กรณีศึกษา บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เสนอ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สรินยา สุภัทรานนท์ รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา การวิเคราะห์รายงานทางการเงิน (รหัส BACAC141) ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 สาขาการบัญชี คณะบริหารธุรกิจและศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ตาก
นักศึกษาการบัญชีเทียบโอนปี 2 จัดทำโดย นางสาวรัติประภา กลับไทย เลขที่ 10 นางสาวพรพิมล ชาญเพราะ เลขที่ 11 นางสาวสิริพร นาคพุ่ม เลขที่ 16 นางสาวแสงทอง ไชยแสน เลขที่ 19 นางสาวกฤติมา กงแก้ว เลขที่ 26 นางสาวฤทัยรัตน์ เขียวพุ่มพวง เลขที่ 31 นางสาวศศิธร เที่ยงตรง เลขที่ 33 นายศุภวิชญ์ พุทธวงค์ เลขที่ 34
ก สารบัญ เรื่อง หน้า สารบัญ ก ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับบริษัท โฮมโปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) 1 Business Model Canvas: BMC 2 การวิเคราะห์เศรษฐกิจในระดับมหาภาค 3 การวิเคราะห์ภาพรวมของอุตสาหกรรม 5 การวิเคราะห์ความเสี่ยงของธุรกิจ 6 การวิเคราะห์โดยใช้ทฤษฎีแรงผลักดันทั้งห้า 7 การวิเคราะห์กลยุทธ์ในการแข่งขันของธุรกิจ 9 รายงานของผู้สอบบัญชีรับอนุญาต 10 การวิเคราะห์นโยบายการบัญชี - การวิเคราะห์นโยบายการบัญชีเกี่ยวกับสินทรัพย์ 16 - การวิเคราะห์นโยบายการบัญชีเกี่ยวกับหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น 37 - การวิเคราะห์นโยบายการบัญชีเกี่ยวกับรายได้และค่าใช่จ่าย 53 - การวิเคราะห์เปิดเผยข้อมูลอื่น การเปลี่ยนแปลงทางการบัญชีและข้อผิดพลาด 62 การวิเคราะห์งบการเงินตามแนวตั้ง 69 การวิเคราะห์งบการเงินตามแนวโน้ม 74 การวิเคราะห์อัตราส่วนตามทางการเงิน - การวิเคราะห์อัตราส่วนสภาพคล่อง 79 - การวิเคราะห์อัตราส่วนประสิทธิภาพในการดำเนินงาน 81 - การวิเคราะห์อัตราส่วนความสามารถในการทำกำไร 86 - การวิเคราะห์อัตราผลตอบแทนจากการลงทุน 89 - การวิเคราะห์อัตราส่วนโครงสร้างเงินทุนและความสามารถในการชำระหนี้ 91 ประวัติผู้จัดทำ 96
1 บริษัท โฮมโปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) บริษัท โฮมโปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) โฮมโปร (อังกฤษ: HomePro) ชื่อเต็ม บริษัท โฮม โปร ดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2538 ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 150 ล้าน บาท ซึ่งเป็นการร่วมลงทุนของ กลุ่ม แลนด์แอนด์ เฮ้าส์, บริษัท อเมริกัน อินเตอร์แนชชั่นแนล แอสชัวรันส์ จำกัด และกลุ่มสารสิน ได้เข้าจดทะเบียนเป็น บริษัทรับอนุญาตในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2544 ก่อตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบธุรกิจค้าปลีก โดยจำหน่ายสินค้าและ ให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง ต่อเติม ซ่อมแซม อาคาร บ้านและที่อยู่อาศัยแบบครบวงจร โดยในเดือน กันยายน พ.ศ. 2539 บริษัทฯ ได้เปิดดำเนินการที่สาขาฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ในย่านรังสิตเป็นสาขาแรก ปัจจุบัน บริษัท ฯ มีสาขาที่เปิดดำเนินการ แล้วทั้งสิ้น 82 สาขา (พฤษภาคม พ.ศ. 2560) ซึ่งตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพ ฯ และปริมณฑล 24 สาขา และอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด อีก 58 สาขา ประเภท : ธุรกิจค้าปลีก รูปแบบ : บริษัทมหาชน (SET : HMPRO) ก่อตั้ง : 27 มิถุนายน พ.ศ. 2538 สำนักงานใหญ่ : 31 หมู่ที่ 9 ถนนประชาชื่น - นนทบุรี ตำบลบางแขวง อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี 11000 บุคลากรหลัก : อนันต์ อัศวโภคิน (ประธานกรรมการบริษัท) มานิต อุดมคุณธรรม (ประธานกรรมการบริหาร) คุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล (กรรมการผู้จัดการ) ผลิตภัณฑ์ : อุปกรณ์ก่อสร้าง เครื่องใช้ภายในบ้าน และที่อยู่อาศัย ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ : บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) นาย นิติ โอสถานุเคราะห์AMERICAN INTERNATIONAL ASSURANCE COMPANY, LIMITED–DI-LIFE นาย มานิต อุดมคุณธรรม บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบธุรกิจค้าปลีก โดยจำหน่ายสินค้า และให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง ต่อเติม ตกแต่ง ซ่อมแซม ปรับปรุง อาคาร บ้าน และที่อยู่อาศัยแบบครบวงจร โดยใช้ชื่อทางการค้าว่า “โฮมโปร” (HOMEPRO)ซึ่งเป็นเครื่องหมายการค้าของ บริษัท ปัจจุบันบริษัท ฯ มีลักษณะการประกอบธุรกิจ ดังนี้ 1. จำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับบ้าน และที่อยู่อาศัย โดยแบ่งประเภทสินค้าออกเป็น 5 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ปรับปรุงบ้าน กลุ่มห้องน้ำและสุขภัณฑ์ กลุ่มเครื่องครัวและเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้าและโคมไฟ และกลุ่มเครื่องนอนและสินค้าตกแต่ง นอกจากนี้ บริษัท ฯ ยังได้จัดทีมผู้เชียวชาญที่ พร้อมให้คำแนะนำเพื่อลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าได้ตรงกับวัตถุประสงค์ในการใช้งานได้มากที่สุด
2 2. การให้บริการด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การให้ความรู้เกี่ยวกับตัวสินค้าและวิธีการใช้งานที่จะ ช่วยให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าได้ตรงกับวัตถุประสงค์การใช้งานให้ได้มากที่สุด บริการจัดส่งสินค้า บริการ ติดตั้ง ซ่อมแซม จัดหาผู้รับเหมา และทีมช่างผู้เชี่ยวชาญ บริการออกแบบเพื่อวางแผนการตกแต่ง หรือ ปรับปรุงส่วนต่าง ๆ ภายในบ้านด้วยระบบคอมพิวเตอร์ บริการผสมสีด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ บริการสั่งซื้อ สินค้ากรณีพิเศษ บริการเปลี่ยนคืนสินค้า จัดสาธิต D.I.Y. (Do it Yourself) และ Workshop เป็นต้น Business Model Canvas: BMC 1.กลุ่มลูกค้า (Customer Segments) ลูกค้าของโฮมโปรเป็นลูกค้ารายย่อย ทั้งกลุ่มบ้านเก่า และกลุ่มบ้าน ใหม่ผู้รับเหมา เจ้าของโครงการ กลุ่มช่าง 2.คุณค่าบริการ (Value Proposition) สร้างความเป็นอยู่ที่ดีของลูกค้าได้อย่างคุ้มค่าและเพียงพอ 3.ช่องทางการเข้าถึง ลูกค้า (Channels) โฮมโปรแต่ละสาขาทั่ว ประเทศไทย www.homepro.co.th HomePro Application บริการจัดส่ง Same Day / Next Day Delivery 4.ความสัมพันธ์กับลูกค้า (Customer Relationships) มุ่งเน้นความหลากหลายของสินค้าและการให้บริการที่ ครบวงจร มีหน่วยงานป้องกันการสูญเสียวางแผน และป้องกันการสูญเสียทรัพย์สิน 5.รายได้หลัก (Revenue Streams) 5.1 รายได้จากสัญญาที่ทำกับลูกค้าของโฮมโปร - สินค้ากลุ่ม Hard Line 65.5 % - สินค้ากลุ่ม Soft Line 14.08 % - รายได้จากบริการ Home Service 0.9% 5.2 รายได้จากบริษัทย่อย 13.5 % - รายได้จากในประเทศ 12 % - รายได้จากประเทศกลุ่ม CLMV 1.6 % 5.3 รายได้อื่น 5.3 % 6.ทรัพยากรหลัก (Key Resources) ทรัพยากรบุคคล เงินลงทุน ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ 7.กิจกรรมหลัก (Key Activities) จำหน่ายสินค้า และให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง ต่อเติม ตกแต่ง ซ่อมแซม ปรับปรุง อาคาร บ้าน และที่อยู่อาศัยแบบครบวงจร 8.พันธมิตร (Key Partners) ผู้ผลิตสินค้า ตัวแทนจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ 9.โครงสร้างทุน (Cost Structure) ซึ่งมีโครงสร้างทุนที่เหมาะสมเพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ และเสริมสร้างมูลค่าการถือหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นบริษัทฯ จัดการสถานะของทุนโดยใช้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (Debtto-Equity Ratio) เพื่อให้สอดคล้องกับเงื่อนไข ในข้อกําหนดของเงินกู้ยืมระยะยาวและหุ้นกู้ซึ่ง ต้อง รักษาระดับของอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนให้ไม่เกิน 2.50 ต่อ 1
3 การวิเคราะห์เศรษฐกิจในระดับมหาภาค ปี 2564 ยังคงเป็นอีกปีที่ท้าทายเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID19) ที่ยังคงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก ซึ่งการแพร่ระบาด ฯ ในประเทศไทยได้ทวีความรุนแรง ขึ้นแส่ง ผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง โดยเริ่มแพร่ระบาด ฯ อย่างหนักในช่วงไตรมาส 3 ก่อนจะเริ่มลด ความรุนแรงตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกันยายนเป็นต้นไป จากช่วงกลางเดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคม ทางศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติด เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้ออกมาตรการเคอร์ฟิวและยกระดับเป็นมาตรการล็อกดาวน์ และได้ผ่อน คลายมาตรการต่าง ๆ ลงในต้นเดือนพฤศจิกายน ซึ่งมาตรการเหล่านั้นได้ส่งผลให้อัตราการจับจ่ายใช้สอย ปรับตัวลดลง และทำให้อัตราการจ้างงานภาคเอกสารชนชะลอตัว ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้กำลังซื้อใน ประเทศหดตัว อย่างไรก็ตามรัฐบาลได้ออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยและบรรเทาผลกระทบ เศรษฐกิจ อาทิ โครงการคนละครึ่ง โครงการเราเที่ยวด้วยกัน โครงการ ม.33 เรารักกัน โครงการเราชนะ และ โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ นอกจากนี้ ในปี 2564 ประเทศไทยได้รับปัจจัยหนุนจากการฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้นอย่างมี นัยสำคัญ เนื่องจากรัฐบาลได้เร่งการฉีดวัคซีนที่เพื่อลดการแพร่ระบาด และเตรียมความพร้อมต่อการกลับมา ดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจอีกครั้ง บริษัท ฯ ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคที่ชัดเจนในสองด้าน คือ ผู้บริโภคเลือกซื้อ สินค้าจากช่องทางออนไลน์มากขึ้น และผู้บริโภคมีวิถีชีวิตการใช้ชีวิตในบ้านมากขึ้นซึ่งบริษัท ฯ มองเห็นโอกาส ที่จะยกระดับการให้บริการไม่ว่าจะในด้านของช่องทาง Omni Channel หรือพัฒนาสินค้าและบริการต่าง ๆ เพื่อรองรับกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้า และเพื่อให้บริษัท ฯ ปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับ พฤติกรรมผู้บริโภคได้อย่างทันท่วงที และด้านช่องทางจำหน่ายสินค้าออนไลน์บริษัท ฯ พัฒนาช่องทางขาย ออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพ และใช้งานได้สะดวกขึ้น ทั้งทางเว็บไซต์และทางแอปพลิเคชั่น HomePro Application, Home Service Application และ HomeCaard Application รวมถึงเพิ่มในส่วนของบริการ ช่วยเลือกซื้อสินค้า SHOP4YOU และได้พัฒนาเพิ่มในส่วนของบริการขนส่งสินค้าภายในวัน (Samr Day Delivery) และในส่วนของการสั่งซื้อและรับสินค้าด้วยตัวเองที่สาขา (Click & Collect) นอกจากนี้ทางบริษัท ฯ ได้กระตุ้นการรับจ่ายด้วยโปรโมชั่นต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องผ่านทั้งช่องทาง Social Media และช่องทาง Application ของบริษัท ฯ ในช่วงการแพร่ระบาด ฯ เพื่อตอบสนองความต้องการสินค้าในช่วงที่ยังมีความ กังวลเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19)
