The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

Brand's Summer Camp ปีที่ 29 วิชาภาษาอังกฤษ
โดย อ.อริสรา ธนาปกิจ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by BS_Library, 2020-05-01 09:28:29

Brand's Summer Camp ปีที่ 29 วิชาภาษาอังกฤษ

Brand's Summer Camp ปีที่ 29 วิชาภาษาอังกฤษ
โดย อ.อริสรา ธนาปกิจ

Keywords: ภาษาอังกฤษ

เฉลยเกง็ ขอสอบ

Part I : Conversation

1. Jimmy สงสยั ว่าเสยี งเพลงของเขาจะรบกวน Pam รึเปล่า เขาจึงพูดว่า:
1) Pam, คุณตอ้ งการชว่ งเวลาทสี่ งบรเึ ปล่า?
2) เพลงนี้จะรบกวนการทบทวนหนังสือของคุณรเึ ปล่า, Pam?
3) ฉันหวังวา่ คณุ จะไมร่ ังเกียจทจ่ี ะฟังเพลง (tracks) ของผม, ใชม่ ยั้ ?
4) คุณมคี วามคดิ เหน็ อย่างไรเกีย่ วกบั เพลงเหล่านี?้
5) คณุ พอจะเดาได้ไหมวา่ รสนยิ มการฟงั เพลงของผมเป็นยังไง

เฉลย 2) Does this music bother your studying, Pam?
Keyword คือ คาํ ว่ารบกวน (disturbing) ในโจทย์ ดังน้นั ตอ้ งถามในลกั ษณะว่าจะรบกวน

รเึ ปลา่ คือ ตัวเลอื กท่ี 2) synonym กับคาํ ว่า bother (V.รบกวน)

2. A : ฉันมตี ว๋ั สองใบสาํ หรบั เกมวนั น้ี ....................?
B : ขอบคณุ แต่ไมเ่ ปน็ ไร เกมน้มี ีถา่ ยทอดทางทวี ี แถมข้างนอกกห็ นาวเกินไปสาํ หรับฉัน
1) คุณตอ้ งการต๋ัวดว้ ยเหมอื นกันมัย้
2) ฉันขอเสนอขอ้ ตกลงกบั คุณนะ
3) ฉนั จะซอื้ มนั ไดม้ ้ยั
4) คณุ ต้องการใหไ้ ปรบั มัย้
5) คณุ ต้องการไปดว้ ยกันมัย้

เฉลย 5) Do you want to come along
สังเกตว่า B ตอบปฏเิ สธไมไ่ ปเพราะมถี า่ ยทอดทางทวี ี และอากาศข้างนอกหนาวเกินไป ดงั นน้ั

คําถามต้องเกี่ยวกับการไปข้างนอกหรือไม่ ซ่ึงมขี อ้ เดยี วคอื ตัวเลือกท่ี 1)

โครงการแบรนดซ์ มั เมอรแ์ คมป์ ปที ี่ 29 49 ภาษาอังกฤษ (อ.อริสรา)

3. ทบ่ี ้านของ Helen
Bill : คุณจะรังเกยี จมั้ย ถา้ ผมจะถอดเสอื้ jacket ออก?
Helen : ไม่ค่ะ, .................... .
1) ฉนั ชอบทจี่ ะให้ jacket อยู่บนตวั คุณ (ในโจทย์ตอบว่าไม่รังเกยี จ แล้วมาตอบวา่ ให้ใส่ แปลก: ผดิ )
2) ชว่ ยเหลอื ตัวเองนะ (ชว่ ยอะไร เขาไม่ได้ขอความชว่ ยเหลือ: ผิด)
3) คณุ สามารถเปิดเผยได้ทุกอย่างคะ่ (ตอบไมต่ รงคําถาม: ผิด)
4) ทาํ ตวั ตามสบายค่ะ คดิ ซะวา่ อยบู่ ้านตวั เอง (ตอบตรงคาํ ถาม และสุภาพ: ถกู )
5) โยนมันทิง้ ไปได้เลย (ไม่เกยี่ วกับบริบท)

เฉลย 4) make yourself at home

4. ศักดไ์ิ ปหาหมอ ส่งิ แรกทหี่ มอจะกลา่ วกับเขาคอื “....................”
1) คณุ ช่วยบอกทุกอยา่ งที่ผดิ ไปใหห้ มอฟังได้ไหมครับ
2) งน้ั ...คณุ เปน็ อยา่ งไรบา้ งครับ (เอาไว้ถามสารทกุ ขส์ ุขดบิ ท่วั ๆ ไป)
3) ให้ชว่ ยอะไรดีครับ (คนขายของพดู กบั ลูกคา้ ได้ แตไ่ ม่ใชก้ ับหมอค่ะ)
4) What seems to be the problem? เป็นสํานวน แปลเป็นไทยว่า มปี ญั หาอะไรมา(ให้หมอชว่ ย)
5) ทาํ ไมถงึ ดเู ศรา้ ขนาดน้นั ละ่ (ไม่ใชค่ ําถามทเี่ หมาะกับบรบิ ท)
ดังนั้นตวั เลือก 4) เปน็ คาํ ถามท่ีหมอมกั จะใช้ถามคนไขม้ ากทส่ี ดุ

เฉลย 4) What seems to be your problems?

5. คณุ ถามพนักงานรับโทรศพั ทว์ า่ เธอจะรังเกียจไหมท่ีจะทวนเบอร์ใหอ้ ีกรอบ เธอจะกล่าววา่ “....................”
1) ไม่เปน็ ไร เป็นสาํ นวนใช้พูดเวลามคี นมาขอโทษ
2) ทําไมฉนั ควรทาํ หละ่ (อนั นี้นา่ จะโดนร้องเรยี น)
3) ใชค่ ะ่ ถกู ต้องแลว้ (ขอใหท้ วนให้ ไม่ใช่ใหช้ ่วยตรวจ)
4) ไม่เลยค่ะ (มาจากไม่รงั เกยี จเลยค่ะ ขอ้ น้จี งึ เปน็ คําตอบที่ถูกต้อง)
5) มีอะไรอกี เหรอ (เปน็ คาํ ถามทีไ่ มเ่ กยี่ วกับบริบท)

เฉลย 4) Not at all.

ภาษาองั กฤษ (อ.อริสรา) 50 โครงการแบรนด์ซมั เมอรแ์ คมป์ ปที ี่ 29

6. คณุ เหยียบเท้าคนอน่ื โดยไม่ไดต้ ง้ั ใจ คณุ จะกล่าวว่า “....................”
1) ระวังหน่อยซิ
2) น่ันเปน็ ขอ้ ผิดพลาดของฉนั เองคะ่ (ซ่งึ จรงิ ๆ ถา้ บอกวา่ เป็นความผดิ แบบทาํ ความผิดใช้ false นะคะ
ไมใ่ ช่ error)
3) ฉนั ขอโทษมากๆ เลยคะ่
4) แลว้ นนั่ เปน็ ยังไงละ่ (เป็นสาํ นวนใชถ้ ามความคิดเหน็ ว่า ส่ิงนนั้ นา่ สนใจไหม)
5) อยากใหไ้ ปรับไหม (ไม่เกยี่ ว)

เฉลย 3) I’m so sorry.

Harry : พี่ชายของฉนั กาํ ลังจะมาในสุดสัปดาหน์ ี้ และฉันคดิ วา่ พวกเราสามคน
สามารถที่จะออกไปทานขา้ วเย็นข้างนอกกันในคนื วนั เสาร์ .........7........

Tim : .........8......... นายร้จู กั ที่ที่น่าไปมากกว่าฉนั ฉนั คิดวา่ นายควรจะเปน็ คนตดั สนิ ใจ

7. 1) นายคิดอะไรอยู่ (แปลก: ผิด)
2) มคี ําแนะนาํ อะไรให้มยั้ (ว่าควรไปทานทไ่ี หนด)ี ?
(ตรงกบั คาํ ตอบท่ีว่า นายรูจ้ ักทด่ี ีมากกวา่ ฉัน ใหน้ ายตัดสนิ ใจ: ถกู )
3) นายต้องการคนไปส่งมย้ั ? (ถามไมต่ รงคําตอบ กําลังคุยเรอ่ื งไปกิน: ผดิ )
4) นายรจู้ กั รา้ นอาหารดๆี มั้ย? (ถาม Do you แตค่ ําตอบในข้อ 8 ไมม่ ี Yes, No: ผิด)
5) วันน้ันนายว่างไหม (เขา้ กับบริบท แตด่ ูจากท่ี Tim ตอบก็จะเหน็ วา่ ไม่ใช่)

เฉลย 2) Any suggestions?

8. 1) มนั ไมใ่ ช่เรื่องใหญอ่ ะไร? (ตอบไมต่ รงคําถาม เขาถามขอคําแนะนาํ : ผดิ )
2) แล้วแต่นาย (ตอบตรงคาํ ถาม: ถกู )
3) เปน็ ความคดิ ทด่ี มี าก! (ตอบไม่ตรงคําถาม เขาขอคําแนะนํายังไมไ่ ดเ้ สนอความคดิ อะไรเลย: ผดิ )
4) ฉันไมส่ นใจหรอก (ไมส่ ภุ าพ ออกแนวกวนๆ: ผดิ )
5) ทําดีมาก (ไมเ่ กย่ี ว)

เฉลย 2) It’s up to you.

โครงการแบรนดซ์ ัมเมอร์แคมป์ ปที ่ี 29 51 ภาษาอังกฤษ (อ.อรสิ รา)

Jimmy : ฉนั รสู้ ึกเหน่อื ยมากจริงๆ วันนี้พวกเราไม่ไดก้ ลบั (จากการเดินทาง) มาถงึ จนกระท่งั ช่วงดกึ ของเมอื่
คืน

Jason : …..9………. เธอเพิ่งจะกับการเล่นสกีบนภูเขามาอาทติ ยห์ นง่ึ นี่ เปน็ อยา่ งไรบ้าง
Jimmy : วิเศษมาก! ฉันสนกุ มากเลย .........10.........
Jason : ไมไ่ ดห้ รอก ไม่ไดจ้ นกวา่ หลงั จากเดอื นกรกฎาคมไปแลว้ ฉันต้องรอจนกวา่ จะกลบั จากการเดินทาง

ไปทาํ ธุรกิจท่ีฮอ่ งกงเสียกอ่ น

9. Jim เล่าว่าวนั นี้รสู้ ึกเหน่อื ยมาก เพราะกวา่ จะเดินทางกลับจากการท่องเท่ียวมาก็ดึกมากแลว้ Jason ควร
จะตอบว่า
1) Oh really? จริงเหรอ? (ใช้ตอนที่รูส้ กึ ประหลาดใจ ไม่อยากเชื่อ)
2) Did you? เธอไดท้ าํ อย่างนัน้ เหรอ (ถามเหมือนคิดว่าเพ่อื นโกหก)
3) I think so. ฉนั กค็ ดิ เชน่ นั้น (เขาไม่ได้ถามความเหน็ อะไรเลย)
4) Oh that’s right. ใชเ่ ลย (เหน็ ดว้ ยว่าเพ่ือนตอ้ งเหน่อื ยแน่ ดูมีมารยาทสดุ ต้องตอบข้อนี้)
5) I don’t think so. ฉนั ไม่ได้คดิ อยา่ งน้ัน (เขาไมไ่ ดถ้ ามความเหน็ อะไรเลย)

เฉลย 4) Oh that’s right.

10. ดูจากประโยคที่ Jason ตอบตามมาวา่ “ไมไ่ ดห้ รอก ไม่ได้จนกว่าหลังจากเดือนกรกฎาคมไปแล้ว” Jim ควร
จะถามวา่ อะไร
1) Where did you go? นายไปไหนมาหละ่
2) Aren’t you going on vacation? นายจะไม่ไปเทย่ี วพกั ผอ่ นวนั หยดุ บา้ งเหรอ (ดเู ข้าท่าสุด)
3) Do you like skiing? นายชอบเลน่ สกไี หม
4) You are going to Hong Kong, aren’t you? นายกาํ ลงั จะไปฮอ่ งกงไม่ใช่เหรอ (ซงึ่ ขดั แยง้ กับประโยค
ท่ี Jason พูดตามมาวา่ ต้องรอฉันกลบั จากฮอ่ งกงก่อน)
5) How long will you stay there? นายจะอยูท่ ี่นน่ั นานแคไ่ หน (ไม่สมเหตสุ มผลกบั คาํ ตอบ)

เฉลย 2) Aren’t you going on vacation?

ภาษาองั กฤษ (อ.อรสิ รา) 52 โครงการแบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ ปีท่ี 29

ท่ีโรงเรยี น :
Laurie : เออ .........11.........?
Christie : ไมร่ ู้สิ เธออยากไปไหนหรอื ทาํ อะไรดว้ ยกนั ไหม
Sarah : .........12.........? ซีเนแมกซ์ 26 บนถนนคาร์ซนั กําลงั ฉายเร่ือง Enchanted อยูน่ ะ
Laurie : ฟงั ดูเปน็ ความคดิ ทดี่ ีมากเลย บางทีพวกเรานา่ จะไปกนิ ขา้ วกอ่ นด้วย
Sarah : .........13......... เธออยากจะเจอกนั ทไ่ี หนหล่ะ
Christie : พวกเราเจอกันท่ีซัมเมอรพ์ ิซซ่าเฮา้ สก์ ันเถอะ ฉนั ไม่ไดไ้ ปทีน่ ่ันนานแล้ว
Laurie : .........14......... ฉนั ไดย้ นิ มาว่าเขามีพิซซา่ หน้าใหม่มาดว้ ยนะ มนั ต้องดีแน่เลย เพราะซมั เมอรพ์ ิซซ่า

เฮา้ สม์ ีพซิ ซา่ ท่ีอรอ่ ยทส่ี ดุ ในเมอื งน้ีเสมอ
Sarah : เจอกันกโ่ี มงดี
Christie : เออ่ หนังจะฉายตอน 14.00, 16.00 และ 20.00 น.
Laurie : ทําไมเราไม่ไปรอบ 14.00 น. กนั ล่ะ เราเจอกนั ท่ีซมั เมอร์พซิ ซา่ เฮาสไ์ ดต้ อนบา่ ย นั่นทาํ ให้เรามีเวลา

มคี วามสขุ กับพิซซ่าเยอะเลย
Sarah : ญาติของฉนั ช่ือคาเรนอยู่ในเมอื ง .........15.........? ฉนั ไม่ชอบการท้ิงเธอไว้ที่บา้ นคน เดียวเลย
Laurie : ได้เลย พาเธอมาด้วยได้เลยซารา่ เธอเป็นคนดีมาก และยงั เป็นคนสนุกดว้ ย
Sarah : เธอตอ้ งดใี จมากเลยท่ไี ดเ้ จอเธอทง้ั คอู่ ีกครง้ั

11. ดจู ากคําตอบของ Christie ทว่ี ่า “ไมร่ ู้ส”ิ และชวนเพ่อื นกลับไปว่า “เธออยากไปไหนหรือทําอะไรดว้ ยกัน
ไหม” คาํ ถามของ Laurie ควรจะกว้างๆ ไมเ่ จาะจงกจิ กรรม
1) เธอมีแผนสําหรบั สุดสัปดาหน์ อ้ี ย่างไรบ้าง
2) เธออยากไปเทยี่ วนอกบา้ นกับฉนั ไหม
3) เธอมเี วลาคุยกันหนอ่ ยไหม (อนั น้ีเป็นสาํ นวนเวลาอยากเรยี กใครมาคยุ กันแบบจริงจงั )
4) ไปท่ไี หนกันดีหล่ะ
5) ไปดูหนังกนั ไหม (ไมเ่ ข้ากับคําตอบของ Christie)

เฉลย 1) what are your plans for this weekend ตัวเลือก 1) เหมาะสมทสี่ ุดเพราะถามกวา้ งๆ ไม่
เจาะจงกิจกรรม Christie จึงชวนกลบั มาให้เลอื กวา่ ออกไปไหน หรือทาํ อะไรกันดี

โครงการแบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ ปที ี่ 29 53 ภาษาอังกฤษ (อ.อริสรา)

12. จากท่ี Christie ชวนกลับมาวา่ อยากไปไหนหรอื ทําอะไรด้วยกันไหม และประโยคเสรมิ ท้ายของ Sarah
พูดวา่ หนังเรอ่ื ง Enchanted กาํ ลังฉายอยู่ ประโยคคาํ ถามเรม่ิ ตน้ ควรจะเป็น
1) Enchanted เป็นหนังท่ีดีไมใ่ ชเ่ หรอ (ยงั ไมไ่ ด้ไปดูกันเลย ตอบไม่ได้)
2) พวกเธอมีความคิดว่าจะไปทาํ อะไรบ้างไหมหล่ะ (ถามย้อนไปอกี เพื่อนๆ กพ็ ูดไปแล้วว่าไม่รู้จะทาํ อะไรกนั ดี)
3) ไปดหู นังกนั ดไี หม (How about doing sth. เปน็ สํานวนทใ่ี ช้ในการเชิญชวน แสดงความคิดเห็น)
4) เธอชอบหนังหรอื ว่ารับประทานอาหารเยน็ มากกว่ากัน (แลว้ ตามมาดว้ ยอธบิ ายวา่ หนังเรอื่ ง Enchanted
กําลงั ฉายอยู่ ดูเหมอื นจรงิ ๆ เลือกมาแลว้ แตช่ วนไปง้ันๆ)
5) คดิ วา่ มันเป็นความคดิ ท่ีดีงน้ั เหรอ (กวน)
ดังนั้น ตัวเลือก 3) ไปดหู นังกนั ดไี หม จงึ ดูเปน็ คาํ ตอบทส่ี มเหตสุ มผลที่สุด

เฉลย 3) How about going to see a movie

13. Laurie ตอบกลับมาวา่ การไปดูหนังเปน็ ความคดิ ทดี่ มี ากเลย แปลว่า ตกลงใจไปดูหนงั กันแลว้ แต่เสนอเพิ่ม
มาว่าควรไปกนิ ขา้ วก่อนไปดูหนงั กันดว้ ย Sarah ควรตอบว่า
1) ฉันชอบหนังมากกว่ารับประทานอาหารเยน็ (อันน้ีดยู งั ไม่ยอมจบ เขาเลือกกันเสร็จแล้ววา่ ไปทํากจิ กรรม
ได้ทง้ั สองอยา่ ง)
2) ฉนั โอเคเลย
3) มันข้นึ อยูก่ ับเธอน่นั แหละ (ดูเพื่อนเป็นคนเร่ืองมาก)
4) ฉนั ขอโทษนะ แต่ฉันคงไปไมไ่ ด้ (เอ่อเป็นคนชวน มาบอกไมไ่ ปตอนนคี้ งทะเลาะกัน)
5) ฉนั หิวจนกินมา้ ไดเ้ ลย (เปน็ สํานวนแปลวา่ หวิ มาก ในทน่ี ี้ไม่มปี ระโยคไหนเนน้ เรือ่ งหวิ มากเลย)

เฉลย 2) It is fine with me ขอ้ นีต้ อบ 2) จึงเปน็ คําตอบท่ดี ีทสี่ ดุ เพราะเป็นการตอบตกลง แลว้ ถาม
ตอ่ ว่าใหไ้ ปเจอกนั ท่ีไหนดี

