The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by tuahuay, 2022-12-09 19:08:10

รายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง...สู่เป้าหมาย ยุทธศาสตร์ชาติ กรณีศึกษา ทรัพยากรป่าชายเลน

สำนักกรรมาธิการ ๑

l..fuJl.~f1fuLf!, ~f.\OU Uf3mM (O~)

U@1\:2M (~)

!:.LU't:g3 Lrt!:.W~ru~Lf.\Ul'*=,>n'I?I-FAnLY;;f"1n'1 U@mM (~)

!:.Lu£Lrt!:.w;;rut.lUPl.f&l W£L~nLn. (jW)

•f:.LUgLrtf:.W~ruld!'LUn.UI.m ,~t'L.Q!tI.M rulelM'". U@mM (~)

f:.LU£Lrt!'.W~ruldnLg:;f:.f1rcGf. .~W~~•L.~l ~U~~~~~l..n.(~)

rtL~~n.1d ~lU£LrU.. W:;rm..jM.Lg~f.f1Ii-@~ Pl.U1 111 t-~fuh~!.L~l..!:.W~Llrj(U.P.~

NmlArtl:!! ~rc~~WJl.1Jl.~ whrt U(m~M (lJ.'j)
f"

Ie!Lnnn. UUf11 u@mM (GI)


rtWg,rt~fuLU rlDU.!r"a6!'~ u@mM. (~)

;I i"6

riUM1.Bu~!'.n ! .LU~g Lr t!.W:;:r ul dr tl1 &&rl !:'@flillruilA
" I' " F f'
,.. hi'

~ 13LnL~ ::;\:,!1i~L!tlrln1.~ B~~LJl.}W~l..\rIglA~1tIt~ WlAl1f1'm~";::\:'!', \rIlAi~f:.f1f1~~f1.f:.LUW,!>t'~i;:\:'!"

~m'@M.~' rtLl!l\!l~ LPl.U~Lrn!'.Ll!.~ rt@~\!Iti'!;'~fl.U,!>h@f:.LU fl.lJ.lil!'.LU n,Vt'BClf:.LU ~t~LULJA.fu~Lfi\.U~

Ll'I.U~!;'tLfb rt~mt-~f:.LUn~I<j@\:,!1.!l l. n~~Ll1.rtr,f:.9WWM.~lA.f:.LU\!I~f:.LlA~n.l:,LU~\:,!1i l:-~r3Ll1.~I::!"\:,!'~lA.WA.

f:.ULr.JMklA. LtlLr;tf:.UL~M.klA. LrWLf3M.klA.r,LU\!l~r,LU l. l!lll:'f3~'Lf.\U~G~1rl

w \:'!root~ LU&lJ LIA.~f:.lJ
'0' 0
!;' f:.&13lA.' (3 fl.L Irln.@ wib fu n.l1.l..f:.~f:.M!;,L!'L Ttl\!. L ~M.&LnLB::: ~"lAF.Lrrtllrlf~l "b>
'Cr ~ t'I 'W Q
tl>J1I 1 '1) I

n.,I;It-,Ct@]-flLW LLf~~lq~;::!'.f1fu,ttL\:,!f.LugLrt!'f:.lJ:::rule!t'~~flL!~t G)ct~G) nr3Lfmll O~
"

(Ul'L~)



























































๒.๒ พระราชบญั ญตั ิทเ่ี กีย่ วขอ้ งกับปา่ ชายเลน
๒.๒.๑) พระราชบัญญตั ปิ า่ ไม้ พทุ ธศักราช ๒๔๘๔
มาตรา ๕๔ ห้ามมใิ ห้ผูใ้ ดกอ่ สรา้ ง แผ้วถาง หรอื เผาป่า หรอื กระทำดว้ ยประการใด ๆ

อนั เปน็ การทำลายป่า หรอื เข้ายึดถอื หรือครอบครองปา่ เพอื่ ตนเองหรอื ผูอ้ ่ืน เว้นแตจ่ ะกระทำภายในเขต
ท่ีได้จำแนกไว้เป็นประเภทเกษตรกรรมและรัฐมนตรีได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา หรือโดยได้รับ
ใบอนุญาตจากพนักงานเจา้ หนา้ ที่

มาตรา ๗๒ ตรี ผ้ใู ดฝา่ ฝืนหรอื ไม่ปฏบิ ตั ติ ามมาตรา ๕๔ ต้องระวางโทษจำคกุ ไมเ่ กนิ ห้าปี
หรอื ปรบั ไมเ่ กนิ ห้าหม่นื บาท หรือทั้งจำท้ังปรบั

๒.๒.๒) พระราชบัญญตั ิปา่ สงวนแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗
ป่าชายเลนที่ได้รับการกำหนดเป็นป่าสงวนแห่งชาติจะได้รับความคุ้มครอง

และการเข้าใช้ประโยชน์ของประชาชนจากพระราชบัญญัติฉบับน้ี โดยห้ามดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ
ท่ีอาจจะเป็นการเส่ือมเสียสภาพของป่าสงวนแห่งชาติ เช่น การเข้าอยู่อาศัย การก่อสร้าง
การแผ้วถาง การเผาปา่ การทำไม้ การเกบ็ หาของปา่ เป็นต้น

มาตรา ๔ ในพระราชบัญญตั นิ ้ี
“ป่า” หมายความว่า ที่ดิน รวมตลอดถึง ภูเขา ห้วย หนอง คลอง บึง บาง ลำน้ำ
ทะเลสาบ เกาะ และท่ีชายทะเลที่ยังมิได้มีบุคคลได้มาตามกฎหมาย “ป่าสงวนแห่งชาติ”
หมายความว่า ป่าที่ได้กำหนดใหเ้ ปน็ ป่าสงวนแหง่ ชาตติ ามพระราชบญั ญัตินี้
มาตรา ๖ บรรดาปา่ ท่เี ปน็ ปา่ สงวนอยู่แล้วตามกฎหมายว่าดว้ ยการคุ้มครองและสงวนป่า
กอ่ นวันท่ีพระราชบัญญตั ินใ้ี ชบ้ ังคบั ใหเ้ ป็นปา่ สงวนแหง่ ชาตติ ามพระราชบญั ญัตินี้
เม่ือรัฐมนตรีเห็นสมควรกำหนดป่าอื่นใดเป็นป่าสงวนแห่งชาติ เพ่ือรักษาสภาพป่า
ไม้ของป่าหรือทรัพยากรธรรมชาติอื่น ให้กระทำได้โดยออกกฎกระทรวงซ่ึงต้องมีแผนที่
แสดงแนวเขตปา่ ทก่ี ำหนดเป็นปา่ สงวนแหง่ ชาตนิ นั้ แนบท้ายกฎกระทรวงดว้ ย
มาตรา ๑๔ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ห้ามมิให้บุคคลใดยึดถือครอบครองทำประโยชน์
หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ เก็บหาของป่า หรือกระทำด้วยประการใด ๆ
อันเป็นการเส่อื มเสยี แกส่ ภาพปา่ สงวนแหง่ ชาติ เว้นแต่
(๑) ทำไม้หรือเก็บหาของปา่ ตามมาตรา ๑๕ เขา้ ทำประโยชนห์ รอื อยู่อาศยั ตามมาตรา ๑๖
มาตรา ๑๖ ทวิ หรือมาตรา ๑๖ ตรี กระทำการตามมาตรา ๑๗ ใช้ประโยชน์ตามมาตรา ๑๘ หรือกระทำการ
ตามมาตรา ๑๙ หรือมาตรา ๒๐
(๒) ทำไม้หวงห้ามหรือเกบ็ หาของปา่ หวงห้ามตามกฎหมายว่าดว้ ยปา่ ไม้



