The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by saypranpung, 2021-01-23 05:01:10

ชุดการสอน ชุดที่ 1 การศึกษาพันธุศาสตร์ของเมนเดล

ชุดการสอน ชุดที่ 1

ชุดการสอน

วชิ า ชวี วิทยา รหสั วชิ า ว 312424 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4

เรื่อง การถา่ ยทอดทางพนั ธกุ รรม

ชดุ ที่ 1

การศึกษาพันธศุ าสตรข์ องเมนเดล

นางสาวดลยา มเี ถ่อื น
นักศกึ ษาฝกึ ประสบการณว์ ิชาชพี ครใู นสถานศกึ ษา



คานา

การจัดทาชุดการสอน เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม รายวิชา ว 31242 ชีววิทยา 2
ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4 เล่มนี้จัดทาขึ้นเพ่ือใช้เป็นแนวทางในการศึกษาและพัฒนาการเรียนการสอน สาระการ
เรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 ช่วยให้ผู้เรียนสามารถเกิดการเรียนรู้และมีผลสัมฤทธ์ิ
ทางการเรยี นดขี ้นึ ทาให้การเรียนรู้เป็นไปตามลาดบั ขัน้ ตอนอย่างมีคุณภาพ ผู้ศึกษาได้พยายามค้นคว้าเอกสาร
และตาราต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวข้องกับการจัดทาชุดการสอน เพ่ือให้เกิดความชัดเจนถูกต้องตามหลักวิชา ดังน้ันจึงได้
จัดทาชดุ การสอนทั้งหมด 6 ชดุ ดงั นี้

1. ชดุ การสอน เรื่อง การศกึ ษาพนั ธุศาสตร์ของเมนเดล
2. ชุดการสอน เรอ่ื ง ความนา่ จะเป็น
3. ชุดการสอน เร่ือง กฎแห่งการแยกและกฎแหง่ การรวมกลุ่มอยา่ งอสิ ระ
4. ชุดการสอน เร่อื ง การผสมเพ่อื ทดสอบ
5. ชุดการสอน เร่ือง ลกั ษณะทางพันธกุ รรมท่ีเปน็ ส่วนขยายของพันธุศาสตรเ์ มนเดล ตอนที่ 1
6. ชุดการสอน เรอ่ื ง ลักษณะทางพันธุกรรมที่เปน็ สว่ นขยายของพนั ธุศาสตรเ์ มนเดล ตอนที่ 2
ในแต่ละชุดการสอน สามารถนาไปประกอบการสอนและนักเรียนสามารถนาไปศึกษาได้ด้วยตนเอง
นักเรียนสามารถนาไปทบทวนเน้ือหาหรือสามารถนาไปศึกษาเพิ่มเติมกรณีท่ีเรียนไม่ทันเพ่ือนหรือนาไปใช้ใน
การเรียนซ่อมเสริมในกรณีท่ีเรียนแล้วสอบไม่ผ่าน ซึ่งผู้ศึกษาได้พยายามนาเสนอรายละเอียดความสาคัญท่ี
จาเปน็ ในชดุ การสอนชุดนอ้ี ยา่ งครบถ้วน
ชดุ การสอน ดังกลา่ วได้ผ่านการตรวจสอบจากผูเ้ ชย่ี วชาญ และได้นาไปใช้เพื่อทดลองหาประสิทธิภาพ
แล้วสามารถนามาใช้แก้ปัญหาและพัฒนาการเรียนการสอนได้เป็นอย่างดี จึงหวังเป็นอย่างย่ิงว่า ชุดการสอน
เร่ือง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม รายวิชา ว 31242 ชีววิทยา 2 ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4 นี้ สามารถ
นาไปใช้ประโยชนไ์ ด้จริงและเป็นตวั อยา่ งแกผ่ ู้ทีส่ นใจได้ต่อไป

ดลยา มีเถอ่ื น

สารบญั ข

คานา หน้า
สารบัญ ก
สารบญั ภาพ ข
คาอธิบายรายวิชาสาระการเรียนรพู้ ื้นฐานชีววิทยา 2 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 ง
ผังมโนทัศน์สาระการเรียนรู้ชวี วทิ ยา 2 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 1
4
เอกสารสาหรบั ครูชดุ การสอนท่ี 1
คาแนะนาสาหรับครูในการใชช้ ุดการสอนท่ี 1 6
คาชี้แจงสาหรบั ครผู สู้ อน 8
แผนการจัดการเรียนรู้ 9
บัตรแนวเฉลยกิจกรรมท่ี 1 19
บัตรแนวเฉลยกิจกรรมที่ 2 20
บัตรแนวเฉลยกจิ กรรมท่ี 3 21
บตั รแนวเฉลยกิจกรรมท่ี 4 23
บตั รเฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น 24
บตั รเฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน
แบบประเมินพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม
แบบประเมนิ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
เกณฑก์ ารประเมินทักษะการคิด

เอกสารสาหรับนกั เรยี นชดุ การสอนที่ 1
คาแนะนาสาหรบั นักเรียนในการใช้ชุดการสอนที่ 1
แบบทดสอบกอ่ นเรียนชุดการสอนที่ 1
บตั รกจิ กรรมที่ 1
บตั รแนวเฉลยกิจกรรมท่ี 1

สารบญั (ตอ่ ) ค

หนา้

บัตรกจิ กรรมที่ 2 เร่อื ง กรอบแนวคดิ การสบื ค้น
บตั รกิจกรรมท่ี 3 เร่อื ง พนั ธศุ าสตร์
บัตรกจิ กรรมท่ี 4 เร่ือง การศึกษาพนั ธุศาสตรข์ องเมนเดล
บัตรกจิ กรรมที่ 5 เรอื่ ง โดนมโิ นพนั ธศุ าสตร์
บัตรความร้ทู ี่ 1 เร่ือง พันธศุ าสตร์
บตั รความรทู้ ่ี 2 เร่อื ง ประวัติของเมนเดล
บตั รความรทู้ ี่ 3 เรอื่ ง การศกึ ษาพันธุศาสตรข์ องเมนเดล
บตั รความรู้ท่ี 4 เรอ่ื ง คาศพั ทพ์ ้ืนฐานการถา่ ยทอดลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม
แบบทดสอบหลงั เรียนชดุ การสอนที่ 1
บัตรเฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน
บัตรเฉลยแบบทดสอบหลังเรียน
แบบประเมินความพึงพอใจของนกั เรยี นท่ีมตี ่อการเรียนโดยใช้ชดุ การสอน

บรรณานุกรม



สารบญั ภาพ

หนา้

บตั รกจิ กรรมที่ 2 เรือ่ ง กรอบแนวคดิ การสืบคน้
บัตรกจิ กรรมท่ี 3 เร่อื ง พนั ธุศาสตร์
บัตรกิจกรรมท่ี 4 เรื่อง การศึกษาพันธุศาสตรข์ องเมนเดล
บัตรกิจกรรมที่ 5 เร่ือง โดนมิโนพันธศุ าสตร์
บตั รความร้ทู ่ี 1 เรอ่ื ง พันธศุ าสตร์
บัตรความรู้ท่ี 2 เรอ่ื ง ประวัติของเมนเดล
บตั รความรู้ท่ี 3 เรื่อง การศกึ ษาพนั ธุศาสตร์ของเมนเดล
บัตรความรู้ที่ 4 เร่ือง คาศพั ทพ์ ้นื ฐานการถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม
แบบทดสอบหลังเรียนชดุ การสอนที่ 1
บตั รเฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน
บัตรเฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น
แบบประเมินความพงึ พอใจของนกั เรยี นทมี่ ตี ่อการเรียนโดยใช้ชดุ การสอน

บรรณานกุ รม

1

คาอธิบายรายวิชาสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
รายวิชา ชวี วิทยา 2 (ว 31242) ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4

ศึกษาวิเคราะห์เก่ียวกับโครโมโซมและสารพันธุกรรม โครโมโซม สารพันธุกรรม สมบัติของสาร
พันธุกรรม มิวเทชัน การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม การศึกษาพันธุกรรมของเมนเดล ลักษณะทาง
พันธุกรรมท่ีเป็นส่วนขยายของพันธุศาสตร์เมนเดล ยีนบนโครโมโซมเดียวกัน เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ
พันธุวิศวกรรมและการโคลนยีน การหาขนาดของดีเอ็น และการหาลาดับนิวคลีโอไทด์ การประยุกต์ใช้ดี
เอ็นเอ เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอกับความปลอดภัยทางชีวภาพและชีวจริยธรรม วิวัฒนาการ หลักฐานและ
ข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต แนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของส่ิงมีชีวิต พันธุศาสตร์
ประชากร ปจั จยั ทีท่ าให้เกดิ การเปลี่ยนแปลงความถ่ขี องแอลลลี กาเนิดสปีชีส์
โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต
การวิเคราะห์ การทดลอง การอภิปราย การอธิบาย และสรุป เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ
มคี วามสามารถในการตดั สินใจ สอื่ สารสง่ิ ทเ่ี รียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิตวิทยาศาสตร์
จริยธรรม คุณธรรม และค่านยิ ม

2

สาระชวี วทิ ยา

2. เขา้ ใจการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม และการถา่ ยทอดยนี บนโครโมโซม สมบัติและหน้าท่ี
ของสารพันธุกรรม การเกิดมิวเทชัน เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ หลักฐาน ข้อมูลและแนวคิดเก่ียวกับ
วิวัฒนาการของสง่ิ มชี ีวิต ภาวะสมดุลของฮารด์ ี - ไวน์เบิร์ก การเกิดสปชี ีใหม่ ความหลากหลายทางชีวภาพ
ความหลากหลายของสงิ่ มชี วี ติ และอนุกรมวิธาน รวมทั้งนาความรู้ไปใช้ประโยชน์

ผลการเรียนรู้

1. สืบค้นข้อมูล อธิบายสมบัติและหน้าท่ีของสารพันธุกรรม โครงสร้างและองค์ประกอบทางเคมี
ของ DNA และสรปุ การจาลอง DNA

2. อธิบายและระบุข้ันตอนในกระบวนการสังเคราะห์โปรตีนและหน้าท่ีของ DNA และ RNA
แตล่ ะชนิดในกระบวนการสังเคราะหโ์ ปรตนี

3. สืบค้นข้อมูล และอธิบายการมิวเทชันระดับยีนและระดับโครโมโซม สาเหตุการเกิดมิวเทชัน
รวมทง้ั ยกตวั อย่างโรคและกลุ่มอาการท่ีเป็นผลของการเกดิ มิวเทชัน

