แผนการจัดการเรียนรู้ วิชากฎหมายธุรกิจ

แผนการจดั การเรียนรมู้ ่งุ เน้นสมรรถนะ หนว่ ยท่ี 5
ชือ่ หนว่ ย กฎหมายลักษณะเช่าทรัพย์และเช่าซ้อื
สอนครงั้ ที่ 7
ชวั่ โมงรวม 3

จำนวนชว่ั โมง 3

6. สญั ญาเชา่ ซื้อมคี วามหมายอยา่ งไร
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
7. สทิ ธแิ ละหนา้ ที่ของผู้ให้เชา่ ซอื้ มอี ะไรบา้ ง
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................

เฉลยแบบฝกึ หดั
เรอื่ ง กฎหมายลกั ษณะเชา่ ทรัพยแ์ ละเชา่ ซ้อื
คำชี้แจง ให้นกั เรยี นตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถกู ต้องสมบรู ณ์
1. สญั ญาเชา่ ทรัพย์ คืออะไร
ตอบ สญั ญาซงึ่ บคุ คลหน่งึ เรียกว่า “ผู้ใหท้ รัพย์” ตกลงใหบ้ ุคคลหนึง่ ทีเ่ รยี กวา่ “ผูเ้ ชา่ ” ให้ใช้หรอื ได้รับประโยชน์ใน
ทรัพย์สนิ อย่างใดอย่างหน่งึ ซ่งึ มีระยะเวลาอันจำกดั และผเู้ ช่าตกลงจะใหค้ า่ เชา่ เพ่อื การนั้น

2. ประเภทของสัญญาเชา่ ทรพั ยม์ ีก่ีประเภท อะไรบา้ ง
ตอบ มี 2 ประเภทคือ 1.การเช่าสังหาริมทรัพย์ สังหาริมทรัพย์ทุกประเภทหากนำมาทำสัญญาเช่าก็ไม่ต้องทำ
หลักฐานเปน็ หนงั สือแต่อยา่ งใด 2. การเช่าอสงั หาริมทรพั ย์แบบไมเ่ กนิ 3ปี กบั เกิน 3 ปี

3. หนา้ ท่แี ละความรบั ผดิ ชอบของผูใ้ ห้เช่ามีอะไรบา้ ง
ตอบ 1.ส่งมอบทรัพยส์ ินให้แก่ผู้เช่า 2.ต้องใหผ้ เู้ ชา่ ได้ใช้หรอื ไดร้ บั ประโยชน์ในทรพั ย์สนิ ที่เช่าโดยสภาพท่ีเหมาะ
3. ซอ่ มแซมทรพั ยท์ ่ีเชา่ ระหวา่ งการเช่า

4. หน้าทแ่ี ละความรับผดิ ชอบของผูเ้ ชา่ มอี ะไรบ้าง
ตอบ 1.ต้องใช้ทรัพย์สินโดยชอบ 2.ต้องสงวนทรัพย์เสมอวิญญูชนจะพึงสงวนทรัพย์สินของตนเองและต้อง
บำรงุ รกั ษาซ่อมแซมเล็กนอ้ ย 3. ผ้เู ชา่ ต้องยอมให้ผูใ้ ห้เช่าหรอื ตัวแทน เขา้ ตรวจดูทรัพยส์ ินท่ีเช่าเปน็ ครัง้ คราว 4.
หน้าที่ชำระค่าเช่า

5. สัญญาเชา่ ระงบั ด้วยเหตุใดบา้ ง
ตอบ 1. เมอื่ สิน้ สุดเวลาเชา่ 2.ทรพั ยส์ นิ ท่เี ชา่ สูญหายหมด 3.ผู้ให้เช่าบอกเลิกสัญญา 4.ผ้เู ช่าตาย

แผนการจัดการเรยี นรู้ม่งุ เนน้ สมรรถนะ หน่วยที่ 5
ช่อื หน่วย กฎหมายลักษณะเช่าทรัพย์และเช่าซ้อื
สอนคร้ังที่ 7
ช่ัวโมงรวม 3

จำนวนชั่วโมง 3

6. สญั ญาเช่าซอ้ื มีความหมายอยา่ งไร
ตอบ คอื สัญญาซึง่ เจา้ ของเอาทรัพย์สนิ ออกให้เช่า และให้คำมน่ั ว่าจะขายทรัพย์สินนน้ั หรือว่าจะใหท้ รพั ยส์ นิ

นั้นตกเป็นสิทธแิ ก่ผูเ้ ช่า โดยเงอ่ื นไขท่ีผเู้ ช่าได้ใช้เงนิ เป็นจำนวนเท่านนั้ เท่านีค้ ราว

7. สิทธแิ ละหนา้ ท่ีของผ้ใู ห้เช่าซอ้ื มีอะไรบ้าง
ตอบ 1. ริบเงินที่ผู้เช่าซ้ือไดใ้ ช้มาแลว้ กอ่ นบอกเลกิ สัญญาได้

2. เจ้าของทรพั ยม์ ีสิทธกิ ลบั เข้าครอบครองทรพั ย์สนิ นน้ั ได้เมื่อสญั ญาระงับ
3. ผู้ใหเ้ ชา่ ซื้อไมม่ ีสทิ ธเิ รียกร้องให้ผเู้ ช่าซอ้ื ชำระคา่ เช่าซอื้ ท่คี ้างชำระ

8. การบรู ณาการ/ความสัมพันธกบั วชิ าอน่ื
8.1 กฎหมายพาณิชย์

9. การวัดและประเมนิ ผล
9.1 กอนเรียน
9.1.1 ทดสอบกอ่ นเรียนประจำหนว่ ยการเรยี นรู้
9.1.2 ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรียนประจำหนว่ ยการเรยี นรู้
9.2 ขณะเรียน
9.2.1 ทำแบบฝกึ หดั
9.2.2 สงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล
9.2.3 สงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
9.3 หลังเรียน
9.๓.1 ตรวจแบบฝกึ หัดประจำหนว่ ยการเรยี นรู้
9.๓.2 ทดสอบหลงั เรยี นประจำหน่วยการเรียนรู้
9.๓.๓ ตรวจแบบทดสอบหลังเรียนประจำหน่วยการเรยี นรู้

แผนการจดั การเรยี นรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หนว่ ยที่ 5
ช่อื หนว่ ย กฎหมายลกั ษณะเช่าทรพั ย์และเช่าซอ้ื
สอนครง้ั ท่ี 7
ชัว่ โมงรวม 3

จำนวนชว่ั โมง 3

10. บันทกึ หลังสอน
10.1 ผลการใชแผนการจดั การเรียนรู

.......................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................................
10.2 ผลการเรยี นรขู องนักเรียน นักศึกษา
.......................................................................................................................................................................

....................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................................
10.3 แนวทางการพฒั นาคณุ ภาพการเรยี นรู้
.......................................................................................................................................................................

....................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................

แผนการจัดการเรยี นรมู้ ุ่งเน้นสมรรถนะ หนว่ ยท่ี 6
ช่อื หน่วย กฎหมายลักษณะจา้ งแรงงาน-จ้างทำของ-รบั ขนส่ง
สอนครงั้ ที่ 6
ช่วั โมงรวม 3

จำนวนชัว่ โมง 3

๑. สาระสำคญั
สัญญาจ้างแรงงานและสัญญาจ้างทำของซ่ึงเป็นเอกเทศสัญญาอย่างหนึ่งและมีลักษณะคล้ายกัน คือ เป็น

สัญญาจ้างใหผ้ ู้อื่นทำงานให้ตนเอง แต่มีความแตกต่างกันในส่ิงสำคัญ คือ สัญญาจ้างแรงงานไม่ได้มุ่งความสำเร็จขง
งาน แตส่ ญั ญาจา้ งทำของ มงุ่ ดูผลงานทส่ี ำเรจ็ แล้ว ดงั นัน้ ความเก่ียวพนั สทิ ธิและหนา้ ท่ีความรับผิดชอบในเรื่องต่างๆ
ระหว่างลูกจ้างและนายจ้างในสัญญาจ้างแรงงาน และผู้ว่าจ้างกับผู้รับจ้างในสัญญาจ้างทำของในส่วน ค่าจ้างก็ดี
สนิ จา้ งกด็ ี กเ็ ป็นหนา้ ที่ของนายจ้างหรือผวู้ ่าจา้ งแลว้ แตก่ รณี เปน็ ผจู้ ่าย

การขนส่งไมว่ า่ จะเปน็ การขนสง่ ของหรือคนโดยสารก็ตาม อาจจะถกู ขนสง่ โดยวธิ ีการต่างๆ ไม่วา่ จะเป็นการ
ขนส่งโดยวิธีการเฉพาะในแต่ละเส้นทางหรือวิธีการขนส่งแล้ว ในปัจจุบันนี้มักจะมีการผสมผสานรูปแบบของการ
ขนสง่ หลายรปู แบบหรือหลายวิธกี ารเขา้ ดว้ ยกันตามหลักเกณฑ์ของกฎหมาย

๒. สมรรถนะประจำหน่วย
2.1 แสดงความรู้ทางกฎหมายเกี่ยวกับการจา้ งแรงงาน
2.2 แสดงความร้ทู างกฎหมายเก่ียวกับการจา้ งทำของ

3. จุดประสงค์การเรียนรู้
3.1 ด้านความรู้
3.1.1 อธบิ ายความหมายของจ้างแรงงานได้
3.1.2 อธบิ ายสิทธิและหนา้ ทีข่ องลูกจ้างและนายจา้ งได้
3.1.3 อธบิ ายความระงับแห่งสัญญาจา้ งแรงงานได้
3.1.4 อธิบายความหมายของจา้ งทำของได้
3.1.5 อธิบายสทิ ธแิ ละหน้าทีข่ องผรู้ บั จ้างและผวู้ า่ จ้างได้
3.1.6 อธิบายความระงับแหง่ สญั ญาจ้างทำของได้
3.1.7 อธิบายอายุความเรียกรอ้ งสทิ ธิได้
3.1.8 อธิบายสญั ญาจา้ งทำของมลี กั ษณะแตกตา่ งจากสัญญาจ้างแรงงานได้
3.1.9 อธบิ ายสญั ญารับขนส่งโดยท่ัวไปได้
3.2 ด้านทักษะ
3.2.1 นำความรเู้ รอ่ื งกฎหมายเกย่ี วกับสัญญาจ้างแรงงาน จ้างทำของมาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจำวนั
3.2.2 เขียนสญั ญาเกีย่ วกับกฎหมายสัญญาจา้ งแรงงาน จ้างทำของ

แผนการจัดการเรียนรู้มุง่ เนน้ สมรรถนะ หน่วยท่ี 6
ชอ่ื หน่วย กฎหมายลกั ษณะจ้างแรงงาน-จ้างทำของ-รับขนสง่
สอนครงั้ ที่ 6
ชวั่ โมงรวม 3

จำนวนชัว่ โมง 3

3.3 คณุ ลักษณะท่ีพง่ึ ประสงค
3.3.1 มีการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้สำเร็จการศึกษา

สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ที่ครูสามารถสังเกตได้ขณะทำการสอนในเรื่อง การมีเหตุผล ยอมรับ
ความคิดเห็นของผู้อื่น ความรับผิดชอบ ประหยัด รู้จักออม มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี มีความสนใจใฝ่เรียนรู้ มีความ
ซื่อสัตย์ และมจี ิตอาสา

4. เนือ้ หาสาระการเรียนรู้
4.1 จ้างแรงงาน
4.2 สิทธิและหน้าทีข่ องลกู จา้ งและนายจ้าง
4.3 ความระงับแหง่ สญั ญาจา้ งแรงงาน
4.4 สญั ญาจ้างทำของ
4.5 สิทธิและหน้าท่ขี องผรู้ บั จา้ งและผวู้ า่ จา้ ง
4.๖ ความระงับแหง่ สัญญาจา้ งทำของ
4.7 อายุความเรียกร้องสิทธ์ิ
4.8 สญั ญาจา้ งทำของมีลักษณะแตกต่างจากสญั ญาจ้างแรงงาน
4.9 สัญญารับขนสง่

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้
5.1 การนาํ เขาสบู ทเรยี น
5.1.1 เตรยี มวสั ดอุ ุปกรณ์ หนังสอื เอกสารการสอน สมดุ แบบทดสอบกอ่ นและหลงั เรยี น
5.1.2 ช้แี จงวตั ถปุ ระสงค์ของกฎหมายลกั ษณะจ้างแรงงาน-จา้ งทำของ-รบั ขนสง่
5.1.๓ ผู้สอนนำเข้าสูบ่ ทเรียนด้วยการซกั ถาม สนทนาและชี้ให้เห็นความสำคัญเกี่ยวกับกฎหมายลักษณะ

จ้างแรงงาน-จ้างทำของ-รบั ขนสง่
5.1.๔ ให้ผ้เู รยี นทำแบบประเมินก่อนผลการเรียนรู้ เพอื่ วัดความรคู้ วามเขา้ ใจก่อนเรยี น ใน Google Form
5.1.5 ผู้สอนและผู้เรยี นตรวจสอบคะแนนแบบทดสอบก่อนเรยี น
5.2 การเรียนรู
5.2.1 ผู้สอนอธิบายเนื้อหาเกี่ยวกับจ้างแรงงาน สิทธิและหน้าที่ของลูกจ้างและนายจ้าง ความระงับแหง่

สัญญาจา้ งแรงงาน สญั ญาจา้ งทำของ สิทธแิ ละหน้าที่ของผรู้ บั จา้ งและผูว้ ่าจา้ ง ความระงบั แหง่ สญั ญาจา้ งทำของ
5.2.2 ผสู้ อนยกตัวอยา่ งและเปดิ คลบิ วดิ โี อที่เกย่ี วข้องกบั การจา้ งแรงงาน การจ้างทำของและการรับขนสง่
5.2.3 ผ้เู รียนสรปุ เนือ้ หาคลปิ วิดโี อลงสมดุ และทำแบบฝกึ หดั
5.2.4 สมุ่ เลอื กผ้เู รยี นเพื่ออภปิ รายเน้อื หาและส่งสมดุ เพอ่ื ตรวจแบบฝึกหดั

แผนการจดั การเรยี นรู้มงุ่ เน้นสมรรถนะ หนว่ ยท่ี 6
ชอ่ื หนว่ ย กฎหมายลักษณะจ้างแรงงาน-จ้างทำของ-รับขนส่ง
สอนครัง้ ที่ 6
ชวั่ โมงรวม 3

จำนวนชัว่ โมง 3

5.3 การสรปุ
5.3.1 ผสู้ อนและผู้เรยี นช่วยกันสรุปในหัวข้อที่ผูเ้ รียนนำเสนอพร้อมท้ังอธิบายเพม่ิ เติมและสรุปเน้ือหาตาม

จุดประสงคแ์ ละเนื้อหาสาระการเรียนรู้ พร้อมท้งั แนะนะหรอื บอกแหลง่ การหาขอ้ มูลจากอินเตอร์เน็ต เพ่ือผู้เรียน
จะได้ศกึ ษาคน้ คว้าเพม่ิ เตมิ ได้

5.3.2 ผสู้ อนให้ผ้เู รียนทำแบบประเมนิ หลังผลการเรยี นรู้ ใน Google Form พร้อมทง้ั ตรวจงานสมดุ
5.3.3 ผู้สอนตรวจสอบและบนั ทกึ คะแนนแบบทดสอบหลังเรียน

5.4 การวัดและประเมินผล
5.4.1 วธิ วี ดั ผล
1. ทดสอบกอ่ น-หลงั เรยี น ประจำหนว่ ยการเรียนรู้
2. ทำแบบฝกึ หัดประจำหน่วยการเรียนรู้
3. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
4 สังเกตและประเมินพฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
5.4.2 เคร่ืองมอื วดั ผล
1. แบบทดสอบก่อน-หลังเรียน ประจำหนว่ ยการเรียนรู้
2. แบบประเมินแบบฝึกหัด
3. แบบสงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล
4. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครูและผู้เรยี น
ร่วมกันประเมิน
5.4.3 เกณฑ์การประเมินผล
1. เกณฑผ์ ่านการทดสอบก่อน-หลังเรยี น ประจำหนว่ ยการเรยี นรู้ คอื 50 % ข้ึนไป
2. เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ แบบฝกึ หัด คอื 50 % ข้นึ ไป
3. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ต้องไมม่ ีชอ่ งปรบั ปรุง
4. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ คะแนนข้นึ อยู่

