The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ความหมาย องคประกอบ ประเภท นวนิยาย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nattanan2269, 2021-11-01 03:57:26

ความหมาย องคประกอบ ประเภท นวนิยาย

ความหมาย องคประกอบ ประเภท นวนิยาย

หน่วยท่ี 2
การอ่านนวนิยายและเร่ืองสนั้

ความหมาย องคป์ ระกอบและประเภท
ของนวนิยาย และเร่ืองสน้ั

รวบรวมโดย
นางณฏั ฐนันท์ นนทต์ ุลา

นวนิยาย

คาํ วา่ “นวนิยาย” ตามรูปศพั ท์ คาํ น้ีมีคาํ รวมกนั สองคาํ คือ นว แปลวา่ ใหม่ นิยาย
แปลวา่ เรื่องเล่า คาํ วา่ นวนิยายตรงกบั ภาษาองั กฤษ (Novel) โนเวล และตรงกบั
ภาษาภาษาอิตาเลียนวา่ (Novella) โนเวลลา

องคป์ ระกอบของนวนิยาย

นวนิยายเรอ่ื งหน่ึงๆ ประกอบดว้ ยองคป์ ระกอบสาคญั 6 ประการ

1. โครงเรือ่ ง (plot) เหตุการณ์ทท่ี าใหเ้ รอ่ื งมคี วามหมายและกอ่ ใหเ้ กดิ ผลบางอยา่ งในนวนิยายโดยสว่ นมาก
เหตุการณ์มกั จะเกดิ ขน้ึ จาก ความขดั แยง้ หรอื ปัญหาทต่ี วั ละครสาคญั ไดพ้ บ เชน่ การตาย การไดร้ บั อุบตั เิ หตุ
การถกู โจมตี การมแี มเ่ ลย้ี ง ฯลฯ หรอื ไดร้ บั รู้ ความขดั แยง้ น้ีอาจจะมากจากสงิ่ ภายนอกทเ่ี ปลย่ี นแปลงไปจาก
เดมิ หรอื ประเดน็ ความขดั แยง้ คอื สง่ิ ทอ่ี ยภู่ ายในจติ ใจตวั ละคร เชน่ ความอจิ ฉารษิ ยา การสญู เสยี ชอ่ื เสยี งความ
ทะเยอทะยาน ความโลภ ฯลฯ เมอ่ื ตวั ละครไดส้ รา้ งทางเลอื กและพยายามทจ่ี ะแกป้ ัญหา สง่ิ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในเรอ่ื งได้
ถกู ขดั เกลา ในนวนิยายบางเรอ่ื ง นกั เขยี นไดไ้ ดว้ างโครงสรา้ งทงั้ หมดของพลอ็ ตไปตามลาดบั คอื เหตุการณ์ท่ี
หน่งึ ไดเ้ กดิ ขน้ึ แต่อยา่ งไรกต็ าม กม็ นี วนิยายหลายเรอ่ื งเหมอื นกนั ทถ่ี กู เลา่ แบบใชเ้ ทคนิคการเลา่ เรอ่ื งยอ้ นหลงั
(flashback) ซง่ึ เป็นโครงเรอ่ื งเหตุการณ์ทเ่ี กดิ ในตอนตน้ ถกู นาเขา้ ไปแทรกในเหตกุ ารณ์ปัจจุบนั ของเรอ่ื ง ใน
บางมมุ ของโครงเรอ่ื ง ไดถ้ กู อธบิ ายไปหลากหลายในแนวการทางานของเรอ่ื งแต่ง