4. สืบค้นข้อมลู อธบิ ายและสรุปผลการทดลองของเมนเดล
5. สรุปความสัมพันธ์ระหว่างสารพันธุกรรม แอลลีล โปรตีน ลักษณะทางพันธุกรรม และ
เช่ือมโยงกับความร้เู ร่ืองพันธุศาสตร์เมนเดล
6. อธบิ ายและสรุปกฎแห่งการแยกและกฏแห่งการรวมกลุ่มอย่างอิสระ และนากฏของเมนเดลนี้
ไปอธบิ ายการถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธกุ รรมและใชใ้ นการคานวณโอกาสในการเกิดฟีโนไทป์และจีโนไทป์
แบบตา่ ง ๆ ของรนุ่ F1 และ F2
7. สืบค้นข้อมูล วิเคราะห์ อธิบาย และสรุปเก่ียวกับการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมท่ีเป็น
ส่วนขยายของพนั ธุศาสตร์เมนเดล
8. สืบค้นขอ้ มลู วเิ คราะห์ และเปรียบเทียบลักษณะทางพันธุกรรมท่ีมีการแปรผันไม่ต่อเน่ืองและ
ลักษณะทางพนั ธุกรรมทีม่ กี ารแปรผันต่อเนื่อง
9. อธบิ ายการถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม และยกตัวอย่างลักษณะทางพันธุกรรมท่ีถูกควบคุมด้วย
ยีนบนโครโมโซมเพศ
10. อธบิ ายหลักการสร้างสง่ิ มีชีวิตดดั แปรพันธกุ รรมโดยใช้ดเี อน็ เอรีคอมบแิ นนท์
11. สืบค้นขอ้ มลู ยกตวั อยา่ ง และอภิปรายการนาเทคโนโลยีทางดีเอ็นเอไปประยุกต์ใช้ท้ังในด้าน
สิ่งแวดล้อม นิติวิทยาศาสตร์ การแพทย์ การเกษตร และอุตสาหกรรม และข้อควรคานึงถึงด้านชีวจริย
ธรรม
12. สืบค้นข้อมูลและอธิบายเก่ียวกับหลักฐานท่ีสนับสนุนและข้อมูลท่ีใช้อธิบายการเกิด
วิวฒั นาการของ 15. สืบคน้ ส่งิ มีชีวติ
13. อธบิ ายและเปรยี บเทียบแนวคิดเก่ียวกับวิวัฒนาการของสิ่งชีวิตของฌอง ลามาร์กและทฤษฎี
เกี่ยวกับวิวัฒนาการของสงิ่ มชี วี ิตของชาลส์ ดาร์วนิ

3

14. ระบสุ าระสาคัญและอธิบายเง่ือนไขของภาวะสมดุลของฮาร์ดี – ไวน์เบริ ก์ ปัจจยั ท่ที าให้เกิดการ
เปล่ยี นแปลงความถข่ี องแอลลลี ในประชากร พร้อมทง้ั คานวณหาความถ่ขี องแอลลลี และจีนไทป์ของ
ประชากรโดยใช้หลกั ของฮารด์ ี – ไวเบริ ก์

15. สืบค้นข้อมูล อภิปราย และอธบิ ายกระบวนการเกิดสปชี ีส์ใหมข่ องส่ิงมีชวี ติ

รวมทัง้ หมด 15 ตัวชว้ี ดั

4

ผังมโนทัศนส์ าระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
รายวิชาชีววทิ ยา รหัสวิชา ว 31242 ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4

การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพันธุกรรม

การศึกษาพนั ธกุ รรม การศกึ ษาพนั ธกุ รรม การถา่ ยทอดยีน
ของเมนเดล ของเมนเดล บนโครโมโซม

สรปุ เป็น สัมพันธ์กับ ได้แก่ อาจเกิด

กฎการแยก การถ่ายทอดยนี ความเด่น ครอสซงิ โอเวอร์
บนโครโมโซม ไม่สมบูรณ์
กฎการ อาจเกดิ
รวมกลมุ่ ความเด่นร่วม
อย่างอสิ ระ รีคอมบิเนชนั

มัลตเิ พลิ
แอลลีล

ลกั ษณะ
ควบคมุ ดว้ ยยีน

หลายคู่

การถา่ ยทอดยนี
บนโครโมโซม

เอกสารสาหรับครู
รายวิชา ชวี วิทยา 2 (ว 31242)

ชดุ การสอนท่ี 1
เรอ่ื ง

การศกึ ษาพันธุศาสตรข์ องเมนเดล

สาหรบั นกั เรียนชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4

6

คาแนะนา
สาหรบั การใช้ชดุ การสอนท่ี 1
เรือ่ ง การศกึ ษาพนั ธศุ าสตร์ของเมนเดล
รายวิชา ว 31242 ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4

การใช้ชดุ การสอน ควรตรวจสอบเอกสารให้ตลบถ้วน ในแตล่ ะชุดการสอน ประกอบด้วย ดงั น้ี
1. เอกสารสาหรับครู ประกอบด้วย
1.1 แผนการจดั การเรียนรู้
1.2 บัตรแนวเฉลยกจิ กรรมที่ 1
1.3 บัตรแนวเฉลยกจิ กรรมที่ 2
1.4 บัตรเฉลยกิจกรรมท่ี 3
1.5 บตั รเฉลยบตั รคาถาม
1.6 ตวั อย่างบัตรสรุปเน้ือหา
1.7 บัตรเฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น
1.8 บัตรเฉลยแบบทดสอบหลังเรียน
1.9 แบบประเมนิ พฤติกรรมการทางานกลมุ่
1.10 แบบประเมนิ ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
1.11 เกณฑ์การประเมินทกั ษะการคดิ
2. เอกสารสาหรับนักเรยี น ประกอบดว้ ย
2.1 แบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธิ์กอ่ นเรียน เร่อื ง การศึกษาพันธุศาสตร์ของเมนเดล
2.2 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น
2.3 บัตรคาสัง่ ท่ี 1
2.4 บตั รกจิ กรรมท่ี 1 แผนผงั มโนมติ เร่อื ง พนั ธศุ าสตรเ์ มนเดล
2.5 บัตรแนวเฉลยกิจกรรมท่ี 1
2.6 บตั รคาส่งั ที่ 2
2.7 บตั รกิจกรรมที่ 2
2.8 แบบบันทึกกิจกรรมท่ี 2
2.9 บัตรเน้อื หาที่ 1 เรื่อง .....................
2.10 ตวั อย่างบตั รสรุปเนื้อหา

คาแนะนา 7
สาหรบั การใชช้ ุดการสอนที่ 1
เรือ่ ง การศึกษาพันธุศาสตรข์ องเมนเดล
รายวชิ า ว 31242 ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 4

2.11 บัตรแนวเฉลยกิจกรรมท่ี 2
2.12 บตั รกิจกรรมท่ี 3
2.13 บัตรแนวเฉลยกจิ กรรมท่ี 3
2.14 บตั รคาถาม
2.15 บตั รเฉลยคาถาม
2.16 แบบทดสอบหลังเรียน
2.17 บัตรเฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน
2.18 บตั รเฉลยแบบทดสอบหลังเรียน

8

คาชี้แจงสาหรับครู

1. ก่อนสอน

1.1 ศกึ ษาแผนการจัดการเรยี นรู้

1.2 เตรยี มเอกสารทตี่ ้องใช้ไว้ตามลาดบั ก่อน – หลงั ตามทีร่ ะบไุ ว้ในเอกสารสาหรับครู

1.3 ศึกษารายละเอยี ดของชดุ การสอนแตล่ ะชุด

1.4 ทดสอบการใชส้ ่ืออปุ กรณ์ สาหรับการสอนอยา่ งครบถว้ น

1.5 แบง่ กลมุ่ นักเรยี นออกเป็นกลมุ่ ๆ ละ 5 คน โดยให้สมาชิกในแต่ละกลุ่มประกอบด้วย

นกั เรียนทมี่ รี ะดับคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นสงู ปานกลาง อ่อน โดยการจับฉลากตามคะแนน

และจัดแบง่ หนา้ ทีบ่ ทบาทแตล่ ะคน ดงั นี้

1.5.1 ประธาน ทาหน้าที่ ควบคุมการทางานของกลุ่ม

1.5.2 รองประธาน ทาหน้าที่ แทนประธานเม่ือประธานไมอ่ ยู่

1.5.3 เลขานุการ ทาหน้าที่ บันทึกข้อมูล ความคิดเห็นของ

สมาชิกในกลมุ่

1.5.4 สมาชกิ ทาหนา้ ที่ ร่วมกันเสนอความคิดเห็นอย่าง

หลากหลายจากขอ้ มลู ท่ีได้รับ

1.6 ครชู ้แี จงวธิ กี ารเรยี น และกจิ กรรมทน่ี กั เรยี นตอ้ งปฏิบัติตามบตั รกจิ กรรม

2. ขณะสอน

2.1 ช้ีแจงจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้และลักษณะการทางานรว่ มกันเป็นกลุ่ม

2.2 ชี้แจงและทาความเขา้ ใจเกี่ยวกบั กจิ กรรมการเรยี นรู้ใหก้ บั นกั เรยี นทราบ

2.3 จัดกลุ่มตามแผนการจัดการเรยี นและสือ่ อปุ กรณ์ตา่ ง ๆ

2.4 ดาเนนิ การจักกิจกรรมตามแผนการจัดการเรียนรู้

2.4.1 แจกเอกสาร เชน่ เอกสารสาหรับนกั เรยี นและสอ่ื อปุ กรณต์ ่าง ๆ

2.4.2 เปิดโอกาสให้นักเรียนได้มีปฏิสัมพันธ์ภายในกลุ่ม เพ่ือให้ได้มาซ่ึงข้อสรุปของ

กล่มุ เช่น การอภปิ ราย ซกั ถาม เสนอแนะ แลกเปล่ยี นความคิดเหน็ ซงึ่ กนั และกนั

2.4.3 ครูเป็นผู้ให้คาแนะนาและเป็นท่ีปรึกษาของนักเรียน ขณะท่ีนักเรียนทา

กิจกรรมและสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรมทุกคร้ังและตรวจสอบการปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ของ

นักเรยี น

3. หลังการสอน

3.1 ตรวจแบบฝกึ หดั

3.2 ตรวจแบบบันทึกผลการปฏบิ ัติกจิ กรรม

3.3 ตรวจแบบทดสอบกอ่ น – หลงั เรยี น

3.4 บนั ทึกแบบประเมนิ พฤติกรรมการทางานกล่มุ

3.5 บันทกึ แบบประเมนิ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์

3.6 ประเมินทกั ษะการคิด

9

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 1

รายวิชา ว 31242 ชอื่ รายวิชา ชวี วทิ ยา 2 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 เร่ือง การถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธุกรรม ระดบั ช้นั ม.4 ภาคเรยี นท่ี 2/2563

เร่อื ง การศึกษาพันธกุ รรมของเมนเดล เวลา 2 ช่วั โมง

ชือ่ ผู้สอน นางสาวดลยา มเี ถือ่ น โรงเรยี น ทองแสนขนั วิทยา

วนั ท่ี ............. เดือน .......................... พ.ศ. ........................ คะแนนเกบ็ 5 คะแนน

สาระชีววทิ ยา
2. เขา้ ใจการถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม การถา่ ยทอดยีนบนโครโมโซม สมบัตแิ ลพหน้าทข่ี อง

สารพนั ธุกรรม การเกดิ มวิ เทชัน เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ หลกั ฐานขอ้ มลู และแนวคดิ เกย่ี วกบั วิวัฒนาการของ
ส่ิงมีชวี ิต ภาวะสมดุลของฮาร์ดี – ไวน์เบริ ก์ การเกดิ สปีชีส์ใหม่ ความหลากหลายทางชวี ภาพ กาเนดิ ของ
สง่ิ มชี วี ติ ความหลากหลายของสิ่งมีชีวติ และอนุกรมวิธาน รวมท้ังนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

