The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงงานสะเต็มศึกษากล่องปล่อยข้าวถังปล่อยน้ำ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by fahza987, 2021-11-07 11:34:15

โครงงานสะเต็มศึกษากล่องปล่อยข้าวถังปล่อยน้ำ

โครงงานสะเต็มศึกษากล่องปล่อยข้าวถังปล่อยน้ำ

นางสาวธญั ญารตั น์ รกั ษาแกว้
6311103052 สาขาคณติ ศาสตร์
คณะครศุ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั นครศรธี รรมราช

โครงงานสะเตม็ ศกึ ษา
เรอ่ื ง กลอ่ งปลอ่ ยขา้ ว ถงั ปลอ่ ยนา้

โดย
นางสาวธญั ญารตั น์ รกั ษาแกว้
รหสั นกั ศกึ ษา 6311103052

เสนอ
อาจารยก์ ลั ยากร อนฤุ ทธิ์

รายงานฉบบั นเ้ี ปน็ สว่ นหนง่ึ ในการศกึ ษารายวชิ า สะเตม็ ศกึ ษา (4012205)
สาขาคณติ ศาสตร์ คณะครศุ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั นครศรธี รรมราช

ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564

โครงงานสะเตม็ ศกึ ษา
เรอื่ ง กลอ่ งปลอ่ ยขา้ ว ถงั ปลอ่ ยนา้

โดย
นางสาวธญั ญารตั น์ รกั ษาแกว้
รหสั นกั ศกึ ษา 6311103052

เสนอ
อาจารยก์ ลั ยากร อนฤุ ทธิ์

รายงานฉบบั นเ้ี ปน็ สว่ นหนง่ึ ในการศกึ ษารายวชิ า สะเตม็ ศกึ ษา (4012205)
สาขาคณติ ศาสตร์ คณะครศุ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั นครศรธี รรมราช

ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564



หวั ขอ้ โครงงาน : โครงงานสะเตม็ ศึกษา (STEM) เรอื่ ง กล่องปล่อยข้าว ถงั ปล่อยนา้
ประเภทโครงงาน : สิ่งประดิษฐ์
ผนู้ าเสนอโครงงาน : นางสาวธัญญารตั น์ รักษาแก้ว รหสั นักศกึ ษา 6311103052 สาขาคณติ ศาสตร์

คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรธี รรมราช
อาจารยท์ ปี่ รึกษา : อาจารย์กัลยากร อนุฤทธิ์
ปกี ารศกึ ษา : 2564

บทคดั ยอ่

โครงงานสะเต็มศึกษา (STEM) เป็นโครงงานการศึกษาค้นคว้าและประดิษฐ์ เร่ือง กล่องปล่อยข้าว
ถังปล่อยน้า โดยมีวัตถุประสงค์ เพ่ือประดิษฐ์กล่องปล่อยข้าวและถงั ปลอ่ ยน้า ท่ีเกิดจากการเทียบอัตราส่วนในการ
หุงข้าวของปริมาณข้าวต่อปริมาณน้า เป็นการต่อยอดจากสิ่งของท่ีมีใช้ในชีวิตประจาวันมาแก้ไขปัญหาใน
ชีวิตประจาวัน เพิ่มความสะดวกในการหุงข้าว และลดปัญหาการหุงข้าวแล้วข้าวแฉะ (ข้าวเปียก) และข้าวไม่สุก
(ข้าวดบิ ) เพื่อให้เด็กสามารถใช้สิ่งประดิษฐ์ท่ีประดิษฐ์ขึ้นในการหุงข้าว ลดภาระผู้ปกครองและฝึกความรับผิดชอบ
โดยศกึ ษาวสั ดุอุปกรณใ์ นการประดิษฐ์และศกึ ษาอัตราส่วนระหว่างปรมิ าณข้าวตอ่ ปริมาณนา้

ผลการศึกษาปรากฏดังน้ี ได้ทราบถึงอัตราส่วนระหว่างปริมาณข้าวต่อปริมาณน้า ที่เหมาะสมในการหุง
ขา้ ว วัสดอุ ุปกรณท์ ่ีใชใ้ นการพฒั นาตอ่ ในการประดิษฐ์คอื กลอ่ งใส่ธัญพชื และถังน้า

ผลการดาเนนิ การประดิษฐป์ รากฏดังนี้ สิ่งประดิษฐ์ท่ีประดิษฐ์สามารถแก้ไขปัญหาการหุงขา้ วแล้วขา้ วแฉะ
(ข้าวเปียก) และข้าวไม่สุก(ข้าวดิบ)ได้ เพ่ิมความสะดวกในการหุงข้าว เด็กสามารถปฏิบัติได้จริง ลดภาระของ
ผู้ปกครองและฝกึ ฝนเด็กใหม้ คี วามรบั ผิดชอบต่อหน้าที่

ผู้จดั ทา

สารบญั ข

เรอื่ ง หนา้ ที่

บทคัดย่อ ก
สารบญั ข
สารบญั ภาพ ง
บทที่ 1 บทนา 1
1
1.ท่มี าและความสาคัญ 1
2.วัตถปุ ระสงค์ 2
3.ของเขตการศึกษา 2
4.ประโยชน์ทคี่ าดวา่ จะได้รบั 3
บทที่ 2 เอกสารและงานวิจยั ทเ่ี กยี่ วข้อง 3
1.ข้าว 4
2.สรรพคณุ ของข้าว 5
3.ประโยชน์ของข้าว 5
4.คุณคา่ ทางโภชนาการของข้าวขาวดบิ ต่อ 100 กรัม 6
5.ประเภทของขา้ ว 10
6.ข้อมลู เปรยี บเทียบข้าวใหม่และขา้ วเก่า 11
7.ข้อมูลเปรยี บเทยี บอัตราข้าวสารกบั น้า 14
8.การหงุ ขา้ ว 16
บทท่ี 3 วิธดี าเนนิ การ 16
1.การดาเนนิ งาน 16
1.1ขั้นระบปุ ญั หา

สารบญั ค

เรอื่ ง หนา้ ที่

1.2ขน้ั รวบรวมแนวคิดท่ีเกย่ี วข้อง 16
1.3ขน้ั ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา 17
1.4ข้ันวางแผนและดาเนินการแกป้ ญั หา 19
1.5ข้ันทดสอบ ประเมนิ ผล และปรบั ปรุงวธิ กี ารแก้ปัญหาหรอื ชน้ิ งาน 28
1.6ขน้ั นาเสนอวิธกี ารแกป้ ัญหา ผลการแก้ปัญหาหรือช้นิ งาน 30
บทที่ 4 ผลการดาเนนิ งาน 31
บทท่ี 5 สรุปและอภปิ รายผล 32
5.1 สรุปผลการดาเนนิ การ 32
5.2 อภิปรายผล 32
5.3 ขอ้ เสนอแนะ 32
บรรณานุกรม ฉ
ภาคผนวก ช
1.การเทยี บสว่ นระหว่างข้าวและน้า โดยข้าว 1 ถ้วย ใชน้ ้าเท่าไร โดยการใชถ้ ้วยตวงเทียบ 33
2.การทดสอบสงิ่ ประดิษฐ์ โดยการนาไปใช้ในการหุงข้าว 34