องคป์ ระกอบของนวนิยาย

2. ตวั ละคร และการสร้างตวั ละคร ( Characterand characterization ) คอื ผทู้ าใหเ้ กดิ เหตุการณ์ในเร่อื ง
หรอื เป็นผแู้ สดงพฤตกิ รรมต่าง ๆ ในเรอ่ื ง ตวั ละครน้ีนบั เป็นองคป์ ระกอบสาคญั สว่ นหน่ึงของนวนิยาย เพราะถา้
ไมม่ ตี วั ละครแลว้ เรอ่ื งราวตา่ ง ๆ ในนวนิยายกจ็ ะเกดิ ขน้ึ ไมไ่ ด้ ตวั ละครของนวนิยาย มี 2 ประเภท คอื ตวั ละคร
เอก (the major character) คอื ตวั ละครซง่ึ มบี ทบาทสาคญั ในการดาเนินเรอ่ื งโดยตลอด หรอื เป็นศนู ยก์ ลาง
ของเรอ่ื ง และ ตวั ละครประกอบหรอื ตวั ละครยอ่ ย (the minor character) คอื ตวั ละครซง่ึ มบี ทบาทในฐานะเป็น
สว่ นประกอบของการดาเนินเรอ่ื งเทา่ นนั้ แต่กต็ อ้ งมสี ว่ นชว่ ยเสรมิ เน้ือเรอ่ื งและตวั ละครสาคญั ใหเ้ ดน่ ขน้ึ ดว้ ย
- ตวั ละครเอก จะเป็นศนู ยก์ ลางของโครงเรอ่ื ง ในการทน่ี กั เขยี นจะใชเ้ ป็นตวั รอ้ ยเรอ่ื งราวต่าง ๆ เขา้ ดว้ ยกนั
เพอ่ื แสดงใหเ้ หน็ แกน่ ของเรอ่ื ง
- ตวั ละครร้าย จะเป็นตวั ละครหรอื เป็นสงิ่ ทข่ี เู่ ขญ็ ในความขดั แยง้ กบั ตวั ละครเอก ตวั ละครในเรอ่ื งอาจจะเป็น
ทงั้ ตวั ประกอบอ่นื ๆ ทเ่ี อาเขา้ มาไวใ้ นเรอ่ื งเพอ่ื ใหเ้ รอ่ื งดเู หมอื นจรงิ

องคป์ ระกอบของนวนิยาย

3. บทสนทนา ( Dialogue ) คอื การสนทนาโตต้ อบระหวา่ งตวั ละครในนวนิยาย เป็นสว่ นทท่ี าใหน้ วนิยายมี
ลกั ษณะคลา้ ยความจรงิ มากทส่ี ดุ บทสนทนาทด่ี ตี อ้ งเหมาะสมกบั บุคลกิ ภาพของตวั ละคร ตอ้ งสอดคลอ้ งกบั
บรรยากาศในเรอ่ื งและทส่ี าคญั ตอ้ งมลี กั ษณะสมจรงิ คอื มคี าพดู ทเ่ี หมอื นกบั บุคคลในชวี ติ จรงิ ใชพ้ ดู จากนั
4. ฉาก ( Setting ) คอื เวลาและสถานทร่ี วมทงั้ สง่ิ แวดลอ้ มอ่นื ๆ ทช่ี ว่ ยบอกใหผ้ อู้ า่ นรวู้ า่ เหตุการณ์นนั้ เกดิ ขน้ึ
เมอ่ื ใดทไ่ี หน ทน่ี นั้ มลี กั ษณะอยา่ งไร นวนิยายโดยทวั่ ไปจะสรา้ งฉากใหเ้ ป็นสว่ นประกอบของเรอ่ื ง เพอ่ื ชว่ ยให้
ผอู้ า่ นเกดิ ความเขา้ ใจในเหตุการณ์และเวลาทก่ี าหนดไวใ้ นเน้ือเรอ่ื ง หรอื ชว่ ยกาหนดบุคลกิ ลกั ษณะของตวั ละคร
ชว่ ยสอ่ื ความคดิ ของผแู้ ต่ง หรอื ชว่ ยใหเ้ รอ่ื งดาเนินไป
5. มมุ มอง หรือความคิดเหน็ ผแู้ ต่ง ( Point of View ) คือ ความคดิ เหน็ ทศั นะ หรอื ปรชั ญา ของผูเ้ ขยี น
ซง่ึ สอดแทรกอยใู่ นพฤตกิ รรมของตวั ละคร หรอื คาพดู ของตวั ละคร ในการเสนอความคดิ เหน็ หรอื แนวคดิ น้ี
ผแู้ ต่งจะไมเ่ สนอออกมาโดยตรง มกั จะสอดแทรกซอ่ นเรน้ อยใู่ นพฤตกิ รรมของตวั ละคร

