เอกสารประกอบการเรียน
วิชา ระบบการรบและระบบควบคมการยิงเบื้องต้น
ุ
โรงเรียนสรรพาวุธ กองวิทยาการ กรมสรรพาวุธทหารเรือ
บทที่ ๑ ระบบการรบ (Combat System)
๑.๑ กล่าวน า
ี่
ั
ี่
ี่
ั
กองทพเรือเป็นหน่วยงานท มีหน้าท เตรียมก าลง รบทางทะเล และปูองกันราชอาณาจกรบริเวณพื้นททาง
ั
ิ
ทะเล ตลอดจนการรักษาผลประโยชน์ของชาตทางทะเล สาหรับการเตรียมก าลงรบทางทะเลนั้น เรือรบถือเป็น
ั
เครื่องมือที่ทรงประสิทธิภาพและมีความส าคัญมากที่สุด ซึ่งภายในเรือรบจะประกอบไปด้วย อุปกรณ์ และระบบตาง ๆ
่
ติดตั้งอยู่เป็นจ านวนมาก เช่น ระบบเซ็นเซอร์ (Sensor System) ระบบอาวุธ (Weapon System) ระบบอ านวยการรบ
์
(Combat Management System) ระบบสงครามอิเลกทรอนิกส (Electronic Warfare System) ระบบเชอมโยง
็
ื่
้
ิ
ข้อมูลทางยุทธวิธี (Tactical Data Link System) และระบบเดนเรือ (Navigation System) เป็นตน เมื่อระบบ
่
้
ดงกลาวท างานร่วมกันอย่างบูรณาการแลว ระบบเหลานี้จะถูกเรียก โดยรวม ว่าระบบการรบ Combat System)
่
ั
ซึ่งระบบการรบถือเป็นหัวใจส าคญของเรือรบทาหน้าท เป็น Combat System Integrator (CSI) ทรับผดชอบในการ
ี่
ี่
ิ
ั
เชอมตอระบบเซ็นเซอร์ ระบบอาวุธ ระบบอ านวยการรบ ระบบสงครามอิเลกทรอนิกส ระบบเชอมโยงข้อมูลทาง
ื่
์
่
ื่
็
ยุทธวิธี และระบบเดนเรือเข้าดวยกัน ปัจจบันกองทพเรือได จดหาและปรับปรุงระบบการรบ บนเรือให้ มีความ
ั
ั
ิ
ุ
้
้
ทันสมัยมากยิ่งขึ้น
การติดตั้งระบบการรบเริ่มจาก โครงการจัดหาเรือตรวจการณไกลฝง (OPV) ชด ร.ล.ปัตตานี โครงการจดหาเรือ
ั
ุ
์
ั่
ุ
่
ตรวจการณ์ไกลฝั่ง (OPV) โดยดาเนินการตอเรือเองภายในประเทศ ร.ล.กระบี่ โครงการปรับปรุงเรือฟริเกต ชด ร.ล.
ั
นเรศวร โครงการปรับปรุงระบบอ านวยการรบ ร.ล.จกรีนฤเบศร และโครงการปรับปรุงระบบอ านวยการรบ ระบบ
อาวุธของ ชุด ร.ล.กระบุรี เป็นต้น โดยมีบริษัทจากต่างประเทศได้น าเสนออุปกรณ์ที่ทันสมัยและด าเนินการติดตงให้กับ
ั้
่
เรือตางๆในกองทพเรือ เชน บริษัท Atlas Elektronik ประเทศเยอรมัน, บริษัท THALES ประเทศเนเธอร์แลนด,
่
์
ั
บริษัท SAAB ประเทศสวีเดน
้
ระบบการรบทไดรับการตดตงลาสดคอ ระบบอ านวยการรบ TACTICOS (Baseline 2) ประกอบดวยระบบ
ี่
่
ุ
ื
ั้
้
ิ
เรดาร์ตรวจการณ VARIANT และระบบควบคมการยิง STIR 1.2 EO Mk 2 ซึ่งเป็นผลตภัณฑ์ของบริษัท THALES
ุ
ิ
์
Nederland B.V. ประเทศ ราชอาณาจกรเนเธอร์แลนด โดยระบบดงกลาวตดตงตามโครงการจดหาเรือตรวจการณ ์
่
ิ
ั
์
ั
ั้
ั
ไกลฝั่ง ล าที่ ๒ (ร.ล.ประจวบคีรีขันธ์)
รูปภาพที่ ๑.๑ ส่วนประกอบและโครงสร้างระบบการรบ
๑.๒ ประวัติความเป็นมาของ ระบบการรบ
ี่
ระบบการรบเปนระบบทถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ ระบบเซ็นเซอร์ ระบบอาวุธ ระบบอ านวยการรบ ระบบสงคราม
็
์
้
ื่
อิเลกทรอนิกส ระบบเชอมโยงข้อมูลทางยุทธวิธี และระบบเดนเรือ สามารถทางานร่วมกันไดอย่างมีประสทธิภาพ
็
ิ
ิ
ุ
ู
ื่
ี่
์
็
สงสด โดยน าข้อมูลทไดรับจากระบบเซ็นเซอร์ ระบบสงครามอิเลกทรอนิกส ระบบเชอมโยงข้อมูลทางยุทธวิธี และ
้
ี
ระบบเดินเรือ มาท าการตรวจสอบ วิเคราะห์ และประเมินว่าเปูาท่ตรวจจับได้เป็นภัยคุกคามหรือไม่ เพื่อน าไปส ู่
ิ
่
ั่
้
การ ตดสนใจและสงการใชระบบอาวุธ โดยผ่านทาง ระบบอ านวยการรบตอไป เริ่มแรกของการพัฒนาระบบการ
ั
ั
้
ั
ั
รบจะมุ้งเน้นไปท การจดการเปูาทางอากาศ (Air Target) เป็นหลก เนื่องจากเปูาดงกลาวตองการการตอบสนองที่
่
ี่
รวดเร็ว และทนตอสถานการณท เกิดขึ้นภายหลงสงความโลกครั้งทสอง ไดมีการทดสอบ ถึงการตอบสนองของ
ั
์
ั
้
่
ี่
ี่
ี่
ื่
้
ู
ี่
พนักงานพล็อต (Plot) เปูาตอเปูาทางอากาศทเคลอนทดวยความเร็วสง และเข้ามาจานวนหลายเปูาในเวลาเดยวกัน
่
ี
ี่
ิ
ี่
่
ั
ู
จากผลการทดสอบทาให้ทราบถึงความลาชา และความสบสนทเกิดขึ้นจากพนักงานทปฏิบัตหน้าทในห้องศนย์
ี่
้
ยุทธการ โดยที่พนักงานเรดาร์ เมื่อตรวจจับเปูาได้ จะท าการรายงานเปูาให้ กับศูนย์ยุทธการรับทราบ จากนั้นพนักงาน
้
่
่
ี่
้
ิ
พล็อตจะพลอตเปูาทไดรับรายงาน จากผลการปฏิบัตทาให้ทราบถึงความลาชาในการการตอบสนองตอเปูาทเข้ามา
๊
ี่
้
อย่างมาก นอกจากนี้ เมื่อ พนักงานเรดาร์ รายงานเปูาที่ เข้ามาใหม่ ในชวงเวลาท ใกลเคยงกันมากยังผลให้ พนักงาน
ี
่
ี่
พล๊อตเปูาเกิดความสับสนและความไม่มั่นใจในข้อมูลเปูาท ไดรับรายงาน ว่าเป็นเปูาเดม หรือเป็นเปูาทปรากฏขึ้นมา
ี่
้
ิ
ี่
ใหม่ ท าให้ต้องใช้ เวลาในการตรวจสอบเปูาที่ เข้ามาอย่างมาก
รูปภาพที่ ๑.๒ ระบบ NTDS (Naval Tactical Data System) ในยุคแรก
ดังนั้นในการพัฒนาระบบการรบ จึงมีวัตถุประสงคเพื่อลดระยะเวลาการตอบสนองตอเปูาทเกิดขึ้น และการ
ี่
่
์
แสดงภาพสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างทันท้วงที นอกจากนี้ในระบบการรบจะต้องมี ขีดความสามารถท เรียกว่า Threat
ี่
ี่
ั
้
ั
Evaluation and Weapon Assignment (TEWA) โดยท ระบบการรบตองสามารถประเมินศกยภาพ และระดบของ
ภัยคุกคามของเปูาที่ตรวจจับ ได้ อีกทั้งยังสามารถสั่งการใช้ระบบอาวุธ ต่อเปูาหมายได้อย่างเหมาะสม โดยเฉพาะอย่าง
ิ
ั
้
ิ
ี่
ยิ่งในกรณีที่ตรวจพบเปูาในระยะประชด ระบบ TEWA จะตองสามารถประเมินเปูาทเข้ามา และสามารถตดสนใจใช ้
ุ
ี่
ระบบอาวุธ ต่อเปาได้ โดยอัตโนมัติ รวมทั้งในกรณีที่มีเปูาทเป็นภัยคกคามเข้ามาพร้อมกันหลาย ๆ เปูา ระบบ TEWA
ู
ั
ี่
ั
้
้
้
ตองสามารถจดลาดบความสาคญของเปูาได ว่าเปูาใดทตองจดการก่อนและดวยระบบอาวุธใด ซึ่งความฉลาดและ
ั
้
ั
ั
่
ั
ี่
ซับซ้อนของระบบ TEWA ถือเป็นปัจจยท มีความสาคญตอประสิทธิภาพการทางานของระบบการรบในระบบการ
ั
ี่
ี่
๊
้
รบ เปูาทตรวจจบไดจะถูกพล๊อตออกมาโดยอัตโนมัติ หรือ ถูกพลอตโดยพนักงานก็ได จากนั้นถ้าเปาทถูกพลอตเป็น
ู
้
๊
็
้
ู
ั้
็
ู
เปาทไดรับความสนใจเปนพิเศษ เปานั้นก็สามารถทาให้เปนเปา Track While Scan (TWS) ไดทงนี้เพื่อ การอัพเดต
ู
ี่
้
ื่
ี่
ี่
่
ข้อมูลเปูาทเพิ่ม มากขึ้น เพื่อเป็นข้อมูลให้กับระบบอาวุธ ในการคานวณการเคลอนทของเปูา และใชในการตอต ี
้
ิ
ี่
้
เปูาหมายต่อไป ส าหรับระบบข้อมูลทางยุทธวิธีนั้น เริ่มแรกเป็นระบบทถูกคดคนเพื่อระบบการปูองกันภัยทางอากาศ
ุ
ั
เป็นหลก และในการพัฒนาระบบควบคมการยิง ทาให้ทราบถึงข้อจากัดและขีดความสามารถของระบบเรดาร์ตรวจ
้
ี่
ี่
การทางอากาศ ที่ถึงแม้จะท าการพล๊อตเปูาที่ ตรวจจับได้ออกมาแล้วก็ตาม แต่ความเที่ยงตรงของข้อมูลเปูาทได ทตอง
้
ส่งต่อให้กับระบบควบคุมการยิงนั้น ถือว่าไม่เพียงพอ ท าให้ระบบควบคมการยิงตองใชระยะเวลานานกว่าท ระบบจะ
ุ
้
้
ี่
้
ี่
ติดตามเปูาได้ ซึ่งแนวทางการแก้ปัญหาดงกลาวคอ การใชเรดาร์ชเปูาทมีบีมแคบ (Narrow Beam Radar) ซึ่งทาให้
ี้
ั
่
ื
้
ั
ุ
ี่
ระบบควบคมการยิง สามารถตรวจจบเปูาไดรวดเร็วและง่ายขึ้น โดยข้อมูลเปูาทจบได จากเรดาร์ตรวจการณ์
้
ั
ระยะไกล จะถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ในหน่วยความจ าของระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งเปูาที่ถูกเก็บไว้ในหน่วยความจาสามารถถูก
ี่
่
ี่
้
ี่
ก าหนดไดว่า เปูาใดทตองการอัตราการอัพเดท ข้อมูลเปูาทสง หรือเปูาใดทตองการ อัตราอัพเดตข้อมูลเปูาทตา
้
ู
้
ี่
่
ี่
ุ
ต่อจากนั้นเปูาที่ตรวจจับได้จะถูกส่งคาไปให้ กับระบบควบคมการยิง ซึ่งมีเรดาร์ควบคมการยิงทสามารถให้อัตราการ
ุ
ี
่
่
่
้
ู
อัพเดตข้อมูลเปูาที่สูง เพื่อใช้ในการค านวณการเคลื่อนที่ของเปา และการใชอาวุธในการตอตเปูาตอไป ชวงทศวรรษที่
ู้
ี
๑๙๖๐ บริษัทผผลตระบบควบคมการยิงหลายบริษัทสามารถผลตระบบ TWS ทดพอสาหรับการตอตเปูาพื้นน้ า
ิ
่
ี่
ุ
ิ
ี
์
ิ
ั
ึ
ี
(Surface Target) ได้แต่ไม่ ดพอสาหรับการตดตามเปูาทางอากาศดงนั้น บริษัท Signaal ประเทศเนเธอร์แลนด จง
ุ
ิ
้
ไดพัฒนาระบบเครื่องควบคมการยิง WM ให้มีขีดความสามารถในการตดตามเปูาอากาศยาน โดยการเพิ่มหนึ่ง
ั
ชองสญญาณสาหรับการตดตามเปูาอากาศโดยเฉพาะ ตอมาเมื่อระบบอิเลกทรอนิกส ไดมี การพัฒนาและมีความ
่
์
ิ
่
็
้
น่าเชื่อถือมากขึ้น กองทพเรือสหรัฐจงไดพัฒนาระบบเรดาร์ SPY-1 ของระบบการรบ AEGIS ให้สามารถตดตามเปูา
้
ิ
ั
ึ
้
อากาศยานแบบ TWS ได
รูปภาพที่ ๑.๓ แผนภาพระบบ Aegis (Baseline 2-6)
๑.๓ ระบบการรบและระบบอ านวยการรบที่ผลิตในแต่ละประเทศ
ระบบการรบ ( Combat System) เป็นค าที่ใช้ในการเรียก ระบบเซ็นเซอร์ (Sensor System) ระบบอาวุธ
(Weapon System) ระบบอ านวยการรบ ( Combat Management System) ระบบสงครามอิเลกทรอนิกส์
็
ิ
ื่
(Electronic Warfare System) ระบบเชอมโยงข้อมูลทางยุทธวิธี (Tactical Data Link System) และระบบเดนเรือ
ี
(Navigation System) ท่ทางานร่วมกันในภาพรวม เช่น ระบบการรบ AEGIS ของประเทศสหรัฐอเมริกา
ื่
้
่
แต่ส าหรับบางประเทศ เช่น ประเทศเนเธอร์แลนด์ ประเทศจีน หรือประเทศสวีเดน จะไม่ไดกลาวถึงชอ ระบบการรบ
ั
่
ี่
่
ื่
ทชดเจน แตจะกลาวถึงเฉพาะชอของ ระบบอ านวยการรบเทานั้น เชน ระบบอ านวยการรบ TACTICOS ประเทศ
่
่
เนเธอร์แลนด์ ระบบอ านวยการรบ ZKJ-3 ประเทศจน หรือระบบอ านวยการรบ 9LV Mk 4 ประเทศสวีเดน เป็นตน
้
ี
ล าดับต่อไปจะกล่าวถึงประวัติของการพัฒนาระบบการรบ และระบบอ านวยการรบในแต่ละประเทศดังนี้
๑.๓.๑ ประเทศเนเธอร์แลนด ์
บริษัท Thales Nederland หรือบริษัท Signaal เดม เปนบริษัทผผลตระบบเซ็นเซอร์ ระบบอ านวยการรบ
ู้
ิ
็
ิ
ี
ื่
ี่
และระบบควบคมการยิง ทมีชอเสยงบริษัทหนึ่งของโลกโดยมีระบบ Sensor Weapon and Control System
ุ
ั
่
ี่
้
ุ
(SEWACO) เป็นระบบการรบหลกทไดถูกพัฒนามาอย่างตอเนื่อง โดยปัจจบันระบบ Sensor Weapon and
ุ
ิ
Control System – Fully Distributed (SEWACO-FD) เป็นระบบการรบลาสดของบริษัท ประวัตความเป็นมา
่
ของการพัฒนาระบบ SEWACO มีดังนี้
