The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงสร้างหน้าที่ของใบ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ชีวิต ติดบัค, 2020-10-16 01:55:19

โครงสร้างหน้าที่ของใบ

โครงสร้างหน้าที่ของใบ

โครงสร้างหนา้ ท่ขี องใบ

ใบ (Leaf)

เปน็ อวัยวะหรือสว่ นของพชื ที่เจริญเติบโตยน่ื
ออกมาจากดา้ นขา้ งของลาตน้ บรเิ วณ ข้อ และมักมีตาอยู่
บริเวณซอกใบ (Leaf axil) ท่อี ยู่ระหวา่ งใบกับลาตน้ (หรือ
กง่ิ ) ใบทาหนา้ ท่สี งั เคราะห์อาหาร (คอื เปรยี บเสมือนเป็น
ครวั ของพืชน่นั เอง) ปกตใิ บมีสีเขยี วของคลอโรฟิลด์ซง่ึ ทา
หนา้ ที่สังเคราะหด์ ้วยแสง (Photosynthesis)

2

โครงสร้างของใบ

โครงสร้างภายนอกของใบ

มสี ว่ นประกอบสมบูรณ์ (Complete leaf)
จะมสี ่วนประกอบ 3 สว่ นดังนี้

1 ตัวใบหรอื แผน่ ใบ (Lamina หรือ Blade)
2 กา้ นใบ (Petiole หรอื Stalk)
3 หใู บ (Stipule)

3

โครงสรา้ งของใบ

โครงสรา้ งภายในของใบ

เอพิเดอร์มิส (Epidermis) เปน็ เยือ่ หุม้ ใบทม่ี ี
อยูท่ ั้งด้านบนและดา้ นล่างของใบประกอบดว้ ยเซลลแ์ ถว
เดียว และรปู รา่ งสเ่ี หลย่ี มผนื ผ้าเหมอื นในลาต้นเปน็ เซลล์
ท่ีไมม่ ี คลอโรพลาสต์ จงึ ทาให้ เอพิเดอร์มิส ท้ังด้านบน
และด้านล่างไม่มีสีเขยี ว มี ควิ ทิน เคลอื บที่ดา้ นนอกของ
ผนงั เซลลจ์ งึ ป้องกนั การระเหยของน้าออกจากใบ

4

เซลล์คมุ (Guard Cell)

5

โครงสรา้ งของใบ

มโี ซฟลิ ล์ (Mesophyll)

หมายถึงสว่ นของเนอื้ เยือ่ ที่อย่รู ะหว่างเอพิเดอร์
มิสด้านบนและเอพเิ ดอร์มสิ ด้านลา่ ง
เน้อื เยอ่ื ส่วนใหญ่เปน็ พวก พาเรงคิมา ทม่ี คี ลอโรพลาสตอ์ ยู่
ดว้ ยจงึ เรยี กชอื่ ใหมว่ า่ คลอเรงคมิ า (Chlorenchyma =
Chloroplast + Parenchyma)
มีโซฟิลล์แบ่งออกเป็นสองชั้นคือ แพลเิ ซดมีโซฟลิ ล์
(Palisade mesophyll) และ สปนั จมี โี ซฟิลล์ (Spongy
mesophyll)

6

โครงสร้างของใบ

มดั ท่อลาเลียง (Vascular bundle)

คือสว่ นของเส้นใบขนาดตา่ ง ๆ กนั ทอ่ี ยู่ภายในเน้ือใบนั่นเอง มดั ท่อลาเลยี งประกอบด้วย ไซเลม
และ โฟลเอม็ มาเรยี งติดตอ่ กนั เป็นเส้นใบ
มัดท่อลาเลยี งมกี ลุ่มเซลลท์ ่เี รยี กวา่ บันเดิลชที (Bundle sheath) ล้อมรอบ จึงทาให้มัดท่อลาเลียงมคี วาม
แข็งแรงเพ่มิ ขึ้น
บนั เดลิ ชที ประกอบด้วยเซลลพ์ าเรงคมิ า หรอื สเกลอเรงคิมา เรยี งตวั กนั อยู่ 1 หรือ 2 ชนั้
สว่ นใหญ่ของมดั ท่อลาเลยี งอยใู่ นชน้ั สปันจมี โี ซฟิลล์ จงึ เห็นเสน้ ใบนูนออกทางดา้ นท้องใบ