กบั การประเมินตามสภาพจรงิ

6. สือ่ การเรยี นร/ู้ แหลง่ การเรียนรู้
6.1 สอ่ื ส่ิงพิมพ
6.1.1 หนังสอื เรยี น วชิ า กฎหมายธุรกจิ
6.1.2 แบบทดสอบก่อน-หลังเรียน ประจำหนว่ ยการเรียนรู้ (Google Form)
6.1.3 แบบฝึกหัดประจำหนว่ ยการเรยี นรู้

แผนการจัดการเรยี นร้มู ุง่ เน้นสมรรถนะ หนว่ ยที่ 6
ชื่อหนว่ ย กฎหมายลกั ษณะจ้างแรงงาน-จ้างทำของ-รับขนสง่
สอนคร้ังที่ 6
ช่วั โมงรวม 3

จำนวนชัว่ โมง 3

6.2 ส่ือโสตทศั น (ถามี)
6.๒.1 วีดีโอ

6.๒.2 สื่ออิเลก็ ทรอนิกส,์ PowerPoint
6.3 หุนจาํ ลองหรือของจรงิ (ถามี)

-
6.4 อนื่ ๆ (ถาม)ี

-

7. เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู (ใบความรู ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ )

แบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วยท่ี ๖
เร่อื ง กฎหมายลักษณะจา้ งแรงงาน-จ้างทำของ-รับขนส่ง

คำสงั่ ใหน้ ักเรียนเลอื กคำตอบท่ถี ูกตอ้ งเพียงคำตอบเดียว

1. ข้อใดคือสญั ญาจ้างแรงงาน

ก. สญั ญาต่างตอบแทน ข. สญั ญาท่ีใช้แรงงานหรอื สมอง

ค. สญั ญาวา่ จะจา่ ยสินจ้าง ง. สนิ จ้างเป็นเงนิ หรือทรัพยส์ นิ กไ้ ด้

จ. ทุกข้อท่กี ลา่ วมา

2. ขอ้ ใดคือหน้าท่ีของลกู จา้ ง ข. ทำตามคำสงั่ ของนายจา้ ง
ก. ทำงานดว้ ยตนเอง ง. ไมต่ อ้ งเชือ่ คำสั่งนายจ้าง
ค. มาทำงาน ตามใจตนเองได้

จ. ขอ้ ก. และ ข. ถกู

3. สนิ จ้างหรอื ค่าจ้างที่ใหแ้ กล่ กู จ้างคืออะไร ข. ทรัพย์สนิ
ก. เงนิ ตรา ง. ขา้ วสาร หากตกลงกนั ไว้
ค. ส่งิ ของอยา่ งอ่นื
จ. ทุกขอ้ ท่กี ล่าวมา

4. นายจา้ งและลกู จา้ งตอ้ งตอบแทนกนั และกันคือข้อใด

ก. งานท่ตี ้องทำ ข. สินจ้าง

ค. ค่าจา้ ง ง. แรงกาย แรงใจ

จ. ทุกขอ้ ทก่ี ลา่ วมา

แผนการจัดการเรียนรมู้ ่งุ เนน้ สมรรถนะ หน่วยที่ 6
ช่ือหนว่ ย กฎหมายลักษณะจา้ งแรงงาน-จ้างทำของ-รบั ขนสง่
สอนคร้งั ท่ี 6
ชวั่ โมงรวม 3

จำนวนชว่ั โมง 3

5. การจา้ งแรงงานตอ้ งทำอย่างไรจงึ จะเป็นสัญญา ข. ตกลงด้วยวาจากไ็ ด้
ก. ต้องทำเป็นหนงั สือ ง. ถูก ท้งั ขอ้ ก – ค

ค. ตอ้ งทำบนั ทึกเทป
จ. ผิดทุกขอ้

6. สญั ญาจา้ งทำของมลี กั ษณะตามข้อใด ข. เปน็ สัญญาจา้ งแรงงาน
ก. เป็นสัญญาซื้อขาย ง. เปน็ สัญญาเช่าซ้ือทรพั ย์สิน
ค. เปน็ สัญญาตา่ งตอบแทน

จ. ต้องทำเปน็ ลายลัก อกั ษรเทา่ นนั้

7. นายแดงจ้างนายเสียงดีมาร้องเพลงในงานวันเกิดด้วยวาจาไม่ได้ทำสัญญา พอถึงวันงานนายเสียงดี
ไมม่ ารอ้ งเพลงตามท่ตี กลงโดยอ้างวา่ ไม่ไดท้ ำสัญญาเป็นหนงั สอื สญั ญาดังกลา่ วมีผลหรือไม่
ก. ไม่มีผล เพราะไมม่ ีพยานร้เู หน็
ข. ไม่มีผล เพราะไม่ไดท้ ำสัญญาเปน็ หนังสอื
ค. มผี ล เป็นสัญญาจา้ งทำของเพราะกฎหมายไมไ่ ด้กำหนดแบบของการทำสญั ญาไว้
ง. ไม่มีผล เพราะไม่ไดจ้ ดทะเบยี น
จ. มีผล เพราะเจาะจงใหน้ ายเสียงดีมาเท่าน้ัน

8. นางกอ้ ยเปน็ ชา่ งรบั ตัดผา้ ข้อใด ไมใ่ ช่ หนา้ ที่ของนางก้อยในการรบั จา้ ง

ก. จดั หาสมั ภาระผา้ ที่จะนำมาตัด ข. จัดหาเครอ่ื งมือในการตัดเย็บเอง

ค. ตัดเย็บใหเ้ สร็จภายในเวลาท่ีตกลง ง. ยอมใหน้ ายจ้างตรวจดงู านในระหว่างทำได้

จ. ตอ้ งงานเสรจ็ ค่าจ้างถึงได้

9. การจ้างในขอ้ ใดเป็นลักษณะสญั ญาจ้างทำของ ข. จา้ งมาทำงานในโรงงาน
ง. จ้างแม่บ้านทำความสะอาด
ก. จา้ งมาสรา้ งโรงจอดรถ
ค. จา้ งมาเป็นพนกั งานขับรถ
จ. จา้ งมาเป็นพนกั งานบญั ชี

10. ข้อใดไม่เป็นความระงับแหง่ สญั ญาจ้างทำของ ข. คู่สัญญาตกลงเลกิ สญั ญากัน
ก. สง่ มอบงานท่ที ำตามกำหนด ง. นายจ้างขอตรวจดูงานทีจ่ า้ งทำโดยไม่ไดต้ กลงกนั ไว้

ค. การส่งมอบงานที่จ้างตกเปน็ พน้ วสิ ัย
จ. เมือ่ งานสำเร็จ

แผนการจัดการเรียนรมู้ งุ่ เน้นสมรรถนะ หนว่ ยท่ี 6
ชอื่ หนว่ ย กฎหมายลักษณะจ้างแรงงาน-จ้างทำของ-รบั ขนส่ง
สอนครัง้ ท่ี 6
ชั่วโมงรวม 3

จำนวนชั่วโมง 3

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยท่ี ๖
เรอ่ื ง กฎหมายลกั ษณะจา้ งแรงงาน-จา้ งทำของ-รับขนส่ง

คำสั่ง ใหน้ ักเรียนเลอื กคำตอบทีถ่ ูกต้องเพยี งคำตอบเดียว

1. ข้อใดคอื สญั ญาจา้ งแรงงาน

ก. สญั ญาต่างตอบแทน ข. สัญญาท่ใี ชแ้ รงงานหรอื สมอง

ค. สญั ญาวา่ จะจา่ ยสินจา้ ง ง. สินจ้างเป็นเงิน หรือทรพั ย์สินก้ได้

จ. ทกุ ขอ้ ทกี่ ล่าวมา

2. ขอ้ ใดคอื หน้าทีข่ องลกู จา้ ง ข. ทำตามคำส่ังของนายจ้าง
ก. ทำงานด้วยตนเอง ง. ไมต่ ้องเช่อื คำสงั่ นายจา้ ง

ค. มาทำงาน ตามใจตนเองได้
จ. ข้อ ก. และ ข. ถกู

3. สนิ จา้ งหรอื ค่าจ้างที่ให้แก่ลกู จ้างคอื อะไร ข. ทรพั ย์สิน
ก. เงนิ ตรา ง. ข้าวสาร หากตกลงกันไว้

ค. สง่ิ ของอยา่ งอ่ืน
จ. ทกุ ข้อทกี่ ล่าวมา

4. นายจ้างและลูกจ้างต้องตอบแทนกันและกนั คอื ขอ้ ใด

ก. งานท่ีต้องทำ ข. สินจา้ ง

ค. คา่ จา้ ง ง. แรงกาย แรงใจ

จ. ทกุ ข้อที่กลา่ วมา

5. การจา้ งแรงงานต้องทำอยา่ งไรจึงจะเป็นสญั ญา ข. ตกลงด้วยวาจาก็ได้
ก. ตอ้ งทำเป็นหนังสอื ง. ถูก ท้ังขอ้ ก – ค
ค. ต้องทำบันทกึ เทป
จ. ผิดทกุ ขอ้

6. สัญญาจ้างทำของมีลกั ษณะตามข้อใด ข. เป็นสญั ญาจา้ งแรงงาน
ง. เป็นสัญญาเช่าซือ้ ทรพั ย์สนิ
ก. เป็นสญั ญาซ้อื ขาย
ค. เปน็ สญั ญาตา่ งตอบแทน
จ. ต้องทำเปน็ ลายลัก อักษรเทา่ นัน้

แผนการจัดการเรียนร้มู ุ่งเน้นสมรรถนะ หนว่ ยท่ี 6
ชือ่ หนว่ ย กฎหมายลักษณะจ้างแรงงาน-จ้างทำของ-รบั ขนสง่
สอนคร้งั ที่ 6
ช่วั โมงรวม 3

จำนวนชั่วโมง 3

7. นายแดงจ้างนายเสียงดีมาร้องเพลงในงานวันเกิดด้วยวาจาไม่ได้ทำสัญญา พอถึงวันงานนายเสียงดี
ไม่มาร้องเพลงตามทีต่ กลงโดยอา้ งว่าไม่ได้ทำสญั ญาเปน็ หนงั สอื สญั ญาดังกลา่ วมผี ลหรือไม่
ก. ไมม่ ีผล เพราะไมม่ พี ยานรูเ้ ห็น
ข. ไมม่ ีผล เพราะไม่ได้ทำสญั ญาเปน็ หนงั สอื
ค. มผี ล เป็นสญั ญาจา้ งทำของเพราะกฎหมายไมไ่ ดก้ ำหนดแบบของการทำสญั ญาไว้
ง. ไม่มผี ล เพราะไม่ได้จดทะเบียน
จ. มผี ล เพราะเจาะจงให้นายเสยี งดมี าเทา่ น้นั

8. นางก้อยเป็นชา่ งรบั ตดั ผ้า ขอ้ ใด ไม่ใช่ หนา้ ที่ของนางก้อยในการรับจ้าง

ก. จดั หาสัมภาระผา้ ที่จะนำมาตดั ข. จัดหาเครอื่ งมือในการตัดเยบ็ เอง

ค. ตดั เยบ็ ใหเ้ สรจ็ ภายในเวลาท่ีตกลง ง. ยอมใหน้ ายจ้างตรวจดูงานในระหวา่ งทำได้

จ. ต้องงานเสร็จ คา่ จ้างถงึ ได้

9. การจ้างในขอ้ ใดเป็นลกั ษณะสญั ญาจา้ งทำของ ข. จา้ งมาทำงานในโรงงาน
ก. จา้ งมาสร้างโรงจอดรถ ง. จา้ งแม่บ้านทำความสะอาด

ค. จ้างมาเปน็ พนักงานขับรถ
จ. จ้างมาเปน็ พนักงานบัญชี

10. ข้อใดไมเ่ ป็นความระงบั แห่งสญั ญาจ้างทำของ ข. ค่สู ัญญาตกลงเลกิ สัญญากนั
ก. สง่ มอบงานทท่ี ำตามกำหนด ง. นายจา้ งขอตรวจดงู านทจ่ี า้ งทำโดยไมไ่ ด้ตกลงกันไว้
ค. การส่งมอบงานทจี่ ้างตกเปน็ พ้นวสิ ัย

จ. เมอื่ งานสำเร็จ

แผนการจัดการเรียนรูม้ งุ่ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่ 6
ช่ือหน่วย กฎหมายลกั ษณะจา้ งแรงงาน-จ้างทำของ-รบั ขนส่ง
สอนคร้งั ท่ี 6
ช่ัวโมงรวม 3

จำนวนชัว่ โมง 3

แบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยที่ ๖
เร่อื ง กฎหมายลักษณะจา้ งแรงงาน-จ้างทำของ-รับขนสง่

คำสั่ง ใหน้ กั เรยี นเลือกคำตอบที่ถูกตอ้ งเพยี งคำตอบเดียว

1. ข้อใดคือสญั ญาจา้ งแรงงาน

ก. สญั ญาตา่ งตอบแทน ข. สัญญาทใี่ ช้แรงงานหรอื สมอง

ค. สญั ญาวา่ จะจา่ ยสนิ จา้ ง ง. สินจา้ งเปน็ เงิน หรอื ทรพั ยส์ ินกไ้ ด้

จ. ทกุ ข้อที่กลา่ วมา

2. ขอ้ ใดคอื หนา้ ที่ของลกู จ้าง ข. ทำตามคำสั่งของนายจา้ ง
ก. ทำงานดว้ ยตนเอง ง. ไม่ต้องเชื่อคำสง่ั นายจ้าง

ค. มาทำงาน ตามใจตนเองได้
จ. ขอ้ ก. และ ข. ถูก

3. สินจ้างหรือค่าจ้างท่ีให้แก่ลกู จ้างคืออะไร ข. ทรพั ยส์ ิน
ก. เงนิ ตรา ง. ขา้ วสาร หากตกลงกันไว้

ค. ส่งิ ของอย่างอ่ืน
จ. ทุกขอ้ ท่ีกล่าวมา

4. นายจา้ งและลกู จา้ งตอ้ งตอบแทนกันและกันคอื ข้อใด

ก. งานที่ตอ้ งทำ ข. สนิ จ้าง

ค. คา่ จา้ ง ง. แรงกาย แรงใจ

จ. ทกุ ขอ้ ท่ีกล่าวมา

5. การจา้ งแรงงานต้องทำอยา่ งไรจงึ จะเปน็ สญั ญา ข. ตกลงด้วยวาจาก็ได้
ก. ต้องทำเป็นหนงั สือ ง. ถกู ทั้งข้อ ก – ค
ค. ตอ้ งทำบันทึกเทป
จ. ผิดทกุ ข้อ

6. สัญญาจา้ งทำของมีลกั ษณะตามข้อใด ข. เปน็ สัญญาจ้างแรงงาน
ง. เป็นสัญญาเชา่ ซื้อทรพั ย์สิน
ก. เปน็ สญั ญาซ้ือขาย
ค. เป็นสญั ญาต่างตอบแทน
จ. ต้องทำเป็นลายลกั อกั ษรเทา่ น้ัน

แผนการจดั การเรยี นรมู้ งุ่ เนน้ สมรรถนะ หน่วยที่ 6
ชือ่ หนว่ ย กฎหมายลกั ษณะจ้างแรงงาน-จ้างทำของ-รบั ขนสง่
สอนคร้งั ท่ี 6
ช่ัวโมงรวม 3

จำนวนช่วั โมง 3

7. นายแดงจ้างนายเสียงดีมาร้องเพลงในงานวันเกิดด้วยวาจาไม่ได้ทำสัญญา พอถึงวันงานนายเสียงดี
ไม่มาร้องเพลงตามทีต่ กลงโดยอา้ งว่าไมไ่ ดท้ ำสัญญาเป็นหนงั สือ สัญญาดงั กลา่ วมผี ลหรือไม่
ก. ไมม่ ีผล เพราะไม่มพี ยานร้เู ห็น
ข. ไมม่ ีผล เพราะไม่ได้ทำสญั ญาเป็นหนงั สือ
ค. มผี ล เป็นสญั ญาจ้างทำของเพราะกฎหมายไม่ได้กำหนดแบบของการทำสัญญาไว้
ง. ไม่มผี ล เพราะไม่ได้จดทะเบียน
จ. มผี ล เพราะเจาะจงใหน้ ายเสยี งดมี าเท่านนั้

8. นางก้อยเป็นชา่ งรบั ตดั ผา้ ข้อใด ไม่ใช่ หนา้ ท่ีของนางกอ้ ยในการรบั จ้าง

ก. จัดหาสัมภาระผา้ ที่จะนำมาตดั ข. จดั หาเครอื่ งมอื ในการตัดเยบ็ เอง

ค. ตดั เยบ็ ใหเ้ สรจ็ ภายในเวลาท่ีตกลง ง. ยอมใหน้ ายจา้ งตรวจดงู านในระหวา่ งทำได้