องคป์ ระกอบของนวนิยาย

6. แก่นเรือ่ ง ( Theme ) ความสาคญั ของแกน่ เรอ่ื งหรอื ธมี จงึ ดเู หมอื นจะมคี วามสาคญั สาหรบั นกั เขยี น
มากกวา่ คนอ่านเสยี อกี เพราะหากนกั เขยี นไมม่ หี ลกั ทเ่ี ป็นแกนกลางของความคดิ ของเรอ่ื งท่จี ะใหเ้ กดิ ขน้ึ
แลว้ เรอ่ื งทจ่ี ะเลา่ กค็ งจะสะเปะสะปะ ขาดทศิ ทาง หรอื ความเป็นหน่ึงเดยี วของเรอ่ื งจนทาให้เรอ่ื งขาดพลงั ไป
ได้

อกี คาหน่ึงทค่ี วรจะรจู้ กั เอาไวก้ ค็ อื คาวา่ พรไิ มส์ ( premise ) ซง่ึ มสี ว่ นสาคญั ในการเขยี นเรอ่ื งพอ ๆ
กบั แกน่ เรอ่ื ง เพราะมนั คอื ประโยคทเ่ี ป็นสมมตฐิ านอนั แสดงออกถงึ ความคดิ ของนกั เขยี นท่มี ตี ่อธมี ของเรอ่ื ง
และบทบาทของตวั ละคร รวมถงึ เหตุการณ์ต่าง ๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในเรอ่ื ง จะตอ้ งแสดงหรอื เปิดเผยใหเ้ หน็ ความ
เป็นจรงิ อยา่ งทน่ี กั เขยี นตงั้ เอาไว้

ประเภทของนวนิยาย

การแบง่ นวนิยาย สามารถแบง่ ได้ 2 แบบ คอื แบง่ ตามแนวคดิ ในการเขยี น และแบง่ ตามเน้ือหา

แบ่งตามแนวคิดในการเขียน ได้ดงั นี้

1.แบบคลาสสิค (Classicism) คอื เรอ่ื งทเ่ี ขยี นตามแนวคดิ แบบเดมิ โดยอาศยั เคา้ โครงเรอ่ื ง
จากประวตั ศิ าสตร์ หรอื วรรณคดขี องชาตติ า่ ง ๆ เชน่ กรกี โรมนั จนี อนิ เดยี นวนิยายของไทยท่ี
เขยี นตามแนวคลาสสคิ มกั จะเป็นเรอ่ื งสมมตุ ไิ มเ่ สมอื นชวี ติ จรงิ นิยมใชอ้ ภนิ ิหารในการแกป้ ม
ของเรอ่ื ง เชน่ บลั ลงั กเ์ ชยี งรงุ้ ดอกฟ้าจาปาศกั ดิ ์กุหลาบเมาะลาเลงิ ฟากฟ้าสาละวนิ
2. แบบโรแมนติก หรือ จินตนิยม (Romanticism) คอื เรอ่ื งทม่ี งุ่ ใหค้ วามสาคญั ของอารมณ์
ความรสู้ กึ และญาณสงั หรณ์ มากกวา่ คุณคา่ ทางปัญญา เน้ือหามกั เกย่ี วกบั รกั โลภ โกรธ หลง
และความอจิ ฉารษิ ยาของมนุษย์ เชน่ เรอ่ื งดอกฟ้า โดมผจู้ องหอง บา้ นทรายทอง พจมาน สวา่ ง
วงศ์ คา่ ของคน ในฝัน คกู่ รรม
รกั ทต่ี อ้ งมนตรา เป็นตน้

