พน้ื ฐานการวัด
จิตพิสัย
รองศาสตราจารย์ ดร.วเิ ชียร อนิ ทรสมพนั ธ์
พนื้ ฐานการวดั จติ พิสยั
จิตพิสัยเป็นคุณลักษณะของบุคคลท่ีซ่อนอยู่ภายใน เก่ียวข้องกับอารมณ์ความรู้สึกและ
จิตใจ จาแนกออกเป็นความสนใจ เจตคติ ค่านิยม จริยธรรม และบุคลิกภาพ เป็น
คุณลักษณะที่ไม่สามารถวัดโดยตรงได้ ดังน้ันการวัดจิตพิสัยให้ใกล้เคียงกับคุณลักษณะ
ภายในของบุคคลมากที่สุดจึงต้องอาศัยความรู้เกี่ยวกับแนวคิดพ้ืนฐานของการวัด
ความรทู้ ี่เก่ยี วข้องกบั จิตพสิ ยั ประกอบกันกบั การกาหนดเกณฑ์ทช่ี ดั เจนและเชอื่ ถือได้
ความหมายของจติ พสิ ยั
ฮอปกนิ ส์และ แอนทสิ ( Hopkins and Antes, 1990) อเี บล (Ebel, 1986)
จิตพิสัยเป็นการกระทา ที่เป็นกระบวนการภายในของ จติ พสิ ัยเป็นความรสู้ ึก หรอื อารมณข์ องบคุ คล มากกวา่ ความ
มนุษย์ เช่น อารมณ์ ความรู้สึก ความสนใจ เจตคติ ค่านิยม เขา้ ใจ เปน็ ความชอบ-ไม่ชอบ ความพงึ พอใจ-ไม่พอใจ ความ
การพัฒนาคุณลักษณะ และแรงจูงใจ เชือ่ มั่น-ไมเ่ ชอื่ มัน่ อุดมคติและค่านยิ ม
วเิ ชียร อนิ ทรสมพนั ธ์ , 2565
จติ พิสัยเปน็ คณุ ลักษณะภายในจิตใจของบคุ คล เป็นการเตรยี มพร้อมท่ีจะแสดงพฤตกิ รรมหรือการกระทาออกมาตาม
อารมณ์ความรู้สกึ ไม่ว่าจะเป็นด้านความสนใจ เจตคติ ความชนื่ ชม ค่านยิ ม จริยธรรม บคุ ลิกภาพ จนพัฒนาเปน็
คุณลักษณะของตนเอง
องคป์ ระกอบของพฤตกิ รรมจิตพสิ ยั ความรู้เกยี่ วกบั จิตพสิ ัย
ความรู้ท่ีเก่ียวข้องกับจิตพิสัย เป็น”ความรู้”ท่ีได้รับการอบรมสั่งสอนหรือเรียนรู้
กันวา่ จิตพสิ ยั เกี่ยวข้องกับจิตใจที่มีผลมาจากพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม เป็นส่ิงท่ี
ซ่อนเร้นภายใน มีความพร้อมที่จะแสดงออกมาเป็นพฤติกรรม มีระดับความ
เขม้ ข้นแตกตา่ งกนั แตล่ ะบคุ คล มีความคงทนถาวร
ทัศนคติเก่ยี วกบั จิตพิสัย
ความรู้สึกของบคุ คล เก่ียวกบั ลกั ษณะหรอื พฤติกรรมด้านจิตพิสยั วา่
ชอบหรอื ไม่ชอบ เหน็ ดว้ ย หรือไม่เหน็ ด้วยเพยี งใด
พฤติกรรมเกย่ี วกบั จติ พสิ ยั
เป็นการแสดงพฤติกรรมเก่ียวกับจิตพิสัยเป็นพฤติกรรมท่ีแสดงออกมาเช่น
ความสนใจ ค่านิยม เจตคติ จริยธรรม บุคลิกภาพ พฤติกรรมเก่ียวกับจิต
พิสัยเป็นองค์ประกอบท่ีเกี่ยวข้องกับจิตพิสัยที่บุคคลแสดงออกจากจิตใจท่ี
อยภู่ ายใน แสดงออกมาเชน่ ชอบก็ “วา้ ว” เกลยี ดก็ “แหยะแหยง”
