The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวข้องกับศาสนาสากล

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ornrawee.cream, 2021-10-28 23:17:17

ศาสนาสากล

ข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวข้องกับศาสนาสากล

With books, you can

study about

ศาสนาสากล

ศาสนาสากล

ศาสนาคริสต์

พิธีกรรมที่สำคัญ วันสำคัญของศาสนา
ข้อมูลทั่วไปของศาสนา
หลักธรรมสำคัญ

ศาสนาคริสต์

เป็นศาสนาประเภทเอกเทวนิยม นับถือพระเจ้าองค์เดียว

ศาสดา : พระเยซูคริสต์ *เป็นทั้งศาสดาและภาคหนึ่งของพระเจ้า*

พระเจ้า : พระยะโฮวา (และนับถือรวมไปถึงพระเยซูคริสต์ว่าเป็นภาคหนึ่งของพระเจ้าด้วย

คัมภีร์ : คัมภีร์ไบเบิ้ล ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ภาค คือ
1)ภาคพัธสัญญาเดิม
2)ภาคพันธสัญญาใหม่

นิกาย : มี 3 นิกายสำคัญ
1.นิกายโรมันคาทอลิก (คริสตัง)
2.นิกายโปรแตสแตนท์(คริสเตียน)
3.นิกายโธดอกซ์

หลักธรรมที่สำคัญ

1.เน้นหลักความรัก เสียสละ การให้
2.หลักตรีเอกานุภาพ(Trinity) เชื่อว่าพระเจ้าสูงสุดมีเพียงองค์เดียว แบ่งออกเป็น 3 ภาค

1.พระบิดา 2.พระบุตร 3.พระจิต(พระวิญญาณบริสุทธิ์)

วันสำคัญทางศาสนา

วันอาทิตย์ ของทุกสัปดาห์ - วันสะบาโต (Sabbath) - วันบริสุทธิ์ หยุดเพื่อพักผ่อนและร่วมทำกิกรรมที่โบสถ์
21 มีนาคม ถึง 25 เมษายน - วันอีสเตอร์ (Easter) และวันสมโภชปัสกา (Pasqua)
- สมโภชการกลับคืนชีพของพระเยซู และตรงกับการระลึกถึง เหตุการณ์ที่พระเจ้าทรงนำชาวยิวออกจากการ
เป็นทาสในอียิปต์

25 ธันวาคม - วันคริสต์มาส (Christmas) - วันสมโภชการเกิดของพระเยซู

ศาสนาคริสต์

พิธีกรรมที่สำคัญ

1. พิธีบัพติศมาหรือศีลล้างบาป เป็นพิธีแรกที่คริสตชนต้อง
รับ โดยบาทหลวงจะใช้น้ำศักดิ์สิทธิ์เทลงบนศีรษะพร้อมเจิม

น้ำมันคริสมาที่หน้าผาก

2. พิธีมหาสนิทศักดิ์สิทธิ์หรือศีลมหาสนิท เป็นพิธีกรรม
รับศีลโดยรับขนมปังและเหล้าองุ่นมารับประทาน โดย

ความเชื่อว่าพระกายและพระโลหิตของพระเยซู

3. ศีลอภัยบาป เป็นการสารภาพบาปกับพระเจ้าโดยผ่าน
บาทหลวง บาทหลวงจะเป็นผู้ตักเตือนสั่งสอนไม่ให้ทำบาปนั้นอีก

และทำการอภัยบาปให้ในนามพระเจ้า

4. ศีลกำลัง เป็นพิธีรับศีลโดยการเจิมหน้าผาก เพื่อยืนยัน
ความเชื่อว่าจะนับถือศาสนาคริสต์ตลอดไปและได้รับ
พระพรของพระจิต ทำให้เข้มแข็งในความเชื่อมากขึ้น

5. ศีลสมรส เป็นพิธีประกอบการแต่งงาน โดยบาทหลวงเป็น
พยาน เป็นการแสดงความสัมพันธ์ว่าจะรักกันจนกว่าชีวิตจะหาไม่

