โครงงานหนูน้อยวัยใส ห่างไกลบุหรี่และบุหร

โครงงานต้านยาเสพติด เรื่อง หนูน้อยวัยใส ห่างไกลบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า คณะผู้จัดท า นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ ๒ – ๓ ผู้บริหารที่ปรึกษา นางสาวสุนิสา กินนอน ผู้อ านวยการโรงเรียน ครูที่ปรึกษาโครงงาน นางสาวนภารัตน์ เบิกระ ครูผู้ช่วย โรงเรียนท่าเรือวิทยา ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต ๗ ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

ก ชื่อโครงงาน หนูน้อยวัยใส ห่างไกลบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ชื่อผู้จัดท า นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ ๒ – ๓ โรงเรียน ท่าเรือวิทยา ปีการศึกษา ๒๕๖๕ บทคัดย่อ โครงงานเรื่อง หนูน้อยวัยใส ห่างไกลบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า เป็นการศึกษาของ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ ๒-๓ โรงเรียนท่าเรือวิทยา ระหว่างเดือนมิถุนายน ถึง เดือนสิงหาคม ปีการศึกษา ๒๕๖๕ สถานที่ศึกษาบริเวณโรงเรียน ท่าเรือวิทยา เป็นโครงงานที่มีวัตถุประสงค์เพื่อ ๑. เพื่อให้นักเรียนมีความรู้และตระหนักถึงพิษภัยของบุหรี่และ บุหรี่ไฟฟ้า ๒. เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนได้ท ากิจกรรมร่วมกับผู้อื่นและใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ คณะผู้จัดท าจึงได้จัดท าโครงงานนี้ โดยเริ่มจากประชุมชี้แจงและแบ่งงานให้สมาชิกทุกคนในห้องเรียน รับผิดชอบ จากนั้นสมาชิกทุกคนในห้องเรียนช่วยกันค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับโทษของบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าแล้วน าข้อมูล ที่สมาชิกในห้องเรียนแต่ละคนค้นหามาระดมความคิด สรุปและจัดท าเป็นสื่อเพื่อน าไปเผยแพร่ต่อสาธารณะ และ เดินรณรงค์งดสูบบุหรี่ นักเรียนท าจดหมายหรือการ์ดถึงผู้ปกครองให้งดสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าและสรุปผลการ ด าเนินงาน ผลการด าเนินการ พบว่า นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ ๒-๓ จ านวน ๒๔ คน มีความรู้และตระหนักถึงพิษภัย ของบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้ามากขั้น สามารถบอกโทษของบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าได้ ร้อยละ ๑๐๐ และยังสามารถบอก วิธีการหลีกเลี่ยงและวิธีป้องกันตนเองจากบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า อีกทั้งนักเรียนยังได้ท ากิจกรรมร่วมกับผู้อื่น มี ความสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัวและเพื่อน ๆ ในห้องเรียน และได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

ข กิตติกรรมประกาศ การจัดท าโครงงานเรื่องนี้ส าเร็จ ได้ด้วยความช่วยเหลือให้ค าปรึกษาจาก คุณครูนภารัตน์ เบิกระ ที่ได้ให้ ความกรุณาชี้แนะแนวทางและการตรวจสอบการแก้ไขข้อบกพร่องของโครงงานจนส าเร็จด้วยดี คณะผู้จัดท าจึง ขอกราบขอบพระคุณท่านเป็นอย่างยิ่ง ขอขอบพระคุณผู้อ านวยการโรงเรียน คณะครูโรงเรียนท่าเรือวิทยา ที่ อนุเคราะห์และอ านวยความสะดวกแหล่งค้นคว้าข้อมูล ขอขอบคุณเพื่อน พี่ และน้องนักเรียน ที่ให้ก าลังใจและ ร่วมกันด าเนินกิจกรรมด้วยดีเสมอมา ขอขอบพระคุณคุณพ่อ คุณแม่และญาติทุกคนของคณะผู้จัดท า ที่คอยเป็นกา ลังใจอันส าคัญยิ่งให้แก่คณะผู้จัดท าจนประสบผลส าเร็จ คุณค่าและประโยชน์ของการศึกษาค้นคว้าในครั้งนี้ คณะ ผู้จัดท าขอมอบเป็นเครื่องบูชาพระคุณบิดา มารดาบูรพาจารย์ และผู้มีพระคุณทุกท่าน คณะผู้จัดท าหวังไว้อย่างยิ่งว่าโครงงานนี้จะเป็นประโยชน์ให้แก่ผู้ร่วมกิจกรรมได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง คณะผู้จัดท า