เหตุผลเกี่ยวกบั จิตพิสยั
การที่บุคคลใช้เหตุผลในการเลือกท่ีจะกระทาหรือไม่กระทาพฤติกรรมด้าน
จิตพิสัย เหตุผลที่กล่าวนี้ จะแสดงให้เห็นถึงเหตุจูงใจ หรือแรงจูงใจที่อยู่
เบื้องหลังการกระทาต่าง ๆ เช่น ไม่ชอบ เพราะ.เคยถูกกัด /ไม่มีแฟน
เพราะเคยเห็นเพ่อื นโดนแฟนท้งิ /ไมเ่ รียน เพราะเกลยี ดอาจารยช์ อบดุ
1. การรบั รู้ (Receiving or attending) ระดับพฤตกิ รรม
1.1 การร้จู ัก (Awareness) ดา้ นจติ พสิ ัย
1.2 การเต็มใจที่จะรับรู้ (Willingness to receive)
1.3 การควบคมุ หรือคัดเลือกรบั รู้ (Controlled or selected attention)
2) การตอบสนอง (Responding)
2.1 การยินยอมตอบสนอง (Acquiescence in responding)
2.2 การเต็มใจตอบสนอง (Willingness to response)
2.3 การพอใจตอบสนอง (Satisfaction in response)
3) การสรา้ งคณุ คา่ (Valuing)
3.1 การยอมรับคณุ คา่ (Acceptance of a value)
3.2 การนยิ มชมชอบในคณุ คา่ (Preference for a value)
3.3 การเชอ่ื ถอื ในคุณคา่ (Commitment or conviction)
4) การจัดระบบคุณคา่ (Organization)
4.1 การสรา้ งความคิดรวบยอดของคุณคา่ (Conceptualization of a value)
4.2 การจัดระบบคุณคา่ (Organization of a value system)
5) การสร้างลักษณะนิสัย (Characterization by a
Value or Value Complex)
5.1 การรวมระบบคุณค่า (Generalized set)
5.2 การสรา้ งลกั ษณะนสิ ยั (Characterization)
สรุป
ระดับพฤตกิ รรมดา้ นจติ พิสัย
มี 5 ระดับ โดยเร่ิมจากระดับต่าสุด จนถึงสูงสุด
คือ
1. การรับรู้ โดยเร่ิมจากการรู้จัก อยากรับรู้และ
คัดเลือกรบั รู้
2. การตอบสนอง ในรูปแบบารยินยอม เต็มใจ
และพอใจ
3. การสร้างคุณค่า โดยการยอมรับ ช่ืนชม และ
เชอ่ื ถอื ในสง่ิ นน้ั
4. การน่าคุณคา่ และการจัดระบบคณุ ค่า
5. การสร้างลกั ษณะนสิ ัยประจ่าตวั
คณุ ลักษณะของจติ พิสยั
1. เกีย่ วข้องกับอารมณ์ หรือ
คณุ ลักษณะของจติ พิสยัความรสู้ กึ
2. มีลกั ษณะเฉพาะตัวของแต่ละบคุ คล 5. มีเป้าหมาย
“คนเราไมเ่ หมือนกนั ” 4. มีระดบั สงู -ต่า มาก น้อย
3. มีทศิ ทางการแสดงออก
บวก - ลบ
การจาแนกพฤติกรรมดา้ นจิตพิสัย
1. เจตคติ 2. ความ 3. แรงจูงใจ 4. ค่านยิ ม 5. ความช่ืน 6. มโนทัศน์ 7. วิถีของ
(Attitudes) สนใจ (Motivation) (Values) ชอบ ของตนเอง การควบคุม
เกี่ยวกบั (Locus of
