The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานโครงงานประดิษฐ์อุปกรณ์การแสดง(แว่นเทียน)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by famechaniswara, 2022-02-21 03:48:41

รายงานโครงงานประดิษฐ์อุปกรณ์การแสดง(แว่นเทียน)

รายงานโครงงานประดิษฐ์อุปกรณ์การแสดง(แว่นเทียน)

โครงงาน
เรอื่ ง การประดษิ ฐอ์ ปุ กรณ์ (แวน่ เทยี น) เพอื่ ใช้ในการประกอบการแสดงรำเชญิ พระขวญั

คณะผจู้ ดั ทำ
นกั เรียนชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 2

ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2564
โรงเรียนอนบุ าลเดมิ บางนางบวช (วดั ทา่ ช้าง) จงั หวดั สพุ รรณบุรี



บทคดั ย่อ

ช่อื เรื่อง การประดษิ ฐ์อปุ กรณ์ (แวน่ เทียน) เพอื่ ใชใ้ นการประกอบการแสดงรำเชญิ พระขวญั
คณะผ้ศู ึกษา นักเรยี นชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 2
อาจารยท์ ่ีปรึกษา นางสาวชนิศวรา บรรณกิจ
ปีการศกึ ษา 2564

การประดิษฐอ์ ุปกรณ์ (แว่นเทียน) เพอ่ื ใชใ้ นการประกอบการแสดงรำเชิญพระขวญั คร้ังนี้ มี
วตั ถุประสงค์เพ่อื ฝึกการประดิษฐ์อปุ กรณ์ (แว่นเทยี น) เพื่อนำผลงานไปใช้ประโยชน์ในงานการแสดง
นาฏศลิ ป์ และเพ่ือรู้จักนำของทไ่ี ม่ไดใ้ ช้แล้วนำกลบั มาใชใ้ หมม่ าทำสิ่งประดิษฐ์

จากการศึกษา การประดิษฐ์อุปกรณ์ (แว่นเทียน) พบว่าวัสดุที่นำมาใช้ในการทำโครงงานน้ัน
เป็นการที่นำวัสดุที่หาได้ไม่ยาก และราคาถูก มาประดิษฐ์ขึ้นใหม่ โดยเป็นการลดภาวะโลกร้อน และ
ลดขยะทที่ ำให้เกิดมลพิษและยังสามารถเพิ่มมลู ค่าให้กับสงิ่ ของอีกดว้ ย และยงั เปน็ การ บูรณาการวิชา
นาฏศลิ ปก์ ับวชิ าอืน่ ๆ เช่น วิชาการงานอาชพี ได้อีกด้วย จงึ อยากให้นักเรียนได้เรียนรทู้ ้ังวิชานาฏศิลป์
ท่ีเป็นอปุ กรณ์การแสดงและเรยี นร้ทู จ่ี ะนำของท่ีไม่ได้ใช้มาแปลงเปน็ สงิ่ ของทมี่ ีประโยชน์



กติ ตกิ รรมประกาศ

โครงงานเรื่อง การประดษิ ฐ์อปุ กรณ์ (แว่นเทยี น) เพื่อใช้ในการประกอบการแสดง รำเชิญพระ
ขวัญ ฉบับนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี เนื่องจากคณะผู้ศึกษาได้รับความช่วยเหลือจากคณะครูอาจารย์
โรงเรียนอนุบาลเดิมบางนางบวช (วัดท่าช้าง) จังหวัดสุพรรณบุรี ที่เมตตาให้ข้อมูล คำแนะนำ ชี้แนะ
และดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี ขอขอบพระคุณ ท่านผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลเดมบางนางบวช
(วัดท่าช้าง) นางสาววรินทร กาญจนระวีกุล คณาจารย์ทุกท่าน และคุณครูภาวิณี สุเมธาพันธุ์ ที่ได้
ส่งเสริมการเรียนการสอน นอกจากนี้คณะผู้ศึกษาค้นคว้าได้รับความช่วยเหลือและกำลังใจจากบิดา
มารดา ญาติพี่น้อง และเพื่อนๆ คณะผู้ศึกษารู้สึกซาบซึ้งในความกรุณาและปรารถนาดีของ ทุกท่าน
เปน็ อย่างดียง่ิ จึงกราบขอบพระคณุ และขอบคณุ ในโอกาสนี้

คณะผศู้ กึ ษา

สารบญั

เรอ่ื ง หนา้
บทคดั ยอ่ ข
กิตติกรรมประกาศ ค
บทที่ 1 ความเปน็ มาและความสำคญั 1
วตั ถปุ ระสงค์ของโครงงาน 2
สมมตุ ฐิ าน 2
ขอบเขตของโครงงาน 2
สถานทท่ี ำโครงงาน 2
ระยะเวลาดำเนินโครงงาน 2
ประโยชนท์ ี่คาดว่าจะได้รับ 2
บทที่ 2 เอกสารทเ่ี กยี่ วขอ้ ง 3
3
การประดิษฐ์ 9
วัสดุ 10
บทที่ 3 วธิ ีการดำเนนิ งาน 10
วธิ กี ารดำเนนิ งาน 10
ตารางการปฏบิ ตั งิ าน 12
วสั ดอุ ุปกรณ์ 16
บทที่ 4 ผลจากการคน้ ควา้ 16
ผลการศึกษา 17
บทที่ 5 สรปุ ผลการศึกษาคน้ คว้า 17
ปญั หาในการดำเนนิ งาน 17
วธิ ีการแก้ปัญหา 17
อภปิ รายผล 17
ขอ้ เสนอแนะ 18
บรรณานุกรม 36
ภาคผนวก