ค สารบัญ เรื่อง หน้า บทคัดย่อ ก กิตติกรรมประกาศ ข บทที่ ๑ บทน า 1 ที่มาและความส าคัญของโครงงาน 1 วัตถุประสงค์ของโครงงาน 1 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ๑ ขอบเขตของการศึกษา ๑ สมมุติฐาน ๑ ระยะเวลาในการด าเนินงาน ๑ บทที่ ๒ เอกสารที่เกี่ยวข้อง ๒ บทที่ ๓ การด าเนินการและการศึกษา ๖ บทที่ ๔ ผลการด าเนินงาน/ผลการศึกษา ๗ บทที่ ๕ สรุปผลการด าเนินงาน ๙ ประโยชน์ที่ได้รับ ๙ ข้อเสนอแนะ ๙ ปัญหาและอุปสรรค ๙ บรรณานุกรม 1 ๐ ภาคผนวก 1 ๑

1 บทที่ ๑ บทน า ที่มาและความส าคัญของโครงงาน บุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า คือ สิ่งเสพติดที่เป็นจุดเริ่มต้นของยาเสพติดร้ายแรงอื่น ๆ และเป็นชนวนชักน าให้ เยาวชนก้าวสู่พฤติกรรมเสี่ยงต่าง ๆข้อค้นพบนี้ท าให้สังคมไทยหันมามองปัญหาการสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าของ เยาวชนด้วยมุมมองใหม่ว่า การป้องกันเยาวชนไม่ให้สูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ไม่เพียงเป็นการปกป้องพวกเขาจาก การตกเป็นทาสบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าไปอีกยาวนาน รวมถึงหลีกเลี่ยงอันตรายจากโรคเรื้อรังที่สัมพันธ์กับการสูบบุหรี่ และบุหรี่ไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยิ่งลดจ านวนเยาวชนไม่ให้สูบบุหรี่และและบุหรี่ไฟฟ้าได้มากเท่าใด ก็จะยิ่งลดจ านวน เยาวชนที่จะติดยาเสพติดได้มากเป็นเงาตามไปพร้อมกันด้วย จากเหตุผลดังกล่าวจึงได้มีแนวคิดในการจัดท าโครงงาน หนูน้อยวัยใส ห่างไกลบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ความตระหนักต่อความส าคัญของพิษภัยของหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า รวมทั้งมีศักยภาพ และ ความกระตือรือร้นในการจัดกิจกรรมรณรงค์และสนับสนุนให้โรงเรียนเป็นโรงเรียนปลอดบุหรี่ และให้นักเรียนใช้ เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ โดยการท ากิจกรรมตามความสนใจของตนเอง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด กิจกรรมส าคัญคือ การศึกษาพิษภัยและโทษของบุหรี่ การสรุปและเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับพิษภัยและโทษบุหรี่ วัตถุประสงค์ ๑. เพื่อให้นักเรียนมีความรู้และตระหนักถึงพิษภัยของบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ๒. เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนได้ท ากิจกรรมร่วมกับผู้อื่นและใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ๑. นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับพิษภัยของบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ๒. นักเรียนเห็นคุณค่าของตนเองไม่ยุ่งเกี่ยวกับบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ขอบเขตของการศึกษา 1. ขอบเขตด้านเนื้อหา การศึกษาพิษภัยของบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า 2. ขอบเขตด้านประชากร นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ ๒ – ๓ จ านวน ๒๔ คน สมมุติฐานในการด าเนินงาน 1. นักเรียนมีความรู้ เกี่ยวกับพิษภัยของบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า 2. ได้ท ากิจกรรมร่วมกับผู้อื่น ระยะเวลาในการท าโครงงาน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565

