การทดสอบสมรรถภาพทางกาย
สมรรถภาพทางกาย เป็นความสามารถในการควบคุมร่างกายและการทางานของ
รา่ งกายไดท้ ันที และไดน้ าน โดยไม่เส่ือมประสิทธิภาพ สมรรถภาพทางกายสามารถสร้างได้
โดยการออกกาลังกาย การเลน่ กีฬา และการฝึกฝนทักษะ
องคป์ ระกอบของสมรรถภาพทางรา่ งกาย
สานักพัฒนาการพลศึกษาสุขภาพและนันทนาการไดก้ ล่าวว่า สมรรถภาพทางกายของ
แต่ละบุคคลย่อมแตกต่างกัน การท่ีบุคคลจะมีประสิทธิภาพทางกายที่ดีน้ัน ย่อมมี
องคป์ ระกอบดังน้ี
1) ความเร็ว คือ ความสามารถของกล้ามเนื้อในการทางาน (เคล่ือน) ซ้าๆกันได้
อย่างรวดเร็ว โดยใชเ้ วลาน้อยทส่ี ดุ เชน่ การว่ิง 50 เมตร เปน็ ตน้
2 ) ความแสดงของกล้ามเนื้อ คือ ความสามารถของกล้ามเน้ือท่ีหดตัวเพ่ือทางาน
อย่างใดอยา่ งหน่ึง ไดอ้ ย่างเต็มท่ใี นระยะเวลาใดเวลาหนง่ึ โดยกลา้ มเนือ้ ส่วนใดสว่ นหน่งึ หรือ
หลายๆส่วนร่วมกัน เช่น การบีบมอื ซ้ายหรือมอื ขวา การยกนา้ หนกั เปน็ ต้น
3) พลังหรือกาลังของกล้ามเนื้อคือ ความสามารถของกล้ามเนื้อส่วนหนึ่งส่วนใดหรือ
หลายๆส่วนของร่างกายในการหดตัว เพ่ือทางานอย่างรวดเร็วเพียงครั้งเดียว จังหวะเดียว
เชน่ การทุ่มนา้ หนกั การยืนอยกู่ ับที่ กระโดดไกล หรอื กระโดดสงู พ่งุ แหลน เป็นตน้
4) ความว่องไวหรือความคล่องตัว คอื ความสามารถในการหดตวั ของกล้ามเน้อื ของ
ร่างกาย เพ่ือให้สามารถเปลี่ยนท่าทางหรือทิศทางในการเคลื่อนไหวของร่างกายได้อย่าง
รวดเร็วทันทีทันใด เช่น การนั่งลงหรือยืนข้ึนสลับกันได้ด้วยความเร็ว หรือการวิ่งซิกแซ็ก
เปน็ ตน้
5) ความออ่ นตวั คือ ความสามารถในการหดตัวหรือเหยียดตัวของกลา้ มเนื้อ เอน็ ข้อ
ต่อต่างๆ ของร่างกาย เช่นการยืนเข่าตึงก้มตัวแตะพื้น การเหยียดเท้า ก้มตัว ใช้มือแตะ
ปลายเทา้ เป็นต้น
6) ความสมดุลหรือการทรงตัว คือ ความสามารถของประสาทรับความรู้สึกของ
ร่างกายในการควบคุม ท่าทางของร่างกายขณะอยู่กับที่ หรือระหว่างการเคล่ือนท่ี เช่น การ
เดนิ บนเสน้ ตรงใหป้ ล่อยเทา้ ต่อกัน การยนื ดว้ ยมอื เปน็ ตน้
7) ความอดทน คือ ความสามารถของร่างกายที่ทนต่อการทางาน หรือระยะเวลา
นาน เช่น ความอดทนของระบบไหลเวียนโลหิต การหายใจขณะว่ิงระยะทางไกล 5,000
เมตร หรือวิ่งมาราธอน ความอดทนของกล้ามเน้ือขณะทาการดึงข้อ การดันพื้น การลุกนั่ง
หลายๆคร้งั การงอแขนห้อยตัวเปน็ เวลา เปน็ ตน้
8) ความสัมพันธ์ของปฏิกิริยาตอบสนอง คือ ความสามารถในการควบคุมการ
ประสานงานกันระหว่างประสาทรับรู้ ประสาทส่ังงานของระบบประสาท และกล้ามเน้ือ
ปฏิบัติงาน โดยเริ่มต้ังแต่ระยะเริ่มต้นจนถึงการตอบสนอง เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างมือ-ตา
และความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งเท้า-ตา เปน็ ตน้
ประโยชน์และความสาคญั ของการทดสอบสมรรถภาพทางกาย