ประเภทของนวนิยาย

3. สจั นิยม หรืออตั ถนิยม คอื เรอ่ื งทเ่ี ลยี นแบบเหตุการณ์จรงิ ๆ ในสงั คมแลว้ สอดแทรก
จนิ ตนาการของผเู้ ขยี นลงไป โดยมจี ดุ มงุ่ หมายเพอ่ื ตแี ผแ่ งม่ มุ ตา่ ง ๆ ของชวี ติ มนุษย์
อยา่ งตรงไปตรงมา เชน่ สแ่ี ผน่ ดนิ เรอ่ื งมนุษย์ น่ีแหละโลก เชา่ ชอ่ื กานต์ เป็นตน้
4. ธรรมชาตินิยม (Naturalism) คอื เรอ่ื งทม่ี งุ่ แสดงความสาคญั ของธรรมชาตวิ ่ามคี วาม
จาเป็นตอ่ ชวี ติ มนุษย์ เรอื งประเภทน้ีจงึ เสนอแนวคดิ ทส่ี มจรงิ คอื มงุ่ ทจ่ี ะเสนอถงึ ชวี ติ ท่ี
ถกู รงั แก กดข่ี ความทุกขย์ าก แรน้ แคน้ ทรมานใจ เชน่ ฟ้าบ่กนั้ ของ ลาว คาหอม จนั
ดารา ของ อุษณา เพลงิ ธรรม รอยมลทนิ ของ ทมยนั ตี เป็นตน้
5.เหนือธรรมชาติ (Surrealism) คอื เรอ่ื งทแ่ี สดงความคดิ เหน็ ของผแู้ ต่งในลกั ษณะฝัน
เฟ่ือง โลดโผน หรอื เกย่ี วกบั ภตู ฝีปีศาจ ผดี บิ คนื ชพี วญิ ญาณพยาบาท เวทมนตรค์ าถา
สง่ิ ลกึ ลบั มหศั จรรย์ เชน่ พระจนั ทรแ์ ดง ทพิ ย์ ของ ทมยนั ตี วมิ านมะพรา้ ว ของแกว้ เกา้

ประเภทของนวนิยาย

แบ่งตามลกั ษณะของเนื้อหาได้ดงั นี้

1. นวนิยายเชิงชีวประวตั ิ (Biographical Novel) ไดแ้ ก่ นวนิยายทก่ี ล่าวถงึ เรอ่ื งราวของตวั
ละครเอก ซง่ึ มกั ไดเ้ คา้ โครงเรอ่ื งมาจากเรอ่ื งราวในชวติ จรงิ ของบุคคลใดบคุ คลหน่ึง เชน่ ตะวนั ตก
ดนิ ของ กฤษณา อโศกสนิ พระจนั ทรส์ นี ้าเงนิ ของ สวุ รรณี สุคนธา เป็นตน้
2. นวนิยายอิงประวตั ิศาสตร์ (Historical Novel) เป็นนวนิยายทก่ี ล่าวถงึ เหตุการณ์ต่าง ๆ ใน
อดตี ยคุ สมยั ใดสมยั หน่ึง เชน่ สแ่ี ผน่ ดนิ ของ ม.ร.ว.คกึ ฤทธิ ์ ปราโมช รม่ ฉตั ร ของ ทมยนั ตี ผชู้ นะ
สบิ ทศิ ของ ยาขอบ รตั นโกสนิ ทร์ ของ ว.วนิ ิจฉยั กุล ขนุ ศกึ มหาราช ของ รพพี ร เป็นตน้
3. นวนิยายแสดงข้อคิด (Themetic Novel) ไดแ้ ก่ นวนิยายทเ่ี น้ือหามงุ่ แสดงความคดิ อยา่ งใด
อยา่ งหน่ึง โดยใหต้ วั ละครเอกแสดงความคดิ เหน็ ทน่ี ่าสนใจตา่ ง ๆ เชน่ ละครแหง่ ชวี ติ ของ ม.จ.
อากาศดาเกงิ รพพี ฒั น์ และ บว่ งกรรม ของดวงใจ เป็นตน้