สารบญั ภาพ ง

เรอ่ื ง หนา้ ที่

ภาพที่ 2.1 แสดงภาพขา้ วใหม่และขา้ วเก่า 10
ภาพที่ 2.2 แสดงภาพปริมาณข้าวสารตอ่ ปรมิ าณนา้ 11
ภาพท่ี 2.3 แสดงภาพปริมาณขา้ วหอมมะลติ ่อปรมิ าณน้า 11
ภาพท่ี 2.4 แสดงภาพปริมาณขา้ วซ้อมมือต่อปรมิ าณนา้ 12
ภาพที่ 2.5 แสดงภาพปริมาณขา้ ว กข กับขา้ วไรซเ์ บอร์รตี่ อ่ ปรมิ าณน้า 12
ภาพที่ 2.6 แสดงภาพปริมาณข้าวสารตอ่ ปรมิ าณนา้ 13
ภาพท่ี 2.7 แสดงภาพสดั สว่ นการหุง 13
ภาพที่ 2.8 แสดงภาพวิธีการหุงข้าวด้วยหมอ้ หงุ ข้าวไฟฟา้ 15
ภาพท่ี 3.1 แสดงภาพแบบที่ 1 17
ภาพที่ 3.2 แสดงภาพแบบที่ 2 17
ภาพที่ 3.3 แสดงภาพแบบท่ี 3 18
ภาพท่ี 3.4 แสดงภาพแบบท่ี 4 18
ภาพท่ี 3.5 แสดงภาพแบบท่ี 4 19
ภาพท่ี 3.6 แสดงภาพอปุ กรณ์ 19
ภาพที่ 3.7 แสดงภาพอุปกรณ์ 20
ภาพท่ี 3.8 แสดงภาพกลอ่ งธัญพชื 20
ภาพท่ี 3.9 แสดงผลสาเรจ็ กล่องปลอ่ ยข้าว 25
ภาพที่ 3.10 แสดงฐานรองตงั้ กลอ่ งปล่อยขา้ ว ถังปล่อยน้า 26
ภาพท่ี 3.11 แสดงผลสาเรจ็ กลอ่ งปล่อยข้าว ถงั ปล่อยน้า 27
ภาพที่ 3.12 แสดงผลสาเรจ็ กล่องปล่อยข้าว 28

1

บทท่ี 1

บทนา

1.ทม่ี าและความสาคัญ

สังคมวัฒนธรรมของคนไทยบริโภคข้าวเป็นหลักการโดยคนไทยจะให้ความสาคัญในการรับประทานข้าว
ซ่ึงคนไทยจะรับประทานข้าวอย่างน้อย 3 ม้ือต่อวัน การบริโภคข้าวผ่านกระบวนการแปรรูปข้าวด้วยวิธีการหุง
ซึ่งข้าวถูกหุงโดยการต้มหรือนึ่งและดูดซึมน้าในระหว่างการหุง แต่การหุงข้าวที่อร่อยน้ันขึ้นอยู่กับปริมาณน้าท่ีใส่
หากใส่น้ามากเกินไปข้าวก็แฉะ หากใส่น้าน้อยเกินไปข้าวก็ไม่สุก และข้าวแต่ละชนิดก็ใช้ปริมาณน้าที่ไม่เท่ากัน ใช้
เวลาทีไ่ ม่เทา่ กัน

การหุงข้าวโดยท่ัวไปจะสอนให้ดูระดับน้าที่ใส่ในแต่ละคร้ังเม่ือหุงข้าวคือ ประมาณ 1 ข้อนิ้วมือจากระดับ
ข้าว แต่บางคร้ังการทาเช่นน้ีข้าวท่ีหุงน้ันไม่สุกบ้าง หรือแฉะบ้าง ในตอนเด็กผู้ปกครองจะสอนให้ลูกมีความ
รับผิดชอบในเร่ืองงานบ้าน การหุงข้าว ก็เป็นหน่ึงในส่ิงที่ผู้ปกครองปลูกฝังให้ลูกปฏิบัติได้เช่นกัน แต่ในบางครั้ง
การหงุ ข้าวกม็ ปี ญั หาเกดิ ขึน้ คือหุงขา้ วไมส่ กุ (ขา้ วดบิ ) หรอื หุงขา้ วแฉะ (ขา้ วเปยี ก)

จากปัญหาการหุงข้าวที่กล่าวมา ผู้จัดทาจึงคิดวิธีการแก้ไขปัญหาโดยสามารถแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการมีตัว
ช่วยในการตวงปริมาณข้าวสารกับน้า ช่วยให้ปัญหาการหุงข้าวลดลงได้ เน่ืองจากได้คานวณปริมาณข้าวสารกับน้า
ไว้ ซ่ึงเพ่ิมความสะดวกมากขึ้นเม่ือหุงข้าว เด็กสามารถปฏิบัติได้ ช่วยลดภาระของผู้ปกครอง และผู้ปกครอง
สามารถฝึกความรับผดิ ชอบได้

2.วตั ถปุ ระสงค์

1.เพื่อแก้ไขปญั หาการหงุ ขา้ วไม่สกุ (ขา้ วดิบ) หรอื หงุ ข้าวแฉะ (ขา้ วเปียก)
2.เพื่อนาส่งิ ของทมี่ ีใช้ในชีวติ ประจาวันมาแกไ้ ขปัญหาในชวี ิตประจาวนั

2

3.ของเขตการศึกษา
ศึกษาปริมาณข้าวสารกบั ปริมาณนา้ ทใ่ี ช้ในการหุงข้าว

4.ประโยชนท์ ีค่ าดวา่ จะไดร้ ับ
1.สามารถแกไ้ ขปัญหาการหงุ ขา้ วไม่สกุ (ขา้ วดบิ ) หรือหงุ ขา้ วแฉะ (ขา้ วเปยี ก)ได้
2.ประดิษฐส์ ่งิ ของทีม่ ีใชใ้ นชวี ิตประจาวันมาแกไ้ ขปัญหาในการหงุ ขา้ วได้

3

บทท่ี 2

เอกสารและงานวจิ ยั ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง

1.ขา้ ว

ข้าวเป็นพืชใบเล้ียงเดี่ยวจาพวกธัญพืชที่สามารถกินเมล็ดได้ โดยจะแบ่งออกเป็น 2 สปีชีส์ใหญ่ ๆ คือ
Oryza glaberrima (ปลูกเฉพาะในเขตร้อนของแอฟริกา) และ Oryza sativa (ปลูกกันท่ัวโลก) สาหรับชนิด
Oryza sativa ยังแบ่งแยกย่อยออกไปได้อีกคือ Javanica, Japonica (ปลูกมากในเขตอบอุ่น) และ indica (ปลูก
มากในเขตร้อน)

สาหรับประเทศไทยข้าวที่ปลูกจะเป็นชนิด indica โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ข้าวเจ้าและข้าว
เหนียว นอกจากนี้พันธุ์ข้าวยังได้ถูกปรับปรุงและคัดสรรสายพันธ์ุมาโดยตลอด จึงทาให้มีหลากหลายสายพันธ์ุทั่ว
โลกท่ีมีรสชาติและคุณประโยชน์ของข้าวท่ีแตกต่างกันออกไป โดยพนั ธุ์ข้าวไทยท่ีมชี ่ือเสียงระดับโลกก็คือ ข้าวหอม
มะลิ โดยข้าวท่มี คี ุณคา่ ทางอาหารสูงกค็ ือ ขา้ วกลอ้ ง ข้าวซ้อมมือ ขา้ วนง่ึ กอ่ นสี และข้าวเสรมิ วติ ามนิ

ขา้ วที่แนะนาให้รับประทาน คือ ข้าวกลอ้ งที่ยังมีจมูกข้าวและราข้าวติดอยู่ เพราะจะทาให้ร่างกายของเรา
ได้รับสารอาหารที่มีคุณค่า ส่วนข้าวขัดขาวท่ีขายกันอยู่ท่ัวไปนั้นไม่แนะนาให้รับประทานเท่าไหร่ เพราะจะให้แค่
พลังงานเท่าน้ันและยังได้น้าตาลเป็นของแถมอีกด้วย หากรับประทานต่อเน่ืองไปนาน ๆ ก็อาจจะทาให้เกิด
โรคเบาหวาน โรคความดัน โรคหัวใจ โรคเสน้ เลือดตีบตนั โรคสมองเสอ่ื ม รวมไปถึงโรคอัมพฤกษ์ได้ !