ี่
่
ระบบ SEWACO เป็นระบบทถูกพัฒนาขึ้นในชวงกลางทศวรรษท 1960 โดยระบบ SEWACO รุ่นแรกถูก
ี่
ติดตั้งให้กับเรือพิฆาตชด Tromp ของกองทพเรือเนเธอร์แลนด จ านวน 2 ล าสถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์ของระบบ
ุ
์
ั
ู
ั
้
SEWACO เริ่มแรก จะเป็นการประมวลผลแบบรวมศนย์ ซึ่งมีลกษณะคลายกับระบบ NTDS ของกองทพเรือ
ั
ี่
่
่
้
สหรัฐอเมริกาในยุคนั้น แต ตอมาทางบริษัท Signaal ไดปรับเปลยนโครงสร้างของระบบการรบของตนเป็นแบบ
Local Area Network (LAN) และแบบ Fully Distributed (FD) ตามล าดับ
ี่
็
ื่
้
้
ในชวงแรกบริษัท Signaal ไดใชระบบคอมพิวเตอร์ท มีชอว่า Signaal SMR ซึ่งเปนระบบคอมพิวเตอร์ ท ี่
่
ี่
ิ
ั
้
สามารถจดการข้อมูลของเปูาเรดาร์ทไดรับเข้ามาไดอย่างมีประสทธิภาพ ระบบ SEWACO ไดถูกออกแบบให้มีการ
้
้
ู้
ุ
ุ
ทางานร่วมกันระหว่างชด Data Handling และชดคอนโซล โดยในตคาบิเน็ท (Cabinet) ของชด Data Handling จะ
ุ
ประกอบด้วยชุด Sensor Data Distribution Unit (SDDU) ซึ่งส่งข้อมูลเปูาที่ได้จากระบบเซ็นเซอร์ ให้กับคอนโซล
้
้
สาหรับการออกแบบในสวนของ ซอฟตแวร์ ระบบ SEWACO ไดใชแนวทาง Modular Programming ซึ่ง
์
่
แนวทางดังกล่าว ท าให้การปรับปรุงระบบ SEWACO ในอนาคตสามารถกระทาไดอย่างสะดวก โดยระบบจะทาการ
้
ี่
้
่
้
วิเคราะห์ข้อมูลทไดรับจากระบบเซ็นเซอร์ ในหลายสวนมาประมวลผล ไดแก่ ข้อมูลเข็ม ความเร็ว แบริ่ง ระยะทาง
ี
ี่
้
ชนิดของเปูา และข้อมูลจาก IFF เป็นตน จากนั้นระบบคอมพิวเตอร์จะทาการเปรียบเทยบข้อมูลเปูาทได รับกับ
้
ฐานข้อมูล ส าหรับการรับส่งข้อมูลทางยุทธวิธี ระบบ ได้ ถูกออกแบบให้สามารถรับส่งข้อมูลจาก Link ตางๆได ในสวน
่
้
่
้
้
ื
ของ Multifunction Console หรือ MFC ระบบ SEWACO ไดรับการออก ให้ใชงานคอนโซล 2 ประเภท คอ แบบ
่
Vertical Display Console (VDC) และแบบ Horizontal Display Console (HDC) ในสวนของ VDC ถูก
่
้
ออกแบบสาหรับพนักงานเรดาร์และพนักงานโซนาร์ แต สาหรับ HDC ถูกออกแบบมาเพื่อใชสาหรับงานดานการ
้
วางแผน และการวิเคราะห์ข้อมูลทางยุทธิวิธี ซึ่งจะมี Keyboard ปุุม Quick Action และ Rollerball ในการจดการ
ั
กับเปูาที่เกิดขึ้น ส าหรับระบบ SEWACO ที่ติดตั้งให้กับเรือ ชด ร.ล.รัตนโกสนทร์ ประกอบดวยคอนโซล Horizontal
ิ
ุ
้
Display Console (HDC) จ านวน 2 คอนโซล, จอแสดงผลสาหรับ Radar Display ขนาด 12 นิ้ว จานวน 4 จอ ซึ่ง
คอนโซลดังกล่าวจะแยกการท างานออกจาก ระบบ WM25 และระบบ LIROD
รูปภาพที่ ๑.๔ ระบบ SEWACO ที่ติดตั้งบนเรือ ชุด ร.ล.รัตนโกสินทร์
ระบบ TACTICOS หรือ SEWACO - FD เปนระบบแบบ Fully Distributed System คอนโซลทใชในระบบ
็
้
ี่
เรียกว่า Multifunction Operator Console (MOC) ภายใน MOC จะสามารถเก็บขอมูลในรูปแบบ Tactical Picture
้
้
้
ไว้ทตวคอนโซล เองได สาหรับสถาปัตยกรรมทางดานฮาร์ดแวร์และซอฟตแวร์ ของระบบ TACTICOS จะเป็นแบบ
์
ี่
ั
Modular โดยมี SIGMA Splice ท าหน้าที่เป็นตัวกลางในการติดต่อสื่อสาร ระหว่างระบบ TACTICOS ในแบบ Real-
Time Information Broker โดยโครงสร้างของ SPLICE ภายใน SPLICE ยังมี Agent ทใชสาหรับการ Public และ
ี่
้
ี่
ั
ั
ี่
ี่
Subscribe ข้อมูลทวิ่งระหว่างเครือข่าย ทาให้การเปลยนแปลงข้อมูลทเกิดขึ้นกับตว Publisher จะทาให้ตว
Subscriber ไดรับข้อมูลทอัพเดท แบบ Real Time ตามไปดวย ยกตวอย่างเชน ถ้าพนักงานใน MOC หนึ่งทาการ
้
ี่
่
้
ั
Dropped Track เปูาที่ติดตามอยู่ จะท าให้พนักงานในอีก MOC หนึ่ง เห็นเปูาที่ถูก Dropped Track ตามไปด้วย
รูปภาพที่ ๑.๕ ระบบ TACTICOS Baseline-2 ที่ติดตั้งบน ร.ล.ประจวบคีรีขันธ์
ส าหรับโครงสร้างทางซอฟตแวร์ ในระบบ TACITCOS สามารถแบ่งออกเป็น 3 เลเยอร์ ไดแก่ Application,
์
้
่
ั
Middleware และ COTS Platform สาหรับ Splice จะอยู่ในสวนของ Middleware ทาหน้าทเป็นตวกลางในการ
ี่
ุ
ั
จดการข้อมูลระหว่าง Application Layer กับ COTS Platform นอกจากนี้ SPLICE ยังมีคณสมบัตของ Self-
ิ
Healing ซึ่งข้อมูลของ SPLICE สามารถวิ่งไปได้ในหลายเส้นทางในลักษณะ Multiple Routes
รูปภาพที่ ๑.๖ โครงสร้างทางซอฟต์แวร์ ของระบบ TACTICOS
รูปภาพที่ ๑.๗ รูปแสดง Multifunction Operation Console (MOC Mk4)
๑.๓.๒ ประเทศเยอรมนี
ี่
ั้
บริษัท Atlas Elektronik ถือเป็นหนึ่งในบริษัทชนน าของประเทศเยอรมนี ทผลตระบบอ านวยการรบ
ิ
COSYS ความเป็นมาของการพัฒนาระบบอ านวยการรบ COSYS บริษัท Atlas Elektronik ไดออกแบบระบบ
้
้
ิ
ี
อ านวยการรบ COSYS โดยใชแนวคดพื้นฐานสองประการ ได้แก่ Scalable และ Distributed จากรูปภาพท่ ๑.๘
จะเห็นได้ว่าระบบ COSYS ประกอบดวย Multi-Function Console หรือ MFC โดยในแตละ MFC จะมีฟังก์ชน
่
้
ั
การท างานทเหมือนกัน เช่น การควบคุมและสั่งการ และการควบคุมการยิง เป็นต้น
ี่
ุ
้
ื่
สาหรับระบบ COSYS เรือ OPV ชด ร.ล. ปัตตานี จะประกอบดวย MFC จานวน ๓ คอนโซล เชอมตอกับ
่
ระบบปืน ๗๖/๖๒ มม. เรดาร์ RAN 30 เรดาร์ควบคมการยิง TMX-EO อุปกรณตรวจการณและชเปูา TDS (Target
์
ี้
ุ
์
Designation Sight)
รูปภาพที่ ๑.๘ โครงสร้างระบบอ านวยการรบ COSYS ของบริษัท ATLAS Elektronik
๑.๓.๓ ประเทศเดนมาร์ก
้
ี่
StandFlex 300/C- Flex บริษัท TERMA ไดพัฒนาระบบ StandFlex 300 เป็นระบบทไดรับการ
้
้
ิ
ี่
ิ
ออกแบบ ตามแนวคด Flex ทระบบตองมีความยืดหยุ่นและสามารถทาการตดตงระบบไดอย่างรวดเร็ว ระบบ
้
ั้
StandFlex 300 ประกอบด้วยคอนโซลจ านวน ๓ คอนโซล ในแต่ละคอนโซลเชื่อมต่อกับระบบเซ็นเซอร์และระบบอาวุธ
ั้
ผ่านทางดาต้าบัส ระบบ StandFlex สามารถตดตงภายในอู่แห้งให้แลวเสร็จไดภายใน ๒๔ ชวโมง นอกจากนี้ระบบ
ั่
้
ิ
้
้
StandFlex 300 ยังสามารถเพิ่มจ านวนคอนโซลไดอีก ๓ คอนโซล สาหรับการเพิ่มขีดความสามารถการทางานของ
์
ุ
ุ
ู
ระบบ ในการควบคมระบบอาวุธและระบบเซ็นเซอร์ ระบบอาวุธทั้งหมดจะถูกควบคมแบบรวมการณภายในห้องศนย์
ยุทธการของเรือ โดยไม่มี Local Console แยกต่างหากส าหรับระบบอาวุธ ระบบอ านวยการรบ C- Flex เป็นระบบ
ี่
ทไดรับการพัฒนาตอยอดมาจากระบบ StandFlex 300 ในปี ค.ศ. ๒๐๐๑ สาหรับการตดตงบนเรือรบขนาดใหญ่
ั้
ิ
้
่
เชน เรือพิฆาต เรือฟริเกต เรือตรวจการณระยะไกล และเรือสงก าลงบ ารุงขนาดใหญ่ เป็นตน การพัฒนาระบบ
่
้
์
ั
่
อ านวยการรบ C – Flex เกิดขึ้นเมื่อกองทัพเรือต้องการเปลี่ยนระบบ StandFlex
ปัจจุบันกองทัพเรือไทย มีระบบ C – Flex ใช้งานบน ร.ล. อ่างทอง
รูปภาพที่ ๑.๘ ระบบ C – Flex บน ร.ล. อ่างทอง
๑.๓.๔ ประเทศสวีเดน
รัฐบาลสวีเดนวางแผนจัดหาระบบควบคุมบังคบบัญชาเพื่อการรวบรวมภาพสถานการณสาหรับก าลงทางบก
์
ั
ั
และทางทะเล บริษัท SAAB ถือเป็นบริษัทหลักของประเทศสวีเดนที่ ผลิตระบบอ านวยการรบชด 9LV โดยเน้นการ
ุ
ใช้อุปกรณ์ COTS เป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งได้รับการติดตั้งบนเรือ ชุด ร.ล.นเรศวร และ ร.ล.จักรีนฤเบศร
รูปภาพที่ ๑.๙ ระบบการรบที่ปรับปรุงใหม่ของเรือฟริเกต ชุด ร.ล.นเรศวร
รูปภาพที่ ๑.๑๐ ระบบการรบติดตั้งกับเรือฟริเกตสมรรถนะสูง ร.ล.ภูมิพลอดุลยเดช
๑.๔ องค์ประกอบของระบบการรบ
ระบบการรบ เป็นระบบทประกอบดวยระบบย่อยจานวนหลายระบบทตอเชอมเข้าดวยกัน เพื่อการรับสง
ี่
่
ี่
้
้
่
ื่
์
้
ี
่
ั่
ิ
ั
ข้อมูล สาหรับการวิเคราะห์ ประเมินสถานการณ วางแผน ตดสนใจ และสงการ ใชอาวุธในการตอตเปูาหมาย ได ้
อย่างถูกต้อง รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพสูงสุด
ส่วนประกอบของระบบการรบ ซึ่งประกอบด้วยส่วนประกอบหลัก ๆ ได้แก่
๑.๔.๑ ระบบเซ็นเซอร์ (Sensor System)
๑.๔.๒ ระบบอ านวยการรบ (Combat Management System)
๑.๔.๓ ระบบอาวุธ (Weapon System)
๑.๔.๔ ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Warfare System)
๑.๔.๕ ระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธี (Tactical Data Link System)
๑.๔.๑ ระบบเซ็นเซอร์ (Sensor System)
ระบบเซ็นเซอร์ถือเป็นระบบที่มีความส าคัญใน การไดมาซึ่งข้อมูลภาพสถานการณทเกิดขึ้นทงข้อมูลทางดาน
ั้
้
้
์
ี่
์
่
สภาพแวดลอมทเกิดขึ้นกับเรือซึ่งไดจากอุปกรณอิเลกทรอนิกสทตดตงบนเรือ เชน ข้อมูลความเร็วและทศทางลม
ิ
ี่
ิ
ั้
์
ี่
้
็
้
้
(Anemometer) และตาแหน่งของเรือ (GPS) นอกจากนี้ระบบเซ็นเซอร์หมายรวมถึงระบบทใชในการตรวจจบเปูา
ี่
ั
้
ชนิดต่าง ๆ ทงเปูาอากาศยาน เปูาพื้นน้ า และเปูาใตน้ า โดยระบบเรดาร์เดนเรือ ระบบเรดาร์ตรวจการณระยะไกล
ั้
์
ิ
ระบบเรดาร์สามมิติ และระบบโซนาร์ เป็นต้น
รูปภาพที่ ๑.๑๑ ระบบเซนเซอร์ของ ร.ล.ประจวบคีรีขันธ์
๑.๔.๒ ระบบอ านวยการรบ (Combat Management System)
ระบบอ านวยการรบถือเป็นหัวใจส าคัญของระบบการรบ โดยระบบอ านวยการรบจะท าการรวบรวมข้อมูลตาง
่
้
่
้
ั่
ๆ จากระบบเซ็นเซอร์ แลวน าข้อมูลทไดรับมาทาการวิเคราะห์ วางแผน และสงการในการใชระบบอาวุธในการตอต ี
้
ี่
้
เปูาหมายต่อไป ส าหรับส่วนประกอบที่ส าคัญของระบบอ านวยการรบ ไดแก่ Electronic Cabinet, Multi-Function
Console, Large Screen Display, Maintenance Computer และ Printer เป็นต้น
๑.๔.๓ ระบบอาวุธ (Weapon System)
ี่
ั
่
หลงจากทระบบอ านวยการรบไดทาการประมวลผลข้อมูลเปูาทไดรับจากระบบเซ็นเซอร์แลวในขั้นตอมา
ี่
้
้
้
้
ระบบอ านวยการรบจะทาการสงข้อมูลทเกี่ยวข้องให้กับระบบอาวุธ เพื่อใชในการตงคาสาหรับการใชระบบอาวุธ
่
ั้
่
ี่
้
ี
่
ุ
้
เพื่อให้การตอตเปูาหมายมีความถูกตองแม่นย ามากทสด สาหรับระบบอาวุธทตดตงบนเรือ ไดแก่ ระบบปืน ระบบ
้
ิ
ั้
ี่
ี่
อาวุธปล่อยน าวิถี และระบบตอร์ปิโด เป็นต้น
ี
รูปภาพที่ ๑.๑๐ ระบบอาวุธของ ร.ล.ประจวบครีขันธ์