การทดสอบสมรรถภาพทางกายทาให้ทราบถึงระดับความสามารถ หรือระดับ
สมรรถภาพทางกายแต่ละด้านของบุคคล ซ่ึงทาให้สามารถเลือกกิจกรรมการออกกาลังกายให้
เหมาะสมกับตนได้ ส่งผลให้การพัฒนาสมรรถภาพทางกายน้ันมีประสิทธิภาพ โดยประโยชน์
ของการทดสอบสมรรถภาพทางกาย มดี ังนี้
1) เป็นแนวทางการพัฒนาความสามารถของร่างกาย หรือส่วนที่บกพร่องให้มีความ
สมบรู ณ์และมีประสิทธิภาพอย่างเต็มท่ี
2) เป็นแนวทางในการตัดสินความสามารถของร่างกาย เพื่อนาไปสู่แนวทางในการ
ออกกาลงั กาย หรอื การเล่นกีฬาประเภทต่างๆ
3) เป็นสือ่ ในการกระตุ้น การพฒั นาความสามารถของรา่ งกายและรักษาความสมบูรณ์
ของร่างกายใหค้ งอยอู่ ย่างสมา่ เสมอ
4) การทดสอบสมรรถภาพ นอกจากจะทาให้ทราบระดับความสามารถของร่างกายใน
แต่ละด้านแล้ว ในนักกีฬา ผลการทดสอบยังสามารถนาไปวิเคราะห์ผลการฝึกซ้อม ข้อดี
ข้อเสีย ของการฝึกซ้อม ทาให้ผู้ฝึกสอนสามารถปรับปรุงแบบฝึก และกิจกรรมการฝึกให้
เหมาะสมกับนกั กีฬาแตล่ ะประเภท และปรับปรงุ สมรรถภาพในสว่ นทีบ่ กพร่องตอ่ ไป
5) ใช้เป็นพ้ืนฐานในการศึกษา และเปรียบเทียบข้อแตกต่างด้านสมรรถภาพทางกาย
โดยทวั่ ไปของนักกฬี าประเภทตา่ ง ๆ
วธิ กี ารทดสอบสมรรถภาพทางกาย
ก่อนการทดสอบต้องมีการตรวจสุขภาพท่ัวๆไปก่อน เพื่อตรวจสอบว่ามีโรคท่ีขัดต่อ
การออกกาลังกาย หรือมีความบกพร่องทางสุขภาพท่ีอาจทาให้การฝึกไม่ได้ผลหรือไม่ เป็น
การวัดด้านกายสภาพ ได้แก่ น้าหนัก ส่วนสูง อายุ เป็นต้น โดยผู้รับการทดสอบจะได้รับ
การวัดและประเมินการทางานของอวัยวะและระบบอวยั วะต่างๆ โดยอาจใช้แบบทดสอบต่าง ๆ
การทดสอบสมรรถภาพทางการดว้ ยตนเอง
การทดสอบสมรรถภาพทางกายที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน คือการใช้แบบทดสอบจาก
ต่างประเทศ ด้วยแบบทดสอบ หลายๆแบบสาหรับหมวดนี้ จะกล่าวถึงการทดสอบ
สมรรถภาพด้วยตนเองซ่ึงถือว่าเป็นพื้นฐานในการปรับปรุงหรือสร้างเสริม ความสมบูรณ์ และ
แข็งแรงให้กับส่วนใดสว่ นหนง่ึ ด้วยการออกกาลงั กาย
1) ประเภทของการทดสอบสมรรถภาพทางกาย
การทดสอบสมรรถภาพทางกายสามารถทาการทดสอบได้ ดังน้ี
1.1) การทดสอบดว้ ยตนเอง
นักเรียนสามารถตรวจสอบการเคล่ือนไหว ร่างกายด้วยตนเองได้ ทั้งนี้ควร
เรมิ่ ต้นจากส่งิ ท่งี า่ ยไปยาก ในระดับต่างๆ ซ่งึ แบ่งเป็นระดับดี ปานกลาง และ ตา่
1.2) การทดสอบร่วมกับผู้อื่น
(1) ควรเลอื กคทู่ ดสอบทม่ี ี ขนาดความสูงและนา้ หนักใกลเ้ คยี งกัน
(2) ขณะทาการทดสอบคู่ทาการทดสอบ ควรจะต้องใหค้ วามสนใจ เต็มใจ
และระมัดระวังต่อความปลอดภยั รวมทั้งให้ความสนับสนุน และแนะนาสิ่งท่ีถูกต้องให้แกก่ ัน
และกนั
1.3) การทดสอบโดยใช้เคร่อื ง ควรคานึงถงึ สง่ิ ต่อไปน้ี
(1) หางา่ ย สะดวกตอ่ การให้ ไม่จาเป็นต้องราคาแพง อาจเปน็ เครือ่ งมือที่
