The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ชุดที่-1-พันธุกรรม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by yupa keawnoonaul, 2019-12-21 10:37:54

ชุดที่-1-พันธุกรรม

ชุดที่-1-พันธุกรรม

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ที่ 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 0

[วนั ท่ี]

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ท่ี 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 1

ผงั มโนทัศนช์ ดุ กิจกรรมรู้

ลักษณะทางพนั ธุกรรม

การใชป้ ระโยชน์ พนั ธุกรรม โครโมโซมและ
จากความรู้ดา้ น สารพนั ธกุ รรม
พันธศุ าสตร์

ความผิดปกติทาง กระบวนการถ่ายทอด
พนั ธุกรรม ทางพนั ธุกรรม

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ที่ 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 2

คาชีแ้ จงประกอบการใชช้ ุดกจิ กรรมการเรียนรู้สาหรับนักเรียน

ชดุ กิจกรรมวชิ าวิทยาศาสตร์หนว่ ยการเรยี นรู้ เร่อื ง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธกุ รรม ชดุ น้ี
ผู้ใชป้ ระกอบการเรียนการเรยี นการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ว 23106 ชัน้ มัธยมศึกษาปี
ที่ 3 โดยมีขั้นตอนการจัดกจิ กรรม ดังน้ี

1. ชุดกิจกรรมชุดท่ี 1 เรื่อง ลักษณะทางพันธุกรรมเล่มนี้เป็นส่วนประกอบของชุดกิจกรรม
การเรยี นรวู้ ชิ าวทิ ยาศาสตร์ให้ผู้เรียนอา่ นคาแนะนาการใชช้ ุดกิจกรรมการเรยี นรใู้ หเ้ ข้าใจ
ถา้ ยงั ไม่เขา้ ใจให้ปรกึ ษาครผู สู้ อน

2. กลุ่มๆละ 4-5 คน โดยใชเ้ ทคนิค Group of four โดยแต่ละกลุ่มมนี กั เรียนกลมุ่ เกง่ กลุ่ม
ปานกลาง กลุ่มอ่อน และมีนกั เรียนทั้งนกั เรยี นชายและนกั เรียนหญงิ เป็นสมาชกิ กาหนด
หนา้ ทข่ี องแต่ละคนในกลุ่มดังน้ี
คนที่ 1 ทาหน้าที่เปน็ คนอานวยการ มีหนา้ ทดี ูแล เช่น ให้มีการเรมิ่ ต้นทางาน กระตุน้
ใหท้ กุ คนทางานให้ทนั เวลา
คนท่ี 2ทาหนา้ ท่เี ป็นผวู้ างแผน และรับสง่ วสั ดุอปุ กรณจ์ ากครู
คนที่ 3 มหี น้าท่จี ดั การองคค์ วามรเู้ ป็นผ้นู าในการสรปุ ผลการเรียนรู้
คนท่ี 4 ทาหน้าทเ่ี ปน็ ผู้รายงานผลการเรียนรู้ โดยการเป็นผู้ดแู ลการบนั ทกึ ข้อมลู ต่างที่
ทางานรว่ มกนั อยา่ งใกลช้ ดิ กับคนท่ี 3 และประสานงานกบั ครเู มอื่ มปี ญั หาใหส้ มาชกิ ใน
แตล่ ะกล่มุ กลุ่มใดมสี มาชกิ 5 คน ใหค้ นท่ี 5 ทาหน้าท่ีร่วมกับคนท่ี 3

3 .ขน้ั ตอนการศึกษาชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ ควรปฏิบตั ิดงั นี้
3.1.ศึกษาโครงสร้างของชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ เพื่อทราบจุดประสงค์ของชุดกิจกรรม

การเรียนรู้ สาระสาคัญ มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ของชุด
กิจกรรมการเรียนรเู้ ลม่ น้ี

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ที่ 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 3

.2 ก่อนผเู้ รยี นจะศกึ ษาชดุ กิจกรรมการเรยี นร้คู วรทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี นแล้วตรวจคาตอบจากเฉลย
และรวมคะแนนการสอบนีไ้ ว้เพอื่ เปรยี บเทยี บกับคะแนนทไี่ ดจ้ ากการทดสอบหลงั เรยี น

3.3 ศึกษาใบความรูแ้ ละปฏิบตั ิตามกิจกรรมใหผ้ ูเ้ รียนเน้อื หาและปฏบิ ตั ติ ามกจิ กรรมท่ีให้ไวใ้ น
ชดุ กิจกรรมนท้ี ุกกิจกรรมอยา่ งละเอียดหากไม่เข้าใจใหท้ บทวนใหม่หรอื ปรึกษาครูผู้สอน

3.4 ทาแบบทดสอบหลังเรียน
เม่ือผู้เรียนปฏิบัติตามข้ันตอนดังกล่าวมาแล้ว ผู้เรียนสามารถประเมินผลการ

เรียนของตนเองได้โดยทาแบบทดสอบหลังเรียนแล้วตรวจคาตอบเฉลย จากน้ันนาคะแนนท่ีได้มา
เปรียบเทียบกับคะแนนจากแบบทดสอบก่อนเรียน ผู้เรียนจะทราบความก้าวหน้าของตนเองในชุด
กิจกรรมการเรยี นรู้น้ี หากยงั ได้ผลไมด่ ีเท่าทีค่ วรผเู้ รียนควรศึกษาทบทวนอกี ครง้ั

ยพุ า แกว้ หนูนวล

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ที่ 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 4

ผังข้นั ตอนการใชช้ ุดกจิ กรรมการเรยี นรแู้ บบสบื เสาะหาความรู้ (5E)
ชุดที่ 1 ลักษณะทางพันธุกรรม

รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ 6 รหสั วิชา ว23106 ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 3

ศึกษาคาชี้แจง/คาแนะนาการใช้ชดุ กจิ กรรม

ศึกษามาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชว้ี ดั /จุดประสงค์การเรียนรู้/สาระการเรยี นรู้

ทาแบบทดสอบกอ่ น

ดาเนนิ การใชช้ ุดกิจกรรม ผา่ นเกณฑ์ (ร้อยละ 70)
ทาแบบทดสอบหลังเรียน

ผา่ นเกณฑ์ (ร้อยละ 70)

ศกึ ษาชุดกิจกรรมอืน่

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ท่ี 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 5

มาตรฐานการเรยี นรู้ ตวั ชี้วัด จุดประสงคก์ าร
เรียนรู้ และสมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น

ชดุ ท่ี 1 ลักษณะทางพันธกู รรม

มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชว้ี ดั

สาระที่ 1 ส่งิ มีชวี ติ กบั กระบวนการดารงชวี ติ
มาตรฐานว 1.2 เข้าใจกระบวนการและความสาคัญของการถ่ายทอดลักษณะทาง

พันธุกรรมวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ความหลากหลายทางชีวภาพท่ีมีผลกระทบต่อมนุษย์และ
ส่ิงแวดล้อมมีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้และจิตวิทยาศาสตร์ สื่อสารส่ิงที่เรียนรู้ และนาความรู้
ไปใช้ประโยชน์

มาตรฐานว 1.2 ม.3/2 อธบิ ายความสาคญั ของสารพันธุกรรมหรอื ดีเอนเอ กระบวนการ
ถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

ด้านความรู้
1. อธบิ ายและบอกความหมายของลักษณะทางพนั ธุกรรม
2. อธิบายและบอกความหมายของความแปรผันตอ่ เนอ่ื งและไมต่ อ่ เนื่องได้
3. อธบิ ายกระบวนการถา่ ยทอดลกั ษณะทางพันธกุ รรมได้