14. Christie เสนอวา่ ไปร้านซมั เมอรพ์ ซิ ซ่ากันไหม Laurie ควรเลอื กคําตอบทม่ี ีความหมายเชิงตอบรบั เพราะ
ประโยคทต่ี ามมาคอื ฉนั ไดย้ นิ มาว่าพซิ ซ่าทีน่ ่ีเขาคิดหน้าใหมด่ ว้ ยนะ ต้องดแี นเ่ ลย และยงั อรอ่ ยทส่ี ุดในเมือง
อีกด้วย ดังนัน้ คําตอบที่นํามาตง้ั แตต่ ้นต้องเปน็ การตอบรบั เท่าน้ัน
1) ฉนั ไมเ่ คยไปมาก่อนเลย (ตอบไม่ตรงคาํ ถาม)
2) ฟังดแู ยจ่ งั (แสดงวา่ ไม่เหน็ ด้วย ไมเ่ ข้ากบั ประโยคตอ่ ไปทพี่ ูด)
3) เหน็ ด้วยนอ้ ยไปกวา่ นไ้ี มไ่ ด้แล้ว (กค็ ือ ไม่เห็นด้วยเลย)
4) เธอเลีย้ งนะ (สาํ นวน It’s on someone. เหมือน It’s someone’s treat คือ ใครเปน็ คนเล้ยี ง)
5) เปน็ ความคิดท่ีดีมากอีกแลว้ (ใช้ again เพราะก่อนหน้าน้ี Laurie กไ็ ดพ้ ูด Good idea เปน็ ความคิดทีด่ ี
มากอ่ นหนา้ น้แี ล้ว)

เฉลย 5) Good idea again

ภาษาองั กฤษ (อ.อริสรา) 54 โครงการแบรนดซ์ มั เมอร์แคมป์ ปีที่ 29

15. Sarah พดู ข้ึนมาว่า มญี าติอยู่ในเมืองพอดี ……….. แล้วตบท้ายวา่ ฉนั ไมช่ อบการทิง้ เธอไว้ท่บี า้ นคนเดียวเลย
Sarah ควรจะถามเพื่อนๆ วา่ อะไร โดยคําใบ้อย่ทู ี่ Laurie พูดว่า ได้เลย “พาเธอมาดว้ ยส”ิ
1) ฉนั ควรไปรับเธอไหม (สาํ นวน pick someone up คอื ไปรับ)
2) พวกเธอร้จู ักเธอไหม
3) พวกเธอเคยเจอกันมาก่อนไหม (ไม่เขา้ กบั ประโยคท่ีตามมา)
4) พวกเธอจะสามารถเข้ากันได้กับเธอหรอื เปลา่ (สํานวน get along with someone คอื เขา้ กันได)้
5) ฉันขอพาเธอมาด้วยไดไ้ หม (สํานวน bring someone along คอื พามาดว้ ย)

เฉลย 5) Can I bring her along

Part II : Vocabulary

Meaning in Context

16. เฉลย 3) communicable

แตอ่ ยา่ งไรกต็ าม เมื่อเดอื นตลุ าคม ปี ค.ศ. 1886 ตามการพิจารณารา่ งพระราชบัญญัตปิ ี ค.ศ.

1878 โรคแอนแทรก็ ซ์ (โรคตดิ ต่อรา้ ยแรงในสตั ว์เลย้ี ง) และโรคพษิ สนุ ัขบ้าได้ถกู ประกาศอยา่ งเป็นทางการ

ให้ถือเป็นโรคตดิ ตอ่ ทางการสัมผัส (contagious)

ตัวเลอื กอื่นๆ :

1) courageous (a.) กลา้ หาญ

2) fatal (a.) อันตรายถึงตาย

4) undesirable (a.) ไม่เป็นท่พี ึงปรารถนา

5) quarantined (a.) ทีถ่ กู กักไว้, ท่ีอยู่โดดเดี่ยว

17. เฉลย 5) conveyance
ในปี ค.ศ. 1900 การขนยา้ ย (consignment) อาวุธยุทโธปกรณ์ผ่านทา่ เรอื ในประเทศอนิ เดีย

เพอื่ ไปยังอ่าวเปอรเ์ ซยี ที่ไมว่ า่ จะมหี รอื ไมม่ ีการเปลย่ี นถา่ ยสินค้าหรอื ไมก่ ็ตามถือเปน็ เรอ่ื งผดิ กฎหมาย
ตัวเลือกอื่นๆ :

1) weapon (n.) อาวธุ
2) investigation (n.) การสืบสวนสอบสวน
3) infringement (n.) การฝ่าฝืน, การละเมิด
4) conscience (n.) ความรู้สึกผิดชอบชว่ั ดี, สตสิ ัมปชญั ญะ

โครงการแบรนดซ์ มั เมอรแ์ คมป์ ปีท่ี 29 55 ภาษาองั กฤษ (อ.อรสิ รา)

18. เฉลย 4) compromise
จุดประสงคห์ ลักของรฐั บาลเกาหลเี หนือ คอื ความอย่รู อด และสงครามกับสหรฐั อเมริกาอาจจะ

เปน็ ภยั ตอ่ จุดประสงค์ดงั กล่าวอยา่ งร้ายแรง
ตวั เลอื กอ่ืนๆ :

1) entail (v.) ถา่ ยทอด, มอบให้, นาํ มาซงึ่
2) dangle (v.) หอ้ ยต่องแต่ง, ตดิ สอยห้อยตาม
3) integrate (v.) รวมเขา้ ดว้ ยกนั
5) reinforce (v.) เสริมกาํ ลัง, ทําใหแ้ ข็งแกรง่ ขนึ้

19. เฉลย 1) secret, dogged

เมอื่ ถูกถามถงึ เคล็ดลบั แหง่ ความสําเรจ็ เธอไดต้ อบวา่ ความมงุ่ มัน่ ทแี่ นว่ แน่และความ

ทะเยอทะยานนีแ่ หละทเี่ ปน็ สงิ่ ทที่ าํ ใหเ้ ธอมาไดไ้ กลขนาดนี้

ตวั เลอื กอ่นื ๆ :

2) tip (n.) ข้อแนะนํา และ restricted (a.) ท่ถี ูกจํากัด

3) trick (n.) เล่ห์เหล่ียม, กล และ insignificant (a.) ไม่สาํ คญั

4) path (n.) ทางเดิน, เส้นทาง และ contradicting (a.) ทข่ี ดั แยง้ , ทตี่ รงกนั ขา้ ม

5) achievement (n.) ความสาํ เรจ็ และ incalculable (a.) มากเกนิ กว่าจะนับได้

20. เฉลย 3) headed, swept

ในปี 1543 เรอื สัญชาตจิ นี ลําหน่งึ พรอ้ มด้วยลกู เรอื ชาวโปรตุเกสอีก 3 นายไดม้ งุ่ หน้าสเู่ มืองมา

เก๊า แตก่ ลบั ตอ้ งถกู พัดออกนอกเส้นทางไปยงั เกาะทาเนะกาชิมาในประเทศญป่ี นุ่

ตวั เลือกอนื่ ๆ :

1) traveled (v.) ทอ่ งเที่ยว และ swayed (v.) แกวง่ ไปมา

2) marched (v.) เดนิ ขบวน, เดนิ สวนสนาม และ cleansed (v.) ทาํ ใหส้ ะอาด

4) transported (v.) ขนส่ง และ deterred (v.) ขดั ขวาง, ยบั ย้ัง

5) proceeded (v.) ดาํ เนนิ การ, ลงมือทํา และ abandoned (v.) ละท้ิง

ภาษาองั กฤษ (อ.อรสิ รา) 56 โครงการแบรนดซ์ มั เมอร์แคมป์ ปีท่ี 29

21. เฉลย 2) warrant, response

นักวเิ คราะห์หลายท่านตา่ งพูดวา่ ในหมายคน้ (search warrant) ไดบ้ อกเอาไว้ว่า พนกั งาน

สอบสวนต้องการให้แนใ่ จวา่ คุณ Manafort จะส่งมอบเอกสารทั้งหมดตามท่ี (in response to) หมายศาล

ได้ระบเุ อาไว้

ตัวเลือกข้ออน่ื ๆ :

1) guarantee (n.) หลกั ประกัน, ใบรบั รอง และ commitment (n.) พนั ธะ, ข้อผกู มัด

3) covenant (n.) ขอ้ ตกลงร่วมกนั และ sponsorship (n.) ความเปน็ ผู้สนับสนนุ

4) request (n.) คําร้อง, ข้อเรยี กรอ้ ง และ tribute (n.) เครือ่ งบรรณาการ, ส่วย

5) raid (n.) การจ่โู จม และ remembrance (n.) ความทรงจาํ

ขอ้ 22-24

มันได้ถูก (22) ประมาณเอาไวว้ า่ กว่า 99% ของสายพันธสุ์ ง่ิ มีชีวิตทง้ั หมดท่เี คยมอี ย่ไู ดส้ ญู พนั ธุ์ไปแล้ว
แล้วอะไรล่ะท่ีเปน็ สาเหตุของการสูญพนั ธุ์ของส่งิ มีชีวิตเหล่าน้ัน เม่ือสง่ิ มชี ีวติ สายพนั ธหุ์ น่ึงไม่สามารถปรบั ตวั ให้
เขา้ กับสภาพแวดลอ้ มที่เปลีย่ นแปลงได้อกี ตอ่ ไป มนั ก็อาจจะต้อง (23) ตายลง สาเหตุท่ีแน่ชดั ของการสูญพันธุ์
ของสิ่งมีชวี ติ สายพนั ธห์ุ นึ่งๆ แปรเปล่ยี นจากสถานการณห์ นง่ึ ไปสอู่ กี สถานการณห์ นงึ่ การเปล่ียนแปลงทางดา้ น
ส่งิ แวดลอ้ มอยา่ งรวดเรว็ อาจนําไปสู่ศตั รทู างส่งิ แวดลอ้ มตัวฉกาจต่อการสญู พนั ธุ์ของสิง่ มชี ีวิต ทรพั ยากรดา้ น
อาหารอาจจะได้รับผลกระทบจากการเปลยี่ นแปลงทางด้านสง่ิ แวดล้อม ซ่งึ ในเวลาตอ่ มาอาจเปน็ สาเหตทุ ี่
ก่อให้เกิดปญั หาต่อสง่ิ มีชวี ติ (24) ทต่ี ้องการทรัพยากรเหลา่ น้ันในการดํารงชีวิต

22. เฉลย 2) estimated
ตัวเลอื กอื่นๆ :

1) suspected (v.) สงสยั
3) inclined (v.) มแี นวโนม้
4) assumed (v.) ทึกทักวา่ จริง, ยอมรบั
5) predicted (v.) ทํานาย, คาดการณ์

23. เฉลย 4) perish
ตวั เลือกอนื่ ๆ :

1) prosper (v.) เจริญรงุ่ เรือง
2) persist (v.) ยืนกราน
3) prevail (v.) มอี ํานาจเหนือกวา่ , โนม้ นา้ ว
5) pertain (v.) เป็นของ, เกยี่ วกบั , เหมาะสมกับ

โครงการแบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ ปที ี่ 29 57 ภาษาองั กฤษ (อ.อรสิ รา)

24. เฉลย 3) requiring
ตัวเลอื กอ่นื ๆ :

1) soliciting (v.) เรยี กรอ้ ง
2) ravaging (v.) ทาํ ใหเ้ สียหาย, ปล้นสะดม
4) formulating (v.) กําหนด, คิดคน้ วิธี
5) evolving (v.) คอ่ ยๆ พฒั นา, มวี วิ ัฒนาการ

ขอ้ 25-27

เครือข่ายโทรศัพทม์ ือถือรุ่นท่ี 5 หรือ ระบบไร้สายรุน่ ท่ี 5 ซง่ึ มตี ัวย่อว่า 5G นั้นเป็นมาตรฐานโทรคมนาคม
ในอนาคต การวางแผน 5G น้ันต้ังเปา้ ที่ (25) ความสามารถในการรองรับความหนาแน่น (ความจ)ุ ท่ีเพ่ิม
มากข้ึนกว่า 4G ในปัจจุบัน ซ่งึ รองรบั ความหนาแนน่ ของผใู้ ช้เทคโนโลยีผา่ นเครอื ขา่ ยอนิ เทอร์เน็ตไร้สายได้มากขนึ้
และรองรับการสอ่ื สารท่ปี ลอดภยั ไว้ใจไดร้ ะหว่างอุปกรณ์ใหญๆ่ การวิจยั และพัฒนา 5G ยงั ตงั้ ใจท่จี ะลด
(26) ความหน่วงในการโอนถ่ายขอ้ มูลให้น้อยกวา่ อุปกรณ์ 4G และลดปรมิ าณการใชแ้ บตเตอร่ี เพ่ือ (27) การใช้
งาน ท่ดี ขี ้ึนของ Internet of things

25. เฉลย 3) capacity (ความจุ)

ตวั เลอื กอนื่ ๆ :

1) ability (n.) ความสามารถ

2) capability (n.) ความสามารถ

4) facility (n.) ส่ิงอํานวยความสะดวก

5) competence (n.) ความสามารถ

26. เฉลย 4) latency

ตวั เลือกอ่ืนๆ :

1) speed (n.) ความเรว็

2) cooperation (n.) ความร่วมมือ

3) expedite (n.) ความเร่ง

5) engagement (n.) ความเกีย่ วพัน

ภาษาอังกฤษ (อ.อริสรา) 58 โครงการแบรนดซ์ มั เมอร์แคมป์ ปที ่ี 29

27. เฉลย 1) implementation
ตวั เลอื กอนื่ ๆ :

2) connection (n.) การเชือ่ มต่อ
3) advancement (n.) ความกา้ วหน้า
4) resolution (n.) การแสดงผล (หนา้ จอ)
5) commission (n.) คณะกรรมการ / คําส่งั

Meaning Recognition

28. เฉลย 3) The peak breeding season is in late spring and early summer.
ฤดใู บไม้ผลอิ ยทู่ กุ หนทกุ แหง่ (in the air) และเราสามารถที่จะเพลดิ เพลนิ ไปกบั ส่ิงทีอ่ ยู่

กลางแจง้ เร็วๆ นี้
1) การพฒั นาเชิงพาณชิ ยข์ นาดใหญ่ท่ีจะเริ่มเพ่ิมขึ้นอย่างรวดเรว็ ในเมอื ง
2) ฉนั มกั จะกระโดดออกมาจากเตียงทันที่ทน่ี าฬิกาปลกุ
3) จดุ สูงสุดของฤดผู สมพนั ธอุ์ ย่ใู นชว่ งปลายฤดใู บไมผ้ ลิและตน้ ฤดรู ้อน
4) แหล่งท่ีมาแหง่ เดียวของนํา้ คอื นา้ํ พุทอ่ี ยดู่ า้ นล่างของฝง่ั แมน่ ้ําที่สงู ชัน
5) ฟูกทร่ี าคาถกู กวา่ มีขดลวดสปริงท่ีเช่ือมต่อกนั

อนั ดบั แรกให้สังเกตจาก part of speech
ประโยคใน โจทย์ spring เป็น N. ดังนน้ั ตดั ตวั เลือกที่ 1) และ 2) กอ่ นเลยเพราะเป็น V.
ต่อมาดทู ี่ความหมาย พอลองแปลแล้ว ประโยคทม่ี ีความหมายของคาํ วา่ spring เปน็ ฤดูใบไม้ผลิ
เหมอื นกบั ในโจทย์ คือ ตัวเลอื ก 3)

29. เฉลย 4) Talking about the world's problems is one thing, but solving them is another
matter.
ครูรู้สกึ วา่ นีเ่ ปน็ เรื่องสาํ หรบั การปรึกษากบั ผู้ปกครอง
1) พสั ดมุ าส่งชา้ และสถานการณ์ยงิ่ แย่ไปกวา่ นน้ั คือมันไมใ่ ชส่ ิ่งทีเ่ ราสงั่
2) คุณสามารถปรับคุณภาพดนิ ไดโ้ ดยการใส่สารอนิ ทรยี ์เขา้ ไป
3) คุณปกติดี (ไมม่ ปี ัญหาอะไร) คุณก็แค่เหนือ่ ย
4) การคยุ เกย่ี วกบั ปัญหาของโลกก็เป็นเรือ่ งหน่ึง แต่การแกไ้ ขปญั หาเหลา่ นน้ั กเ็ ป็นอีกเรอ่ื งหน่ึง
5) นกั วิทยาศาสตร์บางคนเช่อื ว่ามันมสี สารอยู่ในจกั รวาลมากกวา่ ทนี่ ักดาราศาสตรส์ ามารถ

สงั เกตเห็นได้ประมาณสิบเท่า
จะเห็นวา่ ข้อทมี่ คี วามหมายตรงกบั โจทย์ คือ ตัวเลอื ก 4)

โครงการแบรนด์ซมั เมอร์แคมป์ ปที ่ี 29 59 ภาษาองั กฤษ (อ.อรสิ รา)

30. เฉลย 1) I tried to call her, but all I got was a recorded message saying that she was
away.
คลฟิ ฟ์ รชิ าร์ดได้บันทกึ (เสยี ง) เพลงฮิตอันดบั หนึง่ มากกวา่ นักร้องชาวอังกฤษคนอ่นื ๆ
1) ฉันพยายามทจี่ ะโทรหาเธอ แตอ่ ยา่ งเดียวที่ฉนั ไดค้ อื ขอ้ ความเสยี งที่อดั ไว้บอกว่าเธอไม่อยู่
2) การวา่ งงานมแี นวโนม้ จะถงึ จุดสงู สดุ เท่าที่เคยบันทกึ มา
3) เขาเปน็ ทีร่ จู้ ักในบรรดาตํารวจ และมปี ระวัติอาชญากรรมยาวเหยยี ด
4) เพอ่ื ความเขา้ ใจตรงกนั พวกเราไมเ่ คยเป็นมากกวา่ แค่เพอ่ื นทดี่ ตี อ่ กัน
5) เขาวง่ิ ระยะทาง 100 เมตร ในเวลา 9.79 วนิ าที และทําลายสถติ โิ ลก

จากโจทย์ คําว่า record มคี วามหมายในเชงิ บันทึกเสยี ง ชอยส์ท่ีมคี วามหมายตรงกันมากที่สดุ
คือ ตัวเลือก 1)

Part III : Writing & Structure

Error Identification

31. เฉลย 4) แกเ้ ปน็ to acquire
สงั เกตคําเชือ่ ม and ทาํ ให้ขา้ งหน้าและขา้ งหลัง parallel กนั โดย and เชือ่ มคําว่า to work

และ to acquire จงึ ทําให้ acquiring ผิด เพราะไม่ parallel กับ to work

32. เฉลย 3) แก้เปน็ wallet services
ตามโครงสรา้ ง one of + noun พหพู จน์ (แปลว่า หนึ่งจากหลายๆ สิง่ )

33. เฉลย 5) แก้เป็น almost
mostlyแปลวา่ ส่วนใหญ่ แต่ almost แปลว่า เกือบ ซง่ึ ในประโยคต้องการความหมายว่า

“เกอื บหกเดอื น” จงึ ตอ้ งใช้ almost แทน mostly

34. เฉลย 1) แกเ้ ป็น Among the key
ข้อน้ีวดั เรอ่ื ง preposition และ inversion ถา้ สังเกต จะเหน็ วา่ verb ของประโยคอยู่ที่ is และ

subject อย่ทู ่ี the requirement ซ่ึง verb นําหน้า subject ประโยคนี้จึงเปน็ inversion แต่การจะเปน็
inversion ได้ โครงสร้างประโยคจะต้องมลี กั ษณะเฉพาะ โดยหนงึ่ ในนั้นกข็ อ้ ประโยคต้องข้ึนตน้ ด้วย
prepositional phrase โดย according to ท่ีโจทย์ให้มาถอื เป็นคาํ เช่อื มทไ่ี ม่ก่อให้เกดิ inversion จึงต้อง
เปลี่ยนเป็น among

ทง้ั น้ีสามารถเช็คความถกู ต้องไดด้ ้วยการกลับประโยคใหเ้ ปน็ ปกติ คือ The requirement that
every country, rich or poor, has to submit an inventory of its greenhouse-gas emissions
every two years is among the key provisions of the Paris climate deal.