ข้าว จัดว่ามีประโยชน์และมีคุณค่าต่อการดารงชีวิตของมนุษย์อย่างมากต้ังแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
โดยเฉพาะอย่างย่ิงบา้ นเราไม่วา่ ใคร ๆ ก็จะรับประทานข้าวเปน็ อาหารหลัก เพราะเป็นแหลง่ ของคาร์โบไฮเดรตทใ่ี ห้
พลังงานและความอบอุ่น นอกจากน้ียังใช้ทาเป็นขนมหวานต่าง ๆ ทาปุ๋ย ของใช้ ของเล่นต่าง ๆ เคร่ืองประดับ
และใช้เป็นยารักษาโรคไดอ้ ีกดว้ ย

4

2.สรรพคุณของขา้ ว

1. ช่วยบารงุ ร่างกาย เพ่ิมพลังงานให้กบั ร่างกาย ฟนื้ ฟูกาลัง ป้องกนั อาการอ่อนเพลีย (วิตามินบี 2)
2. ชว่ ยเสริมสรา้ งการเจรญิ โตของรา่ งกาย
3. ข้าวกล้องมีสารตอ่ ต้านอนุมูลอิสระ ชว่ ยชะลอความแก่ชรา (ขา้ วกลอ้ งงอก)
4. ช่วยบารุงผิวพรรณให้เปล่งปล่ังสดใส (วิตามนิ อี)
5. ข้าวกลอ้ งมีวติ ามินบี 3 ซง่ึ บารงุ สุขภาพผิวหนงั และลิน้ ได้
6. ชว่ ยเสรมิ สรา้ งการทางานของระบบประสาท (โดยเฉพาะอย่างย่ิงข้าวกล้อง)
7. ข้าวกลอ้ งงอกชว่ ยปอ้ งกนั และลดโอกาสการเกดิ โรคความจาเสอื่ มหรอื โรคอลั ไซเมอร์
8. ช่วยแกอ้ าการเบื่ออาหารได้ (วิตามนิ บี 2)
9. ชว่ ยเสรมิ สร้างกระดกู และฟนั ให้แข็งแรง (ฟอสฟอรัส)
10. ชว่ ยป้องกันและเสริมสรา้ งการสกึ หรอของรา่ งกาย (โปรตนี )
11. ลทู นี ในข้าวช่วยบารุงและรักษาสายตา ปอ้ งกันโรคตอ้ กระจก จึงเหมาะอยา่ งมากสาหรบั ผู้ท่ีทางานใน

ออฟฟิศหรือต้องใชส้ ายตาอย่างหนกั ในการน่งั หนา้ คอมพน์ าน ๆ (ลูทนี , เบตาแคโรทนี )
12. ช่วยป้องกันโรคโลหติ จาง (ธาตุเหล็ก, ธาตทุ องแดง)
13. ชว่ ยลดการจับตัวของลมิ่ เลอื ด ลดความเสีย่ งของการเกดิ โรคหัวใจและโรคหลอดเลือด (เบตาแคโรทีน,

วติ ามนิ อ)ี
14. ชว่ ยเสรมิ สรา้ งเม็ดเลอื ดแดง สง่ ออกซิเจนในเลือดไปสู่อวัยวะต่าง ๆ ของรา่ งกาย (ธาตุเหลก็ )
15. ประโยชนข์ องข้าวหอมมะลิ ใยอาหารของข้าวหอมมะลกิ ล้องจะช่วยดูดซับของเสยี และสารพิษต่าง ๆ ออก

จากร่างกายได้ (ขา้ วหอมมะลิกลอ้ ง)
16. เส้นใยอาหารของขา้ วหอมนิลมีส่วนช่วยลดระดบั นา้ ตาลในเลอื ดได้ (ขา้ วหอมนิล)
17. ช่วยแกร้ อ้ นใน กระหายน้า (น้าขา้ ว)
18. ชชว่ ยรักษาอหวิ าตกโรค (นา้ ข้าว)
19. ชว่ ยแกอ้ าเจยี นเปน็ เลอื ด (นา้ ขา้ ว)
20. ช่วยป้องกนั โรคเลือดออกตามไรฟนั (ขา้ วหอมมะลิกล้อง)
21. ข้าวหอมมะลแิ ดงช่วยปอ้ งกนั โรคคอหอยพอก (ไอโอดีน)
22. ช่วยแกต้ าแดง (นา้ ข้าว)
23. ชว่ ยแก้เลอื ดกาเดา (น้าขา้ ว)
24. ช่วยป้องกันโรคปากนกกระจอก (แผลท่ีมุมปาก) และริมฝีปากบวม (วติ ามนิ บี 2)
25. ชว่ ยเสริมการทางานของกระเพาะอาหารและลาไส้ (โดยเฉพาะขา้ วกลอ้ ง)

5

26. ช่วยแกอ้ าการอาหารไม่ย่อย (น้าขา้ ว)
27. การรับประทานขา้ วกล้องจะไดก้ ากอาหารมากเป็นพเิ ศษ ซึ่งจะช่วยในการขับถา่ ย ปอ้ งกันโรคท้องผูกและ

มะเร็งลาไสไ้ ดเ้ ป็นอย่างดี
28. ชว่ ยรกั ษาโรคท้องร่วง (ขา้ วผวั ไม่ลมื )
29. ขา้ วประโยชน์ช่วยแกพ้ ษิ ต่าง ๆ (น้าข้าว)
30. ชว่ ยลดการเกดิ หรอื ลดอาการของการเปน็ ตะครวิ ได้ (แคลเซยี ม)
31. ช่วยปอ้ งกนั โรคเหนบ็ ชาได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขา้ วกลอ้ ง ขา้ วซ้อมมือ ขา้ วนง่ึ ก่อนสี เพราะจะมีวิตามนิ บี 1

สงู
32. ประโยชนข์ ้าวกล้องงอกชว่ ยให้ผ่อนคลายและหลับสบายมากย่งิ ขนึ้ (ข้าวกลอ้ งงอก)
33. ขา้ วกล้องช่วยลดอาการผิดปกตติ า่ ง ๆ ของหญงิ วยั ทอง (ขา้ วกลอ้ งงอก)
34. ช่วยรกั ษาอาการตกเลือดหลงั คลอดได้ (ขา้ วผัวไม่ลืม)

3.ประโยชนข์ องขา้ ว

• เมลด็ ข้าว สามารถนามาทาเป็นเครื่องประดบั ได้
• ราขา้ วสามารถนามาใช้ทาเป็น น้ามนั ราข้าว ใชเ้ ปน็ อาหารสัตวไ์ ด้ ทาลปิ สตกิ ทายาหมอ่ ง ทาแวกซ์ หรอื

ทาเป็นโลชนั บารุงผิว ฯลฯ
• ฟางข้าวสามารถใชท้ าเปน็ ปยุ๋ ปลกู เหด็ ทาเปน็ ของเล่น กระดาษ ทาเปน็ แกลบหรอื ขเี้ ถา้ ผสมทา

เคร่ืองปนั้ ดินเผา ถ่านกัมมันต์หรอื ถา่ นดดู กล่ิน ใช้เป็นสว่ นผสมของยาขดั รถ ฯลฯ
• ประโยชนข์ ้าวนอกจากจะใชบ้ รโิ ภคเป็นอาหารหลักแล้วยงั ใช้ทาเปน็ ของหวานชนิดต่าง ๆ อกี ดว้ ย ไมว่ า่ จะ

เปน็ ขนมไทย เช่น ลอดช่อง ขนมตาล ขนมกล้วย ฝอยทอง ทองหยบิ ทองหยอด ขนมหมอ้ แกง ปลากริม
ไข่เต่า ทาเปน็ แปง้ ข้าวเจา้ แป้งขา้ วเหนียว ฯลฯ

4.คณุ คา่ ทางโภชนาการของขา้ วขาวดบิ ตอ่ 100 กรมั

• พลังงาน 365 กิโลแคลอรี
• คาร์โบไฮเดรต 80 กรัม
• นา้ ตาล 0.12 กรัม
• เส้นใย 1.3 กรัม
• ไขมัน 0.66 กรัม
• โปรตีน 7.13 กรมั