4 ด้านการตอบโจทย์วิถีชีวิตแบบใหม่ บริษัท ฯ ตั้งเป้าหมายที่จะให้สินค้าและบริการของบริษัท แทรก ซึมอยู่ในชีวิตประจำวันในบ้านของลูกค้า โดยได้เพิ่มความหลากหลายของสินค้าในกลุ่มทำความสะอาดและฆ่า เชื้อโรค กลุ่มสินค้าที่เกี่ยวกับการทำงานที่บ้าน (Work From Home) และกลุ่มสินค้าสำหรับทำอาหารที่บ้าน (Cooking At Home) ที่เน้นคุณภาพ ส่วนด้านงานบริการ บริษัท ฯ ก็พร้อมให้บริการลูกค้าอย่างทันท่วงทีเมื่อ เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน เช่น ไฟดับ แอร์ไม่เย็น น้ำไม่ไหล ผ่านช่องทางแอปพลิเคชั่น Home Service หรือผ่าน ช่องทาง Call Center ที่สะดวกสบายต่อลูกค้าและสามารถช่วยเหลือฉุกเฉินได้ตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยทีมช่างที่ ได้รับการตรวจเชื้อโควิค ฯ ด้วยชุดตรวจ ATK 100% ทุกสัปดาห์ก่อนการให้บริการเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับ ลูกค้า ในส่วนของการดูแลรักษาสุขภาพและความปลอดภัยของลูกค้า พนักงาน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอื่น ๆ ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา (CoVID-19) บริษัทฯ ได้มีการสร้างโรงพยาบาลสนามในพื้นที่ศูนย์กระจายสินค้าวังน้อย เพื่อให้การรักษา โดยบริหารงานร่วมกับโรงพยาบาลราชธานี ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการในรูปแบบ Buble and Seal จึงทำให้การดำเนินงานระบบการกระจายสินค้าของบริษัท ฯ สามารถดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง (Distribution Center’s Business Continuity Plan) เพื่อดูแลสุภาพและความปลอดภัยของพนักงานในช่วง การแพร่ระบาด และในขณะเดี่ยวกันสามารถขยายความช่วยเหลือไปยังผู้ป่วยในชุมชนรอบข้างได้ นอกจากนี้ สำหรับการดูและพนักงานทั่วทั้งองค์กร บริษัท ฯ ปรับการทำงานเป็นเน้นการทำงานที่ บ้าน (Work From Home) มากขึ้น เพื่อลดการติดเชื้อภายในสำนักงานหรือสถานที่ทำงาน พร้อมทั้งรณรงค์ให้ พนักงานเข้ารับการฉีดวัคซีน และบริษัท ฯ สร้างระบบสื่อสารภายในองค์กรที่เรียกว่า HR Clinic ในการ ช่วยเหลือพนักงานที่ติดเชื้อ ให้เข้าระบบการรักษาตัวอย่างรวดเร็วหรือจัดส่งกล่องยังชีพให้พนักงานติดเชื้อ ระดับสีเขียวเพื่อรักษาตัวที่บ้าน ส่งผลทำให้แผนการทำงานต่าง ๆ ยังสามารถดำเนินได้ตามปกติ บริษัท ฯ ได้ ผลักดันให้ได้รับการฉีดวัคซีนให้ได้มากและเร็วที่สุด ปัจจุบันโดย ณ สิ้นปี 2564 92% ของพนักงานได้รับการ ฉีดวัคซีน ลูกค้าจึงสามารถมั่นใจได้ในการเข้ารับบริการที่สาขาโฮมโปรทั่วประเทศไทยได้ สำหรับการขยายสาขาในปี2564 บริษัท ฯ ยังคงขยายสาขาอย่างระมัดระวัง เนื่องจากเศรษฐกิจ ยังคง ฟื้นตัวได้ช้า โดยเปิดสาขาใหม่ 1 สาขาที่ บางนากม.1 และเปิดสาขาเพิ่มในประเทศมาเลเซียอีก 1 สาขา ที่มู เทียร่าดามันซารา ซึ่ง ณ สิ้นปี 2564 บริษัท ฯ มีโฮมโปร 87 สาขา โฮมโปรเอส 6 สาขา เมกาโฮม 14 สาขา และโฮมโปรในประเทศมาเลเซียอีก 7 สาขา บริษัท ฯ มุ่งมันสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่สังคมและชุมชนผ่านสินค้าและบริการ ตามแนวทางการ พัฒนาอย่างยั่งยืนครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Encironment, Social, Governance : ESG)
5 บริษัท ฯ ได้ส่งเสริมให้เกิดการบริโภคที่ยั่งยืน ผ่านการจัดหาสินค้าในกลุ่ม ECO Products พร้อมทั้ง ยกระดับสินค้ากลุ่ม ECO Products ให้เป็นสินค้า ECO CHOICE ที่คัดสรรพิเศษ เพื่อเป็นตัวเลือกให้กับลูกค้า และส่งเสริมให้เกิดการใช้พลาสติกอย่างมีความรับผิดชอบ ในส่วนของการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ บริษัท ฯ ได้ดำเนินการผ่านโครงการ “เถ้าแก่น้อย” โดยการยกระดับฝีมือช่างให้มีมาตรฐาน และเพิ่มจำนวน ทีมช่างผ่านการจ้างแรงงานท้องถิ่นให้เพียงพอต่อการขยายสาขา เพื่อส่งมอบงานบริการให้ลูกค้า พร้อมทั้ง สร้างความมั่นคงทางรายได้ให้กับทีมช่างที่เข้าร่วมโครงการ นอกจากนี้ บริษัท ฯ ยังมุ่งมั่นลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมโดยเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนจาก แสงอาทิตย์ (Renewable Energy) และบริหารจัดการขยะให้เป็นศูนย์หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี และ ปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนอย่างเป็นธรรม รวมถึงให้ความสำคัญกับการดูแลพนักงาน โดย คำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน (Human Right) ความเท่าเทียมและความหลากหลายส่งเสริมสุขภาพและความ ปลอดภัยในการทำงาน การวิเคราะห์ การวิเคราะห์ภาพรวมของอุตสาหกรรม การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVIC – 19 ยังเป็นปัญหาต่อเนื่องจากปี2563 และมีความรุนแรงมาก ขึ้นระหว่างในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2564 เมื่อเกิดการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสฯ โดยเฉพาะสายพันธุ์เดลต้าที่มี ความอันตรายมากกว่าสายพันธุ์อื่น และสามารถแพร่กระจายได้ง่ายกว่า เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดฯรัฐบาล จึงได้บังคับใช้มาตรการฉุกเฉินอีกครั้ง บังคับใช้ตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคม ถึงเดือนสิงหาคม 2564 ซึ่งได้เพิ่ม ความเข้มงวดมากกว่ามาตรการที่ประกาศใช้ไปเมื่อปี 2563 จึงส่งให้เกิดผลกระทบต่อบริษัทฯ ในหลายด้าน ทำ ให้บริษัทต้องทำการปิดสาขาชั่วคราว รวมถึงคำสั่งปิดศูนย์การค้าและร้านค้าเช่า ส่งผลกระทบต่อภาพรวม รายได้ของธุรกิจ โดยสาขาที่ได้รับผลกระทบแบ่งเป็นธุรกิจโฮมโปร ราว 20 สาขา ธุรกิจเมกาโฮมราว 4 สาขา และธุรกิจโฮมโปรมาเลเซียทั้งหมด 7 สาขา (ตามมาตรการควบคุมโรคระบาดของประเทศมาเลเซีย) แม้ในส่วน ของสาขาที่ยังสามารถเปิดให้บริการได้ ก็สามารถจำหน่ายสินค้าได้บางประเภทเท่านั้น และยังกระทบต่อ ร้านค้าเช่าในศูนย์การค้า เนื่องจากมาตรการที่เข้มงวดในครั้งนี้ อนุญาตให้ธุรกิจจำหน่ายเฉพาะสินค้าที่จำเป็น ต่อการดำรงชีวิตเท่านั้น จากสถานการณ์ดังกล่าวบริษัทฯ ยังให้ความร่วมมือตามแนวทางของภาครัฐในการควบคุมการแพร่ ระบาดในสถานที่ทำงานด้วยการสนับสนุนให้พนักงานทำงานที่บ้าน โดยหลังจากตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศ ลดลง และจำนวนผู้ได้รับวัคซีนเข็มแรกเพิ่มขึ้น รัฐบาลจึงเริ่มทยอยผ่อนคลายมาตรการบางส่วนในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2564 จึงเป็นช่วงที่บริษัทฯเริ่มสามารถกลับมาเปิดให้บริการทุกสาขาได้ตามปกติ
6 สำหรับในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสฯ บริษัทฯมีแนวทาง 4 ด้าน เพื่อควบคุมและบริหาร จัดการสถานการณ์ ซึ่งประกอบด้วย 1.การดำเนินงานเพื่อตอบสนองอย่างทันท่วงทีต่อสถานการณ์ (Emergency Response) 2.การบริหารจัดการภาวะวิกฤต COVID-19 ของบริษัท (Crisis Managenment) 3.การบรรเทาผลกระทบและดูแลผู้มีส่วนได้เสียอย่างรอบด้านในสถานการณ์วิกฤต (Impact Mitigation And Stakeholder Care during Crisis Situation) และ 4.การวางแผนฟื้นฟูธุรกิจภายหลังสถานการณ์การแพร่ ระบาดของ COVID-19 (Business Recovery after COVID-19) การวิเคราะห์ความเสี่ยงของธุรกิจ ลำดับ ความเสี่ยง ปัจจัยเสี่ยง 1 ความเสี่ยงด้านการดำเนินงาน ความเสี่ยงด้านการขัดแย้งผลประโยชน์ของ กรรมการ ผู้บริหาร และผู้ถือหุ้นรายใหญ 2 ความเสี่ยงด้านการให้สินเชื่อ ความเสี่ยงด้านเครดิตที่เกี่ยวเนื่องกับ ลูกหนี้ การค้า เงินฝากธนาคาร สถาบันการเงิน และ เครื่องมือ ทางการเงินอื่น ๆ 3 ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง ความเสี่ยงการกู้ยืมเงิน 4 ความเสี่ยงด้านการตลาด ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดจากการ นำเข้าสินค้า 5 ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงราคาตลาด ของตราสารทุน ความเสี่ยงการขยายการลงทุนไปยัง ต่างประเทศ การแปลงค่างบการเงิน และเงิน ลงทุนในสกุลเงิน ต่างประเทศ 6 ความเสี่ยงจากความต้องการผันผวนของราคา สินค้า โภคภัณฑ์ ความเสี่ยงการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าโภค ภัณฑ์ที่เปลี่ยนไปตามสภาวะเศรษฐกิจและ สถานการณ์การลงทุน 7 ความเสี่ยงจากกฎหมายและนโยบายภาครัฐ ความเสี่ยงจากนโยบายของบริษัท ฯ ที่ เปลี่ยนแปลง และกำหนดตามระเบียบทาง กฎหมาย