ประเภทของนวนิยาย

4. นวนิยายล้อเลียน (Satires Novel) ไดแ้ ก่ นวนิยายทเ่ี น้ือหามงุ่ ลอ้ เลยี น เยาะเยย้ หรอื เสยี ดสี
ประชดประชนั ความเลวรา้ ยและความยงุ่ ยากในสงั คม เชน่ เทพบุตรสดุ แสบ ของ กนกเรขา
5. นวนิยายผจญภยั (Novel of Adventure) ไดแ้ กน่ วนิยายทม่ี เี น้ือหากล่าวถงึ เรอ่ื งการต่อสผู้ จญ
ภยั ของตวั ละครเอกในรปู แบบตา่ ง ๆ จนไดร้ บั ความสาเรจ็ โดยไมค่ าดหมาย แลว้ มเี รอ่ื งสตรแี ละ
ความรกั เขา้ มาเกย่ี วขอ้ งดว้ ย เชน่ ล่องไพร ของ น้อย อนิ ทนนท์ เพชรพระอุมา ของ พนมเทยี น
6. นวนิยายมหศั จรรย์ หรอื จินตนิยม (Novel of Fantasy) คอื นวนิยายทม่ี โี ครงเรอ่ื งลกึ ลบั
โดยผเู้ ขยี นอาจจะจนิ ตนาการเอง หรอื ใชค้ วามฝันมาผกู เป็นโครงเรอ่ื ง ผเู้ ขยี นมเี ป้าหมายใหเ้ กดิ
ความเพลดิ เพลนิ และจนิ ตนาการแปลก ๆ เชน่ นวนิยายภูตผปี ีศาจ ความลกึ ลบั เกย่ี วกบั ผตู ผแี ละ
ความมหศั จรรยข์ องไสยศาสตร์ เชน่ เรอ่ื งเกย่ี วกบั ผดี บิ คนื ชพี วญิ ญาณพยาบาท เป็นตน้ ทพิ ย์
ของ ทมยนั ตี ฟ้าจรดทราย ของ โสภาค สวุ รรณ เป็นตน้

ประเภทของนวนิยาย

7. นวนิยายเกี่ยวกบั ท้องถ่ิน (Novel of Soil) ไดแ้ ก่ นวนิยายทม่ี เี น้ือหากลา่ วถงึ สถานทส่ี าคญั
แหง่ ใดแหง่ หน่ึง ซง่ึ เป็นบอ่ เกดิ ของเหตุการณ์และตวั ละครในเรอ่ื ง เชน่ เรอ่ื ง ทุ่งมหาราช ของ
เรยี มเอง แสนแสบ ของ ไมเ้ มอื งเดมิ และ ลูกอสี าน ของ คาพนู บุญทวี เป็นตน้
8.นวนิยายเป็นตอนต่อเน่ืองกนั (Episodic Novel) ไดแ้ ก่ นวนิยายทก่ี ลา่ วถงึ เรอ่ื งเหตุการณ์
ต่าง ๆ ซง่ึ ไมเ่ กย่ี วขอ้ งกนั แตม่ คี วามสมั พนั ธก์ นั ดว้ ยการใชต้ วั ละครชดุ เดยี วกนั หรอื มแี กนกลาง
ของเรอ่ื งเป็นแกนเดยี วกนั เชน่ ชุด พล นิกร กมิ หงวน ของ ป.อนิ ทรปาลติ หลายชวี ติ ของ ม.ร.ว.
คกึ ฤทธ์ ปราโมช เป็นตน้
9.นวนิยายเชิงจิตวิทยา (Psychological Novel) ไดแ้ ก่ นวนิยายทม่ี เี น้ือหากล่าวบรรยายถงึ
ความรสู้ กึ และจติ ใจของตวั ละครเอกทม่ี ตี อ่ เหตุการณ์ต่าง ๆ ในชวี ติ เช่น เงาราหู ของ โสภาค
สวุ รรณ มายา ของ ว.วนิ ิจฉยั กุล ทองเน้ือเกา้ ของโบตนั ๋ ปนู ปินทอง ของกฤษณา อโศกสนิ