2 บทที่ ๒ เอกสารที่เกี่ยวข้อง โครงงานหนูน้อยวัยใส ห่างไกลบุหรี่และบุหรี่ จัดท าขึ้น เพื่อให้สมาชิกในห้องเรียนมีความรู้และตระหนัก ถึงพิษภัยของบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า และเพื่อส่งเสริมให้สมาชิกในห้องเรียนได้ท ากิจกรรมร่วมกับผู้อื่น โดยคณะ ผู้จัดท าโครงงานได้ศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้องดังนี้ พิษภัยของบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า บุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า มีพิษภัยร้ายแรง ส่งผลเสียต่าง ๆ มากมาย เช่น ท าลายสุขภาพทั้งทางร่างกายและ จิตใจ เป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดที่เป็นภัยคุกคามต่อชีวิต สังคมและประเทศชาติ โดย องค์การอนามัยโลก (WHO) เผยข้อมูลว่า ในควันบุหรี่ เต็มไปด้วย นิโคติน (สารเสพติด), สารเคมี 7,000 ชนิด, สารพิษ มากกว่า 250 ชนิด และสารก่อมะเร็ง มากกว่า 70 ชนิด ยิ่งสูบบุหรี่นานเท่าไร ก็ยิ่งเสี่ยงต่อโรคภัยไข้เจ็บ ที่บั่นทอนชีวิตให้สั้นลง ไม่ต่างจากไฟของบุหรี่ที่ค่อยมอด ๆ ลงเมื่อสูบไปนาน ๆ ๑. โทษของบุหรี่ บุหรี่ สิ่งเสพติดที่คนส่วนใหญ่ให้ความนิยมมากที่สุด เพราะหากยังคงสูบไปนาน ๆ ก็จะยิ่งติดหนักขึ้นจน ไม่สามารถเลิกได้ ซึ่ง โทษของบุหรี่ ก็อาจเป็นเพียงข้ออ้างหนึ่งของคนที่ไม่อยากเลิกหรือไม่มีความพยายามเท่านั้น เนื่องจากในบุหรี่เต็มไปด้วยสารนิโคตินที่หากร่างกายได้รับไปนานๆ จะส่งผลให้เกิดโรคมะเร็งปอด โรคหัวใจและ ส่งผลเสียต่ออวัยวะอื่นๆ ตามมามากมายนอกจากนี้ ควันบุหรี่ยังมีประสิทธิภาพในการท าร้ายคนรอบข้างได้อย่าง ร้ายกาจ ซึ่งหากคุณคิดว่าไม่สามารถเลิกสูบบุหรี่ได้ ลองมาดู โทษของบุหรี่ ที่มีทั้งต่อตัวคุณเองและคนรอบข้างกัน ก่อน เพราะโทษเหล่านี้อาจกระตุ้นให้คุณอยากสูบเลิกบุหรี่ได้ส าเร็จมากขึ้นก็เป็นได้ โดยโทษของบุหรี่ ที่มีต่อตัวผู้ สูบดังนี้ 1.๑ เสี่ยงตาบอดถาวร หลายคนอาจไม่เชื่อว่า โทษของบุหรี่ จะท าให้ตาบอดได้จริง แต่นั่นเป็นความ จริง เพราะเมื่อเราสูบบุหรี่บ่อยๆ สารพิษในบุหรี่จะไปท าให้เกิดตาต้อกระจกได้ง่ายขึ้น โดยสังเกตได้จากดวงตาที่ดู ขุ่นมัวขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งนั่นเป็นเพียงอาการเริ่มต้นเท่านั้น นอกจากนี้ สารพิษในบุหรี่ ยังเป็นตัวการท าให้หลอดเลือดที่ ไปเลี้ยงจอเรตินาเกิดการตีบตัน จนเป็นผลให้ตาบอดถาวรในที่สุด ๑.2 เสี่ยงมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ อาจดูเป็นโรคที่ไกลตัว แต่ส าหรับผู้ที่สูบบุหรี่แล้ว โรคนี้นับว่าเป็น โรคที่มีความเสี่ยงมากทีเดียว เพราะร่างกายของเราจะมีกระบวนการดูดซึมสารพิษหรือสารแปลกปลอมเข้าสู่ กระแสเลือด และขับถ่ายออกทางปัสสาวะ ซึ่งสารนิโคตินและสารเสพติดอื่นๆ ในบุหรี่นั้น มีคุณสมบัติเป็นสารก่อ มะเร็ง เมื่อมีการดูดซึมและขับออกทางปัสสาวะบ่อยๆ จะท าให้กระเพาะปัสสาวะได้สัมผัสกับสารเหล่านี้ไปเต็มๆ

