วชิ าประวัตศิ าสตร์
ป.๖
สรปุ บทเรยี นออนไลนว์ ชิ าประวตั ศิ าสตร์
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖
จัดทาโดย
คณุ ครูวนิ ทั ดา ยะปะนันท์
ภาคเรียนท่ี ๑ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๔
โรงเรียนวรราชาทินัดดามาตุวิทยา
การศกึ ษาเร่อื งราวทาง
ประวัตศิ าสตร์
การศกึ ษาประวตั ิศาสตร์เปน็ การศกึ ษาเหตกุ ารณใ์ นอดตี สามารถศึกษา
ได้โดยใช้ วิธีการทางประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นกระบวนการที่นักประวัติศาสตร์
ใช้ในการศึกษาค้นคว้าหรือเรียบเรียงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์จากหลักฐาน
ต่าง ๆ เพือ่ ใหเ้ ข้าใจเรื่องราวในอดีตได้อย่างชดั เจน
๑.๑
การศกึ ษาประวัติศาสตร์
วธิ กี ารทางประวตั ศิ าสตร์ มี ๕ ขัน้ ตอน
ขั้นที่ ๑
การกำหนดหัวขอ้ ทจี่ ะศกึ ษา
คอื การกำหนดคำถาม หรอื หวั ขอ้ เรือ่ งทสี่ นใจตอ้ งการศึกษา
คน้ คว้าหาคำตอบ เชน่
- ความเปน็ มาของจงั หวดั เชียงใหม่
- เคร่ืองแตง่ กายของคนในสมัยรตั นโกสนิ ทร์
- วัดสำคัญในจงั หวดั พระนครศรอี ยุธยา
- ความเปน็ มาของธงชาติไทย
ข้นั ท่ี ๒
การรวบรวมข้อมลู และหลกั ฐาน
คือ เมอ่ื กำหนดคำถามหรือหวั ขอ้ ท่ีจะศกึ ษาแลว้ ข้ันตอ่ ไป คอื
การรวบรวมขอ้ มูลเก่ยี วกบั เรอื่ งท่ีจะศึกษาจากหลกั ฐานประเภทต่าง ๆ
- หลักฐานชั้นต้น
- หลกั ฐานช้ันรอง
- หลกั ฐานทเ่ี ปน็ ลายลกั ษณอ์ กั ษร
- หลักฐานทไ่ี ม่เป็นลายลักษณอ์ ักษร
ขน้ั ท่ี ๓
การตรวจสอบขอ้ มลู และหลักฐาน
คอื การประเมินความนา่ เชื่อถอื และความถกู ตอ้ งของขอ้ มูลหลกั ฐานท่ี
รวบรวมไดว้ า่
- มีความนา่ เชอ่ื ถอื หรือไม่ เป็นหลกั ฐานประเภทใด
- ขัดแยง้ กับขอ้ เทจ็ จรงิ หรอื ขดั แย้งกนั เองหรือไม่
- ใครเป็นผ้เู ขียน ผเู้ ขียนมีความรู้ในเรื่องนน้ั หรือไม่
- ผู้เขยี นมีความเปน็ กลางหรอื นำความคดิ เห็นของตนเองมาเขยี น
- มีแหล่งอ้างอิงขอ้ มลู หรอื ไม่
ขัน้ ที่ ๔
การสรปุ ความรู้
คือ การนำข้อมูลทผี่ า่ นการตรวจสอบแล้วมาทำการศึกษาเนอ้ื หาและ
สรปุ ขอ้ มลู ท่ีรวบรวมได้ เช่น
- เนอ้ื หาน้นั มเี รอ่ื งราวความเปน็ มาหรอื เหตกุ ารณอ์ ย่างไร
- มีบคุ คลใดบ้างทม่ี สี ่วนเกย่ี วขอ้ ง
- มีปจั จยั ใดทกี่ ่อใหเ้ กดิ เหตกุ ารณ์ดังกล่าว
- เหตุการณ์ดังกล่าวกอ่ ให้เกดิ ผลอย่างไร
จากนน้ั นำความรู้ท่ไี ด้มาสรปุ เปน็ เรอ่ื งราว โดยการเรยี งลำดับ
เหตกุ ารณ์ตามช่วงเวลากอ่ นหลงั หรือตามประเดน็ หัวเรอ่ื ง
ข้นั ที่ ๕ การนำเสนอ
คือ การนำเรื่องราวที่ได้ มาเรยี บเรยี งเพือ่ นำเสนอในรปู แบบตา่ ง ๆ
