. ดำ้นท้งัสี่ดำ้นยำว2 หน่วย ข. ข. ดำ้นท้งัสี่ดำ้นยำว1 หน่วย ค. ดำ้นท้งัสี่มีควำมยำวรวมกนัเท่ำกบัค. 1 หน่วย ง. ด้ำน 2 ด้ำนยำว 1 หน่วย และอีก 2 ด้ำน ง. ที่เหลือยำว 2 หน่วย 11 5 6 1 – - – = – + – 12 12 12 12 9 2 14 8 – + – > – - – 15 15 15 15 1 1 4 1 – + – > – - – 5 5 5 5 7 2 2 1 – - – < – + – 9 9 9 9 5 3 – + – 11 11 8 4 – - – 11 11 2 – 11 3 – 11 4 – 11 5 – 11
12 34. ข้อใดมีผลลัพธ์เท่ำกับ 38. ตอ้งกำรซ้ือที่ดินรูปสี่เหลี่ยมผืนผำ้กวำ้ง 15วำ ยำว 24วำ เรำจะทรำบได้อย่ำงไรวำ่ซ้ือที่ดิน ก. ข. เป็นพ้ืนที่กี่ตำรำงวำ ก. น ำ กว้ำง ยำว จะได้ 15 24 เท่ำกับ ค. ง. 360 ตำรำงวำ ข. น ำ กว้ำง กว้ำง จะได้ 15 15 เท่ำกับ 35. ข้อใดเมื่อลบด้วย แล้วเท่ำกับ 225 ตำรำงวำ ค. น ำ ยำว ยำว จะได้ 24 24 เท่ำกับ ก. ข. 576 ตำรำงวำ ง. น ำ กว้ำง +ยำว จะได้ 15 + 24 เท่ำกับ ค. ง. 39 ตำรำงวำ 39. ตอ้งกำรปูกระเบ้ืองรูปสี่เหลี่ยมจตัุรัส 36. กำรเปรียบเทียบในข้อใดถูกต้อง บนพ้ืนหอ้งรูปสี่เหลี่ยมผืนผำ้หอ้งหน่ึง ก. 95.59 > 59.95 ซึ่งเมื่อปูแล้วจะพอดี จะทรำบได้อย่ำงไรว่ำ ข. 69.03 < 63.09 จะต้องใชก้ระเบ้ืองกี่แผน่ ค. 83.67 < 76.83 ก. พ้ืนที่หอ้ง + พ้ืนที่กระเบ้ือง 1แผ่น ง. 77.66 = 66.77 ข. พ้ืนที่หอ้ง – พ้ืนที่กระเบ้ือง 1แผ่น 37. พิจำรณำขอ้ควำมต่อไปน้ีค. พ้ืนที่ห้อง พ้ืนที่กระเบ้ือง 1แผ่น 1. 211.01อ่ำนว่ำ สองร้อยสิบหนึ่งจุดศูนย์ ง. พ้ืนที่หอ้ง ÷ พ้ืนที่กระเบ้ือง 1แผ่น เอ็ด 40. หน่อยต้องกำรร้อยสร้อยลูกปัดจ ำนวน 8 เส้น 2. 105.8อ่ำนว่ำ หนึ่งร้อยห้ำจุดแปด แต่ละเส้นใช้ลูกปัด 36 เมด็หน่อยควรจะซ้ือ 3. หนึ่งร้อยหกสิบจุดเจ็ดเจ็ด เขียนเป็ น ลูกปัดอย่ำงไร 167.07 ก. ซ้ือลูกปัดถุงละ100 เม็ด 2ถุง ถุงละ ข้อใดถูกต้อง 50 เม็ด 1ถุง ก. ข้อ 1 กับ 3 ข. ซ้ือลูกปัดถุงละ100 เม็ด 3ถุง ข. ข้อ 1 กับ 2 ค. ซ้ือลูกปัดถุงละ50 เม็ด 5ถุง ค. ข้อ 2 กับ 3 ง. ซ้ือลูกปัดถุงละ100 เม็ด 1ถุง ถุงละ ง. ข้อ 2 เท่ำน้นั 50 เม็ด 3ถุง 11 5 – - – 12 12 10 5 – - – 12 12 9 3 – - – 12 12 14 2 – + – 11 11 5 1 – + – 11 11 1 – 7 5 – 7 2 3 – + – 7 7 7 2 – - – 7 7 3 3 – + – 7 7 6 1 – - – 7 7
