The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ วิทยาการคำนวณ ป.2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by mr.archanai, 2022-05-19 21:06:30

แผนการจัดการเรียนรู้ วิทยาการคำนวณ ป.2

แผนการจัดการเรียนรู้ วิทยาการคำนวณ ป.2

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 1 การแก้ปัญหาอยา่ งเปน็ ข้ันตอน
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 การแสดงขนั้ ตอนการแกป้ ัญหา

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 2

การแสดงขน้ั ตอนการแก้ปญั หา

เวลา 2 ชว่ั โมง

1. มาตรฐาน/ตัวชีว้ ดั

1.1 ตัวชวี้ ดั
ว 4.2 ป. 2/1 แสดงลำดับขน้ั ตอนการทำงานหรือการแกป้ ญั หาอย่างง่ายโดยใชภ้ าพ สญั ลักษณ์
หรือข้อความ

2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1. อธบิ ายวิธีการแสดงขนั้ ตอนในการแก้ปญั หาแตล่ ะแบบได้ (K)
2. เขียนบอกเล่าแสดงขน้ั ตอนการแกป้ ัญหาได้ (P)
3. วาดภาพแสดงข้ันตอนการแก้ปญั หาได้ (P)
4. เขยี นผังงานอยา่ งง่ายแสดงขัน้ ตอนการแก้ปญั หาได้ (P)
5. เหน็ ความสำคญั ของการแก้ปัญหา (A)

3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ท้องถ่นิ
พิจารณาตามหลกั สตู รของสถานศกึ ษา
สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง

- การแสดงขั้นตอนการแกป้ ญั หาทำได้โดย
การเขียนบอกเลา่ วาดภาพ หรอื ใช้สญั ลักษณ์
- ปัญหาอย่างงา่ ย เชน่ เกมตวั ต่อ 6-12 ชน้ิ
การแต่งตวั มาโรงเรียน

4. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด

การแก้ปัญหาท่ีดจี ะต้องมีการวางแผนการแก้ปัญหา และมีการถ่ายทอดความคิดในการแก้ปัญหา
ออกมาเป็นลำดับขัน้ ตอน เพ่ือให้งา่ ยต่อการทำความเข้าใจ และตรวจสอบความถูกต้องหรอื กลับไปแก้ไขได้
โดยการแสดงขน้ั ตอนการแก้ปัญหา สามารถทำไดโ้ ดยการเขยี นบอกเลา่ การวาดภาพ หรือใช้สัญลักษณ์

5. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียนและคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

1. ความสามารถในการสอื่ สาร 1. มวี นิ ยั รับผิดชอบ

- ทักษะการสื่อสาร 2. ใฝ่เรยี นรู้

2. ความสามารถในการคดิ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน

เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)

22

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 1 การแกป้ ัญหาอยา่ งเปน็ ขั้นตอน
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 การแสดงขั้นตอนการแก้ปญั หา

- ทกั ษะการคิดเชิงคำนวณ
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา

- ทกั ษะการแก้ปญั หา
- ทกั ษะการสังเกต
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
- ทักษะการทำงานรว่ มกัน

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

 วธิ กี ารสอนโดยเนน้ การจดั การเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเปน็ ฐาน (problem- based learning)

ช่ัวโมงท่ี 1
ขั้นนำ

1. ครถู ามคำถามประจำหัวข้อว่า“การแสดงลำดบั ขน้ั ตอนชว่ ยในการแก้ปญั หาอย่างไร”
(แนวตอบ : การแสดงลำดับขั้นตอนเป็นการถา่ ยทอดความคดิ ออกมา เพ่ือให้ง่ายต่อ
การทำความเข้าใจ และการตรวจสอบ)

2. ครอู ธบิ ายเพ่ือเช่อื มโยงเขา้ ส่บู ทเรียนว่า“เมื่อพบปญั หาผ้แู ก้ปญั หาที่ดีควรมสี ตแิ ละวางแผน
การแก้ปัญหาได้ โดยการถา่ ยทอดความคดิ ออกมาเปน็ ลำดับขนั้ ตอนการแก้ปัญหา ซง่ึ สามารถ
ทำได้โดยการเขยี นบอกเล่า การวาดภาพ และการใช้สญั ลักษณ์”

ขั้นสอน

ขน้ั ท่ี 1 กำหนดปญั หา
1. ครใู ช้คำถามท้าทายความคดิ นักเรียนว่า“นกั เรยี นรู้จักวิธกี ารทอดไข่เจยี วหรอื ไม่”
(แนวตอบ : ให้นกั เรียนแสดงความคิดเห็นตามประสบการณข์ องนกั เรียน)

ขน้ั ที่ 2 ทำความเข้าใจปัญหา
2. นักเรียนจับคู่กันเพ่ือแลกเปล่ียนประสบการณ์การทอดไข่เจยี วของตนเองให้เพอื่ นฟัง

ขน้ั ท่ี 3 ดำเนนิ การศกึ ษาคน้ คว้า
3. นกั เรยี นศกึ ษาการแสดงขนั้ ตอนการแกป้ ญั หาจากหนังสือเรยี น รายวิชาพ้ืนฐาน เทคโนโลยี
(วทิ ยาการคำนวณ) ป.2 หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 1 การแกป้ ัญหาอย่างเปน็ ขั้นตอน
4. จากนัน้ ให้นกั เรยี นทำความเข้าใจสถานการณต์ วั อย่าง พรอ้ มศกึ ษาการแสดงลำดับขัน้ ตอน
การแกป้ ัญหาโดยการเขยี นบอกเลา่ จากน้นั นำข้อความการเขยี นบอกเล่ามาแสดงเป็นลำดบั
ขั้นตอนการแก้ปญั หาโดยการวาดภาพ

เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

23

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 การแกป้ ัญหาอยา่ งเปน็ ข้นั ตอน
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 2 การแสดงขั้นตอนการแก้ปญั หา

5. นกั เรยี นแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 4-5 คนหรือตามความเหมาะสม เพือ่ ระดมความคิดเหน็ รว่ มกนั
ภายในกล่มุ เกยี่ วกับการแสดงข้นั ตอนการแก้ปัญหาการทอดไขเ่ จยี ว โดยให้นักเรียนเขยี นออกมา
ในรูปแบบของการเขยี นบอกเล่า

ข้นั ท่ี 4 สังเคราะหค์ วามรู้
6. ครูให้นักเรียนนำลำดบั ข้ันตอนการทอดไข่เจียวในรปู แบบการใช้วิธีการเขียนบอกเล่ามาปรับใหม่
ใหอ้ อกมาในรปู แบบของการวาดภาพแสดงข้ันตอนการแก้ปัญหา
7. จากนนั้ ครูใหน้ ักเรยี นนำขน้ั ตอนการแก้ปญั หาการทอดไข่เจยี วด้วยวิธกี ารเขยี นบอกเล่า และ
วิธีการวาดภาพทำลงในใบงานท่ี 1.2.1 เรื่อง การแสดงขั้นตอนการแก้ปัญหาพร้อมสมุ่ นักเรยี น
2-3 กลุม่ ออกมานำเสนอผลงานหนา้ ชน้ั เรียน

ชว่ั โมงที่ 2

ขั้นสอน

ขัน้ ท่ี 2 ทำความเขา้ ใจปัญหา
8. ครทู บทวนเนื้อหาการเรยี นเม่ือช่ัวโมงทีแ่ ลว้ เกยี่ วกับการแสดงขน้ั ตอนการแก้ปัญหา
โดยการเขยี นบอกเล่าและการวาดภาพ
9. ครูหยิบยกคำถามชั่วโมงที่แล้ววา่ “นักเรียนรูจ้ กั วิธกี ารทอดไข่เจียวหรือไม่”
(แนวตอบ : ให้นกั เรยี นแสดงความคิดเหน็ ตามประสบการณ์ของนักเรียน)

ขนั้ ท่ี 3 ดำเนนิ การศึกษาคน้ ควา้

10. ครอู ธิบายกับนักเรยี นว่า“การแสดงขั้นตอนการแก้ปญั หานอกจากจะใช้วธิ กี ารเขียนบอกเล่า

และการวาดภาพแล้ว ยังมกี ารแสดงข้นั ตอนการแก้ปัญหาโดยการใชส้ ญั ลักษณ์อีกวิธีหนงึ่ ”

11. นกั เรยี นศึกษาการใชส้ ัญลักษณ์ของผงั งานอย่างงา่ ยจากหนังสือเรียนเพ่ือนำมาใช้

ในการแสดงขัน้ ตอนการแก้ปัญหา

12. ครอู ธบิ ายสญั ลักษณท์ ่ีใชใ้ นการเขยี นผงั งานอย่างง่ายโดยใช้บตั รภาพ เรื่อง สญั ลักษณ์

ของผังงานอยา่ งงา่ ย เพอื่ ให้นกั เรยี นไดเ้ ขา้ ใจมากยิ่งขึน้ โดยมีสญั ลักษณข์ องผังงานอย่างง่าย

ทนี่ ักเรยี นควรรอู้ ยู่ 4 สัญลักษณ์ ดงั น้ี

สญั ลักษณ์ ความหมาย

เร่ิมตน้ หรอื สน้ิ สุด
การทำงาน

การตดั สนิ ใจ

เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

24

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 การแก้ปัญหาอยา่ งเปน็ ขนั้ ตอน
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 การแสดงขั้นตอนการแก้ปญั หา

การทำงาน
ทิศทางข้อมูล

13. นกั เรียนศกึ ษาตวั อยา่ งการใช้สญั ลักษณใ์ นการแสดงขนั้ ตอนการแกป้ ัญหาโดยการเขียนผงั งาน
จากหนงั สือเรียน

14. จากน้ันให้นกั เรียนแต่ละกลุ่มศึกษาสถานการณต์ ัวอยา่ งจากหนงั สือเรียนโดยใหว้ ิเคราะห์ปญั หา
และแนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกัน

ขน้ั ท่ี 4 สังเคราะห์ความรู้
15. ให้นักเรยี นทำกิจกรรมฝึกทักษะการแสดงขน้ั ตอนการแก้ปัญหาในหนงั สอื เรียนและบันทึกผล

ลงในสมุดประจำตวั
16. ครใู หน้ ักเรยี นแต่ละกล่มุ รว่ มกันทำใบงานที่ 1.2.2 เร่ืองการเขยี นผงั งาน โดยให้นักเรียน

นำข้อมูลจากชั่วโมงทีแ่ ลว้ มาปรับใช้ในการเขยี นผงั งานแสดงลำดับขน้ั ตอนการทอดไข่เจยี ว
17. ครูสุ่มนักเรียน 2-3 กลุ่ม ออกมานำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน
ขั้นท่ี 5 สรุปและประเมินคา่ ของคำตอบ
18. ครูเปิดโอกาสให้นักเรยี นซักถามข้อสงสยั และครใู ห้ความร้เู พ่มิ เติมในสว่ นนั้น หรอื อาจจะ

ให้นกั เรียนศึกษาเพ่ิมเติมจากอนิ เทอรเ์ นต็

ขั้นท่ี 6 นำเสนอและประเมนิ ผลงาน
19. ครปู ระเมินผลโดยการสังเกตการตอบคำถาม การทำใบงาน และสมุดประจำตวั
20. ครูตรวจสอบผลการทำใบงานที่ 1.2.1 ใบงานท่ี 1.2.2 และกิจกรรมฝึกทกั ษะ

เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

25

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 การแกป้ ัญหาอยา่ งเป็นขนั้ ตอน
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 การแสดงขน้ั ตอนการแกป้ ัญหา

Note
วตั ถปุ ระสงคข์ องกิจกรรมเพื่อใหน้ กั เรยี น
- มที ักษะการแกป้ ัญหา โดยการแสดงขน้ั ตอนการแกป้ ญั หาอยา่ งงา่ ย