จ. ต้องงานเสร็จ คา่ จ้างถงึ ได้

9. การจ้างในขอ้ ใดเป็นลกั ษณะสัญญาจ้างทำของ ข. จ้างมาทำงานในโรงงาน
ก. จา้ งมาสร้างโรงจอดรถ ง. จ้างแมบ่ ้านทำความสะอาด

ค. จ้างมาเปน็ พนักงานขบั รถ
จ. จ้างมาเปน็ พนักงานบญั ชี

10. ข้อใดไมเ่ ป็นความระงบั แห่งสัญญาจ้างทำของ ข. คู่สัญญาตกลงเลกิ สัญญากัน
ก. สง่ มอบงานทท่ี ำตามกำหนด ง. นายจา้ งขอตรวจดูงานท่ีจ้างทำโดยไมไ่ ด้ตกลงกนั ไว้
ค. การส่งมอบงานท่ีจ้างตกเป็นพน้ วสิ ยั

จ. เมอื่ งานสำเร็จ

แผนการจดั การเรยี นรูม้ งุ่ เน้นสมรรถนะ หนว่ ยท่ี 6
ชอื่ หนว่ ย กฎหมายลักษณะจา้ งแรงงาน-จ้างทำของ-รบั ขนส่ง
สอนครัง้ ท่ี 6
ชั่วโมงรวม 3

จำนวนชั่วโมง 3

เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยท่ี ๖
เรอ่ื ง กฎหมายลกั ษณะจา้ งแรงงาน-จา้ งทำของ-รับขนส่ง

คำสั่ง ใหน้ กั เรียนเลอื กคำตอบทีถ่ ูกต้องเพียงคำตอบเดียว

1. ข้อใดคอื สัญญาจา้ งแรงงาน

ก. สัญญาต่างตอบแทน ข. สัญญาที่ใชแ้ รงงานหรอื สมอง

ค. สญั ญาว่าจะจา่ ยสินจา้ ง ง. สนิ จ้างเปน็ เงิน หรือทรพั ย์สินก้ได้

จ. ทกุ ขอ้ ทีก่ ล่าวมา

2. ขอ้ ใดคือหน้าท่ขี องลกู จ้าง ข. ทำตามคำส่งั ของนายจ้าง
ง. ไมต่ อ้ งเชือ่ คำสงั่ นายจา้ ง
ก. ทำงานด้วยตนเอง
ค. มาทำงาน ตามใจตนเองได้
จ. ขอ้ ก. และ ข. ถกู

3. สนิ จา้ งหรือคา่ จ้างที่ใหแ้ ก่ลกู จ้างคอื อะไร ข. ทรพั ยส์ นิ
ก. เงินตรา ง. ข้าวสาร หากตกลงกันไว้

ค. สิ่งของอยา่ งอ่ืน
จ. ทกุ ข้อทีก่ ล่าวมา

4. นายจา้ งและลกู จ้างต้องตอบแทนกันและกันคอื ขอ้ ใด

ก. งานที่ต้องทำ ข. สินจ้าง

ค. คา่ จ้าง ง. แรงกาย แรงใจ

จ. ทุกข้อท่ีกลา่ วมา

5. การจ้างแรงงานต้องทำอยา่ งไรจึงจะเป็นสัญญา ข. ตกลงด้วยวาจาก็ได้
ก. ตอ้ งทำเป็นหนังสอื ง. ถกู ทัง้ ขอ้ ก – ค
ค. ต้องทำบนั ทกึ เทป

จ. ผิดทกุ ขอ้

6. สัญญาจ้างทำของมีลกั ษณะตามข้อใด ข. เปน็ สัญญาจา้ งแรงงาน
ก. เปน็ สญั ญาซ้อื ขาย ง. เป็นสัญญาเช่าซือ้ ทรพั ย์สิน
ค. เปน็ สัญญาตา่ งตอบแทน
จ. ตอ้ งทำเปน็ ลายลัก อักษรเท่านัน้

แผนการจดั การเรยี นรมู้ งุ่ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่ 6
ชือ่ หนว่ ย กฎหมายลักษณะจ้างแรงงาน-จ้างทำของ-รับขนสง่
สอนคร้งั ที่ 6
ชัว่ โมงรวม 3

จำนวนชว่ั โมง 3

7. นายแดงจ้างนายเสียงดีมาร้องเพลงในงานวันเกิดด้วยวาจาไม่ได้ทำสัญญา พอถึงวันงานนายเสียงดี
ไม่มาร้องเพลงตามทีต่ กลงโดยอา้ งว่าไม่ได้ทำสัญญาเป็นหนงั สือ สัญญาดังกล่าวมผี ลหรอื ไม่
ก. ไมม่ ผี ล เพราะไมม่ พี ยานรูเ้ ห็น
ข. ไมม่ ีผล เพราะไม่ได้ทำสญั ญาเปน็ หนงั สือ
ค. มผี ล เปน็ สญั ญาจา้ งทำของเพราะกฎหมายไม่ได้กำหนดแบบของการทำสัญญาไว้
ง. ไม่มีผล เพราะไม่ได้จดทะเบียน
จ. มผี ล เพราะเจาะจงให้นายเสยี งดมี าเท่านนั้

8. นางก้อยเปน็ ช่างรบั ตดั ผ้า ขอ้ ใด ไม่ใช่ หนา้ ท่ีของนางกอ้ ยในการรบั จ้าง

ก. จัดหาสมั ภาระผา้ ที่จะนำมาตดั ข. จดั หาเครอื่ งมอื ในการตัดเยบ็ เอง

ค. ตดั เยบ็ ใหเ้ สร็จภายในเวลาท่ีตกลง ง. ยอมใหน้ ายจา้ งตรวจดูงานในระหวา่ งทำได้

จ. ต้องงานเสร็จ คา่ จ้างถงึ ได้

9. การจ้างในข้อใดเป็นลกั ษณะสญั ญาจา้ งทำของ ข. จ้างมาทำงานในโรงงาน
ก. จา้ งมาสร้างโรงจอดรถ ง. จ้างแม่บ้านทำความสะอาด
ค. จ้างมาเปน็ พนักงานขับรถ

จ. จ้างมาเปน็ พนักงานบัญชี

10. ข้อใดไมเ่ ปน็ ความระงบั แห่งสญั ญาจา้ งทำของ ข. คู่สัญญาตกลงเลกิ สัญญากนั
ก. สง่ มอบงานทท่ี ำตามกำหนด ง. นายจา้ งขอตรวจดูงานท่ีจ้างทำโดยไม่ได้ตกลงกนั ไว้
ค. การส่งมอบงานทจี่ ้างตกเปน็ พ้นวิสัย
จ. เมอื่ งานสำเร็จ

แผนการจัดการเรียนร้มู ุ่งเนน้ สมรรถนะ หน่วยที่ 6
ชือ่ หน่วย กฎหมายลกั ษณะจา้ งแรงงาน-จ้างทำของ-รบั ขนสง่
สอนคร้งั ท่ี 6
ชวั่ โมงรวม 3

จำนวนช่วั โมง 3

แบบฝกึ หัด
เรื่อง กฎหมายลักษณะจ้างแรงงาน-จา้ งทำของ-รบั ขนส่ง

คำช้ีแจง ใหน้ กั เรียนตอบคำถามตอ่ ไปนีใ้ ห้ถูกต้องสมบรู ณ์

1. วตั ถุประสงคห์ ลักของกฎหมายจ้างแรงงาน คืออะไร
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................

2. นายเอกตกลงจ้างนายโท ทำงานเป็นคน ขบั รถ ใหเ้ งนิ เดือน 15000 บาท เมือ่ นายเอกตาย สญั ญาจ้างแรงงาน
มีผลอย่างไร

...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................

3. สาเหตใุ ดทนี่ ายจา้ ง สามารถยกเลกิ สัญญาจา้ งลูกจ้างไดท้ ันท(ี ไลอ่ อก)
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................

4. รา้ นม่ังมี จาํ กัด ประกาศรบั สมัครพนกั งานฝา่ ยบุคคลโดยใหผ้ ู้สมัครกรอกใบสมัครงานให้วนิ จิ ฉยั ว่าใบสมัครงาน
เป็นสญั ญาจ้างแรงงานหรือไม่

...................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................

5. สาระสำคญั ของสญั ญาจ้างทำของมีอะไรบา้ ง
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................

แผนการจดั การเรียนรมู้ ุง่ เนน้ สมรรถนะ หน่วยท่ี 6
ชอ่ื หน่วย กฎหมายลกั ษณะจา้ งแรงงาน-จ้างทำของ-รับขนส่ง
สอนคร้ังท่ี 6
ชัว่ โมงรวม 3

จำนวนชัว่ โมง 3

6. หนา้ ทข่ี องผรู้ บั จา้ งทำของมอี ะไรบา้ ง
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
7. สทิ ธขิ องผวู้ ่าจา้ งมีอย่างไร
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................

8. สญั ญาจา้ งทำของสิ้นสุดเมอื่ ไร
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................

9. อธบิ ายความหมายของผสู้ ่ง ผู้ขนส่ง มาพอสงั เขป
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................

10. บอกหนา้ ที่ของผสู้ ่ง มาพอสงั เขป
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................

แผนการจดั การเรยี นรู้มงุ่ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่ 6
ช่ือหน่วย กฎหมายลกั ษณะจา้ งแรงงาน-จ้างทำของ-รบั ขนส่ง
สอนคร้งั ที่ 6
ช่วั โมงรวม 3

จำนวนชัว่ โมง 3

เฉลยแบบฝึกหัด
เรอ่ื ง กฎหมายลักษณะจ้างแรงงาน-จ้างทำของ-รับขนสง่

คำชแี้ จง ใหน้ กั เรียนตอบคำถามตอ่ ไปนีใ้ ห้ถูกต้องสมบูรณ์

1. วัตถุประสงคห์ ลักของกฎหมายจ้างแรงงาน คืออะไร

ตอบ มุ่งอยู่ที่ตัวของลูกจ้าง จะต้องเป็นผู้มาทำงานให้นายจ้างตามสัญญา และรับสินจ้างเมื่อทำงานตาม
ระยะเวลาทีต่ กลงกนั

2. นายเอกตกลงจ้างนายโท ทำงานเป็นคน ขบั รถ ใหเ้ งินเดอื น 15000 บาท เมื่อนายเอกตาย สญั ญาจ้างแรงงาน
มผี ลอย่างไร

ตอบ สัญญาจ้างแรงงาน ระงบั ทนั ที เพราะนายจ้างตาย

3. สาเหตุใดที่นายจ้าง สามารถยกเลิกสญั ญาจา้ งลกู จ้างไดท้ ันที(ไล่ออก)

ตอบ -ทจุ ริตตอ่ หน้าที่หรือกระทำความผดิ อาญาโดยเจตนาแกน่ ายจ้าง,-จงใจทำใหน้ ายจ้างไดร้ บั ความเสียหาย
-ประมาทเลินเล่อเป็นเหตใุ หน้ ายจา้ งไดร้ บั ความเสยี หายอย่างรา้ ยแรง-ละทิ้งงานสามวันตดิ ต่อกัน

4. รา้ นมั่งมี จาํ กัด ประกาศรบั สมัครพนักงานฝ่ายบคุ คลโดยให้ผู้สมัครกรอกใบสมัครงานให้วินจิ ฉัยว่าใบสมัครงาน
เปน็ สญั ญาจา้ งแรงงานหรอื ไม่

ตอบ การกรอกใบสมัครงานเป็นเพียงการแสดงเจตนาเพียงฝ่ายเดียว ยังไม่มีการแสดงเจตนาตอบรับของฝ่าย

นายจา้ ง สญั ญาจา้ งแรงงานจงึ ยังไมเ่ กดิ ข้ึน

5. สาระสำคญั ของสัญญาจ้างทำของมอี ะไรบ้าง
ตอบ - เปน็ สญั ญาต่างตอบแทน ผรู้ ับจ้างตอ้ งทำงานจนสำเรจ็ ,-ความสำเรจ็ ของงานทผ่ี รู้ บั จา้ งทำให้แก่ผู้วา่ จ้าง
-ผูว้ า่ จ้างตกลงท่ีจะใหส้ นิ จ้าง เมอื่ ลกู จ้างทำงานสำเรจ็

6. หน้าทข่ี องผูร้ ับจ้างทำของมีอะไรบ้าง
ตอบ 1) ต้องทำงานให้นายจ้าง ผู้รับจ้างจะทำเองหรือให้คนอื่นทำก็ได้ แต่ธาตุสาระสำคัญของสัญญาอยู่ที่

ความสามารถเฉพาะของผรู้ ับจ้าง ผ้รู ับจา้ งต้องทำด้วยตวั เอง
2) ต้องเปน็ ฝา่ ยจดั หาเคร่ืองมอื สำหรับใชใ้ นการทำงานให้สำเรจ็
3) ยอมให้ผูว้ ่าจา้ งหรือตัวแทนตรวจอาการทำงานได้ตลอดเวลาที่ทําอยนู่ ้ัน

4) ทำงานให้เสร็จภายในกำหนด

แผนการจัดการเรยี นรมู้ งุ่ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่ 6
ชอ่ื หนว่ ย กฎหมายลกั ษณะจ้างแรงงาน-จ้างทำของ-รับขนส่ง
สอนครั้งที่ 6
ชัว่ โมงรวม 3

จำนวนชว่ั โมง 3

7. สทิ ธขิ องผูว้ า่ จ้างมีอย่างไร
ตอบ 1. ผู้ว่าจ้างชอบทีจ่ ะเลิกสัญญาเสียได้ ไมต่ ้องรอคอยใหถ้ งึ เวลากำหนดสง่ มอบ หากผู้ว่าจ้างไมเ่ ริม่ งานชา้
เกนิ ไป

2. ผวู้ า่ จา้ งชอบที่จะลดสินจา้ ง หากผูร้ บั จ้างสง่ งานไม่ทันเวลา
8. สัญญาจ้างทำของส้นิ สุดเม่อื ไร
ตอบ 1. เมอื่ ชำระหนค้ี รบถว้ น และผู้รับจ้างสง่ มอบงานใหแ้ กผ่ วู้ ่าจ้าง แลว้ ผู้วา่ จา้ งไม่จา่ ยสนิ จ้างให้กับลูกจา้ งแลว้

2. การชำระหน้ีพน้ วสิ ัยกรณีท่งี านนน้ั เสยี หายลงก่อนสง่ มอบโดยไมใ่ ช่ความผิดของฝา่ ยใดหรือการชำระหน้ี
ทีไ่ ม่สามารถเปน็ ไปได้

3. ถ้าสาระสำคัญแหง่ สญั ญาอยทู่ ค่ี วามรู้ความสามารถของผูร้ บั จา้ ง ผูร้ บั จา้ งตายหรอื ตกเป็นผู้ไมส่ ามารถ
ทำการท่ีรบั จ้างนั้นต่อไปไดโ้ ดยมใิ ชค่ วามผดิ ของผู้รับจ้าง จ้างทำของระงบั

4. ถ้าฝา่ ยใดฝ่ายหนึ่งเลกิ สญั ญา

9. อธิบายความหมายของผู้ส่ง ผู้ขนส่ง มาพอสงั เขป
ตอบ ผู้ส่ง คอื บุคคลผู้ท่ที ำความตกลงกับผู้ขนส่งเพื่อให้ขนของไปให้......

ผู้ขนส่ง คอื บุคคลผู้ตกลงรบั ขนสง่ ของให้แก่ผู้สง่ หรือผู้ตราส่งเพือ่ บำเหนจ็ ทาง การคา้ ตามปกตขิ องตนเอง

10. บอกหน้าทขี่ องผสู้ ่ง มาพอสังเขป
ตอบ 1. ตอ้ งชำระค่าระวางพาหนะและอปุ กรณ์ ตลอดจนค่าธรรมเนยี นหรอื ค่าประกันอบุ ตั เิ หตุต่างๆหากผขู้ นสง่
มกี ารเรยี กเก็บ

2. ทำใบกำกับของ
3. ตอ้ งแสดงสภาพแหง่ ของทีอ่ าจก่อให้เกิดอนั ตราย หรืออาจกอ่ ให้เกดิ ความเสียหายได้

แผนการจดั การเรยี นรมู้ ุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยท่ี 6
ชอ่ื หน่วย กฎหมายลักษณะจา้ งแรงงาน-จ้างทำของ-รบั ขนส่ง
สอนครงั้ ที่ 6
ชัว่ โมงรวม 3

จำนวนชวั่ โมง 3

8. การบรู ณาการ/ความสมั พันธกบั วชิ าอนื่
8.1 กฎหมายพาณิชย์

9. การวัดและประเมนิ ผล
9.1 กอนเรยี น

9.1.1 ทดสอบก่อนเรยี นประจำหน่วยการเรยี นรู้
9.1.2 ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี นประจำหนว่ ยการเรยี นรู้
9.2 ขณะเรยี น

9.2.1 ทำแบบฝกึ หดั
9.2.2 สงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล

9.2.3 สังเกตและประเมนิ พฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
9.3 หลงั เรยี น

9.๓.1 ตรวจแบบฝึกหัดประจำหนว่ ยการเรยี นรู้

9.๓.2 ทดสอบหลงั เรียนประจำหนว่ ยการเรยี นรู้
9.๓.๓ ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี นประจำหน่วยการเรยี นรู้

10. บนั ทึกหลังสอน
10.1 ผลการใชแผนการจดั การเรยี นรู

.......................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................