บทที่ 1
บทนำ
1.1 ความเป็นมาและความสำคญั
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
การดำเนินชีวิตของผู้คนในทุกมิติทั้งทางสังคม เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การสาธารณสุข หรือ
แม้กระทั่งการศึกษา เพื่อป้องกันการกระจายตัวของเชื้อโรคและลดอัตราการแพร่เชื้อ ทางรัฐบาลจึง
ออกมาตรการสั่งปิดสถานศึกษา โดยประกาศให้อาจารย์และนักศึกษางดการเดินทางเข้ามาใน
สถานศกึ ษา งดจดั กิจกรรม หรือจัดการเรยี นการสอนแบบเขา้ ชัน้ เรียน แตใ่ ห้เรียนออนไลน์ได้ ในสถาน
กาณ์เช่นนี้ เครื่องมือการเรียนการสอนออนไลน์ จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก ที่จะช่วยให้การเรียนการ
สอนในรายวิชาทางนาฏศิลป์กลับสูส่ ภาพทีค่ ลา้ ย หรือเหมือนเดิม หรืออาจจะดีกว่าการเรียนการสอน
แบบปกติ
นาฏศิลป์ เป็นศิลปะการฟ้อนรำ หรือความรู้แบบแผนของการฟ้อนรำที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้น
ด้วยความประณีตงดงาม ให้ความบันเทิง อันโน้มน้าวอารมณ์ และความรู้สึกของผู้ชมให้คล้อยตาม
ศิลปะประเภทนี้ต้องอาศัยการบรรเลงดนตรี และการขับร้องเข้าร่วมด้วย เพื่อส่งเสริมให้เกิดคุณค่า
ยิ่งขึ้น หรือที่เรียกว่า ศิลปะของการร้องรำทำเพลง การศึกษานาฏศิลป์ เป็นการศึกษาวัฒนธรรม
แขนงหนึง่ นาฏศิลป์เปน็ ส่วนหน่ึงของศลิ ปะสาขาวจิ ิตรศิลป์ อนั ประกอบด้วย จติ กรรม สถาปัตยกรรม
วรรณคดี ดนตรี และนาฏศลิ ป์ นาฏศิลป์นอกจากจะแสดงความเป็นอารยะประเทศแล้ว ยงั เป็นเสมือน
แหล่งรวมศิลปะ และการแสดงหลายรูปแบบเข้าด้วยกัน โดยมีมนุษย์เป็นศูนย์กลาง ในการที่จะ
สร้างสรรค์ อนุรักษ์ และถ่ายทอดสืบต่อไป นาฏศิลป์เป็นศิลปะการแสดงท่ีมีความงดงาม นั้นจะต้องมี
องคป์ ระกอบท่ชี ่วยทำให้การแสดงงดงามและสมบูรณ์ สามารถทำให้ผู้ชมเข้าใจถึงการแสดง เกิดความ
สนุกสนานเพลิดเพลิน ตืน่ ตาต่ืนใจ ทั้งนตี้ ้องอาศัยองคป์ ระกอบตา่ งๆเขา้ ด้วยกัน เชน่ ฉาก แสง สี เสยี ง
ตลอดจนการแต่งหน้า และการแตง่ กาย และอปุ กรณท์ ี่ใช้ในการแสดง
โดยองค์ประกอบของเครื่องแต่งกายจะประกอบไปด้วย เครื่องประดับตามร่างกาย
เคร่ืองประดบั ศรี ษะ นอกจากนี้ยงั มอี ปุ กรณ์ที่ใชใ้ นการแสดง ซง่ึ อุปกรณ์ต่าง ๆ กจ็ ะแตกตา่ งกันออกไป
หลากหลายรูปแบบ บางประเภทอาจหาซอ้ื ได้ตามสถานทจ่ี ำหน่ายสนิ คา้ แต่บางประเภทกเ็ ปน็ อปุ กรณ2์
ท่ีสามารถประดษิ ฐ์ไดเ้ องโดยไม่ต้องหาซื้อ สามารถประหยดั ค่าใช้จ่ายได้ และเป็นการฝึกประสบการณ์
ฝึกสมาธิ และฝึกความอดทน สามารถนำไปประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจำวัน
จากการศกึ ษาครั้งนจี้ ึงเปน็ มูลเหตุสำคัญท่ีทำใหค้ ณะผู้ศึกษาทำอุปกรณ์ที่ใชใ้ นการแสดงชุดรำ
เชิญพระขวญั คอื แวน่ เทยี น เนอื่ งจาก โรงเรียนอนุบาลเดิมบางนางบวช(ท่าช้าง) จึงได้มีแนวคิดในการ
ประดิษฐ์อุปกรณ์ที่ใช้ในการแสดงรำเชิญพระขวัญ ด้วยวัสดุอุปกรณ์ที่นำมารีไซเคิล(RECYCLE)