มาตรา ๑๕ การทำไม้หรือการเกบ็ หาของปา่ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติใหก้ ระทำได้เม่ือไดร้ ับ
ใบอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเมื่อพนักงานเจ้าหน้าท่ีได้ประกาศอนุญาตไว้เป็นคราว ๆ
ในเขตปา่ สงวนแห่งชาตแิ หง่ หนง่ึ แหง่ ใดโดยเฉพาะ

การอนญุ าตใหเ้ ป็นไปตามแบบ ระเบยี บและวธิ กี ารที่กำหนดในกฎกระทรวง
๒.๒.๓) พระราชบัญญัตสิ ่งเสริมและรกั ษาคุณภาพสงิ่ แวดลอ้ มแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕

มาตรา ๙๗ ผู้ใดกระทำหรือละเว้นการกระทำด้วยประการใด โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
อันเป็นการทำลายหรือทำให้สูญหายหรือเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติซึ่งเป็นของรัฐ
หรือเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน มีหน้าท่ีต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายให้แก่รัฐ
ตามมลู ค่าทงั้ หมดของทรัพยากรธรรมชาตทิ ่ีถูกทำลาย สญู หาย หรอื เสยี หายไปนั้น

๒.๒.๔) พระราชบญั ญตั ิสงวนและค้มุ ครองสตั วป์ ่า พ.ศ. ๒๕๖๒
พระราชบัญญัตนิ ี้มีบทบญั ญตั ิคมุ้ ครองพน้ื ท่ีซงึ่ เป็นที่อยอู่ าศัยของสัตว์ป่า และคมุ้ ครอง

ชนิดพันธุส์ ัตวต์ ามบัญชีรายชื่อสัตวป์ ่าคุ้มครองท้ายพระราชบัญญัติ ปา่ ชายเลนจึงได้รบั การคุ้มครอง
เพราะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าในรายช่ือสัตว์ป่าคุ้มครอง นอกจากความคุ้มครองจาก
“เขตห้ามลา่ สตั ว์ปา่ ” แลว้ ยงั ได้รบั การคุ้มครองโดยจัดตั้งพื้นท่ี “เขตรักษาพันธุส์ ตั ว์ป่า” ซึ่งมมี าตรา
ท่เี กย่ี วข้อง ได้แก่

มาตรา ๔๗ เม่ือปรากฏว่าบริเวณพ้ืนที่ใดมีสภาพธรรมชาติสมควรต้องอนุรกั ษ์ไว้ให้เป็น
แหล่งท่ีอยู่อาศัยของสัตว์ป่าอย่างปลอดภัย และรักษาไวซ้ ึ่งพันธุส์ ัตว์ป่า ตลอดจนคุ้มครองทรัพยากร
ธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม หรือระบบนิเวศใหค้ งเดิม เพ่ือประโยชน์ในการอนุรกั ษ์และคุ้มครองสัตว์ป่า
และความหลากหลายทางชีวภาพ ให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โดยความเห็นชอบ
ของคณะกรรมการเสนอคณะรฐั มนตรพี จิ ารณาใหค้ วามเห็นชอบโดยตราเป็นพระราชกฤษฎกี าและให้มี
แผนที่แสดงแนวเขตนน้ั ดว้ ย บรเิ วณที่กำหนดนี้เรยี กวา่ “เขตรักษาพนั ธ์สุ ัตว์ป่า”

เม่อื พระราชกฤษฎีกาตามวรรคหนง่ึ มผี ลใชบ้ ังคับแล้ว ใหม้ าตรการบังคับหรือมาตรการ
คุ้มครองในพ้ืนท่ีดังกล่าวเป็นไปตามที่กำหนดในพระราชบัญญัตินี้ เว้นแต่กฎหมายอ่ืนจะได้กำหนด
มาตรการในเร่อื งดงั กลา่ วไวไ้ ม่ต่ำกวา่ มาตรการทก่ี ำหนดในพระราชบญั ญัตนิ ้ี

มาตรา ๕๒ เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครอง บำรุง ดูแล และรักษาเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่า
ให้จัดให้มีแผนการอนุรักษ์และคุ้มครองพื้นท่ีเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแต่ละแห่งเพื่อเสนออธิบดีกรมอทุ ยาน
แห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์ุพืชให้ความเห็นชอบ เม่ืออธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์ุพืช
ให้ความเห็นชอบแผนการอนุรักษ์และคุ้มครองพ้ืนท่ีเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าดังกล่าวแล้ว ให้หัวหน้าเขต

๑๐

รักษาพันธ์ุสัตว์ป่า ที่มีหน้าท่ีรับผิดชอบในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าน้ันดำเนินการให้เป็นไปตามแผน
การอนุรักษ์และค้มุ ครองพื้นท่ีเขตรกั ษาพันธุส์ ัตวป์ า่ นัน้

แผนการอนุรักษ์และคุ้มครองพื้นท่ีเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าตามวรรคหน่ึง ต้องสอดคล้องกับ
แผนแม่บทการบรหิ ารจดั การการอนรุ กั ษส์ ตั ว์ป่าและเขตรกั ษาพนั ธส์ุ ัตว์ป่า ตามมาตรา ๔๕ (๓)
และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ท่ีอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์ุพืชประกาศกำหนด
โดยอย่างน้อยต้องประกอบด้วยการรับฟังความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย
ชุมชนที่เกี่ยวข้องและประชาชนในการจัดทำแผน แนวทางการอนุรักษ์และคุ้มครองสัตว์ป่า
การดูแลและฟื้นฟูแหล่งท่ีอยู่อาศัย หรือแหล่งหากินของสัตว์ป่า การคุ้มครองและดูแลรักษา
สภาพธรรมชาติ ทรัพยากรธรรมชาติ สิง่ แวดล้อม ระบบนเิ วศ และความหลากหลายทางชีวภาพ
ในเขตรกั ษาพนั ธ์สุ ัตวป์ า่ น้ัน

มาตรา ๕๓ ห้ามมิให้ผู้ใดเข้าไปในเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่า เว้นแต่ได้รับอนุญาต
จากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเป็นกรณีท่ีพนักงานเจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานอื่นใดซ่ึงต้องเข้าไป
ปฏิบัตกิ ารตามหนา้ ที่

ผู้ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าต้องปฏิบัติตามระเบียบท่ีอธิบดี
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กำหนดและคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าท่ีซ่ึงได้ส่ัง
ใหป้ ฏิบตั โิ ดยชอบดว้ ยกฎหมาย

หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการอนุญาตตามวรรคหน่ึง ให้เป็นไปตาม
ระเบยี บทีอ่ ธบิ ดกี รมอทุ ยานแหง่ ชาติ สตั ว์ปา่ และพันธพ์ุ ชื กำหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ

มาตรา ๕๔ ภายในเขตรักษาพันธ์ุสตั ว์ป่า ห้ามมิให้ผู้ใดล่าสัตวป์ ่า เก็บหรือทำอันตราย
แก่รังของสัตว์ป่า หรือล่อหรือนำสัตว์ป่าออกไป เว้นแต่จะกระทำเพื่อการสำรวจ การศึกษา การวิจัย
หรือการทดลองทางวิชาการ และได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า
และพนั ธพุ์ ืช

หลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขการขออนุญาตและการอนุญาต ให้เป็นไปตามระเบียบ
ท่ีอธบิ ดีกรมอทุ ยานแหง่ ชาติ สตั ว์ป่า และพนั ธุ์พชื กำหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ

มาตรา ๕๕ ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ห้ามมิให้ผู้ใดกระทำการอย่างหน่ึงอย่างใด
ดงั ต่อไปน้ี

(๑) กระทำให้หลักเขต ป้าย เครื่องหมายแสดงแนวเขต หรือเคร่ืองหมายอื่น
ซึง่ พนักงานเจา้ หนา้ ท่ีจดั ใหม้ ีตามพระราชบัญญัตนิ เี้ คล่อื นท่ี ลบเลอื น เสียหาย สญู หาย หรอื ไรป้ ระโยชน์

๑๑

(๒) ยึดถือหรือครอบครองท่ีดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า หรือทำด้วยประการใด
ใหเ้ ส่ือมสภาพหรือเปลีย่ นแปลงสภาพธรรมชาติเดมิ

(๓) เปล่ียนแปลงทางน้ำหรอื ทำใหน้ ำ้ ในลำน้ำ ลำห้วย หนอง บงึ ท่วมทน้ เหือดแห้ง
เนา่ เสีย หรือเป็นพษิ

(๔) ปิดกั้นหรอื ทำใหก้ ีดขวางแกท่ างน้ำหรอื ทางบก
(๕) เก็บหา นำออกไป กระทำด้วยประการใด ๆ ให้เป็นอันตราย หรือทำให้เส่ือมสภาพ
ซ่ึงไม้ ดิน หิน กรวด ทราย แร่ ปิโตรเลียม หรือทรัพยากรธรรมชาติอ่ืน หรือกระทำการอื่นใด
อันสง่ ผลกระทบตอ่ ทรัพยากรธรรมชาติ สง่ิ แวดล้อม ระบบนเิ วศ หรอื ความหลากหลายทางชีวภาพ
(๖) ปลูกต้นไม้หรอื พฤกษชาติอื่น ๆ หรือนำหรือปล่อยสัตว์ทุกชนดิ เข้าไปเพื่อประโยชน์
ในการสำรวจ การศึกษา การวิจัย หรือการทดลองทางวิชาการ การถ่ายทำภาพยนตร์ วีดิทัศน์
หรือสารคดี การถา่ ยภาพ การศึกษาธรรมชาติ การบำรุงรักษาโครงสร้างสาธารณูปโภคพ้ืนฐาน
หรือเพ่ือความมั่นคงทางพลังงาน พนักงานเจ้าหน้าท่ีอาจอนุญาตให้บุคคลกระทำการตาม (๔)
(๕) หรือ (๖) ได้ภายในบริเวณพ้ืนท่ีที่กำหนด ทั้งนี้ การกระทำนั้นต้องอยู่ในความควบคุมดูแล
ของพนักงานเจ้าหน้าที่ ไม่รบกวนการดำรงชีวิตตามธรรมชาติของสัตว์ป่าเกินสมควร
และไมก่ ่อให้เกดิ ความเสยี หายต่อเขตรักษาพันธสุ์ ัตวป์ า่ ดว้ ย
หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการอนุญาต และการควบคุมดูแล
ตามวรรคสอง ให้เป็นไปตามระเบียบที่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์ุพืชกำหนด
โดยความเหน็ ชอบของคณะกรรมการ
๒.๒.๕) พระราชบญั ญัติอทุ ยานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๒
ป่าชายเลนทั้งหมดท่ีอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ จะถูกคุ้มครองโดยพระราชบัญญัติ
อทุ ยานแห่งชาติฉบับน้ี การกระทำใด ๆ ท่ีส่งผลกระทบต่อสัตว์และทรพั ยากรธรรมชาติในเขตอุทยาน
แห่งชาติถือเป็นความผดิ ตามมาตราทีร่ ะบไุ วใ้ นพระราชบญั ญตั ินี้
มาตรา ๔๐ ผู้ใดกระทำการหรืองดเว้นกระทำการไม่วา่ จงใจหรือประมาทเลินเล่อ
โดยมิชอบด้วยกฎหมาย และก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติ
วนอุทยาน สวนพฤกษศาสตร์ หรือสวนรุกขชาติ ผู้นั้นต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่รัฐ
ตามมูลคา่ ทงั้ หมดของทรัพยากรธรรมชาตทิ ถ่ี กู ทำลาย สญู หาย หรือเสียหายไปนนั้
ในกรณีท่ีพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดเพ่ือฟื้นฟูสภาพธรรมชาติ
ระบบนิเวศ ทรัพยากรธรรมชาติ หรอื ความหลากหลายทางชวี ภาพ อนั เป็นผลมาจากการกระทำการ

๑๒

หรืองดเว้นกระทำการของบุคคลใดตามวรรคหน่ึง ให้ผู้น้ันรับผิดชอบค่าใช้จ่ายท่ีเกิดข้ึ น
จากการดำเนินการดงั กล่าวด้วย

มูลค่าของทรัพยากรธรรมชาติตามวรรคหนึ่งให้ถือตามมูลค่าหรือบัญชีรายการ
ท่ีอธิบดกี ำหนดโดยความเหน็ ชอบของคณะกรรมการ

มาตรา ๔๑ ผู้ใดยึดถือหรือครอบครองที่ดิน กอ่ สรา้ ง แผ้วถาง เผาป่า หรือกระทำ
ด้วยประการใด ๆ ให้เสื่อมสภาพหรือเปล่ียนแปลงสภาพพื้นท่ีไปจากเดิมในอุทยานแห่งชาติ
วนอุทยาน สวนพฤกษศาสตร์ หรือสวนรุกขชาติ อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา ๑๙ (๑) ต้องระวางโทษจำคุก
ต้งั แต่สปี่ ถี ึงย่สี ิบปี หรอื ปรับตั้งแตส่ ี่แสนบาทถึงสองล้านบาท หรือทัง้ จำทงั้ ปรับ

ในกรณีความผิดตามวรรคหน่งึ ถ้าได้กระทำในพ้ืนทล่ี ุ่มน้ำช้ันท่ี ๑ หรือพื้นทล่ี ุ่มน้ำชั้นที่ ๒
ตามที่คณะรัฐมนตรีกำหนด หรือพ้ืนที่เปราะบางของระบบนิเวศหรือความหลากหลายทางชีวภาพ
ผกู้ ระทำตอ้ งระวางโทษหนกั กว่าโทษท่กี ฎหมายบัญญตั ไิ วใ้ นวรรคหนงึ่ กึ่งหน่ึง

มาตรา ๔๒ ผใู้ ดเก็บหา นำออกไป กระทำดว้ ยประการใด ๆ ใหเ้ ป็นอันตราย หรือทำให้
เส่ือมสภาพซึ่งไม้ ดิน หิน กรวด ทราย แร่ ปิโตรเลียม หรือทรัพยากรธรรมชาติอื่น หรือกระทำ
การอ่ืนใดอันส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ ความหลากหลายทางชีวภาพ หรือทรัพยากรธรรมชาติ
และส่ิงแวดล้อมในอุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน สวนพฤกษศาสตร์ หรือสวนรกุ ขชาติ อันเป็นการ
ฝ่าฝนื มาตรา ๑๙ (๒) ตอ้ งระวางโทษจำคกุ ไม่เกินหา้ ปี หรือปรับไม่เกนิ หา้ แสนบาท หรอื ท้งั จำทงั้ ปรับ

ในกรณีความผิดตามวรรคหนึ่ง ถ้าเป็นการกระทำแก่ทรพั ยากรธรรมชาติท่ีสามารถ
เกิดใหม่ทดแทนได้ตามฤดูกาลและมีมูลค่ารวมกันไม่เกินสองพันบาท ผู้กระทำต้องระวางโทษปรับ
ไมเ่ กนิ ห้าพนั บาท