6. ศีลอนุกรม เป็นพิธีสำหรับการบวชเป็นนักบวช
ได้แก่ มุขนายก บาทหลวง และพันธบริกร

7. ศีลเจิมคนไข้ เป็นพิธีเจิมคนไข้โดยบาทหลวงจะเจิมน้ำมันลงบนหน้า

ผากและมือทั้งสองข้างของผู้ป่วย ให้ระลึกว่าพระเจ้าจะอยู่กับตนและให้

แหล่งที่มา : พลังบรรเทาอาการเจ็บป่วย

http://courseware.npru.ac.th/admin/files/20170116113140_b89a262c7475bb6706455118d685d15a.pdf

https://sites.google.com/site/irajew09/sasn-sthan/phithikrrm-sakhay-ni-sasna-khrist

ศาสนาสากล

ศาสนาอิสลาม

นิกายของศาสนา หลักศรัทธา 6 ประการ
ข้อมูลทั่วไปของศาสนา
หลักปฏิบัติ 5

แหล่งที่มา : https://th.m.wikipedia.org/wiki/ศาสนาอิสลาม

ศาสนาอิสลาม

มาทำความรู้จักศาสนาอิสลามกันเถอะ

ศาสนาอิสลามคืออะไร

ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาเอกเทวนิยม คือมีพระเจ้า
พระองค์เดียวนั่นคือ "พระอัลลอฮ" ไม่มีนักบวช มีศาสดาคือ
นบีมูฮัมหมัด และมีคัมภีร์เป็นคัมภีร์อัลกุรอาน

นิกาย มี 3 นิกาย

1.ซุนนี:ยึดมั่น+ทำตามจารีตการใช้ชีวิตของศาสดาอย่างเคร่งครัด
หลังจากการตายของศาสดาก็ยอมรับผู้นำ4คน *แพร่หลายที่สุด

2.ชีอะห์:นับถือท่านอาลี+ลูกหลานของท่านว่าเป็นผู้นำศาสนา
*แพร่หลายในอิหร่าน อิรัก เยเมน

3.วาฮาบีย์:เป็นนิกายใหม่สุด เน้นความสำคัญของคัมภีร์และห้ามตีความแก้ไข
*แพร่หลายใน ซาอุดิอาระเบีย คูเวต

หลักศรัทธา 6 ประการ

1.พระอัลลอฮ=มีจริง และเป็นพระเจ้าสูงสุดเพียงพระองค์เดียว
2.ศาสดา=นบี or รอซูล
3.คัมภีร์ทั้งหลาย
4เทวทูต(มลาอีกะห์) เทพบริวารของพระอัลลอฮ
5.วันพิพากษาโลก(วันกียาะห์)
6.กฎสภาวะแห่งพระอัลลอห์=กฎธรรมชาติ(ฤดูต่างๆ) กฎแห่งกรรม

หลักปฏิบัติ 5 ประการ เป้าหมาย

1.ปฏิญาณตน=นับถือพรอัลลอฮสูงสุดพระองค์เดียว การเข้าถึงพระอัลลอฮ
*ไม่เชื่อเรื่องเวียนว่ายตายเกิด
2.ละหมาด=วันละ5ครั้ง นมัสการ+นอบน้อมต่อศาสดาวันละ5ครั้ง

☀️ ☀️3.ถือศีลอด=เดือรอมฎอน โดยจะอดอาหารตั้งแต่ ขึ้น- ตก

4.บริจาคซะกาต=ให้ทาน คนรวยช่วยคนจน

5.พิธีฮัจญ์=ไปทำที่นครเมกกะ ซาอุดิอาระเบีย *ทำเฉพาะคนที่พร้อม

แหล่งที่มา : https://th.m.wikipedia.org/wiki/ศาสนาอิสลาม

ศาสนาสากล

ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู

ประวัติความเป็นมา คัมภีร์ในศาสนา
ข้อมูลทั่วไปของศาสนา
หลักธรรมสำคัญ

แหล่งที่มา : องค์ความรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมระดับพื้นฐาน(อ.ปัญญา รุ่งเรือง)

ข้อมูลทั่วไปของศาสนา

เป็นศาสนาประเภทพหุเทวนิยม
ไม่ปรากฎพระนามของศาสดา
เนื่องจากศาสนามีความเก่าแก่มาก
มีพระเจ้า คือ ตรีมูรติ ได้แก่ พระพรหม
พระศิวะ และพระนารายณ์
เป้าหมายสูงสุด คือ โมกษะ