13 41. 10,280 เป็ นผลลัพธ์ของข้อใด 46. แม่คำ้ซ้ือส้มโอมำ 300ผล ในรำคำผลละ ก. 15,969 – (9,956 ÷ 38) = 4 บำท น ำมำแบ่งขำยเป็ น 3ขนำด ขนำดใหญ่ ข. (34,524 ÷ 36) + 6,972 = 140ผล ขำยไปผลละ 8 บำท ขนำดกลำง 120 ค. 36,488 – (416 63) = ผล ขำยไปผลละ 5 บำท และที่เหลือเป็ น ง. (525 48) – 5,300 = ส้มโอขนำดเล็กขำยไปผลละ 4 บำท แม่ค้ำ 42. วันจันทร์แม่ขำยขนมได้ 280 บำท วันอังคำร ได้ก ำไรกี่บำท ขำยได้ 360 บำท วันพุธขำยได้ 320 บำท เฉลี่ย ก. 380 บำท ข. 480 บำท แล้วแม่ขำยขนมได้วันละกี่บำท ค. 580 บำท ง. 680 บำท ก. 320 บำท ข. 330 บำท 47. ถำ้เขม็ยำวช้ีที่ตวัเลข2 เขม็ส้ันช้ีที่ตวัเลข8 ค. 340 บำท ง. 350 บำท เวลำกลำงวันจะเป็ นเวลำอะไร 43. ( 395,422 – 250,294) ÷ 24 มีผลลัพธ์ ก. 2.10 น. ข. 8.02 น. เท่ำกับข้อใด ค. 20.10 น. ง. 8.10 น. ก. 3,695 + 2,355 48. ถำ้เขม็ยำวช้ีที่ตวัเลข5 เขม็ส้ันช้ีระหวำ่ง ข. 8,694 – 2,647 ตัวเลข 3 และ 4 เวลำกลำงคืนจะเป็ นเวลำ ค. 4,893 + 1,156 อะไร ง. 9,729 – 3,680 ก. 3.50 น. ข. 3.25 น. 44. จ ำนวนที่ลบออกด้วย 1,575แล้วมีค่ำเท่ำกับ ค. 5.30 น. ง. 5.15 น. (86,923 - 59,774) 2 คือข้อใด 49. น้ำ ผลไมช้นิดกล่องรำคำโหลละ96 บำท ก. 45,783 น ำมำขำยกล่องละ 9.50 บำท จะได้ก ำไร ข. 45,873 กี่บำท ค. 55,783 ก. 18.00 บำท ข. 18.50 บำท ง. 55,873 ค. 19.00 บำท ง. 19.50 บำท 45. พิจำรณำขอ้ควำมต่อไปน้ี 50. มีธนบัตร 4 ชนิด ชนิดละ 1 ฉบับ มีค่ำรวม 1. 12,765 + (24,475 ÷ 89) = 13,040 เป็ น 670 บำท จะเป็นธนบัตรชนิดใดบ้ำง 2. (896 23) – 12,488 = 8,110 ก. ธนบัตรฉบับละ 10 บำท 50 บำท 3. (32,518 – 10,939) + 8,500 = 30,079 500 บำท และ 1,000 บำท ข้อใดถูกต้อง ข. ธนบัตรฉบับละ 20 บำท 50 บำท ก. ข้อ 1, 2 100 บำท และ 1,000 บำท ข. ข้อ 1, 3 ค. ธนบัตรฉบับละ 20 บำท 50 บำท ค. ข้อ2, 3 100 บำท และ 500 บำท ง. ข้อ 1, 2, 3 ง. ธนบัตรฉบับละ 10 บำท 50 บำท 100 บำท และ 500