๑.๔.๔ ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Warfare System)
่
ั้
ั
เนื่องจากระบบเซ็นเซอร์ ทตดตงอยู่บนเรือ หรืออากาศยาน โดยสวนใหญ่จะใชหลกการแพร่คลนของ
ื่
ิ
ี่
้
สนามแม่เหล็กไฟฟูาเป็นหลัก ด้วยเหตนี้ระบบสงครามอิเลกทรอนิกสจงเขามามีบทบาทสาคญตอการปฏิบัตการทางเรือ
้
ั
ึ
็
่
์
ิ
ุ
ุ
็
้
ั
ในการใชพลงงานทางแม่เหลกไฟฟูา ( Electromagnetic) เพื่อการควบคมย่านความถี่ (Electromagnetic Spectrum)
หรือเพื่อโจมตีข้าศึก ในส่วนการสงครามอิเล็กทรอนิกส์ ได้แบ่งมาตรการด้านสงครามอิเล็กทรอนิกส์ เป็น ๓ ส่วน คือ
๑.๔.๔.๑ การโจมตีทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Attack)
เป็นมาตรการด้านสงครามอิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องกับการใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟูาหรือการควบคมพลงงาน ใน
ุ
ั
้
ี
ิ่
ิ
้
์
การโจมตบุคคล สงอ านวยความสะดวก หรือยุทโธปกรณ เพื่อทาให้ลดประสทธิภาพ ใชงานไม่ได หรือเกิดความ
ึ
้
่
ี
เสยหายตอขีดความสามารถดานการรบของข้าศก โดยการใชเครื่องมือหรือวิธีการตาง ๆ เชน การรบกวนทาง
้
่
่
แม่เหล็กไฟฟูา ( Electromagnetic Jamming) และการลวงทางแม่เหลกไฟฟูา (Electromagnetic Deception) เป็นต้น
็
๑.๔.๔.๒ การปูองกันทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Protection)
ิ่
เป็นมาตรการดานสงครามอิเลกทรอนิกสท เกี่ยวข้องกับกิจกรรมตางๆ เพื่อปูองกันบุคคล สงอ านวยความ
ี่
์
้
่
็
์
ุ
สะดวก และยุทโธปกรณ จากผลกระทบตาง ๆ จากการใชมาตรการดานสงครามอิเลกทรอนิกสของข้าศกและฝาย
้
ึ
่
็
์
้
ุ
้
ิ
ี่
เดยวกัน ทจะทาให้ลดประสทธิภาพ ใชงานไม่ได หรือเกิดความเสยหายตอขีดความสามารถดานการรบของฝาย
ี
้
้
ี
่
ื่
เดียวกัน โดยการใช้เครื่องมือหรือวิธีการ ดังนี้ การควบคุมการกระจายคลน Emission Control (EMCON) การลด
์
็
็
การขัดแย้งของความถี่ทางอิเลกทรอนิกส ( EW Frequency De-confliction) การเสริมสมรรถนะทางแม่ เหลก
ไฟฟูา ( Electromagnetic Hardening) และ การก าหนดมาตรการระเบียบต่าง ๆ
๑.๔.๔.๓ การสนับสนุนทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Support)
ุ
เป็นมาตรการด้านสงครามอิเล็กทรอนิกส์ที่ เกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ ได้รับการมอบหมาย ควบคมโดยตรง หรือ
ู้
ี้
ั
ั
้
ั
ั
ั่
่
ั้
ั
สงการจากผบังคบบัญชา ในการคนหา ดกจบ ระบุตวตน และชตาแหน่งทตงของแหลงก าเนิดของพลงงาน
ี่
้
แม่เหลกไฟฟูาทงทตงใจและไม่ตงใจ เพื่อใชในการตรวจสอบภัยคกคามทเกิดขึ้น ดงนั้นการสนับสนุนทาง
ั้
ั้
ี่
ุ
ี่
ั
ั้
็
์
้
ิ
ี่
็
อิเลกทรอนิกสจะสนับสนุนข้อมูลจาเป็นท ไดรับการร้องขอในการปฏิบัตการสงครามอิเลกทรอนิกส (EW
์
็
Operations) การหลกเลยงภัยคกคาม (Threats Avoidance) การก าหนดเปูาหมาย (Targeting) และการ
ี
ุ
ี่
ั
ปฏิบัติการยุทธวิธีอื่น ๆ โดยการใช้เครื่องมือหรือวิธีการดงนี้
ิ
ั
การหาทศทาง (Direction Finder: DF) และการเตอนภัย (Threats Warning) สาหรับระบบทสาคญในการ
ี่
ื
์
สนับสนุนทางอิเลกทรอนิกส ไดแก่ ระบบ Radar Electronics Support Measure (R-ESM) และระบบ
้
็
Communication Electronics Support Measure (C-ESM) เป็นต้น
รูปภาพที่ ๑.๑๐ ระบบ R-ESM รุ่น ES 3601
๑.๔.๕ ระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธี (Tactical Data Link System)
ระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธี เป็นระบบที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลให้กับหน่วยต่าง ๆทั้งหน่วยเรือ หน่วย
บก และอากาศยาน ไดอย่างรวดเร็ว สงผลให้หน่วยตาง ๆ ทก าลงปฏิบัตการร่วมกันอยู่เกิดความเข้าใจในภาพ
่
้
่
ั
ิ
ี่
ู
ุ
ั่
ั้
ุ
่
์
ิ
สถานการณร่วมกัน สงผลให้การควบคมและสงการทงในระบบยุทธการและยุทธวิธีเกิดประสทธิภาพสงสด จาก
รูปภาพที่ ๑.๑๔ แสดงให้เห็นถึงระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธีระหว่างเรือกับเรือ และเรือกับอากาศ
รูปภาพที่ ๑.๑๑ ระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธี ของกองทัพเรือ
บทที่ ๒ หลักการของระบบควบคุมการยิง
รูปภาพที่ ๒.๑ หลักการของระบบควบคุมการยิงปืน
่
ี่
ระบบควบคมการยิง ( Fire Control System) เป็นสวนหนึ่งของระบบอาวุธ ของเรือรบ ทนับว่ามี
ุ
่
ความส าคัญอย่างมากในปัจจุบัน ทั้งนี้เพราะระบบสามารถใช้ในการค้นหา ตรวจจับและติดตามเปูาหมายอย่างตอเนื่อง
ุ
่
เพื่อให้ได้ข้อมูลของเปูา เช่น ต าบลที่ของเปูา เข็มและความเร็วเปูา ส่งให้กับระบบควบคมการยิงอาวุธตางๆ เชนระบบ
่
ุ
่
่
้
่
ุ
ควบคมการยิงปืน ระบบควบคมการยิงอาวุธปลอยน าวิถี เป็นตน เพื่อชวยแก้ปัญหาตาง ๆ ในการยิงอาวุธทาให้
สามารถท าลายเปูาหมายได้ด้วยความแม่นย า รวดเร็ว และต่อเนื่อง วิธีการแก้ปัญหาตัวอย่าง เช่น การก าหนดตาแหน่ง
ของเปูา (Target Coordinate) เปูาพื้นน้ าวัดในรูปของแบริ่ง (Bearing) ระยะทาง (Range) ระหว่างเปูา (Target)
ั
่
้
่
์
และอุปกรณตรวจจบเปูา (Sensor) แตถ้าเป็นเปูาอากาศยานจะตองน าคามุมกระดก (Elevation) ของอุปกรณ ์
้
ี่
่
ตรวจจบมาพิจารณาดวย นอกจากนี้ยังตองน าตวแปรอื่นๆ ทมีผลตอการแก้ปัญหาการควบคมการยิงปืน (Gun Fire
ั
ุ
ั
้
ื่
Control Solution) มาพิจารณาและค านวณด้วย เช่น ความเร็วเปูา ลกษณะการเคลอนทของเปูา และการเคลอนท ี่
ั
ี่
ื่
์
ของเรือเรา ตลอดจนคา Ballistic ตาง ๆ รวมทงคาระยะห่างระหว่างอุปกรณ (Parallax) และความเอียงของแทน
่
่
ั้
่
่
ฐานอุปกรณ์ (Gun Roller Path Tilt)
้
จากทกลาวมาแลวจะเห็นไดว่า ระบบควบคมกายิงปืนจะประกอบไปดวยอุปกรณตางๆหลายอย่างทตอง
์
้
่
ุ
ี่
่
้
้
ี่
่
ท างานร่วมกัน ปัจจุบันนี้ระบบอาวุธได้รับการพัฒนาให้มีขีดความสามารถสูงขึ้นอย่างมาก เชน เรือรบ และ เครื่องบิน
ุ
ึ
้
ที่มีความเร็วสูงขึ้น อาวุธปืนมีระยะยิงไกลขึ้น และอัตราเร็วการยิงเพิ่มขึ้น ดังนั้น ระบบควบคมการยิงปืน จงตองมีการ
พัฒนาให้มีขีดความสามารถสูงขึ้นด้วย เพื่อแก้ปัญหาต่างๆ ของการเล็งยิงให้รวดเร็ว แม่นย า ง่ายและสะดวกในการใช้
ิ
ั้
มีขนาดกะทัดรัด ใช้ควบคุมการยิงอาวุธได้หลายประเภท เช่น ปืน อาวุธน าวิถี และอาวุธใตน้ า กับสามารถตดตงในเรือ
้
่
ั
ุ
ได้เกือบทุกประเภท การลดจ านวนอุปกรณ์กระท าได้โดยอาศย Digital Computer ชวยในการคานวณในปัจจบันอาจ
กลาวไดว่า สวนสาคญของระบบควบคมการยิง มีเพียงสองสวนเทานั้นคอ อุปกรณตรวจจบเปูา (Sensor) และ
่
้
ั
่
ื
่
ั
่
ุ
์
Digital Computer
๒.๑ ความหมายและค าจ ากัดความแนวระนาบ (Plane) ต่างๆที่เกี่ยวข้องของระบบควบคุมการยิง ตามรูปที่ ๒.๒
๒.๑.๑ Horizontal Plane เป็นแนวระนาบที่ขนานกับพื้นโลก ณ ต าบลที่นั้นๆเป็นแนวระดับพื้นฐาน
ในการน ามาอ้างอิง เช่น เป็นระดับอ้างอิงในการสร้างเรือหรือการติดแผ่น Master Datum
๒.๑.๒ Deck Plane เป็นแนวระนาบทขนานกับดาดฟูาของเรือ
ี่
๒.๑.๓ Vertical Plane เป็นแนวระนาบที่ตั้งฉากกับแนว Horizontal Plane
๒.๑.๔ Normal Plane เป็นแนวระนาบที่ตั้งฉากกับแนวระดับดาดฟูาของเรือ Deck Plane
๒.๑.๕ Slant Plane เป็นแนวระนาบบนเส้น line of sight (Slant Range) จากตัว Sensor ไปยังเปูาหมาย
รูปภาพที่ ๒.๒ แนวระนาบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบควบคุมการยิง
๒.๒ ค่าความเอียงของอุปกรณ์ อันเกิดขึ้นจากตัวอุปกรณ์เอง เกิดจากขั้นตอนการติดตั้ง หรือเกิดจากสภาพ
คลื่นลมในท้องทะเล ปัจจัยเหล่านี้จะท าให้การค านวณข้อมูลของคอมพิวเตอร์ ส่งไปให้กับระบบอาวุธเป็น Gun Oder
ผิดไป ดังนั้นจะต้องมีการน าค่าต่างๆไปชดเชย เพื่อให้ผลการใช้อาวุธเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งคาความเอียงนี้
่
ประกอบด้วย
์
๒.๒.๑ Train Roller Path Plane ของแต่ละอุปกรณคือ พื้นระนาบที่เกิดขึ้นจากการหมุนอุปกรณ์รอบตัว
่
๒.๒.๒ Roller Path Tilt ของแต่ละอุปกรณ์คือ คาความเอียงของแท่นฐานอุปกรณ์ เมื่อเทียบกับพื้น
ระนาบอ้างอิง (Reference Plane)
์
๒.๒.๓ Trunnion Tilt ของแต่ละอุปกรณคือ ค่าความเอียงของแท่นฐานอุปกรณ์ที่เกิดจากการโคลงของเรือ
ั
๒.๓ การก าหนดจุดต าบลที่ของเปูา (Target Coordinate) ที่อุปกรณ์ตรวจจบติดตามได้นั้นจะเป็นแบบ
Spherical Coordinate และเมื่อจะส่งข้อมูลเปูาเข้าไปให้คอมพิวเตอร์คานวณนั้นจะต้องแปลงเป็นรูปแบบ Cartesian
Coordinate ซึ่งทั้งสองรูปแบบมีความแตกต่างกันดังนี้
้
๒.๓.๑ Spherical Coordinate เป็นค่าต าแหน่งของเปูาหมายที่ระบบ Sensor ตรวจจบได ซึ่งมีรูปแบบ
ั
เป็น Polar โดยประกอบด้วย ๒ มุม ๑ ระยะ คือ
่
ั
R = Present target range (slant range) เป็นคาระยะของเปูาหมายทางเฉียงจากตว
Sensor ไปยังเปูาหมาย
E = Present target elevation with respect to the stabilised horizontal plane
เป็นค่ามุมกระดกของสายอากาศที่ติดตามเปูาหมายเมื่อเทียบกับแนวระนาบทขนานกับพื้นโลก
ี่
B = Present target bearing with respect to north เป็นค่ามุมทางหันต าแหน่งของเปูา
เมื่อเทียบกับทิศเหนือจริง
รูปภาพที่ ๒.๓ Spherical Coordination
๒.๓.๒ Cartesian Coordinate เป็นค่าเปูาหมายที่ระบบควบคุมการยิงน าไปค านวณในคอมพิวเตอร์
ซึ่งประกอบด้วย ๔ ระยะ คือ
Rdh = Present target horizontal range เป็นค่าระยะของเปูาหมายทางแนวระนาบขนานกับ
พื้นโลก ซึ่งหาได้จากสูตร Rdh = Rd.cosEd
Rdx = Component of Rdh in the stabilised East direction เป็นค่าทางระยะด้านทิศ
ตะวันออก-ตก (แกน X) เมื่อเทียบกับแนวขนานกับพื้นโลก ซึ่งหาได้จากสูตร Rdx = Rdh.sinBdn
Rdy = Component of Rdh in the stabilise North direction เป็นค่าทางระยะด้าน
ทิศเหนือ-ใต้ (แกน Y) เมื่อเทียบกับแนวขนานกับพื้นโลก ซึ่งหาไดจากสูตร Rdy = Rdh.cosBdn
้