สัญลักษณ์ประจำศาสนา คือ โอม
เป็นคำย่อมาจาก อ. อุ. ม. หมายความว่าพระเจ้าทั้ง ๓ คือ อ (อะ)หมายถึง พระศิวะ เพราะมาจากเสียง
สุดท้ายของคำว่า พระศิวะ อุ หมายถึง พระวิษณุ เพราะมาจากเสียงสุดท้ายของคำว่า พระวิษณุ ม (มะ)
หมายถึง พระพรหม เพราะ มาจากเสียงสุดท้ายของคำว่า พระพรหมมะ (โอม) จึงเป็นคำสูง

แหล่งที่มา : องค์ความรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมระดับพื้นฐาน(อ.ปัญญา รุ่งเรือง)

ความเป็นมาของศาสนา

ศาสนาพราหมณ์-ฮินดูแบ่งออกเป็น 3 ยุคใหญ่ๆ ได้แก่
1.ยุคพระเวท

เป็นยุคที่ชาวอารายัน(ผิวขาว) อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในอินเดีย โดยมีการขับไล่ชาว
บ้านพื้นเดิมที่เรียกว่า ชาวดราวิเดียนออกไป โดยในยุคนี้ชาวอารยันนับถือและปฏิบัติตาม
คัมภีร์พระเวท ซึ่งเชื่อว่าเป็นคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ที่พวกพราหมณ์ได้ยินมาจากพระเจ้า และชาวอารยัน
ยังนับถือปรากฏการณ์ต่างๆทางะรรมชาติเป็นพระเจ้าของตน

2.ยุคพราหมณ์หรือยุคมหากาพย์
เป็นยุคที่มีการนับถือพระพรหมเป็นพระเจ้าสูงสุด(ปชาบดี) ในยุคนี้พราหมณ์เป็นผู้

ผูกขาดการทำพิธีกรรมต่างๆในสังคม และยังเป็นยุคที่ชาวอินเดียให้ความสำคัญกับ
วรรณกรรม 2 เรื่อง คือ รามายณะและมหาภารตะ ซึ่งทั้งสองเรื่องสอนเรื่องการทำหน้าที่
ของบุคคล โดยรามายณะได้เผยแพร่เข้ามาสู่ประเทศไทย แต่มหาภารตะไม่ได้เข้ามา

3.ยุคฮินดู
ในสมัยราชวงศ์คุปตะ ได้มีการฟื้นฟูศาสนาพราหมณ์ให้เจริญรุ่งเรืองอีกครั้งหนึ่ง หลัง

จากที่พระพุทธศาสนาเข้ามามีบทบาทต่อวิถีชีวิตในอินเดีย โดยยุคฮินดูเป็นสมัยที่มีปรัชญา
ฮินดู มีความเชื่อเกี่ยวกับพระตรีมูรติเป็นสิ่งสูงสุด

แหล่งที่มา : องค์ความรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมระดับพื้นฐาน(อ.ปัญญา รุ่งเรือง)

คัมภีร์ในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู

1.คัมภีร์พระเวท หรือ ไตรเวท มีเนื้อหา 3 ส่วน ดังนี้
- คัมภีร์ฤคเวท : เป็นส่วนที่มีความเก่าแก่ที่สุดในคัมภีร์พระเวท เป็นบทสวดต่างๆ เพื่อบูชา
สรรเสริญพระเจ้า
- คัมภีร์ยชุรเวท : เป็นบทร้อยกรองที่ใช้ในการบวงสรวงต่างๆ เช่น การบูชายัญ(ยัญชพิธี)
- คัมภีร์สามเวท : เป็นบทสวดสำหรับประกอบพิธีกรรมต่างๆ เช่น บทสวดในการถวาย
น้ำโสมให้พระอินทร์
- คัมภีร์อาถรรพเวท : เป็นบทที่เพิ่มขึ้นมาทีหลัง เป็นบทคาถาต่างๆเน้นไปทางไสยศาสตร์

2.คัมภีร์ภควัทคีตา
เป็นสุดยอดของวรรณกรรมและถือเป็นหัวใจของหลักปรัชญาฮินดุ มีเนื้อหาเกี่ยวกับ

มหากาพย์เรื่อง มหาภารตะซึ่งเป็นสงครามระหว่าง 2 ตระกูล โดยเนื้อหาหลักจะสอนเรื่อง
การทำหน้าที่ของแต่ละบุคคลในวรรณะ