10.2 ผลการเรียนรขู องนกั เรียน นกั ศึกษา
.......................................................................................................................................................................

....................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................

10.3 แนวทางการพัฒนาคณุ ภาพการเรยี นรู้
.......................................................................................................................................................................

....................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................

แผนการจัดการเรียนร้มู ุ่งเนน้ สมรรถนะ หนว่ ยท่ี 7
ชอ่ื หน่วย กฎหมายลกั ษณะยมื และฝากทรัพย์
สอนครงั้ ท่ี 9
ชัว่ โมงรวม 3

จำนวนช่วั โมง 3

๑. สาระสำคญั
สญั ญายมื หมายถึง สัญญาที่บุคคลฝ่ายหนงึ่ เรียกว่า ผู้ใหย้ ืมยนิ ยอมใหบ้ คุ คลอกี ฝา่ ยหน่งึ เรียกวา่ ผู้ยืม ได้

ใช้ประโยชน์จากทรพั ย์สนิ ของตนได้เปล่าโดยการส่งมอบทรัพย์สินน้ันใหแ้ ก่ผูย้ ืม และผยู้ ืมต้อง คนื ให้เมื่อใช้สอยเสร็จ
แลว้

สัญญาฝากทรัพย์ หมายถึง สญั ญาซ่ึงบุคคลคนหน่ึงเรยี กว่า ผู้ฝาก สง่ มอบทรัพยส์ ินให้แก่บุคคล อีกคนหนึ่ง
เรยี กวา่ ผู้รับฝาก และผรู้ ับฝากตกลงว่าจะเกบ็ รักษาทรพั ยส์ ินนั้นไวใ้ นอารักขาแหง่ ตน แล้วจะคนื ให้

๒. สมรรถนะประจำหนว่ ย
2.1 แสดงความรทู้ างกฎหมายเกย่ี วกบั สญั ญายมื
2.2 แสดงความรทู้ างกฎหมายเก่ียวกบั สัญญาฝากทรพั ย์

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
3.1 ด้านความรู้
3.1.1 อธบิ ายความหมายสัญญายืมได้
3.1.2 อธบิ ายประเภทของสญั ญายืมได้
3.1.3 อธิบายการกู้ยมื เงนิ ได้
3.1.4 อธิบายความหมายสัญญาฝากทรัพย์ได้
3.1.5 อธบิ ายสิทธแิ ละหนา้ ทีข่ องผูร้ ับฝากได้
3.1.6 อธบิ ายวธิ เี ฉพาะการเงนิ ได้
3.2 ด้านทักษะ
3.2.1 นำความรู้เรอ่ื งกฎหมายเกี่ยวกบั ยมื และฝากทรพั ยข์ องมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
3.2.2 เขียนสญั ญาเกีย่ วกบั กฎหมายสัญญายมื และฝากทรัพย์
3.3 คุณลักษณะทพี่ ่งึ ประสงค
3.3.1 มกี ารพัฒนาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ของผู้สำเร็จการศึกษา

สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ที่ครูสามารถสังเกตได้ขณะทำการสอนในเรื่อง การมีเหตุผล ยอมรับ
ความคิดเห็นของผู้อื่น ความรับผิดชอบ ประหยัด รู้จักออม มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี มีความสนใจใฝ่เรียนรู้ มีความ
ซือ่ สัตย์ และมจี ิตอาสา

แผนการจดั การเรียนรู้มงุ่ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยท่ี 7
ชื่อหนว่ ย กฎหมายลกั ษณะยมื และฝากทรัพย์
สอนคร้ังท่ี 9
ช่ัวโมงรวม 3

จำนวนช่ัวโมง 3

4. เน้อื หาสาระการเรียนรู้
4.1 สัญญายืม

4.2 ประเภทของสญั ญายืม
4.3 การกยู้ มื เงนิ
4.4 สัญญาฝากทรัพย์

4.5 สิทธแิ ละหน้าทขี่ องของผรู้ บั ฝาก
4.๖ วธิ เี ฉพาะการฝากเงนิ

5. กิจกรรมการเรยี นรู้
5.1 การนาํ เขาสบู ทเรยี น

5.1.1 เตรียมวสั ดุอุปกรณ์ หนงั สอื เอกสารการสอน สมุด แบบทดสอบก่อนและหลังเรียน
5.1.2 ชแ้ี จงวัตถปุ ระสงค์เกย่ี วกับกฎหมายลกั ษณะยืมและฝากทรัพย์
5.1.๓ ผู้สอนนำเข้าสู่บทเรียนด้วยการซกั ถาม สนทนาและชี้ให้เห็นความสำคัญเกีย่ วกับกฎหมายลักษณะ

ยมื และฝากทรัพย์
5.1.๔ ให้ผู้เรียนทำแบบประเมนิ ก่อนผลการเรยี นรู้ เพือ่ วดั ความรู้ความเขา้ ใจก่อนเรยี น ใน Google Form

5.1.5 ผู้สอนและผเู้ รียนตรวจสอบคะแนนแบบทดสอบกอ่ นเรียน
5.2 การเรียนรู

5.2.1 ผสู้ อนอธิบายเนอื้ หาเก่ียวกบั สญั ญายมื ประเภทของสญั ญายมื การก้ยู มื เงิน สัญญาฝากทรพั ย์

สทิ ธิและหน้าทีข่ องของผรู้ ับฝาก และวธิ เี ฉพาะการฝากเงนิ
5.2.2 ผู้สอนยกตัวอยา่ งและเปดิ คลิบวิดีโอที่เก่ยี วข้องกับกฎหมายลกั ษณะยมื และฝากทรพั ย์

5.2.3 ผสู้ อนใหผ้ เู้ รียนศกึ ษาเนือ้ หาเพิ่มเติม และแบบฝึกหัด
5.2.4 สุ่มเลอื กผูเ้ รยี นเพอ่ื อภิปรายเนอ้ื หาที่สรปุ และส่งสมดุ เพือ่ ตรวจแบบฝกึ หัด
5.3 การสรปุ

5.3.1 ผ้สู อนและผเู้ รยี นช่วยกันสรุปในหัวข้อท่ีผู้เรียนนำเสนอพรอ้ มท้ังอธิบายเพม่ิ เติมและสรุปเนื้อหาตาม
จดุ ประสงคแ์ ละเนื้อหาสาระการเรียนรู้ พรอ้ มทั้งแนะนะหรอื บอกแหล่งการหาขอ้ มูลจากอนิ เตอร์เน็ต เพื่อผู้เรียน

จะได้ศึกษาค้นควา้ เพ่ิมเตมิ ได้
5.3.2 ผสู้ อนให้ผเู้ รียนทำแบบประเมินหลังผลการเรียนรู้ ใน Google Form พร้อมทง้ั ตรวจงานสมุด
5.3.3 ผสู้ อนตรวจสอบและบนั ทกึ คะแนนแบบประเมินหลงั ผลการเรียนรู้

แผนการจัดการเรียนรมู้ งุ่ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่ 7
ชอื่ หนว่ ย กฎหมายลักษณะยืมและฝากทรพั ย์
สอนครง้ั ที่ 9
ช่วั โมงรวม 3

จำนวนชวั่ โมง 3

5.4 การวดั และประเมินผล
5.4.1 วิธีวดั ผล
1. ทดสอบก่อน-หลังเรยี น ประจำหนว่ ยการเรยี นรู้
2. ทำแบบฝึกหัดประจำหนว่ ยการเรยี นรู้
3. สังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
4 สังเกตและประเมนิ พฤติกรรมด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์
5.4.2 เครือ่ งมือวดั ผล
1. แบบทดสอบก่อน-หลงั เรียน ประจำหนว่ ยการเรียนรู้
2. แบบประเมินแบบฝกึ หัด
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
4. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ โดยครูและผู้เรยี น
ร่วมกนั ประเมนิ
5.4.3 เกณฑก์ ารประเมินผล
1. เกณฑผ์ ่านการทดสอบก่อน-หลังเรียน ประจำหน่วยการเรียนรู้ คือ 50 % ขน้ึ ไป
2. เกณฑผ์ า่ นการประเมินแบบฝึกหัด คอื 50 % ขึน้ ไป
3. เกณฑ์ผ่านการสังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไม่มชี ่องปรบั ปรงุ
4. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ คะแนนขนึ้ อยู่
กบั การประเมนิ ตามสภาพจรงิ

6. ส่อื การเรียนร้/ู แหล่งการเรยี นรู้
6.1 สอ่ื สงิ่ พิมพ
6.1.1 หนงั สือเรียน วิชา กฎหมายธุรกิจ
6.1.2 แบบทดสอบกอ่ น-หลังเรยี น ประจำหน่วยการเรียนรู้ (Google Form)
6.1.3 แบบฝกึ หัดประจำหน่วยการเรยี นรู้
6.2 ส่ือโสตทัศน (ถามี)
6.๒.1 วดี โี อ
6.๒.2 ส่อื อิเลก็ ทรอนิกส์, PowerPoint
6.3 หุนจําลองหรอื ของจรงิ (ถาม)ี
-

6.4 อ่นื ๆ (ถาม)ี
-

แผนการจัดการเรียนร้มู ุ่งเนน้ สมรรถนะ หนว่ ยท่ี 7
ชอ่ื หนว่ ย กฎหมายลกั ษณะจ้างแรงงาน-จ้างทำของ-รับขนส่ง
สอนครัง้ ที่ 9
ชว่ั โมงรวม 3

จำนวนชั่วโมง 3

7. เอกสารประกอบการจัดการเรยี นรู (ใบความรู ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ )

แบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยที่ ๗
เรือ่ ง กฎหมายลักษณะจ้างแรงงาน-จ้างทำของ-รับขนสง่

คำช้แี จง จงเลือกคำตอบท่ีถกู ตอ้ งท่ีสดุ เพียงคำตอบเดยี ว

1. ข้อใดเปน็ ลกั ษณะของการยมื ตามกฎหมาย ข. เป็นสัญญาไม่ตา่ งตอบแทน
ก. มกี ารชำระคา่ ตอบแทน ง. เปน็ สัญญาให้เปล่าโดยไมห่ วงั ส่งิ ตอบแทน
ค. เปน็ สัญญาเพื่อประกนั การชำระหนี้
จ. ทุกขอ้ ท่ีกล่าวมา

2. การยมื ในข้อใดเปน็ แบบการยมื ใช้คงรูป ข. ฟา้ ยมื รองเท้าของม่วงไปใส่
ง. ดำยมื นำ้ ตาลทรายของน้ำเงินไป 1 ถุง
ก. สม้ ยมื สบู่ของแดงไปใช้
ค. เหลืองยมื ขา้ วสารของเขยี ว 1 กระสอบ
จ. ต้น ยืมเงนิ ตำ้ ไป 100 บาท

3. ข้อใดเปน็ การยมื ใชส้ น้ิ เปลอื ง ข. ยืมโทรศัพท์มือถอื ไปใช้
ก. ยืมรถยนตไ์ ปใช้ 1 เดือน ง. ยมื ขา้ วสารไปกินหน่งึ กระสอบ

ค. ยืมเสอ้ื และกางเกงไปใช้
จ. ยืมหนงั สอื ไปอา่ น

4. สญั ญาการยมื ใช้คงรปู ระงับไดก้ รณีใด ข. ครบกำหนดการยมื
ก. ผูย้ มื ตาย ง. ถกู ทุกขอ้ ทก่ี ล่าวมา

ค. ผูใ้ ห้ยืมบอกเลิกสัญญาการยืม
จ. ผู้ยมื คืนทรัพยส์ ิน

5. กฎหมายได้กำหนดระยะเวลาให้คู่สัญญาฟ้องร้องให้รับผิดชอบเพื่อเสียค่าทดแทนอันเกี่ยวกับยืมใช้

คงรูปภายในระยะเวลาเทา่ ไร

ก. 2 ปี ข. 1 ปี

ค. 6 เดอื น ง. 1 เดือน

ง. 3 เดอื น

แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเนน้ สมรรถนะ หน่วยที่ 7
ช่อื หนว่ ย กฎหมายลักษณะยมื และฝากทรัพย์
สอนครง้ั ท่ี 9
ช่ัวโมงรวม 3

จำนวนช่ัวโมง 3

6. การกยู้ ืมเงนิ ตามกฎหมาย กรณีประชาชนกู้ยมื กันเองกำหนดใหค้ ิดดอกเบ้ียไดส้ งู สุดเท่าไร

ก. ร้อยละ 30บาท ตอ่ ปี ข. ร้อยละ 25 บาทตอ่ ปี

ค. ร้อยละ 20 บาทต่อปี ง. ร้อยละ 15 บาทต่อปี
จ. ร้อยละ 18 บาทต่อปี

7. ตาม ป.พ.พ. เรื่องการกู้ยืมเงิน กฎหมายกำหนดการกู้ยืมเงินเกินกว่ากี่บาท ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ ลง

ลายมอื ช่อื ผ้ยู ืม มฉิ ะน้นั จะฟอ้ งรอ้ งบังคบั คดีไมไ่ ด้

ก. 500 บาท ข. 1,000 บาท

ค. 2,000 บาท ง. 3,000 บาท

จ. 4,000 บาท

8. การฝากทรัพยจ์ ะเป็นสญั ญาฝากทรพั ยท์ ่ีสมบรู ณไ์ ดค้ ือข้อใด

ก. มีคู่สญั ญา 2 ฝา่ ย ข. สง่ มอบทรัพย์ท่ีจะฝาก

ค. ตกลงคา่ บำเหนจ็ รบั ฝาก ง. เป็นทรัพยท์ ่ีไมผ่ ิดกฎหมาย

จ. ทุกข้อทกี่ ลา่ วมา

9. ผ้รู ับฝากทรพั ยม์ สี ิทธอิ ยา่ งไรบ้างในสญั ญาฝากทรพั ย์
ก. ยึดหน่วงทรัพยส์ นิ ทีฝ่ าก
ข. เรยี กบำเหนจ็ คา่ ฝากทรพั ย์

ค. เรียกคา่ บำรงุ รกั ษาทรพั ย์สินซง่ึ ผู้รับฝากจ่ายไป
ง. หา้ มนำทรัพยท์ ีฝ่ ากออกใช้สอย

จ. ทำไดท้ ุกขอ้ ท่กี ลา่ วมา

10. ขอ้ ใดท่ีผู้รบั ฝากทรพั ย์ไม่สามารถทำได้

ก. คนื ทรพั ยเ์ มือ่ ครบกำหนดท่ีฝาก
ข. คนื ทรพั ย์เมื่อใดก็ไดห้ ากไม่ไดก้ ำหนดเวลาฝาก
ค. คืนทรพั ยใ์ หผ้ ฝู้ ากเมอ่ื ผู้ฝากร้องขอทรพั ย์

ง. คืนทรพั ยท์ ฝี่ ากเม่ือไมต่ ้องการเก็บรักษาทรัพยอ์ ีกตอ่ ไป
จ. ทุกข้อที่กล่าวมา

แผนการจดั การเรยี นรมู้ ่งุ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่ 7
ช่ือหน่วย กฎหมายลักษณะยืมและฝากทรัพย์
สอนครงั้ ที่ 9
ชวั่ โมงรวม 3

จำนวนชัว่ โมง 3

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยที่ ๗
เรอื่ ง กฎหมายลกั ษณะจา้ งแรงงาน-จ้างทำของ-รับขนส่ง

คำชีแ้ จง จงเลือกคำตอบที่ถกู ต้องท่ีสุดเพียงคำตอบเดียว

1. ข้อใดเป็นลักษณะของการยมื ตามกฎหมาย ข. เปน็ สัญญาไมต่ ่างตอบแทน
ง. เป็นสัญญาใหเ้ ปล่าโดยไมห่ วงั สิ่งตอบแทน
ก. มกี ารชำระค่าตอบแทน
ค. เปน็ สญั ญาเพือ่ ประกนั การชำระหนี้
จ. ทกุ ข้อทก่ี ล่าวมา