6

• นา้ 11.61 กรมั
• วิตามินบี 1 0.0701 มลิ ลกิ รัม 6%
• วิตามนิ บี 2 0.0149 มิลลกิ รัม 1%
• วติ ามินบี 3 1.62 มิลลิกรมั 11%
• วติ ามนิ บี 5 1.014 มลิ ลกิ รัม 20%
• วิตามินบี 6 0.164 มลิ ลกิ รมั 13%
• ธาตุแคลเซยี ม 28 มลิ ลิกรมั 3%
• ธาตเุ หล็ก 0.80 มลิ ลกิ รมั 6%
• ธาตุแมกนเี ซียม 25 มลิ ลกิ รมั 7%
• ธาตุแมงกานสี 1.088 มิลลกิ รัม 52%
• ธาตฟุ อสฟอรสั 115 มิลลกิ รมั 16%
• ธาตุโพแทสเซียม 115 มิลลิกรัม 2%
• ธาตุสงั กะสี 1.09 มิลลิกรัม 11%

% รอ้ ยละของปริมาณแนะนาท่รี ่างกายต้องการในแต่ละวนั สาหรับผใู้ หญ่ (ข้อมลู จาก : USDA Nutrient
database)

5.ประเภทของขา้ ว

ประเภทของข้าว แบง่ ออกเปน็ 4 ประเภท

1. ข้าวหอมมะลิ มีถิ่นกาเนิดในไทย มีลักษณะกล่ินหอมคล้ายใบเตย พันธ์ุที่นิยมปลูกและบริโภคกันอย่าง
แพร่หลาย

1.1. ขา้ วหอมมะลิ 105 เป็นสายพนั ธขุ์ า้ วทีม่ ีกลนิ่ หอมคลา้ ยใบเตย เป็นพนั ธ์ุข้าวทป่ี ลกู ทอ่ี ่ืนไดไ้ ม่
ดีเท่ากับปลูกในไทย และเป็นพันธุ์ข้าวท่ีทาให้ข้าวไทยเป็นสินค้าส่งออกท่ีรู้จักไปท่ัวโลก ซึ่งข้าว
หอมมะลิ 105 เปน็ ข้าวทม่ี ีตน้ กาเนดิ จาก จ.ฉะเชงิ เทรา เปน็ ข้าวพนั ธุ์เบาที่ไดร้ ับการปรบั ปรงุ พันธ์ุ
มาจากข้าวขาวดอกมะลิ ซ่ึงเป็นข้าวพื้นเมืองท่ีพบและรู้จักกันในอาเภอบางคล้า จังหวัด
ฉะเชิงเทรา ด้วยคุณลักษณะอันโดดเด่นยามหุงข้าว กล่ินจะหอมชวนให้รับประทานไม่เหมือน
พันธ์ุขา้ วใดในโลก

7

1.2. ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลา เป็นข้าวพันธุ์ที่มาจากแหล่งปลูกข้าวหอมมะลิท่ีดีท่สี ุดในโลก นั่นก็คอื ที่
ราบอันมีอาณาเขตกว้างขวางใหญ่ท่ีสุดในภาคอีสาน ที่เราเรียกกันว่า “ทุ่งกุลาร้องไห้” ซึ่งเมล็ด
ข้าวจะมีลักษณะยาว เรียว และเมล็ดไม่มีหางข้าว เมล็ดข้าวที่ผ่านการสีแล้ว จะมีความเลื่อมมัน
จมกู ข้าวเลก็ เมือ่ หุงแลว้ จะมกี ลิน่ หอมและนมุ่

2. ขา้ วเหนียว พน้ื ท่ปี ลกู ข้าวเหนียวพนั ธุ์ดีสว่ นใหญข่ องประเทศไทยอยูท่ ภี่ าคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื

2.1. ข้าวเหนียวพันธุ์ กข. 6 ข้าวพันธุ์มีลักษณะเมล็ดยาวเรียว มีเปลือกสีน้าตาล เมล็ดมีขนส้ัน
เป็นสายพันธุ์ข้าวเหนียวหอม ไวต่อช่วงแสง เป็นพันธ์ุข้าวเหนียวที่ได้รับการปรับปรุงพันธุ์มาจาก
ข้าวเจ้าพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 เม่ือนาไปหุงแล้วข้าวจะนุ่ม มีกลิ่นหอม ทนแล้ง และมีคุณภาพ
การหุงต้มรับประทานดี เป็นข้าวเหนียวท่ีให้ผลผลิตเฉล่ียสูงสุดเป็นอันดับหน่ึง ซึ่งเป็นพันธุ์ข้าว
เหนยี วทีน่ ิยมปลกู กันแพร่หลายในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ

2.2. ข้าวเหนียวเขาวงกาฬสินธ์ุ เป็นข้าวเหนียวที่ปลูกในพื้นที่อาเภอเขาวง อาเภอกุฉินารายณ์
(เฉพาะตาบลนาโท และตาบลหนองห้าง) และก่ิงอาเภอนาคู (เฉพาะตาบลนาคูและตาบลบ่อ
แก้ว) จังหวัดกาฬสินธุ์ ซ่ึงเป็นพ้ืนที่ที่มีแคลเซียมและซิลิกอนสูง อากาศเย็นแห้งน้าน้อย ส่งผลให้
ข้าวเหนียวเขาวงกาฬสินธ์ุมีความนุ่มและหอมมาก เม่ือน่ึงสุกจะหอมและนุ่ม ไม่แฉะติดมือ และ
ขา้ วที่นงึ่ แล้วเมือ่ เก็บไว้ในภาชนะทป่ี ดิ หลายชว่ั โมง จนขา้ วเยน็ ยังคงรักษาความออ่ นนมุ่ ไวไ้ ด้

2.3. ข้าวเหนียวเขี้ยวงู เป็นขา้ วท่ีมีเม็ดเรียวยาว สีขาว และทนทานต่อโรคต่างๆ ไดด้ ี เมื่อนามา
หุงให้สุกเม็ดข้าวท่ีได้จะเหนียวนุ่ม เรียงตัวสวยไม่เละ มีสีขาวในลักษณะเล่ือมเป็นมันและมีกลิ่น
หอมน่ารับประทาน ข้าวเหนียวเขี้ยวงูเป็นพันธ์ุข้าวเหนียวที่มีคุณภาพดีและเป็นสายพันธ์ุหนึ่งท่ี
ได้รับความนิยมในการนามาทาข้าวเหนียวมูน เป็นข้าวท่ีปลูกในทางภาคเหนือ นิยมปลูกกันมาก
ในจงั หวดั เชียงราย

8

2.4. ข้าวเหนียวดาหรือข้าวก่า เมล็ดข้าวมสี ีมว่ งดา และเมลด็ ค่อนข้างแขง็ เค้ียวละเอยี ดยากกว่า
แต่นิยมนามาทาเป็นขนมหวานมากกว่าข้าวอ่ืน ๆ และเป็นข้าวท่ีชาวนายกย่องให้เป็นพญาข้าว
เหนือข้าวพันธุ์อ่นื ๆ ซ่ึงชาวนามีความเชื่อว่าขา้ วก่าจะปกป้องคุ้มครองข้าวพันธอ์ุ ื่นที่อยู่ในท้องนา
ไม่ให้ถูกแมลงกัดกิน ทาให้ผลผลติ ในการเก็บเกีย่ วข้าวไดผ้ ลดี ข้าวก่ายังช่วยป้องกันโรคหัวใจ ลด
คอเลสเตอรอล และยบั ยง้ั การเจรญิ เติบโตของโรคมะเรง็

3. ข้าวขาว ขา้ วขาวท่ีปลูกกนั อยู่โดยท่วั ไปมีหลายพนั ธุ์

3.1. ข้าวเหลืองประทิวชุมพร เป็นข้าวพื้นเมืองดั้งเดิมของอาเภอปะทิว จ.ชุมพร เป็นข้าวพันธ์ุหนักในฤดู
นาปี เก็บเกี่ยวในช่วงเดือนธันวาคม มีจานวนเม็ดตอ่ รวงจานวนมาก และปลกู ในที่ที่เป็นดินเปรี้ยวได้ดี อีก
ทงั้ ยังทนต่อโรคของแมลงไดด้ ้วย ลักษณะเมล็ดมสี ีเหลอื ง เลอ่ื มมัน เมล็ดยาว มีนา้ หนักเมล็ดท่ีดี เม่ือนาไป
หุงแล้วข้าวข้ึนหม้อ จึงเป็นข้าวท่ีชาวนาชุมพรมักนิยมปลูก เพราะปลูกง่าย ได้ผลผลิตท่ีดี เหมาะกับพ้ืนที่
และสภาพอากาศ