ด้วยการบอกเลา่ การวาดภาพ และการใช้สญั ลักษณ์ผา่ นการคดิ เชงิ คำนวณ
- มีทักษะการทำงานร่วมกนั โดยการทำกิจกรรมกระบวนการกลุ่ม

เพ่ือให้นกั เรียนไดส้ ่ือสารและแลกเปลี่ยนประสบการณ์รว่ มกัน
- มที ักษะการสงั เกต โดยการสงั เกตตัวอยา่ งการแสดงข้ันตอนการแกป้ ัญหา

อย่างง่ายด้วยการเขยี นบอกเล่า การวาดภาพ และการใช้สัญลักษณ์

ขนั้ สรปุ

นกั เรยี นและครูรว่ มกนั สรุปถงึ การแสดงข้ันตอนการแกป้ ัญหาทส่ี ามารถทำได้โดยการเขียนบอกเลา่
การวาดภาพ หรอื การใช้สัญลกั ษณว์ า่ “การแก้ปัญหาโดยการเขียนบอกเล่า การวาดภาพ หรือ
การใชส้ ญั ลักษณเ์ ขยี นผงั งาน เปน็ การแสดงให้เหน็ ถงึ ลำดบั ขน้ั ตอนการแก้ปญั หา ทำให้สามารถ
แกป้ ญั หาได้ถูกตอ้ งและเหมาะสม”

7. การวัดและประเมินผล วธิ ีวดั เครอื่ งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ

รายการวดั

7.1 การประเมนิ ระหว่างการ - ตรวจใบงานที่ 1.2.1 - ใบงานท่ี 1.2.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
จัดกิจกรรม - ตรวจใบงานท่ี 1.2.2
1) การแสดงข้ันตอน - ใบงานที่ 1.2.2 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
การแก้ปัญหา - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2
2) การเขยี นผังงาน การทำงานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์
- แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2
3) พฤติกรรมการทำงาน - สงั เกตพฤติกรรม การทำงานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์
รายบคุ คล การทำงานรายบุคคล - แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2
คุณลกั ษณะ ผ่านเกณฑ์
4) พฤติกรรมการทำงาน - สงั เกตพฤติกรรม อนั พึงประสงค์
กลุ่ม การทำงานกลุ่ม

5) คุณลักษณะ - สังเกตความมีวนิ ัย
อนั พงึ ประสงค์ ความรบั ผดิ ชอบ
ใฝ่เรียนรู้ และม่งุ มน่ั
ในการทำงาน

เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)

26

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 การแก้ปญั หาอยา่ งเป็นขัน้ ตอน
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 2 การแสดงขั้นตอนการแก้ปญั หา

8. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้

8.1 สื่อการเรียนรู้
1) หนงั สอื เรยี นรายวิชาพน้ื ฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.2 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1
เร่ืองการแกป้ ัญหาอย่างเป็นขัน้ ตอน
2) ใบงานที่ 1.2.1 เร่ือง การแสดงขั้นตอนการแกป้ ัญหา
3) ใบงานท่ี 1.2.2 เรื่อง การเขียนผังงาน
4) บัตรภาพ เรื่อง สญั ลักษณ์ของผงั งานอย่างงา่ ย

8.2 แหล่งการเรียนรู้
- อนิ เทอรเ์ นต็

เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)

27

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 การแก้ปัญหาอย่างเปน็ ข้ันตอน
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 2 การแสดงขนั้ ตอนการแก้ปญั หา

ใบงานท่ี 1.2.1
เรอ่ื ง การแสดงข้ันตอนการแก้ปญั หา

คำชแี้ จง : ใหน้ กั เรียนแสดงลำดับขน้ั ตอนการทอดไข่เจียวโดยการเขยี นบอกเลา่ และการวาดภาพ
ข้ันตอนการทอดไข่เจียวโดยการเขียนบอกเลา่

..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................

ขนั้ ตอนการทอดไข่เจยี วโดยการวาดภาพ

เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)

28

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 การแกป้ ญั หาอย่างเป็นข้ันตอน เฉลย
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 2 การแสดงขน้ั ตอนการแก้ปญั หา

ใบงานที่ 1.2.1

เรื่อง การแสดงข้ันตอนการแกป้ ญั หา

คำช้แี จง : ใหน้ ักเรยี นแสดงลำดบั ขั้นตอนการทอดไขเ่ จียวโดยการเขียนบอกเลา่ และการวาดภาพ

ขนั้ ตอนการทอดไขเ่ จยี วโดยการเขยี นบอกเลา่

.....1.....ต...อ..ก..ไ.ข..่ใ.ส...่ช..า.ม................................................................................................................................
.....2.....ใ..ส..เ่ .ค..ร..่ือ..ง..ป..ร..ุง.ร..ส..ท..่ีต...้อ..ง.ก..า..ร...............................................................................................................
.....3.....ต...ีไ.ข..่ผ..ส..ม..ใ..ห..เ้ .ข..้า..ก..นั ..........................................................................................................................
.....4.....ต...ัง้ .ก..ร..ะ..ท..ะ..เ.ท...น..้ำ..ม..ัน.........................................................................................................................
.....5....น...ำ.ไ..ข..่ล..ง..ใ.น..ก..ร..ะ..ท..ะ..........................................................................................................................
.....6.....ก..ล...บั ..ด..า้..น..ไ.ข..่.................................................................................................................................
.....7.....ต...ัก..ใ.ส..จ่ ..า..น..เ.ส..ริ..ฟ์ ..............................................................................................................................
..........................................................................................................................................................

ขั้นตอนการทอดไข่เจียวโดยการวาดภาพ

1 2 3..........................................................................................................................................................

4

7 65

เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

29

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 การแก้ปัญหาอยา่ งเป็นขั้นตอน
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 การแสดงข้นั ตอนการแก้ปญั หา

ใบงานที่ 1.2.2
เรอ่ื ง การเขยี นผงั งาน

คำช้แี จง : ให้นักเรียนแสดงลำดบั ขน้ั ตอนการทอดไข่เจียวโดยการเขยี นผงั งาน

เริ่มต้น

เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

30

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 การแก้ปญั หาอย่างเปน็ ขน้ั ตอน เฉลย
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 2 การแสดงขั้นตอนการแก้ปัญหา

ใบงานที่ 1.2.2
เรื่อง การเขียนผงั งาน

คำชแ้ี จง : ใหน้ ักเรียนแสดงลำดับขั้นตอนการทอดไข่เจียวโดยการเขียนผังงาน

เริ่มต้น

1.ตอกไข่ใส่ชาม

2.ใส่เคร่ืองปรุงรสที่ตอ้ งการ
3.ตไี ขผ่ สมให้เขา้ กนั
4.ตง้ั กระทะเทน้ำมัน
5.นำไข่ลงในกระทะ
6.กลับดา้ นไข่
7.ตกั ใสจ่ านเสริ ์ฟ

สนิ้ สดุ

เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)

31

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 1 การแก้ปญั หาอย่างเป็นข้ันตอน 
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 การแสดงขัน้ ตอนการแกป้ ัญหา

บัตรภาพ
เรื่อง สญั ลักษณ์ของผังงานอย่างงา่ ย

เริ่มต้นหรอื สน้ิ สุด
การทำงาน

การตัดสนิ ใจ

เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

32

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 การแก้ปญั หาอยา่ งเป็นขั้นตอน 
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 2 การแสดงขั้นตอนการแกป้ ญั หา

การทำงาน

ทิศทางขอ้ มลู

เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)

33

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 การแก้ปัญหาอยา่ งเป็นข้ันตอน
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 การแสดงขั้นตอนการแก้ปัญหา

9. ความเหน็ ของผ้บู รหิ ารสถานศึกษาหรือผทู้ ี่ไดร้ ับมอบหมาย

ข้อเสนอแนะ
ลงชอ่ื ................................................
(นายสุพศิ อาจเชื้อ)

ตำแหนง่ ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นอนุบาลรัตนบรุ ี

10. บนั ทกึ ผลหลงั การสอน

 ดา้ นความรู้

 ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น

 ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

 ด้านความสามารถทางเทคโนยี (วิทยาการคำนวณ)

 ดา้ นอนื่ ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤติกรรมทมี่ ปี ญั หาของนกั เรียนเป็นรายบุคคล (ถ้าม)ี )

 ปญั หา/อปุ สรรค

 แนวทางการแกไ้ ข

เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

34

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 การแก้ปัญหาอย่างเปน็ ขั้นตอน
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 3 การหารูปแบบของปญั หาอย่างง่าย

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 3

การหารูปแบบของปญั หาอยา่ งง่าย

เวลา 1 ช่วั โมง

1. มาตรฐาน/ตวั ช้วี ดั

1.1 ตวั ชีว้ ดั
ว 4.2 ป. 2/1 แสดงลำดบั ขั้นตอนการทำงานหรอื การแกป้ ญั หาอยา่ งงา่ ยโดยใช้ภาพ สญั ลักษณ์
หรอื ข้อความ

2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

1. อธบิ ายการหารูปแบบของปัญหาอยา่ งง่ายได้ (K)
2. อธิบายขัน้ ตอนการแกป้ ญั หาเกมตวั ต่อได้ (K)
3. ปฏิบตั ติ ามข้ันตอนการแก้ปัญหาเกมตวั ต่อได้ (P)
4. สนใจใฝ่รใู้ นการศึกษา (A)

3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรทู้ ้องถิน่
พิจารณาตามหลกั สูตรของสถานศกึ ษา
สาระการเรียนรู้แกนกลาง

- การแสดงขั้นตอนการแก้ปญั หาทำไดโ้ ดย
การเขียนบอกเล่า วาดภาพ หรือใชส้ ญั ลกั ษณ์
- ปัญหาอยา่ งงา่ ย เช่น เกมตวั ตอ่ 6-12 ชนิ้
การแต่งตัวมาโรงเรียน

4. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด

ปัญหาเป็นส่ิงท่ีเกิดขน้ึ ในชีวติ ประจำวันสำหรบั ทกุ คน แต่เม่ือมปี ญั หาเกดิ ข้ึนส่งิ ทจี่ ะควรทำคือ
การแก้ไขปัญหาโดยการหารูปแบบของปญั หา ซง่ึ ถอื วา่ เป็นการหาความสมั พนั ธข์ องปญั หาตา่ ง ๆ
โดยการเปรียบเทยี บ การจัดกล่มุ การเรยี งลำดบั เพอ่ื ชว่ ยให้การแกป้ ัญหาเป็นไปอยา่ งราบร่ืน
และง่ายดายมากข้ึน

5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี นและคุณลักษณะอันพึงประสงค์

สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์

1. ความสามารถในการสอื่ สาร 1. มีวินยั รับผดิ ชอบ

- ทักษะการสื่อสาร 2. ใฝเ่ รียนรู้

เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)

35

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 การแก้ปญั หาอยา่ งเป็นขน้ั ตอน
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 3 การหารูปแบบของปญั หาอยา่ งงา่ ย

2. ความสามารถในการคิด 3. มุ่งมัน่ ในการทำงาน
- ทกั ษะการคดิ เชิงคำนวณ

3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
- ทกั ษะการแก้ปญั หา

4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
- ทักษะการทำงานร่วมกนั

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

 วิธกี ารสอนโดยเนน้ รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)

