The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

1.แนวข้อสอบการวิจัยทางการศึกษา_50ข้อ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by matdavit, 2020-07-05 11:31:14

1.แนวข้อสอบการวิจัยทางการศึกษา_50ข้อ

1.แนวข้อสอบการวิจัยทางการศึกษา_50ข้อ

แนวขอ้ สอบการวจิ ยั ทางการศกึ ษา

1) การวิจยั ในช้นั เรียนจดั เป็นการวิจยั รูปแบบใด
ก. การวจิ ยั เชิงปริมาณ
ข. การวิจยั เชิงปฏิบตั กิ าร
ค. การวิจยั เพอื่ สร้างทฤษฎี
ง. การวจิ ยั เพอื่ พฒั นาเคร่ืองมือ

2) “การพฒั นาพฤติกรรมการอา่ นของนกั เรียนช้นั ป. 6” ขอ้ ใดคือตวั แปรตาม
ก. เพศ
ข. ระดบั ช้นั
ค. วธิ ีการพฒั นา
ง. พฤติกรรมการอา่ น

3) จากขอ้ 2 ขอ้ ใดไม่ควรกาหนดนิยามศพั ทเ์ ฉพาะมากที่สุด
ก. นกั เรียน
ข. นวตั กรรม
ค. วิธีการพฒั นา
ง. พฤติกรรมการอ่าน

4) การคาดคะเนคาตอบของการวิจยั อยา่ งมเี หตุผล ตรงกบั ขอ้ ใด
ก. ความมงุ่ หมายการวจิ ยั
ข. สมมุติฐานการวิจยั
ค. การวิเคราะหข์ อ้ มลู ในการวจิ ยั
ง. การอภิปรายผลการวิจยั

5) ขอ้ ใดไม่ใช่จุดมงุ่ หมายของการวจิ ยั ในช้นั เรียน
ก. แกป้ ัญหาผเู้ รียน
ข. หาสาเหตุของพฤติกรรม
ค. พฒั นาผเู้ รียน
ง. ประเมินตดั สินผเู้ รียน

6) “ด.ช.แดงขาดเรียนบ่อย ๆ” ควรต้งั คาถามการวจิ ยั วา่ อยา่ งไรจึงจะเหมาะสมที่สุด
ก. ทาไม ด.ช.แดงจึงขาดเรียน
ข. จะแกป้ ัญหาการขาดเรียนของด.ช.แดงอยา่ งไร
ค. หอ้ งเรียนมปี ัญหาอะไร ด.ช.แดงจึงขาดเรียน
ง. ทางบา้ น ด.ช.แดงมีปัญหาอะไร จึงตอ้ งขาดเรียน

7) “ด.ช.ดาไมช่ อบทางานรวมกลุม่ กบั เพือ่ น” ควรใชว้ ธิ ีการใดในการรวบรวมขอ้ มลู เพื่อแกป้ ัญหา

ก. การทดสอบ

ข. การสงั เกต

ค. การสมั ภาษณ์

ง. การใชแ้ บบสอบถาม

8) “ปัญหาผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนของนกั เรียนต่าเน่ืองจากนกั เรียนไมเ่ ขา้ ใจบทเรียน” ควรออกแบบการวจิ ยั

เพ่ือแกป้ ัญหาในลกั ษณะใด

ก. เชิงทดลองพฒั นาส่ือนวตั กรรม

ข. เชิงสารวจหาสาเหตุปัญหา

ค. เชิงปริมาณอา้ งองิ ทฤษฎีการเรียนรู้

ง. เชิงปฏิบตั ิการอบรมพฒั นาการเรียนรู้

9) “ความพงึ พอใจของครูต่อการจดั การเรียนรู้ที่เนน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั โรงเรียนอนุบาลดารงราชานุสรณ์” หวั ขอ้ วจิ ยั น้ี