มีอยู่แลว้ เช่น โตะ๊ ไม้ ผา้ เชด็ มอื เปน็ ต้น
(2) เรียนรู้การใช้เคร่ืองมือว่าจะนามาใช้ประกอบการทดสอบ สมรรถภาพ
ทางกาย และ สามารถผลดั เปลี่ยนกันได้อย่างไร
2) แบบทดสอบสมรรถภาพทางกายด้วยตนเอง
นักเรียนสามารถทากาทดสอบสมรรถภาพทางกายด้วยตนเองตามแบบทดสอบของ
สมาคมกฬี าสมคั รเล่นของประเทศญป่ี ุ่น ซงึ่ เป็นทเี่ ผยแพรโ่ ดยท่ัวไป จานวน 12 ท่า ดงั น้ี
(1) การทดสอบการออ่ นตัว
ยนื ก้มตวั ลงด้านล่าง
วธิ ที า ยืนตรงมือท้ังสองประสานกันที่ท้ายทอย ค่อยๆ ก้มตัวลง
ดา้ นหนา้ ใหศ้ อกท้งั สองแตะทีเ่ ข่า ขาท้ังสองเหยยี ดตรงอย่เู สมอ
วิธีคดิ คะแนน
ศอกแตะเขา่ ท้งั สองขา้ งนับ 1-3 = ดี
ศอกแตะเข่าไดข้ างเดยี ว = ปานกลาง
กม้ แล้วศอกไม่ถึงเข่า = ต่า
(2) การทดสอบการแข็งแรงของกลา้ มเน้ือ
นงั่ รูปตัววเี หว่ียงแขนหมนุ
วธิ ที า นั่งลงบนพ้ืน ยกแขนและขาทง้ั สองข้างข้ึนแบบตัววี
วธิ ีคดิ คะแนน
เหว่ยี งแขนหมุนตัวไปไดห้ น่งึ รอบโดยขาไม่ถึงพ้นื = ดี
เหว่ียงแขนหมุนตัวไปไดค้ ร่ึงรอบโดยขาไม่ถูกพน้ื = ปานกลาง
เหวี่ยงแขนหมนุ ตัวไป ไมไ่ ดถ้ งึ ครง่ึ รอบ = ต่า
(3) การทดสอบการอดทน
นอนหงายใชเ้ ทา้ เขียนตวั อักษร
วธิ ีทา นอนหงายราบกับพื้นมือท้ังสองประสารท่ีท้ายทอยขาทั้งสองเหยียดตรง ยกข้ึนจากพื้น
พรอ้ มกบั ใชเ้ ทา้ ท้งั สองเขียนตัวอักษร
วิธคี ิดคะแนน
ใช้เท้าเขียนตวั พยญั ชนะได้ 44 ตัว = ดี
ใช้เทา้ เขียนตวั พยัญชนะได้ 22 ตัว = ปานกลาง
ใชเ้ ท้าเขยี นตัวพยญั ชนะไดต้ า่ กว่า 22 ตัว = ตา่
(4) การทดสอบการทรงตวั
ยนื ยอ่
วิธที า ยืนตรงเท้าทั้งสองชิดกัน ยกแขนทั้งสองเหยียดตรงข้ึนด้านหนาพร้อมกับหลับตาเขย่ง
สน้ เทา้ ขึ้นจากพ้ืนแลว้ ยอ่ ขาพบั เข่านงั่ บนสน้ เทา้
วิธคี ดิ คะแนน
ยอ่ ขาพับเข่าน่ังบนส้นเท้าขึน้ ลงได้ 5 ครั้ง = ดี
ยอ่ ขาพับเข่านัง่ บนส้นเทา้ ขึ้นลงได้ 3-4 ครง้ั = ปานกลาง
ยอ่ ขาพบั เขา่ น่ังบนส้นเท้าข้ึนลงไดน้ ้อยกวา่ 3 ครง้ั = ตา่
(5) การทดสอบความออ่ นตวั กับคู่
ยนื หมุนลาตัวเปน็ วงกลม
วธิ ีทา ยืนห่างกันพอประมาณให้คู้ทดสอบที่ยืนอยู่ต่านหลังยกแขนท้ังสองเหยียดตรงไป
ด้านหน้าขนานกับพื้น คว่าฝ้ามือทั้งสองลงส่วนผู้ทดสอบท่ียืนอยู่ด้านหลังน้ันให้เหยียดแขนไป
ด้านหลังหงายฝ่ามือทั้งสองข้ึนประสานมือกับคู้ทดสอบแล้วผู้ทดสอบท่ียืนอยู่ด้านหน้าน้ันหมุน
ลาตวั เป็นวงกลมหน่งึ รอบ โดยแขนท้ังสองจะเหยยี ดตรงละขนานกนั อยู่เสมอ
วธิ คี ิดคะแนน
เมอ่ื หมุนไปดา้ นหลงั มือทั้งสองอยูใ่ นระอกของคู่ = ดี
เมอื่ หมนุ ไปด้านหลัง มือทงั้ สองอย่ใู นระดบั ไหลข่ องคู่ = ปานกลาง
เม่ือหมนุ ไปด้านหลัง มอื ท้งั สองอยู่เหนอื ไหลข่ องคู่ = ตา่
(6) การทดสอบความแขง็ แรงของคู่ = ดี
ขห่ี ลังยืนกระโดด = ปานกลาง
= ต่า