ชัว่ โมงที่ 1

ขน้ั นำ

ขน้ั ท่ี 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engagement)
1. ครถู ามคำถามประจำหัวข้อวา่ “รปู แบบของปัญหามผี ลต่อการแกป้ ัญหาอยา่ งไร”
(แนวตอบ : เปน็ การหาความสัมพันธ์ของปญั หา โดยการเปรยี บเทยี บ จัดกลุ่ม เรียงลำดับ
เพ่อื ชว่ ยให้สามารถแก้ปัญหาได้งา่ ยขึน้ )
2. จากน้ันครูนำบตั รภาพเกมตัวต่อให้นักเรยี นไดด้ ูพรอ้ มถามนักเรียนวา่ “นกั เรยี นรู้หรือไม่
เกมนี้มีวธิ กี ารเลน่ อย่างไร”
(แนวตอบ : ให้นกั เรยี นแสดงความคิดเหน็ ตามประสบการณข์ องนักเรียน)
3. ให้นกั เรียนแบง่ กลุ่ม กล่มุ ละ 4 คน หรือตามความเหมาะสมเพ่ือเล่นเกมตวั ต่อร่วมกนั

ขัน้ สอน

ข้นั ที่ 2 สำรวจค้นหา (Exploration)
1. ครมู อบหมายใหน้ ักเรยี นเลน่ เกมตวั ต่อ โดยครูแจกบัตรภาพเกมตัวตอ่ ใหน้ ักเรียนกลุ่มละ 4 แผ่น
และให้เวลาในการเลน่ เกมตามความเหมาะสม กลุ่มใดทำกิจกรรมสำเรจ็ ก่อนกล่มุ นัน้ จะเปน็ ผ้ชู นะ
โดยแตล่ ะกลุม่ จะตอ้ งบันทึกระยะเวลาในการเลน่ เกมตัวต่อต้งั แต่เริ่มตน้ จนสำเรจ็ ไว้

ขน้ั ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explanation)
2. จากนน้ั ใหน้ ักเรียนกลมุ่ ที่ชนะออกมาอภิปรายหนา้ ช้นั เรยี นเก่ยี วกับวธิ ีคดิ ในการเลน่ เกมตัวตอ่

เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

36

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 การแกป้ ัญหาอยา่ งเป็นข้ันตอน
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 3 การหารปู แบบของปัญหาอย่างง่าย

และให้นกั เรียนศกึ ษาวธิ คี ดิ ในการเล่นเกมตัวต่อทเี่ หมาะสมจากหนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐาน
เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.2 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 การแกป้ ัญหาอย่างเปน็ ขัน้ ตอน
เพอ่ื การเล่นเกมตวั ต่อไดอ้ ย่างถกู ต้องและถูกวิธี
3. ครูอธิบายเกรด็ น่าร้ใู นการเล่นเกมตัวต่อว่า“การฝกึ เลน่ เกมตวั ต่อหรอื เกมต่อจกิ ซอว์เป็นประจำ
จะทำให้นักเรยี นได้ฝึกใช้ทกั ษะในการหารูปแบบของปญั หา ช่วยใหม้ สี มาธิ รจู้ ักสังเกต และ
มคี วามอดทน”

ขัน้ ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration)
4. ให้นกั เรียนแต่ละคนทำกจิ กรรมฝกึ ทกั ษะเกมตวั ต่อในหนังสือเรยี นและบันทึกลงในสมดุ ประจำตัว
เพอ่ื ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรยี น
5. ให้นักเรยี นแบ่งกลุ่ม (กลุ่มเดิม) เพอื่ เลน่ เกมตัวต่อโดยใช้บตั รภาพเกมตวั ต่อทง้ั 4 แผ่น เช่นเดมิ
แต่ในการเล่นเกมคร้ังนีใ้ ห้ใช้วธิ ีการคิดตามหนงั สือเรียน โดยมีกตกิ าวา่ กลมุ่ ใดทที่ ำกิจกรรมสำเร็จ
ก่อนกล่มุ นัน้ จะเป็นผู้ชนะและให้ทุกกลุ่มจดระยะเวลาในการเล่นเกมตวั ต่อตั้งแต่เร่มิ ตน้ จนสำเร็จไว้
6. จากนัน้ ครใู ห้นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ เปรยี บเทยี บระยะเวลาในการเลม่ เกมตัวต่อของทง้ั 2 ครั้ง
7. นกั เรียนทำความเขา้ ใจกบั การหารปู แบบของปัญหาอยา่ งง่ายอีกแบบหนึ่ง คอื การเขียนขั้นตอน
แบบเรียงลำดับ โดยใหน้ กั เรยี นดูขน้ั ตอนการแตง่ กายมาโรงเรียนจากหนังสือเรยี น
8. ครถู ามคำถามทา้ ทายการคดิ ข้ันสูงว่า“ในการเลือกเสื้อผ้าเครอ่ื งแต่งกายไปโรงเรียนในแต่ละวัน
ให้ถกู ต้อง นกั เรยี นควรคำนึงถึงสงิ่ ใดบา้ ง”
(แนวตอบ : ความสะอาด ความเรียบร้อย ความเหมาะสม ความถูกต้อง)
9. ครูใหน้ กั เรยี นทำกจิ กรรมฝึกทักษะการแต่งกายมาโรงเรียนในหนังสือเรียน

Note
วัตถุประสงคข์ องกิจกรรมเพอื่ ใหน้ กั เรยี น
- มที ักษะการทำงานรว่ มกัน โดยใชก้ จิ กรรมแบบกระบวนการกลุ่มในการเล่นเกม

ตัวตอ่ หรอื เกมจกิ ซอวจ์ ากบัตรภาพทคี่ รูแจกให้
- มที ักษะการส่ือสารโดยการแลกเปลยี่ นวธิ ีการคิดในการเล่นเกมตัวต่อหรือ

เกมจิกซอว์
- มีทกั ษะการคิดเชงิ คำนวณในการแกป้ ัญหาอย่างง่ายไมว่ ่าจะเปน็ การเล่นเกม

ตัวต่อ 6-12 ช้นิ หรือปญั หาการแต่งตัวมาโรงเรยี น
- มีทกั ษะการแก้ปัญหาทีเ่ กดิ ขึ้นขณะทำกิจกรรมเล่นเกมตัวตอ่ 6-12 ช้ิน

ภายในหอ้ งเรยี น

เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

37

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 1 การแก้ปัญหาอย่างเป็นข้ันตอน
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 3 การหารปู แบบของปัญหาอย่างงา่ ย

ขน้ั สรปุ

ข้ันที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครปู ระเมินผลโดยการสงั เกตการตอบคำถาม การร่วมกันทำผลงาน และจากการนำเสนอ
ผลงานหนา้ ชัน้ เรียน
2. ครูตรวจสอบผลการทำกิจกรรมฝึกทกั ษะและกจิ กรรมเสริมสร้างการเรียนรู้
3. นกั เรยี นและครูรว่ มกันสรุปถึงการแก้ปัญหาอยา่ งเป็นขนั้ ตอนวา่ “การแก้ปัญหาอย่างเปน็ ขน้ั ตอน
สามารถทำไดโ้ ดยการเขยี นบอกเล่า การวาดภาพ หรอื การใช้สัญลักษณต์ า่ ง ๆ เพื่อนำมาเขยี น
เป็นผังงานแสดงขนั้ ตอนในการแกป้ ัญหา โดยผูท้ แี่ ก้ปัญหาจะตอ้ งมสี ติขณะดำเนนิ การแก้ปญั หา
เพอ่ื ใหท้ ราบถึงสาเหตขุ องปัญหาอยา่ งแนช่ ัด และดำเนิการแกป้ ญั หาไดอ้ ย่างถูกตอ้ งเหมาะสม”
4. ครใู หน้ ักเรียนทำแบบทดสอบหลงั เรียนหน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1 เรอื่ ง การแก้ปญั หาอย่างเป็นข้ันตอน
5. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนทำกิจกรรมเสรมิ สร้างการเรียนรู้ และทำชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
เร่อื ง การแกป้ ญั หา โดยใหน้ กั เรยี นเลอื กปญั หาทกี่ ำหนดให้ จากน้นั ให้นักเรยี นเลือกแสดงขน้ั ตอน
การแกป้ ัญหาซ่ึงสามารถทำได้โดยการเขยี นบอกเลา่ วาดภาพ หรือใชส้ ัญลกั ษณ์ และนำมาสง่ ครู
ในชั่วโมงถัดไป

7. การวัดและประเมนิ ผล วธิ ีวดั เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ

รายการวัด - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2
7.1 การประเมินระหว่างการ การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์
- สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ 2
จัดกจิ กรรม การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์
1) พฤติกรรมการทำงาน - สังเกตความมีวนิ ัย - แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 2
ความรบั ผดิ ชอบ คุณลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์
รายบุคคล ใฝเ่ รียนรู้ และมงุ่ มน่ั อนั พึงประสงค์
2) พฤติกรรมการทำงาน ในการทำงาน ประเมินตามสภาพจริง

กล่มุ - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบหลังเรยี น ระดบั คุณภาพ 2
3) คณุ ลกั ษณะ หลงั เรียน ผ่านเกณฑ์

อันพงึ ประสงค์ - ตรวจชนิ้ งาน/ภาระงาน - แบบประเมนิ ช้ินงาน
(รวบยอด) /ภาระงาน (รวบยอด)
7.2 การประเมินหลงั เรียน
- แบบทดสอบหลงั เรยี น
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1
การแก้ปัญหา
อย่างเป็นข้นั ตอน
- การประเมินชิน้ งาน
/ภาระงาน (รวบยอด)
เรอื่ ง การแก้ปัญหา

เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

38

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 การแก้ปญั หาอย่างเป็นขั้นตอน
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 3 การหารปู แบบของปัญหาอยา่ งงา่ ย

8. สือ่ /แหลง่ การเรียนรู้

8.1 สื่อการเรยี นรู้
1) หนังสอื เรยี นรายวิชาพนื้ ฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.2 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1
เรื่อง การแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน
2) บัตรภาพ เร่ือง เกมตวั ต่อ

8.2 แหล่งการเรยี นรู้
-

เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

39

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1 การแก้ปญั หาอย่างเปน็ ข้นั ตอน 
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 3 การหารปู แบบของปญั หาอยา่ งงา่ ย

บัตรภาพ
เรอ่ื ง เกมตัวต่อ

เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)

40

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 การแก้ปัญหาอยา่ งเปน็ ขนั้ ตอน 
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 3 การหารปู แบบของปญั หาอยา่ งง่าย

เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

41

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 การแก้ปญั หาอยา่ งเปน็ ขน้ั ตอน
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 3 การหารปู แบบของปัญหาอยา่ งง่าย

ชนิ้ งาน/ภาระงาน(รวบยอด)
เรอื่ ง การแก้ปญั หา

คำช้แี จง : ใหน้ กั เรียนเลือกปัญหาทก่ี ำหนดให้ 1 ปัญหา จากนัน้ ใหน้ ักเรียนแสดงขน้ั ตอนการแกป้ ัญหา
ซง่ึ สามารถทำได้โดยการเขียนบอกเล่า วาดภาพ หรอื ใชส้ ัญลักษณ์
1.ปัญหาขน้ึ รถโรงเรียนไมท่ ัน
2.ปัญหาการหาหนงั สือที่ต้องการไม่พบในห้องสมดุ
3.ปญั หามีการปวดท้องที่โรงเรียน

1.นกั เรียนเลอื กปญั หาใด ………………………………………………………………………………………………………
2.นกั เรยี นเลือกวธิ ีการแสดงขน้ั ตอนการแกป้ ญั หาแบบใด ...................................................................
3.จงแสดงขั้นตอนการแกป้ ญั หา

เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)

42

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 การแกป้ ัญหาอยา่ งเป็นขนั้ ตอน
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 3 การหารปู แบบของปัญหาอยา่ งง่าย

ชน้ิ งาน/ภาระงาน(รวบยอด) เฉลย
เร่อื ง การแก้ปญั หา

คำชแ้ี จง : ใหน้ ักเรียนเลือกปัญหาที่กำหนดให้ 1 ปัญหา จากนั้นให้นกั เรยี นแสดงขน้ั ตอนการแก้ปญั หา
ซง่ึ สามารถทำไดโ้ ดยการเขียนบอกเลา่ วาดภาพ หรอื ใชส้ ญั ลกั ษณ์

1.ปัญหาข้ึนรถโรงเรยี นไมท่ ัน
2.ปัญหาการหาหนังสือทต่ี อ้ งการไมพ่ บในห้องสมุด
3.ปญั หามีอาการปวดท้องที่โรงเรียน

1.นกั เรียนเลอื กปญั หาใด …………ป…ญั …ห…าม…ีอ…า…กา…ร…ป…วด…ท…้อ…งท…ี่โร…ง…เร…ยี น…………………………………………………

2.นักเรยี นเลอื กวิธกี ารแสดงข้นั ตอนการแก้ปัญหาแบบใด ............ก..า..ร..เ.ข...ยี ..น..บ...อ..ก..เ.ล...่า..............................