Rdz = Present target height เป็นค่าระยะของเปูาหมายทางแกน Z ความสูงของเปูาเทียบ
กับแนวระนาบขนานกับพื้นโลก ซึ่งหาได้จากสูตร Rdz = Rd.sinEd
รูปภาพที่ ๒.๓ Cartesian Coordination
๒.๔ แนวเส้นอ้างอิง และค่า Ballistic ที่เกี่ยวข้องในการค านวณของคอมพิวเตอร์
เมื่อก าหนดตาแหน่ง (Coordinate) ของเปูาจากระบบ Sensor ซึ่งถูกวัดในรูปของ แบริ่ง (Bearing) มุม
ุ
ทางกระดก (Elevation) และระยะเปูา (Range) เป็นเสน Line Of Sight (LOS) นั้น คอมพิวเตอร์ควบคมการยิง จะ
้
้
ี่
้
ุ
ด าเนินการค านวณมุมดักหน้าของเปูามีอยู่สองมุม(มุมกระดกและมุมหัน) เพื่อทใชควบคมปืนให้สามารถยิงไดถูกเปูาท ี่
ี่
ั
้
็
ี่
ก าลังเคลื่อนที่ ซึ่งมีลักษณะเหมือนกับนายพรานทเลงปืนของตนไปยังนกทก าลงบินอยู่ เสนแนวเลงยิง Line Of Fire
็
(LOF) จะต้องอยู่ในลักษณะที่ลูกปืนและเปูามาชนกันตรงจดเดยวกันในเวลาเดยวกัน และเรืออยู่ในทองทะเลทมีคลนลม
ี
ื่
้
ี่
ุ
ี
ี่
้
่
่
ั
้
ดงนั้นจะตองมีการแก้คาการโคลง โดยคาทใชแก้อาการโคลงของเรือเป็นแบบ (Roll และ Pitch) และแบบ (Level
ี่
ื่
และ Cross Level) การแก้คาทาง Level จะทาหน้าทแก้การเคลอนทของดาดฟูาเรือ (Deck Plane) ในเสนแนว
้
ี่
่
ติดตามเปูา (Line Of Sight) การแก้ค่าทาง Cross Level ท าหน้าที่แก้การเคลอนทของดาดฟูาเรือ ในแนวตงฉากกับ
ี่
ื่
ั้
เส้นแนวติดตามเปูา ค่าแก้ทั้งสองนี้ ได้จากการหาความสัมพันธ์โดยเทียบกับพื้นระนาบจริง (True Horizontal Plane)
ุ
ั่
ั
คอมพิวเตอร์ก็ให้ผลลพธ์ของปัญหาการควบคมการยิงไดแก่คาสงทางหันและทางกระดกของปืน (Gun Order)
้
ิ
้
่
ี
ี่
์
้
ี่
สัมพันธ์กับ Sensor ซึ่งเป็นอุปกรณทก าหนดเสนแนวตดตามเปูา (Line Of Sight) แตเนื่องจากปืนไม่ไดอยู่ทเดยวกัน
้
ึ
ั
่
กับ Director ดงนั้นจงตองมีการแก้คาระยะห่างระหว่างอุปกรณ (Parallax) และคาอาการเอียงของแทนฐานปืน
่
์
่
(Roller Path Tilt) ด้วย
รูปภาพที่ ๒.๔ Basic angles in gun elevation order
เพื่อควบคุมปืนให้เล็งเปูาตลอดเวลา ดังนั้นความหมายของแนวเส้นและค่าต่างๆที่ใช้ในระบบควบคมการยิงมี
ุ
ดังนี้
๒.๔.๑ Line Of Sight (LOS) คือแนวเส้นตรงจากอุปกรณ์ตรวจจับ (Sensor) ไปยังเปูาหมาย (Target)
ุ
้
้
๒.๔.๒ Line Of Fire (LOF) คอเสนเลงยิง เป็นแนวเสนตรงจากอาวุธ (ปากลากลองปืน) ชไปทจด
ี้
้
ื
ี่
็
Aiming Point
๒.๔.๓ ค่า Drift คือ อาการเซของลูกปืนไปทางขวามือ เนื่องจากเกลียวลากลองเวียนขวามือเมื่อมอง
้
จากท้ายปืน
ื
๒.๔.๔ ตาราง Range Table คอข้อมูลเกี่ยวกับการเลงยิงของอาวุธปืนนั้นๆ ทเก็บไว้ในรูปแบบ
็
ี่
ตาราง วิธีการหาไดมาจาก การคานวณแบบ Linear / Quadratic Interpolation และไดจากการทดลองจริงใน
้
้
Standard Condition
่
ื
๒.๔.๕ ค่า Ballistic ที่น ามาค านวณใน Range Table มี ๒ ชนิดคอ คา Internal Ballistic เป็นคาท ี่
่
เกิดขึ้นภายในตัวปืน และค่า External Ballistic เป็นผลกระทบภายนอกท าให้ลูกปืนเคลื่อนที่ผิดไป
Internal Ballistic ผลรวมของค่า Internal Ballistic คือ ค่าความเร็วต้นลกปืน (Muzzle Velocity)
ู
หรือบางทีเรียกว่า Initial Velocity ซึ่งถือว่าเป็นผลรวมของแรงลัพธ์ภายในระบบปืนทั้งหมด
ู
ิ
External Ballisticคาองคประกอบหรือตวแปรททาให้การโคจรของลกปืนไปในอากาศผดไป ซึ่ง
่
์
ี่
ั
ประกอบด้วย
๑. ทิศทางและความเร็วลม
๒. ค่า Drift
๓. ความหนาแน่นของอากาศ Air Density
๔. แรงโน้มถ่วงของโลก
๕. น้ าหนักลูกปืน
๖. รูปร่างลูกปืน
๗. Coriolis Effect ผลกระทบเนื่องจากการหมุนรอบตัวเองของโลก
รูปภาพที่ ๒.๕ การค านวณหาจุด Aiming Point ของ Computer ระบบควบคุมการยิง
บทที่ ๓ ระบบควบคุมการยิง (Fire Control System)
ประวัติความเป็นมาของระบบเครื่องควบคุมการยิง
ระบบเครื่องควบคมการยิงมีใชในราชนาวีไทยมาเป็นเวลานานแลว ระบบควบคมการยิงชดแรกๆ อาศย
ั
ุ
้
ุ
ุ
้
หลักการท างานทางกลไก (Mechanic) และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จาพวกหลอดสญญากาศ (Vacuum Tube ) ตอมา
่
ุ
้
ุ
้
์
็
เทคโนโลยีทางอิเลกทรอนิกส และคอมพิวเตอร์ไดเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว เป็นผลให้ระบบควบคมการยิง ไดรับ
การพัฒนาขึ้นจนมีประสิทธิภาพสูง ดังเช่นปัจจุบัน
๓.๑ ภารกิจและหน้าที่ของระบบเครื่องควบคุมการยิง
๓.๑.๑ หน้าที่หลัก (Primary Function) ของระบบเครื่องควบคุมการยิง
ระบบเครื่องควบคุมการยิง มีหน้าทหาข้อมูลต าบลที่ เขมและความเร็วของเปูาทเป็นภัยคกคามอย่างตอเนื่อง
็
ุ
ี่
ี่
่
่
ส่งให้กับระบบควบคุมการยิงอาวุธต่างๆ เช่น ระบบอาวุธปืน อาวุธปลอยน าวิถี เป็นตน และทาการยิงหรือทาลายเปูา
้
นั้นด้วยระบบอาวุธ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
๓.๑.๒ หน้าที่ย่อย (Secondary Function) ของระบบเครื่องควบคุมการยิง
ค้นหาและตรวจจับเปูาเรือ และอากาศยาน (Radar Surveillance)
ประเมิน (Evaluation) ภัยคุกคามจากเปูาหลายเปูา
ชี้เปูา (Designation) แก่ระบบควบคุมการยิงระบบอื่น ๆ
ิ
สามารถตดตามเปูาโดยอัตโนมัติได้พร้อมกันหลายเปูา
แสดง Radar Video และ Synthetic Information เพื่อใช้ในการวิเคราะห์
์
ประเมิน และตัดสินใจสถานการณในขณะนั้น
หาและค านวณข้อมูลเกี่ยวกับเปูาเบื้องต้น เพื่อส่งให้แก่ระบบอาวุธ เช่น ปืนเป็นต้น
จ าลองเปูา (Simulation) เพื่อใช้ในการฝึกพนักงาน
เก็บข้อมูลทางยุทธการ เพื่อน ามาวิเคราะห์ภายหลง (Data Logging)
ั
รูปภาพที่ ๓.๑ การท างานของระบบเครื่องควบคมการยิง
ุ
๓.๒ ส่วนประกอบที่ส าคัญของระบบเครื่องควบคุมการยิง
ระบบเครื่องควบคุมการยิงนั้นประกอบด้วยระบบย่อยที่ส าคัญ ๔ ส่วนหลักๆ ดังนี้
ั
์
์
้
่
่
ั
้
๓.๒.๑. อุปกรณตรวจจบ (Sensor) ซึ่งไดแก่ อุปกรณตรวจจบเปูา เชน เรดาร์ตาง ๆ กลอง TV/IR
(Television/ Infrared) เลเซอร์วัดระยะ (Laser Range Finder) และ Binocular เป็นต้น
่
๓.๒.๒. คอมพิวเตอร์ควบคมการยิง ทาหน้าทคานวณคาสงให้สายอากาศทาการตดตามอยู่ท ี่
ิ
ี่
ุ
่
่
่
เปูาหมายตลอดเวลาและส่งข้อมูลเปูาให้กับระบบควบคุมการยิงเพื่อทาการคานวณหาคามุมดกหน้าของเปูา คามุมหัน
ั
กระดกปืน ต่อไป
๓.๓.๓. อุปกรณ ตรวจวัดคาอาการโคลงของเรือ (Rolling and Pitching) เชน Vertical Gyro
์
่
่
Unit(VGU), Stabilization Reference, VRU(Vertical Reference Unit), Stable Element, Accelerometer
เป็นต้น
๓.๓.๔. ระบบชวยเดนเรือ (Navigation) เชน LOG และ Gyro Compass เครื่องวัดความเร็วลม
ิ
่
่
(Anemometer)
๓.๓ การแบ่งประเภทของระบบควบคุมการยิง
ประเภทของระบบควบคุมการยิง ในที่นี้จะกล่าวถึงระบบตรวจจับและติดตามเปูา (Sensor) ที่มีอยู่ในราชนาวี
ี่
ไทยปัจจุบัน มีหลายแบบหลายรุ่น ขึ้นกับลักษณะการใช้งานและอุปกรณ์ที่ติดตั้งอยู่กับระบบนั้นๆ เช่น ระบบทมีเรดาร์
ุ
กล้องทีวี กล้องอินฟราเรด กล้องเลเซอร์ เป็นต้น ดังนั้น การแบ่งประเภทของระบบควบคมการยิงสามารถแบ่งออกได ้
ดังนี้
๓.๓.๑ ระบบควบคุมการยิงแบบเรดาร์
๓.๓.๒ ระบบควบคุมการยิงแบบเรดาร์/ออปทรอนิกส ์
๓.๓.๓ ระบบควบคุมการยิงแบบออปทรอนิกส ์
้
๓.๔ ระบบควบคุมการยิงที่มีใช ในราชนาวีไทยปัจจุบัน
จะกล่าวถึงเฉพาะระบบควบคุมการยิงที่ใช้ในปัจจุบัน ซึ่งมีการติดตั้งใช้ในเรือฟริเกต เรือคอร์เวต เรือตรวจ
การณ์ไกลฝั่ง (OPV) เรือตรวจการณ์ปืน เรือยนต์เร็วโจมตีและเรือเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง
๓.๔.๑ ระบบควบคุมการยิงแบบเรดาร์
๓.๔.๑.๑ ระบบควบคมการยิง WM Series ซึ่ง WM ย่อมาจาก Weapon (for) Marine ซึ่ง
ุ
้
เป็นของบริษัทผผลต คอ บริษัท HOLLANDSE SIGNAAL APPARATEN B.V. (HAS) ประเทศ เนเธอร์แลนด ไดมี
์
ิ
ื
ู้
การผลิตออกมาหลายรุ่นหลายแบบ ซึ่งขึ้นอยู่กับภารกิจและระบบอาวุธของเรือที่ติดตั้ง โดยมีรายละเอียด ดังนี้
WM 22/61 คอมพิวเตอร์ SMR – Mu
WM 22/61 – 114TH ติดตั้งใน ร.ล.มกุฎราชกุมาร จ านวน ๑ ระบบ
- ควบคุมปืน ๔.๕ นิ้ว MK 8 จ านวน ๒ แท่น หัว – ท้าย
- ปืน ๔๐/๗๐ แท่นคู่
WM 22/61 – 66TH ติดตั้งในเรือ ชุด ร.ล.ตาปี จ านวน ๒ ระบบ
- ควบคุมปืน ๗๖/๖๒
- ควบคุมปืน ๔๐/๗๐
WM 22/61 – 53TH ติดตั้งในเรือ ชุด ร.ล.ชลบุรี จ านวน ๓ ระบบ
- ควบคุมปืน ๗๖/๖๒ จ านวน ๒ แท่น หัว – ท้าย
- ควบคุมปืน ๔๐/๗๐ แท่นค ู่
รูปภาพที่ ๓.๔ ระบบควบคุมการยิง WM22/61- 53TH ชุด ร.ล.ชลบุรี
WM 25 ติดตั้งในเรือคอร์เวต ชุด ร.ล.รัตนโกสินทร์ จ านวน ๒ ระบบ
- ควบคุมปืน ๗๖/๖๒
- ควบคุมปืน ๔๐/๗๐ แท่นค ู่
- ส่งข้อมูลเปูาให้กับระบบควบคุมการยิงอาวุธปล่อยน าวิถี ALBATROS SYSTEM
ู
- รับ/ส่งข้อมูลเปาให้แก่ระบบควบคุมและสั่งการจากระบบ FORESEE
- รับ/ส่งข้อมูลกับระบบควบคุมการยิง LIROD
รูปภาพที่ ๓.๕ สายอากาศ (Radome) ของระบบควบคุมการยิง WM Series
คุณลักษณะของระบบควบคุมการยิง WM Series
สายอากาศติดตามเปูา Track Antenna
ชนิดของสายอากาศ เป็นแบบ Cassegrain
ขนาดของสายอากาศเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 เมตร
มุมหัน หันได้รอบตัว มุมกระดก -1 องศา ถึง +85 องศา
Beam width 2.4 องศา
รูปแบบการส่ง แบบ Vertical Polarisation
สายอากาศค้นหา Search Antenna
ชนิดของสายอากาศ เป็นแบบ Orange Peel
ขนาดของสายอากาศ ยาว 1.6 เมตร กว้าง 0.5 เมตร
ความเร็วการหมุน 60 รอบต่อนาท ี
รูปแบบการส่ง แบบ Horizontal หรือ Circular Polarisation
ความสามารถในการติดตามเปูา
ู
เปูาอากาศยาน ๑ เปา ด้วยสายอากาศ Track Antenna แบบ Monopulse Tracking
เปูาพื้นน้ า ๒ เปูา ด้วยสาอากาศ Search Antenna แบบ Track While Scan
เครื่องส่งเรดาร์
ิ
อุปกรณ์ผลตความถ ี่ Magnetron
ความถี่ของคลื่นเรดาร์ 8700 – 9500 MHz
ความถี่ในการส่ง PRF 1800 Hz Low PRF , 3600 Hz High PRF
ภาครับเรดาร์
