หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 3 การจัดการไฟลอ์ ย่างมรี ะบบ
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 1 การใชง้ านซอฟตแ์ วรเ์ บ้ืองตน้
9. ความเห็นของผู้บรหิ ารสถานศกึ ษาหรือผูท้ ไ่ี ด้รับมอบหมาย
ข้อเสนอแนะ
ลงชอื่ ................................................
(นายสพุ ิศ อาจเชื้อ)
ตำแหนง่ ผอู้ ำนวยการโรงเรียนอนบุ าลรตั นบุรี
.......
10. บันทกึ ผลหลงั การสอน
ดา้ นความรู้
ด้านสมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
ดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
ด้านความสามารถทางเทคโนยี (วทิ ยาการคำนวณ)
ดา้ นอ่ืน ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมที่มปี ญั หาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้าม)ี )
ปญั หา/อุปสรรค
แนวทางการแกไ้ ข
เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
131
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 3 การจดั การไฟล์อยา่ งมีระบบ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 การแกไ้ ขตกแตง่ เอกสารดว้ ยโปรแกรมประมวลคำ
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 2
การแก้ไขตกแตง่ เอกสารดว้ ยโปรแกรมประมวลคำ
เวลา 2 ช่ัวโมง
1. มาตรฐาน/ตัวชี้วดั
1.1 ตวั ชีว้ ดั
ว 4.2 ป.2/3 ใชเ้ ทคโนโลยีในการสร้าง จดั หมวดหมู่ คน้ หา จัดเกบ็ เรยี กใชข้ อ้ มลู ตามวตั ถปุ ระสงค์
2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. อธบิ ายสว่ นประกอบของโปรแกรมประมวลคำได้ (K)
2. แสดงขัน้ ตอนการแทรกภาพประกอบในโปรแกรมประมวลคำได้ (P)
3. แสดงขน้ั ตอนการตกแต่งขอบกระดาษดว้ ยโปรแกรมประมวลคำได้ (P)
4. เหน็ ความสำคญั ของการใช้งานโปรแกรมประมวลคำ (A)
3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรทู้ ้องถิน่
พิจารณาตามหลกั สูตรของสถานศกึ ษา
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
การใช้งานซอฟต์แวร์เบื้องต้น เชน่ การเข้าและออก
จากโปรแกรม การสร้างไฟล์ การจัดเก็บ การเรยี กใช้
ไฟล์ การแก้ไขตกแต่งเอกสาร ทำไดใ้ นโปรแกรม เช่น
โปรแกรมประมวลคำ โปรแกรมกราฟิก โปรแกรม
นำเสนอ
4. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
การแก้ไขตกแตง่ เอกสารกระทำเพ่ือให้เอกสารมีความสวยงามและดนู ่าสนใจมากยง่ิ ขึน้ ซง่ึ การแก้ไข
ตกแต่งเอกสารดว้ ยโปรแกรมประมวลคำ สามารถทำการแกไ้ ขตกแต่งเอกสารใหส้ วยงามได้โดย การแทรก
รปู ภาพ การแทรกภาพตดั ปะ การแทรกรูปร่าง และการตกแตง่ ขอบกระดาษ
5. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี นและคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
1. ความสามารถในการสอื่ สาร 1. มีวินัย รบั ผิดชอบ
- ทกั ษะการส่ือสาร 2. ใฝเ่ รยี นรู้
- ทกั ษะการถา่ ยทอดความคิด 3. มงุ่ มั่นในการทำงาน
2. ความสามารถในการคดิ
- ทักษะการคิดอยา่ งสร้างสรรค์
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
- ทกั ษะการสังเกต
เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
133
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 3 การจดั การไฟล์อยา่ งมีระบบ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 การแก้ไขตกแต่งเอกสารดว้ ยโปรแกรมประมวลคำ
สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
- ทกั ษะการทำงานร่วมกัน
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
6. กิจกรรมการเรยี นรู้
วิธีการสอนโดยเน้นรปู แบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)
ช่วั โมงท่ี 1
ข้นั นำ
ขัน้ ที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement)
1. ครูนำหนังสอื นทิ านทนี่ กั เรียนค้นุ เคย ภายในมีรปู ภาพและคำบรรยายทีด่ ึงดดู ความสนใจ
ให้นกั เรียนดู จากนน้ั ครูถามคำถามเพอื่ กระตุ้นความสนใจของนักเรียนวา่ “นักเรยี นร้หู รอื ไม่
ว่านคี่ อื หนงั สือนิทานเรอื่ งอะไร”
(แนวตอบ : คำตอบของนกั เรียนข้นึ อยู่กับหนังสอื นิทานทีค่ รนู ำมาให้นกั เรียนดู)
2. ครกู ล่าวกระตุน้ ความสนใจของนักเรียนและเช่ือมโยงเขา้ สู่บทเรยี นว่า“หนังสอื นิทานท่ีครูนำมา
ให้นกั เรียนดนู นั้ สรา้ งมาจากโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ประเภทหน่งึ ท่เี รียกวา่ โปรแกรมประมวลคำ
ซง่ึ โปรแกรมประมวลคำท่ีนิยมใช้ ไดแ้ ก่ โปรแกรมไมโครซอฟตเ์ วิร์ด และในวันนค้ี รจู ะให้
นกั เรยี นทำหนงั สือนิทานโดยใช้โปรแกรมประมวลคำกนั ”
ขัน้ สอน
ขัน้ ที่ 2 สำรวจค้นหา (Exploration)
1. นกั เรยี นแตล่ ะคนสบื คน้ สญั ลักษณ์ท่ใี ชแ้ ทนโปรแกรมไมโครซอฟต์เวริ ด์ จากเครื่องคอมพิวเตอร์
ของตนเอง จากน้นั ครสู มุ่ นักเรียน 2-3 คน ออกมาวาดภาพสัญลักษณท์ ี่ใชแ้ ทนโปรแกรม
ไมโครซอฟต์เวิร์ดหน้าช้ันเรยี น โดยครูให้ขอ้ เสนอแนะและเฉลยสญั ลักษณ์ทีถ่ ูกตอ้ งแก่นักเรียน
2. นักเรยี นแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน แล้วใหแ้ ต่ละกลมุ่ ร่วมกนั ศึกษาเนื้อหาเกย่ี วกบั สว่ นประกอบ
ของโปรแกรมประมวลคำจากหนงั สอื เรยี นรายวชิ าพืน้ ฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
ป.2 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 การจดั การไฟล์อยา่ งมีระบบ
3. นักเรยี นทำกิจกรรมรว่ มกันโดยมกี ตกิ าดงั นี้ ครจู ะบอกช่อื ส่วนประกอบหรือความหมายของ
สว่ นประกอบในโปรแกรมประมวลคำทลี ะข้อ โดยให้นักเรียนแต่ละกลมุ่ ค้นหาสว่ นประกอบ
สว่ นน้นั จากนัน้ ให้กลุ่มท่คี น้ หาได้ก่อนให้ออกมาช้ีตำแหน่งสว่ นประกอบนั้น ให้เพ่ือนร่วมชน้ั
ดูหนา้ ช้นั เรยี น
ขน้ั ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation)
4. ครูอธิบายกบั นักเรียนวา่ “หนงั สอื ถ้ามีแต่ตัวอักษรคงไมส่ รา้ งความนา่ สนใจ ดังน้ันควรแทรก
เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
134
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 การจัดการไฟล์อยา่ งมีระบบ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 การแกไ้ ขตกแต่งเอกสารดว้ ยโปรแกรมประมวลคำ
ภาพประกอบในโปรแกรมประมวลคำโดยมีการแทรกภาพทั้ง 3 รูปแบบ ได้แก่ แบบที่ 1
การแทรกรูปภาพ คือ การแทรกภาพจากการนำรูปภาพจากแหลง่ ตา่ ง ๆ ทบี่ ันทึกไวใ้ นเครื่อง
คอมพวิ เตอร์มาใชต้ กแตง่ เอกสาร แบบที่ 2 การแทรกภาพตัดปะ คือ การนำภาพท่ีมีอยู่ใน
โปรแกรมมาใช้งาน และ แบบท่ี 3 การแทรกรปู รา่ ง คือ การแทรกภาพทเี่ ป็นรปู รา่ งหรือรูปทรง
ในลกั ษณะต่าง ๆ มาใชง้ านในเอกสาร”
5. ครเู ปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นได้ศกึ ษาการแทรกภาพในแบบต่าง ๆ โดยใหน้ ักเรียนได้ทดลอง
แทรกภาพจากเครื่องคอมพวิ เตอร์ของตนเองตามความเหมาะสม
6. ครูอธบิ ายเกรด็ น่ารูใ้ นการแทรกภาพวา่ “การแทรกภาพประกอบ ควรเลือกรูปภาพให้
สอดคลอ้ งกบั เนื้อหาเพ่อื ท่จี ะทำใหผ้ ู้อา่ นเกดิ ความเข้าใจในเนื้อหามากยง่ิ ขนึ้ ”
7. ให้นกั เรียนศึกษาลำดบั ข้นั ตอนการตกแต่งขอบกระดาษด้วยโปรแกรมประมวลคำ
จากหนังสือเรยี น
8. ให้นกั เรยี นทำกจิ กรรมฝึกทกั ษะโดยการสรา้ งเอกสารประวัตสิ ่วนตัวพรอ้ มแทรกภาพประกอบ
และตกแตง่ ขอบกระดาษใหส้ วยงามเป็นการบา้ นและนำมาส่งในช่ัวโมงถัดไป
ชัว่ โมงที่ 2
ขัน้ สอน
ข้นั ที่ 3 อธิบายความรู้ (Explanation)
9. ครูทบทวนเนอ้ื หาการเรยี นเมื่อชั่วโมงทีแ่ ลว้ และใหน้ กั เรียนชว่ ยกันตอบคำถามโดยมีคำถามว่า
“การแทรกภาพประกอบในโปรแกรมประมวลคำว่ามีกร่ี ปู แบบ”
(แนวตอบ : มี 3 รูปแบบ ได้แก่ การแทรกรูปภาพ การแทรกภาพตดั ปะ และการแทรกรูปรา่ ง)
10. ครูอธบิ ายเพ่ิมเตมิ เกีย่ วกบั การแก้ไขตกแต่งเอกสารด้วยโปรแกรมประมวลคำวา่ “โปรแกรม
ประมวลคำนอกจากจะนำมาสรา้ งการ์ตูนหรอื นิทานได้แลว้ ยังสามารถใชเ้ ขยี นจดหมาย
ทำรายงาน สร้างตาราง แผ่นปา้ ย และสามารถประดิษฐอ์ กั ษรสวยงามได้อกี ดว้ ย”
ข้นั ที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration)
11. ให้นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ลงมือทำใบงานที่ 3.2.1 เรอ่ื ง การสรา้ งนทิ าน โดยใช้โปรแกรม
ประมวลคำ และครคู อยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชดิ เพอื่ ให้ผลงานออกมาอย่างมีประสิทธิภาพ
Note
วัตถุประสงคข์ องกิจกรรมเพือ่ ให้นักเรียน
- มีทักษะการทำงานรว่ มกัน โดยใช้กระบวนการกลุม่ ในการทำงานเพ่ือการสอ่ื สาร
และแลกเปล่ียนความคดิ เห็นขณะทำงานกลมุ่ เพื่อให้ได้ผลลพั ธ์ท่มี ีประสิทธภิ าพในการทำงาน
- มีทกั ษะการถา่ ยทอดความคิด และมีทักษะการคิดอย่างสร้างสรรคใ์ นการสร้าง
นทิ าน โดยการแทรกรูปภาพหรอื ตกแต่งขอบกระดาษจากโปรแกรมประมวลคำ
- มที กั ษะการสังเกตเก่ยี วกับส่วนประกอบของโปรแกรมประมวลคำ ขั้นตอน
การแทรกภาพในรูปแบบตา่ ง ๆ การตกแต่งขอบกระดาษให้สวยงามจากโปรแกรมประมวลคำ
เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)
135
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 การจัดการไฟลอ์ ย่างมรี ะบบ
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 2 การแก้ไขตกแต่งเอกสารดว้ ยโปรแกรมประมวลคำ
ขน้ั สรุป
ข้นั ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. นกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ ออกมาแสดงผลงานหน้าช้ันเรยี น พร้อมพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
กบั เพ่ือนร่วมช้ัน
2. ครูสมุ่ นกั เรียน 2-3 คน ร่วมกันตอบคำถามวา่ “โปรแกรมประมวลคำนอกจากสรา้ งนทิ านหรือ
หนังสอื การ์ตนู แลว้ ยังสามารถทำอะไรได้อกี ทจี่ ะเปน็ ประโยชนใ์ นชีวติ ประจำวัน”
(แนวตอบ : สรา้ งหนังสือเรยี น นิตยสาร แผน่ พบั และเอกสารอน่ื ๆ)
3. ครูประเมนิ ผล โดยการสงั เกตการตอบคำถาม การทำใบงาน กิจกรรมฝกึ ทักษะ และ
จากการนำเสนองานหน้าชัน้ เรียน
4. นักเรียนและครูร่วมกนั สรุปเก่ียวกับสว่ นประกอบและขนั้ ตอนต่าง ๆ ในการใชง้ านโปรแกรม
ประมวลคำ ไม่ว่าจะเป็น การแทรกภาพประกอบท้งั 3 รปู แบบหรือการตกแต่งขอบกระดาษ
ดว้ ยโปรแกรมประมวลคำ
7. การวดั และประเมินผล วิธวี ดั เครื่องมอื เกณฑ์การประเมนิ
รายการวัด - ตรวจใบงานที่ 3.2.1 - ใบงานที่ 3.2.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
7.1 การประเมินระหว่างการ - ประเมนิ การนำเสนอ
ผลงาน - แบบประเมิน ระดบั คุณภาพ 2
จดั กิจกรรม - สังเกตพฤติกรรม การนำเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์
1) การสร้างนิทาน การทำงานรายบุคคล
2) การนำเสนอผลงาน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดับคุณภาพ 2
การทำงานกลุ่ม การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์
3) พฤตกิ รรมการทำงาน - สงั เกตความมวี นิ ยั
รายบคุ คล ความรบั ผิดชอบ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ 2
ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมัน่ การทำงานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์
4) พฤตกิ รรมการทำงาน ในการทำงาน
กลมุ่ - แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 2
คุณลักษณะ ผา่ นเกณฑ์
5) คณุ ลักษณะ อนั พึงประสงค์
อันพึงประสงค์
8. ส่อื /แหล่งการเรียนรู้
8.1 สอ่ื การเรียนรู้
1) หนงั สือเรียนรายวชิ าพ้นื ฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.2 หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 3
เรื่อง การจดั การไฟล์อยา่ งมีระบบ
2) ใบงานที่ 3.2.1 เรื่อง การสรา้ งนิทาน
เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)
136
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 3 การจัดการไฟล์อยา่ งมีระบบ
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 2 การแกไ้ ขตกแต่งเอกสารดว้ ยโปรแกรมประมวลคำ
3) เครอ่ื งคอมพิวเตอร์
8.2 แหลง่ การเรยี นรู้
- หอ้ งคอมพวิ เตอร์
เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)
137
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 3 การจัดการไฟล์อย่างมีระบบ
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 2 การแกไ้ ขตกแต่งเอกสารดว้ ยโปรแกรมประมวลคำ
ใบงานที่ 3.2.1
เร่อื ง การสรา้ งนิทาน
คำชแี้ จง : ใหน้ ักเรียนสร้างหนังสือนิทานโดยใช้โปรแกรมประมวลคำท่ีมกี ารแทรกภาพประกอบ และ
ตกแต่งขอบกระดาษให้สวยงาม จากนั้นจดั พิมพผ์ ลงานออกมาผ่านทางเครอื่ งพิมพ์
และนำสง่ ครูต่อไป
เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)
138
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 3 การจัดการไฟลอ์ ยา่ งมรี ะบบ เฉลย
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2 การแก้ไขตกแต่งเอกสารดว้ ยโปรแกรมประมวลคำ
ใบงานที่ 3.2.1
เรอ่ื ง การสรา้ งนทิ าน
คำชแี้ จง : ใหน้ กั เรยี นสร้างหนังสือนิทานโดยใชโ้ ปรแกรมประมวลคำที่มกี ารแทรกภาพประกอบ และ
ตกแต่งขอบกระดาษให้สวยงาม จากนน้ั จดั พมิ พผ์ ลงานออกมาผา่ นทางเครอื่ งพิมพ์
และนำส่งครตู ่อไป
เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
139
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 การจดั การไฟลอ์ ยา่ งมีระบบ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 การแกไ้ ขตกแต่งเอกสารดว้ ยโปรแกรมประมวลคำ
9. ความเหน็ ของผ้บู รหิ ารสถานศึกษาหรือผู้ท่ีได้รบั มอบหมาย
ข้อเสนอแนะ
ลงชอื่ ................................................