ผลการเรยี นรู้
4. สบื คน้ ขอ้ มูล อธิบายและสรปุ ผลการทดลองของเมนเดล

สาระสาคญั
สงิ่ มชี วี ติ แตล่ ะชนิดจะมลี กั ษณะเฉพาะซ่ึงสามารถถ่ายทอดจากรุ่นหน่ึงไปยงั อีกรุ่นหนึ่งได้เมนเดล

ศกึ ษาการถ่ายทอดลักษณะทางพนั ธุกรรมโดยการผสมพนั ธุ์ถวั่ ลนั เตาจนสรุปเปน็ กฎการแยกและกฎการ
รวมกล่มุ อยา่ งอิสระ กฎการแยกมใี จความวา่ แอลลลี ที่อยู่เป็นคจู่ ะแยกออกจากกนั ในระหว่างการสร้างเซลล์
สบื พนั ธุ์ โดยเซลล์สืบพนั ธุแ์ ต่ละเซลลจ์ ะมเี พียงแอลลีลใดแอลลลี หนึ่ง กฎการรวมกลุม่ อย่างอสิ ระมีใจความ
วา่ หลังจากคูข่ องแอลลีลแยกออกจากกัน แตล่ ะแอลลลี จะจดั กลุ่มอยา่ งอสิ ระกบั แอลลีลอน่ื ๆ ทแ่ี ยกออก
จากคเู่ ช่นกันในการเขา้ ไปอยู่ในเซลล์สบื พนั ธุ์

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. ด้านความรู้ (Knowledge) นักเรียนสามารถ
1.1 อธบิ ายการทดลองของเมนเดลได้
1.2 สรุปการทดลองของเมนเดลได้
1.3 วิเคราะห์และลงขอ้ สรปุ ข้อมูลได้

10

2. ดา้ นทักษะ / กระบวนการ (Process / Products) นกั เรยี นสามารถ
2.1 สบื ค้นขอ้ มลู ท่ีกาหนดให้ได้
2.2 สามารถจดั กระทาและสอ่ื ความขอ้ มูลตามรปู แบบทอี่ อกแบบให้

3. ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (Attitude)
3.1 เป็นผทู้ ่มี นี สิ ัยใฝเ่ รียนรู้
3.2 เป็นผทู้ รี่ จู้ ักการให้ความรว่ มมือ

สมรรถนะนกั เรียน
1. สมรรถนะทางด้านการแกป้ ญั หา
2. สมรรถนะทางดา้ นทกั ษะการคิด
3. สมรรถนะทางดา้ นทักษะการใช้เทคโนโลยี
4. สมรรถนะทางด้านทักษะการใชช้ วี ติ
5. สมรรถนะทางด้านการสือ่ สาร

สาระการเรยี นรู้
การศึกษาพันธศุ าสตรข์ องเมนเดล

รูปแบบวธิ ีการจัดประสบการณก์ ารจดั การเรียนรู้
รูปแบบวิธีการจัดประสบการณก์ ารเรียนรู้ ใชว้ ิธกี ารสอนแบบสบื เสาะหาความรูแ้ บบ 5 ขั้นตอน

(5Es)

ลาดับขนั้ การจัดประสบการณ์เรยี นรู้
1. ข้นั สงั เกต
1. ข้ันทบทวนความร้เู ดิม/ประสบการณเ์ ดมิ :
1.1 ครใู หน้ กั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน เพ่ือทดสอบความร้ขู องนกั เรยี น
1.2 ทบทวนความรเู้ ดมิ ประสบการณ์เดมิ เก่ยี วกบั การทางานของยนี ทที่ าหน้าท่ี

ควบคมุ ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมของสิ่งมีชวี ิตผ่านกระบวนการสังเคราะห์โปรตีน ซึ่งทาใหเ้ กิดลักษณะตา่ ง ๆ
ของสิง่ มีชวี ติ บางลักษณะจะปรากฏให้เห็นได้ เชน่ สตี า สผี ิว ความสงู บางลกั ษณะจะไม่สามารถสงั เกตเหน็
ไดจ้ ากภายนอกแตส่ ามารถตรวจสอบได้ เชน่ หมู่เลือด ตาบอดสี

2. ขั้นใหเ้ หตกุ ารณใ์ หม่/ประสบการณ์ใหม่ : ครใู ช้คาถามเพอ่ื นาไปสกู่ ารสบื ค้นและ
อภิปรายวา่ ลักษณะตา่ ง ๆ ของสงิ่ มีชวี ิตถ่ายทอดจากบรรพบุรุษไปสลู่ ูกหลานได้อยา่ งไร (นกั เรียนอภิปราย
แสดงความคดิ เห็นอยา่ งอิสระ)

11

3. ขัน้ วเิ คราะห์ อภปิ ราย และลงขอ้ สรปุ ข้อมลู เพ่ือสร้างประเด็นปัญหา : การศกึ ษาทาง
วทิ ยาศาสตร์เพอื่ อธบิ ายเกยี่ วกบั การถ่ายทอดลักษณะทางพนั ธุกรรมทาได้อยา่ งไร

4. จากผลการลงขอ้ สรปุ ดงั กล่าวขอ้ 3 กาหนดเปน็ ปัญหาท่ตี อ้ งคิดค้นหาคาตอบ :
สืบคน้ ขอ้ มูลการการศกึ ษาเก่ียวกบั การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมของเมนเดล

2. ขั้นสารวจและคน้ หา
1. ครูแจกใบกจิ กรรมท่ี 1 เรื่อง ฉันเหมอื นใครกนั นะ พร้อมอ่านคาชแ้ี จง และลงมอื ปฏิบัติ

ครอู ธบิ ายเรอ่ื งการศึกษาพนั ธุศาสตร์ของเมนเดล โดยอธิบายเก่ียวกบั ประวัตขิ องเมนเดล การทดลองผสม
ถ่วั ลันเตาของเมนเดล โดยใช้ Power Point เร่ือง การศกึ ษาพนั ธุศาสตร์ของเมนเดล

2. แจกใบกจิ กรรมท่ี 1 เรอื่ ง การศึกษาพนั ธุศาสตรข์ องเมนเดล พรอ้ มทั้งอธิบายและทาความ
เขา้ ใจร่วมกนั

3. ให้นกั เรียนลงมอื ทาใบกจิ กรรม ขณะท่นี ักเรียนทาใบกิจกรรม ครสู ังเกตพฤตกิ รรมนักเรยี น
เพื่อเปน็ หลักฐานการวดั และประเมินผลการเรียนรู้

4. เม่ือทากจิ กรรมเสร็จครูและนักเรยี นร่วมกนั อภปิ ราย เฉลยใบกจิ กรรมรว่ มกนั
5. ครูใหน้ กั เรียนเล่นเกม โดมิโนหรรษา ครูอธบิ ายวิธีการเลน่ และแจกบัตรคาศพั ทใ์ หน้ กั เรยี น
คนละ 1 คา เพอ่ื หาคาตอบและรวมกลุม่ กบั เพ่ือนให้ถูกต้อง เมื่อใครหากลุ่มได้ครบให้นัง่ ประจากลุ่มของ
ตนเอง
6. อภปิ รายคาตอบร่วมกนั กลุม่ ไหนท่ีถกู ทั้งหมดรบั ของรางวัล สว่ นกลุ่มไหนผิดหรือนักเรียน
คนใดอย่กู ลมุ่ ผิดใหแ้ กไ้ ข

3. ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป
1. ครอู ธบิ ายคาศัพท์พ้นื ฐานทีเ่ ก่ยี วกับการถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธุกรรม
2. เปดิ โอกาสใหน้ กั เรยี นซกั ถาม ขอ้ สงสัยต่าง ๆ

4. ขั้นขยายความรู้
ให้นักเรียนดูวีดีโอเรือ่ ง ประวตั เิ มนเดลจาก

https://www.youtube.com/watch?v=dLX_fJhSlmQ

5. ขน้ั ประเมนิ
ครูแจกแบบทดสอบให้นักเรียนเพอื่ ทาการทดสอบหลงั เรียน

สอ่ื / แหล่งการเรยี นรู้
1. แบบทดสอบก่อนเรียน
2. หนังสอื เรยี นรายวิชาชีววทิ ยาเพมิ่ เตมิ เล่ม 2 ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 4
3. ใบกิจกรรม เรอื่ ง การศกึ ษาพนั ธศุ าสตร์ของเมนเดล
4. Power Point เรอ่ื ง การศึกษาพันธศุ าสตรข์ องเมนเดล

12

5. โดมโิ นหรรษา
6. วีดีโอเรื่อง ประวตั เิ มนเดลจาก https://www.youtube.com/watch?v=dLX_fJhSlmQ
การวัดและประเมนิ ผล

1. กรอบการวดั และประเมนิ ผล กาหนดกรอบการวดั และประเมนิ ผลดังตาราง
ตาราง: แสดงกรอบการวัดและประเมนิ ผล

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ (ข้อท)ี่ ประเด็นทว่ี ัดและประเมินผล วธิ กี ารวัดผล เคร่อื งมอื วัดผล
ตรวจคาตอบ ใบกิจกรรม
ดา้ นความรู้ (K) ตรวจคาตอบ ใบกิจกรรม

1.1 / 1.2 -การทดลองของเมนเดล ตรวจคาตอบ ใบกิจกรรม
- สรปุ การทดลองของเมนเดล

การวิเคราะห์ อภิปราย และลง

ขอ้ สรุปขอ้ มูล

การตคี วามโดยการอ้างองิ

สารสนเทศ

1.3 การนาเสนอขอ้ ค้นพบโดยการ
รายงานด้วยวาจา

การตคี วามโดยการอา้ งอิง

สารสนเทศ

การนาเสนอข้อค้นพบโดยการ

รายงานดว้ ยวาจา

ดา้ นทกั ษะ (P)

2.1 สบื ค้นขอ้ มลู

2.2 การจัดกระทาข้อมูล และ ตรวจคาตอบ ใบกิจกรรม
ด้านจติ พสิ ยั (A) การสือ่ ความหมายข้อมูล

3.1 ผ้ทู มี่ ีนิสัยใฝ่เรียนรู้ สังเกต แบบประเมนิ
พฤตกิ รรม
3.2 ผู้ทร่ี ้จู กั การให้ความรว่ มมือ สงั เกต แบบประเมิน
พฤติกรรม

13

2. เกณฑก์ ารประเมนิ
2.1 เกณฑก์ ารประเมินคะแนนรูบรคิ (Rubric Score) ใชเ้ กณฑป์ ระเมนิ โดยเขียนตวั รูบรคิ

แบบแยกใหค้ ะแนนเป็นรายข้อ (Analytical Rubric Score) ดงั ตาราง
ตาราง: แสดงเกณฑ์การประเมนิ คะแนนรูบริคโดยเขียนตวั รบู รคิ แบบแยกให้คะแนนเปน็ รายข้อ

จานวนคะแนนแต่ละเกณฑ์ของรูบรคิ (ดา้ น)