จึงอยากให้นักเรียนได้เรียนรู้ทั้งวิชานาฏศิลป์ที่เป็นอุปกรณ์การแสดงและเรียนรู้ที่จะนำของที่ไม่ได้ใช้
มาแปลงเปน็ สง่ิ ของที่มปี ระโยชน์
1.2 วตั ถปุ ระสงค์

1.2.1 เพือ่ ฝกึ การประดิษฐ์อุปกรณ์การแสดงรำเชิญพระขวัญ (แว่นเทยี น)
1.2.2 เพื่อนำผลงานไปใชป้ ระโยชนใ์ นงานการแสดงนาฏศิลป์
1.3.3 เพอ่ื ร้จู กั นำของที่ไม่ไดใ้ ช้แลว้ นำกลับมาใช้ใหม่มาทำสิ่งประดิษฐ์
1.3 สมมตฐิ าน
นักเรียนจะได้รับประโยชน์จากการทำโครงงาน และทำประโยชน์ให้ห้องนาฏศิลป์ ด้วยการ
ประดิษฐ์อุปกรณ์ (แว่นเทียน) เพื่อใช้ในการแสดง และเพื่อรู้จักนำของที่ไม่ได้ใช้แล้วนำกลับมาใช้ใหม่
มาทำส่งิ ประดิษฐ์
1.4 ขอบเขตของโครงงาน
การประดิษฐ์อปุ กรณ์ (แว่นเทียน) ท่ีใช้ในการแสดงรำเชิญพระขวญั
1.5 สถานทที่ ำโครงงาน
ห้องนาฏศิลป์ โรงเรียนอนุบาลเดิมบางนางบวช(ท่าช้าง) เลขที่ 7 หมู่ 5 ตำบลเขาพระ
อำเภอเดมิ บางนางบวช จังหวัดสพุ รรณบุรี 72120
1.6 ระยะเวลาในการดำเนนิ งาน
ปฏบิ ัติงาน วันที่ 20 ธันวาคม 2564 – 17 มกราคม 2565
1.7 ประโยชนท์ คี่ าดวา่ จะไดร้ บั
1.7.1 พัฒนาทกั ษะความคดิ สร้างสรรค์
1.7.2 เกิดการเรยี นรู้อยา่ งมคี วามสขุ และตรงกับความสนใจ
1.7.3 นักเรียนตระหนักถึงคุณค่าของวัสดุเหลือใช้ที่สามารถนำมาประดิษฐ์เป็นอุปกรณ์การ
แสดง
1.7.4 มีอุปกรณ์ในการแสดงเพ่ิมมากย่ิงข้ึน

บทท่ี 2
เอกสารทเ่ี ก่ียวขอ้ ง

ในการจัดทำโครงงานนั้นอุปกรณ์ในการทำงานสามารถหาได้ตามทั่วไป และเป็น
การสร้างสรรค์งานที่มีประโยชน์ โครงงาน การประดิษฐ์อุปกรณ์ (แว่นเทียน) เพื่อใช้ในการ
ประกอบการแสดง รำเชิญพระขวัญ ไดศ้ ึกษาเอกสารท่เี กยี่ วขอ้ ง ดงั น้ี

2.1 การประดษิ ฐ์

การประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้นโดยการใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต
สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานกระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง
บายศรี ประดษิ ฐด์ อกไม้ ดอกไม้ มาลัย และแวน่ เทียน

ภาพที่ 1 การประดษิ ฐ์แวน่ เทยี น
2.1.1 ลกั ษณะของงานประดษิ ฐ์ สามารถแบง่ ออกได้ 2 ประเภท คอื

1. งานประดิษฐ์ท่วั ไป เป็นงานประดิษฐท์ ไ่ี ม่มีความเปน็ มาจากบรรพบรุ ุษหรือท้องถิ่น4
กล่าวคือเป็นงานประดิษฐ์ที่บุคคลทั่วไป สามารถเรียนรู้และนำไปประดิษฐ์ได้โดยอาศัยการศึกษาจาก
ตำรา เชน่ ดอกไมจ้ ากเศษวัสดเุ หลือใช้ หมวก ตุ๊กตา เครื่องใช้ต่าง ๆ