2. การยมื ในขอ้ ใดเปน็ แบบการยมื ใช้คงรปู ข. ฟา้ ยมื รองเท้าของม่วงไปใส่
ก. สม้ ยืมสบู่ของแดงไปใช้ ง. ดำยืมนำ้ ตาลทรายของนำ้ เงนิ ไป 1 ถุง
ค. เหลอื งยืมข้าวสารของเขียว 1 กระสอบ

จ. ต้น ยืมเงิน ต้ำไป 100 บาท

3. ขอ้ ใดเปน็ การยมื ใชส้ น้ิ เปลอื ง ข. ยมื โทรศพั ทม์ อื ถือไปใช้
ง. ยมื ขา้ วสารไปกินหนง่ึ กระสอบ
ก. ยืมรถยนต์ไปใช้ 1 เดือน
ค. ยมื เส้ือและกางเกงไปใช้
จ. ยมื หนังสือ ไปอา่ น

4. สญั ญาการยืมใชค้ งรปู ระงบั ได้กรณใี ด ข. ครบกำหนดการยืม
ก. ผยู้ มื ตาย ง. ถูกทุกขอ้ ท่กี ล่าวมา
ค. ผใู้ ห้ยืมบอกเลกิ สัญญาการยืม

จ. ผ้ยู ืมคืนทรัพยส์ นิ

5. กฎหมายได้กำหนดระยะเวลาให้คู่สัญญาฟ้องร้องให้รับผิดชอบเพื่อเสียค่าทดแทนอันเกี่ยวกับยืมใช้

คงรปู ภายในระยะเวลาเทา่ ไร

ก. 2 ปี ข. 1 ปี

ค. 6 เดือน ง. 1 เดอื น

ง. 3 เดอื น

6. การกยู้ มื เงินตามกฎหมาย กรณปี ระชาชนก้ยู ืมกนั เองกำหนดใหค้ ิดดอกเบ้ียได้สูงสดุ เทา่ ไร

ก. ร้อยละ 30บาท ต่อปี ข. ร้อยละ 25 บาทตอ่ ปี

ค. รอ้ ยละ 20 บาทตอ่ ปี ง. ร้อยละ 15 บาทตอ่ ปี

จ. รอ้ ยละ 18 บาทตอ่ ปี

แผนการจัดการเรียนรมู้ งุ่ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่ 7
ชอื่ หน่วย กฎหมายลกั ษณะยืมและฝากทรพั ย์
สอนครั้งท่ี 9
ช่วั โมงรวม 3

จำนวนชว่ั โมง 3

7. ตาม ป.พ.พ. เรื่องการกู้ยืมเงิน กฎหมายกำหนดการกู้ยืมเงินเกินกว่ากี่บาท ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ ลง

ลายมือช่อื ผู้ยืม มฉิ ะนัน้ จะฟ้องรอ้ งบงั คับคดีไม่ได้

ก. 500 บาท ข. 1,000 บาท

ค. 2,000 บาท ง. 3,000 บาท

จ. 4,000 บาท

8. การฝากทรพั ย์จะเป็นสญั ญาฝากทรัพย์ที่สมบูรณ์ได้คอื ข้อใด

ก. มคี ่สู ญั ญา 2 ฝา่ ย ข. ส่งมอบทรัพยท์ ่จี ะฝาก

ค. ตกลงค่าบำเหนจ็ รับฝาก ง. เปน็ ทรพั ยท์ ่ไี มผ่ ดิ กฎหมาย

จ. ทุกขอ้ ทก่ี ลา่ วมา

9. ผรู้ ับฝากทรพั ย์มีสิทธอิ ยา่ งไรบา้ งในสญั ญาฝากทรัพย์
ก. ยดึ หนว่ งทรพั ยส์ ินที่ฝาก

ข. เรียกบำเหน็จคา่ ฝากทรัพย์
ค. เรยี กคา่ บำรงุ รักษาทรัพย์สินซง่ึ ผรู้ ับฝากจ่ายไป

ง. ห้ามนำทรัพยท์ ่ีฝากออกใชส้ อย
จ. ทำได้ทกุ ขอ้ ทก่ี ล่าวมา

10. ข้อใดที่ผ้รู บั ฝากทรัพยไ์ ม่สามารถทำได้
ก. คืนทรพั ยเ์ มอ่ื ครบกำหนดท่ีฝาก
ข. คืนทรัพย์เม่ือใดก็ได้หากไมไ่ ด้กำหนดเวลาฝาก

ค. คืนทรัพย์ให้ผู้ฝากเมือ่ ผู้ฝากร้องขอทรัพย์
ง. คนื ทรัพย์ทีฝ่ ากเมื่อไม่ต้องการเกบ็ รักษาทรพั ย์อกี ต่อไป

จ. ทุกข้อที่กล่าวมา

แผนการจัดการเรยี นรู้มุง่ เนน้ สมรรถนะ หน่วยท่ี 7
ช่อื หน่วย กฎหมายลกั ษณะยมื และฝากทรัพย์
สอนครั้งที่ 9
ชั่วโมงรวม 3

จำนวนช่วั โมง 3

แบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยที่ ๗
เรอ่ื ง กฎหมายลกั ษณะจา้ งแรงงาน-จ้างทำของ-รับขนสง่

คำช้แี จง จงเลอื กคำตอบท่ถี ูกตอ้ งท่ีสุดเพียงคำตอบเดยี ว

1. ข้อใดเปน็ ลักษณะของการยมื ตามกฎหมาย ข. เป็นสญั ญาไมต่ ่างตอบแทน
ง. เปน็ สญั ญาใหเ้ ปล่าโดยไมห่ วังส่ิงตอบแทน
ก. มีการชำระคา่ ตอบแทน
ค. เปน็ สัญญาเพอื่ ประกันการชำระหน้ี
จ. ทุกขอ้ ท่ีกลา่ วมา

2. การยมื ในข้อใดเป็นแบบการยมื ใช้คงรปู ข. ฟา้ ยืมรองเทา้ ของม่วงไปใส่
ก. ส้มยมื สบ่ขู องแดงไปใช้ ง. ดำยมื นำ้ ตาลทรายของน้ำเงนิ ไป 1 ถุง
ค. เหลอื งยืมขา้ วสารของเขยี ว 1 กระสอบ

จ. ต้น ยืมเงนิ ตำ้ ไป 100 บาท

3. ข้อใดเปน็ การยืมใชส้ ้ินเปลือง ข. ยืมโทรศพั ท์มอื ถือไปใช้
ง. ยมื ขา้ วสารไปกินหนงึ่ กระสอบ
ก. ยืมรถยนต์ไปใช้ 1 เดือน
ค. ยืมเสอ้ื และกางเกงไปใช้
จ. ยืมหนังสอื ไปอา่ น

4. สญั ญาการยมื ใช้คงรปู ระงบั ได้กรณใี ด ข. ครบกำหนดการยืม
ก. ผ้ยู ืมตาย ง. ถกู ทุกขอ้ ทก่ี ล่าวมา
ค. ผใู้ ห้ยมื บอกเลกิ สญั ญาการยมื

จ. ผู้ยมื คืนทรัพยส์ ิน

5. กฎหมายได้กำหนดระยะเวลาให้คู่สัญญาฟ้องร้องให้รับผิดชอบเพื่อเสียค่าทดแทนอันเกี่ยวกับยืมใช้

คงรูปภายในระยะเวลาเท่าไร

ก. 2 ปี ข. 1 ปี

ค. 6 เดือน ง. 1 เดอื น

ง. 3 เดอื น

6. การกู้ยืมเงนิ ตามกฎหมาย กรณปี ระชาชนกยู้ ืมกนั เองกำหนดให้คดิ ดอกเบีย้ ได้สูงสุดเท่าไร

ก. รอ้ ยละ 30บาท ตอ่ ปี ข. รอ้ ยละ 25 บาทต่อปี

ค. ร้อยละ 20 บาทตอ่ ปี ง. รอ้ ยละ 15 บาทตอ่ ปี

จ. ร้อยละ 18 บาทต่อปี

แผนการจัดการเรียนรู้ม่งุ เน้นสมรรถนะ หน่วยท่ี 7
ชื่อหนว่ ย กฎหมายลกั ษณะยมื และฝากทรพั ย์
สอนครงั้ ที่ 9
ชว่ั โมงรวม 3

จำนวนชว่ั โมง 3

7. ตาม ป.พ.พ. เรื่องการกู้ยืมเงิน กฎหมายกำหนดการกู้ยืมเงินเกินกว่ากี่บาท ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ ลง
ลายมือช่ือผู้ยมื มฉิ ะนัน้ จะฟ้องรอ้ งบังคบั คดีไม่ได้

ก. 500 บาท ข. 1,000 บาท
ค. 2,000 บาท ง. 3,000 บาท

จ. 4,000 บาท

8. การฝากทรพั ย์จะเป็นสัญญาฝากทรพั ย์ท่ีสมบรู ณ์ไดค้ ือข้อใด

ก. มีค่สู ัญญา 2 ฝา่ ย ข. ส่งมอบทรพั ยท์ จี่ ะฝาก

ค. ตกลงคา่ บำเหนจ็ รบั ฝาก ง. เปน็ ทรพั ยท์ ี่ไม่ผดิ กฎหมาย

จ. ทุกข้อทีก่ ลา่ วมา

9. ผรู้ ับฝากทรัพย์มสี ทิ ธอิ ย่างไรบา้ งในสญั ญาฝากทรัพย์
ก. ยดึ หนว่ งทรพั ยส์ ินทฝ่ี าก

ข. เรียกบำเหน็จคา่ ฝากทรัพย์
ค. เรียกคา่ บำรุงรักษาทรัพยส์ นิ ซงึ่ ผู้รับฝากจ่ายไป
ง. หา้ มนำทรัพยท์ ่ีฝากออกใช้สอย

จ. ทำได้ทกุ ข้อทก่ี ล่าวมา

10. ข้อใดที่ผรู้ ับฝากทรัพยไ์ มส่ ามารถทำได้

ก. คนื ทรัพยเ์ มือ่ ครบกำหนดที่ฝาก
ข. คืนทรพั ย์เม่ือใดก็ไดห้ ากไมไ่ ด้กำหนดเวลาฝาก

ค. คืนทรัพย์ใหผ้ ู้ฝากเม่ือผู้ฝากร้องขอทรัพย์
ง. คนื ทรัพย์ทีฝ่ ากเมื่อไม่ตอ้ งการเกบ็ รกั ษาทรพั ย์อีกต่อไป
จ. ทุกขอ้ ทกี่ ล่าวมา

แผนการจัดการเรยี นรู้ม่งุ เนน้ สมรรถนะ หน่วยที่ 7
ช่ือหน่วย กฎหมายลกั ษณะยืมและฝากทรัพย์
สอนครงั้ ที่ 9
ชวั่ โมงรวม 3

จำนวนชัว่ โมง 3

เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยที่ ๗
เรอื่ ง กฎหมายลักษณะจ้างแรงงาน-จ้างทำของ-รับขนส่ง

คำชีแ้ จง จงเลอื กคำตอบที่ถกู ต้องท่ีสุดเพียงคำตอบเดยี ว

1. ข้อใดเปน็ ลกั ษณะของการยมื ตามกฎหมาย ข. เปน็ สัญญาไมต่ ่างตอบแทน
ง. เป็นสัญญาใหเ้ ปล่าโดยไมห่ วังสิ่งตอบแทน
ก. มกี ารชำระค่าตอบแทน
ค. เปน็ สญั ญาเพอ่ื ประกนั การชำระหนี้
จ. ทุกขอ้ ท่ีกลา่ วมา

2. การยมื ในข้อใดเปน็ แบบการยืมใช้คงรปู ข. ฟา้ ยมื รองเท้าของมว่ งไปใส่
ก. ส้มยืมสบขู่ องแดงไปใช้ ง. ดำยืมนำ้ ตาลทรายของนำ้ เงินไป 1 ถุง
ค. เหลอื งยืมข้าวสารของเขียว 1 กระสอบ

จ. ต้น ยืมเงนิ ต้ำไป 100 บาท

3. ขอ้ ใดเปน็ การยมื ใช้สิน้ เปลอื ง ข. ยมื โทรศพั ทม์ อื ถอื ไปใช้
ง. ยมื ขา้ วสารไปกินหนง่ึ กระสอบ
ก. ยมื รถยนตไ์ ปใช้ 1 เดือน
ค. ยืมเส้ือและกางเกงไปใช้
จ. ยืมหนังสือ ไปอา่ น

4. สญั ญาการยืมใช้คงรปู ระงบั ไดก้ รณีใด ข. ครบกำหนดการยืม
ก. ผยู้ มื ตาย ง. ถูกทุกขอ้ ท่กี ล่าวมา
ค. ผใู้ หย้ มื บอกเลิกสัญญาการยืม

จ. ผู้ยมื คืนทรพั ย์สนิ

5. กฎหมายได้กำหนดระยะเวลาให้คู่สัญญาฟ้องร้องให้รับผิดชอบเพื่อเสียค่าทดแทนอันเกี่ยวกับยืมใช้

คงรปู ภายในระยะเวลาเทา่ ไร

ก. 2 ปี ข. 1 ปี

ค. 6 เดือน ง. 1 เดอื น

ง. 3 เดือน

6. การกยู้ ืมเงนิ ตามกฎหมาย กรณปี ระชาชนกู้ยืมกันเองกำหนดใหค้ ิดดอกเบย้ี ได้สูงสดุ เท่าไร

ก. รอ้ ยละ 30บาท ต่อปี ข. ร้อยละ 25 บาทต่อปี

ค. รอ้ ยละ 20 บาทตอ่ ปี ง. ร้อยละ 15 บาทตอ่ ปี

จ. ร้อยละ 18 บาทตอ่ ปี

แผนการจดั การเรยี นรมู้ ่งุ เนน้ สมรรถนะ หน่วยที่ 7
ชอื่ หน่วย กฎหมายลักษณะยืมและฝากทรพั ย์
สอนคร้ังท่ี 9
ชั่วโมงรวม 3

จำนวนชั่วโมง 3

7. ตาม ป.พ.พ. เรื่องการกู้ยืมเงิน กฎหมายกำหนดการกู้ยืมเงินเกินกว่ากี่บาท ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ ลง

ลายมือช่ือผู้ยมื มฉิ ะนัน้ จะฟ้องรอ้ งบงั คบั คดีไม่ได้

ก. 500 บาท ข. 1,000 บาท

ค. 2,000 บาท ง. 3,000 บาท

จ. 4,000 บาท

8. การฝากทรพั ย์จะเป็นสญั ญาฝากทรัพย์ท่ีสมบรู ณ์ได้คอื ข้อใด

ก. มีค่สู ัญญา 2 ฝา่ ย ข. สง่ มอบทรัพยท์ จ่ี ะฝาก

ค. ตกลงคา่ บำเหนจ็ รับฝาก ง. เปน็ ทรพั ย์ท่ไี มผ่ ดิ กฎหมาย

จ. ทุกข้อทีก่ ลา่ วมา

9. ผรู้ ับฝากทรัพย์มีสทิ ธอิ ยา่ งไรบา้ งในสญั ญาฝากทรพั ย์

ก. ยดึ หนว่ งทรพั ยส์ ินที่ฝาก
ข. เรียกบำเหน็จคา่ ฝากทรัพย์
ค. เรียกคา่ บำรุงรักษาทรัพย์สินซ่งึ ผู้รับฝากจา่ ยไป

ง. หา้ มนำทรัพยท์ ่ีฝากออกใชส้ อย
จ. ทำได้ทกุ ข้อท่กี ล่าวมา

10. ข้อใดที่ผรู้ ับฝากทรัพยไ์ ม่สามารถทำได้
ก. คนื ทรัพยเ์ มือ่ ครบกำหนดท่ีฝาก

ข. คืนทรพั ย์เมื่อใดก็ได้หากไมไ่ ด้กำหนดเวลาฝาก
ค. คืนทรัพย์ใหผ้ ู้ฝากเมือ่ ผู้ฝากร้องขอทรัพย์
ง. คนื ทรัพย์ทีฝ่ ากเมื่อไม่ต้องการเก็บรักษาทรัพยอ์ ีกต่อไป

จ. ทุกขอ้ ทกี่ ล่าวมา

แผนการจดั การเรยี นรู้มงุ่ เน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 7
ช่ือหน่วย กฎหมายลกั ษณะยืมและฝากทรพั ย์
สอนคร้ังท่ี 9
ชวั่ โมงรวม 3

จำนวนชั่วโมง 3

เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยท่ี 7
เรือ่ ง กฎหมายลกั ษณะยมื -ฝากทรัพย์

คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นตอบคำถามต่อไปนใี้ หถ้ ูกต้องสมบรู ณ์
1. ความหมายของสญั ญายืมคอื อะไร

...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................