(นายสุพศิ อาจเชื้อ)
ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรยี นอนบุ าลรตั นบุรี
.......
10. บันทกึ ผลหลงั การสอน
ดา้ นความรู้
ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน
ด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
ด้านความสามารถทางเทคโนยี (วทิ ยาการคำนวณ)
ด้านอื่น ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมทมี่ ปี ญั หาของนักเรยี นเปน็ รายบุคคล (ถ้าม)ี )
ปัญหา/อปุ สรรค
แนวทางการแก้ไข
เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)
140
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 การจดั การไฟลอ์ ย่างมรี ะบบ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 3 การนำเสนอขอ้ มูลด้วยโปรแกรมนำเสนอ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 3
การนำเสนอข้อมลู ดว้ ยโปรแกรมนำเสนอ
เวลา 1 ช่ัวโมง
1. มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด
1.1 ตวั ชีว้ ัด
ว 4.2 ป. 2/3 ใช้เทคโนโลยีในการสร้าง จดั หมวดหมู่ ค้นหา จัดเก็บ เรยี กใช้ข้อมลู ตามวัตถปุ ระสงค์
2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธบิ ายส่วนประกอบตา่ ง ๆ ของโปรแกรมนำเสนอได้ (K)
2. ออกแบบและสรา้ งงานนำเสนอข้อมลู ด้วยโปรแกรมนำเสนอได้ถูกต้อง (P)
3. เล็งเหน็ ความสำคัญของการนำเสนอข้อมลู ดว้ ยโปรแกรมนำเสนอ (A)
3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรทู้ ้องถิน่
พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
การใชง้ านซอฟต์แวร์เบอ้ื งต้น เชน่ การเขา้ และออก
จากโปรแกรม การสรา้ งไฟล์ การจดั เก็บ การเรยี กใช้
ไฟล์ การแก้ไขตกแต่งเอกสาร ทำไดใ้ นโปรแกรม เชน่
โปรแกรมประมวลคำ โปรแกรมกราฟิก โปรแกรม
นำเสนอ
4. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด
การนำเสนอข้อมูลด้วยโปรแกรมนำเสนอชว่ ยให้การถ่ายทอดข้อมลู มคี วามนา่ สนใจ ทำให้ถ่ายทอด
ขอ้ มลู ให้ผู้อนื่ เขา้ ใจไดง้ ่าย ด้วยการนำเสนอผา่ นขอ้ ความ รูปภาพ เสียง และวีดโี อ เป็นต้น
5. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียนและคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ความสามารถในการส่อื สาร 1. มวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ
- ทักษะการสื่อสาร 2. ใฝ่เรียนรู้
- ทกั ษะการถา่ ยทอดความคดิ 3. มุง่ ม่ันในการทำงาน
2. ความสามารถในการคดิ
- ทักษะการคิดอย่างสรา้ งสรรค์
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
- ทักษะการสังเกต
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
- ทักษะการทำงานร่วมกนั
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)
141
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 การจดั การไฟลอ์ ย่างมรี ะบบ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 3 การนำเสนอข้อมลู ด้วยโปรแกรมนำเสนอ
6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
วธิ กี ารสอนโดยเนน้ รปู แบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)
ชัว่ โมงที่ 1
ข้นั นำ
ขั้นท่ี 1 กระต้นุ ความสนใจ (Engagement)
1. ครใู ช้โปรแกรมไมโครซอฟต์เพาเวอรพ์ อยตน์ ำเสนอผลงานเก่ยี วกับเรือ่ งท่ีนักเรยี นสนใจ
โดยภายในมรี ูปภาพประกอบพร้อมคำบรรยายที่ดงึ ดูดความสนใจให้นกั เรียนดูเปน็ ตวั อย่าง
จากน้ันถามคำถามเพอื่ กระตุ้นความสนใจของนักเรยี นวา่ “ผลงานการนำเสนอท่ีครนู ำมา
ให้นกั เรียนดู ประกอบดว้ ยสว่ นประกอบใดบา้ ง”
(แนวตอบ : คำตอบของนักเรียนข้ึนอยู่กับผลงานการนำเสนอที่ค่รูนำมาใหน้ ักเรยี นดู เชน่
ข้อความ รปู ภาพ เสยี ง และวิดโี อ เป็นต้น)
2. ครกู ลา่ วกระตุ้นความสนใจของนักเรยี น พร้อมเชือ่ มโยงเขา้ สบู่ ทเรยี นวา่ “จากผลงานการนำเสนอ
ท่ีครูนำมาให้นกั เรยี นดู ถูกสร้างข้ึนจากโปรแกรมนำเสนอในการถ่ายทอดข้อมูล โดยอาจจะนำเสนอ
ผา่ นข้อความ รปู ภาพ เสียง และวิดโี อ ซงึ่ โปรแกรมนำเสนอทนี่ ิยมใช้ ได้แก่ โปรแกรมไมโครซอฟต์
เพาเวอร์พอยต์”
ขั้นสอน
ขน้ั ที่ 2 สำรวจค้นหา (Exploration)
1. นักเรยี นแตล่ ะคนสบื ค้นสญั ลักษณ์ท่ีใช้แทนโปรแกรมไมโครซอฟต์เพาเวอรพ์ อยต์
จากเครอ่ื งคอมพิวเตอร์ของตนเอง จากน้นั ครูสมุ่ นกั เรียน 2-3 คนออกมาวาดภาพสัญลกั ษณ์
ทีใ่ ชแ้ ทนโปรแกรมไมโครซอฟตเ์ พาเวอร์พอยตห์ นา้ ช้ันเรียน โดยครใู หข้ อ้ เสนอแนะ และ
เฉลยสัญลกั ษณ์ท่ีถกู ต้องแกน่ ักเรียน
2. นกั เรียนแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 3-4 คน โดยให้แตล่ ะกล่มุ รว่ มกันศกึ ษาเก่ยี วกบั สว่ นประกอบของ
โปรแกรมนำเสนอจากหนงั สอื เรยี นรายวชิ าพ้ืนฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.2
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 การจดั การไฟลอ์ ยา่ งมีระบบ
3. นกั เรียนทำกิจกรรมร่วมกัน โดยมกี ติกาดังนี้ ครจู ะบอกชือ่ สว่ นประกอบหรือความหมายของ
ส่วนประกอบในโปรแกรมนำเสนอทีละข้อโดยใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลุม่ ค้นหาสว่ นประกอบน้ัน
จากนั้นให้กลมุ่ ท่ีคน้ หาได้ก่อนให้ออกมาชต้ี ำแหนง่ สว่ นประกอบนั้นใหเ้ พ่ือนร่วมช้ันดหู น้าชัน้ เรยี น
ขน้ั ที่ 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation)
4. นกั เรยี นศกึ ษาเน้ือหาการนำเสนอขอ้ มูลด้วยโปรแกรมนำเสนอจากหนังสือเรยี น
เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)
142
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 การจดั การไฟล์อย่างมีระบบ
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 3 การนำเสนอข้อมูลด้วยโปรแกรมนำเสนอ
5. ครสู อนวิธีการเลอื กรูปแบบการนำเสนอในกลมุ่ เครือ่ งมือ Start Slide Show ของโปรแกรม
นำเสนอข้อมูล
6. ครอู ธิบายเพิ่มเตมิ เกยี่ วกบั การนำเสนอข้อมูลดว้ ยโปรแกรมนำเสนอว่า“หลักการสรา้ ง
งานนำเสนอให้น่าสนใจมดี ังน้ี
1. ตัวอกั ษรควรมีขนาดใหญ่ มองเห็นชัดเจน
2. ตัวอกั ษรสเี ข้ม พ้ืนหลงั ควรมีสสี ว่างหรอื ถ้าตัวอักษรสีสวา่ ง พ้นื หลังควรมีสีเข้ม
3. เนอื้ หานำเสนอเข้าใจง่าย
4. รปู ภาพหรอื วีดโี อจะชว่ ยให้การนำเสนอดนู า่ สนใจยิ่งขน้ึ และก่อนนำเสนอควรทบทวน
เนอ้ื หาและทดลองนำเสนอหลาย ๆ รอบเพ่ือลดความผิดพลาดทจี่ ะเกดิ ขนึ้ ในระหวา่ ง
การนำเสนอ”
ขนั้ ที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration)
7. นักเรยี นแต่ละกลุม่ ทำกจิ กรรมฝกึ ทักษะออกแบบงานนำเสนอในหัวข้อสถานท่ีทอ่ งเท่ียว
ในประเทศไทย จำนวน 2-3 สไลด์ พรอ้ มทัง้ ตกแต่งใหส้ วยงามโดยสามารถสืบค้นข้อมลู
จากอินเทอร์เนต็
8. ครแู นะนำแตล่ ะกลุ่มถึงวธิ กี ารสรา้ งงานนำเสนอให้นา่ สนใจ โดยการนำความรู้จากการเรยี น
ชว่ั โมงท่ีผา่ นมา เรื่อง การแทรกภาพประกอบมาปรบั ใช้ในงานนำเสนอมีความน่าสนใจยิ่งข้ึน
Note
วตั ถุประสงคข์ องกิจกรรมเพื่อให้นกั เรียน
- มที ักษะการทำงานรว่ มกนั โดยใช้กระบวนการกลุม่ ในการทำงานเพื่อการส่ือสาร
และแลกเปลี่ยนความคดิ เห็นขณะทำงานกลมุ่ เพือ่ ให้ไดผ้ ลลัพธท์ ่มี ีประสทิ ธภิ าพในการทำงาน
- มีทกั ษะการถา่ ยทอดความคิด และมที ักษะการคดิ อย่างสร้างสรรคใ์ นการสร้างงาน
นำเสนอด้วยโปรแกรมนำเสนอ
- มีทกั ษะการสงั เกตเกี่ยวกับส่วนประกอบต่าง ๆ ของโปรแกรมนำเสนอ และรปู แบบ
การนำเสนอในกลมุ่ เครือ่ งมือ Start Slide Show
ขนั้ สรปุ
ขั้นท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. นักเรยี นแต่ละกลุ่มออกมาแสดงผลงานหน้าชั้นเรยี น พรอ้ มพดู คยุ แลกเปลย่ี นความคิดเห็น
กับเพื่อนร่วมชนั้
2. ครสู มุ่ นกั เรยี น 2- 3 คนรว่ มกันตอบคำถามวา่ “โปรแกรมนำเสนอมปี ระโยชนอ์ ย่างไรบ้าง
ในชีวิตประจำวนั ”
(แนวตอบ : การนำเสนอขอ้ มูลด้วยโปรแกรมนำเสนอช่วยใหก้ ารถา่ ยทอดข้อมลู ใหผ้ อู้ ืน่ เขา้ ใจ
เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
143
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 การจดั การไฟล์อยา่ งมีระบบ
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 3 การนำเสนอข้อมูลด้วยโปรแกรมนำเสนอ
งา่ ยขน้ึ เพราะมีการนำเสนอผ่านข้อความ รูปภาพ เสียง รวมถงึ วดี ีโอไดอ้ ีกดว้ ย)
3. ครปู ระเมินผล โดยการสงั เกตการตอบคำถาม กิจกรรมฝกึ ทักษะ และจากการนำเสนองาน
หน้าช้ันเรยี น
4. นักเรยี นและครูสรปุ ขนั้ ตอนการนำเสนอข้อมลู ด้วยโปรแกรมนำเสนอรวมถึงประโยชน์
ของการนำเสนอขอ้ มูลด้วยโปรแกรมนำเสนอในชีวติ ประจำวัน
7. การวดั และประเมินผล
รายการวัด วธิ วี ดั เคร่ืองมือ เกณฑ์การประเมนิ
7.1 การประเมินระหว่างการ - ประเมินการนำเสนอ
ผลงาน - แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 2
จดั กิจกรรม การนำเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์
1) การนำเสนอผลงาน - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ 2
การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์
2) พฤติกรรมการทำงาน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2
รายบุคคล การทำงานรายบุคคล การทำงานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์
- แบบประเมิน ระดบั คุณภาพ 2
3) พฤติกรรมการทำงาน - สังเกตพฤติกรรม คณุ ลกั ษณะ ผ่านเกณฑ์
กลุม่ การทำงานกลุ่ม อนั พงึ ประสงค์
4) คณุ ลักษณะ - สังเกตความมีวนิ ัย
อนั พงึ ประสงค์ ความรบั ผิดชอบ
ใฝเ่ รยี นรู้ และมุง่ มน่ั
ในการทำงาน
8. สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้
8.1 ส่อื การเรียนรู้
1) หนงั สือเรยี น รายวชิ าพ้นื ฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.2 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3
เร่อื ง การจดั การไฟล์อยา่ งมีระบบ
2) ผลงานเกีย่ วกบั เร่ืองที่นกั เรยี นสนใจ
3) เครอื่ งคอมพวิ เตอร์
8.2 แหล่งการเรียนรู้
1) อนิ เทอร์เนต็
2) ห้องคอมพิวเตอร์
เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
144
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 การจดั การไฟลอ์ ยา่ งมรี ะบบ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 3 การนำเสนอขอ้ มูลด้วยโปรแกรมนำเสนอ
9. ความเหน็ ของผู้บรหิ ารสถานศึกษาหรอื ผู้ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย
ข้อเสนอแนะ
ลงชอื่ ................................................