ในกรณีความผิดตามวรรคหนึ่ง ถ้าเป็นการกระทำที่ได้ก่อให้เกิดความเสียหาย
แก่ไม้ที่เป็นต้นหรือเป็นท่อนอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่างรวมกันเกินย่ีสิบต้นหรือท่ อน
หรือรวมปริมาตรไม้เกินสี่ลูกบาศก์เมตร ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ส่ีปีถึงย่ีสิบปี
และปรับตัง้ แตส่ ่ีแสนบาทถึงสองลา้ นบาท

๒.๒.๖) พระราชบัญญตั สิ ง่ เสริมการบรหิ ารจดั การทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. ๒๕๕๘
สรุปสาระสำคญั ของพระราชบญั ญตั สิ ่งเสริมการบรหิ ารจดั การทรัพยากรทางทะเล

และชายฝงั่ พ.ศ. ๒๕๕๘
๑) เหตุผลที่มีกฎหมาย เน่ืองจากการบริหารจดั การทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

ยังไม่มีเอกภาพ ขาดการบูรณาการ และขาดการมีส่วนร่วมของประชาชนและชุมชนในท้องถิ่น

๑๓

และกฎหมายท่ีใช้บังคับอยู่ปัจจุบันยังไม่ครอบคลุมเพ่ือคมุ้ ครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่ัง
ในบางพนื้ ท่ี จงึ สมควรมกี ฎหมาย

๒) กฎหมายมวี ัตถุประสงค์ เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ในการบริหารจัดการ การบำรุงรักษา
การอนุรักษ์ การฟ้ืนฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และการป้องกันการกัดเซาะชายฝ่ัง
โดยให้ประชาชนและชุมชนในท้องถิ่นได้มีส่วนร่วมในการปลูก การบำรุงรักษาและการอนุรักษ์
ฟ้ืนฟูทรพั ยากรทางทะเลและชายฝง่ั อย่างสมดลุ และย่ังยนื

๓) มีผลบงั คบั ใช้ : เมอื่ วนั ที่ ๒๔ มถิ นุ ายน ๒๕๕๘
๔) ขอบเขตการบังคับใช้กฎหมาย : ครอบคลุมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
ท้ังระบบนิเวศ อาณาเขต ๒๐๐ ไมล์ทะเล สอดคล้องกับอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วย
กฎหมายทะเล ค.ศ. ๑๙๘๒ พ้ืนท่ี ๒๐๒ ลา้ นไร่
๕) บทบญั ญตั สิ ำคญั ของกฎหมาย : แบ่งออกเปน็ ๕ หมวด คอื

หมวดท่ี ๑ วา่ ด้วยคณะกรรมการนโยบายและแผนการบรหิ ารจดั การทรัพยากร
ทางทะเลและชายฝ่งั แหง่ ชาติ

หมวดที่ ๒ วา่ ดว้ ยชมุ ชนชายฝ่งั
หมวดที่ ๓ วา่ ด้วยการคมุ้ ครองทรพั ยากรทางทะเลและชายฝั่ง
หมวดท่ี ๔ ว่าดว้ ยพนกั งานเจ้าหนา้ ที่
หมวดที่ ๕ วา่ ดว้ ยบทกำหนดโทษ
โดยมสี าระสำคัญพอสงั เขปดงั น้ี
- กำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายและแผนการบรหิ ารจัดการทรัพยากรทางทะเล
และชายฝ่ังแห่งชาติ เพ่ือวางแผนและบริหารงานด้านทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่ัง รวมถึง
มีอำนาจแต่งต้งั คณะอนุกรรมการ
- กำหนดให้มีคณะกรรมการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจังหวัดในจังหวัด
ท่มี ชี ายฝ่งั ทะเล
- กำหนดให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทำหน้าที่เป็นสำนักงานเลขานุการ
ของคณะกรรมการ
- กำหนดให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งพิจารณาให้ความช่วยเหลือ
หรือสนับสนนุ ชมุ ชนชายฝ่งั

๑๔

- กำหนดกลไกและมาตรการในการคมุ้ ครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่งั ดงั นี้
(๑) มาตรการคุ้มครองในกรณีบุคคลก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง

ต่อทรพั ยากรทางทะเลและชายฝ่ัง
(๒) มาตรการคมุ้ ครองพนื้ ทีป่ า่ ชายเลน
(๓) มาตรการคุม้ ครองพ้นื ทค่ี ุ้มครองทรพั ยากรทางทะเลและชายฝ่ัง
(๔) มาตรการคุ้มครองในกรณีทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่ังอาจถูกทำลาย

หรือไดร้ บั ความเสียหายอย่างร้ายแรงเขา้ ขน้ั วกิ ฤต
(๕) กำหนดอำนาจของพนกั งานเจา้ หนา้ ทเ่ี พื่อปฏิบตั ิการใหเ้ ป็นไปตามพระราชบญั ญตั ฉิ บบั นี้
(๖) มบี ทกำหนดโทษ ในกรณีท่ไี มป่ ฏิบตั ติ ามคำสง่ั ของอธิบดหี รือผ้ซู งึ่ อธบิ ดมี อบหมาย

และการไม่ปฏบิ ัตติ ามกฎกระทรวง หรอื ประกาศกระทรวง
๖) จุดเด่นของพระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เป็นกฎหมายเชิงนโยบาย (Policy Law)

และการบริหารจัดการ เพื่อประสานและเสริมประสิทธิภาพให้แก่การบังคับใช้กฎหมายอื่น ๆ
ท่ีเกยี่ วขอ้ งทั้งโดยตรงหรอื โดยออ้ มตอ่ การบรหิ ารจดั การทรพั ยากรทางทะเลและชายฝั่งพร้อมทง้ั
มมี าตรการค้มุ ครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่ังควบคู่ไปด้วย

๗) มาตราที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการป่าชายเลน ได้แก่ มาตรา ๑๘ มาตรา ๑๙
มาตรา ๒๐ และมาตรา ๒๓

มาตรา ๑๘ เพื่อประโยชน์ในการสงวน การอนรุ ักษ์ และการฟ้นื ฟูพ้นื ท่ีปา่ ชายเลน
ให้คงสภาพธรรมชาติและมีสภาพแวดล้อมและระบบนิเวศท่ีมีความสมบูรณ์ ให้รัฐมนตรี
โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการมีอำนาจออกกฎกระทรวงกำหนดให้พื้นท่ีป่าชายเลน
บริเวณหน่งึ บริเวณใดเปน็ พื้นทป่ี ่าชายเลนอนรุ ักษ์

พน้ื ทที่ ี่กำหนดให้เป็นพ้ืนท่ีปา่ ชายเลนอนุรกั ษต์ ามวรรคหนึ่ง ตอ้ งเป็นพนื้ ท่ีท่ีมิได้อยู่
ในเขตอุทยานแห่งชาติตามกฎหมายว่าด้วยอุทยานแห่งชาติ หรือเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือ
เขตห้ามล่าสัตว์ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า หรือมิได้อยู่ในกรรมสิทธิ์
หรอื สทิ ธิครอบครองตามประมวลกฎหมายทีด่ นิ ของบุคคลใดซงึ่ มิใช่หน่วยงานของรัฐ

การออกกฎกระทรวงตามวรรคหนึ่ง ให้กำหนดมาตรการคุ้มครองตามมาตรา ๒๓
และให้มีแผนทแ่ี สดงแนวเขตพ้นื ที่ป่าชายเลนอนรุ กั ษ์แนบทา้ ยกฎกระทรวงด้วย