3 เป็นผลให้เสี่ยงต่อมะเร็งกระเพาะปัสสาวะได้นั่นเอง นอกจากนี้ บางคนอาจมีอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ เนื่องจาก กล้ามเนื้อซึ่งท าหน้าที่คอยควบคุมกระเพาะปัสสาวะถูกท าลายจนอ่อนตัวลงไปแล้ว ๑.3 เสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นโรคที่มีความอันตรายเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะภาวะหลอด เลือดหัวใจตีบตันที่อาจน าไปสู่ภาวะหัวใจวายเฉียบพลันอย่างไม่ทันตั้งตัว และผู้ที่สูบบุหรี่บ่อยๆ ก็เสี่ยงต่อโรค เหล่านี้มากที่สุด เนื่องจากสารนิโคตินและสารเสพติดอื่นๆ ในบุหรี่จะท าให้หลอดเลือดหัวใจหดตัวและตีบลง ส่งผล ให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจได้ยากขึ้น และอาจไปเลี้ยงหัวใจไม่พอ จึงท าให้หัวใจวายอย่างเฉียบพลันได้ โดยเฉพาะในขณะ ออกก าลังกาย ผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจจึงมักจะถูกสั่งห้ามไม่ให้ออกก าลังกายหนักๆ นั่นเอง ๑.4 เสี่ยงโรคระบบทางเดินอาหาร ผู้ที่สูบบุหรี่บ่อยๆ จะเสี่ยงต่อโรคระบบทางเดินอาหารได้สูง ไม่ว่า จะเป็นโรคกระเพาะอาหารโรคล าไส้อักเสบ โรคมะเร็งช่องปากและมะเร็งหลอดอาหาร รวมถึงการติดเชื้อ Helicobacter pylori เพราะสารเคมีในบุหรี่ จะไปท าให้กระเพาะอาหารมีการผลิตน้ าย่อยออกมามากขึ้น และมาก เกินความจ าเป็น จนท าให้กระเพาะอาหารเกิดแผลจากการกัดกร่อนของน้ าย่อย ส่งผลให้เป็นโรคกระเพาะและเสี่ยง โรคมะเร็งได้ นอกจากนี้ หากสูบบุหรี่บ่อยๆ และสูบในปริมาณมากต่อวันก็อาจท าให้กระเพาะอาหารทะลุได้ ๑.5 เสี่ยงหลอดเลือดสมองตีบ หลอดเลือดสมองตีบ เป็นอีกโรคที่น่ากลัว เพราะอาจเสี่ยงต่อภาวะ หลอดเลือดสมองแตกได้ ซึ่งก็จะท าให้เสี่ยงต่อการเป็นอัมพฤต อัมพาตและอาจเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้อีกเช่นกัน ซึ่ง จากการวิจัยพบว่าผู้ที่สูบบุหรี่บ่อยๆ และสูบเป็นประจ ามักเสี่ยงต่อภาวะหลอดเลือดสมองตีบและแตกมากกว่าคน ปกติสูงถึง 10 เท่า อีกทั้งยังอาจท าให้เซลล์สมองฝ่อและเสื่อมได้ง่ายกว่าปกติ ๑.6 เสี่ยงถุงลมโป่งพอง ถุงลมโป่งพอง เกิดจากการที่เนื้อปอดและถุงลมเล็กๆ ของเรานั้นค่อยๆ เสื่อมสภาพลง และเริ่มรวมตัวกันจนโป่งพองขึ้นมาในที่สุด ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเพราะการสูบบุหรี่มากๆ โดยสาร นิโคตินและสารเคมีอื่นๆ จะเข้าไปท าลายเซลล์เนื้อเยื่อของปอด และท าให้ถุงลมเล็กๆ ฉีกขาด ผู้ป่วยจะมีอาการ หายใจล าบากและหายใจยากขึ้น บางคนอาจรู้สึกหายใจได้ไม่เต็มปอดจนต้องหายใจถี่และเร็วขึ้นกว่าปกติ ซึ่งก็ สร้างความทรมานให้กับผู้ป่วยได้มากทีเดียว ๑.7 เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ไม่ต้องแปลกใจว่าท าไมอวัยวะเพศของคุณถึงมักจะไม่ค่อยแข็งตัว หรือบางคนอยากมีลูก แต่ไม่ว่าจะท าอย่างไร ภรรยาก็ไม่ตั้งครรภ์สักที นั่นอาจเป็นเพราะการเสื่อมสมรรถภาพทาง เพศ เนื่องจากการสูบบุหรี่บ่อยนั่นเอง ทั้งนี้ก็เพราะสารเคมีในบุหรี่จะท าให้เส้นเลือดเกิดการอุดตัน ส่งผลให้เลือดไป เลี้ยงประสาทที่ควบคุมการแข็งตัวของอวัยวะเพศชายได้น้อยลง และยังท าให้จ านวนอสุจิลดน้อยลงตาม ซึ่งเมื่อขาด ตัวอสุจิที่แข็งแรงไปโอกาสที่คุณจะเป็นหมันก็ย่อมเพิ่มสูงขึ้น ๑.8 เสี่ยงแท้งลูก ส าหรับผู้หญิงที่สูบบุหรี่ โดยทั่วไปนอกจากจะท าให้เสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้สูงกว่า ผู้ชายแล้ว หากยังคงสูบในช่วงตั้งครรภ์ก็ยิ่งท าให้เสี่ยงต่อการแท้งลูกได้อีกด้วย เนื่องจากสารเคมีในบุหรี่จะท าให้รก เกาะต่ า เสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อน และอาจเกิดภาวะครรภ์เป็นพิษตามมาได้ ดังนั้นหากรู้ตัวว่าก าลังตั้งครรภ์ ควรเลิกสูบบุหรี่โดยด่วน และต้องอยู่ให้ห่างไกลจากควันบุหรี่ด้วยเช่นกัน