Track Antenna เป็นแบบ Monopulse System
ระยะไกลสุด 31.5 kyds ใกล้สุด 330 yds
ความเร็วเปูาสูงสุด 720 yds/sec (1300 kts)
Search Antenna
Non MTI Linear
Logarithmic
Dicke Fix
MTI
ระยะไกลสุด 31.5 kyds ใกล้สุด 660 yds
ความเร็วเปูาสูงสุด 100 kts
ระยะตรวจจับเปูา ค้นหาอย่างเดียวใน Mode Low PRF 32 ไมล ์
จอแสดงภาพ Display
LPD แสดงภาพวีดีโอของเปูาทส่งมาจากภาครับเรดาร์
ี่
A Scope แสดงระยะเปูาหมาย ที่ถูกติดตามด้วย Monopulse Tracking
B Scope แสดงเปูาหมายที่ก าลังติดตามด้วย TWS
AND แสดงข้อมูลเปูาหมายที่ติดตาม เช่น เข็ม ความเร็ว เป็นต้น
ิ
๓.๔.๑.๕ ระบบควบคุมการยิง Fly Catcher ซึ่งเป็นของบริษัทผู้ผลต คือ บริษัท HOLLANDSE SIGNAAL
APPARATEN B.V. (HAS) ประเทศ เนเธอร์แลนด์ มีลักษณะการทางานคล้ายกับ ระบบWM Series ติดตั้งที่หน่วย
บัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง จ านวน ๕ ระบบ
รูปภาพที่ ๓.๗ ระบบควบคุมการยิง Fly Catcher
๓.๔.๑.๕.๑ หน้าที่การท างานหลักของระบบ
Radar Warning : โดยใช้ Search Radar และ IFF
Data Display : แสดงและประเมินผลข้อมูลเปูา
Target Tracking : ใช้Tracking Radar (แบบ Monopulse And Conical Scan)
Weapon Control : ควบคุมการหัน/กระดก ท าการยิง และแสดงสถานะปืน
ุ
๓.๔.๑.๕.๒ System Layout อุปกรณ์ต่างๆที่ประกอบเป็นระบบควบคมการยิง Flycatcher จะตดตงอยู่ทตู้
ั้
ี่
ิ
Container โดยระบบสายอากาศสามารถถอน หรือหดเก็บ เข้าใน Containerไดทาให้สะดวกในการเคลอนย้าย
ื่
้
อุปกรณ์เชื่อมต่อบางส่วนจะติดตั้งอยู่ในที่ที่ต้องท างานร่วม ได้แก่
Gun Data Receiver (GDR) จะอยู่และเคลื่อนย้ายไปกับปืน 40 mm
ู้
่
้
์
Motor-Generator เป็นอุปกรณก าเนิดไฟ เวลาจะใชก็น ามาตอพ่วงกับต Container เวลา
เคลื่อนย้ายก็น ามาพ่วงกับรถลาก (Wheel train)
๓.๔.๑.๕.๓ ขีดความสามารถของระบบควบคุมการยิง Flycatcher
ค้นหาเปูาด้วย Search Antenna และติดตามเปูาแบบ Track While Scan (TWS) ได้ 3 เปูา
้
ติดตามเปูาอากาศยานด้วย Track Antenna ได 1 เปูา (แบบ Monopulse Tracking หรือ Conical Scan)
ควบคุมการยิงปืน 40/70 ได้ 3 แท่น
๓.๔.๑.๕.๔ Radar Subsystem เรดาร์ค้นหา (Search Radar) มีคุณลักษณะ ดังนี้
ี่
X-band Transmitter : ความถี่คงท 6 ความถี่ให้เลือก
Search Antenna : หมุนด้วยความเร็ว 44 รอบต่อนาท การแพร่คลื่น (Polarization) แบบ
ี
Horizontal หรือ Circular
เครื่องรับ 2 Channels : ได้แก่ Linear และ MTI Channel Target Video จาก
MTI Channel น าไปใช้ท าการติดตามเปูา แบบ TWS
๓.๔.๒ ระบบควบคุมการยิงแบบเรดาร์/ออปทรอนิกส ์
๓.๔.๒.๑ ระบบควบคุมการยิง LIROD VM62/61ติดตั้งในเรือ ชุด ร.ล.ชลบุรี จ านวน ๓ ระบบ
- ควบคุมปืน ๗๖/๖๒ จ านวน ๒ แท่น
- ควบคุมปืน ๔๐/๗๐ แท่นค ู่
๓.๔.๒.๒ ระบบควบคุมการยิง LIROD 8 ติดตั้งในเรือคอร์เวต ชุด ร.ล.รัตนโกสินทร์ จ านวน ๒ ระบบ
- ควบคุมปืน ๗๖/๖๒
- ควบคุมปืน ๔๐/๗๐ แท่นค ู่
รูปภาพที่ ๓.๑๐ ระบบควบคุมการยิง LIROD 8
LIROD ย่อมาจาก Light weight Radar/Optronic Director
Director มุมหัน หันได้รอบตัว มุมกระดก -25 องศา ถึง +105 องศา
Beam width 2.4 องศา
รูปแบบการส่ง แบบ Vertical Polarisation
เครื่องส่งเรดาร์
ิ
อุปกรณ์ผลตความถ ี่ Magnetron
ความถี่ของคลื่นเรดาร์ 34.5 – 35.5 GHz
ความถี่ในการส่ง PRF 12.8 - 16 KHz
จอแสดงภาพ ขนาด 15 นิ้ว
Radar Tracking เป็นแบบ Monopulse System
ระยะไกลสุด 12 kyds ใกล้สุด 330 yds
ความเร็วเปูาสูงสุด 900 yds/sec
๓.๔.๒.๓ ระบบควบคุมการยิง LIROD Mk2 ติดตั้งในเรือ OPV ร.ล.กระบี่ จ านวน ๑ ระบบ
- ควบคุมปืน ๗๖/๖๒
- ควบคุมปืน ๓๐ มม. ๒ แท่น
รูปภาพที่ ๓.๑๑ ระบบควบคุมการยิง LIROD Mk2
ระบบควบคุมการยิง LIROD Mk2
LIROD ย่อมาจาก Lightweight Radar Optronic Director
่
้
ั
K-band TWT radar เครื่องสงเรดาร์ใชหลอด TWT ทาการขยายสญญาณ Microwave
ความถี่สูงย่าน K – Band (34.5 – 35.5 GHz) ส่งออกไปเพื่อค้นหาและติดตามเปูาหมาย
้
้
ิ
้
ี
TV sensor suite เป็นกลองทวี ขาว-ดา ใชสาหรับการคนหาและตดตามเปูาหมายดวย
้
กล้องทีวี (optronic track)
ุ
Effective performance for Gunfire Control สามารถใชควบคมการยิงสนับสนุนฝงใน
ั่
้
Mode Direct Bombardment
รูปภาพที่ ๓.๑๒ คุณลักษณะ Tracker ของระบบควบคุมการยิง LIROD Mk2
๓.๔.๒.๔ ระบบควบคุมการยิง STIR1.2 EO Mk2 ติดตั้งกับตรวจการณ์ไกลฝั่ง ร.ล.ประจวบคีรีขันธ์ จานวน ๑ ระบบ
รูปภาพที่ ๓.๑๓ Director ของระบบควบคุมการยิง STIR1.2 EO Mk2
ุ
้
ุ
ระบบควบคมการยิง STIR 1.2 EO Mk2 เป็นระบบควบคมการยิงแบบ Radar/Optronic ซึ่งไดถูกออกแบบ
ี่
ั้
ิ
ั
้
มาเพื่อใชสาหรับการตรวจจบและตดตามเปูาหมายทงทเป็นอากาศยานและเปูาพื้นน้ าพร้อมทงจดการหาข้อมูลของ
ั
ั้
ิ
เปูาหมายทถูกตองสงให้กับระบบอาวุธ นอกจากนี้ระบบ STIR ยังมีความพร้อมสาหรับการตดตามเปูาทกสภาวะ
ี่
ุ
้
่
อากาศ และทุกสถานการณ์ โดยมีข้อมูลเบื้องตนของระบบ ดังนี้
้
การตดตามเปูาแบบเรดาร์ (Radar Tracking) จะใชเรดาร์ 2 ย่านความถี่คอ I-band และ K-band
้
ื
ิ
พร้อมด้วยใช้การประมวลผลภาพของเรดาร์ที่มีความซับซ้อนเพื่อให้มีประสทธิภาพในการตดตามเปูา
ิ
ิ
สูง ข้อมูลเปูาที่ได้รับจากการติดตามเปูาจะเป็นแบบสามมิต (3D) คอ มุมหัน ระยะเปูา และความสง
ู
ิ
ื
ของเปูา
ิ
้
์
การตดตามเปูาดวยออปทรอนิกส (Optronic Tracking) จะใช้ Laser Range Finder (LRF) เพื่อ
้
้
ิ
ี
ท าการวัดระยะเปูาหมายในติดตามเปูาหมาย สาหรับการตดตามเปูานั้นจะใชภาพจากกลองทวีและ
ิ
่
้
กล้อง Infra-red เข้ามาประมวลผล เป็นการตดตามเปูาแบบ passive tracking ซึ่งจะไดคาการหา
ี่
ิ
้
มุมหัน มุมกระดก และระยะของเปูาหมายข้อมูลเปูาทไดรับจากการตดตามเปูาจะเป็นแบบสามมิต ิ
(3D) เช่นกัน
ข้อมูลมุมหันกระดกจาก TV : black & white or infrared
ข้อมูลทางระยะจาก Laser (invisible) : for range measurement
ส าหรับการติดตามเปาแบบ Radar หรือ Optronic tracking นั้นสามารถท าการเลือกได้โดยพนักงานเป็นผ ู้
ู
ก าหนดเองหรือให้ระบบท าการเลือกโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังมีกล้องทีวีส (Color TV camera) ไว้ใช้ส าหรับตรวจ
ี
การณ์และค้นหาเปูาหมาย
ั่
ระบบอ านวยการรบ CMS สามารถน าระบบ STIR มาใชงานไดในหลายฟังก์ชนเพื่อให้ไดข้อมูลทตองการมา
้
ี่
้
้
้
ด าเนินการ เช่น ฟังก์ชั่นของการต่อต้านเปูาอากาศยาน Anti-Air Warfare (AAW) เป็นต้น นอกจากนี้ระบบ STIR ยังมี
การท างานที่หลากหลายส าหรับให้ระบบ CMS ได้น าไปใช้งานซึ่งจะขึ้นอยู่กับ software ของ CMS สาหรับ function
้
การท างานสามารถพนักงาน (Operator) สามารถควบคุมและสั่งการระบบ STIR ผ่านทาง MOC ของระบบ CMS ได
คุณลักษณะของเรดาร์และออปทรอนิกส์เซนเซอร ์
สายอากาศ STIR ประกอบด้วยเซ็นเซอร์ที่ใช้ในการค้นหาและติดตามเปาหมาย เป็นแบบเรดาร์และออปทรอ
ู
นิกส์ซึ่งมีคุณลักษณะต่างๆ ดังนี้:
ิ
- เรดาร์ย่านความถี่ I-band ใชส าหรับการตดตามเปูาในระยะปานกลาง
้
- เรดาร์ย่านความถี่ K-band ใช้ส าหรับการติดตามเปูาในระยะใกล้
- กล้องทีวีสี - TeleVision Colour Zoom (TVCZ) ใช้ส าหรับการตรวจการณ์ จะให้สัญญาณภาพที่แสดง
ออกมาเป็นภาพส ี
ู
- กล้องทีวีติดตามเปูา - TeleVision Track (TVT) ใช้สาหรับการติดตามเปาในเวลากลางวันและสภาพ
อากาศดี จะให้สัญญาณภาพออกมาเป็นภาพ ขาว-ด า
้
- กล้องอินฟราเรท - Infra-Red Track (IRT) ใชส าหรับการติดตามเปูาในเวลากลางคืนและสภาพอากาศท ี่
ไม่ดี จะให้สัญญาณภาพออกมาใช้ส าหรับการติดตามเปูา
- กล้องเลเซอร์ Laser Range Finder (LRF) ใช้วัดระยะเปูาส าหรับการตดตามเปูาแบบออปทรอนิกส ์
ิ
๓.๔.๒.๕ ระบบควบคุมการยิง CEROS200 ติดตั้งในเรือฟริเกต ชุด ร.ล.นเรศวร และ ร.ล.ภูมิพลอดุลยเดช
จ านวน ๖ ระบบ
Radar Director ซึ่งประกอบด้วย:
- Tracking Radar
- TV-camera
- IR-camera
- Laser Range Finder
- ควบคุมปืน ๑๒๗ มม.
- ควบคุมปืน ๓๐ มม.จ านวน ๒ แท่น
ู
- ส่งค่าข้อมูลเปาให้กับระบบ Vertical Launch System และส่องคลื่น CWI น าทางให้ลูก
้
อาวุธปล่อย ESSM โคจรเขาหาเปูาหมาย
รูปภาพที่ ๓.๑๔ ระบบเครื่องควบคุมการยิง CEROS200
Tracking radar
ระบบ CEROS 200 เครื่องส่งเรดาร์ใช้อุปกรณ์หลอด TWT ขยายสัญญาณ RF Low Power ให้
เป็น RF High Power โดยมีความถี่อยู่ในย่าน KU-band Frequency range: Ku-band, 15.5-17.5 GHz
คุณลักษณะของเครื่องส่งเรดาร์ Transmitter
Type: Grid-pulse helix TWT
Output power: 1.5 kW peak 4 percent duty cycle
Number of frequiencies: More than 100
Transmission patterns : Pulse Doppler: 32-pulse batches
MTI : 4-pulse batches
Frequency agility: pulse-to-pulse frequency agility
๓.๔.๒.๔ ระบบเครื่องควบคุมการยิง TR 47C ติดตงในเรือฟริเกต ชุด ร.ล.กระบุรี จ านวน ๔ ระบบ
ั้
ุ
Tracking Radar รุ่น TR 47C หรือเรดาร์ตดตามเปูา โดยมีการพัฒนามาจากเรดาร์ 347G ของชด
ิ
ู
ั้
้
เรือ ร.ล.นเรศวร ความสามารถเป็นเรดาร์ตรวจการณ์และเรดาร์ติดตามเปูาที่มีความแม่นย าสงใชไดทงอากาศยานและ
้
ิ
เปูาพื้นน้ ารวมถึงเปูา Sea Skimming ข้อมูลจากเปูาทไดรับจะรับข้อมูลทง ๓ มิต แบบ Real Time จนถึงการยิงถูก
ั้
้
ี่
ิ
้
้
้
เปูา เรดาร์จะใช Single Pulse และมุมตดตามได นอกจากนี้เรดาร์ยังใชในการเป็นพาหะให้ในการใช TV track
้
ร่วมกับการใช้ Laser วัดระยะได้ในการยิงแบบต่างๆ ให้กับปืนโดย TR47C ๑ ระบบสามารถควบคุมปืน ๑ ชนิด
- TR47C หัวเรือควบคุมปืน ๑๐๐ มม
- TR47C ท้ายเรือควบคุมปืน ๓๗ มม.จ านวน ๔ แท่น
ุ
่
่
เครื่องควบคมการยิงปืน 100 มม. แบบแทนค รุ่น FCU 17 เป็นสวนควบคมการยิงปืน ๑๐๐ มม.