2. งานประดิษฐ์ที่เป็นเอกลักษณ์ไทย เป็นงานประดิษฐ์ที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ
หรืองานประดษิ ฐ์ท่มี ีเฉพาะในท้องถน่ิ นนั้ ๆ โดยส่วนมากจะเป็นการสืบทอดจากผ้ใู หญ่ในครอบครัวมา
สู่ลูกหลานงานประดิษฐห์ ลายอย่างทำขึ้นเพื่องานประเพณที างเชน่ พานพ่มุ มาลยั เครอ่ื งแขวนบายศรี
แว่นเทียน และบางอย่างก็ทำขึ้นเพื่อความสวยงาม สนุกสนาน ภายในครอบครัว เช่นว่าวไทย รถลาก
ตุ๊กตา (รษกิ า กล่ำมอญ , 2560 : 9-10)

2.1.2 ประเภทของงานประดษิ ฐต์ ามโอกาสใช้สอย
1. ประเภทงานประดิษฐ์เครื่องเล่น งานประดิษฐ์เครื่องเล่นส่วนใหญ่จะเป็น

การเรียนรู้และฝึกฝนจากผู้ใหญ่มาสู่ลูกหลานในบ้าน และมีการแพร่กระจายจากเพื่อนมาสู่เพื่อน เช่น
การประดิษฐต์ กุ๊ ตา วา่ ว และรถลาก

2. ประเภทเคร่อื งใช้ งานประดิษฐ์เครื่องใช้เปน็ ชน้ิ งานทีท่ ำขึน้ เพื่อความสะดวกสบาย
และเป็นเคร่ืองท่นุ แรงในการดำเนินชวี ติ หรอื ประกอบอาชีพในชวี ติ ประจำวัน เชน่ เส้อื ผ้า แจกัน หมวก
ตะกร้า กระจาดและเขง่

3. ประเภทเครื่องตกแต่ง งานประดิษฐ์ตกแต่ง ทำขึ้นเพื่อความสวยงามและเป็น
สิ่งประดิษฐ์ใช้กับบ้านเรือน นอกจากนี้บางชิ้นงานสามารถนำมาใชใ้ นด้านการใช้สอยได้ เช่นกรอบรปู
โคมไฟ ภาพวาด งานแกะสลกั

4. ประเภทเครื่องใช้ในพิธี ทำขึ้นเพื่อใช้ในพิธีทางศาสนา ในช่วงโอกาสต่าง ๆ และ
งานประเพณสี ำคัญ เชน่ งานลอยกระทง งานวันเข้าพรรษา ออกพรรษา งานศพ งานประดษิ ฐ์เครื่องใช้
เช่น พานพุม่ มาลัย บายศรี การจัดดอกไมใ้ นงานศพ (รษิกา กล่ำมอญ , 2560 : 9-10)

2.1.3 หลักในการทำงานประดษิ ฐ์
1. ศึกษารายละเอียดของงานที่จะนำมาประดิษฐใ์ ห้เข้าใจ ค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติม

เกี่ยวกับรูปแบบต่าง ๆ ของงานและเลือกทำสิ่งประดิษฐใ์ ห้เหมาะสมความรู้ ความสามารถของตนเอง
และเปน็ สิง่ ทส่ี ามารถนำไปใช้ประโยชน์ในชวี ิตประจำวันได้

2. วางแผนการทำงาน กำหนดขั้นตอนการทำงานให้สะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลา
แรงงาน ค่าใช้จ่ายและออกแบบรายละเอียดวิธีการประดิษฐ์ไว้ให้ครบถ้วน เพื่อความสะดวกในการ
ปฏบิ ัตงิ าน

3. การจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ที่จะใช้ในการทำงานประดิษฐ์ไว้ให้ครบถ้วนและใช้ให้
เหมาะสมกับการที่ออกแบบไว้ โดยท่วั ไปการเลอื กวสั ดมุ าใช้ในงานประดษิ ฐ์ นยิ มเลอื กใชว้ ัสดุที่มีอยู่ใน
ท้องถิ่น หรือวัสดุที่มีอยู่ภายในบ้านซึ่งหาง่าย วัสดุเหลือใช้ที่สามารถนำมาประดิษฐ์เป็นอุปกรณ์การ
แสดง

4. ลงมือปฏิบัติงานตามขั้นตอนที่วางแผนไว้ ขณะที่ทำการประดิษฐ์ เมื่อเกิดปัญหาไม่ควร
ท้อถอย ควรปรึกษาครูหรือผู้ที่มีความสามารถ และควรพยายามตั้งใจปฏิบัติงานต่อไปจนกว่างานจะ
สำเรจ็ (รษิกา กลำ่ มอญ , 2560 : 9-10)

5

2.1.4 ความสำคญั และประโยชนข์ องงานประดษิ ฐ์
1. ฝึกให้เกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ สร้างผลงานให้มีรูปร่างแปลกใหม่และพัฒนา

งานประดษิ ฐเ์ ดมิ ให้สามารถใชป้ ระโยชน์ขึ้น
2. งานประดิษฐ์ที่ใช้วัสดุต่างๆ ที่นำมาประกอบกันเป็นชิ้นงาน สามารถใช้วัสดุอ่ืน

ทดแทนกันได้ และสามารถนำวัสดทุ ม่ี ีในท้องถน่ิ มาใชใ้ หเ้ กิดประโยชนไ์ ด้
3. ฝกึ ให้รจู้ กั การวางแผนทำงานอย่างเป็นระบบ เป็นข้ันตอนการปฏบิ ตั ิเป็นการสร้าง