3.จงแสดงขน้ั ตอนการแกป้ ัญหา

ขน้ั ตอนการแก้ปญั หาอาการปวดท้องท่โี รงเรยี น
1.แจ้งครูท่ปี รกึ ษาทราบ
2.ไปทห่ี ้องพยาบาล
3.แจง้ อาการครูประจำห้องพยาบาล
4.รบั ประทานยาแกอ้ าการปวดท้อง
5.นอนพักผอ่ น หากอาการไม่ดขี ึ้นให้รบี แจ้งครปู ระจำห้องพยาบาล

เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)

43

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 การแกป้ ญั หาอยา่ งเปน็ ข้นั ตอน
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 3 การหารปู แบบของปัญหาอย่างง่าย

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล

คำชีแ้ จง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในชอ่ งที่

ตรงกับระดับคะแนน

ลำดบั ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1
32

1 การแสดงความคิดเหน็  

2 การยอมรบั ฟงั ความคดิ เห็นของผูอ้ ่ืน  

3 การทำงานตามหนา้ ที่ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย  

4 ความมีน้ำใจ  

5 การตรงต่อเวลา  

รวม

เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมนิ
ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่ำเสมอ ............/.................../................
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้ัง
ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน

เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ

14–15 ดีมาก

11–13 ดี

8–10 พอใช้

ตำ่ กว่า 8 ปรบั ปรุง

เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)

44

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 การแกป้ ญั หาอย่างเปน็ ขัน้ ตอน
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 3 การหารูปแบบของปัญหาอย่างง่าย

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ

คำชแ้ี จง : ให้ผ้สู อนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ลงในชอ่ งท่ี
ตรงกบั ระดับคะแนน

การแสดง การทำงาน การมี
ความ ตามทไ่ี ดร้ บั
ลำดับที่ ชือ่ –สกลุ คดิ เหน็ การยอมรับ มอบหมาย ความมนี ำ้ ใจ ส่วนรว่ มใน รวม
ของนกั เรยี น ฟงั คนอน่ื การปรับปรุง 15
คะแนน
ผลงานกลุ่ม

321321321321321

ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมิน
............./.................../...............

เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครง้ั ให้ 1 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั

เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
14–15 ดีมาก
11–13 ดี
8–10 พอใช้

เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)

45

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 การแก้ปญั หาอยา่ งเป็นข้ันตอน
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 3 การหารปู แบบของปัญหาอยา่ งง่าย

แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์

คำช้ีแจง : ให้ผ้สู อนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่อง
ทีต่ รงกับระดบั คะแนน

คุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน
อันพึงประสงคด์ ้าน 32 1
1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาตไิ ด้
1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.2 เข้ารว่ มกิจกรรมทสี่ ร้างความสามัคคีปรองดอง และเปน็ ประโยชนต์ ่อ
กษัตริย์
โรงเรยี น
2. ซือ่ สัตย์ สจุ รติ 1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนบั ถอื ปฏบิ ัติตามหลกั ศาสนา
3. มวี นิ ัย รบั ผดิ ชอบ 1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมท่ีเกี่ยวกับสถาบนั พระมหากษัตริยต์ ามทโี่ รงเรียนจัดขึ้น
4. ใฝ่เรียนรู้ 2.1 ให้ข้อมลู ท่ถี ูกต้องและเป็นจริง
2.2 ปฏบิ ตั ิในสงิ่ ทถ่ี กู ตอ้ ง
5. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง 3.1 ปฏิบัติตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคับของครอบครวั

6. มุ่งมน่ั ในการทำงาน มีความตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัตกิ จิ กรรมตา่ งๆ ในชีวิตประจำวนั
7. รกั ความเป็นไทย 4.1 ร้จู กั ใชเ้ วลาว่างใหเ้ ป็นประโยชน์ และนำไปปฏบิ ัติได้
8. มจี ิตสาธารณะ 4.2 รู้จักจัดสรรเวลาให้เหมาะสม
4.3 เชอ่ื ฟังคำสั่งสอนของบดิ า-มารดา โดยไมโ่ ตแ้ ย้ง
4.4 ตั้งใจเรียน
5.1 ใช้ทรพั ย์สินและสิ่งของของโรงเรียนอย่างประหยัด
5.2 ใช้อปุ กรณ์การเรยี นอยา่ งประหยัดและร้คู ณุ ค่า
5.3 ใชจ้ ่ายอย่างประหยดั และมกี ารเก็บออมเงนิ
6.1 มีความตง้ั ใจและพยายามในการทำงานที่ไดร้ ับมอบหมาย
6.2 มีความอดทนและไมท่ ้อแท้ตอ่ อุปสรรคเพื่อใหง้ านสำเร็จ
7.1 มีจติ สำนึกในการอนุรกั ษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย
7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏิบัตติ นตามวัฒนธรรมไทย
8.1 รจู้ กั ชว่ ยพ่อแม่ ผ้ปู กครอง และครูทำงาน
8.2 รจู้ ักการดูแลรกั ษาทรพั ย์สมบตั ิและส่ิงแวดลอ้ มของห้องเรยี นและ

โรงเรยี น

ลงช่อื ..................................................ผู้ประเมิน
............/.................../................

เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ตั ชิ ดั เจนและสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน 51–60 ดมี าก
พฤติกรรมที่ปฏบิ ตั ชิ ัดเจนและบอ่ ยครัง้ ให้ 1 คะแนน 41–50 ดี
พฤติกรรมท่ีปฏิบตั บิ างครั้ง 30–40 พอใช้
ตำ่ กวา่ 30 ปรบั ปรงุ

เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)

46

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 การแกป้ ัญหาอย่างเป็นข้ันตอน
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 3 การหารปู แบบของปัญหาอยา่ งงา่ ย

แบบประเมินช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)

ว 4.2 ป. 2/1 แสดงลำดบั ขัน้ ตอนการทำงาน หรอื การแก้ปัญหาอยา่ งง่าย โดยใช้ภาพ สัญลักษณ์ หรือข้อความ

รายการ ดีมาก (4) เกณฑ์การประเมิน (ระดับคุณภาพ) ปรบั ปรุง (1) ระดบั
ประเมิน คุณภาพ
สามารถแก้ปญั หาได้ ดี (3) พอใช้ (2) ไมส่ ามารถแกป้ ญั หาได้
1.การแกป้ ญั หา อยา่ งถกู ตอ้ ง ถกู วธิ ี ดมี าก
ดีมาก สามารถแก้ปญั หาได้ สามารถแก้ปญั หาได้
อยา่ งถกู ตอ้ ง ถูกวิธีดี ค่อนขา้ งดี

2. การแสดงขัน้ ตอนการ เลอื กใช้วธิ กี ารแกป้ ญั หา เลือกใช้วธิ ีการแกป้ ญั หา เลือกใช้วธิ กี ารแก้ปญั หา เลอื กใชว้ ธิ ีการแก้ปัญหา ดี
แกป้ ัญหา พอใช้
ไดแ้ ละสามารถแสดง ได้และสามารถแสดง ไดแ้ ละสามารถแสดง ได้แตไ่ มส่ ามารถแสดง ปรับปรงุ
3. ความสมบรู ณ์ของผลงาน
ขน้ั ตอนการแก้ปญั หาได้ ขั้นตอนการแกป้ ญั หาได้ ขั้นตอนการแก้ปัญหาได้ ขน้ั ตอนการแก้ปัญหาได้

อย่างชดั เจนดีมาก อย่างชดั เจนดี คอ่ นข้างดี

ผลงานมคี วามครบถ้วน ผลงานมคี วามครบถ้วน ผลงานมคี วามครบถ้วน ผลงานมคี วามครบถว้ น

สมบูรณ์ดมี าก สมบูรณค์ อ่ นข้างดี สมบูรณ์ดเี ปน็ บางส่วน สมบรู ณ์น้อย

4. ส่งงานตรงเวลา ส่งภาระงานภายในเวลา ส่งภาระงานชา้ กว่า สง่ ภาระงานชา้ กว่า สง่ ภาระงานช้ากวา่
กำหนด 2 วนั กำหนดเกิน 3 วนั ขึน้ ไป
ที่กำหนด กำหนด 1 วัน

เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ

14 - 16 ดีมาก

10 - 13 ดี

7 - 9 พอใช้

1 - 6 ปรับปรุง

เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)

47

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 1 การแก้ปัญหาอย่างเป็นขน้ั ตอน
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 3 การหารูปแบบของปัญหาอยา่ งง่าย

9. ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรอื ผูท้ ่ไี ด้รบั มอบหมาย

ข้อเสนอแนะ
ลงชอื่ ................................................
(นายสพุ ิศ อาจเช้ือ)

ตำแหน่งผูอ้ ำนวยการโรงเรียนอนุบาลรัตนบรุ ี

10. บันทกึ ผลหลงั การสอน

 ด้านความรู้

 ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน

 ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

 ด้านความสามารถทางเทคโนยี (วทิ ยาการคำนวณ)

 ดา้ นอ่นื ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมทมี่ ปี ญั หาของนกั เรยี นเป็นรายบุคคล (ถ้ามี))

 ปัญหา/อุปสรรค

 แนวทางการแกไ้ ข

เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

48

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 การตรวจหาขอ้ ผิดพลาดของโปรแกรม

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2

การตรวจหาขอ้ ผิดพลาดของโปรแกรม

เวลา 3 ช่ัวโมง

1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ชว้ี ดั

ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชวี ติ จริงอยา่ งเปน็ ขนั้ ตอนและ
เป็นระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหา
ได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ ร้เู ท่าทัน และมีจริยธรรม
ว 4.2 ป.2/2 เขยี นโปรแกรมอย่างง่าย โดยใชซ้ อฟต์แวรห์ รือสอื่ และตรวจหาขอ้ ผดิ พลาด
ของโปรแกรม

2. สาระการเรียนรู้

2.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
1) ตัวอย่างโปรแกรม เชน่ เขยี นโปรแกรมสั่งให้ตัวละครทำงานตามท่ตี ้องการ และตรวจสอบ
ข้อผดิ พลาด ปรบั แก้ไขให้ไดผ้ ลลัพธ์ตามทก่ี ำหนด
2) การตรวจหาข้อผิดพลาด ทำไดโ้ ดยตรวจสอบคำสง่ั ท่แี จ้งข้อผดิ พลาด หรอื หากผลลัพธ์ไม่เป็นไป
ตามท่ีต้องการให้ตรวจสอบการทำงานทลี ะคำสง่ั
3) ซอฟตแ์ วรห์ รอื สอ่ื ที่ใชใ้ นการเขียนโปรแกรม เช่น ใชบ้ ตั รคำสงั่ แสดงการเขยี นโปรแกรม, Code.org

2.2 สาระการเรียนร้ทู ้องถิ่น
(พิจารณาตามหลกั สตู รสถานศึกษา)