7 การวิเคราะห์โดยใช้ทฤษฎีแรงผลักดันทั้งห้า 1.การแข่งขันภายในอุตสาหกรรม การแข่งขันในธุรกิจค้าปลีกสินค้าวัสดุก่อสร้าง และสินค้าตกแต่งบ้านถือว่ามีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้บริษัทฯและบริษัทที่เป็นคู่แข่งที่เป็นคู่แข่งทางตรงและทางอ้อม ต่างก็ต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ของตน เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ และผลักดันยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายของตน โดยบริษัท โฮม โปรดักส์เซ็น เตอร์ จำกัด (มหาชน) ได้จัดทำแผนการตลาดและหากลยุทธ์ทางการตลาดที่หลากหลายและดำเนินการอย่าง ต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้กระทบต่อยอดขาย และสามารถสร้างยอดขายใหม่เพิ่มขึ้นอีกโดยเน้นไปที่กลุ่มลูกค้า โครงการ และผู้รับเหมามากขึ้น อีกทั้งยังมีการหาทำเลในการตั้งสาขาใหม่ในต่างจังหวัดมากขึ้น เพื่อเจาะตลาด รายย่อยให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และเป็นการสร้างฐานลูกค้าให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อรองรับกับ ภาวการณ์ทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป คู่แข่งขันรายสำคัญของบริษัทฯ คือ โฮมเวิร์ค ภายใต้การบริหารในเครือเซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น ถือว่าเป็นคู่แข่งที่มีศักยภาพสูงมาก และมีกลยุทธ์ทางการตลาดที่สำคัญคล้ายกัน อาทิ เช่น การขยายสาขา อย่างต่อเนื่อง การสร้างความแตกต่างด้านผลิตภัณฑ์ และบริการที่หลากหลาย เป็นต้น ในส่วนการเลือกกลุ่ม ลูกค้านั้น สามารถครอบคลุมความต้องการได้ตั้งแต่กลางลงล่าง ทั้งยังสามารถขยายฐานลูกค้าสู่ตลาดระดับบน ได้อีกด้วย ในส่วนของคู่แข่งทางอ้อมก็จะเป็นผู้ประกอบธุรกิจร้านค้าเฉพาะอย่าง เช่น โฮมมาร์ท บุญถาวร โก ลบอลเฮาท์ ฯลฯ 2.ภัยคุกคามจากคู่แข่งขันรายใหม่ ธุรกิจทุกธุรกิจที่สามารถสร้างกำไรได้ย่อมมีโอกาสที่จะเกิดการเข้ามาของคู่แข่งขันรายใหม่ อีกทั้ง โอกาสทางการตลาดของธุรกิจค้าปลีกสินค้าวัสดุก่อสร้าง และตกแต่งบ้านยังมีศักยภาพและอัตราการเติบโตอีก มาก ประกอบกับอัตราการขยายตัวในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจก่อสร้างยังอยู่ในระดับสูง จึงส่งผลให้ ธุรกิจค้าปลีกสินค้าวัสดุก่อสร้างและตกแต่งบ้าน มีแนวโน้มขยายตัวสูงขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตามการเข้ามาของ คู่แข่งรายใหม่ก็จะมีไม่มากนัก เนื่องจากการลงทุนในการเปิดสาขาแต่ละแห่ง รวมถึงต้นทุนสินค้าส่วนใหญ่จะมี ราคาต่อหน่วยค่อนข้างสูง แต่ที่เห็นได้ชัดเจน คือ กลุ่มเซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น ที่เปิดตัวร้านไทวัสดุให้เข้า มาแข่งขัน นอกจากนี้ก็มีร้านโฮมมาร์ทที่มีพัฒนารูปแบบร้านให้ทันสมัยขึ้นจากเดิมที่ร้านค้าแบบดั้งเดิม (เทรดิชั่นนอลเทรด) ให้กลายมาเป็นร้านค้าช่วงแนวคิดใหม่ เพื่อทำให้ภาพลักษณ์ของร้านค้าวัสดุก่อสร้างมี ความเป็นโมเดิร์นเทรดอย่างชัดเจน เป็นต้น
8 3.อำนาจต่อรองของผู้ขาย จากการที่บริษัทฯทำธุรกิจศูนย์รวมวัสดุก่อสร้าง และอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน มิได้เป็นผู้ผลิตสินค้าเอง ทั้งหมด ส่งผลให้ Supplier ค่อนข้างมีอำนาจในการทำธุรกิจอย่างมาก เพราะหาก Supplier ไม่ส่งสินค้ามา ขายให้บริษัทฯ บริษัทฯจะไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้แต่เนื่องจากการที่บริษัทฯเป็นผู้นำในธุรกิจศูนย์รวมสินค้า ที่ครบวงจรและมีสาขาจำนวนมาก จึงทำให้อำนาจในการต่อรองของผู้ผลิตหรือผู้จัดจำหน่ายส่งผลน้อยมาก โดยบริษัทฯ มีการสั่งซื้อสินค้าจากผู้ผลิตหรือตัวแทนจำหน่ายทั้งภายในและต่างประเทศในการจัดหาสินค้า บริษัทฯมุ่งเน้นด้านคุณภาพ และความหลากหลายของสินค้าเป็นหลักโดยคัดเลือกจากผู้ผลิตและตัวแทน จำหน่ายจำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯได้มีการจัดหาสินค้าจากผู้ผลิตและตัวแทนจำหน่ายจำนวนกว่า 800 ราย และดำเนินงานร่วมกันด้วยดีมาโดยตลอด 4.อำนาจการต่อรองของกลุ่มผู้ซื้อหรือลูกค้า เนื่องจากการแข่งขันในธุรกิจมีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งคู่แข่งทางตรงและทางอ้อม อีกทั้งสินค้า และบริการของผู้ประกอบการแต่ละรายยังมีลักษณะที่คล้ายๆกันและมีคุณภาพที่ใกล้เคียงกันทำให้ผู้บริโภคมี ทางเลือกมากขึ้น ดังนั้นผู้ประกอบการแต่ละรายจึงพยายามหันมาสร้างความแตกต่างให้กับสินค้าและบริการ เพื่อลดอำนาจในการต่อรองจากผู้บริโภค สำหรับบริษัทฯ ก็เช่นกันที่เน้นการตอบสนองการบริการต่างๆให้กับ ลูกค้ามากที่สุด เพื่อให้สามารถแข่งขันกับผู้อื่นได้ เช่น การจัดโปรโมชั่นลด ราคาสินค้า การให้บริการด้าน เครดิต การให้ผ่อนซื้อสินค้า ฯลฯ ซึ่งกลุ่มลูกค้าหลักๆ ของบริษัทส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มรายย่อยที่ซื้อเป็นเงินสด มากกว่ากลุ่มผู้รับเหมาหรือโครงการที่ขายโดยให้เครดิต นอกจากนี้ยังเป็นลูกค้าบ้านเก่าที่มีการขยายตัวอย่าง ต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการซ่อมแซมบำรุงรักษา ตกแต่ง ต่อเติม โดยลูกค้าส่วนใหญ่เป็นลูกค้ารายย่อยและไม่มี รายใดที่มียอดขายเกินกว่าร้อยละ 30 ของยอดขายทั้งหมด ทำให้บริษัทไม่มีความสูญเสียอำนาจการต่อรองกับ ลูกค้า 5. การคุกคามจากสินค้าทดแทนหรือเลียนแบบ สินค้าทดแทนของบริษัทฯ มาจากผู้ประกอบธุรกิจร้านค้าเฉพาะอย่าง (Specialty Store) เช่น ร้านค้า รายย่อยที่เน้น การขายสินค้าเฉพาะอย่าง อาทิ เซรามิคและสุขภัณฑ์, สินค้าเฟอร์นิเจอร์ สินค้าตกแต่งบ้าน สินค้า เครื่องใช้ไฟฟ้ากลุ่มภาพและเสียง เป็นต้น แต่ถ้าเป็นในส่วนของการซื้อสินค้าเกี่ยวกับบ้านหลายๆ อย่าง ก็ยังคงเลือกสินค้าจากโฮมโปร เนื่องมาจากโฮมโปรเป็นศูนย์รวมวัสดุก่อสร้าง และอุปกรณ์ ตกแต่งบ้านที่ครบ วงจร รูปแบบร้านเป็นแบบ Modern tread ที่มีการจัดเรียงสินค้าสวยงามประกอบกับพฤติกรรมของผู้บริโภค ที่เปลี่ยนไป
9 การวิเคราะห์กลยุทธ์ในการแข่งขันของธุรกิจ ธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและสินค้าเกี่ยวกับบ้านยังคงมีศักยภาพเติบโตสูงในอนาคต จากโครงสร้าง พื้นฐานต่าง ๆ ของรัฐบาล อาทิ โครงการปรับปรุงและขยายเส้นทางรถไฟในพื้นที่ต่าง ๆ โครงการทางหลวง พิเศษระหว่างเมืองซึ่งส่งผลให้เกิดการขยายตัวของเมือง รวมถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนที่มีการพัฒนาและ ขยายตัวแบบชุมชนเมืองอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าปีนี้ภาวะตลาดโดยรวมได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ เชื้อไวรัสโคโรนา ส่งผลให้ยอดขายไม่เป็นไปตามเป้าหมาย อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ได้มีการเตรียมพร้อมและ พัฒนาระบบการซื้อขายแบบไร้รอยต่ออย่างต่อเนื่อง รวมถึงการคัดสรรสินค้าเพื่อตอบโจทย์ด้านวิถีใหม่ของ ลูกค้า สอดคล้องกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น กลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพและความปลอดภัย เป็นต้น เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันบริษัทฯ ให้ความสำคัญต่อการให้บริการที่ครบวงจร รวมถึง มุ่งเน้นการนำเสนอสินค้าและบริการผ่านระบบออนไลน์ Social Media และสาขามากขึ้น การลงทุนในระบบ ต่าง ๆ เช่นคลังสินค้าอัตโนมัติ การเพิ่มประสบการณ์ที่ดีในการใช้บริการของลูกค้าและสมาชิก (Loyalty Program) ถือเป็นกลยุทธ์ในการสร้างความแตกต่างระหว่างผู้ประกอบการค้าปลีกแต่ละราย ซึ่งไม่เพียงเน้น เฉพาะตัวสินค้าเท่านั้น แต่รวมถึงการให้บริการที่ครบวงจน ตั้งแต่ออกแบบ ติดตั้ง จนถึงซ่อมแซมและ บำรุงรักษา บริษัทฯจึงเน้นความสำคัญของบริการ Home Service ให้มากขึ้น ซึ่งครอบคลุมบริการตรวจเช็ค ทำความสะอาด เปลี่ยนสุขภัณฑ์ ไปจนถึงทาสีปรับปรุงบ้าน 1.กลยุทธ์การเป็นผู้นำด้านต้นทุน มุ่งเน้นการเป็นผู้นำด้านต้นทุนโดยการสร้างความได้เปรียบจากการประหยัดจากขนาด Economy of Scale โดยมีการพัฒนาระบบ Vender Relationship Management ที่ใช้ในการสั่งสินค้าของบริษัทฯ โดย เชื่อมโยงระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัทกับของผู้ผลิตและผู้จำหน่ายสินค้า ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น หากบริษัท เป็นผู้นำทางด้านต้นทุนได้ก็จะทำให้สามารถลดราคาเพื่อแข่งขันกับคู่แข่งได้ 2.กลยุทธ์การสร้างความแตกต่าง เน้นสร้างความแตกต่างให้กับสินค้า และบริการ ตั้งแต่การสร้างและพัฒนาบุคลากรให้มีคุณภาพ ตลอดจนเน้นความหลากหลายของสินค้า และบริการ ทั้งแนวลึก แนวกว้าง เพื่อให้ทันต่อความต้องการของ ผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ในส่วนของรูปแบบสาขานั้น มีการพัฒนาให้แตกต่างจากคู่แข่ง เช่น รูปแบบการจัดเรียงสินค้า นอกจากนี้ยังการเปิดพื้นที่ให้ร้านค้าเช่า เช่น ธนาคาร ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้าน หนังสือ เป็นต้น
10 3.กลยุทธ์การมุ่งสร้างความแตกต่าง เป็นกลยุทธ์ที่เน้นสร้างความแตกต่าง ด้วยการนำเสนอสินค้า และบริการที่ตรงต่อความต้องการของ ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ซึ่งจะเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าโครงการและผู้รับเหมามากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนเพียงแค่ 20% ของลูกค้าทั้งหมดของบริษัท โดยการจัดหาสินค้าให้ตรงกับความต้องการมีความครบถ้วนในส่วนของวัสดุ ก่อสร้าง สินค้าเพื่อการซ่อมแซม ต่อเติมบ้าน และบริการต่างๆ ที่มีความหลากหลาย เพราะตลาดของกลุ่มนี้ เป็นตลาดที่ใหญ่ มีอัตราการเติบโตสูงและช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้กับบริษัทเพิ่มมากขึ้น เนื่องจาก มูลค่าของการซื้อสินค้าต่อครั้งนั้นมีมูลค่าที่ค่อนข้างสูง รายงานของผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เสนอต่อผู้ถือหุ้นของบริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ความเห็น ข้าพเจ้าได้ตรวจสอบงบการเงินรวมของบริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)และบริษัท ย่อย (“กลุ่ม บริษัท”) ซึ่งประกอบด้วยงบแสดงฐานะการเงินรวม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 งบกำไรขาดทุน เบ็ดเสร็จรวม งบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของผู้ถือหุ้นรวมและงบกระแสเงินสดรวม สำหรับปี สิ้นสุดวัน เดียวกัน และหมาย เหตุ ประกอบงบการเงินรวม รวมถึงหมายเหตุสรุปนโยบายการบัญชีที่สำคัญ และได้ ตรวจสอบงบการเงิน เฉพาะกิจการ ของบริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ด้วยเช่นกัน ข้าพเจ้าเห็นว่างบการเงินข้างต้นนี้แสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 31ธันวาคม 2564 ผลการดำเนินงานและกระแส เงินสด สำหรับปี สิ้นสุดวันเดียวกันของบริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)และบริษัทย่อย และ เฉพาะของบริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)โดยถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐาน การรายงานทางการเงิน เกณฑ์ในการแสดงความเห็น ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติงานตรวจสอบตามมาตรฐานการสอบบัญชี ความรับผิดชอบของข้าพเจ้าได้กล่าวไว้ในวรรค ความรับผิดชอบของผู้สอบบัญชีต่อการตรวจสอบงบการเงินในรายงานของข้าพเจ้า ข้าพเจ้ามีความเป็นอิสระ จาก กลุ่มบริษัทตามข้อกำหนดจรรยาบรรณของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีที่กำหนดโดยสภาวิชาชีพบัญชีในส่วนที่ เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบงบการเงิน และข้าพเจ้าได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านจรรยาบรรณอื่นๆ ตามที่ระบุ ในข้อกำหนดนั้นด้วยข้าพเจ้าเชื่อว่าหลักฐานการสอบบัญชีที่ข้าพเจ้าได้รับเพียงพอและเหมาะสมเพื่อใช้เป็น เกณฑ์ในการแสดงความเห็นของข้าพเจ้า