ดา้ นทักษะกระบวนการ
1.สารวจ สังเกต บันทกึ เปรยี บเทยี บ จาแนกลักษณะทางพนั ธุกรรมทค่ี วามแปรผันตอ่ เนือ่ งและ
ไมต่ อเนอื่ งได้
2. สืบคน้ ขอ้ มูล อภิปราย เขียนและอา่ นแผนภาพแสดงการถา่ ยทอดลกั ษณะทางพันธกุ รรมของ
สง่ิ มีชีวติ ตา่ งๆ ได้

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ท่ี 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 6

ด้านคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. มีวินัย
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. ม่งุ มนั่ ในการทางาน
4. มงุ่ มั่นในการทางาน
5. ทางานร่วมกับผ้อู ืน่ อยา่ งสร้างสรรค์

สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน

1. ความสามารถในการสอ่ื สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ที่ 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 7

แบบทดสอบก่อนเรียน
ชดุ ท่ี 1 ลักษณะทางพันธุกรรม

คาช้ีแจง 1. ขอ้ สอบเป็นแบบปรนัย 4 ตวั เลือก
2. ข้อสอบมที ั้งหมด 10 ข้อ ขอ้ ละ 1 คะแนนใช้เวลา 10 นาที
3. จงเลือกคาตอบที่ถกู ตอ้ งท่สี ุดเพยี งข้อเดียว โดยทาเคร่อื งหมาย X ลงในกระดาษคาตอบ

1.พนั ธุกรรม (Heredity) หมายถึงข้อใด 4. ข้อใดเปน็ ลักษณะทางพันธกุ รรม
ก. สิง่ ท่ีได้รบั การถา่ ยทอดจากคนทรี่ จู้ ัก ก.มีแผลเปน็ เหมอื นพ่อ
ข. ส่ิงทไ่ี ดร้ ับจากการถ่ายทอดมาจากบรรพบรุ ษุ ข.มีนว้ิ เท้ายาวเหมอื นแม่
หรือจากรุ่นส่รู ่นุ ค.มรี สนิยมการแตง่ กายเหมือนพสี่ าว
ค. ส่งิ ทไี่ ดร้ บั การถา่ ยทอดจากบรรพบุรุษเพียง ง.ชอบรับประทานอาหารรสจดั เหมอื นแม่
รุ่นเดยี ว
ง. ความผิดปกติของรา่ งกาย 5. ขอ้ ใดเปน็ สาเหตุสาคัญทท่ี าให้สง่ิ มชี วี ติ
แตกต่างกนั
2. เราได้รบั การถา่ ยทอดพันธกุ รรมจากใคร
ก. พ่อ แม่ ก. ส่ิงแวดล้อม
ข. พี่ นอ้ ง ข. การกินอาหาร
ค. ลุง ป้า ค. พนั ธุกรรมและสิง่ แวดลอ้ ม
ง. นา้ อา ง. ชอบรับประทานอาหารรสจดั เหมอื น
แม่

3.ลกั ษณะใดต่อไปนี้ไม่ถ่ายทอดทางพนั ธกุ รรม 6. ลักษณะทางพันธกุ รรมถ่ายทอดไปยงั อกี รุน่
ก. ความรู้ หนง่ึ ไดท้ างใด
ข. สตปิ ัญญา
ค.รปู ร่างหน้าตา ก.เซลล์
ง.ลกั ยม้ิ และลกั ษณะติ่งหู ข.เลือด
ค.ฮอรโ์ มน
ง เซลล์สบื พันธุ์

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ท่ี 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 8

7. ลักษณะข้อใดต่อไปนี้ เปน็ ความแปรผัน 10. หนงึ่ และสองเป็นฝาแฝดเหมอื น ป้าขอหนึ่ง
ต่อเน่อื ง ไปเล้ียงทอ่ี งั กฤษ จนกระทั่งอายุ 20 ปี หนึง่ และ
สองมาพบกันอกี คร้งั ปรากฏวา่ ท้ังสองคนมี
ก. ติ่งหู ความสงู ตา่ งกัน 2 เซนตเิ มตร การแสดงออก
ข. ลักยมิ้ ของลกั ษณะความสงู เน่อื งมาจาก
ค. ความสงู ก.สภาพแวดลอ้ มเพยี งอยา่ งเดียว
ง. ห่อลนิ้ ข.พันธุกรรมมอี ทิ ธิพลเทา่ กบั สงิ่ แวดลอ้ ม
ค.สิ่งแวดล้อมมีอทิ ธิพลมากกวา่ พันธุกรรม
8.ลกั ษณะกรรมพนั ธ์ุและสภาพแวดล้อมมี ง.พนั ธุกรรมมอี ทิ ธิพลมากกวา่ ส่งิ แวดล้อ
อิทธิพลตอ่ ลักษณะของสง่ิ มีชีวติ ทา่ นคดิ ว่า
ลกั ษณะใดตอ่ ไปนเี้ กดิ จากอิทธพิ ลจากสิง่
แวดเพียงอยา่ งใดอย่างหนง่ึ

ก. ความสูง
ข. หม่เู ลือด
ค .ความดนั โลหติ
ง. ความสามารถในทางดนตรี

9. ลักษณะของสัตว์ในขอ้ ใด ไม่สามารถ
ถา่ ยทอดลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมได้

ก. สขี นของกระตา่ ย
ข. ลักษณะปากแบนของเปด็
ค. หางกดุ ของหนูเพราะถกู ตัด
ง. ปริมาณนา้ นมทไี่ ด้จากแมโ่ คตัวหน่งึ

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ที่ 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 9

กระดาษคาตอบก่อนเรียน
ชุดท่ี 1 ลกั ษณะทางพันธกุ รรม

คาช้ีแจง: ให้นกั เรยี นทาเครือ่ งหมาย × ลงในกระดาษคาตอบ ท่ีเปน็ คาตอบที่ถกู ตอ้ งท่สี ดุ เพียง
คาตอบเดียว

ช่ือ..........................................................................ชั้น ............เลขท่ี ...............

ขอ้ ก ข ค ง

1x
2x
3x
4x
5x
6x
7x
8x
9x
10

คะแนนทไ่ี ด้

เกณฑ์การประเมนิ ความรพู้ ้นื ฐานจากการทดสอบกอ่ นเรยี น

ระดับคะแนนท่ไี ด้ ระดบั ความรพู้ ้นื ฐาน
7-10 คะแนน ดี
4-6 คะแนน
1-3 คะแนน ปานกลาง
นอ้ ย

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ที่ 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 10

ใบความรู้ท่ี 1
เรือ่ ง ความหมายและลกั ษณะทางพนั ธุกรรม

สิ่งมชี ีวติ ไม่วา่ จะเป็นมนุษย์ พืช สัตว์ ลว้ นมลี ักษณะแตกต่างกันอนั เน่ืองมาจากลักษณะะที่
ได้รับการถ่ายทอดมาจากรุ่นพ่อแม่ ที่เรียกว่า ลักษณะทางพันธุกรรม ซึ่งเป็นคุณสมบัติท่ีทาให้
สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ดารงเผ่าพันธ์ุไว้ได้ การศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
สามารถนาไปใช้ในการพิจารณาลกั ษณะของสิ่งมีชวี ติ แตล่ ะชนิดได้

1.1 ความหมายของพนั ธุกรรม

พันธุกรรม (heredity) หมายถึง การถ่ายทอดลักษณะของสิ่งมีชีวิตจากรุ่นหนึ่งไปยังอีกรุ่น
หนงึ่ หรือจากบรรพบุรษุ ไปสลู่ ูกหลาน เชน่ ลักษณะสีผิว ลักษณะเส้นผม ลักษณะสีตา เป็นต้น
ซึ่งลักษณะต่างๆ เหล่านี้จะถ่ายทอดจากพ่อแม่ไปยังลูกได้ หรือถ่ายทอดจากคนรนุ่ หนึ่งไปยังรนุ่ หน่ึง
ต่อไป ซง่ึ เรยี ก ลกั ษณะดงั กล่าววา่ ลักษณะทางพันธกุ รรม (genetic character)