เช่น
- การเขยี นเรยี งความ
- การเล่าเรอื่ ง
- การจดั นทิ รรศการ เป็นต้น
โดยนำเสนอความคดิ เหน็ อย่างเปน็ เหตเุ ป็นผล มหี ลกั ฐานอา้ งองิ ท่ี
เชือ่ ถือไดแ้ ละนำเสนอด้วยความเปน็ กลาง
การศกึ ษาเรอื่ งราวในทอ้ งถน่ิ โดยใช้ ๑.๒
วธิ ีการทางประวตั ศิ าสตร์
ท้องถิ่นแต่ละแห่งล้วนมีประวัติศาสตร์หรือเรื่องราวต่าง ๆ เกิดขึ้น
เช่น
- ประวตั กิ ารตงั้ ถิน่ ฐานของคนในท้องถน่ิ
- เหตุการณส์ ำคญั ทเี่ กดิ ข้ึนในท้องถิ่น
- บุคคลสำคญั ท่ที ำประโยชน์ใหแ้ ก่ท้องถน่ิ
- ประเพณีและวฒั นธรรมในทอ้ งถน่ิ
การศึกษาเรอื่ งราวในทอ้ งถนิ่ มีประโยชน์ คอื ทำให้คนในทอ้ งถ่ินรจู้ กั
และภาคภูมิใจในท้องถิ่นของตนเอง รวมทั้งเข้าใจคนและสังคมใน
ทอ้ งถ่ินไดด้ ยี งิ่ ขึ้น
ตวั อย่าง การศึกษาเร่ืองราวในหอ้ งถน่ิ
สะพานขา้ มแม่นำ้ แคว จงั หวดั กาญจนบรุ ี
๑. การกำหนดหวั ข้อทจี่ ะศึกษา
สะพานขา้ มแมน่ ้ำแควสรา้ งขนึ้ เมื่อใด เพราะเหตุใด ?
๒. การรวมรวมขอ้ มลู และหลกั ฐาน
นักเรียนทำการรวบรวมข้อมลู จากแหลง่ ข้อมูลตา่ ง ๆ เชน่
- หอ้ งสมุดโรงเรียน
- พพิ ิธภัณฑส์ งคราม
- สะพานข้ามแม่น้ำแคว
- พื้นที่โดยรอบอนุสรณ์สถานเกีย่ วกบั สงครามโลกคร้ังท่ี 2
- ขอ้ มลู จากกองจดหมายเหตุ หอสมดุ แห่งชาติ กทม. เป็นตน้
หลักฐานที่เป็นลายลกั ษณอ์ ักษร
- รายงานกองบัญชาการทหารสูงสุดเกี่ยวกับญี่ปุ่นที่เก็บไว้ในกอง
จดหมายเหตุ เชน่ เร่อื งการสร้างทางรถไฟเชือ่ มประเทศไทย-พม่า
- บันทึกของ นากามูระ อาเคโตะ ผู้บัญชาการกองทัพญี่ปุ่นประจำ
ประเทศไทย
- หนังสือเรื่อง ประวัติศาสตร์บอกเล่า : สภาพของจังหวัดกาญจนบุรี
ในสมัยสงครามโลกคร้ังที่ 2 เขียนโดย บญุ รอด ชลารักษ์
- หนังสอื เร่อื ง ทางรถไฟสายไทย – พม่า เขียนโดย โยชกิ าวา โทริฮารุ
- แผนทีจ่ ังหวัดกาญจนบุรี แสดงทต่ี งั้ สะพานขา้ มแม่นำ้ แคว
หลกั ฐานท่ไี ม่เปน็ ลายลกั ษณ์อกั ษร
- สะพานขา้ มแมน่ ำ้ แคว
- ภาพถ่ายตา่ ง ๆ เก่ยี วกบั สะพานขา้ มแมน่ ้ำแคว
- ภาพยนตรท์ ่ีถ่ายทำเกี่ยวกบั สะพานข้ามแมน่ ้ำแคว
๓. การตรวจสอบข้อมลู และหลักฐาน
โดยใช้สะพานข้ามแม่น้ำแควเปน็ ตวั อยา่ งหลกั ฐาน
หลักฐานอะไร สะพานขา้ มแม่น้ำแคว
ใครเปน็ ผูส้ ร้าง กองกำลังทหารญป่ี นุ่
ทำการศึกษา ที่ไหน สรา้ งท่ี ต.ทา่ มะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบรุ ี
หลักฐาน เม่ือใด เมื่อ พ.ศ. 2485
อยา่ งไร สรา้ งโดยเชลยศกึ ชาวตะวันตกและเอเชีย
เพราะเหตุใด เพื่อนำกำลงั พลและส่งิ ของต่าง ๆ จาก