จุดประสงค์ท่ี 1.1 1.2 เกณฑ์รูบริคของแต่ละ

ประเด็นทท่ี าการประเมนิ ประเดน็ K คะแนน P คะแนน A คะแนน

การลงข้อสรุปขอ้ มลู ระบอุ งค์รวมของข้อมลู / 4
ระบจุ ดุ ประสงค์ของการ / 4
วเิ คราะห์ข้อมลู / 4
แยกแยะขอ้ มลู ท้งั หมด / 4
เปน็ องค์ประกอบย่อย / 4

อธบิ ายคุณสมบตั ิเฉพาะ / 4

ของแตล่ ะองคป์ ระกอบ / 4
/ 4
ย่อย

อธบิ ายคณุ สมบตั เิ ฉพาะ

ของแตล่ ะองคป์ ระกอบ

ย่อย

วิเคราะห์ความสมั พนั ธ์

ของแตล่ ะองคป์ ระกอบ

ย่อยตามจดุ ประสงคก์ าร

วเิ คราะห์

ลงข้อสรุปขอ้ มลู เปน็

สารสนเทศตาม

ความสัมพันธ์ท่พี บ

การตคี วามโดยการอ้างอิง ตคี วามข้อมูลโดยอา้ งอิง

สารสนเทศ สารสนเทศเพื่อสรปุ เป็น

ความรู้ทางวทิ ยาศาสตร์

14

จดุ ประสงค์ท่ี 1.3 เกณฑร์ ูบรคิ ของแต่ละ จานวนคะแนนแตล่ ะเกณฑข์ องรบู รคิ (ดา้ น)

ประเด็นทท่ี าการประเมิน ประเดน็ K คะแนน P คะแนน A คะแนน

เลอื กวิธีการจดั กระทาขอ้ มลู เลือกวธิ ีการจัดกระทาข้อมลู / 4
อยา่ งเหมาะสม

ใหเ้ หตผุ ลของการเลอื ก

วธิ ีการจดั กระทาข้อมูลที่ / 4

กาหนดขนึ้

เลือกรปู แบบการส่ือ เลอื กรปู แบบการสื่อ

ความหมายข้อมูล ความหมายข้อมลู ทจี่ ดั / 4

กระทาแลว้ อยา่ งเหมาะสม

ให้เหตุผลในการเลือก

รูปแบบการส่ือความหมาย / 4

ข้อมลู ท่ีจดั กระทาแลว้ ได้

ออกแบบรูปแบบการสือ่

ความหมายขอ้ มลู ที่จัด / 4

กระทาแล้วอย่างเหมาะสม

รวมคะแนนดา้ นความรู้ (K) 52

จดุ ประสงค์ท่ี 2.1 เกณฑร์ ูบรคิ ของแตล่ ะ จานวนคะแนนแตล่ ะเกณฑ์ของรูบรคิ (ดา้ น)

ประเดน็ ทที่ าการประเมิน ประเดน็ K คะแนน P คะแนน A คะแนน

การดาเนินการรวบรวม

ข้อมูลจากแหล่งสบื ค้น /4
ขอ้ มูลครบถว้ นตามลาดบั

ข้ันของแผนดาเนินการที่มี

ข้อมูลการสบื ค้น การดาเนินการสืบค้นขอ้ มลู

ตามส่อื แต่ละประเภทชนิดท่ี /4

กาหนดขน้ึ

ข้อมูลทส่ี บื คน้ ครบตาม /4
หวั ข้อหลักที่กาหนดขึน้

จุดประสงคท์ ี่ 2.2 เกณฑร์ ูบริคของแตล่ ะ 15
ประเดน็ ที่ทาการประเมนิ ประเดน็ จำนวนคะแนนแต่ละเกณฑข์ องรูบรคิ (ดำ้ น)
K คะแนน P คะแนน A คะแนน
การจัดกระทาข้อมูล และ จดั กระทาข้อมูลถูกตอ้ ง
การส่ือความหมายขอ้ มลู ตามวิธีการที่กาหนด /4

จดั กระทาขอ้ มูลตรงตาม /4
วิธกี ารท่ีกาหนดครบทุกตัว

สื่อความหมายข้อมลู ที่จดั /4
กระทาแลว้ ถกู ตอ้ งตาม

รูปแบบทอ่ี อกแบบ

รวมคะแนนดา้ นทกั ษะ (P) 24
จานวนคะแนนแตล่ ะเกณฑข์ องรูบรคิ (ด้าน)
จุดประสงคท์ ่ี 3.1 เกณฑ์รูบรคิ ของแต่ละ
K คะแนน P คะแนน A คะแนน
ประเด็นที่ทาการประเมนิ ประเดน็

ใฝ่เรยี นรู้ มคี วามเพียรพยายามใน /4
การแสวงหาความรู้
อยากรูอ้ ยากเหน็ สนใจเข้า 4
ร่วมกจิ กรรมส่งเสริมการ /
เรยี นรู้ /4

คน้ คว้าหาความรดู้ ว้ ย 4
ตนเอง /
แลกเปลย่ี นถา่ ยทอด
เผยแพรค่ วามรู้นาความรไู้ ป 4
ประยกุ ต์ ใชใ้ น /
ชวี ติ ประจาวัน /4
บันทึก วเิ คราะห์
ตรวจสอบสิ่งท่เี รยี นรู้สรุป
เป็นองค์ความรู้
มุ่งม่ัน ตั้งใจเรียนรเู้ พื่อ
พฒั นาตนเอง

16

จดุ ประสงค์ที่ 3.2 เกณฑร์ ูบรคิ ของแต่ละ จานวนคะแนนแต่ละเกณฑข์ องรูบรคิ (ดา้ น)
ประเดน็ ทท่ี าการ
ประเดน็ K คะแนน P คะแนน A คะแนน
ประเมิน

ความร่วมมอื ยอมรับฟงั ความคดิ เห็น
หรอื ข้อโต้แยง้ โดยไมย่ ดึ
ม่นั ความคดิ ของตนฝา่ ย / 4
เดียว /
ใหค้ วามรว่ มมอื ชว่ ยเหลือ / 4
เพ่ือนในกลุ่มดว้ ยความ / 4
จรงิ ใจ / 4
รบู้ ทบาทและแสดง / 4
บทบาทของตนอย่าง / 4
เหมาะสม / 4
รบั รูค้ วามแตกตา่ ง 132 4
ระหวา่ งบุคคลของสมาชิก 56
ในกลุ่ม
แก้ไขปัญหาหรอื ข้อ
ขดั แยง้ ด้วยวธิ กี าร
ประนปี ระนอม
วางแผนการดาเนินงาน
เพื่อให้งานบรรลุ
เป้าหมายรว่ มกัน

ติดตอ่ ส่งข้อมูลข่าวสารให้
สมาชิกในกลมุ่ อยา่ งทวั่ ถงึ

ตัง้ เปา้ หมายการทางาน
รว่ มกัน
รวมคะแนนด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A)

รวมคะแนนทุกดา้ น

17

2.2 เกณฑ์กาหนดระดบั มาตรฐานผลการเรยี นรู้ กาหนดเกณฑ์แบบแยกเป็นรายด้าน คือ ด้านความรู้ ด้าน
ทกั ษะกระบวนการ และด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ แตล่ ะดา้ นกาหนดระดบั มาตรฐานผลการเรียนรู้เป็น 4 ระดับ
คือ ระดับดีมาก ระดับดี ระดับพอใช้ และระดับต้องปรับปรุง แต่ละระดับมาตรฐานกาหนดเกณฑ์การประเมินจาก
คะแนนรูบรคิ เตม็ ดังนี้

1) ด้านความรู้
มคี ะแนนรูบรคิ อย่างน้อยรอ้ ยละ 85 ของคะแนนเต็ม มีมาตรฐานผลการเรยี นรู้ท่ีระดับ ดีมาก
มีคะแนนรูบรคิ รอ้ ยละ 80 - 84 ของคะแนนเต็ม มีมาตรฐานผลการเรยี นรทู้ ่ีระดับ ดี
มคี ะแนนรูบรคิ ร้อยละ 75 - 79 ของคะแนนเตม็ มีมาตรฐานผลการเรยี นรูท้ ร่ี ะดบั พอใช้
มคี ะแนนรูบรคิ น้อยกว่าร้อยละ 75 ของคะแนนเตม็ มีมาตรฐานผลการเรยี นรูท้ ีร่ ะดับ

ต้องปรบั ปรงุ

2) ด้านทกั ษะ / กระบวนการ
มคี ะแนนรูบริคอยา่ งนอ้ ยรอ้ ยละ 85 ของคะแนนเตม็ มมี าตรฐานผลการเรยี นรทู้ ีร่ ะดับ ดมี าก
มีคะแนนรูบรคิ รอ้ ยละ 80 - 84 ของคะแนนเตม็ มมี าตรฐานผลการเรยี นรทู้ ี่ระดบั ดี
มีคะแนนรูบรคิ ร้อยละ 75 - 79 ของคะแนนเตม็ มีมาตรฐานผลการเรยี นรทู้ ี่ระดบั พอใช้
มคี ะแนนรูบริคน้อยกวา่ รอ้ ยละ 75 ของคะแนนเตม็ มีมาตรฐานผลการเรยี นร้ทู ี่ระดบั

ต้องปรับปรงุ
3) ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
มคี ะแนนรูบรคิ อย่างนอ้ ยร้อยละ 85 ของคะแนนเตม็ มีมาตรฐานผลการเรียนรู้ท่รี ะดบั ดมี าก
มีคะแนนรูบรคิ ร้อยละ 80 - 84 ของคะแนนเต็ม มีมาตรฐานผลการเรยี นรทู้ รี่ ะดบั ดี
มีคะแนนรูบรคิ รอ้ ยละ 75 - 79 ของคะแนนเต็ม มีมาตรฐานผลการเรียนรูท้ ่รี ะดบั พอใช้
มคี ะแนนรูบริคน้อยกว่าร้อยละ 75 ของคะแนนเต็ม มีมาตรฐานผลการเรยี นร้ทู รี่ ะดับ

ตอ้ งปรบั ปรงุ
2.3 เกณฑ์ประเมินผลผ่านการเรียนรู้ ใช้เกณฑ์ประเมินแบบแยกเป็นรายด้านคือด้านความรู้ ด้านทักษะ

กระบวนการและด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ แต่ละด้านกาหนดเกณฑ์ประเมินผ่านผลการเรียนรู้โดยอิงระดับ
มาตรฐานผลการเรียนรู้ ดงั น้ี

1) ดา้ นความรู้
ระดับบุคคล นักเรียนต้องมีผลการเรียนรู้อย่างน้อยตั้งแต่ระดับมาตรฐาน ดี ถือว่า ผ่านการประเมิน

(ประกันผลการเรยี นรู้ของนกั เรยี น)
ระดับชน้ั เรียน มีจานวนนักเรยี นอย่างน้อยร้อยละ 80 ของจานวนท้ังหมดมีผลการเรียนรู้อย่างน้อยตั้งแต่

ระดับมาตรฐาน ดี ถือว่าการจัดประสบการณ์เรียนรู้บรรลุตามจุดประสงค์การเรียนรู้ท่ีกาหนดในแผนการจัดการ
เรียนรู้ (ประกันการจัดกิจกรรมการเรยี นรขู้ องคร)ู