ภาพที่ 1 สมาชิกในครอบครัวหรอื เครอื ญาตเิ ดยี วกัน
ที่มา : http://nhapcuquocte.com/wpcontent/uploads/2015/10/1446017663_image1.jpeg

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ท่ี 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 11

1.2 ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม

ลักษณะทางพันธุกรรม (Genetic characteristic) หมายถึง ลักษณะต่างๆ ใน
ส่ิงมีชีวิตสามารถถ่ายทอดไปสู่รุ่นต่อไปได้ โดยผ่านทางเซลล์สืบพันธุ์ กล่าวคือ เมื่อเกิดการปฏิสนธิ
ระหว่างเซลล์สืบพันธุ์ของพ่อ(อสุจิ) และแม่(ไข่) ลักษณะต่างๆ จากพ่อและแม่จะถ่ายทอดไปยังลูก
ตัวอย่างลักษณะที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม เช่น ลักษณะต่ิงหู (มีติ่งหูหรือไม่มีต่ิงหู) ลักษณะห่อลิ้น
(หอ่ ล้นิ ได้หรอื ห่อลนิ้ ไม่ได)้ ลกั ษณะเส้นผม (ผมตรงหรือผมหยกิ )เปน็ ต้น ดังตวั อย่างภาพขา้ งลา่ งนี้

ภาพที่ 2 ลักษณะมลี กั ย้มิ ภาพที่3 ลกั ษณะไมม่ ลี กั ยิ้ม
ท่ีมา : http://images.yourdictionary.com/dimple ที่มา : http://images.yourdictionary.com/dimple

ภาพที่ 4 ลักษณะห่อลิ้นได้ ภาพท่ี 5 ห่อลิน้ ไม่ได้

ที่มา:https://fbi.dek-d.com/1/content/2016/43735_500x500_1480410251.jpg

ภาพท่ี 6 ลักษณะมีเชงิ ผมทหี่ น้าผาก ภาพภทาี่ 1พ1ทลกั่ี 7ษลณกั ะษมณีเชะิงไผมม่มทเี ชหี่ งินผา้ มผทาี่หกนา้ ผาก
ที่มา:http://www.jeban.com/blog/play/play- ที่มทาีม่ :hาt:htptt:/p/:w//wwww.wje.bjeabna.cno.cmo/mb/lobglo/pg/lapyla/py/lapylay-
xxx.jpg -xxxxx.xjp.jpg g

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ที่ 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 12

ใบกจิ กรรมท่ี 1
สารวจลกั ษณะพันธุกรรมของ

คาชแี้ จง : 1. ใหน้ ักเรียนสงั เกตลักษณะท่ปี รากฏในตวั นักเรียนและพ่อแม่ 6 ลักษณะ ดังตอ่ ไปนี้
ลักษณะหนังตา ลกั ษณะเส้นผม ลกั ษณะตงิ่ หู ลักษณะเชิงผมทหี่ นา้ ผาก ขวัญบนศรษี ะ
และ กระดกนว้ิ หัวแมม่ ือ แลว้ บนั ทึกผล

จุดประสงคข์ องกิจกรรม
1. อธิบายและสรปุ ลกั ษณะทีถ่ ่ายทอดลกั ษณะทางพันธกุ รรมได้
2.ยกตัวอยา่ งลักษณะทางพนั ธกุ รรมได้

ตัวอย่างลกั ษณะทางพนั ธุกรรมบางลกั ษณะ ลกั ษณะเส้นผม
ลักษณะหนังตา

ตาช้นั เดียวเเเดยี ว ตาสองชนั้ ชน้ั ตรง หยกั ศก
เชิงผมทหี่ น้าผาก
ลักษณะติง่ หู

มตี ่งิ หู ไม่มีต่งิ หู ไมแ่ หลม แหลม
ลักษณะขวัญบนศรีษะ
ลกั ษณะการกระดกของน้ิว

มขี วญั 2ขวัญ มขี วัญ 1 ขวัญ กระดกได้ กระดกไมไ่ ด้

หมายเหตุคนในเครอื ญาติหมายถึงคนที่มคี วามสัมพันธท์ างสายเลือดซึ่งรวมไปถึงพน่ี ้องคนละพ่อหรือคน
ละแมส่ าหรบั พอ่ เลี้ยงแม่เลี้ยงหรือพ่อบญุ ธรรมแมบ่ ุญธรรมไม่ใชค่ นใน
เครือญาติ

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ที่ 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 13

➢ คาถามกอ่ นปฏิบตั กิ จิ กรรม

1. การปฏบิ ตั กิ ิจกรรมนม้ี จี ดุ ประสงคอ์ ะไร
( เพ่อื ศึกษาลกั ษณะทถี่ ่ายทอดจากพอ่ แม่ไปยังลูกหลาน )

2. ลักษณะที่สังเกตในตัวนกั เรยี นและพ่อแม่ นักเรียนคิดวา่ ลักษณะใดเปน็ ลักษณะทางพันธกุ รรม
( ลักษณะท่ีสังเกตทกุ ลักษณะ เปน็ ลักษณะทางพันธกุ รรม )

ตารางบนั ทกึ ผลการสารวจ กิจกรรมที่ 1

ลักษณะทีศ่ กึ ษา ลักษณะทปี่ รากฏ นกั เรยี น พอ่ แม่
ผม เหยียดตรง
หยักศก
หนังตา ตาชัน้ เดยี ว
ติ่งหู ตาสองช้ัน
ขวัญบนศรษี ะ มีตง่ิ หู
นิว้ หวั แมม่ อื ไมม่ ตี ิง่ หู
เชิงผมที่หน้าผาก มี1 ขวัญ
มี 2 ขวัญ
กระดกได้
กระดกไมไ่ ด้
แหลม
ไม้แหลม

คาถามท้ายกจิ กรรมท่ี 2

1. นักเรยี นมีลกั ษณะอะไรบ้างที่เหมอื นพอ่ แม่
คาตอบ ...........................................................................................
…………………………………………………………………………………………….……..
……………………………………………………………………………………………………

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ที่ 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 14

2. นักเรียนมีลกั ษณะใดบ้างทไ่ี ม่เหมือนพ่อแม่
คาตอบ ...........................................................................................
…………………………………………………………………………………………….……..
……………………………………………………………………………………………………

3. นกั เรียนมีลกั ษณะอะไรบา้ งทไี่ มเ่ หมือนแม่
คาตอบ ...... ....................................................................................
…………………………………………………………………………………………….……..
…………………………………………………………………………………………….……..
…………………………………………………………………………………………….……..
…………………………………………………………………………………………….……..

4.ลกั ษณะใดของสตั ว์ทสี่ ามารถถ่ายทอดทางพนั ธกุ รรมได้
คาตอบ ...... ....................................................................................
…………………………………………………………………………………………….……..
…………………………………………………………………………………………….……..
…………………………………………………………………………………………….……..
…………………………………………………………………………………………….……..

5. ลักษณะตอ่ ไปนีเ้ ป็นลักษณะทางพนั ธกุ รรมหรอื ไม่เพราะเหตุใด
ลกั ษณะนิว้ เกิน การมีลกั ยิม้ การมีตง่ิ หู และลกั ษณะนว้ิ เกิน
คาตอบ ...... ....................................................................................
…………………………………………………………………………………………….……..
…………………………………………………………………………………………….……..
…………………………………………………………………………………………….……..
…………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………….……..