ความรู้สึกชื่นชอบ (Interests) เป็นความต้องการ ความรสู้ กึ (Preferences) การศกึ ษา
หรือไม่ชน่ื ชอบ ภายในทีแ่ นวแน่ท่ี แนวโน้ม ระยะ control)
ความรู้สกึ มี ตอ้ งการให้เกิด ยาว ลึก กวา้ ง เปน็ ความ (Accaodnecmeipctsse) lf -
ขอบเขตหรอื ช่วง ปรารถนา(Desire) ความสมั พนั ธ์ใน
ระยะ เชน่ สนใจ ทจี่ ะเลอื กหรือไม่ เปน็ การแสดง สว่ นท่เี กีย่ วข้อง
ความรูส้ กึ ในดา้ น กบั มโนทัศนข์ อง
นกั ร้องชาย เลอื ก ตนเองเก่ยี วกบั
สมั พันธ์ตอ่ การเรยี นท่เี ป็น
สถานศกึ ษาหนงึ่
เหตุผล
แนวคดิ ทฤษฎเี ก่ียวกบั จติ พสิ ัย
1. แนวคดิ ของแครธโวลและคณะ 2. แนวความคดิ ของไอแซงค์ 3. แนวคิดของฮานนาฮแ์ ละไมเคิลลสิ
(Hans Eysenk) (Hannah and Michaelis)
1.1 การรบั รู้ (Receiving)
1.2 การตอบสนอง (Responding) 3.1 ความต้ังใจ (Attending)
1.3. การเหน็ คุณคา่ (Valuing) 3.2 การตอบสนอง (Responding)
1.4 การจัดระบบคณุ ค่า (Organization) 3.3 การยนิ ยอม (Complying)
1.5 การสรา้ งลักษณะนิสยั ตามคา่ นิยม 3.4 การยอมรบั (Accepting
(Characterization) 3.5 ความชน่ื ชอบ (Preferring)
3.6 การบูรณาการ (Integrating
วิธกี ารวดั จิตพสิ ยั
1. การสังเกต (Observation) 2. การสมั ภาษณ์ (Interview)
3. การใชแ้ บบมาตรประมาณคา่ 4. แบบวดั เชิงสถานการณ์
(Rating Scale)
การสร้างเครื่องมือ 9. สรา้ งเกณฑใ์ นการใหค้ ะแนน
วดั จิตพิสยั 8. ปรับปรุงคณุ ภาพเครื่องมอื
7. ทดลองเครื่องมอื
6. ตรวจสอบความเทย่ี งตรง
5. สรา้ งขอ้ ความ วดั จิตพิสยั
4. เลือกเครอ่ื งมือวดั จติ พสิ ยั
3. นิยามศพั ท์เฉพาะตวั แปร
2. ศกึ ษาเอกสารและงานวิจัยทีเ่ ก่ียวข้อง
1.กาหนดคณุ ลักษณะ หรอื ตวั แปรทจี่ ะวดั
สรุป
พฤติกรรมทางด้านจิตพิสัย เรียงจากระดับต่าสุดถึง
ระดับสูงสุด คือ การรับรู้ การตอบสนอง การสร้างคุณค่า
การจัดระบบคุณค่า และการสร้างลักษณะนิสัย การวัด
ทางด้านจิตพิสัย มีวิธีการวัด 4 วิธี คือ วัดโดยการสังเกต
การสัมภาษณ์ การใช้แบบมาตรประมาณค่าส่วน และ
แบบวัดสถานการณ์ การสร้างเครื่องมือด้านจิตพิสัย มี
ข้ันตอนในการสร้าง คือ ก่าหนดคุณลักษณะสิ่งท่ีจะวัด
นิยามความหมายของสิ่งท่ีจะวัด สร้างข้อความ การ
ตรวจสอบความเท่ียงตรง ทดลองเครื่องมือ ปรับปรุง
เคร่อื งมอื และสร้างเกณฑ์การใหค้ ะแนน
Thank you