วธิ ีทา ให้คขู่ ห่ี ลงั แล้วให้คทู่ ดสอบยนื กระโดดอย่กู บั ที่
วธิ ีคิดคะแนน
ชายกระโดดได้ 30 ครง้ั หญงิ กระโดดได้ 20 คร้ัง
ชายกระโดดได้ 20 ครง้ั หญิงกระโดดได้ 10 คร้งั
ชายกระโดดได้ตา่ กวา่ 20 ครั้ง หญงิ กระโดดได้ตา่ กวา่ 10 คร้ัง
(7) การทดสอบการทรงตวั กบั คู่
น่งั ใชเ้ ทา้ จบั บอล
วธิ ที า ให้ผู้ทดสอบน่ังเหยียดเท้ามือทั้งสองยันย่ืนไว้
ด้านหลัง คอยใช้เท้าท้ังสองรับลูกบอลคู่โยนลูกบอลให้ผู้
ทดสอบใช้เทา้ รับจานวน 10 ครงั้ แล้งเปลี่ยนกัน
วิธคี ดิ คะแนน
ใช้เท้ารบั ได้ 7 ครงั้ ขน้ึ ไป = ดี
ใชเ้ ท้ารับได้ 5 ครง้ั ขน้ึ ไป = ปานกลาง
ใช้เท้ารบั ไดต้ า่ กว่า 5 คร้งั ข้นึ ไป = ตา่
(8) การทดสอบความอดทนกบั คู่
กระโดดขา้ มขา
วิธที า คู่นั่งราบกับพ้ืน ขาท้ังสองเหยียดตรงไปด้านหน้าผู้ทดสอบหันหน้าเข้าหาคู่แล้ว
กระโดดขา้ มขาทงั้ สองของคไู่ ปกลบั
วธิ คี ดิ คะแนน
ชายกระโดดได้ 100 ครง้ั หญงิ กระโดดได้ 80 ครงั้ = ดี
ชายกระโดดได้ 60 ครั้ง หญิงกระโดดได้ 40 คร้งั = ปานกลาง
ชายกระโดดได้ต่ากวา่ 60 คร้งั หญงิ กระโดดได้ต่ากว่า 40 ครั้ง = ต่า
(9) การทดสอบการอ่อนตวั ประกอบอปุ กรณ์
มอื ลอดใตข้ าจับพลอง
วิธีทา ใช้มือข้างหนึ่งจับพลองไปไว้ด้านหลัง ย่อขาใช้มือท่ีว่างลอดขาไปจับไม้จับไม้พลองให้
ทาสลบั กนั ทง้ั ซา้ ยและขวา
วิธีคิดคะแนน
ทาไดท้ ัง้ สองขา้ ง = ดี
ทาได้ขา้ งเดยี ว = ปานกลาง
ทาไม่ไดเ้ ลย = ตา่
(10) การทดสอบความแข็งแรงประกอบอปุ กรณ์
น่ังสปรงิ ตัว
วิธที า นงั่ พับเขาบนเบาะ สปรงิ ตวั ข้ึนข้างบนพร้อมกบั ใชม้ ือท้ังสองดงึ ผ้าออก
วิธีคิดคะแนน
ใชม้ ือทง้ั สองจบั ผ้าดึงออกได้ = ดี
ใช้มอื ข้างใดขา้ งหน่งึ จับผา้ ดึงออกได้ = ปานกลาง
ดงึ ผา้ ไมไ่ ด้ = ต่า
(11) การทดสอบการทรงตัวประกอบอปุ กรณ์
ก้มตวั โยนรับบอล
วิธีทา ยืนให้เท้าทั้งสองอยู่ห่างกันพอประมาณ มือท้ังสองจับลูกบอล ก้มตัวลงด้านหลัง
ขวา้ งลกู บอลลอดใตข้ าไปดา้ นหลังเหนือศีรษะ แลว้ รบี ยนื ขน้ึ รับลกู ฟตุ บอล
วธิ คี ดิ คะแนน
จับลูกบอลไดเ้ หนอื ศีรษะ = ดี
ขว้างลกู บอลข้ามศีรษะไดแตร่ บั ไม่ได้ = ปานกลาง
ขว้างลกู บอลขา้ มศีรษะ = ตา่
(12) การทดสอบความทนทานประกอบอุปกรณ์
ยนื ย่อขาขา่ งเดียว
วธิ ที า ยืนให้หลังชิดฝาผนัง แล้วค่อยๆ ย่อตัวลงจนขาท่อนบนและท่อนล่างต้ังฉากกัน
พร้อมกับเหยียดขาขา้ งใดขา่ งหน่งึ ตรงไปดา้ นหนา้ ขนานกับพ้ืน
วธิ คี ดิ คะแนน
ชายนบั 1-50 หญิงนบั 1-30 = ดี
ชายนบั 1-30 หญิงนับ 1-20 = ปานกลาง
ชายนับต่ากว่า 30 หญิงนับต่ากว่า 20 = ต่า
วิธีการสร้างเสริมละปรบั ปรุงสมรรถภาพทางกายตามผลทดสอบ
สมรรถภาพทางกายเป็นส่ิงท่ีมีความสาคัญต่อสุขภาพ การจัดกิจกรรมการฝึกที่
เหมาะสมกับระดับความสามารถของบุคคล การใช้เวลา ความหนักเบา ความบ่อยคร้ัง