14 เวลาท าข้อสอบ 60 นาที 1. หลังจำกพืชเกิดกำรปฏิสนธิแล้วจะเกิด 5. ทดลองปลูกพืช 2 ตน้ตน้แรกรดน้ำ ไม่ใส่ เหตุกำรณ์ใดตำมมำ ปุ๋ ย ต้นที่ 2รดน้ำ และใส่ปุ๋ย สังเกตกำร ก. สีของใบพืชจะเปลี่ยน เติบโตของพืชเปรียบเทียบกัน ข. ใบของพืชจะหลุดร่วง อยำกทรำบว่ำเป็ นกำรศึกษำเรื่องใด ค. กลีบดอกจะมีสีสดใส ก. น้ำ เป็นปัจจยัในกำรเจริญเติบโตของพืช ง. กลีบดอกจะค่อยๆ เหี่ยวแห้งหลุดร่วงไป ข. ดินเป็ นปัจจัยในกำรเจริญเติบโตของพืช 2. ค ำกล่ำวที่ว่ำ “ต้นไม้เปรียบเหมือนปอดของ ค. แสงแดดเป็ นปัจจัยในกำรเจริญเติบโต คนกรุงเทพฯ” ตรงกับข้อใด ของพืช ก. ตน้ ไมใ้นกรุงเทพฯ คำยน้ำ มำก ง. แร่ธำตุเป็ นปัจจัยในกำรเจริญเติบโต ข. ต้นไม้ช่วยดูดก๊ำซคำร์บอนไดออกไซด์ ของพืช ค. ต้นไม้ในกรุงเทพฯ มีจ ำนวนน้อยมำก 6. เรำไม่ควรน ำต้นพืชไว้ที่ใด ง. ตน้ ไมใ้นกรุงเทพฯ ช่วยดูดน้ำ เสีย ก. ห้องนอน ข. ดำดฟ้ำ ทำ ใหป้ริมำณน้ำ เสียลดน้อยลง ค. ห้องครัว ง. หอ้งนงั่เล่น 3. ถำ้นำ ตน้พืชที่ปลูกในกระถำงมำต้งัในหอ้ง 7. ข้นัตอนกำรเจริญเติบโตของพืช ขอ้ใด เปิ ดหน้ำต่ำงให้แสงแดดส่องเข้ำมำทำงเดียว ถูกต้อง เมื่อเวลำผ่ำนไป 1 สัปดำห์ ต้นพืชจะมีกำร ก. เมล็ด ล ำต้น รำก ใบ เปลี่ยนแปลงหรือไม่ อย่ำงไร ดอก ผล ก. ไม่เกิดกำรเปลี่ยนแปลง ข. เมล็ด รำก ล ำต้น ใบ ข. เปลี่ยนแปลงโดยต้นพืชจะผลัดใบ ดอก ผล ค. เปลี่ยนแปลงโดยต้นพืชจะโน้มเข้ำหำ ค. เมล็ด ใบ รำก ล ำต้น ด้ำนที่มีแสง ผล ดอก ง. เปลี่ยนแปลงโดยต้นพืชจะโน้มไป ง. เมล็ด รำก ใบ ล ำต้น ทำงด้ำนที่ไม่มีแสงส่อง ผล ดอก 4. จำกกำรทดลอง ใช้กระดำษสีด ำปิ ดบำงส่วน 8. ขอ้ใดแสดงวำ่พืชมีกำรตอบสนองต่อสิ่งเร้ำ ของใบไม้เป็ นเวลำ 3วัน เมื่อน ำกระดำษสีด ำ ก. ต้นพืชจะโอนเอนเมื่อมีลมพัด ออกแล้วน ำใบไม้มำตรวจหำแป้ง ข. พืชบำงชนิดมีกำรผลัดใบในฤดูหนำว อยำกทรำบว่ำบริเวณใดที่ตรวจไม่พบแป้ง ค. ต้นไม้จะเศร้ำเมื่อเจ้ำของไม่เอำใจใส่ ก. บริเวณปลำยใบ ง. ไม่มีข้อถูก ข. บริเวณกลำงใบ ค. บริเวณที่ไม่ได้ปิ ดด้วยกระดำษสีด ำ ง. บริเวณที่ปิ ดด้วยกระดำษสีด ำ ชุดที่2
15 9. ด.ญ.กุ๊กพบว่ำเมื่อถึงฤดูหนำวทุกคร้ังตน้ ไม้ 14. จำกกำรที่มีกำรรณรงคใ์หท้ำ ลำยน้ำ ที่ขงั ที่เฝ้ำสังเกตใบจะร่วง เหตุใดจึงเป็นเช่นน้นั ตำมภำชนะ หรือใส่ทรำยอะเบตลงใน ก. เพื่อลดกำรระเหยของควำมช้ืน โอ่งน้ำ เพื่อป้องกนัสัตวช์นิดใดในกำร ข. ต้นไม้หยุดกำรเจริญเติบโต แพร่พันธุ์ ค. เพื่อป้องกันแมลงมำกัดกินใบ ก. ยุง ข. ผีเส้ือ ง. เป็ นกำรแสดงถึงกำรหมดช่วงอำยุของ ค. ตกั๊แตน ง. มด ต้นไม้ 15. จำกแผนภำพ เป็ นวัฏจักรชีวิตของสัตว์ 10. กำรที่วัฏจักรชีวิตของพืชหมุนเวียนต่อไปได้ ชนิดใด ท ำให้เกิดผลอย่ำงไร ก. พืชเจริญเติบโตเร็ว ข. พืชไม่สูญพันธุ์ ค. พืชไม่กลำยพันธุ์ ง. พืชไม่ตำย ก. ยุง ข. ผีเส้ือ 11. ด.ช.พีพีทดลองเล้ียงหนอน จนกลำยเป็น ค. แมลงสำบ ง. แมลงวัน ดักแด้ ระยะต่อไปน่ำจะเจริญเติบโตเป็ นสัตว์ 16. กำรทิ้งขยะลงในแม่น้ำ ลำ คลองจะส่งผล ในข้อใด กระทบอย่ำงไร ก. ยุง ข. ตกั๊แตน ก. ท ำให้ก๊ำซออกซิเจนมีปริมำณลดลง ค. ด้วง ง. ไม่มีข้อใดถูก ข. ทำ ใหส้ ัตวน์ ้ำ ขยำยพนัธุ์ไดร้วดเร็ว 12. กำรกระท ำของใครที่น่ำจะมีผลเสียต่อ ค. มีอำหำรใหส้ ัตวน์ ้ำ กินเพิ่มข้ึน สัตวน์ ้ำ มำกที่สุด ง. เพิ่มแร่ธำตุใหก้บัน้ำ ก. ด.ช.ตน้ทิ้งเศษใบไมล้งในล ำคลอง 17. ในฐำนะที่เป็ นเยำวชน นักเรียนสำมำรถ ข. ด.ญ.นิด นำ เส้ือผำ้ไปซกัริมคลอง ช่วยอนุรักษ์สัตว์ได้อย่ำงไร ค. นำยต่อชอบตกปลำเมื่อมีเวลำว่ำง ก. ช่วยซ้ือของที่ไดจ้ำกสัตว์ ง. นำยทิวน ำเรือประมงออกจับปลำใน ข. สร้ำงจิตส ำนึกให้ผู้อื่นตระหนักถึง ฤดูวำงไข่ ควำมส ำคัญของสัตว์ 13. ระยะกำรเจริญเติบโตข้นั ใดของตวัไหมที่ให้ค. ซ้ืออำหำรที่ทำ จำกสัตวห์ำยำก เส้นใย ซึ่งน ำมำใช้ประโยชน์ในกำรถักทอ ง. ใชส้ิ่งของที่ทำ มำจำกหนงัสัตว์ เครื่องนุ่งห่ม ก. ไข่ ข. หนอน ค. ดักแด้ ง. ตัวเต็มวัย ตัวเต็มวัย ตัวอ่อน ไข่
16 อ่านตาราง และตอบค าถามข้อ 25 – 26 ประเภทของ สารอาหาร ประโยชน์ของสารอาหาร A B C D E 1. ท ำให้ร่ำงกำย เจริญเติบโต 2. ให้พลงังำนแก่ร่ำงกำย 3. ซ่อมแซมส่วนที่ สึกหรอ 4.ควบคุมร่ำงกำยให้ ท ำงำนเป็ นปกติ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ - ✓ ✓ ✓ - ✓ ✓ - - ✓ ✓ - - ✓ 18. นักเรียนมีควำมเห็นอย่ำงไรกับกำรน ำช้ำง 23. ถ้ำเรำอดอำหำรเพื่อต้องกำรลดควำมอ้วน มำเดินหำรำยได้ตำมถนนในเมือง จะเกิดผลกระทบอย่ำงไร ก. สมควร เพรำะเป็ นสิทธิ์ ของเจ้ำของ ก. ร่ำงกำยไม่สมส่วน ข. ไม่สมควร เพรำะธรรมชำติของช้ำงต้อง ข. อ่อนเพลีย และไม่มีแรง อยู่ในป่ ำ ค. กระเพำะอำหำรยืดตัว ค. สมควร เพรำะเป็ นกำรให้ช้ำงได้ปรับตัว ง. น้ำ หนกัตวัลดลงจนควบคุมไม่ได้ กับกำรอยู่ในเมือง 24. กิจกรรมใดใช้พลังงำนมำกที่สุด ง. ถูกท้งัขอ้ก.