2. สัญญายมื มกี ีป่ ระเภท อะไรบา้ ง
...................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................

3. สาระสำคัญของสญั ญายืมใช้คงรูปมีอะไรบา้ ง
...................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................

4. สาระสำคญั ของสญั ญายมื ใช้สิ้นเปลอื งมอี ะไรบ้าง
...................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................

5. สัญญายืมใชค้ งรูประงับดว้ ยเหตุใดบ้าง
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................

...............................................................................................................................................................................

6. หลกั ฐานการกูย้ ืมเงินมีอะไรบ้าง
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................

แผนการจัดการเรยี นร้มู ุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 7
ชือ่ หน่วย กฎหมายลักษณะยมื และฝากทรัพย์
สอนครัง้ ท่ี 9
ชว่ั โมงรวม 3

จำนวนชัว่ โมง 3

7. การชำระหนี้ในสญั ญากูย้ มื เงนิ ตอ้ งปฏบิ ัติอยา่ งไร
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................

8. สัญญาฝากทรัพยม์ สี าระสำคัญอยา่ งไรบ้าง
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................

9. หนา้ ทข่ี องผ้รู ับฝากทรัพย์มกี ีป่ ระการ อะไรบ้าง
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................

10. ลักษณะสำคญั ของวธิ กี ารฝากเงินตา่ งจากฝากทรัพยธ์ รรมดาอย่างไรบา้ ง
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................

แผนการจัดการเรยี นรูม้ ่งุ เน้นสมรรถนะ หนว่ ยท่ี 7
ช่ือหน่วย กฎหมายลักษณะยืมและฝากทรพั ย์
สอนครั้งท่ี 9
ช่วั โมงรวม 3

จำนวนชวั่ โมง 3

เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยท่ี 7
เรื่อง กฎหมายลักษณะยืม-ฝากทรัพย์

คำชีแ้ จง ให้นกั เรยี นตอบคำถามต่อไปน้ใี ห้ถูกต้องสมบูรณ์

1. ความหมายของสัญญายมื คืออะไร
ตอบ สัญญายืมเป็นสัญญาชนิดหนึ่ง ซึ่งมีคู่กรณีเป็น 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายหนึ่ง เรียกว่า ผู้ให้ยืม ส่งมอบหรือโอน

กรรมสิทธ์ใิ นทรัพยส์ ินให้แกค่ คู่ วามอีกฝา่ ยหน่ึง เรียกวา่ ผู้ยมื เพื่อใชส้ อยทรพั ย์สนิ น้นั และผยู้ ืมตกลงว่าจะส่งคืน
ทรพั ยส์ นิ นั้นเมื่อได้ใชส้ อยเสร็จแลว้

2. สัญญายมื มกี ่ีประเภท อะไรบา้ ง
ตอบ มี 2 ประเภท คือ สัญญายมื ใช้คงรปู และ สัญญายมื ใชส้ ิ้นเปลือง

3. สาระสำคัญของสญั ญายมื ใช้คงรปู มีอะไรบ้าง
ตอบ (1) เปน็ สญั ญาที่ไม่มคี า่ ตอบแทน (2) เป็นสัญญาทีไ่ ม่มีการโอนกรรมสิทธิ์

4. สาระสำคัญของสัญญายืมใช้ส้ินเปลอื งมีอะไรบ้าง
ตอบ (1) อาจเปน็ สัญญามีคา่ ตอบแทนกไ็ ด้ (2) เปน็ สญั ญาท่ีมกี ารโอนกรรมสทิ ธใิ์ นทรพั ยส์ ินท่ียืม ผู้ใหย้ ืมต้อง
เปน็ ผู้มกี รรมสทิ ธิ์

5. สญั ญายืมใชค้ งรปู ระงับดว้ ยเหตุใดบ้าง
ตอบ (1) เมอ่ื มีการสง่ คืนทรพั ย์สนิ ที่ยืม (2)เมือ่ ผู้ให้ยมื ใช้สิทธิบอกเลกิ สัญญา (3) เม่อื ผูย้ ืมตาย
(4) เม่ือสญั ญามิได้กำหนดเวลากนั ไว้ และเวลาไดล้ ว่ งไปพอสมควร ผู้ให้ยมื ใช้สทิ ธบิ อกเลกิ สัญญา

6. หลกั ฐานการก้ยู ืมเงนิ มอี ะไรบา้ ง
ตอบ หลักฐานเป็นหนังสือไมใ่ ช่แบบ แต่อาจเป็นหลักฐานอะไรกไ็ ด้ เช่น จดหมายบันทึกการเปน็ หนี้ รายงาน

การประชุม ฯลฯ สิ่งสำคัญคือ ต้องมีข้อความแสดงการเปน็ หนี้สินและลงลายมือชื่อผู้ยืมเป็นสำคัญก็เพียงพอ
แล้ว

7. การชำระหนี้ในสญั ญากู้ยมื เงินต้องปฏิบตั อิ ยา่ งไร
ตอบ เมอ่ื ยืมเงนิ การชำระหนี้ก็ต้องชำระหน้ีด้วยเงนิ ให้ตรงกับวตั ถุประสงค์ พรอ้ มดอกเบี้ยหากมีการคิดดอกเบ้ีย
กันใหก้ ับเจ้าหนี้

8. สัญญาฝากทรพั ย์มสี าระสำคญั อยา่ งไรบา้ ง
ตอบ 1.เปน็ สัญญาซึ่งมีคกู่ รณีเปน็ 2 ฝ่าย คอื ผู้ฝากและผู้รับฝาก 2. วัตถุแหง่ สัญญาฝากทรพั ยต์ อ้ งเป็นทรพั ยส์ นิ

เทา่ น้ัน 3. สัญญาฝากทรพั ย์เป็นสญั ญาประเภทสมบรู ณเ์ มอ่ื ส่งมอบทรัพยส์ ิน

แผนการจดั การเรียนรู้มงุ่ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยท่ี 7
ช่อื หน่วย กฎหมายลกั ษณะยมื และฝากทรพั ย์
สอนครงั้ ที่ 9
ชวั่ โมงรวม 3

จำนวนชว่ั โมง 3

9. หน้าที่ของผรู้ บั ฝากทรัพยม์ ีก่ปี ระการ อะไรบา้ ง
ตอบ (1)กรณไี มม่ บี ำเหน็จคา่ ฝาก ตอ้ งสงวนรกั ษาทรัพย์สนิ น้นั เสมอื นทรัพยส์ ินของตนเอง
(2)กรณีมีบำเหนจ็ ค่าฝาก ต้องใช้ฝมี ือเพื่อรักษาทรัพยส์ นิ เช่นวิญญูชนพงึ ใช้
(3)กรณีมีบำเหน็จค่าฝาก และผู้รับฝากเป็นผู้ประกอบอาชีพเพื่อการนั้น นอกจากต้องใช้ฝีมือเช่นวิญญูชนพึงใช้
แล้ว ยงั ตอ้ งใชฝ้ ีมอื เชน่ คนประกอบอาชพี พงึ ใชด้ ว้ ย

10. ลักษณะสำคัญของวิธกี ารฝากเงินต่างจากฝากทรัพย์ธรรมดาอย่างไรบ้าง
ตอบ 1. ฝากเงินผู้รับฝาก จะไดก้ รรมสิทในทรพั ย์ทฝี่ าก ฝากทรัพย์ผู้รับฝากจะไมไ่ ดก้ รรมสิทในทรัพยท์ ี่ฝาก
2. ฝากเงนิ ผรู้ ับฝาก เวลาคนื ไม่จำเปน็ ต้องคืนเงนิ ตราอนั เดยี วกับท่ีรบั ฝาก ฝากทรัพย์ผรู้ บั ฝากต้องคนื ทรัพย์อัน
เดียวกนั กบั ทร่ี ับฝาก

8. การบูรณาการ/ความสัมพนั ธกับวิชาอ่นื
8.1 กฎหมายพาณชิ ย์

9. การวัดและประเมนิ ผล
9.1 กอนเรยี น
9.1.1 ทดสอบกอ่ นเรยี นประจำหนว่ ยการเรียนรู้
9.1.2 ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียนประจำหนว่ ยการเรียนรู้
9.2 ขณะเรียน
9.2.1 ทำแบบฝกึ หัด
9.2.2 สังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
9.2.3 สงั เกตและประเมนิ พฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
9.3 หลังเรียน
9.๓.1 ตรวจแบบฝึกหัดประจำหนว่ ยการเรียนรู้
9.๓.2 ทดสอบหลงั เรียนประจำหนว่ ยการเรยี นรู้
9.๓.๓ ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี นประจำหน่วยการเรยี นรู้

แผนการจดั การเรยี นร้มู ุง่ เน้นสมรรถนะ หนว่ ยที่ 7
ชื่อหนว่ ย กฎหมายลักษณะยืมและฝากทรพั ย์
สอนคร้งั ที่ 9
ชวั่ โมงรวม 3

จำนวนชัว่ โมง 3

10. บันทีกหลังสอน
10.1 ผลการใชแผนการจดั การเรยี นรู
.......................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
10.2 ผลการเรียนรขู องนกั เรยี น นักศึกษา
.......................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
10.3 แนวทางการพัฒนาคณุ ภาพการเรยี นรู้
.......................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................

แผนการจัดการเรียนร้มู ุง่ เน้นสมรรถนะ หนว่ ยที่ 8
ชือ่ หน่วย กฎหมายลกั ษณะค้ำประกนั จำนอง จำนำ
สอนคร้ังท่ี 10
ชั่วโมงรวม 3

จำนวนช่ัวโมง 3

๑. สาระสำคญั
การค้ำประกัน หมายถึงการประกันการชำระหนี้ด้วยบุคคลอันเป็นสัญญาประเภทหนึ่ง ซึ่งบุคคลอื่น

นอกเหนือจากเจ้าหน้ีและลกู หนี้ยอมตกลงกับเจ้าหน้วี ่าหากลูกหน้ี ไม่ชำระหนี้ ตนจะยอมชำระหน้ีให้เจ้าหน้ี เป็น
การเอาความน่าเชื่อถือหรือความมีฐานะทางการเงนิ ของตนเองเข้าประกันจะชำระหน้ีให้ บุคคลนี้เรียกว่า “ผู้ค้ำ
ประกนั ” ในทางกฎหมาย ผคู้ ำ้ ประกนั หมายถึง "บคุ คลหนึง่ ทีย่ อมรับท่ีจะชำระหนีแ้ ทนอกี บุคคล หากบคุ คลน้ันไม่
ชำระหน้ใี หแ้ ก่เจ้าหนี้”

จำนำ คือ การที่บุคคลคนหนึ่ง เรียกว่า "ผู้จำนำ" นำสังหาริมทรัพย์ไปส่งมอบให้อยู่ในความครอบครอง
ของบคุ คลอกี คนหนึ่ง เรียกวา่ "ผู้รบั จำนำ" เพ่อื เปน็ ประกนั การชำระหนี้ที่ผู้จำนำเป็นหนผี้ รู้ บั จำนำ

จำนอง คือ การท่ีบุคคลคนหนึ่งเรียกว่า “ผู้จำนอง” เอาอสังหาริมทรัพย์ของตน เช่นที่ดิน หรือทรัพย์ที่
กฎหมายอนุญาตให้จำนองได้ไปจดทะเบียนไวก้ บั บุคคลอีกคนหน่ึง เรยี กวา่ “ผู้รับจำนอง”เพื่อเปน็ หลกั ประกันการ
ชำระหนี้ ทง้ั นีโ้ ดยผจู้ ำนองไมต่ ้องส่งมอบทีด่ ินหรือทรัพย์สินดงั กลา่ วนั้นใหแ้ กผ่ ู้รบั จำนอง

๒. สมรรถนะประจำหน่วย
2.1 แสดงความรทู้ างกฎหมายเกยี่ วกบั สญั ญาค้ำประกัน
2.2 แสดงความรู้ทางกฎหมายเกย่ี วกบั สญั ญาจำนำ
2.3 แสดงความรทู้ างกฎหมายเก่ียวกบั สญั ญาจำนอง

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
3.1 ด้านความรู้
3.1.1 อธบิ ายสาระสำคญั เบ้อื งตน้ ของการคำ้ ประกนั ได้
3.1.2 อธิบายผลของสัญญาคำ้ ประกนั กอ่ นการชำระหน้ีได้
3.1.3 บอกผลของสัญญาคำ้ ประกนั หลงั การชำระหนี้ได้
3.1.4 อธิบายความระงบั สิ้นไปแหง่ การคำ้ ประกัน
3.1.5 อธิบายบทเบ็ดเสรจ็ ทั่วไปการจำนอง
3.1.6 บอกสิทธิจำนองครอบคลำเพยี งใด
3.1.7 อธิบายสิทธิและหนา้ ทีข่ องผู้รบั จำนองและผจู้ ำนอง
3.1.8 อธิบายการบงั คบั จำนอง
3.1.9 อธิบายความระงบั สนิ้ ไปแหง่ สญั ญาจำนอง
3.1.10 อธิบายบทเบด็ เสรจ็ ท่วั ไปของการจำนำ

แผนการจดั การเรียนร้มู ่งุ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยท่ี 8
ชอ่ื หนว่ ย กฎหมายลกั ษณะคำ้ ประกนั จำนอง จำนำ
สอนครั้งที่ 10
ชั่วโมงรวม 3

จำนวนช่วั โมง 3

3.1.11 บอกสทิ ธแิ ละหน้าท่ขี องผ้รู ับจำนำ
3.1.12 อธิบายการบังคบั จำนำ
3.1.13 อธบิ ายความระงับสน้ิ ไปแห่งการจำนำ
3.2 ดา้ นทกั ษะ
3.2.1 นำความรูเ้ ร่อื งกฎหมายเกี่ยวกบั คำ้ ประกัน จำนอง จำนำของมาประยกุ ตใ์ ช้ในชีวิตประจำวนั
3.2.2 เขยี นสญั ญาเกย่ี วกบั กฎหมายสญั ญาค้ำประกนั จำนอง จำนำ
3.3 คุณลกั ษณะทีพ่ งึ่ ประสงค
3.3.1 มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลักษณะอันพึงประสงคข์ องผู้สำเรจ็ การศึกษาสำนกั งาน
คณะกรรมการการอาชวี ศึกษา ท่ีครสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทำการสอนในเรอื่ ง การมเี หตุผล ยอมรับ ความคิดเห็น
ของผูอ้ ่ืน ความรับผดิ ชอบ ประหยัด ร้จู ักออม มีมนษุ ยสมั พนั ธท์ ่ดี ี มคี วามสนใจใฝเ่ รียนรู้ มคี วามซ่อื สัตย์ และมีจติ
อาสา

4. เน้ือหาสาระการเรยี นรู้
4.1 สาระสำคัญเบื้องตน้ ของค้ำประกนั
4.2 ผลของสญั ญาค้ำประกนั ก่อนการชำระหนี้
4.3 ผลของสัญญาคำ้ ประกนั หลงั การชำระหน้ี
4.4 ความระงับสิน้ ไปแหง่ การคำ้ ประกัน
4.5 บทเบ็ดเสร็จทั่วไปการจำนอง
4.6 ทรัพย์สินอะไรบา้ งท่ีสิทธจิ ำนองครอบคลุมไปดว้ ย
4.7 สิทธิและหน้าที่ของผรู้ ับจำนอง
4.8 การบังคบั จำนอง
4.9 ความระงับส้นิ ไปแห่งสญั ญาจำนอง
4.10 บทเบ็ดเสร็จทว่ั ไปของการจำนำ
4.11 สิทธแิ ละหนา้ ท่ีของผู้รับจำนำ
4.12 การบงั คบั จำนำ
4.13 ความระงบั สิ้นไปแหง่ การจำนำ

แผนการจัดการเรยี นรมู้ งุ่ เน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 8
ช่อื หนว่ ย กฎหมายลักษณะคำ้ ประกัน จำนอง จำนำ
สอนคร้งั ที่ 10
ช่วั โมงรวม 3

จำนวนช่วั โมง 3

5. กิจกรรมการเรยี นรู้
5.1 การนาํ เขาสบู ทเรียน
5.1.1 เตรียมวสั ดอุ ุปกรณ์ หนงั สอื เอกสารการสอน สมุด แบบทดสอบก่อนและหลงั เรยี น
5.1.2 ชี้แจงวตั ถุประสงค์ของกฎหมายลักษณะคำ้ ประกัน จำนอง จำนำ
5.1.๓ ผสู้ อนนำเขา้ สบู่ ทเรยี นดว้ ยการซักถาม สนทนาและช้ใี ห้เหน็ ความสำคัญเกย่ี วกบั กฎหมายลักษณะค้ำ