(นายสุพศิ อาจเชื้อ)
ตำแหน่งผอู้ ำนวยการโรงเรยี นอนบุ าลรตั นบุรี
.......
10. บันทกึ ผลหลงั การสอน
ดา้ นความรู้
ด้านสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
ด้านความสามารถทางเทคโนยี (วิทยาการคำนวณ)
ด้านอนื่ ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มปี ญั หาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้าม)ี )
ปญั หา/อุปสรรค
แนวทางการแก้ไข
เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)
145
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 การจัดการไฟลอ์ ย่างมีระบบ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 4 การจัดการกับไฟล์
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 4
การจดั การกบั ไฟล์
เวลา 1 ชั่วโมง
1. มาตรฐาน/ตัวชีว้ ดั
1.1 ตัวชวี้ ัด
ว 4.2 ป.2/3 ใชเ้ ทคโนโลยีในการสร้าง จัดหมวดหมู่ ค้นหา จัดเก็บ เรียกใช้ข้อมูลตามวตั ถปุ ระสงค์
2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายความแตกต่างระหว่างการคัดลอกไฟล์และการย้ายไฟลไ์ ด้ถกู ต้อง (K)
2. แสดงขัน้ ตอนการสร้างโฟลเดอรแ์ ละจัดหมวดหม่ไู ฟลไ์ ด้ (P)
3. แสดงขั้นตอนการคดั ลอกไฟลแ์ ละโฟลเดอรไ์ ด้ (P)
4. แสดงขน้ั ตอนการยา้ ยไฟล์และโฟลเดอร์ได้ (P)
5. เห็นความสำคญั และประโยชน์ของการจดั การกบั ไฟล์อย่างเป็นระบบ (A)
3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ท้องถิ่น
พิจารณาตามหลกั สูตรของสถานศึกษา
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
การสร้าง คดั ลอก ย้าย ลบ เปล่ยี นช่อื จดั หมวดหมู่
ไฟล์ และโฟลเดอร์อยา่ งเปน็ ระบบจะทำให้เรียกใช้
คน้ หาข้อมูลได้ง่ายและรวดเร็ว
4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
การจัดการกับไฟล์ เปน็ การจัดระเบียบไฟล์งานบนเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ เพื่อสร้างความสะดวกรวดเรว็
ในการคน้ หาข้อมูล ตง้ั แตก่ ารสรา้ งไฟล์ คดั ลอกไฟล์ ยา้ ยไฟล์ ลบไฟล์ เปล่ียนช่ือไฟล์ และจัดหมวดหมู่ไฟล์
โดยกระทำเพอื่ ความเป็นระเบียบเรยี บรอ้ ยในการทำงาน
5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี นและคุณลักษณะอนั พึงประสงค์
สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มีวินยั รบั ผิดชอบ
- ทกั ษะการแลกเปลย่ี นข้อมลู 2. ใฝ่เรียนรู้
- ทักษะการส่ือสาร 3. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน
2. ความสามารถในการคิด
- ทักษะการคิดวิเคราะห์
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
- ทกั ษะการสังเกต
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
- ทักษะการทำงานร่วมกนั
เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
147
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 การจัดการไฟลอ์ ยา่ งมรี ะบบ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 4 การจัดการกับไฟล์
สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
6. กิจกรรมการเรียนรู้
วธิ ีการสอนโดยเน้นรปู แบบการสอนแบบใชป้ ัญหาเปน็ ฐาน (problem - based learning)
ชัว่ โมงท่ี 1
ขน้ั นำ
1. ครถู ามกระต้นุ ความสนใจของนกั เรยี นว่า“นักเรียนเคยคน้ หาสง่ิ ของไม่เจอบา้ งหรือไม่
แลว้ นักเรยี นมีวธิ ีการอยา่ งไรให้หาสิ่งของตา่ ง ๆ ได้ง่ายข้ึน”
(แนวตอบ : นกั เรียนตอบตามประสบการณ์ของตนเอง โดยคำตอบข้ึนอยู่กบั ดลุ ยพินิจ
ของครผู ู้สอน)
2. ครถู ามนักเรียนตอ่ ว่า“ปัญหาการบนั ทึกงานแลว้ หาไม่เจอเคยเกดิ ขึน้ กับนักเรยี นหรือไม่ และ
นกั เรียนแก้ปัญหาน้ันได้อยา่ งไร”
(แนวตอบ : จดั การกับไฟลใ์ ห้เปน็ ระเบียบตง้ั แต่การสรา้ งไฟล์ และการจดั หมวดหมู่ไฟล์
เพื่อความเปน็ ระเบียบเรียบร้อย และเพ่อื ความสะดวกในการคน้ หาข้อมลู )
3. ครถู ามคำถามประจำหัวข้อเพ่ือเชื่อมโยงเข้าสู่บทเรยี นว่า“การจัดการไฟล์อย่างเป็นระบบมขี อ้ ดี
อยา่ งไร”
(แนวตอบ : มคี วามเปน็ ระเบียบเรียบร้อย มีความสะดวกในการค้นหาข้อมลู และลดการสญู หาย
ของไฟล์ข้อมูล)
ข้นั สอน
ขนั้ ที่ 1 กำหนดปัญหา
1. ครนู ำอุปกรณ์การเรยี นหลากหลายชนิดมากองรวมกนั เช่น ดินสอ ยางลบ ปากกา ไมบ้ รรทดั
ดนิ สอสี เปน็ ต้น และถามนกั เรียนวา่ “นกั เรียนจะมีวิธกี ารอย่างไรเพ่ือให้หาสิ่งของตา่ ง ๆ
ในกองน้ีง่ายและรวดเรว็ ขน้ึ ”
(แนวตอบ : จัดหมวดหมู่สงิ่ ของ เพื่อทำให้การหาส่งิ ของท่ีต้องการไดง้ ่ายและรวดเร็วขึน้ )
ขัน้ ท่ี 2 ทำความเขา้ ใจปัญหา
2. นกั เรียนแบง่ กลุ่ม กล่มุ ละ 5-6 คน เพ่อื ทำกจิ กรรมร่วมกนั โดยมีกติกา ดังน้ี
1. ครนู ำแผ่นป้ายข้อความโดยภายในมกี ารแสดงชอื่ สตั ว์ต่าง ๆ หลากหลายประเภท
เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
148
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 การจัดการไฟลอ์ ย่างมีระบบ
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 4 การจดั การกบั ไฟล์
วางไวห้ นา้ ช้ันเรียน
2. ครูมอบตะกรา้ ใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลมุ่ โดยกำหนดตามชนดิ ของสตั ว์ เช่น กล่มุ สตั วบ์ ก
กลุม่ สตั วน์ ำ้ กล่มุ สัตว์ครึ่งบกครง่ึ น้ำ เปน็ ต้น
3. เมื่อครสู ง่ สญั ญาณให้นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มสลบั กนั ออกมาหยิบแผ่นป้ายขอ้ ความ
หนา้ ชนั้ เรยี น
4. นักเรยี นนำไปใส่ลงในตะกรา้ ของกล่มุ ตนเองให้ถูกต้อง ตามระยะเวลาท่ีครูกำหนด
3. ครูตรวจสอบความถูกต้องในตะกรา้ ของแตล่ ะกลมุ่ ว่ามีช่ือสัตว์ถูกตอ้ งตามประเภทหรอื ไม่ และ
สรุปถึงขอ้ ดีของการจัดหมวดหมู่วา่ “การเก็บของไมเ่ ป็นระเบียบทำใหเ้ กิดความเสียหาย อีกท้ัง
ยงั ทำให้คน้ หาส่ิงของทต่ี ้องการได้ยากขน้ึ ดังนนั้ ควรจดั เก็บสิ่งของให้เปน็ หมวดหมู่จะช่วยให้
สามารถหาสิ่งของที่ต้องการได้ง่ายและรวดเรว็ ขนึ้ ”
ขนั้ ท่ี 3 ดำเนนิ การศกึ ษาค้นคว้า
4. นักเรยี นแต่ละกล่มุ รว่ มกันศกึ ษาเนอื้ หาการสรา้ งโฟลเดอรแ์ ละจดั หมวดหมู่ไฟล์จากหนังสือเรยี น
รายวชิ าพน้ื ฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.2 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 การจดั การไฟล์
อยา่ งมรี ะบบ
5. นักเรียนปฏบิ ัติการสรา้ งโฟลเดอร์ท่ีเคร่ืองคอมพิวเตอร์โดยตั้งโฟลเดอร์เป็นช่ือและนามสกุล
ของตนเอง
6. ครใู หค้ วามรูเ้ พมิ่ เติมกบั นักเรียนวา่ “การต้ังชอื่ โฟลเดอร์น้ัน ความยาวของช่ือจะต้องไม่เกิน
256 ตวั อักษรโดยจะกำหนดเปน็ ภาษาไทยหรือภาษาองั กฤษได้ โดยตอ้ งไม่มีเครื่องหมายพิเศษ
ได้แก่ \ ? : * “ ” < > |”
7. ครถู ามคำถามท้าทายการคิดข้ันสูงวา่ “ถา้ หากชื่อของโฟลเดอรท์ ี่นกั เรียนสรา้ งขน้ึ ไม่ตรงกับ
ไฟลข์ ้อมลู ด้านใน นกั เรียนคิดว่า จะส่งผลอย่างไรในการใช้งานโฟลเดอร์ครัง้ ต่อไป”
(แนวตอบ : คำตอบของนกั เรียน ขึน้ อยกู่ ับดุลยพนิ จิ ของครูผู้สอน)
8. เปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนทบทวนความรูจ้ ากชวั่ โมงที่แลว้ เกี่ยวกบั การบนั ทึกงานในโปรแกรม
ประมวลคำ โปรแกรมกราฟกิ และโปรแกรมนำเสนอ หรอื รูปภาพจากอินเทอร์เนต็ เป็นต้น
จากน้ันนำมาจดั เก็บไว้ในโฟลเดอร์ของตนเอง
9. นกั เรียนแตล่ ะคนศึกษาและทดลองคดั ลอกและยา้ ยไฟลห์ รือโฟลเดอร์ในเครื่องคอมพวิ เตอร์
ของตนเอง โดยศึกษาหรือขน้ั ตอนต่าง ๆ จากหนังสอื เรียน ซ่ึงครูอาจจะสาธติ ให้นกั เรยี นดู
เป็นตัวอย่าง และใหน้ กั เรยี นได้ลงมือปฏิบตั ติ าม
ขน้ั ที่ 4 สังเคราะห์ความรู้
10. นกั เรียนทำกิจกรรมฝึกทกั ษะการโยงเส้นจับค่รู ะหว่างข้อมูลกบั โฟลเดอร์ท่ีใชใ้ นการจัดเก็บข้อมลู
ใหถ้ ูกต้อง และทำกจิ กรรมฝกึ ทักษะอธบิ ายความแตกต่างระหว่างการคัดลอกไฟล์และการย้าย
ไฟล์เพื่อขยายความเข้าใจ
11. ครสู ุ่มนักเรยี น 1-2 คน ออกมาอธบิ ายความแตกตา่ งระหว่างการคดั ลอกไฟล์และการย้ายไฟล์
หนา้ ชัน้ เรยี น
ขน้ั ที่ 5 สรุปและประเมนิ คา่ ของคำตอบ
12. ครเู ปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นซักถามข้อสงสยั และครูให้ความรูเ้ พม่ิ เติมในส่วนน้ัน
เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
149
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 การจัดการไฟลอ์ ยา่ งมรี ะบบ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 4 การจดั การกบั ไฟล์
13. นกั เรยี นทำใบงานท่ี 3.4.1 เร่ือง การจัดหมวดหมู่ข้อมลู โดยใหน้ ักเรยี นสงั เกตความสัมพันธ์
ระหวา่ งรูปเรขาคณติ และสัตว์ต่าง ๆ จากนน้ั บอกความหมายของรปู เรขาคณติ โดยวเิ คราะห์
จากความสัมพนั ธท์ ก่ี ำหนดให้
ข้ันท่ี 6 นำเสนอและประเมนิ ผลงาน
14. ครูประเมนิ ผลนักเรยี นโดยการสงั เกตการตอบคำถาม การทำใบงาน และสมดุ ประจำตวั