3.คัมภีร์พระธรรมศาสตร์
เป็นคัมภีร์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับการปกครองและกฎหมาย ซึ่งอาณาจักรอยุธยารับมาจาก

ชาวมอญและนำมาปรับใช้ในการปกครองอาณาจักร ทำให้หลักกฎหมายของอยุธยามีพื้นฐาน
มาจากคัมภีร์พระธรรมศาสตร์

นอกจากนี้คัมภีร์ในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่
- คัมภีร์ศรุติ คือ คัมภีร์ที่เกิดจากการรับฟังเนื้อหาคำสอนมาจากพระเจ้าโดยตรง เช่น คัมภีร์พระเวท
- คัมภัร์สมฤติ คือ คัมภีร์ที่มนุษย์สร้างหรือรวบรวมเนื้อหาขึ้นมาเอง เช่น คัมภีร์พระธรรมศาสตร์

แหล่งที่มา : องค์ความรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมระดับพื้นฐาน(อ.ปัญญา รุ่งเรือง)

นิกายในศาสนา
พราหมณ์-ฮินดู

1.นิกายไวศณพ
ศาสนิกชนที่นับถือนิกายนี้จะนับถือพระวิษณุหรือพระนารายณ์เป็นเทพสูงสุด มีความ

เชื่อเกี่ยวกับการอวตารลงมาปราบกลียุคของพระนารายณ์ หรือ นารายณ์ 10 ปาง เช่น
กฤษณาสตาร รามาตาร พุทธาวตาร

2.นิกายไศวะ
ศาสนิกชนที่นับถือนิกายนี้จะนับถือพระศิวะหรือพระอิศวรเป็นเทพสูงสุด

มีการบูชาศิวลึงค์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการกำเนิด

3.นิกายศักติ
ศาสนิกชนที่นับถือนิกายนี้จะนับถือชายาของเทพ คือ พระนางปารวตี พระนางลักษมี

พระนางสุรัสวตี ชาวฮินดูเชื่อกันว่าพระตรีศักติเปรียบเสมือนร่างเพศหญิงของพระตรีมูรติ

4.นิกายคณะพัทยะ
ศาสนิกชนที่นับถือนิกายนี้จะนับถือพระพิฆเนศวร ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งศิลปะวิทยาการ

เป็นพระโอรสของพระศิวะ และเชื่อว่าพระพิฆเนศนั้นเป็นองค์เทพผู้ขจัดความขัดข้องและเป็น
ผู้ที่อำนวยความสำเร็จให้กับกิจการทั้งหมดทั้งปวง

แหล่งที่มา : องค์ความรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมระดับพื้นฐาน(อ.ปัญญา รุ่งเรือง)

หลักธรรมสำคัญ

1.หลักอาศรม 4

เป็นหลักหรือหน้าที่ในแต่ละช่วงชีวิตของมนุษย์ โดยมุ่งเน้นสอนให้รู้ว่าแต่ละช่วงของ
ชีวิตมีหน้าที่ ต้องทำอะไรบ้าง ได้แก่
- พรหมจารี : เป็นวัยเด็ก ต้องศึกษาเล่าเรียน ผู้ที่อยู่ในช่วงวัยนี้จะต้องเข้าพิธีอุปนัยสังสการ
คือ การคล้องด้ายยัชโญปวีต เป็นสัญลักษณ์ของการเข้าสู่วัยเรียน
- คฤหัสถ์ : เป็นวัยแห่งการครองเรือน จะต้องแต่งงานมีครอบครัว จะต้องปฏิบัติตามหลักผู้
ครองเรือน โดยบุคคลวัยนี้ไม่จำเป็นต้องมีความพร้อมด้านฐานะและทรัพย์สิน
- วานปรัศน์ : ช่วงที่เป็นผู้เฒ่า เริ่มแก่ชรา ให้บุคคลสละทิ้งครอบครัวและทรัพย์สินให้แก่บุตร
- สันยาสี : เป็นวัยสละโลก วัยที่จะทำตนเป็นนักบวชที่ออกจาริกไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
เพื่อให้เข้าถึงโมกษะ(หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด)