3.2. ข้าวเจ๊กเชยเสาไห้ พนั ธุ์ข้าวพน้ื เมอื งคุณภาพดีของอาเภอเสาไห้ จ.สระบุรี ท่มี าของชื่อมาจากช่อื ผนู้ า
สายพนั ธ์ขุ า้ วพันธ์ุนเ้ี ข้ามาในพน้ื ท่ี คือพ่อค้าชาวไทยเช้ือสายจนี ชอ่ื “เจ๊กเชย” ซ่ึงข้าวสายพันธุ์น้มี ีชื่อเสียง
มายาวนานต้ังแต่ต้นรัชสมัยรัตนโกสินทร์ เป็นข้าวท่ีหุงข้ึนหม้อ ไม่แข็งกระด้าง ท่ีสาคัญไม่บูดง่าย และไม่
ยุบตวั เม่อื ราดแกง สามารถแปรรปู เป็นผลติ ภัณฑ์เส้นและขนมได้ดี

4. ขา้ วเพ่ือสุขภาพ ขา้ วพวกน้จี ะเป็นข้าวที่ยังไมไ่ ดผ้ า่ นการขดั สี ขา้ วทไี่ ดจ้ ึงยงั คงคุณคา่ ของวติ ามินและกาก
ใยไว้สูง

4.1. ข้าวกล้อง หรือที่บางคนเรียกกันติดปากว่า ข้าวซ้อมมือหรือข้าวแดง เนื่องจากในสมัยโบราณ
ชาวบ้านใช้วิธีตาข้าวกินกันเอง จงึ เรียกว่า ข้าวซ้อมมือ แต่ปัจจุบันเราใช้เคร่ืองจกั รสขี ้าวแทน จึงเรียกข้าว
ที่สีเอาเปลือกออกน้ีว่า ข้าวกล้อง โดยข้าวกล้องนั้นจะต้องมีส่วนของจมูกข้าวและราข้าวติดอยู่ด้วยเสมอ
ขา้ วกล้องมีเส้นใยสงู มากกว่าขา้ วขาว 3 - 7 เท่า การกินขา้ วกล้องจะได้เส้นใยไปพร้อม ๆ กับสารอาหารท่ี
เป็นประโยชน์ต่อร่างกายสารพัดชนิด และเส้นใยในข้าวกล้องยังทาให้รู้สึกอ่ิมนานกว่าการกินข้าวขาวและ
ไมอ่ ยากกนิ จุบจิก

9

4.2. ข้าวไรซเ์ บอร์รี เป็นผลงานการปรับปรุงสายพนั ธุข์ อง รศ.ดร.อภชิ าติ และทมี นักวิจัยจากศูนย์วจิ ยั พนั ธ์ุ
ข้าว มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์ และความรว่ มมือจากคณะกรรมการวิจยั แห่งชาติ (วช.) โดยเป็นการผสม
ข้ามสายพันธุ์ ระหว่างข้าวเจ้าหอมนิล ซ่ึงเป็นสายพันธ์ุพ่อ + ข้าวขาวดอกมะลิ 105 ซึ่งเป็นสายพันธุ์แม่
ซ่งึ พันธข์ุ า้ วน้ีไดร้ ับการจดทะเบียนเป็นพันธพุ์ ืชใหม่ มีลักษณะเรียวยาว ผิวมนั วาว เปน็ ขา้ วเจ้าทม่ี ีสีม่วงเข้ม
คล้ายกับลูกเบอร์รีที่มีสีม่วงเข้มเม่ือสุก มีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว อีกทั้งยังมีรสชาติหอมมัน
เน้ือสัมผัสเหนียวนุ่ม เน่ืองจากผ่านการขัดสีเพียงแค่บางส่วนเท่าน้ัน ข้าวสายพันธุ์พิเศษสีม่วงน้ีสามารถ
ปลกู ได้ตลอดทั้งปี

4.3. ข้าวมันปู เป็นข้าวที่ชาวจีนเรียกว่า ข้าวแดง หรือช่ือพืน้ เมืองเรียกว่า อั้งคั่ก มลี ักษณะเย่ือหมุ้ เปลือก
ขา้ วเป็นสีแดงแบบสีมันปู จัดเป็นข้าวกลอ้ งหรือข้าวซ้อมมอื ชนิดหนงึ่ มีไขมนั ในปริมาณเดียวกับข้าวกล้อง
ซึ่งสูงกว่าข้าวขัดสีประมาณสองเท่า มีสารทเี่ รียกว่าเคโรทีนท่จี ะเปลี่ยนเปน็ วติ ามินเอในร่างกายสงู กว่าขา้ ว
ขัดสี เมื่อหุงสุกแล้วเนื้อข้าวจะเป็นสีชมพูอ่อน มีกลิ่นหอม เมล็ดนุ่มสวย ไม่แฉะ ดูน่ารับประทาน ใช้
ประกอบอาหารต่าง ๆ ไดอ้ รอ่ ย ไมว่ า่ จะเป็นขา้ วผัด ข้าวอบต่าง ๆ หรอื เคี่ยวเป็นโจ๊ก

4.4. ข้าวสังข์หยดพัทลุง ข้าวที่มีกาเนิดอยู่ในจังหวัดพัทลุง เป็นข้าวที่มีเมล็ดเล็ก เรียว ท้ายงอน เยื่อหุ้ม
เมล็ดจะมีสีแดงถึงแดงเข้ม เม่ือหุงสุกแล้วเมล็ดข้าวจะนุ่ม และจับตัวกันคล้ายข้าวเหนียว ข้าวสังข์หยดมี
คุณค่าทางอาหารสูงกว่าข้าวพันธุ์อื่น ๆ มีเส้นใยสูง ช่วยชะลอความแก่ มีประโยชน์ในการบารุงโลหิต
ปอ้ งกันโรคความจาเส่อื ม และช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเป็นมะเรง็

10

6.ขอ้ มลู เปรยี บเทยี บขา้ วใหมแ่ ละขา้ วเก่า
ข้าวใหม่ คือข้าวท่ีเพ่ิงเก่ียวใหม่จากนาสังเกตว่าเมล็ดข้าวจะขาวใส จมูกข้าวยังติดอยู่กับเมล็ด เวลา

ซาวข้าวน้าจะค่อนข้างใส และหุงไม่คอ่ ยขึ้นหมอ้
ข้าวเก่า คือข้าวที่เก็บไว้นานค้างปีหรือมากกว่า 4-6 เดือนแล้วค่อยนามาขัดสี เมล็ดข้าวจะมีสีขาว

ขนุ่ มีรอยหกั เลก็ น้อย เวลาซาวข้าวน้าจะขาวข่นุ หุงขึ้นหมอ้ เมล็ดขา้ วไมต่ ดิ กันเพราะมียางขา้ วนอ้ ยและแขง็ กว่า
การหุงข้าวใหม่ ควรใส่น้าให้น้อยลง เพราะอย่างที่รู้กันว่าข้าวใหม่จะมีความชื้นอยู่ เวลาหุงในน้าที่

มากไปขา้ วจะแฉะ ใหล้ ดปรมิ าณของน้าลงจะได้ขา้ วทนี่ ุ่มพอดี
การหุงข้าวเก่า ปริมาณน้าต้องมากขึ้นเพราะข้าวเก่าความช้ืนจะน้อย ข้าวมีความแข็งมากกว่าปกติ

จึงตอ้ งเพ่ิมนา้
ข้าวเกา่ จงึ เหมาะกนิ กบั แกงเพราะขา้ วจะไมเ่ ละ ทาขา้ วผดั หรอื ข้าวแช่ สว่ นขา้ วใหมจ่ ะเหมาะกบั การทาขา้ วตม้