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ท่ี 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 15

ใบความรู้ท่ี 2
ความแปรผันทางพนั ธุกรรม

ส่ิงมีชีวิตแต่ละชนิดจะมีลักษณะทางพันธุกรรมแตกต่างกัน ทาให้มีลักษณะแตกต่างกันไป
สาหรับสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกัน พบว่ามีความแปรผันทางพันธุกรรมทาให้ลูกท่ีเกิดข้ึนมีลักษณะที่
แตกต่างกัน และมนุษย์แต่ละคนมีความแตกต่างกัน แม้แต่ฝาแฝดที่เป็นแฝดร่วมไข่ ถึงแม้ว่าจะมี
หนา้ ตาใกลเ้ คยี งกันมากทีส่ ุด ก็ยงั มีลักษณะแตกต่างกัน ความแตกต่างดงั กลา่ วเรยี กว่า “ความแปร

ผันทางพันธุกรรม (genetic variable)”

ภาพท่ี 8 ความแปรผนั ทางพนั ธุกรรมของมนษุ ย์ทม่ี ีเช้อื ชาติแตกต่างกนั
ทมี่ า: https://s-media-cache-

ak0.pinimg.com/736x/96/c2/e1/96c2e1f8a766cfa83cf1caf557ffb139.jpg

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ที่ 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 16

ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมพนั ธกุ รรมสามารถจาแนกได้ 2 ประเภท

1. ลักษณะทางพันธกุ รรมที่มีความแปรผันต่อเนอ่ื ง (continuous variation )

เป็นลักษณะทางพันธุกรรมทไ่ี ม่สามารถแยกความแตกต่างได้อย่างเด่นชดั มีความลดหลน่ั
กันทีละนอ้ ยสามารถนามาเรยี งลาดับกนั ได้ มกั เกียวข้องกบั ดา้ นปรมิ าณเชน่ ความสูงน้าหนกั สผี ิว
ปรมิ าณการใหเ้ น้อื นม ไข่ โครงรา่ ง ตวั อยา่ งในสัตว์และพชื เชน่ ขนาดของร่างกายหรือลาตน้
ผลผลติ ปริมาณการใหเ้ นือ้ นมและไข่ เป็นต้น ซ่งึ เกดิ จากอิทธพิ ลของกรรมพันธุ์และสง่ิ แวดล้อม
รวมกนั เช่นความสูงถ้าไดร้ บั สารอาหารถกู ต้องตามหลกั โภชนาการและมีการออกกาลงั กาย

ภาพท่ี9 ความแตกตา่ งกนั ด้านสีผวิ ของชนชาติต่างๆ
ท่ีมา : http://lingolanguage.blogspot.com/2014/12/types-of-skin-tones.html

ภาพท่ี 10ลกั ษณะสีตา
ที่มา: http://chrisquarshie91.wordpress.com

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ที่ 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 17

ความถี่ของจานวนสง่ิ มชี วี ิตทม่ี ลี กั ษณะทางพนั ธกุ รรมท่มี คี วามแปรผนั ต่อเนื่องเมอ่ื นาจานวน
ของสง่ิ มชี ีวิตชนิดนัน้ ๆมาเขียนกราฟจะได้กราฟทม่ี กี ารกระจายรูปโคง้ ปกติ(normal distribution
curve)หรอื รูประฆงั คว่าตวั อยา่ งเช่นสีผิว ความสงู ดงั ภาพ

ภาพท่ี 11กราฟแสดงจานวนสง่ิ มีชีวิตท่ีมีสีผิวและความสงู ในช่วงตา่ งๆ
ท่มี า:http://119.46.166.126/self_all/selfaccess12/m6/550/lesson1/image/b10.png

ชกั อยากจะรู้เสียแลว้ สิค่ะ วา่ ใช่ๆ อยากรู้ อยาก
การแปรผนั ทางพนั ธุกรรม รู้ แลว้ สิครับครับ
แบบไม่ตอ่ เนื่อง คือ
ลกั ษณะใดบา้ ง ...เธอ

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ท่ี 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 18

2. ลักษณะทางพันธุกรรมที่มีความแปรผันไมต่ อ่ เนือ่ ง (Discontinuous Variation)

เป็นลกั ษณะพันธกุ รรมทแ่ี ตกต่างกนั ชดั เจน ซง่ึ ลกั ษณะเหลา่ น้ีถูกควบคมุ ดว้ ยยีนน้อยคู่
ยีนจึงมอี ิทธิพลต่อการควบคมุ ลักษณะดังกลา่ วมาก และมกั เกีย่ วขอ้ งกบั ทางดา้ นคณุ ภาพ ดังนน้ั
จึงเกดิ จากอทิ ธพิ ลทางพนั ธกุ รรมเพยี งอยา่ งเดยี ว เช่น ความสามารถในการ ห่อล้ิน จานวน
ชนั้ ของหนงั ตา การถนดั มือขวาหรือมือซา้ ย การมลี ักยิ้ม ลักษณะเชงิ ผมที่หน้าผาก การมีตง่ิ หู
และระบบเลือด ABO ของคน เปน็ ต้น

ภาพท่ี 12 ลกั ษณะตง่ิ หู
ท่มี า: http://pc54504rangsiya02.blogspot.com/2013/02/blog-post.html

ภาพที่ 13 การมลี ักยิม้
ท่มี า: http://pc54504rangsiya02.blogspot.com

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ท่ี 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 19

ภาพที่ 14 ลกั ษณะตาชนั้ เดียว-ตาสองชน้ั
ทีม่ า: http://pc54504rangsiya02.blogspot.com/2013/02/blog-post.html

ภาพที่ 15 ห่อล้นิ ได้ เป็นคาถามทดี่ ี
มากๆค่ะ เรา
ที่มา : http://boxyim.com/home/wp- ไปศึกษากนั ตอ่
ดกี วา่ ค่ะ
คณุ ครคู รบั ผมอยากทราบว่ารู้
ลักษณะตา่ งๆของสงิ่ มีชวี ิต
นอกจากพันธุกรรมแลว้ ยงั มีส่ิง
ใดมผี ลอกี บ้างครบั

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ท่ี 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 20

ใบกจิ กรรมท่ี 2
ความแปรผันทางพันธุกรรมแบบไมต่ อ่ เน่ือง

จดุ ประสงค์: สารวจ สงั เกต บนั ทกึ เปรยี บเทยี บ จาแนกลกั ษณะทางพันธกุ รรมแบบต่อเน่อื งและ
ลกั ษณะทางพันธกุ รรมทมี่ คี วามแปรผนั แบบไมต่ อ่ เนื่องได้
คาชแี้ จง: กิจกรรมสารวจความแปรผันทางทางพนั ธกุ รรม ประกอบด้วย 2 ตอน ดังน้ี

ตอนท่ี 1 ความแปรผันแบบไม่ต่อเนือ่ ง

วิธีปฏบิ ตั กิ จิ กรรม
1. ให้นักเรยี นแต่ละกลุ่มสารวจการห่อลิ้น และลักษณะใบหู
2. ใหน้ ักเรียนสารวจเพอื่ นในห้องเรยี นจานวน 10 คน ทม่ี ลี กั ษณะทาง
พันธกุ รรมทแ่ี ตกต่างกนั
3. นับจานวนเพอ่ื นทไ่ี ดจ้ ากการสารวจนาขอ้ มูลมาหาคา่ รอ้ ยละ
4. บนั ทึกผลลงในตารางบันทึกผลในแบบบันทกึ กิจกรรม
5. วเิ คราะห์ผลการทดลองโดยการนาผลการบนั ทกึ ผลการบนั ทกึ สรา้ งเปน็
แผนภูมิแทง่
6. สรุปผลการทดลองลงในรายงานผลการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม แล้วนาผลการ
ปฏิบตั ิกจิ กรรมมาตรวจสอบรว่ มกนั ภายในกลมุ่

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ที่ 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 21

แบบบนั ทึกผลการปฏิบัติกิจกรรมที่ 2
ตารางบนั ทกึ ผล ตอนท่ี 1

ท่ี ชื่อ- สกุล ลกั ษณะ ลกั ษณะ

....................... ......................