นับเป็นการเสริมสรา้ งสมรรถภาพทางกายทีด่ ีต่อสุขภาพ
โดยนาไปใชป้ ระโยชน์ภายหลังการทดสอบเราสามารถไปสรา้ งเสรมิ ปรับปรุงสมรรถภาพ
ทางกายได้ ดงั นี้
1) สามารถนาไปวนิ จิ ฉยั คน้ หาความบกพร่องของสมรรถภาพทางกายดา้ นต่างๆ
2) สามารถใชท้ านายเพือ่ ใหบ้ ุคคลเลือกกิจกรรมออกกาลังกาย การเล่นกีฬาได้
3) สามารถบ่งบอกความสามารถและประสิทธิภาพในการทางานของร่างกายของ
ตนเองได้
4) สร้างพลังต่อผลทดสอบ เพือ่ พัฒนาไปส่เู ป้าหมายการสรา้ งเสริมสุขภาพ
5) ทราบและสามารถประเมินผลก้าวหนา้ ทางสมรรถภาพทางกายของตนเองได้
การเสริมสร้างและปรับปรุงสมรรถภาพทางกายมีความสาคญั และ ประโยชนม์ ากเพราะ
จะทาให้เรามีสุขภาพที่ดี สามารถทากิจกรรมต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมีวิธีการสร้าง
เสริมและปรับปรงุ สมรรถภาพทางกายนัน้ มวี ธิ ี ดง้ั น้ี
1) ด้านการฝึก เป็นสิ่งสาคัญในการสร้างเสริมสมรรถภาพทางกาย ซ่ึงควรปฏิบัติ
ดงั นี้
1.1) ความบอ่ ย ควรทาเปน็ ประจาสมา่ เสมอ
1.2) ความหนักหรอื ความเหน่ือย ซ่งึ ควรเร่มิ ฝกึ จากนอ้ ยไปมาก
1.3) ประเภทหรือชนิดของกิจกรรม ควรเลือกกิจกรรมให้เหมาะสมกับความ
ต้องการ
1.4) ระยะเวลา ควรทาตดิ ต่อกันอย่างนอ้ ย 15- 30 นาที
2) ด้านโภชนาการ
2.1) ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และสดั สว่ นตาหลกั โภชนาการ
2.2) หลีกเล่ียงสงิ เสพตดิ ตา่ งๆ เชน่ บหุ รี่ แอลกอฮอล์ เปน็ ตน้
2.3) หลกี เลีย่ งการใชย้ าหรอื สารกระตุ้นทกุ ชนดิ บหุ ร่ี
3) ด้านการสร้างพลัง การสร้างพลังถือเป็นวิธีการหนึ่งในการสร้างเสริมสมรรถภาพ
ทางกายของตน
3.1) สรา้ งแรงจงู ใจแกต่ นเอง ตอ่ การฝกึ สมา่ เสมอ
3.2) สร้างความเช่อื ม่นั ในความสามารถของตนว่าปฏบิ ตั ิได้
3.3) มีความต้ังใจจรงิ เอาใจใส่ควบคุมตนเองได้
3.4) ใหร้ างวัลแกต่ นเอง เพ่ือให้สามารถบรรลุเปา้ หมายท่กี าหนดไว้
4) ด้านการผกั ผ่อน ภายหลงั จากการฝึกในแตล่ ะคร้ัง ควรหาเวลาผักผ่อน
4.1) นอนหลบั ผักผอ่ นวนั ละ 8 -10 ชวั่ โมง
4.2) ทากิจกรรม สันทนาการ เพื่อคลายก้ามเน้ือและความเครียด เช่น ฟัง
เพลง ดูโทรทศั น์ เปน็ ตน้
ใบงาน เรอ่ื ง การทดสอบสมรรถภาพทางกาย
กิจกรรมที่ 1 ให้นกั เรียนระบวุ ่ากิจกรรมท่กี าหนดให้เป็นการทดสอบสมรรถภาพทางกายในด้านใด
1. ให้นกั เรียนระบวุ ่ากจิ กรรมที่กาหนดเปน็ การทดสอบสมรรถภาพทางกายในด้านใด
1.1 ยนื กระโดดไกล …………………………………………………………………………………
1.2 กม้ ตวั ไปขา้ งหน้า …………………………………………………………………………………
1.3 วดั ความจปุ อด …………………………………………………………………………………
1.4 วดั แรงเหยยี ดขา …………………………………………………………………………………
1.5 วิ่งเก็บของ …………………………………………………………………………………
1.6 วัดสมรรถภาพการใช้ออกซเิ จนสูงสุด …………………………………………………………