11 เรื่องสำคัญในการตรวจสอบ เรื่องสำคัญในการตรวจสอบคือเรื่องต่างๆ ที่มีนัยสำคัญที่สุดตามดุลยพินิจเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพของข้าพเจ้าใน การตรวจสอบงบการเงินสำหรับงวดปัจจุบัน ข้าพเจ้าได้นำเรื่องเหล่านี้มาพิจารณาในบริบทของการตรวจสอบ งบการเงินโดยรวมและในการแสดงความเห็นของข้าพเจ้า ทั้งนี้ข้าพเจ้าไม่ได้แสดงความเห็นแยกต่างหาก สำหรับเรื่องเหล่านี้ ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติงานตามความรับผิดชอบที่ได้กล่าวไว้ในวรรคความรับผิดชอบของผู้สอบบัญชีต่อการ ตรวจสอบ งบการเงินในรายงานของข้าพเจ้า ซึ่งได้รวมความรับผิดชอบที่เกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ด้วย การ ปฏิบัติงานของข้าพเจ้าได้รวมวิธีการตรวจสอบที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อการประเมินความเสี่ยงจากการ แสดงข้อมูลที่ขัดต่อข้อเท็จจริง อันเป็นสาระสำคัญในงบการเงิน ผลของวิธีการตรวจสอบของข้าพเจ้า ซึ่งได้รวม วิธีการตรวจสอบสำหรับเรื่องเหล่านี้ด้วย ได้ใช้เป็นเกณฑ์ในการแสดงความเห็น ของข้าพเจ้าต่องบการเงิน โดยรวม เรื่องสำคัญในการตรวจสอบ พร้อมวิธีการตรวจสอบสำหรับแต่ละเรื่องมีดังต่อไปนี้การรับรู้รายได้จากการขาย เนื่องจากรายได้จากการขายที่กลุ่มบริษัทรับรู้ในแต่ละงวดมีจำนวนเงินที่มีสาระสำคัญเมื่อเปรียบเทียบกับ รายได้รวม รวมถึงลักษณะการประกอบธุรกิจค้าปลีกของกลุ่มบริษัทที่มีสาขาจำนวนมาก ดังนั้น ข้าพเจ้าจึง พิจารณาเป็นเรื่องสำคัญในการตรวจสอบในระยะเวลาในการรับรู้รายได้จากการขาย โดยนโยบายการบัญชี เรื่องการรับรู้รายได้จากการขายได้เปิดเผยไว้ในหมายเหตุประกอบงบการเงินรวมข้อ 4.1 ข้าพเจ้าได้ตรวจสอบการรับรู้รายได้จากการขายของกลุ่มบริษัท ซึ่งรวมถึง • ประเมินและทดสอบการควบคุมทั่วไปของระบบสารสนเทศและระบบการควบคุมภายในของกลุ่ม บริษัท ที่เกี่ยวข้องกับวงจรรายได้จากการขาย • สุ่มตัวอย่างเอกสารประกอบรายการขายเพื่อตรวจสอบการรับรู้รายได้จากการขายว่าสอดคล้องกับ นโยบาย การรับรู้รายได้ของกลุ่มบริษัท และสุ่มตรวจสอบเอกสารประกอบรายการขายที่เกิดขึ้นในระหว่างปี และ ช่วงใกล้สิ้นรอบระยะเวลาบัญชี • วิเคราะห์เปรียบเทียบข้อมูลบัญชีรายได้จากการขายแบบแยกย่อยสำหรับรายการขายตลอดรอบ ระยะเวลาบัญชี ค่าเผื่อการลดลงของมูลค่าสินค้าคงเหลือ ในการประมาณค่าเผื่อการลดลงของมูลค่าสินค้าคงเหลือตามที่เปิดเผยไว้ในหมายเหตุประกอบงบการเงินรวม ข้อ 5 และข้อ 9 จำเป็นต้องใช้ดุลยพินิจที่สำคัญของฝ่ายบริหาร โดยเฉพาะอย่างยิงการประมาณการค่าเผื่อการ ลดลงของมูลค่าสินค้าคงเหลืออันเนื่องมาจากการสูญหาย เสื่อมสภาพ หรือล้าสมัย ข้าพเจ้าได้ประเมินการ พิจารณาค่าเผื่อการลดลงของมูลค่าสินค้าคงเหลือ โดยทำการตรวจสอบซึ่งรวมถึง
12 • ทำความเข้าใจและประเมินวิธีการและสมมติฐานที่ฝ่ายบริหารใช้ในการพิจารณาค่าเผื่อการลดลง ของมูลค่า สินค้าคงเหลือ รวมถึงสอบทานความสม่ำเสมอของการใช้เกณฑ์ดังกล่าว • วิเคราะห์เปรียบเทียบข้อมูลระยะเวลาการถือครองและการเคลื่อนไหวของสินค้าคงเหลือเพื่อระบุถึง กลุ่มสินค้า ที่มีข้อบ่งชี้ว่ามีการหมุนเวียนของสินค้าที่ช้ากว่าปกติ • วิเคราะห์เปรียบเทียบในรายละเอียดสำหรับรายการขายภายหลังวันที่ในงบการเงินเปรียบเทียบกับ ราคาทุนของ สินค้าคงเหลือแต่ละกลุ่มสินค้าและสุ่มตรวจสอบกับเอกสารที่เกี่ยวข้อง ข้อมูลอื่น ผู้บริหารเป็นผู้รับผิดชอบต่อข้อมูลอื่น ซึ่งรวมถึงข้อมูลที่รวมอยู่ในรายงานประจำปี ของกลุ่มบริษัท (แต่ไม่ รวมถึง งบการเงินและรายงานของผู้สอบบัญชีที่แสดงอยู่ในรายงานนั้น) ซึ่งคาดว่าจะถูกจัดเตรียมให้กับข้าพเจ้า ภายหลัง วันที่ในรายงานของผู้สอบบัญชีนี้ ความเห็นของข้าพเจ้าต่องบการเงินไม่ครอบคลุมถึงข้อมูลอื่นและข้าพเจ้าไม่ได้ให้ข้อสรุปในลักษณะการให้ ความเชื่อมันในรูปแบบใดๆ ต่อข้อมูลอื่นนั้น ความรับผิดชอบของข้าพเจ้าที่เกี่ยวเนื่องกับการตรวจสอบงบการเงินคือ การอ่านและพิจารณาว่าข้อมูลอื่นนั้นมี ความขัดแย้งที่มีสาระสำคัญกับงบการเงินหรือกับความรู้ที่ได้รับจากการตรวจสอบของข้าพเจ้าหรือไม่ หรือ ปรากฏ ว่าข้อมูลอื่นแสดงขัดต่อข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญหรือไม่ เมื่อข้าพเจ้าได้อ่านรายงานประจำปี ของกลุ่มบริษัทตามที่กล่าวข้างต้นแล้ว และหากสรุปได้ว่ามีการแสดง ข้อมูล ที่ขัดต่อข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญ ข้าพเจ้าจะสื่อสารเรื่องดังกล่าวให้ผู้มีหน้าที่ในการกำกับดูแล ทราบเพื่อให้มีการดำเนินการแก้ไขที่เหมาะสมต่อไป ความรับผิดชอบของผู้บริหารและผู้มีหน้าที่ในการกำกับดูแลต่องบการเงิน ผู้บริหารมีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดทำและนำเสนองบการเงินเหล่านี้โดยถูกต้องตามที่ควรตามมาตรฐานการ รายงานทางการเงิน และรับผิดชอบเกี่ยวกับการควบคุมภายในที่ผู้บริหารพิจารณาว่าจำเป็นเพื่อให้สามารถ จัดทำงบการเงินที่ปราศจากการแสดงข้อมูลที่ขัดต่อข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญไม่ว่าจะเกิดจากการทุจริต
13 ข้อผิดพลาด ในการจัดทำงบการเงิน ผู้บริหารรับผิดชอบในการประเมินความสามารถของกลุ่มบริษัทในการดำเนินงาน ต่อเนื่อง การเปิดเผยเรื่องที่เกี่ยวกับการดำเนินงานต่อเนื่องในกรณีที่มีเรื่องดังกล่าว และการใช้เกณฑ์การบัญชี สำหรับกิจการ ที่ดำเนินงานต่อเนื่องเว้นแต่ผู้บริหารมีความตั้งใจที่จะเลิกกลุ่มบริษัทหรือหยุดดำเนินงานหรือไม่ สามารถ ดำเนินงานต่อเนื่องอีกต่อไปได้ผู้มีหน้าที่ในการกำกับดูแลมีหน้าที่ในการสอดส่องดูแลกระบวนการใน การจัดทำรายงานทางการเงินของ กลุ่มบริษัท ความรับผิดชอบของผู้สอบบัญชีต่อการตรวจสอบงบการเงิน การตรวจสอบของข้าพเจ้ามีวัตถุประสงค์เพื่อให้ได้ความเชื่อมันอย่างสมเหตุสมผลว่างบการเงินโดยรวม ปราศจากการแสดงข้อมูลที่ขัดต่อข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญหรือไม่ ไม่ว่าจะเกิดจากการทุจริตหรือ ข้อผิดพลาด และ เสนอรายงานของผู้สอบบัญชีซึ่งรวมความเห็นของข้าพเจ้าอยู่ด้วย ความเชื่อมันอย่าง สมเหตุสมผลคือความเชื่อมั่น ในระดับสูงแต่ไม่ได้เป็นการรับประกันว่าการปฏิบัติงานตรวจสอบตามมาตรฐาน การสอบบัญชีจะสามารถตรวจ พบข้อมูลที่ขัดต่อข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญที่มีอยู่ได้เสมอไป ข้อมูลที่ขัดต่อ ข้อเท็จจริงอาจเกิดจากการทุจริต หรือข้อผิดพลาดและถือว่ามีสาระสำคัญเมื่อคาดการณ์อย่างสมเหตุสมผลได้ ว่ารายการที่ขัดต่อข้อเท็จจริงแต่ละ รายการหรือทุกรายการรวมกันจะมีผลต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจของ ผู้ใช้งบการเงินจากการใช้งบการเงิน เหล่านี้ ในการตรวจสอบของข้าพเจ้าตามมาตรฐานการสอบบัญชี ข้าพเจ้าใช้ดุลยพินิจและการสังเกตและสงสัยเยี่ยง ผู้ ประกอบวิชาชีพตลอดการตรวจสอบ และข้าพเจ้าได้ปฏิบัติงานดังต่อไปนี้ด้วย • ระบุและประเมินความเสี่ยงที่อาจมีการแสดงข้อมูลที่ขัดต่อข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญในงบ การเงิน ไม่ว่าจะเกิดจากการทุจริตหรือข้อผิดพลาด ออกแบบและปฏิบัติงานตามวิธีการตรวจสอบเพื่อ ตอบสนอง ต่อความเสี่ยงเหล่านั้น และได้หลักฐานการสอบบัญชีที่เพียงพอและเหมาะสมเพื่อเป็นเกณฑ์ในการ แสดง ความเห็นของข้าพเจ้า ความเสี่ยงที่ไม่พบข้อมูลที่ขัดต่อข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญซึ่งเป็นผลมาจาก การทุจริตจะสูงกว่าความเสี่ยงที่เกิดจากข้อผิดพลาด เนื่องจากการทุจริตอาจเกี่ยวกับการสมรู้ร่วมคิด การ ปลอมแปลงเอกสารหลักฐาน การตั้งใจละเว้นการแสดงข้อมูล การแสดงข้อมูลที่ไม่ตรงตามข้อเท็จจริง หรือการ แทรกแซงการควบคุมภายใน • ทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบการควบคุมภายในที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบ เพื่อออกแบบวิธีการ ตรวจสอบให้เหมาะสมกับสถานการณ์ แต่ไม่ใช่เพื่อวัตถุประสงค์ในการแสดงความเห็นต่อความมีประสิทธิผล ของการ ควบคุมภายในของกลุ่มบริษัท • ประเมินความเหมาะสมของนโยบายการบัญชีที่ผู้บริหารใช้และความสมเหตุสมผลของประมาณการ ทางบัญชีและการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องที่ผู้บริหารจัดทำ
14 • สรุปเกี่ยวกับความเหมาะสมของการใช้เกณฑ์การบัญชีสำหรับกิจการที่ดำเนินงานต่อเนื่องของ ผู้บริหาร และ สรุปจากหลักฐานการสอบบัญชีที่ได้รับว่ามีความไม่แน่นอนที่มีสาระสำคัญที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ หรือ สถานการณ์ที่อาจเป็นเหตุให้เกิดข้อสงสัยอย่างมีนัยสำคัญต่อความสามารถของกลุ่มบริษัทในการ ดำเนินงาน ต่อเนื่องหรือไม่ หากข้าพเจ้าได้ข้อสรุปว่ามีความไม่แน่นอนที่มีสาระสำคัญ ข้าพเจ้าจะต้องให้ ข้อสังเกตไว้ใน รายงานของผู้สอบบัญชีของข้าพเจ้าถึงการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องในงบการเงิน หรือหากเห็น ว่าการเปิดเผย ดังกล่าวไม่เพียงพอ ข้าพเจ้าจะแสดงความเห็นที่เปลี่ยนแปลงไป ข้อสรุปของข้าพเจ้าขึ้นอยู่กับ หลักฐานการ สอบบัญชีที่ได้รับจนถึงวันที่ในรายงานของผู้สอบบัญชีของข้าพเจ้า อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์หรือ สถานการณ์ในอนาคตอาจเป็นเหตุให้กลุ่มบริษัทต้องหยุดการดำเนินงานต่อเนื่องได้ • ประเมินการนำเสนอ โครงสร้างและเนื้อหาของงบการเงินโดยรวม รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลที่ เกี่ยวข้อง ตลอดจนประเมินว่างบการเงินแสดงรายการและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยถูกต้องตามที่ควรหรือไม่ • รวบรวมเอกสารหลักฐานการสอบบัญชีที่เหมาะสมอย่างเพียงพอเกี่ยวกับข้อมูลทางการเงินของ กิจการหรือ ของกิจกรรมทางธุรกิจภายในกลุ่มบริษัทเพื่อแสดงความเห็นต่องบการเงินรวม ข้าพเจ้ารับผิดชอบ ต่อการ กำหนดแนวทาง การควบคุมดูแล และการปฏิบัติงานตรวจสอบกลุ่มบริษัท ข้าพเจ้าเป็นผู้รับผิดชอบแต่ เพียง ผู้เดียวต่อความเห็นของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าได้สื่อสารกับผู้มีหน้าที่ในการกำกับดูแลในเรื่องต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงขอบเขตและช่วงเวลาของการ ตรวจสอบ ตามที่ได้วางแผนไว้ ประเด็นที่มีนัยสำคัญที่พบจากการตรวจสอบรวมถึงข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญใน ระบบการ ควบคุมภายในหากข้าพเจ้าได้พบในระหว่างการตรวจสอบของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าได้ให้คำรับรองแก่ผู้มีหน้าที่ในการกำกับดูแลว่าข้าพเจ้าได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดจรรยาบรรณที่เกี่ยวข้อง กับ ความเป็นอิสระและได้สื่อสารกับผู้มีหน้าที่ในการกำกับดูแลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทั้งหมดตลอดจนเรื่องอื่น ซึ่ง ข้าพเจ้าเชื่อว่ามีเหตุผลที่บุคคลภายนอกอาจพิจารณาว่ากระทบต่อความเป็นอิสระของข้าพเจ้าและ มาตรการที่ ข้าพเจ้าใช้เพื่อป้องกันไม่ให้ข้าพเจ้าขาดความเป็นอิสระ จากเรื่องทั้งหลายที่สื่อสารกับผู้มีหน้าที่ใน การกำกับดูแล ข้าพเจ้าได้พิจารณาเรื่องต่างๆ ที่มีนัยสำคัญที่สุดใน การตรวจสอบงบการเงินในงวดปัจจุบันและ กำหนดเป็นเรื่องสำคัญในการตรวจสอบ ข้าพเจ้าได้อธิบายเรื่อง เหล่านี้ไว้ในรายงานของผู้สอบบัญชี เว้นแต่ กฎหมายหรือข้อบังคับห้ามไม่ให้เปิดเผยเรื่องดังกล่าวต่อสาธารณะ หรือ ในสถานการณ์ที่ยากที่จะเกิดขึ้น ข้าพเจ้าพิจารณาว่าไม่ควรสื่อสารเรื่องดังกล่าวในรายงานของข้าพเจ้า เพราะ การกระทำดังกล่าวสามารถ คาดการณ์ได้อย่างสมเหตุสมผลว่าจะมีผลกระทบในทางลบมากกว่า ผลประโยชน์ที่ผู้มีส่วนได้เสียสาธารณะจะ ได้จากการสื่อสารดังกล่าว ข้าพเจ้าเป็นผู้รับผิดชอบงานสอบบัญชีและการนำเสนอรายงานฉบับนี้