รวม
คดิ เปน็ รอ้ ยละ

นาขอ้ มลู จากการสารวจมาแสดงดว้ ยแผนภูมแิ ทง่

แผนภมู ิแทง่ แสดงลกั ษณะ.............................................................................................................

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ท่ี 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 22

คาถามทา้ ยกิจกรรม ตอนท่ี 1

ใหน้ กั เรยี นใชข้ อ้ มลู จากกราฟแทง่ แสดงการหอ่ ลน้ิ หรอื ลกั ษณะของใบหมู าอธบิ ายวา่
ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมทม่ี กี ารแปรผนั แบบไม่ตอ่ เน่อื ง ไดอ้ ยา่ งไร

....................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ที่ 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 23

ตอนท่ี 2 ความแปรผันแบบตอ่ เนื่อง

วธิ ีปฏบิ ตั ิกิจกรรม

1. ให้นักเรียนสารวจและบนั ทึกลกั ษณะทางพนั ธุกรรมท่มี คี วามแปรผนั แบบตอ่ เน่ืองโดยการ

สารวจบนั ทกึ ความสูงของเพ่อื นนักเรียนในชั้นเรยี นจานวน 15คน ลงในตารางบันทึกผลที่

1 และนาขอ้ มูลมาหาค่าร้อยละสรุปผลลงในตารางท่ี 2 โดยมขี ้อมลู ที่หา่ งกนั 5

เซนติเมตร เช่น ช่วง ความสงู 160-165 , 166-170 แลว้ นาข้อมูลทไี่ ดแ้ สดงในรูปแผนภูมิ

แสดงความสูงของนักเรียนท้งั 15คน

2. สรุปผลการทดลองลงในรายงานผลการปฏิบตั กิ ิจกรรม แล้วนาผลการปฏบิ ัติกิจกรรมมา

ตรวจสอบร่วมกนั ภายในกลมุ่

ตารางบนั ทึกการปฏิบัตกิ ิจกรรมท่ี 2 ตอนท่ี 2 ความแปรผันทางพันธกุ รรมแบบไมต่ อ่ เนอื่ ง

ตาราง 1

คนที่ ช่อื -สกุล ความสูงทวี่ ดั ได้ (cm)

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

11

12

13

14

15

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ที่ 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 24

ตาราง 2

ท่ี สว่ นสูง จานวนคน รอ้ ยละ
ช่วงข้อมูลห่างกนั 5 cm

1 145-149

2 150-154

3 155-159

4 160-164

นาข้อมลู จากการสารวจมาแสดงดว้ ยแผนภูมิแทง่

แผนภมู ิแทง่ แสดงลักษณะ......................................................................................................

คาถามทา้ ยกจิ กรรมตอนท่ี 2
ใหน้ กั เรยี นใชข้ อ้ มลู จากกราฟแทง่ แสดงความกวา้ งของฝ่ามอื หรอื ความยาวของเทา้ มา

อธบิ ายว่า ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมทม่ี กี ารแปรผนั แบบตอ่ เน่อื ง ไดอ้ ยา่ งไร

ตอบ.......................................................................................................................................
.............................................................................................................................................

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ที่ 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 25

ใบความรทู้ ี่ 3
อทิ ธพิ ลของส่งิ แวดลอ้ มท่มี ีมตี ่อลักษณะทางพนั ธุกรรม

ปัจจัยที่มีอิทธพิ ลทางพันธุกรรม

1. สง่ิ แวดล้อมภายนอก ไดแ้ ก่

1.1 อณุ หภูมิ มีผลต่อกระบวนการชวี เคมี เช่น ประชากรในเขตร้อนจะมสี ผี วิ ดากวา่
ประชากรในเขตบอนุ่ หรือเขตหนาว

1.2แสงเช่นแสงมีอทิ ธพิ ลต่อการสืบพันธ์ขุ องพืชการสรา้ งคลอโรฟิลลข์ องพืช
แสงแดดยังมผี ลต่อการสร้างสารของขา้ งโพดบางพนั ธุ์

1.3 อาหารมผี ลตอ่ การแสดงออกของยีนเป็นอย่างมากเพราะอาหารผลตอ่ การ
เจริญเติบโตการเกดิ โรคบางชนิด เป็นต้น
2. สิ่งแวดล้อมภายใน ได้แก่

2.1 อายุมคี วามสำคัญต่อการแสดงออกของยีนเช่นโครงสรา้ งตา่ งๆของระบบสืบพันธุ์
สีขนของไก่ เปน็ ต้น

2.2 เพศ เป็นตวั แสดงออกของยนี โดยท้ังเพศผู้และเพศเมียจะมยี นี เหมือนๆกนั แต่
ลกั ษณะหลายอยา่ งแตกต่างกันเชน่ การงอกของเขากวางตวั ผูส้ ว่ นตวั เมียไม่มีเขาเป็นตน้
ลักษณะต่างๆทกุ อย่างจะเปน็ ลักษณะทางพันธกุ รรมลกั ษณะบางอยา่ งไมถ่ อื วา่ เป็นลกั ษณะทาง
พันธุกรรมเพราะลักษณะบางอยา่ งอาจเกดิ ขึน้ ภายหลงั ไม่ได้เกดิ ขนึ้ จากการถ่ายทอดลกั ษณะจาก
บรรพบรุ ษุ เช่นลกั ษณะทเ่ี กิดขึ้นจากอุบัตเิ หตุแผลท่เี กดิ จากมดี บาดหรอื เกดิ จากการทาศลั ยกรรม
ตกแตง่ เพิ่มเตมิ ทางการแพทย์เปน็ ตน้

ในการพิจารณาลักษณะตา่ งๆวา่ ลกั ษณะใดเป็นลักษณะทางพนั ธกุ รรมนัน้ จะต้องพิจารณา
หลายๆรนุ่ หรอื หลายชว่ั อายุเพราะลกั ษณะทางพันธุกรรมบางอย่างอาจไม่ปรากฏในรนุ่ ลูกแตอ่ าจ
ปรากฏในรุ่นหลานได้

อ๋อ เป็นอย่างนนี้ เี่ อง

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ที่ 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 26

ใบกิจกรรมที่ 3
ลักษณะทถี่ า่ ยทอดทางพนั ธกุ รรม

คาช้แี จง ใหน้ ักเรียนตอบคาถามตอ่ ไปนี้
1.พันธกุ รรมหมายถึง ...........................................................................................................
2.ลักษณะตา่ งๆ ดังตอ่ ไปนี้ เป็นลกั ษณะทถี่ ่ายทอดทางพนั ธกุ รรมหรือไม่

ลักษณะ ถา่ ยทอดทางพนั ธกุ รรม เกิดข้นึ ภายหลงั
สีผิว
มีต่ิงหู
แผลเป็น
หมูเ่ ลือด
จมกู โด่งจากการทาศลั ยกรรม

3. เปรียบเทียบลักษณะทางพันธุกรรมท่ีมีความแปรผันแบบไม่ต่อเน่ือง และความแปรผัน

แบบ ต่อเนื่อง

ลกั ษณะเปรยี บเทยี บ ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมท่มี ี ลักษณะทางพันธกุ รรมทมี่ ี

ความแปรผนั แบบไม่ตอ่ เนอื่ ง ความแปรผันแบบตอ่ เน่ือง

ความหมาย ...................................................... ......................................................