ู่
ุ
ั่
ั้
่
ื่
้
ุ
้
แบบแท่นคู่ ที่ใชในเรือฟริเกต ชด ร.ล.เจาพระยา โดยเครื่องจะพร้อมทงฟังก์ชน การเชอมตอ การเทคนิค โดยมีการ
ทดสอบและยอมรับเป็นอย่างดีแล้ว ส าหรับเครื่อง FCU 17
การท างานทั่วไป
ิ
๑. สามารถรับค่าเปูาจาก CMS และ TDS แล้วควบคุมเรดาร์ติดตามเปูา เพื่อตดตามเปูาโดย
อัตโนมัติเป็นจุดเด่นของเครื่องในการสามารถรับค่าเปูาได้ทั้งจากคนและจากเครื่อง
ี่
ื่
๒. รับคาการเคลอนทจากเรือเราเองเพื่อให้สามารถคานวณการยิงให้แม่นย ามากยิ่งขึ้นใน
่
การควบคุมปืนส าหรับต่อสู้การรบผิวน้ าหรืออากาศยาน
่
ิ
ั
่
๓. แสดงผลเด่นชัดและง่ายตอการตดสนใจในรูปแบบข้อมูลผานจอขนาดใหญ่รวมถึงข้อมูล
จากเรือเราและเรือเปูา
๔. ตั้งค่าการยิง ค านวณมุมยิงดักหน้า และแก้ค่ากระสุนตก
๕. บอกสถานะความผิดพลาดของเครื่องไดผานจอแสดงผลสามารถทา Simulation จาลอง
้
่
เพื่อการฝึกและการทดสอบเครื่องได ้
รูปภาพที่ ๓.๑๕ ระบบเครื่องควบคุมการยิงเรดาร์แบบ TR47C และ FCU17
๓.๔.๒.๕ ระบบควบคุมการยิง TMX/EO ติดตั้งในเรือ OPV ชุด ร.ล.นราธิวาส จานวน ๒ ระบบ
- ควบคุมปืน ๗๖/๖๒
Tracker Mount
• three axis mounting comprising:
– fully coherent monopulse
(pulsedTWT) X-band radar
– cassegrain antenna
– electro optical (TV Camera)
• envelope:
– azimuth: 360° continuous
– elevation: -28° to +118°
– range: 0.16 - 43nm (80km)
• target tracking limits:
– air: 30 - 1000m/sec
(58 -1944 knots/Mach 3)
– surface: 0 - 1000m/sec (MTI off)
รูปภาพที่ ๓.๑๖ Tracker Mount ของระบบควบคุมการยิง TMX/EO
• ความถของเครื่องส่ง frequency range:
ี่
– ย่านความถี่ 8.6 to 9.5 GHz
– modes การส่งคลื่น:
• agile
• auto
• fixed (10)
• รูปแบบการแพร่คลื่น vertically polarised
• beam width: 1.80°
• power: 2kW
ู
ข้อมูลกล้องทีวี ในการติดตามเปาแบบ ออปทรอนิกส ์
• Charge Coupled Device (CCD) with electronic shutter
• optimised for low-light level daylight tracking
• monochrome output
• auto zoom (10:1) & focus with operator override available
• used in conjunction with FCR
• acquisition range ≤12,000 m.
๓.๔.๓ ระบบควบคุมการยิงแบบออปทรอนิกส ์
๓.๔.๓.๒ ระบบควบคุมการยิง Mirador
- ติดตั้งบนเรือ ชดเรือ ต.๙๙๑ จ านวน ๓ ระบบ ควบคุมปืน ๓๐ มม. ล าละ ๒ แท่น
ุ
ุ
- ติดตั้งบนเรือ ชดเรือ ต.๙๙๔ จ านวน ๓ ระบบ ควบคุมปืน ๓๐ มม. ล าละ ๑ แท่น
- ติดตั้งบนเรือ ชด ร.ล.ค ารณสินทร์ จ านวน ๓ ระบบ ควบคุมปืน ๗๖/๖๒ ล าละ ๑ แท่น
ุ
- ติดตั้งบนเรือ ชด ร.ล.สัตหีบ จ านวน ๓ ระบบ ควบคุมปืน ๗๖/๖๒ และ ๔๐/๗๐
ุ
- ติดตั้งบน ร.ล.แหลมสิงห์ จ านวน ๑ ระบบ ควบคุมปืน ๗๖/๖๒ และ ๓๐ มม.
๓.๔.๓.๓ ระบบควบคุมการยิง EOS 500
ุ
- ติดตั้งบนเรือ ชด ร.ล.นเรศวร จานวน ๒ ระบบ
- ควบคุมปืน ๑๒๗ มม.
- ควบคุมปืน ๓๐ มม.จ านวน ๒ แท่น
- ติดตั้งบน ร.ล.ภูมิพลอดุลยเดช จ านวน ๑ ระบบ
- ควบคุมปืน ๗๖/๖๒ มม.
- ควบคุมปืน ๓๐ มม.จ านวน ๒ แท่น
๓.๔.๓.๔ ระบบควบคุมการยิง C – Fire
- ติดตั้งบนเรือยกพลขึ้นบกแบบอู่ลอย ร.ล. อ่างทอง จ านวน ๑ ระบบ
- ควบคุมปืน ๗๖/๖๒
- ควบคุมปืน ๓๐ มม. ๒ แท่น
บทที่ ๔ หลักการระบบเรดาร์เบื้องต้น
ส าหรับหัวข้อหลักการเรดาร์เบื้องต้นนั้น จะขอกลาวถึงการพัฒนาเทคโนโลยีตาง ๆ ของเรดาร์จนถึง
่
่
ปัจจุบัน เทคโนโลยีก้าวหน้าไปมาก แตโดยพื้นฐานเราจะต้องทราบการท างานของเรดาร์ หน้าที่การท างานของอุปกรณ์
่
ั้
ิ
่
สวนประกอบและชนิดของเรดาร์รวมทงประสทธิภาพในการทางานตาง ๆ ของเรดาร์ ซึ่งความรู้พื้นฐานและข้อมูล
่
ิ
เหล่านี้จะช่วยให้เข้าใจเทคโนโลยีเรดาร์ได้ง่ายขึ้นและ จะยกตัวอย่างระบบเรดาร์รุ่นใหม่สาหรับการปฏิบัตการทางเรือ
้
แบบต่าง ๆ ที่มีการน าเทคโนโลยีทันสมัยเหล่านี้มาประยุกต์ใช
ื
ั
้
่
๔.๑ พื้นฐานการท างานของเรดาร์หน้าที่หลักของระบบเรดาร์ คอ การตรวจจบวัตถุชนิดตาง ๆ ดวย
ื่
็
้
ั่
คลนแม่เหลกไฟฟูาและ น ามาแสดงผลทางจอภาพ โดยทวไปเรดาร์ จะไดรับการออกแบบและพัฒนาให้เหมาะสม
้
ั
ส าหรับการตรวจจับหรือติดตามเปูาชนิดใดชนิดโดยเฉพาะ ซึ่งการรบทางเรือจะแบ่งเปูาทตรวจจบไดแยกเป็นเปูาพื้น
ี่
ั
น้ า เปูาอากาศยาน และเปูาลูกอาวุธปล่อยน าวิถี เรดาร์มีหลกการทางานคลายเครื่อง รับสงวิทยุ เนื่องจากใชหลกการ
ั
้
่
้
ี
่
่
ื
ั่
รับและส่งคลื่นสัญญาณวิทยุเชนเดยวแตจะทางานอยู่ในย่านความถี่ทสงกว่าคอโดยทวไปจะเป็นย่านไมโครเวฟ ชนิด
ี่
ู
ั
์
้
ของเรดาร์แบ่งตามหน้าที่การท างานได้เป็น เรดาร์ตรวจการณ (Surveillance Radar) สาหรับการคนหาและตรวจจบ
ิ
์
ั
้
ื่
ิ
เปูาดวยคลนสญญาณแบบพัลส (Pulsed Wave) และเรดาร์ตดตามเปูา (Tracking Radar) สาหรับการตดตามเปูา
ั
ี่
ั
้
ื่
ั
ื่
่
่
์
ดวยคลนสญญาณแบบพัลสและคลนสญญาณแบบตอเนื่อง (Continuous Wave) สวนประกอบทสาคญของเรดาร์
ิ
้
่
่
่
ุ
ไดแก่เครื่องสง เครื่องรับ สายอากาศ สวนแสดงภาพและถ้าเป็นเรดาร์ตดตามเปูาและควบคมการยิงก็จะเพิ่มสวน
ติดตามเปูา (Tracker) และส่วนควบคุมการยิง (Fire Control) ด้วย ซึ่งการทางานร่วมกันอย่างมีประสทธิภาพของแต ่
ิ
้
ละส่วนก็จะส่งผลถึงขีดความสามารถโดยรวมของระบบเรดาร์ประสทธิภาพในการทางานของเรดาร์ จะวัดดวยระยะ
ิ
่
ทางไกลสุดในการตรวจจับ (Maximum Detection Range) การติดตามเปูาได้อย่างรวดเร็วและตอเนื่องและแยกการ
ื่
แสดงรายละเอียดของเปูาที่จับได้ เรือหรืออากาศยานที่ตรวจจับเปูาได้เร็วกว่าและมีความน่าเชอถือสงกว่า (Early and
ู
ี่
Reliably) ก็มีโอกาสมากกว่าในการเข้าท าลายเปูาได้ก่อน และรายละเอียดของเปูาทเรดาร์แสดง เชนระยะทาง แบริ่ง
่
ี่
ั่
่
ความเร็ว หรือชนิด ของเปูา ก็เป็นข้อมูลทเป็นประโยชน์มากสาหรับชวยการตดสนใจในการควบคมและสงการรบ
ั
ิ
ุ
ปัจจุบันมีการได้มีการพัฒนาเทคนิคและวิธีการส าหรับการตรวจจบและการทางานทเกี่ยวข้องกับเรดาร์ใหม่ๆเพิ่มมาก
ี่
ั
ขึ้นด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าหลากหลายชนิด
ู
๔.๒ การออกแบบและพัฒนาเรดาร์ประสทธิภาพสงการพัฒนาเรดาร์ดวยเทคโนโลยีสมัยใหม่มี
้
ิ
เปูาหมายก็เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการท างานและเพื่อแก้ไขข้อจ ากัดต่างๆที่มีเมื่อมีการใช้เทคนิคปูองกันการตรวจจบ
ั
่
้
ี่
ของเรดาร์กระบวนการพัฒนาเพื่อเพิ่มประสทธิภาพดานตาง ๆ ของเรดาร์ ทแสดงถึงความเกี่ยวพันกันในภาพรวม
ิ
ระหว่างส่วนประกอบและหน้าที่การทางาน ประสทธิภาพการทางานและเทคนิคการปูองกันการตรวจจบแบบตาง ๆ
่
ิ
ั
ั
้
ตัวอย่างเช่นอาวุธปล่อยน าวิถีแบบ Anti-radiation Missiles (ARM) ที่มีเทคนิคการท างานโดยการใชสญญาณเรดาร์ท ี่
ส่งออกมาจากเปูาเป็นสัญญาณน าอาวุธปลอยเข้าสเปูานั้น ๆ สวน Low Altitude Small Missiles มีการออกแบบให้
่
่
ู่
ตัวลูกอาวุธปล่อยที่มีหน้าตัดเล็กและพุ่งเข้าหาเปูาในระยะต่ าใกล้ผิวน้ าเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับของเรดาร์
รูปภาพที่ ๔.๑ The AGM-88 HARM (High-speed Anti-Radiation Missile)
้
้
นอกจากนี้ไดมีการพัฒนาเทคนิค Stealth หรือการพรางตวจากสญญาณเรดาร์ ดวยการลด RCS (Radar
ั
ั
้
ี่
ุ
ื
้
้
ั
ู
ื่
Cross Section) หรือ การสะทอนสญญาณเรดาร์ของเปูา เทคนิคน ามาใชกันมากคอการใชวัสดทมีการดดซับคลน
่
ี่
เรดาร์ (Radar Absorbing Material) เชน สารผสมระหว่าง Graphite และ Epoxy และการใชรูปทรงทลดการ
้
ั
สะทอนสญญาณเรดาร์ ตวอย่างเชน เครื่องบินขับไลแบบ F117 ใชการออกแบบลาตวเครื่องเป็นรูปทรงซิกแซ็กเพื่อ
้
่
้
ั
่
ั
ี่
ั
สะท้อนสัญญาณเรดาร์ให้กระเจิงในหลายทิศทาง หรือ เครื่องบินทงระเบิด B2 ทลาตวเครื่องมีรูปทรงแบบโคงมนเพื่อ
ิ้
้
้
ั
้
ุ
้
ลดการสะทอนของสญญาณเรดาร์ ซึ่งในปัจจบันก็ไดมีการน าหลกการเหลานี้มาใชในพัฒนาเรือรบรุ่นใหม่ๆเพื่อลด
่
ั
ื
RCS ด้วยเช่นเดียวกัน ตัวอย่างเรือที่มีการใช้เทคโนโลยีเพื่อการพรางตวเหลานี้ ตามรูปท 2 คอ เรือฟริเกตรุ่นใหม่และ
่
ั
ี่
แบบร่างเรือพิฆาตรุ่นDD(x) ของกองทัพเรือสหรัฐฯ
รูปภาพที่ ๔.๒ เครื่องบินขับไล่แบบ F117
รูปภาพที่ ๔.๓ เครื่องบินทิ้งระเบิดแบบ B2
๔.๓ เรดาร์สมัยใหม่ Phased Array Radar การน าเทคโนโลยีเรดาร์ แบบ Phased Array มาประยุกตใชถือ
์
้
่
ได้ว่าเป็นการพัฒนาครั้งสาคญในสวนหน้าทการทางานของสายอากาศเรดาร์ โดยแบบ Phased Array มีการเปลยน
ี่
ั
ี่
ิ
ั
่
ี่
สายอากาศจากแบบที่มีการหมุนรอบตัว 360 องศา มาเป็นสายอากาศแบบยึดตดทไม่มีการหมุน มีลกษณะเป็นกลอง
ั่
ี่
่
ุ
้
่
้
ั
้
็
หลายเหลยมโดยทวไปจะมีดานหลก 4 ดาน โดยแตละดานจะมีชดเครื่องรับ เครื่องสงสญญาณขนาดเลก (TR
ั
Modules) จ านวนมากติดตั้งอยู่ ท าหน้าที่แพร่คลื่นสัญญาณในเฟสที่ต่างกันในทศทางรอบตวสายอากาศ เครื่องรับสง
่
ั
ิ
่
้
ี่
แตละชดจะมีการทางานเชอมตอถึงกันมีการประมวลผลดวยคอมพิวเตอร์ ทาให้ไดการทางานทมีการแพร
ุ
่
้
ื่
ื่
คลนสัญญาณออกรอบตัวเหมือนกับการท างานของเรดาร์ที่มี สายอากาศแบบหมุนรอบตัวโดยทั่วไป
ข้อดีของเรดาร์ แบบ Phased Array ที่เหนือกว่าเรดาร์ แบบทั่วไปคือ ความสามารถในการทางานได