ภาษาอังกฤษ (อ.อริสรา) 60 โครงการแบรนด์ซมั เมอร์แคมป์ ปีท่ี 29

35. เฉลย 3) แกเ้ ป็น moreover
ประโยคหลงั บอกความเพ่มิ เตมิ จากประโยคหนา้ “นักวิทยาศาสตรไ์ ด้สงสยั มากวา่ 80 ปี ว่าใน

จกั รวาลน้นั มวี ัตถอุ นื่ ๆ มากกวา่ ทเ่ี ราสงั เกตเห็นได้ ยิง่ ไปกวา่ นนั้ การเคลอื่ นทขี่ องดวงดาวและกาแลก็ ซยี ัง
ระบุอกี ว่าจักรวาลนนั้ ประกอบไปด้วยอนุภาคทีม่ องไมเ่ ห็นหรือท่ีรู้จักกนั ในชอ่ื ว่าสสารมืด”

Error Correction

36. เฉลย 2) from
ขอ้ น้วี ัด preposition ตามโครงสรา้ ง get something from something / someone

37. เฉลย 4) fruit-bearing
ข้อน้วี ัดการสรา้ ง compound adjective โดยการใช้ hyphen (-) ขีดค่นั ระหว่างคํา และ

คาํ นามทีถ่ กู ขดี คั่นตอ้ งเป็นเอกพจน์เทา่ นั้น จงึ ตดั ขอ้ ทีเ่ ติม -s ทิง้ ไปได้เลย เหลอื เพียงข้อเดยี วที่มี (-) และ
ไม่เติม -s คือ ตัวเลอื ก 4)

38. เฉลย 4) let
ขอ้ น้วี ัดการใช้ causative verb และความหมาย
- allow someone to do something = อนญุ าตให้ทาํ
- get someone to do something = โน้มนา้ วใหท้ าํ
- make someone do something = บังคบั ใหท้ ํา
- have someone do something = มอบหมายให้ทาํ
- let someone do something = อนญุ าตใหท้ าํ
- see someone do something = เหน็ ใครทําอะไร

จากโจทย์ใชค้ ําวา่ digest (infinitive without to) จึงตดั get ท้ิงไป และข้อทค่ี วามหมายตรงท่ี
สดุ คือ let

39. เฉลย 1) a great number of
ข้อนีว้ ัดเรอ่ื ง quantifier โดยดูจากคาํ นามทต่ี ามหลงั ในโจทยค์ ือคาํ ว่า plants ซึ่งเปน็ คาํ นาม

นบั ไดพ้ หพู จน์ จึงตัด a good deal of / a large quantity of / a bit of เพราะคาํ เหล่านีต้ ้องตามดว้ ย
คาํ นามนบั ไม่ได้ เหลือเพยี ง a great number of ซง่ึ ตอ้ งตามดว้ ยคาํ นามนบั ไดพ้ หูพจน์ และ none of ที่
ตามหลงั ดว้ ยได้ทั้งนามนบั ไมไ่ ด้ และนามนับไดพ้ หพู จน์ เม่ือดจู ากความหมายแลว้ จงึ ควรตอบ a great
number of มากทสี่ ดุ

โครงการแบรนด์ซมั เมอรแ์ คมป์ ปที ี่ 29 61 ภาษาองั กฤษ (อ.อริสรา)

40. เฉลย 2) so
ขอ้ น้วี ดั เรื่องคําเช่อื ม โดยคาํ ทมี่ คี วามหมายเข้ากับบริบทมากที่สดุ คอื คําว่า so

41. เฉลย 2) associated with
ตาํ แหนง่ นีต้ ้องการกรยิ าไม่แท้ ดังนนั้ จึงตัด associates ท้งิ ไปได้ โดยคาํ ว่า associate เรามักใช้

เปน็ passive voice (กรยิ าชอ่ งสาม) และใช้คู่กบั with เสมอ

42. เฉลย 3) programming
ตาํ แหนง่ นี้ตอ้ งการกรรม เพราะตามหลงั กรยิ า include จงึ ต้องตอบ programming ซึ่งเปน็

gerund

43. เฉลย 4) only if
ขอ้ นว้ี ัดคําเชือ่ ม สามารถตัด who ท้งิ ได้ เพราะ who จะไม่ตามด้วยประธานตัวใหม่
- so = ดังนนั้
- if only = wish (ปรารถนาในสิ่งทเี่ ปน็ ไปไม่ได้)
- only if = if
- unless = if not

โดยคําวา่ ถ้ามคี วามหมายตรงที่สุด

44. เฉลย 5) to implement
การบอกจุดประสงค์ (เพ่อื …) เราจะใช้ infinitive with to จงึ ต้องตอบ to implement

45. เฉลย 1) is
ข้อน้ีตอ้ งการกริยาแท้ของประโยค โดยประธานคือคําว่า initiating ซึ่งถือเป็นเอกพจน์ และ

ประโยคนีพ้ ูดถงึ ความจริงทวั่ ไป จงึ ต้องใช้ is ซึง่ เป็น present simple tense

ภาษาองั กฤษ (อ.อริสรา) 62 โครงการแบรนด์ซมั เมอร์แคมป์ ปที ี่ 29

Paragraph Organization

46. เฉลย 3) 5-3-4-2-1
เริม่ จากการตัดประโยคทไี่ มส่ ามารถขน้ึ ตน้ เป็นประโยคแรกได้
ตดั ประโยค 1 ทิ้ง เพราะมคี ําวา่ this ซ่งึ เป็นการเจาะจง ไมค่ วรข้ึนต้นประโยคแรก
ตัดประโยค 4 ทิ้ง เพราะมคี าํ วา่ also
จงึ เหลอื ชอยสแ์ ค่ 3), 4), 5) ตอ่ มาให้จับคูป่ ระโยคที่ควรอยตู่ ่อกัน สังเกตประโยค 4 คําว่า also

means และประโยค 3 คาํ ว่า means ซึ่งแสดงว่า ประโยค 4 ต้องตามหลงั ประโยค 3 จงึ ตดั ชอยสท์ ี่ 5)
ทงิ้ ได้

อกี คู่ประโยคท่ีต้องมาด้วยกัน คือ 2 และตามดว้ ย 1 โดยสังเกตจาก at this age ในประโยค 1
ซ่ึงเท่ากบั ว่าในประโยคกอ่ นหนา้ ตอ้ งมตี วั เลขอายบุ ง่ บอก นน่ั กค็ ือประโยค 2 จึงสามารถตอบชอยส์ 3)
ได้ทนั ที

47. เฉลย 5) 3-1-4-5-2
เริม่ จากการตัดประโยคทไี่ ม่สามารถข้นึ ตน้ เปน็ ประโยคแรกได้
ตัดประโยค 1 ท้งิ เพราะมคี าํ วา่ she ซง่ึ เป็นสรรพนาม
ตดั ประโยค 2 ทงิ้ เพราะมคี ําว่า her ซ่ึงเปน็ สรรพนามแสดงความเปน็ เจ้าของ
ตัดประโยค 4 ทิง้ เพราะมีคําว่า her ซึ่งเป็นสรรพนามแสดงความเปน็ เจ้าของ
ตดั ประโยค 5 ท้ิง เพราะมคี าํ ว่า her ซงึ่ เปน็ สรรพนามแสดงความเป็นเจา้ ของ
จึงเหลือชอยสแ์ ค่ 2), 5) โดยต่างกันเพยี งคสู่ ดุ ทา้ ยทีส่ ลบั กันระหว่าง 2-5 และ 5-2 หากสังเกต

จะเหน็ ว่าในประโยค 2 มีคําวา่ other ท่ีแปลว่า อ่ืนๆ อยู่ น่นั จึงทาํ ให้ประโยค 2 ควรอย่ปู ดิ ท้าย จึงชอยส์ที่
5)

48. เฉลย 2) 1-4-2-5-3
ข้อน้ีสามารถเลือกประโยคขึน้ ต้นได้ง่าย เพราะมเี พียงประโยคเดียวท่มี คี วามหมายกว้างๆ คือ

ประโยค 1 จึงเหลือชอยสเ์ พียง 2) และ 3) และลําดับท่ีถกู ตอ้ งคอื ประโยค 2 ต้องมากอ่ นประโยค 3 และ
ประโยค 5 สงั เกตจาก as in freedoms ซ่งึ เปน็ การยกตัวอยา่ ง

49. เฉลย 4) 4-3-2-5-1
จากชอยส์ ข้อที่สามารถตดั ออกไปได้ คอื ขอ้ 5) เพราะขึ้นต้นดว้ ยประโยค 3 ซ่ึงมคี ําว่า its เป็น

สรรพนาม ต่อมาประโยคทไ่ี ม่ควรขึ้นตน้ อกี ประโยคก็คอื ประโยค 2 เพราะคําวา่ to begin with ใชข้ น้ึ ตน้
การอธิบายอะไรบางอยา่ ง ซงึ่ ควรมีประโยคกอ่ นหน้ามากอ่ น จงึ เหลือชอยส์ 2) และ 4) ต่อมาใหส้ งั เกตดทู ่ี
คําว่า The last problem ในประโยค 1 ซงึ่ ควรจะเป็นประสุดท้าย จงึ สามารถตอบชอยส์ท่ี 4) ได้เลย

โครงการแบรนดซ์ ัมเมอรแ์ คมป์ ปีที่ 29 63 ภาษาอังกฤษ (อ.อรสิ รา)

50. เฉลย 1) 3-2-4-5-1
จากประโยคท้งั หมด ประโยคท่ีพดู ถงึ ภาพรวมกวา้ งๆ มากทีส่ ุดคอื ประโยค 3 จงึ ตดั ชอยส์เหลือ

แค่ 1) และ 5) ตอ่ มาใหส้ ังเกตคาํ ว่า Furthermore ในประโยค 5 ซงึ่ เปน็ การบอกความเพมิ่ เตมิ จึงควรอยู่
หลัง กอ่ นจะจบดว้ ยประโยค 1 ท่หี ักมุมด้วย however

Part IV : Reading Comprehension

การอ่านเอกสาร
กราฟแทง่

51. กรณใี ดดังต่อไปนี้ถือเป็นสาเหตุของการบาดเจบ็ โดยต้งั ใจ?
1) คนลื่นลม้ เมือ่ ปนี ภเู ขา (ไมต่ ้งั ใจ)
2) ผหู้ ญงิ กระโดดลงจากบนั ไดหนีไฟ (โดยตง้ั ใจ)
3) ผู้ชายทํามดี บาดน้วิ ตวั เองขณะสับหวั หอม (ไมต่ ้ังใจ)
4) ผู้หญิงได้รบั แผลไหมอ้ ย่างรนุ แรงจากกรดในห้องทดลอง (ไมต่ ัง้ ใจ)
5) ผ้ชู ายขาหักหลงั จากตกลงมาจากหลังคา (ไม่ตงั้ ใจ)

เฉลย 2) A woman threw herself down a flight of stairs.

52. ตามแผนภูมิสามารถสรุปได้วา่ ในปี ค.ศ. 2009-2010..........
1) ประมาณ 50% ของผูป้ ว่ ยในโรงพยาบาลทกุ คนได้รับบาดเจบ็ จากความรุนแรงแบบความสัมพันธ์
ระหว่างบคุ คล (ผดิ เพราะตอ้ งเป็นประมาณ 25% โดยดูจากกราฟแทง่ สดุ ท้ายขวาสดุ )
2) บาดแผลทเ่ี กิดขึน้ ด้วยตนเองเป็นสาเหตุทพ่ี บบ่อยมากในออสเตรเลีย (ผดิ เพราะสาเหตุทพ่ี บบ่อยมาก
ในออสเตรเลีย คือ falls (หกลม้ ))
3) กว่า 200,000 คน ไดเ้ ข้ารบั การรักษาทีโ่ รงพยาบาลเนอื่ งจากการบาดเจบ็ โดยไม่ไดต้ ้ังใจ (จรงิ จากการ
บวกเลขโดยประมาณของสาเหตทุ ่เี กิดแบบไม่ตั้งใจ ได้มากกว่า 200,000)
4) ชาวออสเตรเลยี ประมาณ 50,000 คน เสยี ชีวิตจากการบาดเจบ็ โดยต้ังใจ (ผดิ เพราะชาวออสเตรเลยี
ประมาณ 50,000 คนทีไ่ ด้รับบาดเจ็บโดยตง้ั ใจ ไม่ไดเ้ สียชวี ติ )
5) การจมน้ําเป็นสาเหตทุ ท่ี ําใหม้ ีผู้เสียชีวติ มากทีส่ ุด (ผิด เพราะกราฟแท่งของการจมนา้ํ ตํ่าทสี่ ุด การ
จมน้ําเป็นสาเหตทุ ี่ทําให้มผี ูเ้ สียชีวติ ตํ่าทีส่ ุดในบรรดาผู้ทไ่ี ด้รบั บาดเจบ็ โดยไมต่ ั้งใจ)

เฉลย 3) over 200,000 people were admitted to hospital due to unintentional injuries.

ภาษาองั กฤษ (อ.อริสรา) 64 โครงการแบรนดซ์ มั เมอรแ์ คมป์ ปีที่ 29

ดวงชะตา

53. คนที่เกดิ ในปี .................... ถกู กลา่ ววา่ มีโชคดที างการเงนิ
1) ไก่
2) เสอื
3) หมู
4) งู
5) หนู

เฉลย 4) Snake สังเกตจากในตารางช่อง “Year of Sake”มี keywords วา่ “They will have good
luck with money”

54. ทกุ ข้อความตอ่ ไปน้เี ปน็ จริง ยกเวน้ ....................
1) ทง้ั ปีไก่และปเี สอื เปน็ คนท่ีคิดลึกซ้งึ (เป็นจรงิ เพราะจาก keywords ในช่อง Year of the Rooster:
think deep thoughts ในช่อง Year of the Tiger: Other people respect tiger people for their
deep thought)
2) ปีสนุ ัขและปีกระต่ายเป็นคนท่ีน่าเชอ่ื ถอื (เป็นจริง เพราะจาก keywords ในช่อง Year of the Dog:
are loyal and can always keep a secret ในช่อง Year of the Rabbit: many people trust
them)
3) ซงึ่ แตกตา่ งจากปีวัว, ปีมังกรเปน็ ผู้ฟงั ท่ดี ีกวา่ (เปน็ เทจ็ เพราะจาก keywords ในชอ่ ง Year of the
Ox: They are good listenersในชอ่ ง Year of the Dragon: They are good friends because
they listen carefully to others)
4) ปลี งิ สามารถทจ่ี ะเปน็ นักแสดงตลกทปี่ ระสบความสําเร็จ (เป็นจรงิ เพราะในช่อง Year of the Monkey:
are very funny. They can always make people laugh.)
5) ปแี พะและปีหนูมลี ักษณะบางอยา่ งทเ่ี หมอื นกนั (เป็นจริง เพราะทงั้ สองปีมสี ิง่ ทเ่ี หมอื นกนั คือ เป็น
ศิลปินท่ีดี (good artists) ในชอ่ ง Year of the Goat: are very good artists. ในชอ่ ง Year of the
Rat: are good artists)

เฉลย 3) unlike oxen, dragons are better listeners สรุปวา่ ทัง้ ปีวัว และปมี ังกร เปน็ ผู้ฟงั ทด่ี ีทงั้ คู่
ไม่มขี ้อมลู อะไรท่ีแสดงวา่ ใครเป็นผู้ฟังท่ดี กี วา่ ใคร คือ ไมม่ กี ารกล่าวถงึ นนั้ เอง (not mentioned)

โครงการแบรนด์ซมั เมอรแ์ คมป์ ปที ่ี 29 65 ภาษาองั กฤษ (อ.อรสิ รา)

บทความ
บทความที่ 1

ธรรมชาติเต็มไปด้วยสีสนั ตัง้ แต่สขี องสายรุง้ และดอกกุหลาบชนดิ ต่างๆ ไปจนถงึ ปกี ของผีเส้ือและหางของ
นกยูง แม้กระท่ังผกั และผลไมท้ ่คี ณุ บรโิ ภคในชวี ติ ประจําวันกล็ ว้ นแต่มสี ีสนั โดดเดน่ แตกต่างกนั ไป บลเู บอรร์ ี
สีนา้ํ เงินเข้ม สตรอเบอรร์ ี่สแี ดงจดั บลอ็ กโคลีส่ เี ขยี วสด และแครอทสสี ้มสดใสพืชและสัตวม์ ักจะใชส้ ขี องตวั เอง
เพือ่ ดงึ ดดู ความสนใจ สีเขม้ สดของพืชยังมีประโยชน์อย่างอ่นื อกี นกั วิทยาศาสตรไ์ ด้แสดงให้เหน็ ว่าสารสเี หล่าน้ี
ยังชว่ ยใหพ้ ชื รอดพ้นจากความเสียหายทางเคมีอีกดว้ ย ข่าวดีสาํ หรบั เรา กค็ ือ หลงั จากท่ีเรารับประทานผลไม้
และผักทม่ี สี ีตา่ งๆ เหล่าน้ี สารสีเหลา่ นัน้ กจ็ ะปกปอ้ งสุขภาพเราเชน่ กัน

สารสีทท่ี าํ ใหเ้ กิดสตี า่ งๆ ในพืชเหล่านีเ้ ปน็ สารเคมีทมี่ ีข่อื วา่ สารต้านอนุมลู อิสระ พชื สรา้ งสารตา้ นอนุมูล
อิสระข้นึ มาเพ่ือปอ้ งกันตวั เองจากสารอัลตราไวโอเลตในแสงอาทติ ย์ ซึง่ ทําให้เกดิ สารเคมีทีเ่ รียกว่าอนุมูลอสิ ระ
ขน้ึ ในเซลล์ ถ้าหากว่าอนุมูลอสิ ระเคล่ือนตวั ผ่านเซลล์ของพืชโดยท่ีไมถ่ ูกต่อต้านและกําจัด มันจะกอ่ ให้เกิดความ
เสยี หายตอ่ สว่ นตา่ งๆ ของพชื ได้ สารตา้ นอนมุ ลู อิสระ ป้องกนั ความเสยี หายท่ีจะเกิดข้นึ จากการรกุ รานของอนมุ ลู
อิสระ