...................................................... ......................................................

…………………………………………….. ……………………………………………..

…………………………………………….. ……………………………………………..

..................................................... .....................................................

ไดร้ บั อิทธพิ ลจาก ...................................................... ......................................................

...................................................... ......................................................

……………………………………………… ………………………………………………

ตัวอยา่ ง เชน่ ...................................................... ......................................................

...................................................... ......................................................

…………………………………………….. ……………………………………………..

…………………………………………….. ……………………………………………..

…………………………………………….. ……………………………………………..

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ที่ 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 27

ใบกจิ กรรมที่ 4
ตรวจสอบวัดความรู้ความเข้าใจ

จดุ ประสงค์: นกั เรยี นสามารถระบลุ ักษณะของสงิ่ มชี ีวติ ที่แปรผันทางพันธกุ รรมแบบต่อเนอ่ื ง และ
ไม่ต่อเนือ่ งได้

คาชแี้ จง จากภาพใหน้ ักเรียน ใส่เครือ่ งหมาย √ ลงในช่อง ใหต้ รงกับภาพ

ตอนท่ี 1

การแปรผนั ไมต่ ่อเนือ่ ง การแปรผันไม่ต่อเนอ่ื ง
การแปรผันไมต่ อ่ เนอ่ื ง การแปรผันไม่ต่อเน่ือง

การแปรผันไมต่ ่อเนอื่ ง การแปรผนั ไมต่ อ่ เนื่อง
การแปรผันไมต่ ่อเนอ่ื ง การแปรผันไมต่ อ่ เนือ่ ง

การแปรผันไมต่ ่อเนื่อง การแปรผนั ไมต่ ่อเนอ่ื ง
การแปรผนั ไมต่ ่อเนอ่ื ง การแปรผันไม่ต่อเนอ่ื ง

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ที่ 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 28

ตอนท่ี 2 เรื่อง พันธุกรรมกบั สง่ิ แวดลอ้ ม

คาช้แี จง: ใหน้ ักเรยี นพิจารณาภาพทีก่ าหนดใหโ้ ดยทาเคร่ืองหมาย √ ลงในช่องว่างทกี่ าหนดให้
วา่ แต่ละภาพ เกิดจากอทิ ธิจากพนั ธกุ รรมมมากกวา่ สงิ่ แวดลอ้ ม หรือสิง่ แวดลอ้ ม
มากกวา่ ทางพันธกุ รรม

สีสนั ของนกแก้ว อทิ ธิพลจาก
อิทธิจากพนั ธกุ รรมมากกวา่ สง่ิ แวดล้อม
 อิทธจิ ากสิง่ แวดล้อมมากกวา่ พันธกุ รรม

คฝู่ าแฝดเหมือน อิทธพิ ลจาก
อทิ ธจิ ากพนั ธุกรรมมากกวา่ ส่ิงแวดลอ้ ม
 อิทธิจากสงิ่ แวดล้อมมากกวา่ พนั ธกุ รรม

ต้นไม้ฤดแู ล้ง อิทธิพลจาก
ผวิ เผือก อทิ ธิจากพนั ธกุ รรมมากกวา่ สง่ิ แวดลอ้ ม
 อทิ ธิจากสง่ิ แวดลอ้ มมากกวา่ พันธกุ รรม

อทิ ธิจากพนั ธกุ รรมมากกวา่ สิง่ แวดลอ้ ม
 อิทธจิ ากส่งิ แวดลอ้ มมากกวา่ พันธกุ รรม

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ท่ี 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 29

แบบทดสอบหลังเรียน

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้วชิ า เลม่ ที่ 1 เร่อื งลักษณะทางพันธุกรรม ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3
วทิ ยาศาสตรพ์ น้ื ฐาน จานวน 10ข้อ เวลา 10 นาที

คาชี้แจง:จงเลอื กคาตอบที่ถกู ตอ้ งทสี่ ุดแลว้ ทาเครื่องหมายกากบาทลงในกระดาษคาตอบ

1.ลักษณะใดต่อไปนี้ไม่ถา่ ยทอดทางพนั ธกุ รรม 5.ลักษณะของสตั ว์ในขอ้ ใด ไม่สามารถถ่ายทอด

ก.ความรู้ ลกั ษณะทางพันธกุ รรมได้

ข.สตปิ ัญญา ก.สขี นของกระต่าย

ค.รูปรา่ งหน้าตา ข.ลกั ษณะปากแบนของเปด็

ง.ลักยม้ิ และลักษณะต่ิงหู ค.หางกดุ ของหนเู พราะถูกตัด

2.พันธกุ รรม (Heredity) หมายถงึ ขอ้ ใด ง.ปริมาณนา้ นมทีไ่ ดจ้ ากแม่โคตัวหน่ึง

ก. สิ่งท่ไี ดร้ บั การถา่ ยทอดจากคนท่ีรู้จกั 6. ลกั ษณะทางพันธุกรรมถา่ ยทอดไปยังอีกรนุ่ หนึง่

ข. สิง่ ทีไ่ ด้รับจากการถ่ายทอดมาจากบรรพ ไดท้ างใด

บรุ ษุ หรอื จากรุน่ สู่รุ่น ก. เซลล์

ค. สงิ่ ทไ่ี ด้รับการถ่ายทอดจากบรรพบุรษุ เพียง ข. เลือด

รุ่น เดยี ว ค. ฮอรโ์ มน

ง. ความผดิ ปกติของร่างกาย ง. เซลล์สบื พนั ธ์ุ

3.ขอ้ ใดเป็นสาเหตสุ าคัญทท่ี าให้สง่ิ มชี ีวติ แตกตา่ งกัน 7. หน่ึงและสองเปน็ ฝาแฝดเหมือน ป้าของสองไป
เล้ยี งที่อังกฤษ จนกระทง่ั อายุ 20 ปี หน่ึงและสองมา
ก. ส่ิงแวดล้อม
พบกนั อีกครงั้ ปรากฏวา่ ทง้ั สองคนมคี วามสงู ตา่ งกัน

ข. การกนิ อาหาร 2 เซนติเมตร การแสดงออกของลักษณะความสงู
ค. พันธุกรรมและส่ิงแวดลอ้ ม เนอ่ื งมาจาก

ก.สภาพแวดลอ้ มเพยี งอย่างเดยี ว

ง. ลักษณะเด่นของพอ่ และแม่ ข.พนั ธุกรรมมอี ทิ ธพิ ลเทา่ กับส่ิงแวดล้อม
4. ข้อใดเป็นลักษณะทางพนั ธุกรรม ค.สิ่งแวดลอ้ มมอี ิทธิพลมากกวา่
พันธกุ รรม
ก.มีแผลเปน็ เหมือนพ่อ ง. พนั ธุกรรมมีอทิ ธิพลมากกวา่ สิ่งแวดลอ้
ข.มนี วิ้ เท้ายาวเหมือนแม่

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ที่ 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 30

8.ลกั ษณะกรรมพนั ธ์แุ ละสภาพแวดลอ้ มมีอิทธพิ ล 10. เราไดร้ ับการถา่ ยทอดลกั ษณะทาง
ตอ่ ลกั ษณะของส่งิ มีชีวติ ท่านคดิ วา่ ลกั ษณะใด พนั ธุกรรมจากใคร
ต่อไปนเ้ี กดิ จากอทิ ธพิ ลเพยี งอย่างใดอย่างหนึ่ง
ก. พอ่ แม่
ก.ความสงู
ข.หมเู่ ลือด ข. พี่นอ้ ง
ค.ความดนั โลหติ
ง.ความสามารถในทางดนตรี ค. ลุง ปา้
ง. น้า อา
9. ลกั ษณะขอ้ ใดต่อไปน้ี เป็นความแปรผนั
แบบต่อเนือ่ ง