4 ๑.9 ส่งผลกระทบอื่นๆ ต่อทางร่างกาย นอกจากโทษของบุหรี่ที่กล่าวมาแล้ว ผู้สูบบุหรี่อาจมีความ ผิดปกติทางร่างกายเกิดขึ้น ทั้งความผิดปกติที่ไม่อันตรายและที่เป็นอันตราย แต่ก็สร้างความวิตกได้เป็นอย่างมาก ซึ่งสิ่งผิดปกติเหล่านั้น ได้แก่ ฟันผุ ฟันด า มีกลิ่นปาก กลิ่นตัวเหม็นมาก แก่เร็ว ผมหงอก และอาจมีอาการเหนื่อย ง่าย หอบบ่อยๆ เล็บเหลืองหรือมีอาการเบื่ออาหารร่วมด้วย นอกจากบุหรี่จะมีโทษต่อตัวเองที่สูบแล้ว ยังมีโทษของบุหรี่ต่อคนรอบข้างด้วย ดังนี้ 1. เสี่ยงโรคหอบหืด เนื่องจากควันบุหรี่ มีผลต่อระบบทางเดินหายใจของผู้สูดควันเข้าไปโดยตรง จึง อาจท าให้เกิดอาการภูมิแพ้ และเสี่ยงต่อโรคหอบหืดได้ นอกจากนี้ ในคนที่เป็นโรคหอบหืดหรือโรคภูมิแพ้อยู่แล้ว ก็ อาจมีอาการก าเริบจากการสูดควันบุหรี่ได้ง่ายเช่นกัน 2. ท าลายสุขภาพทารกในครรภ์ ในหญิงตั้งครรภ์ หากได้รับควันบุหรี่ในปริมาณมากหรือเป็นประจ า ทุกวันจะท าให้เสี่ยงอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้ ไม่ว่าจะเป็นภาวะเด็กไม่สมบูรณ์ เด็กพิการตั้งแต่ก าเนิด ภาวะแท้ง หรือการเสียชีวิตระหว่างคลอด ดังนั้นผู้หญิงที่ก าลังตั้งครรภ์ จึงไม่ควรอยู่ในที่ที่มีควันบุหรี่ และตัวผู้สูบบุหรี่เองก็ ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ใกล้ๆ กับหญิงตั้งครรภ์ด้วย 3. เสี่ยงเป็นโรคมะเร็งปอดได้ถึง 2 เท่า ผู้สูบบุหรี่ที่มีความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งปอดอยู่แล้ว แต่ผู้ที่ ได้รับควันบุหรี่กลับเสี่ยงต่อมะเร็งปอดมากกว่าถึง 2 เท่าเลยทีเดียว ทั้งนี้ก็เพราะตัวผู้สูบจะได้รับควันบุหรี่เพียงส่วน หนึ่งของควันที่พ่นออกมาเท่านั้น แต่ผู้ที่อยู่รอบข้างกลับได้รับควันบุหรี่ไปเต็มๆ ดังนั้น หากคุณไม่อยากท าร้ายคนที่ คุณรัก ก็ควรงดสูบบุหรี่หรือหลีกเลี่ยงการสูบในบริเวณที่มีคนอื่นๆ อยู่ใกล้จะดีกว่า 4. ท าให้เด็กมีพัฒนาการทางสมองช้ากว่าปกติ ส าหรับใครที่มีลูก ไม่ควรสูบบุหรี่ใกล้ๆ ลูกน้อยของ คุณ เพราะควันบุหรี่จะท าให้เด็กมีพัมนาการที่ช้าลงจากปกติถึง 2 เท่า ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาการทางด้านร่างกาย หรือการพัฒนาการทางด้านสมองก็ตาม นอกจากนี้ ยังเสี่ยงต่อการพิการทางด้านสมองของเด็กๆ อีกด้วย บุหรี่เป็นสิ่งเสพติดที่ไม่ผิดกฎหมาย แต่บุหรี่ส่งผลเสียต่อสุขภาพของคนเราได้เป็นอย่างมาก ดังนั้น จึง ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ โดยเฉพาะผู้หญิง เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วผู้หญิงจะมีอัตราการเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ ได้มากกว่าผู้ชายนั่นเอง ซึ่งเมื่อได้รู้ถึงโทษของการสูบบุหรี่ทั้งต่อตนเองและคนรอบข้างกันแล้ว จากนี้ใครไม่อยากให้ สิ่งเลวร้ายเหล่านี้เกิดขึ้นกับตัวคุณและคนที่คุณรัก ก็ควรงดสูบบุหรี่โดยด่วน หากกลัวว่าจะท าไม่ได้ แนะน าให้เริ่ม แบบค่อยเป็นค่อยไป ค่อยๆ ลดปริมาณการสูบต่อวันทีละนิดลง แล้วคุณจะสามารถเลิกสูบบุหรี่ได้ในวันหนึ่ง แน่นอน