หลกั สําคัญของการปอ้ งกนั ตวั เองจากอนุมูลอสิ ระ โดยการบรโิ ภคผกั และผลไม้คือการผสมผสานสีสนั ต่างๆ
ใหล้ งตัว พยายามเลือกชนิดทีม่ สี สี ันสดใสหลายชนดิ รวมกัน โดยท่วั ไปแล้ว การบรโิ ภคผักและผลไม้สดจะมี
ประโยชน์มาก แต่พวกท่ถี ูกแช่แขง็ หรอื ทาํ ให้แหง้ กย็ งั มปี ระโยชน์ต่อสขุ ภาพเชน่ กนั มกี ารคิดค้นยาเมด็ ที่บรรจุ
สารตา้ นอนุมูลอสิ ระข้ึนมา แตย่ าเมด็ ชนดิ น้ีก็ยังไม่มปี ระสทิ ธิภาพเท่ากบั การกนิ ผกั หรอื ผลไม้โดยตรง

เพราะฉะนนั้ ในกายจา่ ยตลาดครงั้ ต่อไป คุณก็สามารถเลอื กสรรวตั ถุดิบเพือ่ การทดลองทางเคมสี าํ หรบั
ตวั เองได้ เลอื กผกั ผลไมห้ ลากสเี พือ่ มาประกอบอาหารจานพิเศษ คณุ อาจจะทดลองเมนูใหมท่ ีไ่ ม่เคยทานมาก่อน
หรือเลือกทําจานท่ีทั้งน่ามองและยว่ั นา้ํ ลาย และเมอ่ื รา่ งกายย่อยอาหารม้ือนนั้ ของคณุ สารต้านอนุมลู อสิ ระ
เหลา่ นน้ั กจ็ ะเรม่ิ งานทางเคมขี องมนั ในการกําจดั อนุมลู อิสระและรักษาสุขภาพของคณุ

55. อะไรคอื วัตถุประสงค์หลักของบทความนี?้
1) เพอ่ื หารือ/ถกเก่ยี วกบั สีตา่ งๆ ของผกั และผลไม้ (ผิด เพราะบอกกว้างเกินไป)
2) เพอื่ ชใ้ี ห้เหน็ ข้อดขี องสจี ากพชื (ถกู ดูได้จาก keywords เช่น benefit, help protect)
3) เพอ่ื แสดงตวั อยา่ งของสีธรรมชาติ (ผดิ เพราะบอกแคบเกนิ ไป มีเฉพาะตัวอยา่ ง)
4) เพ่ือเปรียบเทียบความแตกตา่ งของผลไม้รสหวาน (ผิด เพราะบอกแคบเกนิ ไป มีเฉพาะผลไมร้ สหวาน)
5) เพอ่ื แสดงใหเ้ หน็ ถงึ ยาเม็ดบรรจุสารตา้ นอนมุ ูลอสิ ระชนิดตา่ งๆ (ผดิ เพราะเนอื้ หาของบทความแคเ่ พยี ง
กลา่ วถึงยาเมด็ ทีม่ ีสารตา้ นอนุมลู อสิ ระโดยรวมเทา่ นั้น)

เฉลย 2) To point out the advantages of plant colors

ภาษาอังกฤษ (อ.อรสิ รา) 66 โครงการแบรนดซ์ มั เมอรแ์ คมป์ ปีท่ี 29

56. ข้อใดตอ่ ไปนที้ ่ีไมไ่ ด้ระบไุ ว้โดยผู้แตง่ ?
1) ผู้อ่านควรลองชอ็ ปปิง้ ผักและผลไม้ที่มีสสี นั (ระบ:ุ เนือ้ ความอยใู่ นย่อหนา้ สดุ ทา้ ยท้ังยอ่ หน้า)
2) การกนิ พชื ทมี่ สี ีสนั เปน็ ครีมกันแดดธรรมชาตหิ รอื การปอ้ งกนั รงั สียูวี (ไม่ระบุ: เนือ้ ความกล่าวแคว่ า่ พืช
สามารถสรา้ งสารท่ปี อ้ งกันตวั มันเองจากรังสียวู ี ในยอ่ หน้าที่ 2)
3) การกินยาต้านอนมุ ลู อิสระไมม่ ีประสิทธิภาพเท่ากับการกินผกั ผลไม้ (ระบ:ุ เนอ้ื ความอยู่ในประโยค
สุดทา้ ยของยอ่ หน้าที่ 3)
4) ผักและผลไมแ้ บบแห้งและแชแ่ ข็ง เปน็ อาหารทีดีต่อสขุ ภาพ (ระบ:ุ เนื้อความอย่ใู นยอ่ หน้าที่ 3)
5) สใี นพชื และสตั วม์ ี ประโยชนใ์ นการเรยี กร้องความสนใจ (ระบุ: เน้อื ความอยใู่ นย่อหนา้ แรก)

เฉลย 2) Eating colorful plants is natural sunscreen or UV protection.

57. คาํ ว่า “harm (อนั ตราย)” ในย่อหนา้ ท่ี 2 หมายถึง ....................
1) อนมุ ูลอิสระ
2) เซลล์ป้องกัน
3) สผี วิ
4) สารตา้ นอนมุ ลู อสิ ระ
5) สารอลั ตรา้ ไวโอเล็ต

ให้สงั เกตประโยคกอ่ นหนา้ harm มีการพดู ถึงว่า สารตา้ นอนุมลู อิสระหยดุ สารอนมุ ูลอสิ ระ(Antioxidants
stop free radicals in their tracks, shielding cells from harm.) harm แปลวา่ ส่งิ อันตราย ซงึ่ แทน
ส่ิงที่ไมไ่ ดก้ อ่ นหนา้ ทก่ี ล่าวมา น้ันก็คอื free radicals (อนมุ ูลอสิ ระ)

เฉลย 1) free radicals

58. ขอ้ ใดต่อไปนกี้ ล่าวไมถ่ ูกเกีย่ วกบั สารตา้ นอนุมูลอิสระ
1) สารน้ที ําใหเ้ รามีสขุ ภาพดจี ากการบริโภคผกั และผลไม้ทีม่ ีสีสันสดใส (ถกู เน้ือหามกี ล่าวถึงประโยชน์ของ
ผักและผลไม้ที่มสี ีสนั แทบทกุ ย่อหนา้ )
2) มันเป็นสารเคมที ่ีให้ทําให้เกิดสีตา่ งๆ ในพชื (ถูก ขอ้ มูลมีในย่อหน้าท่ี 2)
3) สารต้านอนมุ ลู อิสระท่ีอยใู่ นยาเม็ดมปี ระโยชนต์ ่อสขุ ภาพน้อยกว่าสารทมี่ อี ยใู่ นผกั และผลไม้ (ถกู ขอ้ มลู
มใี นยอ่ หนา้ ที่ 3)
4) พืชสรา้ งสารตา้ นอนุมูลอสิ ระขึ้นมาเพ่อื ปกปอ้ งตัวเองจากอนั ตรายท่ีเกิดจากแสงอลั ตราไวโอเลต (ถูก
ขอ้ มลู มีในยอ่ หนา้ ที่ 2)
5) สารนตี้ ่อตา้ นและกําจัดการเคล่อื นไหวของสารสีในพืช (ผิดสารตา้ นอนุมูลอสิ ระและสารสีในพชื คือสง่ิ
เดยี วกนั ดูประโยคแรกในยอ่ หน้าท่ี 2)

เฉลย 5) They neutralize or eliminate the movement of pigments in plants.

โครงการแบรนด์ซมั เมอรแ์ คมป์ ปที ี่ 29 67 ภาษาองั กฤษ (อ.อริสรา)

59. ข้อใดต่อไปนี้ไม่ได้ถูกกล่าวถึงเกี่ยวกับความพยายามที่จะได้รับประโยชน์จากสารต้านอนุมูลอิสระในผักและ
ผลไม้
1) คําแนะนําใหล้ องทําอาหารจานใหมๆ่ ด้วยผกั และผลไมห้ ลากหลายสีสัน (มีในยอ่ หน้าสดุ ท้าย)
2) การคดิ ค้นยาเมด็ ทมี่ สี ารตา้ นอนุมลู อสิ ระ (มีในย่อหนา้ ท่ี 3)
3) การแนะนาํ วา่ ผกั และผลไมส้ ดดตี ่อสุขภาพมากกวา่ ผักและผลไมแ้ ห้งหรือแชแ่ ข็ง (มีในยอ่ หนา้ ท่ี 3)
4) คําแนะนาํ ใหป้ ระกอบอาหารที่ทั้งสะดดุ ตาและอรอ่ ยเพื่อใหเ้ กิดประโยชน์ต่อระบบย่อยอาหาร (ผิด ไมม่ ี
การกลา่ วถงึ การดแู ลระบบการยอ่ ยอาหารเลย)
5) ขอ้ มูลที่ว่าผักและผลไม้ไมว่ า่ จะสดหรือแห้งต่างก็มีประโยชนต์ อ่ สขุ ภาพทงั้ หมด (ถูก อยใู่ นยอ่ หน้าท่ี 3)

เฉลย 4) The advice to create both beautiful and tasty meal that benefits the digestive
system

60. ท่ีทคี่ ณุ มีโอกาสมากท่สี ดุ ทีจ่ ะพบบทความน?ี้
1) ขา่ ววิทยาศาสตร์
2) หนงั สอื ทาํ อาหาร
3) นติ ยสารโภชนาการ
4) ขา่ วส่ิงแวดล้อม
5) นิตยสารเนชนั แนลจีโอกราฟฟิค

เนื้อความของบทความนกี้ ลา่ วถึงประโยชน์จากการกินผกั และผลไมห้ ลากสี
ดังนั้นบทความน้คี วรพบในสอื่ ทีเ่ ก่ยี วกบั โภชนาการ นัน้ คือ นติ ยสารโภชนาการ

เฉลย 3) Nutrition Magazines

ภาษาองั กฤษ (อ.อรสิ รา) 68 โครงการแบรนดซ์ ัมเมอรแ์ คมป์ ปีท่ี 29

บทความที่ 2

ด้วยใบท่แี ขง็ และดอกแหลมและใหญ่ ตน้ บรอมมเี ลียดสามารถเพ่ิมความนา่ ตืน่ เตน้ ให้กบั กระถางตน้ ไม้
หรอื ขอบหน้าต่าง มันไมไ่ ดเ้ ปน็ ไมป้ ระดบั บา้ นทฉี่ ูดฉาดที่สดุ แม้กระนน้ั นกั วทิ ยาศาสตรด์ ้านมลพิษบางคนยงั คง
พรอ้ มทจี่ ะให้ “คําชน่ื ชมอย่างมาก” ข้อมูลใหม่ของพวกเขาแสดงให้เหน็ วา่ ตน้ ไม้เหล่าน้ีเป็นซุปเปอรส์ ตารใ์ นดา้ น
การทําความสะอาดอากาศ

สีเฟอร์นิเจอร์ เครือ่ งถ่ายเอกสาร และเครื่องปร้นิ เตอร์ อุปกรณ์ทาํ ความสะอาด และเสือ้ ผา้ ทซ่ี กั แหง้ แลว้
ทั้งหมดสามารถปลอ่ ยก๊าซพษิ สคู่ รอบครัวเขา้ ไปในอากาศบรเิ วณภายในอาคาร ในการจัดหมวดหมู่ กา๊ ซเหลา่ น้ี
ถกู รจู้ ักว่าเปน็ สารอินทรียเ์ คมีท่รี ะเหยได้ หรือ VOCs การหายใจเอาสารเหลา่ นี้เปน็ จํานวนมากสามารถทาํ ใหเ้ กิด
การเวียนศรี ษะ ปฏิกิรยิ าภมู แิ พ้ หรอื แมแ้ ตโ่ รคหืดหอบ การสัมผัสในระยะยาวอาจนําไปสูก่ ารตับพัง ไตพัง หรอื
มะเรง็

น่ีเป็นเร่ืองสาํ คญั เพราะคนมักจะไมไ่ ด้กลน่ิ สารเคมีเหล่านี้ พวกเขายงั ไม่สามารถหยุดหายใจเมอื่ อากาศใน
หอ้ งได้ถูกเจอื ปนด้วยมลพิษ Vadoud Niri ได้ยาํ้ ไว้ เขาเป็นนักเคมีท่ี State University of New York at
Oswego และเมอื่ VOCs เขา้ ไปในอากาศในหอ้ งแลว้ ไม่มที างท่ีจะดึงมนั ออกมาได้ มนษุ ยไ์ ม่สามารถใช้เครอื่ งดดู
ฝุ่นดูดมนั ออกไปได้

แตพ่ ชื ที่มสี ีเขียวบางชนดิ สามารถดูดมลพิษได้ ซงึ่ ช่วยป้องกันพวกเราจากอันตรายของมัน
นิรแี ละเพอ่ื นรว่ มงานของเขาไดท้ ําการทดลองเพ่อื ดวู า่ จะเกดิ อะไรข้ึนถ้าตน้ ไม้สมั ผัสกบั VOCs ต่างๆ ทผี่ สม
กนั มา ทีมของพวกเขาได้ปล่อยให้ต้นไม้ในร่มทั่วไป 5 ชนดิ บรอมมีเลยี ด, ตน้ กระบองเพชรคารบิ เบยี น ต้น
วาสนา (dracaena) ตน้ ไมห้ ยก และ ต้นแมงมมุ สมั ผสั กบั VOCs ทั่วไปแปดชนดิ
ตน้ ไมบ้ างอยา่ งกาํ จัด VOC บางประเภทได้ดีกว่าตน้ ไม้ตน้ อื่นๆ ตวั อย่างเช่น ต้นไม้ทัง้ 5 ชนดิ กําจดั
acetone-VOC ท่ีมีกลน่ิ ฉุนท่อี ยใู่ นน้าํ ยาล้างเลบ็ แต่หลังจาก 12 ช่ัวโมงต้นวาสนาสามารถกําจดั กา๊ ซน้ไี ด้ถงึ 94%
ทําได้มากกวา่ ท่พี ชื อืน่ ๆ ทาํ ได้
ในขณะท่ตี น้ แมงมุมขจดั VOCs ได้เร็วท่ีสุด เมอื่ นําลงไปใสใ่ นภาชนะ ระดบั VOC จะเร่ิมลดลงภายใน 1 นาที
แต่ตน้ ไมน้ ี้ไม่ทน
ตน้ บรอมมีเลยี ดทาํ ได้ หลังจาก 12 ชว่ั โมง มันกาํ จดั VOC ออกจากอากาศได้มากกวา่ ต้นไมอ้ ืน่ ๆ VOC
2 ชนิดท่ีมันไมส่ ามารถกรองออกได้ ได้แก่ dichloromethane และ trichloromethane ซึง่ เปน็ สารที่ตน้ ไมช้ นิด
อ่ืนไม่สามารถกําจดั ได้เชน่ กัน ดงั นน้ั มองในแง่นี้ มันกไ็ มไ่ ด้ทาํ ผลงานได้แยก่ ว่าตน้ อ่ืนๆ เลย

โครงการแบรนด์ซัมเมอรแ์ คมป์ ปีที่ 29 69 ภาษาอังกฤษ (อ.อรสิ รา)

61. ในบริบทน้ี คาํ ไหนที่มีความหมายใกล้เคียงกบั คําวา่ “raves” ในย่อหน้าที่ 1
1) การนําทาง
2) การตอบโต้
3) การพูดพลา่ ม
4) การพดู เปน็ ตอ่ ยหอย
5) การสรรเสริญ

เฉลย 5) Praise การสรรเสรญิ เพราะคาํ ที่อยู่รายลอ้ ม Raves ลว้ นเปน็ ความหมายเชงิ บวกเกีย่ วกบั
ต้นไม้นี้ เชน่ Superstar เป็นตน้

62. คําวา่ “Them” ในย่อหน้าท่ี 2 อา้ งองิ ถงึ
1) สีเฟอร์นเิ จอร์ เครอื่ งถา่ ยเอกสาร และเครื่องปร้นิ เตอร์ อปุ กรณท์ าํ ความสะอาด และเสือ้ ผา้ ท่ีซกั แหง้
แลว้
2) สารอนิ ทรยี ์เคมีทรี่ ะเหยได้
3) การเวียนศีรษะ ปฏกิ ริ ิยาภมู ิแพ้ หรือแม้แตโ่ รคหดื หอบ
4) อาการตบั พงั ไตพัง หรอื มะเรง็
5) ตน้ บรอมมเี ลียด

เฉลย 2) เพราะคีย์เวริ ด์ ท่ีใบม้ าให้ คอื inhaling หายใจเข้า สง่ิ ที่สูดเข้าไปไดใ้ นชอยสท์ ี่ให้มาก็มีแตข่ ้อ 2
เทา่ นนั้

63. ข้อใดกลา่ วไม่ถูกตอ้ งเกีย่ วกบั VOCs
1) เมอื่ ปรากฏในอากาศ ภายในอาคารแล้ว มนั ไมส่ ามารถถกู กําจดั ออกไปได้
2) การสัมผสั กับกา๊ ซเหลา่ นีใ้ นระยะยาวสามารถทําให้เกิดโรครายแรงถึงชวี ติ ได้
3) มันถกู สรา้ งขนึ้ ไดโ้ ดยผลิตภณั ฑท์ ีใ่ ชภ้ ายในครวั เรือนทวั่ ไป
4) มนั ถกู จดั วา่ อันตรายเพราะมนั ไม่มกี ล่นิ
5) คนสามารถตรวจสอบมันได้งา่ ยๆ ดว้ ยการใชเ้ คร่ืองมือบางชนิด

เฉลย 5) เพราะข้อน้ไี มไ่ ดถ้ ูกกล่าวถึงในบทความ

ภาษาอังกฤษ (อ.อริสรา) 70 โครงการแบรนดซ์ มั เมอร์แคมป์ ปที ี่ 29

64. ต้นไมช้ นิดใดต่อไปนีส้ ามารถกาํ จดั acetone ไดด้ ที สี่ ุด?
1) บรอมมีเลยี ด
2) กระบองเพชรคาริบเบียน
3) ตน้ วาสนา
4) ตน้ หยก
5) ต้นแมงมมุ

เฉลย 3) Dracaena ต้นวาสนา จากข้อมลู ในย่อหนา้ ท่ี 6

65. ข้อใดกลา่ วถูกต้องเกีย่ วกบั ตน้ แมงมมุ (spider plant)?
1) ประสทิ ธภิ าพของมนั คงทน
2) มันเพ่มิ ระดบั ของ VOCs ในอากาศ
3) ประสทิ ธิภาพของมันถูกตรวจพบไดภ้ ายในเวลาเพียงหนึ่งนาทเี ทา่ น้ัน
4) มนั สามารถขจัด VOC ทมี่ กี ลน่ิ ฉุนทอี่ ย่ใู นนา้ํ ยาลา้ งเลบ็ ได้ดีทส่ี ดุ
5) มนั สามารถกาํ จัด dichloromethane ได้ถึง 94% ใน 12 ชว่ั โมง

เฉลย 3) Its effectiveness can be detected only in a minute. จากข้อมลู ในยอ่ หน้าที่ 7

66. จากการทดลองสามารถสรปุ เปน็ นยั ไดว้ ่า?
1) การมีตน้ ไมใ้ นรม่ อย่างนอ้ ยหนึง่ ในห้าชนิดนนั้ สามารถลดความเสี่ยงในการมภี าวะตับเสื่อม ไตเสื่อม
และมะเรง็ ได้
2) บรอมมเี ลยี ดควรถกู นาํ มาไว้ในห้องท่ีพบวา่ มี dichloromethane and trichloromethane
3) การมีต้นกระบองเพชรคารบิ เบยี นในห้องเป็นวิธที ี่ดีต่อสขุ ภาพทส่ี ดุ และง่ายทส่ี ุดในการขจัดกา๊ ซพิษที่
อยู่ในนา้ํ ยาลา้ งเล็บ
4) ควรจะมตี น้ ไมใ้ นร่มอย่างน้อยหนึ่งในหา้ ชนิดในบ้านเพ่อื ทจี่ ะขจดั ก๊าซพิษในอากาศ
5) ต้นไม้บางชนดิ ดีกวา่ ต้นอื่นๆ ในการกําจัด VOC บางอยา่ งในสภาะท่มี ีความชื้นบางระดับ