นักเรียนศึกษาหลกั ฐานชปนิ้ รอะนื่ เทๆศไททรี่ ยวไบปรยวังมปไรดะ้ เโทดศยพวิธมใี ่านตวั อย่าง
จากนนั้ จงึ เรม่ิ ตรวจสอบ เชน่
- ผู้เขียนมีความร้เู รอื่ งราวเกย่ี วกับสะพานขา้ มแมน่ ำ้ แควมากน้อย
เพยี งใด
- ข้อมลู ท่เี ขียนมีความน่าเชื่อถือเพยี งใด
๔. การสรุปความรู้
เม่อื ไดข้ อ้ มูลหลักฐานต่าง ๆ แลว้ ใหน้ กั เรียนศกึ ษาขอ้ มูลดงั กลา่ ว
แล้วสรปุ เป็นความรู้ ดงั นี้
เหตกุ ารณ์ การสร้างสะพานข้ามแมน่ ้ำ
แคว
บคุ คลที่มสี ่วนเกีย่ วข้อง ชาวไทย ชาวญี่ปนุ่ และเชลยศึกชาติ
ปจั จัยที่ก่อใหเ้ กิดเหตุการณ์ ต่าง ๆ
1. การสู้รบระหว่างญป่ี ่นุ กบั ฝา่ ย
สัมพนั ธมติ รในสงครามโลกคร้งั ที่ 2
ผลท่ีเกิดขึ้น 2. ญ่ปี นุ่ ตอ้ งการเดนิ ทพั จาก
1. รถไฟสามารถแล่นข้าม ประเทศไทยไปยังประเทศพมา่
แมน่ ำ้ แควไปได้
2. เชลยศกึ ไดร้ บั ความลำบาก
๕. การนำเสนอขอ้ มลู
เมื่อจัดลำดบั ข้อมลู แลว้ ให้นักเรียนนำเสนอเรือ่ งราว เช่น การเขียน
เรียงความ จัดนิทรรศการ โดยให้มีสาระตอนหนึ่งเป็นการตอบหัวข้อท่ี
กำหนดไว้
หัวขอ้ ที่กำหนด : สะพานข้ามแม่นำ้ แควสรา้ งขนึ้ เมอื่ ใด เพราะเหตใุ ด
จากการศึกษาประวัติศาสตร์ของสะพานข้ามแม่น้ำแคว ทำให้ทราบ
ว่า สะพานข้ามแม่นำ้ แควสรา้ งขึ้นเมอ่ื พ.ศ. 2485 ในช่วงสมยั สงครามโลก
คร้ังท่ี 2 โดยกองทัพญ่ปี ุ่นได้เกณฑ์เชลยศึกมาสร้างสะพานข้ามแม่น้ำแคว
เพื่อเข้าไปยังประเทศพม่า
หลกั ฐานท่ีใชศ้ ึกษาเหตุการณ์สำคญั
ในประวัติศาสตร์ไทยสมยั
รตั นโกสนิ ทร์
๒.๑ หลักฐานในการศกึ ษาประวตั ศิ าสตร์
ไทยสมัยรตั นโกสนิ ทร์
หลกั ฐานทางประวัติศาสตร์ คอื ส่ิงท่ีใหค้ วามจรงิ ขอ้ เทจ็ จรงิ
หรือ รายละเอยี ดทมี่ ปี ระโยชนต์ อ่ การศึกษาเหตุการณท์ าง
ประวัตศิ าสตร์ หลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์ แบง่ ออกเป็น 2
ประเภท
1. หลักฐานท่ีเปน็ ลายลกั ษณ์อักษร
2. หลักฐานทไี่ ม่เปน็ ลายลกั ษณอ์ ักษร
หลกั ฐานที่เป็นลายลกั ษณอ์ กั ษร
หลกั ฐานประเภทนเ้ี ปน็ หลกั ฐานท่ใี ชใ้ นการศึกษาประวตั ิศาสตรม์ าก
ที่สุด เช่น
- จารกึ
- พงศาวดาร
- ตำนาน
- บันทกึ ในลกั ษณะตา่ ง ๆ
พงศาวดาร
คือ การบันทึกเรื่องราว เหตุการณ์และพระราชกรณียกิจขอ
พระมหากษัตริย์ รวมทั้งความเป็นไปของอาณาจักร เนื้อหาใน
พงศาวดารส่วนใหญ่จึงเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับชนชั้นปกครอง
เชน่
- พงศาวดารกรงุ รัตนโกสินทรร์ ชั กาลต่าง ๆ ซึ่งมีข้อมลู ที่ทำให้
ทราบเหตกุ ารณบ์ ้านเมอื งในยุคนนั้ ๆ
ตานาน
คือ เร่ืองราวทเี่ ล่าสบื ตอ่ กนั มา ภายหลังจงึ ไดม้ ีการจดบนั ทึกเปน็ ลายลักษณ์