2.หลักปุรุษารถะ

เป็นหลักที่แสดงถึงจุดมุ่งหมายของชีวิต ประกอบด้วยหลัก 4 ประการ ซึ่งหลักปุรุษารถะะ
สอดคล้องกับหลักอาศรม 4 ประกอบด้วย
- อรรถะ : การมีทรัพย์
- กามะ : การมีความสุขทางโลก การเสพกามหรือใช้ชีวิตทางโลกตามหลักศาสนา
- ธรรมะ : การปฏิบัติธรรม การทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม
- โมกษะ : การสละโลกเพื่อไปสู่จุดมุ่งหมายสูงสุดของศาสนา คือ โมกษะ

แหล่งที่มา : องค์ความรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมระดับพื้นฐาน(อ.ปัญญา รุ่งเรือง)

ศาสนาสากล

ประวัติความเป็นมา วันสำคัญของศาสนา
ข้อมูลทั่วไปของศาสนา
หลักธรรมสำคัญ

ประวัติความเป็นมา




ศาสนายูดาห์เป็นศาสนาของชนชาติยิว ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากพวกเสมิติก ที่แตกแยกมาจากภาคเหนือของทวีปเอเชีย และได้แพร่เข้า
มาตั้งถิ่นฐานอยู่ในประเทศปาเลสไตน์ ต่อมาพวกฮีบรู บางพวกได้ตกเป็ยเชลยถูกกวาดต้อนไปอยู่ในประเทศอียิปต์แต่ทนการกดขี่ข่มเหง
ของพวกอียิปต์ไม่ไหว จึงพากันหลบหนีข้ามทะเลแดงไปรวมกันอยู่ในประเทศปาเลสไตน์อีก ดินแดนแห่งนี้มีชนชาติคานาอันหรือคานาไนต์
อาศัยอยู่ พวกคานาอันเรียกพวกที่เข้ามาใหม่ว่า"ฮีบรู" แต่เพราะพวกยิวแสดงตัวว่าเป็นผู้มาดี พวกคานาอันจึงไม่รังเกียจ พวกฮีบรูมี
หัวหน้าคนหนึ่งชื่อว่า "ยาคอบ" แต่เวลาทำพิธีทางศาสนาจะเรียกตัวเองว่า "อิสราเอล"

พวกยิวสืบเชื้อสายทางศาสนามาจากพวกคานาอันซึ่งนับถือพระเจ้าองค์เดียว คือ "พระยะโฮวา" พวกยิวก็นับถือพระยะโฮวาด้วย และ
ต่อมายังได้นับถือพระเจ้าของคานาอันอีกองค์หนึ่งด้วย คือ "พระเจ้าอาฮีรา" แต่ในที่สุดก็เลิกนับถือพระเจ้าอาฮีรา คงเหลือแต่พระยะโฮวา
องค์เดียวแต่พวกยิวยังถูกข่มเหงรังแกจากพวกอียิปต์อีก ครั้งนี้เกือบทำให้ชาวยิวเลิกนับถือพระยะโฮวาแต่ได้อาศัยโมเสสซึ่งเป็นต้นกำเนิด
ศาสนายูดาห์(ยิว) ได้ชี้แจงจูงใจ และหว่านล้อมให้ชนชาวยิวนับถือพระยะโฮวาอย่างมั่นคงเหมือนเดิมหลังจากที่ได้เข้าไปอาศัยอยู่ในดินแดน
ปาเลสไตน์

ประเภท เอกเทวนิยม นิกาย

โมเสส
ศาสนายูดาห์ แบ่งเป็นนิกายใหญ่ๆ 2
ศาสดา นิกาย ดังนี้
1. นิกายออร์ทอดอกซ์ เป็นนิการที่มีความ
พระเจ้า พระยะโฮวา เคร่งครัด ถือปฏิบัติตามคัมภีร์โทราห์ เชื่อใน

บทบัญญัติของโมเสสและของแรบไบ
(Rabbi) คืออาจารย์หรือพระในศาสนายูดาห์
คัมภีร์ 2. นิกายโปรเกรสสีฟ เป็นนิกายที่ไม่เคร่งครัด
นัก คือเป็นนิกายที่มีหัวก้าวหน้า นับถือกันใน