18

2) ดา้ นทักษะ / กระบวนการ
ระดับบุคคล นักเรียนต้องมีผลการเรียนรู้อย่างน้อยต้ังแต่ระดับมาตรฐาน ดี ถือว่า ผ่านการประเมิน

(ประกันผลการเรยี นรูข้ องนกั เรียน)
ระดบั ช้ันเรยี น มีจานวนนักเรยี นอย่างน้อยร้อยละ 80 ของจานวนทั้งหมดมีผลการเรียนรู้อย่างน้อยตั้งแต่
ระดับมาตรฐาน ดี ถือวา่ การจัดประสบการณเ์ รยี นร้บู รรลุตามจุดประสงค์การเรียนรู้ท่ีกาหนดในแผนการ

จัดการเรียนรู้ (ประกนั การจัดกิจกรรมการเรียนรูข้ องครู)

3) ด้านคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
ระดับบุคคล นักเรียนต้องมีผลการเรียนรู้อย่างน้อยต้ังแต่ระดับมาตรฐาน ดี ถือว่า ผ่านการประเมิน

(ประกนั ผลการเรยี นรู้ของนกั เรยี น)
ระดบั ชนั้ เรียน มีจานวนนักเรยี นอย่างน้อยร้อยละ 80 ของจานวนทั้งหมดมีผลการเรียนรู้อย่างน้อยต้ังแต่
ระดับมาตรฐาน ดี ถือวา่ การจดั ประสบการณเ์ รยี นร้บู รรลุตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ที่กาหนดในแผนการ

จดั การเรียนรู้ (ประกันการจดั กิจกรรมการเรียนรขู้ องครู)
2.4 เกณฑก์ ารตดั สนิ คะแนนเก็บ จานวนคะแนนทเ่ี ก็บ ...... คะแนน จากคะแนนรวมท้ังหมด ........ คะแนน

เกณฑก์ ารคดิ คะแนนเก็บคานวณดงั น้ี

จานวนคะแนนเก็บของนักเรียน= (จานวนคะแนนจากการวดั และประเมินผล xจานวนคะแนนเก็บของแผน)/

จานวนคะแนนเต็มจากทกุ กจิ กรรมรวมกัน

3. ผลการประเมิน จาแนกผลการประเมินผลการเรียนรู้เป็นรายด้าน คือ ด้านความรู้ ด้านทักษะ

กระบวนการ และดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ดังน้ี

3.1 ดา้ นความรู้

ระดับบคุ คล จานวนนกั เรียนทง้ั หมด ........ คน มผี ลการเรยี นร้อู ยทู่ ่ี :

ระดบั มาตรฐาน ดมี าก จานวน ….... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ .....

ระดบั มาตรฐาน ดี จานวน ….... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ .....

ระดับมาตรฐาน พอใช้ จานวน ….... คน คิดเป็นรอ้ ยละ .....

ระดบั มาตรฐาน ต้องปรับปรงุ จานวน ….... คน คิดเปน็ ร้อยละ .....

ระดับชนั้ เรียน นักเรยี นท่ีมผี ลการเรียนรอู้ ย่างน้อยต้ังแต่ระดับมาตรฐาน ...... จานวน ..... คน ถือว่าผ่าน

เกณฑ์ การประเมินผลการเรียนรู้ คิดเป็นร้อยละ ..... และมีนักเรียนที่มีผลการเรียนรู้ต่ากว่าระดับมาตรฐาน .......

จานวน ...... คนถือว่าไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินผลการเรียนรู้ คิดเป็นร้อยละ ....... ดังน้ัน ถือว่า การจัดประสบการ

เรียนร้ดู า้ นความรู้ ของแผนการจัดการเรียนรู้

ประสบความสาเร็จ ไมป่ ระสบความสาเรจ็ ตามจดุ ประสงค์การเรยี นรู้

เฉลยบตั รกิจกรรมท่ี 1 19
ตวั ฉนั เหมือนใครกันนะ ใชเ้ วลา 20 นาที

ตอนท่ี 1 คาชแี้ จง : นักเรยี นพิจารณาภาพของพ่อสนุ ขั แม่สุนขั แลว้ ตอบคาถาม (ข้อละ 3 คะแนน)

น่ีพอ่ ฉันนะ น่ีแม่ฉันนะ

ภาพที่ 1-1 : ลักษณะที่ปรากฏของพอ่ สุนขั แมส่ ุนขั และลกู สนุ ขั
1. ลกั ษณะใดบา้ งทล่ี ูกสนุ ัขเหมือนพ่อสุนัข และแมส่ ุนัข

ตอบ ขนสีขาว น้าตาล ดาเหมอื นพ่อและแม่ หยู าว ตาสดี า

2. ลักษณะใดบา้ งทล่ี ูกสนุ ัขแตกตา่ งจากพ่อสุนขั และแม่สุนัข
ตอบ จมูกสนี า้ ตาล

แลว้ นกั เรียนละ่ มีอะไรเหมอื นพ่อกับแม่บ้าง ?

.......ข้นึ อยู่กับลักษณะของบุคคล.................................................

20

บัตรกจิ กรรมท่ี 2
เรอื่ ง กรอบแนวคดิ การสืบคน้

คาชีแ้ จง
1. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม จานวน 5 คน โดยการสุ่มจับฉลาก และนับเลขเพ่ือแสดงลาดับที่ของคนใน

กลุม่ เช่น 1 2 3 4 จนครบทุกคนในกลุม่ ตามหมายเลข
2. แต่ละกลมุ่ จะถกู กาหนดวา่ เปน็ กลมุ่ บา้ น (Home Group) เมอ่ื ไดก้ ลุ่มแล้วนกั เรยี นแบ่งหน้าที่ศึกษา

บตั รความรตู้ ามทา่ ดับท่ขี องตนเอง เชน่
- นักเรียนทจ่ี ับได้หมายเลข 1 ศึกษาบตั รความรูท้ ่ี 1 เรือ่ ง พนั ธุศาสตร์
- นักเรียนทจี่ ับไดห้ มายเลข 2 ศกึ ษาบตั รความรทู้ ี่ 2 เรื่อง ประวตั ิของเมนเดล
- นักเรียนทจ่ี บั ได้หมายเลข 3 ศกึ ษาบัตรความรทู้ ่ี 3 เรอื่ ง การศกึ ษาพนั ธศุ าสตร์ของเมนเดล
- นักเรียนทีจ่ ับได้หมายเลข 4 ศึกษาบตั รความรู้ที่ 4 เรือ่ ง คาศัพท์ที่เกีย่ วขอ้ งกบั พันธุศาสตร์

3. นักเรียนแต่ละคนในกลุ่มบ้าน (Home Group) ศึกษาบัตรความรู้ท่ีได้รับมอบหมายให้เข้าใจอย่าง
ละเอยี ด

4. นักเรียนแต่ละคนในกลุ่มบ้าน (Home Group) แยกออกจากกลุ่มเพื่อไปรวมตัวกับเพื่อนต่างกลุ่ม
ทไ่ี ด้รบั มอบหมายแล้วสรปุ เป็นองค์ความรใู้ นเร่อื งน้นั ๆ

5. นักเรียนกลุ่มผู้เช่ียวชาญ (Expert Group) แยกย้ายไปยังกลุ่มบ้าน (Home Group) แล้ว
ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันอธิบายความรู้ที่ได้จากกลุ่มผู้เช่ียวชาญ และรวมเป็นความรู้ของกลุ่มเพื่อเตรียม
นาเสนอหน้าช้ันเรียน

21

เฉลยบตั รกิจกรรมที่ 3 เร่ือง ความแปรผนั ทางพนั ธกุ รรม

คาชี้แจง : นกั เรยี นศกึ ษาตอบคาถามต่อไปนี้ (ข้อละ 3 คะแนน)

1. ลกั ษณะทางพันธุกรรมทแี่ ปรผันต่อเนื่อง คอื ลักษณทางพันธุกรรมทสี่ ามารถวดั ปริมาณการ
ลดหลนั่ กนั ได้ ดงั นัน้ ลักษณะทป่ี รากฏออกมาจงึ มีความแตกต่างกันเลก็ น้อยและต่อเน่ือง จะถกู
ควบคมุ ด้วยยีนหลายคู่ ทาใหย้ ีนแตล่ ะตวั ควบคุมลักษณะการแสดงออกได้ไมเ่ ต็มท่ี เกิดการแปรผนั
ได้งา่ ย ส่งิ แวดลอ้ มมผี ลตอ่ การแสดงลักษณะนนั้ ๆ คอ่ นข้างมาก

2. ลักษณะทางพันธกุ รรมท่แี ปรผนั ไม่ต่อเนื่อง คือ ลักษณะทางพันธุกรรมทีม่ คี วามแตกต่างกนั อย่าง
ชัดเจน ถกู ควบคุมด้วยยนี น้อยคู่ ทาใหย้ นี แต่ละตัวสามารถแสดงออกไดเ้ ต็มที่ โดยสิง่ แวดล้อมมผี ล
ตอ่ การแสดงลักษณะน้นั ๆ นอ้ ยมากหรอื ไมม่ เี ลย

3. ให้นักเรยี นจาแนกลกั ษณะทางพนั ธุกรรมท่ีกาหนดให้ต่อไปนี้ใหถ้ กู ต้อง
ความสูง การมลี กั ยมิ้ และไม่มีลกั ยม้ิ สีผิว ห่อลนิ้ ได้และหอ่ ลนิ้ ไม่ได้ ความอ้วน
ตาชัน้ เดยี วและหนังตาสองชนั ปริมาณน้านมวัว แนวผมตรงและแนวผมแหลม
มีติ่งหแู ละไมม่ ีติง่ หู นิว้ เรยี วยาวและนิว้ สน้ั สันจมูกโดง่ และไม่มสี นั จมกู
ระดับสติปัญญาของคน
3.1 ลักษณะทางพันธกุ รรมที่มีการแปรผันตอ่ เนื่อง ไดแ้ ก่ ความสูง ความอ้วน สีผิว ระดบั

สติปัญญาของคน ปรมิ าณนา้ นมวัว
3.2 3.1 ลักษณะทางพันธุกรรมทีม่ ีการแปรผันไม่ต่อเน่ือง ไดแ้ ก่ การมลี กั ยมิ้ และไม่มีลักยิ้ม ห่อ

ลนิ้ ไดแ้ ละห่อลนิ้ ไมไ่ ด้ ตาชนั้ เดียวและหนงั ตาสองชน้ั แนวผมตรงและแนวผมแหลม มตี ิ่งหแู ละไมม่ ี
ต่งิ หู นิ้วเรียวยาวและนว้ิ สั้น สนั จมูกโด่งและไม่มีสนั จมูก

22

เฉลยบัตรกจิ กรรมท่ี 4 เรอ่ื ง การศกึ ษาพันธุศาสตรข์ องเมนเดล

ตอนที่ 1
คาช้แี จง : 1. ให้นักเรียนเขียนสรุปการศึกษารูปแบบของการถา่ ยทอดลักษณะทางพันธุกรรมของถัว่ ลันเตา 7
ลกั ษณะใหค้ รบถว้ นลงในตาราง