อักษร เรื่องในตำนานอาจถูกเพิ่มเติมดัดแปลงไปจากเดิม เช่น การเพิ่มเรื่อง
ปาฏิหาริย์เข้าไปเพอ่ื ให้เกดิ ความศกั ด์ิสิทธหิ์ รือสนุกสนาน เรอื่ งราวจากตำนานจึง
มีความคลาดเคลื่อนในเรื่องเนื้อหาหรือเวลา แต่ตำนานมีประโยชน์ที่ได้ให้
ร่องรอยเรอื่ งราวตา่ ง ๆ ท่เี ก่ียวขอ้ งกบั ประวตั ิศาสตร์ เชน่
- ประวตั ิทอ้ งถิ่น
- ศาสนสถาน
- บคุ คลสำคัญ
- วิถีชีวติ ของผู้คน ความคดิ ความเช่ือของคนในอดีต
การนำตำนานมาใช้เป็นหลกั ฐาน จึงควรระมดั ระวงั และควรตรวจสอบกับ
หลกั ฐานอนื่ ๆ
จารึก
คอื หลักฐานทเ่ี ขยี นขึ้นเพ่ือบันทกึ เหตุการณ์หรอื เรอื่ งราวในสังคม โดยผจู้ ารกึ มี
จุดมุ่งหมายในการบันทึกเพอ่ื บอกเลา่ เรื่องราวต่าง ๆ ทส่ี ำคญั ลงในวสั ดทุ ่ีมีความคงทนถาวร
เช่น
- แผ่นไม้
- แผน่ อฐิ
- แผ่นศลิ า
- แผน่ โลหะ
- แผน่ กระเบอื้ ง เปน็ ต้น
จารกึ ถอื เปน็ หลกั ฐานชน้ั ต้น ประเภทลายลกั ษณอ์ ักษรทเ่ี กา่ แกแ่ ละน่าเชื่อถอื เพราะ
เปน็ การเขียนหรอื จารึกข้นึ ครัง้ เดียว ไม่มีการคัดลอกแกไ้ ข จารกึ ทีส่ ำคัญในสมัยรตั นโกสนิ ทร์
ได้แก่
- จารึกวดั โพธ์ิ ซ่ึงจารลงบนแผน่ หินอ่อน ถอื วา่ เป็นหลักฐานในการศกึ ษาประวตั ิ
การแพทย์แผนไทยทสี่ ำคัญ
จาร คือ การใชเ้ หลก็ แหลมเขยี นลงบนใบลานหรือศิลาให้เป็นตัวหนังสือ
บันทึกลกั ษณะตา่ ง ๆ
เอกสารราชการ เชน่
- สนธิสัญญา
- แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ
- บนั ทึกการประชมุ ราชการ
- เอกสารเกย่ี วกับแผนการปฏิรปู การบริหารการปกครองแผ่นดินใน
พระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกลา้ เจ้าอยหู่ วั (รชั กาลท่ี 5)
บันทึกเหตุการณ์ ซึ่งอาจเป็นบันทึกส่วนตัวของบุคคลสำคัญในลักษณะ
ของบันทึกความทรงจำหรอื จดหมาย ซึ่งมีเรื่องราวเกี่ยวกับบุคคล สถานที่หรอื
เหตุการณ์บ้านเมืองในอดีตที่ผู้เขียนได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือพบเห็นด้วยตนเอง
เชน่
- พระราชนิพนธ์ไกลบา้ น ในพระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกล้าเจา้ อยหู่ ัว
เม่อื พ.ศ. 2450 ทสี่ ามารถนำมาศึกษาประวัตศิ าสตรไ์ ทยสมยั รตั นโกสนิ ทร์
ยุคปรับปรงุ ประเทศ
- บันทกบุคคลในคณะราษฎร ทม่ี ีประโยชนใ์ นการศึกษาการเปลย่ี นแปลง
การปกครองของไทย พ.ศ. 2475
- บนั ทึกของชาวตา่ งชาติทีเ่ ดินทางเขา้ มาประเทศไทยในสมยั รัตนโกสินทร์
เช่น บนั ทกึ ของสงั ฆราชปาเลอกัว อยา่ งไรกต็ าม การศึกษาเหตกุ ารณโ์ ดยศกึ ษา