ระเบียบวนิ ยั ใหต้ นเอง และมีนิสยั รกั ในงานประดิษฐ์
4. ให้นักเรียนรู้จักใช้และดูแลรักษาเครื่องมือในงานประดิษฐ์อย่างถูกต้องและ

เหมาะสมกับประเภทของงานประดิษฐ์
5. ฝึกการใช้เวลาวา่ งให้เกิดประโยชน์ สามารถทำงานได้อย่างมีสมาธิและมีความสุข

ในการสรา้ งสรรค์ช้นิ งานประดิษฐ์ของตนเอง
6. ฝึกให้นักเรียนรู้จักประหยัด สามารถนำสิ่งของที่เหลือใช้มาทำให้เกิดประโยชน์

มากที่สดุ โดยไมต่ ้องเสียคา่ ใชจ้ า่ ยในการลงทุนมากนัก
7. เป็นการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมท้องถ่ิน ให้มีการสืบทอดและพัฒนาต่อไปจากภูมิ

ปัญญาเดมิ สู่การเรยี นรู้ท่ีมากขนึ้ และเปน็ ผลงานของคนไทย
8. สามารถเพิ่มพูนรายได้ให้กับผู้ประดิษฐ์ โดยการนำออกไปจำหน่ายใน

โอกาสต่าง ๆ และสร้างเป็นอาชีพได้ในอนาคต
9. เกิดความภาคภูมิใจในชิ้นงานของตนเอง ทำให้ผู้อื่นยอมในความสามารถของ

ตนเองในระดับหนงึ่ (สุรภี สมุ านนท์ , 2530 : 3-5)

2.2 วสั ดุ

วัสดุ หมายถึง วัตถุที่นำมาใช้ในงานต่าง ๆ ซึ่งมีระยะการใช้งานไม่มากนัก โดยการประดิษฐ์
ส่งิ ของจากวัสดุหรือเศษวสั ดุ เป็นการส่งเสรมิ ความคดิ สรา้ งสรรคใ์ นด้านการออกแบบ ฝึกฝนให้เรารู้จัก
วางแผนการทำงาน มีความอดทนต่องานที่ทำ สามารถแก้ไขปัญหาจากการปฏิบัติงาน และปลูกฝังให้
รู้จักการใชเ้ วลาว่างให้เป็นประโยชน์ การประดิษฐส์ งิ่ ของ มีท้งั ของเล่น ของใช้ และของประดับตกแต่ง
ตัวอยา่ งวสั ดุ เชน่

6
2.2.1 ลงั กระดาษ เป็นบรรจุภณั ฑ์ท่ีใช้มากที่สุดและมีแนวโน้มจะใช้กนั มากยิง่ ข้นึ เน่อื งจาก
สามารถนำกลบั มารีไซเคลิ ได้ง่าย ซึง่ เป็นผลดกี ับส่งิ แวดลอ้ ม อกี ทง้ั ยังสามารถออกแบบได้หลากหลาย
พิมพ์ลวดลายต่างๆ ได้ง่าย และมรี าคาถกู นอกจากนีส้ ะดวกในการขนสง่ เม่ือใชเ้ สรจ็ สามารถพบั เกบ็
ได้งา่ ย เปน็ การประหยดั เน้ือท่ีในการจดั เก็บ ตัวอย่าง เช่น ลงั กระดาษคราฟท์ ลังกระดาษลูกฟูก

ภาพท่ี 2 : ลงั กระดาษ

2.2.2 กระดาษสี เป็นส่วนประกอบของ ซึ่งนำเอายื่อกระดาษที่ใช้ในการผลิตกระดาษแข็ง
สามารถฟอกเพื่อลดสีและเพิ่มความบริสุทธิ์ แม้ว่าการฟอกสีจะไม่จำเป็นสำหรับการใช้งานปลายทาง
ทั้งหมด แต่ก็มีความสำคัญสำหรับวัตถุประสงค์ด้านกราฟิกและบรรจุภัณฑ์หลายอย่าง การฟอกสีมี
หลายวธิ ีซึง่ ใชต้ ามปจั จัยหลายประการ เช่น ระดบั การเปลีย่ นสที ่ี

ภาพท่ี 3 : กระดาษสี

7
2.2.3 กาวลาเทก็ ซ์ หรอื วัสดทุ ใี่ ชป้ ระสาน ในรูปแบบน้ำ เหนยี วข้น คือสว่ นผสมของของเหลว
หรอื วสั ดกุ ึ่งของเหลวท่ีสามารถเช่อื มติด หรอื ประสานวัสดุสองชิ้นหรือหลายๆผนึกเข้าด้วยกัน กาวมีอยู่
หลากหลายรูปแบบมีทั้งมาจากธรรมชาติหรือสารเคมีสังเคราะห์ ซึ่งการใช้งานกาวลาเท็กซ์ มักจะ
ขน้ึ อย่กู บั วสั ดทุ จ่ี ะนำมาตดิ กัน