5 ๒. โทษของบุหรี่ไฟฟ้า ๒.๑ ระบบหลอดเลือดและหัวใจมีปัญหา ซึ่งสาเหตุหลักเกิดจากสารนิโคตินมีฤทธิ์ท าให้หลอดเลือดใน ร่างกายตีบและหดตัว ท าให้เลือดที่ต้องไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายมีไม่เพียงพอ ส่งผลให้อวัยวะ ขาดเลือดและออกซิเจน จึงเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดสมองได้ ๒.๒ ระบบทางเดินหายใจมีปัญหา ขึ้นชื่อว่าสูบบุหรี่ ไม่ว่าจะเป็นแบบธรรมดาหรือแบบไฟฟ้าก็ล้วน แล้วแต่ส่งผลเสียต่อปอดของเราทั้งสิ้น เนื่องจากร่างกายของเราจะท าการกรองอากาศเพื่อรับออกซิเจนเข้าสู่กระ เลือด หล่อเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย แต่สารเคมีในควันหรือไอของบุหรี่เหล่านี้จะส่งผลท าให้การขนส่ง ออกซิเจนในเม็ดเลือดแดงเสื่อมถอยลงได้ ๒.๓ ระบบประสาทเสื่อมถอย จากงานวิจัยและการศึกษาข้อมูลผู้ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้ารวมถึงบุหรี่ธรรมดา หลายรายจะรู้สึกมีความสุข รู้สึกสบายใจ หัวโล่ง หรือมีแรงจูงใจในการท างานมากขึ้นหลังสูบบุหรี่ อาการดังกล่าว เป็นผลจากสารนิโคตินได้ไปควบคุมการหลั่งของสารโดปามีน (Dopamine) ซึ่งเป็นสารที่ท าให้คนเรารู้สึกมีความสุข และพึงพอใจมากขึ้น แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีผลข้างเคียงต่อระบบการตอบสนองของระบบประสาทเปลี่ยนแปลงไป ในทางที่ไม่ดี ๒.๔ โรคเบาหวาน มีโอกาสเกิดขึ้นในผู้สูบบุหรี่มากกว่าคนทั่วๆ ไป เนื่องจากสารนิโคตินมีผลท าให้การ หลั่งของฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) เพิ่มขึ้นได้ ฮอร์โมนดังกล่าวจะไปเพิ่มระดับน้ าตาลในเลือดให้สูงขึ้น จึงเป็น ผลให้ผู้ที่สูบบุหรี่เสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน

6 บทที่ 3 วิธีด าเนินโครงงาน โครงงาน หนูน้อยวัยใส ห่างไกลบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า จัดท าขึ้น เพื่อให้นักเรียนมีความรู้และตระหนักถึง พิษภัยของบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า โดยมีวิธีการด าเนินการดังนี้ ๑. ขั้นตอนการด าเนินงาน 1. ประชุมชี้แจงและแบ่งงานให้สมาชิกทุกคนในห้องเรียนรับผิดชอบ 2. สมาชิกทุกคนในห้องเรียนช่วยกันค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับโทษของบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า 3. น าข้อมูลที่สมาชิกในห้องเรียนแต่ละคนค้นหามาระดมความคิด สรุปและจัดท าเป็นสื่อเพื่อน าไป เผยแพร่ 4. น าสื่อที่จัดท าไปเผยแพร่ต่อสาธารณะ และเดินรณรงค์งดสูบบุหรี่ 5. สมาชิกในห้องเรียนท าจดหมายหรือการ์ดถึงผู้ปกครองให้งดสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า 6. สรุปผลการด าเนินงาน 2. ปฏิทินการปฏิบัติงาน การด าเนินงาน ระยะเวลา 1. ประชุมชี้แจงและแบ่งงานให้สมาชิกทุกคนในห้องเรียนรับผิดชอบ ๑๓-๑๕ มิถุนายน 2565 2. สมาชิกทุกคนในห้องเรียนช่วยกันค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับโทษของบุหรี่ และบุหรี่ไฟฟ้า ๑๖-๒๔ มิถุนายน 2565 3. น าข้อมูลที่สมาชิกในห้องเรียนแต่ละคนค้นหามาระดมความคิด สรุป และจัดท าเป็นสื่อเพื่อน าไปเผยแพร่ ๒๗ มิถุนายน -๑ กรกฎาคม 2565 ๔. น าสื่อที่จัดท าไปเผยแพร่ต่อสาธารณะ และเดินรณรงค์งดสูบบุหรี่ และจัดมุมให้ความรู้ในห้องเรียน ๔ – ๘ กรกฎาคม 2565 ๕. สมาชิกในห้องเรียนท าการ์ดถึงผู้ปกครองให้งดสูบบุหรี่และบุหรี่ ไฟฟ้า ๑๑ – ๒๒ กรกฎาคม 2565 6. สรุปผลการด าเนินงาน ๑ – ๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๕