จากบันทึกเหตุการณ์ส่วนบุคคลเพยี งอย่างเดียวอาจได้รับข้อมูลที่คลาดเคล่อื น
เนื่องจากมีข้อเท็จจริง ซึ่งมาจากความคิดเห็นส่วนตัวของผู้บันทึก ดังนั้นผู้
ทำการศกึ ษาคน้ คว้า จึงตอ้ งตรวจสอบกับหลกั ฐานอื่น ๆ
หลกั ฐานที่ไม่เป็นลายลักษณอ์ ักษร
เช่น
- สถานท่สี ำคัญ โบราณวัตถุ
- เครอื่ งมอื เครอ่ื งใช้
- อนุสาวรยี ต์ า่ ง ๆ
- ภาพวาด ภาพถ่าย ภาพยนตร์
- เพลงพืน้ บา้ น การแสดงโขน
- คำบอกเลา่
หลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์มคี วามสำคัญตอ่ การศกึ ษาเรื่องราวในอดตี ถ้า
นักเรยี นรวบรวมหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ในสมัยรตั นโกสินทร์ ท่ี
เกี่ยวข้องกับประเดน็ ท่นี กั เรียนศึกษาคน้ คว้า จะทำใหน้ กั เรยี นมีความรู้เร่อื ง
ประวตั ศิ าสตรใ์ นยคุ น้ันดขี น้ึ
๒.๒ แหลง่ ข้อมลู ในการศึกษาประวตั ศิ าสตรไ์ ทยสมัยรตั นโกสนิ ทร์
แหล่งข้อมลู คือ ที่ซึ่งมีหลักฐานประวัตศิ าสตร์ ทั้งที่เป็นหลักฐาน
ประเภทลายลักษณ์อักษร และหลักฐานที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร
แหล่งข้อมูลสำหรับศกึ ษาประวัติศาสตรไ์ ทยสมยั รัตนโกสนิ ทร์
- หอ้ งสมุด หอสมุดแหง่ ชาติ
- ศาสนสถาน โบราณสถาน โบราณวัตถุ
- พพิ ธิ ภณั ฑ์ เป็นต้น
ห้องสมดุ
แ ห ล ่ ง ข ้ อ ม ู ล ท ี ่ น ั ก เ ร ี ย น ส า ม า ร ถ ศ ึ ก ษ า ป ร ะ ว ั ต ิ ศ า ส ต ร ์ ส มั ย
รัตนโกสินทร์ทใี่ กลต้ วั ทส่ี ดุ คอื
- ห้องสมดุ ของโรงเรยี น
- ห้องสมดุ ประชาชน
- หอ้ งสมดุ มหาวิทยาลยั
- ห้องสมดุ ศาลากลางจังหวดั
นอกจากนี้ยังมีหอ้ งสมุดเอกชน เชน่
- ห้องสมดุ วังวรดศิ ที่ให้ขอ้ มูลเก่ยี วกบั พระประวตั แิ ละผลงานใน
สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
- ห้องสมุดสยามสมาคม ที่รวบรวมหนังสือเอกสารต่าง ๆ
รวมท้งั เอกสารวัฒนธรรม ศลิ ปะ และประวตั ิศาสตร์ไทย
ห้องสมุดเหล่านี้เป็นแหล่งข้อมูลที่สามารถใช้ในการค้นคว้าหา
ความรเู้ ก่ียวกับประวัตศิ าสตรไ์ ทยสมัยรตั นโกสินทรไ์ ดเ้ ปน็ อยา่ งดี
หอสมุดแหง่ ชาติ ในหอสมุดแห่งชาติมีหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์
ไทยในสมัยรัตนโกสินทร์เป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ยังมี หอจดหมายเหตุ ที่เก็บเอกสารประวัติศาสตร์
ช ั ้ น ต ้ น ไ ว ้ โ ด ย เ ฉพ า ะ แ ละ เ ก ็ บร ว บร ว ม ข ้ อ มู ลใ น ร ู ป แ บบไ ม โ ค ร ฟิล์ม
แผ่นเสียง แถบบนั ทึกเสยี ง และภาพยนตรไ์ ว้ดว้ ย
ศาสนสถาน
เช่น - วัด
. - มัสยิด
- โบสถ์
ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ใช้ศึกษาเรื่องราวใน