ภาพที่ 2.1 แสดงภาพข้าวใหม่และขา้ วเก่า

11

7.ขอ้ มลู เปรยี บเทยี บอตั ราขา้ วสารกับนา้

ภาพที่ 2.2 แสดงภาพปริมาณข้าวสารต่อปริมาณน้า
ภาพท่ี 2.3 แสดงภาพปริมาณข้าวหอมมะลิต่อปรมิ าณน้า

12

ภาพท่ี 2.4 แสดงภาพปริมาณขา้ วซ้อมมือต่อปริมาณนา้
ภาพที่ 2.5 แสดงภาพปริมาณข้าว กข กบั ข้าวไรซ์เบอร์รตี่ อ่ ปริมาณนา้

13

ภาพท่ี 2.6 แสดงภาพปริมาณข้าวสารตอ่ ปริมาณน้า
ภาพที่ 2.7 แสดงภาพสดั ส่วนการหุง

14

8.การหงุ ขา้ ว

8.1วธิ ีหุงข้าวหอมมะลิ
อตั ราสว่ น การหุงขา้ วหอมมะลิ ข้าว 1 สว่ น : น้า 1.2 ส่วน (หรือน้ิวชี้จุ่มลงไปในข้าว แลว้ เทนา้ ใหพ้ อดีกบั

ข้อแรกของน้วิ ชี้)
ข้ันตอนการหุงขา้ วหอมมะลิ
1. ตวงข้าวสารใส่หมอ้ หุงข้าว จากน้ันใส่น้าเปล่าให้ท่วมข้าว แล้วใชม้ ือซาวข้าวใหท้ ั่ว เพื่อล้างข้าวจากส่ิง
สกปรกหรอื ฝนุ่ ท่ีตดิ ข้าวแลว้ เทน้าออก ทาซ้าประมาณ 2 รอบ
2. ตวงน้าให้ได้ปริมาณที่กาหนด ใส่เกลือลงไปเล็กน้อย และใส่น้าส้มสายชู หรือน้ามะนาวลงไป 3-4
หยด
3. เช็ดกน้ หมอ้ ใหแ้ หง้ แลว้ กดสวติ ชห์ ุงข้าวได้
4. เมื่อหุงข้าวสุกแล้ว ควรปล่อยให้ข้าวระอุอยู่ในหม้ออย่าเพ่ิงเปิดฝา ประมาณ 10-15 นาที จะได้ข้าว
หอม น่มุ นา่ รบั ประทานมากข้ึน

8.2วธิ หี ุงขา้ วเสาไห้

อตั ราส่วน การหงุ ข้าวเสาไห้ (ใหอ้ ร่อยนุม่ เหมอื นข้าวหอมมะล)ิ ข้าวขาว 3 ส่วน + ข้าวเหนยี ว 1 ส่วน :
น้า 1.5 ส่วน (หรือนวิ้ ชจี้ ุม่ ลงไปในขา้ วเทนา้ ใหพ้ อดกี ับข้อแรกของนวิ้ ช้)ี

ขนั้ ตอนการหุงขา้ วเสาไห้
1. ตวงข้าวสารใส่หมอ้ หุงข้าว จากนนั้ ใสน่ า้ เปลา่ ใหท้ ่วมขา้ ว แล้วใช้มือซาวขา้ วให้ท่วั เพ่อื ล้างขา้ วจากสง่ิ
สกปรกหรือฝ่นุ ท่ีติดข้าวแลว้ เทนา้ ออก ทาซ้าประมาณ 2 รอบ
2. ตวงน้าให้ได้ปริมาณทีก่ าหนด ใส่เกลือลงไปเล็กน้อย และใส่นา้ สม้ สายชู หรอื นา้ มะนาวลงไป 3-4
หยด (ถ้าอยากให้ขา้ วหอมขน้ึ สามารถใส่ใบเตยลงไปในหม้อตอนหุงได้)
3. เชด็ ก้นหมอ้ ใหแ้ ห้ง แล้วกดสวติ ชห์ ุงขา้ วได้
4. เมอ่ื หุงขา้ วสุกแล้ว ควรปลอ่ ยให้ขา้ วระอุอยู่ในหม้ออยา่ เพง่ิ เปิดฝา ประมาณ 10-15 นาที จะได้ขา้ ว
หอม นุ่มน่ารบั ประทานมากข้ึน

15

8.3วิธีหุงขา้ วกล้อง / ข้าวไรซ์เบอรร์ ่ี
อตั ราสว่ น การหุงข้าวกล้อง / ขา้ วไรซ์เบอร์รี่ ขา้ วกล้อง 1 ส่วน : น้า 2 ส่วน
ขน้ั ตอนการหุงขา้ วกลอ้ ง / ข้าวไรซเ์ บอร์ร่ี
1. ตวงข้าวสารใส่หม้อหุงข้าว จากน้ันใส่น้าเปล่าให้ท่วมข้าว แล้วใช้มือซาวข้าวให้ท่ัว เพื่อล้างข้าวจากสิ่ง
สกปรกหรือฝนุ่ ทต่ี ดิ ข้าวแลว้ เทน้าออก ทาซ้าประมาณ 2 รอบ
2. ตวงน้าให้ได้ปริมาณที่กาหนด ใส่เกลือเล็กน้อย ตามด้วยน้าส้มสายชู หรือน้ามะนาวลงไป 3-4 หยด
และใสน่ า้ มนั พืชลงไปประมาณครึง่ ชอ้ น
3. เช็ดก้นหมอ้ ใหแ้ หง้ แลว้ กดสวิตช์หงุ ขา้ วได้
4. เมื่อหุงขา้ วสุกแลว้ ควรปล่อยให้ขา้ วระออุ ยู่ในหม้ออย่าเพง่ิ เปิดฝา ประมาณ 10-15 นาที จะไดข้ า้ วหอม
นุ่มนา่ รบั ประทานมากขนึ้

ภาพท่ี 2.8 แสดงภาพวิธีการหุงขา้ วด้วยหมอ้ หุงขา้ วไฟฟ้า

16

บทที่ 3

วธิ ดี าเนินการ

1.การดาเนนิ งาน

1.1ขน้ั ระบปุ ัญหา ตวั ชว่ ยในการหงุ ขา้ วประดิษฐ์อุปกรณ์ตวงปรมิ าณขา้ วกับน้า เพื่อแก้ปัญหาการหุงข้าว
ไมส่ ุก (ข้าวดบิ ) หรือการหงุ ข้าวเเฉะ(ข้าวเปียก

1.2ขน้ั รวบรวมแนวคดิ ทเี่ กย่ี วขอ้ ง

ลกั ษณะรปู แบบสงิ่ ของท่ีนามาเปน็ รปู แบบในการออกแบบ
- เครอ่ื งกดนา้ เย็น/นา้ ร้อน
- เครื่องบดกาแฟ
- ปั้มหลอดแกว้ หมุนมือ
- ทาวเวอรเ์ บยี ร์
- กล่องใส่ธญั พืช
- ถังกดนา้
- ขวดโหลพลาสติก

ศึกษาขอ้ มลู ที่เกย่ี วขอ้ ง
- ข้อมลู ชนดิ ข้าว
- ข้อมูลประโยชน์ของข้าว
- ข้อมลู การเปรียบเทยี บข้าวใหม่กบั ขา้ วเกา่
- ข้อมลู การเปรียบเทยี บอัตราข้าวสารกบั น้า
- วธิ ีการหงุ ข้าว

17

1.3ขน้ั ออกแบบวธิ กี ารแกป้ ญั หา
จากการศึกษาและเก็บรวบรวมขอ้ มลู สามารถออกแบบสิ่งประดษิ ฐ์ได้ดังน้ี
1.3.1. แบบท่ี 1 แบบทรงปริซึมสีเ่ หล่ยี ม เปน็ การนาแผ่นอะคริลิคมาประกอบตามแบบที่กาหนด
ไว้