เฉลย 4) It is better to have at least one of the five houseplants in the house in order to
clear the indoor toxic gases. เพราะขอ้ อ่นื ๆ ไม่มกี ารกล่าวถึงในบทความ

โครงการแบรนดซ์ มั เมอรแ์ คมป์ ปที ่ี 29 71 ภาษาองั กฤษ (อ.อริสรา)

67. ข้อใดตอ่ ไปน้ีเหมาะสําหรับตงั้ เป็นชอ่ื เรอ่ื งของบทความน้?ี
1) ต้นไม้ในร่มดดู มลพศิ ทางอากาศท่ที ําใหค้ นปว่ ยได้
2) ตน้ บรอมมเี ลยี ดเก่งเร่อื งการกาํ จัดสารเคมีท่เี ป็นพษิ ออกจากอากาศ มขี อ้ มูลใหม่แสดงไว้
3) ต้นวาสนามปี ระสิทธภิ าพท่สี ดุ ในเร่อื งการทําความสะอาดอากาศ
4) มลภาวะทางอากาศบางชนดิ ไหลซมึ เข้าทางผวิ หนงั
5) มลภาวะทางอากาศสามารถก่อกวน DNA ของเราได้

เฉลย 1) เพราะ 2) และ 3) พูดถึงเจาะจงต้นไมแ้ ค่บางชนดิ ซึ่งแคบเกนิ ไปที่จะเป็นหวั เรอ่ื ง ส่วน 4) และ
5) ไม่ไดถ้ ูกพูดถงึ เลยในบทความ ดงั นั้น 1) ทมี่ ลี กั ษณะกลา่ วถึงต้นไมใ้ นร่มเป็นภาพรวมกวา้ งๆ จงึ เหมาะ
กับการเปน็ ชอ่ื เรื่องที่สดุ

บทความท่ี 3

กนิ ทลี ะน้อยง้ันหรือ ใช่แล้ว กินทลี ะนอ้ ย หรอื วา่ กินม้ือเลก็ ๆ 6 ม้อื หรอื มากกว่านัน้ ในแต่ละวนั อีกทางเลอื กหนงึ่
ในการกนิ นี้อาจจะสรา้ งคุณประโยชนม์ ากมาย การกนิ ทลี ะน้อยสามารถช่วยควบคุมนาํ้ หนัก ลดคอเลสเทอรอล
ในเลือด และควบคมุ นํา้ ตาลในเลอื ดได้ การกินแบบน้ยี งั ช่วยจัดระเบยี บความอยากอาหาร เพม่ิ ปริมาณการเผา
ผลาญอาหารของร่างกาย และทําใหร้ า่ งกายดดู ซึมสารอาหารไดด้ ขี ้นึ การกนิ ทลี ะน้อยยงั ไปด้วยกันไดด้ ีกบั
ไลฟ์สไตลท์ ไี่ มห่ ยุดอยกู่ ับทแี่ ละยุ่งวนุ่ วายอกี ดว้ ย

มอื้ เล็กๆ น้ไี ม่ไดห้ มายถึงการกินขนมเลก็ ๆ น้อยๆ ระหวา่ งอาหารม้ือหลัก แตพ่ วกมนั คอื การบริโภคอาหารที่
หลากหลายในปรมิ าณนอ้ ยเรอ่ื ยๆ ตลอดวัน ความท้าทายของการกินแบบนีค้ อื การกินอาหารในแตล่ ะจาํ พวกให้
เพียงพอโดยทีไ่ ม่เผลอกินในปริมาณมากเกินไป ม้ือเล็กๆ ในแตล่ ะมือ้ ควรผ่านการคดิ มาอย่างดีและมสี ารอาหารท่ี
เปน็ ประโยชน์ เหมอื นอย่างท่ีคุณเลือกกนิ อาหารม้อื อ่นื ๆ

ทปิ เล็กๆ นอ้ ยๆ ช่วยให้คุณกนิ วิธีนีอ้ ยา่ งไดผ้ ล พยายามจาํ กดั ปรมิ าณม้ือเล็กๆ ของคุณแต่ละมื้อ เพอ่ื
ป้องกันการกนิ มากเกินไป แตย่ งั คงกระต้นุ ความอยากอาหารของคณุ อยู่ จริงๆ แลว้ ปรมิ าณอาหารเรียกน้ําย่อยที่
เสิรฟ์ กันตามรา้ นอาหารท่วั ไปนน้ั เทา่ กับปรมิ าณมื้อเลก็ ๆ ที่คุณทาํ กินเองทบี่ า้ น คณุ ไม่จาํ เปน็ ตอ้ งจดั หาอาหารที่
หลากหลายถงึ 6 ม้ือหรือมากกว่าในแตล่ ะวัน แต่คุณสามารถแบง่ กนิ มอื้ ปกติ 1 ม้อื เป็นม้อื เล็กๆ 6 มอ้ื แทน

การกินทีละนอ้ ยอาจไมใ่ ชท่ างเลือกทดี่ ีทสี่ ดุ ของทกุ คน สําหรบั บางคนแล้ว การกินจุบจบิ อาจทาํ ใหเ้ ลยเถดิ
ไปถงึ การกินมากเกินไปได้ ผู้เช่ียวชาญด้านโรคอ้วนแนะนําวา่ ผู้ทีม่ นี า้ํ หนักเกนิ ไมค่ วรท่ีจะกนิ วธิ ีน้ี เพราะน่อี าจ
นาํ ไปสกู่ ารกินโดยไมย่ ัง้ คดิ ได้ อกี อยา่ งกค็ ือ การกินหลายๆ คร้ังในหน่ึงวนั อาจเป็นวธิ ีที่ไมส่ ะดวกสาํ หรับบางคน

จงจาํ ไวว้ า่ สง่ิ สําคัญไมไ่ ดอ้ ยทู่ ี่การกินอยา่ งไรหรอื เม่อื ไร แต่เปน็ กินอะไร ส่งิ ท่จี ําเปน็ จริงๆ คอื การเลอื กท่ีจะ
กินให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะตวั และไลฟส์ ไตล์ของตวั เอง และวธิ ที ่ชี ่วยให้คณุ สามารถเลอื กสิง่ ที่ดที ่ีสดุ
ให้กับตัวเองได้ดว้ ย

ภาษาอังกฤษ (อ.อริสรา) 72 โครงการแบรนด์ซัมเมอรแ์ คมป์ ปที ี่ 29

68. คําว่า “เล็ม”ในบทความนีค้ อื การกนิ ....................
1) น้อยกวา่ 3 มอ้ื
2) ในปรมิ าณทนี่ ้อยลง แตบ่ ่อยคร้งั มากข้ึน
3) แค่ผกั และผลไม้
4) ชา้ ลงอยา่ งมาก
5) นํ้าตาลน้อยลง

เฉลย 2) less but more often
คําตอบอยใู่ นวลี “eating six or more small meals each day.”

69. การกินทลี ะนอ้ ยจะไม่กอ่ ใหเ้ กิด ....................
1) การควบคมุ น้าํ ตาลในเลือด
2) การลดลงของคอเลสเทอรอลในเลือด
3) การเพิ่มขนึ้ ของระดับการเผาผลาญอาหาร
4) การควบคุมนํ้าหนักให้อยใู่ นเกณฑป์ กติ
5) ลดการดูดซมึ สารอาหาร

เฉลย 5) decreasing absorption of nutrients
คําตอบอยู่ในยอ่ หนา้ แรก ในวลีทีว่ า่ “increase metabolic rate” การกนิ ทีละนอ้ ยเพม่ิ การดูด

ซมึ สารอาหาร ไมใ่ ชล่ ดการดดู ซมึ

70. ถ้าคณุ ใชว้ ิธกี ารกินทีละน้อย คณุ ต้องรอบคอบในการ ....................
1) กนิ อาหารท่ีไมม่ ไี ขมัน
2) ไม่กินบอ่ ยเกนิ ไป
3) กินทกุ อย่างท่คี ุณต้องการ
4) ไมก่ ินในปรมิ าณทม่ี ากเกนิ ไป
5) ฉลาดเลอื ก

เฉลย 4) not to overeat คาํ ตอบอยูใ่ นย่อหนา้ ที่ 2 ในประโยค “The real challenge with this eating
style is eating enough servings from each food group while not over-eating.” ความท้าทาย
ของการกินแบบนีค้ ือการกินอาหารในแต่ละจําพวกให้เพียงพอโดยทไี่ ม่เผลอกนิ ในปรมิ าณมากเกนิ ไป

โครงการแบรนดซ์ ัมเมอร์แคมป์ ปที ่ี 29 73 ภาษาอังกฤษ (อ.อรสิ รา)

71. คําว่า “regulate (ควบคุม)” ควรจะถกู แทนทไี่ ดด้ ้วย ....................
1) เพม่ิ ขึ้น
2) ควบคุม (control)
3) ฆา่
4) สนับสนุน
5) แข็งแรงข้นึ

เฉลย 2) control
“This eating plan can also help regulate appetite.” การกนิ แบบน้ีสามารถทําบางอย่าง

กับความอยากอาหารได้ ถึงไม่รู้คาํ ว่า regulate ก็นา่ จะพอเดาไดจ้ ากบริบท

72. สาํ นวน “on-the-go” หมายความวา่ ....................
1) ยุ่งวนุ่ วาย
2) ทนั สมยั
3) โกรธจัด
4) ไมเ่ ขม้ งวด
5) เงยี บสงบ

เฉลย 1) busy
ทา้ ยย่อหน้าแรก ถา้ ไมร่ ูศ้ ัพทก์ ็พอจะเดาไดจ้ ากคําว่า active ซงึ่ เช่ือมกบั on-the-go ดว้ ยคําวา่

and ซง่ึ ทาํ ให้เห็นว่าความหมายของทั้งสองคาํ ไปในทางเดียวกนั วิถชี ีวิตท่ี active ย่อมมลี กั ษณะของความ
ยุ่งวนุ่ วาย (busy) อยู่ด้วยเหมอื นกนั

73. คําว่า “they (พวกมัน)” ในยอ่ หนา้ ที่ 2 กล่าวถึงอะไร
1) อาหาร (servings ในท่นี ค้ี อื อาหารท่ีกินในแตล่ ะมื้อ)
2) มือ้ ทใ่ี หญข่ นึ้
3) ม้อื เลก็ ๆ
4) ขนม
5) วถิ ีชวี ติ

เฉลย 3) mini-meals
ตามความหมายของประโยค “มอ้ื เลก็ ๆ นีไ้ ม่ไดห้ มายถึง .................... แต่พวกมัน คอื

....................” they จึงหมายถึง มอ้ื เล็กๆ

ภาษาองั กฤษ (อ.อริสรา) 74 โครงการแบรนด์ซัมเมอรแ์ คมป์ ปีที่ 29

74. คําวา่ “portions (ส่วนแบง่ ของอาหารสาํ หรบั หน่งึ คน)” ในยอ่ หน้าทสี่ องสามารถถูกแทนทีไ่ ดด้ ้วย
....................
1) ส่วนแบ่ง
2) อาหารในจาน
3) หนง่ึ คําอาหาร
4) ชิ้นเล็กช้นิ น้อย
5) ปรมิ าณ

เฉลย 5) amounts

75. คาํ ว่า “master (ควบคมุ ไดด้ ี)” ในย่อหน้าท่ี 3 สามารถถกู แทนทีไ่ ด้ดว้ ย ....................
1) สอน
2) เก่งในเรือ่ ง
3) เรยี น
4) ดูแล
5) รกั ษา

เฉลย 2) be good at

76. การกินทลี ะน้อยไมเ่ หมาะกับคนท่ี ....................
1) ผอม
2) อ้วน
3) ใส่ใจตอ่ สขุ ภาพ
4) ขี้ลมื
5) ข้เี กียจ

เฉลย 2) fat
คําตอบอยใู่ นย่อหน้าท่ี 4 ประโยค “Obesity experts generally advise that overweight

people not graze since it may promote mindless eating.” คาํ ว่า overweight people (คนที่มี
นํ้าหนกั เกนิ ) เท่ากับคาํ วา่ fat (อ้วน)

โครงการแบรนด์ซมั เมอร์แคมป์ ปีที่ 29 75 ภาษาองั กฤษ (อ.อรสิ รา)

77. ในการจดั การอาหารมอื้ เล็กๆ การตดั สนิ ใจทสี่ าํ คัญที่สดุ อย่ทู ่ี .................... ของอาหาร
1) ความสด
2) ราคา
3) คุณค่าทางโภชนาการ
4) ปริมาณไขมนั
5) เวลาของมอ้ื อาหาร

เฉลย 3) nutritional value
คาํ ตอบอยใู่ นยอ่ หน้าสุดท้าย ในประโยค “Remember that ultimately it is not how or

when you eat that matters but what you eat.”

78. ประโยคทวี่ ่า “Grazing may not be for everyone.” หมายความวา่ การกินทลี ะน้อยไม่ได้ ....................
สาํ หรับทุกคน
1) สะดวกสบาย
2) สนุก
3) เหมาะสม
4) ยุตธิ รรม
5) เหนือกว่า

เฉลย 3) suitable

79. บทความน้ีนา่ จะถกู พบใน ....................
1) คู่มือการใช้งาน
2) วารสารวิทยาศาสตร์
3) หนังสอื ทาํ อาหาร
4) นติ ยสารสาํ หรับผ้หู ญงิ
5) นติ ยสารสําหรบั เด็ก

เฉลย 4) a women’s magazine
เนื้อหาของบทความนีเ้ ปน็ เรอื่ งเก่ียวกับทางเลอื กหนง่ึ ของการกนิ เพื่อสขุ ภาพ เมอ่ื พิจารณาจาก

ตวั เลอื กท้ังหมดจงึ เหน็ ว่านิตยสารสําหรบั ผูห้ ญิงเปน็ ทที่ ่เี หมาะสมที่สดุ ที่จะพบบทความนี้ เนือ่ งจากการกิน
แบบน้ียังเป็นหนทางหน่ึงท่จี ะชว่ ยควบคมุ นา้ํ หนกั ซ่ึงเปน็ ส่ิงทผี่ ้หู ญิงส่วนใหญ่ให้ความสนใจ

ภาษาอังกฤษ (อ.อรสิ รา) 76 โครงการแบรนด์ซมั เมอร์แคมป์ ปที ี่ 29

บทความท่ี 4

ความหายนะก่อใหเ้ กดิ โอกาส ลองถาม Iwao Keniichi ดสู ิ เน่อื งจาก Iwao ถกู บบี คั้นดว้ ยอาการเจบ็ ปว่ ย
ทําให้เขาต้องปดิ ธุรกจิ บริหารรา้ นอาหารและโรงงานผลิตอาหาร และเขาเร่ิมต้นชวี ติ ใหมอ่ กี ครงั้ ในปี 1993 ดว้ ย
การก่อต้งั บรษิ ัทจดั หางานเป็นแหง่ แรกในโตเกยี ว ชอื่ บริษัท Way Station

เศรษฐกิจญ่ปี ่นุ เพิง่ พังทลายลง และ Iwao ก็คาดว่าคนจาํ นวนมากจะตกงานอยา่ งรวดเร็ว เขาประเมินถกู
ปีที่แล้วเขามีรายได้ 4.1 ลา้ นดอลลาร์ และเขาคาดว่าในปนี ี้จะเพ่มิ ขึ้น 4 เท่า

บริการจดั หางานเปน็ ส่งิ ใหมส่ ําหรับประเทศท่ีคุ้นเคยกบั การจา้ งงานตลอดชวี ติ ในช่วงเวลาทน่ี ่ากระวน
กระวายใจเช่นน้ี Iwao วยั 54 ปีชว่ ยเหลอื ชาวญี่ปุ่นทไี่ มม่ ีช่องทางวา่ จะหางานอยา่ งไร บริษัทของเขาฝกึ งาน
ให้กบั ผูห้ างานใหมแ่ ละสง่ ใหก้ ับนายจ้างท่ตี ้องการแรงงาน บริษัทใหญๆ่ ยงั ไดจ้ ้างให้ Iwao ให้คําแนะนาํ ถึงวธิ ีการ
จดั การกับคนตกงานและการปรับโครงสรา้ งใหม่ “งานของฉนั ” เขาพูด “เสนอทางออกที่น่มิ นวลสําหรบั ทุกฝ่าย”

ทบ่ี รษิ ัท Way Station ลกู คา้ ทกุ คนท่ตี กงานจะถกู จัดให้กับทปี่ รกึ ษาการหางาน ทป่ี รึกษาจะใชเ้ วลา
ประมาณ 3 เดอื นศกึ ษาทักษะการทาํ งานของผู้สมัครและจัดให้เขา้ กับงานท่ีเหมาะสม ลูกคา้ ยงั ไดเ้ รียนรู้วธิ ีการ
เขยี นประวัตกิ ารทาํ งาน วธิ ใี ชค้ อมพวิ เตอรแ์ ละการสัมภาษณ์

ปที แ่ี ล้วมผี ู้หางานจํานวน 450 คนเขา้ ศนู ยฝ์ ึกอบรมของ Iwao ในโตเกียว โอซากา้ นาโกยา และซกุ โุ อกะ
เขาคาดว่าในปนี จี้ ะมี 1200 คน เนอ่ื งจากการแขง่ ขันหางานนัน้ รุนแรง เขาแนะนําลกู ค้าให้เปล่ยี นวธิ คี ดิ และ
มองข้ามบริษทั ทส่ี าํ คญั ของญี่ป่นุ ไปเป็นบริษทั เลก็ ๆ Iwao ประสบความสําเร็จบางส่วนเพราะว่าเขากเ็ หมือนกบั
ลูกคา้ เขามาก นัน่ ก็คอื ชายวัยกลางคนตกงานท่ีลองเสยี่ งและชนะ

80. บทความนสี้ ว่ นใหญก่ ลา่ วถึง .................... ของ Iwao
1) การบรกิ ารหางาน
2) ความลม้ เหลวของอาชีพ
3) บรษิ ัทผลิตอาหาร
4) เทคนิคการใหค้ ําปรกึ ษา
5) หน่วยทรัพยากรมนษุ ย์

เฉลย 1) job placement service
ถ้าดูคําถามดๆี ข้อน้ีโจทย์ถามถึง main idea นนั่ เอง จึงควรทําทีหลงั ถา้ อ่านเรอ่ื งจบแล้วจะ

เหน็ ว่าขอ้ น้พี ดู ถึง job placement service ของ Iwao จะเหน็ ว่าผูเ้ ขยี นไดเ้ ล่าต้งั แตจ่ ุดกาํ เนดิ ของบรกิ ารนี้
การให้บรกิ ารและอ่ืนๆ ดังนัน้ 1) จงึ เป็นคําตอบทีถ่ ูกทีส่ ุด

โครงการแบรนด์ซัมเมอรแ์ คมป์ ปีท่ี 29 77 ภาษาองั กฤษ (อ.อริสรา)

81. ในยอ่ หน้าที่ 1 ผ้เู ขยี นบอกวา่ “Adversity presents opportunity” คําวา่ Iwao’s adversity คือ
....................
1) ความสําเร็จ
2) การพนนั
3) ความเจบ็ ป่วย
4) ความอดทน
5) ความเศรา้

เฉลย 3) illness
ก่อนจะตอบขอ้ นไี้ ดต้ ้องวิเคราะหเ์ รอ่ื งให้ได้กอ่ น คอื เร่อื งมีอยู่วา่ เพราะ Iwao ปว่ ยจงึ ต้องหยุด

กจิ การกลางคนั และเขากม็ าเปิดบริษัทจดั หางาน จนประสบความสําเรจ็ ดงั นนั้ คาํ วา่ adversity หรอื ว่า
ความทกุ ข์รอ้ นในท่นี ีก้ ็น่าจะหมายถึง illness นัน่ เอง

82. ในย่อหนา้ ที่ 2 Iwao เชือ่ วา่ ....................
1) เศรษฐกิจประเทศญี่ป่นุ จะพฒั นาในอนาคตอนั ใกล้
2) หลายคนจะตกงาน เพราะว่าวกิ ฤตเศรษฐกิจ
3) จํานวนพนกั งานทีถ่ ูกปลดออกจะเพ่ิมขึ้น 4 เท่า
4) เขาต้ังบริษทั ผิดเวลา
5) คนรุ่นใหมจ่ ะมคี วามคาดหวงั ในงานสูงข้นึ

เฉลย 2) many people would be unemployed because of the economic crisis
คาํ ตอบอยู่ในประโยค “The Japanese economy had just crashed, and Iwao expected

that many people would soon lose their jobs.”