3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด

การเขียนโปรแกรม หมายถึง การเขียนชดุ คำสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามเง่ือนไขท่ีกำหนด ส่วนการเขียน
โปรแกรมแบบวนซ้ำ จะช่วยให้การเขียนโปรแกรมง่ายและสะดวกขึ้น โดยไม่ต้องเขียนโปรแกรมซ้ำกนั หลาย ๆ
คร้ัง และเม่ือทำการเขียนโปรแกรมเสร็จแล้วจะต้องทำการตรวจสอบข้อผิดพลาด ซง่ึ ถือว่าเป็นข้ันตอนหน่ึงท่ี
สำคัญในการเขียนโปรแกรม โดยในขั้นตอนน้ีจะต้องตรวจสอบว่าได้ผลลัพธ์ตรงตามที่ต้องการหรือไม่ และถา้ พบ
ข้อผิดพลาดจะต้องทำการแก้ไขใหเ้ รียบร้อย นอกจากนั้นการเขยี นโปรแกรมด้วย Code.org เป็นการเรียนรู้การ
เขยี นโปรแกรมโดยใช้เกมส์เปน็ สื่อช่วยดึงดูดความสนใจและกระตุ้นการเรียนรู้ของนักเรียน โดยในบทเรยี น
ประกอบด้วย การเรียนรู้คำส่ังทใ่ี ชเ้ ขียนโปรแกรมแบบจัดลำดับ การเขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำ และการตรวจสอบ
ข้อผิดพลาดจากการเขียนโปรแกรม

4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี นและคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. ความสามารถในการสือ่ สาร 1. มวี นิ ัย รับผดิ ชอบ
- ทกั ษะการส่ือสาร 2. ใฝเ่ รียนรู้
2. ความสามารถในการคดิ 3. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน
- ทักษะการคิดเชิงคำนวณ

เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

50

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 2 การตรวจหาขอ้ ผิดพลาดของโปรแกรม

3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
- ทกั ษะการแก้ปญั หา
- ทกั ษะการสังเกต

4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
- ทักษะการทำงานร่วมกัน

5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

5. ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)

- ช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรอื่ ง การตรวจหาข้อผดิ พลาดของโปรแกรม

6. การวัดและการประเมนิ ผล วธิ วี ัด เคร่ืองมอื เกณฑก์ ารประเมิน
- ตรวจชิ้นงาน/ - แบบประเมินช้นิ งาน ระดับคุณภาพ 2
รายการวัด ภาระงาน (รวบยอด) /ภาระงาน (รวบยอด) ผา่ นเกณฑ์
- ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบก่อนเรยี น ประเมนิ ตามสภาพจริง
6.1 การประเมินช้นิ งาน/ภาระงาน ก่อนเรียน
(รวบยอด) เร่อื ง การตรวจหา - ใบงานท่ี 2.1.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ขอ้ ผดิ พลาดของโปรแกรม - ตรวจใบงานท่ี 2.1.1

6.2 การประเมนิ ก่อนเรียน
- แบบทดสอบก่อนเรยี น
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2
เรื่อง การตรวจหาข้อผดิ พลาด
ของโปรแกรม

6.3 ประเมินระหว่างการจดั กิจกรรม
การเรียนรู้
1) การหาเสน้ ทาง

2) การตรวจหาข้อผิดพลาด - ตรวจใบงานท่ี 2.2.1 - ใบงานที่ 2.2.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
จากการเขียนโปรแกรม

3) การเขียนโปรแกรมด้วย - ตรวจใบงานที่ 2.3.1 - ใบงานที่ 2.3.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
Code.org
- ประเมนิ การนำเสนอ - แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 2
4) การนำเสนอผลงาน ผลงาน การนำเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์
- สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2
5) พฤติกรรมการทำงาน การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์
รายบุคคล
- สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดับคุณภาพ 2
6) พฤติกรรมการทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์

เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)

51

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 การตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม

รายการวัด วิธีวดั เคร่อื งมือ เกณฑ์การประเมิน
7) คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ - สังเกตความมวี นิ ยั - แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2
ความรบั ผดิ ชอบ คุณลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์
6.4 การประเมนิ หลังเรียน ใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งมนั่ อันพงึ ประสงค์
- แบบทดสอบหลงั เรยี น ในการทำงาน ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 - แบบทดสอบหลังเรยี น
เร่ือง การตรวจหาข้อผิดพลาด - ตรวจแบบทดสอบ
ของโปรแกรม หลังเรียน

7. กิจกรรมการเรยี นรู้

นกั เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี นหนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 การตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม

เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)

52

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 การตรวจหาขอ้ ผดิ พลาดของโปรแกรม

เรอื่ งท่ี 1: การเขียนโปรแกรมแบบวนซำ้ เวลา 1 ชัว่ โมง

วธิ กี ารสอนโดยเน้นการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)

ขน้ั นำ

ขน้ั ที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement)
1. ครถู ามนักเรยี นวา่ “นกั เรียนรู้หรือไมว่ า่ การเขียนโปรแกรมแบบวนซำ้ มลี กั ษณะเป็นอยา่ งไร”
และ “นกั เรยี นคดิ วา่ การเขียนโปรแกรมแบบวนซำ้ มีขอ้ ดอี ย่างไร”
2. จากนน้ั ครูอธบิ ายเก่ียวกบั การเขยี นโปรแกรมเพอ่ื เชื่อมโยงเข้าสบู่ ทเรียน

ขน้ั สอน

ขัน้ ท่ี 2 สำรวจคน้ หา (Exploration)
1. ครถู ามคำถามเพื่อกระตนุ้ ความคิดของนักเรียนว่า“นกั เรียนคิดวา่ น้ำผง้ึ เกดิ ข้ึนได้อย่างไร
ใครเปน็ ผผู้ ลติ ข้ึนมา และมีกระบวนการผลิตนำ้ ผึง้ อย่างไร”
2. นกั เรยี นร่วมกนั ออกแบบกระบวนการผลติ นำ้ ผ้ึงโดยครูคอยบันทกึ ลงบนกระดานหนา้ ชั้นเรยี น
3. ครูถามคำถามกับนักเรียนว่า“นกั เรียนคดิ ว่ากระบวนการผลิตนำ้ ผง้ึ มีการทำงานซำ้ ๆ กัน
หรอื ไม่ อยา่ งไรบ้างท่ตี ้องทำงานซ้ำ ๆ”
4. นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน หรอื ตามความเหมาะสม เพอื่ สงั เกตและศกึ ษาสญั ลกั ษณ์
ของชุดคำสัง่ จากหนังสือเรยี น หรือศกึ ษาเกี่ยวกับความหมายของชดุ คำสั่งจากใบงานท่ี 2.1.1
เรอ่ื ง การหาเส้นทาง

ขนั้ ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation)
5. นกั เรียนแต่ละกลุ่มรว่ มกนั ศึกษาการเขยี นคำสง่ั ใหผ้ ึง้ เดินไปเก็บนำ้ หวานโดยใชโ้ ปรแกรม
Code.org จากหนงั สือเรียนและศึกษาวิธกี ารเขียนโปรแกรมแบบวนซำ้
6. ครูสุ่มนกั เรยี น 2-3 กลุ่มออกมาอภิปรายหน้าชน้ั เรียนเก่ียวกับการเขยี นโปรแกรมแบบวนซำ้
7. ครูอธบิ ายเกร็ดน่ารู้เพ่ือใหน้ กั เรียนเกิดความเขา้ ใจมากยง่ิ ขน้ึ

ขน้ั ท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration)
8. ให้นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มลงมือทำใบงานที่ 2.1.1 เร่อื ง การหาเส้นทาง เพ่ือขยายความเขา้ ใจ
โดยให้นกั เรยี นเขียนโปรแกรมคำส่ังจากสถานการณ์ท่ีกำหนดให้
9. จากน้ันให้นกั เรยี นแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอการเขยี นโปรแกรมคำสัง่ หนา้ ชั้นเรยี น
10. ครมู อบหมายให้นักเรียนร่วมกนั จัดหอ้ งใหม่ใหม้ ีพ้ืนทวี่ ่างโดยการนำเชือกมาขึงเปน็ ตาราง
ขนาด 4x4 (จำนวน16ช่อง)
11. ครสู ุม่ นกั เรยี นออกมาทำกิจกรรม 3 คน โดยใหผ้ ้เู ลน่ คนแรกแสดงเปน็ ผึง้ ผู้เล่นคนท่ีสอง
แสดงเปน็ ดอกไม้ และผ้เู ล่นคนทีส่ ามแสดงเป็นรวงผง้ึ โดยมกี ตกิ าในการทำกิจกรรมดังนี้

เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

53

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 การตรวจหาข้อผดิ พลาดของโปรแกรม

ใหผ้ ูเ้ ลน่ ทัง้ 3 คน ยืนตามตำแหน่งทีป่ รากฏอยู่ในใบงาน และให้ผู้เลน่ คนทสี่ องถือ
บัตรภาพหยดน้ำหวาน จำนวน 3 หยด
12. ครคู ัดเลือกผลงานการเขียนโปรแกรมคำสั่งทส่ี มบรู ณ์ท่ีสดุ มาตรวจสอบคำส่ัง โดยครู
ใหข้ ้อเสนอแนะกับนักเรียนตามความเหมาะสม
13. ครูใหน้ กั เรียนทำกิจกรรมฝึกทักษะในการหาเสน้ ทางทจี่ ะพากระต่ายกลบั ไปยังสวนสัตว์
จากหนังสอื เรียน และบันทกึ ลงในสมุดประจำตวั

ขั้นสรุป

ขนั้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครตู รวจสอบและสรุปขัน้ ตอนการเขยี นโปรแกรมคำสัง่ ท่ถี ูกตอ้ งใหน้ ักเรยี นดู
2. ครูตรวจสอบผลการทำกจิ กรรมฝึกทักษะจากหนงั สือเรยี น
3. นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั สรุปเก่ียวกบั การเขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำวา่ “การเขียนโปรแกรม
แบบวนซำ้ จะช่วยใหก้ ารเขยี นโปรแกรมคำส่งั สะดวกและง่ายขนึ้ โดยไม่ต้องเขียนโปรแกรม
คำสัง่ ซำ้ กันหลาย ๆ คร้ัง ช่วยให้ประหยัดระยะเวลาในการเขยี นโปรแกรม”

เรอ่ื งที่ 2: การตรวจสอบขอ้ ผดิ พลาดจากการเขยี นโปรแกรม เวลา 1 ชว่ั โมง

วิธีการสอนโดยเน้นการจดั การเรียนรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)

ขนั้ นำ

ขั้นท่ี 1 กระตุน้ ความสนใจ (Engagement)
1. ครถู ามคำถามเพ่ือกระตุ้นความสนใจของนกั เรียนวา่ “ในชวี ิตประจำวันนกั เรยี นพบ
ความผิดพลาดอะไรบา้ ง และนักเรียนจะมีวิธีการชว่ ยลดความผดิ พลาดที่เกิดขน้ึ ได้อย่างไร”
2. ครูทบทวนความรู้จากชวั่ โมงท่ีผา่ นมา พรอ้ มซักถามคำถามประจำหวั ขอ้ เพ่ือกระตุ้นความสนใจ
ของนักเรียนว่า“การตรวจสอบข้อผิดพลาดมปี ระโยชน์อย่างไรตอ่ การเขียนโปรแกรมคำสงั่ ”
จากน้นั ครูกลา่ วเพ่ือเชื่อมโยงเข้าสบู่ ทเรยี น

เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

54

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 การตรวจหาข้อผดิ พลาดของโปรแกรม