ควรใชเ้ ครื่องมอื ชนิดใดในการเก็บรวบรวมขอ้ มลู

ก. แบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า

ข. แบบทดสอบองิ เกณฑ์

ค. แบบสงั เกตพฤติกรรม

ง. แบบสมั ภาษณ์

10) ขอ้ ใดไมใ่ ช่การหาคณุ ภาพของแบบทดสอบ

ก. ความเที่ยงตรง

ข. ความเช่ือมน่ั

ค. อานาจจาแนก

ง. ความเป็นสากล

11) “การวเิ คราะห์ความแตกต่างคะแนนเฉล่ียก่อนเรียนหลงั เรียนดว้ ยชดุ ฝึกของนกั เรียนช้นั ป.5 โรงเรียนอนุบาล

ดารงราชานุสรณ์ จานวน 40 คน” ควรใชส้ ถติ ิใดวเิ คราะหค์ วามแตกต่าง

ก. t-test

ข. ANOVA

ค. Z-test

ง. F-test

12) “เพ่อื ศกึ ษาสภาพการจดั การเรียนการสอนที่เนน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั ของครู โรงเรียนอนุบาลดารงราชานุสรณ์”

ความมุ่งหมายของการวจิ ยั น้ี ควรใชส้ ถติ ิขอ้ ใดในการนาเสนอ

ก. ค่าเฉล่ยี และร้อยละ

ข. การวิเคราะหค์ วามแปรปรวน

ค. การทดสอบที ง. การทดสอบไควส์ แควร์

13) การอภิปรายผลการวจิ ยั ควรจดั ไวใ้ นส่วนใด
ก. บทที่ 1
ข. บทท่ี 3
ค. บทท่ี 4
ง. บทท่ี 5

14) “การศกึ ษาการอา่ นของนกั เรียนช้นั ป.2 จงั หวดั ศรีสะเกษ” หวั ขอ้ วิจยั น้ีควรเลอื กกล่มุ ตวั อยา่ งโดยวิธีใด
ก. เลือกแบบเจาะจง
ข. สุ่มแบบอยา่ งง่าย
ค. สุ่มแบบแบ่งช้นั
ง. สุ่มแบบหลายข้นั ตอน

15) . “การศกึ ษาการอา่ นของนกั เรียนโรงเรียนอนุบาลดารงราชานุสรณ์ จงั หวดั ศรีสะเกษ” หวั ขอ้ วจิ ยั น้ีควรเลือกกลมุ่
ตวั อยา่ งโดยวิธีใด
ก. เลือกแบบเจาะจง
ข. สุ่มแบบอยา่ งง่าย
ค. สุ่มแบบแบ่งช้นั
ง. สุ่มแบบหลายข้นั ตอน

16) ขอ้ ใดไม่ใช่วธิ ีการกาหนดขนาดกลุ่มตวั อยา่ ง
ก. ใชก้ ารคาดคะเน
ข. ใชส้ ูตรคานวณ
ค. ใชต้ ารางสาเร็จรูป
ง. ใชเ้ กณฑร์ ้อยละ

17) ค่าอานาจจาแนกของแบบวดั ควรมคี ่าเท่าใด
ก. .05 – 1.00
ข. .20 – 1.00
ค. .05-.80
ง. .20-.80

18) ความสาคญั ของการวิจยั ควรนาเสนอในส่วนใด
ก. บทที่ 1
ข. บทที่ 3
ค. บทท่ี 4
ง. บทท่ี 5

19) ขอ้ ใดไม่ใช่เคร่ืองมือในการวจิ ยั
ก. แบบสอบถาม
ข. แผนการจดั การเรียนรู้
ค. นวตั กรรม
ง. โปรแกรมสาเร็จรูป SPSS

20) ขอ้ ใดกลา่ วถึงการวิจยั ในช้นั เรียนตาม พระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งท่ีสุด
ก. ครูทุกคนตอ้ งดาเนินการวจิ ยั ในช้นั เรียนเพื่อพฒั นาตนเอง
ข. การวจิ ยั ในช้นั เรียนเป็นส่วนหน่ึงของการเรียนการสอน
ค. การวจิ ยั ในช้นั เรียนเป็นเคร่ืองประเมินวทิ ยฐานะครู
ง. ครูตอ้ งเชี่ยวชาญในการวจิ ยั ในช้นั เรียน