ภาพที่ 4 : กาวลาเทก็ ซ์
2.2.4 กรรไกร เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับตัดวัสดุบาง ๆ โดยใช้แรงกดเล็กน้อย โดยใช้ตัดวัสดุ
เช่น กระดาษ กระดาษแข็ง แผ่นโลหะบาง พลาสติกบาง อาหารบางอย่าง ผ้า เชือก และสายไฟ เป็น
ต้น นอกจากนี้ยังใช้เพื่อตัดผมก็ได้ ส่วนกรรไกรขนาดใหญ่อาจใช้ตัดใบไม้และกิ่งไม้ ซึ่งมีความแข็งแรง
เป็นพิเศษ

ภาพที่ 5 : กรรไกร

2.2.6 ไมบ้ รรทดั คอื อุปกรณ์การเขยี นชนดิ หนง่ึ ทําด้วยไม้เป็นตน้ สาํ หรับทาบเปน็ แนวเพื่อ
ขีดเสน้ ใหต้ รง

9
ภาพท่ี 7 ไมบ้ รรทดั

2.3 อุปกรณ์ประกอบการแสดง หมายถึง อุปกรณ์การแสดงเป็นสิ่งที่ทำให้การแสดงมี

ความนา่ สนใจมากขึ้น ในการสรา้ งสรรคอ์ ุปกรณ์การแสดงสามารถนำความรดู้ ้านจติ รกรรมมาใช้ในการ
ออกแบบ ตกแต่งลวดลายอุปกรณ์การแสดงให้มีความสวยงาม และยังใช้วัสดุเหลือใช้ที่สามารถนำมา
ประดิษฐ์เปน็ อปุ กรณก์ ารแสดงเช่น การแสดงรำเชญิ พระขวัญ อุปกรณ์การแสดง คือ แวน่ เทียน

บทที่ 3
วธิ กี ารดำเนนิ งาน

จากการศึกษาการประดิษฐ์การประดิษฐ์อุปกรณ์ (แว่นเทียน) เพื่อใช้ในการประกอบ
การแสดงรำเชิญพระขวญั ทำใหท้ ราบถงึ องค์ประกอบที่เกี่ยวข้อง โดยมอี งค์ประกอบต่างๆ ดังน้ี

3.1 วธิ กี ารดำเนนิ งาน

3.1.1 กำหนดหัวขอ้ ในการทำโครงงาน
3.1.2 คน้ คว้าเอกสารท่ีเก่ยี วข้อง
3.1.3 วสั ดอุ ปุ กรณใ์ นการดำเนนิ งาน
3.1.4 ลงมอื ปฏิบัตติ ามโครงงาน
3.1.5 เขยี นรายงานพร้อมสรุปผลและอภิปรายผล

3.2 ตารางการปฏบิ ตั งิ าน

ครง้ั ท่ี สปั ดาหท์ ี่ กจิ กรรมที่ปฏบิ ตั ิ สถานทีป่ ฏบิ ตั ิ หมายเหตุ

1. 20 ธนั วาคม 2564 จดั เตรียมวสั ดอุ ปุ กรณ์ ห้องนาฏศิลป์ ชวั่ โมงเวลา(นาฏศิลป์)
ช่ัวโมงเวลา(นาฏศิลป์)
2. 27 ธนั วาคม 2564 ลงมอื ปฏิบตั ิ หอ้ งนาฏศลิ ป์ ชวั่ โมงเวลา(นาฏศลิ ป์)
ชว่ั โมงเวลา(นาฏศิลป์)
3. 10 มกราคม 2565 ลงมือปฏิบตั ิ ห้องนาฏศิลป์

4. 17 มกราคม 2565 นักเรียนส่งโครงงานบทท่ี 1-2 ห้องนาฏศิลป์

11

3.3 วสั ดอุ ปุ กรณ์

3.3.1 ลังกระดาษ

ภาพที่ 8 กระดาษหนังสอื พมิ พ์

3.3.2 กระดาษสี

ภาพท่ี 9 กระดาษสี

3.3.3 กาวลาเท็กซ์

ภาพท่ี 10 กาวลาเทก็ ซ์

12

3.3.4 กรรไกร/คัตเตอร์

ภาพที่ 11 กรรไกร/คตั เตอร์

3.3.5 ไมบ้ รรทดั

ภาพที่ 12 ไมบ้ รรทดั

3.3.7 ปากกากเมจิ

ภาพที่ 13 ปากกากเมจิ

บทท4่ี
ผลการศกึ ษาคน้ ควา้

4.1 ผลการศกึ ษา
การประดิษฐ์อุปกรณ์ประกอบการแสดง (แว่นเทียน) ที่ใช้ในการแสดงรำเชิญพระขวัญ