และข. ก. วิ่ง ข. ขี่จักรยำน 19. หำกสัตว์ต่ำงๆ สูญพันธุ์ย่อมส่งผลกระทบ ค. เดิน ง. ถูพ้ืน ต่อมนุษย์ ยกเว้นข้อใด ก. ท ำให้เศรษฐกิจตกต ่ำ ข. ท ำให้ธรรมชำติขำดควำมสมดุล ค. มีแหล่งอำหำรเพิ่มข้ึน ง. ขำดสัตว์ทดลองในด้ำนกำรแพทย์ 20. กำรกินผลไม้มำกๆ มีผลดีต่อร่ำงกำรอย่ำงไร ก. ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ข. ใหพ้ลงังำนแก่ร่ำงกำย ค. ช่วยในกำรขับถ่ำยอุจจำระ ง. เพิ่มควำมแขง็แรงใหแ้ก่กลำ้มเน้ือ 21. น้ำ เตำ้หู้เป็นแหล่งสำรอำหำรประเภทใด 25. จำกข้อมูลในตำรำง อยำกทรำบว่ำ A เป็ น ก. คำร์โบไฮเดรต ข. โปรตีน สำรอำหำรประเภทใด ค. เกลือแร่ ง. ไขมัน ก. โปรตีน ข. คำร์โบไฮเดรต 22. ถ้ำเรำกินอำหำรมำกเกินควำมต้องกำรของ ค. วิตำมิน ง. ไขมัน ร่ำงกำย ร่ำงกำยจะจัดกำรกับพลังงำน 26. ผลิตภณัฑท์ ี่ทำ จำกถวั่จดัอยใู่นสำรอำหำร ส่วนเกินน้ีอยำ่งไร ประเภทใด ก. สลำยตัวไปหลังจำกกำรพักผ่อน ก. ประเภท A ข. เก็บสะสมไว้ในรูปไขมัน ข. ประเภท B และ C ค. เก็บเป็ นแหล่งอำหำรของสมอง ค. ประเภท D และ E ง. ขับออกมำพร้อมกับกำรถ่ำยปัสสำวะ ง. สรุปไม่ได้
17 27. คนในภำคตะวันออกเฉียงเหนือมักขำด 29. ทดสอบผงชูรสโดยกำรนำ มำละลำยน้ำ แลว้ แร่ธำตุชนิดใด และมีวิธีป้องกันอย่ำงไร ใชก้ระดำษขมิ้นจุ่มในสำรละลำยน้นั ก. ขำดแคลเซียม ควรรับประทำนอำหำร ผลกำรทดลองข้อใดที่แสดงให้เห็นว่ำ พวกปลำตัวเล็กๆ เป็ นผงชูรสแท้ ข. ขำดไอโอดีน ควรรับประทำนอำหำร ก. กระดำษขมิ้นที่จุ่มในสำรละลำยเปลี่ยน ทะเล เป็ นสีแดง ค. ขำดธำตุเหล็ก ควรรับประทำน ข. กระดำษขมิ้นที่จุ่มในสำรละลำย เครื่องในสัตว์ เปื่ อยยุ่ย ง. ขำดฟอสฟอรัส ควรรับประทำนนม ไข่ ค. กระดำษขมิ้นที่จุ่มในสำรละลำย และผัก เปลี่ยนเป็ นสีด ำ 28. ง. กระดำษขมิ้นที่จุ่มในสำรละลำย ไม่เปลี่ยนสี 30. จำกหลักกำรสะท้อนของแสง ถ้ำมุม ตกกระทบมีขนำด 60 ํ มุมสะทอ้นจะมี ขนำดเท่ำใด ก. 30 ํ ข. 60 ํ ค. 120 ํ ง. ไม่มีข้อใดถูก จำกกำรทดลอง ข้อใดสรุปได้ถูกต้อง 31. ถ้ำใช้เลนส์เว้ำรับแสงแสงจะผ่ำนเลนส์ ก. แป้งขำ้วเหนียวที่ผสมกบัน้ำ สีที่สกดั ออกมำอีกด้ำนในลักษณะใด จำกพืชมีสีสดใสมำกที่สุด ก. กระจำยแสง ข. แป้งขำ้วเหนียวที่ผสมกบัน้ำ สีผสมอำหำร ข. รวมแสง มีสีสดใสมำกที่สุด ค. สะท้อนไม่เป็ นระเบียบ ค. แป้งขำ้วเหนียวที่ผสมกบัน้ำ สีย้อมผ้ำ ง. สรุปไม่ได้ มีสีสดใสมำกที่สุด 32. ทดลองน ำแท่งปริซึมรับแสงอำทิตย์ แล้ว ง. แป้งขำ้วเหนียวท้งั 3 ส่วน มีสีสดใส ใช้กระดำษสีขำวเป็ นฉำกรับแสง จะมอง เท่ำกัน เห็นแสงที่ฉำกสีขำว เป็ นสีอะไร ก. สีขำว ข. สีด ำ ค. สีแดง ง. สีรุ้ง ทดลองใช้แป้งข้ำวเหนียวแบ่งเป็ น 3 ส่วน ส่วนที่ 1ผสมกบัน้ำ สีที่สกดัจำกพืช ส่วนที่ 2ผสมกับสีผสมอำหำร ส่วนที่ 3ผสมกับสีย้อมผ้ำ จำกน้นั ป้ันเป็นกอ้นแลว้นำ ไปตม้ใน น้ำ เดือด สังเกตสีของแป้งท้งั 3ก้อน
18 อ่านข้อมูลในตารางและตอบค าถามข้อ34 – 35 ชื่อหิน แหล่งหิน การน าไปใช้ 1. หินพัมมิซ - เขตพ้ืนที่ ล ำนำรำยณ์ อ.ชัยบำดำล - ใช้เป็ นวัสดุ กรอง วัสดุ ก่อสร้ำง ใช้ ทำ ผงขดัพ้ืน 2. หินกรวด- มน - พบมำกใน กลุ่มหินทรำย ชุดโครำช โดยเฉพำะใน จังหวัดที่อยู่ใน ที่รำบสูงภำค อีสำนของไทย - ใช้ท ำหิน ประดับ หินก่อสร้ำง 33. ด.ช.ต้นทดลองน ำเลนส์ชนิดหนึ่งมำรับแสง 35. จำกตำรำงข้อมูล จังหวัดใดบ้ำงที่น่ำจะมี และบนัทึกผลโดยวำดภำพประกอบ ดงัน้ี แหล่งหินกรวดมน ก. นครรำชสีมำขอนแก่น ตำก ข. อุบลรำชธำนี นครศรีธรรมรำช ชัยภูมิ อยำกทรำบว่ำ เขำใช้เลนส์ชนิดใดมำทดลอง ค. ขอนแก่น เลย น่ำน และบันทึกผลถูกต้องหรือไม่ ง. ชยัภูมิขอนแก่น อุบลรำชธำนี ก. ใช้เลนส์นูน แต่บันทึกผลไม่ถูกต้อง 36. ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับวัฏจักรของหิน ข. ใช้เลนส์นูน และบันทึกผลถูกต้อง ก. หินชนวนแปรสภำพมำจำกหินแกรนิต ค. ใช้เลนส์เว้ำ แต่บันทึกผลไม่ถูกต้อง ข. หินอ่อนแปรสภำพมำจำกหิน ค. ใช้เลนส์เว้ำ และบันทึกผลถูกต้อง ควอร์ตไซต์ ค. หินไนส์แปรสภำพมำจำกหินแกรนิต ง. หินควอร์ตไซต์แปรสภำพมำจำก หินอ่อน 37. ข้อใดคือปัจจัยที่มีผลท ำให้หินประเภทหนึ่ง สำมำรถเปลี่ยนเป็ นหินอีกประเภทหนึ่งได้ ก. ควำมร้อน ข. ควำมกดดัน ค. กำรผุพังสึกกร่อน ง. ถูกทุกข้อ 38. นักเรียนไปทัศนศึกษำ บังเอิญไปเห็น สถำนที่น้นัทำ จำกหินที่มีกำรแกะสลกั 34. จำกตำรำงข้อมูล ถ้ำนักเรียนต้องกำรไปศึกษำ สวยงำม นักเรียนคิดว่ำเป็ นหินชนิดใด แหล่งหินพัมมิซ ต้องเดินทำงไปที่จังหวัดใด ก. หินอ่อน ข. หินดินดำน ก. จ.