ขน้ั สอน

ขั้นที่ 2 สำรวจค้นหา (Exploration)
1. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 2-3 คน หรอื ตามความเหมาะสม โดยใหน้ กั เรยี นสังเกตสัญลกั ษณ์
ของชดุ คำส่งั จากใบงานที่ 2.2.1 เร่ือง การตรวจหาข้อผิดพลาดจากการเขยี นโปรแกรม และ
ศึกษาเนื้อหาสถานการณ์ตัวอยา่ งจากหนงั สือเรียน

ข้ันท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation)
2. ครูสุม่ นักเรียน 2-3 กลุ่มออกมาอภปิ รายเกย่ี วกบั ขั้นตอนการตรวจสอบขอ้ ผิดพลาด
หน้าชน้ั เรยี น และมอบหมายให้นกั เรยี นแต่ละคนทำกจิ กรรมฝึกทกั ษะจากหนงั สือเรียน
เพอ่ื ตรวจสอบความเข้าใจ โดยให้นกั เรยี นแก้ไขข้อผิดพลาดให้ถกู ต้องจากนั้นบันทกึ คำตอบ
ลงในสมุดประจำตวั
3. เปิดโอกาสให้นักเรยี นแต่ละกล่มุ ศกึ ษาสถานการณ์ตวั อย่างจากการตรวจสอบข้อผิดพลาด
ของโปรแกรมทลี ะคำสงั่ จากหนังสอื เรยี น จากนั้นครูอธบิ ายเกรด็ นา่ รู้ใหน้ กั เรียนฟงั

ขน้ั ที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration)
4. ครูใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกันศึกษาการเขียนโปรแกรมจากชดุ คำสัง่ ในใบงาน
โดยหาขอ้ ผิดพลาดของคำส่ัง จากนนั้ แก้ไขคำสงั่ ให้ถกู ต้อง และใหแ้ กตล่ ะกลุ่มออกมานำเสนอ
ขั้นตอนการแก้ไขคำสัง่ หนา้ ช้ันเรียน

5. ครูให้นักเรียนทำกจิ กรรมฝึกทกั ษะในหนังสอื เรยี นเพอื่ ขยายความเข้าใจมากยิง่ ขน้ึ โดยให้นกั เรยี น
พิจารณาบตั รคำส่งั และหาผลลพั ธ์ที่เกิดขึน้ ให้ถกู ต้อง โดยเปิดโอกาสใหน้ กั เรยี นสามารถพดู คุย
แลกเปลย่ี นความคิดเห็นรว่ มกันภายในห้องเรียน

ขั้นสรุป

ข้นั ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครูส่มุ นักเรียน 2-3 คน รว่ มกันตอบคำถามวา่ “นักเรียนจะนำวธิ กี ารตรวจสอบข้อผิดพลาดท่ีได้
เรียนรนู้ ้ี ไปชว่ ยลดขอ้ ผิดพลาดทอี่ าจจะเกิดขน้ึ ในชวี ิตประจำวนั ของตนเองไดอ้ ยา่ งไร”
2. ครูตรวจสอบผลการทำใบงานที่ 2.2.1 และการทำกจิ กรรมฝึกทกั ษะ
3. นกั เรยี นและครูสรปุ เนือ้ หาร่วมกนั เกยี่ วกับการตรวจสอบข้อผิดพลาดจากการเขยี นโปรแกรม

เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)

55

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 การตรวจหาขอ้ ผดิ พลาดของโปรแกรม

เรอื่ งท่ี 3: การหารูปแบบของปัญหาอย่างง่าย เวลา 1 ชัว่ โมง

วิธกี ารสอนโดยเนน้ รปู แบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)

ข้ันนำ

ขน้ั ท่ี 1 กระตุน้ ความสนใจ (Engagement)
1. ครทู บทวนความรเู้ ดิมของนักเรยี น และถามคำถามกับนักเรียนวา่ “นกั เรยี นร้จู ักการเขยี น
โปรแกรมด้วย Code.org หรือไม่ และการเขียนโปรแกรมด้วย Code.org มปี ระโยชน์อย่างไร”
2. ครพู ูดกระตนุ้ ความสนใจของนกั เรยี นวา่ “วนั น้คี รูจะให้นักเรียนทดลองใช้เว็บไซต์ Code.org”
พรอ้ มอธบิ ายเพอ่ื เชื่อมโยงเข้าสบู่ ทเรียน

ขน้ั สอน

ขน้ั ท่ี 2 สำรวจค้นหา (Exploration)
1. นกั เรียนเข้าสู่เว็บไซต์ Code.org โดยทำตามขั้นตอนท่คี รูอธิบาย
2. เปิดโอกาสให้นักเรยี นได้ศึกษาการเขียนโปรแกรมจากเวบ็ ไซต์ Code.org ในเครื่องคอมพวิ เตอร์
ของตนเอง โดยกำหนดระยะเวลาตามความเหมาะสม
3. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุม่ ละ 2-3 คน หรอื ตามความเหมาะสม เพ่ือศกึ ษาสถานการณ์ตัวอย่าง
และคำส่งั ควบคุมการทำงานของผ้ึงโดยใช้โปรแกรม Code.org จากหนังสือเรยี น

ขั้นท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation)
4. ครูใชค้ ำถามทา้ ทายการคดิ ขัน้ สูงของนักเรียนวา่ “ในการทำนายผลลพั ธ์ นอกจากจะใช้วิธกี าร
พิจารณาทีละคำสง่ั แล้ว นักเรียนมวี ธิ ีการทำนายผลลพั ธ์ในรูปแบบอื่นอีกหรือไม่ อยา่ งไร”

ขั้นที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration)
5. นกั เรียนแต่ละกลุ่มลงมือทำใบงานท่ี 2.3.1 เรอื่ ง การเขียนโปรแกรมดว้ ย Code.org
โดยลากเสน้ จบั คูส่ ถานการณ์กบั โปรแกรมคำสง่ั ให้ถูกต้องตรงกัน และเลือกโปรแกรมคำส่ัง
จากสถานการณท์ ่ีกำหนดไว้ไดอ้ ย่างถูกต้อง
6. นักเรยี นออกมานำเสนอผลงานจากการทำใบงานหนา้ ชั้นเรียน
7. นักเรยี นทำกิจกรรมฝึกทกั ษะจากหนงั สอื เรียนเพอื่ ขยายความเข้าใจ จากน้นั บนั ทึกคำตอบ
ลงในสมดุ ประจำตัว และนำมาอภิปรายร่วมกนั ในชน้ั เรียน

ขั้นสรปุ

ขน้ั ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครูตรวจสอบการเขยี นโปรแกรมคำสงั่ ของนักเรียนจากการทำใบงานและการทำกจิ กรรม

เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

56

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 การตรวจหาขอ้ ผดิ พลาดของโปรแกรม

ฝึกทักษะ และถามนักเรยี น 2-3 คนว่า“จากการเล่นเกมส์ในเว็บไซต์ Code.org นกั เรียน
ได้เรียนรวู้ ธิ ีการเขียนโปรแกรมคำสั่งอย่างไรบ้าง”
2. นักเรยี นและครูสรุปร่วมกนั และให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลงั เรียนหน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2
เรื่อง การตรวจหาข้อผดิ พลาดของโปรแกรม
3. นกั เรียนทำกจิ กรรมเสริมสร้างการเรยี นรจู้ ากหนงั สือเรียนและทำชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
เรื่อง การตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม จากนน้ั บนั ทึกคำตอบลงในสมดุ และนำมาส่ง
ในช่วั โมงถดั ไป

8. ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้

8.1 ส่ือการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียนรายวิชาพืน้ ฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.2 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2
เรือ่ ง การตรวจหาข้อผดิ พลาดของโปรแกรม
2) ใบงานที่ 2.1.1 เรื่อง การหาเส้นทาง
3) ใบงานที่ 2.2.1 เรื่อง การตรวจหาข้อผิดพลาดจากการเขียนโปรแกรม
4) ใบงานท่ี 2.3.1 เร่ือง การเขียนโปรแกรมด้วย Code.org
5) บัตรภาพหยดนำ้ หวาน
6) เชือก
7) เครือ่ งคอมพวิ เตอร์

8.2 แหล่งการเรียนรู้
1) อนิ เทอร์เนต็
2) ห้องคอมพวิ เตอร์

เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

57

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 การตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม

แบบทดสอบก่อนเรยี น

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2

คำช้ีแจง : ให้นกั เรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว

1. จงเรียงลำดบั การทำงานของผง้ึ ในการออกหา 4. ขอ้ ใดกล่าวถึงการทำงานแบบวนซำ้ ได้ถูกตอ้ งที่สุด
น้ำหวานจากเกสรดอกไมเ้ พ่ือนำมาผลติ น้ำผ้ึง ก. เปน็ การทำงานตามลำดับขนั้ ตอนท่ีไดว้ างแผนไว้
ที่รวงผง้ึ ข. เป็นการทำงานทีซ่ ับซ้อนและมขี ัน้ ตอนซำ้ ๆ
a. เดนิ ทางออกจากรวงผึ้ง ค. เป็นการทำงานแบบเดิมซำ้ กนั หลาย ๆ รอบ
b. ผลิตนำ้ ผง้ึ ที่รวงผง้ึ
c. หาน้ำหวานจากเกสรดอกไม้ 5. สถานการณใ์ นข้อใดจำเป็นตอ้ งเขียนคำส่งั แบบวนซำ้
ก. a → b → c ก. มดลำเลยี งอาหารเขา้ รงั
ข. a → c → b ข. ปลวกกดั แทะอาหารอยู่ภายในรงั
ค. c → b → c ค. ผ้ึงอาศัยอยรู่ วมกนั เป็นฝงู

2. การเขยี นชุดคำสง่ั ให้คอมพิวเตอรท์ ำงาน 6. จงเขยี นเสน้ ทางการเกบ็ น้ำหวานจากดอกไม้ 3 ดอก
ตามเง่อื นไขท่ีกำหนด มแี นวคดิ ในการเขียน เพอ่ื นำมาผลิตนำ้ ผง้ึ ทร่ี วงผ้งึ 3 รวงให้ได้สน้ั ท่สี ดุ
โปรแกรมตามข้อใด จากสถานการณท์ ี่กำหนดให้ ดังน้ี
ก. การออกแบบ → การเขยี นชุดคำสัง่
→ การตรวจสอบผลลัพธ์ 33
ข. การวิเคราะหข์ ้อมูล → การออกแบบ
→ การเขียนชดุ คำสงั่ ก. (บิน) → (บิน) → (เก็บ) → (เกบ็ ) → (เกบ็ )
ค. การเขียนชุดคำสัง่ → การตรวจสอบผลลัพธ์ → (บิน) → (ผลิต) → (ผลิต) → (ผลติ )
→ การนำไปใช้
ข. (บิน) → (บิน) → (เกบ็ นำ้ หวานซำ้ 3 ครั้ง)
3. ข้อใดคือสัญลกั ษณ์ของการทำซำ้ → (บิน) → (ผลิตนำ้ ผึง้ ซำ้ 3 ครง้ั )
ก.
ค. (บนิ ไปทางขวาซ้ำ 2 ครงั้ ) → (เกบ็ น้ำหวาน
ซำ้ 3 คร้งั ) → (บินไปทางขวา 1 ครง้ั ) →
(ผลิตน้ำผงึ้ ซำ้ 3 ครงั้ )

ข. 9. จากสถานการณแ์ ละโปรแกรมคำสั่งทผ่ี ดิ พลาด

ควรแกไ้ ขตามข้อใดใหผ้ ง้ึ สามารถเก็บน้ำหวาน
ค. ไดส้ ำเร็จ

7. การเขียนโปรแกรมคำส่ังในข้อใดสอดคล้องกบั
สถานการณ์ดงั ต่อไปนี้

ก.

ก. ข.

เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)

58

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 การตรวจหาขอ้ ผิดพลาดของโปรแกรม

ข. ค.