ลกั ษณะของถวั่ ลนั เตา ลักษณะเด่น ลักษณะด้อย

สีของดอกถ่วั ลนั เตา ดอกสมี ว่ ง ดอกสขี าว
ตาแหน่งของดอกบนต้น ดา้ นขา้ งลาตน้ ปลายยอด
สีของเมลด็ เมล็ดสเี หลอื ง เมลด็ สีเขียว
รปู ร่างของเมลด็ เมล็ดขรุขระ
สีของฝกั เมล็ดกลม ฝกั สีเหลือง
รูปรา่ งของฝัก ฝกี สีเขียว ฝกั ขรขุ ระ
ความสงู ของลาตน้ ฝกั พองกลม ต้นเตีย้
ต้นสูง

2. ให้นกั เรยี นอธบิ ายความหมายของคาศัพท์พืน้ ฐานเก่ยี วกับการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม

คาศัพท์ ความหมาย
1. ยนี
หน่วยทางพันธศุ าสตรท์ ค่ี วบคมุ ลกั ษณะตา่ ง ๆ ซง่ึ สามารถถา่ ยทอดจากรุน่ หน่ึงไปยงั
2. อัลลีล อกี รนุ่ หนึ่งได้
3. โลคสั รูปแบบแตล่ ะแบบของยีนโดยท่วั ไปจะกาหนดโดยใช้ตวั อักษรภาษาอังกฤษ
4. จีโนไทป์
ตาแหน่งของยนี ที่อยู่บนโครโมโซม ยนี ทเ่ี ปน็ แอลลลี กันจะอย่บู นโลคสั เดยี วกัน

กลุ่มหรือชุดของแอลลีลของส่ิงมชี ีวติ โดยท่ัวไปอย่เู ปน็ คู่ ๆ ตวั อย่างเช่น Tt , Gg

23

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น

รายวิชาชีววทิ ยา 2 รหัสวิชา ว31242 สาหรบั นกั เรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4
เรอ่ื ง การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพันธกุ รรม
ชุดที่ 1 การศึกษาพนั ธศุ าสตร์ของเมนเดล

ขอ้ ก ข ค ง

1x
2x
3x
4x
5x
6x
7x
8x
9x
10 x

24

เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น

รายวิชาชีววทิ ยา 2 รหสั วิชา ว31242 สาหรับนักเรียนชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4
เรอ่ื ง การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม
ชุดที่ 1 การศึกษาพนั ธศุ าสตร์ของเมนเดล

ขอ้ ก ข ค ง

1x
2x
3x
4x
5x
6x
7x
8x
9x
10 x

เอกสารสาหรับนักเรียน
ชุดการสอนที่ 1

รายวชิ า ชวี วทิ ยา 2 (ว 31242)
เรอื่ ง

การศกึ ษาพนั ธุศาสตรข์ องเมนเดล

สาหรบั นกั เรียนชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4
โรงเรียนทองแสนขันวทิ ยา

31

คาแนะนาสาหรับนักเรยี น
ในการใชช้ ุดการสอนท่ี 1
เรอื่ ง การศึกษาพนั ธุศาสตร์ของเมนเดล
รายวชิ า ชีววทิ ยา 2 ว31242 ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4

1. ชุดการสอน เรื่อง การศึกษาพันธุศาสตร์ของเมนเดล เป็นชุดการสอนที่จะทาให้นักเรียนเกิดความรู้ ความ

เข้าใจในเนอื้ หา เร่ือง พันธุศาสตร์ของของเมนเดล มากขึน้

2. ให้นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ศึกษาและปฏบิ ัติตามขัน้ ตอนในชุดการสอน ดังน้ี

2.1 ศึกษาคาช้ีแจง การใชช้ ดุ การสอน จุดประสงค์การเรยี นรู้และระยะเลาท่ใี ชใ้ นการปฏบิ ัตกิ จิ กรรม

2.2 ปฏบิ ตั ิกิจกรรมตามขั้นตอนของชดุ การสอน ดังน้ี

2.2.1 ทดสอบกอ่ นเรยี นชุดการสอนท่ี 1 ใชเ้ วลา 15 นาที

2.2.2 บตั รกจิ กรรมท่ี 1 เรื่อง ตวั ฉนั เหมอื นใคร ใชเ้ วลา 20 นาที

2.2.3 บัตรกิจกรรมที่ 2 ใช้เวลา 20 นาที

2.2.4 บตั รกจิ กรรมท่ี 3 ใช้เวลา 20 นาที

2.2.5 บัตรคาถาม ใช้เวลา 30 นาที

2.2.6 ทดสอบหลงั เรียน ใชเ้ วลา 15 นาที

2.3 ปฏบิ ัตกิ จิ กรรมดว้ ยความตัง้ ใจ เมือ่ เกดิ ปัญหาใหซ้ ักถามครผู ู้สอน

2.4 นกั เรียน ตรวจคาตอบแบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลังเรียน โดยร่วมเฉลยกับครูผู้สอน เพ่ือเปรียบเทียบ

คะแนนท่ีไดโ้ ดยไมด่ ูเฉลยคาตอบก่อน

3. จดุ ประสงคข์ องชดุ การสอนที่ 1 เร่อื ง การศึกษาพันธุศาสตร์

3.1 อธิบายการทดลองของเมนเดลได้

3.2 สรปุ การทดลองของเมนเดลได้

3.3 วิเคราะหแ์ ละลงขอ้ สรปุ ข้อมูลได้

4. เวลาทใี่ ช้จานวน 2 ชัว่ โมง

32

แบบทดสอบก่อนเรียน
ชดุ การสอน เร่อื ง การศกึ ษาพันธศุ าสตร์ของเมนเดล
วิชาชวี วิทยา 2 ว32142 ระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4

คาช้แี จง
1. แบบทดสอบฉบับนเ้ี ป็นแบบทดสอบชนิด 4 ตวั เลือก จานวน 10 ข้อ ข้อละ 1 คะแนน
2. ใหน้ ักเรยี นเลอื กคาตอบทถ่ี ูกตอ้ งทีส่ ดุ เพยี งคาตอบเดียว โดยทาเครอื่ งหมายกากบาท (x) ใน

กระดาษคาตอบใหต้ รงกบั ขอ้ ที่นกั เรียนเลือก
ใช้เวลา 15 นาที

1. ขอ้ ใดไม่ใช่ลักษณะทางพันธกุ รรม
ก. ลกั ษณะทถ่ี ่ายทอดโดยอาศัยเซลล์สบื พันธเุ์ ปน็ สื่อกลาง
ข. ลกั ษณะซึง่ ถ่ายทอดจากรนุ่ หนึง่ ไปยงั รนุ่ ต่อไป
ค. ลกั ษณะของสิง่ มชี ีวติ ทีค่ วบคมุ โดยยีน
ง. ลักษณะความผิดปกติของร่างกาย

2. ลกั ษณะในขอ้ ใดไมจ่ ัดเปน็ ลักษณะทางพันธกุ รรมทง้ั หมด
ก. การมีตงิ่ หู น้วิ หัวแม่มือกระดก
ข. การพบั ลิน้ แผลเปน็
ค. ผวิ เผือก ปานแดง
ง. สติปัญญา การมไี ฝ

3. ลกั ษณะใดต่อไปนไ้ี ม่ถา่ ยทอดทางพันธุกรรม
ก. ลักษณะติ่งหู
ข. รูปของปาก
ค. สตปิ ญั ญา
ง. ความรู้

4. ลักษณะทางพนั ธุกรรมของคนลักษณะใดต่อไปนี้เปน็ ลักษณะทางพนั ธกุ รรมท่แี ปรผนั ต่อเนื่อง
ก. สผี วิ เส้นผม ความสงู สติปัญญา
ข. ความสงู หน้าตา สติปัญญา ต่งิ หู
ค. สผี วิ ความสูง สตปิ ญั ญา
ง. เส้นผม หนา้ ตา ต่งิ หู

33

5. ลักษณะใดตอ่ ไปน้ีเกดิ จากการถา่ ยทอดทางพนั ธกุ รรม
ก. ไผ่รับราชการเหมือนพอ่
ข. กา้ มปูกบั แมเ่ ป็นโรคตาแดง
ค. ตน้ หอมมีจมูกเป็นสันเหมอื นแม่
ง. ปลาชอบรับประทานผักเหมือนพ่อ

6. ถั่วลนั เตาพนั ธฝุ์ กั สีเขียวเปน็ ลกั ษณะเด่นตอ่ ฝักสเี หลือง เมอ่ื เมนเดลนาถว่ั ลันเตาพันธ์ุฝกั สเี ขียวพนั ธแ์ุ ท้และ
ฝักสีเหลอื งมาผสมกนั ลูกรุ่นท่ี 1 จะมีลกั ษณะอยา่ งไร

ก. ต้นทม่ี ีฝกั สีเหลอื งและตน้ ทมี่ ฝี กั สเี ขียวมจี านวนเท่า ๆ กนั
ข. ต้นทีม่ ฝี กั สเี หลอื งและต้นทีม่ ฝี ักสเี ขียวอัตราสว่ น 3 : 1
ค. ทุกต้นมีฝักสีเหลอื งท้งั หมด
ง. ทุกตน้ มีฝักสีเขียวทัง้ หมด
7. จากการทดลองของเมนเดล จะพบอัตราส่วนระหว่างลักษณะเดน่ ต่อลกั ษณะด้อย ในรุ่น F2 มลี กั ษณะเปน็
อยา่ งไร
ก. ลกั ษณะเด่น : ลักษณะดอ้ ย = 0 : 4
ข. ลกั ษณะเด่น : ลกั ษณะดอ้ ย = 4 : 0
ค. ลกั ษณะเด่น : ลักษณะด้อย = 1 : 3
ง. ลกั ษณะเด่น : ลกั ษณะดอ้ ย = 3 : 1
8. ข้อใดไมใ่ ชป่ จั จัยที่ทาใหก้ ารผสมพันธ์ถุ ่วั ลนั เตาของเมนเดลประสบความสาเร็จจนทาให้เขาค้นพบหลักการ
ถา่ ยทอดทางพนั ธุกรรม
ก. ถ่ัวลันเตามหี ลายลกั ษณะในพันธเ์ุ ดยี วกัน และสามารถแยกแยะลักษณะออกได้ชัดเจน
ข. ลักษณะของถว่ั ลนั เตาท้งั 7 ประการอยบู่ นโครโมโซมแทง่ เดียวกนั
ค. ดอกถว่ั ลันเตาเป็นดอกสมบูรณ์เพศ ผสมพันธใุ์ นดอกเดยี วกนั
ง. ถัว่ ลนั เตาเป็นพชื อายสุ น้ั ปลูกง่าย โตเร็ว
9. ขอ้ ใดแสดงถึงลักษณะของสงิ่ มชี วี ติ ท่สี งั เกตไดด้ ว้ ยตาแตเ่ ป้นผลมาจากยนี ในร่างกาย
ก. แอลลลี
ข. ฟโี นไทป์
ค. จโี นไทป์
ง. พนั ธกุ รรม
10. สิง่ มชี วี ติ ท่ีมีลกั ษณะเดน่ พนั ธ์แุ ทจ้ ะมีลักษณะอยา่ งไร
ก. โฮโมไซกัสโดมแิ นนท์ , BB
ข. โฮโมไซกัสรีเซสซพี , bb
ค. เซลล์ดพิ ลอยด์ , 2n
ง. เฮเทอโรไซกสั , Aa

34

กระดาษคาตอบแบบทดสอบกอ่ นเรียน
ชุดการสอน เรอ่ื ง การศกึ ษาพนั ธศุ าสตรข์ องเมนเดล
วชิ าชวี วทิ ยา 2 ว32142 ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 4

ชอื่ ............................................................................................................ เลขท่ี .................. ช้นั ....................