83. จุดประสงคห์ ลกั ของบรษิ ทั จัดหางาน Way Station คอื ....................
1) สอนลกู ค้าถึงวิธีท่จี ะยอมรบั การลาออก
2) จา้ งพนกั งานสําหรบั บริษทั ทงั้ ในและต่างประเทศ
3) เพ่ือชว่ ยเหลอื คนในการหางานใหม่หลังจากตกงาน
4) ให้คําแนะนาํ แกน่ ายจ้างในการคัดเลือกผสู้ มัครงาน
5) ใหค้ ําแนะนาํ เกีย่ วกับการใช้ชีวติ ในช่วงท่ตี กงาน

เฉลย 3) assist people in finding new jobs after lay-offs
คําตอบอยใู่ นประโยค “Iwao, 54, is helping Japanese who haven’t a clue how to look

for work.” คําว่า look for = find น่ันเอง

ภาษาอังกฤษ (อ.อริสรา) 78 โครงการแบรนด์ซมั เมอรแ์ คมป์ ปที ี่ 29

84. ในย่อหนา้ ที่ 3 บริษทั ใหญ่ๆ .................... การตกงานของผคู้ น
1) ซาบซ้ึง
2) กังวลเก่ยี วกบั
3) พอใจกับ
4) เฉยๆ ตอ่
5) ประหลาดใจกบั

เฉลย 2) concerned about
คาํ ตอบอยู่ในย่อหนา้ ท่ี 3 ประโยคท่วี ่า “Big firms also pay Iwao for advice on how to

deal with layoffs and restricting.” แสดงวา่ บรษิ ัทใหญๆ่ ให้ความสนใจต่อปัญหานี้ จงึ ตอบขอ้ 2)

85. Iwao เปน็ ตวั อย่างหน่งึ ของบคุ คลที่ ....................
1) เปล่ียนโชคร้ายใหเ้ ปน็ โชคดี
2) ชอบงานทแี่ ข่งขัน
3) โชคดใี นความรัก
4) เอาเปรียบคนอนื่
5) เหมอ่ ลอยไม่รับรู้โลกภายนอก

เฉลย 1) turns bad luck into good fortune
จากเนื้อเรื่องจะเห็นวา่ Iwao เจ็บปว่ ยจนถึงขน้ั ทีต่ อ้ งหยุดกิจการ แต่เขากไ็ มท่ ้อ จดั ต้ังบรษิ ัท

จดั หางานขึ้นมา จนประสบความสําเรจ็ ในที่สดุ (Iwao had succeeded in part) ข้อ 1) จึงถูก แต่จรงิ ๆ
แลว้ สามารถดคู าํ ตอบได้ต้งั แตใ่ นประโยคแรกทวี่ า่ “Adversity presents opportunity.” เลย

86. อาจจะสรปุ ไดว้ า่ โดยทวั่ ๆ ไปคนญ่ปี ่นุ ....................
1) ขาดแคลนการฝกึ ฝน
2) ชอบทํางานในบริษัทเลก็ ๆ
3) มักจะถูกไล่ออก
4) แทบจะไม่เปลยี่ นงาน
5) ไม่ยอมเกษียณจนกว่าจะอายุ 90

เฉลย 4) rarely change jobs สง่ิ ท่ี infer ได้ต้องไมม่ ีการกลา่ วไวใ้ นบทความ คาํ ตอบตัวเลอื ก 4) เกิด
จากการ infer จากประโยค “Job placement services are new to a nation which is used to
lifetime employment.” แสดงวา่ คนญ่ีปุน่ ทั่วไปไม่คอ่ ยเปลี่ยนงาน

โครงการแบรนด์ซมั เมอรแ์ คมป์ ปที ่ี 29 79 ภาษาองั กฤษ (อ.อรสิ รา)

87. คําวา่ “jittery” มีความหมายใกล้เคยี งท่ีสดุ กบั คําว่า ....................
1) ประหลาดใจ
2) เบือ่
3) ไมแ่ น่นอน
4) ประสบความสําเร็จ
5) กล้าหาญ

เฉลย 3) uncertain
ขอ้ ท่ีถามศัพท์ ถา้ ไม่รศู้ พั ทใ์ ห้ดูบริบทรอบๆ จะเห็นวา่ เขากําลงั กล่าวถงึ ชว่ งเวลาที่เศรษฐกิจแย่

คนตกงาน เมอ่ื ดจู ากตวั เลือกแล้วตอ้ งตอบ 3) เพราะวา่ จากปญั หาวิกฤตทางเศรษฐกจิ ของญ่ปี ุน่ ทําให้ผคู้ น
ตกงานมากมาย ถอื เปน็ ช่วงทไี่ มแ่ น่นอน สว่ นคําว่า jittery แปลวา่ กระวนกระวาย

88. คาํ วา่ the chop สามารถถกู แทนที่ดว้ ยคาํ วา่ ....................
1) การลาออกเน่ืองจากเกษียณ, การเกษยี ณ
2) การปรับเปลีย่ น
3) การวา่ งงาน
4) ทางออกของปัญหาทีน่ ่มุ นวล
5) การตกแต่ง

เฉลย 3) unemployment
ถ้าสังเกตหน่อยจะเหน็ ว่า ลกู ค้าท่ีตกงานหรือวา่ งงานน้ันมาที่บรษิ ัท Way Station เพอื่ ขอใช้

บริการ ดงั น้นั คนทีจ่ ะมาใชบ้ ริการต้องเป็นคนท่วี ่างงาน จงึ ตอบ 3)

89. คนท่ี .................... คือ ลูกคา้ เป้าหมายของบริษัท Way Station
1) ไม่มปี ระสบการณ์การทาํ งาน
2) เผชิญกบั การเปล่ียนแปลงของอาชีพในวัยกลางวนั
3) ด้อื แต่ทะเยอทะยาน
4) เรยี นรทู้ ักษะในการทํางานช้า
5) มองหาโอกาสในการฝึกงาน

เฉลย 2) face career change in their middle age
ดคู าํ ตอบจากประโยคทีว่ ่า “...a middle-aged man facing a min-career setback”

ภาษาอังกฤษ (อ.อรสิ รา) 80 โครงการแบรนดซ์ ัมเมอรแ์ คมป์ ปีที่ 29

90. วลี took a gamble สามารถถูกแทนท่ีด้วยวลที ่วี ่า ....................
1) ซื้อสลากกินแบง่
2) เลน่ ไพเ่ พ่อื เงนิ
3) ทาํ งานในบอ่ นพนัน
4) ไมก่ ลัวท่จี ะเส่ยี ง
5) ตดิ พนนั

เฉลย 4) wasn’t afraid to take a risk
คําตอบขอ้ น้ีต้องอาศยั การวิเคราะหน์ ดิ หนอ่ ย จะเห็นว่า Iwao ต้งั บรษิ ัทจัดหางานข้นึ มาใน

โตเกยี วซ่งึ เป็นสง่ิ ใหม่สาํ หรบั ผู้คนทสี่ ่วนใหญท่ ํางานท่เี ดียวตลอดชวี ิต ดังนน้ั Iwao ตอ้ งเส่ยี งมากว่าบริษทั
ของเขาจะไปรอดหรือไม่รอด จึงตอบข้อ 4) ไม่กลัวทจ่ี ะเสย่ี ง คาํ ว่า gamble แปลว่าเลน่ พนัน และคนทเ่ี ล่น
พนนั มักจะชอบความเสย่ี งอยู่แล้ว

91. ช่ือเรือ่ งทดี่ ที ่สี ดุ สําหรบั เรือ่ งนี้คือ ....................
1) ศูนยว์ ิกฤตการงาน
2) สูญไปแล้วได้คนื
3) การจา้ งงานตลอดชวี ติ
4) โอกาสมีเพียงคร้ังเดียว
5) ถูกคนถูกงาน

เฉลย 2) Lost and Found
ชือ่ เรือ่ งท่ีดีต้องครอบคลุมในความสําคญั ของเรอ่ื งท้ังหมด ถา้ อา่ นแล้ววิเคราะห์ดีๆ จะเหน็ วา่

ผเู้ ขียนต้องการนําเสนอว่า Iwao สามารถพลกิ วกิ ฤตใหเ้ ปน็ โอกาสได้ เสียธรุ กิจอาหารไป แต่กลับไดธ้ ุรกิจ
บริษทั หางานคืนมาแทน ดังนัน้ 4) จงึ เป็นตวั เลอื กท่เี หมาะสมท่สี ุด

โครงการแบรนดซ์ มั เมอรแ์ คมป์ ปที ี่ 29 81 ภาษาอังกฤษ (อ.อริสรา)

บทความท่ี 5

ถา้ หากว่าคณุ เลน่ เฟซบุค๊ ช่วงสดุ สปั ดาห์น้ี คุณอาจจะเหน็ เพื่อนหลายๆคนเปล่ียนรูปโปรไฟล์เปน็ สีรงุ้ บางที
คุณอาจจะเปลย่ี นของคณุ ด้วยแล้วก็เปน็ ได้ อุปกรณฟ์ ิลเตอร์สีรงุ้ ได้ถูกนาํ เสนอใหเ้ ปน็ ทรี่ ูจ้ ักหลังจากเหตกุ ารณ์
สําคัญเมื่อสัปดาห์ทีแ่ ล้ว ท่ศี าลสงู สหรฐั ได้ตัดสินให้คนเพศเดยี วกันสามารถแตง่ งานกันได้ แต่เสยี งตอบรับต่อ
เหตุการณ์ในบางประเทศไมส่ ูด้ ีนกั และอาจจะถึงกับเป็นการต่อตา้ นอย่างรุนแรงเลยทีเดยี ว

ในประเทศรัสเซีย อุปกรณ์ฟิลเตอร์หลายชนิดได้ถูกประดิษฐ์ขึ้นเพื่อทําให้รูปโปรไฟล์เป็นสีของธงชาติ
แทนทจ่ี ะเปน็ สีรุ้ง แอพพลิเคช่ันหน่ึงได้รับการดาวน์โหลดสูงถึง 4000 คร้ัง “เราตอบโต้กระแสของชาวสีรุ้งด้วย
#Proudtoberussian” Elena Starkova ชาวมอสโคคนหนึง่ กลา่ วในการแสดงความคิดเหน็ ของเธอ

รสั เซยี มีกฎหมายท่หี ้ามให้ความรู้เกี่ยวกับการรกั รว่ มเพศแกบ่ ุคคลทีอ่ ายุตํ่าว่า 18 ปี ทกี่ อ่ ให้เกดิ การโตแ้ ย้ง
ขน้ึ ภายในประเทศ โพลลา่ สุดแสดงให้เห็นว่าชาวรสั เซยี นมากกวา่ 80% ต่อตา้ นกฎหมายที่อนญุ าตให้คนเพศ
เดียวกนั แต่งงานกัน

แม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์น้ขี ้ึน คนรัสเซียนบางคนก็ออกมาตอบโตก้ ระแสตอบโตน้ ้นั อีกที Anna Koterlnikova
เปลยี่ นรูปโปรไฟล์ของเธอเป็นสีรุง้ และแสดงความคดิ เห็นว่า “โทษทีนะ ฉนั เปน็ ผูห้ ญิงแท้ๆ ทชี่ อบผชู้ าย และฉัน
กเ็ ป็นคนรัสเซีย แตฉ่ นั ไม่ใช่พวกที่กลัวพวกรักชอบเพศเดยี วกัน”

ในประเทศตะวันออกกลาง ผู้ใชโ้ ซเชยี ลมเี ดียหลายคนได้ออกมาแสดงความคดิ เห็นตอบโต้อยา่ งรนุ แรงตอ่
กระแสธงสีรุง้ “มันเป็นขอ้ ความทท่ี ําร้ายความร้สู กึ ผมมาก” Sharif Najm ผูใ้ ชท้ วิตเตอรช์ าวอิยิปตก์ ลา่ ว ขณะที่
Rami Isa จากซีเรียก็ได้ทวีตว่า “ไปลงนรกซะเถอะทง้ั พวกคุณและการแต่งงานของคณุ คณุ ทาํ ลายสญั ลักษณ์
แหง่ วัยเยาวอ์ ันบรสิ ุทธิ์ของเราเสียหมด” และ Ahmad Abd-Rabbuh ศาสตราจารยด์ า้ นรฐั ศาสตร์ชาวอยิ ปิ ต์
กล่าวว่าการแต่งงานของคนเพศเดียวกนั นัน้ “ไปดว้ ยกนั ไม่ได้เลยกบั สงั คมและวฒั นธรรมของเรา”

ในประเทศอิยปิ ต์ กว่า 2000 ทวตี ได้วพิ ากษว์ จิ ารณถ์ ึงสัญลักษณส์ ายรุ้ง ผใู้ ชบ้ างคนไปไกลถงึ กับโทษพวกท่ี
เปลี่ยนรูปโปรไฟล์ของตัวเองให้เป็นสีรุ้งว่าเป็นตัวการทําให้เกิดพายุในช่วงสุดสัปดาห์น้ัน แต่ไม่ใช้ว่าการ
ตอบสนองของทุกคนจะเป็นลบ Muna Iraqi พิธีกรรายการโทรทัศน์ชาวอิยิปต์แสดงความเห็นว่า “ฉันขอ
สนับสนุนสิทธิของมนุษย์ทุกคนท่ีจะสามารถมีชีวิตและรักได้อย่างอิสระ โดยปราศจากการก่อกวนโดยทางใดก็
ตาม”

แน่นอนวา่ ทุกคนร้วู า่ การแตง่ งานของเพศเดยี วกันก็ไมใ่ ช่วา่ จะถกู ใจคนท้ังหมดในอเมรกิ า ผู้คนราวสองใน
หา้ ของประเทศต่อต้านเหตกุ ารณน์ ้ี ตามขอ้ มลู ของ Pew Research Center “ผมไมเ่ หน็ ดว้ ยกับการแตง่ งานของ
คนเพศเดยี วกัน 100%" Joshua Taipale ทวตี “ผมมีเพ่อื นทีเ่ ปน็ เกย์และพวกเขาก็เปน็ คนดีมาก มนั ไมใ่ ชเ่ รื่อง
ของความรู้สกึ สว่ นตัว แตว่ า่ น่ไี มใ่ ช่การตดั สินใจของคนอเมรกิ ันทัง้ ประเทศ ทางทดี่ คี วรเปน็ เรื่องของแตล่ ะรฐั
มากกว่า”

ภาษาองั กฤษ (อ.อรสิ รา) 82 โครงการแบรนดซ์ มั เมอรแ์ คมป์ ปที ี่ 29

92. “the company” ในยอ่ หน้าแรกอ้างอิงถงึ อะไร
1) การแต่งงานของคนเพศเดียวกนั
2) รปู โปรไฟล์หลากสสี ันของเพื่อนๆ
3) ศาลสูงสหรัฐ
4) เคร่ืองมอื สรา้ ง filter สายรุ้ง
5) เฟซบ๊คุ

เฉลย 5) Facebook เฟซบุ๊คเปน็ องค์กรทร่ี เิ ริ่มการใชส้ ัญลกั ษณ์ธงสรี ุง้ บนรปู โปรไฟลข์ องผ้ใู ช้

93. คําว่า “hostile (ซึ่งเป็นศัตร)ู ” ในย่อหน้าท่ี 1 หมายถึง ....................
1) antagonistic (เปน็ ศัตร)ู
2) sympathetic (ความเหน็ อกเห็นใจ)
3) vigorous (แขง็ แรง)
4) troublesome (ลําบาก)
5) weary (เหน็ดเหนอ่ื ย)

เฉลย 1) antagonistic
ข้อนี้ ถา้ แปลคาํ ศัพทไ์ ด้ ตอบได้เลยโดยไม่ตอ้ งไปดูโจทย์ หรือหา keyword ช่วยแปล ซงึ่ ดูได้จาก

ประโยคก่อนหนา้ ท่ีวา่ Supreme Court decision which cleared the way for same-sex marriage
across the US. But in some areas ... was less than enthusiastic - and even downright
hostile.