ค. 10. จากภาพสถานการณ์และโปรแกรมคำสงั่
8. การเขียนโปรแกรมคำสงั่ ในข้อใดสามารถพานก สว่ นใดท่ีทำให้โปรแกรมคำสัง่ เกดิ ข้อผดิ พลาด

สีแดงไปหาเจา้ หมูได้อยา่ งปลอดภยั ก.
ข.
ก. ค.

ข.

ค.

เฉลย
1. ข 2. ก 3. ค 4. ค 5. ก 6. ค 7. ค 8. ข 9. ก 10. ก

เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

59

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 การตรวจหาข้อผดิ พลาดของโปรแกรม

แบบทดสอบหลังเรียน

หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 2

คำช้แี จง : ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว

1. ใหน้ กั เรยี นพิจารณาภาพด้านลา่ ง และเลือกคำสัง่ 3. สญั ลักษณ์ หมายถงึ ข้อใด

เสน้ ทางทพี่ าแมน่ กเข้ารงั ไดอ้ ย่างปลอดภยั ก. การวนซ้ำ ๆ

โดยแมน่ กจะตอ้ งไมบ่ ินผา่ นต้นไมแ้ ละอีกา ข. การเวยี นซ้ำ

ค. การทำซ้ำ

4. วิธกี ารเขยี นโปรแกรมแบบใด ทำให้คอมพวิ เตอร์

ทำงานตามข้นั ตอนแบบเดิมซำ้ ๆ ลดน้อยลง

ก. การเขยี นโปรแกรมแบบวนซำ้

ข. การเขยี นโปรแกรมแบบทำซำ้

ค. การเขียนโปรแกรมแบบเวียนซำ้

5. การเขยี นโปรแกรมแบบวนซ้ำใช้ได้กับสถานการณ์

ในข้อใด

ก. วินยั ทำการบา้ นสง่ ครูเป็นประจำ

ข. เดชาขนของจำนวน 10 ชนิ้ เกบ็ ไว้ในห้องเก็บของ

ก. ค. สมศรีตงั้ ใจเรียนจนไดเ้ กรดดีอยา่ งต่อเนื่อง
6. โปรแกรมคำสั่งดังต่อไปน้ี ตรงกับภาพเสน้ ทางของผงึ้
ข. ในขอ้ ใด

ค. (บนิ ไปทางขวา 1 คร้ัง) → (เกบ็ นำ้ หวาน)

2. ข้อใดคือแนวคิดในการเขียนโปรแกรม → (บนิ ไปทางขวา 2 คร้ัง) → (ผลติ นำ้ ผึง้ )

เพ่ือใหค้ อมพวิ เตอรท์ ำงานตามทก่ี ำหนด ก.

ก. การวิเคราะหข์ อ้ มูล → การออกแบบ

→ การเขียนชดุ คำส่งั

ข. การออกแบบ → การเขยี นชดุ คำสง่ั ข.

→ การตรวจสอบผลลัพธ์

ค. การเขียนชุดคำสัง่ → การตรวจสอบผลลพั ธ์ ค.

→ การนำไปใช้

7. การเขยี นโปรแกรมคำสั่งในขอ้ ใดสอดคล้องกับ 9. จากสถานการณแ์ ละโปรแกรมคำส่งั ท่ผี ิดพลาด
สถานการณด์ ังต่อไปนี้ ควรแก้ไขตามข้อใดให้ผ้ึงสามารถเก็บนำ้ หวาน
ได้สำเรจ็

ก.

เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)

60

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 2 การตรวจหาข้อผดิ พลาดของโปรแกรม

ข. ก.
ค.
8. โปรแกรมคำสง่ั ดังต่อไปนต้ี รงกบั เสน้ ทาง ข.
การพานกสแี ดงไปหาเจ้าหมูในภาพใด
ค.
ก.
10. จากภาพสถานการณ์และโปรแกรมคำสั่ง
สว่ นใดทท่ี ำให้โปรแกรมคำสั่งเกิดข้อผดิ พลาด

ข.
ค. ก.

ข.
ค.

เฉลย
1. ก 2. ข 3. ค 4. ก 5. ข 6. ค 7. ค 8. ข 9. ข 10. ค

เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)

61

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 การตรวจหาข้อผดิ พลาดของโปรแกรม
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 การเขยี นโปรแกรมแบบวนซ้ำ

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 1

การเขียนโปรแกรมแบบวนซำ้

เวลา 1 ชว่ั โมง

1. มาตรฐาน/ตวั ชว้ี ัด

1.1 ตัวช้ีวดั
ว 4.2 ป. 2/2 เขียนโปรแกรมอยา่ งงา่ ย โดยใชซ้ อฟต์แวร์หรือส่อื และตรวจหาขอ้ ผิดพลาด
ของโปรแกรม

2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. อธบิ ายขนั้ ตอนในการเขียนโปรแกรมและการเขียนโปรแกรมแบบวนซำ้ ได้ (K)
2. เขียนโปรแกรมแบบวนซำ้ ได้ถกู ต้อง (P)
3. เห็นความสำคัญและประโยชน์ของการเขียนโปรแกรมแบบวนซำ้ (A)

3. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถิน่

- ตวั อย่างโปรแกรม เชน่ เขยี นโปรแกรมสง่ั ให้ตัวละคร พิจารณาตามหลกั สูตรของสถานศึกษา

ทำงานตามทตี่ ้องการ และตรวจสอบข้อผิดพลาด

ปรบั แก้ไขใหไ้ ดผ้ ลลพั ธต์ ามทก่ี ำหนด

- ซอฟตแ์ วร์หรอื สื่อที่ใชใ้ นการเขยี นโปรแกรม เช่น

ใชบ้ ัตรคำส่งั แสดงการเขยี นโปรแกรม, Code.org

4. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด

การเขียนโปรแกรม หมายถึง การเขยี นชดุ คำสัง่ ใหค้ อมพวิ เตอร์ทำงานตามเงื่อนไขท่ีกำหนด โดยเรม่ิ
กระบวนการตั้งแต่การออกแบบโปรแกรม การเขยี นชดุ คำส่งั เพอ่ื ให้โปรแกรมทำงานตามทอ่ี อกแบบไว้
จนกระทั่งตรวจสอบผลลัพธก์ ารทำงานที่ได้ และทำการแก้ไขข้อผิดพลาดท่ีพบ ส่วนการเขียนโปรแกรม
แบบวนซำ้ จะชว่ ยให้การเขียนโปรแกรมง่ายและสะดวกขนึ้ โดยไม่ต้องเขยี นโปรแกรมซ้ำกันหลาย ๆ ครง้ั

5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี นและคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์

1. ความสามารถในการสอื่ สาร 1. มีวินัย รบั ผดิ ชอบ

- ทักษะการสื่อสาร 2. ใฝ่เรียนรู้

เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)

64

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 2 การตรวจหาข้อผดิ พลาดของโปรแกรม 3. มุ่งมัน่ ในการทำงาน
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 1 การเขยี นโปรแกรมแบบวนซ้ำ

2. ความสามารถในการคิด
- ทกั ษะการคิดเชงิ คำนวณ

3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
- ทักษะการแกป้ ัญหา

4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
- ทกั ษะการทำงานรว่ มกัน

6. กจิ กรรมการเรยี นรู้

 วธิ กี ารสอนโดยเน้นรูปแบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)

ชั่วโมงที่ 1

ข้นั นำ

ขัน้ ท่ี 1 กระตุน้ ความสนใจ (Engagement)
1. ครูให้นักเรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรยี นหนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 เรอื่ ง การตรวจหาข้อผดิ พลาด
ของโปรแกรมเพื่อวัดความร้เู ดิมของนักเรียนก่อนเข้าสูก่ จิ กรรม
2. ครูถามนักเรียนวา่ “นกั เรยี นรู้หรอื ไม่วา่ การเขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำมีลกั ษณะเป็นอยา่ งไร”
(แนวตอบ : คำตอบของนกั เรียนขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของครูผสู้ อน)
3. ครูถามนักเรยี นตอ่ ว่า“นกั เรยี นคิดว่าการเขยี นโปรแกรมแบบวนซ้ำมีข้อดอี ย่างไร”
(แนวตอบ : การเขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำ จะช่วยให้การเขียนโปรแกรมง่ายและสะดวกขึ้น
โดยไม่ตอ้ งเขยี นคำสง่ั ซำ้ กันหลาย ๆ รอบ)
4. ครอู ธบิ ายเก่ียวกับการเขียนโปรแกรมเพอ่ื เชื่อมโยงเข้าสูบ่ ทเรียนวา่ “การเขียนโปรแกรม คอื
การเขยี นชดุ คำสั่งขึ้นเพ่ือให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามเงื่อนไขท่ผี ูเ้ ขยี นโปรแกรมเป็นคนกำหนด
โดยมีแนวคิด 3 ขนั้ ตอน คือ การออกแบบ การเขยี นชุดคำส่ัง และการตรวจสอบผลลพั ธ์”

ขัน้ สอน

ขน้ั ที่ 2 สำรวจคน้ หา (Exploration)
1. ครถู ามคำถามเพื่อกระต้นุ ความคิดของนักเรยี นว่า“นักเรียนคดิ วา่ นำ้ ผึ้งเกิดขึ้นได้อย่างไร
ใครเป็นผู้ผลิตขน้ึ มา และมีกระบวนการผลิตน้ำผ้งึ อย่างไร”
(แนวตอบ : นำ้ ผึ้งเกิดจากน้ำหวานของเกสรดอกไม้ท่ีผึ้งหลาย ๆ ตัวช่วยกันบินไปหาน้ำหวาน
จากเกสรดอกไมห้ ลาย ๆ ดอก และนำมาผลิตรวมกนั ไวท้ ่ีรวงผ้ึง)

เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)

65

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 2 การตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1 การเขยี นโปรแกรมแบบวนซ้ำ

2. นักเรียนร่วมกันออกแบบกระบวนการผลิตน้ำผ้งึ โดยครคู อยบนั ทึกลงบนกระดานหนา้ ช้ันเรยี น
(แนวตอบ : ผงึ้ เดนิ ทางออกจากรวงผ้ึง → เก็บนำ้ หวานจากดอกไม้หลาย ๆ ดอก →
นำน้ำหวานไปผลติ เป็นน้ำผึง้ ท่รี วงผึ้ง)

3. ครถู ามคำถามกับนักเรยี นวา่ “นักเรยี นคดิ ว่ากระบวนการผลิตนำ้ ผ้ึงมีการทำงานซำ้ ๆ กนั
หรือไม่ อยา่ งไรบา้ งท่ตี ้องทำงานซ้ำ ๆ”
(แนวตอบ : กระบวนการผลิตนำ้ ผ้งึ มกี ระบวนการทำงานทซี่ ้ำ ๆ กัน ดงั น้ี
1. ขัน้ ตอนเดนิ ทาง เพราะผง้ึ ต้องเดนิ ทางหลาย ๆ รอบ
2. ข้ันตอนเกบ็ น้ำหวาน เพราะผึ้งตอ้ งเก็บนำ้ หวานจากเกสรดอกไมห้ ลาย ๆ ดอก
3. ขัน้ ตอนผลิตน้ำหวาน เพราะผงึ้ มขี นาดตัวทเี่ ลก็ สง่ ผลให้เก็บน้ำหวานได้จำกดั
ในแตล่ ะครง้ั จึงต้องนำน้ำหวานจากเกสรดอกไม้ไปผลติ น้ำผึ้งทีร่ วงผงึ้ หลาย ๆ รอบ)