15 กิ่งกาญจน์ อัศวรังสฤษฎ์ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เลขทะเบียน 4496 บริษัท สำนักงาน อีวาย จำกัด กรุงเทพฯ: 22 กุมภาพันธ์2565
16 บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) วิเคราะห์นโยบายการบัญชีและการเปิดเผยข้อมูล บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) รายการที่ 1 นโยบายการบัญชีและการเปิดเผยข้อมูลเงินสดและรายการเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด จากหมายเหตุประกอบงบการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) นโยบายการบัญชีที่สำคัญ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย งบแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 งบการเงินรวม หมายเหตุ 2564 2563 สินทรัพย์ สินทรัพย์หมุนเวียน เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 6, 7 4,545,966,294 3,282,691,097 จากรายงานทางการเงินงบแสดงฐานะการเงินในรายการเงินสดและเทียบเท่าเงินสดอธิบายในหมาย เหตุได้ดังนี้ 1. เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด หมายถึง เงินสดและเงินฝากธนาคารและเงินลงทุนระยะสั้นที่ มี สภาพคล่องสูงซึ่งถึงกำหนดจ่ายคืนภายในระยะเวลาไม่เกิน 3 เดือน นับจากวันที่ได้มาและไม่มีข้อจำกัดในการ เบิกใช้ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) แสดงนโยบายการบัญชีและการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับ เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดในหมายเหตุประกอบงบการเงิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564
17 เงินฝากออมทรัพย์และเงินฝากประจำ มีอัตราดอกเบี้ยระหว่างร้อยละ 0.05 - 0.15 ต่อปี (2563 ร้อยละ 0.05 -1.00 ต่อปี) จากการวิเคราะห์เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดในงบการเงินรวม ปี 2564 มียอดรวม 4,545,966 พันบาท ประกอบด้วยรายการ เงินสด 114,264 พันบาท เงินฝากธนาคาร 530,055 พันบาท ส่วนใหญ่จะมา จากเงินฝากประจำ 3,901,647 พันบาท ซึ่งมากกว่าในปี 2563 มียอดรวม 3,282,691 พันบาท โดยบริษัท ฯ มี การเปิดเผยข้อมูลงบการเงินตามที่กฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และลาดหลักทรัพย์ ข้อกำหนดของตลาด หลักทรัพย์หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท ฯ และได้เปิดเผยตามมาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 7 เรื่องงบกระแสเงินสด รายการที่ 2 นโยบายการบัญชีและการเปิดเผยข้อมูลลูกหนี้การค้าและลูกหนี้อื่น จากหมายเหตุประกอบงบ การเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) นโยบายการบัญชีที่สำคัญ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย งบแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 งบการเงินรวม หมายเหตุ 2564 2563 สินทรัพย์ สินทรัพย์หมุนเวียน ลูกหนี้การค้าและลูกหนี้อื่น 6, 8 1,674,873,282 1,769,383,413 จากรายงานทางการเงินงบแสดงฐานะทางการเงินในรายการลูกหนี้การค้าและลูกหนี้อื่นอธิบายใน หมายเหตุได้ดังนี้ 2. ลูกหนี้การค้าและลูกหนี้อื่น ลูกหนี้การค้า หมายถึง ลูกหนี้ที่เกิดจากการดำเนินการค้าตามปกติของธุรกิจและจะมีชื่อบัญชีแตกต่าง กันได้ตามประเภทของธุรกิจ ลูกหนี้อื่น หมายถึง ลูกหนี้ที่ไม่ได้เกิดจากการดำเนินการค้าตามปกติของธุรกิจ
18
19 บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) แสดงนโยบายการบัญชีและการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับ ลูกหนี้การค้าและลูกหนี้อื่นในหมายเหตุประกอบงบการเงิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ลูกหนี้อื่น ส่วนใหญ่ประกอบด้วยลูกหนี้ที่เกิดจากการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนการขายและลูกหนี้จากการ ให้เข้ากับพื้นที่และบริการอื่นที่เกี่ยวข้อง จากการวิเคราะห์เงินสดและรายการลูกหนี้การค้าและลูกหนี้อื่นในงบการเงินรวม ปี 2564 มียอดรวม เท่ากับ 1,674,873 พันบาท ประกอบด้วย ลูกหนี้การค้า เท่ากับ 166,849 พันบาท รายได้ค้างรับ เท่ากับ 5,602 ส่วนใหญ่มากจากลูกหนี้อื่น เท่ากับ 1,502,422 พันบาท ซึ่งมียอดรวมลูกการค้าและลูกหนี้อื่นน้อยกว่า ปี 2563
20 เท่ากับ 1,769,383 พันบาท โดยบริษัท " มีการเปิดผยข้อมูลงบการเงินตามที่กฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และ ตลาดหลักทรัพย์ ข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท ฯ และได้เปิดเผยตามมาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 101 เรื่อง หนี้สงสัยจะสูญและหนี้สูญ รายการที่ 3 นโยบายการบัญชีและการเปิดเผยข้อมูลสินค้าคงเหลือ จากหมายเหตุประกอบงบการเงินสำหรับ ปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) นโยบายการบัญชีที่สำคัญ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย งบแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 งบการเงินรวม หมายเหตุ 2564 2563 สินทรัพย์ สินทรัพย์หมุนเวียน สินค้าคงเหลือ 9 12,572,201,544 10,344,559,763 จากรายงานทางการเงินงบแสดงฐานะทางการเงินในรายการสินค้าคงเหลืออธิบายในหมายเหตุได้ดังนี้ 3. สินค้าคงเหลือ สินค้าคงเหลือแสดงมูลค่าตามราคาทุน (ตามวิธีถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก) หรือมูลค่าสุทธิที่จะได้รับแล้วแต่ ราคาใดจะต่ำกว่าส่วนลดรับจากปริมาณการซื้อซึ่งกลุ่มบริษัทได้รับจากผู้ขาย จะบันทึกลดมูลค่าของสินค้า ที่เกี่ยวข้องและรับรู้ในส่วนของกำไรหรือขาดทุนเมื่อสินค้านั้นขายได้
21 บริษัท โฮม โปรตักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) แสดงนโยบายการบัญชีและการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า คงเหลือในระหว่างปีปัจจุบันกลุ่มบริษัทบันทีกการปรับลดราคาทุนของสินค้าคงเหลือให้เป็นมูลคำสุทธิที่จะ ได้รับเป็นจำนวน 106 ล้านบาท (2563 : 103 ล้านบาท) (เฉพาะบริษัท ฯ : 84 ล้านบาท 2563 : 81 ล้านบาท) โดยแสดงเป็นส่วนหนึ่งของค่าใช้จ่ายในการบริหรและมีการกลับรายการปรับลดมูลค่าคงเหลือเป็นจำนวน 46 ล้านบาท (2563 : 82 ล้านบาท) (เฉพาะบริษัท ฯ : 85 ล้านบาท 2563 : 68 ล้านบาท) โดยนำไปหักจากมูลค่า ของสินค้าคงเหลือที่รับรู้เป็นคำใช้จ่ายในระหว่างปี จากการวิเคราะห์รายการสินค้าคงเหลือในงบการเงินรวม ปี 2564 มียอดสินค้าคงเหลือสุทธิ เท่ากับ 12,572,202 พันบาท ซึ่งมากกว่า ปี 2563 เท่ากับ 10,344,560 พันบาท หักจากสินค้าที่จ่ายชำระค่าสินค้าเมื่อ ขายและส่วนลดจากการซื้อสินค้า โดยบริษัท ฯ มีการเปิดเผยข้อมูลงบการเงินตามที่กฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ ข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท ฯ และได้เปิดเผยตามมาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 2 เรื่อง สินค้าคงเหลือ
22 รายการที่ 4 นโยบายการบัญชีและการเปิดเผยข้อมูลสินทรัพย์หมุนเวียนอื่น จากหมายเหตุประกอบงบการเงิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) นโยบายการบัญชีที่สำคัญ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย งบแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 งบการเงินรวม หมายเหตุ 2564 2563 สินทรัพย์ สินทรัพย์หมุนเวียน สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น 10 126,821,349 109,273,477 จากรายงานทางการเงินงบแสดงฐานะทางการเงินในรายการสินทรัพย์หมุนเวียนอื่นอธิบายในหมาย เหตุได้ดังนี้ 4. สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น หมายถึง ค่าใช้จ่ายล่วงหน้า ภาษีซื้อรอใบกำกับภาษี อื่นๆ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) แสดงนโยบายการบัญชีและการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับ สินทรัพย์หมุนเวียนอื่นในหมายเหตุประกอบงบการเงิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายล่วงหน้า ภาษีซื้อรอใบกำกับภาษี และอื่นๆ จากการวิเคราะห์รายการสินทรัพย์หมุนเวียนอื่นในงบการเงินรวม ปี 2564 มียอดสินทรัพย์หมุนเวียน อื่นสุทธิ เท่ากับ 126,821 พันบาท ซึ่งมากกว่า ปี 2563 เท่ากับ 109,273 พันบาท โดยบริษัท ฯ มีการเปิดเผย ข้อมูลงบการเงินตามที่กฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์หรือ
23 กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท ฯ และได้เปิดเผยตามมาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 1 เรื่อง การนำเสนองบการเงิน รายการที่ 5 นโยบายการบัญชีและการเปิดเผยข้อมูลเงินลงทุนในบริษัทย่อยจากหมายเหตุประกอบงบการเงิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) นโยบายการบัญชีที่สำคัญ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย งบแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 สินทรัพย์ สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน เงินลงทุนในบริษัทย่อย 11 - - จากรายการทางการเงินงบแสดงฐานะการเงินในรายการเงินลงทุนในบริษัทย่อยอธิบายในหมายเหตุได้ ดังนี้ 5. เงินลงทุนในบริษัทย่อย เงินลงทุนในบริษัทย่อย หมายถึง เงินลงทุนในตราสารทุนของกิจการ ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้ ลงทุน (ซึ่งเป็นบริษัทใหญ่) ทั้งนี้ความหมายของการควบคุมให้เป็นไปตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินส หรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้สาธารณะ