21) สมมุติฐานการวจิ ยั ควรกาหนดไวใ้ นส่วนใด
ก. บทท่ี 1
ข. บทท่ี 3
ค. บทที่ 4
ง. บทท่ี 5

22) “การพฒั นาบทเรียนสาเร็จรูป เรื่อง วนั สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา” ควรหาคุณภาพเครื่องมืออยา่ งไร
ก. ค่าความเช่ือมนั่ ของครอนบาค
ข. ดชั นีประสิทธิภาพ E1/E2
ค. หาค่าความยากง่าย
ง. หาค่าอานาจจาแนก

23) “การวดั การอ่านออกเสียง” ควรใชเ้ คร่ืองมือตามรูปแบบในขอ้ ใดจึงจะเหมาะสมที่สุด
ก. แบบตรวจสอบรายการ
ข. แบบมาตราส่วนประมาณค่า
ค. แบบสมั ภาษณ์
ง. แบบทดสอบ

24) นกั เรียนช้นั ป.5 โรงเรียนบา้ นแดงมจี านวน 12 คน หากตอ้ งการศกึ ษาเก่ียวกบั การพฒั นาดา้ นการคิดคานวณ ควร
เลือกกล่มุ ตวั อยา่ งดว้ ยวิธีใด
ก. เลอื กแบบเจาะจง
ข. สุ่มแบบอยา่ งง่าย
ค. สุ่มแบบแบ่งช้นั
ง. สุ่มแบบหลายข้นั ตอน

25) การวจิ ยั ที่มุง่ แกป้ ัญหาอยา่ งเร่งด่วน ใชเ้ วลาไม่มากนกั คือการวจิ ยั แบบใด
ก. การวิจยั เชิงประเมนิ
ข. การวจิ ยั เชิงบรรยาย
ค. การวจิ ยั เชิงปฏบิ ตั กิ าร
ง. การวจิ ยั ต่อยอด

26) แบบจาลอง CIPP Model เป็นแนวคิดของใคร
ก. Tyler
ข. Scriven
ค. Provus
ง. Stufflebeam

27) จากรูปแบบ CIPP “P” ตวั ที่ 2 หมายถงึ ขอ้ ใด
ก. ผลลพั ธ์ .
ข. ผลผลติ
ค. กระบวนการ
ง. ผลสะทอ้ นกลบั

28) ข้นั ตอนใดท่ีควรดาเนินการประเมินก่อนการเริ่มโครงการ
ก. C
ข. I
ค. P
ง. ถกู ทุกขอ้

29) รูปแบบการวจิ ยั ของ Kemmis and McTaggart คือขอ้ ใด
ก. PDCA
ข. CIPP
ค. PAOR
ง. KAMT

30) “การพฒั นาดา้ นการรกั ษาความสะอาดของโรงเรียนบา้ นแดง” ควรออกแบบการวจิ ยั อยา่ งไร
ก. วจิ ยั เชิงประเมิน
ข. วจิ ยั เชิงทดลอง
ค. วจิ ยั เชิงบรรยาย
ง. วิจยั เชิงปฏบิ ตั ิการ

31) จากขอ้ 30 ไม่ควรใชเ้ คร่ืองมือในขอ้ ใดเก็บรวบรวมขอ้ มลู
ก. แบบสงั เกต
ข. แบบสมั ภาษณ์
ค. แบบทดสอบ
ง. แบบสารวจ

32) จากขอ้ 30 ขอ้ ใดคือตวั แปรตน้
ก. วิธีการพฒั นา
ข. พฤติกรรมการรักษาความสะอาด
ค. สภาพทางสงั คมของนกั เรียน
ง. สภาพการบริหารของโรงเรียนบา้ นแดง