หมู่ปัญญาชนคนสมัยใหม่

คัมภีร์ของศาสนายูดาห์มี 3 คัมภีร์ ดังนี้ วันสำคัญ
1. คัมภีร์เก่า (Old Testament) กล่าวถึงการแก้แค้นและการส่องสว่างของพระยะโฮวา
2. คัมภีร์โทราห์ (Torah) มีความหมายกว้างขวางมาก แบ่งออกเป็น 2 สาย ดังนี้ ในศาสนายูดาห์มีพิธีกรรมที่สำคัญ ดังนี้
• บทบัญญัติที่เขียนไว้เป็นลายลักษณ์อักษร 1. วันซะบาโต(Sabbath) คือวันที่เจ็ดของสัปดาห์
• บทบัญญัติที่ท่องจำกันมาด้วยปากเปล่า และคัมภีร์โทราห์นี้หมายรวมเอาคัมภีร์เก่าด้วย ถือเป็นวันบริสุทธิ์ ห้ามทำกิจกรรมใดๆทุกประการ
3. คัมภีร์ทาลมุด (Talmud) ได้แต่งขึ้นประมาณปี ค.ศ. 390 - 420 เป็นคัมภีร์ที่กล่าวโจมตี ใช้เวลาทั้งหมดเป็นวันพักผ่อน สวดมนต์อธิษฐาน
พระเยซูรุนแรงมาก หรืออีกนัยหนึ่งคัมภีร์ทาลมุดเป็นงของศาสนายูดาห์ในการเป็นปฏิปักษ์กับ ภาวนา การอ่านคัมภีร์นมัสการและของคุณพระเจ้า
พระเยซู 2. พิธีปัสคา(Pesach) เป็นพิธีกรรมสำคัญเกิดใน
สมัยของโมเสส เมื่อคืนวันก่อนที่ชาวยิวจะอพยพ
หลักธรรม ออกจากอียิปต์ พระเจ้าได้สั่งให้ชาวยิวฆ่าแกะและทำ

อาหารรับประทานกับขนมปังไม่มีเชื้อและให้รับ
ประทานให้หมดในวันเดียว แล้วให้ทุบหม้อไห และ
กฎบัญญัติสูงสุดในศาสนายูดาห์ คือ บัญญัติ 10 ประการ ข้อความในพระ เครื่องครัวทั้งหมด แล้วให้เอาเลือดแกะป้ายไว้ที่หน้า
บัญญัตินั้นครอบคลุมไปทั้งด้านศาสนา การเมือง เศรษฐกิจ และสังคม เป็น ประตูเพราะในเวลากลางคืน พระเจ้าจะส่งทูตมรณะ
รากฐานของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ วินัยและศีล มีดังนี้ มาฆ่าทุกคนที่ไม่ใช่ชาวยิว ถ้าประตูบ้านของใครมี
1. อย่าได้มีพระเจ้าอื่นต่อหน้าเราเลย เลือดแกะทาอยู่ทูตมรณะจะข้ามไป จึงเรียกว่า ปัสคา
2. อย่าทำรูปปั้ นสำหรับตน แปลว่า ข้ามไป ชาวยิวฉลองวันนี้ด้วยการเลี้ยงใหญ่
3. อย่าออกพระนามของพระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้าเปล่าๆ และอธิษฐานของคุณพระเจ้า พิธีนี้ใช้เวลา 8 วัน ใน
4. จงระลึกถึงวันซะบาโตถือเป็นวันศักดิ์สิทธิ์ วันสุดท้ายมีการฉลองใหญ่และทุกคนก็ร้องขึ้นพร้อม
5. จงนับถือบิดามารดาของเจ้า กันว่า "ปีหน้าพบกันที่เยรูซาเล็ม"
6. อย่าฆ่าคน 3. พิธีฉลองปีใหม่ที่เรียกว่า ร็อช ฮัชชานาร์
7. อย่าล่วงประเวณีผัวเมียเขา (Rosh Hashanah)
8. อย่าลักทรัพย์
9. อย่าเป็นพยานเท็จต่อเพื่อนบ้าน
10. อย่าโลภเรือนของเพื่อนบ้าน อย่าโลภภริยาของเพื่อนบ้าน หรือทาสาทาสีของ
เขา หรือสิ่งใดๆที่เป็นของเพื่อนบ้าน