ประเภทของนวนิยาย

10. นวนิยายเชิงปัญหา (Problem Novel) ไดแ้ ก่ นวนิยายทม่ี เี น้ือหากลา่ วถงึ ปัญหาต่าง ๆ ท่ี
เกดิ ขน้ึ ในสงั คม ทงั้ ดา้ นการเมอื ง เศรษฐกจิ และปัญหาชวี ติ ครอบครวั เชน่ ทาไม ขา้ วนอกนา ของ
สฟี ้า และ เวลาในขวดแกว้ ของ ประภสั สร เสวกิ ุล เป็นตน้
11. หสั นิยาย (Humour Novel) ไดแ้ ก่ นวนิยายทม่ี เี น้ือหามงุ่ ใหค้ วามสนุกสนานเพลดิ เพลนิ เป็น
สาคญั เป็นเรอ่ื งเบาสมอง เชน่ ผใู้ หญ่ลกี บั นางมา ของ กาญจนา นาคนนั ท์ พอ่ ปลาไหล ของ กนก
เรขา ชวี ติ รกั นกั ศกึ ษา ของ ศุภกั ษร และ ทหารเรอื มาแลว้ ของ ประเทอื ง ศรสี ขุ เป็นตน้
12. นวนิยายสงั คมและการเมือง (Politics and Sociological Novels) คอื นวนิยายทม่ี โี ครง
เรอ่ื งเกย่ี วเน่ืองดว้ ยปัญหาทางการเมอื ง เศรษฐกจิ การปกครอง การขดั แยง้ ของสงั คม ใชก้ ลวธิ ี
การดาเนินเรอ่ื งผา่ นตวั ละครมาสผู่ อู้ ่าน เชน่ เรอ่ื งไผแ่ ดง ของ ม.ร.ว. คกึ ฤทธิ ์ปราโมช ความรกั
ของวลั ยา ของ เสนีย์ เสาวพงศ์ พริ าบแดง ของ สวุ ฒั น์ วรดลิ ก เป็นตน้

ประเภทของนวนิยาย

13.นวนิยายลกู ท่งุ (Peasant Novel) คอื นวนิยายทม่ี เี น้ือเรอ่ื งเกย่ี วกบั สภาพชวี ติ ในสงั คม
ชนบท สะทอ้ นสภาพชวี ติ ทย่ี ากแคน้ การตอ่ สดู้ น้ิ รนเพอ่ื การดาเนินชวี ติ เพอ่ื การอยรู่ อด หรอื
อาจจะเสนอภาพชวี ติ ของสงั คมชนบททม่ี คี วามรน่ื รมยท์ า่ มกลางธรรมชาติ เชน่ ชายสามโบสถ์
เกวยี นหกั แสนแสบ เรอื เพลงเรอื เร่ ของไมเ้ มอื งเดมิ ลกู ชาวนา ของ นมิ ติ ภมู ถิ าวร เป็นตน้
14. นวนิยายต่างแดน (Exotic Novel) คอื นวนิยายทใ่ี ชฉ้ าก หรอื สถานทต่ี ่างประเทศในการ
ดาเนินเรอ่ื ง เชน่ ปักกงิ่ นครแหง่ ความหลงั ของ สด กรู มะโรหติ ความรกั ของวลั ยา ของ เสนีย์
เสาวพงศ์
15. นวนิยายอาชญากรรม และนักสืบ (Detective and Crime Novel) เป็นนวนิยายทผ่ี เู้ ขยี น
ผกู โครงเรอ่ื งใหซ้ บั ซอ้ น ซอ่ นเงอ่ื น ซ่อมปม เพอ่ื ใหผ้ อู้ า่ นเกดิ ความระทกึ ใจ สะเทอื นอารมณ์ไป
ตามตวั ละครและเน้ือเรอ่ื ง สว่ นใหญ่จะเป็นเรอ่ื งเกย่ี วกบั จารกรรม เชน่ ชุด อนิ ทรแี ดง ของ เศก
ดสุ ติ เลบ็ ครฑุ ของ พนมเทยี น ชุด เหยย่ี วราตรี ของ ส. เนาวราช เป็นตน้