ข้อ ก ข ค ง คะแนนเต็ม 10
1 คะแนนที่ได้
2 คิดเป็นร้อยละ
3
4 ผลการประเมิน
5 ดีมาก
6 ดี
7 พอใช้
8 ปรับปรงุ
9
10

เกณฑก์ ารประเมนิ ผลการประเมิน ดีมาก
คะแนนร้อยละ 80 ขนึ้ ไป ผลการประเมนิ ดี
คะแนนรอ้ ยละ 70 – 79 ผลการประเมนิ พอใช้
คะแนนรอ้ ยละ 60 – 69 ผลการประเมนิ ปรบั ปรุง
คะแนนต่ากวา่ ร้อยละ 60

บตั รกิจกรรมท่ี 1 35
ตัวฉันเหมอื นใครกันนะ ใช้เวลา 20 นาที

ตอนที่ 1 คาช้แี จง : นกั เรียนพิจารณาภาพของพอ่ สุนัข แม่สุนขั แลว้ ตอบคาถาม (ข้อละ 3 คะแนน)

นพี่ ่อฉนั นะ นี่แม่ฉันนะ

ภาพท่ี 1-1 : ลักษณะทปี่ รากฏของพ่อสนุ ขั แมส่ ุนขั และลูกสนุ ัข

1. ลักษณะใดบา้ งที่ลกู สนุ ขั เหมือนพ่อสนุ ขั และแม่สนุ ัข
ตอบ .................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

2. ลกั ษณะใดบ้างท่ีลูกสุนขั แตกตา่ งจากพอ่ สุนขั และแมส่ ุนขั
ตอบ .................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

แลว้ นกั เรียนล่ะ มอี ะไรเหมอื นพ่อกบั แม่บ้าง ?

....................................................................................
....................................................................................
....................................................................................
....................................................................................
....................................................................................

36

บัตรกจิ กรรมท่ี 2
เรอื่ ง กรอบแนวคดิ การสืบคน้

คาชีแ้ จง
1. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม จานวน 5 คน โดยการสุ่มจับฉลาก และนับเลขเพ่ือแสดงลาดับที่ของคนใน

กลุม่ เช่น 1 2 3 4 จนครบทุกคนในกลุม่ ตามหมายเลข
2. แต่ละกลมุ่ จะถกู กาหนดวา่ เปน็ กลมุ่ บา้ น (Home Group) เมอ่ื ไดก้ ลุ่มแล้วนกั เรยี นแบ่งหน้าที่ศึกษา

บตั รความรตู้ ามทา่ ดับท่ขี องตนเอง เชน่
- นักเรียนทจ่ี ับได้หมายเลข 1 ศึกษาบตั รความรูท้ ่ี 1 เรือ่ ง พนั ธุศาสตร์
- นักเรียนทจี่ ับไดห้ มายเลข 2 ศกึ ษาบตั รความรทู้ ี่ 2 เรื่อง ประวตั ิของเมนเดล
- นักเรียนทจ่ี บั ได้หมายเลข 3 ศกึ ษาบัตรความรทู้ ่ี 3 เรอื่ ง การศกึ ษาพนั ธศุ าสตร์ของเมนเดล
- นักเรียนทีจ่ ับได้หมายเลข 4 ศึกษาบตั รความรู้ที่ 4 เรือ่ ง คาศัพท์ที่เกีย่ วขอ้ งกบั พันธุศาสตร์

3. นักเรียนแต่ละคนในกลุ่มบ้าน (Home Group) ศึกษาบัตรความรู้ท่ีได้รับมอบหมายให้เข้าใจอย่าง
ละเอยี ด

4. นักเรียนแต่ละคนในกลุ่มบ้าน (Home Group) แยกออกจากกลุ่มเพื่อไปรวมตัวกับเพื่อนต่างกลุ่ม
ทไ่ี ด้รบั มอบหมายแล้วสรปุ เป็นองค์ความรใู้ นเร่อื งน้นั ๆ

5. นักเรียนกลุ่มผู้เช่ียวชาญ (Expert Group) แยกย้ายไปยังกลุ่มบ้าน (Home Group) แล้ว
ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันอธิบายความรู้ที่ได้จากกลุ่มผู้เช่ียวชาญ และรวมเป็นความรู้ของกลุ่มเพื่อเตรียม
นาเสนอหน้าช้ันเรียน

37

บตั รกจิ กรรมที่ 3 เร่ือง ความแปรผนั ทางพันธุกรรม

คาชแ้ี จง : ให้นกั เรยี นตอบคาถามต่อไปนี้ (ขอ้ ละ 3 คะแนน)

1. ลกั ษณะทางพันธุกรรมท่แี ปรผันตอ่ เน่ือง คือ ...............................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................

2. ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมท่ีแปรผนั ไมต่ ่อเน่ือง คือ ..........................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................

3. ใหน้ ักเรียนจาแนกลักษณะทางพนั ธกุ รรมทีก่ าหนดใหต้ ่อไปน้ใี ห้ถกู ต้อง
ความสูง การมีลกั ยิ้มและไม่มีลกั ยิม้ สีผิว ห่อลน้ิ ไดแ้ ละหอ่ ลนิ้ ไม่ได้ ความอ้วน
ตาช้ันเดยี วและหนงั ตาสองชนั ปรมิ าณน้านมววั แนวผมตรงและแนวผมแหลม
มตี ง่ิ หแู ละไม่มีติ่งหู น้วิ เรยี วยาวและนิว้ สน้ั สันจมกู โดง่ และไมม่ สี ันจมกู
ระดบั สติปัญญาของคน
3.1 ลักษณะทางพนั ธุกรรมท่มี กี ารแปรผันตอ่ เนื่อง ไดแ้ ก่ ...........................................................

..........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................

3.2 3.1 ลักษณะทางพนั ธุกรรมทมี่ ีการแปรผนั ไม่ต่อเนื่อง ได้แก .................................................่
..........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................

38

บตั รกิจกรรมท่ี 4 เรอื่ ง การศึกษาพันธุศาสตร์ของเมนเดล

ตอนที่ 1
คาช้แี จง : 1. ให้นกั เรียนเขยี นสรปุ การศกึ ษารปู แบบของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมของถั่วลันเตา 7
ลกั ษณะใหค้ รบถว้ นลงในตาราง

ลักษณะของถัว่ ลันเตา ลักษณะเดน่ ลักษณะดอ้ ย

สขี องดอกถว่ั ลันเตา
ตาแหน่งของดอกบนตน้
สขี องเมล็ด
รูปรา่ งของเมลด็
สีของฝัก
รูปร่างของฝกั
ความสูงของลาตน้

2. ใหน้ กั เรียนอธิบายความหมายของคาศพั ทพ์ ื้นฐาน พื้นฐานเก่ียวกบั การถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธกุ รรม

คาศัพท์ ความหมาย
1. ยีน

2. อัลลีล

3. โลคัส

4. จีโนไทป์

20

บตั รกิจกรรมท่ี 4 เร่ือง การศกึ ษาพนั ธุศาสตร์ของเมนเดล

ตอนท่ี 2
คาชแ้ี จง จากการศกึ ษาของเมนเดล ใหน้ ักเรยี นแต่ละคนสรุปองค์ความรแู้ ละนาเสนอหน้าชั้นเรียนดังต่อไปน้ี

1. ใหน้ ักเรยี นร่วมกนั เขียนลกั ษณะของรุ่นลูกรนุ่ ที่ 1 และลูกร่นุ ที่ 2 ที่ได้จากกการผสมของลกั ษณะ
ดงั ตอ่ ไปนี้

ลักษณะที่พิจารณา เม่อื ทาการผสม ลูกรุ่นที่ 1 ลูกรนุ่ ท่ี 2

ลกั ษณะเมลด็ เมล็ดกลม เมล็ดขรุขระ
สขี องเมลด็ สีเหลอื ง สเี ขียว
ลกั ษณะฝัก ฝกั พองกลม ฝกั ขรุขระ
สีของฝกั สีเขยี ว สีเหลอื ง
สีของดอก สีม่วง สีขาว
ตาแหนง่ ดอก ข้างลาตน้ ปลายยอด
ความสูงของตน้ เตี้ย
สูง

2. ให้เปรยี บเทียบลกั ษณะที่ปรากฏในรุ่น F2 และลกั ษณะท่ปี รากฏในรุน่ F1 ว่ามคี วามเหมอื นหรอื แตกต่าง
กันอย่างไร

.........................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................

3. ให้นกั เรียนร่วมกันอภิปรายลักษณะสาคญั ท่ีทาใหเ้ มนเดลประสบความสาเรจ็ ในการทดลอง

ลกั ษณะของเมนเดล ลกั ษณะของพืชทีน่ ามาทดลอง

39

บตั รกิจกรรมที่ 5
เร่ือง โดมโิ นพนั ธุศาสตร์

คาชี้แจง
1. ครเู ลน่ เกมแบ่งกลุ่ม เพอ่ื ให้ได้จานวนกลมุ่ ละ 5 คน
2. เม่ือได้กลมุ่ แล้วให้นักเรยี นแตล่ ะกล่มุ แบ่งหนา้ ทีเ่ ป็นผ้สู ังเกตการณ์ 1 คน ผเู้ ลน่ 4 คน
3. ศึกษากจิ กรรมโดมโิ นหรรษาในกล่องกิจกรรมท่ี 4 ซง่ึ ประกอบดว้ ยโดมิโนในคาศัพท์จานวน 40

บัตร
4. ผสู้ ังเกตการณน์ าบัตรโดมโิ นคาศพั ท์ แจกผู้เล่นแต่ละคนจานวนเทา่ ๆ กัน
5.ผู้เล่นคนทีไ่ ด้รับบตั รโดมโิ น “Star” จะได้รบั สิทธใ์ิ นการลงโดมิโนคนแรก
6. ผู้เลน่ คนทอี่ ยูท่ างขวามือของคนทถี่ ือบตั ร Star จะเป็นผ้ลู งบัตรโดมิโนในคาศัพทค์ นถดั ไป
7. ผู้สงั เกตการณ์ เป็นคนดเู ฉลยจากใบกิจกรรม หากเพ่ือนผู้เล่นวางบตั รโดมโิ นคาศพั ท์ผิด ให้นาออก

และแจ้งใหง้ ดวาง 1 รอบ หรือใหน้ ักเรียนสรา้ งขอ้ ตกลงรว่ มกนั เอง เชน่ ถ้าผดิ เตน้ 1 รอบ จากน้ันให้คนต่อไป
เล่นต่อ