15. ครตู รวจสอบผลการทำใบงานท่ี 3.4.1 และกจิ กรรมฝกึ ทักษะ
Note
วัตถปุ ระสงคข์ องกิจกรรมเพ่ือให้นกั เรยี น
- มีทกั ษะการทำงานร่วมกัน โดยใชก้ ระบวนการกลุ่มในการทำกิจกรรมตา่ ง ๆ
เพอ่ื เปิดโอกาสใหน้ ักเรียนไดส้ อื่ สารและแลกเปลีย่ นข้อมูลร่วมกัน
- มที กั ษะการสังเกต โดยนกั เรียนสามารถสงั เกตขัน้ ตอนต่าง ๆ จากหนังสอื เรียน
และนำมาปฏบิ ัติไดไ้ ม่ว่าจะเป็ฯการสรา้ งโฟลเดอร์ การจัดหมวดหมู่ไฟล์ การคดั ลอกและ
การย้ายไฟลก์ บั โฟลเดอร์ เป็นต้น
- มที ักษะการคดิ วิเคราะหจ์ ากการสงั เกตความสมั พนั ธร์ ะหว่างรปู เรขาคณิตและ
สตั ว์ต่าง ๆ พรอ้ มบอกความหมายของรูปเรขาคณติ โดยผ่านการวเิ คราะห์จากความสัมพนั ธ์
ท่กี ำหนด
ขั้นสรปุ
นกั เรียนและครูรว่ มกันสรุปลำดับขน้ั ตอนการจดั การกบั ไฟล์ ตัง้ แตก่ ารสรา้ งโฟลเดอร์ และ
จดั หมวดหม่ไู ฟล์ การคัดลอกไฟลแ์ ละโฟลเดอร์ หรือการยา้ ยไฟล์และโฟลเดอร์ โดยครูคอยบันทกึ
ลงบนกระดานหนา้ ช้ันเรยี น
7. การวัดและประเมนิ ผล วธิ ีวัด เครือ่ งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ
รายการวดั - ตรวจใบงานท่ี 3.4.1 - ใบงานท่ี 3.4.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
- ประเมนิ การนำเสนอ - แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2
7.1 การประเมนิ ระหว่างการ ผลงาน การนำเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์
จดั กิจกรรม
1) การจดั หมวดหมู่
ขอ้ มูล
2) การนำเสนอผลงาน
เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
150
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 การจดั การไฟล์อย่างมรี ะบบ
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 4 การจดั การกับไฟล์
รายการวดั วิธีวดั เครือ่ งมือ เกณฑ์การประเมิน
3) พฤติกรรมการทำงาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2
รายบุคคล การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์
4) พฤติกรรมการทำงาน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดับคุณภาพ 2
กลุม่ การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์
5) คณุ ลกั ษณะ - สังเกตความมีวนิ ัย - แบบประเมิน ระดบั คุณภาพ 2
อันพึงประสงค์ ความรับผดิ ชอบ คณุ ลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์
ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งม่ัน อนั พึงประสงค์
ในการทำงาน
8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 ส่อื การเรยี นรู้
1) หนงั สือเรยี นรายวิชาพ้นื ฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.2 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3
เร่ือง การจัดการไฟลอ์ ย่างมีระบบ
2) ใบงานที่ 3.4.1 เร่ือง การจดั หมวดหมู่ขอ้ มูล
3) เครอ่ื งคอมพิวเตอร์
4) อุปกรณ์การเรียนหลากหลายชนดิ
8.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) อินเทอร์เนต็
2) ห้องคอมพิวเตอร์
เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
151
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 3 การจดั การไฟล์อย่างมรี ะบบ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 4 การจัดการกบั ไฟล์
ใบงานท่ี 3.4.1
เรือ่ ง การจัดหมวดหมู่ข้อมูล
คำชี้แจง : ให้นกั เรยี นสงั เกตความสมั พันธ์ระหวา่ งรูปเรขาคณติ และสตั ว์ตา่ ง ๆ จากตัวอยา่ งตอ่ ไปน้ี
=
=
=
ให้นกั เรียนบอกความหมายของรปู เรขาคณิตดงั ต่อไปนี้ โดยวิเคราะห์จากความสมั พนั ธ์ท่กี ำหนดให้
=
=
=
เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
152
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 การจัดการไฟล์อยา่ งมีระบบ
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 4 การจดั การกับไฟล์
ใบงานท่ี 3.4.1 เฉลย
เร่อื ง การจัดหมวดหมู่ขอ้ มูล
คำชแ้ี จง : ใหน้ ักเรยี นสงั เกตความสัมพนั ธ์ระหว่างรูปเรขาคณิตและสตั วต์ ่าง ๆ จากตัวอยา่ งต่อไปนี้
=
=
=
ใหน้ ักเรียนบอกความหมายของรูปเรขาคณติ ดงั ต่อไปนี้ โดยวิเคราะห์จากความสมั พันธ์ท่กี ำหนดให้
= สตั วบ์ ก
= สัตว์คร่งึ บกครึง่ นำ้
= สตั ว์มีปีก
เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
153
หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 3 การจัดการไฟล์อยา่ งมรี ะบบ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 4 การจัดการกบั ไฟล์
9. ความเหน็ ของผู้บริหารสถานศกึ ษาหรอื ผู้ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย
ข้อเสนอแนะ
ลงชอื่ ................................................
(นายสุพิศ อาจเช้ือ)
ตำแหน่งผอู้ ำนวยการโรงเรยี นอนบุ าลรตั นบุรี
.......
10. บันทกึ ผลหลงั การสอน
ดา้ นความรู้
ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
ดา้ นความสามารถทางเทคโนยี (วิทยาการคำนวณ)
ด้านอ่นื ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมทมี่ ีปญั หาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถ้าม)ี )
ปัญหา/อุปสรรค
แนวทางการแกไ้ ข
เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)
154
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 การจดั การไฟล์อยา่ งมรี ะบบ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 5 การลบและการเปล่ยี นชอื่
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 5
การลบและการเปลี่ยนชื่อ
เวลา 1 ช่ัวโมง
1. มาตรฐาน/ตัวชี้วดั
1.1 ตวั ชวี้ ัด
ว 4.2 ป. 2/3 ใช้เทคโนโลยใี นการสร้าง จัดหมวดหมู่ ค้นหา จัดเก็บ เรยี กใชข้ อ้ มลู ตามวัตถุประสงค์
2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. อธบิ ายขัน้ ตอนการลบไฟล์และโฟลเดอร์ได้ (K)
2. อธิบายขนั้ ตอนการเปลี่ยนชอ่ื ไฟล์และโฟลเดอร์ได้ (K)
3. แสดงขน้ั ตอนการลบไฟลแ์ ละโฟลเดอร์ได้ (P)
4. แสดงขน้ั ตอนการเปลี่ยนชื่อไฟลแ์ ละโฟลเดอร์ได้ (P)
5. เหน็ ประโยชน์และความสำคญั ของการลบไฟล์และโฟลเดอร์ (A)
6. เหน็ ประโยชน์และความสำคัญของการเปล่ยี นชื่อไฟลแ์ ละโฟลเดอร์ (A)
3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ท้องถิน่
พจิ ารณาตามหลกั สูตรของสถานศกึ ษา
สาระการเรียนร้แู กนกลาง
การสร้าง คัดลอก ยา้ ย ลบ เปล่ยี นช่อื จดั หมวดหมู่
ไฟล์ และโฟลเดอร์อย่างเปน็ ระบบจะทำให้เรยี กใช้
คน้ หาข้อมูลไดง้ ่ายและรวดเร็ว
4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
การลบไฟล์และโฟลเดอร์ ถือวา่ เป็นการกำจัดขอ้ มูลต่าง ๆ ท่ีไมต่ ้องการออกจากแหล่งข้อมลู ซง่ึ จะสง่ ผล
ใหเ้ ครอื่ งคอมพวิ เตอรม์ ีพนื้ ทีใ่ นการจดั เกบ็ มากขนึ้ อีกทัง้ การเปลี่ยนช่ือไฟล์และโฟลเดอร์ให้ถูกต้อง เหมาะสม
ถือว่าเป็นการจัดเกบ็ ไฟลแ์ ละโฟลเดอรอ์ ยา่ งเปน็ ระบบ ทำให้สามารถเขา้ ถึงและเรียกใช้ไดง้ ่ายขน้ึ
5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มีวินยั รบั ผดิ ชอบ
- ทกั ษะการสื่อสาร 2. ใฝ่เรียนรู้
- ทักษะการแลกเปลย่ี นข้อมูล 3. มุ่งมน่ั ในการทำงาน
2. ความสามารถในการคดิ
- ทักษะการคิดวเิ คราะห์
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
- ทกั ษะการสังเกต
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
156
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 การจัดการไฟลอ์ ย่างมีระบบ
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 5 การลบและการเปล่ียนชอ่ื
สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
- ทักษะการทำงานร่วมกนั
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
6. กิจกรรมการเรยี นรู้
วิธีการสอนโดยเนน้ รปู แบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)
ช่วั โมงที่ 1
ขั้นนำ
ขน้ั ท่ี 1 กระตุน้ ความสนใจ (Engagement)
1. ครถู ามคำถามกระตุ้นความสนใจของนักเรียนว่า“หลงั จากท่ีนักเรียนสรา้ งไฟล์งานและบันทกึ
ไฟล์งานสำเรจ็ แล้ว ถ้านักเรยี นต้งั ชื่อไฟล์งานผดิ นักเรียนจะมีวธิ กี ารแก้ปัญหาอยา่ งไร”
(แนวตอบ : เปลี่ยนชือ่ ไฟล)์
2. ครูถามนักเรียนต่อวา่ “ไฟล์งานทีน่ ักเรยี นบนั ทึกไว้แลว้ แต่ไมไ่ ด้ใช้งานอีก นักเรียนจะจัดการ
กบั ไฟล์งานน้นั ได้อย่างไร”
(แนวตอบ : ลบไฟล์ท่ีไม่ได้ใช้ท้ิง)
ขั้นสอน
ขนั้ ท่ี 2 สำรวจค้นหา (Exploration)
1. นักเรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 2-3 คน เพอ่ื ศกึ ษาขั้นตอนการลบไฟล์และโฟลเดอร์ รวมถงึ ขนั้ ตอน
การกู้ไฟล์และโฟลเดอร์จากหนงั สือเรยี นรายวิชาพ้ืนฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.2
หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 3 การจัดการไฟลอ์ ย่างมรี ะบบหรอื อนิ เทอรเ์ นต็
2. ครูอธบิ ายเพิ่มเติมกับนกั เรียนว่า“ขณะทำการลบไฟล์หรือโฟลเดอรล์ งถงั ขยะ ผู้ใช้จะต้องไมเ่ ปิด
ไฟลห์ รือโฟลเดอร์ขณะกำลังดำเนินการลบ เพราะจะสง่ ผลใหก้ ารลบไฟลห์ รือโฟลเดอรค์ ร้ังน้นั
ไม่ประสบผลสำเร็จ”
3. นักเรียนได้ทดลองการลบไฟล์หรือโฟลเดอร์จากเครอื่ งคอมพิวเตอร์ของตนเอง
ขนั้ ที่ 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation)
4. เปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นแต่ละกลุ่มไดเ้ รียนรู้วธิ กี ารเปลย่ี นชอ่ื ไฟล์และโฟลเดอร์ พร้อมอภปิ ราย
รว่ มกนั ภายในกล่มุ ถงึ ขนั้ ตอนการเปลยี่ นชือ่ ไฟล์และโฟลเดอร์ เพ่ือหามติของกลุ่ม
5. ให้แตล่ ะกลุ่มส่งตวั แทนออกมาอภปิ รายมตขิ องกลมุ่ เกี่ยวกับวธิ กี ารเปลย่ี นชื่อไฟลห์ รือโฟลเดอร์
หนา้ ช้ันเรยี น โดยครคู อยใหค้ ำแนะนำเพมิ่ เติมจากคำตอบของนักเรยี น
6. ครอู ธิบายเพิ่มเตมิ กบั นกั เรยี นเก่ียวกบั ประโยชน์ของการลบและการเปล่ียนช่อื ไฟลแ์ ละโฟลเดอร์
วา่ “ประโยชน์ของการลบไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ไม่ได้ใช้งานน้ัน สามารถทำให้เครอ่ื งคอมพิวเตอร์
เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
157
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 3 การจดั การไฟลอ์ ย่างมรี ะบบ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 5 การลบและการเปลยี่ นชอื่
มพี ้ืนท่ีในการเกบ็ ข้อมูลมากข้ึน และอุปกรณ์ภายในเครื่องจะทำงานน้อยลง สว่ นการเปล่ียนช่ือ
ไฟล์หรอื โฟลเดอร์ จะทำให้การเขา้ ถงึ ข้อมลู ในไฟลง์ ่าย และสะดวกมากขึ้น เพราะสามารถ
เรยี กชือ่ ท่สี อดคลอ้ งกับข้อมูลท่ตี อ้ งการใช้ได้ และง่ายต่อการจัดเก็บไฟลท์ ่ีอยู่ในหมวดหมู่เดียวกนั
ใหอ้ ยูใ่ นโฟลเดอร์ประเภทเดยี วกันได้”
ขั้นท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration)
7. นักเรยี นทำกจิ กรรมฝกึ ทักษะโดยแสดงขน้ั ตอนการลบและเปลีย่ นชอื่ โฟลเดอร์ที่กำหนดใหถ้ ูกต้อง
จากน้ันบนั ทึกคำตอบลงในสมุดประจำตัว
8. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั ทำใบงานท่ี 3.5.1 เร่ือง การลบไฟล์และโฟลเดอร์ และใบงานที่ 3.5.2
เรอื่ ง การเปลี่ยนชื่อไฟล์และโฟลเดอร์
Note
วตั ถุประสงคข์ องกจิ กรรมเพอ่ื ให้นักเรียน
- มีทกั ษะการทำงานรว่ มกัน โดยใชก้ ระบวนการกลุ่มในการทำงาน เปดิ โอกาสให้
นกั เรยี นไดส้ ่ือสารและแลกเปลี่ยนขอ้ มูลร่วมกัน
- มีทักษะการสังเกต โดยใหน้ ักเรียนสามารถสังเกตขัน้ ตอนต่าง ๆ จากหนังสือเรียน
และนำมาปฏบิ ตั ิได้ ไม่ว่าจะเป็นการลบไฟล์และโฟลเดอร์ การกู้ไฟล์และโฟลเดอร์จากถังขยะ
และการเปลี่ยนช่อื ไฟล์และโฟลเดอร์ เป็นตน้
- มีทักษะการคิดวิเคราะหใ์ นการหาข้อสรปุ รว่ มกนั ภายในกลุ่มถึงขัน้ ตอน
การเปลยี่ นชือ่ ไฟลแ์ ละโฟลเดอร์
ขน้ั สรปุ
ขนั้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครสู มุ่ ถามนักเรยี นแต่ละกลมุ่ ตอบคำถามจากการทำกิจกรรมฝึกทกั ษะและใบงาน
2. ครูประเมินผลโดยการสงั เกตการตอบคำถาม การรว่ มกันทำใบงานที่ 3.5.1 ใบงานที่ 3.5.2
และสมดุ ประจำตัว
3. ครตู รวจสอบผลการทำใบงานที่ 3.5.1 ใบงานที่ 3.5.2 และกิจกรรมฝึกทักษะ
4. นกั เรยี นและครูร่วมกนั สรปุ เกี่ยวกบั ความสำคัญและประโยชน์ของการลบและการเปลีย่ นชือ่ ไฟล์
และโฟลเดอร์
7. การวดั และประเมินผล วิธีวัด เคร่อื งมือ เกณฑ์การประเมิน
รายการวัด - ตรวจใบงานที่ 3.5.1 - ใบงานท่ี 3.5.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
7.1 การประเมนิ ระหวา่ งการจดั - ตรวจใบงานที่ 3.5.2 - ใบงานท่ี 3.5.2 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
- ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2
กจิ กรรม
1) การลบไฟล์และโฟลเดอร์
2) การเปลี่ยนชอ่ื ไฟล์
และโฟลเดอร์
3) การนำเสนอผลงาน
เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
158
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 การจดั การไฟลอ์ ยา่ งมีระบบ
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 5 การลบและการเปล่ยี นชอื่
รายการวดั วิธีวดั เคร่ืองมอื เกณฑ์การประเมนิ
4) พฤติกรรมการทำงาน ผลงาน การนำเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์
รายบคุ คล - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดับคุณภาพ 2
การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์
5) พฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2
6) คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์
- สังเกตความมวี ินยั - แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 2
ความรบั ผดิ ชอบ คุณลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์
ใฝเ่ รียนรู้ และมงุ่ มนั่ อันพงึ ประสงค์
ในการทำงาน
8. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้
8.1 ส่อื การเรียนรู้
1) หนงั สือเรยี นรายวิชาพ้นื ฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.2 หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 3
เรื่อง การจัดการไฟลอ์ ยา่ งมรี ะบบ
2) ใบงานที่ 3.5.1 เรื่อง การลบไฟล์และโฟลเดอร์
3) ใบงานที่ 3.5.2 เร่อื ง การเปลี่ยนชื่อไฟล์และโฟลเดอร์
4) เครื่องคอมพวิ เตอร์
8.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1) อนิ เทอร์เนต็
2) ห้องคอมพวิ เตอร์
เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
159
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 การจัดการไฟลอ์ ยา่ งมีระบบ
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 5 การลบและการเปลยี่ นชอื่
ใบงานที่ 3.5.1
เรื่อง การลบไฟล์และโฟลเดอร์
คำชีแ้ จง : ให้นักเรยี นอธิบายข้นั ตอนการลบไฟล์และโฟลเดอร์ พร้อมท้ังวาดภาพหนา้ จอแสดงข้ันตอน
ใหเ้ ห็นอยา่ งชัดเจน
ขั้นตอนการลบไฟลแ์ ละโฟลเดอร์
เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
160
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 การจดั การไฟลอ์ ย่างมีระบบ เฉลย
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 5 การลบและการเปลีย่ นชอื่
ใบงานท่ี 3.5.1
เร่อื ง การลบไฟล์และโฟลเดอร์
คำชแี้ จง : ใหน้ ักเรยี นอธบิ ายขั้นตอนการลบไฟล์หรือโฟลเดอร์ พร้อมทง้ั วาดภาพหน้าจอแสดงข้ันตอน
ใหเ้ หน็ อยา่ งชดั เจน
ขั้นตอนการลบไฟล์หรือโฟลเดอร์
1. ไปยงั ตำแหนง่ ทีอ่ ยู่ของไฟล์หรอื โฟลเดอร์
2. เลือกหาไฟลท์ ี่ต้องการลบ
3. ให้คลิกปุ่มขวาของเมาส์บนชือ่ ไฟล์ท่ีตอ้ งการลบ จะปรากฏรายการคำสง่ั ให้เลือกที่คำส่งั Delete
2
1
3
3
เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
161
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 การจดั การไฟลอ์ ยา่ งมรี ะบบ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 5 การลบและการเปลี่ยนชอื่
ใบงานที่ 3.5.2
เร่อื ง การเปลยี่ นช่อื ไฟล์และโฟลเดอร์
คำช้ีแจง : ให้นกั เรยี นอธิบายข้นั ตอนการเปลีย่ นชอ่ื ไฟลแ์ ละโฟลเดอรพ์ ร้อมท้งั วาดภาพหนา้ จอ
แสดงข้นั ตอนใหเ้ ห็นอยา่ งชัดเจน
ข้ันตอนการเปล่ยี นช่ือไฟลแ์ ละโฟลเดอร์
เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
162
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 การจดั การไฟล์อย่างมรี ะบบ เฉลย
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 5 การลบและการเปล่ยี นชอ่ื
ใบงานท่ี 3.5.2
เรื่อง การเปลี่ยนช่อื ไฟลแ์ ละโฟลเดอร์
คำชแ้ี จง : ให้นกั เรยี นอธบิ ายขน้ั ตอนการเปลย่ี นช่อื ไฟลแ์ ละโฟลเดอรพ์ ร้อมทงั้ วาดภาพหนา้ จอ
แสดงขั้นตอนให้เห็นอยา่ งชัดเจน
ข้นั ตอนการเปลยี่ นช่ือไฟลแ์ ละโฟลเดอร์
1. ไปยงั ตำแหน่งท่ีอยู่ของไฟล์หรอื โฟลเดอร์ท่ตี ้องการเปลยี่ นชื่อ
2. คลิกปุ่มขวาของเมาส์บนช่ือไฟล์หรอื โฟลเดอร์ทตี่ ้องการเปลี่ยนช่ือ
3. จากนัน้ จะปรากฏรายการคำส่ัง ให้เลอื กคำสง่ั Rename
4. ทำการเปลย่ี นช่อื ไฟล์หรือโฟลเดอร์ตามตอ้ งการ จากน้ันกดปุ่ม Enter
2
1
3
เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
163
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 การจัดการไฟลอ์ ยา่ งมีระบบ
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 5 การลบและการเปลยี่ นชอ่ื
9. ความเห็นของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรือผูท้ ่ีได้รับมอบหมาย
ข้อเสนอแนะ
ลงช่อื ................................................
(นายสุพศิ อาจเชือ้ )
ตำแหนง่ ผ้อู ำนวยการโรงเรียนอนุบาลรตั นบรุ ี
.......