ประกนั จำนอง จำนำ
5.1.๔ ให้ผู้เรยี นทำแบบประเมินก่อนผลการเรยี นรู้ เพ่ือวดั ความรู้ความเข้าใจก่อนเรยี น ใน Google Form
5.1.5 ผสู้ อนและผูเ้ รียนตรวจสอบคะแนนแบบทดสอบก่อนเรยี น

5.2 การเรยี นรู
5.2.1 ผ้สู อนอธบิ ายเนอ้ื หาเก่ยี วกับกฎหมายลักษณะคำ้ ประกนั จำนอง จำนำ
5.2.2 ผู้สอนยกตัวอย่างขา่ วสาร เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องและเปิดคลิบวิดีโอที่เกีย่ วข้องกับกฎหมายลักษณะ

คำ้ ประกัน จำนอง จำนำ
5.2.3 ผู้สอนใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษาเนือ้ หาเพม่ิ เติม และทำแบบฝกึ หดั
5.2.4 สุ่มเลอื กผเู้ รยี นออกมาสรุปเนื้อหาหน้าชน้ั เรียน และสง่ สมุดเพ่ือตรวจแบบฝึกหดั

5.3 การสรปุ
5.3.1 ผ้สู อนและผู้เรยี นชว่ ยกันสรปุ ในหวั ข้อที่ผู้เรียนนำเสนอพร้อมทั้งอธบิ ายเพ่มิ เตมิ และสรุปเน้ือหาตาม

จุดประสงคแ์ ละเนื้อหาสาระการเรียนรู้ พร้อมทง้ั แนะนะหรอื บอกแหลง่ การหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต เพ่ือผู้เรียน
จะได้ศึกษาคน้ คว้าเพ่มิ เติมได้

5.3.2 ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นทำแบบประเมนิ หลงั ผลการเรยี นรู้ ใน Google Form พรอ้ มท้ังตรวจงานสมุด
5.3.3 ผ้สู อนตรวจสอบและบันทกึ คะแนนแบบประเมินหลงั ผลการเรยี นรู้
5.4 การวัดและประเมนิ ผล
5.4.1 วธิ ีวัดผล

1. ทดสอบกอ่ น-หลงั เรยี น ประจำหนว่ ยการเรียนรู้
2. ทำแบบฝกึ หดั ประจำหน่วยการเรยี นรู้
3. สงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล
4 สังเกตและประเมินพฤติกรรมด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

แผนการจัดการเรยี นรมู้ งุ่ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยท่ี 8
ช่ือหน่วย กฎหมายอุตสาหกรรมดา้ นการผลติ และบรกิ าร
สอนครง้ั ท่ี 10
ชว่ั โมงรวม 3

จำนวนชว่ั โมง 3

5.4.2 เคร่อื งมอื วัดผล
1. แบบทดสอบก่อน-หลังเรยี น ประจำหน่วยการเรียนรู้
2. แบบประเมินแบบฝกึ หดั
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
4. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครูและผู้เรียน
ร่วมกันประเมิน

5.4.3 เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
1. เกณฑ์ผ่านการทดสอบกอ่ น-หลังเรียน ประจำหนว่ ยการเรียนรู้ คือ 50 % ขึน้ ไป
2. เกณฑ์ผ่านการประเมินแบบฝกึ หัด คือ 50 % ข้ึนไป
3. เกณฑผ์ า่ นการสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล ต้องไมม่ ชี ่องปรับปรงุ
4. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ คะแนนขนึ้ อยู่
กบั การประเมินตามสภาพจรงิ

6. สือ่ การเรยี นรู/้ แหลง่ การเรยี นรู้
6.1 สอ่ื สงิ่ พิมพ
6.1.1 หนังสือเรียน วิชา กฎหมายธรุ กจิ
6.1.2 แบบทดสอบก่อน-หลงั เรียน ประจำหนว่ ยการเรยี นรู้ (Google Form)
6.1.3 แบบฝึกหัดประจำหน่วยการเรยี นรู้
6.2 สอ่ื โสตทศั น (ถาม)ี
6.๒.1 วดี โี อ
6.๒.2 สือ่ อิเลก็ ทรอนกิ ส,์ PowerPoint
6.3 หุนจาํ ลองหรอื ของจริง (ถาม)ี
-
6.4 อน่ื ๆ (ถาม)ี
-

7. เอกสารประกอบการจัดการเรยี นรู (ใบความรู ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ )

แผนการจัดการเรยี นรมู้ ุ่งเน้นสมรรถนะ หนว่ ยท่ี 8
ชื่อหน่วย กฎหมายลกั ษณะคำ้ ประกนั จำนอง จำนำ
สอนครงั้ ที่ 10
ชั่วโมงรวม 3

จำนวนช่ัวโมง 3

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยท่ี ๘
เรอ่ื ง กฎหมายลักษณะคำ้ ประกนั จำนอง จำนำ

คำชี้แจง จงเลือกคำตอบท่ีถูกต้องท่ีสุดเพยี งคำตอบเดยี ว

1. ผู้คำ้ ประกนั ตามสญั ญาค้ำประกันหมายถึงบุคคลในขอ้ ใด

ก. เจ้าหนี้ ข. ลูกหนี้

ค. บุคคลภายนอก ง. ทุกข้อทก่ี ล่าวมา

จ. เจ้าหนี้ และลูกหน้ี

2. ในกรณหี นรี้ ายเดยี วมผี ้คู ำ้ ประกนั หลายคน ความรบั ผิดของผู้ค้ำประกันเปน็ อยา่ งไร

ก. รบั ผดิ อยา่ งลกู หนีร้ ว่ ม ข. รบั ผดิ เฉพาะตามส่วน

ค. รบั ตามทตี่ กลงกบั ลูกหนไี้ ว้ ง. รับผิดเพยี งครึ่งท่ีต้องรบั ผดิ เทา่ นน้ั

จ. รบั ผิดเพียงคนใดคนหนึ่ง

3. ผู้รบั เรอื นหมายถึงบุคคลในขอ้ ใดตามกฎหมายลักษณะค้ำประกัน

ก. ผคู้ ้ำประกันลกู หน้ี ข. ผูค้ ำ้ ประกนั เจา้ หนี้

ค. ผรู้ บั ผิดชอบการทวงหนี้ ง. ผคู้ ำ้ ประกันของผู้ค้ำประกันอกี ชัน้ หนึง่

จ. ผู้รับชำระหนี้

4. การค้ำประกนั ในขอ้ ใดทไ่ี มส่ ามารถ คำ้ ประกันได้ ข. หนีเ้ กิดจากการกระทำละเมิด
ก. สญั ญากู้ยมื เงิน ง. หน้ีเกดิ จากลาภมิควรได้

ค. หนเี้ กดิ จากการขายของหนีภาษี
จ. สญั ญาการทำงานของลูกจ้าง

5. การค้ำประกันหนีซ้ ึง่ ผคู้ ้ำประกันไดจ้ ำกดั ความรบั ผิดไว้จะตอ้ งรับผดิ เปน็ จำนวนเท่าใด
ก. รบั ผิดเต็มจำนวนรว่ มกับลกู หนี้

ข. รบั ผิดเพยี งครึง่ ของจำนวนหน้ี
ค. รับผิดเท่าที่ไดต้ กลงจำกดั ความรับผิดไว้
ง. รับผดิ ตามจำนวนหนี้ยงั ค้างอยเู่ ทา่ นั้น

จ. รบั ผิดเท่าไรกไ็ ด้

แผนการจดั การเรียนรูม้ ุ่งเนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่ 8
ช่อื หน่วย กฎหมายลกั ษณะค้ำประกัน จำนอง จำนำ
สอนครง้ั ที่ 10
ชั่วโมงรวม 3

จำนวนชว่ั โมง 3

6. ขอ้ ใดเป็นการประกนั ดว้ ยตวั บุคคล ข. การจำนำ
ก. การประกนั วนิ าศภัย ง. การค้ำประกนั

ค. การจำนอง
จ. การจำนอง

7. ผู้ค้ำประกนั จะตอ้ งรับผดิ เมือ่ ใด ข. ผู้คำ้ ประกันจำกดั ความรบั ผิด
ก. ผคู้ ำ้ ประกนั ผดิ นัด ง. ลูกหนี้ทำให้ผู้ค้ำประกันเสียสทิ ธิ
ค. ลูกหนไ้ี ม่ชำระหนแี้ กเ่ จ้าหนี้
จ. เม่อื เจ้าหนี้ตาย

8. ตามกฎหมายลกั ษณะจำนอง ผรู้ บั จำนองหมายถงึ บุคคลในข้อใด

ก. ลกู หนี้ ข. เจา้ หนี้

ค. ผคู้ ้ำประกนั ง. ลูกหนี้ร่วม

จ. ผู้ชดใช้ค่าเสยี หาย

9. ทรพั ยส์ ินในขอ้ ใดทสี่ ามารถนำมาจำนองได้ ข. ทองคำแท่ง
ก. รถยนต์ ง. เคร่อื งเลน่ วิทยุ

ค. บ้านพร้อมทด่ี ิน
จ. มอเตอรไ์ ซด์

10. ขอ้ ใดคือการบงั คับจำนอง
ก. การยึดทรัพย์สินเปน็ ของตนเอง

ข. การขอให้ศาลสง่ั ยึดทรพั ยส์ ินออกขายทอดตลาด
ค. การขอใหศ้ าลสัง่ ยดึ ทรัพยส์ ินที่จำนองเปน็ ของตนเอง
ง. การยึดทรัพย์อะไรกไ็ ดข้ องลูกหนี้

จ. ขอ้ ข. และ ค. ถกู

11. เม่อื ลกู หนไ้ี มช่ ำระหน้ี ผู้รับจำนองจะบังคบั จำนองไดน้ น้ั จะตอ้ งปฏิบตั ิอยา่ งไร

ก. ขอใหศ้ าลสง่ั ยึดไดเ้ ลย
ข. ขอให้ศาลส่ังเปน็ ของตนไดท้ ันที

ค. ผูร้ ับจำนองจะตอ้ งมีหนังสอื บอกกลา่ วล่วงหน้ากอ่ น
ง. ยกเลกิ สญั ญาจำนองกอ่ น
จ. ทกุ ขอ้ ทก่ี ลา่ วมา

แผนการจัดการเรยี นรมู้ ุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 8
ชอ่ื หน่วย กฎหมายลักษณะคำ้ ประกัน จำนอง จำนำ
สอนครั้งที่ 10
ชวั่ โมงรวม 3

จำนวนชวั่ โมง 3

12. เหตุในขอ้ ใดทท่ี ำให้สญั ญาจำนองระงบั สน้ิ ไป

ก. การปลดหน้ี
ข. ถอนจำนอง

ค. ศาลนำทรัพยส์ ินที่จำนองออกขายทอดตลาด
ง. การชำระหนีข้ องลกู หน้ี
จ. ทุกขอ้ ที่กล่าวมา

13. ทรพั ย์สนิ ใดที่กฎหมาย ห้าม นำมาจำนอง ข. อาคารพาณิชย์
ก. ทด่ี นิ ง. ทธี่ รณีสงฆ์

ค. เครอ่ื งจักรที่จดทะเบียน
จ. โฉนดท่ีดิน

14. ลักษณะของสญั ญาจำนำคืออะไร
ก. ผรู้ ับจำนำ ตอ้ งเกบ็ รักษาทรพั ย์สินท่ีจำนำไวเ้ องได้

ข. สญั ญาจำนำตอ้ งทำเปน็ หนังสือ
ค. ผจู้ ำนำไมต่ ้องเปน็ เจ้าของทรัพย์
ง. หน้ที ่ไี ม่สมบูรณ์จะบงั คับจำนำก็ได้

จ. ดอกเบี้ยจำนำ คดิ เท่าไรกไ็ ด้

15. ขอ้ ใดคือวิธีการจำนำ ข. ส่งมอบทรพั ย์ที่จำนำให้ผรู้ บั จำนำ
ก. ทำสญั ญาจำนำเป็นหนังสอื ง. บ้าน พรอ้ มทด่ี นิ นำมาจำนำได้
ค. ต้องจดทะเบียนต่อเจ้าหนา้ ท่ี
จ. ถกู ทกุ ข้อ

16. ข้อใด ไมใ่ ช่ หนา้ ทข่ี องผู้จำนำ ข. สง่ ดอกเบี้ย
ง. ออกคา่ ใช้จา่ ยในการบำรุงรักษาทรพั ยท์ ี่จำนำ
ก. แกไ้ ขข้อความในสัญญาจำนำ
ค. ไมแ่ ก้ไขสิทธิตามสญั ญาจำนำ
จ. ตอ้ งสง่ มอบทรพั ยส์ นิ ที่จำนำให้ผูร้ ับจำนำ

แผนการจัดการเรยี นรมู้ ุ่งเนน้ สมรรถนะ หนว่ ยท่ี 8
ชอื่ หนว่ ย กฎหมายลกั ษณะค้ำประกนั จำนอง จำนำ
สอนครงั้ ที่ 10
ช่วั โมงรวม 3

จำนวนชว่ั โมง 3

17. ข้อใดตอ่ ไปนเี้ ปน็ สิทธขิ องผ้รู ับจำนำ
ก. ผ้รู ับจำนำมสี ิทธิยดึ หน่วงไว้

ข. มสี ทิ ธิฟ้องคดตี อ่ ผู้จำนำ ผจู้ ำนำไมใ่ ช่เจ้าของทรัพย์ทจ่ี ำนำ
ค. ต้องรกั ษาดูแลทรัพยส์ ินและมสี ิทธไิ ดร้ ับคา่ ดแู ลรักษา
ง. ไดร้ บั ดอกเบ้ยี ท่ีจำนำ

จ. ทกุ ขอ้ ทก่ี ล่าวมา

18. การบงั คบั จำนำกระทำไดโ้ ดยวธิ ใี ด ข. ขายทอดตลาดแล้วนำเงินมาชำระหนี้
ก. ยึดเปน็ ของตนเองทนั ที ง. เกบ็ ทรัพย์ไวเ้ ป็นของตนเอง
ค. ไม่ตอ้ งบอกกลา่ วผู้จำนำกอ่ นวา่ จะบังคับ
จ. ยกใหใ้ ครกไ็ ด้

19. เหตใุ นขอ้ ใดท่ที ำให้การจำนำระงับส้นิ ไป

ก. ทรพั ยส์ ินที่จำนำถกู ขโมย
ข. หน้ีซึ่งจำนำมีการชำระครบถ้วน
ค. ผทู้ ี่รบั จำนำยอมใหท้ รัพยท์ ี่จำนำคืน แก่ผจู้ ำนำ

ง. ชำระหนจ้ี ำนำ ครบ
จ. ถูกทกุ ขอ้

แผนการจดั การเรียนรมู้ ุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 8
ชือ่ หน่วย กฎหมายลักษณะคำ้ ประกนั จำนอง จำนำ
สอนครั้งที่ 10
ช่วั โมงรวม 3

จำนวนชวั่ โมง 3

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยท่ี ๘
เร่อื ง กฎหมายลกั ษณะค้ำประกนั จำนอง จำนำ

คำชแี้ จง จงเลอื กคำตอบทีถ่ ูกตอ้ งที่สุดเพียงคำตอบเดยี ว

1. ผ้คู ำ้ ประกนั ตามสญั ญาคำ้ ประกนั หมายถึงบคุ คลในขอ้ ใด

ก. เจ้าหน้ี ข. ลูกหน้ี

ค. บคุ คลภายนอก ง. ทกุ ข้อทกี่ ล่าวมา

จ. เจ้าหนี้ และลูกหน้ี

2. ในกรณหี นีร้ ายเดยี วมผี ูค้ ำ้ ประกนั หลายคน ความรับผิดของผู้ค้ำประกนั เป็นอย่างไร

ก. รบั ผิดอยา่ งลกู หนร้ี ว่ ม ข. รับผดิ เฉพาะตามส่วน

ค. รบั ตามท่ีตกลงกับลกู หนีไ้ ว้ ง. รับผิดเพียงคร่งึ ทต่ี อ้ งรบั ผดิ เทา่ นั้น

จ. รบั ผิดเพยี งคนใดคนหน่งึ

3. ผ้รู บั เรอื นหมายถงึ บุคคลในข้อใดตามกฎหมายลกั ษณะค้ำประกนั

ก. ผูค้ ำ้ ประกนั ลกู หน้ี ข. ผู้ค้ำประกันเจ้าหน้ี

ค. ผูร้ ับผิดชอบการทวงหนี้ ง. ผ้คู ำ้ ประกันของผู้ค้ำประกนั อกี ชน้ั หน่งึ

จ. ผรู้ บั ชำระหนี้

4. การค้ำประกันในข้อใดทไ่ี มส่ ามารถ คำ้ ประกันได้ ข. หน้เี กิดจากการกระทำละเมิด
ง. หน้ีเกิดจากลาภมิควรได้
ก. สญั ญากู้ยืมเงนิ
ค. หนีเ้ กดิ จากการขายของหนีภาษี
จ. สญั ญาการทำงานของลกู จา้ ง