สมัยต่าง ๆ เนื่องจากศาสนสถานเป็นศูนย์รวมของกลุ่มคนในชุมชนที่มี
การสั่งสมศิลปวิทยาการ ทั้งทางด้านสถาปัตยกรรม จิตรกรรม
ประตมิ ากรรม วรรณกรรม และพิธีกรรม
พพิ ธิ ภัณฑ์
เ ป ็ น แ ห ล ่ ง ข ้ อ ม ู ล ท ี ่ ร ว บ ร ว ม ห ล ั ก ฐ า น เ ก ี ่ ย ว ก ั บ ก า ร ด ำ ร ง ช ี วิ ต
วฒั นธรรม ประเพณแี ละผลงานทางศิลปะ เช่น
- พิพธิ ภัณฑสถานแห่งชาติ ท่กี รงุ เทพมหานครหรือทีจ่ ังหวดั ตา่ ง ๆ
- พิพิธภัณฑ์ของหน่วยงาน
- พิพธิ ภณั ฑ์ของเอกชน
โบราณวัตถุและโบราณสถาน
¶ เป็นแหล่งข้อมูลที่สำคัญสำหรับการศึกษาประวัติศาสตร์ชาติ
สมัยรตั นโกสนิ ทร์ เช่น
- หลวงพ่อโต หรือ พระพุทธไตรรัตนนายก วัดกัลยาณมิตร
วรมหาวหิ าร
- เรอื พระราชพธิ ี ท่ีกองเรือพระราชพิธี
- ตกึ เกา่ ในจังหวดั ภูเก็ต ทสี่ ร้างขึ้นในสมยั รตั นโกสินทร์
ทบทวนความรู้
หลกั ฐานทเ่ี ปน็ ลายลกั ษณอ์ ักษร คอื หลกั ฐานทีม่ ีการบนั ทกึ เปน็ ลายลกั ษณอ์ กั ษรบอกเล่าเร่ืองราว
ต่างๆ ได้แก่ ศิลาจารึก พงศาวดาร ใบลาน จดหมายเหตุ วรรณกรรม ชวี ประวตั ิ หนงั สือพิมพ์ วารสาร
หลักฐานท่ีไม่เป็นลายลักษณ์อกั ษร คอื ส่งิ ที่มนุษย์สรา้ งขนึ้ ท้งั หมดทไี่ ม่เปน็ ลายลกั ษณอ์ กั ษร ได้แก่
ส่งิ ก่อสร้าง โบราณสถาน โบราณวตั ถุ ศิลปการแสดง คำบอกเล่า นาฏศิลป์ ตนตรี จิตรกรรม ฯลฯ
๒.๓ ขอ้ มูลท่ีได้จากหลักฐานทาง
ประวัตศิ าสตร์
นักเรยี นเคยเรยี นมาแลว้ วา่ หลักฐานทางประวัติศาสตร์ ใหข้ ้อมูลกับผู้
สบื ค้น ท้ังความจรงิ และขอ้ เทจ็ จรงิ
ความจริง หมายถึง ข้อมูลผ่านการตรวจสอบและได้รับการยอมรับว่า
เปน็ จริง เชอ่ื ถือได้
ข้อเทจ็ จรงิ หมายถึง ข้อมูลที่ยังไมไ่ ดม้ กี ารตรวจสอบ และจะมีท้ังความ
คดิ เห็น ขอ้ สนั นิษฐาน ความเทจ็ ความจรงิ ปะปนอย่รู วมกนั
ตวั อย่างบางตอน จากพระราชนิพนธ์ ไกลบา้ น
“.....การที่จะออกจากสิงคโปร์แลออกจากปีนังนั้นเป็นแล้วแต่
จะโปรดทั้งนั้น จะให้เรือออกเมื่อไรก็ได้ แต่เราจะต้องเกรงใจเขา
บอกแต่เวลาที่เราจะต้องการ คือต้องการเวลาแต่ 4 โมงเช้า ไปถึง
บ่าย 2 โมง แกจึงกะจะออกจากสิงคโปร์บ่าย 4 โมง ถึงปีนังวันศุกร์
10 ทุ่ม ลงมือบรรทุกของบ่าย 4 โมง จึงจะออก ถ้าเราจะโย้ให้แกไป
ออกตอนค่ำก็ได้ แตเ่ ห็นวา่ พอแลว้ จึงไดต้ กลงกนั เช่นนน้ั ”
จำแนกขอ้ มูลจากหลักฐานว่าขอ้ ความใดเป็นความจรงิ
และข้อเทจ็ จรงิ
ความจรงิ
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชประสงค์
ให้เรือออกเวลาใดเวลาหนึ่งระหว่างเวลา 4 โมงเช้า ไปถึงเวลาบ่าย
2 โมง (10.00 น. – 14.00 น.)