ประเภทของนวนิยาย

16. นวนิยายอิงศาสนา (Moral Novel) คอื นวนิยายทม่ี งุ่ เสนอสาระทางจรยิ ธรรมแก่สงั คม มตี วั
ละคร เพอ่ื ใหผ้ อู้ ่านจบั ประเดน็ สาคญั ของเรอ่ื งเอาเอง เสนอแนวคดิ คตธิ รรม จรยิ ธรรม โดยผา่ น
พฤตกิ รรมของตวั ละครในเรอ่ื งสผู่ อู้ า่ น ทาใหผ้ อู้ า่ นสนุกสนาน ไมร่ สู้ กึ เบ่อื หน่าย โครงเรอ่ื งสว่ น
ใหญ่นามาจากเรอ่ื งราวทม่ี อี ยใู่ นศาสนา เชน่ เรอ่ื ง กามนิตวาสฏิ ฐี ของ เสฐยี รโกเศศและนาคะ
ประทปี กองทพั ธรรม ของ สชุ พี ปัญญานุภาพ อานนทพ์ ทุ ธอนุชา ของ วศนิ อนิ ทสระ ลลี าวดี
ของ ธรรมโฆษ ชุดกฎแหง่ กรรม ของ ท. เลยี งพบิ ลู ย์ ชดุ "หลวงตา" ของ แพร เยอ้ื ไม้ เป็นตน้
17. นวนิยายวิทยาศาสตร์ (Science Novel) เป็นนวนิยายทเ่ี กย่ี วกบั การคน้ พบสง่ิ แปลกใหม่
ความต่นื เตน้ มหศั จรรยท์ างวทิ ยาศาสตร์ เชน่ ยานมนุษย์ ของพรหมบุตร ชวั่ นจิ นิรนั ดร์ เรอ่ื งแปล
โดย กญั ญา เป็นตน้

เร่ืองสนั้

เรอ่ื งสนั้ บนั เทงิ คดรี อ้ ยแกว้ รปู แบบหน่ึง มลี กั ษณะคลา้ ยนวนิยายแตส่ นั้ กวา่ มคี วามยาวประมาณ
1000-10000 คา หรอื ประมาณ 5 ถงึ 8 หน้า โดยมเี หตุการณ์ในเรอ่ื งและตวั ละครน้อย มกั จบแบบพลกิ
ความคาดหมายหรอื จบแบบทง้ิ ใหค้ ดิ เป็นตน้ เชน่ เรอ่ื งสรอ้ ยคอทห่ี ายของประเสรฐิ อกั ษร เรอ่ื งจบั ตาย
ของมนสั จรรยงค์ เรอ่ื งมอม ของม.ร.ว.คกึ ฤทธิ ์ ปราโมช หรอื บางเรอ่ื งอาจยาวเพยี ง 1 หน้ากระดาษ
ฟูลสแก๊ป เรยี กวา่ เป็นเรอ่ื งสนั้ ขนาดสนั้ ถา้ เรอ่ื งยาวมากถงึ ขนาด 4 ตอนจบ กเ็ รยี กวา่ เรอ่ื งสนั้ ขนาด
ยาว ผเู้ ขยี นเขยี นขน้ึ โดยใชจ้ นิ ตนาการของตนเองอยา่ งสมจรงิ สมจงั มขี นาดสนั้ ตวั ละครไมม่ าก ดาเนิน
เรอ่ื งดว้ ยความรวดเรว็ และมจี ดุ มงุ่ หมายเดยี วโดยอาศยั ศลิ ปะการเขยี นท่ี ชวนใหน้ ่าอา่ นและมคี ตธิ รรม
แทรก มลี กั ษณะพเิ ศษเฉพาะทน่ี ่าสนใจเพราะมศี ลิ ปะการแต่งผดิ ไปจากเรยี งความ ประเภทอ่นื คอื เรอ่ื ง
สนั้ จะมจี ดุ หมายซง่ึ แสดงความคดิ อยา่ งใดอยา่ งหน่ึงเพยี งขอ้ เดยี ว

องคป์ ระกอบของเรื่องสนั้ เรือ่ งสนั้

ลกั ษณะเฉพาะของเรือ่ งสนั้ เรื่องสนั้

1. เรอ่ื งสนั้ จะตอ้ งมโี ครงเรอ่ื ง โครงเรอ่ื งคอื กลวธิ แี หง่ การสรา้ งเรอ่ื งใหส้ นุกสนาน โดยมขี อ้ ขดั แยง้ ระหวา่ งตวั
ละคร และจบลงดว้ ยผล อยา่ งใดอยา่ งหน่ึง