5. การคำ้ ประกนั หน้ซี ึ่งผคู้ ้ำประกนั ได้จำกดั ความรับผดิ ไว้จะต้องรบั ผิดเป็นจำนวนเทา่ ใด
ก. รบั ผิดเตม็ จำนวนร่วมกับลกู หน้ี

ข. รับผดิ เพียงคร่ึงของจำนวนหนี้
ค. รบั ผดิ เท่าทีไ่ ด้ตกลงจำกดั ความรบั ผิดไว้

ง. รบั ผิดตามจำนวนหน้ียงั คา้ งอยูเ่ ทา่ นัน้
จ. รับผิดเท่าไรกไ็ ด้

แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่ 8
ชอ่ื หนว่ ย กฎหมายลกั ษณะคำ้ ประกัน จำนอง จำนำ
สอนคร้งั ที่ 10
ชวั่ โมงรวม 3

จำนวนชัว่ โมง 3

6. ข้อใดเปน็ การประกนั ด้วยตัวบุคคล ข. การจำนำ
ก. การประกันวนิ าศภัย ง. การคำ้ ประกัน

ค. การจำนอง
จ. การจำนอง

7. ผู้ค้ำประกนั จะตอ้ งรบั ผิดเม่ือใด ข. ผู้คำ้ ประกันจำกัดความรับผดิ
ก. ผคู้ ำ้ ประกันผิดนัด ง. ลูกหนที้ ำให้ผ้คู ้ำประกันเสียสิทธิ
ค. ลูกหนี้ไมช่ ำระหนแ้ี กเ่ จา้ หน้ี
จ. เมอื่ เจ้าหน้ตี าย

8. ตามกฎหมายลกั ษณะจำนอง ผู้รับจำนองหมายถงึ บุคคลในข้อใด

ก. ลูกหนี้ ข. เจา้ หน้ี

ค. ผูค้ ำ้ ประกนั ง. ลูกหน้รี ว่ ม

จ. ผู้ชดใชค้ ่าเสยี หาย

9. ทรัพยส์ นิ ในขอ้ ใดทสี่ ามารถนำมาจำนองได้ ข. ทองคำแท่ง
ก. รถยนต์ ง. เครือ่ งเล่นวิทยุ

ค. บา้ นพร้อมทีด่ ิน
จ. มอเตอรไ์ ซด์

10. ข้อใดคือการบงั คับจำนอง
ก. การยึดทรัพย์สินเปน็ ของตนเอง

ข. การขอใหศ้ าลสั่งยดึ ทรัพย์สินออกขายทอดตลาด
ค. การขอให้ศาลสง่ั ยดึ ทรพั ย์สินทจ่ี ำนองเป็นของตนเอง
ง. การยดึ ทรพั ยอ์ ะไรกไ็ ด้ของลูกหน้ี

จ. ขอ้ ข. และ ค. ถกู

11. เมอื่ ลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ ผู้รบั จำนองจะบังคับจำนองได้น้ันจะตอ้ งปฏิบตั ิอยา่ งไร

ก. ขอใหศ้ าลสั่งยดึ ไดเ้ ลย
ข. ขอใหศ้ าลสั่งเปน็ ของตนได้ทนั ที

ค. ผู้รับจำนองจะต้องมีหนังสอื บอกกล่าวลว่ งหน้าก่อน
ง. ยกเลกิ สัญญาจำนองก่อน
จ. ทกุ ข้อทกี่ ล่าวมา

แผนการจัดการเรยี นรมู้ ุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 8
ชอ่ื หน่วย กฎหมายลักษณะคำ้ ประกัน จำนอง จำนำ
สอนครั้งที่ 10
ชวั่ โมงรวม 3

จำนวนชวั่ โมง 3

12. เหตุในขอ้ ใดทท่ี ำให้สญั ญาจำนองระงบั สน้ิ ไป

ก. การปลดหน้ี
ข. ถอนจำนอง
ค. ศาลนำทรัพยส์ ินที่จำนองออกขายทอดตลาด

ง. การชำระหนีข้ องลกู หน้ี
จ. ทุกขอ้ ที่กล่าวมา

13. ทรัพย์สนิ ใดที่กฎหมาย ห้าม นำมาจำนอง ข. อาคารพาณิชย์
ก. ทด่ี นิ ง. ทธี่ รณีสงฆ์

ค. เครอ่ื งจักรที่จดทะเบียน
จ. โฉนดท่ีดิน

14. ลักษณะของสญั ญาจำนำคืออะไร
ก. ผรู้ ับจำนำ ตอ้ งเกบ็ รักษาทรพั ย์สินท่ีจำนำไวเ้ องได้
ข. สญั ญาจำนำตอ้ งทำเปน็ หนังสือ

ค. ผจู้ ำนำไมต่ อ้ งเปน็ เจ้าของทรัพย์
ง. หน้ที ่ไี ม่สมบูรณ์จะบงั คับจำนำก็ได้

จ. ดอกเบี้ยจำนำ คดิ เท่าไรกไ็ ด้

15. ขอ้ ใดคือวิธีการจำนำ ข. ส่งมอบทรพั ย์ที่จำนำให้ผรู้ บั จำนำ
ง. บ้าน พรอ้ มทด่ี นิ นำมาจำนำได้
ก. ทำสญั ญาจำนำเป็นหนงั สอื
ค. ต้องจดทะเบียนต่อเจ้าหน้าท่ี
จ. ถูกทกุ ข้อ

16. ข้อใด ไมใ่ ช่ หน้าท่ขี องผู้จำนำ ข. สง่ ดอกเบี้ย
ก. แกไ้ ขข้อความในสัญญาจำนำ ง. ออกคา่ ใช้จา่ ยในการบำรุงรักษาทรพั ยท์ ี่จำนำ

ค. ไมแ่ ก้ไขสิทธิตามสญั ญาจำนำ
จ. ต้องส่งมอบทรพั ย์สนิ ท่ีจำนำให้ผูร้ ับจำนำ

แผนการจัดการเรยี นรมู้ ุ่งเนน้ สมรรถนะ หนว่ ยท่ี 8
ชอื่ หนว่ ย กฎหมายลกั ษณะค้ำประกนั จำนอง จำนำ
สอนครงั้ ที่ 10
ช่วั โมงรวม 3

จำนวนชว่ั โมง 3

17. ขอ้ ใดต่อไปนเ้ี ป็นสิทธขิ องผ้รู ับจำนำ
ก. ผู้รบั จำนำมสี ิทธิยดึ หน่วงไว้

ข. มีสิทธฟิ อ้ งคดตี อ่ ผู้จำนำ ผจู้ ำนำไมใ่ ช่เจ้าของทรัพย์ทจ่ี ำนำ
ค. ตอ้ งรกั ษาดูแลทรัพยส์ ินและมสี ิทธไิ ดร้ ับคา่ ดแู ลรักษา

ง. ไดร้ ับดอกเบยี้ ท่ีจำนำ
จ. ทกุ ขอ้ ท่กี ล่าวมา

18. การบังคับจำนำกระทำไดโ้ ดยวธิ ใี ด ข. ขายทอดตลาดแล้วนำเงินมาชำระหนี้
ก. ยึดเปน็ ของตนเองทนั ที ง. เกบ็ ทรัพย์ไวเ้ ป็นของตนเอง
ค. ไมต่ อ้ งบอกกลา่ วผู้จำนำกอ่ นวา่ จะบังคับ

จ. ยกใหใ้ ครก็ได้

19. เหตุในข้อใดทท่ี ำใหก้ ารจำนำระงับส้นิ ไป

ก. ทรัพยส์ นิ ที่จำนำถกู ขโมย
ข. หนซ้ี ึ่งจำนำมีการชำระครบถ้วน

ค. ผู้ทีร่ ับจำนำยอมใหท้ รัพยท์ ี่จำนำคืน แก่ผจู้ ำนำ
ง. ชำระหน้จี ำนำ ครบ
จ. ถูกทุกข้อ

แผนการจัดการเรยี นรมู้ ุ่งเน้นสมรรถนะ หนว่ ยท่ี 8
ชือ่ หนว่ ย กฎหมายลักษณะคำ้ ประกนั จำนอง จำนำ
สอนครงั้ ที่ 10
ชั่วโมงรวม 3

จำนวนช่ัวโมง 3

แบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยท่ี ๘
เร่ือง กฎหมายลกั ษณะคำ้ ประกนั จำนอง จำนำ

คำชี้แจง จงเลือกคำตอบทถี่ กู ตอ้ งทสี่ ุดเพยี งคำตอบเดียว

1. ผู้คำ้ ประกนั ตามสญั ญาค้ำประกนั หมายถงึ บคุ คลในข้อใด

ก. เจ้าหน้ี ข. ลูกหน้ี

ค. บคุ คลภายนอก ง. ทุกขอ้ ทก่ี ล่าวมา

จ. เจา้ หนี้ และลูกหน้ี

2. ในกรณหี น้รี ายเดยี วมผี ้คู ำ้ ประกนั หลายคน ความรบั ผิดของผ้คู ้ำประกันเปน็ อย่างไร

ก. รบั ผดิ อยา่ งลกู หนีร้ ่วม ข. รบั ผดิ เฉพาะตามส่วน

ค. รบั ตามทตี่ กลงกบั ลกู หน้ไี ว้ ง. รับผิดเพียงครึ่งท่ีต้องรับผดิ เทา่ นน้ั

จ. รบั ผิดเพยี งคนใดคนหนงึ่

3. ผู้รบั เรอื นหมายถึงบุคคลในขอ้ ใดตามกฎหมายลักษณะค้ำประกัน

ก. ผู้ค้ำประกันลกู หน้ี ข. ผูค้ ำ้ ประกนั เจา้ หนี้

ค. ผูร้ บั ผิดชอบการทวงหน้ี ง. ผคู้ ำ้ ประกันของผูค้ ำ้ ประกันอกี ชัน้ หนึง่

จ. ผูร้ บั ชำระหน้ี

4. การค้ำประกนั ในข้อใดทไ่ี มส่ ามารถ คำ้ ประกนั ได้ ข. หนีเ้ กิดจากการกระทำละเมิด
ก. สญั ญากยู้ ืมเงิน ง. หนเี้ กดิ จากลาภมิควรได้

ค. หนีเ้ กดิ จากการขายของหนภี าษี
จ. สญั ญาการทำงานของลูกจา้ ง

5. การค้ำประกนั หนีซ้ ่งึ ผคู้ ้ำประกันไดจ้ ำกดั ความรบั ผดิ ไวจ้ ะตอ้ งรับผดิ เปน็ จำนวนเทา่ ใด
ก. รบั ผิดเตม็ จำนวนรว่ มกบั ลูกหนี้

ข. รบั ผดิ เพียงครึง่ ของจำนวนหนี้
ค. รับผิดเท่าที่ไดต้ กลงจำกดั ความรับผิดไว้
ง. รับผดิ ตามจำนวนหนี้ยังค้างอยู่เทา่ นน้ั

จ. รบั ผิดเท่าไรกไ็ ด้

แผนการจดั การเรียนรูม้ ุ่งเนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่ 8
ช่อื หน่วย กฎหมายลกั ษณะค้ำประกัน จำนอง จำนำ
สอนครง้ั ที่ 10
ชั่วโมงรวม 3

จำนวนชว่ั โมง 3

6. ข้อใดเปน็ การประกนั ดว้ ยตวั บุคคล ข. การจำนำ
ก. การประกันวนิ าศภัย ง. การค้ำประกนั

ค. การจำนอง
จ. การจำนอง

7. ผ้คู ำ้ ประกันจะตอ้ งรับผดิ เมือ่ ใด ข. ผู้คำ้ ประกันจำกดั ความรบั ผิด
ก. ผ้คู ำ้ ประกนั ผดิ นัด ง. ลูกหนี้ทำให้ผคู้ ้ำประกันเสียสทิ ธิ
ค. ลูกหนี้ไม่ชำระหนแี้ กเ่ จ้าหน้ี
จ. เมอื่ เจ้าหนี้ตาย

8. ตามกฎหมายลกั ษณะจำนอง ผรู้ บั จำนองหมายถงึ บุคคลในข้อใด

ก. ลกู หน้ี ข. เจา้ หนี้

ค. ผคู้ ้ำประกนั ง. ลูกหนี้ร่วม

จ. ผู้ชดใช้ค่าเสียหาย

9. ทรัพยส์ ินในขอ้ ใดทสี่ ามารถนำมาจำนองได้ ข. ทองคำแท่ง
ก. รถยนต์ ง. เคร่อื งเลน่ วิทยุ

ค. บ้านพรอ้ มที่ดนิ
จ. มอเตอรไ์ ซด์

10. ข้อใดคือการบงั คับจำนอง
ก. การยดึ ทรพั ยส์ ินเปน็ ของตนเอง

ข. การขอใหศ้ าลส่ังยึดทรพั ยส์ ินออกขายทอดตลาด
ค. การขอให้ศาลสงั่ ยดึ ทรัพยส์ ินที่จำนองเปน็ ของตนเอง
ง. การยดึ ทรัพย์อะไรกไ็ ดข้ องลูกหนี้

จ. ขอ้ ข. และ ค. ถกู

11. เมือ่ ลกู หนไี้ ม่ชำระหน้ี ผู้รบั จำนองจะบังคบั จำนองไดน้ น้ั จะตอ้ งปฏบิ ตั อิ ยา่ งไร

ก. ขอใหศ้ าลสง่ั ยึดไดเ้ ลย
ข. ขอใหศ้ าลสั่งเปน็ ของตนไดท้ ันที

ค. ผรู้ ับจำนองจะตอ้ งมีหนังสอื บอกกลา่ วลว่ งหน้ากอ่ น
ง. ยกเลกิ สัญญาจำนองกอ่ น
จ. ทกุ ขอ้ ที่กลา่ วมา

แผนการจัดการเรยี นรมู้ ุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 8
ชอ่ื หน่วย กฎหมายลักษณะคำ้ ประกัน จำนอง จำนำ
สอนครั้งที่ 10
ชวั่ โมงรวม 3

จำนวนชวั่ โมง 3

12. เหตุในขอ้ ใดทท่ี ำให้สญั ญาจำนองระงบั สน้ิ ไป

ก. การปลดหน้ี
ข. ถอนจำนอง

ค. ศาลนำทรัพยส์ ินที่จำนองออกขายทอดตลาด
ง. การชำระหนีข้ องลกู หน้ี
จ. ทุกขอ้ ทีก่ ล่าวมา

13. ทรพั ยส์ นิ ใดที่กฎหมาย ห้าม นำมาจำนอง ข. อาคารพาณิชย์
ก. ทด่ี นิ ง. ทธี่ รณีสงฆ์

ค. เครอ่ื งจักรที่จดทะเบียน
จ. โฉนดท่ีดิน

14. ลักษณะของสญั ญาจำนำคืออะไร
ก. ผรู้ ับจำนำ ตอ้ งเกบ็ รักษาทรพั ย์สินท่ีจำนำไวเ้ องได้

ข. สญั ญาจำนำตอ้ งทำเปน็ หนังสือ
ค. ผจู้ ำนำไมต่ ้องเปน็ เจ้าของทรัพย์
ง. หน้ที ่ไี ม่สมบูรณ์จะบงั คับจำนำก็ได้

จ. ดอกเบ้ียจำนำ คดิ เท่าไรกไ็ ด้

15. ขอ้ ใดคือวิธีการจำนำ ข. ส่งมอบทรพั ย์ที่จำนำให้ผรู้ บั จำนำ
ก. ทำสญั ญาจำนำเป็นหนังสอื ง. บ้าน พรอ้ มทด่ี นิ นำมาจำนำได้
ค. ต้องจดทะเบียนตอ่ เจ้าหน้าท่ี
จ. ถูกทกุ ข้อ

16. ข้อใด ไมใ่ ช่ หนา้ ทข่ี องผู้จำนำ ข. สง่ ดอกเบี้ย
ง. ออกคา่ ใช้จา่ ยในการบำรุงรักษาทรพั ยท์ ี่จำนำ
ก. แกไ้ ขข้อความในสัญญาจำนำ
ค. ไมแ่ ก้ไขสิทธิตามสญั ญาจำนำ
จ. ต้องสง่ มอบทรพั ยส์ นิ ที่จำนำให้ผูร้ ับจำนำ