33) หากตอ้ งการส่งงานวิจยั จากขอ้ 30 เพ่ือขอเล่ือน วทิ ยฐานะ ผวู้ ิจยั ควรเป็นบทบาทของใคร
ก. ครูผสู้ อนสงั คมศกึ ษา ฯ
ข. ครูทุกคน
ค. ผบู้ ริหาร
ง. ครูผรู้ ับผดิ ชอบกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน

34) ขอ้ ใดกล่าวไม่ถกู ตอ้ งเกี่ยวกบั การวจิ ยั ตามรูปแบบของ Kemmis and McTaggart
ก. เป็นการวิจยั เชิงปฏบิ ตั กิ าร
ข. มกี ารสะทอ้ นผลการปฏบิ ตั ิ
ค. ควรดาเนินการอยา่ งรดั กมุ เพียงรอบเดียว
ง. การวจิ ยั น้ีตอ้ งมีผรู้ ่วมวิจยั ดว้ ย

35) ขอ้ ใดคือวงจรการบริหารตามแบบเดมมง่ิ
ก. PDCA
ข. CIPP
ค. PAOR
ง. PBBS

36) หากตอ้ งการทราบวา่ การสอนโดยใชส้ ่ือประสมส่งผลใหผ้ ลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนสูงข้ึนกว่าการสอนแบบ
บรรยาย ควรออกแบบการวจิ ยั อยา่ งไร
ก. ใหก้ ารสอนแบบบรรยายเป็นกลุ่มควบคุม
ข. ใหค้ รูผสู้ อน 2 คน สอนคนละแบบ
ค. ใหน้ กั เรียนกลุ่มเดียวเรียนท้งั 2 แบบ
ง. ใชข้ อ้ สอบก่อนและหลงั เรียนคนละฉบบั

37) จากขอ้ 36 ขอ้ ใดคือตวั แปรตน้
ก. การสอนแบบบรรยาย
ข. การสอนโดยใชส้ ื่อประสม
ค. การสอนแบบบรรยายและการสอนโดยใชส้ ่ือประสม
ง. ง. ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน

38) “ชุดการสอนเรื่องการเพาะเห็ดฟาง มคี ่า E1/E2 เท่ากบั 82.12/83.15” ขอ้ ใดกล่าวถกู ตอ้ งเกี่ยวกบั ค่า E1
ก. เป็นผลการทดสอบก่อนเรียน
ข. เป็นคะแนนระหว่างเรียน
ค. เป็นผลการทดสอบหลงั เรียน
ง. เป็นผลการสอบรวม

39) จากขอ้ 38 สรุปไดว้ า่ อยา่ งไร
ก. นวตั กรรมมปี ระสิทธิภาพตามเกณฑม์ าตรฐาน 80/80
ข. นวตั กรรมมปี ระสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80
ค. จากการสอนนกั เรียนมผี ลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนหลงั เรียนสูงกว่าก่อนเรียน
ง. จากการสอนนกั เรียนมผี ลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนหลงั เรียนสูงกว่าก่อนเรียน ท่ีระดบั .05

40) จากขอ้ 38 ผลการวจิ ยั น้ีน่าจะมาจากการวิจยั รูปแบบใด
ก. เชิงทดลอง
ข. เชิงบรรยาย
ค. ศึกษารายกรณี
ง. เชิงประเมนิ

41) “ตอ้ งการนาผลการวิจยั ไปสรุปผลการดาเนินการ และเป็นขอ้ มลู ในการวางแผนเพือ่ พฒั นาต่อไป” เป็นลกั ษณะ
ของการวจิ ยั รูปแบบใด
ก. เชิงทดลอง
ข. เชิงบรรยาย
ค. ศึกษารายกรณี
ง. เชิงประเมิน

42) แบบทดสอบองิ เกณฑ์ สอบคร้ังเดียวหลงั เรียนควรใชว้ ธิ ีในขอ้ ใดหาค่าความเชื่อมนั่ ท้งั ฉบบั
ก. KR-20
ข. KR-21
ค. Lovett Method
ง. Carver Method