นครปฐม ค. หินพัมมิซ ง. หินควอร์ตไซต์ ข. จ.สระบุรี 39. ด.ญ.แอน พบหินชนิดหนึ่ง มีลักษณะ ค. จ.ลพบุรี เหมือนแก้ว มีสีด ำ และผิวเรียบเป็ นมัน ง. จ.รำชบุรี อยำกทรำบว่ำเป็ นหินชนิดใด ก. หินบะซอลต์ ข. หินพัมมิซ ค. หินปูน ง. หินออบซิเดียน
19 วันที่บันทึก ความสูงของต้นพริก(ซม.) กระถาง1 ดินเหนียว กระถาง2 ดินทราย กระถาง3 ดินร่ วน วันแรกของกำรทดลอง 5 5 5 วันที่ 2ของกำรทดลอง 5 5 5 วันที่ 4 ของกำรทดลอง 6 6.5 7 วันที่ 6 ของกำรทดลอง 7 7 8.5 วันที่ 8 ของกำรทดลอง 8 8 10 วันที่ 10 ของกำรทดลอง 9 8 11 วันที่ 12ของกำรทดลอง 10 9 13 วันที่ 14 ของกำรทดลอง 10 11 15 40. หินชนิดใดที่นิยมมำใชใ้นกำรก่อสร้ำง 43. ข้อใดเรียงลำ ดบักำรอุม้น้ำ ของดินจำก เพรำะมีควำมแข็งแรงทนทำน อุม้น้ำ มำกที่สุดไปยงัอุม้น้ำ นอ้ยที่สุด ก. หินอ่อน ข. หินดินดำน ก. ดินทรำย ดินเหนียว ดินร่วน ค. หินพัมมิซ ง. หินแกรนิต ข. ดินร่วน ดินเหนียว ดินทรำย 41. ค. ดินทรำย ดินร่วน ดินเหนียว ง. ดินเหนียว ดินร่วน ดินทรำย 44. ที่ภูเวียงจ.ขอนแก่น เป็ นแหล่งที่มีกำร ขุดพบซำกดึกด ำบรรพ์ หรือฟอสซิลของ ไดโนเสำร์จ ำนวนมำก อยำกทรำบว่ำ ฟอสซิลจะพบในหินชนิดใด ก. หินบะซอลต์ ข. หินตะกอน อยำกทรำบวำ่ผทู้ำ กำรทดลองน้ีมีจุดประสงค์ค. หินไนส์ ง. หินแกรนิต เพื่อกำรศึกษำลักษณะกำรเกิดหินประเภทใด อ่านตารางบันทึกผลการทดลอง และ ก. หินช้นั ตอบค าถามข้อ 45 -46 ข. หินแปร ดิษฐำนันท์ทดลองปลูกต้นพริก 3 ต้น ค. หินแกรนิต ลงไปในดิน 3 ชนิด โดยใช้ขนำดกระถำง ง. ถูกท้งัขอ้ก.และค. เท่ำกนัและต้งักระถำงอยใู่นบริเวณเดียวกนั 42. เขำรดน้ำ และดูแลตน้พริก3 ต้น เหมือนกัน ทุกประกำรเป็ นเวลำ 2 สัปดำห์ เขำสังเกต และบนัทึกผลไดด้งัน้ี ข้อใดควรเป็ นข้อสรุปของด.ญ.