มาตรา ๑๙ ในกรณีท่ีพื้นที่ป่าชายเลนหรือป่าชายเลนอนุรักษ์อยู่ในเขตป่าสงวน
แห่งชาติหรือป่า ให้บรรดาอำนาจหน้าท่ีของอธิบดีกรมป่าไม้ตามกฎหมายว่าด้วยป่าสงวนแห่งชาติ
หรือกฎหมายวา่ ด้วยปา่ ไม้เป็นอำนาจหนา้ ท่ีของอธบิ ดี

๑๕

มาตรา ๒๐ เพื่อประโยชน์ในการสงวน การอนุรักษ์ และการฟ้ืนฟูทรัพยากรทางทะเล
และชายฝั่งท่ีมิใช่พื้นท่ีป่าชายเลนตามมาตรา ๑๘ ให้คงสภาพธรรมชาติและมีสภาพแวดล้อม
และระบบนิเวศท่ีมีความสมบูรณ์ ให้รัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการมีอำนาจ
ออกกฎกระทรวงกำหนดให้พนื้ ท่ีท่ีมีลักษณะดงั ต่อไปน้ี เปน็ พ้นื ทค่ี ้มุ ครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝัง่

(๑) พื้นท่ีที่มีทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่ังอยู่ในสภาพสมบูรณ์อันสมควรสงวนไว้
ใหค้ งอยูใ่ นสภาพทางธรรมชาตเิ ดมิ

(๒) พืน้ ทีท่ เ่ี ป็นถนิ่ ทีอ่ ยอู่ าศยั ของสตั ว์และพชื ตามสภาพทางธรรมชาตทิ ี่สมบรู ณ์
(๓) พืน้ ท่ีท่ีมคี วามสำคญั ดา้ นระบบนิเวศทางทะเลและชายฝ่ังอันควรแก่การอนรุ ักษ์
พ้ืนที่ท่ีกำหนดให้เป็นพื้นที่คุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งตามวรรคหน่ึง
ต้องเป็นพื้นท่ีที่มิได้อยู่ในเขตอนุรักษ์ หรือเขตท่ีได้รับอนุญาตให้ทำการเพาะเล้ียงสัตว์น้ำ
ตามกฎหมายว่าด้วยการประมง
การออกกฎกระทรวงตามวรรคหนึ่ง ให้กำหนดมาตรการคุ้มครองตามมาตรา ๒๓
และใหม้ แี ผนทแ่ี สดงแนวเขตพน้ื ทีค่ มุ้ ครองทรพั ยากรทางทะเลและชายฝ่งั แนบท้ายกฎกระทรวงดว้ ย
มาตรา ๒๓ การกำหนดมาตรการคุ้มครองตามมาตรา ๑๘ มาตรา ๒๐ และมาตรา ๒๒
ใหก้ ำหนดในเรื่องหนึง่ เร่อื งใดดงั ตอ่ ไปน้ี
(๑) ห้ามดำเนินกิจกรรมหรือกระทำการใด ๆ ท่ีอาจเป็นอันตรายหรือก่อให้เกิด
ผลกระทบตอ่ ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
(๒) กำหนดมาตรการในการสงวน การอนุรักษ์ การฟ้ืนฟู และการใช้ประโยชน์
จากทรพั ยากรทางทะเลและชายฝั่งตามความเหมาะสมแก่สภาพพืน้ ทีน่ น้ั
(๓) กำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินเพ่ือรักษาสภาพธรรมชาติหรือมิให้กระทบกระเทือน
ต่อระบบนิเวศตามธรรมชาติ
(๔) กำหนดมาตรการในการคุ้มครองชายหาดเพื่อประโยชน์สาธารณะ
(๕) กำหนดมาตรการคมุ้ ครองอืน่ ๆ ตามทเ่ี ห็นสมควรและเหมาะสมแกส่ ภาพพ้ืนที่น้ัน

๒.๓ มติคณะรฐั มนตรที เี่ กยี่ วข้องกบั ทรพั ยากรป่าชายเลน
๑) มติคณะรัฐมนตรเี มอ่ื วนั ท่ี ๔ มกราคม ๒๕๐๙ เร่อื ง นโยบายการอนญุ าตทำไม้ปา่ ชายเลน

โดยให้สมั ปทานระยะยาว
๒) มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันท่ี ๒๗ มิถุนายน ๒๕๒๑ เร่ือง รายงานการประเมินผลกระทบ

ที่มีต่อสภาพแวดล้อมของป่าชายเลนของโครงการพัฒนาแหล่งชุมชนและสะพานเทียบเรือ
หมบู่ ้านตำมะลงั อำเภอเมอื ง จังหวัดสตลู

๑๖

๓) มตคิ ณะรฐั มนตรีเม่ือวนั ที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๒๓ เร่อื ง มาตรการการใช้ประโยชนใ์ นปา่ ชายเลน
๔) มติคณะรัฐมนตรีเม่ือวันท่ี ๒๙ มิถุนายน ๒๕๒๕ เรื่อง ขอให้พิจารณาทบทวน
มตคิ ณะรัฐมนตรี เก่ยี วกับมาตรการการใช้ประโยชนใ์ นปา่ ชายเลน
๕) มตคิ ณะรัฐมนตรีเม่อื วันที่ ๑ มนี าคม ๒๕๒๖ เร่อื ง ข้อเสนอแนะจากแนวทางดำเนนิ การ
และมาตรการปฏิบัติจากรายงานสถานการณ์สิ่งแวดล้อมปี พ.ศ. ๒๕๒๓
๖) มติคณะรฐั มนตรีเมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๒๗ เรอื่ ง ข้อเสนอแนะจากการสัมมนา
ระบบนเิ วศปา่ ชายเลน ครง้ั ที่ ๔
๗) มติคณะรฐั มนตรีเมือ่ วนั ท่ี ๓ กรกฎาคม ๒๕๒๗ เรอ่ื ง มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม
เร่ือง แนวนโยบายและมาตรการการรกั ษาคุณภาพสิ่งแวดลอ้ มจงั หวัดภูเกต็
๘) มติคณะรฐั มนตรเี มื่อวนั ท่ี ๑๕ ธันวาคม ๒๕๓๐ เร่ือง การจำแนกเขตการใชป้ ระโยชน์
ที่ดินในพ้นื ทปี่ ่าชายเลนประเทศไทยเปน็ เขตอนรุ ักษ์ เขตเศรษฐกิจ ก และเขตเศรษฐกิจ ข
๙) มตคิ ณะรฐั มนตรีเม่ือวนั ท่ี ๒๐ ธนั วาคม ๒๕๓๑ เร่อื ง การพิจารณาแก้ไขปญั หาการบุกรุก
ท่ีดินในพื้นที่ป่าชายเลนภาคตะวนั ออก
๑๐) มตคิ ณะรฐั มนตรเี มื่อวันที่ ๑ สงิ หาคม ๒๕๓๒ เร่ือง การสงวนและคุม้ ครองป่าชายเลน
๑๑) มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันท่ี ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๓ เร่ือง การพิจารณาแก้ไขปัญหาการบุกรุก
ท่ดี นิ ในพ้ืนทปี่ ่าชายเลนภาคตะวนั ออก
๑๒) มติคณะรัฐมนตรีเม่ือวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๓ เรื่อง ข้อเสนอแนะจากการสัมมนา
ระบบนเิ วศป่าชายเลน ครัง้ ท่ี ๖
๑๓) มติคณะรัฐมนตรีเม่ือวันท่ี ๔ มิถุนายน ๒๕๓๔ เรื่อง มาตรการเร่งด่วนการจัดการ
ทรพั ยากรชายฝง่ั ทะเลด้านป่าชายเลนและปะการงั
๑๔) มตคิ ณะรัฐมนตรเี มื่อวันท่ี ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๓๔ เรื่อง รายงานการศกึ ษาสถานภาพ
ปัจจุบันของป่าไม้ชายเลนและปะการังของประเทศ ในการนี้ ให้ระงับการใช้ประโยชน์ในพ้ืนที่
ป่าชายเลนโดยเดด็ ขาด
๑๕) มตคิ ณะรัฐมนตรีเม่ือวันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๓๔ เร่ือง มตคิ ณะกรรมการสงิ่ แวดลอ้ มแห่งชาติ
เร่ือง แผนปฏบิ ัตกิ ารจัดการทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมชายฝ่งั ทะเลภเู ก็ต บรเิ วณหาดปา่ ตอง
หาดกะรน และหาดกะตะ
๑๖) มติคณะรัฐมนตรีเม่ือวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๕ เรื่อง มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม
แห่งชาติ เร่ือง นโยบาย มาตรการ และแผนปฏิบัติการจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมชายฝั่งทะเล
ของประเทศ