24 บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) แสดงนโยบายการบัญชีและการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับเงิน ลงทุนในบริษัทย่อยในหมายเหตุประกอบงบการเงิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ในระหว่างปี มี การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของเงินลงทุนในบริษัทย่อย ดังนี้ Home Product Center (Malaysia) Sdn. Bhd. ในเดือนธันวาคม 2564 Home Product Center (Malaysia) Sdn. Bhd.ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นในอัตราร้อยละ 100.00 มีมติอนุมัติโครงการแปลงหนี้สินจากบริษัทฯเป็นทุนจำนวน 21. ล้านบาท (2.8 ล้านมาเลเชียริงกิต) โดยบริษัทย่อยจะออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บริษัท ฯเป็นจำนวนเดียวกัน ("ธุรกรรม") โดย เมื่อธุรกรรมเสร็จสิ้นจะทำให้บริษัทย่อยมีทุนจดทะเบียนเพิ่มขึ้นจากเดิมจำนวน 516.8 ล้านบาท (59.0 ล้าน มาเลเซียริงกิต) เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 538.4 ล้านบาท (61.8 ล้านมาเลเซียริงกิต) อย่างไรก็ตาม ธุรกรรมนี้ไม่มีผลทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทฯในบริษัทย่อยเปลี่ยนแปลง โดยบริษัทย่อยดำเนินขั้นตอน ตามกฎหมายเสร็จสิ้นแล้วสำหรับธุรกรรมนี้เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2564 Home Product Center Viet Nam Company Limited เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 ที่ประ ชุมคณะกรรมการบริษัทฯมีมติอนุมัติการเข้าลงทุนในบริษัท Home Product Center Viet Nam Company Limited ร้อยละ 100 เพื่อดำเนินธุรกิจค้าปลีกในประเทศ เวียดนาม โดยบริษัทดังกล่าวมีทุนจดทะเบียนจำนวน 23,100 ล้านดองเวียดนาม หรือ 1 ล้านเหรียญ สหรัฐอเมริกาบริษัทจ่ายชำระเงินลงทุนดังกล่าวในเดือนมกราคม 2564 จากการวิเคราะห์รายการเงินลงทุนในบริษัทย่อยในงบการเงินรวม ปี 2564 มียอดรวมราคาทุน
25 2,078,288 พันบาท หักค่าเผื่อการด้อยค่าของเงินลงทุน 50,199 พันบาท ทำให้เงินลงทุนในบริษัทย่อยมีเงิน ลงทุนสุทธิ เท่ากับ 2,028,089 พันบาท ซึ่งมากกว่าปี 2563 เท่ากับ 1,945,646 พันบาท โดยบริษัท ฯ มีการ เปิดเผยข้อมูลงบการเงินตามที่กฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และลาดหลักทรัพย์ ข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์ หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท ฯ และได้เปิดเผยตามมาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 105 เรื่อง การบัญชีสำหรับการลงทุนในตราสารหนี้และตราสารทุน รายการที่ 6 นโยบายการบัญชีและการเปิดเผยข้อมูลอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนจากหมายเหตุประกอบงบ การเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) นโยบายการบัญชีที่สำคัญ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย งบแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 สินทรัพย์ สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน 12 3,674,704,338 3,880,053,315 จากรายการทางการเงินงบแสดงฐานะการเงินในรายการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนอธิบายใน หมายเหตุได้ดังนี้ 6. อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน หมายถึง อสังหาริมทรัพย์(ที่ดิน หรืออาคาร พร้อมทั้ง ส่วนควบของ ที่ดินหรืออาคาร) ที่กิจการมีไว้เพื่อหาประโยชน์จากรายได้ค่าเช่า หรือจากการเพิ่มขึ้นของ มูลค่าสินทรัพย์หรือ ทั้งสองอย่าง
26
27 มูลค่ายุติธรรม มูลค่ายุติธรรมประเมินโดยผู้ประเมินราคาอิสระโดยใช้เกณฑ์วิธีพิจารณาจากรายได้ ( Income Approach) สำหรับที่ดิน อาคาร และสินทรัพย์สิทธิการใช้ให้เช่า ข้อสมมติฐานหลักที่ใช้ในการประเมินมูลค่า ยุติธรรมของสินทรัพย์ดังกล่าวประกอบด้วย อัตราผลตอบแทน อัตราเงินเฟ้อ อัตราการเช่าพื้นที่ และอัตราการ เติบโตระยะยาวของค่าเช่า จากการวิเคราะห์บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) แสดงนโยบายการบัญชีและการ เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับรายการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนในงบการเงินรวม ปี 2564 มีมูลค่าสุทธิตามบัญชี รวม เท่ากับ 3,674,704 พันบาท มีรายละเอียดดังนี้ ที่ดินและส่วนปรับปรุงที่ดิน เท่ากับ 150,000 พันบาท อาคารและอุปกรณ์ เท่ากับ 2,799,039 พันบาท สินทรัพย์สิทธิการใช้ที่ดินให้เช่า เท่ากับ 724,440 พันบาท สินทรัพย์ระหว่างติดตั้งและก่อสร้าง เท่ากับ 1,225 พันบาท ซึ่งน้อยกว่าปี 2563 เท่ากับ 3,880,053 พันบาท โดยบริษัท ฯ มีการเปิดเผยข้อมูลงบการเงินตามที่กฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ข้อกำหนด ของตลาดหลักทรัพย์หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท ฯ และได้เปิดเผยตามมาตรฐาน การบัญชีฉบับที่ 40 เรื่อง อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน
28 รายการที่ 7 นโยบายการบัญชีและการเปิดเผยข้อมูลที่ อาคารและอุปกรณ์จากหมายเหตุประกอบงบการเงิน สำหรับปีสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) นโยบายการบัญชีที่สำคัญ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย งบแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 จากรายงานทางการเงินงบแสดงฐานะทางการเงินในรายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์อธิบาย ใน หมายเหตุได้ดังนี้ 7. ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ ที่ดินแสดงมูลค่าตามราคาทุน อาคารและอุปกรณ์แสดงตามมูลค่าตามราคาทุนหักค่าเสื่อมราคาสะสม และค่าเผื่อการด้อยค่าของสินทรัพย์ (ถ้ามี) ค่าเสื่อมราคาของอาคารและอุปกรณ์คำนวณราคาทุนโดยวิธีเส้นตรงจามอายุการใฟ้ประโยชน์ โดยประมาณดังนี้ อาคาร = 20 – 30 ปี อาคารบนที่ดินเช่าและส่วนปรับปรุงอาคาร = ตามอายุการใช้งานแต่ ไม่เกินอายุสัญญาเช่า อุปกรณ์และเครื่องจัก = 1 – 10 ปี เครื่องตกแต่งและเครื่องใช้สำนักงาน = 3 – 10 ปี ยานพาหนะ = 5 ปี ค่าเสื่อมราคารวมอยู่ในการคำนวณผลดำเนินงาน ไม่มีการคิดค่าเสื่อมราคาสำหรับที่ดินและสินทรัพย์ ติดตั้งและก่อสร้าง
29 กลุ่มบริษัทตัดรายการที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ ออกจากบัญชี เมื่อจำหน่ายสินทรัพย์หรือคาดว่าจะไม่ได้ รับประโยชน์เชิงเศรษฐกิจในอนาคตจากการใช้หรือการจำหน่ายสินทรัพย์ รายการผลกำไรหรือขาดทุนจากการ จำหน่ายจะรับรู้ในส่วนของกำไรหรือขาดทุนเมื่อกลุ่มบริษัทตัดรายการสินทรัพย์นั้นออกจากบัญชี 13.ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) แสดงนโยบายการบัญชีและ การเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับรายการที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ กลุ่มบริษัทมีอาคารและอุปกรณ์จำนวนหนึ่งซึ่งตัดค่า เสื่อมราคาหมดแล้วแต่ยังใช้งานอยู่ มูลค่าตามบัญชีก่อนหักค่าเสื่อมราคาสะสมและค่าเผื่อของสินทรัพย์ดังกล่าวมี จำนวนเงินประมาณ 10,807 ล้านบาท (2563 : 9,024 ล้านบาท) (เฉพาะบริษัท : 9,682 ล้านบาท 2563 : 8,206 ล้านบาท)
30 จากการวิเคราะห์บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) แสดงนโยบายการบัญชีและการเปิดเผย ข้อมูลเกี่ยวกับรายการที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ในงบการเงินรวม ปี 2564 มีมูลค่าสุทธิตามบัญชีรวมเท่ากับ 27,584,172 พันบาท มีรายการดังนี้ ที่ดินและส่วนปรับปรุงที่ดิน 9,046,246 พันบาท อาคารและสิ่งปลูกสร้าง 16,706,181 พันบาท อุปกรณ์และเครื่องจักร 704,929 พันบาท เครื่องตกแต่งและเครื่องใช้สำนักงาน987,819 พันบาท ยานพาหนะ 680 พันบาท สินทรัพย์ระหว่างติดตั้งและก่อสร้าง 138,317 พันบาท และมียอดค่าเสื่อราคา สำหรับปีเท่ากับ 2,416,792 พันบาท ซึ่งมีมูลค่าสุทธิตามบัญชีต่ำกว่าปี 2563 เท่ากับ 28,741,157พันบาท และมี ยอดค่าเสื่อมราคาสำหรับปีเท่ากับ 2,490,916 บาท โดยบริษัท ฯ มีการเปิดเผยข้อมูลงบการเงินตามที่กฎหมายว่า ด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ ของบริษัท ฯ และได้เปิดเผยตามมาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 16 เรื่อง ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ รายการที่ 8 นโยบายการบัญชีและการเปิดเผยข้อมูลสินทรัพย์สิทธิการใช้จากหมายเหตุประกอบงบการเงินสำหรับ ปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) นโยบายการบัญชีที่สำคัญ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จ ำกัด (มหำชน) และบริษัทย่อย งบแสดงฐานะกำรเงิน ณ วันที่ 31 ธันวำคม 2564 จากรายงานทางการเงินงบแสดงฐานะทางการเงินในรายการสินทรัพย์สิทธิการใช้อธิบายในหมายเหตุได้ ดังนี้
31 8. สินทรัพย์สิทธิการใช้ สินทรัพย์สิทธิการใช้วัดมูลค่าด้วยราคาทุนหักค่าเสื่อมราคาสะสม ผลขาดทุนจากการด้อยค่าสะสม และปรับปรุงด้วยการวัดมูลค่าของหนี้สินตามสัญญาเช่าใหม่ ราคาทุนของสินทรัพย์สิทธิการใช้ประกอบจำนวนเงิน ของหนี้สินตามสัญญาเช่าจากการรับรู้เริ่มแรก ต้นทุนทางตรงเริ่มแรกที่เกิดขึ้น จำนวนเงินที่จ่ายชำระตามสัญญา เช่า ณ วันที่สัญญาเช่าเริ่มมีผลหรือก่อนวันที่สัญญาเช่าเริ่มแรก หักด้วยสิ่งจูงใจตามสัญญาเช่าที่ได้รับ ค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์สิทธิการใช้คำนวณจากราคาทุนโดยวิธิเส้นตรงตามอายุเช่าหรืออายุการให้ ประโยชน์โดยประมาณของสินทรัพย์สิทธิการใช้แล้วแต่ระยะเวลาใดจะสั้นกว่า ดังนี้ ที่ดินและส่วนปรับปรุง = 2 – 31 ปี อาคาร = 2 – 22 ปี ยานพาหนะ = 2 – 5 ปี หากความเป็นเจ้าของในสินทรัพย์อ้างอิงได้โอนให้กับกลุ่มบริษัทเมื่อสิ้นสุดอายุสัญญาเช่าหรือราคาทุน ของสินทรัพย์ดังกล่าวได้รวมถึงการใช้สิทธิเลือกซื้อ ค่าเสื่อมราคาจะคำนวณจากอายุการให้ประโยชน์โดยประมาณ ของสินทรัพย์
32 สินทรัพย์สิทธิการใช้ที่จัดประเภทเป็นอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนแสดงรวมเป็นส่วนหนึ่งของ อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนในงบแสดงฐานะทางการเงิน ข้อมูลรายการเปลี่ยนแปลงของบัสินทรัพย์สิทธิการใช้ดังกล่าว ไม่รวมสินทรัพย์สิทธิการใช้ที่จัดประเภท เป็นอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนแสดงรายละเอียดในหมายเหตุ 12 จากการวิเคราะห์บริษัท โฮมโ ปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) แสดงนโยบายการบัญชีและ การเปิดเผย ข้อมูลเกี่ยวกับรายการสินทรัพย์สิทธิการใช้ในงบการเงินรวม ปี 2564 มียอดรวมเท่ากับ 6,659,214 พันบาท ประกอบ ที่ดินและส่วนปรับปรุงที่ดิน 4,795,435 พันบาท อาคาร 1,849,147 พันบาท ยานพาหนะ14,632พัน บาท ซึ่งมียอดมากกว่า ปี 2563 6,111,986 พันบาท โดยบริษัท ฯ มีการเปิดเผยข้อมูลงบการเงินตามที่กฎหมายว่า ด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์หรือกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนิน ธุรกิจของบริษัท ฯ และได้เปิดเผยตามมาตรฐานรายงานทางการเงินฉบับที่ 16 เรื่อง สัญญาเช่า