แหล่งที่มา : http://book.dou.us/doku.php?id=df404:11

ศาสนาสากล

ศาสนาซิกข์
Sikh

ประวัติความเป็นมา วันสำคัญของศาสนา
ข้อมูลทั่วไปของศาสนา
หลักธรรมสำคัญ

ศาสนาซิกข์
Sikh

ความเป็นมาของศาสนาซิกข์

ศาสนาซิกข์ หรือ ศาสนาสิกข์ เป็นศาสนาใหม่ ถือกำเนิดที่แคว้น
ปัญจาบทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย เมื่อ พ.ศ. 2012 โดยคิดตาม
ปีที่เกิดของคุรุนานักผู้เป็นปฐมศาสดานี้ คำว่า "สิกข์" (ภาษาปัญจาบ)
แปลว่า ผู้ศึกษา หรือศิษย์ คือชาวสิกข์ทุกคนเป็นศิษย์ของคุรุหรือครู

ศาสนาซิกข์เป็นศาสนาประเภท : เอกเทวนิยม (Monotheism)

พระเจ้าของศาสนาซิกข์ : วาหคุรู หรือ วาเฮ่คุรุ
คัมภีร์ของศาสนาซิกข์ :
พระมหาคัมภีร์คุรุครันถ์ ซาฮิบ หรือ ครันถสาหิพ

พระศาสดา มีทั้งหมด10 พระองค์

1. พระศาสดา คุรุนานักเทพ (องค์ปฐมบรมศาสดา)


2. พระศาสดา คุรุอังคัตเดว นกิ ายของศาสนาซิกข์มีอยู่ 2 นิกาย

3. พระศาสดา คุรุอามัรดาส


3. พระศาสดา คุรุรามดาส 1. นิกายขาลสา หรือนิกายสิงห์ คือ

4. พระศาสดา คุรุอรยันเดว นิกายที่ถือการไว้ผมและไว้หนวดยาว

5. พระศาสดา คุรุฮัรโควินท์

7. พระศาสดา คุรุฮัรราย 2. นิกายสหัชธรี หรือนานักปันถี คือ

8. พระศาสดา คุรุฮัรกฤษณ นิกายที่โกนหนวดเกลี้ยงเกลา

9. พระศาสดา คุรุเตคบฮาดัร


10. พระศาสดา คุรุโควินท์สิงห์ (องค์สุดท้าย)



คุรุดวาราฮัรมันดิรซาฮิบ
(สุวรรณวิหาร-Golden Temple)

ศาสนาซิกข์
Sikh

หลักการของศาสนาซิกข์

ศาสนาซิกข์เป็นศาสนาที่เน้นในหลักของการปฏิบัติเป็นศาสนาแห่ง
ความเชื่อมั่น และศรัทธา การมองโลกในแง่ดีอย่างมีความหวังด้วยเหตุ
และผล สนับสนุนด้วยปรัชญาศาสตร์เพื่อความก้าวหน้า ของมนุษย์ และ
การอุทิศตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวมรับใช้ช่วยเหลือเพื่อน
มนุษย์ด้วยกันโดยไม่ถือรังเกียจเชื้อชาติ ศาสนา วรรณะ และภาษา

หลักธรรมของศาสนาซิกข์
1. ธรรมขัณฑ์ อาณาจักรแห่งการกระทำคือ กรรมดี และกรรมชั่ว การทำแต่กรรมดี
2. คิอานขัณฑ์ หรือ ญาณขัณฑ์ อาณาจักรแห่งปัญญา
3. สรมขัณฑ์ อาณาจักรแห่งมหาปิติ
4. กรรมขัณฑ์ อาณาจักรแห่งกำลัง หมายถึงกำลังทางจิตไม่หวาดกลัว
5. สัจขัณฑ์ อาณาจักรแห่งสัจจะ คือความเป็นเอกภาพกับพระเจ้า

พิธีกรรมที่สำคัญของศาสนาซิกข์
วันสำคัญทางศาสนาซิกข์
1. พิธีกรรมระลึกถึงพระกรตาปุรุษ 1. วันที่ 5 มกราคม เป็นวันคล้ายประสูติพระ

2. พิธีกรรมฉลองวันคล้ายวันประสูติ ศาสดาคุรุโควินท์สิงห์

วันสถาปนาศาสนา และวันมรณภาพ 2.วันที่ 13-14 เมษายน “วันวิสาขี” เป็นวันที่

ของศาสดาทั้ง 10 องค์ พระศาสดาคุรุโควินท์สิงห์ทรงสถาปนา

3.พิธีปาหุล เป็นพิธีล้างบาป ประชาคมซิกข์ (คาลซา)