๑๗

๑๗) มติคณะรัฐมนตรีเม่ือวันท่ี ๓ มีนาคม ๒๕๓๕ เร่ือง มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
เรือ่ ง แผนแมบ่ ทการจัดการปะการงั ของประเทศ

๑๘) มติคณะรฐั มนตรเี มื่อวันท่ี ๒๗ เมษายน ๒๕๓๖ เร่ือง มติคณะกรรมการส่งิ แวดลอ้ มแห่งชาติ
เรื่อง นโยบายและแผนการจดั การสิ่งแวดลอ้ มประจำปี ๒๕๓๗

๑๙) มตคิ ณะรฐั มนตรีเมื่อวันท่ี ๑๗ ตลุ าคม ๒๕๓๘ เร่ือง แผนปฏบิ ัตกิ ารป้องกันและแกไ้ ข
ปัญหานำ้ มนั รวั่ ไหลในแหล่งนำ้

๒๐) มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๓๙ เรื่อง ปัญหาผลกระทบส่ิงแวดล้อม
จากการเพาะเล้ียงกงุ้ ของประเทศไทย

๒๑) มตคิ ณะรัฐมนตรเี มือ่ วันท่ี ๑๓ สิงหาคม ๒๕๓๙ เรื่อง การยกเลกิ การให้สัมปทานทำไม้
ในเขตปา่ ไมช้ ายเลน

๒๒) มติคณะรัฐมนตรีเม่ือวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๓๙ เร่ือง การยกเลิกการให้สัมปทาน
ทำไม้ในเขตป่าไมช้ ายเลน

๒๓) มตคิ ณะรัฐมนตรเี ม่ือวันที่ ๒ ธนั วาคม ๒๕๓๙ เร่อื ง การศึกษาทบทวนมติคณะรัฐมนตรี
ที่มคี วามออ่ นไหวในทางการเมือง

๒๔) มติคณะรัฐมนตรีเม่ือวันท่ี ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๐ เรื่อง ขอผ่อนผันการใช้ประโยชน์
ในพื้นท่ปี า่ ชายเลน ตามมติคณะรฐั มนตรีเม่อื วนั ท่ี ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๓๔

๒๕) มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๔๐ เรื่อง มติคณะกรรมการพัฒนา
พืน้ ท่ีชายฝั่งทะเลภาคใต้ ครงั้ ท่ี กพต. ๒/๒๕๔๐

๒๖) มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๔๐ เร่ือง สถานภาพปัจจุบันของป่าชายเลน
และแผนการจดั การปา่ ชายเลนของประเทศ

๒๗) มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันท่ี ๗ ตุลาคม ๒๕๔๐ เร่ือง การแก้ไขปัญหาการจัดการพ้ืนท่ี
ป่าชายเลน ตามมติคณะรัฐมนตรีเม่ือวันท่ี ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๓๔ เรื่อง รายงานการศึกษา
สถานภาพปัจจบุ ันของปา่ ไม้ชายเลนและปะการงั ของประเทศ

๒๘) มติคณะรัฐมนตรี เม่ือวนั ท่ี ๒๒ สิงหาคม ๒๕๔๓ ให้คงไว้ซ่ึงมติคณะรัฐมนตรีเมอ่ื วันท่ี
๒๓ กรกฎาคม ๒๕๓๔ และให้นำพ้ืนท่ีป่าชายเลนที่จำแนกออกเป็นเขตการใช้ประโยชน์ท่ีดิน
ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเม่ือวันท่ี ๑๕ ธันวาคม ๒๕๓๐ พื้นที่งอกชายฝั่งทะเลที่เกิดขึ้นใหม่
มารวมเป็นพื้นท่ีเขตอนุรักษ์ท้ังหมด และในพื้นที่เขตอนุรักษ์ห้ามมิให้อนุญาตการใช้ประโยชน์
พ้ืนที่ป่าชายเลน ในทุกกรณีทั้งภาครัฐและเอกชน เพ่ือเปิดโอกาสให้ป่าชายเลนได้ฟื้นตัว
กลับคืนส่คู วามอุดมสมบูรณ์

๑๘

๒๙) มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๔๓ เรื่อง ขอผ่อนผันมติคณะรัฐมนตรี
โครงการกอ่ สรา้ งท่าเทยี บเรือตำมะลัง จงั หวัดสตลู

๓๐) มตคิ ณะรฐั มนตรี เม่อื วนั ท่ี ๑๗ ตลุ าคม ๒๕๔๓ เรอื่ ง มติคณะกรรมการนโยบาย
ป่าไม้แห่งชาติ คร้ังที่ ๓/๒๕๔๓ เรื่อง การแก้ไขปัญหาการจัดการพ้ืนที่ป่าชายเลน
สาระสำคัญคืออนุญาตให้ราษฎรได้เข้าไปอยู่อาศัยในเขต ป่าชายเลนโดยมิได้มีเอกสารสิทธิ
กอ่ นมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๓๔ ยังคงอยู่อาศัยต่อไปได้ แต่ไม่อนุญาต
ให้ทำกิน ทงั้ นีต้ ้องขออนญุ าตจากกรมปา่ ไมท้ ุกปี

๓๑) มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๔๕ เรื่อง มติคณะกรรมการนโยบาย
ป่าไม้แหง่ ชาติ ครงั้ ท่ี ๓/๒๕๔๓ เรือ่ ง การแก้ไขปัญหาการจัดการพืน้ ทปี่ ่าชายเลน

๓๒) มตคิ ณะรัฐมนตรีเมอ่ื วนั ที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๔๕ เรอ่ื ง ขอความเหน็ ชอบโครงการดา้ นเกษตร
๓๓) มติคณะรัฐมนตรีเมอ่ื วันที่ ๕ สงิ หาคม ๒๕๔๖ เรอ่ื ง โครงการปลกู ปา่ ชายเลนถาวร
เฉลิมพระเกียรตสิ มเด็จพระนางเจา้ สิรกิ ิตพิ์ ระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสทรงพระชนมายุ ๗๒ พรรษา
๓๔) มติคณะรัฐมนตรีเม่ือวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๔๘ เรื่อง ขอผ่อนผันการใช้ประโยชน์
พ้นื ทีป่ ่าชายเลนเพื่อกู้เรือประสบภยั
๓๕) มติคณะรฐั มนตรเี ม่อื วันท่ี ๒๙ มกราคม ๒๕๕๖ เรื่อง ขออนุมัติเพ่ิมเติมคณะรัฐมนตรี
ที่เห็นชอบและอนุมัติให้กรมเจ้าท่าดำเนินโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรืออเนกประสงค์คลองใหญ่
จังหวัดตราด โดยอนุมัติยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับพื้นท่ีป่าชายเลน
เพ่ือกรมเจ้าท่าเข้าใช้ประโยชน์ในพ้ืนท่ีป่าชายเลนเป็นการถาวรในการก่อสร้างท่าเทียบเรือ
อเนกประสงคค์ ลองใหญ่ จังหวดั ตราด