หลายหน้าที่ในชุดเดียว ทั้งเป็นเครื่องรับส่งเรดาร์ทั่วไป ยังเป็นเครื่องส่งที่ท าหน้าที่ส่งสัญญาณรบกวน (Jammer) หรือ
ื
ี
่
ี่
ั
ั
ี่
ื
่
เป็นเครื่องรับสญญาณทาหน้าทเตอนการตรวจจบลวงหน้า (Early Warning) และข้อดอีกอย่างคอ การทไม่มีสวนท ี่
หมุนเคลื่อนที่ จึงท าให้ง่ายต่อการบ ารุงรักษา
็
์
้
ข้อเสีย มีราคาค่อนข้างสูง เนื่องจากความซับซ้อนของระบบทประกอบดวยอุปกรณอิเลกทรอนิกสท ี่
ี่
์
ทันสมัยหลายชนิด
รูปภาพที่ ๔.๔ ตัวอย่าง Phase Array Radar (SPY-1 และ APAR)
ในการพัฒนาเรดาร์สมัยใหม่ก็จะเน้นดานการประมวลผลสญญาณดวยคอมพิวเตอร์ความเร็วสงและมี
ั
้
ู
้
หน่วยความจ าขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการท างานของเรดาร์ทกลาวข้างตน โดยเฉพาะการลดเวลาการทา
ี่
่
้
ื่
ิ
่
งานในส่วนต่างๆ ท า ให้การตอบสนองของระบบอาวุธเป็นไปอย่างรวดเร็วการตดตอสอสารและทางานร่วมกับระบบ
อื่นที่มีประสิทธิภาพ การแสดงภาพการตรวจจับและแสดงข้อมูลที่ให้รายละเอียดได้มากขึ้น
๔.๔ หลักการเรดาร์
เรดาร์ถูกคิดค้นขึ้นในช่วงต้นสงครามโลกครั้งที่ 2 ช่วยให้สามารถวัดระยะเปูาได้อย่างรวดเร็วและแม่นย า และ
เรดาร์ได้ถูกน ามาแทนที่กล้องวัดระยะเพื่อใช้งานร่วมกับเครื่องค านวณอนาล็อกในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเรดาร์มี
ั้
้
ระยะตรวจจับที่ไกลกว่าระยะสายตาท าให้สามารถใชควบคมการยิงปืนใหญ่เรือทระยะไกลกว่าระยะสายตาได อีกทง
ุ
้
ี่
เรดาร์ยังสามารถใช้ควบคุมการยิงปืนใหญ่เรือในเวลากลางคืนที่ไม่สามารถมองเห็นเปูาโดยตรง นอกจากนี้การแสดงผล
เรดาร์แบบ B-Scope ยังสามารถตรวจจับฝอยน้ าที่จุดกระสุนตกเพื่อใช้ในการตรวจกระสุนตกได้อีกด้วย
ี่
ทมาของคาว่า ‘Radar’ ยอมาจากค าวา = RAdio Detection And Ranging โดยมีแนวความคดในการสร้าง
ิ
่
่
้
ั
ี
Radar ออกมาใชงานนั้น เริ่มจากการสงเกตเสยงสะทอนของ Echo ทคนตะโกนออกไปแลวเมื่อไปกระทบกับภูเขา
้
้
ี่
หรือผนังห้องเกิดมีเสียงสะท้อนกลับ
ื
ั
พื้นฐานการทางานของเรดาร์หน้าทหลกของระบบเรดาร์ คอ การตรวจจบวัตถุชนิดตางๆ ดวยคลน
้
ื่
ี่
่
ั
็
ิ
ั
่
ิ
แม่เหลกไฟฟูา และน ามาแสดงผลทางจอภาพโดยในการตรวจจบและตดตามเปูานั้น สามารถให้คา ระยะ,ทศทาง,
ความสูง, ความเร็วเปูา ได้เป็นต้น
สูตรการค านวณเบื้องต้นที่เกี่ยวกับเรดาร์ ระยะทาง = ความเร็ว x เวลา (S = VT)
ความเร็วของคลื่นแม่เหล็กไฟฟูา (Microwave) = ความเร็วแสง
= 186,000 ไมล์บก / วินาท ี
= 300,000,000 เมตร / วินาที
= 162,000 ไมล์ทะเล / วินาท ี
ระยะเรดาร์ = ความเร็วแสง x เวลา / 2
๔.๕ ประเภทของเรดาร์
- เรดาร์ค้นหาและตรวจการณ์ มีหน้าที่ ค้นหาเปูาอากาศระยะไกล ค้นหาเปูาพื้นน้ าระยะไกล /
เดินเรือ การควบคุมการจราจรทางอากาศ วัดระยะความสูง
- เรดาร์ติดตามเปา ส าหรับปืน และ อาวุธปล่อยน าวิถี
ู
- เรดาร์ส่องเปา สาหรับการ homing อาวุธปล่อยน าวิถี
ู
- เรดาร์ช่วยการน าร่อง มีหน้าที่ วัดความเร็วและความสูง ตรวจสอบภูมิประเทศ และสภาพอากาศ
- IFF เป็น Secondary Radar (Identification Friend or Foe)
- เรดาร์วัดความเร็ว ปืนเรดาร์ของต ารวจทางหลวง , เครื่องวัดความเร็วกระสุนปืน gun muzzle
velocity indicator (MVI)
ความยาวคลื่นของเรดาร์ () และสูตรการหาความยาวคลื่น
ความยาวคลื่น = ความเร็วแสง (Microwave) / ความถี่ของเรดาร์นั้นๆ (Frequency)
= C / F
รูปภาพที่ ๔.๔ ตัวอย่างค่าความยาวคลื่นเรดาร์ทความถี่ต่างๆ
ี่
๔.๖ การแบ่งย่านความถี่ของเรดาร์ Radar Frequency (Microwave Band)
- UHF = 230 – 1000 MHz
- L = 1000 – 2000 MHz
- S = 2000 – 4000 MHz
- C = 4000 – 8000 MHz
- X = 8.0 – 12.5 GHz
- Ku = 12.5 – 18 GHz
- K = 18 – 26.5 GHz
- Ka = 26.5 – 40 GHz
การใช้งานในย่านความถี่ต่างๆของเรดาร์
UHF Band ใช้ในเรดาร์ที่ระยะไกลมากๆเช่น Warning Radar ใช้ Power สูงสายอากาศมีขนาดใหญ่
L Band ใช้มากทสุดในเรดาร์ค้นหาระยะไกล เนื่องจากมีการลดทอนในชั้นบรรยากาศ
ี่
Atmosphere ต่ าและไม่มีการลดทอนจาก Rain Clutter
ุ
้
ี่
S Band เป็นความถี่ทใชในเรดาร์ระยะปลานกลาง ใชในเรดาร์ควบคมเครื่องบิน แตมีปัญหาดาน
้
่
้
Blind Speed ในระบบ MTI
ี่
ู
C Band ใช้ในเรดาร์ค้นหาระยะปลานกลาง มีขนาดที่เลกลงเนื่องจากความถี่ทสงขึ้นเริ่มมีปัญหากับ
็
ชั้นบรรยากาศ Atmosphere
้
้
ี่
ุ
็
X Band เป็นย่านความทใชงานกว้างขวางมากทสดเนื่องขนาดเลก ในการใชงานมีปัญหาเรื่องการ
ี่
ลดทอนใน Atmosphere สูงทั้งด้าน Rain Clutter แต่มีข้อดีด้านการแยกแยะเปูา (Resolution) ดี
Ku Band ใช้งานในเรดาร์ Weapon Navigation System
ู
K Band เป็นย่านความถี่ที่ไม่ค่อยพบเห็นการใชงานเนื่องจากมี่การลดทอนของ Atmosphere สง
้
มากโดยเฉพาะความถี่ประมาณ 23.6 GHz จะถูกดูดกลืนโดยหมอก ควันไม่สามารถใช้งานได้เลย
Ka Band ใช้งานในด้าน High accuracy Navigation
๔.๗ รูปแบบการแพร่คลื่นของเรดาร์ (Polarization)
ทิศทางของสนามไฟฟูา Electric field เป็นตัวบ่งบอกทิศทางของการ Polarization
- การแพร่คลื่นแบบ Horizontal polarization สนามไฟฟูาอยู่ในแนวนอน สนามแม่เหลกอยู่ใน
็
แนวตั้ง มีผลท าให้การสะท้อนวัตถุแนวนอนได้ด ี
- การแพร่คลนแบบ Vertical Polarization สนามไฟฟูาอยู่ในแนวตง สนามแม่เหลกอยู่ใน
ั้
็
ื่
แนวนอน ท าให้สะท้อนวัตถุแนวตั้งได้ดี
ิ
ื่
ุ
- การแพร่คลนแบบ Circular Polarization สนามไฟฟูามีทศหมุนรอบ 360 องศาทก cycle ของ
คลื่นโดยระดับสัญญาณคงท ี่
ิ
- การแพร่คลื่นแบบ Elliptical Polarization สนามไฟฟูามีทศหมุนรอบ 360 องศาทก cycle ของ
ุ
คลื่นโดยระดับสัญญาณไม่คงท ี่
ี่
Circular Polarized wave สามารถลด rain clutter ได โดยท เมื่อคลนกระทบ rain drop แลว
ื่
้
้
้
ี่
ั
ิ
่
สะท้อนกลับมาโดยที่มีการเคลอนตวทแตกตางจากเดม ซึ่งไม่สามารถรับโดยสายอากาศ ไดหาก Circular Polarized
ื่
้
่
wave กระทบวัตถุเชน เรือ หรือ เครื่องบิน ซึ่งมีพื้นผวทไม่เรียบ คลนทสะทอนกลบจากการสะทอนหลายครั้ง
ี่
้
ั
ื่
ิ
ี่
ึ
(Multiple reflections) จากหลายพื้นผิว คลื่นบางส่วน จะมีการเคลื่อนตัวที่เหมือนเดิม ดงนั้น จงสามารถรับไดจาก
ั
้
้
ั
ี่
ั
ื่
่
ี่
่
ี่
ี่
ื่
สายอากาศ ประมาณครึ่งหนึ่งของพลงงานคลนทสะทอนกลบมาเทานั้น ทมีการเคลอนทเหมือนกับทสงออกไป
ดังนั้น การแพร่คลื่นแบบนี้ จึงใช้เฉพาะเท่าที่จ าเป็นเท่านั้น
รูปภาพที่ ๔.๕ ตัวอย่างแสดงการแพร่คลื่นเรดาร์ในรูปแบบต่างๆ
ี่
๔.๘ ความถในการส่งคลื่นเรดาร์ Pulse Repetition Frequency (PRF)
ั
ปัจจัยในการเลือกค่า PRF ได้แก่ อัตราการรับข้อมูลค่า PRF ยิ่งมาก คลื่นที่สะท้อนกลบก็มากขึ้น ทาให้อัตรา
การรับข้อมูลสูงขึ้น
ื
้
ี่
ุ
ี่
้
ั
ี่
ื
คา Maximum Unambiguous Range คอระยะเปูาทถูกตองทเรดาร์ตรวจจบไดไกลทสด คอระยะเวลา
่
ระหว่างการส่ง Pulse ต้องนานกว่า Echo ของ Pulse ที่สะท้อนกลับเข้ามา
RT Resting Time
PW Pulse Width
รูปภาพที่ ๔.๖ รูปแสดงเรดาร์แบบ Pulse Radar
Pulse Width ปัจจัยในการเลือกค่า PW ได้แก่
ระยะใกล้สุด ( Minimum Range ) หากค่า PW มีคามากกว่า 12.2 us จะทาให้ echo เมื่อกระทบ
่
กับเปูาที่อยู่ในรัศมี 1 ไมล์สะท้อนกลับมา ขณะที่ก าลังส่ง Pulse อยู่ ท าให้ไม่สามารถตรวจจับเปูาที่อยู่ในระยะนี้ได ้
ี
Range Resolution คอความสามารถของเรดาร์ในการทจะแยกเปูาสองเปาทอยู่ใน Bearing เดยวกัน
ี่
ู
ี่
ื
เห็นแยกจากกันได้ เรดาร์มีความสามารถในการแยกแยะเปูาสองเปูาที่มีลักษณะดังกล่าว ขึ้นอยู่กับ PW
Range Resolution (D) = PW x 164 หลา
รูปภาพที่ ๔.๗ รูปแสดงส่วนประกอบของระบบเรดาร์ แบบ Pulse Radar
๔.๙ ส่วนประกอบหลักและหน้าที่ของระบบเรดาร์ มีดังต่อไปนี้
๔.๙.๑ Synchronizer เป็นหัวใจหลกของระบบเรดาร์ ซึ่ง Synchronizer นี้มีหน้าท ี่
ั
่
ก าหนดการร่วมจังหวะกันในระบบเรดาร์ โดยจะสงสญญาณ Sync ไปให้เครื่องสง และการแสดงผลเพื่อให้ทางานได ้
่
ั
อย่างถูกต้อง
ี่
ั
ิ
ี่
๔.๙.๒ เครื่องสง (Transmitter) ทาหน้าทผลตสญญาณความถี่ RF ทมีก าลงงานสงเพื่อแพร่
ู
ั
่
คลื่นไปยังเปูาหมาย ชนิดของเครื่องส่ง มี ๒ ชนิดคือ
High Power Oscillator (HPO)
Master Oscillator Power Amplifier (MOPA)
ิ
ิ
ุ
ี่
๔.๙.๒.๑ เครื่องสงแบบ HPO เป็นเครื่องสงทนิยมใชมากทสด เรดาร์เดนเรือและเรดาร์ตดตาม
่
่
้
ี่
เปูาบางชนิด ใช้เครื่องส่งชนิดนี้ Magnetron ใช้ในการผลิต RF Pulse ซึ่งถูกควบคุมการ เปิด ปิด ด้วย Modulator
รูปภาพที่ ๔.๘ รูปแสดงเครื่องส่งของระบบเรดาร์ แบบ HPO
ี่
่
่
ิ
้
้
๔.๙.๒.๒ เครื่องสงแบบ MOPA เป็นเครื่องสงทมีใชในเรดาร์คนหาทางอากาศ เรดาร์ตดตามเปูา
บางชนิด และระบบควบคุมการยิง มีส่วนประกอบดังนี้
- Master oscillator มีหน้าที่สร้างสัญญาณ CW RF เช่น Crystal oscillator
- Low Power RF Amplifier (Driver) มีหน้าที่ขยายสัญญาณเพื่อไปขับ Amplifier ขั้นสุดท้าย
- Trigger Unit มีหน้าที่ส่งสัญญาณเพื่อเริ่มการส่ง Pulse เป็นตัวให้ Gate waveform ส าหรับการ
Switch Driver และ Modulator
- Modulator ท าหน้าที่เป็นตัว Switch on/off บีมของอิเลกตรอน High power RF Amp.