4.พิธีอมฤตสังสการ เป็นพิธีรับคนเข้าสู่ 3.วันที่ 1 กันยายน วันปฐมปรากาศของพระ

ศาสนาซิกข์ มหาคัมภีร์ศิรีคุรุครันถ์ ซาฮิบ

อ้างอิงจาก

https://www.m-culture.go.th
https://sites.google.com/site/page1monastery/page1/page1-3
http://www.satit.up.ac.th
https://sites.google.com/site/socialbuddhismm4/unit_9_4
https://www.bbc.co.uk/bitesize/guides/zk3f3k7/revision/1
วันสำคัญทางศาสนา https://e-book.dra.go.th

ศาสนาสากล

ศาสนาพุทธ

พุทธประวัติ วันสำคัญของศาสนา
ข้อมูลทั่วไปของศาสนา
หลักธรรมสำคัญ

ศาสนาพุทธ

พุทธประวัติ

ต้นกำเนิด : พุทธศาสนากำเนิดขึ้น ณ ประเทศอินเดียเมื่อประมาณก่อนคริสต์ศาสนา
ประมาณ ๕๔๓ ปี เกิดขึ้นในยุคที่กำลังมีการค้นคว้ากาวิธีการดับทุกข์กันอยู่ทั่วไป โดย
ผู้คนในยุคนั้นจะนับถือศาสนาพราหมณ์กันอยู่โดยมาก
ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประเภท : อเทวนิยม
ศาสดาของศาสนาพุทธ : พระโคตมพุทธเจ้า มีพระนามเดิมว่า เจ้าชายสิทธัตถะ

คัมภีร์

พระไตรปิฎก ประกอบด้วย
-พระวินัย รวบรวมเรื่องศีลของภิกษุและภิกษุณีไว้ทั้งหมด
-พระสูตร รวบรวมคำสอนของพระพุทธเจ้าและพระสาวก
-พระอภิธรรม รวบรวมหลักปรัชญาที่พระสาวกรุ่นหลังแต่งขึ้น

หลักธรรมสำคัญ

คำสอนของพุทธศาสนานั้นก็มีอยู่ ๒ ระดับ
๑. ระดับชาวบ้านมีศีล มีเมตตา มีความขยันอดทนและรู้จักใช้เหตุผลในการดำเนินชีวิต
๒.ระดับสูงหลักอริยสัจ ๔ เป็นหลักในการดับทุกข์และจัดเป็นหัวใจของคำสอนทั้งหมด

จุดหมายสูงสุด

จุดหมายสูงสุดของพุทธศาสนา คือ นิพพาน

นิกาย

ปัจจุบันมี ๒ นิกายใหญ่ๆ
๑. เถรวาท (หินยาน)
๒.อาจริยวาท (มหายาน)

ศาสนสถาน

วัดอันเป็นสถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวพุทธ เป็นสถานที่อยู่อาศัย หรือ
ที่จำพรรษา ของ พระภิกษุ สามเณร และแม่ชี เพื่อใช้ประกอบกิจกรรม
ประจำวันของพระภิกษุสงฆ์ เช่น การทำวัตรเช้าและเย็น และสังฆกรรมใน
พระอุโบสถ อีกทั้งยังใช้ประกอบพิธีกรรม เช่นการเวียนเทียน และยังเป็น
ศูนย์รวมในการมาร่วมกันทำกิจกรรมในทางช่วยกันส่งเสริมพุทธศาสนา เช่น
การมาทำบุญในวันพระของแต่ละท้องถิ่นของพุทธศาสนิกชน

วันสำคัญทางศาสนาพุทธ

ขึ้น 15ค่ำ เดือน 3 วันมาฆบูชา
ขึ้น 15ค่ำ เดือน 6 วันวิสาขบูชา
แรม 8ค่ำ เดือน 6 วันอัฐมีบูชา
ขึ้น 15ค่ำ เดือน 8 วันอาสาฬหบูชา
แรม 1ค่ำ เดือน 8 วันเข้าพรรษา
ขึ้น 15ค่ำ เดือน 11 วันออกพรรษา
แรม 1ค่ำ เดือน 11 วันเทโวโรหณะ

ที่มา: http://www.whatami.net/tri/rel10.html
https://wreathdigital.com/


Click to View FlipBook Version