นอกจากนี้มีความเห็นเพิ่มเติมในกรณีท่ีการดำเนินโครงการใด ๆ ของหน่วยงาน
ของรัฐมีความจำเป็นต้องเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่า และจะต้องมีการปลูกป่าชายเลนทดแทน
เพื่อการอนุรักษ์หรือรักษาสภาพแวดล้อมของพื้นท่ีด้วย ซึ่งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
ได้ออกระเบียบกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งว่าด้วยการปลูกและบำรุงป่าชายเลนทดแทน
เพอ่ื การอนรุ กั ษห์ รือรกั ษาสภาพแวดล้อม กรณกี ารดำเนินการโครงการใด ๆ ของหน่วยงานของรัฐ
ทม่ี ีความจำเป็นตอ้ งเข้าใชป้ ระโยชน์ในพ้ืนที่ป่าชายเลน พ.ศ. ๒๕๕๖ (เป็นทม่ี าของการต้องจ่าย
ค่าปลูกป่าชายเลนทดแทนของหน่วยงานของรัฐมีความจำเป็นต้องเข้าใช้ประโยชน์ในพ้ืนที่
ป่าชายเลน ใหก้ รมทรพั ยากรทางทะเลและชายฝัง่ ๒๐ เทา่ ของพนื้ ที่ท่ีขอใช้ประโยชน)์

๓๖) มติคณะรัฐมนตรี เม่ือวันท่ี ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ มีมติให้ถือเป็นหลักปฏิบัติ
ว่าส่วนราชการเจ้าของเรื่องต้องขอความเหน็ ชอบจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม

๑๙

ซึ่งมีภารกิจในการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยตรงก่อน และนำความเห็นชอบ
ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมดังกล่าว เสนอไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
พร้อมกับเรอ่ื งท่ีจะเสนอคณะรฐั มนตรีเพ่ือดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

๓๗) มตคิ ณะรัฐมนตรีเม่ือวันท่ี ๒๖ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๑ เรื่อง พื้นท่ีเปา้ หมายและกรอบ
มาตรการแกไ้ ขปญั หาการอยูอ่ าศยั และทำกนิ ในพืน้ ท่ีปา่ ไม้ทุกประเภท
๒.๔ คำสง่ั คณะรักษาความสงบแห่งชาติ

๑) คำส่ัง คสช. ท่ี ๖๔/๒๕๕๗ เรื่อง การปราบปรามและหยุดยั้งการบุกรุกทำลาย
ทรัพยากรปา่ ไม้

๒) คำสั่ง คสช. ที่ ๖๖/๒๕๕๗ เรื่อง เพิ่มเติมหน่วยงานสำหรับการปราบปราม หยุดยั้ง
การบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไมแ้ ละนโยบายการปฏิบตั งิ านเปน็ การชว่ั คราวในสภาวการณป์ ัจจุบัน
๒.๕ หลักเกณฑ์ มาตรการในการจดั ระเบยี บการใช้ประโยชนท์ ีด่ ินในเขตปา่ ชายเลน

เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเม่ือวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ กรมทรัพยากร
ทางทะเลและชายฝงั่ ไดว้ างหลักเกณฑใ์ นการจัดระเบียบการใชป้ ระโยชนท์ ด่ี นิ ในเขตป่าชายเลน ดังนี้

ภาพท่ี ๑ หลกั เกณฑแ์ ละมาตรการในการจดั ระเบยี บการใช้ประโยชนท์ ด่ี นิ ในเขตปา่ ชายเลน
ตามมติคณะรฐั มนตรเี มือ่ วนั ที่ ๒๖ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๑

๒๐
๒.๖ การดำเนินคดีอาญาตอ่ ผู้บกุ รุกพน้ื ท่ปี ่าชายเลน และผลคดี

๒.๖.๑ การดำเนนิ คดีอาญา
กฎหมายที่ใช้ประกอบการดำเนินคดี ได้แก่ ประมวลกฎหมายอาญา ประมวลกฎหมาย

วิธพี จิ ารณาความอาญา พระราชบญั ญตั ิป่าไม้ พุทธศกั ราช ๒๔๘๔ พระราชบญั ญตั ิป่าสงวนแหง่ ชาติ
พ.ศ. ๒๕๐๗ และพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
พ.ศ. ๒๕๕๘

ขัน้ ตอนการดำเนนิ คดี

ภาพท่ี ๒ ขนั้ ตอนการดำเนนิ คดอี าญา
ทมี่ า : กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่ัง

๒๑

๒.๖.๒ สรปุ ผลคดีทบ่ี กุ รกุ ปา่ ชายเลน
ข้อมูลสารบบคดีบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่ัง

ต้งั แต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๖ - ๒๕๖๒ จำนวน ๒,๐๙๒ คดี (ข้อมลู ณ วันท่ี ๑๘ สงิ หาคม ๒๕๖๓)
- จำนวนคดีในสารบบคดที ้งั หมด จำนวน ๒,๐๙๒ คดี (พ.ศ. ๒๕๔๖ – ๒๕๖๒)
๑) คดีมตี ัวผตู้ ้องหา ๘๕๖ คดี
๒) คดไี มม่ ีตวั ผตู้ อ้ งหา ๑,๒๓๖ คดี
- สถานะคดีทอี่ ยู่ระหวา่ งกระบวนการยุตธิ รรม รวมจำนวน ๑,๐๖๙ คดี
๓) คดีอยูใ่ นชน้ั พนักงานสอบสวน ๗๘๘ คดี
๔) คดีท่ีอยู่ในชน้ั พนักงานอยั การ ๒๔๔ คดี
๕) คดีท่ีอยู่ในชนั้ ศาล ๓๗ คดี
- สถานะคดถี ึงทีส่ ดุ รวมจำนวน ๑,๐๑๙ คดี
๖) คดพี นักงานอัยการมีคำสงั่ งดสอบสวน ๓๕๙ คดี
๗) คดพี นักงานอยั การมคี ำสงั่ เดด็ ขาดไม่ฟอ้ ง ๑๕๙ คดี
๘) คดีที่ศาลตดั สินโทษ ๔๘๒ คดี
๙) ยตุ กิ ารดำเนนิ คดี (ผู้ตอ้ งหาเสยี ชวี ิต) ๑๙ คดี
- คดีพเิ ศษ รวมจำนวน ๔ คดี ไดแ้ ก่
๑) คดีอาญาท่ี ๕๖๐/๒๕๕๙ ตำบลไสไทย อำเภอเมอื ง จังหวัดกระบี่ เนื้อที่ ๔.๓๗ ไร่

สถานะคดีอย่รู ะหว่างช้นั พนักงานสอบสวน
๒) คดีอาญาที่ ๗๗/๒๕๕๙ ตำบลเขาทอง อำเภอเมอื ง จังหวดั กระบ่ี เน้ือที่ ๓.๓๔ ไร่

สถานะคดีอยรู่ ะหวา่ งชัน้ พนกั งานสอบสวน
๓) คดีอาญาท่ี ๗๘/๒๕๕๙ ตำบลเขาทอง อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ เนื้อที่ ๖๑.๒๗ ไร่