สามารถทำได้ง่าย เป็นการเสริมพัฒนาการ และได้เรียนรู้ สิ่งใหม่ๆ โดยมีวิธีทำที่ไม่ยาก และซับซ้อน
จนเกินไป มีความสวยงาม น่าสนใจ และน่ามอง สามารถนำไปประกอบการแสดง ได้อีกด้วย โดยที่
นักเรียนได้ใช้เวลาว่างทำให้เกิดประโยชน์ และรู้จักเพิ่มมูลค่าของสิ่งของ ทั้งนี้เป็นการบูรณาการวิชา
นาฏศิลป์กบั แขนงวิชาอ่ืน ๆ เชน่ วชิ าการงานพ้นื ฐานอาชีพ ได้อกี ด้วย
4.2 ขัน้ ตอนการประดิษฐ์อุปกรณ์ประกอบการแสดง (แวน่ เทยี น) ทใ่ี ชใ้ นการแสดงรำเชญิ พระขวญั

ภาพท่ี 14 ขน้ั ตอนการประดษิ ฐ์
ขน้ั ตอนท่ี 1 นำกระดาษลังมาทำความสะอาดและดงึ กระดาษให้แยกออกจากกนั

ภาพท่ี 15 ข้นั ตอนการประดษิ ฐ์
ขั้นตอนท่ี 2 นำกระมาตดั เป็นลกั ษณะa3 แล้วใชป้ ากกาวาดรปู แว่นเทยี นในลกั ษณะใบโพธิ์

14

ภาพที่ 16 ขัน้ ตอนการประดษิ ฐ์
ขั้นตอนที่ 3 เม่ือตัดกระดาษลงั โดยใช้คัตเตอรต์ ัดจากแบบจากน้นั นำทตี่ ัดได้ 2 อันมาประกบกันเพื่อให้

เกิดความแขง็ แรงของกระดาษลังนม

ภาพท่ี 17 ขัน้ ตอนการประดษิ ฐ์
ข้ันตอนท่ี 4 ข้นั ตอนต่อมาวาดลายไทยท่ีใช้เปน็ สว่ นบนฐานของรปู แว่นเทียน

15

ภาพที่ 18 ขน้ั ตอนการประดษิ ฐ์
ขั้นตอนท่ี 5 ไดร้ ปู แบบของกลีบบัว จากนนั้ ทำในลกั ษณะเดยี วกันแตข่ นาดตา่ งกันเพื่องนำมาเรยี งกนั

เป็นช้นั ใหส้ วยงามมากขึ้น

ภาพที่ 19 ขน้ั ตอนการประดษิ ฐ์
ข้นั ตอนที่ 6 ขั้นตอนต่อมาใช้กระดาษสตี ัดแปะตามรูปทรงท่ีออกแบบไวโ้ ดยเราได้ยึดถงึ รูปแบบของสที ี่

ใช้ป็นโทนรอ้ น

16

ภาพที่ 20 ขนั้ ตอนการประดษิ ฐ์
ข้นั ตอนท่ี 7 นำส่วนฐานแรกมาประกอบโดยใชก้ าวลาแทก็ ซท์ าให้บางที่สุดเพื่อไมใ่ ห้กาวเลอะออกมา

ภาพท่ี 21 ขัน้ ตอนการประดษิ ฐ์
ขัน้ ตอนท่ี 8 นำสที ี่ 3 สีส้มกลีบบัวมาประกอบชัน้ ที่ 3โดยใช้กาวลาแทก็ ซ์ทาใหบ้ างที่สุดเพื่อไม่ใหก้ าว

เลอะออกมา

17

ภาพท่ี 22 ขนั้ ตอนการประดษิ ฐ์
ขั้นตอนที่ 9 นำส่วนที4่ สีเหลืองนำมาประกอบฐานบนสดุ โดยถอื วา่ เสรจ็ สมบรู ณ์
จากทีก่ ลา่ วไปข้างต้น คอื วธิ กี ารประดิษฐ์อุปกรณ์ประกอบการแสดง (แว่นเทยี น) ท่ีใช้ในการ
แสดง รำเชิญพระขวัญของนักเรียน โรงเรียนโรงเรียนอนุบาลเดิมบางนางบวช(ท่าช้าง) จังหวัด
สพุ รรณบุรี

บทท5่ี
สรปุ ผล และขอ้ เสนอแนะ

จากการประดิษฐ์อุปกรณ์ประกอบการแสดง (แว่นเทียน) ที่ใช้ในการแสดงรำเชิญพระขวัญ
สรุปผลได้ว่าเป็นการประดิษฐ์ผลงาน อุปกรณ์การแสดง และบูรณาการวิชานาฏศิลป์กับแขนงวิชา
อื่นๆ เช่น วิชาการงานพื้นฐานอาชีพ นักเรียนรู้จักนำของที่ไม่ได้ใช้แล้วนำกลับมาใช้ใหม่มาทำ
สงิ่ ประดิษฐ์และเสริมสร้างแนวคิดและนำผลงานไปใช้เพอ่ื นำมาประกอบการแสดงให้เกดิ ความสวยงาม

5.1 ปัญหาในการดำเนนิ งาน

5.1.1 นกั เรยี นบางคนไม่ไดเ้ ตรยี มอุปกรณม์ า
5.1.2 นกั เรียนไมส่ ามารถตัดกระดาษเองได้
5.1.3 นกั เรียนบางคนเกิดการเรียนรูไ้ มพ่ ร้อมกนั