1.7 ดงึ ขอ้ ราวเดย่ี ว งอแขน ห้อยตัว …………………………………………………………
1.8 วง่ิ 100 เมตร …………………………………………………………………………………
1.9 วัดแรงบีบมือ …………………………………………………………………………………
1.10 ยืนกระโดดสงู …………………………………………………………………………………
1.11 ลกุ -นงั่ 30 วินาที …………………………………………………………………………………
1.12 ก้าวเต้น 20 วินาที …………………………………………………………………………………
1.13 ยนื ก้มตวั …………………………………………………………………………………
1.14 ทุ่มนา้ หนกั …………………………………………………………………………………
1.15 ยนื กระโดดสูงซ้าๆกนั …………………………………………………………………………………
2. ใหน้ ักเรียนบอกประโยชนแ์ ละความสาคญั ของการทดสอบสมรรถภาพทางกาย
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
กิจกรรมที่ 2 ให้นักเรยี นระบุวา่ ภาพทกี่ าหนดให้เปน็ แบบทดสอบสมรรถภาพทางกายด้วยตนเองในด้านใด
และมีวธิ ีปฏบิ ัติอย่างไร
การทดสอบ...................................................... วธิ ปี ฏิบัติ
การทดสอบ...................................................... ...................................................
การทดสอบ......................................................
การทดสอบ...................................................... .................................................................
.................................................................
.................................................................
.................................................................
....
วิธปี ฏบิ ตั ิ
...................................................
.................................................................
.................................................................
.................................................................
.................................................................
....
วิธปี ฏิบตั ิ
...................................................
.................................................................
.................................................................
.................................................................
.................................................................
ว..ิธ..ปี ฏิบัติ
...................................................
.................................................................
.................................................................
.................................................................
.................................................................
....