4. ครูอธบิ ายกบั นักเรียนวา่ “การทำงานเป็นกระบวนการซ้ำ ๆ กันหากถูกนำมาเขียนโปรแกรม
จะเปน็ การเขยี นโปรแกรมคำสงั่ ในรปู แบบทใี่ หโ้ ปรแกรมทำงานซำ้ กนั หลาย ๆ รอบ โดยใช้
สญั ลกั ษณต์ ่าง ๆ ในการเขียนชดุ คำส่งั เพื่อให้คอมพวิ เตอร์ทำงานตามเง่ือนไขท่ีกำหนด”

5. นักเรยี นแบง่ กลุ่ม กลุม่ ละ 3-4 คน หรือตามความเหมาะสม เพือ่ สงั เกตและศึกษาสญั ลกั ษณ์
ของชุดคำสั่งจากหนงั สอื เรยี นรายวิชาพืน้ ฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.2
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 หรือศึกษาเกย่ี วกบั ความหมายของชุดคำส่งั จากใบงานที่ 2.1.1
เร่ือง การหาเส้นทาง

ขน้ั ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation)
6. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มรว่ มกันศึกษาการเขยี นคำส่ังให้ผ้ึงเดินไปเกบ็ น้ำหวานโดยใช้โปรแกรม
Code.org จากหนังสือเรยี นและศึกษาวิธีการเขียนโปรแกรมแบบวนซำ้
7. ครูส่มุ นักเรียน 2-3 กลุ่มออกมาอภิปรายหน้าชน้ั เรยี นเก่ียวกับการเขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำ
(แนวตอบ : การเขียนโปรแกรมแบบวนซำ้ หมายถึง การเขียนชุดคำสั่งให้โปรแกรมทำงานซ้ำ
กนั หลายรอบ นกั เรยี นจะเขียนโปรแกรมคำสงั่ ได้ก็ต้องรู้ความหมายของคำส่ังแตล่ ะคำสัง่ วา่
มีหนา้ ที่การทำงานอย่างไร)
8. ครูอธิบายเกรด็ น่าร้เู พ่ือใหน้ ักเรียนเกิดความเขา้ ใจมากยง่ิ ขึ้นว่า“การเขยี นโปรแกรมแบบวนซ้ำ
จะชว่ ยใหก้ ารเขียนโปรแกรมง่ายขึน้ และมคี วามสะดวกมากยิ่งข้นึ โดยไมต่ ้องเขียนโปรแกรม
ซำ้ กันหลาย ๆ รอบ ชว่ ยลดความซ้ำซ้อนในการทำงาน”

ขั้นท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration)
9. ให้นักเรยี นแต่ละกลุม่ ลงมือทำใบงานที่ 2.1.1 เรือ่ ง การหาเสน้ ทาง เพ่ือขยายความเข้าใจ
โดยใหน้ ักเรยี นเขียนโปรแกรมคำสัง่ จากสถานการณ์ทกี่ ำหนดให้
10. จากนน้ั ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลุ่มออกมานำเสนอการเขยี นโปรแกรมคำสั่งหน้าช้ันเรยี น
11. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนรว่ มกนั จัดห้องใหม่ใหม้ ีพ้ืนทว่ี า่ งโดยการนำเชอื กมาขึงเปน็ ตาราง
ขนาด 4x4 (จำนวน16ชอ่ ง)
12. ครสู ุ่มนักเรยี นออกมาทำกจิ กรรม 3 คน โดยใหผ้ ู้เล่นคนแรกแสดงเปน็ ผึ้ง ผูเ้ ล่นคนที่สอง
แสดงเปน็ ดอกไม้ และผ้เู ล่นคนทส่ี ามแสดงเปน็ รวงผ้งึ โดยมีกติกาในการทำกจิ กรรมดังน้ี
ให้ผู้เล่นท้งั 3 คน ยนื ตามตำแหน่งที่ปรากฏอยู่ในใบงาน และใหผ้ ้เู ลน่ คนทสี่ องถือ

เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)

66

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 การตรวจหาขอ้ ผดิ พลาดของโปรแกรม
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1 การเขยี นโปรแกรมแบบวนซ้ำ

บตั รภาพหยดนำ้ หวาน จำนวน 3 หยด
13. ครูคดั เลอื กผลงานการเขียนโปรแกรมคำสงั่ ทสี่ มบรู ณ์ท่สี ดุ มาตรวจสอบคำสั่ง โดยครู

ให้ขอ้ เสนอแนะกบั นักเรียนตามความเหมาะสม
14. ครูให้นักเรยี นทำกจิ กรรมฝึกทักษะในการหาเสน้ ทางทจี่ ะพากระต่ายกลบั ไปยงั สวนสัตว์

จากหนงั สือเรียน และบันทกึ ลงในสมุดประจำตวั

Note
วตั ถุประสงค์ของกิจกรรมเพ่อื ให้นักเรียน
- มีทกั ษะการทำงานร่วมกัน โดยใช้กระบวนการกล่มุ เพ่อื ส่ือสารและศึกษาข้อมูล

พรอ้ มรว่ มกันอภปิ รายร่วมกันเก่ยี วกับการเขียนโปรแกรมแบบวนซำ้ จากโปรแกรม Code.org
- มีทกั ษะการคดิ เชงิ คำนวณในการเขียนโปรแกรมคำสง่ั จากสถานการณ์ท่ีกำหนด

โดยมีระยะเวลาตามความเหมาะสม
- มีทักษะการแก้ปญั หาและทักษะการสอ่ื สารในการทำกจิ กรรมตรวจสอบคำสง่ั

และรว่ มกันหาคำตอบโดยร่วมกนั คดิ ค้น แลกเปลีย่ นประสบการณ์รว่ มกันพร้อมแกป้ ัญหา
เฉพาะหน้าได้อยา่ งถกู ต้อง

ข้นั สรปุ

ขน้ั ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครตู รวจสอบและสรปุ ขัน้ ตอนการเขียนโปรแกรมคำสัง่ ทถี่ ูกตอ้ งให้นักเรียนดู
2. ครูตรวจสอบผลการทำกจิ กรรมฝกึ ทกั ษะจากหนังสือเรียน
3. นักเรียนและครรู ว่ มกันสรุปเกี่ยวกบั การเขียนโปรแกรมแบบวนซำ้ ว่า“การเขียนโปรแกรม
แบบวนซ้ำจะชว่ ยใหก้ ารเขยี นโปรแกรมคำสัง่ สะดวกและง่ายขึ้น โดยไม่ต้องเขยี นโปรแกรม
คำสงั่ ซ้ำกันหลาย ๆ คร้ัง ชว่ ยใหป้ ระหยดั ระยะเวลาในการเขียนโปรแกรม”

7. การวดั และประเมินผล วธิ ีวัด เคร่ืองมอื เกณฑ์การประเมิน
ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
รายการวัด - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบ
กอ่ นเรียน ก่อนเรียน
7.1 การประเมินก่อนเรียน
- แบบทดสอบก่อนเรยี น
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2
เรือ่ ง การตรวจหา
ข้อผิดพลาด
ของโปรแกรม

เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

67

หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2 การตรวจหาข้อผดิ พลาดของโปรแกรม
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 การเขยี นโปรแกรมแบบวนซำ้

7.2 การประเมนิ ระหว่างการ
จดั กิจกรรม
1) การหาเส้นทาง - ตรวจใบงานที่ 2.1.1 - ใบงานท่ี 2.1.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

2) การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมิน ระดบั คุณภาพ 2
ผลงาน การนำเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์
- แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดับคุณภาพ 2
3) พฤติกรรมการทำงาน - สงั เกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์
รายบุคคล การทำงานรายบุคคล - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ 2
การทำงานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์
4) พฤติกรรมการทำงาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2
กลุ่ม การทำงานกลุ่ม คณุ ลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์
อนั พงึ ประสงค์
5) คุณลักษณะ - สงั เกตความมวี นิ ยั
อนั พงึ ประสงค์ ความรับผดิ ชอบ
ใฝ่เรยี นรู้ และม่งุ มน่ั
ในการทำงาน

8. ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้

8.1 ส่อื การเรียนรู้
1) หนงั สือเรยี นรายวิชาพ้ืนฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.2 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2
เรอ่ื ง การตรวจหาข้อผดิ พลาดของโปรแกรม
2) ใบงานท่ี 2.1.1 เร่ือง การหาเสน้ ทาง
3) บตั รภาพหยดน้ำหวาน
4) เชอื ก

8.2 แหล่งการเรียนรู้
-

เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

68

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 การตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 1 การเขยี นโปรแกรมแบบวนซ้ำ

ใบงานท่ี 2.1.1
เรื่อง การหาเส้นทาง

คำชี้แจง : ให้นักเรียนศกึ ษาความหมายของชุดคำสง่ั ตอ่ ไปน้ี ความหมาย
ชุดคำสัง่

สญั ลกั ษณ์

เดินข้ึนข้างบน

เดินลงขา้ งลา่ ง

เดินไปทางขวา

เก็บ เดนิ ไปทางซ้าย
น้ำหวาน เก็บนำ้ หวาน
ผลติ นำ้ ผึง้
ผลิตนำ้ ผง้ึ

เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

69

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 การตรวจหาข้อผดิ พลาดของโปรแกรม
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1 การเขยี นโปรแกรมแบบวนซำ้

ชุดคำสัง่

สัญลกั ษณ์ ความหมาย

การทำซ้ำ

2 การทำซ้ำ 2 ครง้ั
3 การทำซำ้ 3 ครง้ั
4 การทำซำ้ 4 ครัง้

? การทำซ้ำ … ครั้ง

เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

70

หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2 การตรวจหาขอ้ ผิดพลาดของโปรแกรม
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 การเขยี นโปรแกรมแบบวนซำ้

คำชแ้ี จง : ใหน้ ักเรยี นเขยี นโปรแกรมคำสัง่ โดยนำผง้ึ เดนิ ทางไปเกบ็ นำ้ หวานจากเกสรดอกไม้และผลิตน้ำผ้งึ
ท่ีรวงผ้ึงไดส้ ำเร็จตามเส้นทางท่ีกำหนด

สถานการณ์

3

3

เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

71

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 การตรวจหาข้อผดิ พลาดของโปรแกรม
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 การเขยี นโปรแกรมแบบวนซำ้

โปรแกรมคำส่งั

123 45

คำชแ้ี จง : ให้นักเรยี นเขยี นโปรแกรมคำส่ังโดยนำผ้งึ เดนิ ทางไปเก็บน้ำหวานจากเกสรดอกไม้และผลิตนำ้ ผ้งึ

ทร่ี วงผ้ึงได้สำเรจ็ ตามเสน้ ทางท่กี ำหนด เฉลย

สถานการณ์

3

3

เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

72

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 การตรวจหาข้อผดิ พลาดของโปรแกรม
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 1 การเขยี นโปรแกรมแบบวนซ้ำ

โปรแกรมคำส่ัง 2 3 45

1 3 3

2 ผลติ
นำ้ ผึ้ง
เก็บ
นำ้ หวาน

บตั รภาพ
เรื่อง หยดน้ำหวาน



เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

73

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 2 การตรวจหาขอ้ ผิดพลาดของโปรแกรม
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 การเขยี นโปรแกรมแบบวนซ้ำ

9. ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศึกษาหรือผทู้ ี่ไดร้ บั มอบหมาย

ข้อเสนอแนะ
ลงชอ่ื ................................................
(นายสุพศิ อาจเชื้อ)

ตำแหนง่ ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นอนุบาลรัตนบรุ ี

10. บนั ทกึ ผลหลงั การสอน

 ดา้ นความรู้

 ด้านสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน

 ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

 ด้านความสามารถทางเทคโนยี (วทิ ยาการคำนวณ)

 ด้านอน่ื ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมทม่ี ปี ญั หาของนกั เรียนเป็นรายบุคคล (ถ้าม)ี )

 ปญั หา/อปุ สรรค

 แนวทางการแกไ้ ข

เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

74


Click to View FlipBook Version