ก.ต่ิงหู
ข.ลักยิ้ม
ค. สว่ นสงู
ง. การห่อล้นิ

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ท่ี 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 31

กระดาษคาตอบหลงั เรยี น

ชดุ ที่ 1 เรื่องลักษณะทางพนั ธุกรรม

คาช้ีแจง: ให้นกั เรยี นทาเครอ่ื งหมาย × ลงในกระดาษคาตอบ ที่เปน็ คาตอบที่ถูกตอ้ งท่สี ุดเพยี ง
คาตอบเดียว

ขอ้ ที่ ก ข ค ง
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10

ผลการประเมนิ ดมี าก /ดี /พอใช้ /ปรบั ปรุง

เกณฑก์ ารประเมนิ คะแนน 9-10 อยู่ในเกณฑ์ ดมี าก
คะแนน 7-8 อยใู่ นเกณฑ์ ดี
คะแนน 5-6 อยู่ในเกณฑ์ พอใช้

คะแนน 0-4 อยใู่ นเกณฑ์ ปรบั ปรุง

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ที่ 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 32

ภาคผนวก

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ที่ 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 33

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน
ชดุ ท่ี 1 เรอื่ ง ลกั ษณะทางพันธุกรรม

ข้อที่ คาตอบ
1ข
2ก
3ง
4ข
5ค
6ง
7ค
8ข
9ค
10 ก

เป็นไงกบั บา้ งค่ะ
คะแนนทีไ่ ดพ้ ึงพอใจ
แค่ไหนกันบา้ งค่ะเด็กๆ

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ที่ 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 34

ตารางบนั ทึกผลการสารวจกจิ กรรมที่ 1

คาชี้แจง :
1. ใหน้ กั เรยี นสงั เกตลกั ษณะทป่ี รากฏในตวั นกั เรยี นและพอ่ แม่ แลว้ บนั ทกึ ผลลงในใบกจิ กรรม
2. วิเคราะหล์ ักษณทส่ี ังเกตได้บนั ทึกตามขอ้ มูลแล้วสรปุ ผล เขยี นรายงาน

ตวั อย่างให้พิจารณาตามคาตอบของนกั เรียน

ลกั ษณะทีศ่ กึ ษา ลักษณะท่ีปรากฏ นกั เรียน พอ่ แม่
ผม เหยยี ดตรง   
หยักศก  
หนงั ตา ตาชั้นเดียว  
ตง่ิ หู ตาสองช้นั  
ขวัญบนศรษี ะ มตี ิ่งหู  
นิว้ หวั แมม่ ือ ไม่มตี งิ่ หู   
เชิงผมท่ีหน้าผาก มี1 ขวญั 
มี 2 ขวัญ   
กระดกได้
กระดกไมไ่ ด้
แหลม
ไม่แหลม

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ที่ 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 35

ตอนที่ 2
คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเปรยี บเทยี บลกั ษณะของนกั เรยี น วา่ เหมอื นกบั ใคร แลว้ บนั ทกึ ลงใน
ตารางทน่ี กั เรยี นออกแบบเอง

ตา

พอ่ เชิงผมท่ี สผี ิว แม่
หฉนนั ้าผาก
จมู หนงั ยา่

กจิ กกรกรมที่ 1 หน้าผาก ตา
คิ้ว
แมล่ กั ษณะทาตงง่ิ พันธุกรรมของฉัน
ู่
หู

ควา เส้น
มสงู ผม

ยาย พอ่

พิจารณาคาตอบของนกั เรียนให้อยใู่ นดลุ พินิจของครูผ้สู อน

สรปุ ผลการทดลอง
แนวคาตอบ ลกั ษณะตา่ งๆของพอ่ และแมส่ ามารถถา่ ยทอดมาสู่ลกู ได้

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ท่ี 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 36

เฉลยคาถามท้ายกจิ กรรมท่ี
1

1. นักเรียนมลี ักษณะอะไรบา้ งทเี่ หมือนพ่อแม่
แนวคาตอบ ตวั อยา่ งคาตอบทเี่ หมอื นพ่อแม่ คือ ลกั ษณะขวญั บนศรีษะมี
2 ขวญั และ ลักษณะเชิงผมท่ีหนา้ ผากไมแ่ หลม
……………………………………………………………………………………………………

2.นกั เรยี นมีลักษณะใดบ้างที่ไมเ่ หมือนพอ่ แม่
แนวคาตอบ ..........ไมม่ ี......................................................................
…………………………………………………………………………………………….……..
……………………………………………………………………………………………………

3.ลักษณะใดของสตั ว์ทสี่ ามารถถา่ ยทอดทางพนั ธกุ รรมได้
คาตอบ ลักษณะทกุ ลักษณะสามารถถา่ ยทอดทางพันธกุ รรมได้
…………………………………………………………………………………………….……..
…………………………………………………………………………………………….……..

4. ลกั ษณะต่อไปน้เี ป็นลักษณะทางพนั ธุกรรมหรอื ไมเ่ พราะเหตใุ ด
ลักษณะนวิ้ เกนิ การมลี กั ย้ิม การมตี งิ่ หู และลกั ษณะฟันห่าง
คาตอบ ลกั ษณะทกุ ลกั ษณะเปน็ ลักษณะทางพนั ธุกรรม เพราะสามารถ
ถ่ายทอดจากพอ่ แม่ไปยังลูกหลานได้
…………………………………………………………………………………………….……..

กิจกรรมท่ี
ความแปรผนั ทางพนั ธุกรรม

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ที่ 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 37

ตารางบันทึกผล กจิ กรรมท่ี 2 ตอนที่ 1 ลกั ษณะ.......หอ่ ลน้ิ ...........
ห่อลิน้ ได้ หอ่ ลนิ้ ไมไ่ ด้
ท่ี ชอ่ื -สกลุ

1 เดก็ หญงิ พชรวรนิ กาลสวุ รรณ √
2 เดก็ หญงิ ภทั ราภรณฉ์ ิมเรือง
3 เดก็ หญงิ รัตนต์ ะวนั เอียดฤทธ์ิ √
4 เดก็ หญิงปิยาพัชรดเี บา √
5 เดก็ หญิงลีลาวดีกลางวัง
6 เด็กหญงิ วรรณชนกนะวะกะ √
7 เดก็ หญิงอัษฎาพรรอดคนื √
8 √
9
10 64
60 40
รวม
คิดเป็นรอ้ ยละ

3. นาขอ้ มลู จากการสารวจมาแสดงดว้ ยกราฟแทง่

ตัวอย่างแนวคาตอบ ให้พิครูพิจารณาคาตอบโดยใชดุลพินิรของครูผู้สอน

ใหน้ กั เรยี นใชข้ อ้ มลู จากกราฟแทง่ แสดงการหอ่ ลน้ิ มาอธบิ ายวา่ ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมทม่ี กี าร
แปรผนั แบบไมต่ ่อเน่อื ง ไดว้ า่ อย่างไร
ตาครวาางมบแันตกทตึกา่ ผงลไลดกักช้ ษจิดั ณกเจระนรทมเากงทดิพ่ี จ2นั าธกตกุ ออรทิ รนธมทพิที่ ลมี2่ ทกี าางรพแนปั ธรผกุ นรั รแมบเบพไยี มงต่อ่อยเา่ นงอืเ่ ดงยี ควอื เชลก่นั ษลณกั ยะท้มิ าตงงิพ่ หนั ู หธกุ่อรลร้นิ มเทปสี่็นาตมน้ารถแยก

(พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู้ อน)

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ที่ 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 38

ที่ ชอ่ื -สกลุ ความสูงทวี่ ดั ได้ (cm)
1 เดก็ ชายกติ ตธิ ชั สิงหแ์ กว้ 155
2 เดก็ ชายกติ ตนิ ันทช์ สู ุวรรณ 150
3 เด็กชายปฏิภาณทวิสุวรรณ 149
4 เดก็ ชายกติ ติธชั ปลอดแกว้ 153
5 เดก็ ชายวรี ภทั รชัยเพชร 150
6 เด็กชายอรชุ าเพชรหนู 156
7 เดก็ ชายนิรวทิ ย์เกลี้ยงทอง 148
8 เด็กชายพงศ์เพชรพลรตั น์ 155
9 เด็กหญงิ สพุ ิชญาปานะรตั น์ 158
10 เด็กหญงิ กมลชนกหมานมิเหละ 160
11 เดก็ หญิงธันยธรณเ์ พชรสทุ ธ์ิ 148
12 เด็กหญงิ พราวรวชี ่วยอินทร์ 161
13 เด็กหญิงมนัสชยาทองงอม 163
14 เดก็ หญิงมัตริณีย์นกแกว้ 152
15 เด็กหญิงสลลิ ทิพยเ์ กื้อรอด 158
หมายเหตุ: เฉลยข้างบนเปน็ แนวทางในการบนั ทกึ ผลการสา
ตารางบันทึกผล กจิ กรรมท่ี 2 ตอนท่ี 2 รอ้ ยละ

ที่ ส่วนสูง จานวนคน 20
ชว่ งข้อมูลห่างกัน 5 cm 26.7
3 33.3
1 145-149 4 20
5
2 150-154 3

3 155-159

4 160-164

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ที่ 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 39

3. นาข้อมูลจากการสารวจมาแสดงดว้ ยแผนภูมแิ ทง่ ตอนที่2
แนวทางการเขยี นกราฟ

35

30

20

0 145-149 150-154 155-159 160-164

หมายเหตุ : เฉลยข้างบนเปน็ แนวทางในการบนั ทกึ ผลการสารวจเทา่ น้ัน

ใหน้ กั เรยี นใชข้ อ้ มลู จากกราฟแท่ง แสดงความสงู มาอธบิ ายว่า ลกั ษณะทาง
พนั ธุกรรมทม่ี กี ารแปรผนั แบบตอ่ เน่อื ง คอื อะไร

ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมทมี่ กี ารแปรผนั แบบตอ่ เนอื่ ง คอื ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมทไี่ มส่ ามารถแยก
ความแตกตา่ งไดช้ ดั เจน เชน่ ความสงู น้าหนกั สผี วิ เป็นตน้ เป็นลกั ษณะทไี่ ดร้ บั อทิ ธพิ ลจากพนั ธกุ รรมและ
สงิ่ แวดลอ้ มรว่ มกนั

( พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู้ อน)

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ที่ 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 40

ใบกิจกรรมท่ี 3
ความแปรผนั ทางพนั ธกุ รรม
จดุ ประสงค์สามารถระบลุ กั ษณะของสิ่งมชี ีวติ ทม่ี ีความแปรผันตอ่ เนื่องและไม่ต่อเนือ่ ง

คาชี้แจงจากภาพให้นกั เรียน ใสเ่ ครื่องหมาย / ลงในช่องว่าง ให้ตรงกบั ภาพ

การแปรผันตอ่ เนือ่ ง การแปรผันตอ่ เนอื่ ง
การแปรผนั ไม่ตอ่ เนอื่ ง การแปรผันไมต่ อ่ เนื่อง

การแปรผนั ตอ่ เนือ่ ง การแปรผนั ต่อเนือ่ ง
การแปรผันไมต่ ่อเนื่อง การแปรผันไม่ตอ่ เนอ่ื ง

การแปรผนั ต่อเนื่อง การแปรผันตอ่ เนื่อง
การแปรผันไมต่ อ่ เนอื่ ง การแปรผันไม่ตอ่ เนอ่ื ง

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ท่ี 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 41

ใบกจิ กรรม 4
เรื่อง พันธุกรรมกบั สิ่งแวดลอ้ ม

คาชแ้ี จง ให้นกั เรียนพิจารณาจากภาพทีก่ าหนดให้โดยทาเคร่ืองหมาย √ ลงในชอ่ งว่างที่

กาหนดให้ว่าแต่ละภาพเกิดจากอิทธิจากพนั ธุกรรมมมากกวา่ สงิ่ แวดลอ้ ม หรือส่ิงแวดลอ้ มมากกวา่

ทางพันธกุ รรม

สสี นั ของนกแกว้ อิทธพิ ลจาก

อทิ ธจิ ากพันธุกรรมมมากกวา่ ส่งิ แวดล้อม

 อทิ ธจิ ากสง่ิ แวดล้อมมากกวา่ พันธกุ รรม

ค่ฝู าแฝดเหมือน อทิ ธิพลจาก

ต้นไมฤ้ ดแู ลง้ อทิ ธจิ ากพนั ธุกรรมมมากกวา่ ส่งิ แวดลอ้ ม
 อิทธิจากส่ิงแวดล้อมมากกวา่ พันธกุ รรม

อิทธพิ ลจาก

คนผิวเผือก อทิ ธิจากพันธุกรรมมมากกวา่ สิง่ แวดลอ้ ม
 อทิ ธิจากส่งิ แวดล้อมมากกวา่ พันธกุ รรม

อิทธิพลจาก

อิทธิจากพันธุกรรมมมากกวา่ สงิ่ แวดล้อม
 อิทธิจากสง่ิ แวดล้อมมากกวา่ พนั ธกุ รรม

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ที่ 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 42

เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน
ชดุ ท่ี 1 เรือ่ ง ลกั ษณะทางพันธกุ รรม

ข้อที่ คาตอบ
1ก
2ข
3ค
4ข
5ค
6ง
7ค
8ข
9ข
10 ก

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ที่ 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 43

บรรณานุกรม

ประดบั นาคแกว้ และคณะ(2551).หนังสอื เรยี นสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร.์
กรงุ เทพฯ. บรษิ ทั สานักพิมพแ์ มค็ .จากัด

ถนดั ศรีบญุ เรอื ง และคณะ.(2553). หนงั สือเรยี นสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ เล่ม 3.
กรุงเทพฯ: บรษิ ัทอักษรเจรญิ ทัศน์ จากดั .

พิมพันธ์ุ เดชะคุปต์ และคณะ (2557). หนงั สือเรียนสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร.์
กรงุ เทพฯ. บริษัทสานกั พมิ พ์พฒั นาคุณภาพวชิ าการ.จากัด
บัญชา แสนทวี และคณะ. (2551). หนังสือเรยี นสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ เล่ม 1

กรุงเทพฯ. บรษิ ัทสานักพมิ พว์ ฒั นาพานิช.จากดั
ศรลี ักษณ์ ผลวฒั นะ และคณะ(2556). หนังสือเรยี นสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์.

กรงุ เทพฯ. สานักพิมพน์ ิยมวิทยา.
สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลย(ี 2554). คูม่ ือครูรายวิชาพื้นฐาน

วิทยาศาสตร์ 6 ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 เลม่ 2: กรุงเทพฯ. โรงพมิ พ์ สกสค.
ลาดพร้าว
สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(2554). หนังสอื เรียนรายวิชาพืน้ ฐาน
วทิ ยาศาสตร์ 6 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 เล่ม 2: กรุงเทพฯ. โรงพมิ พ์ สกสค.
ลาดพร้าว

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ชดุ ท่ี 1ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 44


Click to View FlipBook Version