จะเห็นได้ว่า ประโยคก่อนหน้า เหน็ ด้วยหรอื ยินยอมในเรอื่ งการแต่งงานของเพศเดียวกัน และ
ตอ่ มาเชอ่ื มด้วยคาํ วา่ but แสดงความขดั แยง้ ดังน้ันประโยคต่อมาจงึ ต้องมใี จความขดั แยง้ กบั การเห็นด้วย
ซงึ่ กค็ ือ เปน็ ฝา่ ยตรงข้าม เปน็ ศัตรู ตอบตวั เลือก 1)

94. การเปิดตวั ของ filter ชาวสีรุ้ง ของเฟซบคุ๊ ได้รบั การวิพากษ์วจิ ารณใ์ นรสั เซยี เพราะ ....................
1) คนรสั เซียสว่ นใหญ่กลวั คนทร่ี กั ชอบเพศตรงข้าม (heterophobic)
2) ผู้ทส่ี นับสนุนการแต่งงานของเกยอ์ าจตอ้ งเผชิญกบั การกลัน่ แกล้งทางกฎหมาย
3) ชาวรัสเซยี สว่ นใหญ่เหน็ ด้วยกับกฎหมายห้ามการสง่ เสริมการรกั รว่ มเพศ
4) รสั เซียปฏิเสธศาลฎีกาสหรัฐ
5) คนดงั ชาวรสั เซยี รว่ มมือกนั ตอ่ ต้านการแตง่ งานของเพศเดียวกัน

เฉลย 3) Most Russians favor the law banning the promotion of homosexuality
จากบทความ รัสเซยี เป็นประเทศท่ตี ่อตา้ นการแตง่ งานของเพศเดียวกนั จากประโยคทวี่ า่ a

recent poll showed that more than 80% of Russians oppose legalising same-sex marriage.
ในย่อหน้าท่ี 3 ดังนนั้ พอ Facebook ทํา function เก่ยี วกบั filter ชาวสีรุ้งจึงต่อตา้ นและวพิ ากษ์วิจารณ์
ตอบตัวเลือกที่ 3)

โครงการแบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ ปที ี่ 29 83 ภาษาอังกฤษ (อ.อริสรา)

95. วลีทว่ี ่า “สญั ลกั ษณ์ในวัยเด็กอันบรสิ ทุ ธิ์ของเรา” ในย่อหนา้ ท่ี 5 พูดถงึ อะไร
1) ความสามัคคขี องสงั คม
2) การแตง่ งานตามประเพณี
3) รงุ้
4) ความภมู ใิ จของชาติ
5) การแต่งงานของคนเพศเดียวกัน

เฉลย 3) rainbow
สญั ลักษณเ์ ดียวที่กล่าวถงึ มาตลอดบทความแทนชาวรักร่วมเพศ คอื rainbow (สายรงุ้ )

96. ชาวอยี ิปตบ์ างคนตอบโต้กระแส filter ชาวสรี ุ้งโดย ....................
1) กล่าวถงึ การใชแ้ นวคดิ เกีย่ วกบั ชาวสรี ุ้ง (ผิด เพราะไม่ใชว่ ิธีตอบโต้ แค่กล่าวถงึ )
2) การเปลยี่ นภาพโปรไฟล์ของพวกเขาใหเ้ ป็นหลากสี (ผิด เพราะไม่ใชค่ นทต่ี ่อตา้ น ชาวสรี ุง้ ต่างหากที่
เปลีย่ นภาพโปรไฟลข์ องพวกเขาให้เปน็ หลากสี)
3) การตอบสนองอยา่ งก้าวรา้ วต่อเหตุการณ์ท่ดี าํ เนินไปอย่างตอ่ เนอ่ื ง (ผิด เพราะไม่มีกล่าวถงึ )
4) บอกวา่ ผู้ใช้ filter เป็นสาเหตขุ องสภาพอากาศท่เี ลวรา้ ย (ถูก เพราะมกี ล่าวถึงในการยกเป็นตัวอยา่ งใน
วธิ ีการตอ่ ต้าน ในยอ่ หน้าที่ 6 ทวี่ า่ “Some users even went so far as to sarcastically blame
a weekend storm on users who turned their profile pics multi-coloured.”)
5) พยากรณ์วา่ จะมีพายุในวันสดุ สปั ดาห์พร้อมกับสายรุง้ เกิดขึ้น (ผิด ไมม่ กี ารกลา่ วถึงการพยากรณ์ใดๆ
เลย)

เฉลย 4) saying that the filter users caused the weather condition

97. ในบริบทนี้ คําว่า “homophobe” ในยอ่ หนา้ ท่ี 4 ไม่น่าจะกล่าวถงึ ....................
1) ชาวอิยปิ ต์ที่ทวีตวพิ ากวจิ ารณส์ ัญลกั ษณส์ ายรุ้ง
2) ชาวรัสเซยี ที่สนับสนนุ ให้เกดิ การห้ามส่งต่อขอ้ มูลเกีย่ วกบั การรกั รว่ มเพศแกค่ นทีอ่ ายตุ ่ํากวา่ 18 ปี
3) ชาวอเมรกิ นั ทต่ี อ่ ต้านการแตง่ งานของคนเพศเดียวกัน
4) คนทด่ี ดั แปลงรูปโปรไฟล์ของตัวเองดว้ ยฟลิ เตอร์สรี ุ้ง
5) ชาวรัสเซียทตี่ อบโตก้ ระแสธงสีรุง้

เฉลย 4) People who modified their profile pictures with rainbow filter tool
คาํ ว่า homophobe หมายถึง พวกทีก่ ลัวคนท่ีรกั ชอบเพศเดียวกัน คนท่ตี ้อนรับสัญลกั ษณ์ของ

สีรงุ้ ดว้ ยความเตม็ ใจ ถึงกับเปลย่ี นรูปโปรไฟลข์ องตัวเองเป็นสรี ้งุ นน้ั ไมใ่ ชค่ นทก่ี ลวั พวกรักเพศเดยี วกนั
แน่นอน

ภาษาอังกฤษ (อ.อริสรา) 84 โครงการแบรนด์ซัมเมอรแ์ คมป์ ปีที่ 29

98. ผใู้ ดตอ่ ไปนน้ี า่ จะสนับสนนุ Anna Koterlnikova?
1) Elena Starkova ชาวมอสโคว
2) Joshua Taipale
3) Muna Iraqi พธิ กี รรายการโทรทศั นช์ าวอิยิปต์
4) Sharif Najm ผใู้ ช้ทวิตเตอรช์ าวอยิ ปิ ต์
5) Ahmad Abd-Rabbuh ศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์ชาวอิยิปต์

เฉลย 3) Egyptian TV presenter Muna Iraqi
Anna Koterlnikova สนับสนนุ กระแสสีรุ้ง Muna Iraqi ก็เช่นเดียวกนั

99. Tweet ของ Joshua Taipale แสดงใหเ้ ห็นว่า ....................
1) คนเป็นเกยไ์ ม่สมควรได้รบั สิทธพิ เิ ศษดังกล่าว
2) เขาไมไ่ ดม้ ีปญั หาส่วนตัวกับเพอ่ื นเกยข์ องเขา
3) ศาลฎกี าสหรัฐตดั สนิ ใจไม่เดด็ ขาด
4) กฎหมายการแตง่ งานของเพศเดียวกันไม่ควรทีจ่ ะทาํ ให้ถูกกฎหมายทงั้ หมดในครั้งเดียว
5) เพอ่ื นเกย์ของเขาเป็นคนดี

เฉลย 4) the same-sex marriage law should not be legalized all at once
จากประโยคในย่อหน้าที่ 7 ทีว่ า่ tweeted Joshua Taipale. “I have gay friends and ...

But U.S. can’t decide. Should be state-by-state.” ซึ่งหมายความวา่ เขาคิดวา่ กฎหมายการ
แต่งงานของเพศเดยี วกันควรข้นึ อยกู่ ับแต่ละรฐั ไมค่ วรเอากฎหมายเดยี วมาใช้กบั ทั้งประเทศ ดงั นั้นตอบ
ตวั เลือก 4)

100. ชื่อหัวขอ้ ทด่ี ีท่ีสดุ สาํ หรบั บทความน้ี คอื ....................
1) ทําไมบางประเทศถงึ ยึดตดิ กบั เรอ่ื งรกั ร่วมเพศ?
2) ปฏกิ ิริยาของชาวรัสเซยี ต่อการตดั สนิ การแตง่ งานของเพศเดียวกนั ในประเทศสหรฐั อเมรกิ า
3) ใครคอื คนท่อี อกมาตอ่ ตา้ น ธงสรี งุ้ ของ Facebook?
4) ผปู้ ระท้วงม่งุ เปา้ ไปทกี่ ารปรับปรุงล่าสดุ ของ Facebook
5) อเมรกิ าจะมีการให้โหวตเพอ่ื เออ้ื ให้การแตง่ งานของเพศเดยี วกันเป็นส่งิ ถกู กฎหมาย

เฉลย 3) Who came out against Facebook’s rainbow flags?
สงั เกตหัวข้อเรื่องจะตอ้ งมคี าํ ซ้าํ ๆ หรือกลา่ วเรอ่ื งนน้ั ซา้ํ ๆ ในบทความ ซงึ่ เร่อื งหรอื คําที่พูดซํา้

มาก คือ Facebook, rainbow แสดงใหเ้ หน็ เลยวา่ เรอื่ งน้ีเก่ียวกบั rainbow filter ของ Facebook มอี ยู่
ข้อเดียวที่บอกว่าเกยี่ วกบั rainbow filter ของ Facebook คือ ตัวเลอื กท่ี 3)

โครงการแบรนดซ์ ัมเมอรแ์ คมป์ ปที ี่ 29 85 ภาษาอังกฤษ (อ.อรสิ รา)

Category Vocab : Health & Medicine

abortion (n.).................................................การทําแทง้ = miscarriage
admit (v.) .....................................................นาํ (คนไข้) เขา้ รักษาทีโ่ รงพยาบาล
ageing / aging (n.)........................................การมีอายมุ ากขนึ้ , การแกช่ ราขนึ้
amputate (v.) ...............................................(แพทย์) ตัดแขน, ขา
antiseptic (n.)...............................................ยาฆา่ เชื้อ
body building (n.).........................................การเพาะกาย
cavity (n.).....................................................รูผใุ นฟัน
cross-eyed (adj.) ..........................................ตาเหล่, ตาเข
deodorant (n.)..............................................ยาระงบั กลิ่นตัว
diet (n.)........................................................การควบคุมอาหาร, อาหาร
disabled (adj.) ..............................................พกิ าร = handicapped, impaired, crippled
euthanasia (n.).............................................การุณยฆาต (การตายอย่างสงบ) = mercy killing
exhausted (adj.) ...........................................หมดแรง, เพลยี มาก
first aid kit (n.) .............................................ชุดเครอื่ งมือปฐมพยาบาล
hygiene (n.) .................................................สุขอนามยั
hygienic (adj.) ..............................................ท่ีมสี ุขอนามัยดี
implant (v.) ..................................................ปลกู ถา่ ยอวยั วะ
incision (n.)..................................................แผลผา่ ตดั
infancy (n.) ..................................................วัยทารก, แบเบาะ
inflamed (adj.)..............................................อกั เสบ
life expectancy, life span (n.)........................อายขุ ัย
menopause (n.)............................................การหมดประจาํ เดอื น
menstruation (n.) .........................................การมปี ระจําเดือน
plastic surgery (n.) .......................................ศัลยกรรมตกแต่ง
pulse (n.) .....................................................ชีพจร
side-effect (n.).............................................ผลข้างเคยี งจากการใช้ยาหรือการรักษา
supplement (n.) ...........................................อาหารเสริม, วติ ามินเสรมิ
unconscious (adj.)........................................หมดสต,ิ ไมร่ สู้ ึกตวั
vomit (v.) .....................................................อาเจยี น = throw up
rash (n.).......................................................ผดผนื่
tetanus (n.) ..................................................บาดทะยัก

ภาษาองั กฤษ (อ.อรสิ รา) 86 โครงการแบรนด์ซมั เมอรแ์ คมป์ ปีท่ี 29

tuberculosis, TB (n.) .....................................วัณโรค

venereal disease, VD (n.)..............................กามโรค

cancer (n.)...................................................มะเร็ง

tumor (n.) ....................................................เนอื้ งอก

malignancy / malignant tumor (n.) ...............เนอ้ื รา้ ย, การใส่รา้ ย, การปองร้าย

oncogene (n.) ..............................................ยีนมะเร็ง

genome (n.) .................................................กลุม่ ยนี ในเซลลข์ องสิ่งมชี ีวิต

bone marrow (n.) .........................................ไขกระดูก

marrowbone (n.) ..........................................กระดกู ทม่ี ีไขกระดกู

proliferate (v.) ..............................................งอก, แพร่พนั ธุ,์ เพ่ิมทวี, เพ่มิ จํานวนอย่างรวดเรว็

mutate (v.) ...................................................เปลย่ี นแปลง

mutation (n.)................................................การเปลี่ยนแปลง / เปลย่ี นรปู ,

การเปลย่ี นแปลงลักษณะของยนี

suppress (v.) หยุดย้งั , ระงบั

suppressant (n.)...........................................ยาระงับอาการ

transgender (n.) ...........................................คนท่ีมีลักษณะผิดเพศ

diagnostic (adj.) ...........................................เกย่ี วกบั การวินิจฉยั โรค

diagnosis (n.) ...............................................การวินจิ ฉยั หาสาเหตขุ องโรค

pathology / parasitology (n.) ......................... พยาธิวิทยา

etiology (n.)..................................................การศึกษาเก่ียวกบั สาเหตขุ องโรค

pregnancy/gestation (n.)...............................การต้ังครรภ์

reproduction/breeding (n.) ...........................การสืบพนั ธุ์

malformation (n.) .........................................การผิดปกติในดา้ นรปู รา่ ง

fetus / embryo (n.) .......................................ทารกในครรภ์

preterm infant (n.) .......................................ทารกคลอดกอ่ นกาํ หนด

post term infant (n.).....................................ทารกคลอดเกินกําหนด

infant / baby / toddler / nursling (n.) ............ ทารกเดก็ อ่อน

gullet / esophagus (n.) .................................หลอดอาหาร

pharynx (n.) .................................................คอหอย

alimentary canal (n.) ....................................ทางเดนิ อาหาร

flatulent (n.) .................................................ท้องอืดทอ้ งเฟ้อ

dyspeptic (n.)...............................................คนท่เี ป็นโรคอาหารไมย่ ่อย

diarrhea (n.).................................................โรคทอ้ งเสยี

have diarrhea (v.).........................................ทอ้ งเสยี , ทอ้ งรว่ ง

โครงการแบรนดซ์ มั เมอร์แคมป์ ปีที่ 29 87 ภาษาองั กฤษ (อ.อรสิ รา)

contamination (n.)........................................การปนเปือ้ น
outbreak / Breakout (n.) ...............................การระบาดของโรค
epidemic (n.) ...............................................โรคระบาดทกี่ ระจายอยา่ งรวดเร็ว
contagion / infection (n.) ..............................โรคตดิ ต่อท่ีเกิดจากการสัมผัส
pandemic (adj.)............................................ซ่ึงระบาดไปทว่ั
pestilence (n.)..............................................โรคติดต่อรา้ ยแรง
evacuation (n.).............................................ส่งิ ทถ่ี กู ขับถ่ายออกจากรา่ งกายเช่น อุจจาระและปสั สาวะ
excrement (n.) .............................................อุจจาระ, ของเสยี จากร่างกาย
perspire / sweat / swelter (v.) ....................... เหงอ่ื ออก
treatment / therapy / remedy / cure (n.)....... การรักษา
undergo treatment (n.).................................ผา่ นการรกั ษา
disease / illness / sickness / Ailment (n.) ...... โรค, การเจบ็ ป่วย
occupational disease (n.) .............................โรคทเี่ กดิ จากการทาํ งาน
suffer (v.) .....................................................ได้รับการทรมาน
afflict (v.) .....................................................ทาํ ให้เจบ็ ปว่ ย
syndrome (n.) ..............................................อาการของโรคตา่ งๆ
fatal / terminal / lethal / deadly (adj.)............ เปน็ อนั ตรายถึงตาย
curable (adj.) ...............................................รักษาได้
incurable (adj.).............................................รกั ษาไมไ่ ด้
serious (adj.)................................................รุนแรง
slight (adj.)...................................................ไม่รนุ แรง, เลก็ นอ้ ย
acute (adj.) ..................................................สาหัส
chronic (adj.) ...............................................เรอ้ื รงั
symptom (n.) ...............................................อาการ
explicit symptom (n.)....................................อาการทีปรากฏชดั เจน
critical (adj.).................................................เป็นตายเทา่ กัน
life - threatening (n.)....................................ใกลต้ าย
terminally ill (n.) ..........................................การปว่ ยขน้ั สดุ ทา้ ย
recover / recuperate (v.)...............................ฟ้ืนดขี ้ึน
coma (n.).....................................................ไม่ร้สู ึกตัว, สลบ
rehabilitate (v.).............................................บํารุง
malpractice (n.) ...........................................วธิ ีการรกั ษาทผ่ี ิด

ภาษาองั กฤษ (อ.อริสรา) 88 โครงการแบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ ปที ่ี 29

Category Vocab : Environment

acid rain (n.)..........................................................ฝนกรด
aerosol (n.) ............................................................ละอองของเหลว
air pollution (n.) .....................................................มลพิษทางอากาศ
water pollution (n.).................................................มลภาวะทางน้าํ
marine pollution (n.)...............................................มลภาวะทางทะเล
mercury poisoning (n.)...........................................การเป็นพษิ ของสารปรอท
atmosphere (n.) .....................................................ช้ันบรรยากาศ
climate (n.) ............................................................ภมู อิ ากาศ
contaminated (adj.) ................................................ปนเปื้อน
devastating (adj.)....................................................ที่ทําลายลา้ ง
dispose of (v.) ........................................................กําจดั ...ท้ิงไป
domestic sewage (n.) .............................................ของเสียจากอาคารบ้านเรอื น
ecology (n.)............................................................ระบบนิเวศ
effect (n.)...............................................................ผลกระทบ
alternative energy (n.) ............................................พลงั งานทางเลอื ก
energy shortage (n.)...............................................ภาวะการขาดแคลนพลังงาน
emission (n.)..........................................................การปลอ่ ยออกมา
erosion (n.) ............................................................การสึกกรอ่ น
erode (v.) ...............................................................กรอ่ น (ถูกกดั กรอ่ น)
corrode (v.) ............................................................กัดกร่อน (สิ่งอน่ื )
endangered species (n.).........................................สัตว์ใกลส้ ูญพันธ์ุ
exhaust fume (n.)...................................................ควนั จากท่อไอเสียยานพาหนะ
fuel (n., v.).............................................................เชื้อเพลงิ , ให้เช้ือเพลงิ
global warming (n.) ................................................ภาวะโลกรอ้ น
greenhouse effect (n.)............................................ปรากฏการณเ์ รือนกระจก
metals (n.) .............................................................ท่อระบายน้ํา
nuclear fallout (n.) .................................................ฝุ่นรังสนี วิ เคลียร์
oil-slick (n.)............................................................คราบนาํ้ มันทล่ี อยอยบู่ นผิวนาํ้
ozone layer (n.)......................................................บรรยากาศชนั้ โอโซน

โครงการแบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ ปที ี่ 29 89 ภาษาอังกฤษ (อ.อริสรา)

pest (n.).................................................................ศัตรูพืช
pesticide (n.)..........................................................ยาฆ่าแมลง
plant / factory (n.) ..................................................โรงงาน
pollutant (n.) .......................................................... มวลสาร, สิ่งท่ีทาํ ใหส้ กปรก
recycle (v.) ............................................................นํากลับมาใช้ใหม่
rubbish / trash / garbage (n.) .................................ขยะ
surface run-off (n.) ...............................................การสญู เสียหน้าดนิ
underground flow (n.) ............................................ทางนา้ํ ใตด้ นิ
waste (n.)...............................................................กากของเสีย
biological diversity (n.)............................................ความหลากหลายทางชวี ภาพ
ecosystem (n.) .......................................................ระบบนเิ วศ
parasite (n.) ...........................................................ปรสิต
extinct (v.)..............................................................สูญพันธ์ุ
extinction (n.).........................................................การสูญพนั ธุ์
incinerate (v.).........................................................เผา
overflow/ flood (n.) .................................................นํา้ ทว่ ม

Syn : deluge / inundation
tidal wave / tsunami (n.).........................................คลื่นทะเล, สนึ ามิ
toxic / noxious (adj.)...............................................ทเี่ ป็นพิษ
toxin / venom / poison (n.) .....................................พษิ
herbicide (n.) .........................................................ยาฆ่าวัชพชื
pesticide (n.)..........................................................ยาปราบศัตรูพืช
insecticide (n.) .......................................................ยาฆ่าแมลง
volcano (n.)............................................................ภเู ขาไฟ
volcanic ash (n.) ....................................................ข้เี ถา้ จากภูเขาไฟ
volcanic tremor (n.)................................................การสน่ั สะเทอื นท่เี กิดจากภเู ขาไฟ
active volcano (n.)..................................................ภเู ขาไฟทยี่ ังคงลกุ ไหม้
dormant volcano (n.)..............................................ภเู ขาไฟสงบแลว้
extinct volcano (n.).................................................ภเู ขาไฟดับมอดแล้ว
wildlife sanctuary (n.) .............................................เขตสตั วป์ า่ สงวน
animal welfare (n.) .................................................สวัสดิภาพสัตว์
treaty (n.)...............................................................สนธสิ ญั ญา