33 รายการที่ 9 นโยบายการบัญชีและการเปิดเผยข้อมูลคอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์จากหมายเหตุประกอบงบการเงิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) นโยบายการบัญชีที่สำคัญ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย งบแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 งบการเงินรวม หมายเหตุ 2564 2563 คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์ 14 505,159,156 488,870,306 จากรายงานทางการเงินงบแสดงฐานะการเงินในรายการคอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์อธิบายในหมายเหตุได้ ดังนี้ 9.คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์ ซอฟต์แวร์ หมายถึงชุดคำสั่งหรือโปรแกรมที่ใช้สั่งงานให้คอมพิวเตอร์ทำงาน ซอฟต์แวร์จึงหมายถึง ลำดับขั้นตอนการทำงานที่เขียนขึ้นด้วยคำสั่งของคอมพิวเตอร์ คำสั่งเหล่านี้เรียงกันเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ จาก
34 ที่ทราบมาแล้วว่าคอมพิวเตอร์ทำงานตามคำสั่ง การทำงานพื้นฐานเป็นเพียงการกระทำกับข้อมูลที่เป็นตัว เลขฐานสอง ซึ่งใช้แทนข้อมูลที่เป็นตัวเลข ตัวอักษร รูปภาพ หรือแม้แต่เป็นเสียงพูดก็ได้ จากการวิเคราะห์บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) แสดงนโยบายการบัญชีและการเปิดเผย ข้อมูลเกี่ยวกับรายการคอมพิวเตอร์ซอฟท์แวร์ในงบการเงินรวม ปี 2564 มียอดรวมตามมูลค่าสุทธิเท่ากับ 505,159 156 พันบาท ซึ่งมียอดมากกว่า ปี 2563 เท่ากับ 488,870,306 พันบาท โดยบริษัท ฯ มีการเปิดเผยข้อมูลงบ การเงินตามที่กฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์หรือกฎหมายที่ เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท ฯ และได้เปิดเผยตามมาตรฐานทางบัญชีฉบับที่ 38 เรื่องสินทรัพย์ไม่มี ตัวตน รายการที่ 10 นโยบายการบัญชีและการเปิดเผยข้อมูลเงินประกันการเช่าจากหมายเหตุประกอบงบการเงินสำหรับ ปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) นโยบายการบัญชีที่สำคัญ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย งบแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 งบการเงินรวม หมายเหตุ 2564 2563 เงินประกันการเช่า 6 75,835,229 62,661,570 จากรายงานทางการเงินงบแสดงฐานะการเงินในรายการเงินประกันการเช่าอธิบายในหมายเหตุได้ดังนี้ 10.เงินประกันการเช่า สิ่งที่ผู้เช่าได้ให้ไว้แก่ผู้ให้เช่าเมื่อขณะทำสัญญาเช่า ไม่ว่าจะเป็นเงิน ทรัพย์สิน หรือด้วยการค้ำประกัน เพื่อเป็นค่าประกันในการเช่าสิ่งปลูกสร้าง ค่าประกันความเสียหายสิ่งปลูกสร้างที่ผู้เช่าอาจก่อขึ้น หรือค่าประกันใน
35 เหตุต่างๆ ตามที่ได้กำหนดไว้ในสัญญาเช่า โดยในสัญญาเช่า ผู้ให้เช่าจะกำหนดเหตุในการบังคับหลักประกันเอาไว้ ตามแต่วัตถุประสงค์ของการเรียกหลักประกันการเช่านั้น จากการวิเคราะห์บริษัทโฮมโปรดักซ์เซ็นเตอร์จำกัดมหาชนแสดงนโยบายการบัญชีและการเปิดเผย ข้อมูลเกี่ยวกับ เงินประกันการเช่าในงบการเงินรวมปี 2564 มียอดรวมตามมูลค่าสุทธิเท่ากับ 75,835,229 พันบาท ซึ่งมียอดมากกว่าปี 2563 เท่ากับ 62,661,570 พันบาท โดยบริษัทมีการเปิดเผยข้อมูลงบการเงินตาม มาตรฐานการ บัญชีฉบับที่ 1 เรื่องการนำเสนองบการเงิน รายการที่ 11 นโยบายการบัญชีและการเปิดเผยสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอตัดบัญชีจากหมายเหตุประกอบงบการเงิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) นโยบายการบัญชีที่สำคัญ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)และบริษัทย่อย งบแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 จากรายงานทางการเงินงบแสดงฐานะการเงินในรายการสินทรัพย์ภาษีเงินได้ภาษีรอตัดบัญชีอธิบายใน หมายเหตุได้ดังนี้
36 11. สินทรัพย์ภาษีเงินได้รอตัดบัญชี กลุ่มบริษัทบันทึกภาษีเงินได้รอการตัดบัญชีของผลแตกต่างชั่วคราวระหว่างราคาตามบัญชีของสินทรัพย์ และหนี้สิน ณ วันสิ้นรอบระยะเวลารายงานกับฐานภาษีของสินทรัพย์และหนี้สินที่เกี่ยวข้องนั้น โดยใช้อัตราภาษีที่ มีผลบังคับใช้ ณ วันสิ้นรอบระยะเวลารายงาน กลุ่มบริษัทรับรู้หนี้สินภาษีเงินได้รอการบัญชีของผลแตกต่างชั่วคร่าวที่ต้องเสียภาษีทุกรายการ แต่รับรู้ สินทรัพย์ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชีสำหรับผลแตกต่างชั่วคราวที่ใช้หักภาษี รวมทั้งผลขาดทุนทางภาษีที่ยังไม่ได้ ใช้ในจำนวนเท่าที่มีความเป็นได้ค่อนข้างแน่ที่กลุ่มบริษัทจะมีกำไรทางภาษีในอนาคตเพียงพอที่จะใช้ประโยชน์ จากผลแตกต่างชั่วคราวที่ใช้หักภาษีและผลขาดทุนทางภาษีที่ยังไม่ใช้นั้น กลุ่มบริษัทจะทบทวนมูลค่าตามบัญชีของสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชีทุกสิ้นรอบระยะเวลา รายงานและจะทำการปรับลดมูลค่าตามบัญชีดังกล่าว หากมีความเป็นไปได้ค่อนข้างแน่ว่ากลุ่มบริษัทจะไม่มีกำไร ทางภาษีเพียงพอต่อการนำสินทรัพย์ภาษีเว้นได้รอการตัดบัญชีทั้งหมดหรือบางส่วนมาใช้ประโยชน์กลุ่มบริษัทจะ บันทึกภาษีเงินได้รอการตัดบัญชีโดยตรงไปยังส่วนของผู้ถือหุ้น หากภาษีที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับรายการที่ได้บันทึก โดยตรงไปยังส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 กลุ่มบริษัทมีรายการผลแตกต่างชั่วคราวที่ใช้หักภาษีจำนวน 654 ล้าน (2563 : 594 ล้านบาท) (เฉพาะบริษัท ฯ : 602 ล้านบาท 2563 : 553 ล้านบาท) ที่กลุ่มบริษัทไม่ได้บันทึก สินทรัพย์ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี เนื่องจากกลุ่มบริษัทพิจารณาแล้ว เห็นว่ากลุ่มบริษัทมีความไม่แน่นอนใน
37 จำนวนผลแตกต่างชั่วคราวที่อาจไม่ได้ใช้ประโยชน์จากผลแตกต่างชั่วคราวข้างต้น จากการวิเคราะห์บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) แสดงนโยบายการบัญชีและการ เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับรายการสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอตัดบัญชีในงบการเงินรวม ปี 2564 มีสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอ ตัดบัญชีรวม เท่ากับ 608,627,489 พันบาท มียอดมากกว่า ปี 2563 มียอดรวมเท่ากับ 605,490,849 พันบาทโดย บริษัท ฯ มีการเปิดเผยข้อมูลงบการเงินตามที่กฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ข้อกำหนดของตลาด หลักทรัพย์หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท ฯ และได้เปิดเผยตามมาตรฐานทางบัญชีฉบับที่ 12 เรื่อง ภาษีเงินได้ หนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น หนี้สินหมุนเวียน รายการที่ 12 นโยบายการบัญชีและการเปิดเผยเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงินจากหมายเหตุประกอบงบ การเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) นโยบายการบัญชีที่สำคัญ บริษัท โฮม โปรดักส์เซ็นเตอร์จํากัด (มหาชน) และบริษัทย่อย งบแสดงฐานะการเงิน(ต่อ) สำหรับปีสิ้นสุดวนั ที่31 ธันวาคม 2564 จากรายงานทางการเงินงบแสดงฐานะทางการเงินในรายการเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงินอธิบาย ในหมายเหตุได้ดังนี้ 12. เงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน ต้นทุนการกู้ยืม (Borrowing Cost) หมายถึง ดอกเบี้ยและต้นทุนอื่นที่เกี่ยวเนื่องจากการ กู้ยืมของ กิจการ เช่น ดอกเบี้ยที่คำนวณโดยวิธีอัตราผลตอบแทนที่แท้จริงซึ่งเกิดจากเงินเบิกเกินบัญชีและจากเงินกู้ยืม ระยะสั้นและ ระยะยาวตามที่ได้อธิบายไว้ในมาตรฐานการรายงานทางเงิน ฉบับที่ 9 เรื่อง เครื่องมือทางการเงิน
38 ณ วันที่ 31ธันวาคม 2564 กลุ่มบริษัทมีวงเงินเบิกเกินบัญชีธนาคารหลายแห่ง ที่ยังมิได้เบิกใช้เป็นจำนวน ทั้งสิ้น 340 ล้านบาท และ 2.5 ล้านมาเลเซียริงกิต (2563: 315 ล้านบาท และ 0.5 ล้านมาเลเซียริงกิต) (เฉพาะ บริษัทฯ: 310 ล้านบาท 2563: 285ล้านบาท) และมีวงเงินสินเชื่ออื่นๆ จำนวน 11,43 7ล้านบาท 40 ล้านเหรียญ สหรัฐอเมริกา และ 70ล้านมาเลเซียริงกิต (2563: 19,964 ล้านบาท 55 ล้านเหรียญ สหรัฐอเมริกา และ 66 ล้าน มาเลเซียริงกิต) (เฉพาะบริษัทฯ: 11,204 ล้านบาท และ 40 ล้านเหรียญ สหรัฐอเมริกา 2563: 19,426 ล้านบาท และ 55 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา) จากการวิเคราะห์บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) แสดงนโยบายการบัญชีและการ เปิดเผย ข้อมูลเกี่ยวกับรายการเงินกู้ระยะสั้นจากสถาบันการเงินในงบการเงินรวม ปี 2564 มียอดรวมเงินกู้ยืม ระยะสั้นจาก สถาบันการเงิน เท่ากับ 1,231,829 พันบาท มียอดต่ำกว่า ปี 2563 1,248,714 พันบาท โดยบริษัท ฯ มีการเปิดเผย ข้อมูลงบการเงินตามที่กฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ข้อกำหนดของตลาด หลักทรัพย์หรือ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท ฯ และได้เปิดเผยตามมาตรฐานทางบัญชีฉบับ ที่ 23 เรื่อง ต้นทุนการกู้ยืม
39 รายการที่ 13 นโยบายการบัญชีและการเปิดเผยข้อมูลเจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้อื่นจากหมายเหตุประกอบงบ การเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) นโยบายการบัญชีที่สำคัญ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย งบแสดงฐานะการเงิน (ต่อ) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 จากรายงานทางการเงินงบแสดงฐานะทางการเงินในรายเจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้อื่นอธิบายในหมาย เหตุ ได้ดังนี้ 13. เจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้อื่น กลุ่มบริษัทจะบันทึกประมาณการหนี้สินไว้ในบัญชีเมื่อภาระผูกพัน ซึ่งเป็นผลจากเหตุการณ์ในอดีตได้ เกิดขึ้นแล้ว และมีความเป็นไปได้ค่อนข้างแน่นอนว่ากลุ่มบริษัทจะเสียทรัพยากรเชิงเศรษฐกิจไปเพื่อปลดภาระ ผูกพันนั้น กลุ่มบริษัทสามารถประมาณมูลค่าภาระผูกพันนั้นได้อย่างน่าเชื่อถือ จากการวิเคราะห์บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) แสดงนโยบายการบัญชีและการ เปิดเผย ข้อมูลเกี่ยวกับรายการเจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้อื่นแสดงในงบการเงินรวม ปี2564 มียอดเจ้าหนี้การค้า และเจ้าหนี้ อื่น เท่ากับ 13,972,618,552 พันบาท ซึ่งมากกว่า ปี 2563 เท่ากับ 13,050,309,281 พันบาท โดย บริษัท ฯ มีการ