2. มจี ุดมงุ่ หมายอยา่ งเดยี ว และมผี ลสรปุ อยา่ งเดยี ว
3.ใชเ้ วลาน้อย
4. มตี วั ละครน้อย
5. มขี นาดสนั้ ตอ้ งเขยี นดว้ ยการประหยดั ถอ้ ยคาตรงไปตรงมา ขนาดพอเหมาะอยรู่ ะหวา่ ง 4,000-5,000 คา

หรอื อา่ นจบในเวลา 15-50 นาที
6. มตี น้ บท( Theme) บทเดยี วและสรา้ งความประทบั ใจอนั หน่ึงอนั เดยี วกนั แก่ผอู้ า่ น เชน่ ใหผ้ ู้อ่านไดร้ บั ความ
ประทบั ใจในเรอ่ื งความหงึ ของสามี ความดเุ ดอื ดของลงิ กดั กนั ความเสยี สละครงั้ หน่ึงของหญงิ โสเภณีคนหน่ึง
เป็นตน้

ลกั ษณะเฉพาะของเรือ่ งสนั้ เร่ืองสนั้

7. เป็นเรอ่ื งเกดิ จากจนิ ตนาการและสมจรงิ (แตท่ วา่ ยงั ไมเ่ ป็นเรอ่ื งจรงิ โดยแท)้
8. เป็นเรอ่ื งเสนออยา่ งเทยี มละคร(dramatic) และมใิ ชเ่ รอ่ื งเลน่ แบบ narration หรอื ไมใ่ ช่ เป็นอยา่ งทเ่ี รยี กวา่
ภาษาองั กฤษวา่ anecdote คาวา่ dramatic แปลวา่ acting out ซง่ึ หมายถงึ การบอกเล่าเรอ่ื งหน่ึงเรอ่ื งใดดว้ ยการ
กระทาหรอื อากปั กริ ยิ าของ ตวั ละคร
9. ถา้ จะเทยี บกบั วชิ าพฤกษศาสตรน์ นั้ ถา้ เราตอ้ งการจะเรยี นเกย่ี วขอ้ งกบั หน้าทข่ี องทอ่ อาหาร ทอ่ น้า เซลล์
เปลอื กของกงิ่ ไมก้ ง่ิ หน่ึง เรากจ็ ะเฉอื นกงิ่ ไมม้ าแวน่ หน่ึง แลว้ กเ็ อามาสอ่ งกลอ้ งดู รสั นิยาย* หน่ึงเรอ่ื ง กม็ สี ภาพ
คลา้ ยคลงึ กบั แวน่ หน่ึงของกงิ่ ไมก้ ง่ิ หน่ึงนนั้
10. เพอ่ื ใหไ้ ดใ้ จความในขอ้ 9 ชดั เจนขน้ึ อาจกล่าวเพมิ่ เตมิ ไดว้ า่ รสั นิยาย ไมใ่ ชบ่ ทประพนั ธท์ เ่ี ลา่ อุบตั กิ ารณ์ใน
ทานอง ถา่ ยทอดเรอ่ื งตอ่ เรอ่ื ง เหตุการณ์ ต่อเหตุการณ์ ต่อเน่ืองกนั ไปเหมอื นคาบรรยายวชิ าประวตั ศิ าสตรห์ รอื
การเขยี นรายงานการไป เทย่ี วประเทศอนิ โดนีเซยี และเรอ่ื ง “หยาดเหงอ่ื ของพอ่ ”

ประเภทของเรือ่ งสนั้ เรอ่ื งสนั้

เรื่องสนั้ แบง่ ออกเป็น 4 ประเภท

1.

ประเภทของเร่อื งสนั้ เรอ่ื งสนั้

2.

ประเภทของเร่อื งสนั้ เรอ่ื งสนั้

3.

ประเภทของเร่อื งสนั้ เรอ่ื งสนั้

4.


Click to View FlipBook Version