ภาษาอังกฤษ (อ.อรสิ รา) 90 โครงการแบรนดซ์ มั เมอรแ์ คมป์ ปที ี่ 29

participation (n.).....................................................การมสี ่วนร่วม การร่วมมอื
developing country (n.) ..........................................ประเทศกําลังพัฒนา
developed country (n.) ...........................................ประเทศพฒั นาแลว้
industrialized nation (n.).........................................ประเทศอตุ สาหกรรม
accord (n.).............................................................ขอ้ ตกลง
ban / forbid (v.)......................................................หา้ ม
dump / throw away (v.) ..........................................ทงิ้
radioactive waste (n.) .............................................กากกัมมันตรังสี
environmental protection (n.) .................................การปกปอ้ งส่ิงแวดล้อม
environmental destruction (n.)................................การทาํ ลายสง่ิ แวดลอ้ ม
environmental activist (n.) ......................................ผกู้ ่อการเคล่อื นไหวเพอื่ สิ่งแวดล้อม
environmentalist/conservationist (n.).......................นกั อนุรักษ์ส่งิ แวดล้อม
conservation (n.) ....................................................การอนุรักษ์
ecosystem (n.) .......................................................ระบบนเิ วศวิทยา
ecology (n.)............................................................นเิ วศวิทยา
ecological friendly / environmental friendly (adj.) ....ไมท่ ําลายสิ่งแวดล้อม
global warming (n.) ................................................การทีโ่ ลกรอ้ นขน้ึ
greenhouse effect (n.)............................................ปฏกิ ริ ยิ าเรอื นกระจก
desertification (n.) ..................................................การที่ดินแดนทเ่ี คยอดุ มสมบูรณก์ ลบั ค่อยๆ

เปลีย่ นสภาพเปน็ ทะเลทราย
pollute / contaminate (v.) .......................................ทําให้สกปรก, ทาํ ใหเ้ ป็นพิษ
hazardous (adj.).....................................................เต็มไปด้วยอันตราย
residue (n.) ............................................................กาก
exhaust (fume) (n.)................................................ไอเสยี
smog (n.) ...............................................................หมอกผสมควันโรงงาน
emissions (n.) ........................................................การปลอ่ ย
atmospheric concentration (n.)...............................ความเข้มขน้ อากาศ
radioactivity (n.) .....................................................กมั มนั ตรังสี
radiation (n.) ..........................................................การแผร่ งั สี
soil pollution (n.) ....................................................มลภาวะของดิน
biodegradable (n.)..................................................ทเี่ นา่ เปอ่ื ยได้เอง
landfill (n.) .............................................................การถมดิน
water pollution (n.).................................................มลภาวะทางนํ้า

โครงการแบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ ปีท่ี 29 91 ภาษาอังกฤษ (อ.อรสิ รา)

drainage (n.) ..........................................................การระบายนํา้
sewage (n.) ............................................................ของโสโครก
deteriorate (v.) .......................................................เส่อื มลง
aggravate (v.) .........................................................ทาํ ใหเ้ ลวลง
waste / refuse (n.)..................................................กาก
industrial waste (n.)................................................กากอุตสาหกรรม
nuclear waste (n.) ..................................................กากนิวเคลียร์
hazardous waste (n.)..............................................กากพิษ
organic waste (n.) ..................................................ขยะอินทรยี ์
garbage / trash / litter (n.) ......................................ขยะ
burnable (adj.) .......................................................ทีเ่ ผาไหมไ้ ด้
unburnable (adj.) ...................................................ทเี่ ผาไหม้ไม่ได้
disposal (n.) ...........................................................การกําจดั
waste disposal (n.) .................................................การกําจัดกาก
garbage disposal (n.)..............................................การกาํ จัดขยะ
sewage disposal (n.)...............................................การกาํ จดั ของเสีย
incinerate (v.).........................................................เผา
illegal dumping (n.) ................................................การทง้ิ อยา่ งผิดกฎหมาย
discard (v.).............................................................ละทงิ้
accumulation (n.)...................................................การสะสม
resource conservation (n.)......................................การอนุรกั ษท์ รพั ยากร
energy shortage (n.)...............................................การขาดแคลนทรพั ยากร
alternative energy (n.) ............................................พลงั งานทางเลือก
solar energy (n.).....................................................พลังงานแสงอาทิตย์
deforestation (n.)....................................................การตดั ไม้ทาํ ลายปา่
habitat (n.).............................................................ทอ่ี ย่ขู องสตั ว์
inhabit (v.) .............................................................อาศัย
extinct (adj.)...........................................................สญู พันธ์ุ
extinction (n.).........................................................การสญู พนั ธุ์

ภาษาองั กฤษ (อ.อริสรา) 92 โครงการแบรนดซ์ ัมเมอร์แคมป์ ปที ่ี 29

Category Vocab : Technology

biome (n.)....................................................ลกั ษณะสภาพภูมิศาสตร์ทีแ่ ตกต่างกนั
biosphere (n.) ..............................................สว่ นของพืน้ ผวิ และบรรยากาศของโลกทีม่ สี ่งิ มีชวี ติ อาศยั อยู่
capacity (n.).................................................ความสามารถทางรา่ งกายหรือจติ ใจ,

ปรมิ าณสงู สุดท่จี ะรับได้
community (n.) ............................................ชุมชน
concept map (n.) ........................................แผนภาพแทนความคดิ ทแ่ี สดงใหเ้ ห็นถงึ ความสมั พนั ธท์ ่มี ี
conductivity (n.) ...........................................ลักษณะเป็นส่อื นาํ ไฟฟา้ หรือพลงั งานความร้อน
decompose (v.) ............................................ยอ่ ยสลาย
density (n.)...................................................ความหนาแนน่
dissolve / liquefy / liquate (v.) ....................... ละลาย
ecosystem (n.) .............................................ระบบทีเ่ กิดจากความสมั พันธ์ระหวา่ งสงิ่ มชี วี ติ

และสง่ิ แวดล้อม
efficiency (n.)...............................................ความมีประสทิ ธิภาพ
effort/attempt/endeavor (n.)..........................ความพยายาม
expectation (n.)............................................มาตรฐานท่คี าดหวงั ไว้
fossil fuel (n.)...............................................เชื้อเพลงิ ซากดึกดาํ บรรพ์
frequency (n.) ..............................................ความถ่ี
gear (n.).......................................................เฟอื ง, อปุ กรณเ์ ครื่องมือ
volume (n.) ..................................................ปรมิ าณ, ความจุ
hybrid (adj.) .................................................ซึ่งเปน็ พันธผ์ุ สม, ประกอบขึ้นจากหลายสว่ น
input (n.) .....................................................การปอ้ นเข้า
insulation (n.)...............................................การใช้ฉนวนป้องกนั
linkage (n.) ..................................................การเช่อื มตอ่
load (n.).......................................................สินค้าทบ่ี รรทกุ

(v.) ......................................................ถ่ายขอ้ มูลหรอื โปรแกรมในคอมพวิ เตอร์
mass (n.) .....................................................มวล, ปรมิ าณมาก
mechanical (adj.) .........................................เก่ยี วกับเครื่องจักรกล
multi - media (n.) ........................................การใช้สื่อหลายชนดิ ในคอมพวิ เตอร์

โครงการแบรนด์ซมั เมอรแ์ คมป์ ปีท่ี 29 93 ภาษาองั กฤษ (อ.อริสรา)

neutron (n.) .................................................อนุภาคของนวิ เคลยี ส
nucleus / core / essence / hub (n.) .............. ใจกลาง, สว่ นสาํ คัญ
organelle (n.) ...............................................สว่ นทีม่ ีชวี ติ ทาํ หนา้ ที่คล้ายๆ กบั เป็นอวัยวะของเซลล์
optimum (n.)................................................ภาวะท่ีดีทสี่ ดุ
output / production / yield (n.) ..................... ปรมิ าณของสงิ่ ทผ่ี ลิตได้
pitch (n.)......................................................การขวา้ ง, การโฆษณาเรข่ าย, ระดบั ตาํ แหน่ง, นํา้ มันดบิ
pneumatic / atmospheric / airy (adj.)............ เก่ยี วกบั อากาศหรือลม
population (n.) .............................................ประชากร
producer (n.) ...............................................ผู้ผลติ
widespread / prevalent (adj.) ........................แพร่หลาย
renewable (adj.) ...........................................(พลงั งาน) ท่ีไม่มวี ันหมด
saturated (adj.).............................................อ่มิ ตัว
scatter (v.) ...................................................ทาํ ให้กระจาย
solute (n.) ....................................................ตวั ถกู ละลาย
succession / inheritance (n.) ........................ การสบื ทอดต่อ
torque (n.) ...................................................แรงทท่ี าํ ให้หมนุ
variable (adj.)...............................................ซ่ึงเปลย่ี นแปลงได้

ภาษาอังกฤษ (อ.อรสิ รา) 94 โครงการแบรนดซ์ มั เมอร์แคมป์ ปีท่ี 29

Category Vocab : Business & Economy

acquisition (n.).............................................การได้รับหรือถอื ครองกรรมสิทธิ์ (บริษัท, สนิ ค้า ฯลฯ)
advantage (n.)..............................................ผลประโยชน์, ผลกําไร

syn : benefit, profit, merit
assess (v.)....................................................ประเมนิ ราคา

syn : evaluate, estimate
asset (n.) .....................................................สินทรพั ย์
banking (n.) .................................................การธนาคาร
budget (n.)...................................................งบประมาณ
calculate (v.) ................................................คํานวณ
capital (n.) ...................................................เงนิ ทุน
capitalism (n.)..............................................ระบบเศรษฐกจิ ทุนนยิ ม
commerce (n.) .............................................การคา้ , การพาณิชย์
commodity (n.).............................................สนิ ค้า, ผลติ ภณั ฑ์
competitive (adj.) .........................................(ราคา) ทแี่ ข่งขันหรอื ไดเ้ ปรียบคแู่ ข่งรายอืน่
consumer (n.) ..............................................ผ้บู ริโภค
consumption (n.)..........................................การบริโภค
contract (n., v.) ............................................สญั ญา, ขอ้ ตกลงทางธุรกิจ
co-operate (v.) .............................................ร่วมมือ

syn : collaborate
co-operative (n.) ..........................................สหกรณ์
cost of living (n.) ..........................................ค่าครองชพี
credit (n.).....................................................สนิ เชอื่ , การซื้อสนิ คา้ เงนิ เช่อื
creditor (n.)..................................................เจา้ หนี้
currency (n.)................................................เงินตรา
currency rate (n.).........................................อตั ราแลกเปลี่ยนเงนิ ตรา
current (adj.)................................................(หนี้สิน, เงนิ ทุน) หมุนเวียน, ปัจจบุ ัน, ใชใ้ นขณะนน้ั
customs (n.pl.).............................................กรมศุลกากร ด่านศุลกากร
debt (n.).......................................................หนี้สิน
debtor (n.) ...................................................ลกู หน้ี
deflation (n.) ................................................ภาวะเงินฝืด
demand (n.).................................................ความตอ้ งการอุปสงค์
depreciate (v.)..............................................ลดคา่ ลง, ราคาตก

syn : devalue

โครงการแบรนด์ซมั เมอร์แคมป์ ปีท่ี 29 95 ภาษาอังกฤษ (อ.อรสิ รา)

disbursement (n.).........................................การจ่ายเงิน, การชําระเงิน
syn : payment

domestic (adj.) .............................................ภายในประเทศ
economic (adj.)............................................ในทางเศรษฐศาสตร์, เศรษฐกจิ
economics (n.).............................................เศรษฐศาสตร์
economic stability (n.) ..................................เสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
expenditure (n.) ...........................................การใชจ้ ่าย, ค่าใชจ้ ่าย, รายจา่ ย

syn : spending, expense
export (n., v.) ...............................................การสง่ ออก, สนิ ค้าสง่ ออก
factory (n.) ...................................................โรงงาน

syn : plant, works, workplace
finance (n.) ..................................................การเงิน
financial year (Br) / fiscal year (Am) (n.) ...... ปงี บประมาณ
float (v.) .......................................................(ทําให้) ค่าเงนิ ตราลอยตัว
funds (n.pl.).................................................เงนิ สด, เงนิ
goods (n.pl.).................................................สนิ ค้า

syn : commodity, merchandise
handout (n.).................................................เงนิ ช่วยเหลือ
IMF, International Monetary Fund (n.) .......... กองทนุ การเงนิ ระหว่างประเทศ
import (n., v.)...............................................การนาํ เข้า, สินค้าเขา้
income (n.) ..................................................รายได้

syn : earnings, revenue
income tax (n.).............................................ภาษเี งินได้
industry (n.) .................................................อตุ สาหกรรม
inflation (n.) .................................................ภาวะเงินเฟ้อ
infrastructure (n.).........................................โครงสร้างมลู ฐาน
interest (n.) ..................................................ดอกเบี้ย
inventory (n.) ...............................................สนิ คา้ คงคลงั
invest (v.).....................................................ลงทนุ
investment (n.).............................................การลงทนุ
Laissez-faire (n.) ..........................................นโยบายเศรษฐกจิ แบบเสรี
land reform (n.) ...........................................การปฏิรูปท่ีดนิ
liquidity (n.)..................................................สภาพคล่องทางการเงิน, ภาวะทีม่ ีเงนิ สดอยใู่ นมือ
living wage (n.).............................................ค่าจ้างท่ีพอแค่เลีย้ งปากเลีย้ งทอ้ ง

ภาษาองั กฤษ (อ.อรสิ รา) 96 โครงการแบรนด์ซมั เมอร์แคมป์ ปที ี่ 29

manufacturer (n.).........................................ผ้ผู ลติ
syn : producer

market share (n.) .........................................สว่ นแบ่งตลาด
monetary (adj.) ............................................เกยี่ วกบั เงินตรา, ทางการเงนิ

syn : financial
monopoly (n.)...............................................การคา้ แบบผกู ขาด
multilateral (adj.)..........................................(สญั ญา) พหุภาคี, หลายฝา่ ย
net (adj.)......................................................(กาํ ไร, รายได)้ ทเ่ี ป็นผลสุทธิ
note (Br) / bill (Am) (n.) ...............................ธนบตั ร
pay off (v.) ...................................................ชําระทัง้ หมด , จ่ายชดเชยลกู จา้ ง, ให้ลาออก
policy (n.).....................................................นโยบาย
product (n.) .................................................ผลติ ภัณฑ์, สินค้า

say : output
property (n.).................................................ทรัพยส์ นิ , อสังหารมิ ทรพั ย์
quarter (n.) ..................................................ไตรมาส, ระยะเวลา 3 เดือน
recession (n.)...............................................ภาวะเศรษฐกจิ ถดถอย, ซบเซา

syn : slump, depression
reserve (n.) ..................................................ทุนสํารอง, เงินคงคลัง
smuggled goods (n.) ....................................สนิ คา้ หนีภาษี
social insurance (n.).....................................การประกนั สังคม
speculate (v.) ...............................................เกง็ กาํ ไร
stagnant (adj.)..............................................(เศรษฐกิจ) ชะงักงนั
standard of living / living standard (n.) ......... มาตรฐานการครองชพี
state enterprise (n.)......................................รัฐวสิ าหกิจ
stock market (n.) .........................................ตลาดหลกั ทรัพย์, ตลาดห้นุ
supply (n.) ...................................................อุปทาน, การจดั หามาให้
tariff (n.) ......................................................ภาษศี ลุ กากร
tax (n.).........................................................เงินภาษี
tax evasion (n.) ............................................การหลบเลยี่ งภาษี
tax exempt (adj.) ..........................................ที่ไดร้ ับการยกเวน้ ภาษี
tax invoice (n.) .............................................ใบกาํ กับภาษี
trade deficit (n.) ...........................................การขาดดุลการค้า
trade surplus (n.) .........................................การได้เปรียบดลุ การค้า
unemployment (n.).......................................ภาวะการวา่ งงาน
value added tax (n.) .....................................ภาษมี ลู คา่ เพิ่ม

โครงการแบรนดซ์ มั เมอรแ์ คมป์ ปีที่ 29 97 ภาษาองั กฤษ (อ.อริสรา)

Category Vocab : Social Science / Law & Justice

(to be caught) red-handed (v.)...............................ถกู จับคาหนังคาเขา
a breach of promise / contract (n.).........................การทาํ ผดิ สญั ญา
a political crisis (n.)................................................วกิ ฤตการณท์ างการเมือง
a political refugee (n.) ............................................ผู้ลีภ้ ัยทางการเมอื ง
a proxy for... (n.)....................................................ตวั แทนของ... / ผ้รู บั มองฉนั ทะของ...
accomplice, confederate (n.)..................................ผูส้ มรู้รว่ มคิด
accusation, charge (n.) ..........................................ขอ้ หา
accuse (of), charge (v.)..........................................กล่าวหา, ตง้ั ข้อหา
accused (n.)...........................................................ผูถ้ กู กล่าวหา, จําเลยในคดีอาญา
accuser (n.) ...........................................................ผู้กล่าวหา, โจทก์
administrative court (n.) .........................................ศาลปกครอง
admonition (n.) ......................................................การตกั เตอื น
advocate (n.)..........................................................ทนาย, (v.) สนับสนนุ
agreement, treaty, pact (n.) ...................................ข้อตกลง, สญั ญา
alibi (n.) .................................................................หลกั ฐานท่ีอยู่
allegation (n.).........................................................ขอ้ กล่าวหา
allege, claim (v.).....................................................กลา่ วอ้างกลา่ วหา
allegedly (adv.).......................................................ตามทอ่ี ้างไว,้ ตามที่กล่าวหาไว้
alliance (n.)............................................................สหพนั ธ,์ พันธมิตร, แนวรว่ ม
amend constitution (v.) ..........................................แก้ไขรัฐธรรมนูญ
an emergency situation (n.)....................................สถานการณ์ฉุกเฉนิ
appeal (n., v.) ........................................................การอุทธรณ,์ คาํ รอ้ ง,ขออุทธรณ์
appeal court (n.) ....................................................ศาลอุทธรณ์
arbitration (n.)........................................................การตกลงโดยมีอนุญาโตตุลาการ

(ไม่ขึน้ ศาลแต่ไกลเ่ กลีย่ กันเอง)
arbitrator (n.) .........................................................อนญุ าโตตลุ าการ (คนกลางทไ่ี ม่มีส่วนได้ส่วนเสยี )
arraignment (n.).....................................................การกล่าวหา, การนาํ ตวั มาขึ้นศาล
arrest, capture, seize, catch, apprehend (v.) ..........จบั กมุ
arrest, capture, seizure, catching, apprehension (n.) ..การจับกมุ

ภาษาอังกฤษ (อ.อรสิ รา) 98 โครงการแบรนดซ์ มั เมอรแ์ คมป์ ปที ี่ 29


Click to View FlipBook Version