ภาพที่ 3.1 แสดงภาพแบบท่ี 1
1.3.2. แบบที่ 2 แบบทรงพีระมิดหวั ตัดฐานส่ีเหลี่ยมกลบั เปน็ การนาแผน่ อะคริลิคมาประกอบ
ตามแบบท่ีกาหนดไว้

ภาพที่ 3.2 แสดงภาพแบบที่ 2

18

1.3.3. แบบท่ี 3 แบบทรงขวดโหล เป็นการนาขวดโหลพลาสตกิ 2 ชิน้ มาประกอบตามแบบท่ี
กาหนดไว้

ภาพที่ 3.3 แสดงภาพแบบที่ 3
1.3.4. แบบที่ 4 แบบทรงกล่องธญั พืชและถงั น้า เปน็ การนากลอ่ งธัญพืชและถังกดน้ามา
ประกอบตามแบบที่กาหนดไว้

ภาพท่ี 3.4 แสดงภาพแบบที่ 4

19

1.4ขนั้ วางแผนและดาเนนิ การแกป้ ญั หา
เลือกแบบที่ 4 แบบทรงกล่องธัญพชื และถังน้า เปน็ การนากลอ่ งธญั พชื และถังกดน้ามาประกอบตามแบบ

ทีก่ าหนดไว้

ภาพที่ 3.5 แสดงภาพแบบท่ี 4

1.4.1. เตรยี มอปุ กรณ์ท่เี ก่ียวข้องทาส่วนกล่องปล่อยขา้ ว ถงั ปล่อยน้า
1.กล่องธัญพืช
2.ถังกดนา้ 5 ลิตร
3.แผน่ อะครลิ ิค
4.เล่ือยตดั
5.คัดเตอร์
6.ไมบ้ รรทัด
7.ดินสอ
8.ฟวิ เจอรบ์ อร์ด

ภาพที่ 3.6 แสดงภาพอุปกรณ์

20

9.คอ้ น
10.ตะปู
11.ไม้กระดาน
12.ขวดใส่น้าพกพาพลาสตกิ มีฝาปดิ

ภาพท่ี 3.7 แสดงภาพอปุ กรณ์
1.4.2. วางแผนการดาเนินงาน/วธิ ดี าเนนิ การ
1.สารวจกล่องใส่ธญั พชื บริเวณฝาปดิ ลกั ษณะดังน้ี

ลักษณะและขนาดแผนอะคริลิด
ที่จะตัด

ภาพท่ี 3.8 แสดงภาพกล่องธัญพชื

21

โดยเมอื่ ได้สารวจ คิดวา่ จะตดั แผ่นอะคริลิคใหม้ ีขนาดพอดีกับฝาปิดกลอ่ งธญั พืช
2.ออกแบบแผน่ อะคริลิคตามขนาดไดด้ ังน้ี (ออกแบบลงบนฟิวเจอร์บอดร์ดก่อน)

ขนาดแผนอะคริลิดที่จะตัด

ตดั ฟิวเจอรบ์ อดร์ดตามลกั ษณะและขนาดทต่ี ้องการเผอื่ นาไปเปรียบเทียบกบั บริเวณฝาปิดกลอ่ งธญั พืช

22

เมอื่ ไดข้ นาดตามต้องการ ให้ตัดแผน่ อะครลิ ิคตามแบบ

4.ตัดแต่งฝาปิดกล่องธัญพชื เพ่ือใหส้ อดแผน่ อะคริลิคได้
ตัดส่วนที่เป็นขอบฝาปดิ ออก 1 ฝ่งั บรเิ วณสว่ นโคง้ เพ่อื ใหส้ อดแผ่นอะคริลิคได้ ดังรูป

23

5.ตดั แต่งกล่องธญั พืชเพือ่ ใหส้ อดแผ่นอะครลิ ิคได้
ตดั สว่ นทเ่ี ปน็ ขอบกลอ่ งออก 1 ฝ่งั บริเวณสว่ นโคง้ เพ่ือให้สอดแผน่ อะครลิ ิคได้ ดงั รปู

24

6.สารวจกล่องฐานกลอ่ งธญั พืช เพือ่ เสริมท่ใี ส่ขา้ ว ลกั ษณะดังนี้

เจาะรูบริเวณนี้

โดยเจาะรขู นาดเทา่ กับขวดที่เตรียมไว้ (ขวดใส่น้าพกพาพลาสติกมีฝาปิด)

ช่องเติมข้าว

ช่องปล่อยข้าว

25

นาขวดมาตดั ครึ่ง ขนาดความสงู 4.5 เซนตเิ มตร ดาเนินการตามข้นั ตอนได้ดงั รูป

ภาพที่ 3.9 แสดงผลสาเร็จกล่องปลอ่ ยขา้ ว

26

1.4.3. วางแผนการดาเนนิ งาน/วิธดี าเนนิ การ ทาฐานรองตั้งกล่องปล่อยข้าว ถังปล่อยน้า
โดยฐานมีรูปแบบดงั น้ี

ภาพที่ 3.10 แสดงฐานรองต้งั กลอ่ งปล่อยขา้ ว ถังปล่อยน้า

27

1.4.4. วางแผนการดาเนนิ งาน/วิธดี าเนนิ การ เทยี บระดบั ข้าว 1 ถ้วย จากกล่องปล่อยขา้ ว
1.4.5. วางแผนการดาเนนิ งาน/วิธีดาเนนิ การ เทียบระดับน้า 1 ถ้วย จากถังปล่อยนา้
1.4.6. ผลงานประดษิ ฐ์

ภาพท่ี 3.11 แสดงผลสาเรจ็ กล่องปลอ่ ยข้าว ถงั ปลอ่ ยน้า

28

1.5ขนั้ ทดสอบ ประเมนิ ผล และปรบั ปรุงวธิ กี ารแกป้ ญั หาหรอื ชน้ิ งาน
ประดิษฐช์ ้ินงานตามแบบไดด้ ังนี้

ภาพท่ี 3.12 แสดงผลสาเร็จกลอ่ งปล่อยข้าว

1.เมือ่ ทาการทดสอบปรากฏว่า ปลาวาฬก้นั ขา้ วมีปัญหา เน่ืองจากปลาวาฬกนั้ ขา้ วท่ีทาขึ้น ไม่ได้มตี วั ลอ็ ค
เพื่อกาหนดระยะทสี่ ามารถดึงปลาวาฬกัน้ ข้าวออก ทาใหเ้ กิดปัญหา คอื ดึงปลาวาฬกนั้ ข้าวหลุดออกจากตัวกล่อง
ธญั พืช จึงคดิ แก้ปัญหา โดยออกแบบให้ปลาวาฬกั้นขา้ วมีตัวล๊อค เพื่อให้กาหนดระยะท่ีเลอื่ นเขา้ -ออกได้ ออกแบบ
ไดด้ ังนี้

29

จากนน้ั ดาเนินการแก้ไขปญั หา ตามทอ่ี อกแบบไว้ ได้ดังนี้
1.วดั ขนาดส่วนโค้งจากฝาปิดกล่องธญั พืช ไดด้ ังรูป

2.ตดั ตามขนาดทเ่ี ทยี บได้

3.นาไปเทยี บกับแผ่นปลาวาฬกน้ั ขา้ ว

30

4.เมอ่ื ได้ตามต้องการ ใหต้ ดั รูปแบบจากแผน่ อะครลิ ิคอีกครั้งแล้วนามาติดทป่ี ลาวาฬกั้นข้าว

2.ทาการทดลองหงุ ข้าวโดยใชส้ ิ่งประดิษฐท์ ่ีทาขึน้
ผลปรากฏว่าสามารถใช้เป็นอุปกรณต์ วั ช่วยในการหุงข้าวและแก้ไขปญั หาการหงุ ขา้ วไมส่ ุก(ข้าว

ดิบ) หรอื ขา้ วแฉะ(ข้าวเปียก) ได้ อีกทงั้ เด็กกส็ ามารถใช้สิ่งประดิษฐ์นไี้ ด้เชน่ กัน
1.6ขนั้ นาเสนอวธิ กี ารแกป้ ญั หา ผลการแกป้ ญั หาหรอื ชนิ้ งาน