10. บันทกึ ผลหลงั การสอน
ดา้ นความรู้
ด้านสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
ด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
ด้านความสามารถทางเทคโนยี (วทิ ยาการคำนวณ)
ด้านอน่ื ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมทม่ี ีปญั หาของนักเรียนเป็นรายบคุ คล (ถ้าม)ี )
ปญั หา/อปุ สรรค
แนวทางการแก้ไข
เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)
164
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 3 การจดั การไฟล์อย่างมรี ะบบ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 6 การจัดเรยี งและแยกประเภทไฟล์
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 6
การจัดเรียงและแยกประเภทไฟล์
เวลา 1 ชั่วโมง
1. มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด
1.1 ตวั ชว้ี ดั
ว 4.2 ป.2/3 ใชเ้ ทคโนโลยีในการสรา้ ง จัดหมวดหมู่ ค้นหา จัดเก็บ เรียกใชข้ ้อมลู ตามวตั ถปุ ระสงค์
2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. อธบิ ายข้ันตอนการจดั เรียงและแยกประเภทไฟล์ได้ (K)
2. แสดงขน้ั ตอนการจัดเรียงและแยกประเภทไฟลไ์ ด้ (P)
3. เลง็ เห็นประโยชน์และความสำคัญของการจดั เรยี งและแยกประเภทไฟล์ (A)
3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถน่ิ
พิจารณาตามหลกั สูตรของสถานศึกษา
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
การสรา้ ง คดั ลอก ย้าย ลบ เปลยี่ นชอ่ื จัดหมวดหมู่
ไฟล์ และโฟลเดอร์อย่างเปน็ ระบบจะทำให้เรียกใช้
คน้ หาข้อมูลได้ง่ายและรวดเร็ว
4. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
การจัดเรยี งและแยกประเภทของไฟล์ เปน็ การทำให้ผใู้ ช้งานมีความสะดวกรวดเรว็ ในการค้นหาข้อมูล
ซง่ึ ผู้ใชส้ ามารถเลอื กรปู แบบการจัดเรยี งไดห้ ลายรปู แบบไม่วา่ จะเปน็ การเรียงลำดับตามวันที่ การเรยี งลำดับ
ตามตวั อกั ษร และการเรยี งลำดับตามขนาดของไฟล์ เป็นตน้
5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี นและคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. ความสามารถในการส่ือสาร 1. มีวนิ ัย รบั ผิดชอบ
- ทักษะการส่ือสาร 2. ใฝเ่ รียนรู้
- ทกั ษะการถา่ ยทอดความคดิ 3. มุง่ ม่นั ในการทำงาน
- ทกั ษะการแลกเปลีย่ นข้อมูล
2. ความสามารถในการคิด
- ทกั ษะการคดิ วิเคราะห์
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
- ทักษะการแก้ปัญหา
- ทกั ษะการสงั เกต
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
- ทกั ษะการทำงานร่วมกนั
เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
166
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 3 การจดั การไฟลอ์ ย่างมีระบบ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 6 การจัดเรยี งและแยกประเภทไฟล์
สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
วธิ กี ารสอนโดยเน้นรปู แบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)
ชั่วโมงท่ี 1
ขนั้ นำ
ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement)
ครนู ำใบรายช่ือมาใหน้ ักเรียนดู และถามกระตุ้นความสนใจของนักเรยี นวา่ “ถา้ ครูตอ้ งการ
ตรวจสอบคะแนนเก็บของนักเรยี นจากใบรายชือ่ นกั เรียนคิดว่าครูจะหารายชื่อนักเรยี นได้
เร็วหรือชา้ อยา่ งไร เพราะเหตใุ ด และจะมวี ธิ ีการแก้ไขไดอ้ ย่างไร”
(แนวตอบ : ชา้ เพราะไม่มีการเรียงชื่อตามตวั อักษรจาก ก ไป ฮ แก้ไขโดยการเรียงรายช่ือ
นักเรียนใหม่ โดยกำหนดให้เรียงจาก ก ไป ฮ)
ขั้นสอน
ขนั้ ที่ 2 สำรวจค้นหา (Exploration)
1. นกั เรียนแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 2-3 คน เพื่อดำเนินการศึกษาเน้ือหาเกี่ยวกับการจดั เรียงและ
แยกประเภทไฟล์จากหนงั สอื เรยี นรายวิชาพ้นื ฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.2
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 การจัดการไฟลอ์ ยา่ งมีระบบ หรือจากอนิ เทอรเ์ นต็ และปฏิบตั ติ ามท่ี
ไดศ้ ึกษามากับเครอื่ งคอมพวิ เตอร์ของตนเอง
ข้ันท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation)
2. ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มส่งตวั แทนออกมาอภปิ รายหนา้ ชนั้ เรียนเกี่ยวกับเรือ่ งทีด่ ำเนนิ การศกึ ษา
3. ครูอธบิ ายเพ่ิมเติมกับนักเรยี นวา่ “นอกจากวธิ ีการจดั เรยี งและแยกประเภทไฟล์ตามขน้ั ตอน
จากหนังสอื เรียนแล้ว ยงั มีการจัดเรยี งและแยกประเภทไฟล์ไดร้ วดเร็วมากยงิ่ ข้ึน ดังน้ี
1. ให้คลิกปุ่มขวาของเมาส์ทห่ี น้าต่างใด ๆ บนหน้าจอคอมพิวเตอร์
2. คลิกเลือกคำสั่ง Sort by
3. เลอื กประเภทของการจดั เรียง และแยกประเภทของไฟล์ ได้แก่ Name
(การจัดเรียงตามตวั อักษร) Date Modified (การจดั เรยี งตามวันท่ีสร้าง/แกไ้ ข)
Type (การจดั เรยี งตามชนิดของไฟล์) และ Size (การจัดเรียงตามขนาดของไฟล)์ ”
เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)
167
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 การจัดการไฟลอ์ ยา่ งมรี ะบบ
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 6 การจดั เรียงและแยกประเภทไฟล์
4. ครูอธิบายเพิ่มเติมกับนกั เรยี นเกย่ี วกบั ประโยชนข์ องการจัดเรยี งและแยกประเภทไฟล์วา่
“การจดั เรียงและแยกประเภทของไฟล์มีประโยชน์เป็นอย่างมากสำหรบั ในการทำงานผ่านทาง
คอมพิวเตอร์ เพราะจะสง่ ผลให้สามารถคน้ หาไฟล์ไดส้ ะดวกและรวดเรว็ มากยิง่ ขนึ้ ”
5. ครูต้ังคำถามกระตนุ้ ความคดิ ของนักเรยี นว่า“ถา้ ในคอมพวิ เตอรม์ ีไฟล์และโฟลเดอร์บรรจอุ ยู่
เป็นจำนวนมาก และนักเรยี นตอ้ งการค้นหาได้อยา่ งรวดเรว็ นักเรียนจะมวี ธิ ีการอย่างไร”
(แนวตอบ : คำตอบของนกั เรียนขึ้นอยูก่ ับดุลยพนิ จิ ของครูผูส้ อน)
6. ครูอธิบายเพิ่มเติมกบั นกั เรยี นเก่ยี วกบั การคน้ หาไฟล์ข้อมลู ว่า“สัญลักษณ์ท่ีใชแ้ ทนการค้นหา คือ
สญั ลักษณ์แวน่ ขยาย เมอื่ พบสัญลกั ษณน์ ้ีก็สามารถพิมพส์ ิง่ ท่ีต้องการคน้ หาลงไปเพื่อให้ได้สิ่งที่
ตอ้ งการ หรือสามารถคน้ หาไฟลข์ อ้ มูลได้อย่างรวดเร็ว จากการกดปุ่มคยี ์ลัด โดยกดป่มุ Ctrl ค้างไว้
และกดปุ่ม F”
ขนั้ ที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration)
7. นกั เรียนทำกิจกรรมฝกึ ทักษะจากหนังสือเรียนและบันทึกคำตอบลงในสมุดประจำตัว
8. ครูเขยี นคำว่าประโยชนข์ องการจดั เรียงไฟล์และแยกประเภทไฟล์บนกระดานหน้าชน้ั เรียน
จากน้นั ครูสมุ่ ให้นักเรียน 4-5 คน ออกมาเตมิ คำตอบบนกระดานหน้าช้นั เรยี น โดยเพือ่ นร่วมช้ัน
สามารถรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็นได้
9. นกั เรียนทำใบงานท่ี 3.6.1 เรื่อง การจดั เรียงไฟล์ และประเมนิ ผลตนเองหลงั เรยี นจบหน่วย
ให้ตรงกบั ระดบั ความสามารถของตนเอง
Note
วัตถุประสงค์ของกจิ กรรมเพอ่ื ให้นกั เรยี น
- มีทกั ษะการทำงานร่วมกนั โดยใชก้ ระบวนการกลุม่ ในการทำกิจกรรม และ
เปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นส่ือสาร ถา่ ยทอดความคดิ และแลกเปล่ยี นข้อมลู ร่วมกันในการสืบค้น
ข้อมลู ต่าง ๆ จากทางอนิ เทอร์เน็ต
- มีทักษะการแกป้ ญั หาเฉพาะหน้าที่เกิดข้นึ ขณะปฏบิ ัติตามขนั้ ตอนการจดั เรยี ง
และแยกประเภทไฟล์
- มที ักษะการสังเกตขัน้ ตอนและวิธีการจัดเรยี งและแยกประเภทไฟล์
ตามหนงั สอื เรียนได้อย่างถูกต้อง
เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
168
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 3 การจดั การไฟลอ์ ย่างมรี ะบบ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 6 การจดั เรียงและแยกประเภทไฟล์
ขน้ั สรุป
ขน้ั ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครปู ระเมนิ ผลโดยการสงั เกตการตอบคำถาม การทำใบงาน และนำเสนอหนา้ ชั้นเรียน
2. ครตู รวจสอบผลการทำใบงาน และกจิ กรรมฝกึ ทักษะ
3. นกั เรยี นและครูรว่ มกนั สรปุ เก่ียวกบั เนื้อหาหนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 การจดั การไฟล์อย่างมรี ะบบ
ทแี่ บ่งออกเปน็ 2 หัวขอ้ ใหญ่ ได้แก่ การใชง้ านซอฟตแ์ วรเ์ บื้องตน้ และการจดั การกับไฟล์
4. นกั เรียนทำแบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เรือ่ ง การจัดการไฟล์อย่างมรี ะบบ
5. นกั เรียนทำกจิ กรรมเสริมสร้างการเรียนรจู้ ากหนังสือเรยี น และทำชิ้นงาน/ภาระงาน(รวบยอด)
เรอื่ ง การจัดการไฟล์อย่างมีระบบ จากน้ันบันทึกคำตอบลงในสมุดประจำตวั และนำมาส่ง
ในชั่วโมงถดั ไป
7. การวดั และประเมินผล วธิ วี ัด เครอื่ งมือ เกณฑ์การประเมิน
- ตรวจใบงานที่ 3.6.1 - ใบงานที่ 3.6.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
รายการวัด
7.1 ประเมนิ ระหว่างการจัดกิจกรรม
การเรียนรู้
1) การจดั เรียงไฟล์
2) การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 2
ผลงาน การนำเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์
3) พฤตกิ รรมการทำงาน ระดบั คุณภาพ 2
รายบคุ คล - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ผา่ นเกณฑ์
การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล ระดบั คุณภาพ 2
4) พฤติกรรมการทำงานกล่มุ ผา่ นเกณฑ์
- สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม
5) คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม ระดบั คุณภาพ 2
ผา่ นเกณฑ์
7.2 การประเมนิ หลังเรียน - สังเกตความมวี นิ ยั - แบบประเมิน
- แบบทดสอบหลังเรียน ความรับผดิ ชอบ คณุ ลักษณะ
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ ม่ัน อนั พงึ ประสงค์
เรื่อง การจดั การไฟล์ ในการทำงาน
อย่างมีระบบ
- การประเมนิ ชิ้นงาน - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบหลังเรียน ประเมินตามสภาพจรงิ
/ภาระงาน (รวบยอด) หลงั เรียน
เรอื่ ง การจดั การไฟล์
อย่างมีระบบ - ตรวจชน้ิ งาน/ - แบบประเมนิ ชิน้ งาน ระดบั คุณภาพ 2
ภาระงาน (รวบยอด) /ภาระงาน (รวบยอด) ผา่ นเกณฑ์
เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)
169
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 การจดั การไฟล์อย่างมีระบบ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 6 การจัดเรยี งและแยกประเภทไฟล์
8. สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้
8.1 สอ่ื การเรียนรู้
1) หนงั สอื เรียนรายวิชาพน้ื ฐานเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.2 หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 3
เร่อื ง การจัดการไฟลอ์ ย่างมีระบบ
2) ใบงานที่ 3.6.1 เรอื่ ง การจดั เรยี งไฟล์
3) เครือ่ งคอมพิวเตอร์
4) ใบรายชื่อ
8.2 แหลง่ การเรียนรู้
1) อนิ เทอร์เน็ต
2) เคร่อื งคอมพิวเตอร์
เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)
170
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 การจัดการไฟลอ์ ย่างมีระบบ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 6 การจัดเรียงและแยกประเภทไฟล์
ใบงานที่ 3.6.1
เร่ือง การจดั เรียงไฟล์
คำชแี้ จง : ให้นกั เรียนแสดงขั้นตอนการจดั เรยี งไฟลใ์ นแบบตา่ ง ๆ จากข้อมลู ท่ีกำหนดให้
Name Date Modified Type Size
16 KB
แผน่ พับส่งครู 1/2/62 13:09 File Folder 93 KB
42 KB