7

โครงสร้างของใบ

8

หนา้ ท่ขี องใบ

หนา้ ทข่ี องใบ

หนา้ ทส่ี าคญั ของใบ มี 3 ประการคือ
1. สร้างอาหารดว้ ยกระบวนการสงั เคราะห์ดว้ ยแสง
(Photosynthesis)
2. หายใจ (Respiration)
3. คายนา้ (Transpiration)

9

หนา้ ท่ขี องใบ

ใบยงั มหี น้าท่อี ื่น ๆ

1. ยดึ หรอื ค้าจนุ ลาต้น
2. สะสมอาหารและนา้
3. แพร่พนั ธ์ุ
4. ปอ้ งกนั ลาตน้ ด้วยการเปลยี่ นใบเปน็ หนาม เ
5. ช่วยผสมเกสรโดยเปลี่ยนเป็นกลบี ดอกและใบประดบั
สตี า่ ง ๆ
6. ป้องกันยอดออ่ นหรอื ใบอ่อน

10

ชนดิ ของใบ

ใบเล้ยี ง (Cotyledon)

เปน็ ใบแรกของพชื ที่อยู่ในเมล็ด ทาหนา้ ท่ี
สะสมอาหารเพ่ือเล้ียงตน้ ออ่ นขณะงอก ถ้าเปน็ พชื ใบ
เลย้ี งคจู่ ะมีใบเลี้ยง 2 ใบ แต่ถา้ เปน็ พืชใบเล้ียงเดย่ี วจะมี
ใบเลย้ี งใบเดยี ว เช่น ออ้ ย ข้าว ขา้ วโพด กล้วย เป็นตน้

11

ชนดิ ของใบ

ใบแท้ (Foliage leaf)

เปน็ ใบท่มี ีสีเขียวทาหนา้ ทส่ี ร้างอาหารดว้ ย
กระบวนการสังเคราะห์ดว้ ยแสง นอกจากนีย้ ังทาหนา้ ที่
หายใจและคายน้าด้วยใบแทข้ องพืชแบง่ ออกเป็น2 กลุ่ม
ใหญ่ ๆ คอื ใบเด่ียว (Simple leaf) และใบประกอบ
(Compound leaf)

12

ชนดิ ของใบ

ใบท่ีเปล่ยี นแปลงไป (Modified leaf)

ใบสะสมอาหาร (Storage leaf) เปน็ ใบที่
เปลีย่ นแปลงไปเปน็ ที่เก็บสะสมอาหาร ได้แก่
ใบเลี้ยง (Cotyledon) และใบพชื อีกหลายชนิด
เช่น ใบว่านหางจระเข้ หวั หอม หัวกระเทยี ม กาบกลว้ ย
ส่วนกะหล่าปลี เกบ็ อาหารสะสมไว้ที่เสน้ ใบ

13

ชนดิ ของใบ

ใบดอก (Floral leaf)

เปน็ ใบทีเ่ ปลี่ยนแปลงไปมสี ีสวยงามคล้าย
กลีบดอกทาหนา้ ทช่ี ว่ ยล่อแมลงเชน่ หนา้ วัว (เป็นส่วนท่ี
เปน็ แผ่นสแี ดงเรียกว่า Spathe) อตุ พิด ครสิ ตม์ าส
เฟื่องฟ้า

14

ชนดิ ของใบ

ใบประดบั (Bract)