หน่อย ที่ได้ จำกกำรทดลอง ก. ฟองก๊ำซที่เกิดข้ึนมีอนัตรำยต่อร่ำงกำย ข. กรดเกลือเจือจำงมีอันตรำยมำก เพรำะ กัดกร่อนหินปูนได้ ค. กรดเกลือเจือจำงเกิดปฏิกิริยำเคมีกับ หินปูนสังเกตได้จำกฟองก๊ำซ ง. หินปูนตำมธรรมชำติจะถูกกัดกร่อน โดยกรดเกลือเจือจำง ทดลองโดยกำรปูกระดำษขำว 1แผ่น น ำขน ม ปั ง 2 แผ่น วำงซ้อน กัน บ น กระดำษขำว แล้วใช้กระดำษขำวอีก แผ่นปิ ดทับด้ำนบนใช้หนังสือหนำๆ วำงทับนำน 2-3 ชวั่โมง เมื่อน ำหนังสือ และแผ่นกระดำษขำวออก สังเกตกำร เปลี่ยนแปลงของขนมปัง จำกกำรทดลองน ำกรดเกลือเจือจำง หยดลงบนหินปูน ปรำกฏว่ำเกิดฟอง ก๊ำซ ท ำให้ ด.ญ.หน่อยได้ข้อสรุปว่ำ…
20 ดาวเคราะห์ใน ระบบสุริยะ ข้อมูล ดาว A ดาว B ดาว C ดาว D 1. เป็ นส่วนหนึ่งของ ระบบสุริยะ 2. เป็ นดำวเครำะห์ที่อยู่ ข้ำงโลก 3. เป็ นดำวเครำะห์ที่มี วงแหวนล้อมรอบ 4. เป็ นดำวเครำะห์ที่ร้อน ที่สุด 5. เป็ นดำวเครำะห์ สีน้ำ เงิน ✓ ✓ - ✓ - ✓ ✓ - - - ✓ - ✓ - - ✓ - - - ✓ 45. ข้อใดเป็ นตัวแปรต้นในกำรทดลอง 49. ดวงจันทร์มีแรงโน้มถ่วง 1 ใน 6ของแรง ก. ชนิดของดินที่น ำมำใช้ในกำรทดลอง โนม้ถ่วงของโลกถำ้ด.ญ.ออ้ชงั่น้ำ หนกั ข. ควำมแข็งแรงของต้นพริกแต่ละต้น บนพ้ืนโลกได้54กิโลกรัม อยำกทรำบว่ำ ค. ระยะเวลำที่ใช้ในกำรทดลอง เมื่อออ้ไปชงั่น้ำ หนกับนดวงจนัทร์จะชงั่ ได้ ง. ควำมสูงของต้นพริก กี่กิโลกรัม 46. ข้อใดสรุปผลกำรทดลองได้ถูกต้อง ก. 9 กิโลกรัม ก. ดินเหนียวอุม้น้ำ ไดด้ีและมีเน้ือแน่น ข. 54 กิโลกรัม ข. ดินทรำยมีอำหำรของพืชน้อย และ ค. 108 กิโลกรัม น้ำ ไหลผำ่นไดส้ะดวก ง. 324 กิโลกรัม ค. ดินร่วนมีธำตุอำหำรมำกเหมำะกับกำร 50. ขอ้มูลของดำวเครำะห์เป็นดงัน้ี ปลูกต้นไม้ทุกชนิด ง. ดินต่ำงชนิดกันมีผลท ำให้พืชเจริญ เติบโตแตกต่ำงหัน 47. ข้อใดไม่ใช่กำรบ ำรุงรักษำดิน ก. กำรพรวนดิน ข. กำรท ำไร่เลื่อนลอย ค. กำรปลูกพืชคลุมดิน ง. กำรปลูกพืชหมุนเวียน 48. จำกข้อมูลของดำวเครำะห์ ข้อใดสรุปได้ จำกข้อมูล เป็ นลักษณะของดำวเครำะห์ ถูกต้อง ดวงใด ก. ดำว A คือ ดำวพุธ ดำว B คือ ดำวศุกร์ ก. ดำวพุธ ข. ดำว C คือ ดำวเสำร์ ดำว D คือ ดำว ข. ดำวศุกร์ เนปจูน ค. ดำวมฤตยู ค. ดำว A คือ ดำวอังคำร ดำว C คือ ดำวเสำร์ ง. ดำวสมุทร ง. ดำว B คือ ดำวศุกร์ ดำว D คือ ดำว ดำวเครำะห์ดวงน้ีมีช้ันบรรยำกำศเป็น คำร์บอนไดออกไซด์ที่หนำทึบท ำให้ เกิดกำรสะสมควำมร้อนเอำไว้ จึงเป็ น ดำวเครำะห์ที่มีอุณหภูมิสูงที่สุด