43) การหาความเท่ียงตรงเชิงเน้ือหาของขอ้ สอบองิ เกณฑ์ ควรใชว้ ิธีในขอ้ ใด
ก. B-Index
ข. p,r
ค. IOC
ง. KR-20

44) เมอ่ื ดาเนินการจดั การเรียนรู้เก่ียวกบั การอา่ นในช้นั เรียน พบว่า มีนกั เรียน 2 คน จาก 45 คน ที่อ่านไมไ่ ด้ ครูควร
ดาเนินการออกแบบการวิจยั แกป้ ัญหาอยา่ งไร
ก. วิจยั เชิงทดลองพฒั นานวตั กรรม
ข. วิจยั เชิงประเมนิ เพื่อแกป้ ัญหา
ค. ศึกษารายกรณีแกป้ ัญหา
ง. พฒั นาแผนการจดั การเรียนรู้

45) การทดลองนวตั กรรมกลุ่มยอ่ ย 1 : 1 ดาเนินการเพ่ืออะไร
ก. แกไ้ ขขอ้ บกพร่องดา้ นภาษาและรูปแบบต่าง ๆ
ข. ประเมนิ การเรียนรูข้ องนกั เรียน
ค. เก็บขอ้ มลู เพือ่ รวบรวมกบั กลมุ่ ใหญ่
ง. ถกู ทุกขอ้

46) ผวู้ จิ ยั ดาเนินการทดสอบสมมุติฐานการวจิ ยั โดยใช้ t-test Dependence Sample การวจิ ยั น้ีน่าจะออกแบบการ
ทดลองแบบใด
ก. ทดลองกลมุ่ เดียว สอบคร้ังเดียว
ข. ทดลองกลุ่มเดียว สอบสองคร้ัง
ค. ทดลองสองกลมุ่ สอบคร้ังเดียว
ง. ทดลองสองกลุ่ม สอบสองคร้ัง

47) ขอ้ ใดกล่าวถกู ตอ้ ง
ก. การวจิ ยั ท่ดี ีตอ้ งเนน้ สถิติข้นั สูง
ข. ผบู้ ริหารไม่ควรดาเนินการวจิ ยั ในช้นั เรียน
ค. ผวู้ จิ ยั ไมจ่ าเป็นตอ้ งมีความรอบรู้ในเรื่องที่ทาวจิ ยั มากนกั กไ็ ด้
ง. การวจิ ยั เชิงทดลองตอ้ งควบคุมไม่ใหต้ วั แปรอืน่ ส่งผลต่อการวจิ ยั

48) ขอ้ ใดเป็นการทดสอบสมมตุ ิฐานแบบสองทาง
ก. นกั เรียนท่ีเรียนดว้ ย CAI มีผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน ก่อนเรียนและหลงั เรียน แตกต่างกนั
ข. นกั เรียนที่เรียนดว้ ย CAI มผี ลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน ก่อนเรียนสูงกวา่ หลงั เรียน
ค. นกั เรียนท่ีเรียนดว้ ย CAI มผี ลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน หลงั เรียนสูงกวา่ ก่อนเรียน
ง. ถกู ขอ้ ข และ ค

49) ขอ้ มลู ท่ีไดจ้ ากแบบวดั แบบ Rating Scale จดั อยใู่ นมาตรการวดั ใด
ก. นามบญั ญตั ิ
ข. เรียงอนั ดบั
ค. อนั ตรภาค
ง. อตั ราส่วน

50) ขอ้ ใดเป็นขอ้ มลู ในมาตรอตั ราส่วน
ก. แดงมเี งิน 300 บาท
ข. แดงสอบไดค้ ะแนนมากกว่าเหลือง 3 คะแนน
ค. ดาไดเ้ กรด 3.95 ถอื ว่าสูงมาก
ง. ขาวหล่อกวา่ เขียวนิดหน่อย


Click to View FlipBook Version