ข้อความนี้เป็นความจริงเพราะปรากฏข้อความอยู่ในพระราช
นพิ นธไ์ กลบ้าน ซึง่ พระองคเ์ ปน็ ผูบ้ ันทกึ เอง
ขอ้ เท็จจรงิ
กัปตันเรือได้กำหนดเวลาออกเรือ เวลาบ่าย 4 โมง และคาด
ว่าจะไปถึงปีนังในวันศุกร์ เวลา 10 ทุ่ม ที่จัดว่าเป็นข้อเท็จจริง
เนื่องจากเรืออาจไม่ได้ออกตรงเวลาและไปไม่ถึงปีนังตามเวลาที่
กำหนดไว้กไ็ ด้
ข้อเท็จจริงอาจเป็นความจริงได้ ถ้ามีหลักฐานอื่นมาสนับสนุน
เช่น มีหลักฐานว่ากัปตันเรอื ออกเรือตามกำหนดและถงึ เวลาตาม
กำหนด ข้อเท็จจริงนจ้ี ึงจะเป็นความจริง
ภมู ิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้
ประเทศภูมภิ าคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต้งั อยู่ในเขตซกี โลกทางทิศ เหนือ
ในทวีปเอเชีย ตั้งอยู่ระหว่างประเทศ จีน และประเทศอินเดีย อาณาเขต
ตดิ ต่อของประเทศภูมิภาคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้คอื
ทศิ เหนือ ตดิ ต่อกับประเทศ ประเทศจีน
ทศิ ตะวันออก ติดตอ่ กบั มหาสมทุ รแปซฟิ ิก
ทิศตะวันตก ตดิ ตอ่ กบั ประเทศอินเดีย บังคลาเทศ และอา่ วเบงกอล
ทศิ ใต้ ตดิ ตอ่ กับ มหาสมุทรอินเดีย
ภูมปิ ระเทศทต่ี ง้ั ของประเทศไทยและเพือ่ นบา้ นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียง
ใต้ แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ 1. พื้นที่ที่อยู่บนคาบสมุทร หรือ ที่เรียกว่า
ผนื แผ่นดินใหญ่ เป็นท่ีตัง้ ของประเทศต่าง ๆ ไดแ้ ก่ ประเทศไทย เวียดนาม ลาว
เมียนมาร์ กัมพูชาและมาเลเซียตะวันตก (คาบสมุทรมลายู) 2. พื้นท่ที ี่เป็นหมู่
เกาะ ได้แก่ ประเทศฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย บรูไน ติมอร์-เลสเต และ
มาเลเซียตะวนั ออก (ตอนเหนอื ของเกาะบอร์เนียว)
อาเซียน
สัญลกั ษณข์ องอาเซียน คือ ตน้ ข้าวสีเหลือง 10 รวง
มดั รวมกนั ไว้ หมายถึง ประเทศสมาชกิ รวมกนั เพ่ือ
มิตรภาพ และความเป็นน้ำหน่ึงใจเดยี วกนั
สีน้ำเงิน หมายถงึ สันตภิ าพและความมนั่ คง
สแี ดง หมายถึง ความกลา้ หาญและความกา้ วหนา้
สขี าว หมายถึง ความบริสทุ ธิ์
สีเหลอื ง หมายถงึ ความเจริญรงุ่ เรือง
สมาคมประชาชาติแหง่ เอเชียตะวันออกเฉยี งใต้
Association of South East Asian Nations:ASEAN
สมาชกิ ก่อตงั้ ผคู้ ดิ ริเร่ิมก่อตั้งอาเซียน นายถนัด คอรม์ นั
เปน็ ชาวไทย
ปที ี่ ๖
ประเทศเมียนมาร์ ดอกไม้ : ดอกประดู่
สัตว์ : เสอื โครง่
ขอ้ มูทวั่ ไปประเทศเมยี นมาร์
ลักษณะภมู ปิ ระเทศ เป็นทีร่ าบสูงด้านตะวันออก ภเู ขาติดด้านตะวันตก ที่ราบ
ตอนกลาง ทวิ เขาและชายฝั่งทะเลตอนใต้
ลกั ษณะภมู ิอากาศ ตง้ั อยูเ่ ขตมรสมุ เหมือนประเทศไทยมอี ากาศแบบอบอนุ่ มี 3 ฤดู
มเี นือ้ ท่ี 678,034 ตารางกิโลเมตร
ประชากรประมาณ 56 ล้านคน เป็นเชื้อสาย พม่า กะเหร่ยี ง จีน มอญ ยะไข่ สว่ น
ใหญ่นบั ถอื ศาสนา พทุ ธ
เมอื งหลวง คอื เนปดิ อร์ ภาษาราชการ ภาษาพมา่
ประเทศเมยี นมารเ์ คยอยภู่ ายใตก้ ารปกครองขององั กฤษ
รูปแบบการปกครองปจั จบุ นั แบบประธานนาธิบดี มีประธานาธบิ ดี เปน็ ประมุข
สนิ คา้ สง่ ออก ก๊าซธรรมชาติ สงิ่ ทอ ไม้ซุง สินคา้ ประมง ข้าว ยาง อญั มณี
สนิ คา้ นำเขา้ ได้แก่ เครอ่ื งจกั รกล น้ำมันดิบ