7 บทที่ 4 ผลการด าเนินงาน โครงงาน หนูน้อยวัยใส ห่างไกลบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า จัดท าขึ้น เพื่อให้นักเรียนมีความรู้และตระหนักถึง พิษภัยของบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า โดยมีผลการด าเนินการ ดังนี้ ผลการด าเนินงาน นักเรียนมีความรู้และตระหนักถึงพิษภัยของบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า

8 เดินรณรงค์งดสูบบุหรี่และจัดมุมให้ความรู้ในห้องเรียน ท าการ์ดถึงผู้ปกครองให้งดสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า สานสัมพันธ์กันในครอบครัว ให้เป็นครอบครัวปลอดบุหรี่

9 บทที่ 5 สรุปผลการด าเนินงาน จากการด าเนินงานโครงงาน หนูน้อยวัยใส ห่างไกลบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า พบว่า นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ ๒- ๓ จ านวน ๒๔ คน มีความรู้และตระหนักถึงพิษภัยของบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้ามากขั้น สามารถบอกโทษของบุหรี่และ บุหรี่ไฟฟ้าได้ ร้อยละ ๑๐๐ และยังสามารถบอกวิธีการหลีกเลี่ยงและวิธีป้องกันตนเองจากบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า อีก ทั้งนักเรียนยังได้ท ากิจกรรมร่วมกับผู้อื่น มีความสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัวและเพื่อน ๆ ในห้องเรียน และได้ใช้เวลา ว่างให้เกิดประโยชน์ ประโยชน์ที่ได้รับจากการท าโครงงาน ๑. นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับพิษภัยของบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ๒. นักเรียนเห็นคุณค่าของตนเองไม่ยุ่งเกี่ยวกับบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ข้อเสนอแนะ 1. ควรจัดอบรมให้ความรู้เรื่องโทษของบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าให้นักเรียนห้องอื่น ๆ ปัญหาและอุปสรรค ๑. พื้นที่ในการจัดมุมให้ความรู้ในห้องมีน้อย

10 บรรณานุกรม ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ. บทความเรื่อง “แก้ปัญหายาเสพติด ต้องป้องกันเยาวชนไม่ให้ติดบุหรี่”. 2548 อ้างอิงใน ชุดข้อมูลเผยแพร่ “โรงเรียนปลอดบุหรี่” จัดพิมพ์โดย ส านักงานกองทุนสนับสนุน การสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และ มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่

11 ภาคผนวก

12 รูปภาพการท าโครงงาน หนูน้อยวัยใส ห่างไกลบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ประชุมชี้แจงและแบ่งงานให้สมาชิกทุกคนในห้องเรียนรับผิดชอบ น าข้อมูลที่สมาชิกในห้องเรียนแต่ละคนค้นหามาระดมความคิด สรุปและจัดท าเป็นสื่อเพื่อน าไปเผยแพร่

13 เดินรณรงค์งดสูบบุหรี่และจัดมุมให้ความรู้ในห้องเรียน นักเรียนท าการ์ดถึงผู้ปกครองให้งดสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า