- High Power RF Amplifier อาจใช้ Multi-cavity Klystron, TWT, Cross-Field Amplifier
(CFA), Planar Triode และ Tetrode Valve
รูปภาพที่ ๔.๘ รูปแสดงเครื่องส่งของระบบเรดาร์ แบบ MOPA
รูปภาพที่ ๔.๙ รูปแสดงโครงสร้างของหลอด TWT
๔.๙.๓ สายอากาศ (Antenna) มีหน้าที่แพร่คลื่นความถ RF ออกอากาศ ซึ่งสามารถก าหนดการ
ี่
แพร่คลื่นได้หลายรูปแบบ
๔.๙.๔ เครื่องรับ (Receiver) เครื่องรับมีหน้าที่รับสัญญาณ RF Echo ที่สะท้อนกลับมาจากเปูา
น าไปแสดงบนจอแสดงภาพ
รูปภาพที่ ๔.๑๐ รูปแสดงโครงสร้างภาครับเรดาร์แบบ Super heterodyne
๔.๙.๔.๑ Balance Mixing มีจดประสงคเพื่อลด Lo Noise ก่อนเข้าส IF Amplifier
ู่
ุ
์
สัญญาณ LO จะมี Phase เท่ากัน ที่ขาเข้าของ Crystal diode ทั้งสองตัว สัญญาณ RF จะมี Phase ตรงข้ามกัน ทขา
ี่
ี่
ั
ั
่
้
ั
่
ั้
เข้าของ Crystal diode ทงสองตวสญญาณ IF ทไดจาก Crystal แตละตวจะมี Phase ตรงข้ามกัน สวน Lo Noise
จาก Crystal แต่ละตัวจะมี Phase ตรงกัน เมื่อผาน Balance Transformer แลว ทาให้ Lo Noise หมดไป เหลอแต่
ื
้
่
สัญญาณ IF
รูปภาพที่ ๔.๑๑ รูปแสดงโครงสร้าง Balanced Mixing
ั
ี่
ี่
๔.๙.๔.๒ Local Oscillator มีจุดประสงค์เพื่อผลตสญญาณ CW ทความถี่ทห่างจาก RF
ิ
่
ิ
ั
เทากับ IF โดยมีระดบก าลงท 10 – 100 mW ตองมีคณสมบัตท มีความเสถียรดานความถี่, Noise ตา, สามารถ
่
ี่
้
้
ี่
ั
ุ
้
้
่
Tune ไดอย่างรวดเร็ว ตามความถี่เครื่องสงอาจใช Transistor ( GaAs FET), Gunn Oscillator , Relfex Klystron,
Backward Wave Oscillator (BWO)
่
ั้
๔.๙.๔.๓ Automatic Frequency Control (AFC) ในเครื่องสงแบบ HPO ความถี่ของทง
ี่
เครื่องส่ง และ Local Oscillator มักไม่คงท ดังนั้น จึงใช้ AFC ในการควบคุมความถี่ของ Local Oscillator
ู
้
้
้
่
ั
๔.๙.๔.๔ IF Amplifier ประกอบดวย Amplifier หลายตวตอดวยกัน และจนดวยวงจร
Resonant ในย่านความถี่ทตองการขยาย (2/PW) ตองมีคณสมบัตดงนี้ Gain สง (ประมาณ 100 dB), Noise ตา, มี
ุ
ั
ิ
ี่
้
ู
้
่
ความเสถียรที่ด ี
๔.๙.๔.๕ Detector ท าหน้าที่แปลง IF pulse ให้เป็น Video DC Pulse เพื่อการแสดงผล
ประกอบด้วย Amplitude detector, low pass filter
๔.๙.๔.๖ Video Amplifier เป็นตวขยายสญญาณให้อยู่ในระดบทเหมาะสมกับการ
ี่
ั
ั
ั
แสดงผลในที่ต่างๆ
ี่
๔.๙.๕ Duplexer มีหน้าทปูองกันไม่ให้เครื่องรับชารุดเสยหายจากพลงงานสงๆไม่ว่าจะ
ี
ู
ั
เป็นจากเครื่องส่งของตัวเองหรือจากที่อื่นๆ
่
๔.๙.๕.๑ Duplexer หรือ TR Switch ใชเป็นตวตดตอในชวงการสง และรับ
ั
้
ั
่
่
ั
สญญาณ ตอระหว่าง เครื่องรับ เครื่องสง และ สายอากาศ ประกอบดวย Waveguide และ อุปกรณสาหรับ
่
้
่
์
Switching (TR Cell หรือ Solid State Limiter)
่
้
๔.๙.๕.๒ TR Cell อยู่ในสวนแขนดานเครื่องรับของ TR Switch ในระหว่างการสง
่
ชองว่างของก๊าซเฉื่อยภายใน TR Cell เกิดการ Ionize ขึ้น ทาให้เกิดการ Short คลนทสงมาจากเครื่องสงจะถูก
่
ื่
่
ี่
่
้
ี่
ั
สะทอนกลบ ไปยังสายอากาศ Keep alive electrode มีหน้าทเร่งการ Ionize ของก๊าซเฉื่อย โดยมีแรงดน -1000
ั
โวลต ในระหว่างการรับ ก๊าซเฉื่อยไม่เกิดการ Ionize , TR Cell ทาหน้าทเป็น Band pass Filter มีลกษณะของ
์
ี่
ั
ี่
Resonant Cavity ที่ถูกจูนไว้ที่ความถี่ที่เหมาะสม เพื่อการสัญญาณทมากที่สุด
้
๔.๙.๕.๓ Solid State Limiter ใช PIN diode และการ Bias ในการ Switch on
และ off มีความสามารถในการรองรับ Power ต่ ากว่า TR Cell แต่ไม่ต้องใช้ Keep Alive Electrode
๔.๙.๖ จอแสดงภาพ (Indicator) ทาหน้าทแสดงผลเป็น Video การรับจากเครื่องรับและ
ี่
Synthetic ต่างๆที่ระบบสร้างขึ้น
๔.๙.๗ Power Supply ท าหน้าที่จ่าย High Voltage ให้กับชุด Modulator ของเครื่องส่ง
๔.๑๐ การท างานของระบบเรดาร์แบบต่างๆ ซึ่งมีรูปแบบการท างานชนิดต่างๆ ดังนี้
๔.๑๐.๑ การทางานของ CW Radar เครื่องสงเรดาร์จะแพร่คลนเรดาร์ออกไปอย่างตอเนื่อง
่
่
ื่
่
ื่
ถ้าหากเครื่องสงเรดาร์และเปูาไม่เคลอนทจะทาให้ คลนสะทอนของเปูาทกลบมาเข้าเครื่องรับเรดาร์ยังคงมีความถี่
ื่
ี่
ี่
ั
้
ื่
ื่
้
เท่ากับความถี่ของคลื่นเรดาร์ที่ส่งออกไป แต่ถ้าหากเครื่องส่งเรดาร์หรือเปูาเคลอนทออกจากกันจะทาให้คลนสะทอน
ี่
ื่
ี่
ของเปูามีความถี่ทต่ ากว่าความถี่ของคลื่นเรดาร์ที่ส่งออกไป ในทางกลบกันถ้าเครื่องสงเรดาร์และเปูาเคลอนทเข้าหา
่
ี่
ั
้
กันคลนสะทอนของเปูาก็จะมีความถี่สงกว่าคลนเรดาร์ทสงออกไป ปรากฏ การณทความถี่คลนสะทอนของเปูา
ื่
้
ู
์
ื่
ี่
ื่
่
ี่
เปลยนแปลงไปเมื่อมีการเคลอนทของเครื่องสงเรดาร์หรือของเปูานั้นเรียกว่า Doppler Effect และความถี่ของ
ี่
ื่
ี่
่
่
ั
้
ี่
่
่
คลนสะทอนทแตกตางไปจากความถี่ของเครื่องสงนั้นเรียกว่า Doppler Frequency ( Fd ) ซึ่งจะมีคาผนแปร
ื่
โดยตรงกับความเร็วที่ใช้เคลื่อนท ี่
สูตรส าหรับการหาคาคือ Fd = 2 Vr / (ความยาวคลื่น)
่
ู
Vr = Radial Velocity คือความเร็วเข้าหาศนย์กลาง
คือความยาวคลื่นของคลื่นเรดาร์ที่ส่งออกไป
ี่
ปรากฏการณ์ที่ ความถี่คลื่นแม่เหล็กไฟฟูา เปลยนไป ซึ่ง
เกิดจากการเคลอนทของ แหลงก าเนิดคลน หรือ เปูา การ
ื่
่
ี่
ื่
ั
ี่
เปลยนแปลงของความถี่ เนื่องจากการเคลอนทสมพัทธ์ เรียกว่า
ื่
ี่
Doppler Effect
้
ึ้
หากวัตถุเคลื่อนที่เขาหากัน จะท าให้ความถี่เพิ่มขน
หากวัตถุเคลื่อนที่ออกจากกัน จะทาให้ความถี่ลดลง
ื
้
ข้อดอยของ CW เรดาร์ก็คอไม่สามารถบอกระยะทาง
ั
้
ื่
ี่
ี่
ของเปูาได้ ไม่สามารถตรวจจบเปูาทเคลอนทดวยความเร็วตาๆ
่
ื่
้
้
ี่
่
หรือไม่เคลอนทได เครื่องรับและ เครื่องสงใชสายอากาศ
ร่วมกันไม่ได้
ู
้
ี่
ี่
ื่
ี
ื่
ข้อดีสามารถแยกเปูาไม่เคลอนทออกจากเปาเคลอนทไดด
ี่
ื่
้
่
CW เรดาร์นี้จะถูกน ามาใชกับเปูาทมีการเคลอนท เชน เรดาร์วัด
ี่
ความเร็วลูกปืน หรือ เรดาร์ที่ใช้ชี้เปูาให้กับจรวดน าวิถี เป็นต้น
รูปภาพที่ ๔.๑๑ รูปแสดงผลของ Doppler Effect
๔.๑๐.๒ การทางานของ FM CW Radar จากข้อดอยของ CW เรดาร์ทไม่สามารถวัด
ี่
้
้
ี่
ระยะทางของเปูาได้ จึงได้มีการคิดค้นและสร้างระบบเรดาร์ขึ้นมาเพื่อให้สามารถวัดระยะได ระบบเรดาร์ทสร้างขึ้นมา
่
่
ื่
่
นี้ก็คอ FM - CW เรดาร์ เป็นระบบเรดาร์ทมีการสงคลนเรดาร์อย่างตอเนื่องเชน เดยวกับ CW เรดาร์ แตจะมีการ
ื
ี่
่
ี
ุ
ุ
้
เปลี่ยนความถี่ของคลื่นเรดาร์ที่ส่งออกไปจากความถี่ตาสดไปยังความถี่สงสดของย่านความถี่ ทออกแบบไว้ดวยอัตรา
่
ู
ี่
ื่
้
ี่
คงที่แบบเชิงเส้น แต่อย่างไรก็ดี FM- CW เรดาร์นี้จะใช้ได้ดกับเปูาทไม่เคลอนท สาหรับเปูาเคลอนท แลวจะทาให้วัด
ี
ี่
ื่
ี่
ระยะทางได้ไม่ถูกต้องมากนักเนื่องจากผลของ Doppler Effect FM – CW เรดาร์จะถูกน ามาใชทาเครื่องวัดความสง
้
ู
ของเครื่องบิน
บทที่ ๕ การตดตามเป้า (Tracking) ของระบบควบคุมการยิง
ิ
การติดตามเปูาหมายของระบบควบคุมการยิง จะขอยกตัวอย่างแค่ในส่วนของระบบเครื่อง
ควบคุมการยิง WM Series ซึ่งมีความสามารถของระบบ (System Engagement Capabilities) โดย
แบ่งเป็น FC (Fire Control Channel) ออกเป็น ๓ FC ดังนี้
ู
- FC1 ใช้สาหรับติดตามเปาอากาศยานโดย Monopulse Tracking
ู
- FC2 ใช้สาหรับติดตามเปาพื้นน้ าแบบ Track While Scan และใช้ส าหรับยิงสนับสนุนฝั่ง
(Naval Gunfire Support) แบบ Blind Bombardment และ Indirect Bombardment
ู
- FC3 ใช้สาหรับติดตามเปาพื้นน้ าแบบ Track While Scan
รูปภาพที่ ๕.๑ รูปแสดงโครงสร้างการติดตามเปูาของระบบ WM Series
๕.๑ ขั้นตอนการก าหนดเปูาหมาย Target Acquisition การก าหนดเปูา Acquisition สามารถทาได้
๒ ที่คือ พนักงาน WCC เลื่อน OBM ไปทับที่ Echo ของเปูาแล้วกด Take Over หรือ ที่ HDC เลื่อน OBM ไปทับเปูา
ที่ต้องการ แล้วกดปุุม Designed FC1 ที่ QEK ระบบก็จะด าเนินการติดตามเปูานั้นๆต่อไป
รูปภาพที่ ๕.๒ รูปแสดงขั้นตอนการติดตามเปูา
ู
๕.๒ ขั้นตอนการติดตามเปาหมาย Automatic Target Tracking มี ๒ รูปแบบคือ
ู
๕.๒.๑ การติดตามเปาอากาศยาน (Monopulse Tracking) จะใช้วิธีการติดตามเปูาด้วย
Mono pulse หรือที่เรียกกันว่า Mono pulse Tracking ซึ่งจะใช้วิธีที่แตกต่างไปจากวิธีของ Track While Scan
ี่
คือการติดตามเปูาด้วย Mono pulse นั้นจะต้องใช้สายอากาศ Track และควบคุมให้ชี้ไปยังเปูาตลอดเวลาทท าการ
ติดตามเปูา เพื่อให้รับคลื่นสะท้อนของเปูาได้ตลอดเวลา
รูปภาพที่ ๕.๓ รูปแสดงหลักการติดตามเปูาของ Monopulse Tracking ที่ใช้ 4 feedhorn
๕.๒.๒ การติดตาม
เปูาพื้นน้ า Track While Scan จะใช้วิธีการ
ของ Track While Scan (TWS) แต่ก่อนนั้นจะ
เรียกว่า PPI Auto Follow ซึ่งเป็นการติดตาม
เปูาพื้นน้ าที่แสดงอยู่บนจอภาพ PPI หรือ LPD
ที่ได้รับมาจาก WM Search เรดาร์ การ
ติดตามเปูาด้วยวิธีนี้จะมีการสร้างกรอบ
สี่เหลี่ยมที่มีขนาดตามที่ก าหนดไว้เรียกว่าTrack
Window หรือ Track Gate ขึ้นมาครอบเปูาท ี่
ิ
ต้องการติด ตามแล้วควบคุมให้ตดตามเปูานั้น
ี่
ตลอดเวลาทท าการติดตาม จะไม่มีการใช้สาย
อากาศ Track ส าหรับติดตามเปูาแต่อย่างใด
WM Track เรดาร์นี้สามารถติดตามเปูาพื้นน้ า
ได้ ๒ เปูาพร้อม ๆ กัน
ู
รูปภาพที่ ๕.๒ รูปแสดงการติดตามเปาพื้นน้ าแบบ Track While Scan
๕.๓ การยิงสนับสนุนฝั่ง Naval Gunfire Support มีรูปแบบการยิงสนับสนุนฝั่ง ๓ แบบคือ Blind Bomb
Indirect Bomb และ Direct Bomb ซึ่งการปูอนค่ารูปแบบของการยิง ต่างๆ ปูอนที่ NIK
๕.๓.๑ Blind Bombardment (BB)
เป็นการยิงสนับสนุนฝั่งโดยใช้ Computer ค านวณ โดยไม่
ต้องแพร่คลื่นเรดาร์ เป็นการปูอนค่า Bearing และ ระยะ
เปูา แล้วกดปุุม Blind Bombardment เมื่อเรือเข้าจุด
รูปภาพที่ ๕.๓ รูปแสดงการยิงสนับสนุนฝั่งแบบ BB
๕.๓.๒ Indirect Bombardment (IB)
เป็นการยิงโดยแพร่คลื่นเรดาร์แล้วท าการติดตาม
ุ
เปูาไปที่จดอ้างอิง (จุดเล็งรอง) จากนั้นปูอนค่า
offset range และ offset bearing จากนั้นกดปุุม
Indirect Bombardment
๕.๓.๓ Direct Bombardment (DB)
เป็นการยิงโดยตรงจากการติดตามเปาด้วย
ู
Optronic Track ซึ่งเป็นรูปแบบการยิงโดยใช ้
เครื่องควบคุมการยิงรอง LIROD หรือการใช้
Mode GEN FIX ของ FC2 และ FC3 ก็ได ้
รูปภาพที่ ๕.๔ รูปแสดงการยิงสนับสนุนฝั่งแบบ IB
๕.๔ การติดตามเปูาของระบบควบคุมการยิงแบบเรดาร์/ออปทรอนิกส ์
รูปภาพที่ ๕.๔ รูปแสดงระบบควบคุมการยิงแบบเรดาร์/ออปทรอนิกส ์
๕.๔.๑ Track Loop ของระบบ LIROD มี 2 Track Loop คือ
Radar Track Loop
รูปภาพที่ ๕.๕ รูปแสดงวงจรของ Radar Track loop
Optronic Track Loop
รูปภาพที่ ๕.๖ รูปแสดงวงจรของ Optronic Track loop
๕.๕ การควบคุมสายอากาศติดตามเปูา ส าหรับสายอากาศ Track Antenna มีการควบคุมการหันกระดก
สายอากาศ 3 Mode คือ
๕.๕.๑ Manual Control
๕.๕.๒ Computer Control
๕.๕.๓ Radar Control
รูปภาพที่ ๕.๗ รูปแสดงการควบคุมสายอากาศ Track Antenna
รูปภาพที่ ๕.๘ รูปแสดงการควบคุม Director ของระบบ LIROD Mk2