การบ้านท่ี 1 23/11/62 09:43 File Folder 109 KB
7 KB
แบบฝกึ หัด 9/10/61 07:48 File Folder
รายงานวชิ าคอมพิวเตอร์ 23/11/62 12:50 File Folder
ABC 7/3/62 17:30 File Folder
1. การจดั เรียงไฟลแ์ บบ Name (การจดั เรยี งตามตัวอักษร) Type Size
Name Date Modified
2. การจดั เรยี งไฟลแ์ บบ Date Modified (การจัดเรียงตามวันทีส่ ร้าง/แก้ไข) Size
Name Date Modified Type
3. การจดั เรียงไฟล์แบบ Type (การจัดเรยี งตามชนดิ ของไฟล์) Type Size
Name Date Modified
4. การจดั เรยี งไฟล์แบบ Size (การจดั เรียงตามขนาดไฟล)์ Type Size
Name Date Modified
เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
171
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 การจดั การไฟลอ์ ยา่ งมรี ะบบ
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 6 การจดั เรียงและแยกประเภทไฟล์
ใบงานท่ี 3.6.1 เฉลย
เร่อื ง การจดั เรยี งไฟล์
คำชี้แจง : ให้นักเรียนแสดงขั้นตอนการจัดเรียงไฟลใ์ นแบบตา่ ง ๆ จากข้อมูลที่กำหนดให้
Name Date Modified Type Size
16 KB
แผ่นพับสง่ ครู 1/2/62 13:09 File Folder 93 KB
42 KB
การบา้ นท่ี 1 23/11/62 09:43 File Folder 109 KB
7 KB
แบบฝึกหดั 9/10/61 07:48 File Folder
รายงานวิชาคอมพวิ เตอร์ 23/2/62 12:50 File Folder
ABC 7/3/62 17:30 File Folder
1. การจัดเรียงไฟล์แบบ Name (การจดั เรยี งตามตัวอกั ษร)
Name Date Modified Type Size
7 KB
ABC 7/3/62 17:30 File Folder 93 KB
109 KB
การบ้านท่ี 1 23/11/62 09:43 File Folder
Size
รายงานวชิ าคอมพิวเตอร์ 23/2/62 12:50 File Folder 42 KB
16 KB
2. การจัดเรยี งไฟล์แบบ Date Modified (การจดั เรยี งตามวนั ที่สรา้ ง/แก้ไข) 109 KB
Name Date Modified Type Size
42 KB
แบบฝกึ หดั 9/10/61 07:48 File Folder 16 KB
109 KB
แผน่ พับส่งครู 1/2/62 13:09 File Folder
Size
รายงานวิชาคอมพิวเตอร์ 23/2/62 12:50 File Folder 7 KB
16 KB
3. การจัดเรยี งไฟล์แบบ Type (การจดั เรยี งตามชนิดของไฟล์) 42 KB
Name Date Modified Type
แบบฝึกหดั 9/10/61 07:48 File Folder
แผ่นพับสง่ ครู 1/2/62 13:09 File Folder
รายงานวชิ าคอมพิวเตอร์ 23/2/62 12:50 File Folder
4. การจดั เรียงไฟลแ์ บบ Size (การจัดเรียงตามขนาดไฟล)์
Name Date Modified Type
ABC 7/3/62 17:30 File Folder
แผ่นพับสง่ ครู 1/2/62 13:09 File Folder
แบบฝกึ หดั 9/10/61 07:48 File Folder
เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)
172
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 3 การจัดการไฟลอ์ ย่างมีระบบ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 6 การจดั เรียงและแยกประเภทไฟล์
ช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
เร่อื ง การจดั การไฟล์อย่างมรี ะบบ
คำชีแ้ จง : จากสถานการณ์ดงั ต่อไปน้ีใหน้ กั เรยี นเลือกประเภทของโปรแกรมทก่ี ำหนดให้ตอ่ ไปน้ี
เติมลงในช่องว่างทห่ี ายไป โดยมตี ัวเลือกดังน้ี
โปรแกรมประมวลคำ โปรแกรมกราฟิก โปรแกรมนำเสนอ
เด็กชายมุ่งม่ัน ต้ังใจ เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ทุกวันหลังเลิกเรียน
เด็กชายมุ่งม่ันมักจะช่วยงานพ่อแม่ที่ประกอบอาชีพขายข้าวมันไก่ โดยช่วยเสิร์ฟอาหารให้กับลูกค้า เช็ดโต๊ะ
เก็บโต๊ะ และช่วยล้างจานอยู่เป็นประจำทุกวัน เพราะเด็กชายมุ่งมั่นเข้าใจดีว่ารายได้ของครอบครัวมาจาก
อาชีพน้ีหากไม่ช่วยพ่อแม่ก็จะต้องไปเสียเงินจ้างลูกจ้างทำให้มีค่าใช้จ่ายเพ่ิมขึ้นส่งผลให้รายได้ของครอบครัว
ลดลง และอาจมเี งนิ ไม่พอส่งเดก็ ชายม่งุ มนั่ เรยี นหนงั สือและจ่ายค่าใช้จา่ ยต่าง ๆ ภายในครอบครัวได้
อยู่มาวันหนึ่งมีร้านข้าวมันไก่เปิดใหม่มาต้ังตรงข้ามกับร้านของครอบครัวเด็กชายมุ่งม่ัน ทำให้มีลูกค้า
เข้าร้านน้อยลง เพราะลูกค้าอยากลองทานร้านใหม่ ๆ เด็กชายมุ่งม่ันเป็นเด็กท่ีมีไหวพริบดีจึงคิดอยากทำอะไร
ใหม่ ๆ เพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้าให้เข้าร้านมากข้ึน เขาจึงคิดไอเดียในการสร้างตัวการ์ตูนรูปไก่ขึ้นมา
เป็นโลโกข้ องรา้ นและเป็นมาสคอตประจำรา้ น เดก็ ชายมุ่งม่ันจงึ เลือกใช้ ................................. วาดการต์ ูนรปู ไก่
จากนั้นจงึ ไปให้ร้านทำป้ายพิมพ์รปู ไกท่ ี่เขาวาดมาตงั้ ทห่ี นา้ รา้ น วันต่อมามีลกู คา้ เขา้ ร้านมากข้ึนเพราะลูกค้าช่ืน
ชอบการ์ตูนที่เด็กชายมุ่งม่ันวาด เม่ือลูกค้ามากข้ึนก็เกิดปัญหาการส่ังอาหารที่ลูกค้าจะถามทุกคร้ังว่ามีเมนู
อะไรบ้าง เด็กชายมุ่งม่ันก็ต้องแจ้งลูกค้าทุกครั้ง เขาจึงคิดไอเดียในการสร้างเมนูรายการอาหารข้ึนมาเพื่อให้
ลูกค้าเลือกได้ง่ายข้ึน เขาจึงเลือกใช้ .................................... ในการสร้างเมนูรายการอาหาร และนำไปให้ร้าน
ทำป้ายพิมพ์ออกมา ทำให้ลูกค้าสะดวกในการเลือกเมนูรายการอาหาร ส่งผลให้ร้านของครอบครัวเด็กชาย
ม่งุ มั่นขายดีย่ิงขึน้
เม่ือใกล้สอบเพ่ือน ๆ ต้องการให้เด็กชายมุ่งม่ันทบทวนบทเรียนให้กับเพ่ือน ๆ ในห้องเรียนเพราะเขา
เป็นเด็กตั้งใจเรียน เพื่อน ๆ จึงอยากให้เขาทบทวนบทเรียนให้ เขาจึงเลือกใช้ ....................... เพื่อทบทวน
บทเรยี นวิชาต่าง ๆ ใหเ้ พือ่ น ๆ ได้นา่ สนใจ สง่ ผลใหเ้ พือ่ น ๆ เขา้ ใจในบทเรียนนนั้ มากยง่ิ ขึน้
คำชแ้ี จง : ใหน้ กั เรียนเขยี นคำตอบลงในช่องว่าง
1. ไฟล์กบั โฟลเดอร์ตา่ งกันอย่างไร
เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
173
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 การจัดการไฟล์อย่างมีระบบ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 6 การจัดเรียงและแยกประเภทไฟล์
2. เมื่อนกั เรียนเผลอลบไฟล์งานทง้ิ ไปโดยไมต่ ัง้ ใจ นักเรยี นควรแกป้ ญั หาอย่างไร
3. เมอื่ นกั เรยี นต้องการคน้ หาไฟลง์ านล่าสุด นกั เรียนจะมีวิธีการอย่างไร เพอ่ื ใหค้ ้นหาไฟล์ได้รวดเรว็ ที่สุด
4. การคดั ลอกไฟล์ตา่ งจากการยา้ ยไฟลอ์ ยา่ งไร
5. เม่อื พบวา่ ไฟล์มีชื่อซำ้ กนั ควรแก้ปัญหาอย่างไร
เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
174
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 3 การจัดการไฟล์อยา่ งมรี ะบบ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 6 การจดั เรยี งและแยกประเภทไฟล์
ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
เรอ่ื ง การจัดการไฟลอ์ ยา่ งมีระบบ
คำชแ้ี จง : จากสถานการณ์ดังต่อไปน้ีให้นกั เรียนเลอื กประเภทของโปรแกรมท่กี ำหนดใหต้ อ่ ไปนี้
เตมิ ลงในช่องว่างที่หายไป โดยมีตัวเลอื กดังนี้
โปรแกรมประมวลคำ โปรแกรมกราฟิก โปรแกรมนำเสนอ
เด็กชายมุ่งม่ัน ตั้งใจ เรียนอยู่ช้ันประถมศึกษาปีที่ 2 ของโรงเรียนแห่งหน่ึง ทุกวันหลังเลิกเรียน
เด็กชายมุ่งม่ันมักจะช่วยงานพ่อแม่ที่ประกอบอาชีพขายข้าวมันไก่ โดยช่วยเสิร์ฟอาหารให้กับลูกค้า เช็ดโต๊ะ
เก็บโต๊ะ และช่วยล้างจานอยู่เป็นประจำทุกวัน เพราะเด็กชายมุ่งม่ันเข้าใจดีว่ารายได้ของครอบครัวมาจาก
อาชีพน้ีหากไม่ช่วยพ่อแม่ก็จะต้องไปเสียเงินจ้างลูกจ้างทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มข้ึนส่งผลให้รายได้ของครอบครัว
ลดลง และอาจมีเงินไมพ่ อสง่ เด็กชายมุ่งมน่ั เรียนหนงั สือและจา่ ยคา่ ใชจ้ า่ ยตา่ ง ๆ ภายในครอบครัวได้
อยู่มาวันหน่ึงมีร้านข้าวมันไก่เปิดใหม่มาต้ังตรงข้ามกับร้านของครอบครัวเด็กชายมุ่งม่ัน ทำให้มีลูกค้า
เข้าร้านน้อยลง เพราะลูกค้าอยากลองทานร้านใหม่ ๆ เด็กชายมุ่งม่ันเป็นเด็กท่ีมีไหวพริบดีจึงคิดอยากทำอะไร
ใหม่ ๆ เพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้าให้เข้าร้านมากขึ้น เขาจึงคิดไอเดียในการสร้างตัวการ์ตูนรูปไก่ข้ึนมา
เป็นโลโก้ของร้านและเป็นมาสคอตประจำร้าน เด็กชายมุ่งมั่นจึงเลือกใช้โปรแกรมกราฟิก วาดการ์ตูนรูปไก่
จากนัน้ จงึ ไปใหร้ ้านทำป้ายพมิ พ์รูปไก่ท่ีเขาวาดมาตงั้ ท่หี นา้ รา้ น วันต่อมามีลูกค้าเขา้ รา้ นมากข้ึนเพราะลูกค้าช่ืน
ชอบการ์ตูนที่เด็กชายมุ่งมั่นวาด เม่ือลูกค้ามากข้ึนก็เกิดปัญหาการสั่งอาหารท่ีลูกค้าจะถามทุกคร้ังว่ามีเมนู
อะไรบ้าง เด็กชายมุ่งม่ันก็ต้องแจ้งลูกค้าทุกคร้ัง เขาจึงคิดไอเดียในการสร้างเมนูรายการอาหารข้ึนมาเพื่อให้
ลกู ค้าเลือกได้ง่ายขึ้น เขาจึงเลือกใช้โปรแกรมประมวลคำ ในการสร้างเมนูรายการอาหาร และนำไปให้รา้ นทำ
ป้ายพิมพ์ออกมา ทำให้ลูกค้าสะดวกในการเลือกเมนูรายการอาหาร ส่งผลให้ร้านของครอบครัวเด็กชายมุ่งมั่น
ขายดยี ่งิ ขน้ึ
เม่ือใกล้สอบเพื่อน ๆ ต้องการให้เด็กชายมุ่งม่ันทบทวนบทเรียนให้กับเพ่ือน ๆ ในห้องเรียนเพราะเขา
เป็นเด็กต้ังใจเรียน เพ่ือน ๆ จึงอยากให้เขาทบทวนบทเรียนให้ เขาจึงเลือกใช้โปรแกรมนำเสนอเพื่อทบทวน
บทเรยี นวิชาต่าง ๆ ใหเ้ พือ่ น ๆ ได้น่าสนใจ สง่ ผลใหเ้ พอื่ น ๆ เข้าใจในบทเรียนน้ันมากยงิ่ ข้นึ
คำชี้แจง : ให้นักเรียนเขียนคำตอบลงในช่องว่าง
1. ไฟลก์ บั โฟลเดอรต์ า่ งกนั อยา่ งไร
ไฟล์ คอื ช้นิ งานท่สี รา้ งข้ึนมาจากซอฟตแ์ วร์ เชน่ ไฟล์รูปภาพสร้างมาจากโปรแกรมกราฟิก
ไฟล์หนังสอื นทิ านสรา้ งมาจากโปรแกรมประมวลคำ และไฟล์ทใ่ี ช้สำหรับนำเสนอสร้างมาจาก
โปรแกรมนำเสนอ เปน็ ต้น ส่วนโฟลเดอร์ คือ แฟ้มสำหรับเกบ็ ไฟลช์ ิน้ งานต่าง ๆ ไว้ดว้ ยกนั เป็น
เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
175
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 การจัดการไฟล์อย่างมรี ะบบ
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 6 การจัดเรียงและแยกประเภทไฟล์
หมวดหมู่ โดยมากจะนิยมต้ังช่อื โฟลเดอรใ์ ห้สอดคล้องกบั ไฟลช์ ้ินงานเพอื่ ความสะดวกในการสบื คน้
2. เมือ่ นักเรียนเผลอลบไฟล์งานทิง้ ไปโดยไม่ตงั้ ใจ นักเรียนควรแก้ปัญหาอย่างไร
เปดิ Recycle Bin หรอื ถังขยะขึ้นมา จากน้นั เลือกไฟล์งานท่ตี อ้ งการก้คู ืน และคลกิ ปุ่มขวาของเมาส์
บนช่อื ไฟล์ท่ีต้องการกู้คนื แลว้ เลือกคำสั่ง Restore เพ่ือกู้คืนไฟล์
3. เม่อื นักเรยี นต้องการค้นหาไฟล์งานล่าสดุ นกั เรยี นจะมีวิธีการอย่างไร เพอื่ ให้ค้นหาไฟล์ได้รวดเรว็ ท่ีสุด
คน้ หาไฟลโ์ ดยเรียงลำดับจากวนั ที่ลา่ สุดก่อน
4. การคดั ลอกไฟล์ตา่ งจากการยา้ ยไฟล์อย่างไร
การคัดลอก คอื การทำสำเนาไฟล์ให้มีไฟล์เดยี วกนั อยู่ซำ้ กันมากกวา่ 1 ที่
การย้ายไฟล์ คอื การย้ายตำแหนง่ เกบ็ ไฟล์ ทำใหไ้ ฟล์เดิมถกู ยา้ ยตำไน่งไปยังตำแหน่งใหม่
5. เม่ือพบวา่ ไฟล์มีช่ือซ้ำกัน ควรแกป้ ญั หาอยา่ งไร
1) เปล่ียนชื่อไฟล์
2) ย้ายไฟล์ไปยังโฟลเดอร์ใหม่
เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
176
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 3 การจัดการไฟล์อยา่ งมีระบบ
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 6 การจดั เรียงและแยกประเภทไฟล์
แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน
คำชแ้ี จง: ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในช่องท่ี
ตรงกับระดับคะแนน
ลำดบั ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1
32
1 ความถูกตอ้ งของเนอื้ หา
2 ความคดิ สร้างสรรค์
3 วธิ กี ารนำเสนอผลงาน
4 การนำไปใชป้ ระโยชน์
5 การตรงต่อเวลา
รวม
ลงช่ือ...................................................ผ้ปู ระเมนิ
............/................./...................
เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมินสมบรู ณช์ ัดเจน ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ เปน็ ส่วนใหญ่ ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน
เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
14–15 ดมี าก
11–13 ดี
8–10 พอใช้
เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)
177
หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 3 การจดั การไฟล์อยา่ งมีระบบ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 6 การจัดเรยี งและแยกประเภทไฟล์
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล
คำชแี้ จง : ใหผ้ ูส้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในชอ่ งที่
ตรงกบั ระดับคะแนน
ลำดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1
32
1 การแสดงความคิดเห็น
2 การยอมรบั ฟงั ความคดิ เห็นของผอู้ น่ื
3 การทำงานตามหน้าท่ีทไี่ ดร้ บั มอบหมาย
4 ความมนี ำ้ ใจ
5 การตรงต่อเวลา
รวม
ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมนิ
............/.................../................
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครัง้ ให้ 1 คะแนน
ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางครั้ง
เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
14–15 ดีมาก
11–13 ดี
8–10 พอใช้
ต่ำกว่า 8 ปรบั ปรงุ
เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
178
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 การจดั การไฟล์อย่างมรี ะบบ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 6 การจัดเรยี งและแยกประเภทไฟล์
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุม่
คำชแ้ี จง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในชอ่ งท่ี
ตรงกบั ระดับคะแนน
ลำดับที่ ชื่อ–สกลุ การแสดง การยอมรับ การทำงาน ความมี การมี รวม
ของนกั เรียน ความ ฟังคนอนื่ ตามที่ได้รบั นำ้ ใจ สว่ นร่วมใน 15
คิดเหน็ มอบหมาย คะแนน
การ
ปรับปรุง
ผลงานกลุม่
321321321321321
ลงชอื่ ...................................................ผู้ประเมิน
............./.................../...............
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้ัง ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางคร้งั ให้ 1 คะแนน
เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
14–15 ดมี าก
11–13 ดี
8–10 พอใช้
ต่ำกว่า 8 ปรบั ปรงุ
เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)
179
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 การจดั การไฟล์อยา่ งมรี ะบบ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 6 การจัดเรยี งและแยกประเภทไฟล์
แบบประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
คำชแี้ จง : ให้ผูส้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ลงในชอ่ งที่
ตรงกบั ระดับคะแนน
คณุ ลกั ษณะ ระดับคะแนน
อนั พึงประสงคด์ า้ น รายการประเมิน 32 1
1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาติได้
กษัตรยิ ์ 1.2 เข้าร่วมกจิ กรรมทส่ี ร้างความสามัคคีปรองดอง และเปน็ ประโยชนต์ อ่
โรงเรียน
1.3 เข้ารว่ มกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถือ ปฏิบัติตามหลกั ศาสนา
1.4 เขา้ รว่ มกิจกรรมทเ่ี ก่ียวกับสถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทีโ่ รงเรียนจดั ขึ้น
2. ซ่ือสัตย์ สจุ ริต 2.1 ใหข้ ้อมูลทถ่ี ูกตอ้ งและเป็นจรงิ
2.2 ปฏิบตั ิในส่ิงท่ีถกู ต้อง
3. มวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ 3.1 ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบงั คบั ของครอบครวั
มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมตา่ งๆ ในชวี ิตประจำวัน
4. ใฝ่เรยี นรู้ 4.1 ร้จู กั ใช้เวลาวา่ งใหเ้ ป็นประโยชน์ และนำไปปฏิบัติได้
4.2 รู้จกั จัดสรรเวลาใหเ้ หมาะสม
4.3 เชื่อฟงั คำสง่ั สอนของบดิ า-มารดา โดยไมโ่ ต้แยง้
4.4 ต้ังใจเรียน
5. อยู่อย่างพอเพยี ง 5.1 ใชท้ รพั ยส์ ินและส่ิงของของโรงเรียนอย่างประหยดั
5.2 ใชอ้ ปุ กรณ์การเรยี นอยา่ งประหยดั และรู้คุณคา่
5.3 ใช้จา่ ยอย่างประหยัดและมกี ารเก็บออมเงิน
6. มุ่งมั่นในการทำงาน 6.1 มคี วามตั้งใจและพยายามในการทำงานท่ีไดร้ ับมอบหมาย
6.2 มคี วามอดทนและไมท่ ้อแทต้ ่ออปุ สรรคเพอ่ื ให้งานสำเร็จ
7. รักความเป็นไทย 7.1 มีจิตสำนกึ ในการอนุรักษ์วฒั นธรรมและภูมปิ ัญญาไทย
7.2 เหน็ คุณคา่ และปฏิบตั ติ นตามวัฒนธรรมไทย
8. มจี ติ สาธารณะ 8.1 รจู้ ักช่วยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครูทำงาน
8.2 รจู้ ักการดแู ลรกั ษาทรัพยส์ มบตั แิ ละส่ิงแวดล้อมของหอ้ งเรียนและ
โรงเรยี น
ลงชื่อ..................................................ผู้ประเมิน
............/.................../................
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ัตชิ ัดเจนและสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน 51–60 ดีมาก
พฤติกรรมทป่ี ฏิบัตชิ ัดเจนและบ่อยครง้ั ให้ 1 คะแนน 41–50 ดี
พฤติกรรมที่ปฏบิ ัตบิ างครงั้ 30–40 พอใช้
ต่ำกว่า 30 ปรบั ปรุง
เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
180
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 การจัดการไฟลอ์ ย่างมีระบบ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 6 การจัดเรยี งและแยกประเภทไฟล์
แบบประเมนิ ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
ว 4.2 ป. 2/3 ใช้เทคโนโลยีในการสรา้ ง จัดหมวดหมู่ ค้นหา จัดเก็บ เรยี กใชข้ ้อมูลตามวตั ถปุ ระสงค์
รายการ เกณฑก์ ารประเมิน (ระดับคุณภาพ) ระดบั
ประเมนิ คุณภาพ
ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1)
1. การจดั การไฟล์อยา่ งมี ดมี าก
ระบบ สามารถจัดการไฟล์ สามารถจดั การไฟล์ สามารถจดั การไฟล์ ไมส่ ามารถจดั การไฟล์
อยา่ งมีระบบได้อยา่ ง ดี
ถกู ต้อง ถูกวิธดี ีมาก อยา่ งมีระบบได้อย่าง อย่างมีระบบได้คอ่ นขา้ ง อย่างมรี ะบบได้
พอใช้
ถกู ต้อง ถูกวิธีดี ดี
2. ความสมบรู ณข์ องผลงาน ผลงานมีความครบถ้วน ผลงานมีความครบถ้วน ผลงานมีความครบถว้ น ผลงานมคี วามครบถ้วน
สมบูรณ์ดมี าก สมบรู ณค์ อ่ นขา้ งดี สมบูรณ์ดเี ปน็ บางส่วน สมบรู ณน์ ้อย
3. ส่งงานตรงเวลา ส่งภาระงานภายในเวลา สง่ ภาระงานช้ากวา่ ส่งภาระงานชา้ กว่า ส่งภาระงานช้ากว่า ปรับปรงุ
กำหนด 2 วัน กำหนดเกิน 3 วนั ข้นึ ไป
ทก่ี ำหนด กำหนด 1 วัน
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ
10 - 12 ดมี าก
7 - 9 ดี
4 - 6 พอใช้
1 - 3 ปรบั ปรงุ
เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
181
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 การจัดการไฟลอ์ ย่างมรี ะบบ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 6 การจัดเรยี งและแยกประเภทไฟล์
9. ความเห็นของผ้บู ริหารสถานศึกษาหรอื ผูท้ ี่ไดร้ บั มอบหมาย
ข้อเสนอแนะ
ลงชอ่ื ................................................
(นายสุพิศ อาจเชื้อ)
ตำแหน่งผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นอนบุ าลรตั นบุรี
.......
10. บันทกึ ผลหลงั การสอน
ด้านความรู้
ด้านสมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
ดา้ นความสามารถทางเทคโนยี (วทิ ยาการคำนวณ)
ด้านอืน่ ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมที่มปี ญั หาของนักเรียนเปน็ รายบุคคล (ถ้าม)ี )
ปญั หา/อุปสรรค
แนวทางการแกไ้ ข
เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)
182
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัย
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย
เวลา 5 ช่ัวโมง
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั
ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคดิ เชิงคำนวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชวี ิตจรงิ อย่างเป็นข้ันตอนและเปน็ ระบบ
ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแกป้ ัญหาไดอ้ ย่างมี
ประสิทธภิ าพ รเู้ ท่าทนั และมีจริยธรรม
ว 4.2 ป.2/4 ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลงในการใช้
คอมพิวเตอร์รว่ มกัน ดูแลรกั ษาอปุ กรณ์เบือ้ งตน้ ใชง้ านอย่างเหมาะสม
2. สาระการเรียนรู้
2.1 สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง
1) การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัย เช่น รูจ้ กั ขอ้ มลู ส่วนตัว อนั ตรายจากการเผยแพร่ข้อมูล
สว่ นตัว และไม่บอกข้อมลู สว่ นตวั กบั บคุ คลอ่ืนยกเวน้ ผู้ปกครองหรอื ครู แจ้งผเู้ กย่ี วข้องเม่ือตอ้ งการ
ความชว่ ยเหลอื เกี่ยวกบั การใชง้ าน
2) ข้อปฏบิ ัตใิ นการใชง้ านและการดแู ลรกั ษาอุปกรณ์ เชน่ ไมข่ ีดเขียนบนอุปกรณ์ ทำความสะอาด
ใช้อุปกรณ์อยา่ งถูกวธิ ี
3) การใชง้ านอย่างเหมาะสม เช่น จัดท่านัง่ ให้ถูกตอ้ ง การพักสายตาเม่อื ใช้อปุ กรณ์เปน็ เวลานาน
ระมดั ระวังอุบัติเหตจุ ากการใช้งาน
2.2 สาระการเรยี นรู้ท้องถ่ิน
(พจิ ารณาตามหลกั สูตรสถานศึกษา)
3. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด
การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศจะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้งาน โดยเฉพาะข้อมลู ส่วนตัว
ซึ่งเป็นข้อมลู เฉพาะบุคคล จึงไมค่ วรเผยแพร่ให้บคุ คลอ่ืนรับรู้ และต้องมีการใส่รหัสผา่ นเพ่ือปอ้ งกันผทู้ ี่
ไมห่ วงั ดแี อบอ้างนำข้อมลู สว่ นตวั ไปใช้โดยไม่ไดร้ ับอนุญาต และในการใชง้ านอุปกรณ์เทคโนโลยีควรเรียนรู้
ขอ้ ปฏบิ ตั ิเก่ยี วกับการใช้อปุ กรณ์เทคโนโลยีตา่ ง ๆ ดแู ลและรักษาเครื่องคอมพวิ เตอร์ให้ถูกวิธีและเหมาะสม
เพ่อื ไมใ่ หเ้ กดิ อนั ตรายแกผ่ ใู้ ช้งานได้
4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียนและคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
1. ความสามารถในการสือ่ สาร 1. มีวนิ ยั รบั ผิดชอบ
- ทกั ษะการแลกเปล่ยี นข้อมลู 2. ใฝเ่ รียนรู้
- ทกั ษะการสื่อสาร 3. ม่งุ ม่นั ในการทำงาน
2. ความสามารถในการคดิ
เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
184
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 การใชง้ านเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั
- ทักษะการคิดวเิ คราะห์
- ทกั ษะการคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
- ทักษะการสังเกต
- ทักษะการแสวงหาความรู้
- ทักษะการประยุกต์ใชค้ วามรู้มาใช้ในการแกป้ ัญหา
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
- ทกั ษะการสำรวจ
- ทกั ษะการทำงานรว่ มกัน
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
- ทักษะการสบื คน้ ขอ้ มลู
5. ช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรือ่ ง การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั
6. การวดั และการประเมนิ ผล วธิ ีวัด เครอ่ื งมือ เกณฑก์ ารประเมิน
- ตรวจช้ินงาน/ภาระ - แบบประเมินชิน้ งาน ระดับคุณภาพ 2
รายการวัด งาน (รวบยอด) /ภาระงาน (รวบยอด) ผา่ นเกณฑ์
- ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบก่อนเรยี น ประเมินตามสภาพจรงิ
6.1 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน กอ่ นเรียน
(รวบยอด) เร่ือง การใช้งาน - ใบงานท่ี 4.1.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
เทคโนโลยสี ารสนเทศ - ตรวจใบงานที่ 4.1.1 - ใบงานท่ี 4.1.2 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
อย่างปลอดภยั - ตรวจใบงานท่ี 4.1.2
6.2 การประเมนิ ก่อนเรียน
- แบบทดสอบก่อนเรยี น
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4
เร่ือง การใช้เทคโนโลยี
สารสนเทศอย่างปลอดภัย
6.3 ประเมนิ ระหว่างการจัดกิจกรรม
การเรยี นรู้
1) มาร้จู กั ขอ้ มลู ส่วนตวั
2) ข้อมูลส่วนตวั ของเรา
3) อันตรายจากการเผยแพร่ - ตรวจใบงานท่ี 4.2.1 - ใบงานที่ 4.2.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ข้อมลู ส่วนตวั ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
4) การใชง้ านอุปกรณเ์ ทคโนโลยี - ตรวจใบงานที่ 4.3.1 - ใบงานท่ี 4.3.1
5) การดแู ลรักษาอุปกรณ์ - ตรวจใบงานท่ี 4.4.1 - ใบงานท่ี 4.4.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
เทคโนโลยี
เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)
185