8. ผเู้ ลน่ คนทบี่ ตั รโดมโิ นหมดเปน็ คนแรก จะเป็นผู้ชนะในเกมน้ี

ต้ังใจนะคะ เรียนสนกุ
ลุกนัง่ สบาย

มีความสขุ กับการ
ทากจิ กรรมนะคะ

บัตรกิจกรรม 40
เร่อื ง โดมโิ นพนั ธศุ าสตร์

Start สง่ิ มชี วี ติ รุน่ แรกที่ไดจ้ าก
การผสมพันธ์ุ

F1 Tt

รูปแบบในระดับโมเลกุลที่ Phenotype
แตกตา่ งกันของยนี ลกั ษณะตน้ สงู

ลักษณะของสิ่งมชี วี ิตที่
สงั เกตได้

ลกั ษณะตาสฟี ้า Allele

ลกั ษณะของสิง่ มีชวี ิตที่ ลักษณะต้นสูง
สงั เกตได้

Heterozygous

บตั รกจิ กรรม 41
เรือ่ ง โดมิโนพันธศุ าสตร์

Haplpid Gene

TT

First generation เซลลท์ ี่มโี ครโมโซม 2 ชดุ
offspring

Diploid hybrid

คแู่ อลลลี ท่ีมรี ปู แบบตา่ งกนั สภาพของยีนทม่ี ีอยใู่ นส่ิงมชี วี ติ

Tt เซลล์ทีม่ ีโครโมโซม

ยนี ท่มี ีรปู แบบเปน็ Aa เป็นรุน่ พอ่ แม่

บัตรกิจกรรม 42
เรื่อง โดมิโนพันธุศาสตร์

Genotype Homozygous dominant

Recessive Dominant allele

AA

SS เซลล์ท่ีมีโครโมโซม 1 ชุด

Haploid gene

Aa gene

Homozygous racessive

บัตรกจิ กรรม 43
เรื่อง โดมโิ นพนั ธุศาสตร์

ลกู ของรุ่นพ่อแม่ Homozygyous

Second generation สิ่งมีชวี ติ รนุ่ พ่อแม่
offspring
คูแ่ อลลีลท่ีมีรูปแบบแอลลีล
Perent เดยี วกัน

Recessive Dominant allele

F2 หน่วยท่ีมีขอ้ มลู ของลักษณะ
ทางพันธกุ รรม

AA Aa

Diploid Homozygous allele

บตั รกจิ กรรม 44
เรือ่ ง โดมิโนพนั ธุศาสตร์

F2 Gene

aa gene

Heterozygous

หน่วยทางพันธกุ รรมที่ Phenotype
ควบคุมลักษณะตา่ ง ๆ
ยนี
Recessive allele

Homozyous Dominant แฟคเตอร์

F1 Phenotype

บัตรกิจกรรม 45
เร่อื ง โดมิโนพันธุศาสตร์

Recessive ลกั ษณะเดน่

Dominant

46

แบบทดสอบหลังเรยี น
ชุดการสอน เร่ือง การศกึ ษาพันธุศาสตรข์ องเมนเดล
วิชาชวี วทิ ยา 2 ว32142 ระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4

คาชี้แจง
1. แบบทดสอบฉบบั นเี้ ปน็ แบบทดสอบชนดิ 4 ตวั เลอื ก จานวน 10 ข้อ ข้อละ 1 คะแนน
2. ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบทถ่ี ูกต้องท่สี ุดเพยี งคาตอบเดียว โดยทาเครื่องหมายกากบาท (x) ใน

กระดาษคาตอบให้ตรงกบั ขอ้ ท่นี กั เรยี นเลือก
ใช้เวลา 15 นาที

1. ลักษณะใดตอ่ ไปน้ีเกิดจากการถา่ ยทอดทางพนั ธกุ รรม
ก. ไผ่รับราชการเหมือนพ่อ
ข. ก้ามปูกับแมเ่ ป็นโรคตาแดง
ค. ต้นหอมมจี มูกเปน็ สันเหมือนแม่
ง. ปลาชอบรับประทานผกั เหมือนพ่อ

2. ถว่ั ลันเตาพันธฝ์ุ ักสีเขียวเป็นลกั ษณะเดน่ ต่อฝักสเี หลือง เมอื่ เมนเดลนาถั่วลันเตาพันธฝุ์ กั สเี ขยี วพันธ์ุแทแ้ ละ
ฝกั สเี หลืองมาผสมกัน ลกู รุ่นที่ 1 จะมลี ักษณะอยา่ งไร

ก. ตน้ ท่มี ฝี ักสีเหลืองและตน้ ท่ีมีฝักสเี ขียวมีจานวนเท่า ๆ กนั
ข. ต้นที่มฝี ักสีเหลืองและตน้ ทีม่ ฝี กั สีเขียวอัตราสว่ น 3 : 1
ค. ทุกต้นมีฝกั สีเหลอื งทั้งหมด
ง. ทกุ ตน้ มฝี ักสเี ขยี วทง้ั หมด
3. จากการทดลองของเมนเดล จะพบอตั ราส่วนระหว่างลักษณะเดน่ ต่อลักษณะด้อย ในรนุ่ F2 มลี ักษณะเป็น
อยา่ งไร
ก. ลกั ษณะเด่น : ลกั ษณะด้อย = 0 : 4
ข. ลกั ษณะเดน่ : ลักษณะด้อย = 4 : 0
ค. ลกั ษณะเดน่ : ลกั ษณะด้อย = 1 : 3
ง. ลักษณะเดน่ : ลักษณะดอ้ ย = 3 : 1
4. ขอ้ ใดไม่ใช่ปัจจยั ที่ทาใหก้ ารผสมพนั ธ์ถุ ่ัวลนั เตาของเมนเดลประสบความสาเร็จจนทาใหเ้ ขาคน้ พบหลกั การ
ถ่ายทอดทางพนั ธกุ รรม
ก. ถัว่ ลันเตามหี ลายลกั ษณะในพันธเ์ุ ดยี วกัน และสามารถแยกแยะลกั ษณะออกไดช้ ัดเจน
ข. ลักษณะของถ่ัวลนั เตาทง้ั 7 ประการอยู่บนโครโมโซมแท่งเดยี วกัน
ค. ดอกถั่วลันเตาเป็นดอกสมบรู ณเ์ พศ ผสมพันธุใ์ นดอกเดียวกนั
ง. ถว่ั ลนั เตาเป็นพืชอายุสัน้ ปลูกงา่ ย โตเรว็

47

5. ข้อใดไม่ใชล่ กั ษณะทางพันธุกรรม
ก. ลักษณะทถี่ ่ายทอดโดยอาศัยเซลล์สบื พันธเุ์ ปน็ สื่อกลาง
ข. ลกั ษณะซง่ึ ถา่ ยทอดจากรุ่นหนึง่ ไปยังรุน่ ต่อไป
ค. ลักษณะของสงิ่ มีชีวิตท่ีควบคุมโดยยนี
ง. ลักษณะความผดิ ปกตขิ องร่างกาย

6. ลกั ษณะในข้อใดไม่จัดเปน็ ลักษณะทางพันธกุ รรมท้งั หมด
ก. การมีติง่ หู น้ิวหัวแมม่ ือกระดก
ข. การพบั ลิน้ แผลเปน็
ค. ผวิ เผอื ก ปานแดง
ง. สตปิ ญั ญา การมีไฝ

7. ลักษณะใดตอ่ ไปนีไ้ ม่ถ่ายทอดทางพนั ธกุ รรม
ก. ลกั ษณะตงิ่ หู
ข. รปู ของปาก
ค. สตปิ ัญญา
ง. ความรู้

8. ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมของคนลกั ษณะใดต่อไปนีเ้ ปน็ ลักษณะทางพันธุกรรมทแ่ี ปรผนั ต่อเนื่อง
ก. สีผิว เสน้ ผม ความสูง สติปัญญา
ข. ความสงู หนา้ ตา สตปิ ัญญา ต่งิ หู
ค. สผี ิว ความสูง สติปัญญา
ง. เส้นผม หนา้ ตา ติง่ หู

9. สง่ิ มีชวี ติ ทมี่ ลี กั ษณะเดน่ พันธ์แุ ท้จะมลี ักษณะอย่างไร
ก. โฮโมไซกัสโดมแิ นนท์ , BB
ข. โฮโมไซกัสรเี ซสซีพ , bb
ค. เซลล์ดพิ ลอยด์ , 2n
ง. เฮเทอโรไซกัส , Aa

10. ขอ้ ใดแสดงถึงลกั ษณะของส่งิ มชี วี ติ ทสี่ งั เกตไดด้ ว้ ยตาแต่เปน้ ผลมาจากยนี ในรา่ งกาย
ก. แอลลลี
ข. ฟโี นไทป์
ค. จโี นไทป์
ง. พันธุกรรม

48

กระดาษคาตอบแบบทดสอบกอ่ นเรียน
ชุดการสอน เรอ่ื ง การศกึ ษาพนั ธศุ าสตรข์ องเมนเดล
วชิ าชวี วทิ ยา 2 ว32142 ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 4

ชอื่ ............................................................................................................ เลขท่ี .................. ช้นั ....................

ข้อ ก ข ค ง คะแนนเต็ม 10
1 คะแนนที่ได้
2 คิดเป็นร้อยละ
3
4 ผลการประเมิน
5 ดีมาก
6 ดี
7 พอใช้
8 ปรับปรงุ
9
10

เกณฑก์ ารประเมนิ ผลการประเมิน ดีมาก
คะแนนร้อยละ 80 ขนึ้ ไป ผลการประเมนิ ดี
คะแนนรอ้ ยละ 70 – 79 ผลการประเมนิ พอใช้
คะแนนรอ้ ยละ 60 – 69 ผลการประเมนิ ปรบั ปรุง
คะแนนต่ากวา่ ร้อยละ 60

49

บัตรความรูท้ ่ี 1
เรื่อง พันธศุ าสตร์และความแปรผันทางพนั ธกุ รรม

พันธุศาสตร์ (Genetic) เป็นวิทยาศาสตร์สาขาหนึ่งท่ีศึกษา
เกยี่ วกับหนว่ ยพันธุกรรม , การถ่ายทอดลักษณะทางพันธกุ รรม
, การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมและวิวัฒนาการของส่ิงมีชีวิต
โ ด ย อ ง ค์ ป ร ะ ก อ บ ข อ ง ส า ร พั น ธุ ก ร ร ม ส า ม า ร ถ เ รี ย ย ง ล า ดั บ
องค์ประกอบจากเล็กไปใหญ่ ดังน้ี
ยนี DNA โครโมโซม นวิ เคลียส เซลล์

ลักษณะทุกชนิดของส่ิงมีชีวิต สามารถถ่ายทอดจาดพ่อแม่ไปสู่รุ่นลูก
ได้ เช่น ลกั ษณะจมูกโด่ง จมูกแบน ผมหยิก ผมตรง ผิวดา ผิวขาว ตา
ชั้นเดียว ตาสองช้ัน มักเป็นลักษณะเหมือนพ่อแม่หรือญาติ ลักษณะ
เหล่าน้ีจึงสามารถถ่ายทอดมาจากพ่อแม่ เรียกว่า ลักษณะทาง
พันธกุ รรม (Genetic character)

ลกู ชายมีผม
เหมือนพอ่ น่ีเอง


Click to View FlipBook Version