ทรพั ยากร นำ้ มัน ไม้ ดบี กุ สังกะสี เหล็ก และกา๊ ซธรรมชาติ
นโยบายทางเศรษฐกจิ สง่ เสรมิ การลงทนุ สำรวจขดุ เจาะก๊าซธรรมชาติจากตา่ งชาติ
ประกเาทรศทอ่เมงเยี ทน่ียมว าร์ตั้งอยูท่ างทิศ เหนือจนถึงทางทศิ ตะวันตก ของประเทศไทย
ประเทศลาว
ดอกลลี าวดี ชา้ งอินเดีย
ข้อมูลทวั่ ไปประเทศลาว
ลักษณะภมู ปิ ระเทศ ไมม่ ที างออกสูท่ ะเล พน้ื ที่ส่วนใหญเ่ ปน็ ภูเขาและทร่ี าบสูง มที ร่ี าบอยู่
ตอนกลางของประเทศ
ลกั ษณะภมู อิ ากาศ มีอากาศคล้ายภาคเหนือและอีสานของไทย และมี 3 ฤดู เนอ้ื ท่ี 236,799
ตารางกโิ ลเมตร
ประชากรประมาณ 7 ลา้ นคน เป็นเช้อื สายลาว สว่ นใหญน่ บั ถอื ศาสนา พทุ ธ
เมอื งหลวง คอื เวียงจันทน์ ประเทศลาวเคยอยภู่ ายใตก้ ารปกครองของประเทศ ฝรั่งเศส
รูปแบบการปกครองปจั จบุ นั ระบอบสงั คมนิยมคอมมิวนิสต์ ภาษาราชการ ภาษาลาว
สนิ คา้ สง่ ออก คอื ไมซ้ ุง ไมแ้ ปรรูป สินแร่ ข้าวโพด ใบยาสูบ กาแฟ เสอ้ื ผา้ สำเรจ็ รูป
สนิ คา้ นำเขา้ อาหาร ผ้า รถจกั รยานยนต์ เครื่องไฟฟา้ เคร่ืองจักรกล สารเคมี
ทรพั ยากร ปา่ ไม้ ยิปซัม ดบี กุ ถา่ นหิน อญั มณี แหล่งนำ้ ผลิตไฟฟ้า
อตุ สาหกรรมในประเทศ อุตสาหกรรมพลงั งานไฟฟา้ ผลิตซีเมนตแ์ ละเหลก็
นโยบายทางเศรษฐกจิ สง่ เสริมการลงทนุ จากตา่ งชาติ
ประเทศเมียนมารต์ ั้งอยูท่ างทศิ เหนือจนถงึ ทาง
ทศิ ตะวันออก ของประเทศไทย
ASEAN
ความเหมือนและความแตกตา่ งของประเทศไทยและประเทศเพ่อื นบา้ น
การปกครอง
ประเทศท่มี ีระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษตั รยิ ์เป็นประมขุ ไดแ้ ก่ ประเทศ
ไทย กมั พูชา มาเลเซยี
ประเทศทม่ี ีระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยที่มีประธานาธิบดเี ปน็ ประมขุ มีนายกรัฐมนตรีเปน็
หัวหนา้ ฝ่ายบรหิ าร ได้แก่ ประเทศ สงิ คโปร์และติมอร์-เลสเต
ประเทศทม่ี ีระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยท่มี ีประธานาธบิ ดเี ปน็ ประมขุ และเปน็ หัวหนา้ ฝ่าย
บริหาร ได้แก่ ประเทศพมา่ อนิ โดนีเซียและฟิลิปปนิ ส์
ประเทศที่มกี ารปกครองระบอบสมบูรณาญาสทิ ธริ าชย์ คอื ประเทศบรไู น
ประเทศทีป่ กครองระบอบสังคมนยิ มคือ เวียดนามและลาว
ดา้ นทรพั ยากร เศรษฐกจิ
ประเทศผลติ ข้าวไดม้ าก คือ ประเทศ ไทย ประเทศในเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ที่มีความก้าวหน้า
เวยี ดนามและลาว ด้านเศรษฐกจิ และอุตสาหกรรม ได้แก่ ประเทศ
ประเทศทปี่ ลูกยางพารามาก คือ มาเลเซีย ไทย สงิ คโปร์ มาเลเซยี และและบรูไน
และอนิ โดนเี ซยี ประเทศทมี่ ีอาชีพเกษตรเป็นพ้ืนฐานและกำลังพฒั นา
ประเทศทีป่ ลูกปาล์มน้ำมนั มาก คือ มาเลเซีย ภาคอุตสาหกรรม ได้แก่ ประเทศไทย เวยี ดนาม
ฟลิ ิปปินส์ อนิ โดนีเซยี และไทย อินโดนีเซีย และฟลิ ปิ ปนิ ส์
ประเทศท่ีมแี รด่ บี กุ มาก คือ อินโดนีเซีย มาเลเซยี ประเทศท่ีตอ้ งพึ่งพาการเกษตรเปน็ หลัก คือ ประเทศ
และไทยประเทศทมี่ ีทรพั ยากรป่าไม้มาก คอื ลาว พม่า ลาว กมั พูชาและตมิ อร์-เลสเต
พมา่ กมั พูชา และอนิ โดนีเซยี
ประเทศที่มีนำ้ มนั มาก คอื บรไู น มาเลเซยี และ
อินโดนีเซีย ประเทศที่ทำการประมง คอื ทุกประเทศ
ทำการประมง ยกเว้นลาว เพราะไมม่ พี รมแดนติด
ทะเล