สถานะคดีอยู่ระหวา่ งชน้ั พนกั งานสอบสวน
๔) คดีอาญาท่ี ๑๐๐๖/๒๕๕๙ ตำบลไสไทย อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ เน้ือท่ี ๔๕.๖๙ ไร่

สถานะคดีอยูร่ ะหว่างการพจิ ารณาของศาลฎกี า



บทท่ี ๓
สถานการณ์ทรพั ยากรป่าชายเลนของประเทศไทย

สถานการณ์ทรัพยากรป่าชายเลนในบทนี้ จะเป็นการนำเสนอข้อมูลเชิงพ้ืนท่ี
เพ่ือให้เห็นการเปล่ียนแปลงของพ้ืนที่ป่าชายเลนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จากการรายงาน
ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มีข้อมูลการเปล่ียนแปลงของทรัพยากรป่าชายเลน
ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๐๔ – พ.ศ. ๒๕๖๑ การทราบถึงแนวโน้มการเปล่ียนแปลงของทรัพยากรป่าชายเลน
ในแต่ละพื้นท่ีและนำไปสู่การกำหนดแนวทางการอนุรักษ์ และฟื้นฟูทรัพยากรป่าชายเลนที่ยั่งยืน
และเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ รวมท้ังการจำแนกการใช้ประโยชน์พ้ืนที่ป่าชายเลน กล่าวคือ
ป่าชายเลนในประเทศไทยกระจายอยู่ในบริเวณพื้นท่ีภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้
รวม ๒๔ จังหวัด มีเนื้อท่ีรวมประมาณ ๒.๘๖ ล้านไร่ ซ่ึงในจำนวนนี้มีพื้นที่ป่าชายเลน
คงสภาพประมาณ ๑.๕๓ ล้านไร่ ส่วนท่ีเหลือได้เปลี่ยนเป็นการใช้ประโยชน์ในรูปแบบต่าง ๆ
ประมาณ ๑.๓๓ ลา้ นไร่

กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้จัดแบ่งเขตพ้ืนที่ป่าชายเลนออกเป็น ๖ พ้ืนที่
ตามสภาพภูมปิ ระเทศ และลักษณะความคล้ายคลึงของสงั คมพชื ดงั นี้

๑) อ่าวไทยฝ่ังตะวันออก ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง
จงั หวดั จนั ทบรุ ี และจงั หวดั ตราด

๒) อ่าวไทยตอนบน ได้แก่ จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสาคร
กรงุ เทพมหานคร และจงั หวดั สมทุ รปราการ

๓) อ่าวไทยตอนกลาง ได้แก่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดชุมพร จังหวัดสุราษฎร์ธานี
และจงั หวดั นครศรีธรรมราช

๔) อา่ วไทยตอนลา่ ง ได้แก่ จังหวดั พัทลุง จังหวัดสงขลา จังหวดั ปัตตานี และจงั หวดั นราธวิ าส
๕) ทะเลอันดามันตอนบนในบริเวณพ้ืนที่ชายฝั่งทะเล ได้แก่ จงั หวัดระนอง และจงั หวัด
พังงา ในส่วนของอำเภอคุระบุรี อำเภอท้ายเหมือง และอำเภอตะก่ัวป่า และบริเวณพ้ืนท่ี
อา่ วพงั งา ได้แก่ จงั หวัดภเู กต็ จงั หวัดพังงาส่วนที่เหลอื และจังหวัดกระบ่ี
๖) ทะเลอันดามนั ตอนล่าง ไดแ้ ก่ จังหวัดตรัง และจังหวัดสตูล

๒๔

ภาพท่ี ๓ การกระจายตวั ของพนื้ ท่ปี า่ ชายเลนในประเทศไทยปี พ.ศ. ๒๕๐๔ - ๒๕๖๑
ท่ีมา : กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝงั่

๒๕

๓.๑ การเปลี่ยนแปลงพน้ื ท่ปี า่ ชายเลน (พ.ศ. ๒๕๐๔ - ๒๕๖๑)
การสำรวจพื้นที่ป่าชายเลนเริ่มคร้ังแรกในปี พ.ศ. ๒๕๐๔ พบว่ามีพื้นที่ป่าชายเลน

ประมาณ ๒,๒๙๙,๓๗๕ ไร่ เป็นการสำรวจเพื่อให้สัมปทานเผาถ่านแก่เอกชน ทำให้พ้ืนท่ี
ป่าชายเลนลดลง และในช่วงระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๒๒ – ๒๕๓๐ การเพาะเล้ียงกุ้งกุลาดำเป็นอาชีพ
ท่ีได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากให้ผลตอบแทนสูง ราษฎรจึงบุกรุกแผ้วถางตัดไม้ป่าชายเลน
และยึดถือครอบครอง เปลี่ยนสภาพพ้ืนที่ป่าชายเลนไปเป็นบ่อเพาะเลี้ยงกุ้งกุลาดำจำนวนมาก
โดยเฉพาะฝังอ่าวไทยตั้งแต่จังหวัดตราดไปจนถึงจังหวัดปัตตานี พบว่าพ้ืนท่ีป่าชายเลน
ถกู เปลีย่ นสภาพไปถงึ ๕๖๗,๐๐๑ ไร่

ในปี พ.ศ. ๒๕๓๙ พบว่าพื้นท่ีป่าชายเลนมีเหลืออยู่น้อยท่ีสุด โดยเหลืออยู่เพียง
๑,๐๔๗,๓๙๐ ไร่ เท่าน้ัน ต่อมาสภาพแวดล้อมชายฝ่ังที่เส่ือมโทรมทำให้การเลี้ยงกุ้งกุลาดำ
ไม่ประสบผลสำเร็จอย่างที่เคยในอดีต ประกอบกับความผันผวนของราคากุ้งกุลาดำในตลาด
ทำให้ผู้เลี้ยงจำนวนมากเลิกกิจการไป ปล่อยให้บ่อเพาะเล้ียงกุ้งกุลาดำเป็นพ้ืนที่รกร้าง แต่ยังมี
การครอบครองซื้อขายสิทธิในที่ดินป่าชายเลนอย่างผิดกฎหมาย การบุกรุกทำลายป่าชายเลน
โดยการเพาะเล้ียงสัตว์น้ำจึงเปล่ียนรูปแบบมาเป็นการเข้าทำประโยชน์เพ่ือท่ีอยู่อาศัย
การเกษตรและการท่องเทยี่ ว

ต้ังแต่ พ.ศ. ๒๕๔๐ รัฐบาลได้ตระหนักถึงความรุนแรงของปัญหาที่เกิดข้ึน จึงเร่ิมมีนโยบาย
การฟืน้ ฟปู า่ ชายเลน เช่น การปลูกป่าทดแทนและการลดการบุกรุกทำลายปา่ ส่งผลให้ในปี พ.ศ. ๒๕๔๓
พ้ืนท่ีป่าชายเลนเพิ่มข้ึนกว่าห้าแสนไร่เป็น ๑,๕๗๘,๗๕๐ ไร่ และยังคงรักษาระดับการมีพ้ืนท่ี
ป่าชายเลนที่สมบูรณ์ไว้จนถึงปัจจุบัน ในปี พ.ศ. ๒๕๖๑ พ้ืนที่ป่าชายเลนสมบูรณ์มีประมาณ
๑,๕๓๘,๑๘๕ ไร่

ท่มี า : กรมทรพั ยากรทางทะเลและชายฝ่งั

๒๖
ตารางที่ ๑ การเปลยี่ นแปลงพื้นท่ีปา่ ชายเลนประเทศไทยระหวา่ งปี พ.ศ. ๒๕๐๔ – ๒๕๖๑


Click to View FlipBook Version