1.6.1. จัดทารูปเลม่ โครงงาน กล่องปล่อยขา้ ว ถงั ปล่อยนา้
1.6.2. จดั ทา Power Point เสนอขั้นตอนกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรมของ

โครงการ กลอ่ งปล่อยข้าว ถงั ปลอ่ ยน้า
1.6.3. อดั วิดโี อเสนอขนั้ ตอนกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรมของ

โครงการ กลอ่ งปล่อยข้าว ถังปล่อยน้า

31

บทที่ 4
ผลการดาเนนิ งาน

จากการประดิษฐ์กล่องปล่อยข้าว ถังปล่อยน้า ทาให้ได้เรียนรู้วิธีการนาสิ่งของท่ีมีอยู่ในชีวิตประจาวันมา
แก้ไข ปรับปรุง ดัดแปลง เพ่ือนาส่ิงเหล่าน้ันมาแก้ไขปัญหาในชีวิตประจาวันท่ีเราพบเจอ กระบวนการทา
สิ่งประดิษฐ์ข้างต้น เรียนรู้จากการทาโครงงานสะเต็มดาเนินงานตามขั้นตอนของกระบวนการออกแบบเชิง
วศิ วกรรมตงั้ แตเ่ ร่มิ ต้นจนสิ้นสดุ การทาโครงงาน

การดาเนินการได้ปฏิบัติเป็นลาดับข้ันตอนจนกระทั่งเสร็จสมบูรณ์ได้ส่ิงประดิษฐ์ตรงตามเป้าหมาย
เมื่อนาไปทดสอบเพ่ือแก้ไขปัญหาการหุงข้าวไม่สุก(ข้าวดิบ) หรือข้าวแฉะ(ข้าวเปียก) ตามวัตถุประสงค์ที่ต้ังไว้
วิธีการคือการหุงข้าวโดยการทดลองดาเนนิ การโดย การเลื่อนปลาวาฬกั้นข้าวที่กล่องปลอ่ ยข้าวให้ข้าวลดลงตรงกับ
ระดับท่ีทาสัญลักษณ์ไว้ นาข้าวไปล้างน้าสะอาดจากนั้น กดน้าจากถังน้า คือกดให้ระดับน้าลงมาตรงกับระดับท่ีทา
สญั ลักษณ์ไว้ โดยอัตราส่วนท่ีทาสญั ลักษณ์ไว้ จะเป็นข้าว 1 ส่วน ใช้นา้ 1 ส่วน ได้คานวณปรมิ าณนา้ ท่ีใช้ในการหุง
ขา้ ว 1 ถ้วย โดยใชถ้ ้วยตวง

ผลการทดสอบคือ ขา้ วที่ไดส้ กุ และไมแ่ ฉะ สามารถใช้เป็นอุปกรณ์ในการหุงขา้ วและแก้ไขปัญหาการหงุ ข้าว
ไม่สุก(ข้าวดิบ) หรือข้าวแฉะ(ข้าวเปียก) ได้ ส่ิงประดิษฐ์ที่ประดิษฐ์ข้ึน คือ กล่องปล่อยข้าว ถังปล่อยน้า ใช้งานได้
ง่ายและสะดวก เด็กสามารถใช้สิ่งประดิษฐ์ที่สร้างขึ้นในการหุงข้าวเพ่ือแบ่งเบาภาระผู้ปกครองและฝึกความ
รบั ผิดชอบไดเ้ ชน่ กัน

32

บทที่ 5
สรปุ และอภปิ รายผล

5.1 สรปุ ผลการดาเนินการ

จากการประดิษฐ์ กล่องปล่อยข้าวถังปล่อยน้า ทาให้ได้เรียนรู้การทาโครงงานสะเต็มโดยดาเนินงานตาม
ขนั้ ตอนของกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรมตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดการทาโครงงาน กลอ่ งปล่อยขา้ วถังปลอ่ ยน้า
ทป่ี ระดษิ ฐ์ขึ้นสามารถแก้ไขปัญหาการหุงข้าวไม่สุก(ข้าวดิบ) หรือหุงข้าวแฉะ (ข้าวเปียก) เพิ่มความสะดวกสบายใน
การหุงข้าว และโดยกล่องปล่อยข้าวถงั ปล่อยน้า เหมาะมกับทุกช่วงวัย โดยเฉพาะเดก็ ๆ ที่ผู้ปกครองตอ้ งการฝกึ ฝน
ให้มีความรับผิดชอบในหน้าที่ของตัวเอง เร่ิมต้นท่ีงานบ้าน คือการหุงข้าว เด็กสามารถใช้ส่ิงประดิษฐ์ กล่องปล่อย
ข้าวถงั ปล่อยนา้ ไดเ้ นื่องจากใชง้ านได้ง่ายและสะดวก

5.2 อภปิ รายผล

กล่องปล่อยข้าวถังปล่อยน้า สามารถใช้เป็นอุปกรณ์ในการหุงข้าวและแก้ไขปัญหาการหุงข้าวไม่สุก(ข้าว
ดบิ ) หรอื ข้าวแฉะ(ขา้ วเปียก) ได้เปน็ อย่างดแี ละเด็กสามารถใชไ้ ด้

5.3 ขอ้ เสนอแนะ

ประดษิ ฐ์ให้มขี นาดใหญ่ขน้ึ เพื่อจานวนครัง้ การใชท้ ม่ี ากข้นึ



บรรณานกุ รม

จ๋ิวหิวโซ. 2564. 12สายพันธุ์ข้าวและประเภทของข้าวในประเทศไทย. สืบค้น 2564, กันยายน 7,
จาก https://www.wongnai.com/food-tips/12-rice-in-thailand?ref=ct

สานักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดสุรินทร์. 2563. ข้าว ประโยชน์ของข้าวไทย . สืบค้น 2564,
กันยายน 7, จาก https://www.opsmoac.go.th/surin-local_wisdom-preview-422891791846

ศิ ริ ไร ซ์ . 2 5 6 3 . ข้ า ว เก่ า ข้ า ว ใ ห ม่ . สื บ ค้ น สื บ ค้ น 2 5 6 4 , กั น ย า ย น 7 , จ า ก
https://www.siririce.net/article/16/

MEEKAO. 2563. วิธีหุงข้าว แบบต่างๆ ข้าวสวย ข้าวกล้อง ข้าวเหนียว อร่อยได้แบบมือโปร .
สบื ค้น 2564, กนั ยายน 7, จาก https://food.trueid.net/detail/yayvmz7LVeoP



ภาคผนวก

33

1.การเทยี บสว่ นระหวา่ งขา้ วและนา้ โดยขา้ ว 1 ถว้ ย ใชน้ า้ เทา่ ไร โดยการใชถ้ ว้ ยตวงเทยี บ
เทยี บระดับขา้ ว 1 ถ้วย กบั กล่องธญั พชื เพ่อื ทาสัญลกั ษณ์

34

เทยี บระดับนา้ ท่ีใช้ในการหุงข้าว 1 ถ้วย กบั ถงั น้าเพอ่ื ทาสญั ลกั ษณ์

2.การทดสอบสง่ิ ประดษิ ฐ์ โดยการนาไปใชใ้ นการหงุ ข้าว

35

ข้าวขาว
ขา้ วขาวผสมข้าวเพ่ือสุขภาพ

36

ขา้ วเพื่อสุขภาพ
ดาเนินการดงั นี้
1 เล่อื นปลาวาฬกัน้ ขา้ วเพ่ือให้ข้าวปลอ่ ยลงภาชนะท่เี ตรยี มไว้ โดยใหข้ า้ วลดลง 1 ส่วนซ่งึ จะตรงกับสัญลักษณท์ ที่ า
ไว้

37

2.นาข้าวท่ีได้ไปลา้ งน้าสะอาด

3.กดนา้ จากถงั โดยให้ระดับน้าลดลง 1 สว่ นซึง่ จะตรงกบั สัญลักษณ์ทท่ี าไว้

4.นาข้าวหุง

38

5.ผลการดาเนินการ




Click to View FlipBook Version