5.2 วิธกี ารแกป้ ญั หา

5.2.1 ครเู ตรียมความพร้อมอปุ กรณ์ไวส้ ำหรบั ใหน้ กั เรยี นได้ลงมือปฏิบัติโดยไดใ้ ห้นกั เรียน
5.2.2 ครูตกั ระดาษเตรียมไว้ให้สำหรบั นักเรยี นเพือ่ ลดเกิดความอนั ตราย
5.2.3 ครสู าธติ การทำให้นักเรยี นดู ทำให้นกั เรยี นสามารถทำตามพรอ้ มครูได้ในทีล่ ะข้ันตอน

5.3 อภปิ รายผล

การประดิษฐ์ประดิษฐ์อุปกรณ์ประกอบการแสดง (แว่นเทียน) ที่ใช้ในการแสดงรำเชิญ
พระขวญั นเ้ี ป็นการทีน่ ำวัสดุที่หาได้ไม่ยาก และราคาถูก มาประดิษฐข์ นึ้ ใหม่ โดยเปน็ การลดภาวะโลก
ร้อนและลดขยะที่ทำให้เกิดมลพิษและยังสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับสิ่งของอีกด้วย และยังเป็น
การบูรณาการวิชานาฏศิลป์กับวิชาอื่น ๆ เช่น วิชาการงานพื้นฐานอาชีพ ได้อีกด้วย จึงอยากให้
นกั เรยี นไดเ้ รียนรู้ท้ังวชิ านาฏศลิ ป์ที่เป็นอุปกรณ์การแสดงและเรียนรู้ท่ีจะนำของท่ีไม่ได้ใช้มาแปลงเป็น
สง่ิ ของท่ีมปี ระโยชน์

5.4 ขอ้ เสนอแนะ

การแสดงนาฏศิลป์ท่ีสามารถประดิษฐ์อุปกรณ์ประกอบการแสดงมีมากมายหลากหลาย
คณะผู้จัดทำเห็นสมควรมีการประดิษฐ์อุปกรณ์การแสดงจากอุปกรณ์ที่มีราคาไม่สูงมากนัก เพื่อเป็น
การประหยัดค่าใช้จา่ ยใหก้ บั นักเรียน

บรรณนกุ รม

กรมศิลปากร.(2512) .ศลิ ปะและหตั ถกรรมไทย.พิพธิ ภณั ฑสถานแหง่ ชาติ , กรงุ เทพมหานคร
เพยี รพิลาศ ภิรยิ าโภคานนท.์ (2557) ศกึ ษาการนุ่ง พบั จับ จบี ศลิ ปะอาภรณล์ ะครไทย สูก่ าร

ออกแบบโรงมหรสพละครในเคลื่อนท่ี ,กรงุ เทพมหานคร
วบิ ลู ย์ ลีส้ วุ รรณ. (2546).ศิลปะชาวบ้าน. พมิ พ์ครั้งที่ 3 , กรงุ เทพมหานคร
สุรภี สุมานนท.์ (2530) .การประดษิ ฐว์ ัสดุเหลอื ใช.้ สำนักพิมพ์โอเดียนสโตร,กรงุ เทพมหานคร
สยมภู ภวู รุง่ สตั ยา (2555).การออกแบบเคร่ืองประดับสตรปี ระเภทกำไลโดยใช้วสั ดปุ ระเภทพลาสติกเหลว.

กรุงเทพมหานคร
อกั ษรเจรญิ ทัศน์ อจท.จำกัด(2560)หนงั สือดนตรี-นาฏศลิ ปช์ น้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6.กรงุ เทพมหานคร

ภาคผนวก
ภาพกิจกรรม

20
ภาพการจดั ทำสอื่ การเรยี นรู้ เรอื่ งการประดิษฐอ์ ปุ กรณ์การแสดง(แวน่ เทียน)จากวสั ดเุ หลอื ใช้
ภาพการจดั ทำสอื่ การเรยี นรู้ เรอ่ื งการประดษิ ฐอ์ ปุ กรณ์การแสดง(แวน่ เทียน)จากวสั ดเุ หลอื ใช้

21
ภาพการจดั ทำสอื่ การเรยี นรู้ เรอื่ งการประดิษฐอ์ ปุ กรณ์การแสดง(แวน่ เทียน)จากวสั ดเุ หลอื ใช้
ภาพการจดั ทำสอื่ การเรยี นรู้ เรอ่ื งการประดษิ ฐอ์ ปุ กรณ์การแสดง(แวน่ เทียน)จากวสั ดเุ หลอื ใช้

22

ภาพกจิ กรรมจากผลงานนกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 2 จากโครงการเสรมิ สรา้ งการฝึกทกั ษะใน
การประดษิ ฐอ์ ปุ กรณก์ ารแสดงรำเชญิ พระขวญั (แวน่ เทยี น)

32


Click to View FlipBook Version