40 เปิดเผยข้อมูลงบการเงินตามที่กฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ข้อกำหนดของ ตลาดหลักทรัพย์ หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท ฯ และได้เปิดเผยตามมาตรฐานทางบัญชีฉบับที่ 37 เรื่อง ประมาณการหนี้สิน หนี้สินที่อาจเกิดขึ้น รายการที่ 14 นโยบายการบัญชีและการเปิดเผยข้อมูลหนี้สินตามสัญญาเช่าส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี จากหมายเหตุประกอบงบการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) นโยบายการบัญชีที่สำคัญ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย งบแสดงฐานะการเงิน (ต่อ) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 จากรายงานทางการเงินงบแสดงฐานะทางการเงินในรายการหนี้สินตามสัญญาเช่าส่วนที่ถึงหนดชำระ ภายใน หนึ่งอธิบายในหมายเหตุได้ดังนี้ 14. หนี้สินตามสัญญาเช่าส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี หนี้สินตามสัญญาเช่าวัดมูลค่าด้วยมูลค่าปัจจุบันของจำนวนเงินที่ต้องจ่ายตามสัญญาเช่าตลอดอายุสัญญา เช่าจำนวนเงินที่ต้องจ่ายตามสัญญาเช่าประกอบด้วยค่าเช่าที่คงที่หักด้วยสิ่งจูงใจตามสัญญาเช่า ค่าเช่าผันแปรที่ ขึ้นอยู่กับดัชนีหรืออัตราจำนวนเงินที่คาดว่าจะจ่ายภายใต้การรับประกันมูลค่าคงเหลือ รวมถึงการใช้สิทธิของสิทธิ เลือกซื้อมีความแน่นอนอย่างสมเหตุสมผลที่กลุ่มบริษัทจะใช้สิทธินั้น และการจ่ายค่าปรับเพื่อการยกเลิกสัญญาเช่า หากข้อกำหนดของสัญญาเช่าแสดงให้เห็นว่ากลุ่มบริษัทจะใช้สิทธิในการยกเลิกสัญญาเช่า กลุ่มบริษัทบันทึกค่าเช่า ผันแปรที่ไม่ขึ้นอยู่กับดัชนีหรืออัตราที่เป็นค่าใช้จ่ายในงวดที่เหตุการณ์หรือเงื่อนไขซึ่งเกี่ยวกับการจ่ายชำระนั้นได้ เกิดขึ้น
41 กลุ่มบริษัทคิดลดมูลค่าปัจจุบันของจำนวนเงินที่ต้องจ่ายตามสัญญาเช่าด้วยอัตราดอกเบี้ยตามนัยของ สัญญาเช่าหรืออัตราดอกเบี้ยการกู้ยืมส่วนเพิ่มของกลุ่มบริษัท หลังจากวันที่สัญญาเช่าเริ่มมีผล มูลค่าตามบัญชีของ หนี้สินตามสัญญาเช่าจะเพิ่มขึ้นจากดอกเบี้ยของหนี้สินตามสัญญาเช่า นอกจากนี้ มูลค่าตามบัญชีของหนี้สินตาม สัญญาเช่าจะถูกวัดมูลค่าใหม่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงอายุสัญญาเช่า การเปลี่ยนแปลงการจ่ายชำระตามสัญญาเช่า หรือการเปลี่ยนแปลงในการประเมินสิทธิการเลือกซื้อสินทรัพย์อ้างอิง การวิเคราะห์การครบกำหนดจำนวนเงินที่ต้องจ่ายตามสัญญาเช่าเปิดเผยข้อมูลในหมายเหตุ 33.2 ภายใต้ หัวข้อความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง กลุ่มบริษัทมีการติดตามความเสี่ยงจากการขาดสภาพคล่องโดยการใช้เจ้าหนี้การค้า เงินกู้ยืมธนาคาร หุ้นกู้ และสัญญาเช่า ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 ธนวามคม 2564 กลุ่มบริษัทมีหนี้สินประมาณร้อยละ 57 ที่จะครบกำหนด กำหนดชำระภายในหนึ่งปีเมื่อเทียบกับมูลค่าตามบัญชีทั้งหมดของหนี้สินดังกล่าวที่แสดงอยู่ในงบการเงิน (2563 : 60) (เฉพาะบริษัท ฯ : ร้อยละ 55 , 2563 : ร้อยละ 58) กลุ่มบริษัทได้ประเมินการกระจุกตัวของความเสี่ยงที่ เกี่ยวข้องกับการกู้ยืมเพื่อนำไปชำระหนี้สินเดิมและได้ข้อสรุปว่า กลุ่มบริษัท ฯ มีความสามารถในการเข้าถึงแหล่ง เงินทุนที่หลากหลายอย่างเพียงพอ รายละเอียดการครบกำหนดชำระหนี้ของหนี้สินทางการเงินที่ไม่ใช่ตราสารอนุพันธ์และเครื่องมือทางการ เงินที่เป็นตราสารอนุพันธ์ของกลุ่มบริษัท ฯ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 และ 2563 ซึ่งพิจารณาจากกระแสเงิน สด ตามสัญญาที่ยังไม่คิดลดเป็นมูลค่าปัจจุบัน สามารถแสดงได้ดังนี้
42
43 จากการวิเคราะห์บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) แสดงนโยบายการบัญชีและการ เปิดเผย ข้อมูลเกี่ยวกับรายการหนี้สินตามสัญญาเช่าส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปีในงบการเงินรวม ปี2564 มีหนี้สิน ตามสัญญาเช่าส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี มียอดเท่ากับ 247,268,297 พันบาท ปี 2563 มียอด เท่ากับ 249,328,229 พันบาท การเปลี่ยนแปลงของบัญชีหนี้สินตาสัญญาเช่ามียอดคงเหลือปลายปี 2564 เท่ากับ 5,112,730 พันบาท ซึ่งมียอดมากกว่า ปี 2563 เท่ากับ 4,622,624 พันบาท โดยบริษัท ฯ มีการเปิดเผย ข้อมูลงบ
44 การเงินตามที่กฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์หรือ กฎหมายที่ เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท ฯ และได้เปิดเผยตามมาตรฐานทางบัญชีฉบับที่ 16 เรื่อง สัญญาเช่า รายการที่15 นโยบายการบัญชีและการเปิดเผยข้อมูลเงินกู้ยืมระยะยาวส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปีจาก หมายเหตุประกอบงบการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 บริษัท โฮมโปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) นโยบายการบัญชีที่สำคัญ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย งบแสดงฐานะการเงิน (ต่อ) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 จากรายงานทางการเงินงบแสดงฐานนะการเงินในรายการเงินกู้ยืมระยะยาวส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายใน หนึ่งปีอธิบายในหมายเหตุได้ดังนี้ 15. เงินกู้ยืมระยะยาวส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี ต้นทุนการกู้ยืมขิงเงินกู้โดยใช้ในการได้มาหรือการก่อสร้างสินทรัพย์ที่ต้องใช้ระยะเวลานานในการแปลง สภาพให้พร้อมใช้หรือขายได้ถูกนำไปรวมเป็นราคาทุนของสินทรัพย์จนกว่าสินทรัพย์นั้นจะอยู่ในสภาพพร้อมใช้ได้ ตามวัตถุประสงค์ที่มุ่งประสงค์ ส่วนต้นทุนการกู้ยืมอื่นถือเป็นค่าใช้จ่ายในวงดที่เกิดรายการ ต้นทุนกู้ยืม ประกอบด้วยดอกเบี้ยและต้นทุนอื่นที่เกิดขึ้นจากการกู้ยืมนั้น เงินกู้ยืม - สกุลเงินมาเลเซียริงกิต เป็นเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินในต่างประเทศของ Home Product Center (Malaysia) Sdn. Bhd. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯถือหุ้นนอัตราร้อยละ 100 กำหนดชำระดอกเบี้ยและ เงินต้นเป็นรายเดือน โดยต้องชำระหนี้เงินต้น ให้เสร็จสิ้นภายใน 7 ปีนับจากวันที่เบิกรับเงินกู้งวดแรก กำหนดชำระ เงินต้นงวดแรก คือ เดือนที่25 นับจำกวน ที่เบิกรับเงินกู้งวดแรก เมื่อววันที่22 เมษายน 2563 บริษัทย่อยดังกล่าว ได้รับหนังสือยินยอมให้ชะลอการชำระคืนเงินต้น ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2563 ถึงตุลาคม 2563 และขยายกำหนด
45 ชำระคืนเงินต้นออกไปอีก6 เดือน เงินกู้ยืม ดังกล่าวค้ำประกัน ทั้งจำนวนโดยบริษัท ฯ พร้อมทั้งบริษัทฯต้องถือหุ้น ในบริษัทย่อยดังกล่าวโดยทำงตรงหรือทำงอ้อมไม่น้อยกว่าร้อยละ 51 นอกจากนี้ภายใต้สัญญาเงินกู้บริษัทย่อยต้อง ปฏิบัติตามเงื่อนไขทำงการเงินบางประการตามที่ระบุในสัญญา เช่น การดำรงอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น เป็นต้น ทั้งนี้ ณ วันที่31 ธันวาคม 2564 และ 2563 อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทย่อยไม่เป็นไป ตามเงื่อนไขที่ระบุในสัญญา โดยกลุ่มบริษัท ได้แสดงยอดเงินกู้ยืมระยะยาวเป็นหนี้สินหมุนเวียนในงบการเงินรวม อย่างไรก็ตาม กลุ่มบริษัทอยู่ระหว่าง การเจรจาขอแก้ไขเงื่อนไขดังกล่าวจากธนาคาร จากการวิเคราะห์บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) แสดงนโยบายการบัญชีและการ เปิดเผย ข้อมูลเกี่ยวกับรายการเงินกู้ระยะยาวส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปีในงบการเงินรวม ปี2564 มียอดเงินกู้ยืม ระยะยาว (คงเหลือต้นปี เท่ากับ 75,167 พันบาท , จ่ายคืนเงินกู้17,580 พันบาท , ผลต่างจากการ เปลี่ยนแปลงค่า งบการเงิน 3,921 พันบาท) มียอดคงเหลือปลายปี เท่ากับ 61,607,795 พันบาท ซึ่งมียอดต่ำกว่า ปี2563 มียอด เท่ากับ 76,166,978 พันบาท โดยบริษัท ฯ มีการเปิดเผยข้อมูลงบการเงินตามที่กฎหมายว่าด้วย หลักทรัพย์และ ตลาดหลักทรัพย์ ข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของ บริษัท ฯ และได้ เปิดเผยตามมาตรฐานทางบัญชีฉบับที่ 23 เรื่อง ต้นทุนการกู้ยืม
46 รายการที่16 นโยบายการบัญชีและการเปิดเผยข้อมูลหุ้นกู้ส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปีจากหมายเหตุ ประกอบงบการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) นโยบายการบัญชีที่สำคัญ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย งบแสดงฐานะการเงิน (ต่อ) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 จากรายงานทางการเงินงบแสดงฐานนะการเงินในรายการหุ้นกู้ส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปีอธิบาย ในหมายเหตุได้ดังนี้ 16.หุ้นกู้ส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี หุ้นกู้ คือ “ตราสารหนี้” ที่ออกโดยบริษัทภาคเอกชน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อระดมทุนสำหรับใช้ในกิจการ ต่างๆ ของบริษัท เช่น เพื่อลงทุนขยายกิจการ ซื้ออุปกรณ์ หรือ เพื่อก่อสร้างโรงงาน เป็นต้น หุ้นกู้สามารถแบ่งออก เป็นหน่วยๆ แต่ละหน่วยมีมูลค่าเท่า ๆกัน งบการเงินรวม หมายเหตุ 2564 2563 หนี้สิน หนี้สินหมุนเวียน หุ้นกู้ส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี 19 3,120,896,420 4,000,000,000
47 หุ้นกู้ข้างต้นได้ระบุถึงข้อปฏิบัติและข้อกำจัดบางประการ เช่น การดำรงสัดส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น และข้อจำกัดการประกาศจ่ายเงินปันผล และการจำหน่าย จ่ายหรือโอนทรัพย์สิน เป็นต้น จากการวิเคราะห์บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) แสดงนโยบายการบัญชีและการ เปิดเผย ข้อมูลเกี่ยวกับรายการหุ้นกู้ส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปีในงบการเงินรวม ปี2564 มี ยอดหุ้นกู้ (คงเหลือต้นปี เท่ากับ 12,320,000 พันบาท , ออกหุ้นกู้ระหว่างปี4,000,000 พันบาท , จ่ายคืนหุ้นกู้ 4,000,000 พันบาท) มียอด คงเหลือปลายปี เท่ากับ 12,320,000 พันบาท ซึ่งมียอดเท่ากับ ปี2563 มียอดเท่ากับ 12,320,000 พันบาท โดย บริษัท ฯ มีการเปิดเผยข้อมูลงบการเงินตามที่กฎหมายว่าด้วย หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ข้อกำหนดของ ตลาดหลักทรัพย์หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของ บริษัท ฯ และได้เปิดเผยตามมาตรฐานทางบัญชี ฉบับที่ 32 เรื่อง การแสดงรายการเครื่องมือทางการเงิน