เป็นใบที่เปลยี่ นแปลงไป ทาหน้าทีช่ ่วยรองรบั
ดอกหรือชอ่ ดอกเช่น กาบปลขี องกลว้ ย กาบเขียง (ใบท่ี
หุม้ จน่ั มะพรา้ วและหมาก) ของมะพรา้ วและหมาก ซึง่ มสี ี
เขยี ว

15

ชนดิ ของใบ

ใบเกล็ด (Scale leaf)

เป็นใบทเ่ี ปลยี่ นมาจากใบแท้ เพื่อทาหนา้ ที่
ป้องกนั อันตรายใหแ้ ก่ตาและยอดนอกจากน้ีใบเกล็ดบาง
ชนิดยงั สะสมอาหารไว้ด้วย ใบเกลด็ จงึ มีขนาดใหญ่ เชน่
หวั หอม หัวกระเทยี ม

16

ชนดิ ของใบ

เกลด็ ตา (Bud scale)

เป็นใบทีเ่ ปลี่ยนแปลงไปทาหน้าท่หี มุ้ ตาหรือ
คลุมตาไว้เมอ่ื ตาเจริญเติบโตออกมา จงึ ดนั ให้เกล็ดหุ้มตา
หลุดไปพบในตน้ ยาง จาปี สาเก เปน็ ต้น

17

ชนดิ ของใบ มือเกาะ (Leaf tendrill)

15/11/58 เป็นใบท่ีเปล่ยี นแปลงไปเป็นมือเกาะเพอื่ ยดึ
และพยงุ ลาต้นใหข้ ้ึนสูง ตวั อย่างมือเกาะของถ่วั ลนั เตา
ถ่ัวหอม บานบรุ ีสีมว่ ง มะระ ดองดึง หวายลงิ กะทกรก
เปน็ ต้น

18

ชนดิ ของใบ

หนาม (Leaf spine)

เปน็ ใบทเี่ ปลี่ยนแปลงเปน็ หนาม เพอ่ื ปอ้ งกัน
อันตรายจากสตั ว์ทม่ี ากดั กิน พร้อมกบั ป้องกันการคายนา้
เช่น เหงอื กปลาหมอกระบองเพชร มะขามเทศ
ศรนารายณ์

19

ชนดิ ของใบ ฟลิ โลด (Phyllode หรือ Phyllodium)

15/11/58 บางสว่ นของใบเปลย่ี นแปลงไปเป็นแผ่นแบน
คล้ายใบแต่แข็งแรงกวา่ ปกตทิ าให้ไม่มีตัวใบท่แี ท้จริงจึง
ลดการคายน้าไดด้ ้วย
เช่น ใบกระถินณรงค์ ซึ่งเปลีย่ นแปลงมาจากกา้ นใบ

20

ชนดิ ของใบ

ท่นุ ลอย (Floating leaf)

พชื น้าบางชนิดมีการเปล่ียนแปลงกา้ นใบให้
พองโตคล้ายท่นุ ภายในมีชอ่ งอากาศกวา้ งใหญ่ สามารถ
พยุงลาตน้ ให้ลอยน้ามาได้
เชน่ ผักตบชวา

21

ชนดิ ของใบ

ใบแพรพ่ ันธุ์ (Vegetative reproductive organ)

เป็นใบท่เี ปล่ยี นแปลงไปเพ่ือชว่ ยแพร่พนั ธ์ุ
เชน่ ใบของต้นตายใบเป็น (หรือคว่าตายหงายเปน็ ) ต้น
เศรษฐีพนั ล้าน ต้นโคมญป่ี นุ่ เป็นตน้

22

ชนดิ ของใบ

ใบจบั แมลง (Insectivorous leaf หรือ
Carnivorous leaf)

เป็นใบที่เปล่ยี นแปลงไปเปน็ กับดกั แมลง
เชน่ ต้นหมอ้ ขา้ วหมอ้ แกงลงิ ตน้ กาบหอยแครง ต้นหยาด
นา้ ค้าง ตน้ สาหร่ายข้าวเหนียว ต้นหยาดนา้ คา้ ง
Protease

23


Click to View FlipBook Version